HEARTBREAKER
43
(50%)
อาการรีบเร่งของสองหนุ่มร่างสูงพาให้คนที่เข้ามาใช้บริการของทางโรงพยาบาลมองตามด้วยความสงสัย ไม่เว้นแม้แต่พยาบาลที่เพิ่งเดินสวนทางกันไปก็ยังต้องเหลียวมอง หากแต่สองหนุ่มไม่ได้สนใจเอาแต่จ้วงเดินไปยังที่หมายซึ่งเป็นห้องพักผู้ป่วยพิเศษ พอเดินมาถึงสองหนุ่มก็หยุดมองหน้ากัน ตกลงกันผ่านสายตาว่าใครจะเป็นคนเคาะประตู แซทก้าวขาเข้าใกล้ประตูยกมือขึ้นกำลังจะเคาะเสียงทุ้มของคนคุ้นเคยก็ดังขัดขึ้นซะก่อน
“คนที่พวกนายอยากเจอเขาไม่อยู่หรอก”
ควินหันไปมองญาติผู้ใหญ่ด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยคำถาม
“หมายความว่าไงครับที่ว่าไม่อยู่”
“ก็หมายความตามที่บอก” ลุงหมอตอบหลานเสียงเรียบ แม้สายตาจะทอแววเห็นใจ
“ลุงหมอช่วยพูดให้เคลียร์หน่อยได้มั้ย” แซทกดเสียงต่ำอย่างไม่พอใจ
“เนสพาต้าย้ายโรงบาลเหรอครับ”
ควินถามต่อ คิ้วเข้มขมวดมุ่นกับท่าทีที่ดูเหมือนจะไม่ให้ความร่วมมือของคุณลุง นั้นแสดงว่าท่านกำลังปิดปังหรือไม่ก็มีข้อตกลงอะไรบางอย่างกับเนสถึงได้ไม่ยอมบอกพวกเขาตรงๆว่าคนป่วยหายไปไหน
“ฟังลุงนะ ควิน แซท ความผิดที่พวกนายก่อมันไม่ใช่เรื่องเล็กๆที่แค่วันสองวันก็ลืมได้ คนที่พวกนายทำร้าย จิตใจเขาได้รับผลกระทบเต็มๆ ในเมื่อพี่ชายเขาไม่เอาเรื่อง พวกนายก็ควรปล่อยเขาไป ให้เขาได้ฟื้นฟูสภาพจิตใจ”
คนฟังนิ่งไปกับคำพูดของลุงหมอ แซทกำมือแน่น สะกดกลั้นโทสะไว้ไม่ให้อาละวาดออกมา ควินเองก็กัดฟันไว้เสมองไปทางอื่น คนสูงวัยในที่นี้ถอนหายใจ มองสองหนุ่มตรงหน้าด้วยความลำบากใจ เพราะรับปากกับพี่ชายคนป่วยไว้แล้วจะให้เสียคำพูดได้ยังไง ถ้าขืนบอกไปได้โดนเด็กถอนหงอกแน่ๆ
“เนสมันสั่งไม่ให้ลุงหมอบอกพวกผมใช่มั้ยว่ามันพาต้าร์ไปที่ไหน”
แซทถามพลางจ้องตาคนสูงวัยกว่าเขม็ง คนเป็นหมอพยักหน้ารับช้าๆยิ่งทำให้คนถามหงุดหงิดหวิดจะอาละวาดถ้าไม่ติดว่าอีกฝ่ายเป็นลุงของเพื่อนซี้
“พวกผมอยากรู้ว่าอาการต้าร์เป็นยังไง ขอแค่ได้เห็นหน้าแป็ปเดียวก็ยังดี”
ควินบอกเสียงอ่อน แค่คิดว่าต่อจากนี้ไปจะไม่ได้เห็นหน้าต้าร์อีก หัวใจมันก็วูบโหวงเหมือนจะเต้นช้าทุกขณะ เรี่ยวแรงก็เหือดหายคล้ายถูกสูบกำลัง แล้วถ้ามันเกิดเหตุการณ์อย่างที่คิดจริงๆ เขาจะทนได้ยังไง
“พวกนายต้องเข้าใจและยอมรับมันนะ น้องเขาโดนทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจขนาดนั้น แล้วเขาจะวางใจให้พวกนายเข้าใกล้น้องเขาได้ยังไง”
สองหนุ่มสบตากันท่ามกลางความเงียบ รู้แก่ใจดีว่าสิ่งที่ทำลงไปเป็นความผิดร้ายแรงที่ไม่สามารถให้อภัยกันได้ง่ายๆ แต่การที่เนสพาน้องหนีไปแบบนี้มันก็ไม่ถูกต้องเหมือนกัน
ลุงหมอมองหนุ่มรุ่นลูกก็รู้ได้ว่าทั้งคู่กำลังคิดอะไรอยู่ เพราะเป็นแบบนี้ไง เพราะนิสัยที่คล้ายกันเกินไป เพราะถูกเลี้ยงดูมาแบบผิดๆ ถูกตามใจมาตั้งแต่เด็กด้วยกันทั้งคู่ ปัญหาครอบครัวอาจเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้สองหนุ่มเติบโตมาเป็นแบบนี้ แต่ปัจจัยสำคัญคือความคิดและจิตใจต่างหากที่จะทำให้ชีวิตดำเนินไปได้อย่างมีสติ รู้คิด รู้ทำ ไม่ใช่ใช้อารมณ์ตัวเองเป็นใหญ่แบบนี้
“ลุงถามอะไรหน่อยได้มั้ย”
คนที่ผ่านโลกมาก่อนหน้าสองหนุ่มเอ่ยขอขึ้น พอเห็นว่าทั้งคู่ยังนิ่งเงียบก็เอ่ยต่อ
“เด็กผู้ชายที่หน้าหวาน ตาโต ผิวขาว ตัวบางๆเหมือนจะปลิวได้แบบนั้น ควินกับแซทรักเด็กคนนั้นเหรอ”
คนถูกถามพร้อมใจกันหันขวับมามองด้วยสายตาวูบไหว
“ถ้ารักเขา แล้วทำไมถึงทำร้ายเขาล่ะ” ไม่รอฟังคำตอบคนถามก็รีบว่าต่อทันที
“ตกลงว่าลุงหมอจะไม่ยอมบอกพวกผมจริงๆใช่มั้ย”
แซทถามสวนขึ้นเสียงเข้ม รีบเปลี่ยนประเด็นจนคนถามส่ายหน้าอย่างระอา
“ช่างเถอะ คิดซะว่าลุงไม่ได้ถามก็แล้วกัน ขอตัวไปทำงานก่อนนะ”
ลุงหมอยิ้มบอกก่อนเดินไป ทิ้งให้สองหนุ่มมองตามด้วยความร้อนรนกระวนกระวายใจที่แม้แต่คนคุ้นเคยก็ยังไม่ยอมช่วยเหลือกัน
“ลุงมึงนี่แม่งกวนตีน แค่บอกจะเป็นเหี้ยไรนักหนาวะ” แซทบ่น มองหน้าเพื่อนอย่างหงุดหงิด
“มึงไม่เค้นคอถามลุงกูไป เพื่อเขาจะบอกมึง ไอ้สัด” ควินด่ากลับอย่างอารมณ์เสียไม่แพ้กัน
ความเงียบเข้าครอบคลุมพื้นที่อีกครั้งเมื่อสองหนุ่มต่างจมอยู่กับความคิดของตนเอง จนเสียงโทรศัพท์ของควินดังขึ้น ชายหนุ่มหยิบเครื่องมือสื่อสารออกจากกระเป๋ากางเกงดูชื่อคนโทรเข้าแล้วรีบรับสาย ยิงคำถามใส่อีกฝ่ายทันที
“ร็อค มึงรู้มั้ยว่าเนสพาต้าร์ไปไหน”
“ทำไม ต้าร์ไม่ได้อยู่โรงบาลเหรอ”
“เออสิวะ ถ้าอยู่แล้วกูจะถามมึงมั้ย”
“อ้าวไอ้เหี้ย ก็กูไม่รู้นี่หว่า มึงจะมาใส่อารมณ์กับกูทำห่าอะไร”
ควินหลับตา พยายามระงับอารมณ์แล้วลืมตาถามปลายสายต่อ
“เออ ไม่รู้ก็ไม่รู้ แล้วโทรมามีไร”
“เรื่องไอ้เหี้ยหมอนั่นไง”
“มึงพอแค่นี้เหอะ ไอ้เนสมันไม่ได้รักมึง แล้วจะดันทุรังต่อไปทำไมวะ”
“ก็เหมือนพวกมึงอ่ะ ต้าร์ก็ไม่ได้รักพวกมึงนี่หว่า พวกมึงยังดันทุรังอยู่ทำไม อย่ามาว่ากู”
โดนเพื่อนสวนกลับมาคนที่ถือโทรศัพท์แนบหูแทบอยากจะคว้าเครื่องมือสื่อสารทิ้ง
“เรื่องของกู!” ตะคอกบอกเพื่อนเสียงเข้มแล้วรีบตัดสาย
แซทมองหน้าเพื่อนแล้วส่ายหัว คนที่อยากเห็นหน้าก็ถูกพาหนี คนที่อยากให้ช่วยก็ไม่ยอมให้ความร่วมมือ นี่มันวันเฮงซวยอะไรวะ!
“กูจะไปบ้านต้าร์ ถ้าไอ้เนสตั้งใจจะพาน้องหนีไปจริงๆ มันก็ต้องกลับบ้านไปเก็บของสิวะ”
ควินพูดขึ้น แซทพยักหน้าเห็นด้วย
“เออ กูไปด้วย”
“โทรบอกลูกน้องพ่อมึงให้เช็คตามโรงบาลด้วย โรงบาลในกรุงเทพมันมีกี่ที่ ตามแม่งให้หมด”
“เออ” แซทรับคำเตรียมจะล้วงเอาโทรศัพท์มือถือออกมาโทรสั่งงานลูกน้อง แต่ควินก็สั่งตามมาอีก
“เช็คไฟล์ทบินด้วย”
แซทจ้องตาเพื่อน คำว่าไฟล์ทบินเหมือนถูกไม้หน้าสามฟาดเข้ากลางศีรษะ ถ้าเนสพาน้องหนีไปต่างประเทศจริงๆ นั่นหมายความว่า การตามหาก็ยิ่งยากขึ้น
“หวังว่าไอ้เนสยังไม่ได้พาต้าร์ไปไหนไกล บางทีมันอาจพาต้าร์กลับบ้าน หรือไม่ก็แค่ย้ายโรงพยาบาล” ควินว่าต่อ ไม่อยากคิดมากไปก่อน แม้ในใจลึกๆจะคิดกังวลไปสารพัด
“เออ” แซทตอบเพื่อนสั้นๆ เพราะยังคิดหนักอยู่
สองหนุ่มรีบเดินออกจากโรงพยาบาลด้วยใบหน้าเคร่งเครียดไม่ต่างจากตอนขามา เป้าหมายปลายทางต่อไปคือบ้านของเด็กหนุ่มหน้าหวาน
************************************************************
คลินิคทันตกรรมที่เปิดให้บริการในวันปกติมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการอยู่พอสมควร ในห้องพักชั้นสองของว่าที่ทันตแพทย์มีคนป่วยหน้าหวานในชุดเสื้อยืดแขนยาวสีขาวกับกางเกงยีนนั่งชันเข่าสองแขนกอดรอบขาตนเองอยู่บนเตียงนอนขนาดมาตรฐาน นัยน์ตากลมโตที่ไร้ประกายสดใสเหม่อมองไปรอบๆห้องอย่างช้าๆเรียกให้สายตาสองคู่ที่กำลังมองมาอยู่รู้สึกสงสารเจ้าตัวจับใจ
“น้องต้าร์อาการหนักขนาดนี้เลยเหรอ”
น้ำเสียงทุ้มนุ่มของลูกชายเจ้าของคลินิกเอ่ยถามพี่ชายคนป่วยที่พาน้องมาอาศัยอยู่ที่นี่ด้วยตั้งแต่เมื่อวาน
“ครับ น้องเอาแต่เหม่อ ถามคำตอบคำ กินข้าวก็น้อย นอนก็สะดุ้งเพราะฝันร้าย ผมไม่รู้จะทำยังไงดีแล้วครับพี่หมอ ผมไม่อยากเห็นน้องเป็นแบบนี้เลย” คนบอกหน้าเศร้าน้ำตาซึม
คนฟังได้แต่ปลอบโยนคนรักด้วยการจับมืออีกฝ่ายบีบกระชับแน่น
“ค่อยๆดูไป อาการแบบนี้ต้องใช้เวลา”
“ต้าร์เคยยิ้ม เคยหัวเราะ เคยพูดจ้อไม่พูด ต้องใช้เวลาอีกนานแค่ไหนครับ อีกนานแค่ไหนกันผมถึงจะได้น้องชายคนเดิมกลับคืนมา”
“เนส…ไม่เอา ไม่ร้องนะครับ อย่าอ่อนแอสิ เนสต้องเข็มแข็ง ต้องดูแลน้องนะ”
ถ้อยคำปลอบโยนมาพร้อมกับอ้อมกอดอบอุ่นยิ่งทำให้คนถูกปลอบร้องไห้หนักขึ้นกว่าเดิม
“ผมสงสารน้องพี่หมอ ผมสงสารน้อง”
“ครับ พี่เข้าใจ” มือใหญ่ยกขึ้นลูบไล้แผ่นหลังร่างเล็กกว่าอย่างอ่อนโยน
“ต้าร์เพิ่งจะเรียนจบมอปลาย อนาคตยังอีกไกล แต่กลับต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ ผมเสียใจจริงๆ”
“ครับ พี่รู้ นิ่งซะ ร้องไห้เสียงดังเดี๋ยวน้องตกใจนะ” ร่างสูงยกน้องมาขู่ให้คนในอ้อมกอดหยุดร้องไห้
เนสกลั้นสะอื้นผละจากอ้อมกอด จะยกมือขึ้นปาดน้ำตาแต่ยังช้ากว่าปลายนิ้วเรียวของว่าที่ทันตแพทย์หนุ่มที่ยื่นเข้ามาเกลี่ยหยดน้ำตาออกให้อย่างนุ่มนวลทำให้คนมองตามการกระทำนั้นคลี่ยิ้มออกมากับการดูแลเอาใจใส่ของอีกฝ่าย
“แก้มเหนียวหมดแล้ว ไปล้างหน้าไป เดี๋ยวพี่ดูน้องให้เอง”
เนสยิ้มตอบ พยักหน้ารับ
“ฝากด้วยนะครับ”
คนป่วยยังคงนั่งเหม่อลอยจนพี่ชายทำธุระเสร็จ เดินกลับเข้ามาในห้อง สัมผัสอบอุ่นแตะลงบนแก้ม ต้าร์ค่อยๆหันไปมอง ขยับปากยกยิ้มจางๆให้
“พี่” น้ำเสียงแผ่วเบาเอ่ยเรียก
เนสยิ้มกว้างให้น้อง ลูบแก้มขาวเนียนเบาๆ
“ครับ พี่เอง ต้าร์หิวมั้ย”
เจ้าของชื่อส่ายหน้าช้าๆแทนคำตอบ เนสผละมือออกมาวางบนผมนุ่มขยี้เบาๆด้วยความรัก
“งั้นก็นอนพักซะ ตอนเย็นพี่จะปลุกขึ้นมาทานข้าวทานยา แล้วเดี๋ยวเราจะได้ไปสนามบินกัน”
“สนามบิน” ต้าร์ทวนคำ
“ครับ สนามบิน เราจะไปเที่ยวฮ่องกงกัน คุณลุงกับคุณป้ากำลังอยู่เที่ยวที่นั่น เราจะไปหาพวกท่านกัน” เนสยิ้มบอกมือก็ลูบผมน้องไปด้วย
ต้าร์รับฟัง ใบหน้าหวานไม่ได้แสดงอาการตื่นเต้นดีใจหรืออาการอื่นใด นัยน์ตากลมเริ่มเหม่อลอยอีกครั้ง เนสยิ้มเศร้าจับน้องให้เอนตัวนอน หยิบผ้าห่มขึ้นคลุมตัวให้แล้วเดินกลับมาหาร่างสูงที่มองดูอยู่ตลอด
“เนสก็ควรจะพักผ่อนเหมือนกัน นอนกับน้องก็ได้ เตียงตั้งกว้าง พี่จะขับรถไปส่งเรากับน้องที่สนามบินเอง ไม่ต้องห่วง เคลียร์งานเสร็จแล้วพี่จะรีบตามไปนะครับ”
เนสยิ้มรับ กอดร่างสูงไว้แน่นแทนคำขอบคุณที่อีกฝ่ายอยู่เคียงข้างกันในวันที่ตนอ่อนแอ
“ขอบคุณนะครับพี่หมอ ขอบคุณสำหรับที่พักชั่วคราว ขอบคุณที่ช่วยเหลือ แล้วยังใจดีจะไปส่งอีก ขอบคุณนะครับ”
“ไม่เป็นไรครับ พี่เต็มใจ ว่าแต่เมื่อไหร่เราจะเลิกเรียกพี่ว่าพี่หมอสักที พี่ก็มีชื่อเล่นนะ”
“ก็เรียกพี่หมอติดปากแล้วนี่ครับ จะให้เรียกพี่ภูก็ไม่ชิน ให้ผมเรียกพี่หมอนี่แหละดีแล้ว”
“โอเค ยอมแพ้ เรียกพี่หมอก็ได้ ขึ้นไปนอนกับน้องไป เดี๋ยวพี่จะลงไปข้างล่างหน่อย”
“ครับ”
เนสรับคำ ผละจากอ้อมกอด ยิ้มให้คนใจดีแล้วเดินกลับไปที่เตียง ขึ้นไปนอนกอดน้องไว้ กระซิบข้างหูน้องเบาๆก่อนหลับตาปล่อยลมหายใจให้เข้าสู้ห่วงนิทรา
“รีบกลับมาหาพี่นะต้าร์ รีบกลับมาเป็นน้องชายที่ร่าเริงคนเดิมของพี่เร็วๆนะครับ”
---------------------------------------------------------
ตัวละคร(ในพาร์ทอดีต) โผล่มาอีกคนแล้ววว
พี่หมอของน้องเนส ละมุนเว่อร์เนอะ
พี่หมอโผล่มาเป็นแขกรับเชิญ
แล้วเดี๋ยวพี่แกจะไปโดดเด่นใน HEARTBREAKER II เรื่องของร็อคกับเนส
อีกครึ่งที่เหลือมีดรามาเบาๆ
นางมารจะโผล่มา เป็นฉากปิดท้ายของนางแระ
ฮาร์ฟด้วย ฉากสุดท้ายของฮาร์ฟเหมือนกัน
และถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด
ตอนหน้าก็จบพาร์ทอดีตแล้ว
จากนั้นเราก็กลับมาหน่วงกันต่อในพาร์ทปัจจุบัน
ขอบคุณสำหรับคอมเมนท์และการติดตามนะคะ ขอบคุณที่ยังไม่ทิ้งเรื่องนี้ไป