HEARTBREAKER
29
(50%)
อาการตื่นเต้นดีใจปกปิดไม่มิดเมื่อได้ยินพี่ชายชวนมาเที่ยวผับด้วย ครั้งแรกในชีวิตของนักเรียนมัธยมปลายที่จะได้เข้าไปเที่ยวผับทั้งที่อายุยังไม่ถึงเกณฑ์ แม้จะกังวลเรื่องอายุ แต่พี่ชายก็บอกให้คลายกังวลว่าผับนี้มีเพื่อนเป็นหุ้นส่วนอยู่ เพราะฉะนั้นจึงไม่เป็นปัญหาอะไร พอรถเลี้ยวเข้าผับวนหาที่จอดเรียบร้อย เด็กหนุ่มรีบเปิดประตูก้าวลงจากรถกวาดมองไปทั่วบริเวณ พี่ชายเดินมาหยุดอยู่เคียงข้างก่อนกอดคอพาน้องเดินตรงไปทางประตูเข้าผับ
“ผมเข้าไปได้จริงๆหรอฮะ”
หันไปถามพี่ชายเพื่อความแน่ใจเมื่อเดินมาหยุดอยู่หน้าทางเข้าซึ่งมีพนักงานต้อนรับยืนอยู่
“เออ”
เนสตอบน้องสั้นๆอย่างตัดรำคาญ ล้วงเอาโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงออกมาต่อสายหาเพื่อน
“กูมาถึงแล้ว ออกมาหน่อยดิ”
พูดจบก็ตัดสาย ยืนรอเพื่อนออกมารับ
เด็กหนุ่มจับกระชับเสื้อแจ็กเก็ต จัดทรงผมให้เข้าทรง ก้มมองสำรวจรองเท้า ระหว่างรอเพื่อนพี่ชายออกมา
“เนส”
เสียงเข้มเรียกมาจากหน้าประตู ใบหน้าหล่อเหล่าเคร่งขรึมเมื่อเห็นว่าเพื่อนพาน้องชายติดตามมาด้วย เด็กหนุ่มยิ้มกว้างส่งมาให้ ผิดกับคนเป็นพี่ที่แสยะยิ้มมองมาด้วยสายตาแข็งกร้าวคล้ายจะประกาศตัวเป็นศัตรู
“ป่ะ เข้าไปสนุกกัน”
เนสบอกน้องพลางดันให้เดินเข้าไปข้างในผ่านหน้าพนักงานต้อนรับที่โค้งกายเคารพอย่างนอบน้อมเพราะร่างสูงที่ยืนอยู่ข้างหลัง
“สวัสดีครับพี่ควิน”
เด็กหนุ่มหันไปยกมือไหว้ เอ่ยทักทายด้วยรอยยิ้มสดใสร่าเริง
“ไอ้แซทมันไม่รับโทรศัพท์กู มันมาป่ะ”
เนสถามต่อ ไม่เว้นช่องว่างให้เพื่อนหันไปสนใจน้องชาย
“มา อยู่ข้างบน”
ควินตอบเสียงเรียบ เดินนำไปก่อน นัยน์ตาสีเฮเซลเหยียบเย็นจนคนเผลอมองสบตารู้สึกหวาดกลัว
“เป็นไง”
เนสถามน้องชาย เห็นอาการตื้นเต้นของน้องแล้วก็อดที่จะยีหัวด้วยความหมั่นเขี้ยวไม่ได้
“ตื้นเต้นฮะ เข้ามาเห็นด้วยตาตัวเองแล้วน่าเที่ยวกว่าได้เห็นในละครในหนังเยอะเลย”
“ชอบหรอ”
“ชอบฮะ”
“ชอบได้แต่อย่าหลง เข้าใจมั้ย ผับมันอันตราย ถ้าไม่ได้มากับพี่ ห้ามมากับคนอื่นเด็ดขาด มากับเฟียซก็ไม่ได้ เข้าใจมั้ย”
“เข้าใจครับผม”
ยิ้มตอบพี่ชายพลางทำท่าตะเบ๊ะเหมือนทหาร
เนสยีผมน้องอีกรอบ ยิ้มให้กับความไร้เดียงสา ลึกๆในใจก็สงสารน้องที่ขาดพ่อกับแม่ ลำพังพี่ชายอย่างเขา แค่เลี้ยงดูอบรมให้คำปรึกษา ให้ความรักความอบอุ่น พยายามเป็นทั้งพ่อและแม่ให้ แต่เขาก็ไม่สามารถทำหน้าที่ได้ดีเท่าพ่อกับแม่ ต้าร์เป็นเด็กหัวอ่อน แม้จะดื้นรั้นไปบางที แต่ก็ไร้เดียงสาเกินไป ถึงจะเป็นเด็กผู้ชาย แต่รูปร่างหน้าตาคล้ายเด็กผู้หญิง ปัญหานี้เป็นอุปสรรคสำคัญ จะบอกว่าเป็นปมด้อยก็คงไม่ผิดนัก เขาอยากสอนให้น้องรู้จักนิสัยคนมากกว่านี้ แต่ต้าร์ก็เป็นเด็กที่ชอบคนใจดี เห็นใครพูดดีด้วย ใจดีด้วย ก็หลงชอบไปหมด การที่จะสอนให้น้องรู้จักโลกภายนอกให้มากขึ้น คงต้องใช้เวลา แต่สถานการณ์ตอนนี้บีบบังคับให้เขาต้องพาน้องออกมาเจอกับสังคมแบบนี้ก่อนวัยอันควร เขาต้องทำให้น้องได้เห็นด้วยตาตัวเองว่าสังคมของคนเลวมันเป็นยังไง!
ร่างสูงเดินมาหยุดอยู่หน้าห้องรับรองแขกวีไอพีก่อนเปิดประตูเข้าไป สายตาคมเหล่มองเพื่อนสนิทแวบนึงอย่างจะสื่อความหมายให้รู้ผ่านทางสายตา
“สวัสดีครับพี่แซท”
ยกมือไหว้เพื่อนพี่ชายอีกคนที่นั่งอยู่บนโซฟาเมื่อเดินเข้ามาในห้องรับรองแขก
เนสกอดคอน้องชายพาไปนั่งที่โซฟาฝั่งตรงข้าม กระตุกยิ้มมุมปากส่งให้เพื่อน
“กูโทรหา ทำไมไม่รับสายวะ”
ถามพลางจ้องตาเพื่อนเขม็ง
แซทแสยะยิ้ม มองหน้าเพื่อนแล้วเบนสายตาไปที่เด็กหนุ่มหน้าหวาน ใบหน้าเรียวเล็กยังคงไว้ซึ่งรอยยิ้มอยู่
“ไม่ได้ยินเสียงว่ะ”
คำตอบง่ายๆก่อนโน้มตัวชงเหล้าส่งให้คนถาม
เนสรับแก้วเหล้ามา ยกขึ้นดื่ม สายตายังไม่ละจากใบหน้าเพื่อน
“ขอเป็ปซี่ให้น้องกูหน่อย”
ควินหยิบซ้อมเคาะกับขอบจานส่งสัญญาณให้บริกรที่ยืนคอยรับคำสั่งอยู่ด้านนอกเข้ามา
“เป็ปซี่ขวดนึง”
สั่งบริกรเสร็จก็เอนหลังพิงพนักโซฟา ความเงียบเข้าปกคลุมภายในห้องแม้จะมีเสียงเพลงจากด้านนอก ควินมองเด็กหนุ่มหน้าหวานที่นั่งติดอยู่กับพี่ชายไม่ห่าง ดูเจ้าตัวจะมีความสุขที่ได้มาเที่ยวผับ เหมือนเด็กที่พอเจอของเล่นถูกใจก็วิ่งเข้าใส่
แซทหยิบซองบุหรี่บนโต๊ะมาโดยมีสายตาจากฝั่งตรงข้ามมองตาม คนนึงมองด้วยรอยยิ้มแปลกๆ แต่อีกคนมองด้วยรอยยิ้มถูกใจ กำลังจะหยิบไฟแชคจุดสูบ ใบหน้าหวานของคนน้องก็เบือนหนีไปซะก่อน แซทขมวดคิ้ว สงสัยกับท่าทีของเด็กหนุ่ม
“ออกไปข้างนอกก็ได้ต้าร์ เพื่อนพี่มันติดบุหรี่ สูบบุหรี่จัด”
เนสหันไปบอกน้อง เน้นหนักตรงสองประโยคท้าย แล้วหันกลับมาส่งยิ้มให้เพื่อนทั้งสองคนที่มองเขาอยู่ก่อนแล้ว
“ครับ งั้นผมออกไปข้างนอกนะ”
“อือ พนักงานมาเสิร์ฟเป็ปซี่แล้วพี่จะเอาออกไปให้”
ต้าร์ยิ้มให้พี่ชายก่อนหันไปผงกศีรษะให้อีกสองหนุ่มแล้วเดินออกจากห้องไปยืนเท้ามือกับระเบียง ทอดสายตามองบรรยากาศด้านล่างของผับ ที่ซึ่งมีฝูงชนกำลังเต้นเคล้ากับเสียงเพลงอยู่บนฟลอร์
แซทโยนซองบุหรี่ไว้บนโต๊ะ หมดอารมณ์จะสูบ หยิบแก้วเหล้ากระดกน้ำเมาเข้าปากแทน
“สูบดิ น้องกูออกไปแล้ว”
เนสยิ้มบอก หยิบถั่วลิสงโยนเข้าปาก เคี้ยวกรวมๆด้วยท่าทีนิ่งๆ
แซทแสยะยิ้มมองเพื่อน รู้ชัดถึงจุดประสงค์ที่แท้จริงของอีกฝ่าย ที่ตั้งใจพาน้องชายมาผับด้วยเพราะต้องการสิ่งใด
“ต้าร์บอกกูว่ามึงบังเอิญขับรถผ่านโรงเรียนมัน เลยอาสาไปส่งที่บ้าน ขอบใจนะ น้องกูก็เป็นแบบนี่แหละ ชอบคนใจดี ใครพูดดี ทำดีกับมัน มันก็ชอบเค้าไปทั่ว”
ควินกระตุกยิ้ม เข้าใจคำพูดที่เนสต้องการสื่อความหมาย แซทเองก็เข้าใจไม่ต่างกัน
“พูดตรงๆเลยดีกว่าว่ะ”
ควินพูดขึ้นอย่างตัดรำคาญ ไม่อยากทนฟังอีกฝ่ายพูดอ้อมโลกอีก ทั้งๆที่จุดประสงค์ที่แท้จริงก็บอกชัดเจนอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องมานั่งหยั่งเชิงกันอีกต่อไป
เนสแสยะยิ้ม ยกแก้วเหล้าดื่มจนหมดก่อนวางลง มองขวดเหล้าบนโต๊ะนิ่ง
“อย่ายุ่งกับน้องกู”
น้ำเสียงราบเรียบไม่แสดงอารมณ์ใดๆ สายตาคนพูดยังจ้องมองอยู่ที่ขวดเหล้า
“สันดานพวกมึงเป็นยังไง ทำไมกูจะไม่รู้”
เงยหน้าขึ้นมองเพื่อนทั้งสองคน
“ทำไม สันดานพวกกูเป็นยังไง”
แซทถามหน้านิ่ง ยักไหล่อย่างไม่แคร์กับสายตาแข็งกร้าวของอีกฝ่าย
“ต้องให้กูสาธยายหรอวะ คบกับพวกมึงมาจะครบปี กูเห็นพวกมึงเปลี่ยนคู่นอนไม่เว้นวัน มั่วทั้งผู้หญิงทั้งผู้ชาย ทำเพื่อนกูท้องแล้วไม่รับผิดชอบ”
เนสร่ายพฤติกรรมเหลวแหลกแฉด้วยสีหน้าเรียบนิ่งไม่ต่างจากคนฟัง
“เพื่อนมึงอ้าขาให้พวกกูเอาเอง พวกกูไม่ได้บังคับขืนใจเพื่อนมึง ก่อนจะเอาพวกกูก็ป้องกันทุกครั้ง แต่เพื่อนมึงนั้นแหละ อยากเล่นสดกับพวกกูเอง ท้องมาแล้วยังไง มันไม่ได้อยู่ในข้อตกลงของพวกกู”
แซทสวนกลับด้วยน้ำเสียงราบเรียบคล้ายกำลังพูดคุยเรื่องสภาพดินฟ้าอากาศทั่วไป
เนสกำหมัดแน่นข่มใจไม่ให้ตัวเองลุกขึ้นตะบันหน้าอีกฝ่าย รู้ดีว่าเพื่อนที่คบกันมานั้นนิสัยเลวมากแค่ไหน ในคณะ สาขาเอกที่พวกเขาศึกษาอยู่ ไม่มีคนดีดีที่ไหนอยากมาคบหาเป็นเพื่อนด้วยหรอก แค่ได้ยินชื่อของพวกมันสองคน ทุกคนก็พากันส่ายหน้า ไม่กล้าเฉียดกรายเข้าใกล้ ชื่อเสียงของพวกมันฉาวโฉ่มาตั้งแต่สมัยเรียนไฮสคูล แล้วเขาเองที่คิดผิดเอาตัวเข้าไปพัวพันกับพวกมันตั้งแต่แรก จนทุกคนต่างเหมารวมไปว่าเขาก็เลวไม่ต่างกัน แต่เพราะคำว่าเพื่อน เขาถึงยังคบกับพวกมันมาจนถึงทุกวันนี้ เพราะคำว่าเพื่อนคำเดียว
“ไม่มีผู้หญิงดีดีที่ไหนยอมนอนกับผู้ชายสองคนในเวลาเดียวกันหรอก”
ควินเอ่ยขึ้น มองหน้าเพื่อนด้วยสายตาดุดัน
“ใช่ เพื่อนกูมันโง่เองที่รักคนเหี้ยๆอย่างมึง”
เนสด่าเสียงแข็ง จ้องตาเพื่อนด้วยอารมณ์โกรธ
“ทั้งๆที่กูบอกมันแล้ว เตือนมันแล้ว แต่มันก็ไม่ฟัง มันบอกกูว่ารักมึงมาก รักมากจนไม่อยากเสียมึงไป มันยอมนอนกับไอ้แซท ทั้งๆที่มันรักมึง แค่เพราะมึงใช้คู่นอนร่วมกับไอ้แซท มันก็ยอม มันยอมมึงทุกอย่าง แต่พอมันท้องขึ้นมา มึงกลับไล่มันไปตาย มึงกล้าไล่ผู้หญิงที่รักมึงมากไปตายได้ยังไง”
“แต่เพื่อนมึงก็ไม่ตาย มึงจะรื้อฟื้นทำไมวะ เรื่องมันผ่านไปแล้ว”
“ก็เพราะมันผ่านไปแล้วไง กูถึงรื้อฟื้นให้พวกมึงคิด คิดถึงความเหี้ยของพวกมึง กูเสียเพื่อนไปคนนึงแล้ว กูจะไม่ยอมเสียน้องกูไปอีก”
น้ำเสียงเข้มดุบวกกับสายตาจริงจังจ้องมองเพื่อนทั้งสองอย่างข่มขู่
สันดานพวกมันเป็นยังไง เขารู้ดี ไบฯที่เอาได้ทั้งหญิงและชาย ขอแค่คนที่ถูกใจพวกมันก็หิ้วขึ้นเตียงได้ไม่ยาก พอได้สมใจยากแล้วก็สลัดทิ้ง และที่สำคัญ พวกมันใช้คู่นอนร่วมกัน! พวกมันทำเหมือนคนเป็นแค่สิ่งของที่ผลัดเปลี่ยนกันใช้ วันไหนอยากใช้ร่วมกันก็ใช้ วันไหนอยากใช้แยกก็ใช้ เขาไม่เคยว่า ไม่เคยด่า ไม่เคยห้ามกับพฤติกรรมของพวกมัน เพราะคิดว่าไม่ใช่เรื่องของตัวเอง จนเรื่องมันเกิดขึ้นกับเพื่อนของเขา “กรีน” ดาวมหา’ลัย กรีนรักไอ้ควิน รักมากจนยอมเสียได้ทุกอย่างแม้กระทั่งศักดิ์ศรีของตัวเอง กรีนท้อง เธอมั่นใจว่าพ่อของลูกในท้องคือไอ้ควิน แต่พอเธอบอกความจริงไป ไอ้ควินกลับไล่ให้เธอไปตาย กรีนเป็นลูกคุณหนู ที่บ้านของเธอมีฐานะ มีหน้ามีตาในสังคม เธอไม่กล้าบอกเรื่องนี้กับทางบ้าน และไม่กล้าเก็บลูกไว้ เธอกลัวสังคมตราหน้าว่าท้องไม่มีพ่อ กรีนตัดสินใจลาออกจากมหา’ลัยแล้วบินไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ และเธอก็ตัดสินทำแท้งที่นั่น กรีนไม่ได้ติดต่อมาอีกหลังจากวันที่เธอส่งอีเมล์มาบอกว่าเธอทำอะไรลงไป พวกมันรู้เรื่องทุกอย่าง แต่ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น และยังทำตัวมั่วไม่เลือกมาจนถึงทุกวันนี้!
ความเงียบเข้าปกคลุมอีกครั้ง พอดีกับที่บริกรเปิดประตูเดินเข้ามาเสิร์ฟเครื่องดื่มที่สั่งไป พอบริกรเดินออกไป เนสก็ขยับตัว
จัดการคีบน้ำแข็งใส่แก้วแล้วรินเป็ปซี่ตามลงไป
“กูยังเป็นเพื่อนกับพวกมึงได้ ตราบใดที่พวกมึงไม่มายุ่งวุ่นวายกับน้องกู”
บอกพลางถือแก้วลุกขึ้นยืน หันหลังเดินตรงไปที่ประตู จังหวะที่กำลังจะเปิดประตูออกไปก็เหลียวกลับมาบอกเพื่อนอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง
“เอ็นดูต้าร์แค่ในฐานะพี่ชายก็พอ ถือว่ากูขอร้อง ถ้าพวกมึงยังเห็นว่ากูเป็นเพื่อนอยู่”
--------------------------------------------------------------------------------------------------
เอา 50% มาเสิร์ฟก่อนตามเคย
ที่เหลือจะตามมาเมื่อแต่งเสร็จ (ตามเคย)
เนื้อเรื่องในพาร์ทอดีตค่อนข้างหน่วงและดราม่าพอสมควร
แต่ก็มีมุมอบอุ่นน่ารักๆให้ได้ยิ้มได้เหมือนกัน
ยังไงก็ขอให้อ่านกันอย่างสนุกนะคะ
ขอบคุณสำหรับคอมเมนท์และการติดตามนะคะ