HEARTBREAKER
49
(ต่อ)
บรรยากาศในวันเปิดเทอมเต็มไปด้วยสีสันของการต้อนรับน้องใหม่ของแต่ละคณะ วันนี้มหา’ลัยจัดรับน้องโดยรวมทุกคณะ ตอนที่มาประชุม เฟียซบอกว่ารุ่นพี่ที่เพิ่งจบเป็นบัณฑิตหมาดๆจะมาแนะนำตัวกับน้องปี1ด้วย วันนี้ทั้งวันคงต้องวุ่นอยู่กับกิจกรรมนี้อย่างเดียว เสียงประกาศให้ปี1มารวมตัวกันที่ลานหน้าอนุสรณ์สถานดังขึ้นพอดีกับเสียงบีบแตรรถยนต์ที่ขับตรงมาทางผม
“ต้าร์! หลบไป หลบๆๆ”
ผมหัวเราะแล้วรีบเดินหลบตามคำสั่งบอสที่ลดกระจกรถโผล่หน้าออกมาตะโกน ยืนรอเจ้าตัวที่เพิ่งถอยรถคันใหม่มา ได้ยินเสียงตัวเล็กบ่นแฟนว่าขับรถเร็ว
“โทษทีต้าร์ รอนานมั้ย”
ผมส่ายหน้า ยิ้มตอบเพื่อน บอสเดินเข้ามากอดคอผมก่อนจะร้องขึ้นเสียงสูงแล้วผละออกไป
“เหยด! รถสปอร์ต! ต้าร์ถอยรถสปอร์ตเหรอ!”
“จะตะโกนทำไมวะ หนวกหู”
ตัวเล็กหันไปว่าพลางส่ายหน้าอย่างระอา ผมหัวเราะ
“พวกเขาซื้อให้”
“ป๊าดๆๆ ใจป้ำฉิบหาย อิจฉาคนรวยจริงๆโว้ย”
“อย่าสนใจเลย รีบไปหาเฟียซกันเถอะ วิ่งวุ่นจนหัวยุ่งแล้วมั้งป่านนี้”
ผมชวน หันหลังเดินนำ บอสเดิมตามมากอดคอผม เสียงร่าเริงกระซิบข้างหู
“ตัวเล็กมันก็ซื้อให้บอสเหมือนกัน”
ผมยิ้มแล้วหันไปมองร่างสูงข้างๆ เอ่ยแซวไปตามประสา
“ซื้อรถให้แล้ว ต่อไปก็เรือนหอสินะตัวเล็ก”
“หยุดเลยต้าร์ แค่รถคันเดียวก็หมดตัวแล้ว”
“สมน้ำหน้า กูไม่ได้ขอนะ มึงซื้อให้กูเอง”
บอสว่าหน้าตายแล้วหันมายิ้มกับผม พวกเราเดินไปที่ตึกคณะ ผมมองเห็นเฟียซกำลังยืนคุยอยู่กับรุ่นพี่ปี4 พอเจ้าตัวหันมาเห็นผมก็กวักมือเรียก พวกผมเดินเข้าไปหารุ่นพี่ก็เดินแยกไป เฟียซหันมาทำตาดุใส่ผม
“ทำอะไรอยู่วะ มาช้า”
“ขอโทษ”
ผมบอกเสียงอ่อย
“ตัวเล็ก มึงมาช่วยกูยกกลองไปที่ลานหน่อย”
“แล้วจะให้ต้าร์กับบอสช่วยอะไร”
ผมถาม เพราะดูเหมือนตัวเองจะว่างงาน
“บอส มึงรอรถข้าวอยู่นี้ เดี๋ยวมันจะมาส่ง กูจ่ายเงินไปแล้ว”
“โห! นี่ต้องเลี้ยงข้าวปี1เลยเหรอวะ ทำไมรุ่นพวกเราไม่เลี้ยงบ้างวะ”
“เงินพี่บัณฑิตเว้ย เขาอยากเลี้ยงน้อง อยากพล่ามมาก ส่วนมึง…”
ผมรอฟังว่าเฟียซจะสั่งให้ทำอะไร แต่เจ้าตัวก็เงียบแล้วหันไปพยักหน้าให้ตัวเล็กช่วยยกกลองชุดแล้วพากันเดินออกไป ทิ้งให้ผมยืนงง
“คำตอบอยู่ข้างหลัง”
บอสกระซิบบอกแล้วเดินแยกไป พอผมหันไปมองก็เห็นร่างสูงกำลังเดินตรงมาหา ผมเดินไปนั่งที่ม้าหินอ่อนไม่ได้สนใจพวกเขา
“ทำไมไม่กินข้าว”
คำถามแรกของพี่แซท ทำให้ผมรู้ทันทีว่าอังเดรกับอะดอนิสรายงานทุกความเคลื่อนไหวของผมให้พวกเขารู้ทุกเรื่องจริงๆ
“ไม่อยากกิน”
ผมตอบเสียงเรียบโดยไม่ได้มองหน้าพวกเขา อย่าบอกนะว่าแค่ผมไม่ได้กินข้าวเย็น3วัน พวกเขาก็เอามันมาเป็นประเด็นหาเรื่องทะเลาะ
“หันหน้ามาคุยดีดี”
พี่ควินสั่ง แต่ผมก็ยังนั่งนิ่ง
“เป็นอะไร”
“ไม่ได้เป็นอะไร ผมสบายดี”
ผมหันไปตอบพี่ควินอย่างตัดรำคาญ ตั้งใจจะลุกขึ้นเดินไปที่ลานกิจกรรม แต่พี่แซทก็มาขวางหน้าไว้ นัยน์ตาดุคมจ้องผมเขม็ง
“โกรธที่พวกกูหายหน้าไปเหรอ”
“เปล่าครับ ไม่ได้โกรธ พวกพี่จะหายไปไหน จะทำอะไร มันก็เรื่องของพวกพี่ ไม่เกี่ยวกับผม”
แค่หายไปเกือบ2อาทิตย์หลังจากวันที่เจอกันที่โชว์รูมรถวันนั้น แล้วก็ขาดการติดต่อไปเลย ตอนมาประชุมรับน้อง ผมก็ไม่ได้โทรบอกพวกเขา เพราะผมรู้ว่าไม่อังเดรก็อะดอนิสต้องรายงานให้พวกเขารู้อยู่แล้วว่าผมออกไปไหน ทำอะไร แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้อยู่กับผม แต่พวกเขาก็รู้ทุกอย่าง
“กูเป็นคนอื่นสำหรับมึง”
“แล้วแต่พี่จะคิดเถอะครับ”
ผมตอบแล้วเบี่ยงตัวหลบ แต่เขาก็คว้าแขนไว้อีก ผมชักสีหน้าใส่อย่างไม่สบอารมณ์ ผมคิดว่าพี่แซทจะตะคอกใส่ แต่ผิดคาด เขายอมปล่อยผมโดยดีแล้วเดินกลับไป ผมมองตามหลังอย่างไม่เข้าใจ
“พวกกูเป็นห่วง ทำไมไม่กินข้าว”
ผมหันไปมองพี่ควิน เขามองผมด้วยสายตาห่วงใย ทำให้ผมรู้สึกผิดที่พูดจาไม่ดีออกไป
“ขอโทษครับ ผม…”
“ช่างเหอะ ต่อไปอย่าทำอีก ต้องกินข้าว เข้าใจมั้ย”
ผมพยักหน้า พี่ควินลูบแก้มผมเบาๆแล้วหันหลังให้ เขาทำท่าจะเดินไป ผมเลยรีบรั้งเขาไว้
“ฝากขอโทษพี่แซทด้วยครับ ผมไม่ได้ตั้งใจ”
“อืม…”
“พี่ควิน”
ร่างสูงหันกลับมารอฟังว่าผมจะพูดอะไรต่อ แต่ผมกลับเงียบ พูดไม่ออก เขาเลยหันหลังเดินจากไป ผมถอนหายใจแรงอย่างหงุดหงิดตัวเอง
“ต้าร์! รถข้าวมาส่งแล้ว มาช่วยหิ้วหน่อย”
เสียงบอสเรียก ผมรีบเดินไปช่วยเพื่อน
“เฟียซโทรมาบอกเมื่อกี้ ถ้าข้าวมาส่งแล้วให้เอาไปที่ลานเลย”
“อืม ป่ะ”
กิจกรรมรับน้องร่วมทุกคณะเป็นไปอย่างสนุกสนาน คณะผมเอาเก้าอี้ไม้มาเรียงเป็นรูปสี่เหลี่ยมแล้วเอาผ้าใบสีทึมที่เจาะเป็นรูมาคลุม ก่อนน้องปี1จะเข้ามาก็ถูกใส่ผ้าปิดตาไว้ พอเข้ามาในซุ้มคณะผมได้ก็ต้องคลานลอดใต้เก้าอี้โดยมีผมกับเพื่อนๆช่วยกันแกล้งตีผ้าใบ แกล้งหยดน้ำใส่ แกล้งเอาแป้งโรยจนหัวน้องบ้างคนขาวโพลนไปหมด พอคลานกันเสร็จก็ถูกจับแยกเป็นกลุ่มๆให้หันหน้าเข้าหากันแล้วสั่งให้เปิดผ้าปิดตา เท่านั้นล่ะน้องๆก็ตกใจกันเอง บ้างก็หัวเราะชอบใจ หลังจากนั้นพวกผมก็ให้น้องๆแนะนำตัวว่าจบจากโรงเรียนไหนมา เป็นเฟรชชี่คณะไหน สาขาเอกอะไร แล้วก็มีโชว์ฟรีสไตล์เปิดโอกาสให้น้องๆแสดงความกล้า เฟียซรับหน้าที่ตีกลองสร้างบรรยากาศ ก็สนุกสนานกันไป กิจกรรมช่วงเช้าจบไปได้ด้วยดี ช่วงบ่ายเฟียซประกาศเรียกเฉพาะน้องปี1คณะผมมารวมตัวกันที่ลานหน้าคณะเพื่อแจกข้าวกล่องให้ทานเป็นอภินันทนาการจากพี่บัณฑิตใจดี พวกผมเองก็กินข้าวกล่องกับน้องๆเหมือนกัน พอทานข้าวเสร็จก็เข้าสู่พิธีการแนะนำตัวของพี่บัณฑิตและรุ่นพี่ทุกชั้นปี
“ห้องเราขาดใครไปป่ะวะ”
เฟียซถามพลางมองสำรวจประชากร ผมเองก็มองตาม
“ไม่น่าจะขาดนะ”
บอสว่า มือก็ชี้นับจำนวนคนเรียงตัว
“ไม่ขาดแน่นะ เดี๋ยวจะแนะนำตัวแล้ว กูไม่อยากมีปัญหาให้ปี3มาถาม”
“เออๆ ครบๆ กูนับแล้ว ไม่ต้องห่วง”
บอสร้องตอบ ตอนนี้พวกเรากำลังยืนเรียงหน้ากระดานอยู่เบื้องหน้าของน้องปี1 ปีนี้คณะผมเปิดโควต้าให้สอบตรงเยอะ เฉพาะสาขาเอกที่ผมเรียนอยู่ก็รับตรงตั้ง150คน ปีนี้ผมได้รุ่นน้องมาเยอะจริงๆ
“เอาๆ ปี2 แนะนำตัวได้แล้ว เป็นตัวอย่างที่ดีให้น้องปี1หน่อยครับ”
เสียงเข้มของพี่ประธานรุ่นพี่ปี3สั่งมาจากอีกฝั่ง คนยืนอยู่หัวแถวรายงานตัว ผมยิ้มที่เห็นเพื่อนร่วมห้องออกอาการประหม่าต่อหน้าน้องๆ พอมาถึงคิวผม ผมก็หันไปมองน้องๆที่นั่งกับพื้น ยิ้มให้พวกเขาแล้วแนะนำตัว
“สวัสดีครับ พี่ชื่อต้าร์ มีปัญหาอะไรก็มาปรึกษาพี่ได้ เจอกันข้างนอกมอก็ทักทายกันได้ ขอบคุณครับ”
ผมโค้งให้น้องๆเมื่อแนะนำตัวเสร็จ ได้เสียงปรบมือกลับมา ผมยิ้ม กวาดสายตามองไปรอบๆบริเวณแล้วก็ต้องสะดุดกับร่างสูงที่ยืนสูบบุหรี่อยู่ข้างๆต้นไม้
“พี่แซท”
ผมขยับปากเรียกชื่อเขา
“ดูหน้ามันดิ โหดสัดอ่ะ”
บอสสะกิดบอก
“มันมาเฝ้าต้าร์เหรอ”
“ไม่หรอก เขาคงแวะมาดูเฉยๆ”
“แน่ใจนะ ไม่ใช่มาดูว่าจะมีปี1คนไหนปีนเกลียวแซวต้าร์”
ผมยิ้ม ไม่ได้คิดตามที่บอสบอก
“ปี2แนะนำตัวครบทุกคนแล้ว ต่อไปก็พวกคุณ ปี1 แนะนำตัวพวกคุณให้พวกผมรู้จักสิ เอาแบบพอสังเขป”
พี่ประธานปี3บอก ชี้น้องที่นั่งอยู่หัวแถวแรกให้ลุกขึ้นแนะนำตัว พวกผมแยกย้ายกันไปยืนตามจุดโดยรอบบริเวณที่น้องๆนั่ง ผมหันไปมองพี่แซท เขายังยืนสูบบุหรี่อยู่ไม่ไปไหน นี่คงไม่ได้คิดมายืนเฝ้าผมอย่างที่บอสบอกจริงๆหรอกนะ ช่างเถอะ เวลานี้ผมควรสนใจหน้าที่ของตัวเองมากกว่า ผมหันกลับมาดูน้องๆแนะนำตัว ยืนฟังจนถึงคนสุดท้าย มีเสียงกรี๊ดชอบใจจากรุ่นพี่ผู้หญิงขึ้นมา ดูท่าว่าน้องคนนี้จะเป็นขวัญใจของรุ่นพี่ วัดจากหน้าตาก็สามารถเป็นเดือนคณะได้อย่างลอยลำเลย
"สวัสดี ครับ ผมชื่อ ธัญญ์ นามสกุล พิชญกานต์ ชื่อเล่นก็เหมือนชื่อจริง ผมเป็นลูกคนเดียว พ่อเป็นหมอ แม่เป็นพยาบาล พี่คนไหนได้ผมเป็นน้องรหัสก็ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ ผมเป็นคนซื่อ จริงใจ รักไม่ง่าย แต่ได้ไม่ยากครับ"
สิ้นเสียงรายงานตัวของรุ่นน้องปี1คนสุดท้าย เสียงหัวเราะและเสียงโห่ร้องก็ดังตามมาจากทั้งรุ่นพี่และรุ่นน้องร่วมคณะ ผมก็พลอยหัวเราะร่วมไปด้วย มองไปที่ร่างสูงหุ่นเหมือนนักกีฬาของน้องที่เพิ่งรายงานตัวไปเมื่อครู่ เขาเองก็หันมามองผม พอเขานั่งลงในแถวแต่สายตายังมองมาที่ผมอยู่ ด้วยความสงสัย ผมเลยเดินไปหาน้องเขา นั่งลงข้างๆแล้วถาม
"มีปัญหาอะไรรึเปล่า"
น้องเขาทำตาโตแล้วรีบส่ายหน้ารัว
"ไม่มีครับ ไม่มี ใครจะกล้ามีเรื่องกับรุ่นพี่ล่ะครับ"
ผมหัวเราะกับท่าทางโอเวอร์แอคติ้งเกินเหตุ กำลังจะลุกขึ้น น้องเขาก็พูดเสียงดังลั่น ทำเอาคนทั้งลานหน้าคณะหันมามองที่ผมและน้องเขาเป็นจุดเดียว
"รุ่นพี่ครับ รุ่นพี่เป็นทอมที่น่ารักที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นมาเลยครับ!"
-----------------------------------------------------------
น้องธัญญ์มาแล้ววว
ยกพู่เชียร์น้องธัญญ์
ควินแซทหลบไป น้องใหม่กำลังมา
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นทและการติดตามนะคะ
ขอโทษที่หายไปนาน ช่วงนี้งานโคตรเยอะ
อยากปั่นให้จบเร็วๆ แต่ทำไม่ได้ ไม่มีเวลามานั่งปั่น
แต่จะพยายามมาอัพเรื่อยๆ
ตอนหน้าแซ่บแน่ 2โฉดถึงคราวตกกระป๋อง