HEARTBREAKER
ตอนพิเศษ
Happy Valentine’s Day
วันวาเลนไทน์ เทศกาลแห่งความรัก วันที่คู่รักจะแสดงความรักต่อกัน ดอกกุหลาบ ช็อกโกแลต กลายเป็นสัญลักษณ์ เป็นของขวัญประจำวันวาเลนไทน์ที่คู่รักจะมอบให้แก่กัน
หากแต่วันวาเลนไทน์นี้ เป็นแค่เพียงวันธรรมดา สำหรับความคิดเห็นของคนที่ไม่ตื้นเต้นกับวันพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นเทศกาลใด
ร่างสูงโปร่งบางของชายหนุ่มหน้าหวานยืนพิงต้นเสามองไปยังเส้นทางเดินเท้า บาทวิถีที่เต็มไปด้วยกลุ่มนิสิต หลายคนถือช่อดอกไม้ บางคนถือกล่องของขวัญ บ้างก็ถือห่อช็อกโกแลต
ดวงตากลมใสเบนกลับมามองที่แม่ค้าร้านกาแฟเมื่อได้ยินเสียงเรียกว่าของที่สั่งได้แล้ว ยื่นเงินส่งให้ รับแก้วพลาสติกมา ก้มหน้าดูดหลอดเอาน้ำชาเชียวนมสดเข้าปาก มือบางจับหลอดตักวิปครีมที่สั่งเพิ่มไปเข้าปากตามไป ยิ้มกับฟองครีมนุ่มละมุนลิ้นเคล้ากลิ่นหอมของชาเขียวและนมสดที่ปั่นรวมกัน เป็นความสุขเล็กๆที่ได้ทานของโปรด เรียวขายาวภายใต้กางเกงยีนพอดีตัวเดินตรงไปยังลานจอดรถหลังตึกคณะวิทยาศาสตร์ รถยนต์สปอร์ต ออดี้สีขาวป้ายแดงจอดเป็นจุดเด่นอยู่เพียงคันเดียว สัญญาณปลดล็อคกระพริบ เจ้าของรถเปิดประตูก้าวเข้าไปนั่ง วางแก้วชาเขียวไว้ในกล่องที่อดีตเคยเป็นกล่องกระดาษทิชชู่แต่ถูกดัดแปลงให้เป็นที่ใส่แก้ว หันไปมองข้างนอกกระจก ยามเย็นที่ไม่มีแสงแดดมาทำให้ร้อนและทำร้ายผิว หลังคาเปิดประทุนค่อยๆเลื่อนเปิดขึ้น เสร็จเรียบร้อยเจ้าของรถหน้าหวานก็สตาร์ทรถและขับออกไปจากมหาวิทยาลัย
“ปัญญาอ่อน”
เสียงเข้มด่าพิธีกรในรายการโทรทัศน์ที่กำลังสัมภาษณ์ความคิดเห็นของวัยรุ่นที่มีต่อวันวาเลนไทน์ มือหนากดรีโมทปิดอย่างตัดรำคาญ อารมณ์หงุดหงิดขึ้นมาฉับพลัน
“จะส่งอะไรนักหนาวะ กูรำคาญ”
น้ำเสียงห้วนบอกกับโทรศัพท์มือถือที่ยังส่งเสียงเตือนข้อความผ่านทางแอพพิเคชั่นยอดฮิต ถ้าไม่ติดว่าต้องรอการติดต่อจากคนสำคัญ เขาปิดเครื่องไปนานแล้ว
“แซท โทรศัพท์มึงไม่ดังบ้างวะ”
ควินหันไปถามเพื่อนที่นั่งหน้าเครียดคิ้วขมวดอยู่บนโซฟา
“ดัง แต่กูเอามือปิดลำโพง”
คำตอบที่ได้ยินทำให้คนฟังแสยะยิ้มอย่างเวทนา
“ยิ้มเหี้ยไร กูก็รำคาญเสียงเป็นบ้างเหอะ”
แซทด่าเสียงห้วน ถ้าไม่เอามือปิดลำโพงไว้ ประสาทแดกเพราะเสียงเตือนแน่ๆ
“อย่าให้รู้นะว่าไอ้เหี้ยตัวไหนเอาไลน์กูไปแจก กูจะเล่นมันให้หนักเลย”
ควินด่าพลางกัดฟันกรอด เอามือปิดลำโพงตามเพื่อนบ้างแต่ตาก็จ้องอยู่ที่หน้าจอโทรศัพท์
“จะไอ้เหี้ยตัวไหนล่ะ ถ้าไม่ใช่ไอ้ร็อกก็ไอ้พอลอ่ะกูว่า ไอ้สองตัวนี้แม่งจ้องเล่นงานลับหลัง สันดาน”
แซทด่าก่อนก้มมองหน้าจอโทรศัพท์ พอเผลอเอามือที่ปิดลำโพรงออก เสียงเตือนก็ดังรัวทันทีที่ไม่มีสิ่งปิดกั้น สองหนุ่มมองหน้ากันแล้วพร้อมใจกันหลับตาข่มกลั้นโทสะไม่ให้ขว้างโทรศัพท์มือถือทิ้ง
จะปิดเครื่องก็ไม่ได้ จะปิดเสียงก็ไม่ได้ เพราะถ้าคนสำคัญโทรหรือส่งข้อความมาก็จะไม่ได้ยินเสียง ถ้าตั้งระบบสั่นก็มีค่าเท่ากัน เสียงเรียกเข้าที่ตั้งไว้สำหรับคนสำคัญแตกต่างจากเสียงเรียกเข้าของคนอื่น ถ้าเพียงแค่อีกฝ่ายโทรมาก็จะรู้ได้ทันที หากแต่ตอนนี้ ไม่มีเสียงเรียกเข้านั้น มีแต่เสียงเตือนน่ารำคาญที่ดังอย่างต่อเนื่อง
“ทำไมยังไม่โทรมา เป็นไรป่ะวะ”
ควินบ่นเบาๆ สีหน้าเป็นกังวลอย่างเป็นห่วงคนสำคัญที่ยังไม่ติดต่อมา
“โทรหาดิ”
แซทบอกด้วยสีหน้าไม่ต่างกัน
“บอกกูทำไม มึงไม่โทรเองวะ”
ควินสวนกลับ นัยน์ตาสีเฮเซลเหล่มองเพื่อนอย่างเหยียดหยาม
“ถุย! ไม่กล้าโทรก็บอกมาเหอะ”
แซทสวนทันควันอย่างไม่ยอมแพ้
“ไอ้เหี้ย! ใครกันแน่ไม่กล้า”
“มึงนั้นแหละ”
“มึงนั้นแหละ”
ระบบปลดล็อคทำงานเมื่อได้รับรหัสสัญญาณจากคีย์การ์ด ประตูถูกผลักให้เปิดออก ต้าร์ก้าวเข้าไปข้างในห้อง เสียงตึงตังโครมครามดังมาจากห้องนั่งเล่น คนเพิ่งมาถึงขมวดคิ้วอย่างสงสัยก่อนรีบเดินไปหาต้นตอของเสียง
“เล่นอะไรกันอยู่ครับ”
เพียงแค่ได้ยินน้ำเสียงคุ้นเคย ร่างสูงของสองหนุ่มที่ตั้งท่าจะกระโจนเข้าใส่กันก็หยุดชะงักหันขวับไปมองคนถาม มือที่เงื้อขึ้นจะชกหน้ากันก็พลันทิ้งลงข้างลำตัว
“พวกพี่ทะเลาะกันเหรอฮะ”
พอได้ยินคำว่าทะเลาะ สองหนุ่มก็ตีหน้านิ่ง ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ควินทรุดนั่งบนโซฟา แซทก็เดินไปที่เคาน์เตอร์บาร์ด้านหลัง คนถามได้แต่ยืนนิ่งกวาดสายมองสำรวจห้องนั่งเล่นที่ตอนนี้เต็มไปด้วยเศษแก้วและเศษกระจก ดอกไม้ที่เคยปักใส่แจกันก็นอนแอ้งแม้งอยู่บนพื้นพรม ส่วนโต๊ะกระจกก็แตกเป็นเสี่ยง รีโมททีวีก็แตกกระจายจนถ่านหลุดออกมา พอมองไปที่ทีวีจอแบนก็พบว่าหน้าจอแตกร้าวราวกับถูกของแข็งฟาด
หลักฐานคาตาขนาดนี้ พวกเขาคงไม่ได้เล่นปาระเบิดกันใช่มั้ย?
“ทำไมไม่โทรมา/ทำไมไม่โทรมา”
สองเสียงถามขึ้นพร้อมกันอย่างไม่ได้นัดหมาย
“ขับรถใกล้ถึงคอนโดแล้ว ผมเลยคิดว่าไม่ต้องโทรบอกก็ได้ ขอโทษนะครับ”
บอกก่อนเดินไปวางกระเป๋าไว้บนโต๊ะวางทีวี หันกลับมาตั้งท่าจะเก็บเศษกระจก แต่ยังไม่ทันได้นั่งลงเก็บ สองหนุ่มก็รีบปราดเข้ามาจับมือไว้ ควินกับแซทมองหน้ากันอย่างเหนื่อยหน่าย ก่อนหน้านี้จะตีกันตาย แต่พอคนสำคัญมาถึงกลับสามัคคีพร้อมใจกันซะงั้น
“ผมแปลกใจนะที่พวกพี่ทะเลาะกัน บอกผมได้มั้ยฮะ ว่าทะเลาะกันเรื่องอะไร”
‘ไร้สาระเหี้ยๆ’
แซทคิดพลางมองหน้าเพื่อน เรื่องอะไรจะบอกว่าที่ทะเลาะกันก็เพราะกลัวเสียฟอร์มที่ไม่กล้าโทรหาเมีย
‘ปัญญาอ่อนฉิบหาย’
ควินคิดพลางมองหน้าเพื่อน เรื่องอะไรจะบอกว่าที่จะตีกันตายก็เพราะกลัวเสียฟอร์ม ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมรับว่าไม่กล้าโทรหาเมีย
ต้าร์มองหน้าควินกับแซทสลับกันไปมาแล้วส่ายหน้า
“จะปล่อยมือผมได้หรือยังฮะ ผมจะได้โทรให้แม่บ้านขึ้นมาทำความสะอาด”
พอมือเป็นอิสระ ต้าร์ก็เดินไปหยิบโทรศัพท์ต่อสายหาพนักงานให้บอกแม่บ้านขึ้นมาทำความสะอาดบนห้อง เสร็จแล้วก็เดินเข้าห้องครัวหาขนมทาน ทิ้งให้สองหนุ่มมองตามทุกอิริยาบถ
“จะเอายังไงกับทีวีดีฮะ หน้าจอแตกขนาดนั้นแล้ว ร้านจะซ่อมได้หรือเปล่า”
ต้าร์ส่งเสียงถามออกมาจากห้องครัว
แซทหันไปมองผลงานตัวเอง ที่ตอนแรกตั้งใจจะใช้แจกันฟาดหัวเพื่อนแต่ดันพลาดเป้าเพราะมันหลบทัน ความซวยเลยไปตกอยู่ที่ทีวี ซึ่งมันอยู่ของมันดีดีก็ซวยถูกตีหน้าจอแตก
ควินแสยะยิ้มยักไหล่ให้เพื่อนอย่างจะบอกว่าเรื่องนี้เขาไม่เกี่ยว เพราะตัวเขาแค่จะยกโต๊ะกระจกขว้างใส่มันแต่ก็พลาดไป ก็แค่นั้นเอง
“ซื้อใหม่”
แซทตอบอย่างตัดปัญหา พอดีกับเสียงเคาะประตูดังขึ้น ต้าร์เดินออกจากห้องครัวไปเปิดประตูให้แม่บ้านเข้ามาทำความสะอาด
“รบกวนด้วยนะครับ”
ยิ้มบอกแม่บ้าน หันไปมองสองหนุ่มก็เห็นว่าทั้งคู่แยกย้ายกันเดินเข้าห้องใครห้องมัน
“ให้มันได้อย่างนี้สิ”
หลังจากแม่บ้านทำความสะอาดเสร็จและกลับออกไป แซทก็เดินออกจากห้อง ตาคมมองหาร่างบาง พอเห็นว่ายืนเช็ดจานอยู่ในครัวก็เดินเข้าไปหา
“ไปซื้อทีวี”
ต้าร์แขวนผ้าเช็ดจาน หันกลับมามองคนสั่ง
“ให้ผมไปซื้อเหรอฮะ”
“ไปด้วยกัน”
แซทบอกเสียงแข็งอย่างขัดใจที่อีกฝ่ายไม่เข้าใจถึงเจตนารมณ์ของเขา จะกล้าปล่อยให้ไปซื้อคนเดียวได้ไงวะ ถามมาได้
“ไปหาข้าวเย็นกินข้างนอก”
ควินส่งเสียงบอกก่อนคว้าเสื้อเชิ้ตบนบ่าสวมใส่ หยดน้ำที่เกาะอยู่บนหน้าผากบอกให้รู้ว่าเจ้าตัวเพิ่งอาบน้ำมามาดๆ
แซทโยนกุญแจรถให้เพื่อนโดยไม่พูดอะไรแล้วหันมามองร่างบางที่ยังยืนนิ่งอยู่
“ไปเปลี่ยนชุด”
“ไปชุดนี้เลยก็ได้ฮะ”
“ไปเปลี่ยน”
เสียงเข้มสั่งสำทับและจะไม่พูดเป็นรอบที่สาม ต้าร์พยักหน้ารับรู้เดินหงอยเข้าห้องไปเปลี่ยนชุดตามคำสั่งทั้งๆที่ก็ไม่รู้ว่าชุดนิสิตที่ใส่อยู่มันเสียหายตรงไหน
“ซอฟท์ๆหน่อย”
ควินติง เข้าใจว่าเพื่อนไม่อยากให้คนอื่นมองคนของพวกเขาถ้าจะใส่ชุดนิสิตให้เป็นจุดเด่นเพียงคนเดียวในขณะที่พวกเขาสองคนใส่ชุดไปรเวท แต่จากประสบการณ์ที่ผ่านมาบอกให้รู้ว่า ไม่ว่าต้าร์จะใส่ชุดอะไร คนแม่งก็มองอยู่ดี!
“มึงก็เหมือนกัน อย่ามาว่ากู หรือมึงไม่หวงมัน”
แซทว่าเสียงขุ่น มีเมียหน้าเด็กแถมยังหน้าสวยกว่าผู้หญิงเป็นเรื่องน่าปวดหัวสำหรับเขา ห้ามไม่ให้คนมองไม่ได้ก็ต้องแสดงความเป็นเจ้าของให้รู้ว่าคนนี้ของกู!
ควินไม่ตอบ เดินไปนั่งที่โซฟา รอสักพักคนเข้าไปเปลี่ยนชุดก็ออกมาจากห้อง สายตาคมสองคู่มองสำรวจร่างบางตรงหน้าตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า
“ไปกันเถอะครับ”
ต้าร์ยิ้มบอก เดินนำออกไปก่อน
“อยากได้อะไรมั้ย”
พอรถเคลื่อนตัวออกจากคอนโดฯแซทก็หันไปถาม ต้าร์ส่ายหน้าทันทีโดยไม่ต้องคิด คนถามวางสีหน้าเรียบนิ่งหันกลับมามองถนนเบื้องหน้า
“ถ้าอยากได้อะไรก็บอก”
ควินบอกพลางมองกระจก เห็นใบหน้าเรียวเล็กส่ายไปมาก็ลอบถอนหายใจ
รถเลี้ยวเข้ามาในลาดจอดของห้างสรรพสินค้าชื่อดังกลางกรุง ต้าร์ลงจากรถไปก่อน แซทตามไปยืนประกบโอบเอวไว้ตามความเคยชิน ควินเดินนำเข้าห้าง สายตาคมมองเห็นในมือคู่รักหลายคู่ที่เดินผ่านไปมา มีทั้งช่อดอกไม้ ช็อกโกแลต กล่องของขวัญ จู่ๆความคิดนึงก็พุดขึ้นมา ยิ้มมุมปากก่อนหันไปมองร่างบาง
“อยากกินอะไร”
แซทถามคนข้างกายพลางโอบกระชับเอวแน่นขึ้น
“แล้วแต่พวกพี่เลยฮะ”
“กูถามมึง ไม่ใช่ให้มึงมาแล้วแต่พวกกู”
แซทข่มความไม่พอใจไว้ไม่ไหว ทั้งๆที่ไม่อยากพูดจาทำร้าย ไม่อยากใช้อารมณ์ แต่สุดท้ายก็หนีไม่พ้น
ต้าร์ยิ้มเจื่อนมองไปข้างหน้าเห็นร้านอาหารร้านแรกก็ชี้บอก
“ร้านนั้นก็ได้ฮะ”
“สั่งอาหารไปก่อนเลย เดี๋ยวกูมา ไปเข้าห้องน้ำแป็ป”
ควินชิ่งบอกเพื่อน เดินไปตามป้ายบอกทางไปห้องน้ำ แซทโอบเอวพาคนในอ้อมแขนเดินไปร้านอาหารที่ว่า
“สวัสดีค่ะ กี่ทีคะ”
“3”
แซทตอบเสียงเรียบ เดินไปนั่งโต๊ะว่างด้านในติดกับผนังกระจก พนักงานวางเมนูอาหารก็หยิบยื่นให้คนตัวเล็กเป็นคนสั่ง
“พี่แซทอยากทานอะไรครับ”
ต้าร์หันไปถามคนนั่งข้างๆ
“แล้วแต่มึง อยากกินอะไรก็สั่ง”
แซทมองใบหน้าหวานเอ่ยสั่งเมนูกับพนักงานอย่างเพลินตา ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ายื่นมือไปลูบผมนุ่มลื่นมือตั้งแต่เมื่อไหร่
“พี่ควินไปเข้าห้องน้ำนานจัง”
“เดี๋ยวมันก็มา”
บอกพลางลูบแก้มเนียนแต่ก็ต้องผละออกเมื่อพนักงานเข้ามาเสิร์ฟน้ำ
“มันมาแล้ว ตายยากฉิบ”
แซทบอก มองเพื่อนเดินหน้านิ่งเข้ามานั่งฝั่งตรงข้าม
“ผมสั่งอาหารไปแล้ว พี่ควินจะสั่งเพิ่มมั้ยฮะ”
“ไม่”
ควินบอกปัด มองหน้าหวานแล้วก็นึกถึงสิ่งที่ทำก่อนจะเดินเข้ามาในร้าน
“ขออนุญาตเสิร์ฟอาหารค่ะ”
พนักงานเข้ามาเสิร์ฟอาหาร ควินตักกับข้าวใส่จานให้ ต้าร์ยิ้มขอบคุณ ลงมือทาน
แววตารักใคร่ห่วงใยของสองหนุ่มมองดูคนของตนทานข้าว กระตุกยิ้มอย่างเอ็นดูที่ข้าวติดอยู่ตรงมุมปาก ควินยื่นมือไปจับออกให้ เจ้าตัวยิ้มขอบคุณแล้วทานต่อ แซทมองแจกันที่มีดอกกุหลาบสีแดงปักอยู่ก่อนหันไปมองคนข้างกาย
“พี่แซทจะไปไหนครับ”
ต้าร์ถามเมื่อจู่ๆคนนั่งข้างๆก็ลุกขึ้นทั้งที่ยังทานข้าวไม่เสร็จ
“ห้องน้ำ”
แซทเดินออกจากร้านไป ต้าร์มองตามก่อนหันมาทานข้าวต่อ ควินลอบมองโทรศัพท์เป็นระยะอย่างรอเวลา สักพักใหญ่แซทก็เดินกลับเข้ามาพอดีกับที่พนักงานเข้ามาเสิร์ฟของหวาน
“พี่แซทมาพอดีเลย ของหวานมาเสิร์ฟพอดีเลยฮะ”
ต้าร์ยิ้มบอก แซทนั่งลงมองรอยยิ้มบนใบหน้าหวานก็คิดล่วงหน้าถึงตอนที่เซอร์ไพรซ์ของเขาจะมาส่ง
ทานกันไปเรื่อยๆจนอาหารและของหวานพร่อง ต้าร์ก็ยกแก้วน้ำดื่มบอกให้สองหนุ่มรู้โดยไม่ต้องถามว่าเจ้าตัวอิ่มแล้ว
ควินกับแซทมองไปที่ประตูร้านพร้อมกัน ต้าร์มองตามอย่างสงสัย
ประตูร้านมีอะไร ทำไมต้องมอง?
“ผมไปเข้าห้องน้ำนะครับ”
“อย่าเพิ่ง/อย่าเพิ่ง”
สองเสียงบอกขึ้นมาพร้อมกัน ควินกับแซทมองหน้ากันอย่างถามผ่านทางสายตาว่า
‘อะไรของมึง’
ต้าร์มองหน้าควินกับแซทสลับกันไปมา สงสัยกับท่าทีแปลกๆของทั้งคู่
“มีอะไรเหรอครับ”
ควินไม่ตอบแต่หันไปมองประตูร้านแทน แซทก็ไม่ตอบมองไปที่ประตูร้านอย่างรอคอย
“แต่ผมปวดฉี่”
สองหนุ่มหันมามอง นิ่งคิด
“ปวดมากเหรอ”
ถามออกไปแล้วควินก็อยากเอาหัวโขกโต๊ะ เพราะเป็นคำถามที่ห่วยแตกสุดๆ
“ก็ไม่มากเท่าไหร่ฮะ”
ต้าร์ตอบไปด้วยความงุนงง
“ดอกไม้มาส่งครับ คุณเนติพัทธ์”
เสียงทุ้มนุ่มของพนักงานส่งดอกไม้บอกเจ้าของชื่อจริงที่นั่งมึนงงอยู่ ควินแสร้งตีหน้านิ่งมองท่าทีว่าคนของเขาจะทำยังไงต่อ ฝ่ายแซทขมวดคิ้วยุ่งจ้องหน้าเพื่อนเขม็ง
มันไปสั่งดอกไม้ตอนไหนวะ!
“ของผมเหรอฮะ”
ต้าร์ถามพนักงานอย่างไม่มั่นใจว่าช่อดอกกุหลาบในมือของพนักงานจะเป็นของตน
“ใช่ครับ คุณเนติพัทธ์ รบกวนเซ็นชื่อด้วยครับ”
พนักงานบอกยืนยัน
ต้าร์มองหน้าควินกับแซท พอเห็นว่าทั้งคู่นั่งเงียบก็ค่อยๆลุกขึ้นรับปากกาจากพนักงานเซ็นชื่อไปแล้วรับช่อดอกไม้มา พนักงานยิ้มก่อนโค้งกายขอบคุณแล้วเดินออกไป ต้าร์ค่อยๆนั่งลงมองดูช่อดอกกุหลาบขาวในมือ
ของใครส่งมา?
คำถามวิ่งวนอยู่ในหัว
“เอ่อ…ดอกไม้นี่”
“ดอกไม้มาส่งครับ คุณเนติพัทธ์”
เสียงพนักงานส่งดอกไม้เอ่ยขัดคำพูด ต้าร์หันไปมอง เบิกตากว้างอย่างตกใจที่เห็นช่อดอกกุหลาบขาวในมือของพนักงาน
กุหลาบขาวเหมือนกัน!
แซทกระตุกยิ้ม ในที่สุดเซอร์ไพรซ์ของเขาก็มา ควินมองหน้าเพื่อนก่อนส่ายหน้าด้วยคิดไม่ถึงว่ามันจะมีความคิดแบบเดียวกับเขา
“รบกวนเซ็นชื่อตรงนี้ครับ”
พนักงานยิ้มบอกพลางยื่นบิลใบเสร็จรายการพร้อมปากกาให้
ต้าร์ลุกขึ้น รับปากกาเซ็นชื่อเสร็จก็ส่งคืนให้พนักงานก่อนรับช่อดอกกุหลาบขาวมา ความคิดงุนงงสับสันตีกันวุ่นวาย
ใครส่งมาให้? ใคร? ใคร?
มองช่อดอกไม้ในมือทั้งสองข้างแล้วก็เบนสายตาไปมองสองหนุ่มที่มองมาด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง
“เอ่อ…พี่ครับ ผม…ผมไม่รู้ว่าใครส่งมา ผม…”
“อ่านการ์ด/อ่านการ์ด”
อีกครั้งที่สองเสียงเอ่ยขึ้นมาพร้อมกัน ต้าร์มองทั้งคู่อย่างสับสนก่อนค่อยๆนั่งลง
ควินทำทีเป็นตักของหวานทานแต่ตาก็เหล่มองไปด้วย แซทก็ทำเมินเป็นไม่สนใจแต่ตาก็คอยเหลือบมอง ต้าร์หยิบการ์ดออกจากช่อดอกกุหลาบทั้งสองช่อ เปิดอ่านการ์ดใบแรก ตาเบิกกว้างเมื่ออ่านข้อความในการ์ดจบ หันไปมองควินอย่างตกใจด้วยคิดไม่ถึงว่าคนที่ส่งช่อดอกกุหลาบขาวมาให้ช่อแรกจะเป็นเขา!
คนถูกมองก็ตีหน้านิ่งทานของหวานต่อไป
หลังจากอึงไปสักพักต้าร์ก็อ่านการ์ดจากช่อดอกกุหลาบขาวช่อที่สอง และอาการก็เป็นเช่นเดิมเหมือนตอนอ่านการ์ดใบแรก ต้าร์มองไปที่แซท รู้สึกอึ้งจนพูดไม่ออก
นี่พวกเขาสองคนเล่นตลกอะไร!
ข้อความในการ์ดทั้งสองใบไม่ใช่คำบอกรัก ไม่ใช่คำพูดสวยหรู ก็แค่การ์ดสำเร็จรูปที่พิมพ์คำว่า
Happy Valentine’s Day
และตัวย่อKกับS ลงท้ายข้างล่างการ์ด
K คือตัวย่อของควิน
S คือตัวย่อของแซท
แม้จะเขียนมาแค่ตัวย่อตัวเดียว ต้าร์ก็รู้ความหมายได้โดยไม่ต้องเอ่ยถาม
ไม่อยากจะเชื่อ คิดไม่ถึงว่าพวกเขาจะสั่งดอกไม้ให้ ไม่เคยคิดด้วยซ้ำว่าพวกเขาจะให้ความสำคัญกับวันวาเลนไทน์ วันแห่งความรักที่แม้แต่ตัวเองยังไม่ได้สนใจด้วยซ้ำ
ต้าร์ยิ้มให้ดอกกุหลาบขาวทั้งสองช่อแล้วมองไปที่คนสั่งให้
“ขอบคุณนะครับ เซอร์ไพรซ์จริงๆ ขอบคุณมาก ผมชอบมากเลย ดอกกุหลาบขาว”
ควินกระตุกยิ้มแต่ก็ยังทำเนียนเป็นนิ่งเฉย ฝ่ายแซทก็ลอบยิ้มแต่ก็แสร้งไม่สนใจ
“ผมไม่มีอะไรจะให้พวกพี่ แต่ผมอยากบอกพวกพี่ว่า สุขสันต์วันวาเลนไทน์ครับ”
------------------------------------------------------------------------------------------------
Happy Valentine's Day ค่าาาาาทุกคน
เอาตอนพิเศษวันวาเลนไทน์มาเสิร์ฟ
กะจะอัพก่อนเที่ยงคืน แต่ไม่ทันแล้ว
ไม่เป็นไรเนอะถือว่ายังไม่เช้า กร๊ากกกก
พยายามปั่นตอนพิเศษมาชดเชยให้นักอ่าน เพราะอยากที่รู้ๆกันว่าตอนจบมันแบดเอ็นด์
เลยอยากส่งตอนพิเศษมาเป็นของขวัญให้คนอ่าน
ขอบคุณที่ยังติดตามอ่านกันอยู่
ขอบคุณทุกคอมเมนท์ ขอบคุณสำหรับการติดตาม และขอบคุณที่ยังแวะเวียนเข้ามาอ่านนะคะ
ขอให้อ่านตอนพิเศษอย่างมีความสุขค่ะ สุขสันต์วันวาเลนไทน์นะคะ
ปล. เนื่องจากรีบปั่น ปั่นเสร็จแล้วก็รีบอัพลง เลยไม่ได้ตรวจทานคำผิด ขอโทษด้วยนะคะ