ต้าร์เม้มปากแน่น สูดลมหายใจเฮือกใหญ่แล้วค่อยๆหันกลับไปมอง นัยน์ตากระตุกวูบ
“พวกพี่จะทำอะไร”
ถามเสียงเบาพลางก้าวถอยหลังด้วยความหวาดกลัวกับท่าทีคุกคามของร่างสูง แซทแสยะยิ้มเดินเข้าหาเจ้าของห้องที่หน้าซีดเผือดพลางดึงเข็มขัดออกจากขอบกางเกงยีนโยนทิ้งอย่างไม่สนใจว่ามันจะไปกองอยู่ที่ทิศทางไหน
“บ้าไปแล้วเหรอไง!”
ตะโกนลั่น ตั้งท่าจะหันหลังวิ่งหนีแต่แรงโอบรัดจากแขนแกร่งตามมาเกี่ยวเอวไว้แน่น
“ปล่อยผม!”
ร้องพลางดิ้นพล่าน ใบหน้าซีดเผือดส่ายไปมาทั้งอาการตื่นกลัว เสียงหัวเราะแผ่วที่ข้างหูแม้เสียงจะเบาแต่กลับได้ยินชัดเจนราวกับร่างสูงจงใจให้ได้ยิน
“ปล่อยผมนะ! พี่ทำบ้าอะไร! ปล่อยผมเดี๋ยวนี้! ปล่อยสิ!”
แซทไม่สนใจอาการต่อต้านสุดกำลังของร่างเล็กในอ้อมแขน ชายหนุ่มเหวี่ยงคนฤทธิ์เยอะลงบนเตียงจนอีกฝ่ายจุกจนตัวงอก่อนจะตามไปคร่อมทับอย่างไม่เปิดโอกาสให้อีกฝ่ายได้พลิกตัวหนี มือใหญ่จับมือข้อมือเล็กทั้งสองข้างขึ้นเหนือศีรษะแล้วกดจนจมฟูกนุ่ม กันไม่ให้ร่างเล็กยกมือขึ้นทำร้ายกันอีก
บอกแล้วไงว่ากูให้โอกาสมึงแค่ครั้งเดียว!
“ออกไป! ออกไป!!!” ต้าร์ตะคอกใส่อย่างตื่นกลัวทั้งดิ้นพล่านหวังให้หลุดจากคนที่คร่อมตัวอยู่
แซทแสยะยิ้ม โน้มหน้าเข้าใกล้ใบหน้าเรียวเล็ก มองสบนัยน์ตาสั่นระริกนั้นแล้วกดริมปากลงบดเบียดกับริมฝีปากนุ่ม คนใต้ร่างเบิกตากว้างอย่างตกใจที่ถูกจู่โจมอย่างรวดเร็วและคิดไม่ถึงว่าเขาจะทำแบบนี้ ส่งเสียงประท้วงในลำคอทั้งส่ายหน้าแรงไม่ยอมให้อีกฝ่ายรังแกเอาตามแต่ใจ แต่ถึงคนตัวเล็กจะต่อต้านยังไงก็สู้แรงคนตัวใหญ่กว่าไม่ได้ ฟันคมขบริมฝีปากล่างจนได้กลิ่นคาวเลือด เจ้าของริมฝีปากบางร้องครางเพราะความเจ็บเผลอเผยอเรียวปากให้ลิ้นร้อนชื้นฉกเข้าไปหวานหาความหอมหวานในโพรงปาก ไล่รุกลิ้นเล็กที่ตั้งใจหลบหลีกันจนเจอแล้วเกี่ยวกระหวัดรัดตรึงจนคนฤทธิ์เยอะเริ่มอ่อนแรงลงปล่อยให้คนรุกไล่บดจูบอย่างรุนแรงอยู่อย่างนั้นจนพอใจ
“พี่เนส…พี่ครับ…ช่วยผมด้วย!”
ต้าร์ร้องเรียกพี่ชายเสียงแหบพร่าเมื่อปากบวมเจ่อทั้งยังห่อเลือดเป็นอิสระ รู้ว่าตัวเองไม่มีทางสู้ไหวก็ตอนที่คนด้านบนผละริมฝีปากออกไป นัยน์ตากลมเอ่อคลอไปด้วยหยาดน้ำใส นอนหอบหายในแรงอยู่ใต้ร่างสูงที่ยังคร่อมกายส่งรอยยิ้มร้ายกาจมาให้กัน
“พี่มึงไม่อยู่หรอก”
ต้าร์หันไปมองคนพูด ควินยืนอยู่ข้างเตียง เขากำลังปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตออกอย่างใจเย็น นัยน์ตาคมมองมาแล้วแสยะยิ้มให้ รอยยิ้มที่เชือดเฉือนหัวใจกันอย่างโหดร้ายที่สุด! น้ำตาไหลลงในวินาทีนั้น ต้าร์ร้องไห้ทั้งตัวที่สั่นเทิ้ม ที่พึ่งสุดท้ายที่หวังให้ช่วยเหลือกลับไม่อยู่
“ป…ปล่อยผมไป…ฮึก! อย่าทำอะไรผมเลย…”
ขอร้องเสียงสั่นทั้งน้ำตาที่ไหลรินอาบแก้มขาวเนียน แซทหัวเราะในลำคอ แทนคำตอบคือการกระทำที่ฉุดกระชากความหวังของคนใต้ร่างไปทั้งดวง!
“ปล่อยผม! ปล่อยผม!“
ต้าร์ร้องลั่นกับสัมผัสจาบจ้วงรุนแรงที่ดึงกระชากกางเกงนอนพร้อมทั้งปราการด้านในออกจากสะโพกก่อนที่มือหนาจะไล้ขึ้นมาถลกเสื้อขึ้นสัมผัสกับผิวเนื้อนุ่มนิ่มขาวจัดตั้งแต่หน้าท้องไล้ขึ้นไปถึงหน้าอกจนเป็นริ้วแดงขึ้นตามแรงที่ขย้ำลงบนผิวอ่อน
“ฮึก! ขอร้อง…ผมขอร้อง…ปล่อยผมไปเถอะ…”
ต้าร์สะอื้น ขอร้องทั้งน้ำหน้านองหน้า เจ็บกับสัมผัสที่หนักหน่วงรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ปลายนิ้วที่บดขยี้ลงบนหน้าอกยิ่งสร้างความเจ็บปวดปนกับความรู้สึกแปลกใหม่ให้กัน
“มันสายไปแล้ว”
แซทเค้นเสียงบอก มองคนที่ยังพยายามดิ้นสู้อยู่ใต้ร่างด้วยสายตาร้อนแรงเพราะตัณหาบุกยึดจิตใจไม่หลงเหลือความเมตตาไว้ให้คนที่ไร้ทางสู้
“ขอร้อง…ผมขอร้อง…อย่าทำแบบนี้”
ใบหน้าซีดเซียวส่ายไปมา น้ำใสรินไหลออกจากหางตาเป็นสาย เสียงยวบของฟูกนุ่มบอกให้รู้ว่ามีอีกคนที่ทิ้งน้ำหนักตัวลงมา
“พี่ครับ อย่าทำผมเลยนะ ผมกลัวแล้ว ฮือ…”
ต้าร์ปล่อยโฮอย่างอดกลั้นต่อไปไม่ไหว นัยน์ตาแดงก่ำมองสบสายตาคมของคนที่คร่อมตัวอยู่แล้วหันไปมองอีกคนที่นั่งเปลือยท่อนบนมองอยู่ข้างๆอย่างอ้อนวอนทั้งน้ำตาคลอเบ้า ตัวสั่นแรงขึ้นอย่างน่าสงสาร
กลัว…กลัวที่สุดในชีวิต!
“จำได้มั้ยว่าวันนั้นมึงทำอะไรไว้”
แซทถามเสียงเย็น กดแรงลงที่ข้อมือเล็กเมื่อคนใต้ร่างออกแรงดิ้นขึ้นมาอีก
“ผมขอโทษ ผมขอโทษ”
ต้าร์บอกรัวเร็ว แต่คนถามแสยะยิ้มแล้วผละมือที่ลูบไล้หน้าอกมาบีบคางเรียวไว้แน่น
“มาขอโทษวันนี้ ช้าไปหรือเปล่า”
“ผมผิดไปแล้วครับ ผมขอโทษ ขอโทษครับ ผมขอโทษ”
เสียงแหบพร่าพร่ำบอกหวังให้เขาใจอ่อนยอมปล่อยตัว แต่คนที่นั่งมองอยู่ข้างๆทำให้เจ้าของห้องช็อคกับสิ่งที่เห็น
ถุงยาง…กล่องถุงยาง!
ควินหยิบอุปกรณ์ป้องกันโยนให้เพื่อน แต่เพราะสองมือของแซทยังจับกุมข้อมือเล็กไว้และยังบีบคางเรียวอยู่มันเลยตกอยู่ข้างๆตัว
“จับมันไว้”
แซทหันไปบอกเพื่อนเพื่อที่จะผละออกไปใส่ถุงยางฯ ไม่สนใจว่าคนฟังใต้ร่างจะรู้สึกยังไง เสียงร้องไห้ดังและเสียงสะอื้นไม่ได้ช่วยให้ความสงสารบังเกิดขึ้นในใจของชายหนุ่ม
เพี๊ยะ!
ต้าร์ฟาดฝ่ามือเข้าใส่ใบหน้าของควินทันทีที่สองมือเป็นอิสระเมื่อเขาขยับเข้ามาใกล้และโน้มตัวลงมาจะจับข้อมือไว้ต่อจากเพื่อนของเขา ควินขบกรามแน่นจนได้ยินเสียงดังกรอด นัยน์ตาสีเฮเซลแข็งกร้าวตวัดมองร่างเล็กที่นอนร้องไห้จนตัวสั่นอยู่
“คนเลว! พวกพี่มันเลว!!!” ตะโกนด่าลั่นทั้งน้ำตาที่ไหลออกมาไม่หยุด
“เออ! กูมันเลว! กูจะให้มึงเห็นว่าคนเลวมันเป็นยังไง!”
ควินตวาดกลับด้วยความโกรธจัดแล้วคว้าข้อมือเล็กทั้งสองข้างกดลงบนฟูกด้วยแรงที่ทำให้คนหมดทางสู้นิ่วหน้าด้วยความเจ็บ ก่อนจะกระแทกจูบลงบนเรียวปากบางอย่างต้องการลงโทษเด็กดื้อที่กล้าทำร้ายร่างกายเขาเป็นครั้งที่สอง ฝ่ามือที่ฟาดลงบนใบหน้าเมื่อครู่เปรียบเสมือนน้ำมันที่ราดลงบนกองไฟให้โหมกระพือ ควินบดจูบทั้งดูดดื่มทั้งดุดัน ลิ้นร้อนก็ไล่ต้อนลิ้นเล็กให้เกี่ยวกระหวัดกันไว้อย่างชำนาญด้วยประสบการณ์ที่ผ่านกิจการบนเตียงมาอย่างโชกโชน จนร่างเล็กส่งเสียงครางประท้วงในลำคอชายหนุ่มจึงยอมถอนจูบออกมาให้เจ้าของเรียวปากแดงช้ำได้พักหายใจ
“ปล่อยผม! ปล่อยผม!!!”
ต้าร์ร้องพลางดิ้นพล่านขึ้นมาอีกแม้จะรู้ตัวว่าไม่มีทางสู้แรงพวกเขาได้ก็ตาม เสียงรูดซิปกางเกงดังขึ้นราวกับเสียงฟ้าผ่าเปรี้ยงในความคิดของเจ้าของห้อง ต้าร์หันไปมองคนที่คร่อมตัวอยู่แล้วก็ต้องสะอื้นดังกับสิ่งที่เห็น
“มึงจะดิ้นให้เหนื่อยทำไม ครางเสียงหวานๆให้พวกกูฟังดีกว่า”
แซทว่าเสียงหยันพลางกระตุกยิ้มร้ายหลังจากใส่ถุงยางฯเสร็จ ต้าร์ร้องไห้ดังพลางส่ายหน้าแรงมือที่ถูกจับรวบไว้เหนือศีรษะสั่นเพราะความกลัวกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น
“ขอร้อง…ผมขอร้อง…ฮือ…”
แซทปัดความรู้สึกสงสารออกไปจากใจเมื่อมองช่วงตัวขาวเนียนใต้ร่างกระเพื่อมไหวรุนแรง ชายหนุ่มสะบัดหัวไล่ความคิดแล้วโถมตัวเข้าใส่ร่างเล็ก ตะบมฝ่ามือใหญ่ลงบนสะโพกเปลือยเปล่าแล้วบีบเคล้นเคล้าคลึงด้วยแรงปรารานาทั้งหมดของหัวใจ กลิ่นกายหอมเฉพาะตัวของเด็กหนุ่มยิ่งปลุกอารมณ์ดิบให้ลุกโหม ควินเพิ่มแรงกดที่ข้อมือเล็กเมื่อเจ้าตัวเริ่มออกแรงต่อต้านด้วยการดิ้นรน
“อย่า…อย่าทำอะไรผมเลย”
เสียงวอนขอดังขึ้นพร้อมเสียงร้องไห้แต่ก็ไม่มีใครสนใจ แซทก้มหน้าลงซุกไซร้ซอกคอขาวอย่างหื่นกระหายมือใหญ่ก็ตะโบมลูบไล้สะโพกกลมกลึงแล้วไล้ลงไปที่ต้นขาขาวเนียนก่อนค่อยๆจับแยกเรียวขาเล็กออกกว้างแทรกตัวลงตรงกลางหว่างขา แม้เจ้าของร่างจะออกแรงต่อต้านดิ้นพล่านยังไงก็ไม่สามารถสู้สองมือใหญ่ที่จับกดหัวเข่าไว้ไม่ให้ขยับ
“อย่า…อย่าทำ…หยุด…ฮึก! หยุดเดี๋ยวนี้”
ส่ายหน้าทั้งน้ำตาเมื่อสัมผัสได้ว่านิ้วมือของคนที่คร่อมตัวอยู่คลืบคลานเข้ามาใกล้ช่องทางด้านหลัง จมูกโด่งและริมฝีปากที่ขบเม้มสร้างรอยไว้ที่ลำคอถอยห่างออกไปทำให้ร่างเล็กผวาเฮือก
“อ๊า!”
เสียงร้องครางอย่างเจ็บปวดดังลั่นห้องพร้อมกับอาการเกร็งตัวของคนที่ถูกล่วงล้ำด้วยนิ้วเรียวยาวที่สอดแทรกเข้ามาภายใน รู้สึกเจ็บร้าวราวกับมีเข็มนับพันเล่มทิ่มแทงลงบนผิวกาย ควินมองใบหน้าหวานชื่นเหงื่อนิ่วหน้าด้วยความเจ็บก็โน้มหน้าลงจูบที่ข้างแก้มเนียนอย่างปลอบประโลมหวังบรรเทาความเจ็บปวดให้ แต่จมูกโด่งกลับแตะถูกหยดน้ำตา ใบหน้าคมผละออกราวกับแตะต้องของร้อน
“ฮึก!”
เสียงสะอื้นดังจนคนมองใจกระตุก ควินโน้มหน้าเข้าหาอีกครั้งแล้วค่อยๆกดจูบลงบนเรียวปากนุ่มที่เม้มแน่นจนแทบเป็นเส้นตรงบังคับให้เจ้าตัวคลายแรงแล้วเปิดปากให้สอดลิ้นร้อนเข้าไปเก็บเกี่ยวความหอมหวานภายใน ร่างเล็กตัวสั่นเกร็งเจ็บปวดกับสิ่งแปลกปลอมที่ล้วงลึกทั้งยังขวานไปทั่วก่อนที่จะถอนนิ้วออกไปแล้วแทรกกลับเข้ามาใหม่พร้อมจำนวนนิ้วที่เพิ่มเข้ามาอีก เจ็บจนร้องไม่ออกเมื่อนิ้วเรียวยาวทั้งยังร้อนผ่าวขยับเข้าออกอยู่อย่างนั้น เสียงในลำคอดังอื้ออึงเพราะจูบที่เพิ่มแรงบดเบียดมากขึ้น แต่สัมผัสต่อมาก็ทำให้ทั้งร่างกระตูกวาบดวงตาเบิกโพลง ควินถอนปากออกไปเมื่อรับรู้ว่าคนที่จูบอยู่เกร็งตัวแข็งทื่อ น้ำตาไหลออกมาเป็นทางจนเปียกผ้าปูเตียงเป็นดวง
“เจ็บ…ผมเจ็บ ฮึก! อย่าเข้ามา อย่าทำผมเลย ผมขอร้อง ผมผิดไปแล้ว”
น้ำเสียงเจ็บปวดบอกอย่างอ่อนแรง ร่างกายสั่นไหวไปตามแรงกระแทกกระทั้นกายเข้าออกเป็นจังหวะหนักหน่วงของคนเบื้องบน แรงที่กดทับอยู่ที่ข้อมือเล็กคลายออกแล้วผละออกไปในที่สุด เมื่อสองมือเป็นอิสระไร้พันธนาการผู้เป็นเจ้าของก็จับกำผ้าปูเตียงไว้แน่นจนมันยับย่นอยู่ในอุ้งมือชื้นเหงื่อ
แซทมองใบหน้าหวานแหงนเงยขึ้นสูง เปลือกตาบางปิดแน่นอีกทั้งริมฝีปากที่เม้มจนเป็นเส้นตรงคล้ายอาการของคนที่ข่มกลั้นความเจ็บปวดไว้สุดกำลัง ชายหนุ่มกระแทกตัวเข้าหาถี่รัวก่อนทอดถอดกายออกมาให้เพื่อนรับช่วงต่อ
ควินก้มหน้าลงจูบไล้แผ่วเบาที่หน้าท้องแบนราบ ค่อยๆจูบไล้ขึ้นไปที่หน้าอกบางแล้วไปหยุดซุกไซร้จมูกกับซอกคอหอมกรุ่น ขบเม้มสร้างรอยแดงช้ำเป็นจ้ำๆอย่างถือสิทธิ์ความเป็นเจ้าของในตัวเด็กหนุ่มแล้ววางสองมือร้อนผ่าวลงบนสะโพกผาย แรกเริ่มลูบไล้เพียงแผ่วเบาก่อนจะเพิ่มแรงเคล้นจนคนใต้ร่างบิดตัวเร้า ผิวกายขาวจัดนุ่มนิ่มไปทุกสัดส่วนปลุกความกระหายอยากให้ต้องรีบประคองแกนกายเข้าสู่ความอบอุ่นแต่รัดตรึงกลืนกินตัวตนจนสุดความยาวให้ต้องร้องคำรามออกมาอย่างเสียวซ่านทุกอณูความรู้สึกที่ได้รับจากเรือนกายหอมหวาน ชายหนุ่มโถมแรงเข้าใส่ด้วยจังหวะหนักหน่วงราวกับคนไม่เคยได้ปลดปล่อยอารมณ์ดิบออกมาเนิ่นนาน
“อ๊ะ!...อ๊า…”
ยิ่งพอได้ยินเสียงครางกระเส่า ชายหนุ่มก็ยิ่งเร่งจังหวะกระแทกกระทั้นเข้าใส่ราวกับเสียงหวานที่ได้ยินเป็นแรงผลักดันชั้นยอด นัยน์ตาสีเฮเซลมองลึกเข้าไปในดวงตากลมใสแล้วโน้มหน้าลงจูบกับริมฝีปากนุ่มสีสด ไล้เล็มผิวเนื้ออ่อนนิ่มแผ่วเบาอย่างต้องการแก้ตัวที่กระแทกจูบใส่เด็กหนุ่มไปก่อนหน้า แต่ช่วงล่างยังส่งความแข็งแกร่งเข้าไปในร่างกายของคนตัวเล็กเป็นจังหวะที่ร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีอันตรธานหายไป เหลือไว้แต่ราคะที่ครอบง่ำพื้นที่จิตใจ สัมผัสร้อนๆที่ไหลซึมออกมาทำให้ตาคมกระตุกวูบ สีแดงเข้มของเลือดสดๆทำให้ชายหนุ่มต้องรีบถอนจูบพร้อมกับผละตัวออกห่าง
แซทขึ้นมาคร่อมทับร่างเล็กอีกรอบด้วยความกระสันของอารมณ์ที่เดือดพล่าน ยิ่งได้สัมผัสชิดใกล้ ยิ่งได้สอดตัวลึกเป็นหนึ่งเดียวกัน ก็เหมือนร่างกายถูกดึงดูดไว้ด้วยกลิ่นกายหอมหวาน ชายหนุ่มยื่นมือข้างนึงออกไปดึงมือที่กำผ้าปูเตียงไว้แน่นให้คลายออกแล้วสอดประสานไว้ ส่วนมืออีกข้างก็จับเชยคางเรียวขึ้นแล้วกดจูบดูดดื่มลงบนเรียวปากบาง สอดแทรกปลายลิ้นเข้าไปในโพรงปากหอมหวาน รุกไล่เกี่ยวกระหวัดกับลิ้นเล็กที่หลบหลีกัน คิ้วเข้มขมวดเมื่อใบหน้าหวานส่ายไปมาทั้งยังส่งเสียงในลำคอคล้ายจะประท้วง ชายหนุ่มเลื่อนมือไปลูบไล้เรียวขาขาวแล้วกระแทกตัวตนเข้าใส่ร่างเล็กด้วยแรงที่มีทั้งหมด
“อ๊า!”
เสียงหวีดร้องดังก้อง แซทเร่งจังหวะจนร่างเล็กตัวสั่นคลอนไปตามแรง
“เจ็บ…ผมเจ็บ ฮึก!”
ได้ยินเสียงแหบพร่า แซทก็มองสบนัยน์ตาแดงก่ำ รับรู้ว่าเจ้าตัวกำลังขอความเมตตา หากแต่อารมณ์ดิบที่ถูกปลุกจนเตลิดไปไกลยากจะมอดดับ เขาเลยมองเมินกับสิ่งที่เห็นไป
“เปลี่ยนท่าสิวะ มึงเห็นไหมว่าตัวมันช้ำหมดแล้ว”
ควินที่ยืนสูบบุหรี่อยู่หันมาบอกเพื่อนเสียงแข็ง
“มันช้ำเพราะมึงไม่ใช่เหรอไง ไอ้เหี้ย มึงเล่นขย่มมันจนหมดแรง คราวนี้ทีกู มึงอย่ามาเสือก หุบปากเงียบๆไปเลย”
แซทว่ากลับ ความปรารถนาในตัวเด็กหนุ่มเหนือการควบคุมทำให้เผยตัวตนที่แท้จริงออกมาจนหมด ชายหนุ่มถอนตัวออกมาแล้วขยับนั่งก่อนจะสอดแขนแกร่งเข้าใต้แผ่นหลังเปล่าเปลือยให้ลุกขึ้นมานั่งบนตัก ตะบมมือลงบีบเคล้นสะโพกผายแล้วดันร่างเล็กที่อ่อนระโหยโรงแรงขึ้นสูงบังคับให้อีกฝ่ายลดตัวลงมาตอบรับตัวตนของเขาเข้าไปในร่างกาย หยดน้ำตาไหลลงบนอก แซทมองสบสายตาตัดพ้ออย่างไม่สนใจ มือใหญ่เคล้นคลึงสะโพกหนักหน่วงกระตุ้นเร่งเร้าให้คนด้านบนขยับตัวไปตามจังหวะที่เขาชักนำ มืออีกข้างยกขึ้นบีบท้ายทอยดึงให้ใบหน้าหวานก้มลงมารับจูบดูดดื่ม ฟันคมขบกัดกับผิวเนื้ออ่อนนิ่มจนได้เลือดอีก
“น้อยๆหน่อยมึง กูยังไม่เล่นปากมันจนได้เลือดนะโว้ย”
“แล้วเลือดที่ไหลออกจากรูนี่อะไร สันดาน เงียบไปเลย กูบอกให้มึงหุบปาก”
แซทด่าเพื่อนอย่างหงุดหงิดที่ถูกขัดอารมณ์พอดีกับที่ร่างเล็กเอนตัวซบลงมาบนบ่า ชายหนุ่มสวนแกนกายเข้าใส่จนคนบนตักไหวคลอนไปตามแรง
“โคตรฟิตเลยวะ มึงหยิบคอนดอมให้กูหน่อยดิ”
แซทหันไปบอกเพื่อนด้วยใบหน้าบิดเบี้ยวเพราะอารมณ์ที่พุ่งขึ้นใกล้จะปลดปล่อย
“ไอ้สัด มึงเหงี่ยนมากหรือไง”
ควินด่ากลับพลางพ่นควันบุหรี่ออกมากลุ่มใหญ่
“เออ! อย่าพูดมาก ของกูมันเหลือถุงสุดท้ายแล้วในกล่อง”
ควินแสยะยิ้มร้ายให้เพื่อนแล้วเดินไปทิ้งมวนบุหรี่ใส่ในกระถางต้นไม้ประดับบนโต๊ะญี่ปุ่นมุมห้องแล้วเดินกลับมาหยุดอยู่ข้างเตียง
“แลกกับค่าเหนื่อยกู มึงจับมันนอนคว่ำดิ กูจะให้มันออรัล”
“มึงแม่งเหี้ยวะ รีบไปหยิบมาให้กูเร็วๆเลย”
เมื่อตัณหาครอบครองจิตใจบวกกับสันดานดิบในตัวฉุดรั้งสติสัมปชัญญะของความดีและความเมตตาออกไปจากใจ เหลือไว้เพียงกามารมณ์ ในส่วนลึกของจิตใจแม้รู้ว่าสิ่งที่ทำลงไปมันผิด แต่สุดท้ายก็ผ่ายแพ้ให้กับความคึกคะนองของอารมณ์เถื่อน ยอมให้ตัณหาและความอยากเข้าครอบงำสำนึกนำ
เมื่อได้สัมผัส เมื่อได้ครอบครอง เมื่อได้หลอมรวมเป็นหนึ่ง
แม้หยดน้ำตา แม้เสียงร่ำไห้ แม้สายตาตัดพ้อ…ก็ไร้ความหมาย
------------------------------------------------------------------------
กระดึ้บหนีออกจากเล้า
แต่งเอง กลัวเอง กว่าจะทำใจลงได้ อ่านทวนแล้วอ่านทวนอีก
ปั่นตอนนี้ต้องย้อนกลับไปอ่านอินโทรเปิดเรื่องประกอบเพราะมันเป็นเหตุการณ์เดียวกัน
พออ่านแล้วก็ค้นพบว่า "ทำไมมันโหดร้ายจังวะ"
แล้วมาถามตัวเองว่า "ตรูทำอะไรลงไป"
คำบรรยายว่าสลดใจแล้ว บทสนทนาของสองหนุ่มยิ่งเถื่อนกว่า
ว๊ากกกกกก!!!
ขอโทษนะคะ ขอโทษจากใจถ้าเรื่องนี้จะทำให้ความรู้สึกของคนอ่านแย่
และมันจะแย่กว่านี้แน่เมื่อถึงตอนจบ
(ยืนกางแขนน้อมรับทุกคำด่า)
ขอบคุณสำหรับคอมเมนท์ ขอบคุณสำหรับการติดตาม ขอบคุณจริงๆจากใจ