ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร๊ต
แท่งที่ 4
...หิวขนม
ตอนนี้บ่ายสองแล้ว แต่นายซีเกมส์ยังไม่มีอะไรตกถึงท้องตั้งแต่เช้า
กระเพราะจึงเริ่มร้องโครกครากเป็นสัญญาณเตือนให้เจ้าของหาอะไรมาใส่
ซึ่งแน่นอนสำหรับเขาคงไม่ใช่ข้าวสวยร้อน ๆ แต่ต้องเป็นขนมหวาน ๆ เท่านั้น!
เพราะมันอุดมไปด้วยสารอาหารหล่อเลี้ยงบำรุงสมองเหมาะกับเด็กเภสัชอนาคตไกล
เมื่อวานเลยจัดชุดใหญ่ ไปซื้อขนมมาเตรียมพร้อมกองบนโต๊ะเป็นภูเขา
ใจอยากจะเอื้อมไปแกะห่อขนมหวานที่วางยั่วตาอยู่สักชิ้น
ทว่ามีอุปสรรคอยู่เพียงประการเดียว นั่นคือ...
....เขาปวดฟันจะตายห่าอยู่แล้วโว้ยยยย!!!
แม้ท้องจะร้องครวญคราง แต่ก็ทำได้แค่เพียงเหม่อมองขนมตาละห้อย
ทั้งช็อกโกแล็ต จูปาจุ๊ป กูลิโกะป๊อกกี้ คล้ายกำลังกวักมือเรียกให้เขาไปกิน
แต่ถ้าให้เขากินขนมพวกนี้ก็คงเหมือนฆาตกรรมตัวเอง
เพราะยาชาที่หมอฉีดให้ตอนผ่าฟันนั้นหมดฤทธิ์ไปแล้ว
ความปวดทรมานจึงส่งตรงไปให้เขารับรู้ร้อยเปอร์เซนต์แบบไม่มีกั๊ก
แค่กลืนน้ำลายยังเจ็บ นับประสาอะไรกับพวกขนมหวานทั้งหลาย
...ทำไมปากกับกระเพราะเขาถึงไม่สัมพันธ์กันอย่างนี้วะ!!
เมี๊ยวววว~
เสียงแมวร้องคลอเคลียเบา ๆ ที่ข้างเตียง
ทำให้คนที่นอนอยู่เพิ่งนึกขึ้นได้ถึงสิ่งมีชีวิตอีกหนึ่งตัวในห้อง
ไม่ใช่แค่ตัวเองที่หิว แต่เจ้าแมวตัวเล็กก็คงจะเริ่มหิวไม่แพ้กัน
จนทำให้เขาต้องฝืนตัวเองลุกจากเตียงเดินมาลูบหัวพูดกับมันเบา ๆ
“หิวแล้วก๋าไอ้จัดง๊าว รอป้อหน้อยเน้อ เดี๋ยวจะหาข้าวฮื้อกิ๋น”
เขาจัดการเดินไปเอาข้าวที่แช่ตู้เย็นไว้มาอุ่น
ก่อนแกะปลาทูขยำลงไปเป็นกับให้เสร็จสรรพ
แล้วจึงวางถ้วยพลางนั่งมองแมวตัวเล็กกินด้วยความเอร็ดอร่อย
มอง ๆ ไปก็อิจฉา เห็นแล้วท้องพาลจะร้องอีกรอบ
แต่ถ้ามันหายเจ็บกว่านี้สักหน่อยเขาคงจะพอหาอะไรรองเท้ากินง่าย ๆ
อย่างพวกนมหรือขนมอะไรนิ่ม ๆ
เออ...จริงด้วย มันมียาแก้ปวดอยู่นี่หว่า
เขาจำได้ว่าหมอจัดให้มาพร้อมกับยาแก้อักเสบใช่มั้ย
โอย...โง่จริงกู เขาลืมไปได้ยังไง
ถ้ากินยาสักพักฤทธิ์ยาคงช่วยบรรเทาความปวด
พอให้เขากระเดือกอะไรลงไปได้บ้าง
มัวแต่นอนปวดฟันอยู่ได้ตั้งนาน ไม่น่าลืมเลยจริง ๆ
ไม่น่าลืม...
ไม่น่าลืม...
เออ....ละ.......แล้วถุงยาอยู่ไหนวะ
พี่พยาบาลเขายื่นให้ก่อนกลับแล้วนี่
แล้วทำไมหาในห้องจนทั่วแล้วไม่มี
อย่าบอกนะว่า...
...ลืม
เออ...เอาเข้าไปไอ้เกมส์ นอกจากจะลืมกินยาแล้ว ยังลืมถุงยาไว้ที่คลินิกด้วย!!
...แม่งชีวิตบัดซบ!!
แล้วนี่เขาจะต้องขี่มอเตอร์ไซต์กลับไปเอายาที่คลินิกใช่มั้ยเนี่ย
แต่ท้องร้องหิวข้าวขนาดนี้ แถมยังปวดฟันจนแรงจะลุกเดินไปเปิดประตูยังไม่มีเลย
กว่าจะถึงคลีนิกหมอคงได้แหกโค้งนอนตายอนาถก่อนแน่ ๆ
...โอยยย...แล้วจะทำยังไงดีวะ!!
ก๊อก! ก๊อก!
กำลังโวยวายกับชะตากรรมรันทดของตัวเองอยู่ดี ๆ
กลับต้องหยุดชะงักไปทันทีที่ได้ยินเสียงเคาะประตูห้อง
...เอ้า! ใครมันจะมาหากันตอนนี้อีก
หรือว่าจะเป็น ‘ไอ้ปลาย’ เพื่อนกลุ่มเดียวกับเขาที่เรียนเภสัชอยู่ด้วยกัน
มันอยู่ห้องถัดไปข้างล่างนี่เอง สงสัยจะมาถามหาอะไรเขารึเปล่าก็ไม่รู้
แต่ที่รู้ ๆ ตอนนี้เขามีคนมาช่วยชีวิตแล้ว
คนเห็นแสงสว่างรำไรรีบลากสังขารไร้เรี่ยวแรงของตัวเองไปเปิดประตูห้อง
กำลังจะอ้าปากเอ่ยคำขอร้องให้ช่วย
หากแต่เมื่อพบหน้าสบตาแขกผู้มาเยือน นายซีเกมส์ถึงกับต้องนิ่งค้าง
ตาเบิกกว้างอย่างตกตะลึง จ้องมองรอยยิ้มหวานที่มาพร้อมคำพูด
“สวัสดีครับเกมส์ ปวดฟันรึเปล่า ผมเอายาแก้ปวดมาให้ แล้วก็ซื้อโจ๊กมาฝากด้วยครับ”
ดิวชูถุงยาพร้อมกับโจ๊กอุ่น ๆ ที่เพิ่งแวะซื้อให้ก่อนขับรถมาหา
ของที่อยู่ในมือสำหรับคนปวดฟันแถมท้องร้องจนทรมาน
คงไม่ต่างอะไรกับการมีเทวดามาโปรด
ยกเว้นก็เพียงแต่ใครคนนั้นดันเป็นโรคกลัวผู้ชายมาจีบเข้าขั้น
เทวดาหน้าหล่อจึงเป็นเหมือนปีศาจที่ทำเอาคนกลัวแทบอยากหนีไปให้ไกลสุดขอบโลก
แต่มันดันยืนดักทางออกไว้อย่างนี้ แล้วเขาจะหนีไปทางไหน
...เดินหน้าไม่ได้ งั้นก็ถอย...
...ถอยไปตั้งหลักก่อน...ไม่เอา...ไม่อยู่แล้วววว
คนกลัวฝืนบังคับขาแข็ง ๆ ของตัวเองให้ถอยกรูดหนีหัวซุนให้ห่างออกไปให้มากที่สุด
ทว่าภายในห้องสี่เหลี่ยมแคบ ๆ นี้จะหนีไปไหนได้ไกล
สุดท้ายเขาเลยต้องไปจนมุมอยู่หลังระเบียงหลังห้อง
ระยะห่างจากหน้าประตูหกเมตรถ้วน
ท่ามกลางสายตางง ๆ ของแขกที่มาเยือนจนต้องเป็นฝ่ายเอ่ยถาม
“เกมส์เป็นอะไรรึเปล่าครับ”
พูดไม่พูดเปล่า ดิวยังเดินเข้ามาในห้อง แถมยังใจดีปิดประตูให้ด้วย
ทำให้คนมองนิ่งค้างด้วยความอึ้ง รู้สึกเหมือนถูกไล่ต้อนให้จนมุม
...หมดกันทางหนีสู่อิสรภาพ จะโดดออกจากระเบียงเลยดีมั้ย
ไอ้ห้องเขาก็ดันอยู่ชั้นสามซะด้วย ขืนโดดออกไปสภาพคงตายศพไม่สวย
แล้วจะทำยังไงดีวะกู อยู่ตรงนี้ก็ตาย กระโดดลงไปก็ตาย
...งานนี้มีแต่กับ ‘ตาย’ กับ ‘ตาย’
โห...อนาคตชีวิตสุดหล่อชื่อซีเกมส์ต้องมาจบลงตรงนี้เหรอวะ
คนหนึ่งกำลังเหลียวซ้ายแลขวาหาทางหนี
แต่อีกคนหนึ่งซึ่งยังไม่ได้รับคำอธิบายใด ๆ กลับเดินเข้ามาใกล้พลางเอ่ยถามงงๆ
“เกมส์มีอะไรรึเปล่าครับ”
....เฮ้ยยย!! แล้วมันจะเดินเข้ามาอีกทำม๊ายยยย!!
ไม่ไหวแล้ว...อย่านะ...อย่า....
“ยะ...อย่าเข้ามา”
เกมส์รีบตัดสินใจตะโกนบอกในสิ่งที่ตัวเองคิด
ตอนนี้ลืมหมดสิ้นแล้วทั้งอาการปวดฟัน หิวข้าว
เพราะตอนนี้มีบางสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่า คือความกลัวที่แล่นเข้ามาจับขั้วหัวใจจนสั่นทั้งร่าง
หากแต่คนฟังกลับไม่สังเกตถึงท่าทีนั้น
และยังคงสับสนคล้ายไม่แน่ใจจนต้องเอ่ยถามซ้ำ
“ห่ะ อะไรนะครับ?”
ถามเฉย ๆ ยังพอทำเนา แต่นี่ดิวดันเดินขยับเข้ามาใกล้ด้วย
จนเกมส์แทบจะตาเหลือก ตะโกนร้องห้ามดังลั่น
“บะ...บอกว่าอย่าเข้ามา หยุดตรงนั้นนะ!”
“อ้าว...ทำไมล่ะครับ”
คำห้ามไม่มีผล เพราะยิ่งห้ามยิ่งงง ยิ่งห้ามยิ่งสับสน
และเหมือนกับจะเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาให้คนขัดคำสั่งก้าวมาใกล้มาขึ้น
จากหน้าประตูตอนนี้เดินมาจนถึงตู้เสื้อผ้าแล้ว
หากแต่เหลือระยะทางเพียงไม่กี่ก้าวกลับมีบางสิ่งร้องขัด
เมี๊ยววว~
เสียงเรียกทำให้หนุ่มหล่อก้มลงไปมอง
สิ่งมีชีวิตที่เข้ามาคลอเคลียขาเขาเบา ๆ
แล้วก็ต้องเผลอยิ้มเมื่อเห็นว่าเจ้าสัตว์เล็กนี่คืออะไร
“เอ๊ะ เกมส์เลี้ยงแมวด้วยเหรอครับเนี่ย”
ดิวก้มลงลูบหัวแมวสีน้ำตาลแซมขาวที่เข้ามาใกล้
พลางเอาหัวกลม ๆ ไถมือเหมือนอ้อนเล่นอย่างถูกใจ
ทำให้เจ้าของที่แท้จริงต้องมองตาค้าง
...เฮ้ยยย!! ได้ไง นั้นแมวกูนะ
อุตส่าห์เฝ้าเลี้ยงอย่างทะนุทะนอมใครให้มันมาจับอะไรง่าย ๆ
แล้วไอ้จั๊ดง๊าวนี่ไปยุ่งกับมันทำไมวะ
มันศัตรูนะเว้ย น่ากลัวจะตายไม่เห็นเหรอ
ไปอยู่ใกล้ ๆ ได้ยังไง ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลยใช่มั้ย ซื้อบื้อสมชื่อจริง ๆ
นึกไปก็พาลโมโหสัตว์เลี้ยงทรยศ
จนทำให้เจ้าของที่ให้ข้าวให้น้ำต้องตะโกนเรียกหงุดหงิด
“ไอ้จั๊ดง้าวมาหาป้อมานี่!”
และคล้ายเจ้าแมวตัวเล็กจะเข้าใจในภาษา
จึงรีบผละออกจากมือของแขกวิ่งเผ่นแพล่วไปหาเจ้าของเดิมที่คุ้นเคย
ซึ่งอุ้มมันขึ้นมากอดไว้ตรงริมระเบียงอย่านึกหวง
จนคนมองอดไม่ได้ที่จะถามกลับด้วยเพราะติดใจในคำเรียก
“มันชื่อว่าอะไรน่ะครับ ภาษาเหนือเหรอ ผมฟังไม่คุ้นเลย”
คนฟังสะดุ้งที่อยู่ ๆ อีกฝ่ายหันมาคุยด้วย
แต่ในเมื่อดิวยังคงทิ้งระยะห่างไม่มีท่าทีขยับเข้ามาใกล้
แถมยังมีแมวสุดรักเป็นเพื่อนตายอยู่ตรงนี้
จึงทำให้คนกลัวตอบกลับเสียงตะกุกตะกักเบา ๆ
“จะ...จั๊ดง้าว”
“หืม..แปลว่าอะไรเหรอครับ”
“โง่”
คำด่าสั้น ๆ ที่หลุดออกมาทำให้ดิวถึงกับชะงัก ต้องเลิกคิ้วถามอย่างงง ๆ
“อ้าว...มาด่าผมทำไมล่ะครับ”
หากแต่อีกฝ่ายกลับส่ายหน้ายิกก่อนรีบอธิบายขยายความเพิ่ม
เหมือนกลัวว่าถ้าร่างสูงไม่พอใจจะขยับเข้ามาหาเรื่องใกล้ ๆ
“มะ...ไม่ใช่ จั๊ดง้าวแปลว่าโง่ มันชอบซุ่มซ่ามเลยตั้งชื่อมันแบบนี้”
“อ๋อ...เหรอครับ”
เมื่อได้ฟังคำตอบ คนเข้าใจก็พยักหน้าหงึกหงึก
ทว่ายังไม่ทันจะเอ่ยอะไรต่อคนที่อยู่นอกระเบียงกลับร้องสั่ง
“เอายาวางไว้ตรงโต๊ะนั้น แล้วกลับไปซะ”
ถ้อยคำที่ดูห่างเหินสร้างความแปลกใจให้กับดิวซ้ำ ๆ
“ทำไมล่ะครับ นี่ผมซื้อโจ๊กมาฝากด้วยนะ
เห็นว่าเกมส์เพิ่งทำฟันมา เลยคิดว่าทานอะไรง่าย ๆ ดีกว่า
เกมส์ทานอะไรแล้วรึยัง ถ้ายังไงเดี๋ยวผมแกะให้เลยดีมั้ยครับ”
คนพูดชูถุงโจ๊กพลางทำท่าจะขยับเข้ามาใกล้อีก
จนคู่สนทนาต้องรีบตะโกนห้ามเสียงหลง
“เฮ้ย! ไม่ต้อง อย่าเข้ามา!”
นายซีเกมส์ใจชักสั่น เมื่อเห็นระยะทางหดใกล้เข้ามาทุกที
ตอนนี้มันอยู่ใกล้โต๊ะเขียนหนังสือแล้วระยะทางห่างจากเขาแค่สามเมตร
ทำให้คนกลัวเลิกลั่กรีบหาตัวช่วยนอกจากแมวตัวเล็กที่กอดไว้ให้อุ่นใจเป็นการด่วน
และก็เพราโชคช่วย เขาจึงเหลือบไปเห็นไม้กวาดที่อยู่ตรงมุมระเบียงพอดี
....เอานี่ล่ะวะ เป็นอาวุธแก้ขัดไปก่อน มีดีกว่าไม่มี
คนกลัวเอื้อมมือคว้าไม้กวาดมาถือไว้พร้อมพูดคำขู่
“ถ้าเข้ามาใกล้เกินสามเมตร เราตีจริงด้วย ๆ”
ดิวกระพริบตาปริบ ๆ มองพฤติกรรมที่ขู่ฟ่อ ๆ เหมือนเห็นเขาเป็นตัวประหลาด
ไม่ได้น่ากลัวแต่กลับดูแปลกตาในมุมมองของเขา
แถมยังเพิ่มความสงสัยให้มากเท่าเป็นทวีคูณ
...ตกลงว่าเกมส์เป็นอะไรกันแน่
ตั้งแต่เข้าห้องมา เกมส์ก็หนีไปตรงระเบียง
ทำเหมือนไม่อยากอยู่ใกล้เขา เพราะรังเกียจ ไม่ชอบ หรือเพราะอะไร
เขาก็ไม่เห็นว่าตัวเองมีอะไรผิดปกตินี่
เมื่อกี๊ก่อนจะมาหาก็ไปตอนดูหนังแพรยังมาซบไหล่เขาเลย
แต่กับเกมส์ดันทำท่าออกห่างจากเขาซะงั้น
เอาเถอะ...ไม่รู้หรอกนะว่าเกมส์เป็นอะไร
แต่วันนี้เขาไม่มีเวลาพอจะซักไซ้
เพราะเดี๋ยวมีนัดไปกินข้าวกับน้องมะเหมี่ยวดาวอักษรต่อ
เขาจึงไม่คิดจะยื้อ เพราะจุดประสงค์แค่ตั้งใจจะแวะมาหาเพื่อเช็คที่อยู่เท่านั้น
“โอเคครับ ๆ ไม่เข้าก็ไม่เข้า ๆ งั้นผมวางของไว้ตรงนี้นะ”
หนุ่มคาสโนว่าจึงตัดสินใจลามือ
วางถุงยาและโจ๊กซื้อมาฝากบนโต๊ะเขียนหนังสืออย่างยอมแพ้
ก่อนจะเตรียมตัวหันหลังเดินออกไปนอกห้อง
หากแต่ยังไม่ทันจะเอื้อมมือแตะลูกปิดประตู
เสียงจากด้านหลังที่ยังคงอยู่ใกล้ๆ กลับรั้งไว้
“เดี๋ยว”
ดิวหยุดมือหมุนตัวให้มามองคนที่มีพฤติกรรมแปลกประหลาดทั้งวัน
แม้จะอยู่ไกลแต่เขาพอเห็นสีหน้าลังเลคล้ายกระอักกระอวนใจ
แต่สุดท้ายดูเหมือนเจ้าจะตัดสินใจได้ จึงเงยหน้าขึ้น
พร้อมพูดกับเขาด้วยน้ำเสียงเบาหวิวแทบจะกระซิบ
...หากแต่เป็นถ้อยคำที่ดังชัดเจนในความรู้สึก
“ขอบใจนะ”
....คำธรรมดาง่าย ๆ
แต่ไม่รู้ทำไมพอออกมาจากปากของใครบางคนกลับดูพิเศษกว่าปกติ
พูดจบ คนที่อยู่ตรงระเบียงก็ก้มหน้าลงเหมือนเก่า คล้ายไม่สบตา
เขาจึงทำได้แต่ยิ้มตอบด้วยคำธรรมดาที่ยังคงรักษาความเป็นสุภาพบุรุษทำนองเดียวกัน
“ไม่เป็นไรครับ แล้วเจอกันใหม่นะครับเกมส์”
อีกฝ่ายไม่มีปฏิกิริยาตอบรับใด ๆ นอกจากมือข้างหนึ่งยังอุ้มแมวไว้
ส่วนอีกข้างถือไม้กวาดกอดไว้แน่น ทั้งดูตลกและดูน่ารักในสายตาเขา
ดิวละสายตาออกจากภาพนั้น ก่อนหมุนลูกบิดออกจากห้องแล้วปิดประตูลง
เขานิ่งคิดอะไรอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนตัดสินใจหยิบไอโฟนออกมากดโทรหาใครบางคน
และทันทีที่สายติด หนุ่มหล่อจึงแสร้งทำเสียงลำบากใจ
“แพรครับ เรื่องนัดวันอาทิตย์นี้ พอดีอาจารย์เรียกผมไปคุยธุระด่วน
ต้องขอโทษจริง ๆ นะครับ ผมก็เพิ่งรู้”
เขาได้ยินเสียงคู่สนทนาตอบกลับมาว่าไม่เป็นไร
ก่อนจะคุยต่ออีกสองสามคำแล้วจึงวางสาย
เป็นอันว่าสัญญาที่จะพาสาวน้อยน่ารักไปเที่ยวช็อปปิ้งถูกยกเลิกไปเรียบร้อย
ดิวขยับยิ้มมุมปาก เดินลงมาจากหอพักที่จดจำเลขห้องไว้ขึ้นใจ
...ก็ว่าจะไม่ทำอะไร ตั้งใจจะให้มันค่อยเป็นค่อยไป
แต่เห็นแบบนี้แล้วคงจะปล่อยไปไม่ได้
เพราะยิ่งรู้จักเกมส์ก็ยิ่งน่าสนใจขึ้นทุกวัน
ทุกทีมีแต่คนวิ่งหาเขา แต่กับเกมส์ดันพยายามเอาตัวออกห่าง
แล้วยังจะท่าท่าสั่น ๆ เหมือนกระต่ายน้อยที่กำลังกลัวหมาป่าขย้ำ
แถมยังพยายามพูดขู่ซะจนเห็นแล้วนึกขำ
เกมส์ทำจริง ๆ หรือแค่แกล้งเล่น ๆ เขาไม่รู้
แต่ที่แน่ใจคือระยะห่างสามเมตรนั้น
เขาจะเป็นคนทำให้มันหดสั้นลงเอง
อยากจะรู้นัก ว่ามันจะเป็นยังไงต่อไป
....เกมส์จะทำยังไง
....ถ้าหากเขาได้เข้าไปใกล้จนถึงตัวเกมส์
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
TBC