HEARTBREAKER P.I [ UP! : SPECIAL : Tar’s birthday ] 1/3/59 : P.151
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: HEARTBREAKER P.I [ UP! : SPECIAL : Tar’s birthday ] 1/3/59 : P.151  (อ่าน 1306093 ครั้ง)

master_rayar

  • บุคคลทั่วไป
หนีแล้วถ้าพากลับมาเนี่ยจะโดนสองหนุ่มทำไรป่าวเนี่ย
เราว่าต้าร์น่าจะอ้อนๆแล้วหาทางควบคุมสองหนุ่มดีกว่านะ(อยากเห็นอ่ะ)
แต่หนุ่มน้อยของเราอาจจะมีแผนอะไรในใจรึป่าวเนี่ยถึงกล้าที่จะหนีไป(ก็ไม่รู้ซิ)
ติดตามน่าฮะ คุณคนแต่ง^^

TifaReira

  • บุคคลทั่วไป
เอ่อ... เป็น 3P เรื่องแรกที่เคยอ่านและ โคตรชอบบบบบบบ
เข้าบอร์ดทุกวันเพื่อรอวันเธออัพ!!

ที่บอกว่าประเด็นไม่ใช่การแก้แค้น แต่เพราะอยากได้ทั้งสองคนใช่มั้ย หึหึหึ
แสดงออกก็ไม่เป็น พอโดนอ้อน โดน(แอบ)ขู่ฆ่าตัวตายก็ยอมซะแล้ว โถๆๆๆๆ
พาทหน้าจะแรงอีกมั้ยเนี่ยยย แบบไหนก็รออ่านนะจ๊ะ ชุบุ >3<

ปล้ำลิง : ชอบน้องเฟียซอ่ะ ><

ปล้ำเธอ : แอบจิ้นหน้าพี่ควินพี่แซทเป็นพระเอกดาวรุ่งช่องสาม 55555


mimirin

  • บุคคลทั่วไป
หนุ่มซึนทั้งสอง ดูพวกนายก็รักต้าร์ดีนี่นา  แล้วทำไมต้องรังแก ต้องข่มให้จมดินด้วยฮะ  แสดงความรักกันดีๆไม่เป็นรึไง 

สมควรต้องดัดนิสัย  แต่กลัวตอนโดนจับได้สิน้องต้าร์เอ๋ย  เพราะฉะนั้น หนีให้ไวนะหนู

ตอนนี้ต้าร์รู้จุดอ่อนสองหนุ่มแล้ว  อ้อนนิดๆหน่อยๆทำตาปิ๊งๆ ควินแซทก็แค่ลูกแมวเชื่องๆนี่แหละ  :laugh:

John Doe

  • บุคคลทั่วไป
อยากให้ต้าสอนให้สองคนนั้นรู้สึกถึงคำว่า เจ็บปวดหัวใจมากๆ บ้างงะ สงสารต้า มานานหลายตอนแล้ว เกลียดสองคนนั้น =(

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
ต้าร์แอบจิตป่ะเนี่ยชอบลองของอยู่เรื่อย

ออฟไลน์ LSK

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0

amyrang

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
ก็เหมือนจะรู้จุดอ่อนสองคนนั้นเนอะ...แต่ถ้าไปทำให้เค้าโกรธ ต้องรับมือให้ได้นะ...

ต้าร์สู้ๆๆๆๆๆ....

ออฟไลน์ shikyu3211

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1537
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-1
มาต่อเร็วๆนะ สนุกมากๆ o13

ออฟไลน์ LSK

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ New-Y Holic

  • Your love is a lie
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +207/-5
    • https://www.facebook.com/pages/New-Y-Holic/352883328112176





Heartbreaker : 10






เวลาต้องจากบ้านไปไกล หรือไปอยู่ที่อื่นเป็นเวลานาน อาการคิดถึงบ้านจะถามหา ผมก็เป็นหนึ่งในนั้น เพิ่งเข้าใจและรู้ซึ้งก็วันนี้ ว่าความคิดถึง โหยหา มันจะเรียกร้องรุนแรงจนทำให้ความคิดชั่ววูบพาผมมาที่นี่…บ้านของผม
 
ผมยื่นเงินส่งให้โชเฟอร์ เปิดประตูก้าวลงจากรถแท็กซี่ ผลักประตูปิด เดินไปเกาะประตูรั้วเหล็กสีทอง มองเข้าไปด้านใน บ้านหลังใหญ่2ชั้นตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้าบนพื้นที่ประมาณ5ไร่ สถาปัตยกรรมแบบโคโลเนียลของตัวบ้านทำให้ผมนึกถึงคุณพ่อ ท่านเป็นคนออกแบบบ้านด้วยตัวเอง บริเวณสวนหย่อมด้านข้างยังเต็มไปด้วยไม้ดอกไม้ประดับ ที่ที่ผมชอบมานั่งเล่นคลุกหญ้าเป็นประจำ ทางคอนกรีตทอดยาวตั้งแต่ประตูรั้วสุดปลายทางที่หน้าเทอร์เรส ทำให้นึกย้อนถึงอดีต เมื่อครั้งที่ผมกับพี่ชายหัดขี่จักรยานด้วยกัน ท่ามกลางเสียงเชียร์และเสียงหัวเราะของคุณพ่อคุณแม่

ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม บ้านของผม บ้านที่เต็มไปด้วยรักและความอบอุ่น เต็มไปด้วยความทรงจำทั้งดีและร้าย ผมอยากกลับมาอยู่บ้าน แต่มันคงเป็นเรื่องยาก ผมเดินไปกดกริ่ง ยืนรอให้คนในบ้านออกมาเปิดประตู ไม่นานก็มีผู้หญิงรูปร่างผอมเตี้ยวิ่งออกมา ผมยิ้ม จำได้ว่าเธอเป็นหลานสาวของคุณป้าแม่บ้าน

“มาหาใครคะ”

“จำผมไม่ได้เหรอ”

ผมถามกลับ ฉีกยิ้มกว้าง เธอมองหน้าผมนิ่งอยู่ครู่นึงก่อนยิ้มกว้างตอบกลับ รีบเปิดประตูเชื้อเชิญให้ผมเข้าไป

“เชิญค่ะ ทำไมคุณหนูไม่กลับบ้านบ้างเลยคะ ป้าบ่นคิดถึงคุณหนูทุกวันเลย”

“ต้าร์ก็มาแล้วนี่ไง คุณป้าอยู่ไหนเหรอฮะ”

“อยู่ในครัวค่ะ กำลังอบขนม”

ผมเดินขึ้นบันไดหน้าเทอร์เรส ก้าวแรกที่เหยียบเข้ามาในตัวบ้าน ก็รู้สึกได้ถึงบรรยากาศอบอุ่นโอบล้อมตัว ห้องรับแขกยังคงสภาพเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ดอกไม้ในแจกันบนโต๊ะก็ยังสดใหม่บอกถึงความใส่ใจของคนดูแลบ้านเป็นอย่างดี

“ต้าร์จะไปหาคุณป้าเอง มีงานอะไรก็ไปทำเถอะฮะ”

“ค่ะ”

ผมมองตามหลังร่างเล็กเดินขึ้นบันไดไปชั้นบน คาดว่าคงขึ้นไปทำความสะอาด ผมเดินไปวางกระเป๋าเป้กับหนังสือไว้บนโซฟาบุหนัง เดินตรงไปห้องครัว ได้ยินเสียงคุณป้าแม่บ้านพูดคุยกับลูกมือถึงเรื่องอบขนม ผมแอบอยู่ข้างประตู โผล่หน้าเข้าไป เห็นคุณป้ากำลังก้มหน้าตั้งอกตั้งใจกับการนวดแป้งบนโต๊ะ ผมยิ้ม เอามือจุ๊ปากเมื่อลูกมือของท่านหันมาเห็นผมเข้า อีกฝ่ายอมยิ้มพยักหน้าเข้าใจ ผมค่อยๆเดินย่องเข้าไป

“ใครมาล่ะแก้ว”

ผมหยุดชะงักกับคำถามของคุณป้า ท่านคงนึกว่าผมเป็นหลานสาวท่าน ถามทั้งๆที่ยังก้มก้มหน้านวดแป้งอยู่ ผมวางมือไว้บนโต๊ะ ค่อยๆขยับเข้าไปใกล้

“ว่าไง ฉันถามว่าใครมา”

“ต้าร์เองครับผม”

ผมยิ้มกว้างตอบ ท่านเงยหน้าหันมามอง

“คุณหนูต้าร์ คุณหนูจริงๆด้วย”

ท่านยิ้ม มองผมตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ผมยกมือสวัสดี เข้าไปกอดท่านแน่นทีนึงก็ผละออกมา

“คุณป้าสบายดีนะฮะ ผมขอโทษที่ไม่ได้กลับมาบ้านตั้งนาน”

“ป้าสบายดีค่ะ ว่าแต่คุณหนูเถอะ ไปอยู่หอ ทำไมถึงได้ผอมขนาดนี้ล่ะคะ”

ผมยิ้มเจื่อน คุณป้าเข้าใจว่าผมออกไปอยู่หอใกล้มหา’ลัยเพื่อความสะดวกในการเดินทาง

“กับข้าวแถวหอไม่อร่อยเท่าฝีมือคุณป้านี่ฮะ ที่มหา’ลัยก็ไม่ถูกปาก”

“ไม่ต้องมายอป้าเลย คุณหนูล่ะก็ น่าตีนักเชียว”

ผมยิ้มกับท่าทีเขินอายของท่าน

“คุณหนูมาคนเดียวเหรอคะ แล้วคุณหนูเนสไม่ได้มาด้วยกันเหรอ”

“เอ่อ…พี่เนส พี่เนสติดงานน่ะฮะ มาไม่ได้”

ผมโกหก ไม่อยากให้คุณป้าสงสัย เพราะท่านก็เข้าใจเช่นเดียวกันว่าพี่เนสออกไปอยู่หอกับเพื่อน

“ความจริงแล้วคุณหนูไม่น่าออกไปอยู่หอกันเลยนะคะ บ้านตัวเองก็มี ป้าเป็นห่วง ยิ่งเห็นคุณหนูผอมแบบนี้ ป้ายิ่งไม่สบายใจ
กลับมาอยู่บ้านเถอะนะคะ”

ท่านมองผมด้วยสายตาห่วงใย ผมได้แต่ยิ้มบางๆ ไม่ได้เอ่ยตอบ จนท่านถอนใจคล้ายจะยอมแพ้

“ป้าเข้าใจค่ะ ว่าแต่คุณหนูมาเที่ยวนี้ จะนอนค้างใช่ไหมคะ ป้าจะได้สั่งให้เด็กไปจัดห้องไว้”

“ต้าร์ เอ่อ…”

“ค้างเถอะนะคะ คุณหนูไม่ได้กลับบ้านมาหลายเดือนแล้ว ป้าจำได้ ครั้งล่าสุดที่คุณหนูกลับมาก็เมื่อสามเดือนก่อน”

ฟังท่านพูด ผมก็ยิ่งรู้สึกผิดที่ทำให้ท่านต้องเป็นห่วงกังวล

“ก็ได้ฮะ แต่ผมขอนอนห้องคุณพ่อคุณแม่นะ”

“งั้นคุณหนูออกไปรอป้าที่ห้องนั่งเล่นก่อนนะคะ อบขนมเสร็จแล้ว ป้าจะเอาไปให้ทาน แล้วเดี๋ยวป้าจะทำสปาเก็ตตี้ครีมซอสของโปรดคุณหนู”

“ขอบคุณครับ คุณป้าน่ารักที่สุดเลย”

ผมยิ้มบอก หันหลังเดินออกจากห้องครัว คุณป้าดูดีใจมากที่ผมตอบตกลงนอนค้าง รู้ว่าสิ่งที่ทำลงไปในวันนี้ ไม่ได้ส่งผลดีต่อตัวเอง แต่พอได้มายืนอยู่ตรงนี้ ในบ้านของผม ได้เจอคนที่ผมรักและท่านก็รักผมอย่างจริงใจ ผมก็ไม่อาจปฏิเสธความห่วงใยของท่านได้ แม้ว่าผลที่ตามมาจะเป็นเช่นไร ก็ช่างมันเถอะ

ผมเดินเข้ามาในห้องนั่งเล่น เฟอร์นิเจอร์ภายในห้องยังคงสภาพเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ทำให้ผมหวนคิดถึงบรรยากาศเก่าๆ เวลาที่มีกิจกรรมในครอบครัว เรามักจะใช้เวลาอยู่ด้วยกันในห้องนี้ ดูนั่ง ฟังเพลง หรือแม้แต่เล่นเกมส์ ถ้าทำได้ ผมอยากย้อนเวลากลับไป ผมนั่งบนพื้นเอนหลังพิงโซฟาข้างหลัง มองไปรอบๆห้อง ถ้าเป็นเมื่อก่อน หลังเลิกเรียน ผมจะรีบตรงมาที่ห้องนี้เพื่อมานั่งเล่นเกมส์ ส่วนพี่เนสก็จะตามมาบ่นแต่ก็มานั่งเล่นเป็นเพื่อนผม คุณแม่ก็ชอบทำขนมมาเสิร์ฟ คุณพ่อก็เข้ามานั่งทานพลางดูทีวีวิพากษ์วิจารณ์รายการข่าวไปด้วย ผมยิ้มเมื่อภาพความทรงจำในอดีตหลั่งไหลเข้ามาในหัวเป็นฉากๆ ทั้งรอยยิ้ม ทั้งเสียงหัวเราะของคนที่ผมรัก

“ขนมกับนมสดเย็นๆมาเสริฟแล้วค่ะ”

เสียงคุณป้ามาพร้อมกับกลิ่นหอมของขนม ผมยิ้มกว้าง ตาโตกับบรรดามัฟฟินหลากหลายรส และมีขนมปังปิ้งทาเนยราดน้ำตาลกับนมข้นหวานอีก มีแต่ของโปรดผมทั้งนั้นเลย

“ทานเยอะๆนะคะ ยังมีครัวซองต์อีก แต่กำลังอบอยู่”

“โห เยอะขนาดนี้ผมจะทานหมดได้ยังไงล่ะฮะ”

ผมบอก แต่ก็ยื่นมือไปหยิบซ้อมจิ้มขนมปังเข้าปากเคี้ยวตุ้ยๆตามด้วยมัฟฟิน

“ทานไปนะคะ เดี๋ยวป้าจะออกไปตลาด ไปซื้อของมาทำสปาเก็ตตี้ให้คุณหนู ต้องการอะไรก็เรียกเด็กรับใช้นะคะ”

“ครับผม”

ผมบอกทั้งๆที่ขนมเต็มปาก คุณป้ายิ้มก่อนเดินออกไป ฝีมือท่านยังอร่อยเหมือนเดิม สมกับที่เป็นคุณครูสอนทำอาหารกับขนมให้คุณแม่ ผมนั่งทานไปเรื่อยๆจนขนมปังหมดไป เหลือมัฟฟินอยู่สามชิ้น ผมดูดนมสดจนหมดแก้ว เอามือลูบท้อง อิ่มสุดๆ

“รับขนมเพิ่มไหมคะคุณหนู”

ผมหันไปมองตามเสียง หลานสาวคุณป้าเดินเข้ามานั่งคุกเข่าลงข้างๆผม

“ไม่ฮะ อิ่มมากเลย”

ผมยิ้มตอบ ไม่ได้ทานขนมอย่างมีความสุขเต็มอิ่มแบบนี้มานานมากแล้ว

“แก้วจัดห้องคุณท่านไว้ให้คุณหนูเรียบร้อยแล้วนะคะ”

“ขอบคุณครับ ถ้าคุณป้ามา บอกว่าผมขึ้นไปพักผ่อนบนห้องนะฮะ”

ผมบอก ลุกขึ้นยืน แก้วหลีกทางให้ ผมเดินออกจากห้องนั่งเล่น ตรงไปหยิบกระเป๋ากับหนังสือที่วางทิ้งไว้ก่อนหน้านี้หอบขึ้นบันไดไปด้วย ผมเลือกที่จะเดินผ่านห้องตัวเองไปหยุดอยู่หน้าห้องพี่เนส เปิดประตูเข้าไป สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของพี่เนส ภายในห้องยังคงไว้ซึ่งเฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้น มีแต่ของคลาสสิคราคาแพงที่พี่เนสชอบซื้อเก็บสะสม ตู้โชว์โมเดลรถยนต์รุ่นต่างๆ แผ่นเสียง แผ่นหนัง และอุปกรณ์ชุดเพ้นท์บอลครบเซ็ท ผมเดินเข้าไปหยิบกรอบรูปบนโต๊ะข้างหัวเตียง รูปถ่ายของผมกับพี่เนสสมัยที่ผมยังเรียนมัธยมต้น พี่เนสเรียนอยู่มัธยมปลาย ในรูปพี่เนสยิ้มกว้างกอดคอผม ในขณะที่ผมหน้าบึ้งเพราะถูกพี่เนสแกล้งเอาสีผสมอาหารทาหน้า ผมวางกรอบรูปไว้ที่เดิม มองไปรอบๆก่อนเดินออกจากห้อง ผมเดินผ่านหน้าห้องตัวเองอีกครั้ง ตรงไปห้องพระที่อยู่อีกฝากนึง ผมวางของไว้บนโต๊ะตั้งแจกันดอกไม้ เดินไปนั่งคุกเข่าอยู่หน้าพระพุทธรูป ก้มกราบ ถัดจากฐานที่ตั้งวางพระพุทธรูปคืออัฐิของคุณพ่อคุณแม่ ตั้งอยู่คู่กัน ผมก้มกราบพวกท่าน

“ผมกลับมาแล้วครับ ไม่ได้มากราบคุณพ่อคุณแม่นานเลย ขอโทษนะฮะ”

ผมมองอัฐินิ่งนาน คิดถึงอ้อมกอดอุ่นๆของพวกท่าน

“ผมใกล้จะขึ้นปี2แล้วนะครับ เมื่อวานก็เพิ่งสอบเก็บคะแนน อีกเดี๋ยวก็สอบไฟนอลแล้ว ผมสัญญา ผมจะตั้งใจสอบ คุณพ่อคุณแม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ”

ผมยิ้ม เล่าเรื่องของตัวเองให้พวกท่านฟัง แม้จะรู้ว่าพวกท่านไม่ได้อยู่กับผมแล้วก็ตาม ถ้าอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อ5ปีก่อนไม่ได้พรากพวกท่านไปจากผม ตอนนี้ครอบครัวของเราคงได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันอย่างมีความสุข

“ผมคิดถึงคุณพ่อคุณแม่นะครับ คิดถึงบ้านของเราด้วย แต่ตอนนี้ผมชักจะง่วงแล้ว เมื่อกี้ทานขนมเยอะไปหน่อย ขอตัวไปงีบก่อนนะครับ”

ผมก้มกราบพวกท่านอีกครั้ง ลุกขึ้นเดินไปหยิบของ เดินออกจากห้องพระ ทันทีที่ปิดประตู น้ำตาก็ไหลออกมา ผมไม่อยากอ่อนแอ ไม่อยากร้องไห้ แต่พอคิดว่าชีวิตผมไม่เหลือใคร พ่อแม่ก็ทิ้งผมไป พี่ชายคนเดียวก็ไม่ได้อยู่ด้วยกัน เหมือนผมอยู่ตัวคนเดียว มันเจ็บปวดจนทรมาน ผมไม่อยากเป็นแบบนี้ ผมส่ายหน้า ยกมือขึ้นเช็ดน้ำตารีบเดินไปห้องคุณพ่อคุณแม่ พอเปิดประตูเข้ามา สิ่งแรกที่ผมเห็นคือกรอบรูปขนาดใหญ่ติดอยู่บนผนังห้อง เป็นรูปในวันแต่งงานของพวกท่าน ผมเดินเข้ามาวางกระเป๋ากับหนังสือไว้บนโต๊ะทำงานของคุณพ่อ เดินไปทิ้งตัวลงนอนคว่ำบนเตียงกว้าง ปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาอีกครั้ง

“ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมร้องไห้ ครั้งสุดท้ายจริงๆครับ ผมสัญญา”



แรงยวบไหวของที่นอนปลุกให้ผมลืมตาตื่น ใบหน้าหล่อเหล่าดุดันปรากฏอยู่ตรงหน้า ผมค่อยๆยันตัวลุกขึ้น ร่างสูงของอีกคนยืนกอดอกพิงกรอบประตูอยู่ ผมก้มหน้างุดหลบสายตาพวกเขา ไม่ได้ตกใจที่เจอพวกเขาที่นี่ เพราะรู้อยู่แล้วว่าสุดท้ายพวกเขาก็ต้องตามหาผมจนเจอ อยู่ที่ว่าจะเจอช้าหรือเร็วเท่านั้น พวกเขารู้ ว่าผมหนีไปไหนไม่ได้อยู่แล้ว นอกจากบ้านตัวเอง แต่นี่เป็นครั้งแรก ที่ผมกล้าฝ่าฝืนคำสั่งของพวกเขา ผมหนีกลับบ้านมาเอง แถมยังโกหกลูกน้องของพวกเขาอีก

“กล้าหนี”

เสียงเข้มมาพร้อมกับแรงบีบที่ปลายคางเชยหน้าผมขึ้นให้เงยมองสบนัยน์ตาสีเฮเซลคู่คมของเขา ผมนิ่วหน้า เขาผ่อนแรงลงแต่ยังไม่ปล่อยมือออก

“ขอโทษครับ ผม…”

“กล้าโกหก”

เขาเอ่ยสวนเร็ว ผมเงียบ มองสบตาคมนิ่งงัน

“กลับ”

คนยืนเอ่ยสั่ง เขาเดินออกจากห้องไปก่อน มือใหญ่ที่จับคางผมผละห่างออกไป เขาลงจากเตียง ยืนมองผมอย่างจะออกคำสั่งทางสายตาให้ผมตามเขาไป พอขาผมแตะพื้น เขาก็ดึงแขนผมให้เดินตามเขา ผมเม้มปากแน่น ในหัวคิดหาวิธีให้พวกเขายอมให้ผมค้างที่นี่ เพราะผมรับปากกับคุณป้าไว้แล้ว ผมไม่อยากผิดคำพูด

“พี่ควิน”

ผมเรียก แต่เขาไม่หยุดเดิน ผมตัดสินใจ เป็นฝ่ายหยุดเดินเสียเอง พอผมหยุด คนข้างหน้าก็หยุดตามไปด้วย ในจังหวะที่เขากำลังจะหันกลับมา ผมก็โถมตัวเข้ากอดเขาไว้ ซบหน้ากับแผ่นหลังกว้าง

“ผมขอโทษ อย่าโกรธเลยนะฮะ ผมผิดไปแล้ว ต่อไปจะไม่ทำอีก ยกโทษให้ผมนะครับ”

ผมบอกเสียงอ่อน กระชับอ้อมกอดแน่นขึ้น เขาเงียบ ไม่เอ่ยตอบ ผมปล่อยมือเดินไปดักหน้าเขาไว้ จับมือเขามาแนบแก้ม มองเขาด้วยสายตาอ้อนวอน

“ยกโทษให้ผมนะครับ”

ผมยิ้ม จับมือเขาลูบแก้มไปมา เขายังมองผมนิ่ง ไม่ขยับ ไม่พูดอะไร

“ยังโกรธอยู่เหรอฮะ”

เขาชักมือกลับไป ผมหน้าเสีย แต่จู่ๆเขาก็เข้าชาร์ต ดันจนผมก้าวถอยหลังติดผนังห้อง กำลังจะอ้าปากเรียกเขา ก็ถูกจู่โจมอย่างรวดเร็ว ไม่ทันให้ผมได้ตั้งตัว เขากระแทกจูบลงมา บดเบียดจนผมรู้สึกเจ็บปาก เสียงประตูเปิด พี่แซทคงเดินเข้ามา แต่คนรุกเร้าผมอยู่ไม่สนใจ เขายังคงจูบผมต่อไป จนผมรู้สึกเหมือนจะขาดอากาศหายใจส่งเสียงครางอื้ออึ้งประท้วง เขาถึงได้ผละจูบให้ผมหอบเอาอากาศเข้าปอด

“มีอะไร”

ผมหันไปมองคนถาม พี่แซทยืนมองผมอยู่ ผมไม่ได้ตอบเขาเพราะยังหายใจหอบ

“อย่าให้มีคราวหน้า”

ผมยิ้ม คำพูดของพี่ควิน บอกให้รู้ว่าเขายกโทษให้ผมแล้ว ผมโผเข้ากอดเข้าอีกครั้ง ซุกหน้ากับอกกว้าง

“ขอบคุณนะฮะ”

“กลับได้รึยัง”

“ผมขอนอนค้างที่นี่สักคืนได้ไหมฮะ”

ผมผละออก หันไปมองพี่แซท คนใกล้ตัวดึงผมเข้าไปประชิดทันที เขาจับแขนผมแน่น

“ได้คืบจะเอาศอก”

 “ผมรับปากคุณป้าไว้ว่าจะนอนค้าง”

ผมบอกเสียงเบา

“แล้วยังไง”

พี่แซทพูดขึ้น เขาเดินเข้ามาใกล้ผม

“ผม…อยากนอนที่นี่ ไม่ได้กลับบ้านมานานแล้ว ให้ผมค้างนะฮะ พวกพี่ก็นอนค้างกับผมด้วย แค่คืนเดียว พรุ่งนี้ก็กลับคอนโด”

ผมมองหน้าพวกเขาสลับกันไปมา ยื่นมืออีกข้างไปกระตุกเสื้อพี่แซท

“นะครับ นอนค้างสักคืน แค่คืนเดียวเอง”

ผมเอนตัวซบพี่ควิน หันไปมองหน้าพี่แซท ยิ้มให้ มือก็กระตุกเสื้อเขาไปด้วย แต่ก็ไม่มีปฏิกิริยาตอบกลับจากพวกเขา ผมถอนหายใจ

“คุณป้าจะทำสปาเก็ตตี้ครีมซอสของโปรดผมด้วย ท่านตั้งใจทำให้ผมทาน ถ้าไม่ให้ผมค้าง ก็ขอให้ผมได้ทานฝีมือท่านก่อนกลับนะฮะ”

ผมผละออก ปล่อยมือ ยืนก้มหน้างุดมองพื้นปาร์เก้ พี่ควินปล่อยแขนผม แต่ผมก็ยังก้มหน้าอยู่อย่างนั้น ทำไมพวกเขายังเฉย หรือว่าวิธีของผม มันใช้ไม่ได้ผล

“แค่คืนเดียว”

ผมยิ้ม เงยหน้าขึ้นมองคนพูด ขยับไปเกาะแขนพี่แซท

“ขอบคุณครับ”

พี่ควินจับมือผมจูงให้เดินไปที่เตียง เขาดันให้ผมนั่งลง ผมมองเขา งุนงงระคนสงสัย เขาจะทำอะไร?

เขาค่อยๆพับแขนเสื้อให้ผม ผมยังมองเขาด้วยความสงสัย จนเขาพับขึ้นถึงข้อศอก ผมถึงเข้าใจเจตนารมณ์ของเขา รอยนิ้วมือแดงเป็นริ้วบนแขนผม ถ้าผิวไม่ขาวซีดมันก็คงไม่เห็นเด่นชัดขนาดนี้ แต่ผมไม่ได้รู้สึกเจ็บตอนที่เขาจับ

“ไม่เป็นไรหรอกฮะ ผมไม่เจ็บ”

ผมยิ้มบอก แต่เขากลับขึงตาดุใส่ ผมพูดอะไรผิดเหรอ ก็ผมไม่เจ็บจริงๆนี่นา

“ยาอยู่ไหน”

ถ้าผมยังดึงดันบอกว่าไม่เป็นไรอีก เขาคงได้ทำผมเจ็บจริงๆแน่ ทางที่ดีคือ อย่าไปขัดใจเขา

“ลงไปขอกับคุณป้าก็ได้ครับ จะได้ทานสปาเก็ตตี้ด้วย ป่านนี้คุณป้าคงทำเสร็จแล้ว”

เขาไม่พูดอะไร จับมือผมฉุดให้ลุกขึ้น

“อย่าคิดว่าให้ค้าง แล้วกูจะลืมเรื่องที่มึงโกหกแล้วหนีกลับมา”

พี่แซทบอกเสียงแข็งก่อนเดินออกจากห้องไป ทิ้งให้ผมใจหายกับคำพูดกึ่งข่มขู่ของเขา ผมกระตุกมือพี่ควิน มองเขาหน้าเศร้า

“ยังไม่ยกโทษให้ผมเหรอ”

“กูพูดเหรอ ว่ายกโทษให้มึงแล้ว”

ผมเม้มปากแน่นกับน้ำเสียงเย็นชา เหมือนคนไร้หัวใจ พยายามดึงมือกลับ แต่เขากลับกระชับแน่นดึงให้ผมเดินตามเขาออกไป จนลงมาข้างล่าง เดินเข้าห้องอาหาร คุณป้าหันมายิ้มให้ผม

“ตื่นแล้วเหรอคะคุณหนู ป้าขึ้นไปเห็นคุณหนูยังหลับอยู่เลยไม่กล้าปลุก พอดีคุณควินกับคุณแซทมา เลยอาสาขึ้นไปปลุกให้ เห็นบอกคุณหนูต้องทานข้าวให้ตรงเวลา”

โกหกได้แม้กระทั่งคนสูงวัย พวกเขาไม่รู้สึกผิดบาปบ้างรึไง

“ดีนะคะ มีคุณควินกับคุณแซทคอยดูแล ถ้าคุณหนูเนสไม่ย้ายที่เรียน ก็คงไม่ต้องรบกวนคุณสองคน”

พี่ควินดึงให้ผมนั่งลงข้างๆเขา ในขณะที่พี่แซทนั่งรออยู่ฝั่งตรงข้ามแล้ว ผมรีบดึงมือกลับตอนที่คุณป้าตักสปาเก็ตตี้ใส่จานให้ ไม่อยากให้ท่านสงสัยในความสัมพันธ์ของพวกเรา ผมไม่รู้ว่าพวกเขาพูดโกหกให้คุณป้าหลงเชื่อเรื่องไหนไปบ้าง แต่เท่าที่ฟังคุณป้าพูด พวกเขาคงกล่อมคุณป้าให้คล้อยตามได้สำเร็จ

“คุณหนูนะคุณหนู ป่วยแล้วยังหนีกลับบ้านอีก น่าตีนักเชียว รอให้หายดีก่อนค่อยมาก็ได้นี่คะ ป้าเป็นห่วง นี่ถ้าคุณควินคุณแซทไม่บอก ป้าก็คงไม่รู้”

ที่ผมป่วยก็ไม่ใช่เพราะพวกเขารึไง ผมกำมือแน่น ความอยากทานมลายหายไป ทำไมพวกเขายังนั่งนิ่งอยู่ได้ ทั้งๆที่พวกเขาเป็นคนโกหกหลอกลวงแท้ๆ

“ทานให้หมดนะคะคุณหนู ป้าทำสุดฝีมือเลย ทานเสร็จแล้วจะได้ทานยา ป้าเตรียมไว้ให้แล้ว”

“ขอยาทาแก้ฟกช้ำด้วยนะครับ พอดีว่าต้าร์เขาซุ่มซ่ามไปหน่อย”

ผมมองคนข้างตัว เขายิ้มให้คุณป้าแล้วหันมายิ้มให้ผม วางมือบนศีรษะลูบเบาๆเหมือนว่าเขาเอ็นดูผมมาก ถ้าเป็นคนอื่น คงคิดว่าเป็นรอยยิ้มที่อบอุ่นอ่อนโยน แต่สำหรับผม เป็นรอยยิ้มเคลือบยาพิษชัดๆ

“อย่างนี้ล่ะค่ะ ตอนเด็กๆก็ชอบเล่นซนให้ได้แผลอยู่เรื่อย ยังไงป้าก็ขอฝากคุณหนูต้าร์ด้วยนะคะ เรียนอยู่มหาวิทยาลัยเดียวกัน อยู่หอเดียวกัน ก็ช่วยๆดูแลด้วย ถ้าเป็นไปได้ป้าก็อยากให้คุณหนูย้ายกลับมาอยู่บ้าน จะได้ดูแลได้เต็มที่ บอกตามตรงนะค่ะ เห็นคุณหนูผอมแบบนี้ ป้าไม่สบายใจเลย”

“ไม่ต้องห่วงหรอกครับ ผมสองคนจะดูแลต้าร์แทนคุณป้ากับเนสเอง เรื่องย้ายกลับมาอยู่บ้าน คงไม่ได้ เพราะที่หออยู่ใกล้มหา’ลัยมากกว่า เดินทางสะดวก คุณป้าวางใจเถอะครับ ผมจะกำชับเรื่องอาหารให้ต้าร์เขาทานเยอะๆ”

ผมมองพี่แซทร่ายคำพูดกล่อมคุณป้าแล้วนึกอยากจะมอบโล่ให้เขาจริงๆ ทำไมพวกเขาถึงได้สวมหน้ากากได้แนบเนียนขนาดนี้
“ได้ยินอย่างนี้ป้าก็เบาใจค่ะ คุณหนูทานให้หมดนะคะ เดี๋ยวป้าไปหยิบยามาให้”

ผมพยักหน้ารับคำ คุณป้ายิ้มให้ก่อนเดินออกไป ผมลงมือทานท่ามกลางความเงียบที่น่าอึดอัด เพราะเหมือนพวกเขาจะแผ่รังสีกดดันพุ่งตรงมาที่ผมมากขึ้นเรื่อยๆ

“ถ้ายังกล้าหนีมาอีก อย่าหาว่าไม่เตือน”

คำพูดลอยๆมาจากคนฝั่งตรงข้าม ผมไม่ได้เงยหน้ามองเขา ตั้งใจทานต่อไป แม้อยากจะลุกหนีออกไป แต่ผมกลัวคุณป้าจะเสียใจ ถ้าผมทานไม่หมด

“แล้วอย่าโกหกอีก ถ้ามีครั้งหน้า เจ็บตัวแน่”

คนข้างตัวผมพูดต่อ จะพลัดกันข่มขู่ผมไปถึงไหน ผมรีบทาน ไม่สนใจพวกเขา คิดแค่ว่าต้องทานให้หมดจะได้ขึ้นไปข้างบนสักที
“อร่อยไหมคะ คุณควินคุณแซท ตักเพิ่มได้นะคะ”

คุณป้าเดินเข้ามา ทานส่งหลอดยาให้พี่ควินที่ยื่นมือออกไปรับ ผมวางช้อนกับซ้อมเมื่อทานหมดแล้ว หยิบแก้วน้ำขึ้นดื่ม คุณป้าเดินมาหาผม

“อิ่มแล้วเหรอคะคุณหนู”

“ครับ ผมปวดหัว อยากขึ้นไปพักผ่อน”

“งั้นทานยานะคะ ป้าจะพาขึ้นห้อง”

“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวพวกผมดูแลต้าร์เอง คุณป้าไม่ต้องห่วงนะครับ”

พี่ควินพูดขึ้น เขายกถาดยาที่คุณป้าเตรียมไว้มาวางตรงหน้าผม จัดการให้ผมทานยา ผมมองหน้าคุณป้า ท่านยืนส่งยิ้มให้ผม สายตาของท่านคล้ายจะชื่นชมพวกเขาสองคนที่ดูแลห่วงใยผมเป็นอย่างดี

“พาคุณหนูขึ้นไปพักเถอะค่ะ ทางนี้ป้าจัดการเอง ส่วนเรื่องที่พัก ป้าให้เด็กขึ้นไปจัดห้องรับรองไว้ให้คุณควินกับคุณแซทแล้ว พักผ่อนตามสบายนะคะ ขาดเหลืออะไรก็สั่งเด็กรับใช้ได้เลย”

“ขอบคุณครับ”

พวกเขาพยักหน้าขอบคุณคุณป้า ทั้งสีหน้าและรอยยิ้ม แนบเนียนไม่แพ้นักแสดงมืออาชีพ ผมลุกขึ้น พี่ควินรีบจับมือผมทันที พี่แซทก็เดินเข้ามาประกบผมอีกทาง

“ไม่เป็นไรฮะ ผมเดินเองได้”

เหมือนคำพูดของผมเป็นเพียงอากาศธาตุสำหรับพวกเขา ผมถูกพี่ควินจูงมือเดินออกไป พี่แซทก็เดินตามหลังมา จนเดินขึ้นบันได มือที่ถูกจับอยู่ก็ผละออก ผมนึกโล่งใจที่เขาปล่อย แต่แป็ปเดียวเขาก็กลับมารวบเอวผมดึงประชิดตัว แม้จะรู้สึกอึดอัดแต่ผมก็เงียบ เดินต่อไป

“ผมนอนห้องคุณพ่อคุณแม่ครับ”

ผมบอกพี่ควินก่อนที่เขาจะพาเดินไปที่ห้องของผม

“ทำไม”

เขาถามกลับ เหมือนไม่พอใจ

“ผมแค่อยากนอนห้องคุณพ่อคุณแม่”

ผมตอบรวบรัด ที่นี่เป็นบ้านของผม ผมจะนอนห้องไหนมันก็เป็นเรื่องของผม พวกเขาไม่มีสิทธิ์มาบังคับ เป็นตายยังไงผมก็ไม่ยอมเข้าไปนอนห้องตัวเองเด็ดขาด!

“ปล่อยผมเถอะครับ ผมอยากพักแล้ว”

ผมขยับตัวให้เขาปล่อย แต่เขาก็ยังมองผมนิ่ง

“คิดจะทำอะไร”

“ครับ”

ผมขมวดคิ้วกับคำถามแปลกๆของเขา หันไปมองพี่แซทก็เห็นว่าเขายืนมองผมนิ่งเช่นเดียวกับพี่ควิน พวกเขาเป็นอะไร?

“ทายา”

เขาปล่อยผม ส่งหลอดยาให้ พอผมรับมา เขาก็รีบเดินตรงไปที่ห้องรับรอง

“อย่าทำอีก”

ผมมองตามหลังพี่แซท จนร่างสูงเดินหายเข้าไปในห้องรับรองซึ่งอยู่ติดกับห้องรับรองอีกห้องนึง ผมเดินเข้าห้องคุณพ่อคุณแม่ ล้มตัวลงนอน ยกมือก่ายหน้าผากขึ้นคิดทบทวนคำพูดของพวกเขา จริงสิ ตอนที่นั่งแท็กซี่ พี่ควินโทรมาหาผม แต่ผมไม่ได้รับ จนมาถึงบ้านผมก็ไม่ได้ยินเสียงโทรศัพท์อีกเลย ผมลงจากเตียงเดินไปโต๊ะทำงานคุณพ่อเปิดกระเป๋าเป้ล้วงเอาโทรศัพท์ ปรากฏว่าแบตฯหมด มิน่าล่ะ ผมวางโทรศัพท์ไว้ในกระเป๋าตามเดิม ยื่นมือไปยกหูโทรศัพท์บ้านกดเบอร์เพื่อนสนิท ฟังเสียงสัญญาณไม่นานเขาก็รับสาย

“ฮัลโหลเฟียซ”

“ต้าร์ มึงหายไปไหน กูโทรหามึงเป็นร้อยๆรอบ ตอนนี้มึงอยู่ไหน ห๊ะ! มึงรู้ไหม ไอ้สองตัวเหี้ยนั่นมาหาเรื่องกู หาว่ากูพามึงหนี”

ผมขมวดคิ้วยุ่งกับคำพูดของเฟียซที่ดูใส่อารมณ์จนผมเดาสีหน้าท่าทางของเขาได้

“ต้าร์ มึงยังอยู่ไหมเนี่ย ได้ยินที่กูพูดไหม”

“ได้ยิน แล้วพวกเขาทำอะไรเฟียซรึเปล่า”

บ้าจริง! เฟียซเพิ่งเจ็บตัวมายังไม่หายดีเลย ผมหาเรื่องให้เขาอีกแล้ว

“ไม่ได้ทำ แค่เกือบ กูบอกพวกมันว่าแยกกับมึงหน้าคณะ แล้วตอนนี้มึงอยู่ไหน”

ผมถอนหายใจ โล่งอกที่เฟียซไม่เป็นไร

“อยู่บ้าน”

“บ้านเหรอ”

“อืม”

เฟียซเงียบไป สักพักเขาก็หัวเราะ

“มึงหนีพวกมันกลับบ้าน ฮ่าๆๆ ไอ้เหี้ย กูเข้าใจแล้ว”

“เข้าใจอะไร”

ผมยิ้ม แกล้งถามเฟียซ

“ขำวะ มึงน่าจะมาเห็นหน้าพวกมันตอนที่ตามหามึงไม่เจอ คนทั้งมหา’ลัยแมร่งแตกตื่นกันใหญ่ คงคิดว่าพวกมันเมายา ฮ่าๆๆ”

“พวกเขาอาละวาดหนักเลยเหรอ”

“เออดิ พอหาเรื่องกูเสร็จ ก็หันไปเล่นงานลูกน้องตัวเอง ใส่ไอ้นั่นใหญ่ว่ามีหัวตั้งบ่าไว้เฉยๆ ปล่อยให้มึงหลอกได้ ถ้ากูไม่บอกพวกมันว่าถ้ากูพามึงหนีไปจริง กูจะมายืนให้มันหาเรื่องอยู่อย่างนี้ทำไม พวกมันก็คงไม่ได้สติ เออ…แล้วพวกมันตามหามึงเจอยังเนี่ย ถ้ายังกูจะพามึงหนีไปจริงๆ ฮ่าๆๆ”

เฟียซบอกกลั้วหัวเราะ ดูเขาจะถูกใจมากกับเรื่องที่เล่า

“เจอแล้ว ต้าร์ก็แค่คิดถึงบ้าน ไม่ได้กลับมานาน”

“แล้วทำไมไม่บอกวะ กูจะได้พามึงกลับ เห็นกูเป็นเพื่อนป่ะเนี่ย”

เฟียซสะบัดเสียงใส่ ผมยิ้ม

“ไม่อยากให้เดือดร้อนไปด้วย อย่างอนเลยนะ ขี้เกียจง้อ”

“ไม่ต้องมาง้อกู”

ผมหัวเราะ

“แล้วพวกมันทำอะไรมึงรึเปล่า”

เขาทอดเสียงอ่อนลง ผมรับรู้ถึงความห่วงใยแทรกซึมมากับคำถามของเขา

“ไม่ พวกเขาแค่ขู่เฉยๆ”

“ถ้าพวกมันทำร้ายมึงอีก มึงต้องบอกกูนะ อย่าให้กูมารู้ทีหลัง ถ้ายังเห็นว่ากูเป็นเพื่อนมึงอยู่”

“อืม”

“เออ ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว งั้นแค่นี้ ขี้เกียจคุย”

แล้วที่พูดๆมาเนี่ย มันอะไร ผมส่ายหน้าขำเพื่อน

“ฝันดี”

“เออ เหมือนกัน”

ผมวางโทรศัพท์เมื่อเฟียซตัดสาย เดินกลับไปนอนกลิ้งบนเตียงกว้าง ไม่คิดว่าแค่ผมหนีกลับบ้าน จะทำให้พวกเขาร้อนใจอาละวาดได้ขนาดนี้ ผมยิ้มเมื่อคิดถึงคำขู่ของพวกเขา



ผมคงไม่เอาแต่ใจไปใช่ไหม ถ้าจะบอกว่า เล่นไล่จับแค่นี้ ยังไม่สนุกเท่าไหร่เลย








---------------------------------------------------------------------------------

ยาวมหาศาลอีกแล้วค่ะ  :a5: ขอบคุณที่ยังติดตามอ่านกันอยู่  :L1:

ช่วงนี้บอลยูโร คนแต่งดูบอลทุกคืน นอนดึกตื่นเที่ยง  :t3:

เลยพาลขี้เกียจปั่นนิยาย  :laugh: ขอบคุณสำหรับคอมเม้นท์นะคะ  :-[
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-06-2012 23:28:12 โดย New-Y Holic »

ออฟไลน์ andear

  • ยาราไนก๊ะ ??
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 839
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-1
โอ้ น้องตาร์เริ่มดาร์กขึ้นเรื่อยๆ

mimirin

  • บุคคลทั่วไป
หรือนี่จะคือนิสัยที่แท้จริงของต้าร์

หงุดหงิดไอพี่สองคนนี้จริงๆ  เป็นหุ่นยนต์รึไง  คำพูดท่าทางยังกะถูกตั้งโปรแกรมไว้  จะซึนก็ให้มันน่ารักหน่อยเซ่

ออฟไลน์ -west-

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1875/-12
    • FACEBOOK PAGE
เอาเลยต้าร์
ชอบเด็กซน มีสีสัน   o13 o13 o13 o13

ออฟไลน์ taroni

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2366
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-27
น้องต้าร์แอบน่ากลัว  :a5:

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7579
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
เยอะๆเลยต้าร์มันถึงตาของเราแล้ว คืนนี้ละโอกาสเหมาะ

หนีอีกให้ไกล ไกลเท่าไหร่ได้ยิ่งดี

สร้างความกล้าให้ตัวเองนะต้าร์เราจะได้เข้มแข็ง

ใช่ว่าเราจะหนีความจิง แค่ไปหาที่ตั้งหลักเพื่อจะมาสู้กับมันใหม่ต่างหาก :mc4: :mc4:

wdaisuw

  • บุคคลทั่วไป
ตาร์เริ่มจับจุดสองคนนั้นได้
คงสนุกล่ะทีนี้ o18

ออฟไลน์ Lilyrum

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 247
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-2
น้องต้าร์อย่าไปเล่นกับพี่ๆเค้าให้มาก เดี๋ยวจะเจ็บตัวอีกนะลูก  :sad4:

ออฟไลน์ Guill

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 678
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
หนีให้ไกลเลยจ้า(สนับสนุน)

ออฟไลน์ gupalz

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +604/-20
ต้าร์ยังจะบอกอีกว่าหนีแค่นี้ยังไม่หนุก
คนอ่านหัวใจจะวายแทนหนูหมดแล้ว

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ BBSS

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 204
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-0
 :o ง่ะ ตาร์โหมดดากร์

แต่เค้าชอบ :oo1: เอาสองคนนั้นให้หัวปั่นไปเลยนะต้าร์

ออฟไลน์ PaYtaI123

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 70
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ต้าร์ร้ายขึ้นเยอะเลยนะ ติดมาจากสองคนนั้นแน่เลย  o22

ออฟไลน์ charapin

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 161
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
นึกว่าพี่สองคนจะสอนน้องด้วยภาษากายซะอีก  แอร๊ยยยยยยยยยยยยยยยย

maii

  • บุคคลทั่วไป

シカちゃん

  • บุคคลทั่วไป
มาใหม่จ้ะ  o18
อ่านตอนแรกแล้วถึงกับนั่งบ่น สุดยอดแห่งความโหดร้าย
แต่พออ่านถึงตอนนี้ "เราเจอผู้ร้ายตัวจริงแล้ว"   :a5:
น้องต้าร์ร้ายที่สุดอะ  o22
มาเป็นกำลังใจให้คนอ่านนะค่ะ
สองหนุ่มซึนอย่าปากแข็งให้มากนักเลย เดี๋ยวน้องต้าร์ช้ำหมด พาลหนีละหาไม่เจอจะซวย  :z2: :z2:

ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5
นึกว่าจะมี NC ลงโทษนายเอกจอมดื้อนะเนี่ย  :laugh3:

ออฟไลน์ BitterSweet~

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 788
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-0
เอาเลยตาร์
ปั่นหัวมันให้สนุก

ออฟไลน์ NOoTuNE

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +317/-15
ห่วงน้องก็ห่วง แต่พูดบอกกลับแสดงอีกแบบ


 :z3: :z3: :z3: :z3: มันเกิดอะไรกันขึ้นกับพวกนี้


แต่รู้สึกสะใจ ที่ทำให้อิพวกนี้อาละวาดซะมหา'ลัยเกือบแตก 555555555  :jul3:


น้องตาร์นู๋เริ่มดาร์กแล้ว แต่ค่อยๆนะลูก อย่าถี่มาก พี่ยังไม่อยากให้นู๋เจ็บตัว

ออฟไลน์ matame

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 707
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-1

ออฟไลน์ uknowvry

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-6

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด