HEARTBREAKER
30
(50%)
อาการร้อนรนกระวนกระวายของเด็กหนุ่มที่นั่งอยู่เบาะหลังอยู่ในความสนใจของสายตาคมสองคู่ที่เหลือบมองมาเป็นระยะ ใบหน้าเรียวเล็กซีดเผือดเมื่อหันไปมองฝ่ากระจกด้านหลังแล้วเห็นรถเก๋งสีดำคันนึงแล่นตามมาด้วยความเร็วไม่แพ้กัน ในใจเต็มไปด้วยความสงสัยและคำถามมากมายว่าเหตุใดรถคันดังกล่าวถึงต้องขับตามมาราวกับต้องการไล่ล่ารถของพวกเขา แล้วตอนนี้พี่ชายเขาอยู่ที่ไหน เกิดเรื่องอะไรขึ้นที่ผับ
“พี่ครับ เราจะไปไหนกัน แล้วทำไมรถคันนั้นต้องขับตามเราด้วย เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอฮะ”
อดทนนั่งนิ่งต่อไปไม่ไหว แม้ว่าจะถามไปแล้วครั้งนึงและยังไม่ได้คำตอบ แต่ก็อยากจะถามอีกครั้ง
“ผมเป็นห่วงพี่เนส”
น้ำเสียงอ่อนลงด้วยความเป็นห่วงพี่ชาย
“ไม่ต้องเป็นห่วง มันไม่เป็นไรหรอก”
แซทตอบเสียงเรียบ ตาก็มองกระจกด้านข้างดูรถที่ขับตามมา
“ผมลืมโทรศัพท์ไว้ในรถ ขอยืมโทรศัพท์พวกพี่ได้ไหมฮะ ผมจะโทรหาพี่เนส”
บอกหน้าตาตื่นเมื่อคลำหาทั่วตัวแล้วไม่พบเครื่องมือสื่อสาร
“ไม่ต้องโทร รอเจอกันที่บ้าน”
คนขับเอ่ยตอบเสียงแข็ง เท้าก็เหยียบคันเร่งพารถขับแซงรถคันข้างหน้าให้หลุดพ้นจากการติดตามของรถคันหลัง เด็กหนุ่มเม้มปากแน่น ยอมนั่งนิ่ง พยายามควบคุมอารมณ์ให้สงบ
“เดี๋ยวก็ถึงบ้านแล้ว”
แซทหันมาบอก ทอดเสียงอ่อนลงด้วยรู้ว่าเด็กหนุ่มเป็นกังวล
“พี่เนสจะปลอดภัยใช่ไหมครับ” ถามย้ำให้แน่ใจว่าพี่ชายจะไม่ได้รับอันตรายใดๆ
“อือ”
คำตอบรับสั้นๆ แต่ก็ทำให้คนถามวางใจ รอยยิ้มบางๆจึงเผยให้ได้เห็น แซทมองสบนัยน์ตากลมใสครู่นึงก็หันกลับมานั่งนิ่งดูสถานการณ์ข้างนอก รถคันที่ขับตามมาหายไปแล้ว นั้นแปลว่าพวกเขาสลัดมันหลุด มุมปากกระตุกยิ้มที่สถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติ
“หิวหรือเปล่า”
ควินถามพลางเงยมองกระจก เห็นใบหน้าหวานยังมีแววกังวลอยู่ก็เอ่ยต่อให้เบาใจ
“ไม่มีรถตามมาแล้ว ไม่ต้องห่วง ตอนนี้ปลอดภัยแล้ว”
ตากลมเบิกกว้างก่อนหันไปมองข้างหลังก็ไม่เห็นรถคันต้องสงสัยขับตามมา คลี่ยิ้มกว้างอย่างดีใจ หันกลับมาชะโงกหน้าบอกคนขับ
“จริงด้วยฮะ รถคันนั้นหายไปแล้ว”
เสียงเบรกดังเอี๊ยดเมื่อคนขับหันมาเจอกับใบหน้าหวานยื่นเข้ามาพอดี จมูกโด่งที่อยู่ห่างกันไม่ถึงเซนฯอีกทั้งลมหายใจอุ่นๆเป่ารดกันในระยะประชิดทำให้นัยน์ตาคมกระตุกวูบ แต่เพียงแวบเดียวก็กลับมาสงบนิ่ง
“ขอโทษฮะ ผมดีใจไปหน่อย”
ยิ้มบอกเสียงอ่อย ถอยกลับมานั่งตามเดิม
ควินหันกลับไปมองถนนเบื้องหน้า พยายามตั้งสมาธิกับการขับรถ บอกย้ำกับตัวเองในใจว่าให้สนใจมองทางข้างหน้า แต่ก็ทำไม่ได้ สุดท้ายก็ต้องเงยมองกระจก เพื่อให้ได้เห็นใบหน้าหวานของเด็กหนุ่ม
“เอ่อ…ที่พี่ควินถามว่าหิวหรือเปล่า ตอนนี้ผมเริ่มหิวแล้วล่ะฮะ”
บอกพลางยกมือลูบท้องไปด้วย ปากก็ยื่นออกน้อยๆ
ควินกับแซทหันไปมองหน้ากันแวบนึงก็กระตุกยิ้มมุมปากด้วยความรู้สึกเอ็นดู
คิดอะไรก็ออกมาทางสีหน้าแววตาหมดแบบนี้ ก็ไม่แปลกหรอกที่พี่ชายจะหวง
“งั้นก็แวะหาอะไรกินก่อน”
“ไม่ต้องแวะหรอกฮะพี่แซท ไปทานที่บ้านผมเลยดีกว่า รับรองว่าอาหารอร่อย คุณป้าแม่บ้านของผมฝีมือไม่แพ้เชฟในโรงแรมดังเลยนะฮะ ผมคอนเฟิร์ม”
ยืนยันหนักแน่น ลืมเรื่องกังวลก่อนหน้านี้ไปสนิท
รถแล่นเข้ามาในซอยบ้าน เด็กหนุ่มรีบขยับตัวเกาะติดประตูรถทันที พอรถขับมาถึงหน้าบ้านเห็นรั้วเปิดออกพร้อมกับรถคันที่เจอตอนอยู่ที่ผับก็ยิ้มกว้าง
“พี่เนสมาถึงก่อนแล้ว ขับเข้าไปเลยฮะ”
ยิ้มบอกอย่างดีใจ ควินมองเข้าไปในบ้านก่อนเลี้ยวรถขับเข้าไปจอดต่อท้ายรถแอสตันมาร์ตินของเพื่อน พอรถจอดนิ่ง เด็กหนุ่มก็รีบเปิดประตูก้าวลงจากรถพอดีกับที่พี่ชายรีบเดินออกมาจากบ้านด้วยสีหน้าร้อนรน หลังจากที่นั่งรอได้สักพัก
“ต้าร์!”
เนสส่งเสียงเรียกน้องพลางเดินเข้าไปกอดแน่น ความรู้สึกหนักอึ้งก่อนหน้านี้มลายหายไปเมื่อได้เห็นว่าน้องกลับมาอย่างปลอดภัย
“พี่เนสมาถึงนานแล้วเหรอฮะ”
ต้าร์ถามพี่ชาย ผละจากอ้อมกอดมองหน้าพี่อย่างรอฟังคำตอบ
“เป็นอะไรหรือเปล่า ไม่ได้บาดเจ็บตรงไหนใช่ไหม”
เนสไม่ตอบ เอาแต่ถามและมองสำรวจตัวน้องตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า
“ผมไม่เป็นไรฮะ ไม่ได้บาดเจ็บด้วย”
ยิ้มตอบ ตาก็มองสำรวจตัวพี่ชายเช่นกัน
“พี่ก็ไม่เป็นไรใช่ไหม ผมตกใจแทบแย่ตอนที่พี่ถูกจับขึ้นรถไป”
“สวัสดีครับน้องต้าร์ พี่ชื่อร็อคเกอร์ เป็นเพื่อนสนิทเนส ขอโทษนะที่ทำให้ตกใจ”
ร่างสูงที่ยืนนิ่งอยู่ข้างหลังเดินเข้ามาแนะนำตัว เนสหันไปขึงตาดุใส่อีกฝ่ายอย่างไม่พอใจกับคำว่าเพื่อนสนิท แต่ก็ไม่อยากด่าต่อหน้าน้องจึงข่มกลั้นโทสะไว้
“สวัสดีครับ” ยกมือไหว้เพื่อนพี่ชาย ยิ้มให้อย่างเป็นมิตร
“ที่แท้ก็เป็นเพื่อนกัน แล้วพี่ร็อคเกอร์เป็นเพื่อนกับพี่ควินพี่แซทด้วยใช่ไหมฮะ”
หันไปมองสองหนุ่มที่ยืนมองอยู่ข้างหลัง
“ใช่ครับ”
ได้ยินคำตอบ เด็กหนุ่มก็เดินไปหาควินกับแซท เนสจะตามไปคว้ามือน้องแต่ถูกร่างสูงขัดขวางเข้ามายืนประจันหน้าฉวยโอกาสจับมือไว้
“เข้าบ้านกันเถอะครับ พวกพี่อยากทานอะไร ผมจะได้บอกคุณป้าทำให้ทาน”
“อะไรก็ได้”
ควินตอบนิ่งๆ ถอนสายตาจากเด็กหนุ่มไปมองเพื่อนที่ยืนมองมาด้วยสายตาแข็งกร้าว นัยน์ตาคมมองตอบอย่างไม่สะทกสะท้านก่อนเดินเข้าบ้านไปก่อน แซทก้าวตามแต่ก็ต้องชะงัก ก้มมองมือข้างขวาที่ถูกสัมผัส มือขาวบางของเด็กหนุ่มจับมือเขาไว้จูงให้เดินตามเข้าบ้าน รู้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้คิดอะไร แต่เขาคิด คิดไปไกลด้วย
“เข้าบ้านเถอะครับพี่ ผมหิว” ต้าร์หันไปบอกพี่ชายก่อนเดินเข้าบ้าน
เนสยืนกำมือแน่นด้วยความไม่พอใจกับความสนิทสนมที่น้องแสดงให้เห็น
“พวกพี่นั่งรอก่อนนะครับ ผมจะไปบอกคุณป้า”
เดินมาถึงห้องรับแขก ต้าร์ก็ปล่อยมือควิน ยิ้มบอกให้ทั้งคู่นั่งรอแล้วก็เดินตรงไปทางห้องครัว
“กูบอกพวกมึงไปแล้ว ว่าอย่ายุ่งกับน้องกู”
เนสเดินหน้าเครียดเข้ามาหยุดตรงหน้าเพื่อน สายตาแข็งกร้าวจ้องหน้าเพื่อนอย่างจะจับฉีกออกเป็นชิ้นๆ
“เนส ใจเย็น”
“มึงหุบปากไปเลย”
เนสหันไปสั่งร็อคเกอร์เสียงเข้ม ตวัดสายตากลับมาจ้องหน้าเพื่อนอีกครั้ง
“พวกกูไม่ได้ทำอะไรต้าร์ มึงก็เห็น” ควินบอกเสียงเรียบ
“ไม่ได้ทำ แต่พวกมึงคิด กูรู้ว่าพวกมึงคิด”
เนสสวนกลับ ยิ่งคิดถึงตอนที่น้องชายจับมือเพื่อนเดินผ่านหน้าไป อารมณ์โกรธก็ยิ่งพุ่งขึ้นสูง
“กูบอกมึงตรงๆ กูชอบต้าร์ ชอบมากด้วย แต่กูไม่เคยคิดระยำกับน้องมึง”
แซทบอกเพื่อนอย่างจริงใจ มองสบนัยน์ตาแข็งกร้าวของเพื่อนอย่างหนักแน่นในคำพูด
คนฟังนิ่งไปแต่ยังไม่คลายโทสะ หวนคิดถึงพฤติกรรมที่พวกมันเคยทำไว้ ความเป็นห่วงน้องชายก็ยิ่งเพิ่มพูน
“ถ้ากูคิดเลวกับน้องมึงจริงๆ ระหว่างทางกลับบ้านมึงกูก็มีโอกาส แต่กูไม่ทำ กูชอบต้าร์ ไม่ใช่แค่อยากฟันแล้วทิ้ง”
ควินพูดต่อ หยุดนัยน์ตาสีเฮเซลไว้ที่ใบหน้าเพื่อน
“ฟังที่พวกมันพูดบ้างเหอะเนส อย่าตั้งแง่นักเลย”
“มึงอย่าเสือกได้ป่ะ”
เนสหันมาด่าอีกรอบ และเป็นอีกครั้งที่ความหวังดีของร็อคเกอร์ถูกมองข้ามอย่างไม่ใยดี
“ต้าร์ยังเด็ก อนาคตยังอีกไกล อย่าให้น้องกูต้องมาเสียคนเพราะพวกมึง”
เนสบอกอย่างข่มอารมณ์ เขาไม่ได้อยากเสียเพื่อน แต่ถ้าเพื่อนคิดร้ายกับน้องชาย เขาก็ต้องตัดพวกมันทิ้ง!
“กูจะเหี้ยกับใครที่ไหนก็ได้ แต่ไม่ใช่กับน้องมึง”
แซทบอกเสียงเข้ม เริ่มโมโหกับความดื้อด้านของเพื่อน
“ตอนที่พวกมึงอยากได้ พวกมึงจะพูดยังไงก็ได้”
เนสโต้อย่างไม่ยอมแพ้ มีพี่ชายสติดีคนไหนจะยอมปล่อยให้น้องตัวเองไปยุ่งกับคนเลวบ้าง การพนัน แข่งรถ มั่วเช็กซ์ ยกพวกตีกัน ขาดแค่ยังไม่เป็นขโมยกับติดยา พวกมันก็จะเลวครบสูตร แล้วเขาจะวางใจปล่อยให้น้องชายไปใกล้ชิดกับพวกมันได้ยังไง
“แล้วถ้ากูจะเอาน้องมึงจริงๆ มึงคิดว่าจะห้ามกูได้เหรอ”
ควินบอกพลางลุกขึ้นยืนประจันหน้าเพื่อน ความร้ายกาจฉายชัดอยู่ในดวงตาคม
“ไอ้เหี้ยควิน”
เนสเค้นเสียงด่าทำท่าจะพุ่งเข้าใส่เพื่อนแต่ถูกร็อคเกอร์ดึงรั้งไว้ เจ้าตัวดิ้นพล่านทั้งผลักทั้งถีบ
“ไม่เอาน่า อยากให้ต้าร์ออกมาเห็นหรือไง ไอ้ควินมันก็พูดยั่วให้เนสโมโห ควิน มึงก็หยุดเหอะ รู้ว่าเนสกำลังโกรธ มึงก็อย่าแหย่มันดิ”
คนกลางออกโรงไกล่เกลี่ย ห้ามปรามทั้งเพื่อนทั้งคนที่รัก
“พวกมึงออกไปจากบ้านกูเดี๋ยวนี้ ออกไป”
เนสหยุดดิ้น ข่มกลั้นอารมณ์ หายใจเข้าออกอย่างช้าๆเพื่อให้ตัวเองมีสติและใจเย็นลง
“ยิ่งมึงห้าม กูยิ่งอยากได้ ยิ่งกูอยากได้ กูก็จะทำทุกอย่างให้ได้มา”
ควินบอกทิ้งท้ายก่อนเดินออกจากห้องรับแขกไป
“มึงรู้สันดานกูดีนี่ คนเหี้ยๆอย่างกูทำได้ทุกอย่าง อย่าบังคับให้กูต้องทำ”
แซทบอกพลางมองหน้าเพื่อนพร้อมรอยยิ้มแสยะอย่างที่ชอบทำ เดินตามเพื่อนออกไป
พอลับร่างเพื่อนทั้งสองคน เนสก็สะบัดตัวออกจากอ้อมแขนคนกอดรัดแล้วปล่อยหมัดหนักๆใส่หน้าทันที ร็อคเกอร์เซถอยหลังเพราะไม่ทันได้ตั้งตัว
“กูเกลียดมึงมากขึ้นทุกวัน กูเกลียดมึงจริงๆ ออกไป”
อาการเกลียดชังฝังอยู่ในน้ำเสียงจนคนฟังยังสัมผัสได้ ร็อคเกอร์เค้นยิ้ม ไม่มีคำพูดใดเอ่ยต่อ เจ้าตัวหันหลังเดินออกไปพร้อมกับแบกเอาความเสียใจไปด้วย
“อ้าว หายไปไหนกันหมด พี่เนส พวกเพื่อนๆพี่กลับไปแล้วเหรอฮะ”
ต้าร์เดินเข้ามาถามด้วยความงง เข้าห้องครัวไปบอกให้คุณป้าแม่บ้านทำอาหารแป็ปเดียวเอง ไหงพวกเขาถึงไม่รอทานข้าวพร้อมกัน ทำไมถึงรีบกลับ
“ต้าร์ บอกพี่มา ควินกับแซทมันพาต้าร์ไปไหน แล้วพวกมันทำอะไรต้าร์หรือเปล่า”
เนสจ้องน้องอย่างคาดคั้นเอาคำตอบ
“พวกพี่เขาไม่ได้พาผมไปไหนนี่ฮะ ขึ้นรถออกจากผับมา พวกเขาก็พาผมกลับบ้าน แล้วพวกเขาก็ไม่ได้ทำอะไรผมด้วย”
ต้าร์ตอบไปตามความจริง พอเห็นสายตาพี่ยังจ้องเขม็งอยู่ก็รีบบอกต่อ
“ผมพูดจริงๆนะฮะ ตอนอยู่บนรถ พี่ควินถามผมว่าหิวหรือเปล่า พี่แซทก็บอกให้แวะหาอะไรทานก่อน แต่ผมบอกให้มาทานที่บ้าน พวกเขาก็ไม่ว่าอะไร ก็พาผมกลับบ้านมานี่ล่ะฮะ”
เนสมองหน้าน้อง พนักหน้ารับรู้ เชื่อว่าน้องไม่ได้โกหก
“ผมว่าพวกพี่เขาก็น่ารักดีนะฮะ ถึงจะดูนิ่งๆ ไม่ค่อยพูด แต่พวกเขาก็ดูเป็นห่วงผม คงเพราะผมเป็นน้องพี่ พวกเขาก็เลยเอ็นดูเหมือนน้อง”
ต้าร์ยิ้มบอกพี่ชายอย่างพาซื่อ
เนสมองน้องอย่างหนักใจ ฟังจากที่พูดมาก็ฟันธงได้แล้วว่า น้องชายเขาหลงชอบความใจดีจอมปลอมของพวกมันเข้าให้แล้ว!
-----------------------------------------------------------------------------------------------
เอาไปครึ่งนึงก่อนน้าาาาา
นั่งหน้าคอมทั้งวัน ฟิลในการแต่งไม่มีเลย
อารมณ์ไม่คงที่ ไม่มีสมาธิกับงานเลย
เข้าใจหัวอกคนรออ่าน เลยมาอัพให้อ่านก่อน
ที่เหลืออีกครึ่งนึงจะมาต่อเมื่อฟิลมา
(โดนคนอ่านกระโดดถีบรัวๆ
)
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นและการติดตามนะคะ ขอบคุณทุกกำลังใจที่มีให้กัน
อ่านแล้วอย่าเครียดกันนะ ไม่อยากให้เครียดเลยจริงๆ ให้คนแต่งเครียดคนเดียวพอ