Friend's brother,Brother's friend เมื่อเพื่อนสงสัย... (ตอนพิเศษวันปีใหม่ P.85)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Friend's brother,Brother's friend เมื่อเพื่อนสงสัย... (ตอนพิเศษวันปีใหม่ P.85)  (อ่าน 1229183 ครั้ง)

ออฟไลน์ beery25

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 808
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +130/-0
ตามอ่านจนถึงตรงนี้จนได้ ดีแล้วที่สองคนนี้ได้กัน

ออฟไลน์ Rukki

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 513
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-2
ตอนนี้ก็น่ารักอีกแล้วววว
แต่คนเขียนขาาา เค้ากลัวดราม่าาาาาาา ฮืออออออออออออออออออออ *วิ่งหนีหาย*

ออฟไลน์ AiiSoul

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 160
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
ครั้งที่3 >/////////////////////////////////<

ออฟไลน์ NOO~KUNG

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 718
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +175/-3
ตกหลุมรักพี่จอม....อีกล่ะ
เฮียน่ารักไม่เปลี่ยน....

Aeterna

  • บุคคลทั่วไป
ดีแล้วที่เน็ตมันพูดว่ารู้สึกยังไงบ้างกับข่าวพวกนี้ แล้วก็ถามๆไปเลยให้จบๆ
ถ้านั่งเงียบนี่ดิไปต่อไม่ถูกเลย ฮ่าๆ แต่จะว่าเน็ตซักคนเดียวก็ไม่ได้
มีพี่จอมมาช่วยซักซะขาวสะอาดเชียว ฮ่าๆ ดีค่ะพี่จอม
แต่ไม่รู้ว่าจะผ่านดราม่ารอบหน้าไปด้วยกันได้อีกมั้ยน้า
หวังว่าที่พี่จอมบอกจะไม่เข้าหูซ้ายทะลุหูขวานะเน็ต
แต่บางทีถ้าแรงกว่านี้ ไอ้ประโยคที่พี่จอมบอกอาจจะไม่ช่วย ... โฮวว

รออ่านตอนต่อไปค่ะ ขอบคุณที่แต่งมาให้อ่านกันค่า (:

ออฟไลน์ benzdekba

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 503
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-2

little_nok

  • บุคคลทั่วไป
จริงของพี่จอมน่ะเน็ต
แต่ไอ่เฮียบีมนี่ มันต้องงอนนิดๆ หน่อยๆ ให้ง้อ
คนอะไร้ ไม่ดูตาม้าตาเรือ คิดว่าเน็ตมันพร้อมสำหรับเรื่องแบบนี้ตลอดเหรอไง
นี่ยังไม่ดราม่าอีกเหรอค่ะ โอ้วว มีเศร้ากว่านี้อีกเหรอ
แค่นี้เน็ตมันก็ไม่ได้สุขล้นอะไรนี่หน่า

ออฟไลน์ boobooboo

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-2

LadyOneStar

  • บุคคลทั่วไป
รออออมาสมใจ
>< ชอบเฮียกับเน็ตต
อยากให้บอมยอมรับไวๆ

A_ay

  • บุคคลทั่วไป
พี่จอมซ้อมดราม่าเด็กน้อยแต่หัววันเลยนะ   :laugh: :m20: :m20:


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ slurpee04

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 691
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-1

ออฟไลน์ phoenixa

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 569
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-1
ตอนนี้ยังไม่ค่อยจะดราม่าเท่าไหร่
แต่คิดว่าคงอีกไม่นาน
เฮียมั่นคง และน่าเชื่อถือขนาดนี้
เน็ตอย่าคิดมากเลยนะ ไว้ใจ เชื่อใจกันหน่อย
พี่จอมพูดถูกแล้ว

ออฟไลน์ Azitten

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 365
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-0
เน้ตนะ เกือบไปแล้วววววววววนะเรา  :impress2: :impress2:

เพิ่งจะเห็นพี่จอมพูดจาดีก็วันนี้หละ ปกติเป็นจอมกวน จอมยุ่ง ตลอดๆๆ
ต้องเชื่อใจกันนะ แค่้ไม่กี่เดือนเอง

ออฟไลน์ appattap

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 293
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
เน็ต งงมีงอน น่ารักดี หวานได้อีก อร๊ายยย
พี่จอมพูดแบบนี้ แม่ง โครตหล่อ ดูดี  :laugh: :laugh: :laugh:
เน็ต สู้ๆ

ออฟไลน์ SugaR_II

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 65
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-2
โหยยย พี่จอม จบอย่างหล่อเลยตอนนี้ 55555
ส่วนเฮียกับเน็ตนี่ไม่ต้องพูดถึงเลย ยังน่ารักอบอุ่นให้คนอ่านได้อิจฉาไปตามๆกัน  :impress2: :impress2:
เฮ้อออออ ตอนหน้าจะดราม่าเรื่องอะไรนะ ทรายแก้วรึเปล่า??  :เฮ้อ:
แต่จะดราม่ายังไงก็ยังจะเกาะ(?)เรื่องนี้ต่อไป  :กอด1:
*กางปฏิทินรอพุธหน้า*

เพราะเธอคนเดียว

  • บุคคลทั่วไป
พี่จอมแม่งโครต  o13
แต่แบบโอ้ยเฮียนี่ก็แบบไม่ไหวแล้วววววววว   :z2:
ส่วนเน็ตตตตตตอ่ะอยากจะ  :z13: มันจริงๆ 5555

ออฟไลน์ Pupay

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +171/-1
พี่จอมพูดดีอ่ะ  o13
งงว่าหญิงทรายเธอจะเอาอะไรอีก ยังไงเนี่ยเธอคนนี้  :serius2:

 :pig4: นะคะ

ออฟไลน์ SoN

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2965
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +123/-15

ออฟไลน์ MoMoRin

  • I am Fujoshi! (・∀≦)ゞ
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1749
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +229/-2
เน็ตเกือเสร็จเฮียแล้วนั่น ฮ่าๆๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ numay

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-1
พี่จอมพูดจาดีๆกับเขาก็เป็นด้วย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ masochism2018

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 428
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1
พูดดีก็วันนี้แหละค่ะพี่จอม   o13

ออฟไลน์ Momichi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 272
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-1
เค้ากำลังหวานกันน้ำตาลเรียกพี่ นางร้่ายเลยได้เวลาออกโรงมาเบรคความหวานล่ะซิเนี่ย โหยยยย ไม่อยากได้ดราม่าโสกาอาดูลไม่เอาๆๆ ขอแบบเบาๆพอเป็นกะไสนะค่ะ เฮียจอมนี่ช่วยได้เยอะ อิอิ น่ารักนะพี่แก้วเจ้าจอม วะฮ่ะฮ่า ๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ loveyou15379

  • นักเพ้อ ฝัน จิ้น หนูเองค่าา
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
อ๊ายยยยย อิจฉาา หวานเกินไปแล้วววววว  :m3: :m3:
เฮียย คนดีสุดๆ อ๊ากกกกกก  :angellaugh2:
(ใครก็ได้เอานังทรายแก้ว ไปเก็บทีสิ :m31:)

ice_spok

  • บุคคลทั่วไป
ทรายแก้วว เว้าวอนไม่เลิก อย่าให้มีสงครามดราม่ากันเลยยยย

รักเฮียกะเน็ต ^^

ออฟไลน์ ✿PIERRE

  • ดองนิยายข้ามปี
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 434
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-6
 :pighaun:

อร๊ายยยยยยย พี่บีมพูดอะไรออกมาค่ะ น้องเน็ตเขินนะ
 :o8:


ใกล้วันพุธแล้วมาต่อด้วยน้า

ออฟไลน์ YuuYuu

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
อ่าน ๒๕ ตอนรวดเลยค่ะ... สองวันจบ  วันๆ ไม่ต้องทำอะไรอ่านเรื่องนี้อย่างเดียวเลย  ฮ่าาา
อยากจะบอกว่าตั้งแต่ตอนที่ ๑ ถึง ๒๕ เนี่ย...  ชอบคุณพี่บีมอะ  กะน้องบูมด้วย 

ตอนแรกนึกว่าพี่บีมจะหลอกเน็ตแล้วซะอีก  เพราะว่าตอนแรกพี่บีมคิดจะไม่จริงจัง
อ่านไปก็กลัวไปว่าจะมีดราม่าอะไรมั้ย  แต่ก็ยังถือว่าดราม่าในเกณฑ์โอเคค่ะ (จริงๆ ชอบดราม่านะ)
ชีวิตน้องบูมน่าสงสาร... จริงๆ นะ  อ่านแล้วรู้สึกสงสารน้องบูม และหมั่นไส้ตาปัน
หมั่นไส้ตาปัน  เอาดราม่าให้ตาปันหนักๆ เลย  //บู่วววว

ออฟไลน์ mellowshroom

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 976
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-1


ชอบจัง เมาแล้วอ้อนเนี่ย .. :-[

ออฟไลน์ -west-

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1875/-12
    • FACEBOOK PAGE
Friend's brother Brother's friend 26, สิ่งที่เสียไป สิ่งที่ได้มา
[NET's talk]


ระยะเวลา 2 เดือนผ่านไปเหมือนปกติ จะว่าเร็วก็เร็ว จะว่าช้า ก็ช้า
ผมได้อะไรมากมายจากนายช่างแก้วเจ้าจอมสุดซ่าหน้าเหมือนโดม ทั้งเรื่องวิชาชีพ การดำรงชีวิต และสุดท้ายบทเรียนหนักที่ทำให้ผมนอนเป็นซากเต้าหู้ยี้ที่บ้านคือวิธีการเอาชีวิตรอดจากการเมาค้าง
ผ้าชุบน้ำอุ่นถูกวางแปะลงบนหน้า ปลุกให้ผมลืมตาตื่นในเช้าวันถัดมา จำได้ว่าเมื่อคืนมีเหล้าต้มของเจตริน คนงานพม่าหน้าซื่อที่ยกมาให้ผมในงานเลี้ยงส่งเล็กๆใต้ถุนบ้านไม้หลังเดิม รู้ตัวอีกทีก็ตอนไฟสีส้มสาดเข้าตาแล้วโดนหิ้วปีกขึ้นรถ สติมาๆหายๆจนสุดท้ายได้ยินเสียงร้องโวยวายของแม่นั่นแหละเลยลืมตาขึ้นยกมือไว้ผู้หญิงที่สวยที่สุดในโลกแล้วทุกอย่างก็วูบไปอีกครั้ง


“เป็นยังไงบ้าง ลูกชาย”

แม่ถามเสียงหวานแต่ขมวดคิ้วเป็นปม มือหยาบจากการทำงานกลับนุ่มนิ่มเมื่อบีบนวดตามแขนขา ผมกระพริบตาถี่ๆอีกรอบและพบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงที่ฟุ้งไปด้วยกลิ่นน้ำยาซักผ้าที่แม่ใช้ประจำ ไม่มีวี่แววของคนที่มาส่งผมเมื่อคืนที่ให้เหตุผลว่าเช้านี้มีงานด่วนต้องออกจากคอนโดเช้าตรู่ไม่มีเวลาดูแลคนแฮงค์ ท้ายที่สุดมันเลยโยนโครมภาระใหญ่หลวงมาให้มารดาบังเกิดเกล้าของผมดูแลแทน


“ป้า เน็ตปวดหัว”

“กินนี่ เมื่อคืนพี่เขาซื้อมาบอกว่าถ้าตื่นแล้วให้เน็ตกินจะดีขึ้น”

ผมมองขวดเครื่องดื่มแก้เมาค้างในมือแม่แล้วรับมาดื่มอึก แม่มองด้วยสีหน้าพอใจมากขึ้นแล้วขยับตัวมานั่งข้างๆให้ผมล้มตัวลงนอนบนตัก เอาหัวถูไถหน้าขา อ้อนเป็นลูกแมวอย่างที่ชอบทำ


“ฮื้อ เจ้าเด็กคนนี้.. ลุกไปอาบน้ำอาบท่าหน่อยไหม?”

“ลุกไม่ไหวแล้ว เน็ตจะอ้วก”

“แล้วอยากกินอะไรบ้างหรือเปล่า ของร้อนๆไหม เดี๋ยวแม่ให้พี่เนยทำให้กิน”

“พี่เนยมาบ้านเหรอ?”

หลังจากแต่งงานไป พี่เนยก็กลับบ้านเดือนละครั้งซึ่งมักจะคลาดกันกับผม แม่พยักหน้ารับ ลูบหัวผมเบาๆ


“ว่าไงล่ะ อยากกินฝีมือพี่สาวหรือเปล่า”

“กิน กิน ให้พี่เนยทำกับข้าวแหละ แม่จะได้พักแล้วมานอนให้เน็ตกอด”

ผมยิ้มตาหยี ยันตัวลุกขึ้นจากตักแล้วมากอดเอวอุ่นๆของมารดาให้โล้ตัวล้มตัวลงนอนบนที่นอนด้วยกัน แต่คนแก่ฟอร์มจัดก็หันมาดุทั้งๆที่ปากยิ้มกว้าง “ตาเน็ตนี่! ทำตัวเป็นเด็กไป ปวดหัวก็นอนดีๆเดี๋ยวแม่เช็ดตัวให้จะได้สดชื่น”

“ไม่เอา อยากนอนกอดแม่”

“อยู่กับพี่บีมอ้อนเขาแบบนี้หรือเปล่า?”
คำถามของแม่ทำให้ลมหายใจตัวเองสะดุด แกล้งถามคนแก่เสียงทะเล้น “ไมถามงั้นอะ แม่หึงเน็ตเหรอ?”

“ก็เห็นพี่เขามาคอยดูแลเราตลอด แม่เลยอยากรู้ว่าไปอ้อนอะไรพี่บีมเอาไว้”

“เปล๊า.. ไม่ได้อ้อน แค่คอนโดอยู่ใกล้หอเน็ตเลยสนิทกันมากไปหน่อย”

“ถึงแบบนั้นเน็ตก็ไม่ค่อยพาเพื่อนมาบ้านนี่ อย่างเจ้าบอมเห็นมากกว่าคนอื่นก็ยังมาสอง-สามครั้งเอง สารภาพมาซิไปรบกวนอะไรพี่เขาบ้าง”

ผมกอดแม่แน่นกว่าเดิม มองตาที่ถอดแบบกันมาแล้วถาม “แม่รักเน็ตไหม?”

“ไม่เห็นจะน่ารักเลย เด็กไม่รู้จักโตแบบนี้”

“ถ้าเน็ตเป็นหมัน เป็นบ้า แต่งสะใภ้ให้แม่ไม่ได้ แม่จะยังรักเน็ตอยู่ไหม”

ไม่มีเหตุผลอื่นนอกจากผมบ้าไปแล้ว ที่เกิดหลงรักไอ้ผู้ชายซึ่งทำตัวเหมือนเป็นทุกสิ่งทุกอย่างในโลกของใครบางคนทั้งๆที่นมก็ไม่มี ตูดก็ไม่เด้ง แถมยังมีอะไรปิ๊กาจูเหมือนๆกันลง อีแค่มันปากหวานหน่อย ใจดีนิด ก็พาเอาชีวิตชายชาตรีของผมผิดเพี้ยนไปแบบกู่ไม่กลับ ทำซึนปากดีว่าไม่ตกลงเป็นแฟน แต่ประทานโทษเถอะครับ ถึงณัฎฐนิชจะไม่เคยมีเนื้อคู่ตุนาหงันเป็นตัวๆกับเขาก็รู้อยู่ว่าไอ้ความสัมพันธ์ของผมกับมิสเตอร์ตัวโตมันไม่ได้ผิดแผกไปจากคนรักกันเสียเมื่อไร

แม่หัวเราะ มองผมด้วยสายตาอ่อนโยนเหมือนเคย “ตอนนี้เน็ตก็ไม่สมประกอบเท่าไหร่ไม่ใช่หรือ? แม่ยังไม่เห็นรังเกียจเลย ว่าแต่เป็นอะไรถึงถามแบบนี้ขึ้นมา พี่เขาดุว่าอะไรมาหรือเปล่า?”

“เปล่า... เน็ตแค่คิดถึงแม่ อยากให้แม่รัก”

“น่าเบื่อเนาะแม่ พวกเรียกร้องความสนใจน่ะ”

เสียงที่ดังแทรกบทสนทนาของผมกับคนสวยคือคนที่สวยอันดับสองของบ้าน พี่เนยยืนเท้าสะเอวถือตะหลิวยิ้มหมั่นไส้อยู่ตรงประตู สวมเดรสตัวยาวคลุมเข่าหลวมๆเอาไว้ทำให้ผมย่นหน้า


“พี่เนยอ้วนขึ้น”

“เอ๊ะ! ตาเน็ต ใครสั่งใครสอนให้ทักผู้หญิงแบบนั้น เสียมารยาทนะ”

“อ้าว ก็อ้วนจริงนี่ ดูสิ พุงโพล้เชียว”

“ฉันท้องต่างหาก” พี่เนยเถียงคอเป็นเอ็น ผมลุกขึ้นพรวดจากที่นอนทำตาโต

“จริงดิ!”

“สองเดือนกว่าแล้ว”

“ไม่เห็นมีใครบอกเน็ต”

“เพิ่งรู้เมื่อเดือนที่แล้ว กะรอให้ฝึกงานเสร็จแล้วค่อยบอก ช่วงนี้พี่จะกลับมาอยู่ที่บ้านกับแม่ด้วย อยู่บ้านโน้นแล้วพี่โจไม่ค่อยมีเวลาดูแล”

ผมยิ้มปากฉีก อยากจะลุกเดินไปหาพี่สาวคนเดียวแต่ไอ้อาการพะอืดพะอมด้วยฤทธิ์ของสารตกค้างเลยได้แต่นั่งอยู่บนเตียงนิ่งๆ แม่ลุกขึ้นยืนก่อนจะเอามือมาผลักผมให้นอนเมื่อเห็นสีหน้าไม่สู้ดี


“นอนไปเถอะ เดี๋ยวแม่ลงไปทำกับข้าวให้ดีกว่า เนยมาเช็ดตัวให้น้องที”

พี่เนยพยักหน้ารับคำ ส่งตะหลิวต่อให้แม่พลางเดินอาดเข้าใกล้ อันที่จริงพี่เนยดูเหมือนอ้วนลงพุงนิดหน่อยเท่านั้นไม่ได้ท้องโย้จนเห็นได้ชัดทำให้ผมไม่ทันตั้งสมมติฐานว่าตัวเองกำลังจะได้เป็นน้าคนในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ใบหน้าอิ่มเอิบของสตรีที่แสนอ่อนโยนตรงหน้าสะท้อนชัดว่าพี่เนยมีความสุขมากแค่ไหน


“ดีใจด้วยนะ”

“อืม.. ว่าแต่เราเถอะ เมื่อไหร่จะมีแฟนกับเขา คบๆตั้งแต่สมัยเรียนก็ดีนะ เหมือนพี่กับพี่โจนี่ไง พอแต่งงานมองตาก็รู้ใจเลย ไม่ต้องปรับตัวอะไรกันอีก”

“โห... พี่เนยรีบไปปะ บางทีเน็ตอาจไม่ได้แต่งงานก็ได้”

“ทำไมล่ะ? หรือว่าไม่ชอบผู้หญิง? ถามจริงเถอะ เป็นเกย์หรือเปล่า หน้าตาเราก็ไม่ได้เข้าข่ายหาแฟนยากทำไมทุกวันนี้ถึงยังไม่คบใครสักที”

ผมเกลียดสมมติฐานของพี่สาวตัวเองเสมอๆ ยิ่งตอนที่พี่เนยหรี่ตาลงจับผิดตัวเองก็เผลอกลอกตาหลบอัตโนมัติ

“พี่ชายนายบอมนั่นใช่ไหม?”

“พี่เนย!”

“พี่ว่าแล้วเชียว เมื่อคืนเห็นกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันกลมตอนอุ้มเน็ตมาห้อง ถึงพยายามคิดว่าเพราะเราเมาก็เถอะ แต่พี่ว่ามันก็เกินไปหน่อยที่ต้องลงทุนไปรับเพื่อนน้องชายถึงต่างจังหวัดดึกๆดื่นๆ”

พี่เนยพูดไปส่ายหัวไป ผมหลบสายตาที่จ้องมองมาแบบคาดคั้นแล้วตอบเสียงต่ำ

“....เน็ตขอโทษ แม่รู้หรือเปล่าที่เน็ตเป็นแบบนี้”

“ไม่เห็นต้องขอโทษนี่ แล้วก็นะ ตอนนี้แม่ยังไม่รู้หรอก แต่พี่จะช่วยตะล่อมพูดให้ แล้วนี่เป็นยังไงบ้างต้องให้พี่เช็ดตัวให้หรือเปล่า?”

“ไม่เป็นไร ขอนอนต่ออีกงีบก็น่าจะหายแล้วแหละ พี่เนยไปอยู่กับแม่เถอะ”

ผมดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมโปง หนีสายตาที่ไม่รู้ว่าพี่สาวที่ผมคลานตามตูดออกมาจะมองด้วยความรู้สึกอย่างไรหลังคำสารภาพกลายๆ กระทั่งเสียงประตูห้องปิดลงอีกครั้งถึงค่อยๆโผล่หัวออกมาพร้อมถอนหายใจยืดยาว



“ไม่เป็นไรเฮีย ผมกลับเองได้ ไม่ต้องมารับหรอก”


 “อืม กำลังจะออกจากบ้านแล้ว เฮียทำงานไปเถอะ เดี๋ยวก็ได้โต้รุ่งกันพอดี งานเร่งไม่ใช่เหรอ?”


“ครับ เดี๋ยวถึงหอแล้วโทรบอก แค่นี้ก่อนนะ เน็ตจะไปลาแม่”

เครื่องมือสื่อสารถูกเก็บลงในกระเป๋ากางเกงหลังจากบทสนทนาสิ้นสุดลง ผมถอนหายใจหนักๆกับความคิดสับสนตีรวนอยู่ในหัว ใช่.. ตอนนี้ผมกำลังกังวล สับสน บ้าบออะไรเต็มไปหมดตั้งแต่ที่ได้สนทนากับพี่สาวตัวเองในวันก่อนแบบไม่ได้เตรียมใจล่วงหน้า
จากวันนั้นแม่ยังเป็นเหมือนเดิม ผมกับพี่เนยไม่ได้พูดเรื่องนี้กันอีกราวกับว่าไม่เคยเกิดขึ้น แต่ลึกๆก็ยังอดคิดมากจนไม่อยากให้เฮียมาหาที่บ้านสักพักไม่ได้ ไม่รู้ว่าพี่เนย’ตะล่อม’ พูดกับแม่ให้บ้างหรือยัง ถ้าแม่รู้จะยังยินดีต้อนรับพี่ชายไอ้บอมคนนั้นอีกไหม โชคเข้าข้างคนกำลังทำใจสารภาพบาปตรงที่ตั้งแต่กลับจากฝึกงานเฮียก็มีงานเร่งจนผมกับมันได้ติดต่อกันเพียงคลื่นเสียงที่ส่งผ่านโทรศัพท์เท่านั้น
 
จะว่าไปก็คิดถึงมันนะ เอาไว้กลับไปเตรียมของที่ห้องก่อนเปิดเทอมพรุ่งนี้แล้วหยิบเสื้อนิสิตไปค้างคอนโดกับมันสักคืนดีกว่า


พอกล่าวลาแม่กับพี่สาวเสร็จผมก็นั่งรถเมล์กลับหอ ลงป้ายใกล้เดินเข้าซอยหอพักอย่างที่เคยทำสมัยก่อน เวลาเย็นย่ำจนพระอาทิตย์ทอแสงเป็นสีส้มแสดไม่ได้เผาให้รู้สึกแสบร้อนที่ผิวหนังแต่ก็ยังมีเหงื่อซึมออกมาตามสภาพภูมิอากาศ นั่งรถหรูจนเคยชินพอได้กลับมาใช้ชีวิตเดิมๆก็อดรู้สึกถึงความกระแดะของตัวเองขึ้นมาไม่ได้ หยิบมวนบุหรี่ที่ขึ้นราคาแล้วมาจุดสูบไปเดินไปเหมือนอยากปัดเป่าไอ้เรื่องที่มาสะกิดเกาในใจให้หายๆ พอถึงตึกสูงสีฟ้าก็ทาบคีย์การ์ดเปิด เดินขึ้นบันไดหนีไฟแทนการใช้ลิฟท์เพื่อสูบบุหรี่ต่อเงียบๆ กระทั่งเห็นใครบางคนยืนกอดอกพิงประตูอยู่หน้าห้องผมก็ชะงักขาที่กำลังก้าวขึ้น ไอ้คนที่มาดักรออยู่แล้วเหมือนรู้สึกตัวถึงบุคคลที่สองมันเลยเงยหน้าขึ้นสบตากับผมให้ตัวเองแค่นยิ้มบางส่งไป


“เมื่อไหร่มึงจะเลิกสูบบุหรี่วะ”

มันถาม ให้ผมต้องเอามวนบุหรี่ไปจิ้มๆลงบนทรายเหนือถังขยะแถวๆนั้นดับควันทันที บอมไม่สูบบุหรี่ แต่อันที่จริงถึงมันไม่ชอบ ผมก็ไม่เคยเห็นมันบ่นใครเรื่องนี้นอกจากผม


“เลิกเหอะ ยิ่งดูดยิ่งเหมือนตายผ่อนส่ง...”

“ไม่เป็นไร กูค่อยๆผ่อนได้ ไม่ได้รีบตายไปไหน”

พอตอบไปไอ้บอมก็ส่ายหัว ผมเดินไปเปิดประตูห้องแล้วชวนมันเข้ามา บอมทิ้งตัวลงบนเตียงใหญ่ที่พี่ชายมันมักใช้บริการมากกว่าตัวมันเองซึ่งเป็นเพื่อนสนิท


“ฝึกงานหนักสิ หน้าไหม้เลย”

“เออ แต่ก็สนุกดี แล้วมึงล่ะเข้าไปทำในโรงงานเป็นมะเร็งหรือยัง?”

“มะเร็งพ่อมึงสิ กูมันคนแข็งแรง ร้อนฉิบหายเปิดแอร์ซิ เอาน้ำเย็นๆมาเสิร์ฟด้วย กูเป็นแขก”

“อ้าว เรอะ กูนึกว่าเจ๊กหงี่”

ไอ้บอมปาหมอนใส่ผมให้รับเอาไว้ ใบหน้าหล่อเหลาคล้ายพี่ชายมันยิ้มแต่เรากลับมองกันไม่เต็มตาอย่างที่เคย ผมเดินไปหยิบน้ำชวดส่งให้มันแล้วเดินไปเปิดม่านกับกระจกบานเลื่อนที่เชื่อมต่อระเบียงเพื่อให้อากาศถ่ายเทก่อนเดินมาเปิดโทรทัศน์ไม่ให้ห้องเงียบแล้วทิ้งตัวลงใกล้ๆมัน


“มาหากูนี่ไม่ใช่เพราะพิศวาสขาดใจใช่ไหม?”

“ทำไม มึงเป็นเมียกูไม่ใช่เหรอ? กูจะมาหามึงเพราะพิศวาสขาดใจไม่ได้หรือไง?”

มันพูดให้ผมนึกถึงตอนมัธยม ผมกับบอมถูกล้อว่าเป็นผัวเมียกันเพราะไอ้ตัวดีมันชอบมาเกาะแกะผมเป็นไม้กันหมาไม่ให้โรงเรียนชายล้วนฝั่งตรงข้ามเข้าหา แถมยังชอบแหย่ทั้งๆที่รู้ว่าผมแม่งขี้งอนยิ่งกว่าเด็กหญิงติ่งหูเสียอีกโดยข้อแลกเปลี่ยนเดียวของมันคือผมต้องรับฟังเรื่องเพื่อนรักกับว่าที่พี่สะใภ้ที่เริ่มก่อตัวผิดรูปแบบตั้งแต่ ม.ปลาย

ผมไม่เคยสนับสนุนบอม เช่นกัน ผมไม่คิดว่าการที่เราได้รักใครสักคนเป็นเรื่องที่ไม่สมควร ผมจึงไม่ห้ามมันตั้งแต่ตอนนั้น


“อย่ามาตอแหล ไอ้สัตว์....”

บอมทิ้งตัวลงบนเตียง นอนหงายลืมตามองเพดานพักใหญ่ “ที่จริงคนที่อยากเจอมึงไม่ใช่กู....”
พอได้เลิ่กคิ้วแทนคำถาม ไอ้บอมก็พูดต่อด้วยประโยคนิ่งๆ

“เจ้ขอร้องให้กูพามาหามึง”

“,,,แล้วตอนนี้เจ้ทรายอยู่ไหน?”

“ลงไปข้างล่าง ยามโทรมาเรียกให้เลื่อนรถ เดี๋ยวก็คงมา”

เราต่างเงียบกันไปชั่วอึดใจ ฟังเสียงเข็มนาฬิกาดังติ๊กต่อก ติ๊กต่อกด้วยความรู้สึกอึมครึมเหมือนมีเมฆหมอกลอยต่ำ


“มึงกับเฮีย โอเคไหม?”

“ก็....เรื่อยๆ....”

“กูไม่อยากพูดแบบนี้หรอกนะเน็ต แต่ยังไงบ้านกูก็เจ๊กอย่างที่มึงว่า เข้าใจใช่ไหมเรื่องพี่ชายคนโต.. มันสำคัญนะ จะให้เฮียเป็นเกย์ไม่ได้”

“ป๊า ม้ามึงว่างั้นเหรอ?”

“เปล่า...”

“งั้นรอให้ป๊า ม้ามึงสั่งห้ามเฮียก่อนได้ไหม มึงค่อยมาขอให้กูเลิกอีกที”

เพราะผมเข้าใจความรู้สึกของคนเป็นลูกที่ไม่อยากให้พ่อแม่ตัวเองผิดหวัง ตัวเองก็กังวลเรื่องนี้มาตลอดหลายวันเลยพาลเพโลว่าไม่อยากให้เฮียมากลุ้มใจถ้าเรื่องระหว่างเราจะเป็นที่’รับไม่ได้’ของครอบครัวขึ้นมาจริง


สำหรับผม ยังไงครอบครัวที่อบอุ่นก็สำคัญที่สุด...

ถึงตอนนั้น ค่อยมาคิดกันอีกทีว่าจะฝืนรั้งดึงดัน หรือเลิกขาดตามเจตนารมณ์ครอบครัวทั้งสองฝ่ายดี


“ทำไมฉันต้องเสียบีมให้คนที่เห็นแก่ตัวแบบเธอด้วย”

เสียงใสของผู้หญิงอีกคนที่ควรอยู่ในห้องนี้ตั้งแต่แรกดังขึ้นท่ามกลางห้องที่มีเพียงเสียงโฆษณาจากโทรทัศน์ดังแว่ว ไอ้บอมเด้งตัวลุกจากเตียงมองประตูที่เปิดค้างไว้ สายตามันไหวระริกเหมือนคนกำลังสับสน กังวล


“ครับ?” ผมขานรับคำงงๆ สีหน้าพี่ทรายเวลานี้ไม่ได้ดูสวยสง่าเหมือนภาพผู้หญิงในความทรงจำของผมเลยสักนิด

“เธอมันเห็นแก่ตัว เน็ต คิดจะเก็บบีมไว้โดยไม่สนใจอะไรอย่างอื่น คิดถึงแต่ความสุขของตัวเองจนถึงขั้นยอมเหยียบย่ำคนที่นายคิดว่ารักให้ตกต่ำ... ฉันขอนะ ปล่อยมือจากบีมเถอะ”

“เจ้ทรายพูดแบบนี้ก็ไม่ถูก ผมไม่เคยดึงเฮียลงต่ำ”

“เห็นว่าบีมหน้าตาดี มีฐานะหน่อยหรือยังไงถึงได้เกาะเป็นปลิงขนาดนี้ แล้วไม่รู้ตัวจริงๆหรือไงว่าเพราะนาย บีมถึงปฏิเสธโปรเจคร้อยล้านนั่นทั้งๆที่มันเป็นความฝันของเขา!”

“เรื่องนั้นไม่เกี่ยวกับผม”

ใครว่าผมเถียงไม่ตกฟาก.. นั่นแหละ ใช่เลย ก็ไม่เกี่ยวจริงๆนี่หว่า เฮียยังไม่เคยปรึกษาผมเลยสักครั้งด้วยซ้ำ จะบอกว่าเรื่องนั้นเป็นเพราะผมเองก็ไม่ถูก


“บีมกลัวชีวิตสดใสๆของนายจะต้องตกเป็นเป้าสายตาเลยไม่รับงานนั้น แบบนี้เกี่ยวหรือยัง! ฉันถามจริงๆ นายเกลียดอะไรบีมหรือถึงต้องลากเข้าย่ำแย่ไปแบบนี้”

“เจ้ก็รู้ว่าความสัมพันธ์ของผมกับเฮียตอนนี้ไม่ใช่เกลียดชังกัน”

“งั้นเลิกเอาความรักมาหลอกใช้สักที!ถ้านายรักบีมนายก็ควรปล่อยบีมไปมีอนาคตที่ดี ให้เขารับงานตามความฝัน ให้เขาแต่งงานมีครอบครัวกับผู้หญิงที่คู่ควร มีลูกเล็กๆให้เขาหัดสอนปั่นจักรยาน ไม่ใช่ใช้ชีวิตให้สังคมรังเกียจกับนาย!”

ผมคิดว่าผมยังมีความเป็นลูกผู้ชายพอสมควรถึงไม่ปราดไปปล่อยหมัดสักเปรี้ยงใส่คนตรงหน้า โทสะที่เกิดขึ้นน้อยครั้งมากกำลังปะทุเดือดในอก ดิ้นพล่านให้ตัวเองทรมานจนต้องกำมือแน่นระงับสติ พยายามบอกตัวเองว่าคนที่พูดจาโหดร้ายกับผมตอนนี้เป็นผู้หญิงน่าสงสารซึ่งไร้หนทางทวงคนที่หล่อนรักคืนกลับไปได้ จึงตามมาระรานสาดความเกลียดชังใส่ผมต่อหน้า หวังบรรเทาความริษยาในอกให้มอดดับลงบ้าง

กระนั้น ลึกๆผมก็เกรงว่าเรื่องที่ทรายแก้วพูดถึงเฮียจะเป็นเรื่องจริง
เพราะถ้าเป็นแบบนั้น อาจกลายเป็นตัวผมเองที่ทนอยู่ในสภาวะ ตัวถ่วง ของใครสักคนไม่ได้
แม้นใจจะกังวลและตาจะไหวระริกอ่อนยวบ แต่เวลานี้ผมกลับไม่อาจแสดงความอ่อนแอและสับสนออกมาให้อีกฝ่ายได้ใจ ได้แต่ตอบเสียงแข็งทำทีว่าไม่สะทกสะท้าน


“ผมว่าเจ้ทรายต่างหาก.. ที่ใช้ความรักเป็นเครื่องมือ...”



"เจ้ทรายใช้ความรักของบอมเป็นเครื่องมือ เจ้รู้ดีมาตลอดว่าบอมมันชอบเจ้ก็ยังให้ความหวัง มันเป็นเรื่องสนุก น่าตื่นเต้นสำหรับเจ้กับการที่ได้ปั่นหัวพี่คน น้องคน แต่กับบอมมันไม่ได้มีความสุขไปกับเจ้เลย คนที่เห็นแก่ตัวที่สุดไม่ใช่เจ้หรอกเหรอ? ผมจะบอกไว้อย่างเลยนะว่าที่เฮียเลิกกับเจ้ไม่ใช่เพราะผม แต่เป็นเพราะเฮียไม่ใช่ควาย พฤติกรรมของเจ้น่ะเฮียรู้ดีทุกอย่าง แล้วผมบอกได้ตรงนี้เลยว่าต่อให้ผมเลิกยุ่งกับเฮีย เฮียก็ไม่มีวันกลับไปหาเจ้ เพราะทุกอย่างมันเกิดจากความเห็นแก่ตัวของเจ้เอง....”

“แก!”

“ทราย อย่า!” ร่างผอมโปร่งของนางแบบสาวแทบถลาพุ่งมาหาผมติดอยู่ตรงที่คนพามามันคว้ารวบตัวเอาไว้ทัน ผมยังยืนนิ่งอยู่ที่เดิมหน้าแดงก่ำ หันไปสบตาปารณที่มีสีหน้าลำบากใจอย่างเห็นได้ชัดแล้วกลับมามองผู้หญิงซึ่งมีสภาพไม่ต่างจากหมาจนตรอกข้างหน้าด้วยสายตานิ่งเรียบ


“ถ้าความสัมพันธ์ของผมมันจะดึงให้คนที่ผมรักลงต่ำ ผมจะเลิกยุ่งกับเฮีย! แต่พี่ทรายก็ต้องรับปากเหมือนกันว่าจะเลิกให้ความหวังบอมมันสักที”

“ไอ้เน็ต!”

“ตาสว่างเถอะบอม! ให้ผู้หญิงคนนี้เด็ดขาดได้แล้ว มึงจะอยู่กับความใจดีจอมปลอมตลอดชีวิตไม่ได้หรอก”

“คิดว่าฉันแคร์เหรอ? ฉันจะเลิกยุ่งกับบอมวินาทีนี้เลย แค่แกอย่าสับปลับ รักษาสัญญาที่บอกว่าจะเลิกยุ่งกับบีมก็พอ!”

พี่ทรายสะบัดตัวไม่แรง แต่ดูเหมือนคนวิญญาณหลุดออกจากตัวมันจะไม่มีกำลังฝืนรั้งหญิงสาวเอาไว้ ทรายแก้วไม่มีทีท่าลังเลเลยสักนิดในนาทีที่ตอบรับข้อเสนอผมซึ่งหมายความชัดเจนว่า หล่อนไม่เคยแคร์ไอ้บอมตามที่พูดเลย

ความรัก... บางทีก็โหดร้าย


ผมดึงปารณเข้ามากอด มันยังยืนนิ่งด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก หลังจากนั้นไม่นานแรงสะอื้นก็ทำให้ไหล่กว้างของบอมไหว แขนเล็กกระชับกอดเพื่อนรักแน่นขั้น แน่นขึ้น และแน่นขึ้นราวกับพยายามบอกมันว่ายังมีผมอยู่ตรงนี้ และให้เสียงของหัวใจที่เต้นสะท้อนในอกได้บรรยายความรู้สึกของตัวเองซึ่งสื่อถึงมันบ้างว่า ผมทำเพื่อตัวมัน...


อย่าเกลียดกันเลยบอมถ้ากูจะหักดิบมึงขนาดนี้..

กูเอง... ก็ไม่ใช่ไม่เจ็บปวดหรือสั่นไหวกับการกระทำของตัวเองหรอกนะ




+++++++++++++++++


สัมผัสอุ่นที่แตะลงบนหน้าผากทำให้ผมปรือกระพริบตาเปิด นาฬิกาคุณปู่ในคอนโดขนาดพอดีสำหรับใช้สอยดังขึ้นบอกเวลาตีสามของวันเปิดเทอมซึ่งเจ้าของห้องเพิ่งกลับมาจากทำงานด้วยสีหน้าอิดโรยอย่างเห็นได้ชัด


“มานอนที่โซฟาอีกแล้ว”

“ผมมารอเฮีย แต่มันเผลอหลับไปเอง”

“ถึงได้จะบอกว่าถึงเวลาก็เข้านอนเลย ไม่ต้องรอ ช่วงนี้งานกูเยอะ”

ผมขยี้ตา หาวหวอด ไอ้ตัวโตเลยรีบฉวยโอกาสตอนที่ผมอ้าปากหวอประกบริมฝีปากลงมาแทรกลิ้นเข้าแตะโพรงปากอุ่นแบบไม่ทันตั้งตัว แรงดันจากด้านหน้าทำให้ผมโล้ตัวถอยหลังจนเอนชิดพนักพิง ไอ้คนสมควรง่วงก็ไม่แค่จูบให้ชื่นใจแล้วเข้านอน หากแต่มันกลับจูบริมฝีปากผมดูดดื่มอยู่นานสองนานจนเป็นที่พอใจถึงค่อยๆผละออกช้าๆ


“อยากปล้ำเน็ต...”

“มึงก็อยากตลอด! กูไม่ใช่บีบี ไอ้สัตว์ เอะอะจะจับกดๆ”

ปารมีหัวเราะเสียงต่ำ ผมเพิ่งสังเกตตอนนี้ว่าเจ้าของห้องกำลังนั่งคุกเข่าอยู่ที่พื้นเพื่อมองหน้าผมซึ่งกึ่งนั่งกึ่งนอนสบายใจเฉิบบนโซฟา


“เดี๋ยวกูไปอาบน้ำ ล้างหน้าก่อน มึงเข้าไปนอนในห้องเถอะ...”

“ไม่เอา มีเรื่องอยากถาม”

“เอาไว้พรุ่งนี้ได้ไหม ดึกแล้ว”

“พรุ่งนี้เฮียก็ออกไปตั้งแต่เช้าอีก...”

ผมรั้น คู่สนทนาเลยพยักหน้ายิ้มตามใจพลางขยับตัวขึ้นมานั่งบนโซฟาตัวเดียวกัน แขนยาวโอบไพล่พาดหลังดึงผมเข้าซบบ่าให้ได้กลิ่นโคโลญจน์ที่ยังหอมจางๆอยู่


“ทำไมเฮียไม่รับงานของพี่เจี๊ยบ?”

“จู่ๆสงสัยอะไรขึ้นมา?”

“ตอบมาเหอะน่า อย่าลีลา”

เจ้าของห้องเงียบไปพักหนึ่ง ขณะที่ผมรอฟังคำตอบใจจรดใจจ่อ “กูเคยบอกแล้วนี่ว่าไม่ชอบงานหน้ากล้อง”

“แต่ครั้งนี้ก็เป็นโอกาสของเฮียไม่ใช่เหรอ ได้เห็นการทำงานเบื้องหลังของทีมงานต่างประเทศด้วย ไม่ได้มีมาบ่อยๆนะ เงินก็ดีนี่”

“เรื่องเงินน่ะกูมีพอแล้ว ไม่ได้อยากจะรวยล้นฟ้าสักหน่อย กูไม่อยากแลกมันมาด้วยความเป็นส่วนตัวที่ต้องหายไป.. มันซื้อคืนมาด้วยเงินไม่ได้”

“ความเป็นส่วนตัวที่ว่า.. ก็คือผมใช่ไหม?”

ความเงียบเป็นคำตอบให้ผมรู้สึกเหมือนมีหมัดที่มองไม่เห็นมาสอยกลางอก ตัวเองเป็นตัวถ่วงความเจริญแบบที่ทรายแก้วดูหมิ่นเอาไว้ทุกประการ ก้อนแข็งๆจุกอยู่ในลำคอจนไม่อาจพูดอะไรต่อได้พักใหญ่ เรานั่งซึมซับเสียงลมหายใจและไออุ่นของกันและกันอยู่ตรงนั้นราวกับว่าสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้คืออะไร


“มึงมีเรื่องอะไรหรือเปล่า เน็ต...”

คนที่เคลือบแคลงสงสัยชิงถามขึ้นมาก่อน ภายในใจผมวูบโหวงโคลงเคลงเหมือนตัวเองกำลังดำดิ่งลงมหาสมุทร
อืม.. พูดถึงมหาสมุทร จะว่าไป.. ก็ยังไม่ได้ไปเสม็ดตามที่ตกลงกันไว้เลย..


น่าเสียดายชะมัด...


“ผมว่าผมมีอิทธิพลกับการตัดสินใจของเฮียมากเกินไปแล้วว่ะ เอางี้ดีไหม เราน่าจะเว้นระยะห่างกันออกมามากกว่านี้หน่อย”

“มึงพยายามจะพูดอะไร”

“เรามากันไกลเกินไปแล้วเฮีย ผมมาแค่จะพิสูจน์เรื่องเฮียเป็นเกย์หรือเปล่าให้ไอ้บอมเท่านั้น ตอนนี้มันหมดหน้าที่ผมแล้ว กลับไปเป็นพี่น้องที่แค่รู้จักกันเหมือนเดิมเถอะ”

อูยยย  ใครเอาทิงเจอร์มาราดแผลสดในหัวใจผมครับ แสบยิบจนน้ำตาแทบไหลจนต้องรีบเบือนหน้าหนี ได้ยินเสียงกรามขบกันจากคนที่ถูกรังแกด้วยคำพูดเจ็บแสบพักใหญ่ก่อนเฮียถามผมเสียงขรมต่ำจนฟังดูน่ากลัว


“...มึง จะบอกว่าที่ผ่านมาไม่เคยมีใจให้กูเลย.. แบบนั้นเหรอ”

“ตลกน่า เฮีย.. ผู้ชายมันจะรักกันได้ยังไงวะ ที่จริงวันนี้ผมก็ตั้งใจมาพูดเรื่องนี้แหละ เดี๋ยวกลับแล้ว”

“ไอ้เน็ต! อย่าโกหกตัวเอง!”

“เฮียนั่นแหละ อย่าโกหกตัวเอง.. มันเป็นไปไม่ได้หรอก พอสักทีเถอะ”

เกิดความกดดันแผ่ปกคลุมรอบตัว มันบีบแน่นลงมาจุกลึกถึงในใจ ผมหลบสายตาคู่รีด้วยการก้มลงมองปลายเท้า ไม่มีเสียงสนทนาใดๆหลุดออกมาจากปากของเรา เพียงลมหายใจเท่านั้นที่ดังจนน่าหนวกหู


“....กูไม่รู้หรอกว่ามึงเป็นอะไร แต่อย่าคิดว่ากูจะยอมแพ้ง่ายๆ”

“เฮีย...”


“จะฝืนไปทำไมเน็ต ในเมื่อเราต่างก็รู้ว่าว่ามึงกับกู.. รู้สึกไม่ต่างกัน

 ผมเงยหน้าขึ้นมาสบตาที่จ้องขึงอยู่ก่อน ความรัก หลง สเน่หาทุกอย่างสะท้อนออกมาจนผมกลัวจับจิต ไม่ได้กลัวความรู้สึกของผู้ชายตรงหน้าเพราะรู้ดีว่ามันคือความรู้สึกที่บริสุทธิ์และมาจากใจ หากแต่กลัวว่าความรักที่ผมได้รับมันจะรุนแรงไปทำร้ายอีกฝ่ายให้ตกต่ำ

ความรักก็เปรียบเสมือนดาบสองคมเพราะมันทำให้คนที่ตกอยู่ในห้วงภวังค์หน้ามืดตามัวเหมือนคนตาบอด จะเดินผิดถูกก็หลับหูหลับตามไม่สนใจเสียงทักท้วงของคนรอบข้างโดยยึดใจตัวเองเป็นหลัก
และผมกลัวเหลือเกินว่าเฮียจะรักผมมากเสียจนลืมตัวเอง...
..ลืมความฝัน และความเป็นตัวของตัวเอง..




------------------------------------------
COMPLETE Friend's brother Brother's friend 26
05/09/12



สวัสดีวันพุธค่ะ
ชื่อตอนมันยาว ชื่อเรื่องเลยหด แหะๆ  กรุ่นกลิ่นดราม่าแต่ดูเหมือนเฮียยังไม่อยากจะดราม่าด้วย
มีใครคิดถึงปันบ้าง ตอนหน้าเบิกตัวเจ้าพ่อดราม่ากลับสังเวียนค่ะ  :กอด1:
รักคนอ่าน ชุบุชุบุ :man1:

ออฟไลน์ ข้าวเหนียวหมูปิ้ง

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
โถถถ เน็ตตตตต  :sad4: :sad4: :sad4:
บอมก็น่าสงสารไม่แพ้กัน  :o12:

ออฟไลน์ special

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 261
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-3
อ๊ากกกกกกกก ตอนนี้ไม่ไหวแล้วววววว อยากอ่านต่อไวๆแล้ว
ทรายแก้วนี่ควรโดนจัดหนักซะที สงสารบอมที่โดนหลอกแต่เน็ตไม่น่าเสนออะไรแบบนั้นเลยยยย
เฮียบีมอย่ายอมแพ้นะ เรารักเฮีย เชียร์เฮีย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด