...
...
.
...ตีสองครึ่ง
ได้เวลาคนลอยกระทงเริ่มซา
ทั้งยังเป็นเวลาเดียวกับที่ผับในตัวเมืองทยอยกันปิดร้าน
“...อย่าสาดน้ำได้ไหม ช่วยเห็นใจกันบ้าง
ขอให้ช่วยหลีกทาง คนกำลังลอยกระทง
อย่าให้เทียนเปียกน้ำ เดี๋ยวผลบุญไม่ส่ง
ผมจะลอยกระทงในวันสงกรานต์คนเดียวววว...”
เสียงเพลงทุ้มนุ่มอันเป็นเอกลักษณ์จากนักร้องมาดเท่ห์
แต่งตัวสุดแนว เจาะระเบิดหู ไถผมเกรียนไปข้าง
ได้อารมณ์ศิลปินร็อคเต็มขั้น
กำลังครวญประโยคสุดท้ายของเนื้อเพลงบนเวที
...แม้เพลงจะเก่าเก็บแค่ไหน
ขอให้มันเข้ากับเทศกาลก็ร้องไปก่อน
แต่วันนี้คนอย่างไอ้บินหลาคงไม่ได้ไปลอยกระทงกับใครเขา
เพราะต้องร้องเพลงไล่ตามร้านเหล้าอื่น ๆ มาตั้งแต่ทุ่มครึ่งแล้ว
ป่านนี้ตีสองกว่าร้านขายกระทงคงเลิกกันหมดพอดี
อีกอย่าง เขาเริ่มง่วงแล้วด้วย
ตาใกล้จะปิดอยู่มะร่อมมะร่อ
อยากรีบกลับไปนอนพักใจจะขาด
“เฮ้ย! กูกลับก่อนนะ”
นักร้องนำประจำวงต้มยำรวมมิตรร้องบอกสมาชิกวงที่เหลือ
ก่อนเดินเปิดปากหาวหวอด ๆ ออกไปนอกร้าน
เพื่อมุ่งตรงกลับหอพักที่อยู่ห่างไปเพียงสามช่วงตึก
ทว่ายังไม่ทันได้เดินพ้นจากตัวร้านไปไหน
รถบีเอ็มดับเบิ้ลยูรุ่นใหม่สีดำมันปลาบ
กลับแล่นเข้ามาแฉลบจอดเทียบริมฟุตบาท
ที่เขายืนอยู่เสียงลันดังเอี๊ยดดด!!
จนเขาแทบหลบออกมาไม่ทัน
โห...มึงเล่นขับมาซะเร็วแบบนี้
ไม่เหยียบตีนกูไปเลยล่ะครับ
เจ้าของรถคันหรูเปิดประตูออกมาทันที
ร่างสูงใหญ่เดินก้าวลงมาด้วยชุดเสื้อเชิ้ตราคาแพง ปลดกระดุมคอ ผูกไทหลวม ๆ
ดูดีเหมาะกับมาดนักธุรกิจวัยหนุ่มไฟแรง
ติดก็แต่พฤติกรรมเจ้าของมันออกจะมึน ๆ ไปบ้างเท่านั้น
“บิน ขอโทษนะที่พี่มาช้า
พอดีประชุมกรรมการหุ้นมันใช้เวลานานกว่าที่คิด”
“เออ ช่างแม่งเถอะ กูบอกแล้วไงว่ามึงไม่ต้องมาก็ได้”
“ไม่ได้หรอกต่อให้ไกลแค่ไหนหรือดึกยังไง พี่ก็จะมาหาบิน”
อือฮือ....โคตรพระเอกเลยมึง
แต่เดี๋ยวก่อน...
มึงเคยถามกูสักครั้งรึยังว่ากูจะทนตื่นมารับมึงมั้ย
มาดึกแค่ไหนไม่ได้เกรงใจอะไรกันเลย
นึกจะมาก็มา นึกจะไปก็ไป
เอาแต่ใจตัวเองฉิบหาย
คิดว่ารวยแล้วทำอะไรก็ได้รึไงวะ
แม่ง! กูล่ะโคตรเซ็ง!!
บินหลาเดินหงุดหงิดกลับหอพักตัวเองโดยไม่สนใจใครอีกคนที่เดินตามมา
ไขกุญแจห้องได้ปุ๊บก็รีบตรงดิ่งไปทิ้งตัวนอนบนเตียงอย่างหมดแรง
ปล่อยให้ไกรศรเอ่ยถามขึ้นมาอย่างคนมีความหวัง
“เออ...บินลอยกระทงไปแล้วรึยัง”
“ลอยห่าอะไร!!
ร้องเพลงจนเจ็บคอไปหมดแล้ว
มีเวลาไปลอยที่ไหนวะ!!”
“งั้นไปลอยกับพี่นะ
เมื่อกี๊พี่แวะซื้อกระทงมาพอดี
แต่มันเหลืออยู่ใบเดียวเอง”
“โว๊ยย!! ไม่เอากูง่วง กูจะนอนแล้ว
พรุ่งนี้ต้องตื่นเช้าไปสอนดนตรีน้องด้วย
มึงอยากไปก็ไปคนเดียวไป๊!!”
สิ้นเสียงสบถอย่างหงุดหงิด
...บรรยากาศภายในห้องกลับเหลือเพียงความเงียบ
ไกรศรลุกขึ้นยืนโดยไม่พูดอะไร
เดินหายเข้าไปในห้องน้ำ
...เงียบอยู่อย่างนั้นพักใหญ่
จนคนที่เผลอโวยวายชักใจเสีย
เออ...เขาพูดแรงไปรึเปล่าวะ
มันเลยขังตัวเองอยู่ในห้องน้ำประชดชีวิต
เขาได้ยินเสียงเปิดน้ำมาตั้งแต่เมื่อกี๊แล้ว
อย่าบอกนะว่าไอ้หน้ามึนมันจะคิดอะไรบ้า ๆ
ประเภทกดหัวตัวเองจมอ่างล้างมือตายด้วยความน้อยใจ
บินหลาผุดลุกขึ้นยืน
รีบเดินออกไปหน้าประตูห้องน้ำอย่างนึกห่วง
ตั้งใจจะเอื้อมมือเคาะเรียก
แค่ดันได้จังหวะพอดีกับคนข้างในเปิดประตูสวนออกมา
ตอนนี้เลยกลายเป็นว่าเขากับมันกำลังยืนประจันอยู่ซึ่ง ๆ หน้า
“เออ...มึง ...คือว่า กู...”
บินเอ่ยตะกักตะกักพยายามเรียบเรียงคำพูด
ทว่าคู่สนทนากลับเมินหนี
เบียดผ่านเขาไปเปิดประตูระเบียงหลังห้อง
แสงสว่างของพระจันทร์ลอดออกมา
ส่องให้เห็นว่ามันกำลังถือกะละมังพลาสติกใบย่อม
ซึ่งภายในบรรจุน้ำเกือบเต็มจนเขาต้องขมวดคิ้วมองอย่างสงสัย
...เอากะละมังไปทำอะไรวะ
หรือมันนึกอยากจะซักผ้าตอนตีสองรึไง
“บินมานี่สิ ช่วยจุดไฟให้พี่หน่อย”
เจ้าของชื่อเดินเข้าไปอย่าว่าง่ายแบบงง ๆ ก่อนจะถึงบางอ้อ
เมื่อมันยื่นกระทงใบน้อยมาให้เขาถือ
แล้วไกรศรจึงเป็นฝ่ายหยิบไฟแช็คขึ้นมาจุดเอง
แสงไฟจากเทียนเล่มเล็ก ๆ ส่องสว่างให้เห็นแววตาระยับของคนใกล้ตัว
จนบินเผลอต้องมองตาม
ในใจไม่รู้จะซาบซึ้ง ขำ หรือว่าเขินดี
แต่ที่แน่ ๆ คือ ความหงุดหงิดโมโหก่อนหน้าได้สลายหายไปแล้ว
“เอาเร็ว...ยกกระทงขึ้น แล้วหลับตาอธิษฐาน”
มึงจะอธิษฐานอะไรวะ
นี่รู้รึเปล่าว่างานลอยกระทงเค้ามีไว้ใช้ขอขมา
ไม่ใช่เป่าเค้กขอพรวันเกิด
บินหลาอดหัวเราะออกมาไม่ได้
เมื่อมือใหญ่ปล่อยกระทงลงลอยในกะละมังพลาสติกสีเหลืองของเขา
“บ้าป่าว คิดได้ไงลอยในกะละมัง”
“ก็ยังดีกว่าไม่ได้ลอย
อีกอย่างพี่อยากลอยกระทงพร้อมบินด้วย”
คำพูดที่เอ่ยออกมาอย่างจริงใจทำให้คนฟังนิ่งอึ้ง
เขาหันกลับไปมองกระทงลอยเทิ่งเติ้งอยู่กลางบ่อน้ำเล็ก ๆ ชั่วครู่
ก่อนจะส่งเสียงขึ้นทำลายความเงียบ
“พี่ศร”
“หืม”
“บินขอโทษนะ”
คนที่นั่งใกล้หันมาขมวดคิ้วมองอย่างงง ๆ
“ขอโทษเรื่องอะไร”
“ก็เรื่องที่หงุดหงิดใส่เมื่อกี๊”
ไกรศรถอนหายใจเบา ๆ แล้วจึงเอ่ยคำอธิบายเพิ่ม
“พี่ต่างหากที่ต้องขอโทษ
เพราะพี่ก็เอาแต่ใจตัวเองเหมือนกัน
รู้ว่าบินเหนื่อยแต่ก็ยังบังคับให้ทำนู้นทำนี้
บินไม่โกรธพี่ใช่มั้ย”
คนฟังส่ายหน้าเป็นคำตอบ
“ไม่โกรธหรอก...
...แฟนอยากทำให้จะไปโกรธได้ยังไง”
คำเรียกแทนสรรพนามทำให้ไกรศรต้องรีบหันมามองคนพูดอย่างไม่เชื่อหู
ยิ่งเห็นใบหน้าคมสะท้อนแสงเทียนแดงเรื่อขึ้นมานิด ๆ
ก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยคำขอร้องขึ้นมาสั้น ๆ
“บินขอกอดหน่อยได้รึเปล่า”
คนฟังชะงักไปเล็กน้อยกับคำขอ
แต่แล้วก็พยักหน้าลงพลางเอนกาย
ให้อีกฝ่ายสอดมือเข้ามาดึงร่างของเขาไว้แนบอก
“ตอนนี้ในใจพี่มันเต้นแรงมากเลย
บินรู้สึกเหมือนกันกับพี่มั้ย”
อืม....เหมือนกัน
รู้สึกอุ่น ๆ ในหัวใจ
ไม่รู้มันเรียกว่า ‘รัก’ รึเปล่า
แต่ตอนนี้เขารู้สึกดีและไม่อยากที่จะจากอ้อมกอดนี้ไปไหน
บินผละออกห่างเล็กน้อย
เงยหน้ามองลึกเข้าไปในนัยน์ตาที่พราวระยับเหมือนดวงดาว
...บรรยากาศรอบข้างอะไร ๆ ก็ดูเป็นใจ
คืนนี้พระจันทร์สวย แสงเทียนสลัวสะท้อนจากกระทงที่ลอยอยู่ในน้ำ
หัวใจของเขา...
...เต้นแรงขึ้นเรื่อย ๆ
รอฟังถ้อยคำที่เอ่ยออกมาจากริมฝีปากคนตรงหน้า
...คำคำนั้น
“บิน คืนนี้พี่ขอสามยกได้มั้ย”
โป้ก!!
“พ่องสิ!!”
คนด่าประเคนมือตบหัวคนพูดลงไปอย่างแรง
...แม่งบรรยากาศกำลังโรแมนติกดันพังอย่างไม่เป็นท่า
แล้วกูจะเสียแรงใจเต้นไปกับมึงทำไมว่ะเนี่ยย!!
บินเดินกลับเข้ามาในห้องทิ้งตัวลงนอนต่อบนเตียงทันทีอย่างนึกเซ็ง
ทว่าก็ยังไม่วายแอบเหลือบมองคนที่เดินกุมหัวปอย ๆ เข้าห้อง
แล้วเลยไปเห็นกระทงใบน้อยซึ่งยังคงลอยอยู่บนกะละมังตรงระเบียง
อดไม่ได้ที่จะอมยิ้มเล็ก ๆ พลางพูดกับตัวเองในใจ
“ขอบคุณนะครับ พี่ศร”
...ขอบคุณที่มาลอยกระทงด้วยกัน
...ขอบคุณที่ยังคง ‘รัก’ กันอยู่เหมือนเดิม
.......
....
...
..
.
...วันเพ็ญเดือนสิบสอง
ไม่รู้ว่าเมื่อวันนี้เวียนมาครบปีอีกครั้ง
ถึงคราวนั้นพวกเราจะเป็นเช่นไร
แต่ตอนนี้...
แค่รู้ว่ายังมี ‘กันและกัน’ อยู่ก็สุขใจ
อะไร... อะไร..คงไม่สำคัญ
เท่ากับความรักรสหวานอมขม
ที่เราต่างผ่านมันมาด้วยกัน
ต่อให้กระทงหลงทางไปไกลแค่นั้น
พวกเราก็เชื่อว่า สักวัน...
สายน้ำจะพาเราสองคนกลับมาเจอกันอีกครั้ง
เพื่อให้ได้อยู่เคียงข้างกันตลอดไป
...สุขสันต์วันลอยกระทง-------------------------------------------------------------------------------------------------------------
THE END
สุขสันต์วันลอยกระทงค่า! 
ออกมาภาคพิเศษฉลองเข้ากับเทศกาล
สามคู่ สามรส ให้ได้หายคิดถึงกันบ้าง
เห็นหนุ่ม ๆ ลอยกระทงกันสองคนแล้วฟินจริง ๆ
วันนี้ใครไปลอยกระทงก็อย่าลืมแอบส่องเงียบ ๆ
แล้วมาเล่าให้ฟังกันบ้างนะคะ ฮ่าๆๆ 
ตอนนี้ต้องขอตัวไปพับกระทงก่อน
ไว้เจอกันใหม่กับตอนพิเศษในโอกาสหน้า (ที่ไม่รู้เมื่อไร)
คิดถึงเสมอจ้า

รักBitterSweet