HEARTBREAKER
42
(80%)
ควันบุหรี่ลอยปนไปกับมวลอากาศและค่อยๆจางหายไปในที่สุด แต่กลิ่นยังคงติดตัวคนสูบไม่หาย นัยน์ตาสีเฮเซลสงบนิ่งหากยังแฝงความสับสน ชายหนุ่มระบายลมหายใจพร้อมกับควันพิษแล้วหลับตาลงอย่างเหนื่อยล้ากับปัญหาใหญ่หลวงที่ตนเองเป็นคนก่อ เสียงร้องไห้คร่ำครวญและเสียงวอนขอแหบพร่าของคนที่หลับสนิทอยู่ในห้องยังดังก้องอยู่ในความทรงจำ เสียงใสๆที่เคยเรียกชื่อกัน กลับกลายเป็นเสียงร้องห้ามปนสะอื้น…ราวกับจะขาดใจ ไม่กล้าถามว่าเจ็บไหมกับสิ่งที่ยัดเยียดให้ เพราะหลักฐานที่ได้เห็นกับตามันชัดเจนโดยไม่ต้องมีคำตอบ ร้องไห้จนไม่มีน้ำตาจะไหล เสียงร้องครางที่ดังเกือบค่อนคืนก็แหบพร่าจนไม่มีเสียงจะร้องต่อ ร่างกายบอบบางถึงขั้นสลบไป เพราะไม่ได้แข็งแรงพอที่จะรองรับอารมณ์ดิบเถื่อนของผู้ชายร่างสูงถึงสองคน
“หมดยังวะ ขอมั้งดิ” แซทเอ่ยขอบุหรี่พลางเดินมาหยุดอยู่ข้างๆเพื่อน
แซทที่กำลังยืนคิดอยู่หันมามองแล้วส่งซองบุหรี่ให้พร้อมกับไฟแช็ค
“ตื่นยัง” ควินถามถึงคนในห้อง ตาก็มองไปที่ประตู
“ยัง”
แซทตอบเสียงเรียบ พ่นควันพิษออกจากปาก ยกมือข้างที่ว่างเสยผมอย่างหงุดหงิดกับอารมณ์ที่ไม่คงที่ของตัวเอง ยิ่งคิดถึงคนที่นอนหลับสนิทอยู่บนเตียงความรู้สึกทั้งดีและแย่ก็ตีกันยุ่ง รู้สึกดีที่ได้ครอบครอง แต่ก็รู้สึกแย่กับสิ่งที่ทำลงไป พอสติคืนกลับมาก็ตอนที่เห็นว่าอีกฝ่ายสลบไปคาอกทั้งๆที่กำลังสอดใส่อยู่บนตัว มารู้ว่าร่างบางๆนั้นบอบช้ำมากแค่ไหนก็ตอนที่ได้เช็ดตัวเปลี่ยนชุดใหม่ให้ ผิวขาวจัดเต็มไปด้วยรอยกัด ทั้งขบเม้ม ดูดเป็นจ้ำแดงเกือบทั่วตัวไล่ตั้งแต่ลำคอลงมาถึงต้นขาเรียว ที่ริมฝีปากบางก็มีรอยแตก ข้อมือเล็กช้ำเป็นรอยนิ้วกำรอบอย่างชัดเจน เพิ่งรู้เต็มตาก็วันนี้ว่าร่างโปร่งบางที่มักจะเห็นจนชินตาในชุดนักเรียนม.ปลาย เวลาที่เปลือยเปล่าไม่มีเสื้อผ้าปกปิดจะดูผอมบางขนาดนั้น แม้แต่เอวยังคอดเล็กเหมือนผู้หญิง ผิวที่ขาวจัดแค่ถูกจับยังเป็นรอยแดง แต่นี่ทั้งถูกบีบเคล้นคลึงไปเต็มฝ่ามือ เต็มอารมณ์ที่โหมเข้าใส่ไม่ยั้ง เลยกลายเป็นช้ำแดงเป็นจ้ำๆ เยอะสุดก็เป็นตรงสะโพก ต้นขา และหน้าอก
“เหี้ยเอ้ย!”
แซทสถบออกมาอย่างหงุดหงิดอย่างไม่รู้ว่าจะจัดการกับความรู้สึกตอนนี้ยังไง ควินมองเพื่อนแล้วส่ายหน้าหน่ายๆก่อนหันหลังตั้งใจจะเดินกลับเข้าห้องไปดูอาการเด็กหนุ่ม แต่เสียงเบรกดังเอี๊ยดของรถยนต์ดังมาจากหน้าบ้านทำให้สองขาหยุดชะงักแล้วหันไปมองอย่างสงสัย
“ไอ้เนส” แซทเอ่ยชื่อเพื่อนออกมาเบาๆด้วยคาดไม่ถึงว่าจะได้เจออีกฝ่ายในเวลานี้!
“น้องกูอยู่ไหน! พวกมึงทำอะไรน้องกู!!”
เจ้าของบ้านวิ่งขึ้นบันไดมาด้วยสีหน้าโกรธเกรี้ยว ตะคอกถามเพื่อนที่กำลังจะกลายเป็นอดีต มือบางกำแน่นจนเส้นเลือดปูนนูน
“เนส พูดเบาๆก็ได้ มึงจะตะโกนทำไม”
ร็อคที่วิ่งตามหลังมาหยุดยืนอยู่ข้างๆ
“มึงอย่าเสือก! หุบปากไปเลย!!” หันไปตวาดใส่ นัยน์ตาวาวโรจ
ควินกับแซทยืนนิ่ง ไม่ยอมตอบคำถาม เจ้าของบ้านเห็นท่าทางนิ่งๆนั้นก็ยิ่งโกรธถลาเข้าใส่แล้วเงื้อหมัดขึ้นชกเข้าที่สันกรามของแซทเต็มแรงจนร่างสูงเซถอยหลัง ร็อคจะเข้าไปดึงตัวไว้แต่ก็ถูกสายตาดุปราม นัยน์ตากลมใสแดงก่ำ
“อย่ามาห้ามกู!” เนสหันกลับไปตวาดใส่ แล้วหันมามองควินกับแซทที่ยังยืนนิ่ง ไม่ยอมพูดจา
”ถ้าน้องกูเป็นอะไรไป” นัยน์ตาวาวโรจสั่นไหวมองร่างสูงตรงหน้าเรียงไปทีละคน “กูจะฆ่าพวกมึงทุกคน!!!” ตะโกนลั่น ตัวสั่นเพราะโทสะที่กักเก็บมาตลอดคืน
ตุ๊บ!
เสียงดังอยู่ในห้องทำให้เนสสะดุ้งหันไปมองประตู รู้สึกใจคอไม่ดีทั้งยังวูบโหวงทั้งๆที่ไม่รู้ว่าเสียงนั้นเกิดจากอะไร และก่อนที่ควินกับแซทจะทันได้ขยับตัว เนสก็พุ่งตัวไปเปิดประตูห้องออกทันที เพราะไม่ได้ล็อค ประตูเลยเปิดได้อย่างง่ายดาย แต่ภาพที่เห็นในห้องของน้องชาย กลับทำให้คนเป็นพี่แทบช็อคทั้งยืน!
“ต้าร์…”
คนเป็นพี่ครางชื่อน้องชายพร้อมกับหยดน้ำตา ก่อนเดินเข้าไปหาร่างเล็กที่นั่งชันเข่าอยู่ที่พื้นข้างเตียง สองแขนที่มีรอยแดงช้ำยกขึ้นโอบกอดตัวเองแน่น ทั้งตัวสั่นเทิ้ม ใบหน้าหวานไม่ได้เงยให้เห็นแต่กลับก้มงุดอยู่กับเข่า แต่เสียงร้องไห้เบาๆที่ลอดออกมาก็ทำให้เนสแทบทรุดก่อนจะเดินถึงตัวน้อง
“ต้าร์”
เอ่ยเรียกเสียงแผ่วพร้อมนั่งคุกเข่าลงตรงหน้าน้องชาย ยื่นมือสั่นๆออกไปเตะไหล่เล็กแต่คนถูกสัมผัสกลับผวาเฮือกกระถดตัวหนีอย่างหวาดกลัว
“ต้าร์…นี่พี่ไง พี่เอง”
เนสบอกทั้งน้ำหน้าเอ่อคลอแล้วขยับเข้าหา แต่น้องก็ยิ่งผวาถอยหนี
“ก…กลัว…กลัวแล้ว อย่าเข้ามา…”
เสียงสั่นพร่าที่บอกออกมาให้ได้ยินทำให้คนเป็นพี่ปล่อยโฮแล้วโผเข้ากอดน้องไว้แน่น
“ฮือ…อย่า…ออกไป…ออกไป”
คนถูกกอดสะดุ้งเฮือก ลนลานพลางร้องไห้ฟูมฟายทั้งยังส่ายหน้าแรง สองแขนที่กอดตัวเองไว้แน่นบีบต้นแขนตัวเองซ้ำรอยช้ำเดิมที่ได้รับจากพายุอารมณ์ของสองหนุ่มที่ยืนอึ้งทำอะไรไม่ถูกอยู่นอกประตู
“ต้าร์ นี่พี่เอง พี่เนสของต้าร์ไง นี่พี่เอง”
เนสพร่ำบอก น้ำตาไหลอาบแก้มจนหยดลงถูกเส้นผมนุ่มของน้อง
“ฮือ…อย่าทำอะไรผมเลย ขอโทษ…ผมขอโทษ”
ต้าร์ไม่รับรู้ ไม่รับฟัง สติพร่าเลือนจดจำได้เพียงการกระทำป่าเถื่อนของคนที่ทำร้ายกัน
“พี่อยู่นี่ต้าร์ ฮึก! พี่อยู่นี่” เนสบอกทั้งเสียงสะอื้น กอดรัดตัวน้องไว้แนบอก
“ขอร้อง…ปล่อยผมไป…ปล่อยผม”
เนสกัดฟันแน่น นัยน์ตาแดงก่ำหลับลงอย่างเจ็บปวดกับสภาพของน้องชาย ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าน้องถูกพวกมันทำระยำอะไรไว้ ไม่ต้องถามก็รู้ได้ด้วยตาตัวเอง อาการหวาดกลัวของน้องยิ่งสะท้อนให้คนเป็นพี่เจ็บปวดแทบขาดใจ!
“เนส รีบพาต้าร์ไปโรงบาลก่อน เรื่องอื่นค่อยว่ากัน” ร็อคที่ยืนมองอยู่ข้างหลังเอ่ยขึ้น
“เพราะพวกมึง เพราะพวกมึง” เสียงแผ่วเบาเอ่ยออกมาราวกับคนละเมอ เนสสะอื้นจนตัวโยน ค่อยๆหันหน้ากลับมามองข้างหลัง
“ทำน้องกูทำไม”
คำถามตรงๆแต่ทำให้คนก่อเหตุสะอึกนิ่งอึ้งไปกับเหตุการณ์ตรงหน้า
“เนส”
ร็อคเรียกคนรักเสียงเบาด้วยความสงสารจับใจ ขยับเข้าไปใกล้ทรุดนั่งลงข้างๆแล้ววางมือบนบ่า บีบเบาๆให้คนที่กำลังเสียใจอย่างหนักมีสติกลับคืนมา
“พาน้องไปโรงบาล เดี๋ยวกูขับรถไปส่ง” ร็อคบอกแล้วพยักหน้าสำทับ
เนสปล่อยให้น้ำตาไหลทะลักออกมาอย่างไม่อายสายตาใคร สองแขนยังโอบกอดน้องไว้แน่นไม่ยอมปล่อย เสียงร้องไห้ทั้งแรงสะอื้นของน้องยังดังให้ได้ยิน
“ต้าร์…มองพี่หน่อยสิ เงยหน้ามามองพี่หน่อย”
เนสบอกพลางคลายแรงกอดรัดแล้วจับแขนเล็กออกจากเข่า ต้าร์ส่ายหน้าไม่ยอมปล่อย กระถดตัวหนีอิงแอบจนตัวติดกับขอบเตียง
“ต้าร์ ไม่ต้องกลัว นี่พี่เอง”
เนสยังพยายามบอกด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน พยายามฟื้นยิ้มให้น้องทั้งๆที่น้ำตายังไหล ยื่นมือไปขยี้ผมน้องเบาๆอย่างที่ชอบทำเวลาที่ต้องการปลอบโยนหรืออยากให้น้องหายโกรธ หายงอน
“พี่…” สัมผัสคุ้นเคยค่อยๆแทรกซึมเข้าไปในความรู้สึกของต้าร์ “พี่ครับ” ค่อยๆเงยหน้าขึ้นมอง
เนสยิ้มทั้งน้ำตา โผเข้ากอดน้องอีกรอบ โยกตัวสั่นเทิ้มแนบอกเบาๆ
“ครับ พี่เอง” เอ่ยตอบเสียงนุ่มแล้วโน้มหน้าแนบหน้าผากกับน้อง ค้างนิ่งอยู่ครู่นึงก็ผละออก
ต้าร์ปล่อยโฮเมื่อรับรู้เต็มสัมผัสว่าคนที่กอดตัวเองอยู่คือพี่ชายแท้ๆ พี่ชายเพียงคนเดียว ปล่อยสองแขนเล็กออกจากเข่าแล้วกอดตอบพี่ชายไว้แน่น ซุกใบหน้าเปื้อนน้ำตากับอกพี่ ปล่อยเสียงสะอื้นหนักๆอย่างอ่อนแรง
“พี่ครับ…ทำไมมาช้า ฮึก!...พี่หายไปไหนมา”
คำถามของน้องทำให้เนสกัดปากตัวเองแน่นจนห่อเลือด หลับตาลงแล้วยกมือขึ้นกดหัวน้องแนบอก
“ขอโทษครับ…พี่ขอโทษ…พี่ขอโทษ”
เนสบอกย้ำอย่างเจ็บปวดก่อนจับไหล่น้องดันออกห่างแล้วไล้ปลายนิ้วเช็ดน้ำตาออกให้ ไม่มีอีกแล้วนัยน์ตากลมโตใสแจ๋วที่แฝงเร้นความซุกซน ไม่มีอีกแล้วรอยยิ้มหวานสดใสที่สร้างความสุขให้ทุกครั้งที่เห็น น้องชายที่ร่าเริงของเขา…ไม่มีอีกแล้ว ยิ่งมองริมฝีปากแห้งแตกของน้องก็ยิ่งรู้สึกปวดแปลบในใจ
แค่น้องคนเดียว…ยังปกป้องไม่ได้
ต้าร์สะอื้นจนตัวโยนแล้วเอนซบพี่ชายด้วยความเหนื่อยล้า เปลือกตาบวมช้ำค่อยๆปิดลงพร้อมกับแรงสั่นของตัว เนสชะงักที่น้องนิ่งไป ลองวางมือบนไหล่แล้วเขย่าเบาๆแต่ก็ไร้ปฏิกิริยาตอบกลับ พอสองมือประคองใบหน้าเปื้อนน้ำตาออกจากอก คนเป็นพี่ก็แผดเสียงดังลั่นด้วยความตกใจ
“ต้าร์! ต้าร์!!”
สองหนุ่มที่ยืนนิ่งเงียบอยู่นอกประตูเพิ่งเรียกสติกลับคืนมาได้รีบพุ่งเข้าห้อง แต่ยังช้ากว่าเจ้าของบ้านที่โอบอุ้มน้องชายซึ่งหมดสติไปขึ้นแนบอกแล้วเดินผ่านหน้าไปราวกับพวกเขาไม่มีตัวตน
“พาไปโรงบาลลุงกู” ควินบอกร็อคเสียงเบาขณะที่อีกฝ่ายกำลังก้าวตามหลังเจ้าของบ้าน
ร็อคหันมามอง พยักหน้าแทนคำตอบแล้วรีบเดินตามเนสไป ทิ้งให้เพื่อนสองคนยืนนิ่งอยู่ในห้อง
“ไอ้เนสไม่ยอมให้เข้าใกล้น้องมันแน่”
แซทบอกเสียงเรียบพลางยกสองมือของตัวเองขึ้น จ้องมองมันด้วยความรู้สึกจุกเสียดที่หน้าอกแล้วลูบหน้าตัวเองช้าๆ ควินฟังเพื่อนแล้วก็ได้แต่ยิ้มหยัน ก็สมควรอยู่หรอกที่จะไม่ให้เข้าใกล้ คงไม่มีพี่ชายสติดีคนไหนยอมให้คนที่ทำร้ายน้องตัวเองได้เข้าใกล้น้องอีกเป็นครั้งที่สอง ใบหน้าเคร่งเครียดส่ายไปมาเมื่อภาพที่ร่างเล็กนั่งซุกหน้ากับเข่ากอดตัวเองไว้แน่นทั้งยังตัวสั่นด้วยความหวาดกลัวฉายชัดขึ้นมาอีกทั้งๆที่เพิ่งได้เห็นไปเมื่อครู่นี้ ราวกับมันจะย้ำเตือนถึงความผิดบาปที่ได้ทำลงไป
“กูจะไปโรงบาล ให้ลุงหมอช่วยดูอาการต้าร์” ควินบอกเพื่อนแล้วเดินเร็วออกจากห้อง
“กูไปด้วย” แซทร้องบอก เดินตามหลังไปด้วยสภาพจิตใจที่หดหู่
*************************************************
เนสเดินวนอยู่หน้าห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลเอกชน ใบหน้าเปื้อนคราบน้ำตาดูอิดโรยจนคนที่อาสาขับรถพามาส่งมองตามด้วยความเป็นห่วง สองมือที่โอบประคองน้องชายมาตลอดทางจนกระทั่งส่งตัวน้องขึ้นเตียงให้บุรุษพยาบาลเข็นเข้าห้องฉุกเฉินไปยังคงสั่นเพราะความหวาดกลัวกับอาการหมดสติไปของน้อง
“เนส นั่งก่อน น้องไม่เป็นอะไรหรอก ถึงมึงหมอแล้ว”
ร็อคบอกเสียงอ่อนด้วยความเป็นห่วงสภาพร่างกายอีกฝ่าย ทั้งช็อค ทั้งตกใจ ทั้งเสียใจ ทั้งหวาดกลัว ทุกความสึกแย่ๆถาโถมเข้าใส่ ยังมีแรงยืนอยู่ไหวก็นับถือในความเข็มแข็งแล้ว แม้นัยน์ตาแดงก่ำนั้นจะยังมีน้ำตาเอ่อคลออยู่
เสียงวิ่งดังมาให้ได้ยิน ร็อคหันไปมองก็เห็นว่าเป็นเพื่อนตัวเองที่ตามมา ชายหนุ่มรีบเดินเข้าไปหาแล้วดันให้เพื่อนถอยไปคุยที่มุมเสา ให้ห่างจากคนที่ยังเดินวนอยู่หน้าห้องฉุกเฉิน
“ถ้าไม่อยากให้เนสอาละวาด พวกมึงกลับไปก่อนเหอะ”
“กูไม่กลับ ต้าร์ยังอยู่ข้างใน มึงจะให้พวกกูกลับไปหาเหี้ยอะไร”
แซทตอบกลับเสียงแข็งอย่างไม่สบอารมณ์ ควินเองก็จ้องหน้าเพื่อนเขม็งที่ไม่ยอมเข้าข้างกันแต่กลับมาไล่ให้กลับ
“พวกมึงทำอะไรไว้ ยังไม่รู้ตัวเหรอวะ สิ่งที่พวกมึงทำมันเหี้ยมาก เหี้ยมากๆ” ร็อคบอกอย่างหัวเสีย
“เออ! กูรู้! กูยอมรับ! กูจะรับผิดชอบต้าร์เอง! จบมั้ย!”
แซทตะคอกใส่เพื่อน ไม่สนว่าที่ตัวเองยืนอยู่คือโรงพยาบาล สถานที่ปลอดเสียงรบกวนผู้ป่วย ควินกำมือแน่นอย่างทนอยู่เฉยไม่ไหว ขายาวก้าวไปทิศทางเดิมแต่ร็อคคว้าแขนดึงรั้งไว้
“อย่าไป มึงก็รู้ว่าเนสไม่ยอมให้พวกมึงเข้าใกล้ต้าร์แน่”
“ปล่อยกู”
ควินเค้นเสียงต่ำ สั่งเพื่อนด้วยนัยน์ตาดุดัน บอกให้รู้ว่าถ้ายังไม่ยอมปล่อย ได้มีเรื่องแน่ ร็อคถอนหายใจเฮือกใหญ่อย่างกลุ้มใจกับความดื้อดึงของเพื่อน
“เชื่อกู พวกมึงกลับไปก่อน”
“กู ไม่ กลับ”
แซทบอกเน้นทีละคำแล้วเดินกลับไป ควินเองก็กระตุกแขนจนหลุดจากมือเพื่อนแล้วเดินตามไป
“ต้าร์ ต้าร์”
เดินกลับมาที่หน้าห้องฉุกเฉินก็เห็นบุรุษพยาบาลเข็นเตียงผู้ป่วยออกมาพอดี บนเตียงคือร่างบางของต้าร์ที่นอนหลับสนิทอยู่ มีสายน้ำเกลือต่อเข้าเส้นเลือดที่หลังมือ บุรุษพยาบาลเข็นเตียงผ่านหน้าสองหนุ่มไปราวกับทั้งคู่ไม่มีตัวตนอีกครั้ง เนสเรียกชื่อน้องอยู่ข้างๆเตียง ก้าวเดินไปพร้อมกับพยาบาลและนายแพทย์ จับมือน้องไว้ข้างนึง บีบเบาๆอย่างต้องการให้น้องรู้สึกตัวฟื้นคืนสติกลับมา
ร็อคมองตามหลังเนสแล้วหันกลับมามองเพื่อน ส่ายหน้าอย่างเหนื่อยใจแล้วเดินตามขบวนเตียงคนป่วยไป
“กูจะไปหาลุงหมอ” ควินบอกเพื่อนแล้วเดินไปตามแผนกที่ญาติผู้ใหญ่ทำงานอยู่
แซทนิ่วหน้าอย่างหงุดหงิดกับสถานการณ์ที่เผชิญอยู่ในตอนนี้ก่อนตัดสินใจเดินไปตามทางที่เตียงผู้ป่วยถูกเข็นไป เดินมาถึงหน้าห้องพักพิเศษก็หยุดยืนอยู่หน้าประตูเพราะเพื่อนยืนขวางทางอยู่
“เป็นเหี้ยอะไรของมึงวะร็อค มึงจะเอายังไงกับกู ห๊ะ!” แซทว้ากใส่
“กูไม่อยากให้เนสอาละวาดใส่พวกมึง เชื่อกู กลับไปก่อน”
“อาละวาดก็ช่างหัวมัน กูไม่สน”
“นี่มันโรงบาล ไม่ใช่บ้านมึง จะทำเหี้ยไรก็มีสติหน่อย”
ร็อคบอกเสียงแข็ง เริ่มจะหงุดหงิดที่เพื่อนไม่ยอมฟังคำเตือน แซทกำลังจะอ้าปากโต้กลับแต่ประตูห้องพักผู้ป่วยพิเศษเปิดออกมาขัดซะก่อน ร็อคถอยออกมายืนห่างๆ บุรุษพยาบาลเดินออกมาก่อน ตามมาด้วยพยาบาลและนายแพทย์ รั้งท้ายด้วยญาติผู้ป่วยที่เดินออกมาส่ง ปิดประตูห้องแล้วก็ยืนนิ่งขวางไว้
“เนส” ร็อคเรียกแล้วเดินเข้าไปหาเมื่อกลุ่มหมอกับพยาบาลเดินไปไกลแล้ว
เจ้าของชื่อยืนนิ่งเงียบ แต่กำมือแน่นจนสั่น แซทมองเห็นอาการของอีกฝ่ายแล้วก็กัดฟันแน่นอย่างข่มกลั้นโทสะ รู้ว่ามันโกรธ รู้ว่ามันแค้น รู้ว่ามันเสียใจ แต่เขาก็รู้สึกไม่ต่างกัน!
“ไม่ต้องห่วง ลุงจะดูแลให้”
เสียงทุ้มนุ่มของนายแพทย์เอ่ยบอกกับหลายชายที่ตัวสูงกว่า แซทหันไปมอง ยกมือไหว้สวัสดีญาติผู้ใหญ่ของเพื่อนซี้
“ขอบคุณครับ ผมฝากด้วย” ควินบอก ฝากฝั่งคนป่วยให้ลุงช่วยดูแล
นายแพทย์ใบหน้าคมสันท่าทางใจดียิ้มให้หลานชายกับเพื่อนแล้วเดินกลับไปทำงานต่อ พอไม่มีคนนอกอยู่แล้ว เนสก็ตวัดสายตาดุมองคนที่ทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจน้องชาย เดินเข้ามาหาด้วยท่าทีแข็งกร้าว นัยน์ตาเต็มไปด้วยความโกรธ เกลียด เจ็บแค้นและชิงชัง ‘อดีต’ เพื่อนที่เคยคบหากันมา และมันจะกลายเป็น ‘อดีต’ นับจากวินาทีนี้เป็นต้นไป!
"รู้ตัวมั้ยว่าทำอะไรลงไป" น้ำเสียงอ่อนล้าเอ่ยถามแผ่วเบากับสองหนุ่มตรงหน้า นัยน์ตาแดงก่ำคลอเอ่อไปด้วยน้ำตาแห่งความเสียใจก่อนที่มันจะค่อยๆไหลรินลงมาเป็นทาง
'ต่อให้ร้องไห้ให้ตาย ก็ย้อนเวลากลับไปไม่ได้'
'สิ่งที่เสียไป ไม่มีทางหวนคืน'
"รู้บ้างมั้ยว่าสิ่งที่พวกมึงทำมันฆ่าน้องกูทั้งเป็น!!!"
--------------------------------------------------------------------------------------
อ่านคอมเมนท์ตอนที่แล้ว สะดุ้งเฮือก
แต่ละเมนท์ไฟท์กันเต็มที่มาก
ขอบคุณทุกคอมเมนท์ ขอบคุณทุกกำลังใจ ขอบคุณมากๆค่ะ
หากมีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยผู้อ่านทุกท่านไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ
ดีใจที่ยังมีคนติดตามอ่านกันอยู่ ถึงแม้จะทราบกันแล้วว่าจบไม่แฮปปี้
ไม่อยากให้อ่านแล้วเครียดกัน แต่ก็ไม่อยากบอกว่ามันเป็นแค่นิยาย เป็นแค่เรื่องที่แต่งขึ้น
เพราะเข้าใจว่าหลายท่านอ่านแล้วก็รู้สึกอินกัน
เอาเป็นว่า เก็บในสิ่งที่อยากเก็บ จำในสิ่งที่อยากจำ ฉากไหนซีนไหนที่ไม่ประทับใจก็มองข้ามมันไป
(คนอ่านบอก : นิยาย Y เรื่องนี้มันมีฉากไหนซีนไหนให้น่าประทับใจบ้างวะ?)
เจอกันอีก 70 ที่เหลือ นะคะ