Friend's brother,Brother's friend เมื่อเพื่อนสงสัย... (ตอนพิเศษวันปีใหม่ P.85)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Friend's brother,Brother's friend เมื่อเพื่อนสงสัย... (ตอนพิเศษวันปีใหม่ P.85)  (อ่าน 1228429 ครั้ง)

ออฟไลน์ ข้าวเหนียวหมูปิ้ง

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
กด F5 ทุก 10 นาที รอเรื่องนี้โดยเฉพาะ  o18

o-ter01

  • บุคคลทั่วไป

aunaun

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ slurpee04

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 691
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-1
ถ้ารู้ว่าน่ารักขนาดนี้ กูจีบตั้งแต่มัธยมไปแล้ว!
ตั้งแต่มัธยมยังไม่ได้จีบ แต่ตอนนี้ได้เป็นแฟนแล้วนะเฮียๆ



“บอมกับบีมรู้ใช่ไหมที่ตี๋เล็กมันเป็นตุ๊ด”

“เขาเรียกเกย์ ป๊า”

ไอ้คนถูกกล่าวถึงมันเถียง ป๊าพยักหน้าไม่มีอารมณ์มาต่อล้อต่อเถียงมัน


“ตอนนี้บีมมาบอกป๊ากับม้าว่าเป็นผัวตุ๊ด”


ฮาแตก  :laugh: :laugh: :laugh:


ออฟไลน์ Momichi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 272
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-1
จะมามั้ยน้าาาาา

ออฟไลน์ -west-

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1875/-12
    • FACEBOOK PAGE
Friend's brother Brother's friend 32, บทส่งท้าย
[NET's talk]



ทั้งที่เดิมแล้วเฮียบอกว่าจะพาป๊ากับม้าไปหาแม่ผมตั้งแต่วันที่เปิดแถลงข่าวกับทางบ้านในห้องโถงหน้าโทรทัศน์อย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้ว แต่วันต่อมากลับต้องเลื่อนนัดบุพการีทั้งคู่ไปเป็นไม่มีกำหนดเพราะแม่ต้องพาพี่เนยไปอัลตร้าซาวด์ที่โรงพยาบาลตามกำหนดนัดหมอ ผลออกมาคือแม่และผมได้หลานชาย โดยพี่เนยบอกว่าตั้งใจจะให้พระเป็นคนตั้งชื่อจริงเพื่อศิริมงคล ส่วนชื่อเล่นเป็นหน้าที่ของแม่ ซึ่งคงหนีไม่พ้นตระกูล น. เหมือนผมกับพี่สาวเป็นแน่ และเหมือนทอร์นาโดถล่ม วันหลังจากพี่เนยไปโรงพยาบาล ไอ้โชติดันกริ๊งกร๊างบอกข่าวดีกับผมกลางดึกว่าข้อมูลบางอย่างที่อยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ของมันเปิดไม่ได้หลังจากพ่อเจ้าพระคุณไปโหลดหนังชมพูมาแล้วไวรัสแดกเครื่องดับ ทำเอาผมต้องนั่งปั่นโปรเจคหัวขวิดขนาดที่ว่าแทบจะกลืนกินไปกับวิชาไม่กี่หน่วยกิตเป็นเนื้อเดียวกัน จวบกับเฮียที่มีอีเวนท์ยักษ์เข้ามาอีกระลอก พี่เต้ยเองก็แทบลากเฮียไปอยู่กินด้วยกันไม่ต่างจากผมและโชติพงษ์ กระนั้นที่รักของผมก็ยังไม่ใจง่ายตามผู้ชายคนอื่นไปค้างอ้างแรม ถึงดึกดื่นมากแค่ไหนสุดท้ายเฮียก็กลับมานอนที่คอนโดพร้อมมื้อเช้าในตู้เย็นซึ่งแปะโนตสีชมพูไว้บนถุงว่า’อุ่นกินก่อนออกไปเรียนด้วย’

ผมไม่มีพ่อตั้งแต่เล็ก พอถูกดูแลแบบนี้เข้าหน่อยก็รู้สึกดีเหมือนมีปีกงอกเป็นผ้าอนามัย นึกอยากตอบแทนความใจดีนั้นก็เลยจัดการซื้อนมสดร้านอาแปะหน้ามหาวิทยาลัยมาฝากเฮียตอนค่ำๆ โดยไม่ลืมแปะโพสอิทสีเขียวสะท้อนแสงเขียนด้วยลายมือชุ่ยๆว่า ‘ดื่มก่อนนอนด้วยนะ’  ให้ตอนนี้มีกระดาษสีชมพูสลับเขียวแปะบนผนังห้องดาษดื่น  หลังจากเคลียร์กับทางบ้านเฮียลงตัวแล้วผมก็รู้สึกเหมือนหลุดไปอีกโลก  โลกที่เราก้าวข้ามคำว่าแฟน ไปเป็นคู่ชีวิตโดยปริยาย

เวลาดำเนินเรื่อยมาจนถึงช่วงสอบไฟนอล การดำเนินชีวิตของผมกับตี๋ใหญ่ยังเป็นไปแบบไม่ค่อยได้พูดคุยกันนัก กว่ามันจะกลับผมก็ผล็อยหลับไปก่อน และกว่ามันจะตื่น ผมก็ระเห็ดออกจากบ้านไปขลุกอยู่ที่หอสมุดกับพวกไอ้โก้ ไอ้เฟิร์นตามปกติของช่วงสอบ มีเพียงวลีสั้นๆที่ไม่ต่างกันนักในแต่ละวันไว้คอยสื่อสารกัน และเวลาเพียงไม่กี่นาทีที่ใช้มองหน้าอีกฝ่ายตอนที่นอนอุตุไม่รู้เรื่องราวแล้วลักจูบเอาเบาๆไม่ให้รู้สึกตัวเท่านั้น

กระทั่งแค่รู้ว่ามีอีกคนอยู่ ผมกลับรู้สึกอบอุ่นในหัวใจตลอดเวลา

กระทั่งวันพรุ่งนี้ที่ผมจะสอบเสร็จ คืนนี้จึงเป็นคืนสุดท้ายที่ต้องเร่งอ่านหนังสือเอาเป็นเอาตายยันเช้า เพราะตัวหินที่ว่านี่เป็นตัวปราบเซียนดึงนิสิตวิศวกรรมศาสตร์ปีสี่ให้รู้ว่าจะจบ จะเปอร์(เรียนเกินสี่ปี) หรือจะมีใครได้ลุ้นเกียรตินิยมเทอมหน้ากันหรือไม่ โพสอิทหน้าถุงนมเย็นในตู้เย็นของผมที่ซื้อไปเมื่อหัวค่ำเลยกลายเป็นว่า “เน็ตกลับตอนสอบเสร็จนะ ประมาณเที่ยงๆ คิดถึงมาก” ตามท้ายด้วยเครื่องหมายน้อยกว่าและเลขสาม (<3)

ก็คิดถึงจริงๆนี่... แต่หลังจากนี้คงมีเวลาให้เฮียมากกว่าเดิมอีกนิดหน่อยเพราะสุดท้ายผมกับโชติที่พักเรื่องโปรเจคระหว่างสอบก็ต้องมาลุยกันต่อ อันที่จริงโชติพงษ์เคยบ่นๆเหมือนกันว่า ‘กูไม่น่าจับคู่โปรเจคกับมึงเลย นี่จะทำประกวดหรือทำแค่ให้จบกันแน่’ อยู่เหมือนกัน


“อาจารย์จรุงจิตแม่งโคตรโหด  สมแล้วที่เป็นสาวแก่ทึนทึก”

คนที่ผมกำลังนึกถึงอยู่โวยวายขึ้นมา โยนชีตสรุปที่ไฮไลท์สีเป็นรุ้งลงบนโต๊ะหลัง ตามด้วยเสียงผ่อนลมหายใจยาวๆของไอ้โก้ที่กวาดตามองไปรอบห้องสมุดที่เซ็งเซ่ไปด้วยเสียงกระซิบกระซาบ


“คณะอื่นเริ่มสอบเสร็จกันหมดแล้ว”

ผมพยักหน้าเห็นด้วย โดยสังเกตได้ง่ายๆจากโต๊ะในห้องสมุดที่เพิ่มจำนวนว่างมากขึ้น ถ้าเป็นช่วงสอบแรกๆเรายังต้องไปอ่านกันใต้ศูนย์เรียนรวมตบยุงเพราะแย่งโต๊ะนั่งไม่ทันกันอยู่เลย


“อีกเทอมนึงก็จะจบแล้ว พวกมึงคิดกันหรือยังว่าจะยังไงต่อ?”

ผู้หญิงเพียงคนเดียวในโต๊ะถามขึ้น โยนชีตไปกองรวมกับโชติที่ฟุบหลับบนโต๊ะบ้าง ตามๆกันเป็นไอ้โก้ที่ละความพยายามไปอีกคน


“กูจะเรียนต่อ ไม่รู้เกรดจะถึงให้ต่อโดยไม่ต้องสอบหรือเปล่า” คนถามเป็นคนตอบคนแรก โก้พยักหน้าหงึกหงักรับรู้แล้วท้าวคางให้เห็นคอสามชั้นย่นๆ


“กูขอพ่ออยู่บ้านเฉยๆสักปี ค่อยคิดว่าจะทำอะไร”

“เจ๋ง..” โชติเงยหน้าขึ้นมาพูดพลางยกนิ้วให้ “กูอยากทำแบบมึงบ้างไอ้อ้วน”

“ความผิดมึงที่พ่อมึงไม่รวย” ไอ้โก้แสยะยิ้มตอนพูด ทำให้โชติพงษ์ทำหน้าเหม็นเขียวใส่ “ไม่เป็นไร เดี๋ยวกูจบไปทำงานเลย กว่ามึงจะสตาร์ทเงินเดือนก็น้อยกว่ากูไปแล้ว คราวนั้นแหละกูจะรวยกว่ามึง อ้วนโก้”

“ทำไปสิบปีมึงก็ไม่รวยเท่ากูหรอก”

ผมยิ้มเห็นด้วย ไอ้เฟิร์นเลยพยักเพยิดมาถามทางผม “แล้วมึงล่ะเน็ต เกาะผัวแดก?”

“ถ้าทำได้ก็จะทำอยู่หรอกนะ”

“โฮ่ เดี๋ยวนี้แรดขึ้นนะ”

“ก็ตามมึงแหละเฟิร์น” ผมว่าแล้วกวาดตาอ่านหนังสือต่อ เหมือนกลายเป็นคนเดียวที่ยังไม่ละความพยายามแม้เวลาจะล่วงมาจนถึงตีสามเศษ “กูคงทำงานก่อนสักสองปี จากนั้นก็เรียนไปด้วยทำงานไปด้วย จะได้ไม่ต้องขอเงินแม่เรียน”

“ขอผัวสิ” ไอ้เฟิร์นสะกิดบอก ผมหัวเราะในลำคอแล้วปราดตามองมัน “รู้สึกมึงจะใส่ใจเฮียบีมของกูมากเกินไปแล้วนะ”

“ฮู่ว  มี’ของกู’ ด้วยเว้ย  ถามจริงเถอะ หน้าตามึงก็เทรนด์ จีบสาวแคระๆสักคนยังไงก็ติด มึงจะเดินทางนั้นจริงเหรอวะ?”

ไอ้เฟิร์นท้าวแขนกับโต๊ะบ้างแล้วจ้องถาม ผมเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย “ถ้าเลือกได้ก็ไม่เลือกหรอก  แต่มันเลือกไม่ได้แล้วว่ะ เป็นไปแล้ว”

“อ้อ นั่นสิ” เฟิร์นพยักหน้ารับรู้แต่ยังจ้องผมเขม็ง “กูถามอะไรอีกอย่างดิ”

“เอ๊ะ กูอ่านหนังสืออยู่ มึงจะสู่รู้อะไรนัก”

ผมเริ่มรำคาญเลยบ่นๆไป ตัวสู่รู้ทำหน้าหงิกแต่ก็ยังถาม “มึงพิศวาสผู้ชายคนอื่นบ้างรึเปล่า? แบบ เห็นหล่อๆล่ำๆ แซบๆเดินมาแล้วอยากได้อะ”

“ไม่ จบแล้วใช่มั้ย? กูจะอ่านต่อแล้วนะ”

“ที่จริงไม่อยากจบหรอก แต่นี่มันตัวปราบเซียน ให้มึงอ่านเงียบๆก็ได้”

“แล้วทำไมพวกมึงไม่อ่าน?”

อีหนูจำไมแยกเขี้ยวยิงฟันกว้าง “ก็พวกกูไม่ใช่เซียนไงไอ้โง่”


++++++++++++++++++

สิบสองนาฬิกาสิบห้านาที ผมเดินทางมาถึงคอนโดหรูใกล้มหาวิทยาลัยตามความคาดหมาย ไขกุญแจกริ๊กเข้าห้องที่เงียบสนิทก่อนเดินลิ่วเหวี่ยงสัมภาระลงโซฟาก่อนแบกร่างอ่อนเปลี้ยเพลียแรงเนื่องจากไม่ได้หลับไม่ได้นอนทั้งคืนเข้าห้องนอน ทิ้งตัวฟุบแล้วปล่อยให้ตัวเองดำดิ่งไปกับกลิ่นหอมอ่อนๆของเฮียซึ่งยังติดอยู่บนปลอกหมอน กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็ตอนที่เสียงโทรศัพท์แผดลั่นจากห้องนั่งเล่นปลุกให้ปรือตาเปิดขึ้นในห้องนอนซึ่งมืดสนิท หยิบนาฬิกาที่หัวเตียงขึ้นมากดดูก็พบว่าเวลาเลื่อนคล้อยมาจนทุ่มเศษ จึงยอมจำนนลุกเดินเกาพุงใต้เสื้อนิสิตยับๆเน่าๆที่สวมมาสองวันซ้อนไปคว้าเอาโทรศัพท์กดรับสายเป็นอันสิ้นสุดเสียงโหยหวนจากคนโทรเข้า


“ว่าไงบูม?”

“กินเหล้ากัน”

ปลายสายไม่คิดจะถามสารทุกข์สุขดิบ เข้าประเด็นรวดเร็วด้วยน้ำเสียงเริงร่า


“ที่ไหน? ใครบ้าง?”

“ที่คอนโดเฮีย ตอนนี้บูม พี่บอม พี่ปัน พี่โต๊ด พี่โชติอยู่ข้างล่าง ลงมาช่วยขนของหน่อยสิ พี่ปันซื้อโฮการ์เด้นมาให้บูมด้วย”

“เฮ้ยๆ มึงขอเจ้าของห้องหรือยังวะ? เดี๋ยวเฮียได้บ่นตาย มันยิ่งทำงานเหนื่อยๆอยู่ช่วงนี้”

“พี่เน็ตก็รู้ว่าเฮียใจดี ไม่ว่าหรอก ลงมาเถอะ น้ำแข็งจะละลายแล้ว”

สุดท้ายผมก็ปฎิเสธอะไรไม่ได้ เดินคอตกลงลิฟท์มาช่วยไอ้พวกขี้เมายกเบียร์กับเหล้าขึ้นห้อง ประทานโทษเถอะครับ นี่มึงซื้อมาเปิดร้านกันเลยหรือไง ถ้าจะขนกันมาเยอะขนาดนี้


“เฮียยังไม่กลับเหรอ?”

น้องชายคนเล็กของตระกูลพาณิชยโชติถามหลังชะเง้อชะแง้ไม่เจอใครในห้องนั่งเล่นตลอดไปจนถึงครัวและห้องนอน ผมเลยตอบมันไปในลำคอ แล้วหันมาจัดการกับถุงพลาสติกที่หิ้วอบายมุกกองมหึมาอยู่เหนือโต๊ะเตี้ยหน้าทีวี

“แล้วนึกยังไงกันถึงมานี่” เสียงนั้นผมถามลอยๆ แต่ไอ้บอมที่นั่งอ้าซ่าแกะถุงขนมกินก่อนใครเป็นคนหันมาตอบ

“ไอ้ปันมันจะแถลงข่าว พวกกูเห็นว่าชวนมึงไปร้านเหล้าหลายรอบแล้วเสือกไม่ไปเลยยกกันมานี่แทน”

“ก็กูไม่ว่าง”

“ทีไอ้โชติยังว่าง” หมอโต๊ดเถียงทันทีที่ผมแย้ง ไอ้บอมเลยแสยะยิ้ม “ติดผัว” มันว่าแล้วโยนสแนคแจ๊คเข้าปาก

“ครวย”

ไม่แค่เสียง ผมยกนิ้วแจกเป็นออฟชั่นเสริม เรียกเสียงหัวเราะจากพวกที่ฟังอยู่ได้ครืน มีแค่ปันเท่านั้นที่ยิ้มอ่อนๆไม่ตลกโปกฮาไปกับคนอื่น

“บูม ไปหยิบแก้วในครัวมา”

“ครับผม” ตี๋เล็กตะเบ๊ะมือบอก พลันวิ่งหายไปหลังประตูครัว ก่อนกลับมาอีกทีพร้อมแก้วในมือสองใบ ที่เหลืออีกสี่หนีบไว้กับแขน ไอ้ปันเลยรีบลุกขึ้นไปช่วยน้อง “เดี๋ยวก็หล่นแตกกันพอดี”

ผมเหลือบตามองบอม มันไหวไหล่นิดๆเหมือนจะบอก ‘กูก็ไม่รู้เหมือนกัน’ ดักคำถามผม จากนั้นหมอโต๊ดก็เป็นคนกระวีกระวาดชงแอลกอฮอล์ส่งให้เพื่อนๆ โดยมีแค่ปรมัตที่ดื่มเบียร์ยี่ห้อโปรดของมัน


“เป็นวัยรุ่นปีสี่แม่งยาก”

จู่ๆไอ้บอมก็บ่น เปิดทีวีดูช่องเอชบีโอซึ่งกำลังเอาแฮรี่พอร์ตเตอร์ภาคสามมาฉายซ้ำ ท่าทางคงคิดไม่ตกเกี่ยวกับโปรเจค ได้ยินมาว่ามหาลัยมันให้ทำคนเดียว ไม่ได้จับกลุ่มเหมือนผม แต่พอตัวพี่มันบ่น ไอ้คนน้องเลยเอาบ้าง


“ปีสามก็ยาก”

ทุกคนหันไปมองต้นเสียงเห็นฟองเบียร์ฟอดติดเหนือปากไอ้บูมกลายเป็นหนวดสีขาวๆก็ยิ้ม ไม่คิดจะเตือน มีก็แต่ปันนภที่เสือกกล่องทิชชู่ให้น้อง แล้วเถียง“กูว่าจบไปทำงานยากกว่า” 

จากนั้นไอ้หมอเมียเดียวก็รีบส่งเสียงฮื่อไม่เห็นด้วยแล้วขัด “แต่งงานยากสุด”

“อ้อ เรื่องนั้นมึงกับไอ้เน็ตชิงเรียนรู้กันก่อนพวกกูแล้วไม่ใช่เรอะ?”

ปารณกระตุกยิ้มที่มุมปากให้ผมหันไปผลักหัวมันทิ่มแก้ว ก่อนสุดหล่อมันจะคว้าคอผมเข้าลอคแล้วใช้กำปั้นยีบนผมสีน้ำตาลเบจเหมือนมิซาเอะกับชินจัง “ตบหัวใคร หืม? มึงตบหัวใครไอ้สั้น??”

หมอหัวเราะลั่น ยกตีนขึ้นก่ายโต๊ะเตี้ยโดยไม่คิดจะห้าม “ถ้าไอ้เน็ตไม่ได้เป็นเมียเฮีย กูว่าซักวันมึงสองตัวต้องได้กันเองจริงๆแน่”

“อย่าแช่งกู ไอ้หมอ” ปารณสวนกลับเสียงขรม แล้วยกแก้วเหล้าขึ้นดื่ม กูอยากได้มึงตายแหละไอ้เวร

“แล้วนี่พวกมึงสอบกันเสร็จหมดแล้วเหรอ?”

“เออ เข้าปิดเทอมสุดท้ายกันแล้ว ไวเนอะ เหมือนไม่กี่วันก่อนพวกมึงยังไปแง้วๆอยู่บ้านกูให้เฮียติวภาษาอังกฤษให้อยู่เลย”

เจ้าบ้านรำเริกบุญคุณ ผมจิบเหล้าไปพลางนึกถึงอดีตไปด้วย “ตอนนั้นมึงเครซี่เจ้ทรายมาก ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง”

“ไม่ได้ดูข่าวเหรอ? ทรายแก้วโกอินเตอร์น่ะ หนังฟิลิปปินส์ติดต่อให้ไปเล่น คงเป็นปีกว่าจะกลับมาไทย”

“สภาพจิตใจมึงล่ะ”

“ก็โอเค เดี๋ยวกูคงเจอคนที่ใช่เอง ตอนนี้ก็เรียนไปก่อน”

“วิถีเซเลป” ผมแขวะ ไอ้บอมเริ่มทำตาขวางเหมือนจะคว้าผมไปยีหัวอีกรอบ คราวนี้ตัวเองเลยรีบระเห็ดไปนั่งเบียดหมอโต๊ดก่อนถูกทารุณกรรมอีกรอบ

“แล้วปัน พวกกูได้ยินมาว่ามึงจะไปอยู่กับแม่เหรอ?”

บุรุษที่สองเงยหน้าขึ้นจากแก้วเหล้าแล้วพยักหน้าเงียบๆ จับจ้องสายตามาที่ผมครู่หนึ่งก่อนหันไปตอบบอม “ต่อโทสองปีแล้วก็กลับมาทำงานกับพ่อ เขาอยากให้กูไปอยู่กับแม่บ้าง”

“แล้วมึงกับแม่สนิทใจกันดีเหรอวะ?”

โชติพงษ์ถามแทนเพื่อนคนอื่นๆ ไอ้ปันถอนหายใจแล้วส่ายหัว “ก็คงไม่แย่เท่าไหร่หรอก”

“แล้วที่บอกว่าจะต่อไทย? ไมไม่ต่อแล้ววะ?”

“กูอยู่ไม่ได้...”

 ไอ้ปันเหลือบตามองผมอีกรอบแล้วยกเบียร์ขึ้นมาจิบ


“หนีคดีอะไรวะ นี่มึงไปทำใครท้องหรือเปล่าเทพปัน?” ไอ้บอมถามกวนๆ ปันนภหัวเราะแล้วโบกมือ “คนจบMBAเกลื่อนตลาด กูว่าอังกฤษเครดิตดีนะ ขืนเรียนอยู่ไทยกูว่าเอาวุฒิป.ตรีไปสมัครงานเก็บประสบการณ์ยังคุ้มกว่า”

 ผมไม่ใช่คนจับโกหกเก่ง แต่ไม่รู้ทำไมครั้งนี้ถึงรู้สึกได้ว่านี่เป็นแค่เสี้ยวหนึ่งของเหตุผลมัน บางทีอาจเป็นเพราะแววตาตัดพ้อนั่นที่มองมาบ่อยๆ เฮ้ย อย่าสิ อนาคตมึง ชีวิตมึงไม่เกี่ยวกับกูนะ


“แต่จะกลับมาใช่ไหม?” ผมถาม ไอ้ปันยิ้ม ผมเลยเหลือบไปมองบูมที่ยังดูแฮรี่คุยกับเฮอร์ไมโอนี่ในโทรทัศน์ ทำทีเป็นไม่สนใจ “อืม กลับมาแน่” มันว่า ผมจึงฉีกยิ้มกว้างขวางแล้วพูดลอยๆ

“ดีแล้ว เด็กแถวนี้มันจะได้ไม่ต้องอกแตกตาย”

“เปล่าซักหน่อย!” เด็กแถวนี้รีบเถียง

“อะไรบูม มึงดูหนังอยู่ไม่ใช่เหรอ?”

พอแกล้งน้องเล็กได้พวกขี้เหล้าก็ยกยิ้มกันชุดใหญ่ มีแค่บูมเท่านั้นที่นั่งหน้าหงิกซดเบียร์โฮก โฮก ไม่สนใจใคร อะไรวะ มึงเป็นคนขี้อายตั้งแต่เมื่อไหร่ไอ้น้องรหัส


“ไอ้คนนี้ไม่เห็นเกี่ยวว่ากูจะกลับหรือไม่กลับ” ปันหัวเราะ มันเหลือบตามองคนถูกพาดพิงแล้วเอนตัวสบายๆกับพนักพิงโซฟา วาดแขนยาวอ้อมหลังไอ้บูมไปให้พวกผมหลิ่วตาล้อ


“มึงเคยอ่านหนังสือของยิบรานไหม?”

“หนังหน้าอย่างพวกกูน่ะเหรอจะอ่านหนังสือ” โชติพงษ์ถามขันๆ ไอ้คนเปลี่ยนเรื่องรวดเร็วยกเหล้าขึ้นจิบบ้างด้วยท่าทีปกติ ทว่ายังเห็นแววหยอกล้อในดวงตาชัด ข้างๆกันนั้นเป็นปรมัตนั่งเงียบจมูกหูแดงก่ำ ไม่รู้ว่าเมาแล้วหรือยังไง


“มีคนเอาหนังสือเล่มนี้มาให้กูอ่าน หน้านึงถูกคั่นเอาไว้ เป็นบทกวีน้ำเน่าๆที่กูจำได้ขึ้นใจเลย”

ผมเห็นไอ้บูมทำตาขวางมองปันนภเหมือนห้าม แต่คุณชายกลับทำทีเหมือนกำลังถูกยุ เอ่ยบทกวีที่ว่าได้อย่างแม่นยำถูกต้อง


“ เมื่อความรักร้องเรียกเธอจงตามมันไป

แม้ว่าทางของมันนั้นจะขรุขระและชันเพียงไร

และเมื่อปีกของมันโอบรอบกายเธอ จงยอมทน

แม้ว่าหนามแหลมอันซ่อนอยู่ในปีกนั้นจะเสียดแทงเธอ

และเมื่อมันพูดกับเธอ จงเชื่อตาม

แม้ว่าเสียงของมันจะทำลายความฝันของเธอ

ดังลมเหนือพัดกระหน่ำสวนดอกไม้ให้แหลกราญไปฉะนั้น ..”



“พี่ปัน!”


สุดท้ายคนที่พยายามเก็บอาการที่สุดก็ร้องแหว ผิวขาวเหลืองของตี๋เล็กแดงตลอดจนถึงลำคอ ผมพอจะเข้าใจแล้วว่าใครเป็นคนเอาหนังสือที่ว่านั่นไปให้ไอ้ปันอ่าน ปารณเองก็หัวเราะ หันไปมองน้องชายคนเล็กล้อๆ “สงสัยกูต้องบอกป๊าเตรียมตั๋วเครื่องบินไปอังกฤษแล้วล่ะมั้ง?”

“บูมจะฟ้องเฮียว่าบอมกับพวกพี่แกล้งบูม”

“เฮ้ย กูไม่เกี่ยว” ผมรีบแย้ง ไอ้บูมแทบจะพ่นไฟใส่หน้า “ตัวเปิดประเด็นเลยเหอะ! ไม่คุยด้วยแล้ว เล่นวินนิ่งดีกว่า ใครจะเล่นบ้าง”
ไอ้ตัวแสบรีบเปลี่ยนเรื่อง พี่ๆของมันก็หลอกง่ายเหลือเกิน ยกมือขึ้นแย่ง ร้อง “กูๆ” แสดงเจตจำนงกันใหญ่  มีแค่ปันนภเท่านั้นที่ปลีกตัวออกมาสูบบุหรี่ พอเห็นน้องรหัสเล่นเกมส์กับพวกพี่ๆเพลินแล้วผมจึงค่อยลุกตามคุณชายออกไป




“เป็นไง?”

เสียงประตูบานเลื่อนปิดลง คนถูกทักเลิ่กคิ้ว พ่นควันสีขาวให้ลอยละล่องออกนอกระเบียง “ก็ไม่เป็นยังไง”

“มึงเฮิร์ทหรือเปล่า?”

“นิดหน่อย”

“แล้วเรื่องบูม..?”

“มึงดูเชียร์มันนะ”

“น้องมันก็น่ารักดีไม่ใช่เหรอ?” ปันนภพยักหน้าเห็นด้วย แล้วหันมายิ้มให้ผมที่ปาก แต่ตากลับเหมือนอยากจะร้องไห้

“เคยได้ยินประวัติของทัชมาฮาลไหม?” ผมส่ายหัว ให้ปันเล่า “มึงรู้ไหม เขาว่ากันว่าจา มาฮาลนั่งมองทัชมาฮาลเพราะคิดถึงเมียจนวันตาย.. ที่จริงนะ กูไม่เชื่อหรอกว่าจะมีคนที่ยินดีที่แค่ได้คิดถึงและรักคนรักของตัวเองแม้ไม่ได้ครอบครอง ไม่ได้อยู่กินด้วยกันกระทั่งลมหายในสุดท้ายจริง เพราะงั้นกูเลยเลือกที่จะไปอังกฤษ... กูคงทนไม่ได้ถ้าต้องเห็นมึงกับเฮียมีความสุขด้วยกัน”

“เขาว่าคนเจ้าชู้จะขี้หึง ท่าจะจริง”

ไอ้ปันหัวเราะหยัน “กูจะไม่โกหกตัวเองอีก ต่อไปนี้กูจะไม่รอให้อะไรๆมันสายไปเหมือนเรื่องของมึง”

“อย่างน้อยกูหวังว่าจะเป็นเรื่องไอ้บูม”

“บอกตรงๆ กูยังไม่พร้อม ไอ้บูมทั้งร้ายทั้งน่ารำคาญ แต่ก็จริงอย่างที่มึงพูด มันน่ารัก และซื่อสัตย์กับความรู้สึกของตัวเองดีด้วย...”

ผมพยักหน้าเห็นด้วย ไอ้ปันอัดควันบุหรี่เข้าปอดอีกครั้งแล้วยิ้มให้กับท้องฟ้าสีมืด “แต่กูก็ตอบไม่ได้ว่าจะมีวันที่กูพร้อมรักมันไหม บางทีมันอาจเป็นคนพิสูจน์นิยามรักทัชมาฮาลให้กูก็ได้.. การมีความสุขและยินดีรักใครสักคนแม้จะไม่ได้รับความรักกลับมาน่ะ”

“...............”

“มันต้องมีคนหัน... ไม่กูหันมา มันก็คงหันไป มึงไม่ต้องมาทำตัวเป็นพ่อสื่อพ่อชักให้กูหรอก มันเป็นเรื่องของอนาคต กูคงทำให้มึงสบายใจได้แค่ว่า บางทีกูก็อาจจะชอบมันนิดๆก็ได้”

ปันนภหลิ่วตา ผมพยักหน้ารับรู้ก่อนชวนมันกลับเข้าไปข้างใน เหล้าหมดไปหลายขวดแล้ว วินนิ่งก็เหมือนถูกผู้เล่นบังคับเป๋ไปเป๋มาตามสติที่เลือนราง


“เล่นมั้ยพี่เน็ต พี่ปัน?”

หัวข้อสนทนาเมื่อครู่หันมาถาม ตาขีดๆของน้องรหัสเยิ้มหวานมองผม จากนั้นก็เลื่อนไปมองไอ้ปันที่เบือนหน้าหนีเอามือเกาจมูกตัวเองเก้อๆ เสียดายที่บอมนอนหลับไปแล้วบนโซฟาไม่งั้นคงได้มีลูกคู่ช่วยผมแซวคุณชายแน่ๆ ส่วนไอ้หมอคงพาโชติพงษ์คออ่อนเข้าห้องน้ำ เพราะผมไม่เห็นว่าพวกมันนั่งอยู่ในนี้  ที่ระเบียงซึ่งผมเพิ่งเข้ามาก็ด้วย



แกร๊ก...


จู่ๆเสียงเปิดประตูก็ดังขึ้น ปันนั่งลงไปเล่นวินนิ่งกับบูมที่พื้นแล้ว เหลือแค่ผมที่ยังสนใจการมาของคนใหม่ เฮียสวมเสื้อเชิร์ตสีชมพูโอรสพับแขนขึ้นถึงข้อศอก ปลดกระดุมสองเม็ดบนแต่ชายเสื้อยังเก็บเข้ากางเกงสแลคขาเดฟดีมองรอบห้องด้วยความแปลกใจ ก่อนสายตาจะมาหยุดที่ผมซึ่งยิ้มแผล่รู้สึกผิดนิดๆที่ให้เฮียต้องมาเจอห้องตัวเองในสภาพนี้


“มากินเหล้ากันเหรอ?”

“เฮียหวัดดี” ไอ้บูมหันไปไหว้พี่ชาย ปันนภเองก็เช่นกัน มีแต่ผมที่ไม่ได้ทำความเคารพแต่เลี่ยงไปเทน้ำเย็นๆมาให้เจ้าของห้องเป็นการขอโทษ เฮียไม่ได้พูดอะไร แค่รับน้ำไปดื่มแล้วขอตัวเข้าห้องนอนให้ผมมองตามด้วยความกังวลเท่านั้น


“มีอะไรจะคุยกันก็เข้าไปก็ได้นะ พวกนี้เดี๋ยวกูดูให้”

ปันนภบอกทั้งๆที่ไม่ได้หันมามอง ผมจึงเดินตามเจ้าของคอนโดเข้าห้อง เห็นเฮียกำลังจะถอดเสื้อเลยเดินเข้าไปช่วยมันปลดกระดุม


“ไม่ไปออกไปดื่มกับเพื่อนๆล่ะ?”

“เฮียโกรธเน็ตหรือเปล่า?”

“หืม?”

คนถูกถามย้อนเสียงสูง ผมเลยเหลือบตามองมันแล้วหลุบตาลงต่ำเหมือนเด็กๆมีความผิด “ก็คอนโดเฮีย แต่เน็ตกลับให้พวกนั้นเข้ามาวุ่นวาย”

“อะไรกัน ไม่เห็นต้องโกรธ อะไรของเฮียก็เหมือนของเน็ตแหละ ห้องเฮียก็เหมือนห้องเน็ต เพื่อนเน็ตก็เหมือนเพื่อนเฮีย คิดอะไรเนี่ย เกรงใจเหรอ?”

ผมพยักหน้า”ก็เฮียกลับมาเหนื่อยๆ...”

“เห็นเน็ตอยู่ในห้องเฮียก็หายเหนื่อยแล้ว ไหน แล้วสอบเป็นยังไง ทำได้หรือเปล่า?”

“ก็ไม่ได้แย่อะไร แล้วงานเฮียยังเหลืออีกเยอะไหม? เสร็จเมื่อไหร่?”

“ใกล้แล้วแหละ แต่พรุ่งนี้ว่าจะลาไปกินข้าวกับแม่เน็ต”

ผมเงยหน้าขึ้นมองคนพูด ไอ้ตัวโตมันยิ้มกรุ้มกริ่มแล้วดึงผมเข้าไปกอด แถมด้วยหอมอีกฟอดใหญ่ๆที่แก้มซ้าย “เฮ้ยๆ อย่าเพิ่งดิ ไปกินข้าวกับแม่เน็ตอะไร ไม่เห็นรู้เรื่อง”

“โทรนัดกันไว้เมื่อวาน เห็นว่าเน็ตสอบเสร็จวันนี้ด้วย ป๊ากับม้าก็ร้อนใจแล้ว”

“ไม่เห็นบอกก่อน”

ผมบ่น ไอ้เฮียยังยิ้มเนือยๆ ดูเหนื่อยๆเพลียๆ ผมเลยเขย่งเท้าขึ้นจูบที่ปากมันเบาๆ


“งั้นก็ไปอาบน้ำนอนเถอะ เน็ตออกไปอยู่กับเพื่อนอีกสักพักจะไล่มันกลับมานอนกอดเฮียแล้ว”

พูดจบก็รีบหมุนตัวหนี แต่ก็ช้ากว่ามือปลาหมึกที่คว้าเอาเอวคอดของผมดึงเข้าประชิดตัวไว้ได้ “เฮียก็อยากกอดเน็ตใจจะขาดแล้วเหมือนกัน”

“เหนื่อยก็นอนเถอะ อย่าฝืนทำ เดี๋ยวหลับกลางทางแล้วจะค้างกันทั้งคู่”

พอพูดจบไอ้เฮียหื่นก็ทำตาลุกวาวเหมือนถูกหยาม จนผมต้องรีบเอามือแปะหน้ามันไว้ก่อนจะยื่นมาฉวยโอกาสผมเหมือนตาแก่ตัณหากลับ “ไว้ก่อนน่า...” พูดแค่นั้นเฮียก็ยอมปล่อยง่ายๆ โดยฝากจูบอุ่นๆไว้ที่หลังมือผมก่อนเดินตัวปลิวผิวปากเข้าห้องน้ำไป



++++++++++++++++++++
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-10-2012 23:58:45 โดย -west- »

ออฟไลน์ -west-

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1875/-12
    • FACEBOOK PAGE

สายวันต่อมาผมถูกปลุกด้วยมือและปาก...

เริ่มด้วยมือ ที่บีบจมูกแบนๆผมเอาไว้ ตามด้วยกลีบปากที่ปิดช่องหายใจของผมให้ต้องสะดุ้งตื่นมาดิ้นขลุกขลักในอ้อมแขนของคนร่วมเตียง พอเบิกตาขึ้นโพลงเท่านั้น เฮียก็ปล่อยมาหัวเราะตัวขดตัวงออยู่ริมขอบเตียงให้ผมโดดถีบโครมคนตัวโตให้ล้มตึงไปขำที่พื้นต่อ


“ไอ้เหี้ย กูก็นึกว่าผีอำ”

ผมบ่นเสียงแห้ง เฮียบีมยังหัวเราะไม่เลิก ค่อยๆคลานขึ้นเตียงมากอดผมง้อๆ โอ้โห มึงครับ เล่นเอาเช้าวันปิดเทอมแรกของกูน่าหวาดผวาไปเลยทีเดียว


“ขอโทษๆ ไม่แกล้งแล้ว”

“ลองแกล้งอีกสิ คราวนี้เน็ตตามลงไปกระทืบแน่ๆ”

“ดุว่ะเฮ้ย โอเคๆ เฮียแค่จะปลุกให้เน็ตไปอาบน้ำเท่านั้นแหละ เดี๋ยวไปรับป๊ากับม้าที่บ้านแล้วจะได้ไปกินมื้อเที่ยงกับแม่กัน”

เฮียยิ้ม หน้าตาดูสดชื่นกว่าเมื่อวานแต่ยังคงสภาพอิดโรยอยู่นิดหน่อย ผมพยักหน้ารับรู้แล้วลุกไปหยิบผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำ ได้ยินเสียงก๊อกแก๊กดังจากครัว ให้เดาเฮียคงลุกไปหาอะไรรองท้องก่อนกลับบ้านให้ผมแน่ๆ  ถึงจะเล่นอะไรพิเรนทร์น่าหงุดหงิดสักหน่อยตอนตื่น แต่ตื่นมาแล้วมีคนแบบนี้อยู่ข้างๆผมก็ยินดีนะครับ



วีออสคันเดิมของบอมถูกหยิบมาใช้โดยเจ้าของมันกระเง้ากระงอดนิดหน่อยแต่สุดท้ายก็จำยอมให้พี่ชายเอารถมาใช้อยู่ดี เฮียกับป๊านั่งหน้า โดยมีผมกับม้านั่งอยู่เบาะหลังเงียบๆกระทั่งรถมาจอดหน้าบ้านขนมปังที่คุ้นเคย พอได้ยินเสียงเครื่องยนต์เท่านั้น แม่ก็เดินออกมาทั้งชุดทำครัวเปิดประตูรั้วให้รถเข้า ก่อนยิ้มรับใจดีตามแบบฉบับของเธอ


“สวัสดีค่ะ”

“สวัสดีค่ะ”

ผู้ใหญ่ยกมือไหว้กัน แม่หลิ่วตามองผมให้เดินนำเข้าไปในบ้านส่วนตัวเองเป็นคนปิดท้าย ในห้องโถงถูกตบแต่งใหม่ เหมือนเพิ่งทำความสะอาดครั้งใหญ่เสร็จ ถ้าจะให้เดาแล้วผมคิดว่าน่าจะเป็นการมาเยือนของบ้านพาณิชยโชติที่เป็นชนวนสำคัญแน่


“ตามสบายนะคะ นี่เนย ลูกสาวคนโต” แม่แนะนำลูกสาวคนโตที่ยกน้ำมาเสิร์ฟ จากนั้นพี่เนยก็ยกมือไหว้ป๊ากับม้าให้ทั้งสองยิ้มอ่อนๆรับแล้วหันมาพูดเข้าประเด็น

“บ้านเรามีลูกชายสามคนค่ะ บีมเป็นคนโต บอมเป็นคนกลางนี่เป็นเพื่อนกับเน็ตตั้งแต่ม.ต้น ส่วนคนเล็กชื่อบูม เป็นน้องรหัสเจ้าเน็ตด้วย...”

“ค่ะ ก่อนเจอบีม บอมก็เคยมาหาเน็ตที่บ้านช่วงมัธยม พี่น้องสองคนนี้หน้าตาคล้ายกันนะคะ ตอนแรกฉันเห็นยังคิดว่าเป็นคนๆเดียวกันอยู่เลย”

หม่าม้ายิ้ม แล้วพูดต่อ “เด็กๆสนิทกันค่ะ ป๊ากับหม่าม้าก็เห็นเน็ตตั้งแต่ช่วงเข้าวัยรุ่น เน็ตเป็นเด็กน่ารัก ไม่เคยพาเจ้าบอมออกนอกลู่นอกทางเลย ทางเราก็เอ็นดูมาก..”

ม้าพูด ขณะที่ป๊านั่งเงียบๆ ผมเกร็งจนเยี่ยวเหลืองกระทั่งมีมือมาวางซ้อนลูบให้กำลังใจ ลับสายตาผู้ใหญ่

“ลูกชายคนเล็กของเราเป็นเกย์ เรื่องนี้ป๊ากับม้าเครียดมากตอนที่รู้แรกๆ แต่ก็ปรึกษากันว่ารสนิยมไม่ใช่โรคร้ายที่จะต้องรักษา มันรักษาเยียวยาไม่หาย ต่อให้จับเขาไปแต่งงานกับผู้หญิง ถ้าลูกเราไม่ชอบ และมันไม่ใช่ ทุกอย่างก็จะยิ่งแย่ลงกว่าเดิม...”


“ตี๋เล็กใช้ความกล้ามากกว่าจะมาเล่าให้ป๊ากับม้าฟัง ตอนนั้นตี๋พูดไปร้องไห้ไปแล้วบอกแต่ว่าขอโทษซ้ำๆ ทั้งๆที่ผิดหวัง แต่ป๊ากับม้าก็ไม่มีใครโกรธตี๋เล็กเลย ถึงจะไม่อยากยอมรับ แต่สุดท้ายเราก็ต้องรับเขาให้ได้เพราะเขาเป็นลูก ต่อมาพอลูกชายคนโตมาพูดเรื่องลักษณะนี้บ้าง คราวแรกที่ได้ยินก็ทั้งโกรธทั้งตกใจ แต่ป๊ากับหม่าม้าก็ยอมรับว่าต้องผ่านมันไปอีกครั้งให้ได้ เพราะบีมก็เป็นลูกเราเหมือนกัน” ประโยคนี้ป๊าเป็นคนพูดบ้าง แม่พยักหน้ารับรู้แล้วส่งยิ้มบาง

“เรื่องที่เน็ตชอบผู้ชาย ฉันก็กังวลอยู่ในช่วงแรกเหมือนกันค่ะ แต่เห็นบีมดูแลตาเน็ตดีเลยเบาใจ ถ้าเป็นคนนี้คงขัดอะไรไม่ได้ด้วย ลูกเราก็รักเขา ขอให้เขาดูแลกันให้ดีก็พอค่ะ จะได้หมดห่วงคนเป็นพ่อเป็นแม่”

ผู้หญิงที่สวยที่สุดในโลกหันมามองผมแล้วยิ้มให้ ก่อนป๊าจะเอ่ยเรียกความสนใจของทุกคนไปอีกรอบ


“ที่จริงทางป๊าก็ไม่รู้ว่าต้องมีพิธีรีตองอะไรบ้าง เห็นว่าบีมเอาตาเน็ตไปอยู่ด้วยตั้งแต่ก่อนบอกพ่อแม่เลยเอานี่มาขอขมา ส่วนเรื่องที่เขาอยู่กินกันคงไม่ได้ทำอะไรให้เป็นพิธีเอิกเกริก แต่อยากให้ทางแม่เน็ต แล้วก็ตัวเน็ตเองวางใจได้ว่าป๊ากับม้าจะรับเน็ตเป็นลูกคนหนึ่ง วันไหนบีมดูแลเน็ตไม่ดีฟ้องป๊ากับหม่าม้าได้ เดี๋ยวป๊าจัดการให้”

“โถ่ ป๊า ผมดูแลเน็ตดีอยู่แล้วน่า” คนที่เงียบมาตั้งแต่แรกรีบออกตัว ผมยกมือไหว้ป๊ากับม้าตามด้วยแม่ จู่ๆก็น้ำตารื้นขึ้นมาแบบไม่มีสาเหตุ


“นั่นไง เจ้าตัวดี จะงอแงอีกแล้วเหรอ?” พอแม่ทักผมก็รีบสะบัดหัวปฏิเสธ เฮียยิ้มล้อแล้วยกมือขึ้นยีหัวผมเบาๆ “ไม่เอาน่า..” มันว่า ผมเลยพยักหน้ารับหงึกหงัก


“แล้วกำไลทองนี่จะฝากแม่ไว้หรือเน็ตจะใส่?”

แม่พูดถึงของขอขมา ผมยกมือไหว้ป๊ากับม้าอีกรอบแล้วขออนุญาตฝากแม่ไว้ ของมีค่าใส่ติดตัวแล้วกลัวจะอันตรายเปล่าๆซึ่งป๊ากับม้าก็ไม่ได้ว่าอะไร พักหนึ่งพี่เนยก็เดินเข้ามาในห้องที่พวกเรานั่งกันอยู่ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม


“อาหารเสร็จแล้วนะคะ จะทานกันเลยไหม?”

ป๊ากับม้าพยักหน้า แม่เป็นคนเดินนำไปในห้องกินข้าวติดกับครัว ขณะที่ผมกับเฮียเดินตามหลังมาห่างๆ


“คราวนี้เป็นสะใภ้เต็มตัว เลิกไมได้แล้วนะ ณัฏฐนิช”

คนตัวโตกระซิบให้ได้ยินสองคน ก่อนเลื่อนมือไปจับสอดประสานปลายนิ้วเข้าหากันแล้วส่งยิ้มอบอุ่นให้ผม


ให้รู้สึกอุ่นซ่าน ไปถึงหัวใจ



------------------------------------------
COMPLETE Friend's brother Brother's friend 32
HAPPY ENDING
24/10/12



ยากที่สุดของการแต่งนิยายคือบทเริ่มกับบทจบค่ะ  ถ้าอ่านแล้วสะดุดไม่รื่นตายังไงแนะนำกันได้นะ พยายามที่สุดแล้ว TT^TT  อีกสักไม่เกินสองสัปดาห์จะแต่งตอนพิเศษมาลงนะคะ ช่วงนี้เหมือนอยู่ในสงคราม ตลอดสองเดือนที่ผ่านมางานหนักมาก ขอบ่นยาวๆเถอะ เมื่อสัปดาห์ที่แล้วออกต่างจังหวัด ไปทั้งสระบุรี ลพบุรี สระแก้ว เพชรบุรี โถ.. เหมือนจะดีที่ได้เที่ยว แต่แม่คุณเอ๋ย เหนื่อยลากไส้เลยค่ะ โชคดีจริงๆที่เมื่อวันอังคารเป็นวันหยุด เหมือนได้พักหายใจต่อชีวิตสักหน่อย
สุดท้าย แต่ไม่ท้ายสุด ต้องกราบขอบพระคุณนักอ่านทั้งหลายแนบอก นี่เป็นนิยายเรื่องแรกที่แต่งลงบอร์ดนี้และได้รับการตอบรับที่อบอุ่นมาก ดีใจที่มีคนชอบทั้งที่ได้ตอบรีพลาย และคนที่ไม่ได้เป็นสมาชิกแต่เข้ามาอ่านและติดตามเรื่อยๆ  เป็นความสุขเล็กๆของชีวิตมนุษย์เงินเดือนที่แสนจะน่าเบื่อหน่าย สำหรับเรื่องปันนภ ยังมีความคิดสองจิตสองใจว่าจบไว้แบบนี้(ดูคลาสสิคดี #คิดเอาเอง) หรือแต่งบทพระเอกมาให้พี่แกกับใครสักคน (ที่ยังไม่รู้ว่าจะเป็นบูมดีไหม) แต่ยังไงต้องขอพักนิยายไว้พักใหญ่เพราะเรื่องงานที่หนักแบบไม่คาดฝันจริงๆค่ะ  แต่สัญญาว่าจะหาเวลาว่างสร้างผลงานดีมีคุณภาพอีกแล้วครับท่านมาลงอีกแน่ๆ

สุขสันต์วันสีเขียวค่ะ
อยากให้ทุกคนมีความสุขกับการอ่าน   รักนะ จุ๊บุๆ  แล้วเจอกันในตอนพิเศษค่ะ ^^


แจ้งประกาศยกเลิกลิขสิทธิ์นิดนึงค่ะ
http://upic.me/i/rm/zji01.jpg
http://upic.me/i/no/dhk02.jpg
http://upic.me/i/sw/qma03.jpg
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-12-2013 19:46:15 โดย -west- »

ออฟไลน์ Millet

  • `ヅ
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1667
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +663/-5
ตอนหัวค่ำรอจนหลับไปรอบนึงแล้ววววววว นึกว่าจะไม่มาเห็นว่างานยุ่ง ฮรึก ไม่รู้ผีป่าตนใดมาปลุกให้สะดุ้ง (นี่ก็เว่อร์ :beat:)


อ่านนานเป็นพิเศษละเลียดอ่านทุกตัวอักษร เหมือน ไอ้หัวแห้ว อินี่พออ่านก่อนก็จะสปอยอยู่นั่น


จนหมดตัวอักษรสีเขียวแล้วก็ใจหายนะ TvT

ด้วยนิสัยแล้วไม่ชอบอ่านอะไรที่มีตัวละครเยอะแยะ เป็นคนขี้งงจำไรไม่ค่อยได้ แต่ว่าเรื่องนี้ทำให้ทุกตัวละครน่าจดจำ

ไม่อยากพลาดชีวิตของใครไปเลย อยากเผือก [คำสุภาพของเือก อิอิ] เรื่องราวของทุกคนไปซะหมด

คนแต่งช่างต่อยอดเรื่องราวของกลุ่มเพื่อนกลุ่มนึงให้เป็นเรื่องที่น่าประทับขนาดนี้ เก่งมากอะ

เฮียกับเน็ตเป็นคู่ที่เริ่มต้นมาด้วยอะไรที่ไรสาระมากกกกกก 5555 แต่ระหว่างทางเป็นสองคนที่ทำให้กรี๊ด ร้องไห้ ประทับใจ อิจฉา ใจหาย ผิดหวัง บลาๆ

อะไรต่อมิอะไรเยอะแยะไปหมดอะ รักเฮียบีมเป็นผู้ชายที่โลกต้องการ (อยากได้เองฝุดๆ) :กอด1: เน็ตโชคดีมากชั้นอิจฉาแก


ส่วนปัน ชอบตัวละครตัวนี้นะ ดูมันสับสนในชีวิตดี ตอนแรกแอบเชียร์ปันเน็ต แต่ในเมื่อแกความรู้สึกช้าเอง ก็ต้องเป็นแบบนี้ล่ะ

เรื่องบูมกับปัน จบไว้แบบนี้ก็ดีเหมือนกันนะ รอให้ปันไปตกตะกอนความคิดที่อังกฤษซักสองปี คงมีอะไรชัดเจนขึ้น ไม่ว่าจะชัดไป

ในทางไหนก็แล้วแต่

ตอนจบประทับใจมาก ไม่รู้จะพูดอะไรแล้ว นอกจากขอบคุณที่แต่งนิยายดีๆ แม้ช่วงหลังจะงานยุ่งมากแต่ก็ไม่เคยหายไปนานๆ

เป็นคนแต่งที่มีวินัยในการอัพสุดๆ ทำให้วันพุธเป็นวันที่ต้องตั้งตาคอย ต่อไปไม่มีอีกแล้ว แง :o12:

รออ่านตอนพิเศษเนาะ ^^  :กอด1: :L2:







« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-10-2012 02:25:41 โดย Millet »

ออฟไลน์ ao16

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1214
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +253/-4

ออฟไลน์ monsterkim

  • I think therefore I am. = เพราะฉันคิด ฉันถึงมีอยู่
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 85
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1
ป๊าม๊าน่ารักมาก เข้าใจลูกได้ดี แถมยังมาหาคุณแม่ของเน็ตถึงบ้าน เลย :L2:

ส่วนน้องบูมสุดน่ารักกับปัน ผมก็ยังเชียร์ให้เป็นตอนพิเศษแบบเยอะๆเลยนะ ชอบบูมมาก :-[

ผมจะรอนะค้าบ  o13 :pig4: :bye2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ patchylove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1585
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-4
 :L2: :L2: :L2: รอ ปัน กับบูม จ้า อิอิ  ไม่เปลี่ยนใจ

ออฟไลน์ noksamsee

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 144
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
 :กอด1: ชอบมาก  จะมารอตอนพิเศษ สัญญาว่าจะมาน่า :call:

little_nok

  • บุคคลทั่วไป
เยี่ยมมาก สนุกมาก ประทับใจค่ะ
รอตอนพิเศษต่อ

ออฟไลน์ bobby_bear

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 419
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-5
 o13 o13

ใจหายเหมือนกันนะ อ่านมาตั้งนาน จบซะแล้ว
แต่ชอบเรื่องนี้มาก ๆ นะครับ ชอบที่มิตรภาพของเพื่อน
ความรักในครอบครัว การยอมรับจากครอบครัวคือกำลังใจที่สำคัญที่สุด
เน็ตกับเฮียก็แต่งงานกันแล้ว ก็หวังว่าทั้งสองจะมีความสุขไปเรื่อย ๆ นะครับ

ขอบคุรที่ทำให้คนอ่านคนนึงมีความสุขทุกครั้งที่ได้เข้ามาอ่าน และจะติดตามเรื่องต่อ ๆ ไปครับ

ออฟไลน์ Rukki

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 513
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-2
กรี๊ดดดดดดดดด เรื่องนี้จบแล้วจริงๆเหรอคะ
เหมือนนั่งอ่านความสัมพันธ์ของคู่รักคู่นึงตั้งแต่จุดเริ่มต้น ที่มันยิ่งกว่าพรหมลิขิต ยังกับผีผลักแหน่ะ! 5555
เรื่องนี้พระเอกสุดยอดมากนะ ถึงเฮียบีมจะไม่ได้ติดโพลพระเอกแห่งปี
แต่ในใจเรารู้สึกว่าเฮียเป็นพระเอกที่ประทับใจที่สุด เฮียหล่อ รวย มีความรับผิดชอบ เป็นผู้ใหญ่ รักจริงหวังแต่ง
เน็ตโชคดีมาก ... ตัวเน็ตเองก็น่ารัก รักใครรักจริง เอาเป็นว่าทั้งคู่ต่างโชคดีด้วยกันทั้งคู่
ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเจอใครซักคนที่ทั้งรักทั้งใช่
อุปสรรคความรักของทั้งคู่ มันอาจจะไม่ใช่เรื่องใหญ่ระดับชาติ แต่มันก็เป็นปัญหาที่ถ้าไม่ตัดให้ขาดมันจะเรื้อรัง
ทั้งเรื่องของทรายแก้วและปันนภ และทั้งคู่ก็ผ่านมันไปด้วยดีซะด้วย เรื่องนี้ต้องนับถือเฮียบีมเลยนะ เฮียมีความเป็นผู้ใหญ่อย่างไม่น่าเชื่อว่าจะอายุแค่ 25 ปีน่ะ !!! ในช่วงเวลาที่เน็ตสวมบทบาทเป็นนางเอกละครหลังข่าว เฮียก็แสดงความจริงใจและจริงจังออกมา บอกตรงๆ หนูโคดประทับใจพระเอกอย่างเฮียบีมเลยให้ดิ้นตาย !
ช่วงเวลาที่ทั้งคู่เข้าใจกันแล้ว ถึงจะไม่ได้หวานหยดย้อยน้ำตาลขึ้น แต่อ่านย้อนไปย้อนมาทีไรก็รู้สึกอบอุ่นในใจทุกที รู้สึกว่านี่แหละคือความรักที่มัน "พอดี" ของทั้งคู่ ไม่มากไปและก็ไม่น้อยไป น่ารักเนาะ ^^
มาถึงเรื่องครอบครัว เรื่องของตี๋เล็กที่เป็นเกย์ไม่ได้ช่วยให้พ่อแม่ยอมรับได้ง่ายๆ หรอก ทีแรกเราคิดอย่างนั้นจริงๆนะ 555
เพราะเฮียบีมเป็นลูกชายคนโต จู่ๆจะมาบอกว่า แม่ เมียผมเป็นผู้ชาย ยอมรับหน่อยนะ ก็ใช่เรื่อง
ต้องพูดว่าพ่อแม่ของเฮียน่ะสุดยอด นอกจากจะเลี้ยงให้ลูกชายทั้งสามคนมีคติประจำใจอันแรงกล้าว่า "ต้องเข้มแข็งต้องเสียสละ" แล้ว
พ่อแม่ครอบครัวเฮียบีมน่ารักมากค่ะ เข้าใจลูก โอ้ย .....
บอกตรงๆ ประทับใจเรื่องนี้มาก ไม่อยากให้จบเลยจริงๆค่ะ

จะรอสเปเชี่ยลน้าาาาาา งื้ออออออออ
ส่วนเรื่องของปันนภ อยากอ่านภาคต่อค่ะ แต่ไม่เรียกร้องในตอนนี้ เพราะรู้ว่าคนเขียนงานยุ่งมาก สู้ๆนะคะ TvT
ถ้าเขียนภาคต่อของท่านชายปัน ยังไงก็อยากให้ปันคู่กับบูม รู้สึกว่าคู่นี้มันพอดีซึ่งกันและกันยังไงไม่รู้
ที่สำคัญคือน้องบูมรักพี่ปันมาก - -" ป่านนี้แล้วยังไม่ตัดใจเลย ถ้าจะให้ปันไปคู่กับคนอื่น คงสงสารบูมจนอ่านต่อไปไม่ไหว 5555

ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆ นะคะ ประทับใจมากเลยจริงๆ
จะรอติดตามผลงานนะคะ ^^

ออฟไลน์ Windyne

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 248
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-1
    • Windyne Page on Facebook
ประทับใจมาก ๆ เลยค่ะ ^^
เราว่าจบแบบนี้กำลังอุ่น ๆ พอดี ๆ ค่ะ เหมาะกับฟีลของเรื่องที่ดำเนินมาตลอด
อยากให้รวมเล่มจัง ^^

PS. อยากอ่านตอนพิเศษทั้งของเฮียบีมกับเน็ท และปันกับบูมด้วยค่ะ ^^

ออฟไลน์ NOO~KUNG

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 718
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +175/-3
มางานสู่ขอน้องเน็ต....หรือผูกข้อไม้ข้อมือหว่า...
รอเรื่องปันนภ กับน้องบูม......
รักษาสุขภาพด้วยค่ะ

ออฟไลน์ singalone

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 381
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-2
รักเรื่องนี้ที่สุดเลยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย   :-[ :-[

ขอให้ เฮียบีมกับน้องเน็ตมีความสุขกันมากๆนะคะ

รอให้ปันบูมสมหวังอยู่นะ  :impress2: :impress2:

itachi sasori

  • บุคคลทั่วไป
 :serius2: :m15: ไม่อยากได้จบเลยอะ แต่งต่อนะครับ ขอร้อง  :monkeysad:
 เรื่องคนอื่นต่อก็ได้ ให้ครบทุกคน (แต่อย่าลืม เน็ท เฮีย มาบ้างเล็กน้อยก็ยังดีั)

อ่านที่คุณแต่งแล้วรู้สึกดี ไม่เวอร์ ต่อนะะะะะะะ  :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad:

ออฟไลน์ kojibara

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-1
อ่านจบแล้วใจหายเลยนะคะ
ตามอ่านมาตลอด เม้นบ้าง ไม่ได้เม้นบ้าง
แต่ยังไงก็หลงรักตัวละครทุกตัวไปแล้ว
ชื่นชมคนเขียนมากๆนะคะ  o13 o13 o13 o13
 :L2: :L2: :L2: :L2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ไอ้หัวแห้ว

  • ยิ่งมืดเท่าไหร่ ยิ่งเห็นดวงดาวชัดเจน...
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +568/-5
ยอมรับว่า พอรู้ว่ากำลังจะจบใจหายมากครับ

ก่อนหน้านี้ ลืมไปเลย ยังคิดว่ามีต่อเหมือนปกติ
พอพี่ Millet มาบอกว่าเฮียบีมตอนจบมาแล้วนะ
ก็วูบเลย ไม่อยากให้จบเลยครับ

อ่านตอนสุดท้ายเมื่อกี้ก็ละเมียดละไมในการอ่านมาก
ซึมซับทีละตัวอักษร (อย่างเวอร์ ฮ่าๆ แต่ว่าทำจริงๆ อิอิ)

อ่านไปก็กรี๊ดไป ฮ่าๆ เฮียบีมน่ารักมาก หล่อมาก เจ๊นมาก ตอนที่คุยกันในห้องนอน
เจ้าเน็ตก็น่ารักอะ เวลาอยู่ด้วยกันกับเฮียก็น่ารักมากๆ ด้วย อิิอิ
 
ตอนที่อ่านอยู่กับแวะไปกรีดร้องกับพี่มาแล้ว ว่ารักเฮียบีม ฮ่าาาาาา
จนพี่่ด่าว่า มึงอย่าเพิ่งมางั้นงี้ กูยังไม่้ได้อ่าน กร๊าก

ส่วนเรื่องปัน ผมว่าโอเคแล้วนะ
ปล่อยให้มันเป็นเรื่องอนาคต จบสวยแล้วนะผมว่า

ถ้าไปจับคู่ใ้ห้ปัน ไม่ว่าจะคู่น้องบูมหรือไม่ก็ตาม
ผมรู้สึกว่า ปันยังไม่เปิดใจขนาดนั้นนะ มันยังปิดอยู่

แต่กับบูม เรียกว่าเริ่มรู้สึกดีๆ มากกว่า
ถ้าในฐานะเป็นแฟน ปันก็ัคงยังไม่รู้สึกขนาดนั้น

หรือถ้าเรียกให้สวยๆ หน่อย ก็อาจเรียกว่า แพ้ใจ ให้บูม
ในแง่ว่า...ถ้าอยู่เมืองไทยต่อไปอะนะ ก็อาจจะรักกันในวันหนึ่งก็ได้
แต่้ถ้าปันเลือกจะหนีไปเมืองนอกแบบนี้ ก็อาจจะยากหน่อยละ
ต้องรอให้เขากลับอะนะ เพราะเขาบอกว่ากลับมาแน่ๆ อิอิ

ขอบคุณคนเขียนนะครับ ที่เขียนนิยายดีๆ แบบนี้มาให้อ่าน
ผมชอบความคิดหลายๆ อย่างที่คุณใส่เข้าไปในความนึกถึงของตัวละคร


ตอนเจอครอบครัวกันและกันก็อบอุ่นมาก
เห็นถึงความรักของคนเป็นพ่อแม่ที่มีให้กับลูก
รักลูก เพราะลูกเป็นลูก ไม่ได้มองว่าลูกเป็นเพศไหน
เอาจริงๆ ไม่รู้เหมือนกันว่าจะมีอีกสักกี่ครอบครัวที่จะใจดีเหมือนครอบครัวเฮียกับเน็ต





รอตอนพิเศษอย่างใจจดใจจ่อนะครับ

ออฟไลน์ arisa_sa

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 481
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-1
เย้ จบแฮปปี้จ้า ยินดีกับเฮียและเน็ตด้วยนะ

ขอบคุณมากๆๆค่ะ จะรอติดตามตอนพิเศษนะค๊ะ

ว่างๆๆมาแต่งเรื่องใหม่ให้ได้อ่านอีกนะค๊ะ จะคอยติดตามผลงาน

 :L1: :pig4: :L1:
 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:

MiniDevil

  • บุคคลทั่วไป
อ๊ายยยย จบอย่างแฮปปี้ ป๊ากับม๊าใจดีที่สุดเลย


รอตอนพิเศษนะคะ

ขอบคุณที่แต่งเรื่ิองสนุก ๆ มาให้ได้อ่านกัน ชอบมากๆเลยค่ะ

จะรอคอยเรื่องปันเป็นพระเอกนะคะ

ออฟไลน์ kimlowbatt

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 48
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
เรื่องนี้สนุกมากกกก อ่านแล้วฟินสุดๆ
เข้ามาเช็คทุกวันว่ามาอัพรึยัง
บางครั้งยังอ่านย้อนไปย้อนมา
จนกว่าไรท์จะมาต่อ พอมาต่อให้ก็ดีใจ
ใจนี่แบบเต้นตุ๊บๆ ฮ่าๆๆ พอรู้ว่าจบแล้วก็เสียดายนิดๆ
อีกอย่างถ้าทำภาคต่อ อยากให้ภาคต่อเป็นปันบูมจริงๆอ่ะ
อ่านจากเรื่องนี้แล้วอินมาก เจ็บจี๊ดๆตาม
เพราะสงสารบูมมากที่แอบรักข้างเดียว
(ส่วนตัวชอบแนวนี้  o18 )

ยังไงก็เป็นกำลังใจให้กับเรื่องงานนะ ไฟท์ติ้ง!!  o13

ออฟไลน์ pemiko2012

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
เสียใจที่จบซะแล้ว  :monkeysad:
ยังอยากอ่านต่อไปเรื่อยๆอยู่เลย
ชอบเรื่องนี้มากๆ น่ารักดี

จบแบบแฮปปี้เอนดิ้ง
มีความสุขกัน(เกือบ)ทุกคน ฮ่าๆๆ
หวังว่าจะได้อ่านเรื่องของปันกับใครสักคนเร็วๆนี้ ขอให้มีๆ
ในใจเราก็ขอให้ใครสักคนของปันเป็นบูมที่โตขึ้นในทุกๆด้านจะได้ไม่มีใครว่าว่าไม่เหมาะกับปัน ฮ่าาาา
เชียร์ปันบูมตลอดไป^^

เราจะตั้งหน้าตั้งตารอตอนพิเศษนะคะ
ขอบคุณที่ทำให้เราได้อ่านนิยายน่ารักๆแบบนี้
มันช่วยให้เราคลายเคลียดกับเรื่องแย่ๆที่เจอมาได้มาก
อ่านไปก็ยิ้มไป
ปล.หากมีเวลาว่างๆก็อย่าลืมแต่งนิยายน่ารักๆมีคุณภาพมาให้อ่านกันอีกนะคะ
 :pig4: :L2: :กอด1:

ออฟไลน์ special

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 261
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-3
โอ่ย บอกเลยยังไม่อยากให้เรื่องนี้จบจริงให้ตายเหอะ
น่ารักกกกกกกก เน็ตนี่เริ่มมีมารยากับเฮีย ฮ่าๆๆ ชอบจังเลยยยย
เพราะรักของเฮียเลยจริงๆ เลยทำให้ผู้ใหญ่ยอมรับกันง่ายๆ

ชอบเรื่องนี้มากๆ อยากให้มีตอนพิเศษปันกับบูมด้วยจังเลย

armmyrine

  • บุคคลทั่วไป
 :m15: จบแบบไม่รู้ตัวเลยอ้ะ ติดตามมาตั้งแต่แรก  :pig4: :pig4: :pig4: ขอบคุณมากค่ะ ที่เขียนเรื่องดี ๆมาให้อ่าน

ติดตามผลงานต่อไปนะคะ :L2: :L2: รอตอนพิเศษ อิอิ

ออฟไลน์ MoMoRin

  • I am Fujoshi! (・∀≦)ゞ
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1749
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +229/-2
จบแล้วเหรอเนี่ย.....แต่ก็ยินดีกับทั้งคู่ด้วยนะคะ  :mc4:

bannytar

  • บุคคลทั่วไป
ฮึ่ยยยยยยยยยยย ไม่อยากให้จบเลย  :o12:
เค้าเริ่มมาอ่านนิยายในนี้ก็เพราะเพื่อนโยนเรื่องนี้มาให้เลยนะ แงแง แล้วเค้าก็ติดซะด้วย


พออ่านจบก็อยากบอกว่า ชอบภาษาที่คุณใช้จังค่ะ อ่านง่าย ดูไม่หรูหราจนต้องจินตนาการจนเกินไป และเราก็มีความสุขทุกครั้งเลยนะที่เห็นคุณมาอัพ

 :o8: :o8: :o8:


หลงร้ากกกกกกกเฮียบีมไปโดยไม่รู้ตัว เกินห้ามใจง่ะ </3


จะรอตอนพิเศษกับนิยายเรื่องใหม่นะคะ ^^
เป็นกำลังใจให้ค่า




ออฟไลน์ milkteabeige

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 336
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
อร๊ายยยยยยย จบแล้วอ่าาาา

แอบใจหายเพราะเริ่มตามอ่านมาตั้งแต่ตอนที่เริ่มๆ ได้สิบกว่าตอน
เป็นเรื่องนึงที่ได้เห็นความน่ารักของพระเอกและนายเอกแบบกุ๊กกิ๊กไม่หวานเว่อร์หรือขมเว่อร์

บทส่งท้ายน่ารักดีค่ะ ชอบตรงที่คนเขียนไม่พยายามดันปันนภให้บูม
มันดูเป็นไปได้มากกว่าปุบปับให้คู่กันเลยไรงี้
แต่ก็แอบสงสารน้องบูมเนอะ 55555

สุดม้ายอ่ะ น้องเน็ตน่ารัก!  o13

ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆ ค่ะ มาปูเสื่อรอตอนพิเศษด้วยเน๊ออออ
คนเขียนสู้ๆๆ นะค๊าาาา

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด