HEARTBREAKER
24
ผู้ชายเป็นเพศที่แข็งแกร่ง มีพละกำลังมากกว่าผู้หญิง แต่ถ้าจะวัดกันที่ความอดทน ผมไม่กล้าฟันธงว่าผู้ชายจะทนได้มากว่าผู้หญิงหรือเปล่า เพราะขนาดผมเองยังไม่สามารถอดทนต่อแรงอารมณ์ของพวกเขาได้เลย ไม่ว่าจะผ่านกิจกรรมนั้นมากี่ครั้ง ผลของมันก็ทำให้ผมล้มได้ทุกที พวกเขาเป็นผู้ชายที่รูปร่างสูงใหญ่ แขนขาของพวกเขายาวและแข็งแกร่ง พละกำลังของพวกเขามีมากกว่าผม เพราะฉะนั้นไม่ต้องสงสัยเลยว่าเวลาที่พวกเขามีเซ็กซ์ คนที่ต้องรองรับอารมณ์ของพวกเขาอย่างผมจะมีสภาพยังไง ผมไข้ขึ้นตั้งแต่เมื่อคืน จนกระทั่งสายของวันนี้ผมก็ยังนอนซมอยู่บนเตียง มาทะเลทั้งทีแต่กลับต้องมานอนจมอยู่บนเตียง
ให้มันได้อย่างนี้สิ!
“กินข้าว จะได้กินยา”
ผมเบ้ปาก แค่ได้ยินคำว่ากินยาผมก็อยากหายตัวได้ เมื่อคืนก็กินไปแล้ว เมื่อเช้าก็เพิ่งกินไป แล้วตอนนี้ยังจะมาให้ผมกินอีก เห็นผมเป็นหนูทดลองยาหรือไง
“ผมไม่หิว”
ผมตอบไป ซุกหน้ากับหมอนนุ่ม นอนตะแคงหันหลังให้พวกเขา
“อย่าดื้อ”
เสียงเข้มดุ แต่ผมก็ยังนอนนิ่ง จนเตียงยวบลง แรงโอบรัดเอวตามมา ลมหายใจอุ่นๆรดอยู่ตรงผิวแก้ม พอผมหันหน้าไปมองจมูกโด่งก็กดลงบนแก้ม
“พี่ควิน”
ผมมองหน้าเขาอย่างแปลกใจ
“ลุกขึ้นกินข้าว จะได้กินยา หายไข้เมื่อไหร่จะพาลงทะเล”
น้ำเสียงทุ้มฟังดูอ่อนโยน ทำเลิกคิ้ว ปกติเขาจะพูดเสียงเรียบไม่ก็เข้มดุ แต่ทำไมวันนี้น้ำเสียงเปลี่ยนไป เหมือนเขากำลังพูดกล่อมให้ผมยอมกินข้าวแล้วจะได้กินยา หายไข้เมื่อไหร่จะพาไปเล่นน้ำทะเล
“หายเร็วก็ได้เล่นน้ำเร็ว”
จริงๆด้วย เขากำลังหว่านล้อมเกลี่ยกล่อมผม เห็นผมเป็นเด็กหรือไง ผมยิ้มขำ ขยับตัวลุกขึ้นโดยมีเขาช่วยประคอง ข้าวต้มปลาส่งกลิ่นหอมอยู่ในถ้วย ผมก้มหน้าเข้าไปใกล้
“กินให้หมด”
“ครับ”
ผมตอบ ยิ้มกว้างให้เขาก่อนจัดการข้าวต้มตรงหน้า ถ้าพ้นคืนนี้ไปผมก็คงหายเป็นปกติ แม้จะยังเจ็บสะโพกกับโคนขาอยู่บ้างแต่ก็คงลงไปเล่นน้ำได้ นานมากแล้วที่ผมไม่ได้มาเที่ยวทะเล พอได้มาทั้งทีก็อดตื้นเต้นไม่ได้ ผมชอบทะเล ชอบมองสีของน้ำและระลอกคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่ง ชอบมองท้องฟ้ากว้างใหญ่ ยิ่งถ้าชายหาดสวย บรรยากาศสดชื่นบริสุทธิ์ ผมก็ยิ่งชอบ ให้ผมนอนเล่นทั้งวันทั้งคืนยังได้เลย
“เรียบร้อยแล้วฮะ”
ผมบอกพลางผลักถาดออกห่างหลังจากกินยาเสร็จ ข้าวต้มปลาหมดเกลี้ยงเหลือแต่ถ้วยเปล่า
พี่ควินเลื่อนโต๊ะออกไป ก่อนจะหยิบทิชชู่มาเช็ดปากให้ ผมยิ้ม นั่งนิ่งให้เขาเช็ด ตาก็มองใบหน้าหล่อของเขา คิ้วเข้มพาดเหนือดวงตาคมกริบ นัยน์ตาสีเฮเซลราวกับมีแรงดึงดูดให้ทุกคนต้องจ้องมอง จมูกโด่งได้รูป รับกับริมฝีปากหยักลึก เขาหล่อจริงๆนั้นล่ะ หล่ออย่างที่สาวๆในมหา’ลัยพร่ำเพ้อ ทั้งสาวแท้สาวเทียมต่างก็พูดถึงพวกเขา
“นอนพัก”
ผมถอนสายตากลับมา ยิ้มเก้อที่เผลอตัวไปมองเขา
“ขอบคุณนะครับที่ดูแลผม”
ผมบอกเขาพอดีกับที่แซทเดินเข้ามา เรียวคิ้วเข้มขมวดมุ่นราวกับมีเรื่องกังวลใจ
“พี่แซทไปไหนมาฮะ”
ผมถาม เอียงคอมองเขาอย่างสงสัย
“วิ่งไล่เตะหมา”
คำตอบของเขาทำเอาผมงงหนักจนต้องหันหน้าไปมองพี่ควิน ‘วิ่งไล่เตะหมา’ เนี่ยนะ เชื่อเขาเลย มีเรื่องได้แม้กระทั่งกับหมา ผมเลิกสนใจ เอนตัวลงนอน พี่ควินจับผ้าห่มคลุมตัวให้ก่อนผละออกไปยืนนิ่งอยู่ข้างเตียง ผมยิ้มขอบคุณเขา
“หายเร็วๆ”
พี่แซทหันมาพูดกับผม นัยน์ตาคมจ้องหน้าผมเขม็งแต่มือที่ยื่นออกมาลูบแก้มกลับแผ่วเบา อ่อนโยน
“ครับ พรุ่งนี้หายแน่”
ผมตอบอย่างมั่นใจ จ้องตาเขา ริมฝีปากหยักลึกคล้ายจะยิ้ม คิ้วเข้มหายขมวดแล้ว พอพิศมองใบหน้าเขาก็ยิ่งตอกย้ำความด้อยของผม ทำไมพวกเขาถึงหล่อได้ขนาดนี้ ถ้าผมหล่อได้ครึ่งนึงของพวกเขาก็คงดี ถ้าผมหน้าไม่หวานก็คงไม่ถูกทักถูกล้อถูกมองว่าเป็นผู้หญิงมาตั้งแต่เด็ก
“พี่แซท”
ผมเรียกเขาเสียงเบา
“มีอะไร”
พอเขาถาม ผมกลับพูดไม่ออก ได้แต่ยิ้มบางก่อนส่ายหน้า จะให้ผมบอกได้ไงล่ะว่าผมอยากมีคิ้วเข้มๆแบบเขา อยากมีดวงตาคมกริบดูดุดันอย่างเขา อยากหล่อแบบพวกเขา ขืนพูดออกไปพวกเขาต้องหัวเราะเยาะผมแน่ ผมหลับตาขอให้ตัวเองหายไข้เร็วๆ พรุ่งนี้จะได้ลงไปเล่นน้ำสักที
************************************************
สิ่งที่ผมคาดการณ์ไว้กำลังถูกพวกเขาขัดขว้าง และพวกเขากำลังเล่นสงครามประสาทกับผม เนื่องด้วยอาการไข้ของผมหายแล้ว แต่อาการปวดของกล้ามเนื้อส่วนสะโพกและโคนขายังคงอยู่ พวกเขาเลยไม่ยอมให้ผมลงไปเล่นน้ำ แต่ผมประท้วงไม่ยอม พวกเขาเลยใช้ความเงียบเข้าข่ม แต่สายตาดุดันคมกริบทอประกายว่าถ้าผมยังดึงดันที่จะลงไปเล่นน้ำ พวกเขาจะใช้มาตรการขั้นเด็ดขาด ตอนนี้บรรยากาศภายในห้องจึงคุกรุ่นไปด้วยความเงียบที่เตรียมพร้อมระเบิดทุกเมื่อ หากว่าฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดหลุดเสียงออกมาก่อน ผมรู้ว่าตัวเองดื้อเพ่ง แต่พวกเขาก็ไม่มีสิทธิ์มาห้ามผมเหมือนกัน ในเมื่อพวกเขาได้สิ่งที่ต้องการจากตัวผมไปแล้ว ผมก็อยากได้สิ่งที่ต้องการของตัวเองเหมือนกัน
ยังไงวันนี้ผมก็จะลงไปเล่นน้ำให้ได้!
ทันทีที่ผมลุกขึ้นยืน พวกเขาก็หรี่ตามอง พอผมก้าวขา พวกเขาก็ขึงตาดุ ผมชักสนุกกับสงครามครั้งนี้แล้วสิ ผมก้าวขาอีกข้างแล้วหยุดดูปฏิกิริยาตอบกลับ พวกเขายังปิดปากเงียบหากแววตายังขึงดุอยู่เหมือนเดิม มาดวลกันสักตั้ง ดูสิว่าผมจะยั่วให้พวกเขาหลุดพูดออกมาได้หรือเปล่า ผมตัดสินใจเดินต่อ คราวนี้เดินมุ่งตรงไปที่ประตูห้อง ผมเดินผ่านหน้าพี่ควินที่ยืนพิงหลังกับผนังห้อง พอมาถึงหน้าประตูกำลังจะยื่นมือออกไปจับลูกบิด จู่ๆตัวผมก็ลอยหวือขึ้นเพราะพี่แซท แขนแข็งแกร่งโอบอุ้มผมขึ้น ใบหน้านิ่งขรึมไม่ได้ก้มลงมองผม เขาหมุนตัวเดินกลับไปวางผมลงบนเตียง ไม่มีคำพูดใดเล็ดรอดออกมา ผมก้มหน้าคิดหาวิธีให้พวกเขาหลุดมาดนิ่งขรึม ลอบยิ้มเมื่อคิดออก หมอนนุ่มใบใหญ่ถูกผมเขวี้ยงลงบนพื้นตามด้วยผ้าห่มนวม วิธีอาละวาดแบบเด็กๆ แต่เชื่อเถอะว่าพวกเขาต้องตกหลุมพรางผมแน่!
“หยุด”
ได้ผล ผมซ่อนรอยยิ้มสะใจกับชัยชนะ ปั้นหน้าบึ้งตึงใส่พี่แซทที่ขึงตาดุใส่ เขายื่นค้ำหัวผมอยู่ข้างเตียง แต่ผมไม่สนใจ พอเขวี้ยงหมอนกับผ้าห่มไปหมดแล้วผมก็หันมาดึงผ้าปูเตียง
“บอกให้หยุด”
เสียงเขาเข้มขึ้น แต่ผมไม่หยุด ดูเหมือนว่าพี่ควินจะปล่อยให้พี่แซทคุมผมอยู่คนเดียวราวกับเขากำลังรอดูผลงานว่าเพื่อนซี้จะเอาผมอยู่หรือเปล่า
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“บอสครับ”
เสียงเคาะประตูตามมาด้วยเสียงเรียกคุ้นหูหยุดผมที่กำลังอาละวาดได้ชะงัก ผมจำเสียงเรียกเมื่อกี้ได้ เสียงของบอดี้การ์ดพี่แซท อังเดรกับอะดอนิส เมื่อวานที่ผมถามเขาว่าไปไหนมา แล้วเขาตอบผมว่าวิ่งไล่เตะหมา หมาที่เขาว่าก็คืออังเดรกับอะดอนิสลูกน้องของเขานั่นแหละ รู้สึกว่าพวกเขาจะมาถึงที่นี่ตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว เพราะผมได้ยินเสียงพี่แซทด่าพวกเขาอยู่นอกห้อง ผมเดาว่าพ่อเลี้ยงพี่แซทคงส่งให้ลูกน้องมาตามอารักขาลูกชาย
ผมมองตามพี่ควินที่เดินไปเปิดประตู ร่างสูงใหญ่ราว2ฟุตยืนจังก้าอยู่หน้าประตูด้วยสีหน้าเรียบสนิท ฉับพลันความคิดก็แวบขึ้นมา ผมอาศัยจังหวะที่พี่แซทเผลอวิ่งพรวดออกไปที่หน้าประตู ชนไหล่พี่ควินซึ่งยืนหันหลังให้ พอเขาเสียหลักผมก็คว้ามือใหญ่ของบอดี้การ์ดร่างยักษ์ดึงให้วิ่งตามผมมา
“อังเดร ขอผมขี่หลังหน่อย”
ผมบอกรัวเร็ว ไม่รอฟังคำตอบก็กระโดดขึ้นหลังเขาเลย อังเดรที่ไม่ทันได้ตั้งตัวเสียหลัก เขาเซไปข้างหน้าเล็กน้อยแต่ก็ยังทรงตัวอยู่ได้
“พาผมไปที่ชายหาดหน่อย วิ่งเลยฮะ วิ่งเลย เร็วๆ”
ผมเร่งพลางบีบไหล่เขาด้วยเป็นการกระตุ้น
“แต่บอส…”
“ไม่ต้องห่วง ผมรับผิดชอบเอง พี่แซทไม่ว่าอะไรหรอก ไปเถอะฮะ เร็วๆเข้า”
พอผมให้คำยืนยัน อังเดรที่ตอนแรกทำท่าไม่เล่นด้วย(แต่ก็วิ่งตามแรงดึง)ก็พยักหน้าพาผมวิ่งลงบันได ผมหันไปมองข้างหลัง เห็นพี่แซทกับพี่ควินวิ่งตามมารั้งท้ายด้วยอะดอนิส ถึงตอนนี้แล้ว ผมกลั้นยิ้มไว้ไม่ได้อีกต่อไป
“อังเดร หยุดเดี๋ยวนี้!”
พี่แซทตะโกนสั่งไล่หลัง
“อย่าหยุดนะ วิ่งต่อไป”
ผมบอกข้างหูอังเดรพลางเกาะบ่าเขาไว้แน่นด้วยกลัวว่าจะตก ถึงแม้ว่าเขาจะแข็งแกร่งราวกับทหารที่ได้รับการฝึกมาอย่างดี แต่รูปร่างเขาสูงใหญ่มาตรฐานผู้ชายยุโรป หากเขาเกิดพลาดทำผมตกลงไป อาการปวดที่ยังไม่หายดีต้องเพิ่มระดับขึ้นแน่ ดีไม่ดีอาจถึงขั้นเดี้ยงเลยก็ได้
“จะไม่เป็นไรแน่เหรอครับคุณหนู”
อังเดรถามขึ้นทั้งที่พาผมวิ่งอยู่
“ไม่เป็นไร แค่อังเดรพาผมไปที่ชายหาดทุกอย่างก็จบ”
ผมยิ้มบอกก่อนหันไปแลบลิ้นให้พวกเขาที่วิ่งตามมา
“ไอ้อังเดร!”
เสียงตะโกนดังลั่น พอดีกับที่อังเดรพาผมวิ่งออกมาถึงหน้าเทอร์เรส รถBMWสีดำมันปลาบจอดอยู่เบื้องหน้าผม2คัน อังเดรไม่รอช้า เขาล้วงเอากุญแจรถแล้วกดรีโมทฯปลดล็อคก่อนพาผมพุ่งตัวออกไป พอเปิดประตูได้ผมก็กระโจนเข้าไปนั่งเบาะหลังปิดประตูอย่างเร็ว อังเดรเข้ามานั่งในตำแหน่งคนขับด้วยความว่องไวไม่แพ้กัน เขาสตาร์ทรถสับเกียร์แล้วเหยียบคันเร่งออกไปอย่างรวดเร็ว อังเดรให้ความร่วมมือกับผมอย่างดีเยี่ยมจริงๆ ให้มันได้อย่างนี้สิ!
“อังเดรไม่ได้เห็นหน้าพี่แซท เขาโมโหจนหน้าแดงไปหมด”
ผมบอกกลั้วหัวเราะ ชะโงกหน้าไปตรงกลางระหว่างเบาะตอนหน้า
“ทำแบบนี้ บอสต้องลงโทษผมหนักแน่ๆ”
“ไม่ต้องห่วงน่า บอกแล้วไงว่าผมรับผิดชอบเอง ผมจะไม่ให้พี่แซทลงโทษอังเดรแน่ เชื่อใจผมเถอะ”
ผมมองหน้าอังเดรพลางตบเข้าที่อกตัวเองอย่างจะให้เขาเชื่อใจผมได้เต็มเปี่ยม
“แต่ก็ดีนะครับ ผมอยากเอาคืนบอสเหมือนกัน”
อังเดรว่าพลางยิ้มมุมปาก ดูเหมือนว่าพี่แซทจะสร้างวีรกรรมไว้กับคู่หูบอดี้การ์ดร่างยักษ์ไว้เยอะ พวกเขาเลยอยากเอาคืนบ้าง เสียดายที่ผมไม่ได้ลากอะดอนิสมาด้วย ไม่งั้นบอสของพวกเขาคงอารมณ์เดือดมากกว่านี้แน่ แต่แค่อังเดรคนเดียว เขาก็โมโหจนแทบคลั่งแล้วล่ะ
“ใช่มั้ยล่ะ คนชอบวางอำนาจอย่างเขาต้องโดนลงโทษซะบ้าง”
ผมสนับสนุน หัวเราะเสียงดัง อังเดรก็หัวเราะผสมโรงกับผมด้วย
สะใจจริงๆ ในที่สุดผมก็แกล้งให้พวกเขาหัวปั่นได้อีกแล้ว
-------------------------------------------------------------------------
เอาไป40%ก่อนนะคะ แล้วที่เหลือจะมาต่อเมื่อแต่งเสร็จคะ
ขอบคุณสำหรับทุกความคิดเห็นและการติดตามนะคะ