HEARTBREAKER P.I [ UP! : SPECIAL : Tar’s birthday ] 1/3/59 : P.151
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: HEARTBREAKER P.I [ UP! : SPECIAL : Tar’s birthday ] 1/3/59 : P.151  (อ่าน 1308798 ครั้ง)

haru1111

  • บุคคลทั่วไป
Re: HEARTBREAKER P.I [ UP! : 57 (100%) ] 2/12/56 : P.137
«ตอบ #4110 เมื่อ02-12-2013 22:38:56 »

กรรม บอกๆไปเหอะ เรื่องผ่านมาแล้ว ไม่บอกก็ทะเลาะกันต่อ

คนรักกันต้องอภัยให้กันได้นะ ปรองดองจ้า ปรองดอง :sad4:

Newtun_TD

  • บุคคลทั่วไป
Re: HEARTBREAKER P.I [ UP! : 57 (100%) ] 2/12/56 : P.137
«ตอบ #4111 เมื่อ02-12-2013 22:46:29 »

ค้าง! อย่างแรง.....มาต่อไวๆนะครับ  ใจจะขาด T_T

ออฟไลน์ pemiko2012

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
Re: HEARTBREAKER P.I [ UP! : 57 (100%) ] 2/12/56 : P.137
«ตอบ #4112 เมื่อ02-12-2013 22:58:59 »

 :เฮ้อ:

ปวดหมอง
ต้าร์เริ่มเยอะสิ่งนะฮับ  o18
ฟังพวกพี่เค้าบ้างดีมั้ย เอะอะๆเกลียด รู้มั้ยว่าคำนี้มันมีผลแค่ไหนต่อสองคนนั้น
แล้วอีกอย่าง ถ้าไม่ได้รู้สึกแบบที่พูดแต่กลับพูดมันออกไป สิ่งที่พูดมันจะทำลายทุกอย่าง
ฮืออออออออออออออ สงสารควินกะแซทนะ ตอนนี้
แบบคือสองคนนี้ก็รู้อยู่แล้วว่าต้าร์ไม่รัก แต่แบบที่ผ่านมาก็เหมือนจะดีขึ้นแล้ว
ตอนนี้กลายเป็นแย่ลงซะงั้น เฮ้ออออออ เศร้า
ควินพูดออกมาแบบนั้นแล้วเจ็บแทนเลย  :mew2:

ออฟไลน์ zoe131313

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: HEARTBREAKER P.I [ UP! : 57 (100%) ] 2/12/56 : P.137
«ตอบ #4113 เมื่อ03-12-2013 00:36:20 »

โวยวายๆๆๆๆๆๆๆๆๆ กร ๊าซซซค้างอ่ะ

ออฟไลน์ Zalzah_iP

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 875
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
Re: HEARTBREAKER P.I [ UP! : 57 (100%) ] 2/12/56 : P.137
«ตอบ #4114 เมื่อ03-12-2013 00:43:11 »

สงสารนะสงสาร แต่ไม่รู้จะสงสารใครดี =__=
ทุกคนมีปมกันหมดเบยยย คิคิ

จากที่อ่านมาตั้งแต่ต้นนะ นิยายเรื่องนี้สนุกมากกกกกกก ยิ่งตอนต้นๆ นะ สุโค่ยย!! -..-d แต่เราอยากจะบอกว่าหลังๆ ตั้งแต่ใกล้ๆ เข้าพาร์ทอดีตจนถึงปัจจุบบันอ่ะค่ะ เราว่าน้ำมันเยอะกว่าเนื้อไปหน่อย คือเรื่องมันไม่กระชับอ่ะค่ะ ตอนเราอ่านพาร์ทอดีตที่มีใจความสำคัญหลักๆ คือสาเหตุที่ทำให้ต้าร์มาอยู่กับควินแซทและที่มาของฮาร์ฟ เรารู้สึกว่ามันยาวมากกกก มากอ่ะ มากจริงๆ มากจนเราลืมไปเลยว่าย้อนอดีตกันตอนไหนจนเราต้องไปไล่หาอ่านตอนย้อนใหม่ๆ อ่ะค่ะ ว่าต้าร์ทำอะไรอยู่ อยู่ดีๆ ถึงได้นึกถึงเรื่องอดีตขึ้นมา จนมาถึงตอนนี้ ที่ธัญญ์ได้พูดถึงสาเหตุการตายของฮาร์ฟซึ่งมีบอกในพาร์ทอดีต เราก็...ลืม ค่ะ =______= คือถ้าเรื่องมันกระชับขนาดเหมาะมือ(?)กว่านี้ มีเนื้อเยอะๆ ไม่ยืด ไม่เวิ่น เราก็จะไม่ลืมปมหลักของเรื่องจริงๆ เพราะมัวแต่ไปสนใจกับฉากน้ำๆ ที่ดูไม่เกี่ยวกับปมแต่โคตรฟิน -,.- ใช่มั้ยคะ?

ที่กล่าวมาข้างต้นเราแค่อยากลองให้คนเขียนดูอีกทีนะคะ บางทีไม่แน่ว่าเราอาจจะความจำแย่กว่าคนอื่นแล้วคิดไปเองคนเดียวก็ได้ ถ้าทำให้เสียกำลังใจหรืออะไรต้องขอโทษด้วยนะคะ ที่เราบอกว่าเรื่องมีน้ำเยอะ ไม่ได้หมายความว่าเราไม่ชอบนะ อย่างฉากกุ๊กกิ๊กมุ้งมิ้งๆ ของควินแซทต้าร์เราก็ชอบ อ่านแล้วก็ซื้อตั๋วไปฟินแลนด์เลยที่เดียว รอตอนต่อไปนะคะ ^^

ออฟไลน์ kitty08

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-4
Re: HEARTBREAKER P.I [ UP! : 57 (100%) ] 2/12/56 : P.137
«ตอบ #4115 เมื่อ03-12-2013 09:43:41 »

เราว่าควินกับแซทคิดผิดที่มาหลงรักต้าร์น่ะ เพราะนายนี้ก้อบริสุทธิ์ซะเหลือเกิน  :hao5: ใครทำอะไรก้อผิดหมดทำเหมือนตัวเองเป็นเทวดาจริง ๆ หมั่นไส้เธอมาก  :katai1: เราก้อไม่ได้ว่าควินกับแซทไม่ผิดน่ะแต่บางครั้ง ต้าร์ก้อต้องมองความจริงบ้างว่าสองคนนี้เป็นยังไงน่ะ บางทีก้ออยากให้ต้าร์ทิ้งสองคนนี้ไปเลยดีกว่าน่ะ มันอาจจะไม่ทำอะไรให้มันเลวร้ายไปมากกว่านี้น่ะ เพราะเราว่าสองคนนี้ยิ่งทำผิดมากขึ้นเืมื่อมีต้าร์เข้ามาเกี่ยวข้อง  :mew2:
ไม่อยากกินมาม่าเลย  :mew5:

ออฟไลน์ nutjisub

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 300
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-0
Re: HEARTBREAKER P.I [ UP! : 57 (100%) ] 2/12/56 : P.137
«ตอบ #4116 เมื่อ03-12-2013 10:11:10 »

ตอนแรก เห็นว่าอัพ ดีใจมาก ๆๆ รีบกระโจนเข้ามาอ่าน  อ่านเสร็จ แทบต้องกระโจนออกไม่ทันดราม่ามาเลย
จากตอนนี้ต้าร์เหมาะกับสุภาษิตนี้นะ คนฟังไม่ได้ศัพท์ แล้วจับไปกระเดียด  คิดเองเออเองตลอดไม่ฟังเหตุผลควิน ส่วนควินกับแซทก็ใช้อารมณ์  ตอนนี้ไม่อยู่ในสถาการณ์แห่งการเจรจาใด ๆๆ ทั้งสิ้น ต้องรอให้เย็นกันทุกฝ่ายจริง ๆๆ  ถ้าเรื่องนี้จะจบลงด้วยการเลิกลาด้วยเหตุผลแค่นี้เราว่ามันอ่อนไปจริง ๆๆ เพราะที่ผ่านมาเหตุการณ์มันเริ่มดีขึ้นแล้ว จริงแล้วทั้ง 3 คนก็ห่วงซึ่งกันและกันมันถึงมีเหตุการณ์วันนี้เกิดขึ้น ธันว์นี่แทบไม่ได้ต้องลงมือทำอะไรเพราะความสัมพันธ์ของทั้ง 3 คนยังไม่แข้มเข็งพอ มันเลยแตกแยกได้ง่าย ยังคงยืนยันว่าเรายังต้องการความหวานนะคนเขียนยิ่งในช่วงแบบนี้ เริ่มมาหาความผ่อนคลายจากนิยายมาเจอตอนนี้เข้าไป อิ่มม่าม่าเลย :katai4: :katai4:

ออฟไลน์ kyoya11

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4680
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +340/-12
Re: HEARTBREAKER P.I [ UP! : 57 (100%) ] 2/12/56 : P.137
«ตอบ #4117 เมื่อ03-12-2013 11:41:21 »

โอ้บ่ะ :katai1:
มันกำลังจะมาแล้วสินะ... :z3:

ออฟไลน์ four4

  • รักนี้ชั่วนิรันด์
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
Re: HEARTBREAKER P.I [ UP! : 57 (100%) ] 2/12/56 : P.137
«ตอบ #4118 เมื่อ03-12-2013 11:59:30 »

โอยยยยยยยยยยยยยยยยยย ดราม่า ปวดตับ//อีกแล้วคับท่าน

ออฟไลน์ pulovely

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 491
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-0
Re: HEARTBREAKER P.I [ UP! : 57 (100%) ] 2/12/56 : P.137
«ตอบ #4119 เมื่อ03-12-2013 12:20:25 »

แตกหักมั้ยละเนี่ย ดูตาร์โกรธพี่แซทพี่ควินจนกู่ไม่กลับแล้ว เหมือนมีลางว่าคราวนี้ตาร์คงไม่ให้อภัยพวกพี่เค้าอีกแล้ว
รู้สึกแบบนั้นอ่ะ ไม่ชอบนิสัยแบบนี้ของตาร์เลย เอาแต่ใจตัวเองเกินไป ไม่ฟังเหตุผลคนอื่น (เราไม่ได้เข้าข้างพระเอกนะ)
ชอบพูดทำร้ายจิตใจคนที่ตัวเองรัก  พี่สองคนเค้าผิดเองที่มารักตาร์ ถ้าไม่รักตาร์จนหมดใจเช่นนี้ เรื่องราวต่างๆก็คงไม่เกิด

ธัญญ์ทำสำเร็จแล้วสินะ ได้แก้แค้นให้เพื่อนโดยการทำลายคนอื่น  มันช่างปวดตับซะจริง 

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: HEARTBREAKER P.I [ UP! : 57 (100%) ] 2/12/56 : P.137
« ตอบ #4119 เมื่อ: 03-12-2013 12:20:25 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ diduek

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 163
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
    • http://diduek-san.exteen.com/
Re: HEARTBREAKER P.I [ UP! : 57 (100%) ] 2/12/56 : P.137
«ตอบ #4120 เมื่อ03-12-2013 20:38:26 »

ปวดตับบบบบบ

ออฟไลน์ Sohso

  • You are my precious thing And I will always love you.
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1372
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-3
Re: HEARTBREAKER P.I [ UP! : 57 (100%) ] 2/12/56 : P.137
«ตอบ #4121 เมื่อ03-12-2013 20:42:03 »

เรื่องยุ่งสุดๆไปเลย เฮ้อออ

ออฟไลน์ iammz

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2681
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +292/-6
Re: HEARTBREAKER P.I [ UP! : 57 (100%) ] 2/12/56 : P.137
«ตอบ #4122 เมื่อ03-12-2013 21:02:45 »

เรื่องแดงแล้วว~ พี่ควิน

ออฟไลน์ DeShiWa

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-9
Re: HEARTBREAKER P.I [ UP! : 57 (100%) ] 2/12/56 : P.137
«ตอบ #4123 เมื่อ04-12-2013 00:45:40 »

อ่านถึงตอนที่55แล้วครับ

สนุกมากๆเลย

เป็นำลังใจให้ครับผม

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
Re: HEARTBREAKER P.I [ UP! : 57 (100%) ] 2/12/56 : P.137
«ตอบ #4124 เมื่อ04-12-2013 01:11:46 »

TT

ออฟไลน์ ratnalin

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 743
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +71/-2
Re: HEARTBREAKER P.I [ UP! : 57 (100%) ] 2/12/56 : P.137
«ตอบ #4125 เมื่อ04-12-2013 01:27:54 »

อุเหม่ น้องธัญญ์แซ่บเว่อร์ แต่แบบว่าแซ่บมากจนผมคนอ่านจะร่วงหมดหัวอยู่แล้วค่ะ  :hao5:
เออเนอะ ประชดกันเข้าไป น้องต้าร์อารมณ์ร้อนไปจริงๆแหละ ยังเด็กน้อยจริงๆ ที่จริงอยากให้ตั้งสติแล้วฟังแซทกะควินบ้าง หนูต้าร์เองก็รู้แล้วไม่ใช่เหรอ ว่าถึงจะร้าย แต่สองคนนี้รู้สึกยังไง  :ling1:
แตกหักกันสินะงานนี้ จะเลิกกัน จะปล่อยไป หรือจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าตอนจบจบโดยที่ต่างฝ่ายต่างไม่เข้าใจกัน มันจะเป็นแบดเอนด์ที่เลวร้ายมากๆเลย (หวังว่าจะไม่จบแบบที่คิด)
รอตอนถัดไปค่ะ

ออฟไลน์ question09

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1501
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-10
Re: HEARTBREAKER P.I [ UP! : 57 (100%) ] 2/12/56 : P.137
«ตอบ #4126 เมื่อ04-12-2013 13:20:51 »

 :katai5: :katai5: :katai5: :katai5:

ต่อเลยได้ป่ะ อิอิ

ออฟไลน์ Niinuii

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 229
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-2
Re: HEARTBREAKER P.I [ UP! : 57 (100%) ] 2/12/56 : P.137
«ตอบ #4127 เมื่อ05-12-2013 00:48:51 »

โน่วววววว โกรธกันอีกแล้วอ่า

ออฟไลน์ Aiim

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 1
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: HEARTBREAKER P.I [ UP! : 57 (100%) ] 2/12/56 : P.137
«ตอบ #4128 เมื่อ06-12-2013 01:05:21 »

ตอนแรกนึกว่าธัญญ์เป็นฮาร์ฟกลับชาติมาเกิด แต่ตอนนี้รู้แล้ว เป็นเพื่อนกันนี่เอง

ออฟไลน์ lovelypolly

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-3
Re: HEARTBREAKER P.I [ UP! : 57 (100%) ] 2/12/56 : P.137
«ตอบ #4129 เมื่อ06-12-2013 01:53:08 »

โอ้ยยยยย บีบหัวใจกันเกินไปแล้ว
ตอนหน้ามาม่ามาแว้วววว
เริ่มสงสารอิพวกพี่ทั้งสองคนแล้วล่ะ
ฮือ ฮือ รีบมาต่อด่วนๆนะค่ะ
จะตั้งตารออย่างใจจดใจจ่อ
ขอบคุงมากๆค่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: HEARTBREAKER P.I [ UP! : 57 (100%) ] 2/12/56 : P.137
« ตอบ #4129 เมื่อ: 06-12-2013 01:53:08 »





ออฟไลน์ IöLIKE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 993
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-6
Re: HEARTBREAKER P.I [ UP! : 57 (100%) ] 2/12/56 : P.137
«ตอบ #4130 เมื่อ07-12-2013 20:21:32 »

ThankS

cinny

  • บุคคลทั่วไป
Re: HEARTBREAKER P.I [ UP! : 57 (100%) ] 2/12/56 : P.137
«ตอบ #4131 เมื่อ08-12-2013 00:39:44 »

นายเอกโง่อีกล่ะ....ของ :beat: :beat: :beat: สั่งสอนซะหน่อย #อินจัด

 :z6:   แด่ไอ้ธัญ

ออฟไลน์ pulovely

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 491
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-0
Re: HEARTBREAKER P.I [ UP! : 57 (100%) ] 2/12/56 : P.137
«ตอบ #4132 เมื่อ12-12-2013 12:09:51 »

ดันทู้ๆๆๆ

คิดถึงน้องเก๋อะ เมื่อไรมาต่อ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: HEARTBREAKER P.I [ UP! : 57 (100%) ] 2/12/56 : P.137
«ตอบ #4133 เมื่อ12-12-2013 12:54:57 »

ไม่จบไม่สิ้นสักที เศร้า

ออฟไลน์ ๛ナーリバス๛

  • ~~~๛NaaribuS๛~~~ ~ [TBL-081-588]
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +898/-26
    • NaaribuSS
Re: HEARTBREAKER P.I [ UP! : 57 (100%) ] 2/12/56 : P.137
«ตอบ #4134 เมื่อ12-12-2013 13:07:15 »

ดราม่า T^T

ออฟไลน์ finn~luv

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 440
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
Re: HEARTBREAKER P.I [ UP! : 57 (100%) ] 2/12/56 : P.137
«ตอบ #4135 เมื่อ13-12-2013 15:21:06 »

เป็นแบบนี้อีกแล้วววว ปวดตับบบบบ  :ling3: :ling3:
แม้เรื่องนี้จะร้ายแรงมาก แถมเป็นเรื่องจริง แต่ก็อยากให้ต้าร์ใจเย็นฟังพี่เค้าเล่าหน่อยก็ยังดี แอบสงสารควิน ที่ทำไปเพราะโกรธเรื่องต้าร์นั่นแหละ (แต่อารมณ์ก็ร้อนเกิ๊นนน เป็นไงล่ะ นี่มันไม่ใช่เรื่องเล็กๆเลยนะ)
พอคนนึงโกรธ อีกคนก็น้อยใจ ประชดประชันกันไปมา
เรื่องใหญ่อีกกกกกกกก  :sad4: :sad4:

เครียดจริงเลยให้ตายยยยยย

ออฟไลน์ question09

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1501
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-10
Re: HEARTBREAKER P.I [ UP! : 57 (100%) ] 2/12/56 : P.137
«ตอบ #4136 เมื่อ13-12-2013 15:31:01 »

 :mew2: :mew2: :mew2: :mew2: :mew2: :mew2: :mew2: :mew2: :mew2: :mew2:

ออฟไลน์ LSK

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
Re: HEARTBREAKER P.I [ UP! : 57 (100%) ] 2/12/56 : P.137
«ตอบ #4137 เมื่อ14-12-2013 15:02:49 »

หวานไม่กี่ตอน ต้องมากินมาม่าอีกแล้ว   :sad4:  ธัญญ์รอดไปได้ทุกทีสินะ  :ling1:

ออฟไลน์ New-Y Holic

  • Your love is a lie
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +207/-5
    • https://www.facebook.com/pages/New-Y-Holic/352883328112176
HEARTBREAKER P.I [ UP! : 58 (180%) ] 15/12/56 : P.139
«ตอบ #4138 เมื่อ15-12-2013 01:54:56 »



HEARTBREAKER

58




“ต้าร์ฟื้นแล้ว! ลุงหมอ ต้าร์ฟื้นแล้วครับ”

เสียงคุ้นเคยคล้ายดังอยู่ใกล้ๆ พอลืมตาสิ่งแรกที่เห็นก็คือพวกเขาสองคน มองไปรอบตัวก็พบว่าตัวเองนอนอยู่ในห้องที่คอนโด ผมขยับตัว พวกเขาก็รีบเข้ามาประคอง พอหันไปมองนาฬิกาก็ต้องเบิกตากว้างอย่างตกใจกับเวลา นี่ผมนอนหลับไปกี่ชั่วโมงเนี่ย ตื่นมาอีกทีก็กลายเป็นเช้าวันใหม่แล้ว

“เป็นไงบ้างต้าร์”

เสียงทุ้มของลุงหมอ ท่านเดินเข้ามาในห้องพลางส่งยิ้มอบอุ่นให้ผมก่อนจะลากเก้าอี้มานั่งข้างเตียงแล้วจับข้อมือผมตรวจดูอาการ

“ไม่เป็นไรครับ เอ่อ…แล้วผมเป็นอะไรไปเหรอครับ” ผมถามด้วยความสงสัย ก้มมองตัวเองก็พบว่าอยู่ในชุดนอนที่ใส่ประจำ
คงเป็นพวกเขาที่เปลี่ยนให้ผม

“ต้าร์หมดสติไป ลุงตรวจดูอาการแล้ว ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ ไม่ได้เป็นอะไรร้ายแรงหรอก ไม่ต้องกังวล”

ผมพยักหน้ารับรู้ หันไปมองพวกเขาที่จ้องผมไม่วางตาก็ได้แต่ถอนหายใจ

“พักผ่อนมากๆ ลุงจ่ายยากับวิตามินให้แล้ว ควินกับแซทก็ดูแลน้องดีดี”

พวกเขาพยักหน้ารับ ลุงหมอทำท่าจะลุกออกไป ผมคว้ามือท่านไว้ ส่งสายตาขอร้องให้ท่านอยู่ต่อ

“ผมมีเรื่องจะคุยด้วย อยู่คุยกับผมก่อนได้ไหมครับ”

ลุงหมอหันไปมองหน้าพวกเขาแวบนึงก็หันมายิ้มให้ผม

“ได้สิ”

“ออกไปก่อนได้ไหมครับ” ผมพูดขึ้นโดยไม่ได้มองหน้าพวกเขา หลังจากนั้นพวกเขาก็ยอมออกจากห้องไปโดยดี

“มีเรื่องอะไรจะคุยกับลุงเหรอ”

ลุงหมอถามขึ้น ผมละมือออก ยิ้มให้ท่าน

“เรื่องพี่ควินน่ะครับ”

“มันรังแกอะไรต้าร์อีก”

ผมยิ้มแล้วส่ายหน้า

“เขาไม่ได้รังแกอะไรผมหรอกครับ มีเรื่องนึงที่ผมยังไม่รู้ และเขาก็ไม่บอก”

“เรื่องอะไร”

ผมมองหน้าลุงหมอ ใจนึงก็ไม่อยากเอาเรื่องกลุ้มใจของตัวเองทำให้ท่านลำบากใจหรือหนักใจตามไปด้วย แต่อีกใจผมก็อยากรู้ความจริง ถ้าจะให้ถามจากพี่ควินก็เกรงว่าเจ้าตัวจะปิดปากเงียบเหมือนเคย

“มีคนกล่าวหาว่าพี่ควินเป็นฆาตกร เขาบอกว่าพี่ควินฆ่าเพื่อนเขา แต่ที่ผมรู้คือเขาคนนั้นตายไปเพราะอุบัติเหตุรถคว่ำ ลุงหมอรู้ใช่ไหมครับว่าผมหมายถึงใคร”

ผมมองหน้าท่าน ท่านเองก็มองหน้าผม รอยยิ้มเศร้าผุดขึ้น อาการแบบนี้แสดงว่าท่านต้องรู้ความจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้แน่

“มันเป็นตราบาปติดตัวควินไปตลอดชีวิต เพราะการกระทำที่ขาดการยั้งคิดและไร้สติ”

ลุงหมอเกริ่นขึ้นด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ ผมพยายามนิ่งและตั้งใจฟัง แม้ในใจจะเต้นรัวเพราะหวาดกลัวกับความจริง

“ลุงไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์วันนั้น แต่ควินสารภาพกับลุงเองว่าเขาถือมีดแทงฮาร์ฟกับมือ”

ผมหลับตาแน่นกำมือจนสั่น สิ่งที่ผมรับรู้กับความจริงจากปากของลุงหมอมันต่างกันสิ้นเชิง

“ลุงรู้ว่าหลานทั้งสองคนไม่ถูกกัน จะบอกว่าเกลียดขี้หน้ากันก็ได้ แต่ลุงก็ไม่คิดว่าความเกลียดจะทำให้ถึงขั้นฆ่ากัน พ่อเขารักลูก ถึงรู้ว่าลูกผิดแต่ก็ปกป้อง ไม่ยอมแจ้งความ ไม่ยอมส่งลูกให้ตำรวจ ไม่ยอมให้ลูกติดคุก ลุงเองก็มีส่วนผิด เพราะลุงไม่ได้คัดด้านที่พ่อควินทำแบบนั้น ฮาร์ฟก็เป็นหลานลุงคนนึง ลุงก็รักเขา ชีวิตเขามีค่าไม่ต่างจากควิน แต่เรื่องมันผ่านไปแล้ว ย้อนกลับไปแก้ไขไม่ได้ ชีวิตคนที่ยังอยู่ก็ต้องดำเนินต่อไป”

ผมกัดฟันลืมตาขึ้นมอง ลุงหมอยิ้มเศร้า ถอนหายใจ ท่านยื่นมือออกมาวางบนศีรษะผมลูบเบาๆ

“ที่ควินไม่ได้บอกความจริงคงเพราะกลัวว่าต้าร์จะเกลียดมันมากกกว่าเดิม แต่เชื่อลุงเถอะ ควินมันไม่ได้มีความสุขกับสิ่งที่ทำลงไปหรอก ฆ่าน้องตัวเองกับมือ ถึงจะเกลียดกันขนาดไหน มันก็เสียใจ คนปากหนักอย่างนั้น ต่อให้รู้สึกผิดหรือเจ็บปวดแค่ไหนก็ไม่ปริปากพูดออกมาหรอก ดูที่มันทำกับพ่อตัวเองสิ”

คำพูดลุงหมอทำให้ผมรู้สึกผิดขึ้นมาทันที ผมตะโกนบอกว่าเกลียดเขา ความรู้สึกของคนฟังจะเป็นยังไง

“หลานลุงไม่ใช่คนดี ต้าร์ก็พิสูจน์ด้วยตัวเองแล้ว ต่อจากนี้ก็แล้วแต่ต้าร์ตัดสินใจ ตั้งสติไตร่ตรองให้ดี ถ้าต้าร์ต้องการจะไป ลุงจะช่วย”

ผมยิ้มกับความเมตตาของลุงหมอ ท่านใจดีและเอ็นดูผมเสมอมา

“ขอบคุณนะครับที่บอกความจริงกับผม”

“ไม่เป็นไร ยังไงซะวันนึงความจริงมันก็ต้องปรากฏ ต่อให้มีเงินเยอะแค่ไหนก็ปิดปากคนทั้งโลกไม่ได้ แล้วคนที่รู้เรื่องนี้เขาเป็นใครล่ะ พวกอริไอ้ควินมันล่ะสิ”

ลุงหมอส่ายหน้าอย่างระอา ท่านคงเหนื่อยใจกับพฤติกรรมของหลานชาย

“ลุงหมอก็รู้จักเขาครับ ธัญญ์ คนไข้ที่ลุงหมอดูแลนั้นแหละครับ”

“เวรกรรมจริงๆ เฮ้อ…”

ผมพลอยถอนหายใจยาวตามลุงหมอไปด้วย ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่เรื่องวุ่นวายนี้จะจบซะที

“ต้าร์เลิกคิดเรื่องที่ทำให้ปวดหัวเถอะ ตอนนี้ต้องผักผ่อนมากๆ ดูแลตัวเองดีดี สุขภาพสำคัญที่สุด”

“ครับ” ผมรับคำ ยิ้มให้ลุงหมอวางใจ

“งั้นลุงไปก่อนก่อนนะ มีปัญหาอะไรก็โทรบอกลุงได้ตลอด ไม่ต้องเกรงใจ”

“ขอบคุณลุงหมอมากนะครับ”

ผมยกมือไหว้ลุงหมอก่อนท่านจะลุกเดินออกจากห้องไป สักพักพวกเขาก็เข้ามาในห้อง มานั่งขนาบสองข้างเตียงโดยไม่พูดอะไร

“ผมขอโทษ” พวกเขาขมวดคิ้วมองหน้าผม พี่แซทถึงขั้นเอาหลังมือมาทาบหน้าผากคล้ายจะวัดไข้ให้ ส่วนพี่ควินนั่งนิ่งแต่ตาจ้องผมเขม็ง

“ผมผิดที่ตะโกนใส่พวกพี่ไปแบบนั้น ขอโทษนะครับ ตอนนั้นผมขาดสติ”

“งั้นมึงก็ไม่ได้เกลียดกูจริงๆใช่ไหม”

พี่แซทถามชิดใบหน้า ผมยิ้มแล้วยกมือประคองหน้าเขาไว้

“ไม่ครับ”

“จริงๆนะ มึงอย่าหลอกให้กูดีใจแล้วมาเหยียบหัวใจกูทีหลังนะ”

ผมหลุดขำ พักหลังมานี่พี่แซทพูดเยอะขึ้นแถมยังกวนจนผมตามไม่ทัน

“จริงสิครับ ก็ตอนนั้นผมโกรธนี่นา แต่ตอนนี้หายแล้ว”

ผมยิ้ม ผละมือออกแต่พี่แซทรวบตัวผมไว้ เขาซุกหน้ากับซอกคอผมพูดเสียงอู้อี้

“มึงชอบปั่นหัวกู ทำให้กูเป็นบ้า กูจะคลั่งตายก็เพราะมึงนั่นแหละ”

“มาโทษผมได้ยังไง พวกพี่นั่นแหละปั่นหัวผม ชอบหาเรื่องมาให้ผมปวดหัวอยู่เรื่อย”

ผมว่าแล้วดันตัวเขาออกซึ่งเขาก็ยอมถอยโดยดี ผมหันไปมองคนที่ยังนั่งนิ่งจ้องผมอยู่ เขาไม่พูดอะไรสักคำตั้งแต่เข้ามา

“พี่ควินยังโกรธผมอยู่เหรอครับ ทำไมไม่พูดอะไรเลย”

“จะให้กูพูดอะไร”

ผมยิ้ม ในที่สุดเขาก็ยอมเปิดปาก ผมเขยิบเข้าไปใกล้แล้วเอนตัวซบเขา แขนแกร่งยกขึ้นโอบกอดผมทันที เขารัดแน่นจนหน้าผมแนบกับอกกว้างของเขา

“ถามลุงหมอแล้วใช่ไหม”

ผมพยักหน้า เขารู้ว่าผมต้องถามความจริงจากลุงหมอ ถึงได้ออกไปจากห้องโดยไม่โวยวายสักคำ

“ความจริงที่มึงอยากรู้ ทำให้มึงเกลียดกูมากกว่าเดิมหรือเปล่า”

ผมส่ายหน้า ขยับนั่งตัวตรงเผชิญหน้ากับเขา มองสบนัยน์ตาคมแล้วยิ้มให้เขาด้วยความจริงใจ

“ไม่ครับ ผมไม่ได้เกลียดพี่”

“ไม่ต้องมาหลอกให้กูดีใจ กูรู้ว่ากูเหี้ย กูเลว มึงจะเกลียดกูก็ถูกต้องแล้ว”

“ทำไมต้องว่าตัวเองด้วย ในเมื่อเรื่องมันผ่านไปแล้ว ตอนนั้นผมแค่อยากรู้ว่าความจริงมันเป็นยังไง ตอนนี้ผมรู้แล้ว และผมก็ไม่ได้รู้สึกอย่างที่พี่คิดไปเองด้วย”

พี่ควินมองตาผมแล้วดึงผมเข้าไปกอดไว้แน่น ผมยิ้ม กอดตอบเขา หลับตาซึมซับเอาความอบ

อุ่นจากอ้อมกอดนี้ไว้

“ต่อไปนี้เรามาทำสัญญากันนะครับ” ผมพูดขึ้น

พี่ควินผละจากอ้อมกอด เขามองหน้าผมอย่างงุนงง หันไปมองพี่แซท เขาเองก็มองผมด้วยสายตาแบบเดียวกัน

“พวกเรามาทำสัญญากันว่าจะไม่พูดโกหก มีเรื่องอะไรก็อย่าปิดบังกัน ผมสัญญากับพวกพี่ตรงนี้เลยว่าผมจะไม่พูดโกหก ไม่ปิดบัง ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม” ผมบอกพลางยกมือข้างขวาขึ้น

พวกเขามองหน้ากันเลิกลั่กแต่สักพักก็ยอมยกมือขึ้นตอบรับ

“เออ ไม่โกหก ไม่ปิดบัง / เออ ไม่โกหก ไม่ปิดบัง”

ผมหัวเราะที่พวกเขาพูดขึ้นมาพร้อมกันแล้วหันมองหน้ากันอย่างระอา

“สัญญากันแล้วนะครับ พวกพี่อย่าลืมล่ะ”

ผมยิ้มให้พวกเขา พี่ควินขยับเข้ามานั่งซ้อนข้างหลังแล้วกอดผมไว้ พี่แซทแสยะยิ้มมองเพื่อนตาขวางแต่ก็ไม่ได้เข้ามาก่อกวน เขานอนเหยียดขามาทางผม สภาพบนเตียงตอนนี้ทำให้ผมหลุดหัวเราะ

“หิวหรือยัง”

พี่ควินกระซิบถามพลางไล้จมูกกับข้างแก้มผม

“ยังครับ”

“แต่กูหิวแล้ว”

“อ้าว…” ผมลากเสียงยาว พอหันไปมองก็ถูกงับปลายจมูกอย่างหยอกล้อ

“น้อยๆหน่อยมึง กูเปิดทางให้หน่อย เอาใหญ่เลยนะไอ้สัด”

พี่แซทแขวะเพื่อน ผมยิ้มขำ

“มันเป็นสิทธิ์ของกูอยู่แล้วเว้ย มึงเสือกอะไร”

พี่ควินสวนกลับ ผมส่ายหน้าแล้วจับแขนที่กอดรัดรอบเอวออกซึ่งเขาก็ยอมคลายอ้อมกอดโดยดี

“อย่าทะเลาะกันนะ ผมขี้เกียจห้ามแล้ว”

ผมว่าเสียงเรียบ พวกเขาเลยเงียบ ผมมองหน้าพวกเขาแล้วหวนคิดถึงเหตุการณ์วุ่นวายที่ผ่านมา ช่วงนี้มีแต่เรื่องแย่ๆ ตัวผมเองยังเหนื่อย แล้วพวกเขาจะเหนื่อยขนาดไหน แต่ทั้งๆที่มีแต่เรื่องแย่ๆเข้ามาพวกเขาก็ยังดูแลผมอย่างดี

“เราไปทำบุญกันไหมครับ พักนี้มีแต่เรื่องไม่ดีเข้ามา เข้าวัดทำบุญ ปล่อยนกปล่อยปลา คงช่วยให้จิตใจสงบลงได้บ้าง” ผมชวนพวกเขา มองหน้าอย่างรอฟังคำตอบ

“แล้วแต่มึง”

พี่แซทตอบมา ผมเลยหันไปจ้องพี่ควินขอคำตอบ

“อืม ไปก็ไป”

ผมยิ้มกว้างกับคำตอบ ขยับลงจากเตียง

“อีกยี่สิบนาทีเจอกันครับ” ผมบอกพวกเขาแล้วคว้าผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำ


ผมเดินสะพายกระเป๋าออกจากห้องหลังจากจัดการกับตัวเองเสร็จ ก่อนออกมาผมโทรหาเฟียซถามถึงเรื่องเมื่อคืน เจ้าตัวบอกว่าเป็นห่วงผมมากที่จู่ๆก็หมดสติไป เฟียซเล่าว่าสถานการณ์ตอนนั้นชุลมุนมาก เพราะทุกคนเอาแต่ตกใจจนทำอะไรไม่ถูก ยังดีที่พี่ควินตั้งสติได้เร็วเลยรีบอุ้มผมพาไปที่รถ เฟียซขับรถตามพวกเขามาถึงคอนโดแต่ไม่ได้ขึ้นมาเพราะพวกเขาไม่อนุญาต หวิดจะวางมวยใส่กันแล้ว ดีที่เฟียซยอมถอยกลับไปโดยดี ผมก็ได้แต่ขอโทษเพื่อนไปและบอกให้เขาวางใจว่าผมไม่ได้เป็นอะไรมาก
ได้ยินเสียงคุยกันอยู่ในห้องนั่งเล่น พอเดินเข้าไปก็เห็นพวกเขายืนประจันหน้ากันอยู่

“ตกลงอะไรกันครับ” ผมแกล้งถาม

“เปล่า แค่คุยกันว่าจะไปวัดไหน”

พี่ควินตอบพลางเดินเข้ามาดึงกะเป๋าออกจากไหล่ผมไปสะพาย

“ไปวัดประจำของยายมึงก็ได้นี่หว่า ไปวัดนั้นแหละ”

พี่แซทว่าแล้วเดินนำออกไปก่อน ผมมองตามแล้วหัวเราะ ประโยคแรกกก็เหมือนจะออกความเห็นนะ แต่ประโยคหลังกลับตัดสินใจเองซะงั้น เผด็จการเสมอต้นเสมอปลายจริงๆ

“อยากกินอะไร”

พี่ควินถาม โอบเอวผมพาเดินออกจากห้อง

“เช้าๆแบบนี้ กินโจ๊กก็ได้ครับ”


วันนี้พี่แซทเป็นคนขับรถ เขาสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวพับแขนถึงข้อศอก แต่งตัวเรียบร้อยพร้อมจะไปวัดทำบุญ ส่วนพี่ควิน เขาสวมเสื้อยืดคอวีสีขาว มีแว่นกันแดดRaybanห้อยอยู่ที่คอเสื้อ ผมยิ้มพอใจกับการแต่งตัวของพวกเขาซึ่งใจตรงกันกับผม เพราะผมก็ใส่เสื้อแขนยาวสีขาวเหมือนกัน ถึงจะเผด็จการ เอาแต่ใจ ใช้กำลัง แต่พวกเขาก็รู้จักกาลเทศะ รู้จักเคารพให้เกียรติสถานที่ล่ะนะ

“ต้าร์อยากกินโจ๊ก”

พี่ควินหันไปบอกพี่แซท คนมีหน้าที่ขับรถพยักหน้ารับรู้แล้วเปิดไฟเลี้ยวซ้าย ผมมองไปก็เห็นป้ายร้านโจ๊กอยู่ข้างหน้า
พวกเขาตามใจผม(เกือบ)ทุกเรื่องจริงๆ

พอพวกเราเข้าไปในร้าน ผมสั่งโจ๊กใส่ไข่ไปชามนึง หันไปมองคนพามา พวกเขาก็พร้อมใจกันส่งสายตาบอกให้ผมจัดการให้ด้วย ผมยิ้มแล้วหันไปสั่งโจ๊กไส่ใข่อีกสองชามกับพนักงานที่จ้องพวกเขาตาวาว

“ไม่ชอบเหรอครับ น้องเขาออกจะน่ารัก ปากแดง” ผมเอ่ยแซวหลังจากพนักงานเดินกลับไป

“ไม่ชอบ / ไม่ชอบ”

พวกเขาตอบพร้อมกันด้วยใบหน้าบึ้งตึง

“ผมก็แค่ล้อเล่น อย่าจริงจังสิครับ”

“กูไม่ชอบใครนอกจากมึง”

พี่แซทว่าเสียงเข้มแล้วยกแก้วน้ำขึ้นดื่ม ช่างเป็นคนที่พูดตรงจริงๆ ไม่คิดว่าคนฟังอย่างผมจะเขินบ้างหรือไง!
พอโจ๊กมาเสิร์ฟพวกเราก็ทานกันไปเงียบๆ ผมทานจนพร่องไปครึ่งนึงพี่ควินก็วางถุงยาไว้ข้างๆ

“ขอบคุณนะครับ” ผมยิ้มบอกกับความห่วงใยและเอาใจใส่ของเขา

“กูไม่ชอบให้มึงป่วย”

พวกเขาขยันทำให้ผมเขินจริงๆ ให้ตายเถอะ!

เรียกพนักงานเก็บเงินเสร็จพวกเราก็เดินทางกันต่อ ผมนั่งมองวิวข้างทางไปเรื่อยจนรู้สึกได้ว่าพี่แซทกำลังขับรถออกนอกเมือง ผมขมวดคิ้วก่อนชะโงกหน้าไปตรงกลางระหว่างเบาะตอนหน้า

“เราจะไปวัดไหนกันเหรอครับ”

“อยุธยา”

พี่ควินเป็นคนตอบ ผมพยักหน้าแล้วกลับมานั่งที่ เสียงเตือนไลน์ดังพอดีผมเลยหยิบโทรศัพท์มาดู บอสทักผมมา ผมทักเพื่อนกลับไปในแชทกลุ่ม จากนั้นเฟียซกับตัวเล็กก็ตามมาสมทบ พวกเราเลยแชทคุยกันเป็นเรื่องเป็นราวถึงหัวข้อที่ธัญญ์ก่อขึ้นวันนั้นจนรู้ถึงหูของท่านอธิการบดี


“ต้าร์ ถึงแล้ว”

เสียงพี่ควินเรียก ผมเงยหน้าขึ้นจากจอโทรศัพท์  มองออกไปนอกกกระจกรถก็เห็นร้านค้าแผงลอยเรียงรายเต็มสองข้างทาง ผมเก็บโทรศัพท์แล้วเปิดประตูลงจากรถ

“วัดใหญ่จังเลยครับ สวยด้วย”

ผมยิ้ม มองสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่เบื้องหน้า กำแพงรั้ววัดทาด้วยสีขาวสูงตระหง่านล้อมรอบบริเวณอาณาเขตของวัด พระพุทธรูปขนาดใหญ่ โบสถ์และเจดีย์ข้างในทำให้ผมตื่นตาตื่นใจกับการมาทำบุญครั้งนี้

“แดดร้อนแล้ว”

พี่แซทบอกพร้อมกับสวมหมวกให้ผมกันแสงแดด ผมยิ้มขอบคุณเขา

“ถวายสังฆทานด้วยนะครับ มาทำบุญทั้งที ต้องทำให้สมบูรณ์” ผมบอกแล้วชี้ให้พวกเขาดูร้านขายชุดสังฆทานก่อนเดินนำไปที่ร้าน

“เอาสังฆทานชุดใหญ่สามชุดครับ” ผมบอกเจ้าของร้าน

พี่แซทเปิดกระเป๋าตังค์ควักเงินออกมาจ่าย ส่วนพี่ควินรับหน้าที่หิ้ว

“ใกล้จะได้เวลาพระท่านฉันเพลแล้ว จะเอาพวกของคาวของหวานถวายด้วยไหมล่ะพ่อหนุ่ม”

ผมหันไปมองพวกเขาเมื่อเจ้าของร้านบอก พวกเขาก็พยักหน้าตามใจผมเหมือนเคย

“เอาครับ แล้ววัดนี้มีพระประจำอยู่กี่รูปเหรอครับ”

“เก้ารูป หลวงพี่สามรูป ที่เหลือก็สามเณร นั่นนะ เดินเลยไปอีกสองร้าน มีร้านกับข้าวขายอยู่ ร้านขนมหวานก็ขายติดกันนั่นแหละ เดินไปดู”

“ขอบคุณมากครับ”

พวกเราเดินไปตามที่คุณป้าเจ้าของร้านขายสังฆทานบอก มีคนยืนมุงรอซื้อกับข้าวกันเต็ม ผมยืนรอจนคนบางตาก็เข้าไปสั่ง บอกแม่ค้าว่าเอาไปถวายเพล รอสักพักแม่ค้าก็ยื่นถุงกับข้าวพร้อมกับข้าวเปล่าส่งให้ พี่แซทเข้ามายืนขนาบข้างควักเงินจ่ายอย่างรู้หน้าที่ พอได้ของคาวแล้วก็ต่อด้วยของหวาน

“ขาดดอกไม้ธูปเทียนครับ” เดินออกจากร้านขายขนมหวานผมก็หันไปบอกพวกเขา

“เจอร้านแล้ว เดี๋ยวกูเดินไปซื้อ รออยู่ตรงนี้แหละ”

พี่แซทบอกแล้วเดินไป ผมมองตามจนเข้าหยุดอยู่ที่หน้าแผงลอยเล็กๆที่ขายดอกไม้ธูปเทียนเป็นชุด

“หนักไหมครับ ผมช่วยถือไหม”

ผมถามพี่ควินที่ยืนรออยู่ข้างๆ เขาส่ายหน้า ผมเลยยิ้ม ไม่พูดต่อ จนพี่แซทเดินกลับมา พวกเราก็เดินเข้าวัดกัน

“สงสัยคนกลุ่มนั้นน่าจะเป็นคนในพื้นที่นะครับ ผมเห็นเขาถือปิ่นโตด้วย คงเอาไปถวายเพล เราเดินตามเขาไปดีกว่าครับ” ผมบอกพวกเขา เร่งเดินตามกลุ่มคนข้างหน้าไป

กุฏิสงฆ์ขนาดสองชั้นปรากฏอยู่เบื้องหน้า ประตูเปิดรอต้อนรับ มีผู้คนจำนวนนึงเข้าไปถวายเพล พวกผมถอดรองเท้าก่อนเข้าไปสมทบ ผมถอดหมวกก้มลงกราบพระพุทธรูปแล้วเข้าไปนั่งข้างๆกลุ่มคนที่นั่งรอกันอยู่

“มาจากกรุงเทพเหรอพ่อหนุ่ม”

คุณป้าท่านนึงเอ่ยทัก ผมยิ้มให้แล้วพยักหน้าตอบรับ

“ครับ พวกผมมาจากกรุงเทพ ตั้งใจมาทำบุญ”

“ดี เด็กวัยรุ่นสมัยนี้ไม่ค่อยชอบเข้าวัดทำบุญกัน ดีแล้วล่ะ รีบเอาของไปถวายเพลเถอะ เดี๋ยวพระท่านก็ออกมาแล้ว”

ผมยิ้ม คลานเข่าไปตามคนที่กำลังต่อแถวอยู่ มีคนคอยจัดการให้อยู่ข้างๆ ไม่นานพระภิกษุทั้งเก้ารูปก็ออกมา พวกผมรีบหมอบกราบ

“จะถวายเพลใช่ไหม เอาของมานี่ เดี๋ยวจัดการให้”

คุณลุงในชุดขาวผมเดาว่าท่านน่าจะเป็นมัคทายกบอกพร้อมกับยื่นมือออกมา ผมเลยยื่นถุงกับข้าวกับถุงขนมหวานไปให้ พอคุณลุงจัดการเสร็จก็ส่งถาดขนาดใหญ่มาให้ พี่ควินรับมาถือไว้ ผมมองดูก็เห็นว่าของที่ซื้อมาถวายถูกจัดใส่ถ้วยชามเรียบร้อย ผมยิ้มอย่างพอใจ

“เข้าไปถวายกันเถอะครับ” ผมบอกพวกเขา

เสียงตีระฆังบอกเวลาพระฉันเพลหลังจากที่พวกผมยกถาดอาหารให้กับสามเณรเบื้องหน้าก่อนจะถอยออกมานั่งรอที่เสื่อ ผมรู้สึกจิตใจสงบตั้งแต่เข้าวัดมาแล้ว เหมือนกลิ่นอายของวัดจะขจัดเรื่องเครียดทางโลกของผมออกไปชั่วขณะ นั่งรอสักพักพระภิกษุและสามเณรก็ฉันเสร็จ ผมยกมือพนมไหว้เพราะต่อจากนี้จะเป็นการอนุโมทนา

“ตอนกรวดน้ำจับต่อกับป้าก็ได้พ่อหนุ่ม”

คุณป้าท่านเดิมหันมาบอก ผมยิ้มกับความใจดีของท่าน

“กรวดน้ำแล้ว จับผมไว้นะครับ” ผมหันไปบอกพวกเขา

พอเริ่มกรวดน้ำผมก็ยื่นมือแตะแขนคุณป้า พี่ควินพี่แซทก็ยื่นมือมาแตะแขนผมต่ออีกที

“จะถวายสังฆทานด้วยเหรอ ถ้าถวายสังฆทานต้องขึ้นไปถวายในโบสถ์ ไปบอกมัคทายก เขาจะพาไป”

คุณป้าบอกพลางมองมาที่ชุดสังฆทานข้างๆพี่ควิน ผมพยักหน้ารับรู้ ยกมือไหว้ขอบคุณท่าน

“คุณลุงชุดขาวนั่นใช่ไหมครับ”

“ใช่ คนนั้นแหละ ไปบอกตอนนี้เลยก็ได้ว่าจะถวายสังฆทาน”

“ครับ”

“เดี๋ยวกูไปบอกเอง”

พี่ควินอาสาลุกไปบอก ผมกับพี่แซทเลยนั่งรอ พอพี่ควินกลับมาพวกเราก็ออกจากกุฏิเดินตามคุณลุงไป

“มาช่วงเช้าก็ดีนะ คนยังไม่เยอะ ถ้ามาช่วงบ่ายคนแน่น”

คุณลุงหันมาบอก ผมยิ้มตอบ พี่ควินกับพี่แซทช่วยกันหิ้วชุดสังฆทานเดินขนาบข้างผม พอขึ้นโบสถ์มา คุณลุงก็แยกไปจัดการสถานที่ให้พระภิกษุทั้งสามรูป พี่ควินยกชุดสังฆทานมาวางไว้ตรงหน้าผมอย่างเตรียมพร้อม ผมหันไปยิ้มกว้างให้เขา

“เอาไว้กรวดน้ำ ตอนรีบศีลรับพร อยากอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้ใครก็เขียนบอกท่านไป”

คุณลุงบอกพร้อมส่งคนโทกรวดน้ำ แก้ว กระดาษกับปากกามาให้ พี่ควินรับมาวางไว้ยื่นกระดาษกับปากกาส่งให้ผม ผมเขียนชื่อนามสกุลของคุณพ่อคุณแม่เสร็จแล้วก็ส่งต่อให้พี่ควิน เขามองผมงงๆ

“เขียนชื่อคุณแม่พี่ควินสิครับ แล้วก็น้องชายด้วย”

ผมยิ้มบอกพลางจับมือเขาไว้อย่างให้กำลังใจ เขามองหน้าผมนิ่งบีบมือผมกลับแล้วก้มหน้าเขียนชื่อใส่กระดาษ เสร็จแล้วก็ส่งให้คุณลุงส่งต่อให้พระภิกษุเพื่อที่ท่านจะได้ทำพิธีต่อไป

“จุดธูปจุดเทียนก่อนนะโยม”

พระภิกษุเอ่ยบอก พี่แซทจัดการแบ่งธูปเทียนให้ผมแล้วเขาก็ล้วงเอาไฟแชคจากกระเป๋ากางเกงมาจุดไฟ

“ว่านโมสามจบแล้วกล่าวถวายสังฆทานตามอาตมา”

พวกผมพนมมือปฏิบัติตามที่พระภิกษุบอก

“ข้าแต่พระสงฆ์ผู้เจริญ ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอถวายภัตตาหาร กับทั้งบริวารทั้งหลายเหล่านี้แด่พระภิกษุสงฆ์ ขอพระภิกษุสงฆ์จงรับ ซึ่งภัตตาหาร กับทั้งบริวารทั้งหลายเหล่านี้ของข้าพเจ้าทั้งหลาย เพื่อประโยชน์ เพื่อความสุขแก่ข้าเจ้าทั้งหลาย สิ้นกาลนานเทอญ”

“สาธุ”

พวกผมยกชุดสังฆทานขึ้นถวายให้พระภิกษุ จากนั้นท่านก็ให้ศีลให้พร ผมค้อมศีรษะลงต่ำรับฟังอย่างตั้งใจ ถึงช่วงกรวดน้ำผมจับมือพี่ควินให้เขาช่วยผมกรวดน้ำด้วยกัน พี่แซทที่นั่งข้างๆก็แตะมือผม จนเสร็จพิธีการ ผมยกมือไหว้พระภิกษุและกราบพระพุทธรูปเบื้องหลัง

“จะคิดจะทำอะไรก็ขอให้ตั้งมั่นอยู่ในสตินะโยม”

“ครับ” ผมตอบรับ แปลกใจนิดหน่อยที่ท่านมองมาที่ผมก่อนเบนสายตาไปที่พวกเขา

“ระลึกถึงสิ่งที่คิดจะทำ มีสติอยู่เสมอ เวรกรรมไม่อาจลบล้างได้ด้วยการทำบุญเพียงครั้งเดียว แต่ถ้าเรามีจิตใจที่บริสุทธิ์ คิดดี ทำดี ระลึกดี บุญกุศลจะหนุนนำให้เราพบเจอแต่สิ่งดีนะโยม สังขารเมื่อมาถึงก็ยากจะยื้อ เกิดแก่เจ็บตายเป็นสัจธรรมของมนุษย์ แม้แต่สัตว์ก็เวียนว่ายตายเกิดเช่นเดียวกัน”

ผมหันไปมองพวกเขา พวกเขาเองก็หันมามองผม พวกเราเงียบคล้ายกับตกอยู่ในภวังค์ได้แต่มองหน้ากันจนเสียงคุณลุงมัคทายกดังขึ้น

“เสร็จพิธีแล้ว น้ำที่กรวดก็เอาออกไปเทใส่ต้นไม้ข้างนอก วางแก้วไว้แถวนั้นแหละเดี๋ยวเด็กวัดมันก็มาเก็บไปเอง จะไปทำบุญกันต่อก็ตามสบายนะ เดินทางกลับดีดี ขอให้โชคดี”

ผมไหว้ขอบคุณท่านเดินตามหลังพระภิกษุออกจากโบสถ์ไป พวกผมก็ลุกขึ้นเดินตามออกไป

“ใส่หมวก แดดร้อน”

พี่แซทบอกแล้วดึงหมวกในมือผมไปสวมให้

“ขอบคุณนะครับ วันนี้ผมมีความสุขมากที่ได้มาทำบุญกับพวกพี่”

ผมยิ้มบอกพวกเขาจากใจจริง พี่ควินกระตุกยิ้ม เขาสวมแว่นกันแดดแล้วยื่นมือมาลูบแก้มผมเบาๆ

“กูก็ดีใจที่ได้มาทำบุญกับมึง”

ผมยิ้มกว้าง จับมือเขาแนบแก้ม

“เกิดชาติหน้าขอให้มึงรักกู หลงกู สาธุ”

พี่แซทยกมือไหว้ท่วมหัว ผมขำกับท่าทางของเขา ไม่คิดว่าเขาจะมีมุมแบบนี้ด้วย พี่ควินผละออกไป เขาเดินไปเทน้ำที่กรวดไปใส่ต้นไม้ใหญ่ใกล้ๆ เขาหลับตานิ่งอยู่ครู่นึงก็วางแก้วไว้แล้วเดินกลับมา

“ไม่รู้ว่าวัดนี้ให้ปล่อยนกปล่อยปลาได้หรือเปล่า ลองไปถามกันเถอะครับ”

ผมชวนแล้วเดินนำไปก่อน ลองไปถามคนที่มาทำบุญเหมือนกันเขาก็บอกว่าวัดนี้ไม่มีที่ให้ปล่อยนกปล่อยปลา ถ้าอยากซื้อมาปล่อยก็ให้ไปอีกวัดนึง

“เอายังไงดีครับ เราจะไปกันไหม แต่ผมอยากไปนะ”

ผมบอกแล้วยิ้มกว้าง พวกเขาก็พยักหน้าตามใจผม จากนั้นพวกเราก็ขึ้นรถเดินทางกันต่อ


มาถึงอีกวัดนึง ลงจากรถปุ๊บก็ได้ยินเสียงนกร้องต้อนรับ มองไปก็เห็นร้านค้าเต็มไปด้วยกรงนกที่แข่งกันส่งเสียงร้องอยู่ พอพวกเขาเดินมาหยุดข้างๆผมก็ชี้ให้ดู

“เจอแล้วครับ ร้านขายปลาคงอยู่แถวนี้แหละ”

ผมบอกแล้วออกเดิน เจ้าของร้านต่างพากันส่งเสียงเรียกลูกค้ากันระงม ผมเดินไปหยุดที่ร้านซึ่งมีเด็กผู้หญิงกำลังเทอาหารนกใส่ในกรงอยู่ ผมถามราคา ตกลงว่าจะเอา คราวนี้พี่ควินเป็นคนจ่ายเงิน ได้นกแล้วเราก็เดินหาซื้อปลา ผมตาโตเมื่อเดินมาหยุดที่ร้านขายปลาร้านนึง หน้าร้านเขามีเต่าตัวใหญ่มากอยู่ในบ่อ ผมก้มลงมอง ในบ่อมีเงินเหรียญเต็มเลย

“จะเอาเป็นถุงหรือจะเอาเป็นตู้”

พี่ควินถามแล้วชี้ให้ดู ผมมองตามก็เห็นชั้นตู้ปลาวางอยู่เต็มร้าน มีแบบขายเป็นถุงด้วย

“เรามากันสามคน เอาแบบตู้ก็ได้ครับ”

พี่ควินจัดการเจรจาซื้อ ผมยืนรออยู่หน้าร้านดูเต่าไปพลางๆ พี่แซทก็ยืนอยู่ข้างๆด้วย

“ได้แล้ว ป่ะ เข้าไปปล่อย”

พี่ควินเดินมาโอบไหล่ผม เขายกตู้ปลาให้ดู ผมยิ้ม แล้วพวกเราก็เดินเข้าไปในวัด มีคนมาทำบุญกันเยอะเลยที่วัดนี้ ผมเห็นผู้หญิงกับผู้ชายคู่นึงถือถุงปลาเดินไปทางขวา ผมเลยสะกิดพี่ควินแล้วชี้ให้ดู

“ตามไปครับ เขาคงเอาปลาไปปล่อย”

เดินตามมาจนถึงด้านหลังวัดผมก็เห็นแม่น้ำกว้างสุดลูกหูลูกตา มีหลายคนมาปล่อยปลาที่นี้ พี่ควินเดินลงบันไดไปนั่งยองๆอยู่ท่าน้ำเขายกตู้ปลาขึ้น ผมกับพี่แซทเดินตามไปนั่งข้างๆ ผมหลับตาขอให้ปลาที่กำลังจะปล่อยมีชีวิตต่อไปในแม่น้ำแห่งนี้

“ปล่อยได้เลยครับ”

ผมบอก พี่ควินก็จัดการเปิดตู้ออก น้ำกับตัวปลาก็ไหลทะลักออกจากตู้อย่างเร็ว ร่วงลงสู่แม่น้ำ

“ต่อไปก็ปล่อยนก พี่แซท กรงนกอยู่ไหนครับ”

พี่แซทยกกรงนกขึ้น ผมรับมาถือไว้ ลุกขึ้นเดินกลับขึ้นไปข้างบน

“ผมจะถือกรง พี่แซทเป็นคนเปิดนะครับ”

ผมบอก พี่แซทพยักหน้าแล้วค่อยๆเปิดกรงออก ผมจับกรงไว้แน่นเพราะมันโยกจากแรงนกที่เคลื่อนไหวอยู่ข้างใน พอพี่แซทเปิดกรงออกกว้าง นกในกรงก็โบยบินออกไป ผมยิ้ม มองตามจนลับสายตา รู้สึกอิ่มเอมอย่างบอกไม่ถูก

“หิวหรือยัง”

พี่ควินถาม เขาดึงกรงนกไปถือไว้เอง

“ก็…นิดหน่อยครับ”

“งั้นก็ขับรถหาร้านอาหารแถวนี้ กินเสร็จแล้วก็กลับคอนโด”

“โอเคครับ”

ผมรับคำแล้วจับมือพวกเขาไว้คนละข้าง พวกเขาหันมามองแต่ไม่พูดอะไร แรงกระชับมือตอบกลับมาทำให้ผมยิ้มอย่างมีความสุข วันนี้ผมมีความสุขมากจริงๆ มันจะเป็นความทรงจำดีดีของผมอีกวันนึง



V

V

V



ออฟไลน์ New-Y Holic

  • Your love is a lie
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +207/-5
    • https://www.facebook.com/pages/New-Y-Holic/352883328112176
HEARTBREAKER P.I [ UP! : 58 (180%) ] 15/12/56 : P.137
«ตอบ #4139 เมื่อ15-12-2013 01:58:47 »


“ต้าร์ ต้าร์ ถึงแล้ว”

ผมปรือตาขึ้นมองคนปลุก เห็นหน้าพี่ควินอยู่ใกล้ มือใหญ่ตบแก้มผมเบาๆ

“ถึงแล้วเหรอครับ”

“อืม…ขึ้นไปนอนบนห้อง”

ผมพยักหน้า ขยับตัวก้าวลงจากรถโดยมีพี่ควินช่วยประคอง ผมสะบัดหน้าปัดไล่ความง่วงงุน

“ให้กูอุ้มไหม”

พี่แซทยื่นหน้าเข้ามา ผมยู่ปากใส่เขา

“ไม่ต้องครับ ผมเดินเองได้”

ผมบอกแล้วผลักพวกเขาออก เดินเข้าไปในตึกก่อน ได้ยินเสียงพวกเขาหัวเราะด้วย นี่เพิ่งกลับมาจากทำบุญนะ พวกเขาก็แกล้งผมอีกแล้ว!

ผมเดินลูบท้องเข้าห้อง จำได้ว่าตอนกินข้าวซัดไปตั้งเยอะ พวกเขาก็เอาแต่ตักนู้นตักนี้ใส่จานให้ผมไม่หยุด พวกเขาไม่ได้พูดแต่บังคับทางสายตาให้ผมทานให้หมด ทานข้าวเสร็จขึ้นรถผมก็ผล็อยหลับเป็นตาย ช่างเป็นวันหยุดที่มีความสุขและเต็มอิ่มจนจุกจริงๆ


ก็อกๆๆ

“ต้าร์!”

“ครับ” ผมขานรับ เดินไปเปิดประตู พี่ควินยืนหน้าซีดอยู่ ผมตกใจกับสีหน้าเขา

“เป็นอะไรครับ” ผมถามแล้วจับมือเขาไว้

“ยายล้มในห้องน้ำ”

“อะไรนะครับ” ผมถามทวนเสียงแผ่ว

“ตอนนี้อยู่โรงบาล ลุงหมอกำลังดูอาการอยู่ จะไปด้วยกันไหม”

“ไปครับ พี่ควินทำใจดีดีนะครับ คุณยายต้องไม่เป็นอะไร”

ผมปลอบ บีบมือเขาแน่น หน้าเขาซีดจนผมกลัว พี่ควินรักคุณยายมาก เขาเหลือคุณยายคนเดียวที่เป็นที่พึ่ง ขออย่าให้ท่านเป็นอะไรไปเลย ขอให้ท่านปลอดภัย



มาถึงโรงพยาบาล พี่ควินรีบเดินไปที่ห้องฉุกเฉิน ผมเดินตามไป เป็นห่วงคุณยายด้วย เป็นห่วงเขาด้วย ยิ่งเห็นเขาเสยผมด้วยความเครียดเดินวนไปมาอยู่หน้าห้องผมก็ยิ่งกังวล ถ้าพี่แซทอยู่ด้วยก็ดีสิ แต่ตอนนี้เขาติดธุระกับทางบ้าน เพราะพ่อเลี้ยงเรียกตัวด่วน ยังไม่ทันได้ขึ้นห้องเลยก็ต้องรีบไป

“พี่ควิน นั่งรอเถอะครับ คุณยายต้องปลอดภัย เชื่อผมนะ”

เขาหันมามองแล้วเดินมากอดผมแน่น ผมกอดตอบเขาพลางลูบหลังเอย่างปลอบโยนให้เขาใจเย็น ผมรู้ว่าตอนนี้เขากำลังว้าวุ่น ทั้งตื่นกลัว ตกใจ หลากหลายอารมณ์

“เพราะบาปที่กูทำไว้กับไอ้ฮาร์ฟใช่ไหม เพราะความผิดกูใช่ไหม”

ผมผละจากอ้อมกอด ยกสองมือประคองใบหน้าเขา ตอนนี้พี่ควินไม่มีสติแล้ว

“ไม่ใช่นะครับ ที่คุณยายล้มเพราะอุบัติเหตุ ไม่ใช่เพราะความผิดของพี่ ไม่ใช่”

ผมบอกเสียงหนักแน่น นัยน์ตาคมวูบไหวจนผมต้องกอดปลอบเขา

“ทำใจดีดีนะครับ อย่าเพิ่งคิดอะไร ตอนนี้ลุงหมอกำลังช่วยคุณยายอยู่ ท่านต้องปลอดภัย ลุงหมอต้องช่วยท่านได้อยู่แล้ว จริงไหมครับ”

ได้ยินเสียงเขาหอบหายใจหนัก อ้อมกอดก็ยิ่งรัดแน่นขึ้น ผมได้แต่ภาวนาขอให้คุณยายปลอดภัย

“ลุงหมอออกมาแล้วครับ”

ผมบอกเมื่อประตูห้องฉุกเฉินเปิดออก ลุงหมอเดินออกมา พี่ควินรีบเข้าไปถามอาการทันที

“เป็นไงบ้าง ยายปลอดภัยใช่ไหม ยายไม่เป็นอะไรใช่ไหม”

พี่ควินรัวคำถามใส่ ลุงหมอยิ้มพลางตบบ่าพี่ควินอย่างปลอบใจ

“ยายไม่เป็นไรหรอก แค่หัวเข่าเคล็ด ข้อมือซ้น”

ผมถอนหายใจอย่างโล่งอก อย่างน้อยท่านก็ไม่ได้เป็นอะไรมาก

“ไม่เป็นไรแล้วนะครับ เห็นไหม ผมบอกแล้วว่าท่านต้องปลอดภัย”

ผมยิ้มให้พี่ควิน เขาพยักหน้าระบายลมหายใจยาว ผมเอื้อมมือไปนวดคลึงคิ้วเข้มให้หายขมวด เขาจะได้หายเครียดสักที
“เดี๋ยวบุรุษพยาบาลเข็นเตียงยายไปห้องพัก ควินค่อยพาน้องตามไป”

ลุงหมอบอกก่อนเดินกลับเข้าไปในห้องฉุกเฉิน พี่ควินหันมาลูบแก้มผมเบาๆ

“กูดีใจที่มีมึงอยู่ข้างๆ”

ผมไม่ตอบแต่ยิ้มกว้างให้เขา สักพักบุรุษพยาบาลก็เข็นเตียงคุณยายออกมา พี่ควินจับมือผมเดินตามไป ระหว่างทางได้ยินเสียงเด็กร้องไห้ ผมหันไปมอง ไม่คาดคิดว่าจะได้พบกับคนที่ไม่อยากเจอมากที่สุด

ธัญญ์! เขาอยู่ที่นี่ และเขาก็เห็นผมแล้วด้วย!

ด้วยกลัวว่าพี่ควินจะเครียดหนักกว่าเดิม ผมเลยยังไม่ได้บอกว่าเจอธัญญ์ที่นี่ ปล่อยให้เขานั่งเฝ้าคุณยายไปเงียบๆ ส่วนผมก็มานั่งเครียดที่โซฟา คิดถึงเรื่องของธัญญ์ เขาคงมาหาพ่อกับแม่ของเขาที่ทำงานอยู่ที่โรงพยาบาลนี้ มันเป็นเรื่องบังเอิญที่ไม่น่าเกิดขึ้นเลยจริงๆ โรงพยาบาลก็ตั้งใหญ่โตแต่ผมก็เจอเขาและเขาก็เห็นผม บ้าจริงๆ

“ต้าร์”

“ครับ” ผมหันไปมองคนเรียก

“ดึกแล้ว หิวไหม”

“ไม่ครับ คืนนี้พี่ควินจะอยู่เฝ้าคุณยายใช่ไหม ผมจะอยู่เป็นเพื่อน”

“ไม่ต้อง กลับไปนอนที่คอนโดสบายกว่า เดี๋ยวโทรบอกให้ไอ้แซทมารับ”

“ครับ” ผมพยักหน้า ไม่อยากขัดใจเขา

เสียงเปิดประตูทำให้ผมหันไปมอง ลุงหมอเดินเข้ามา ท่านยิ้มให้ผมแล้วเดินไปหยุดอยู่ข้างเตียง ตรวจดูอาการคุณยาย

“ควินจะนอนเฝ้ายายเหรอ”

พี่ควินพยักหน้าตอบรับ ลุงหมอหันมามองผม

“แล้วต้าร์ล่ะ อยู่เฝ้าด้วยเหรอ”

“ไม่ ผมจะให้ไอ้แซทมารับ”

“ดีแล้ว นอนที่โรงบาลไม่สะดวกหรอก”

พี่ควินเดินมาหาผมก่อนหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาพี่แซท

“อยู่ไหน มารับต้าร์ที่โรงบาลหน่อย ยายไม่สบาย เออ มาเร็วๆ”

คุยเสร็จพี่ควินก็หันมาโอบไหล่ผมให้เอนตัวซบเขา

“ได้กินยาที่ลุงให้ไว้หรือเปล่า”

ลุงหมอนั่งลงฝั่งตรงข้าม ผมผละจากอกพี่ควิน

“กินครับ ลุงหมอไม่ต้องห่วง พี่ควินกับพี่แซทดูแลผมดีมาก”

“ดีแล้ว กินจนกว่ายาจะหมด เดี๋ยวลงไปข้างล่างกัน ลุงขอตรวจดูเกล็ดเลือดหน่อย”

ผมหันไปหาพี่ควิน เขาพยักหน้า ผมก็ลุกขึ้นตามลุงหมอ เดินออกจากห้องตามท่านไป ประตูลิฟต์เลื่อนเปิดเมื่อมาถึงชั้นล่าง ผมที่กำลังยิ้มกว้างให้ลุงหมอต้องหุบยิ้มฉับพลันเพราะคนที่ยืนรออยู่นอกลิฟต์ สายตาคมวาววับบวกกับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของร่างสูงตรงหน้าทำให้ผมก้าวขาไม่ออก

“อ้าว ธัญญ์”

ลุงหมอเอ่ยทักอดีตคนไข้ที่เคยดูแล ผมเลือกที่จะไม่มองหน้าเขา แต่หางตาเห็นว่าธัญญ์จ้องผมอยู่

“สวัสดีครับลุงหมอ ผมมาหาพ่อน่ะครับ ท่านให้เอากระเป่าเอกสารมาให้”

“อืม…แล้วแขนไปโดนอะไรมาอีก”

“โดนคนชั่วมันเอาไม้ตีน่ะครับ”

ผมหันขวับไปมองหน้าธัญญ์ เจ้าตัวแสยะยิ้ม ผมกัดฟันแน่นพยายามสงบสติอารมณ์ ธัญญ์กำลังยั่วให้ผมโมโห เขาจงใจใช้คำพูดแดกดันผม

“ระวังตัวหน่อยแล้วกัน”

ลุงหมอบอกแล้วเดินไป ผมจะเดินตามท่านไปก็ถูกธัญญ์ขวางไว้ ผมมองหน้าเขาอย่างไม่พอใจ

“จะรีบไปไหนล่ะครับ คุยกันก่อนสิ”

“มีอะไรก็รีบๆพูดมา” ผมบอกเสียงเข้ม

“ก็ได้ครับ เราไปหาที่คุยกันเงียบๆดีกว่า”

ธัญญ์บอกแล้วถือวิสาสะจับมือแต่ผมสะบัดออก ขึงตาดุใส่เขา

“โอเค ยอมแล้วครับ เชิญทางนี้”

ธัญญ์ผายมือแล้วเดินนำไป ผมสูดลมหายใจเข้าลึกๆอย่างตั้งสติ นึกถึงคำสอนของพระภิกษุที่ผมไปทำบุญวันนี้ ท่านบอกให้ผมมีสติ จะคิดจะทำอะไรก็ให้ตั้งมั่นอยู่ในสติ  ผมจะพยายามทำตามที่ท่านบอก

“มีอะไรก็พูดมา”

ผมบอกเร่งอีกฝ่ายเมื่อเดินมาถึงสวนข้างๆตึกซึ่งมีคนเดินผ่านไปมาให้อุ่นใจว่าผมไม่ได้อยู่กับธัญญ์แค่สองคน

“ดูเหมือนว่าพี่จะกลัวผมนะ ทำไมครับ อยู่กับผมแล้วมันน่ากลัวตรงไหน”

“หยุดพล่ามมากแล้วเข้าเรื่องสักที” ผมสวนกลับเสียงห้วน

“โอเค พี่รู้ความจริงหมดแล้วใช่ไหม ว่าไอ้ควินเป็นฆาตกรฆ่าเพื่อนผม”

ผมไม่ตอบ เบือนหน้าหนีไปทางอื่น

“ผมรู้ว่าพี่รู้แล้ว และในเมื่อพี่รู้ความจริงแล้ว พี่ก็เลิกยุ่งกับพวกมันซะ”

“นายมีสิทธิ์อะไรมาสั่งฉัน”

“สิทธิ์ของคนที่สูญเสียและหวังดี ไม่อยากให้พี่ใช้ชีวิตกับฆาตกรไง”

ผมมองหน้าธัญญ์ เขาก็จ้องหน้าผมเช่นกัน ผมนึกถึงคำสอนของพระภิกษุ ‘เวรกรรมไม่อาจลบล้างได้ด้วยการทำบุญเพียงครั้งเดียว’ จริงอย่างที่ท่านบอก บุญกุศลที่ผมทำวันนี้ไม่สามารถลบล้างเวรกรรมได้จริงๆ ธัญญ์ถึงยังไม่เลิกตามราวีผมสักที

“บอกตามตรง ผมไม่ได้อยากทำร้ายพี่หรอกนะ แต่เพราะพี่เป็นคนที่พวกมันรัก ผมเลยจำเป็นต้องทำ”

ผมมองสบนัยน์ตาคม อยากจะอ่านความคิดของเขาทั้งหมดว่าเขาคิดจะทำอะไรต่อไป แต่ธัญญ์ไม่ยอมเปิดใจ เขาปิดกั้นตัวเอง เอาแต่ความแค้นเป็นที่ตั้ง แล้วแบบนี้เมื่อไหร่เรื่องมันจะจบ

"เลิกแล้วต่อกันได้ไหม เรื่องมันผ่านมานานแล้ว อย่ารื้อฟื้นอดีตเลย" ผมบอกธัญญ์อย่างวอนขอ มองสบนัยน์ตาคมที่กำลังแข็งกร้าว หวังให้เขาโอนอ่อน

"ผมมาไกลจนถอยหลังกลับไม่ได้แล้ว"

ธัญญ์ตอบเสียงเรียบแล้วถอยไปเอนหลังพิงต้นไม้

"จะคิดแค้นกันไปทำไม มันไม่มีอะไรดีขึ้นมาหรอก หยุดเถอะธัญญ์ พี่ขอร้อง หยุดได้ไหม"

ผมทอดเสียงอ่อน ยอมแทนตัวเองว่าพี่เหมือนเมื่อก่อน

"เพื่อนผมตายทั้งคน พี่จะมาพูดให้ผมยอมถอยง่ายๆอย่างนี้น่ะเหรอ"

ธัญญ์ใส่อารมณ์ในน้ำเสียง

"คนตายไปแล้ว แก้แค้นไปเพื่อนนายก็ไม่มีวันกลับมา"

"ก็เพราะตายไปแล้วไง ผมถึงต้องแก้แค้น! ปล่อยให้ฆาตกรเสวยสุขมานานพอแล้ว ต่อจากนี้ผมจะทำให้พวกมันเจ็บปวดทรมานเหมือนตายทั้งเป็น!"

เสียงเข้มประกาศกร้าวด้วยถ้อยคำอาฆาต ผมส่ายหน้าอย่างท้อแท้และสิ้นหวัง อดคิดไม่ได้ว่าธัญญ์คงสนิทกับฮาร์ฟจนอาจถึงขั้นเป็นเพื่อนตายแทนกันได้ เขาถึงได้คิดแค้นฝังลึกขนาดนี้ ผมมองหน้าธัญญ์ สบตาเขา จู่ๆความรู้สึกหวาดกลัวก็แล่นพล่านไปทั่ว ผมหลบสายตาคม ไม่ใช่หรอก คงไม่ใช่ ผมหันไปสบตาธัญญ์อีกครั้ง ความสงสัยผลักดันให้ผมถามอีกฝ่ายออกไป

"นายกับฮาร์ฟเป็นแค่เพื่อนกัน...จริงๆเหรอ"

ธัญญ์ยิ้ม แต่รอยยิ้มของเขามันเศร้าจนผมกลัว กลัวคำตอบของเขา กลัวว่าสิ่งที่ผมคิดเป็นเรื่องจริง

"ผมเป็นเพื่อนมัน เพื่อนกิน เพื่อนเที่ยว เพื่อนนอน เป็นเพื่อนมันจนวันสุดท้ายที่มันตาย"

ผมหลับตาแน่น บาปที่พี่ควินก่อไม่ใช่แค่ฆ่าคนตาย เขายังพรากหัวใจธัญญ์ตามไปด้วย!







-------------------------------------------------------------

16 หน้าเวิร์ดสำหรับตอนนี้  :katai4: ขออภัยที่หายไปนาน  :o12:

ขอบคุณทุกคอมเม้นท์ ทุกการติดตามนะคะ  :กอด1: :mew1:

ถ้าจบ bad end แบบให้ตัวเอกตายนี่ คนอ่านจะกระทืบเค้าป่ะ  :katai1:

นี่พูดจริงนะ  :hao5: เอาเถอะ เตรียมใจไว้นานแล้ว  :z3:

คนอ่านคงตามตัวไม่เจอหรอก  :z2:  :hao3: :katai3:

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-12-2013 02:12:30 โดย New-Y Holic »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด