ซีรีส์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 4 ภาค]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ซีรีส์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 4 ภาค]  (อ่าน 817551 ครั้ง)

ออฟไลน์ Takarajung_TK

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 931
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-2

MangoBlue

  • บุคคลทั่วไป
อ๊ากกกกกก >_< เอาแล้วว้อยๆ คมเริ่ทรุกมาเรื่อยๆแล้ว
อิหนูเต่าน้อยก็เริ่มเข้าโหมดสาวน้อย  อ่านแล้วแก้มจะแตก

 :o8: :-[ :impress2:

ออฟไลน์ EverGreen™

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1684
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +192/-1

ออฟไลน์ gookgik

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1966
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-6
หมูกะทะมื้อนี้  หวานจริงๆ

ปลายจะรู้ไหมว่าหนุ่มคม คิดถึง

:o8: คมนัดออกเดทกับพ่อเต่าน้อยแล้ว

ออฟไลน์ Tumz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 448
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-4
มนต์รักหมูกระทะ :mc4: แท้ๆ

ตอนหน้าไปดินเนอร์อาหารหน้าองค์พระเนอะๆ  ไปกินราดหน้ายอดผัก บะหมี่หมูแดง เย็นตาโฟชามเหล็ก ไอติมลอยฟ้า ตบท้ายด้วยหมูเวลล์รอบดึก  หิว.......... :impress2:

little_nok

  • บุคคลทั่วไป
อีกนิดนึง
เสาร์นี้เขาจะเจอกันสองต่อสองแล้ว
จะมีความคืบหน้าไหมน่ะ
คมจะกล้าพูดคำว่า คิดถึง หรือเปล่า
เต่าน้อยก็จะถาม คิดถึงทำไมล่ะ
เฮ้ออออ

ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
หวานจนเดี๊ยนจะสำลัก

อิจฉาๆๆๆๆ :-[

ออฟไลน์ pandorads

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
โอ๊ย - - แถวหน้าจอคอมมดเยอะเกิ๊น!!

ออฟไลน์ nopkar

  • เป็ด indy
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2159
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +163/-3
คมสันอย่างติดอ่างสิ..กล้าๆพูดเลยยย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8
ยิ้มเบาๆกับความน่ารักของพ่อเต่าน้อยแลยนายคมสัน!! เอิ๊กๆ

ออฟไลน์ naamsomm

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-2
ยิ่งอ่านยิ่่งบิดเป็นเกลียวโปเต้
น่ารักอ่ะ
รู้สึกกันทีละนิด
หยอดให้เขิลกันบ่อยๆ  น่ารักดี

ออฟไลน์ YuuYuu

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
โอ๊ะ พัฒนากันไปได้ค่อนข้างสวยเลยนะ
สปีดเร็วกว่าเดิมด้วยนิดนึงแหนะ 

แต่กว่าจะได้รู้ความรู้สึกกันจริงๆ คงอีกหลายตอน
แบบนี้ก็ดีนะคะ ค่อยๆ มีความรู้สึกก่อตัวขึ้นทีละน้อย จะได้รักกันนานๆ ฮิๆ :3

น้องคม... แค่คำว่าคิดถึง บอกออกไปเลย พูดออกไปเลย
อย่าไปเกรงอย่าไปกลัว บอกออกไป เพราะเชื่อว่าอีกฝ่ายก็คงคิดตรงกัน

เราว่าคมต้องรุกแล้วหละ แต่อย่ารุกเร็วไปนะ น้องปลายจะได้ปฏิเสธกันง่ายๆ


ว่าแต่ว่า... เรื่องนี้ไม่มีดราม่าเหรอคะ  อยากจิอ่านคู่นี้ดราม่าอะ  ฮ่าาาาา


ปล. คู่ดิวเกมส์น่าสนใจมากๆ เลย  อยากอ่านคู่นี้จังค่ะ

ออฟไลน์ Bowbonk

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-4

ออฟไลน์ minyoung

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 417
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-1
อุ๊ยเขินจัง คิดถึงด้วย






น้องปลายค่ะถ้าหน้าร้อนแปลว่าเขินค่ะ แล้วยิ่งมีใจก็แปลว่ารักนะ ทำเป็นเด็กน้อยเชียว






ท่านชายคมค่ะ รีบรุกไล่ได้แล้ว เดี๋ยวน้องเค้าหนีไปมีกิ๊กนะ ลุ้นดิว-เกมส์อีกด้วย






มาต่อนะ เร็ว ๆ รออยู่เน้อ

ออฟไลน์ =นีรนาคา=

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2546
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +296/-6
เขินอ่ะ :-[

รุกเลยคม รอเต่าปลายคงไม่รู้ตัวอ่ะ 5555

ladymoon_yy

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ coldcream

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 50
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
น่ารักจังเลยนะ น้องปลาย กับ คม  คมต้องรุกกว่านี้แล้ว เขินกันทั้งคู่ ชอบจังค่ะ อยากอ่านต่อแล้วละ จะคอยทุกวันเลยค่ะ

อยากอ่าน ดิวส์ เกมส์ ด้วย ดูน้องทั้งคู่น่ารักเหมือนกันเลย อ่านตอนแรกนึกว่าน้องดิวส์จะมาจีบน้องปลายซะอีก ที่แท้แกล้งเพื่อนนี่เอง

ชอบมาก จะรอนะคะ :L1:

ออฟไลน์ punchnaja

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3354
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +383/-5
เหยยยยยยยยยยยย น่ารักเกิ๊น

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ infinitez123

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 87
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-2
เขินกันไปเขินกันมา น่ารักจังเลยเรื่องนี้
ึคมรุกหนักๆหน่อยสิ เดียวก็มีคนมาจีบปลายตัดหน้าหรอกยิ่งน่ารักๆอยู่

ออฟไลน์ nutty2554

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 199
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-0
พุ่งกอดเต่าปลาย****

ก็เธอน่ารักอ่ะ

ตอนนี้เริ่มคุยกันมากขึ้น  น้องเต่าปลายบอกความคิดของตัวเองมากขึ้้น  เขินน่ารักสะบัดจริงๆ
พ่อหนุ่มหน้าคมหลงเสน่ห์เต่าท่าทางจะยั้งใจไม่ไหวแล้วล่ะ  ฮ่า ฮ่า  อย่าช้า อย่ารอให้เต่าตัดสินใจนะคม
อ้อออ แนะนำว่าไม่ต้องถามเยอะ ดูจากสีหน้าแล้วรวบรัดเลย  :laugh:  คนอ่านและดูเลวมาก

ออฟไลน์ BitterSweet

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 235
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +725/-2
ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม



ต้นที่ 19



...เฮ้ย!! ...มันก็แค่ไปเลี้ยงบัดดี้

ใช่ ๆ ไปกินข้าวกับบัดดี้ด้วยกันสองคนเฉย ๆ

มึงอย่าไปคิดอะไรมากสิวะ!!   

โอยยย...ก็บอกว่าอย่าไปคิด...อย่าไปคิด...


...ขนาดไม่คิด....แล้วนี่กูยังจะเสือกมายืนหมุนไปหมุนมา
เลือกเสื้ออยู่หน้ากระจกเป็นรอบที่ร้อยทำไมวะเนี่ย!!


ปลายฟ้าขยี้ศรีษะหงุดหงิดอย่างคนที่ไม่เข้าใจในอารมณ์ตัวเอง
ว่าเหตุไฉนเขาต้องมาเกร็งกับนัดเลี้ยงบัดดี้ธรรมดา ๆ นี้ด้วย

ก็เล่นตื่นตั้งแต่แปดโมงเช้าอาบน้ำอาบท่าแล้วก็มายืนมองหน้าตู้เสื้อผ้า
เลือกชุดอยู่นานสองนานอารมณ์เหมือนถูกสาวน้อยในการ์ตูนเข้าสิง


ไอ้เชี่ยเอ้ยย!! แค่ไปกินข้าวกับบัดดี้ไม่ได้ไปเดท

...เขาจะตื่นเต้นอะไรนักหนาวะ!!


ไม่แน่ว่าสาเหตุที่เป็นแบบนี้มันอาจเป็นเพราะนี่เป็นครั้งแรก
ที่เขากับคมไปกันสองคนโดยไม่มีคนอื่นอยู่ด้วย
ถึงพวกเขาจะเริ่มสานต่อมิตรภาพดี ๆ
จากแค่คนแปลกหน้า... เด็กต่างคณะ...
กลายมาอยู่ในสถานะที่เรียกว่า ‘คนรู้จักกัน’
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาสองคนจะสนิทสนมอะไรกันมากมายเท่าเพื่อนในกลุ่ม
คุยกันก็แทบจะนับครั้งได้ ...อย่างล่าสุดที่มันโทรมาเขายังไม่รู้จะพูดอะไรดีเลย
พอมานัดเจอหน้ากันแค่สองคนเลยรู้สึกแปลก ๆ

แต่เอาวะ... ช่างมัน...
ถ้าไม่มีเรื่องคุยก็ไม่ต้องคุย แค่ไปกินข้าวครึ่งชั่วโมง
ชำระหนี้ที่ค้างคาต่างคนต่างแยกย้ายเป็นอันจบ


...มึงอย่าคิดมากสิวะ!!


ปลายฟ้าสั่งตัวเองให้สงบย้ำซ้ำอีกครั้ง
แล้วจึงตัดสินใจคว้าเสื้อยืดสีขาวธรรมดา
กับกางเกงยีนส์สีเข้มตัวโปรดมาใส่ให้เรียบร้อยอย่างเป็นปกติ
ก่อนจะนั่ง ๆ  นอนเล่นเกมบนซัมซุงกาแล็กซี
หิ้วท้องรอใครบางคนตามเวลานัด
เล่นเกมส์เพลินจนเกือบจะเพิ่มแต้มทำลายสติได้อยู่แล้ว
แต่กลับถูกขัดจังหวะด้วยเสียงสั่นพร้อมกับที่หน้าจอเปลี่ยนเป็นโหมดมีสายโทรเข้า


“ฮัลโหล”


เขากรอกเสียงลงไปตามสาย
เหลือบตามองนาฬิกาที่แขวนอยู่ข้างผนัง
ซึ่งชี้บอกเวลาสิบโมงตรงเป๊ะ


((เรารออยู่ข้างล่าง))


“โอเค เดี๋ยวลงไป”


คนพูดตอบสั้น ๆ กดวางโทรศัพท์
หันมาหาตัวเองในกระจกเพื่อเช็คความเรียบร้อยอีกครั้งเผื่อลืมอะไรเอาไว้
ที่แน่ ๆ คือห้ามลืมเงินในกระเป๋าตังค์เด็ดขาด
เมื่อวานอุตส่าห์ไปกดมาเตรียมพร้อม
กะว่าบัดดี้ให้เลี้ยงอะไรเขาก็จะตามใจเต็มที่


ปลายฟ้าล็อคประตูห้องเดินลงบันไดมาจากชั้นสอง
มองหาคนที่นัดไว้ซึ่งไม่ยากเย็นเลย
เพราะไอ้คนที่ดูท่าทางเถื่อน ๆ ใส่เสื้อยืดสีดำกางเกงขาสั้นสีน้ำตาลง่ายๆ
กำลังยืนกอดอกรออยู่ข้างมอเตอร์ไซต์บิ๊กไบค์สีขาวคงมีเพียงคนเดียว


เอ๊ะ...เดี๋ยวก่อน....


...เมื่อกี๊เขาว่ามันยืนอยู่ข้างอะไรนะ?



ร่างสูงที่เห็นว่าอีกฝ่ายเดินลงมาแล้ว
จึงขยับตัวหันไปหยิบหมวกกันน็อคยื่นส่งมาให้


“อ่ะ ใส่นี้ซะ”

 
..โห...ขอบคุณมากครับ
ทำไมมึงไม่เอาเสื้อหนังฮาเลย์มาให้กูด้วยเลยล่ะ
อย่าบอกนะว่าจะไปกันด้วยมอเตอร์ไซตบิ๊กไบค์เนี่ยจริง ๆ

...เฮ้ย!! บ้าแล้ว!!

รู้อยู่หรอกว่าบิ๊กไบค์มันโคตรเท่ห์ เขาเห็นแล้วเขายังชอบเลย 
แต่ลืมไปรึเปล่าว่าไอ้มอเตอร์ไซต์แบบนี้ที่นั่งมันแคบ
แล้วจะให้ผู้ชายสองคนนั่งเบียดกันไป
มันจะไม่ดูตลกไปหน่อยเหรอวะ!!


นายปลายฟ้ายืนเก้ ๆ กัง ๆ มองรถด้วยท่าทีสับสนไม่ยอมขึ้น
จนคนที่สตาร์ทเครื่องเสร็จแล้วหันมาเอ่ยเร่งอย่างงง ๆ


“เอ้า ขึ้นมาสิ”


คนโดนเร่งสะดุ้ง นึกอยากจะออกปากให้เปลี่ยนไปนั่งมอเตอร์ไซติ์ฮอนด้าเวฟของตัวเอง
แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายคงไม่มีทางยอมแน่ ๆ

ท้ายที่สุดในเมื่อไม่มีทางเลือก เขาจึงต้องจำใจใส่หมวกกันน็อค
ปีนขึ้นไปนั่งบนเบาะหลังของบิ๊กไบต์สีขาวคันงาม

...แม่งที่จงจับที่จับก็ไม่ค่อยจะมี

ถ้าขืนมันขี่เร็ว ๆ เขาได้ลงไปนอนให้รถสิบล้อเหยียบเล่นแน่ ๆ


แต่ดูเหมือนคนขับจะไม่รับรู้ความในใจของคนกลัว
เพราะคมสันหยิบสวมหมวกกันน็อคขึ้นมาสวม
ก่อนเร่งเครื่องบิดทะยานบิ๊กไบต์พุ่งตัวออกไปอย่างแรง
จนคนซ้อนแทบหน้าคะมำรีบผวาคว้าเกาะเอวสิงห์นักบิดไว้แทบไม่ทัน
ลืมภาพพจน์ที่คิดจะรักษาไว้ของตัวเองจนหมดสิ้น


....ก็ตอนนี้ใครจะไปมีกะใจมานั่งแคร์
ถูกคนอื่นมองว่าเขากอดเอวผู้ชายขี่มอเตอร์ไซต์ยังไงก็ช่าง
แต่ตอนนี้ขอเขาเอาชีวิตตัวเองรอดไว้ก่อนพอแล้ว

แม่งเอ้ยยย!! มันจะขี่เร็วไปไหนวะเนี่ย!!

มึงเป็นแว๊นซ์กลับชาติมาเกิดรึไง เบา ๆ หน่อยดิเว้ยย!! 


...กูกลัวโว้ยยยยย!!



ปลายฟ้าหลับตาปี๋มือจิกเอวคนข้างหน้าแน่นไม่ยอมปล่อย
กะว่าสะบัดเลี้ยวซ้ายขวายังไงรับรองไม่มีหลุด
กระทั่งบิ๊กไบค์คันใหญ่ผ่อนแรงลงเลี้ยวเข้าจอดหน้าร้านหนึ่ง
แต่คนซ้อนกลับยังไม่รู้สึกตัวจนร่างสูงต้องหันไปบอก


“ถึงแล้ว”


อ้าว...ถึงแล้วเหรอวะ
โอยย...นึกว่าตัวเองจะนอนไส้ไหลอยู่กลางถนนแล้ว
ขี่เร็วอย่างกับมันแข่งมอเตอร์ครอส
เป็นบุญของกูแท้ ๆ ที่รอดมาได้


ปลายฟ้าถอนหายใจอย่างโล่งอกนึกขอบคุณโชคชะตาฟ้าดิน
ก่อนจะมองไอ้ตัวต้นเหตุที่ทำเอาหัวใจแทบวายที่เหมือนยังไม่รับรู้ว่ามีความผิด
แถมมันยังจะหันมายิ้มอยู่อีก

...เอ้า! แม่งยิ้มอะไรวะ!!

คนกลัวจะตายห่ามีอะไรน่าขำรึไง!!


คนหงุดหงิดนึกโมโหอยู่ในใจ
หากแต่ร่างสูงกลับไม่มีท่าทีจะขอโทษ
ซ้ำยังย้อนถามขึ้นมาสั้น ๆ
หากแต่เป็นคำที่ทำให้คนฟังถึงกับสะดุ้ง


“ปล่อยเราได้หรือยัง”


ปลายฟ้าชะงัก มองมือตัวเองที่ยังคาไว้กับเอวของร่างสูง
แล้วก็ต้องรีบชักมือกลับมาด้วยความรวดเร็วเมื่อเผลอนึกขึ้นได้
ความหงุดหงิดเปลี่ยนเป็นความอายที่พุ่งขึ้นสูง
จนใบหน้าเริ่มรู้สึกร้อนวูบ 


แล้วพอหน้าร้อนทีไร...

...ไอ้อาการเดิม ๆ มันก็เริ่มจะกลับมาทุกที


เขารีบปีนลงจากมอเตอร์ไซต์คันใหญ่ถอดหมวกกันน็อคส่งคืน
แต่กลับเบือนหน้าหนีไปอีกทางโดยไม่กล้าสบตา
ปล่อยให้คมสันเดินนำเข้าไปในร้านนั่งลงที่โต๊ะตัวหนึ่ง
ก่อนจะได้ยินเสียงเอ่ยถาม


“ปลายจะกินอะไร”


เจ้าของชื่อรีบหันมองป้ายเมนูที่อยู่บนผนัง
แล้วถึงเพิ่งจะสังเกตว่าร้านที่พวกเขาเข้ามา
เป็นร้านข้าวหมูกรอบ ข้าวหมูแดง ข้าวหน้าเป็ดธรรมดา
ความจริงร้านนี้เขาก็เคยมากินหลายครั้งแล้วกับเพื่อน
เพราะมันอร่อยแถมอยู่ไม่ไกลจากมหาลัยด้วย
แต่ครั้งนี้จุดประสงค์ของเขาคือตั้งใจมาเลี้ยงบัดดี้ไม่ใช่เหรอ
อุตส่าห์กดเงินมาเยอะแยะคิดว่ามันจะพาไปให้เลี้ยงอะไรแพง ๆ
แล้วมันดันเลือกกินแค่ข้าวหมูแดงง่าย ๆ เนี่ยนะ!!


“น้อง ๆ สั่งอาหารหน่อยครับ
ผมเอารวมมิตรแล้วกัน ปลายล่ะ...”


แต่ยังไม่ทันที่คนสงสัยจะได้ถามอะไร
คนนั่งตรงข้ามกับเรียกสั่งอาหาร
แถมท้ายประโยคยังหันมาถามเขาซึ่งยังไม่ทันได้ตั้งตัว


“อ่ะ...เออ...คือ...”


ปลายฟ้าตอบกลับตะกุกตะกัก
ตามองเมนูที่เขียนไว้อย่างลังเลตามนิสัย


...จะเอาข้าวหมูกรอบ ดีมั้ย
เจ้านี้เขาทำอร่อยไม่มันเลี่ยนกำลังดี

เออ...แต่ว่าเขาชอบกินข้าวหมูแดงนะ
เนื้อหมูนุ่ม ๆ ราดน้ำซอสเฉพาะสูตรที่ร้าน

เฮ้ย! แต่ข้าวหน้าเป็ดก็น่าสนใจ
นาน ๆ จะได้กินที
คราวที่แล้วเห็นไอ้เกมส์กินก็ดูท่าอร่อย

โอยย...เอาไงดีวะเลือกไม่ถูก!!


ยิ่งเร่งคิดก็ยิ่งลังเล
มิหนำซ้ำยังมีสายตาของคนจดรายการรออยู่อย่างคาดคั้น
ทำให้คนชักช้าเริ่มอึกอักเข้าไปใหญ่


“เอารวมมิตรเหมือนกันมั้ย
จะได้กินครบทุกอย่าง”


ปลายฟ้าหันมองคนพูด
ถึงแม้ใบหน้าคมจะนิ่งไม่เปลี่ยน
ทว่าคำในน้ำเสียงไม่ได้มีท่าทีแสดงการบังคับหรือชิงตัดสินใจเอาเอง
เหมือนแค่อีกฝ่ายช่วยเสนอความคิดขึ้นมามากกว่า


แต่น่าแปลก...
ที่มันกลับทำให้เขาค่อย ๆ ใจเย็นลง
และพยักหน้าตอบรับไปง่าย ๆ


“อืม”


“งั้นเอารวมมิตรเพิ่มอีกจานครับ
แล้วก็ขอน้ำเปล่าสองแก้ว”


คมสันจัดการบอกรายการอาหารให้เรียบร้อย

เพียงไม่นานข้าวหน้ารวมมิตรสองจานก็มาเสิร์ฟ
พวกเขาต่างคนต่างนั่งกินกันไปเงียบ ๆ
กระนั้นก็ถือเป็นเรื่องประหลาดที่ปลายฟ้าไม่รู้สึกถึึงความอึดอัดใด ๆ
จากที่คิดไว้ว่าจะมีแอบเกร็งเพราะไม่รู้จะคุยเรื่องอะไรกันดี

แต่พอตอนนี้เขากลับพบว่า...
การกินข้าวด้วยกันโดยไม่มีบทสนทนาก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้าย
ซ้ำการกระทำของคมก่อนหน้านี้กลับทำให้บรรยากาศคลี่คลาย
จนเขาสามารถกินข้าวได้อย่างผ่อนคลายสบายใจ


และแน่นอนอยู่แล้วที่ข้าวหน้ารวมมิตรน้อยนิด
คงไม่สามารถยาไส้ผู้ชายหิวโซสองคน
พวกเขาเลยสั่งมาเบิ้ลอีกคนละจาน
พอฟาดเรียบไม่มีเหลือ
คมสันจึงเรียกคนในร้านให้มาคิดเงิน


“ทั้งหมด 190 บาทค่ะ”


ปลายฟ้าหยิบกระเป๋าตังค์ขึ้นมาเปิด
เห็นมีแต่แบงค์พันนอนกองอยู่ข้างใน

เมื่อวานเพิ่งกดตังค์เลยมีแต่แบงค์ใหญ่ ๆ
...ดีเลยจะได้แตกเศษย่อยได้

คิดพลางกำลังจะดึงแบงค์ออกมาส่ง
แต่เสียงพี่ที่เก็บเงินกลับทำให้เขาต้องเงยหน้าขึ้นมาทันควัน


“เงินทอนสิบบาท ขอบคุณค่ะ”



...อ้าวเฮ้ยเดี๋ยว!!

เขายังไม่ได้จ่ายเงินเลย แล้วจะมาทอนได้ยังไงกัน!?


คนสับสนรีบหันมองตัวการซึ่งรับเงินทอนมาไว้พร้อมพูดอธิบาย


“ไม่ต้องเดี๋ยวเราออกเอง”


“อ้าว...แล้วไหนบอกว่าจะให้เราเลี้ยงบัดดี้”


คนที่ตั้งใจเลี้ยงถึงกับขมวดคิ้วงงที่โดนชิงจ่ายตัดหน้าไปก่อน
แต่อีกฝ่ายกลับตอบคำหน้านิ่ง
ทว่าเป็นคำที่ชวนทำให้งงหนักกว่าเดิม


“ก็เลี้ยงไง แต่ไม่ใช่อันนี้”



เอ้า!! แล้วไม่ใช่อันนี้แล้วมันอันไหนล่ะวะ!

แต่เดี๋ยว...ประเด็นคือมันจะมาจ่ายค่าข้าวให้เขาทำไม
อย่างนี้ไม่เท่ากับว่าต้องเลี้ยงมันคืนซ้ำซ้อนไปมาเหรอ

...ตกลงใครเลี้ยงใครกันแน่เนี่ย ชักงงแล้วเว้ย!!


หากแต่คนให้คำตอบกลับไม่อยู่ให้ถาม
เพราะเจ้าตัวเดินลิ่วกลับไปยังรถมอเตอร์ไซต์บิ๊กไบค์ที่จอดอยู่
พร้อมกับยื่นส่งหมวกกันน็อคให้คนซ้อนเหมือนอย่างเคย
ก่อนจะขยับรถสตาร์เครื่องพร้อมเตรียมออก
แล้วจึงหันมองคนที่ยังคงยืนเก้ ๆ กัง ๆ
ซึ่งทำหน้าเจื่อนเหมือนลังเลคล้ายว่าไม่อยากขึ้น
จนคนรออยู่อดไม่ได้ที่จะพูดแซวขึ้นมายิ้ม ๆ



“ถ้ากลัวตกก็กอดไว้แน่น ๆ ได้นะ”



อะ...ไอ้บ้าเอ้ยย!!

ไม่ต้องทำมาพูดดีเลยนะมึง
ก็ใครใช้ให้ขี่เร็วขนาดนั้นล่ะวะ
นี่คิดจะกวนกันใช่มั้ย

ได้...ถ้าอยากให้กอดนัก
เขาก็จะกอดให้แม่งทะลุถึงม้ามเลย!!


ปลายฟ้าข่มความอายไว้ในใจแกล้งทำประชด
ด้วยการก้าวขาขึ้นคร่อมบิ๊กไบค์พลางเอื้อมมือไปยังเอวของอีกคน

...ไม่ได้กอดครับ กริยานี้ต้องเรียกว่าจิก

เพราะเขาใช้นิ้วขยุ้มจิกลงไปที่กล้ามเนื้อหนา ๆ
พร้อมออกแรงบีบกะให้แหลกคามือ
แต่ดูเหมือนคนโดนแกล้งจะหนังหนากว่าที่คิด
เพราะคมสันไม่ได้แสดงท่าทีเจ็บปวดอะไร
กลับเร่งเครื่องบิดมอเตอร์ไซต์ให้ออกไปตามถนน
ด้วยความเร็วที่เต่าอย่างปลายฟ้ากลัวจนหัวหดเหมือนเช่นเคย
และเพียงแค่ไม่กี่นาทีบิ๊กไบค์ก็พาเขาสองคนมาสถิตอยู่หน้าห้าง


อ้าว...แล้วมันจะพาเขามาห้างทำไมมั้ย?


ไม่ต้องปล่อยให้งงนาน
เพราะคนพามาเดินนำหน้าเข้าไปก่อนเฉลยคำตอบสั้น ๆ


“ไปดูหนังกัน”



อ้อ...มันจะให้เขาเลี้ยงหนังนี่เอง

ปัดโธ่!! แล้วก็ไม่บอกกันดี ๆ ตั้งแต่แรก

เข้าใจว่าค่าข้าวสองจานมันอาจจะถูกไป
ตั๋วหนังราคาแปดสิบบาทค่อยดูมีราคาขึ้นมาหน่อย

เอ๊ะ...แต่พอคิดดี ๆ ราคามันก็พอ ๆ กันไม่ใช่เหรอวะ

เออ...แต่ไหน ๆ มันอยากดูก็ปล่อยให้มันดูไป
ช่วงนี้เขาเองก็ไม่ค่อยได้มาดูหนังในโรงเท่าไร
ส่วนใหญ่โหลดบิตเอาแทน
มาเปลี่ยนบรรยากาศบ้างก็คงจะดี


เขากำลังเดินคิดอะไรเพลิน ๆ
แต่อยู่ ๆ เสียงจากคนข้างตัวกลับเอ่ยถามขัด

....และเป็นคำถามที่ทำเอาเขาต้องแทบเดินสะดุด



“กลัวผีมั้ย”


...ห่ะ อะไรวะ
อยู่ ๆ ก็มาถามว่ากลัวผีมั้ย
โอยย!! อย่างเขาน่ะเหรอ
กะ.. กะ.. กะ... กลัวที่ไหน
ถ้าเจอจัง ๆ เขาก็แค่เผ่นเท่านั้นเอง


คนไม่กลัวผีจึงรีบส่ายหน้าปฏิเสธ
ทว่ากลับตอบคำถามเสียงตะกุกตะกัก


“ผะ..ผีหรอ มะ...ไม่กลัว”


“แล้วร้องไห้ง่ายใช่มั้ย”


คำถามที่สองตามมาติด ๆ เล่นเอาคนฟังแทบหน้าคะมำ

...ถามแบบนี้มันหยามศักดิ์ศรียิ่งกว่าถามว่ากลัวผีมั้ยซะอีก
มิหนำซ้ำเขายังเคยใช้บ่าของคนถามเป็นที่ซับน้ำตามาแล้วอีกต่างหาก
แต่แม้ศักดิ์ศรีลูกผู้ชายจะเหลืออยู่น้อยนิดเขาก็อยากรักษาไว้

คนเริ่มอายจึงรีบร้องเสียงหลงพูดปัดจนลิ้นแทบจะพันกัน


“เฮ้ยยย!! ปล๊าววว!! เราไม่ได้ร้องไห้ง่าย
คือเรา... แบบว่า.. ตอนนั้นคือ...”


ปลายฟ้าพยายามหาคำมาอธิบาย
แต่สมองกลับตื้อคิดไม่ออกขึ้นมาซะอย่างนั้น
คนฟังทำเพียงแค่ยิ้มบางเหมือนขำ
แต่ก็เดินนำหน้าเขาไปซื้อตั๋วที่ช่องขาย
ปล่อยให้คนที่ยังหาข้อแก้ตัวไม่ได้อ้าปากพะงาบ ๆ
ทั้งนึกอายทั้งนึกหงุดหงิดโมโหขึ้นมาพร้อม ๆ กัน


อ้าว...แล้วอยู่ ๆ มันจะมารื้อฟื้นถามเพื่ออะไรวะ
นึกว่าเป็นคนดีมีน้ำใจ
ที่แท้แม่งแอบกวนตีนเขานี่หว่า
ไม่ได้... เดี๋ยวมันซื้อกลับมาเสร็จต้องมีเคลียร์!!


หากแต่พอถึงเวลาคนหงุดหงิดกลับไม่ได้ทำตามที่ตั้งใจไว้
เพราะอีกฝ่ายดันยื่นตั๋วส่งมาให้เขาก่อนจะทันได้อ้าปากพูดอะไร


“งั้นดูเรื่องนี้ เรื่องอื่นปลายคงไม่ชอบ”


คนรับก้มมองของในมือ
ชื่อหนังบนกระดาษจำได้ว่าเป็นหนังฝรั่งแอ๊คชั่นฟอร์มยักษ์งบหลายล้านที่กำลังดัง
แต่ไอ้ประโยคที่ห้อยท้ายมาของคู่สนทนา
กลับทำให้เขาต้องเงยหน้ามองบิลบอร์ดซึ่งแปะโฆษณาอยู่ทั่ว
เรื่องหนึ่งเป็นหนังผีญี่ปุ่นสุดสยอง
ส่วนอีกเรื่องเป็นหนังไทย และจากคำโปรยคงเป็นหนังรักประเภทแนวครอบครัวปนดราม่าเคล้าน้ำตา

พอเห็นรายชื่อหนังที่เข้าฉายแล้ว
ไม่รู้อะไรดลใจให้เขาฉุกคิดขึ้นมาได้


หรือว่าเป็นไปได้มั้ย...


เป็นไปได้มั้ยที่คมถามเขาเมื่อกี๊...



...เพราะอยากเลือกหนังให้ถูกใจเขาอย่างนั้นเหรอ



ความใส่ใจเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่สัมผัสได้
ทำให้คนที่คิดจะด่าเปลี่ยนเป็นอาการประหม่าเขินแทน
ก่อนรีบกลบเกลื่อนด้วยการเป็นฝ่ายเดินนำเข้าโรงหนังไป
อาศัยความมืดพลางหน้าที่เริ่มขึ้นสีจาง ๆ ของตัวเอง
พยายามละความสนใจจากใครอีกคนที่เดินตามมานั่งอยู่ข้าง ๆ
แล้วหันไปตั้งสมาธิจดจ่อกับหนังแอ๊คชั่นซึ่งกำลังจะเตรียมฉาย

....

..

.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-03-2013 20:55:22 โดย BitterSweet »

ออฟไลน์ BitterSweet

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 235
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +725/-2
....

..

.


...โชคดีที่หนังเรื่องนี้สนุกใช้ได้ทำให้เวลาสองชั่วโมงครึ่งผ่านไปอย่างรวดเร็ว
แม้ต้นเรื่องจะออกแนวเอื่อย ๆ น่าง่วง
แต่ช่วงท้ายมีฉากให้ลุ้นระทึกระเบิดตูมตามกันมันส์หยดให้พอคุ้มกับค่าตั๋วที่เสียไป
เลยนับว่าคมคงเลือกหนังที่ดูได้ไม่ผิด
เพราะขนาดออกมาจากโรงมาแล้ว
เขายังคงพูดคุยถึงประเด็นในหนังไม่ยอมหยุด
กระทั่งเดินมาถึงหน้ามอเตอร์ไซต์บิ๊กไบค์คันเดิมโดยไม่รู้ตัว
จนคนฟังเขาเมาส์ต้องเอ่ยถามขึ้นขัด


“ปลายอยากไปไหนต่อรึเปล่า”


...และนั้นแหละถึงทำให้เจ้าของชื่อรู้สึกตัว
เผลอนึกขึ้นได้ว่าจุดประสงค์ของตัวเองไม่ใช่มาดูหนัง
แต่มาเพื่อเลี้ยงบัดดี้ต่างหาก
แล้วเขาปล่อยให้มันจ่ายตลอดแบบนี้ได้ไงวะเนี่ย


“เฮ้ย! เราต้องถามมากกว่าไม่ใช่เหรอ
เรามาเลี้ยงคมนะ
เออ...แล้วค่าหนังเมื่อกี๊เดี๋ยวเราออกให้”


ปลายฟ้าตั้งท่าจะหยิบกระเป๋าตังค์ขึ้นมาอีกรอบ
แต่กลับโดนคู่สนทนาสั่งห้ามไว้


“ไม่ต้อง ถ้าเราจะให้ปลายเลี้ยงอะไร เดี๋ยวเราจะบอกเอง”


อ้าว...ไหงเป็นงั้นวะ
อย่างนี้มันก็เหมือนกับเขามาเที่ยวกับมันเฉย ๆ อ่ะดิ
แถมมันยังจะมาเลี้ยงข้าว เลี้ยงหนัง
ทำอย่างกับผู้ชายออกเดทกับผู้หญิง

เฮ้ยยย!! ไม่ใช่ทำเหมือนแล้ว

...นี่แม่งเหมือนเลย

ไอ้พฤติกรรมแบบนี้ถ้าเปลี่ยนเขาไปเป็นผู้หญิงล่ะก็
ใครมองก็คงเดาว่าเป็นคู่เดทชัด ๆ

มะ...ไม่ใช่นะโว้ยย!!

...ก็คะ...แค่บัดดี้กับบัดเดอร์ มะ..มาเที่ยวด้วยกันเฉย ๆ

มะ...ไม่มีอะไรเลยจริ๊งงงจริงงงง!!


อ้าว....ละ...แล้วนี่เขาดันเสือกเกร็งขึ้นมาอีกทำไมวะเนี่ย!!


ปลายฟ้าเริ่มเลิกลั่กรีบหาทางแก้ไขสถานการณ์
ด้วยการบอกอะไรที่คิดได้ในหัวขึ้นมาส่ง ๆ


“ปะ...ไป... ตะ...ต้นไม้”


“หืม อะไรนะ”


“เราอยากไปซื้อต้นไม้”


ประโยคชัดถ้อยชัดคำซึ่งพยายามพูดในที่สุดก็ถูกบอกออกมาได้สำเร็จ

...อันที่จริงมันก๋ไม่ใช่ความคิดส่ง ๆ ซะทีเดียวหรอก
เขาอยากได้ต้นไม้มาปลูกไว้ริมระเบียงตั้งแต่กลับมาจากค่ายอาสาแล้ว
แต่ไม่มีโอกาสได้ไปเลือกซื้อสักที


คมสันพยักหน้าเข้าใจก่อนจะสตาร์ทบิ๊กไบค์
ให้ปลายฟ้าขึ้นเกาะหนึบเป็นปลิง
เพราะอีกฝ่ายยังคงรักษาความเร็วเหมือนเดิม
ทีแบบนี้ไม่ยักจะถามความเห็นเขาบ้างล่ะว่าอยากให้ขี่เร็ว ๆ มั้ย
แต่ก็ถือว่าดีไปอย่าง เพราะแดดตอนใกล้บ่ายสองโคตรร้อนเปรี้ยงจนแสบ
มอเตอร์ไซต์คันใหญ่ซึ่งเร่งลัดเลาะมาตามถนนจึงพามาถึงร้านขายต้นไม้ได้ในเวลาไม่นาน


บรรยากาศคล้ายสวนเล็ก ๆ ชวนร่มรื้นจากต้นไม้ดอกไม้น้อยใหญ่
ที่ปลูกเรียงกันหลายต้นพอช่วยทำให้ความร้อนจางลงไปบ้าง


ปลายฟ้าไม่รอช้ารีบตรงดิ่งไปสำรวจหาตัวเลือกด้วยความตื้นเต้น
ซึ่งแต่ละต้นก็มีป้ายชื่อเล็ก ๆ ปักบอกพันธุ์ไม้เอาไว้เพื่อง่ายต่อการเรียก
เขาเดินมองต้นไม้ที่มีอยู่ละลานตา
หัวสมองวนเวียนครุ่นคิดอย่างลังเลตามนิสัย


...จะปลูกอะไรดีวะ?


...เอาต้นไม้ที่มีดอกสวย ๆ ดีมั้ย?
อย่าง ‘คุณนายตื่นสาย’ ก็เข้าท่า
ดอกเล็ก ๆ หลายสีดูน่ารักสบายตาดี
 

...เฮ้ย! แต่ลูกผู้ชายอย่างเขา
ไหน ๆ จะปลูกต้นไม้ทั้งที่
ไม่เลือกเท่ห์ ๆ แบบ ‘บอนไซ’ ไปเลยล่ะ
ถึงจะไม่มีดอก แต่ปลูกแบบนี้เอาไปอวดเพื่อนได้ไม่น้อยหน้าเลยนะเว้ย


...แต่คิดอีกที หรือว่าจะเอาต้นไม้ที่กลิ่นหอม ๆ ดีวะ
เมื่อกี๊เดินผ่าน ‘ต้นแก้วแคระ’ แล้วชอบกลิ่นแบบนี้
ตื่นขึ้นมาตอนเช้าพอสูดอากาศริมระเบียงจะได้สดชื่น


เอ๊ะ... หรือจะเอาเป็น...



“ให้ช่วยเลือกมั้ย”


คำถามเบา ๆ ที่ดังขึ้นทำให้คนกำลังครุ่นคิดถึงกับสะดุ้ง
ปลายฟ้ารีบหันมองคนเสนอตัวซึ่งมายืนอยู่ใกล้เขาตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้
แถมยังชี้มือไปที่ต้นไม้ต้นหนึ่งที่ตั้งเรียงกันอยู่ไม่ไกล


“ต้นนี้เป็นไง”


คนถูกแนะนำมองตามก่อนพบกับต้นไม้เล็ก ๆ
ลักษณะเหมือนไม้ประเภทยืนต้นสูงประมาณหัวเข่า
ลำต้นสีน้ำตาล มีใบเขียวอยู่บนยอดกระจุกหนึ่ง
เป็นต้นไม้กำลังโตธรรมด๊าธรรมดาไม่มีอะไรโดนเด่นให้น่าตื่นตา
เหมือนต้นไม้ที่สามารถขึ้นได้ตามริมทางทั่ว ๆ ไป

...แล้วมันน่าเอาไปปลูกประดับระเบียงตรงไหน?


คนสงสัยขมวดคิ้วเดินก้มลงไปอ่านป้ายชื่อที่ปักไว้
ก่อนดวงตากลมจะเบิกกว้างเมื่อเห็นตัวอักษรปรากฏอยู่อย่างชัดเจน



‘ต้นสะเดาทวายพันธุ์ขาวผ่อง’




...เฮ้ยยย!!! ต้นสะเดาเนี่ยนะ!!

จะบ้าเหรอวะ!!

...ใครมันจะเอาไปปลูกเล่นริมระเบียงกันบ้าง!!


แต่ดูเหมือนจะมีคนบ้าอยู่ตรงนี้อยู่หนึ่งคน
เพราะร่างสูงหันไปตะโกนถามคนขายเสร็จสรรพ


“ลุงต้นนี้ขายยังไงครับ”


“อ้อ...สะเดาต้นละแปดสิบ”


“งั้นเอาต้นนี้ต้นหนึ่ง แล้วก็ขอกระถางใส่มาให้ด้วยเลยนะครับ”


อ้าว...ได้ไงวะ!!
มาตัดสินใจเอาเองแบบนั้นได้ไง
ไม่คิดจะถามเขาหน่อยเหรอ

...คนที่จะเอาไปปลูกที่ห้องมันคือเขานะโว้ยย!!



“ดะ...เดี๋ยวก่อนเราไม่ได้บอกว่าจะซื้อ”


ปลายฟ้ารีบร้องห้ามยั้งไว้
แต่คนฟังกลับทำหน้าไม่ทุกข์ร้อน
พลางย้อนถามกลับอย่างแปลกใจ


“หืม ไม่ชอบเหรอ
ปลูกสะเดาก็ดีนะ เลี้ยงง่าย
ไม่ต้องห่วงเรื่องแมลง
ถ้าโตไปเด็ดยอดมันกินได้ด้วย”


...คือ...กูซื้อไปประดับห้องมั้ย
ถึงมันจะมีสรรพคุณดีเวอร์ขนาดไหน
ที่แน่ ๆ เขาจะไม่ยอมกินไอ้ต้นสะเดาขมนรกอีกเด็ดขาด

...แล้วอย่างนี้เขาจะเอามันไปปลูกทำซากอ้อยอะไรก๊านน!!


คนไม่เห็นคุณค่าจึงพยายามเอ่ยค้านอีกครั้ง



“แต่...”


“ถือว่าปลายซื้ออันนี้ให้เราในฐานะบัดดี้ ...ตกลงมั้ย?”



คำถามที่ได้ยินเบรกคนที่กำลังจะพูดให้หยุดกึก

เออ...เดี๋ยว...ไอ้ที่บอกว่าจะให้เขาเลี้ยงคือไอ้ต้นนี้หรอ
มันก็โอเคอยู่หรอกนะถ้าเขาจะซื้อให้เป็นของขวัญบัดดี้

แต่ประเด็นคือคนที่จะต้องดูแลไอ้ต้นสะเดามันคือเขานะเว้ยย!!

...ถ้าอยากได้ทำไมไม่ซื้อไปปลูกเองล่ะวะ!!


ความสงสัยในใจถูกกลั่นออกเป็นคำพูดทันที
ด้วยสีหน้าที่ชักจะเริ่มหงุดหงิดของนายปลายฟ้า


“แล้วทำไมไม่ซื้อไปดูแลเองล่ะ”


“ระเบียงห้องเรามันแคบ
แล้วอีกอย่าง...”


ประโยคถูกหยุดไว้แค่นั้น
ก่อนนัยน์ตาคมจะสบเข้ากับดวงตาของอีกคน
พร้อมกับถ้อยคำซึ่งส่งผลให้คนได้ยินต้องนิ่งอึ้ง



“...ถ้าปลายเห็นสะเดาจะได้นึกถึงหน้าเราไง”




....อะ...ไอ้บ้า!!!

มันก็ต้องนึกถึงอยู่แล้ว
ใครมันจะไปนึกถึงอย่างอื่นได้
จะมีใครที่ไหนให้ยอดสะเดาเป็นของเทคบัดดี้
แถมยังบังคับให้บัดเดอร์ปลูกต้นสะเดาอีก
ถ้าไม่คิดถึงเลยก็คงจะแปลกไปหน่อย

งั้นแบบนี้ตอนเขาออกไปที่ริมระเบียงแล้วเจอต้นสะเดา
ก็คงต้องมานึกถึงหน้ามันทุกวันเลยน่ะสิ


...โอยยย!! ...แค่นี้ก็จะบ้าตายอยู่แล้ว

จะมาวนเวียนทำให้เขาหน้าร้อนบ่อย ๆ อีกทำไมวะ!!


...พอหน้าร้อนมาก ๆ ก็ชักจะไม่ไหว

...อาการเดิมมันเริ่มออก


เขาเลยรีบเดินหนีไปดูอย่างอื่นโดยไม่คิดจะเถียงต่อ
รอจนลุงเจ้าของร้านนำสะเดาลงกระถางให้เรียบร้อย
จึงเดินมาจ่ายเงินซื้อต้นไม้ที่ไม่เคยคิดจะอยากได้

....แต่ไหน ๆ ก็ดันหลวมตัวมาแล้ว
แถมสัญญายังต้องเป็นสัญญา
ว่าจะเลี้ยงบัดดี้คืนให้แม้มันจะเป็นอะไรก็ตาม


ปลายฟ้าจึงต้องจำใจหอบหิ้วกระถางสะเดาขนาดย่อม
ตะกายขึ้นรถบิ๊กไบค์อย่างทุลักทุเลพอสมควร
คราวนี้สถานการณ์ยิ่งแย่เพราะจากที่แคบอยู่แล้ว
พอมีกระถางต้นไม้ก็ยิ่งแคบเข้าไปใหญ่
เขาต้องอุ้มต้นสะเดากระเตงเหมือนลูก
ส่วนอีกมือเกาะเอวคนขี่ไว้แน่นชนิดไม่ต้องรอสั่ง
เพราะทั้งกลัวตกรถด้วยกลัวกระถางหลุดมือด้วย

...เห็นแบบนี้
มันหนักไม่ใช่เล่นเหมือนกันนะเว้ย
กว่าจะถึงหอได้ทำเอากล้ามแทบขึ้น
เขาก้าวลงจากมอเตอร์ไซต์พลางถอนหายใจเฮือก
หลังจากผ่านพ้นช่วงนาทีนรกมาได้
นึกดีใจที่ประคองทุกสิ่งไว้เรียบร้อยโดยไม่มีส่วนใดบุสลาย
กำลังจะหอบกระถางต้นไม้ขึ้นไปบนห้อง
แต่กลับถูกคนตัวโตแย้งไปถือไว้


“มา เดี๋ยวเราช่วยเอาขึ้นไปไว้บนห้อง”


“เออ...ไม่เป็นไรห้องเราอยู่แค่ชั้นสองเอง”


“มันหนักนะ ให้เราช่วยเถอะ”


คนจิตอาสาเอ่ยยืนยันคำหนักแน่นในน้ำเสียง
ทำให้คนที่เมื่อยแขนเป็นทุนเดิมต้องยอมแพ้
ปล่อยให้อีกฝ่ายดึงกระถางไปถือ


...อยากมีน้ำใจนักก็ให้ทำ
ไหน ๆ มันก็เป็นคนเลือกไอ้ต้นสะเดานี้มาแล้วนี่


ปลายฟ้าจึงเดินนำทางหยิบคีย์การ์ดผ่านประตูขึ้นไปบนห้อง

....ความจริงเขาไม่ชอบให้ใครขึ้นมาในห้องง่าย ๆ
เพราะเขาคิดว่าห้องมันเป็นพื้นที่ส่วนตัว
นี่คือเหตุผลที่เขาแยกมาอยู่ห้องคนเดียว
จะได้ทำอะไรได้สะดวกไม่ต้องเกรงใจใคร
ดังนั้นจึงมีน้อยคนมาก ๆ ที่สามารถเข้ามาในห้องเขาได้
ถ้ารวมเกมส์กับบอลล่า ก็ถือว่าคมเป็นคนที่สาม
มันจึงไม่แปลกอะไรนักที่เขาจะรู้สึกตื้นเต้นจนถึงกับมือสั่นขณะไขกุญแจห้อง
จนต้องสบถด่าตัวเองในใจ

...โว้ยย!!  ใจเย็นสิวะ
มันแค่มาเอาต้นไม้มาวางเฉย ๆ
ไม่ได้มาทำอะไรสักหน่อย จะประหม่าไปทำไม!!


ในที่สุดคนควบคุมสติไว้จึงไขกุญแจได้เสร็จสิ้น
ก่อนผลักบานประตูออกให้ผู้มาเยือนเห็นสภาพห้องเรียบ ๆ
แต่เป็นระเบียบเรียบร้อยแสดงถึงนิสัยของเจ้าของ


ปลายฟ้าเดินตรงไปเปิดประตูกระจกตรงระเบียง
สอดส่ายสายตามองหามุมเหมาะ ๆ ที่จะจัดวางกระถางสะเดา

...ไอ้ระเบียงเขามันก็ไม่ได้กว้างมากมายอะไรหรอก
แค่ราวตากผ้ากับซิงค์ล้างจานก็จะเต็มอยู่แล้ว

...แต่คนช่างเลือกก็ยังคงเป็นคนช่างเลือกอยู่วันยังค่ำ
เพราะเขาสั่งให้คมทดลองวางกระถางในมุมต่าง ๆ วนอยู่หลายที

ท้ายที่สุดจึงได้มุมเมื่อขยับบรรดาไม้กวาด ไม้ถูพื้น ที่โกยผงไปอีกทาง
และพอร่างสูงวางกระถางลงก็เข้าล็อคได้พอดีเด๊ะ
แถมเป็นมุมที่ไม่โดนฝนสาดมากและมีไอแดดกำลังเหมาะ

เจ้าของห้องซึ่งพอใจได้เสียที
เลยจัดการกอบดินขยับต้นสะเดาในกระถางให้เรียบร้อย
ก่อนรีบใช้แก้ววิ่งไปตักน้ำในห้องน้ำมารดต้นไม้
ถือเป็นพิธีต้อนรับสมาชิกใหม่ประจำห้อง


กว่าจะเสร็จภารกิจได้ก็เล่นเอาต้องปาดเหงื่อ
กระนั้นเขาก็ยังมานั่งยอง ๆ ดูต้นสะเดาอย่างภูมิใจ

เออ...พอมอง ๆ ไปมันก็เข้าท่าดีเหมือนกัน
แต่ถ้าเลี้ยงไปเรื่อย ๆ จนมันโตคงต้องเปลี่ยนกระถางเปลี่ยนที่กันอีกที
แล้วไอ้ต้นนี้มันจะโตไปถึงเมื่อไรวะ
ได้ข่าวว่าโตจนเป็นสิบเมตรเลยไม่ใช่เหรอ

อ้าว...ถ้าถึงตอนนั้นแล้วเขาจะเลี้ยงมันยังไงเนี่ย!?


คนสงสัยกำลังจะหันไปถามหาความเห็นจากอีกคน
แต่ชั่วขณะที่กำลังหันหน้าไปมอง เขากลับต้องเผลอสะดุ้ง
เมื่อใบหน้าคมดันอยู่ใกล้เสียจนชิด
โดยไม่รู้ตัวเลยว่าเข้ามาใกล้ขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไร


....มันใกล้

....จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่น ๆ


ใกล้....จนเห็นความรู้สึกบางอย่างสะท้อนในดวงตาคม


ใกล้....จนหัวใจค่อย ๆ เกิดอาการ....



....สั่นไหว




ปลายฟ้ารับรู้ทันทีว่าความร้อนกำลังแล่นตรงพุ่งขึ้นสู่ใบหน้า
เขารีบเบือนหลบตากำลังจะตั้งใจลุกหนี
หากแต่ยังไม่ทันทำอะไร มือใหญ่กลับจับมือเขารั้งไว้


“เดี๋ยวปลาย”


คำเรียกทำให้เจ้าของชื่อต้องหันกลับมามอง
ก่อนดวงตากลมจะเบิกกว้างนิ่งค้าง
เมื่ออยู่ ๆ คนตรงข้ามเอื้อมมือมาสัมผัสแก้มเขาเบา ๆ


“ดินเลอะ”


พูดจบพร้อมปลายนิ้วค่อย ๆ เกลี่ยเช็ดดินที่เปื้อนแก้มเขาออก
การกระทำที่เกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิดส่งผลให้หน้าของปลายฟ้าร้อนจนแทบไหม้
ไม่ต้องมองกระจกก็รู้ว่าปานนี้หน้าของเขาคงแดงแปร๊ดแค่ไหน
ทันทีที่คมสันละมือออกเมื่อเช็ดดินจนหมด
เขาจึงรีบทำท่าจะลุกพลางพูดตอบตะกุกตะกัก


“ขะ...ขอบใจ”


“เดี๋ยว”


ทว่าร่างสูงกลับยังคงดึงมือเขาไว้อยู่เช่นเดิมไม่ยอมปล่อย
ถึงจะยังแปลกใจ หากแต่ปลายฟ้ากลับก้มหน้างุด
ไม่กล้าเงยขึ้นมาสบตา ได้แต่ร้องถามติด ๆ ขัด ๆ


“อะ...อะไร ยังไม่หมดอีกเหรอ”


“เปล่า...”


คมสันปฏิเสธ มือใหญ่ยังคงกระชับจับมือของคู่สนทนาไว้
ดวงตาคมจับจ้องไปที่ใบหน้าของอีกคนไม่วางตา
ก่อนเอ่ยประโยคคำขอขึ้นมาเบา ๆ ราวกับคำกระซิบ


...กระนั้นมันกลับเป็นคำขอที่ดังก้องกระทบในใจของปลายฟ้า



“เราขออยู่อย่างนี้อีกสักพักได้มั้ย
อย่าเพิ่งหนีเราไปเลยนะ
เราอยากเห็นปลายใกล้ ๆ

ปลายหันมามองหน้าเราบ้างก็ได้
เวลาเห็นต้นสะเดาจะได้นึกหน้าเราออก

หรือไม่ปลายก็จำเผื่อไว้ใช้....


...ตอนที่ปลายคิดถึงเรา


...เหมือนที่เราคิดถึงปลาย”




--------------------------------------------------------------------------------------------------------------



TBC



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-03-2013 20:56:16 โดย BitterSweet »

ออฟไลน์ yunchun

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 554
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-2
อ๊ากกพี่คมม :m3: น่ารักโพดดด
แทบจะลงไปดิ้น 5555
ปลายเดี๋ยวนี้มีคนช่วยตัดสินใจแล้วนะ ฮิฮิ

ออฟไลน์ ao16

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1214
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +253/-4

ออฟไลน์ MiSS-U

  • {^o^} {^3^}
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2800/-11
ฮิ้ววว  คมจีบปลายให้ได้อายม้วนตามปลายเลย

บวกเป็ด

ออฟไลน์ minyoung

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 417
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-1
ฟิน เขินมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก






ถ้าเราเป็นปลาย คงเขินหน้าแดงจนแก้มแตกแล้ว มาต่ออีกนะ รีบ ๆ จะรอ

ออฟไลน์ eaey

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 280
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-0
 :o8: เหมือนที่เราคิดถึงปลาย :-[

tua

  • บุคคลทั่วไป

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด