ซีรีส์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 4 ภาค]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ซีรีส์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 4 ภาค]  (อ่าน 817510 ครั้ง)

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41

babaaa

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ BitterSweet

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 235
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +725/-2
ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร๊ต


แท่งที่ 7




“วันนี้โดนใครวางยาเบื่อมารึไงยะ ไอ้เกมส์
หมาในปากแกถึงได้เงียบตายสนิทขนาดนี้”


นั้นล่ะครับคำทักทายกลางวงข้าวเที่ยงของคุณเจ๊บอลล่า
ผู้ช่างมีสายตาเรดาห์จับความผิดปกติได้รวดเร็วโดยเฉพาะเรื่องของชาวบ้าน
แต่วันนี้ชาวบ้านไม่ใช่คนอื่นคนใกล้ กลับเป็นเพื่อนสนิทคู่กัดประจำ
ซึ่งดูเหมือนจะลดดีกรีความกวนลงไปไม่สมตำแหน่ง
ทั้ง ๆ ที่ปกติเป็นต้องด่าให้เจ๊โมโหเล่นสักสองสามดอกแล้ว
ทว่าตั้งแต่เช้าก็ยังไม่ได้ยินเสียงพูดอะไรออกมาเลยสักแอะ
ไม่แปลกเลยที่จะโดนเจ๊บอลล่าสงสัย จนทำให้เขาต้องรีบแก้ตัวตอบเลี่ยง ๆ


“โด่ เจ๊ ผมออกจะเรียบร้อย พูดน้อย ไพเราะขนาดนี้
ยังมาหาว่าผมมีหมาในปากอีก แต่ถึงจะมีหมาผมก็ผู้ดีครับเจ๊
โกลเด้นรีทรีฟเวอร์ รู้จักเปล่า ไม่ใช่พันธุ์บางแก้วกระจอก ๆ นะครับ”


“อุ๊ยต๊ายย! อย่างแกนะเหรอจะพันธ์โกลเด้น ฝันสูงนะยะ
ไอ้ด่างข้างวัดก็บุญแค่ไหนแล้ว
นี่เพิ่งปลุกให้มันตื่นได้รึไงยะพ่อคุ๊ณถึงมาเห่าใหญ่เลย
โธ่...ฉันก็หลงนึกดีใจว่าใครมาผ่าหมาในปากแกออกหมดแล้ว”


คนโดนเหน็บถึงกับสะดุ้ง เมื่อได้ยินคำจี้ใจดำ
ถึงไม่ได้ไปผ่าหมาในปาก แต่ก็โดนเฉือนเหงือกผ่าฟันคุดเจ็บระบมจนไข้ขึ้น
ดีที่เมื่อวานกินยาแก้อักเสบกับยาแก้ปวดพอบรรเทาอาการไปได้บ้าง
วันนี้เลยไม่มีอาการอะไรให้เห็นมากเท่าไร
จนบอลล่าชักจะไม่มั่นใจในคำอ้างที่ว่าเขาไข้ขึ้นจนทำพาวเวอร์พอยน์รายงานกลุ่มไม่เสร็จ

มีแต่ไอ้ปลายที่รู้ความจริงเลยแอบกลั้นขำเบา ๆ
ทำให้เขาต้องขยิบตาส่งซิกให้มันเงียบไว้
ขืนบอลล่ารู้เรื่องทั้งหมดล่ะก็ขายหน้าตายห่า
เขายอมโดนเจ๊แขวะ ดีกว่าเสียศักดิ์ศรี
เห็นแบบนี้คนอย่างไอ้เกมส์ก็รักษาภาพพจน์ตัวเองยิ่งชีพนะครับ



คนเพิ่งผ่าฟันคุดจึงทำแค่เพียงยักไหล่ไม่ตอบคำประชดจากเพื่อน
ก้มหน้าเขี่ยต้มเลือดหมูนิ่ม ๆ ในชามเกาเหลาของตัวเองเท่านั้น
แม้ปากจะพอหายเจ็บแล้ว แต่ก็ยังเคี้ยวอะไรแข็ง ๆ ไม่ได้
กินแต่ละทีต้องค่อย ๆ เคี้ยวช้า ๆ เหมือนเคี้ยวเอื้อง
เลยทำให้เขามักจะหมดอารมณ์กินซะก่อนจะอิ่ม เหมือนแค่กินมันไปกันตายเท่านั้น


เฮ้อ...เวรกรรมของสุดหล่อซีเกมส์
อย่าว่าแต่ขนม ข้าวก็กินไม่ได้
คงได้อดตายเพราะผ่าฟันคุดแน่เลยทีนี่กู 

โธ่...บัดซบชีวิต!


คนกำลังคร่ำครวญถึงชะตากรรมได้แต่นึกปลง
ขยับตักต้มเลือดหมูขึ้นมาเข้าปาก
หากแต่ยังไม่ทันได้บรรจงเคี้ยวกลับมีเสียงถามดังขึ้นข้างหลัง


“ขอนั่งด้วยคนได้มั้ยครับ พอดีโต๊ะอื่นเต็มหมดแล้ว”


“ได้สิค่ะ เชิญเลยค่ะ”


คนตอบไม่ใช่เขา ทว่าเป็นเจ๊บอลล่าที่นั่งตรงข้ามชิงพูดเสียงหวาน
เจอแบบนี้ไม่ต้องหันไปมองก็รู้ว่าคงเป็นผู้ชายหน้าตาดีถูกเสป็คเจ๊แกแน่ ๆ
ไม่งั้นเจ๊ไม่ยอมให้คนอื่นมานั่งร่วมโต๊ะด้วยหรอก


ไอ้ตัวเขาไม่ได้สนใจอะไรอยู่แล้ว
เพราะโรงอาหารมหาลัยมันเล็ก ตอนเที่ยงมักจะเบียดหาที่นั่งกินกันไม่พอ
เลยมักจะมีคนมาขอแชร์ร่วมโต๊ะกินข้าวบ่อย ๆ
ยิ่งวันนี้เขามานั่งกินแค่ปลายกับบอลล่ากันสามคนเลยเหลือพื้นที่ว่าง
เขาเห็นบอลล่าขยับกระเป๋าเปิดทางให้ผู้มาใหม่ทรุดตัวลงนั่งยังฝั่งตรงข้ามโต๊ะ
ก่อนจะได้ยินเสียงคำทักดังขึ้น และต้องแทบอ้าปากค้าง
รู้เหตุผลทันทีที่บอลล่ามันยอมให้มานั่งกินข้าวด้วย


“สวัสดีครับเกมส์”


ไม่ใช่แค่คนมาขอนั่งจะฉีกยิ้มสว่างสดใสถูกเสป๊คเจ๊บอลล่า
แต่มันยังเป็นคนที่เขารู้จักดีจนแทบจะอยากมุดโต๊ะหนี
รู้สึกทันทีว่ามือเริ่มที่จับช้อนเริ่มแข็งค้าง
ใจมันหวิว ๆ วิงเวียนคล้ายจะเป็นลม
โต๊ะอื่นมีต้องเยอะแยะ ทำไมต้องมานั่งโต๊ะเขา
ที่สำคัญ ทำไม่ต้องเป็นไอ้คนที่เขาไม่อยากเจอมากที่สุดตอนนี้ด้วย!!


หากแต่ดูเหมือนหนุ่มหล่อจะไม่ได้รับรู้อาการประสาทแดกเบื้องต้นของเกมส์แม้แต่น้อย
เพราะเจ้าตัวกลับเริ่มต้นบทสนทนาด้วยการถามไถ่อย่างเป็นห่วง


“แล้วที่เกมส์ไม่สบายหายดีหรือยังครับ”


“โอย...อย่างมันน่ะไม่สบายที่ไหนกัน ป่วยการเมืองซะมากกว่า
เอ๊ะ! แล้วนี่ดิวรู้ได้ยังไงคะว่าเกมส์ไม่สบาย”


แน่นอนว่าบอลล่าเป็นฝ่ายแย้งพูดตอบตามเคย
แต่ท้ายประโยคแอบเอะใจจนต้องย้อนถามกลับ
เพราะมีแค่กลุ่มเขาเท่านั้นที่รู้ว่าเกมส์ไม่สบาย
แล้วกับดิวที่เป็นคนนอกจะมารู้ข่าวก่อนได้ยังไง


ความสงสัยในใจของบอลล่าไม่ต้องรอช้า
เพราะวินาทีต่อมาดิวก็รีบหันมาตอบตามความจริงโดยไม่ปิดบัง


“ก็ต้องรู้สิครับ เพราะว่าเมื่อเสาร์ผมเจอเกมส์ที่คลินิกทำฟะ...”


“เฮ้ย!! บอลล่า กูลืมไปว่าอาจารย์เรียกกูกับปลายไปหา กูไปก่อนนะ”


เสียงคนพยายามเก็บความลับตะโกนขึ้นเสียงดังขัดจังหวะก่อนประโยคจะจบ
แถมไม่รอช้า พูดจบปุ๊บก็กวาดชามเกาเหลา กับข้าวผัดของไอ้ปลายที่ยังกินไม่หมดไปด้วย
แล้วดึงลากแขนออกมาเหมือนเป็นเพื่อนกันตายเผ่นแน่บออกไปจากจุดเกิดเหตุทันที
ทิ้งบอลล่าที่ได้แต่งงงวยจับต้นชนปลายไม่ถูกให้นั่งเอ๋ออย่างถามอย่างงง ๆ


“เดี๋ยวอะไรกันยะ จะไปไหนเนี่ยไอ้เกมส์... ไอ้เกมส์!!”


เสียงถามไม่มีผลใด ๆ เพราะคนหนีเดินลิ่วไปไกลแล้ว
จนบอลล่าอดไม่ได้ที่จะบ่นกระปอดกระแปดอย่างไม่รู้สาเหตุ


“เฮ้อ...ดูมันทำสิ อยู่ ๆ ก็ลุกไป ไม่มีมารยาทเลยจริง ๆ”


หากแต่ร่างสูงกลับส่ายศีรษะยิ้ม ๆ


“ไม่เป็นไรหรอกครับ เออ...ว่าแต่บ่ายนี่มีเรียนอีกรึเปล่าครับ”


บอลล่านึกสะดุดใจบางอย่างกับคำถาม
หันกลับมาให้ความสนใจกับคู่สนทนาที่ยังคงนั่งนิ่งอยู่
ก่อนตอบไปตามความจริง


“ก็มีเหลืออีกตัวหนึ่งน่ะค่ะ”


“เลิกกี่โมงเหรอครับ”


“บ่ายสองโมงห้าสิบ”


ดิวนั่งคำนวณเวลาเงียบ ๆ
วิชาเรียนต่อไปของเขาก็เลิกตอนบ่ายสองโมงห้าสิบเท่ากัน
แล้วจากคณะวิศวะมาคณะเภสัชระยะทางก็ค่อนข้างไกล
ดีไม่ดีจะชวดกับใครบางคนเสียก่อน
แม้ตอนเที่ยงจะยังโชคดีดักเจอได้
แต่เขาไม่มั่นใจว่าจะมีโอกาสนั้นอีกครั้งมั้ย


“ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ คลาสนี้อาจารย์ชอบเลิกเลท”


คำพูดลอย ๆ ของบอลล่าดึงความคิดให้เขาหันไปมอง
เห็นร่างบางดูดชามะนาวเล่น แต่ก็แอบมีรอยยิ้มในประกายตาคล้ายรู้ทันอะไรบางอย่าง
ตามนิสัยเจ้าแม่ข่าวกรองผู้ช่างปะติดปะต่อเรื่องราวได้รวดเร็ว


ดิวไม่อธิบายเพิ่มเติมใด ๆ เพียงแค่ยิ้มแล้วพูดสั้น ๆ


“ขอบคุณครับ”


ก่อนจะก้มลงไปจัดการข้าวมื้อเที่ยงของตัวเองต่อ



...ไม่เป็นไร


...เพราะต่อให้เกมส์หนีเขาไปเท่าไร


เขาก็จะพยายามไล่ตามไปให้ได้ใกล้ที่สุดมากเท่านั้นเอง



...


..


.



“ฮ้าววว...หิวว่ะ”


คำสองคำไม่สัมพันธ์กันใด ๆ แต่คนอย่างนายซีเกมส์กลับทำให้มันสัมพันธ์กันได้
เพราะตอนนี้เขากำลังทั้งง่วงทั้งหิว หลังจากจบการแล็กเชอร์มหาโหด
ที่อาจารย์ผู้สอนเล่นพูดบรรยายด้วยน้ำเสียงโทนเดียวเหมือนเพลงชวนกล่อมให้หลับ
แต่จะหลับก็หลับไม่ลงเนื่องจากกระเพาะตัวเองกำลังผลิตน้ำย่อยส่งเสียงดังโครกคราก
ประท้วงเจ้าของที่มีอาหารย่อยลงไปไม่ถึงครึ่ง
ทว่าคงไม่ใช่แค่กระเพาะอาหารประท้วงโอดครวญ
เพราะไอ้เพื่อนที่นั่งเรียนข้าง ๆ เขาก็ดันบ่นออกมาเหมือนกันด้วย


“โห...พูดมาได้ กูไม่หิวเลยว่างั้น
กินข้าวยังไม่หมดจานเลย ดันลากกูออกมา”


ปลายฟ้าทำหน้าเซ็งเมื่อนึกถึงเรื่องตอนกลางวันที่ดันโดนไอ้เกมส์หลอกเอาซะได้
พอออกมาจากโรงอาหาร มันดันพาเขาขี่มอเตอร์ไซต์ไปเช่าหนังสือการ์ตูนซะอย่างนั้น
แล้วพอถามมันว่าอาจารย์คนไหนเรียก
มันกลับตอบว่าก็อาจารย์ฟูจิโกะ ฟูจิโอะ คนแต่งโดเรมอนเรียกหา
เลยต้องมาศึกษางานอาจารย์ไว้ เฮ้อ...ดูคำตอบมันทำไปได้


แต่ตอนนี้คนโกหกกลับยังทำท่าไม่ทุกข์ร้อน
คล้ายไม่สำนึกที่ลากเพื่อนไปลำบาก ซ้ำยังออกอาการแถตอบกลับ


“เอาน่า...มันเหตุฉุกเฉิน มึงไม่เคยได้ยินเหรอวะ
คนเดียวหัวหาย สองคนเพื่อนตายนะโว้ย
แล้วมึงก็เป็นเพื่อนกู เพราะฉะนั้นเอาแล็กเชอร์มึงมาซีล็อกซะดี ๆ”


“อ้าวก็เห็นจดอยู่ไม่ใช่เหรอวะ จะยืมไปทำไม”


ปลายฟ้าขมวดคิ้วถามงง ๆ
เพราะเขาก็สังเกตว่ามันขยับปากกายิก ๆ ไม่หยุดมือตามอาจารย์ทุกตัวอักษร
แต่อีกคนกลับพลิกหน้ากระดาษเปิดออกแล้วเฉลยความจริง


“กูไม่ได้จด กูวาดรูปอยู่
เห็นป่ะได้สไปเดอร์แมน กับซุปเปอร์แมน
เหลือไอรอนแมน อันนี้กูยังวาดขาไม่เสร็จ”


“อูยยย! จะควิซอาทิตย์หน้าอยู่แล้ว ช่างกล้านะยะ”


เสียงแขวะบ่นประจำไม่ใช่ใครอื่น ในโลกหล้านี้มีคนเดียว
แม่นวลอนงค์บอลล่าเจ้าเก่าซึ่งเก็บของเสร็จแล้วเลยเดินมาฝากรอยคู่กัดถึงที่
โดยคนกวนก็ไม่รอช้า โชว์เหนือตอบกลับแมน ๆ


“อะโด่ ระดับนี้กล้าอยู่แล้วเจ๊”


“แหม...กล้าให้มันจริงทุกเรื่องเถอะย่ะ! แล้วฉันจะรอดู คิคิ” 


บอลล่าแซวพร้อมเสียงหัวเราะที่ดูแฝงเล่ห์นัยยังไงชอบกล
ไม่รู้ทำไมพอพูดถึงเรื่องนี้กลับพาลคิดไปยังเรื่องที่เจอใครบางคนเมื่อตอนกลางวัน
อันนั้นไม่ใช่เขาไม่กล้านะโว้ยย เรียกว่าถอยมาตั้งหลักต่างหาก
เล่นอยู่ ๆ ก็มาแบบไม่มันตั้งตัวใครจะไปเตรียมใจลง
แต่คราวนี้เจออีกทีสิ แค่ไหนก็จะสู้โว้ยยย!! ไม่มีกลัวอยู่แล้ว หึ


เกมส์คิดในใจอย่างมุ่งมั่น
แม้จะรู้สึกเสียวสันหลังวาบขึ้นมาแปลก ๆ ร้อน ๆ หนาว ๆ พิกลคล้ายไข้จะขึ้น

ไม่เอาแล้ว เลิกคุยเถอะว่ะ
รีบไปถ่ายเอกสารแล้วหาข้าวกินกลับหอไปนอนดีกว่า



กลุ่มเภสัชจึงรีบเดินลงบันไดไปยังร้านถ่ายเอกสารที่อยู่ชั้นหนึ่งใต้ตึกเรียน
ซึ่งมีคนมารอต่อแถวอยู่บ้างประปราย แต่ไม่นานก็ได้คิวของเกมส์


ความจริงเขาจะยืมแล็กเชอร์ของไอ้ปลายไปจดก็ได้
แต่เขาขี้เกียจเขียนเองมากกว่า อีกอย่างลายมือไอ้ปลายก็เป็นระเบียบอ่านง่าย
ผิดกับลายมือเขาที่แปรผันตรงกับความเบื่อและง่วงบางตัวเขียนเองยังแปลเองไม่ออก
เขาเลยยอมเสียตังค์ไม่กี่บาทแลกกับความสะดวกนี้นับว่าคุ้มกว่ากันเยอะ


“เจ็ดบาทค่ะ”


เห็นมั้ยแค่ไม่กี่บาทก็ได้แล้วแนวควิซที่จะสอบอาทิตย์หน้า
ไม่ได้เอาเปรียบนะโว้ย แค่ใช่สมองและสตางค์ให้เป็นประโยชน์เท่านั้นเอ๊ง


นายซีเกมส์จึงก้มหน้าคุ้ยเศษเหรียญ
ได้เหรียญห้ามาหนึ่ง กับเหรียญบาทมาอีกหนึ่ง อ้าว...ตังค์ไม่พอ


“เฮ้ยไอ้ปลายมีเศษบาทหนึ่งเปล่าวะ กูมีอยู่เหรียญเดียว”


“โห...ยืมแล็กเชอร์กูไปแล้วยังต้องให้ออกอีกเหรอ”


เขาได้ยินเสียงจากด้านหลังบ่นเบา ๆ
แต่ไม่คิดจะสนใจเพราะกำลังยุ่งอยู่กับการจ่ายเงินให้พี่คนถ่ายเอกสาร


“เออน่า เดี๋ยวสอบเสร็จถ้าคะแนนดีกูพาเลี้ยงข้าว เคป่ะ”


เกมส์พูดตะล่อมแลกเปลี่ยนข้อเสนอไปส่ง ๆ 
เพื่อนกันแค่นี้อย่าทำงกนักสิวะ
และดูเหมือนคนด้านหลังจะนึกปลงกับพฤติกรรมของเขา
จึงเงียบไปไม่นานก่อนมีมือมาสะกิดเขาเบา ๆ พร้อมยื่นเหรียญส่งมาให้


“อ่ะนี่”


“เออขอบใจว่ะ”


“ไม่เป็นไรครับ”


โห...ตอบกลับซะสุภาพเชียว

เอ๊ะ! เดี๋ยวก่อน เสียงของไอ้ปลายมันห้าวทุ้มขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไร
แล้วมันก็ไม่ได้ตัวสูงเป็นเปรตมากกว่าเขาตั้งเกือบสิบเซ็นขนาดนี้ด้วย


อย่าบอกนะว่า...



เกมส์ค่อย ๆ หันหน้ากลับไปมองช้า ๆ
ถ้าเปรียบเป็นหนังตอนนี้คงมีซาวน์เอฟเฟคเพิ่มความหลอน
ในขณะที่ภาพของใครบางคนปรากฏขึ้นระยะประชิด
ห่างกันแค่เพียงลมหายใจคั้น ตาสบตาประสานกัน
พร้อมรอยยิ้มหวานบาดใจให้บิดปลิว


...โอมายก้อด! แม่จ๋าช่วยเกมส์ด้วยยยยยย!!



“น้องค่ะ ขาดบาทหนึ่งค่ะน้อง”


เสียงจากพี่คนถ่ายเอกสารเรียกสติของคนวิญญาณคล้ายหลุดออกจากร่างให้กลับเข้าที


“อ่ะ...คะ...ครับ”


เกมส์รีบวางเศษเหรียญบาทที่เพิ่งได้รับมาสด ๆ ร้อน ๆ
แล้วจึงคว้าเอกสารและสมุดแลกเชอร์จ้ำเดินหนีออกจากร้านตามเสต็ปเดิม
โดยไม่หันมามองคนมีน้ำใจซึ่งร้องเรียกตามมาไม่ห่าง


“เดี๋ยวสิครับเกมส์ ผมมีเรื่องจะคุยด้วย”


“เราไม่ว่าง”


เกมส์ตอบปัด ๆ พยายามเหลียวซ้ายแลขวาหาที่พึ่ง
ไอ้ปลายมันหายหัวไปไหนวะ
เมื่อกี๊ยังเห็นคุยข้างหลังเขาอยู่เลย
พอหันมาเจอดันกลายเป็นดิวได้ยังไง


โธ่เว้ยย!! ไอ้ปลาย จำไว้เลยนะมึง แม่งกล้าทิ้งกู
อุตส่าห์บอกแล้วว่าคนเดียวหัวหายสองคนเพื่อนตาย
ตอนนี้เขาเหลือคนเดียวหัวไม่หาย แต่หัวใจจะวายตายอยู่อีกนาทีข้างหน้านี่แล้ว
ไอ้ดิวนี่มีพ่อเป็นสโตเกอร์รึไงครับ แม่งตามกูจั๊งงงงง!!


“เกมส์ครับ ฟังผมก่อน”


แม้อีกคนหนึ่งจะรีบสับขาเดินเร็วจนแทบกลายเป็นวิ่ง
แต่ร่างสูงกลับไม่ละความพยายามตะโกนร้องเรียกชื่อหวังให้หยุดคุย
ช่วงขาที่ยาวเร่งเดินตามมาหดระยะห่างให้เข้าใกล้มากขึ้น
ขืนไม่ทำอะไรสักอย่างมีหวังดิวคงคว้าตัวเขาไว้ได้แน่
หัวสมองของนายซีเกมส์หมุนวนหาทางออก
ก่อนจะหยุดกึกแล้วหมุนตัวชี้ส่งเดชไปบนฟ้า


“เฮ้ย! นั้นจานบิน”


“ห่ะ! อะไรนะครับ”


ดิวสะดุดหันไปมองตามที่มือของอีกคนชี้


อุบ๊ะ! ...มุกหลอกเด็กเสือกได้ผลเว้ย! ไอ้จั๊ดจ้าวเอย!!

แต่ตอนนี้เขาไม่มีเวลามาสะใจ
เพราะเมื่อแผนได้ผลก็รีบพาร่างตัวเองใส่เกียร์หมา
วิ่งเผ่นแนบออกมาตรงลานจอดรถใต้คณะ
กระโดดขึ้นคร่อมมอเตอร์ไซต์ของตัวเอง
สตาร์ทรถบิดเร่งเครื่องพุ่งชิวออกไปนอกมหาลัย
ทั้งหมดกินเวลาไม่เกินสองนาที
กะว่าแม้อีกคนจะเป็นเสือชีตาร์ก็วิ่งตามกูมาไม่ทันแล้ว 


...อะไรครับ! ใครหาว่าเขากลัว ก็บอกแล้วว่าพร้อมจะสู้จริง ๆ
แต่ดิวมันชอบมาแบบไม่ให้สุ้มให้เสียงเลยต้องถอยไปตั้งหลัก
แล้วแบบ...ถอยไปตั้งหลักไกลไปหน่อย
ไกลจนเลี้ยวเข้าร้านข้าวที่ข้างหอแค่นั้นเอ๊งงง


โธ่...เคยได้ยินรึเปล่ากองทัพต้องเดินด้วยท้องครับ
ตอนนี้เขาแค่หิวเว๊ยเลยไม่มีแรงมาสู้รบกับดิว
ไว้ท้องอิ่มเมื่อไรเจออีกทีคราวนี้พร้อมสู้แน่จริง ๆ ไม่ได้โม้ คอยดูเลย!



นายซีเกมส์จึงเดินลงมาสั่งข้าวร้านป้าดากินให้หายหิว
โดยก่อนเข้าร้านก็พยายามสำรวจตรวจตราหาใครบางคนอย่างนึกระแวง
ตามคอนเซปต์ปลอดภัยไว้ก่อน แต่เมื่อไม่พบความผิดปกติจึงเริ่มตักข้าวเข้าปาก
แม้จะยังมีอาการระบมอยู่นิด ๆ จากการผ่าฟันคุด ทว่าเขาก็พยายามเร่งกินจนอิ่ม
เสร็จแล้วลุกขึ้นจ่ายตังค์ และไม่ลืมซื้อปลาทูติดไม้ติดมือไปให้ไอ้จั๊ดง๊าวลูกแมวตัวเล็กบนห้องกินด้วย
ซึ่งพอไขบานประตูเปิดออกไป ก็คล้ายกับเจ้าตัวเล็กจะรู้ดีว่าได้เวลา
เพราะมันมาตั้งท่ารอส่งเสียงเหมียว ๆ อยู่ตรงหน้าประตู
จนเจ้าของอดไม่ได้ที่จะอุ้มขึ้นมากอดด้วยความเอ็นดู


“ว่าจะใดไอ้จั๊ดง้าว มารอป้อก๋า? คิดเติงป๋อไจ้ก้อ?”


เกมส์ก้มลงคุยกับแมวสีขาวตัวเล็ก ได้ยินมันร้องแหง่ว ๆ ตอบกลับมา
ซึ่งแน่นอนเขาฟังภาษาแมวไม่ออกอยู่แล้ว แต่มันก็ยังทำให้เขารู้สึกชื่นใจอยู่ลึก ๆ
เหมือนเวลาเรากลับบ้านแล้วรู้ว่ามีคนรออยู่ โดยเฉพาะเขาที่มาอยู่หอไกลบ้านแบบนี้
เลยมีบางครั้งเหมือนกันที่ทำให้รู้สึกเหงาอยากมีเพื่อนคุยด้วย
ถึงเขาจะมีไอ้ปลาย บอลล่า หรือเพื่อนเก่าอีกหลายคน
แต่อย่างมากก็คุยกันเรื่องธุระสำคัญทั่วไป ไม่ใช่การคุยแก้เหงาที่ทำให้รู้สึกสบายใจ
ยิ่งช่วงนี้ใกล้จะควิซสำคัญอีกหลายตัว คงยากที่จะมีเวลามาคุยเล่นไร้สาระกัน


เออ...พูดถึงควิซแล้วก็นึกขึ้นได้ว่าเขายังไม่ได้คืนสมุดแล็กเชอร์ของไอ้ปลายเลยนี่หว่า
ยืมมันมาเดี๋ยวไม่มีอ่านสอบแล้วมันได้บ่นเขาตาย
แต่ช่วยไม่ได้ก็ตอนนั้นใครใช้ให้มันดันทิ้งเขาไว้คนเดียววะ
ถ้าเจอหน้าแม่งจะขอด่าสักหน่อย คิดแล้วยังนึกเคืองไม่หาย



ก๊อก!  ก๊อก!



เสียงเคาะประตูทำให้ความคิดเกมส์หยุดลง
และคนที่จะมาหาเขาในตอนนี้ได้ ไอ้ปลายชัวร์
สงสัยจะมาท้วงแล็กเชอร์มันคืน ...ดี ๆ มาให้ด่าได้ถึงที่
งานนี้ต้องขอเคลียร์กันหน่อยว่าดันหายตัวไปไหนเวลาเพื่อนเขาตาจน


คนมีคดีค้างในใจจึงเปิดประตูออกไปกะบ่นใส่เพื่อนตัวเองเต็มที่


“เฮ้ย! ไอ้ปลาย ทำไมมึง...”


หากแต่ประโยคกลับค้างกลางอากาศเพียงแค่นั้น
เมื่อสองตาเห็นชัดแจ้งว่าคนที่ยืนอยู่หน้าประตูห่างไกลจากเพื่อนตัวเองมากแค่ไหน
เพราะมันเป็นคนเดียวกับที่เขาพยายามหนีให้ห่างมาตลอดทั้งวัน
แต่เหมือนยิ่งไกลมันจะยิ่งใกล้

...ใกล้จนกระทั่งทำให้หัวใจหวิว แข็งขาอ่อนแรง มือไม้เริ่มสั่น



“เกมส์ครับ”


ได้ยินเสียงอีกฝ่ายเรียกชื่อสั้น ๆ จนสะดุ้งเฮือก
ก่อนมือของคนตรงข้ามจะเอื้อมมาจับบานประตูให้เปิดกว้างออก
เกมส์ตาเบิกโพล่งมองการกระทำที่ขยับคุกคาม


...เอาอีกแล้ว อาการเดิม ๆ มันจะกลับมาอีกแล้ว


แต่ไม่...ไม่ได้...

ถ้าเขาหนีมันจะต้องเป็นการหนีอยู่อย่างนี้ตลอดไป
เคยหนีรอดครั้งที่หนึ่ง ครั้งที่สอง แล้วครั้งนี้ก็ยังจะหนีอีกเหรอ
เขาบอกกับตัวเองแล้วว่าต้องจะสู้
คนอย่างไอ้เกมส์ก็มีศักดิ์ศรีที่จะต้องรักษาเหมือนกันนะโว้ย
เพราะฉะนั้นเขาจะไม่ยอมถอยหนีอีกต่อไปแล้ว



คนรวบรวมความกล้าจึงพยายามคุมสติ
ก่อนที่ร่างสูงจะดึงประตูเปิดออก
เขากลับจับลูกบิดกระชากปิดอย่างแรงจนดิวได้แต่ร้องห้าม


“เดี๋ยวครับเกมส์ อย่าเพิ่งปิดสิครับ”


“อะ...ออกไปนะโว้ย! มะ..ไม่ต้องเข้ามา!”


แม้เสียงจะยังสั่น ๆ แต่นายซีเกมส์ยังยึดลูกบิดประตูไว้เหนียวแน่น
ใช้แรงทั้งหมดดันให้ร่างของอีกคนที่ผลักบานประตูให้ถอยกลับไป


“ผมมีเรื่องจะคุยกับเกมส์จริง ๆ นะครับโอย!”


ท้ายประโยคดูเหมือนดิวจะถูกแรงประตูหนีบเบา ๆ ที่มือ
ทว่าตอนนี้เจ้าของห้องไม่สนแล้ว เป้าหมายแค่กั้นประตูไว้
จะยังไงก็ไม่ยอมให้อีกฝ่ายผ่านมาได้
ในหัวมีแต่แรงฮึดสู้จนตัวตาย พร้อมกับตะโกนไล่เสียงดังลั่น


“แต่เราไม่มีเรื่องจะคุยโว้ยยย!! ออกไปซะ!!”


และดูเหมือนความพยายามของนายซีเกมส์จะประสบผล
เพราะในที่สุดเขาก็ใช้แรงดันจนร่างสูงล่าถอย
ทำให้สามารถปิดประตูได้ดังปึง


...ปิดแล้วทำยังไง ก็ต้องล็อกลูกบิด ล็อกกลอน
ไม่พอลากเก้าอี้มากั้นห้องไว้ด้วย
แถมวิ่งไปหยิบไม้กวาดจากหลังห้องมาเป็นอาวุธเสริม

เอาซี่...ต่อให้มึงใช้ขวานจามประตูเข้ามาเหมือนหนังซอมบี้
กูก็พร้อมสู้โว้ยยย! เขาจะไม่ยอมหนีอีกต่อไปแล้ว!!



ดวงตาจ้องเขม็งไปยังประตูนอกห้องที่เงียบเสียงไป
เหงื่อเริ่มหยดเพราะความตึงเครียดจากสถานการณ์
รอคอยเวลาเหมือนวัดใจเตรียมพร้อมรบ
หากทว่าแม้จะผ่านไปหลายนาทีเสียงจากด้านนอกก็ยังเงียบฉี่


เออ...หรือว่าดิวมันจะถอดใจไปแล้ววะ
ถ้าเป็นแบบนั้นก็รอดแล้วใช่มั้ยกู

เฮ้อ...ค่อยโล่งหน่อย บอกแล้วว่าถ้าคนอย่างเขาพร้อมสู้
หน้าไหนก็มาทำอะไรไม่ได้ทั้งนั้น


...


..

.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-03-2013 06:10:25 โดย BitterSweet »

ออฟไลน์ BitterSweet

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 235
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +725/-2
..

.


TRRRRRRRRR!!



เสียงโทรศัพท์พร้อมแรงสั่นเบา ๆ ในกระเป๋ากางเกงทำให้ความคิดสะดุดลง
เขาวางไม้กวาดอาวุธคู่ชีพลงกับพื้นก่อนล้วงหยิบมือถือออกมากดรับทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ดูเบอร์


“ฮัลโหล”


“เกมส์ครับ ผมดิวนะ”


ตี๊ด!



ไม่ต้องให้พูดอะไรต่อ เพียงแค่ได้ยินชื่อ
มือก็กดวางสายลงไปโดยอัตโนมัติ


ดะ...เดี๋ยวนะ


...มะ...เมื่อกี๊เขาหูฝาดไปรึเปล่า


คนที่โทรมาคือใครนะ 



TRRRRRRRRR!!!



ความสงสัยไม่อยู่ในหัวนาน
เพราะเสียงโทรศัพท์ในมือกลับแผดร้องขึ้นมาอีกครั้งจนสะดุ้งโหย่ง
เกมส์มองตัวเลขสิบหลักที่โชว์ในเครื่องอย่างหวาด ๆ
พยายามกล่อมตัวเองว่าเมื่อกี๊เขาอาจฟังชื่อผิด


...ไม่ใช่หรอก ไม่ใช่ดิว
อย่างมันจะไปรู้เบอร์เขาได้ยังไง
เขาอาจจะฟังผิดไปก็ได้ ของแบบนี้ต้องพิสูจน์กันอีกที



เจ้าของเครื่องสูดลมหายใจลึกเรียกความกล้า
ก่อนจะกดรับกรอกเสียงลงตามสาย


“ฮัลโหล”


“เกมส์อย่าเพิ่งวางนะครับ ฟังผมก่อน”


เป็นดิวแน่ไม่ผิดล่ะคราวนี้ที่เป็นคนตอบกลับมาอย่างร้อนรน
เขามองตรงดิ่งไปยังประตูเหมือนได้ยินเสียงแอคโค่สะท้อนอยู่ด้านหลัง

...แม่งเอ้ยยย!! มันยังไม่ไปจริง ๆ ด้วย แต่มีเรื่องสำคัญไปกว่านั้น...


“รู้เบอร์เราได้ยังไง”


“ก็รู้มาจากคลินิกทำฟันตั้งแต่วันที่เกมส์ลืมยาเอาไว้น่ะครับ”


คำตอบที่ได้ฟังทำเอาเกมส์กุมขมับ
คลินิกบ้าอะไรวะไม่คิดจะเก็บความลับของคนไข้เลยรึไง
เล่นเอามาโชว์แผ่หลาให้ชาวบ้านชาวช่องดูกันง่าย ๆ อย่างนี้
วันหลังแม่งจะฟ้องร้ององค์การคุ้มครองผู้บริโภคเสียให้เข็ด
แต่ตอนนี้เขาต้องแก้ปัญหาด้วยตัวเองก่อน


“ลบเบอร์เราซะ”


“ถ้าอย่างนั้นเกมส์ต้องเปิดประตูให้ผมก่อน”


เงื่อนไขจากปลายสายทำเอาคนถูกขอหน้าหงิก
ฝันไปเถอะว่าเขาจะโง่ยอมเปิดประตูให้


“ไม่! ให้ตายก็ไม่มีวันเปิดโว้ยยย!!”


เกมส์ยืนคำขาดเสียงจริงจัง
อุตส่าห์รอดแล้ว ใครมันจะยอมถีบตัวเองลงนรกอีกรอบ
คู่สนทนาเงียบไปสักพัก ก่อนจะถอยหายใจเบา ๆ เหมือนยอมแพ้


“เฮ้อ...งั้นก็ได้ครับ
แต่ถ้าผมบอกว่าเกมส์ลืมของสำคัญเอาไว้ข้างนอกนี้
เกมส์จะเปิดมั้ยครับ”


คำพูดปริศนาทำเอาคนฟังชะงัก

...ของสำคัญอะไร มีด้วยเหรอที่เขาลืมไว้
ทว่ายังไม่ทันได้เช็คสำรวจ เขากลับได้ยินเสียงบางเสียงดังขึ้นเบา ๆ


“เมี๊ยววว~”



เสียงแมวร้องแบบนี้  ไอ้จั๊ดง้าวไม่ใช่เหรอ

อ้าว...แล้วมันอยู่ไหนวะ


เกมส์ก้มลงมองหารอบห้องไล่ตามเสียงแมวร้อง
แต่ยิ่งตามก็ยิ่งพบว่าเสียงมันไปหยุดอยู่ตรงหน้าประตู


...เฮ้ย! อย่าบอกนะว่าของที่เขาลืมก็คือ ไอ้จั๊ดง้าว!!


แล้วมันไปอยู่ข้างนอกห้องได้ยังไง
หรือว่าตอนที่เขาดันประตูกันอยู่มันจะแอบมุดออกไปได้



“ว่าไงครับเกมส์ จะปล่อยเจ้าตัวเล็กนี้ไว้ข้างนอกจริง ๆ เหรอครับ”


คำขู่จากปลายสายทำเอาเขาชักจะเดือด

แม่งไอ้ดิวชั่ว! มึงนี่มันเลวโคตรจริง ๆ
คิดจะเอาลูกแมวมาใช้เป็นเครื่องต่อรอง
แต่จะให้เขาปล่อยให้จั๊ดง่าวอยู่ข้างนอกตัวเดียวก็ไม่ได้
เพราะเขาเลี้ยงมันไว้อยู่แต่ในห้อง
เกิดมันซื่อบื้อเดินหลงทางไปไหนต่อไหนจะทำยังไง


เกมส์ชั่งใจอยู่หลายวินาทีอย่างสับสน
ใจหนึ่งก็นึกห่วงลูกแมวที่เลี้ยงมากับมือ
แต่อีกใจก็ยังคงนึกหวั่นกับอสูรร้ายหน้าประตู


กระนั้นท้ายที่สุดความกังวลกับเจ้าตัวเล็กก็เป็นฝ่ายชนะ


“ก็...ก็ได้ เราจะเปิดประตู แต่นายห้ามเข้ามานะ
แค่ส่งไอ้จั๊ดง่าวมาให้เฉย ๆ แค่นั้นพอ”


เขาขยับปากเอ่ยคำอนุญาต กระนั้นก็ยังไม่วายเอ่ยกำชับป้องกันไว้ก่อน
โดยที่คู่สนทนาก็ยื่นเงื่อนไขกลับมาเช่นเดียวกัน


“โอเคครับ แต่เกมส์ต้องคุยกับผม ห้ามวางสายผมนะ”


“เออ”


ต่างฝ่ายต่างตกลงในคำสัญญา
ก่อนเกมส์จะลากเก้าอี้ที่ขวางประตูอยู่ออกห่าง ปลดกลอนทีละชั้น
สุดท้ายจึงค่อย ๆ หมุนลูกบิด แง้มประตูพอเป็นช่องเล็ก ๆ ช้า ๆ
กะว่าถ้าอีกฝ่ายเล่นตุกติกจะกระชากประตูกลับงับให้นิ้วขาด


แต่ดิวที่ยังอยู่ด้านนอกกลับทำแค่เพียงยื่นลูกแมวตัวเล็กส่งให้เท่านั้นจริง ๆ
ไม่ได้มีท่าทีพยายามเปิดประตูเช่นคราวแรก
เขาจึงรีบอุ้มไอ้จั๊ดง้าวกลับเข้าห้องก่อนปิดประตูลงดังปัง
ล็อกลูกบิด ล็อกกลอน เอาเก้าอี้มาวางกั้นลงที่เดิม


“งั้นแค่นี้นะ”


เกมส์ทำท่าจะวางสายเมื่อเสร็จภารกิจ จนดิวต้องรีบร้องท้วงเงื่อนไข


“เดี๋ยวสิครับเกมส์ยังไม่ได้คุยกับผมเลย”


คนฟังส่งเสียงจิ๊จ๊ะหงุดหงิด
 
แต่เอาเถอะ...ตอนนี้เขาอยู่ในป้อมปราการปลอดภัยแล้ว
ดิวมันไม่มีทางทำอะไรเขาได้หรอก
มันอยากจะคุยอะไรกับเขาก็ตามสบายเลย


เขาจึงค่อยผ่อนความกลัวลง ตอบกลับไปสั้น ๆ


 “ว่ามา”


“ผมอยากบอกเกมส์ว่าผมรู้แล้วนะครับ”


“รู้อะไร”


“เรื่องที่เกมส์เป็นโรคกลัวผู้ชายจีบ”



ถ้อยคำเพียงประโยคเดียว
กลับส่งผลให้คลื่นอารมณ์เบาบางเมื่อครู่แปรเปลี่ยนเป็นความนิ่งตะลึง



...ดิวมันไปรู้เรื่องนี้มาได้ยังไง


แล้วที่สำคัญถ้ามันรู้แล้ว วันนี้มันยังจะแกล้งตามเขามาอีกเพื่ออะไรกัน


...สนุกเหรอที่เห็นวิ่งหนีหัวซุกหัวซุนแบบนี้

...สนุกเหรอที่มาล้อเล่นกับความกลัวของคนอื่น


...มึงสนุกมากใช่มั้ย เห็นกูเป็นตัวอะไรกัน!!




“แล้วไง รู้แล้วทำไม มันน่าตลกมากใช่มั้ยวะ! อยากจะหัวเราะก็เอาเลยเซ่โว้ยย!!”


ความหงุดหงิดทะยานขึ้นสูงทำให้เกมส์เผลอท้าทายกลับไปตามอารมณ์
ไหน ๆ จะโดนหยามศักดิ์ศรีก็เอาสุด แต่จำไว้ ถ้ามันคิดจะหัวเราะเขา
เขาก็จะเอาคืนมันเป็นสามเท่า เพราะความกลัวมันมีอานุภาพน้อยกว่าแค้น
คนอย่างไอ้เกมส์เจ็บแล้วจำ แค้นแล้วฝังรากลึก
ถ้าเปิดประตูไปต่อยหน้ามันตอนนี้ได้ เขาก็จะทำโดยไม่ลังเลเลยสักนิด


กระนั้นสิ่งที่หลุดออกมาจากอีกฝากฝั่งกลับเป็นแค่ข้อความสั้น  ๆ



“ผมแค่อยากขอโทษ”



เสียงพูดนั้นมั่นคงจริงจัง โดยไม่มีวี่แววของอาการล้อเล่นใด ๆ
หยุดอาการความโมโหที่อยู่ในหัวของเกมส์ให้ลดลงเหลือเพียงความนิ่งงัน
ปล่อยให้คำอธิบายจากปลายสายผ่านเข้าหู


“ตอนนั้นผมไม่รู้จริง ๆ ว่าเกมส์มีอาการนี้
เลยเข้าไปใกล้จนทำให้เกมส์เป็นลม
ผมยอมรับว่าผมทำผิดไป แต่ผมไม่ได้ตั้งใจจะแกล้งเกมส์นะ
ผมอยากขอโทษ เกมส์พอจะยกโทษให้ผมได้มั้ยครับ”


ดิวยังคงรักษาน้ำเสียงซึ่งยังคงแสดงความจริงใจเอาไว้ไม่เปลี่ยน
กระทั่งทำให้เกมส์เริ่มเอนเอียงทีละน้อย


...มันก็จริงอยู่หรอกที่ดิวทำไปโดยไม่รู้ว่าเขากลัว
เพราะเขาไม่ได้ไปเที่ยวโพทะนาบอกอาการของโรคที่เป็นอยู่
แล้วถ้ามันคิดจะสำนึกผิดกับสิ่งที่ทำไว้อย่างที่บอก
เขาก็ยินดีจะปล่อยเรื่องเหล่านั้นให้ผ่านไปเป็นหน้าหนึ่งของชีวิตที่ไม่อยากจดจำ


“เออ ยกโทษให้ก็ได้ แต่นายต้องเลิกมายุ่งวุ่นวายกับเราก่อน”


เกมส์ยื่นเงื่อนไขต่อรองอีกครั้ง
คราวนี้ขอให้ต่างคนต่างเลิกแล้วต่อกันให้มันจบ ๆ ไปก็ดี


“คงไม่ได้หรอกครับ เพราะผมอยากเป็นเพื่อนกับเกมส์”


“ห่ะ! อะไรนะ?”


คำตอบได้ยินทำเอาเขาต้องเลิกคิ้วถามงง ๆ
ไม่ใช่เพราะคำปฏิเสธแต่เป็นเพราะเหตุผลท้ายประโยค


“เพื่อนไงครับ เหมือนที่เกมส์เป็นเพื่อนกับปลายฟ้า เป็นเพื่อนกับบอลล่าแบบนั้น”


ร่างสูงอธิบายขยายความเพิ่มเติม
หากแต่กลับยิ่งทำให้เขามึนงงเป็นการใหญ่


อ้าว...ที่ผ่านมาดิวไม่ได้ตั้งท่าจะจีบเขา แต่มันคิดกับเขาเป็นแค่เพื่อนเหรอ
แล้วไอ้สายตากรุ่มกริ่มกับรอยยิ้มหวาน ๆ เวลามองเขามันคืออะไรล่ะ
หรือมันเป็นนิสัยของดิวอยู่แล้ว
งั้นอย่าบอกนะว่าตลอดมา มีแค่เขาที่คิดไปเอง กลัวไปเองคนเดียว


ความสับสนในใจถูกพูดออกมาเป็นคำถามเสียงเบาหวิวเพื่อความแน่ใจ


“นายอยากเป็น ‘แค่เพื่อน’ กับเราจริงๆ  เหรอ”


“ครับ ผมว่าผมถูกชะตากับเกมส์นะ
เหมือนเรามีบางอย่างคล้าย ๆ กัน
ผมเลยอยากคุยกับเกมส์ให้เยอะกว่านี้”


แม้จะได้ยินประโยคขยายตามมากระนั้นเกมส์ก็ยังไม่คลางแคลงใจ
เรื่องที่เกิดขึ้นมันกลับตาลปัตรเกินไป เดี๋ยวนะกูตามไม่ทัน
สรุปคือมันแค่อยากชวนเขาคุยด้วยกันเฉย ๆ ใช่มั้ย

เฮ้ย!...เอาจริงดิ
แต่คนอย่างมันกับเขาจะคุยกันรู้เรื่องเลย ลักษณะท่าทางไม่ได้คล้ายกันเลยนะ


ความแตกต่างที่ดูไม่น่าจะไปกันรอดเลยทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะถามอีกครั้ง


“ถ้าอย่างนั้นจะคุยอะไร”


“อะไรก็ได้ครับถ้าเป็นเรื่องของเกมส์ อย่างวันนั้นผมเห็นรูปครอบครับเกมส์
เกมส์มีน้องชายด้วยใช่มั้ย ชื่ออะไรนะครับ อายุห่างจากเกมส์มากมั้ย”


“อ้อ ‘ไอ้กาวน์’ น่ะเหรอ ตอนนี้มันอยู่ม.หก กำลังจะเข้ามหาลัย”


“แล้วจะเข้าคณะไหนครับ”


“ไม่รู้เหมือนกัน อย่างมันสนใจแต่เตะบอล”


“เอ๊ะ เล่นบอลเก่งเหรอครับ”


“ก็ติดทีมเยาวชนของจังหวัดแหละ ตอนนี้กำลังคัดตัวเข้าทีมชาติ”


“แบบนั้นก็เรียกว่าสุดยอดแล้วครับ”
 

“งั้นมั้ง แต่ไม่ติดก็แปลกแล้ว ในสมองมันมีแต่ฟุตบอลๆๆ
รู้ป่ะ ตอนช่วงบอลโลกนะ เราเนี่ยแทบไม่ได้นอน
พอบอลทีมที่ตัวเองเชียร์เตะเข้าโกลทีแม่งมันร้องตะโกนเฮลั่นบ้าน
ตีสองนะโว้ยย แล้วเรานอนอยู่ข้างห้องมันพอดี อยากจะบ้า!”


“โห...ขนาดนั้นเลยเหรอครับ”


“เออดิ แล้วยังมีอีกนะ เมื่อปีที่แล้ว...”


เขาเลยเริ่มต้นเล่าเรื่องราวของน้องชายให้ฟัง
แม้ส่วนใหญ่จะเอนเอียงไปทางเผาเสียมากกว่า
เพราะเขาสนิทกับไอ้กาวน์เพราะโดนคุณนายแม่สายสมรจับเลี้ยงมาเหมือนเพื่อน
แต่พฤติกรรมเขาสองคนต่างกันสุดขั้ว ดูจากชื่อก็รู้...

เขาชื่อเกมส์ แต่ดันฝักใฝ่จะเรียนแพทย์ สนใจวิทย์ อ่านตำราหมอ
ส่วนน้องชื่อกาวน์ ที่มาจากคำว่าเสื้อกาวน์ กลับมุ่งไปทางกีฬาแทนเสียอย่างนั้น

เรื่องพวกนี้เป็นเรื่องประหลาดประจำครอบครัวที่ไปเล่าที่ไหนก็ขำ
และแน่นอนมันถูกเกมส์เล่าให้ดิวฟังหมดไม่มีกั๊ก
ยิ่งอีกฝ่ายตั้งใจฟังซักถามมาอย่างอยากรู้ ก็ยิ่งทำให้เขาคุยด้วยยาวจนเพลิน



“...เห็นป่ะ มันอ่ะโคตรงี่เง่าเลย มีที่ไหนปั่นจักรยานลงบันได
หัวเลยโขกกับเสาต้องให้เราขี่มอเตอร์ไซต์ไปเย็บแผล
แล้วที่บ้ากว่านั้นนะ หมอชอบจับเราสลับกับไอ้กาวน์อยู่เรื่อย
ก็เห็น ๆ อยู่ว่ามีผ้าก็อซแปะหน้าผากไว้ ยังคิดว่าเราเป็นไอ้กาวน์
ไม่รู้ทำไมใคร ๆ ชอบบอกว่าหน้าตาเราสองคนเหมือนกันอย่างกับฝาแฝด
เราว่าไม่เห็นมันจะเหมือนกันตรงไหนเลย”


“ก็พี่น้องกันนี่ครับ มันต้องคล้ายกันอยู่แล้ว
แต่ฟังแบบนี้ ผมชักอยากเห็นน้องกาวน์แล้วสิครับ
อาจจะเหมือนเกมส์จริง ๆ ก็ได้”


ดิวเอ่ยเสียงกลั้วหัวเราะตอบกลับมา
หลังจากที่เขาเล่าพฤติกรรมสุดแสบสะเด็ดเรื่องที่เท่าไรไม่ได้นับให้ฟัง
เกมส์พลิกตัวนอนเปลี่ยนท่ามาตะแคงขวาเพราะเริ่มเมื่อย
จากคุยกันอยู่หน้าประตู อยู่ ๆ ก็ดันมานอนกลิ้งบนเตียงตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้
แต่เพราะมันกำลังเพลิน จึงทำให้เขากำลังเริ่มต้นเผาน้องชายเรื่องใหม่
ทว่ายังไม่ทันพูดอะไรปลายสายกลับเอ่ยขัด


“เออ...เกมส์ครับ ผมก็อยากคุยต่อนะ
แต่แบตผมมันกำลังจะหมด ผมคงจะ...”



ตี๊ดดด!!



เสียงสัญญาณขาดหายทำให้คนได้ยินชะงัก
ยกหน้าจอโทรศัพท์ขึ้นมามองสำรวจ
แล้วก็ต้องเผลอเบิกตากว้างเมื่อสังเกตเห็นเวลาคุย


2:51:43


เฮ้ยย!! สองชั่วโมงห้าสิบนาที
ไม่จริงมั้ง ทำไมเวลามันผ่านไปไวขนาดนี้วะ
มันเหมือนกับเขาเพิ่งเริ่มคุยได้แป๊บเดียวเอง
แต่เวลาคงไม่โกหกหรอก เพราะตอนนี้แบตโทรศัพท์มือถือเขา
จากที่ชาร์ตเกือบเต็มร้อยกลับเหลือแค่ 20% เท่านั้น


...บ้าแล้ว!! ทำไมเขาถึงปล่อยให้ตัวเองคุยกับดิวนานได้แบบนี้




ก๊อก! ก๊อก!



เสียงเคาะประตูจากหน้าห้องทำเอาคนสับสนต้องหันไปมอง
ก่อนได้ยินเสียงคนซึ่งคุยกันต่อเนื่องดังลอดออกมา


“เกมส์ครับ แบตผมหมดแล้ว ขอโทษจริง ๆ นะครับ”


“เฮ้ย! นี่ยังอยู่หน้าประตูห้องอีกเหรอ”


เกมส์โพล่งถามไปอย่างตกใจ รีบลุกจากเตียงไปใกล้ประตูห้อง
นึกว่าดิวไปที่อื่นนานแล้ว แต่เสียงจากด้านนอกกลับย้ำให้มั่นใจ


“ครับ แต่ตอนนี้มันจะห้าโมงเย็นแล้ว ถ้าผมไม่ไป เกมส์คงไม่ออกมาใช่มั้ย
งั้นผมขอตัวก่อนดีกว่า เกมส์จะได้ออกมาซื้อข้าวเย็นทาน
แล้วไว้คืนนี้ ผมค่อยโทรหาเกมส์ใหม่นะครับ”


ประโยคจบลงเพียงแค่นั้น ก่อนคนด้านในจะได้ยินเสียงฝีเท้าถอยห่างออกไป
เกมส์ลงทุนเอาหูแนบชิดกำแพงฟังความเคลื่อนไหว
รอสักพักจนมันเงียบสนิทไร้อาการใด ๆ
ทำให้เขาตัดสินใจแง้มเปิดประตูห้องออก


...ไม่มีใครเลย

แต่เมื่อกี๊ดิวต้องอยู่ตรงนี้แน่ ๆ
ที่สำคัญห้องเขามันอยู่ริมสุดทางเดินติดหน้าต่าง
ทำให้แดดตอนบ่ายส่องเข้ามาเต็ม ๆ ตลอด
ร้อนขนาดนี้คงไม่ใช่ว่าดิวจะนั่งคุยกับเขาเกือบสามชั่วโมงหรอกนะ



เกมส์ขมวดคิ้วมองโทรศัพท์มือถือในมือตัวเอง
อย่าจะนึกโทษความเผลอตัวที่ดันไปเล่าเรื่องอะไรต่อมิอะไรต่อมิอะไรตั้งมากมาย
แม้แต่ความลับบางเรื่องที่ไม่เคยคุยให้เพื่อนในกลุ่มฟัง
ก็กลับหลุดปากออกมาง่าย ๆ เพราะดิวชอบถามนู้นนี้คอยฟังเขาอย่างตั้งใจ


...น่าแปลกที่ดิวสามารถชักนำให้เขาคุยด้วยได้


แต่ที่แปลกกว่านั้นคือ...


...เขากลับไม่ได้รู้สึกกลัว


อาจเพราะว่าไม่เห็นหน้า ไม่เห็นรอยยิ้มหวาน ๆ
และสายตาประหลาด ที่มันชอบจ้องมองมา
จึงส่งผลให้เขาคุยกับดิวเหมือนที่คุยกับเพื่อนคนอื่น


...’เพื่อน’ เหรอ


พอนึกถึงคำนี้เขาก็รู้สึกคล้ายดิวจะลดระดับความน่ากลัวลงไปได้อีกนิด
หรือว่าต่อจากนี้ เขากับดิวจะเริ่มต้นจากความสัมพันธ์แบบนั้นได้รึเปล่า
ให้พูดกันตรง ๆ การมีมิตรมากมันก็ย่อมดีกว่ามีศัตรูอยู่แล้ว


...ถ้าตราบใดที่ดิวไม่คิดจะจีบเขา


...บางที


...เขาก็อาจจะยอมเป็น ‘เพื่อน’ กันกับดิวก็ได้ ล่ะมั้ง?



....


..


.


ร่างสูงเดินลงบันไดมาจากหอพักเรื่อย ๆ
พลางหยิบรีโมตกุญแจมาเปิดรถฮอนด้าซิตี้สีขาวมุกของตัวเอง
ก่อนโยนไอโฟนที่แบตหมดสนิทลงไปตรงคอนโซลรถ


...ไม่คิดหรอกว่าแผนนี้จะได้ผล


ตอนแรกที่เข้าไปหาเกมส์ เขาพยายามทำทุกวิถีทาง
ทั้งไปกินข้าวด้วย ทั้งดักรอ  หรือแวะมาหาที่ห้อง
เกมส์ก็มัวแต่วิ่งหนีจนเขาแทบถอดใจ
อย่าว่าแต่อธิบาย แค่หน้าเขา เกมส์ก็ไม่อยากจะเห็น

เออ จริงสิ...เกมส์ไม่อยากเห็นหน้าเขา
งั้นถ้าลองใช้แค่เสียงคุยกัน เกมส์จะยอมหันมาพูดกับเขามั้ย


เป็นไอเดียที่อยู่ ๆ ก็ผุดขึ้นมาได้
ถึงจะรู้ว่าเสี่ยงที่ตัดสินใจโทรไป เพราะมันอาจจะส่งผลแย่
จนทำให้เกมส์โมโหเขามากขึ้น
แต่สุดท้ายมันกลับออกมาลงตัวมากกว่าที่คิด


เกมส์เป็นคนร่าเริง มนุษย์สัมพันธ์ดีอยู่แล้ว
พอลากไปคุยถึงเรื่องสบาย ๆ ที่เจ้าตัวคุ้นเคยอย่างเรื่องครอบครัว
ก็คล้ายเป็นการจุดฉนวนให้เกมส์พูดออกมาได้เรื่อย ๆ ไม่มีหยุด
แต่เขาไม่เบื่อหรอกที่จะฟัง
เพราะเขาชอบน้ำเสียงที่เกมส์เล่าเรื่อง มันฟังดูสนุก ตื่นเต้น แถมยังน่าสนใจ
ถ้าแบตไอโฟนไม่หมดก็อาจจะเผลอคุยยาวต่อได้อีกหลายชั่วโมง


...เป็นแบบนี้เขาจะคิดได้มั้ยว่า เกมส์กำลังเริ่มเปิดใจให้เขา
พูดคุยกันทุกเรื่อง ให้ความไว้วางใจเหมือนเพื่อนคนหนึ่ง
โดยที่ไม่คิดเอะใจสงสัยอะไรเลย



ใช่...


เกมส์คงไม่หรอกรู้ว่า
เวลาคนเราจะจีบกันก็มีหลายคู่เริ่มต้นความสัมพันธ์
จากการเป็น ‘เพื่อน’ กันไปก่อน


ไม่ต่างอะไรจากที่เขาคุยกับเกมส์แบบนี้เลย


...สักนิดเดียว




----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------




TBC




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-02-2014 08:16:39 โดย BitterSweet »

ออฟไลน์ toye

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 290
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-0
มาแล้ววววว
รอมานานเลย
ชอบจังๆๆๆๆๆ

คนแรกป่าวเนี่ย ดีใจจจจจจ  :man1: :man1: :man1:

bow55

  • บุคคลทั่วไป
อร้าย พ่อดิว รูปหล่อมีสมอง
แต่อย่าเล่นๆ นะจ้ะตัวเธอ

ออฟไลน์ goosongta

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1521
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +94/-6
ขอให้ดิวจีบให้จริงเถอะ ไม่ใช่แค่อยากสนุก อยากเอาชนะหรอกนะ

babaaa

  • บุคคลทั่วไป
กรี้ดด พี่ดิวพ่อยอดขมูขี  :-[ :-[
จีบน้องได้แต่อบ่าแค่เล่นๆนะ

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
เกมส์ตามดิวไม่ทันหรอก :z3:

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8
เริ่มจากเพื่อนแหละดีแล้ว!! ดิว จงสู้ต่อไป.. ! !

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ HanATarO

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2141
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-2
555

ดิว นี่เจ้าเล่ห์มาก

ออฟไลน์ moredee

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-8
:L2:ดีใจด้วยค่ะกับการได้ตีพิมพ์ 

รออ้่านเรื่องของเด็กมอหกร้านอาหารตามสั่งอยู่นะเออ

ดิวจีบจริง แล้วเอาจริงหรือเอาเล่น อย่านะ บอกบอลล่าจัดการนะ

ออฟไลน์ EoBen

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3306
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-6
พออ่านตอนนี้แล้วรู้สึกได้เลยว่า เกมส์ขี้โม้วะ 5555


ปล ภาพปกสวยมากกกก เฮียหล่อลากมากกก  :man1:

ออฟไลน์ MiSS-U

  • {^o^} {^3^}
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2800/-11
 :กอด1:

เกมเริ่มเปิดใจล่ะ เหลือก็แต่ความจริงใจที่ดิวจะมีให้

อย่าหลอกเกมแล้วกัน แม่ฟันหัวแบะ  :m16:

บวกเป็ด

ออฟไลน์ quiicheh.

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +73/-9
ดิวตอนอยู่กับเกมส์นี่ดูเป็นคนดีนะ
ไม่คิดว่าจะเจ้าชู้
แต่ก็แน่ดิจะจีบเค้านิต้องทำคะแนนไว้ก่อน555555

bozang

  • บุคคลทั่วไป
พ่อดิวฉลาดมาก
เกมส์จ้อเก่งมาก
หุหุ
คนจะเป็นแฟนกันเขาก็ต้องมาจากเพื่อนก่อนสิ บุ่ยยยยย ไม่รู้อะไรซะเลย

ออฟไลน์ nopkar

  • เป็ด indy
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2159
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +163/-3
ดิวเดินมาถูกทางแล้ววววว อิิอิ

ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5

ออฟไลน์ choijiin

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2082
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +445/-5
ดีใจกับคนเขียนด้วยจ้า
จะได้รวมเล่มเป็นของตัวเองแล้ว เย่!!!
 :a2: :a9: :a1:

อิคุณชายดิวมันช่างร้ายกาจยิ่งนัก
แผนนี้เข้าท่าๆคนอ่านขอยกนิ้วให้
แต่ไปๆมาๆมันจะเป็นยังไงน้อ
 :m28:

ออฟไลน์ nongrak

  • ยังไงก็รักคาเมะจังที่สุด
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +912/-14
ดิวนี่จะจีบเกมส์เพราะชอบหรือเปล่า ถ้ามาเล่นๆ กับเกมส์ไม่ได้นะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






NT.orn

  • บุคคลทั่วไป
อั้ยย่ะ ดิวทำเนียนเลยนะเนี่ย แกล้งทำเป็นพูดว่าจะขอเป็นเพื่อน แหม่ๆๆๆๆ  :-[

ดูเหมือนจะได้ผลด้วยเพราะว่าเกมส์ยอมคุยด้วยมากขึ้น 555 ยังไงก็สู้ๆ ขอให้จีบให้ติดแต่อย่ามาหวังฟันแล้วทิ้งนะเฟ้ยย

ออฟไลน์ bun

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-5
เกมส์คงไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังจะมีเพื่อนสนิทคิดไม่ซื่ออะ 555

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
มาเหนือเมฆมากเลยนะ
คุณชายดิว :z2:

ออฟไลน์ aa_mm

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-2
ดิวมาถูกทางล่ะ  แต่คงตะล่อมเกมส์นานหน่อยล่ะ แมวขี้กลัวอย่างนั้น อิ อิ

ออฟไลน์ gookgik

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1966
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-6
ดิวมาถูกทางแล้ว  ได้ยินแต่เสียง ไม่เห็นหน้า กลับทำให้เกมส์เปิดใจได้มากกว่า
ก็คงต้องค่อยๆ ทำให้เกมส์เชื่อใจ และไว้ใจให้ได้



ออฟไลน์ =นีรนาคา=

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2546
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +296/-6
ดิวสุดอ่ะ คิดได้ไง  o13

แต่ได้ใจไปเต็มๆกับการคุยโทรศัพท์ตากแดดอยู่หน้าห้อง


ออฟไลน์ 9nawKIHAE

  • ♥BJYX~
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 298
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
ชอบแฟนอาร์ต เฮียแทน กับ ตี๋เพลงจังเลย  :-[ :-[ :-[ :-[

ออฟไลน์ ReiSei

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-5
อยากเอาใจช่วยแต่ยังระแวงดิวอยู่  คนเจ้าชู้คงไม่หยุดง่าย ๆ หรอก แต่เห็นเกมส์น่าสนใจ กลัวว่าพอได้เขามาแล้วจะกลับไปทำนิสัยเดิม ๆ  :z3:
เกมส์พิจารณาดิวดี ๆ ก่อนนะ  เล่นเข้าหาแบบขอเป็นเพื่อนก่อนแบบนี้ จะรู้ตัวมั้ย  :really2:

ออฟไลน์ monoo

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1957
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +101/-4

ออฟไลน์ kasarus

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
น้ำหยดลงหินทุกวันหินมันยังกร่อน
แล้วหัวใจอ่อนๆ ของนายซีเกมส์จะไม่ระทวยได้ไง

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด