HEARTBREAKER
38
(50%)
เสียงโห่ร้องตะโกนอย่างดีใจดังลั่นห้อง หลังจากที่ทราบว่าคาบสุดท้ายของภาคบ่ายไม่มีการเรียนการสอน เหล่านักเรียนต่างพร้อมใจกันเก็บกระเป๋า เสร็จแล้วก็ทยอยเดินออกจากห้อง เด็กหนุ่มหน้าหวานรีบเดินปรี่ไปยังห้องของสาวที่แอบชอบ หยุดยืนด่อมๆมองๆอยู่หน้าประตู เด็กสาวคนนึงซึ่งกำลังกวาดพื้นอยู่เงยหน้าขึ้นมาเห็นพอดี เจ้าตัวย่นคิ้วสงสัย วางไม้กวาดแล้วเดินไปหาเพื่อนต่างห้อง
“มาหาใครเหรอ”
คนถูกถามยิ้มเจื่อนก่อนถามกลับเสียงอ่อย
“เมเปิ้ลยังไม่มาเรียนอีกเหรอ”
“ยังเลย สงสัยจะเครียดเรื่องข่าว”
“นั่นสินะ”
เด็กหนุ่มพยักหน้า ยิ้มจืดจางแล้วหันหลังเดินกลับห้องตัวเอง
“เป็นอะไร ทำหน้าเหมือนหมาหงอย”
เสียงห้าวเอ่ยถามเพื่อนสนิทที่เดินคอตกมานั่งโต๊ะตรงหน้า
“เฮ้อ”
ตอบกลับด้วยเสียงถอนหายใจเฮือกใหญ่
“กูเบื่อมึงจริงๆต้าร์”
พอถูกว่า เจ้าของชื่อก็หันมาถลึงตากลมโตใส่เพื่อน
“ไอ้บ้าเฟียซ ไปเลย จะไปไหนก็ไป”
แวดใส่แล้วเดินไปหยิบกระเป๋าบนโต๊ะตัวเอง เดินหน้าบึ้งตึงออกจากห้อง ทิ้งให้เพื่อนมองตามด้วยความกลุ้มใจ
“เมื่อไหร่มันจะเลิกนิสัยแคร์คนอื่นไปทั่วสักทีวะ”
ต้าร์เดินไปตาก็มองโทรศัพท์มือถือไป ตั้งใจจะโทรบอกพี่ชายว่าอยากเดินเล่นเที่ยวห้างสักพักแล้วค่อยกลับบ้าน แต่จังหวะที่จะกดโทรออก เสียงเรียกเข้าก็ดังขึ้นมาก่อน ตากลมมองเบอร์แปลกที่โชว์ให้เห็นบนหน้าจออย่างสงสัยก่อนรับสาย
“ฮัลโหล”
“ต้าร์”
น้ำเสียงคุ้นเคยจากปลายสายเอ่ยเรียก เจ้าของชื่อเบิกตาโพล่ง มือจับโทรศัพท์ไว้แน่นด้วยจำได้ว่าเจ้าของเสียงนี้คือใคร
“เมเปิ้ล”
เอ่ยเรียกปลายสายเสียงแผ่ว ความรู้สึกตอนนี้ทั้งตกใจ ตื่นเต้น และดีใจผสมปนเปกันไปหมด
“ต้าร์ ออกมาเจอเมหน่อยได้มั้ย”
“ได้สิ จะให้ไปเจอที่ไหน”
ตอบรับและถามถึงสถานที่นัดหมายอย่างเร็ว หัวใจเต้นดังแทบไม่เป็นจังหวะ เพราะดีใจที่อีกฝ่ายโทรมาหาแถมยังขอให้ออกไปเจอกัน
“โอเค ต้าร์จะรีบไปนะ แล้วเจอกัน”
อีกฝ่ายตัดสายไปแล้วหลังจากบอกสถานที่นัดหมาย หากแต่เจ้าของโทรศัพท์ยังถือเครื่องมือสื่อสารแนบหูค้างไว้อยู่อย่างนั้น
‘เมเปิ้ลโทรมาหาเรา เมเปิ้ลนัดให้เราออกไปเจอ’
เด็กหนุ่มยืนยิ้มอย่างดีใจ
“ต้าร์…ต้าร์!”
คนยืนเพ้อสะดุ้งกับเสียงเรียก หันไปมองก็เห็นว่าเพื่อนสนิทถลึงตาคมดุมองอยู่
“เป็นอะไร ยืนยิ้มเหมือนคนบ้าอยู่ได้”
เฟียซถามพลางสังเกตุอาการคนตรงหน้า
“เปล่า” ตอบเสียงสูง ส่ายหน้าแรง “เฟียซกลับบ้านไปก่อนเลยนะ ต้าร์มีธุระต้องไปทำ”
บอกพลางตบบ่าเพื่อนไปทีนึงแล้วรีบวิ่งไปโบกรถแท็กซี่
“เฮ้ย! ต้าร์ ธุระอะไรวะ ไอ้ต้าร์!”
เฟียซร้องถาม ขายาวก็วิ่งตามไป แต่ไม่ทัน เพราะไอ้เพื่อนเอ๋อมันขึ้นรถแท็กซี่ไปแล้ว
“ธุระอะไรของมันวะ”
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
มาถึงห้างสรรพสินค้าชื่อดังกลางกรุง ต้าร์รีบเดินขึ้นบันไดเลื่อน เดินหาร้านกาแฟตามที่เมเปิ้ลได้นัดหมายไว้ ใบหน้าหวานเกินชายพร่างพรายไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุขที่จะได้เจอหน้าหญิงสาวในดวงใจ หลังจากที่อีกฝ่ายหายหน้าหายตาไป ไม่ยอมมาโรงเรียนตั้งหลายวัน ริมฝีปากบางคลี่ยิ้มกว้างเมื่อมองเห็นร้านที่ว่า รีบเดินตรงไปด้วยใจที่เต้นรัวเร็ว พอมาถึงก็มองเข้าไปในร้านกวาดสายตามองหาเป้าหมาย รอยยิ้มดีใจเปิดกว้างอีกครั้งเมื่อเธอคนนั้นกวักมือเรียก ก้าวขาเดินไปหาราวกับคนละเมอ
“เมเปิ้ล”
เรียกพลางพิศมองใบหน้าเรียวสวยที่ดูหมองเศร้า นัยน์ตากลมที่เคยสดใสทว่าตอนนี้กลับแห้งแล้งคล้ายเจ้าตัวกำลังเป็นทุกข์
“เมดีใจนะที่ต้าร์มาหา ขอบคุณมาก ต้าร์นั่งก่อนสิ”
เจ้าตัวนั่งลงตรงข้ามหญิงสาว ตายังคงมองที่ใบหน้าอีกฝ่าย
“ไม่สบายหรือเปล่า ทำไมหน้าซีดจัง ที่ไม่มาโรงเรียนเพราะป่วยใช่มั้ย”
เอ่ยถามอย่างห่วงใย เนื่องจากพิศมองใบหน้าอีกฝ่ายแล้วก็ได้พบว่าผิวแก้มขาวอมชมพูที่เคยเห็นเป็นประจำ ตอนนี้กลายเป็นขาวซีดราวกับไม่มีเลือดหล่อเลี้ยง
“นิดหน่อยน่ะ ไม่เป็นไรมากหรอก ขอบคุณนะที่เป็นห่วง ต้าร์ดีกับเมจริงๆ”
น้ำเสียงอ่อนหวานบอกพร้อมรอยยิ้มบาง
“เอ่อ…เรื่องข่าว ไม่ต้องไปสนใจมันหรอกนะ มันก็แค่ข่าวลือ”
ต้าร์ยิ้มบอก ไม่อยากให้หญิงสาวเครียดกับเรื่องข่าวลือที่แพร่สะพัดไปทั่วโรงเรียน
คนตกเป็นข่าวยิ้มเศร้า ก้มหน้ามองมือตัวเองที่ประสานกันอยู่บนตัก เรียกกำลังใจกับสิ่งที่ตนจะทำในวันนี้ เธอต้องทำ…ต้องทำเพื่อลูกในท้อง ไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้ว ไม่มีทางให้เธอเลือกเลย ทุกอย่างถูกบีบให้เธอต้องทำแบบนี้
“ต้าร์”
“หืม ว่าไง”
ยิ้มกว้าง รอฟังอย่างตั้งใจว่าหญิงสาวจะพูดอะไร
‘อย่าโทษฉันเลยนะ ในเมื่อแกก้าวเข้ามาแย่งพวกเขาไปจากฉัน!’
“เม…เม…”
ต้าร์ลุ้น รอฟังจนหน้านิ่วคิ้วขมวด แต่อีกฝ่ายกลับเงียบไป เจ้าตัวก้มหน้าค้นหาอะไรบางอย่างในกระเป๋า
“จริงสิ ต้าร์ไม่น่าลืมเลย เมเปิ้ลชอบสะสมกระเป๋าใช่มั้ย”
เอ่ยถามเมื่อนึกขึ้นได้จากที่เห็นหญิงสาวค้นหาของในกระเป๋าเมื่อครู่ เงินในบัญชีหลายหมื่นที่กดออกมาซื้อกระเป๋าใบหรูหวังเอาใจอีกฝ่าย ตอนนี้กระเป๋าใบนั้นยังอยู่ในถุง เขาเก็บมันไว้ในตู้อย่างดี คิดว่าถ้าอีกฝ่ายมาโรงเรียนเมื่อไหร่จะเอาไปให้ แต่วันนี้นึกไม่ถึงว่าเธอจะโทรหาแล้วนัดเจอกัน เหตุการณ์มันกระชั้นเกินไปเลยไม่ได้ฉุกคิด ไม่อย่างนั้นคงนั่งรถแท็กซี่กลับบ้านไปเอากระเป๋าก่อนจะมาที่นี่
“อืม ทำไมเหรอ”
มือบางชะงักค้างอยู่ในกระเป๋า เงยหน้ายิ้มบางให้คนถาม
“ไม่มีไรหรอก ต้าร์แค่ซื้อกระเป๋าแบรนด์ที่เมชอบไว้ใบนึงน่ะ ตั้งใจจะให้นานแล้ว แต่ยังไม่มีโอกาสสักที”
บอกพลางยิ้มเขิน คิดจะมีความรักกับเขาทั้งที่ก็ต้องลงทุนลงแรงกันหน่อย แม้จะแทบหมดตัวกับกระเป๋าแค่ใบเดียว แต่ถ้าได้ใจของอีกฝ่ายเป็นการตอบแทน ก็นับว่าคุ้มเกินคุ้ม
“ขอบคุณนะ”
หญิงสาวฝืนปั้นหน้ายิ้มตอบ ในใจไม่ได้รู้สึกยินดีกับสิ่งที่อีกฝ่ายทำให้
“ไม่เป็นไร ต้าร์เต็มใจ”
เจ้าตัวยิ้มกว้างให้ด้วยความจริงใจ แต่พอเห็นหญิงสาวเงียบไปอีกก็หุบยิ้มมองอย่างเป็นกังวล
“เป็นอะไรหรือเปล่า”
“ต้าร์…ต้าร์ช่วยเมด้วยนะ เม…เมพลาดไปแล้ว ต้าร์ช่วยเมด้วย”
น้ำเสียงเว้าวอนคล้ายจะร้องไห้ทำให้คนฟังนั่งไม่ติดเก้าอี้
“เมเป็นอะไร บอกต้าร์มาสิ ใครทำอะไรเม”
เอ่ยถามอย่างร้อนรนกระวนกระวายใจ
“เม…เมท้อง”
คำตอบแม้จะแผ่วเบาแต่ต้าร์กลับได้ยินชัดเจน อาการช็อคค้างเกิดขึ้นโดยไม่ทันได้ตั้งตัว ร่างกายถูกตรึงราวกับมีคนเอาเชือกเส้นหนามามัดตัวไว้
“ฮึก! เมท้อง ต้าร์ เมท้อง“
เสียงสั่นพร่าปนสะอื้นเอ่ยบอก ตอกย้ำความรู้สึกคนฟัง
ต้าร์เพิ่งได้สติกลับคืน มองหน้าคนที่กำลังกลั้นเสียงสะอื้น ร้องไห้ออกมาเงียบๆ
“เม…เมท้องกับใคร”
หลุดคำถามออกไปแล้วก็ใจหาย มันรู้สึกหน่วง วูบโหวง และเริ่มเจ็บแปลบตามลำดับ
ไม่คาดคิด คิดไม่ถึง ว่าจะได้ยินคำตอบแบบนี้ คำตอบที่ทำให้ความหวังของเขาพังครืนลงในพริบตา!
แค่คำว่าท้องคำเดียวก็แทบหยุดลมหายใจของเขาได้ หรือเขาผิดมาตั้งแต่ต้น ที่คิดจะรักผู้หญิงคนนี้
หญิงสาวยื่นมือข้างนึงไปจับมือคนตรงหน้า ใบหน้าซีดเซียวอาบไปด้วยหยาดน้ำตา คนถูกสัมผัสรับรู้ถึงอาการสั่นจากมือที่จับไว้ ในหัวคิดหาถ้อยคำมาปลอบโยนความเสียใจของเธอ แต่นึกยังไง คิดเท่าไหร่ ก็ไม่มีคำพูดใดหลุดออกจากปาก เวลาผ่านไปครู่ใหญ่ ต้าร์พยายามฝืนยิ้ม แต่ก็ยากเย็นเหลือเกินกว่าจะเค้นคำพูดออกมาได้
“ไม่เป็นไร บอกไม่ได้ ก็ไม่เป็นไร”
บอกออกไปแล้วก็คลี่ยิ้มจืดจางให้ มือที่ถูกจับไว้บีบกระชับแน่นอย่างจะบอกแทนคำพูดว่า
‘ไม่เป็นไร เขายังอยู่ตรงนี้’
“ต้าร์…เมขอโทษ เมขอโทษ”
น้ำเสียงสั่นเครือเอ่ยย้ำ น้ำตาไหลรินเป็นสาย
“ขอโทษทำไม เมไม่ได้ทำอะไรผิดนี่”
บอกเสียงเบา เบือนหน้าหนีกับภาพตรงหน้าด้วยไม่อยากมองหยดน้ำตาไหลอาบแก้มของหญิงสาวที่เฝ้าแอบชอบมานาน
“เมขอโทษที่เรียกต้าร์ออกมาฟังเรื่องแย่ๆ แต่เม…เมไม่มีที่พึ่งแล้วจริงๆ”
ได้ยินอย่างนั้น ต้าร์ก็หันกลับมามองคนพูด เธอยิ้มให้ทั้งน้ำตา ผละมือออกไป ก้มหน้าค้นหาของในกระเป๋า อึดใจต่อมา แผ่นกระดาษสีขาวใบนึงก็ถูกยื่นมาให้ ต้าร์มองมันอย่างไม่เข้าใจแต่ก็รับมาดู นัยน์ตากลมสั่นไหว เมื่อรู้ว่าแผ่นกระดาษในมือคือผลตรวจร่างกายจากโรงพยาบาล ผลตรวจที่บอกว่าผู้หญิงตรงหน้าเขา ตั้งท้องจริงๆ! ไล่สายตาอ่านทุกตัวอักษรอีกรอบ ตั้งใจอ่านมันอย่างช้าๆ ราวกับจะตอกย้ำความจริงกับตัวเอง
“เมไม่รู้จะทำยังไง ไม่รู้จะปรึกษาใคร พ่อแม่ก็แยกทางกันไปนานแล้ว แม่เลี้ยงเมเขาก็ไม่สนใจ ไม่เคยเห็นเมเป็นลูก เพื่อนที่โรงเรียนก็ไม่มีใครจริงใจกับเมสักคน เมไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร เมไม่เหลือใครแล้วจริงๆต้าร์”
หญิงสาวระบายความอัดอั้นตันใจ ทั้งความกดดันที่ต้องแบกรับไว้ พรั่งพรูให้อีกคนรับฟัง
ต้าร์ได้แต่นั่งนิ่งเงียบ ไม่รู้จะพูดอะไร ไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาช่วยปลอบประโลมอีกฝ่ายให้รู้สึกดีขึ้น เพราะลำพังตัวเองก็ยังเอาตัวไม่รอด มือที่ถือผลตรวจไว้นิ่งค้างอยู่อย่างนั้น จนเสียงเศร้าปนสะอื้นเอ่ยต่อ และถ้อยคำที่ได้ยินก็ทำเอาคนฟังช็อคเป็นรอบที่สอง!
“เมท้องกับพี่แซท”
ราวกับทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวหยุดนิ่ง แม้กระทั่งลมหายใจของตัวเอง ต้าร์หาเสียงตัวเองไม่เจอ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามือกำลังสั่น ไม่รู้ว่าใบหน้ากำลังแสดงอาการเจ็บปวดเสียใจมากแค่ไหน
“ความจริง เมรู้จักพวกเขามานานแล้ว ทั้งพี่แซท พี่ควิน”
นัยน์ตากลมที่อัดแน่นไปด้วยความเสียใจเบนกลับมามองคนพูด เผลอกัดปากตัวเองอย่างแรงจนเกิดรอยแดงช้ำ ความรู้สึกหวาดกลัวร้องบอกให้รีบลุกขึ้นแล้วเดินออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้ แต่ทว่าร่างกายเหมือนคนไร้กระดูก มันอ่อนปวกเปียกขยับเขยื้อนไม่ไหว ซ้ำยังหายใจติดขัด
“เราคบกันมานาน เมรักเขามาก แต่สุดท้าย เขาก็ทิ้งเม เหมือนกับที่ทิ้งผู้หญิงคนอื่น”
‘ไม่จริงใช่มั้ย?’
เสียงร้องค้านดังขึ้นในใจ ต้าร์เผลอส่ายหน้า ไม่อยากยอมรับว่าเรื่องที่ได้ยินเป็นเรื่องจริง แต่ผลตรวจยังอยู่ในมือ มันเป็นหลักฐานยืนยันจนไม่สามารถปฏิเสธได้
“ต้าร์ เมจะทำยังไงดี พี่แซทเขาทิ้งเมไปแล้ว”
มือบางยื่นมาเขย่าแขนคนตรงหน้า นัยน์ตาแดงก่ำเอ่อคลอไปด้วยน้ำตา
“เม…ท้องกับพี่แซทจริงๆเหรอ”
รู้ว่าไม่ควรถามแบบนี้ เพราะเหมือนเป็นการดูถูกว่าอีกฝ่ายพูดปด และยังเป็นการเหยียบย่ำศักดิ์ศรีลูกผู้หญิง แต่พอคิดถึงใบหน้าหล่อเหล่าและระยะเวลาที่ได้รู้จักกัน พี่แซทให้ความเอ็นดู อีกทั้งยังใจดี หยิบยื่นไมตรีให้ ทุกอย่างที่ได้รับจากเขา มันทำให้เชื่อได้ยากจริงๆ
“ต้าร์ไม่เชื่อที่เมพูดใช่มั้ย ใช่สิ ต้าร์คงเชื่อข่าวลือมากกว่าคำพูดเม”
หญิงสาวตัดพ้อทั้งน้ำตา
“ไม่ใช่อย่างนั้น ต้าร์ไม่ได้เชื่อข่าวลือ ต้าร์แค่…”
“แค่ไม่เชื่อว่าเมท้องกับพี่แซท ใช่มั้ย”
เอ่ยต่อประโยคให้ทั้งรอยยิ้มเศร้าก่อนยกมือปาดน้ำตาออก สูดหายใจแรง มองหน้าอีกฝ่ายด้วยสายตาแข็งกร้าว
“ต้าร์ไม่ต้องเชื่อเมก็ได้ แต่เมอยากบอกให้ต้าร์รู้ คนที่ปล่อยข่าวลือบ้าๆนั่นคือพวกเขาสองคน พี่แซทกับพี่ควินตั้งใจทำลายเม”
คนฟังเบิกตากว้างอย่างตกใจ มองคนพูดนิ่งงัน ไม่จริงใช่มั้ย ไม่จริงหรอก พวกเขาสองคนจะทำเรื่องแบบนี้ไปทำไม สร้างข่าวลือเสียหายทำลายคนอื่น พวกเขาทำได้จริงๆน่ะเหรอ ไม่…ไม่จริง
“ต้าร์คงยังไม่รู้สินะว่าเขาสองคนร้ายกาจมากแค่ไหน”
หญิงสาวเค้นยิ้ม นึกถึงเหตุการณ์ที่คอนโดฯวันนั้น ที่เธอถูกโยนออกมานอกห้องเหมือนสัตว์ตัวนึง!
“เพราะเมรักเขามาก ทั้งๆที่เขาทิ้งเมไปแล้ว แต่เมก็ยังตามตื้อ ขอร้องอ้อนวอนเขาให้กลับมาคบกันเหมือนเดิม แต่เขากลับขู่ว่าถ้าเมยังไม่เลิกยุ่งกับเขา ชีวิตเมได้ดิ่งลงเหวแน่ แล้วพวกเขาก็ทำได้จริงๆ”
คนฟังกำมือแน่น มุมกระดาษยับไปตามแรง พยายามยันตัวลุกขึ้นอย่างยากลำบอก ไม่อยากฟังแล้ว ทนฟังต่อไปไม่ไหวแล้ว นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน เรื่องบ้าบออะไร!
“ต้าร์/ต้าร์”
เสียงเรียกสองเสียงดังขึ้นพร้อมกัน เสียงนึงเป็นของหญิงสาวที่นั่งอยู่ แต่อีกเสียง…เจ้าของชื่อหันไปมองข้างหลัง นัยน์ตากลมสั่นไหวรุนแรงเมื่อเห็นชายหนุ่มร่างสูงยืนอยู่ตรงหน้า
“พี่ควิน”
-------------------------------------------------------------------
หลายคนเข้าใจผิดนะ หรือเค้าสื่อสารไม่ถูกต้อง
ที่บอกว่า 3 เดือน คือ ไม่ได้หายไปเลยนะคะ แต่อาจจะมาอัพช้า
อาจจะหายไปเป็นพักๆ แต่ยังอัพเรื่องให้อ่านกันอยู่
อยากเร่งปั่นให้พาร์ทอดีตจบเร็วๆ เพราะเห็นเริ่มบ่นกันว่าอยากอ่านพาร์ทปัจจุบันแล้ว
ใจเย็นนะคะ คนแต่งก็อยากกลับสู่พาร์ทปัจจุบันเร็วๆ แต่ต้องเคลียร์พาร์ทอดีตให้จบก่อน
เห็นบางคนรอฉาก...กัน ง่าาา ทำไมอ่ะ ฉากนั้นมันไม่น่ารอเลยนะจริงๆ
อยากบอกว่าอินโทรเปิดเรื่อง เป็นจุดบอดของเรื่องนี้เลย
ถ้าอินโทรไม่เปิดมาแบบนั้น เรื่องคงไม่จบ bad end อ่ะเนอะ
แต่ยังไง คนแต่งอยากบอกว่า ความรัก มันมีหลายรูปแบบ
บทสรุปของความรักก็มีหลายทางเช่นกัน อาจจะแฮปปี้ อาจจะอกหก เจ็บปวด สูญเสีย
สุดท้ายมันก็คือความรัก ไม่ว่าจะลงเอยในรูปแบบไหน
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นท์และการติดตามนะคะ ขอบคุณที่ยังติดตามอ่านกันอยู่
ขอบคุณจริงๆค่ะ