[เรื่องสั้น] ขอนั่งด้วยได้ไหมครับ? ตอนที่5 (ตอนจบ) UP23-5-2012 P.8
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [เรื่องสั้น] ขอนั่งด้วยได้ไหมครับ? ตอนที่5 (ตอนจบ) UP23-5-2012 P.8  (อ่าน 224648 ครั้ง)

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
ตอนนี้ยาวอยู่นะเนี่ย

เวลาสองคนนี้อยู่ด้วยกัน นั่งใกล้กันแต่ก็ไกลกัน
แอบลุ้นว่าตอนจบจะรู้สึกได้ว่านั่งตักกันน๊า

mixmix

  • บุคคลทั่วไป
อ่านเรื่องนี้แล้วรู้สึกเหมือนนั่งจิบกาแฟยามบ่ายดีจริงๆ 555+

โถ่พี่ตุล ไม่รู้จริงๆอ่ะว่าน้องซองจีบตัวเนี่ย
แต่ก็นะ ถ้าน้องไม่พูดอะไรๆมันก็ไม่ชัดเจนอยู่ดี
กลับกัน ถ้าน้องพูดบอกไป ก็ไม่รู้จะสมหวังมั้ยน๊า...

หาเรื่องเครียดให้ตัวเองทำไมเนี่ยฉัน ชอบคิดเองไปเรื่อยจริงๆ  :serius2:

ออฟไลน์ naiin

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2421
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +141/-9
ดีจังมีคนมาจีบ เรียบร้อยนิสัยดีด้วย แบบนี้เทรนนี้หายาก   :mc4:  :mc4 :mc4:

ออฟไลน์ rubymoona

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-5
อั่ก ชิวๆน่ารัก อ่านแล้วสบายอารมณ์จังคะ ชอบ~ ซองคงแอบน้อยใจนะนี่ที่พี่ตุลไม่ไปงาน แอบคิดว่าซองอยู่ห้องข้างๆพี่ตุลรึเปล่านะ?
ปล."จังไร" กรี๊ด~~~

Cacao

  • บุคคลทั่วไป
"ขอนั่งด้วยได้ไหมครับ" สาบานว่าถ้ามีหนุ่มสักคนมาขอนั่งด้วยทุกวันเป็นกิจวัตรตอนเช้า ไม่รอให้ถึงสองสามอาทิตย์แน่นอน
เราคงคิดตั้งกะสามวันแรกแล้ว ว่าเค้าจีบเราหรือเปล่า 55555555 เป็นวิธีการจีบที่ช่างยูนีคมาก แบบว่าอยากโดนจีบแบบนี้
มันคงน่ารักน่าดู ไม่ต้องงวอทสแอพมา ไลน์มา ส่งจดหมายมาชวนไปแอ่วกันอาทิตย์หน้า เก๋ที่สุดดด 55555
ตอนหน้าซองจะหามุขโบราณ อลังการงานสร้างสำหรับคนปัจจุบันแบบไหนมาจีบพี่ตุลอีก แล้วที่หอศิลป์ต้องมีอะไรแน่ๆ
อะไรที่ซองทำให้กับตุล กรี๊ดดดดด พี่ตุลไปเห๊อะะะะ !! ถ้าพี่ไม่ไปคนอ่านก็ไม่รู้นะ 55 คนอ่านอยากรู้

ปล... เราชอบเม้นท์ยาวๆเพราะรู้สึกว่ากว่าคนเขียนจะแต่งออกมาให้คนอ่านๆตอนนึงมันยากนะ แล้วถ้าเราชอบเรื่องนั้น
การเม้นท์มันเป็นการให้กำลังใจและแสดงคำขอบคุณคนเขียนทางนึงเนอะ ฮ่าาาาาา ขอบคุณที่อ่านเม้นท์เวิ่นและยาวของเราค่ะ

ออฟไลน์ choijiin

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2082
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +445/-5
นิชคุณเอ๊ยน้องซอง
ชอบพี่ดาวเค้าจริงมั้ยเนี่ย
หวังว่าคงไม่ทำให้คนอ่านผิดหวังนะเนี่ย
เราไม่นิยมความผิดหวังกระซิกๆ
 :o12:

ออฟไลน์ Horizon

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1731
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-22
คิดถึงบรรยากาศตอนเย็นๆ หน้ามหาลัย
+1

ออฟไลน์ twenty8

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 285
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
อ่านเรื่องนี้แล้วเข้ากับบรรยากาศตอนนี้มากเลยค่ะ
เย็นๆฝนตก ชอบมากกก ><

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
ให้ลุ้นอีกแล้ว
มาเฉลยด่วน
ว่าซองจีบพี่ตุลป่าว :z2:

บวกเป็ด

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
จะหรือจีบหรือจะอะไร

ขอความมั่นใจด่วน!

 :z3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






PrAeW

  • บุคคลทั่วไป
นิชคุณน่ารัก ซื่อๆๆดีอ่ะ
ตกลงจะมาจีบเค้าหรือป่าวเนี่ย

ออฟไลน์ นอนกินแรง

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-4
นิชคุณของเรา...มันแปลกมาก

คราวหลังต้องขอที่อยู่คนที่ชอบแทนเบอร์แล้วล่ะ ได้แนวคิดใหม่จากเรื่องนี้

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
น้องซองจีบชัวร์อยู่แล้ว ว่าแต่พี่ตุลเหอะชอบน้องมันละสิ ฮี่ฮี่

fangchoikim102

  • บุคคลทั่วไป
“ขอถือช่วยได้ไหมครับ” พูดเพราะ ขนาดจะช่วยยังขอ ดูคนแต่ภายนอกไม่ได้จริงๆ เห็นมันดูท่าทางดิบๆแต่นิสัยนุ่มนิ่มผิดกับภายนอก ผมพยักหน้าให้มันถือแผ่นชาร์จติดแบบงานส่วนผมถือโมเดลงานอีกถุงเอง ผมกับมันเดินเงียบๆตรงขึ้นไปบนโรงอาหารโดยไม่ต้องเอ่ยกันออกมา เพราะยังไงมันก็เป็นที่ประจำอยู่แล้ว

ข้างบนมันคือขอช่วยถือได้ไหมครับรึเปล่า? หรือว่าเราแอบอึนเอง เอ๊อะ


เรื่องนี้มันเรื่อยๆดีอ่ะ ชอบเว่อร์ แอบอยากอ่านธามต่อ(ว่าไปเรื่องโน้น)

พี่ตุลน้องมันจีบพี่ตุลแหงอยู่แล้ว!!

sge13;

  • บุคคลทั่วไป
น่ารักกกกกกกกกกกก
ไม่อยากให้จบเลยค่ะ  :a6:

ออฟไลน์ bamee_wspb

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 33
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
สนุกจัง ♥

เรื่องนี้บรรยายเป็นวันๆ ชอบแฮะ
สไตล์การเขียนแปลกใหม่

ติดตามจนจบแน่นอนค่ะ  :-[

ออฟไลน์ LalaBam

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2864
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-2
นิชคุณน่ารักจัง แอบชอบเค้าอยู่ใช่ม้ะ :o8:

ออฟไลน์ BitterSweet~

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 788
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-0
ซองจีบพี่ตุลย์หรือเปล่า
ไม่แน่ใจแฮะ
แต่ตอนที่สองคนอยู่ด้วยกัน
แม้จะไม่พูดอะไรมากมาย
แต่บรรยากาศมันอุ่น ๆ อ่ะ

ชอบอ่านเรื่องนี้นะคะ
มันเรื่อย ๆ ชิลล์ ๆ ดี ^^

Supermimt

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ HanATarO

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2141
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-2
สนุกดีอ่ะ เราชอบ

เขียนได้น่ารักดี....
ว่าแต่พี่ตุลเค้าเพิ่งจะมาคิดได้หรืองัยว่า น้องซองเข้ามาจีบอ่ะ

ยังงัยก็เตรียมตัวโดนตามจีบได้เลย 555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






CrazierM

  • บุคคลทั่วไป
ขอจบแบบแฮปปี้น้าาาา :impress2:

ออฟไลน์ TONG

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2535
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-4
ตามลุ้นต่อไปค่า

ออฟไลน์ u_cosmos

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1114
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-1
ปลื้มพี่ดาวได้มั้ยเนี่ย  จะโดนนิชคุณเอาสีขว้างไหมฮ่าๆ
พี่ดาวเริ่มรู้ตัวแล้วหรอเนี่ย
ลุ้นว่านิชคุณจะได้นั่งข้าง(ในใจ)พี่ดาวได้ไหม
><

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8

ออฟไลน์ Maprang_W

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 643
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-2
อะไรเนี่ยน้องซอง มาไม่ชัดเจนนะ

ออฟไลน์ kokilolylove

  • รัก ได้ยินหรือเปล่า
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 461
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-1
สนุกดี
ชอบบรรยาการสมจริง
รออ่านตอนจบครับ
นิชคุณ จีบ พี่ลายดาว อ๊ะป่าว

ปล.สงสัย ม. ในเรื่องสมมติขึ้นหรือมีอยู่จริงอ่ะ

Ultramann

  • บุคคลทั่วไป
คิดไม่ออกเลยว่าจะจบยังไง?

ออฟไลน์ Sye.B

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 105
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
ตามด้วยคนค่า
แอบติดใจชื่อเรื่อง เห็นแล้วรักเลย~
....เค้าชอบคนใส่แว่นทรงจอห์น เลนนอน

รอนะคะ

รอว่าซองจะทำยังไงต่อ .. ชอบจังค่ะ


ออฟไลน์ gargoyle

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 307
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +668/-3
    • 8yearsago.g fanpage
2

สำหรับวันพฤหัสบดีผมโดดเรียนคาบเช้า อันเนื่องจากงานที่ยังติดพัน วิชาที่ต้องส่งภาคบ่ายปาเข้าไปสี่หน่วยกิต ส่วนวิชาช่วงเช้าเป็นฟังบรรยาย ผมเลยเลือกที่จะขอเลวทำงานต่อให้เสร็จแบบเรียบร้อยก่อนเข้าภาคบ่าย ผมเซฟงานแล้วเอาออกมาพรีวิวดูเช็คความเรียบร้อยอีกครั้ง มองนาฬิกาที่มือถือบอกเวลาสิบโมงกว่าเกือบสิบเอ็ดโมง ผมไม่ได้นอนติดต่อกันมาได้สักเกือบสามสิบชั่วโมงแล้ว แต่ผมยังไหวอยู่เพราะเกินห้าสิบชั่วโมงผมก็ทนมาแล้ว

มือถือสั่น... ฉุยโทรเข้า

“ตุล... กุจะบอกข่าวดี” คนอย่างไอ้ฉุยไม่ค่อยแจ้งข่าวดีที่ดีจริงๆ ผมรู้จักมัน มันเป็นลางร้าย ผมเซฟงานเสร็จแล้วเหลือเอาไปปรินท์เป็นเอสอง.... ไม่น่าจะมีอะไรพลาด

“เอาดีๆนะมึง” ผมย้ำกับมัน

“ดีจริง” ทำไมเสียงมันเหมือนจะร้องไห้

“รีบพูดมา” รู้สึกเหมือนหนังตากระตุก

“เมื่อกี้มึง อาจารย์สุแกโพสขึ้นกรุ๊ป บอกว่าแกป่วย แกไม่เข้าสอนวันนี้ ให้เอางานไปส่งก่อนสี่โมงเย็น” ทรุด ผมแทบทรุด ทั้งดีใจและอยากจะร้องไห้ไปพร้อมๆกัน แล้วผมโดดเรียนคาบเช้าไปเพื่ออะไร บอกได้คำเดียวว่าทรุด งานผมเหลือแค่ปรินท์ติดแผ่นชาร์จเท่านั้น ไม่มีอะไรแล้ว เสร็จก่อนเที่ยง

“เออดีแล้วมึง”

“เออ กุอุตส่าห์อดนอน ปริ้นท์เสร็จแล้วนั่งโง่อยู่มอ” ไอ้ฉุยหัวเราะแห้งๆ เวลานอนมันมีค่า แล้วมันก็เสียไปแล้ว เอากลับคืนมาไม่ได้

“อีกสักครึ่งชั่วโมงกุคงถึงมอ” ผมถอนหายใจเฮือก รีบทำไม รีบเพื่ออะไร

“เออ มาเหอะ กุรู้สึกเดียวดายมาก” คำพูดของมันทำให้ผมเห็นภาพไอ้ฉุยที่นั่งหลังผิงผนังตึก พ่นควันบุหรี่อย่างล่องลอยมีแผ่นชาร์จงานวางข้างๆ ขนาดแมวก็ยังไม่เหลียวแล


ระหว่างที่ผมนั่งรถเมล์ไปมหาลัย ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา แดดตอนเที่ยงวันร้อนแรงสะท้อนพื้นน้ำเป็นประกาย ก็เห็นใครคนนึงเดินข้ามสะพานแบบไม่สนใจความร้อนระอุ มือข้างนึงถือกระดาน มืออีกข้างจับหมวกทรงชาลีสีน้ำตาลเข้ม แว่นกันแดดเลนนอน กับผมยาวสยายปลิวตามแรงลม ไม่ต้องเห็นหน้าชัดเจนก็พอเดาออกว่าเป็นใคร ซองเดินกลับหอหรือเปล่า ผมเองก็เคยเดินจากมหาลัย ลัดเลาะไปเรื่อย ข้ามเจ้าพระยา ถ้าอากาศเย็นสบายก็เหมือนเดินเล่น ไม่แปลกอะไร แต่มันแปลกที่มันเดินตอนนี้ อากาศแบบนี้

ไม่รู้มันคิดอะไรของมันอยู่…

กระเป๋ารถเมกำลังเดินมาเก็บค่าโดยสาร ผมควานหากระเป๋าตังค์ ที่ก้นกระเป๋า หยิบกระเป๋าใส่เศษเหรียญขึ้นมา แต่กลับมีซองจดหมายสีน้ำตาลเนื้อกระดาษหยาบติดขึ้นมาด้วย ไม่รู้ว่าผมหยิบยังไง ผมรีบจ่ายเงินให้กระเป๋ารถเม พลิกหน้าซองดูก็นึกขึ้นได้ ในเมื่อวันนี้ไม่ต้องรีบอะไรแล้ว หรือผมจะไปดูงานแสดงดีวะ ทำไมซองมันถึงอยากให้ผมไปดูนัก มันจะมีอะไรมากกว่าศิลปินดังๆกับงานดีๆไหม มีอะไรที่ผมควรรู้ไหม หรืองานที่มันทำต้องการจะบอกอะไรสำหรับใครสักคนหรือเปล่า

ผมปรินท์งานเสร็จแล้วก็เดินมาหาไอ้ฉุยที่นั่งเล่นกับลูกแมวตัวใหม่ที่มันพึ่งจะมาป้วนเปี้ยนแถวนี้ งานของมันห่อไว้อย่างดีพิงไว้ที่ม้านั่ง

“ช่วยกุติดการ์ดหน่อย” ผมเอามุมกระดาษแข็งสะกิดไอ้ฉุย

“กว่าจะมาได้นะมึง” มันบ่นก่อนแต่ก็ช่วยผมติดอยู่ดี  ติดงานถ้าติดเองก็ลำบากพอสมควร เพราะต้องกะให้ตรง ใช้สเปรย์กาวพ่นหลังงานแล้วต้องเอาติด ลอกขึ้นมาก็เป็นรอยอีก ไอ้ฉุยจับกระดาษกับผมคนละมุม ใช้เวลาราวสิบนาทีรวมรอกาวแห้งพอประมาณก็เป็นอันเรียบร้อยพร้อมส่ง ผมกับมันเดินถืองานขึ้นบันไดไปส่งให้มันจบๆไป

“ฉุยไปหอศิลป์ป่ะมึง”

“มีงานอะไร กุพึ่งเห็นเค้าเก็บออก” ว่าแล้วว่ามันต้องนึกว่าหอศิลป์ที่มหาลัย

“ไม่ หอศิลป์เก้าชั้นอ่ะมึง” ไอ้ฉุยทำหน้าสงสัย

“โอโหมึง งานอะไรวะ”

“แสดงงานประกวด ศิลปกรรมเยาชนอะไรสักอย่าง” ผมจำชื่องานไม่ได้จริงๆ มันยาวมาก ไอ้ฉุยขมวดคิ้ว

“โหมึง ไว้วันหลังได้ป่าววะ กูโคตรง่วงเลยเนี่ย กลับไปนอน มึงไม่ง่วงหรือไง ฟิตว่ะ” ง่วงเหรอ มันพ้นคำว่าง่วงมานานแล้ว เวลาง่วงนอนมันจะมีอยู่สามช่วง ช่วงตีสองตีสามจะเริ่มง่วงแบบสุดขีด แต่ถ้าพ้นช่วงนั้นมาได้ก็จะไม่ง่วงอีกจนเช้า และพยายามอย่าทำให้ตัวเองนิ่งหรือเคลิ้มจนกว่าจะงานเสร็จ ไม่งั้นน็อคแน่ ผมง่วงนะ แต่รู้สึกว่า ยังไงซะคืนนี้ก็ได้นอน แล้วอีกอย่างเห็นแก่ที่ซองมันอยากให้ผมไปดูมาก ผมก็จะไป

“เออ ไม่เป็นไร รีบกลับไปนอนซะมึง” ผมบอกมัน

ผมแยกกับไอ้ฉุยหน้ามหาลัย มันขึ้นรถเมกลับหอส่วนผมขึ้นรถเมไปหอศิลป์ ช่วงบ่ายคนน้อย แดดร้อนคนหลบอยู่ในบ้าน ในตึก ในที่ทำงาน รถเมว่าง แอร์เย็น ผมฟังเพลงรอระหว่างทาง เปิดดูสูจิบัตรงานคร่าวๆ งานหัวข้อความหวัง มีส่งประกวดหลายระดับ ทั้งประถม มัธยม แล้วก็บุคคลทั่วไป งานซองคงจัดอยู่ในหมวดบุคคลทั่วไป ในสูจิบัตรแผ่นพับไม่ได้บอกรายละเอียดอะไรมากมายนัก มีแค่อธิบายจุดประสงค์งาน สถานที่จัด วันเวลา ผมเก็บใส่ซองตามเดิม ใช้เวลาไม่นานมากแต่กว่าจะมาถึงตาผมก็เริ่มปรือ ลงจากรถเมผมเลยต้องแวะเข้าร้านกาแฟราคาแพงระยับกว่าข้าวสองมื้อสั่งเอสเพรสโซ่มาซดให้ตาสว่าง กับขนมชิ้นย่อมๆถ่วงท้องเป็นอาหารเที่ยง

พ้นระยะห้างสรรพสินค้า เดินเข้ามาในหอศิลป์จำนวนคนที่เดินต่างกันลิบลับ ไม่ว่าจะมากี่ทีกี่ทีก็เงียบสงบ ผมเดินขึ้นบันไดเลื่อน บรรยากาศเหงามาก วันธรรมดาตอนบ่ายๆ เหมือนมีผมคนเดียวที่อยู่ที่นี่ ฝากกระเป๋าเข้าล็อคเกอร์เสร็จก็เดินไต่ทางต่างระดับวนเป็นก้นหอยไปจนถึงชั้นแสดงงาน เห็นเพื่อนร่วมชมนิทรรศการรุ่นลุงคนนึง อาจจะเป็นเจ้าของภาพสักภาพ หรือศิลปินดังที่ผมไม่รู้จักหน้า

เหมือนที่คนคุ้นรูปมาริลีน มอนโรล สีสันแสบตาสไตล์ป๊อปอาร์ตของวอล์ฮอล แต่จะมีสักกี่คนที่รู้จักหน้าศิลปินคนสร้างงาน

เสียงฝีเท้าก้องเพียงเบาๆก็ได้ยินในบรรยากาศที่เงียบแบบนี้ แม้จะมีเพลงบรรเลงเบาๆ เปิดคลอ แต่มันก็เงียบมากอยู่ดี ผมเดินดูผลงานไปทีละภาพ งานเริ่มจัดแสดงจากรางวัลชนะเลิศของรุ่นบุคคลทั่วไปขนาดงานใหญ่มาก งานที่ได้รับรางวัลจะถูกจัดแสดงเป็นงานต้นๆ อาจจะไม่เรียงกันตามลำดับแต่จะอยู่ในโซนแรกๆ ผมพึ่งมานึกได้ว่าแล้วผมจะรู้ได้ยังไงว่างานไหนเป็นของซอง ผมไม่รู้ว่าซองได้รางวัลที่เท่าไหร่ ไม่มีรูปหน้าศิลปินคนวาด มีแค่ชื่อ เทคนิค และแรงบันดาลใจเท่านั้น

ภาพแรกที่อยู่หน้างานคือภาพความหวังที่ได้รับชนะเลิศสาขาจิตรกรรมคือภาพหญิงชรากำลังโยกคนโยกน้ำ มีถังสังกะสีขึ้นสนิมวางรอง พื้นดินใต้เท้านั้นแตกระแหง โทนสีร้อนระอุและสิ้นหวัง แต่ภาพท่าทางของหญิงชรายังมีความหวังว่าจะมีน้ำไหลออกมา ฝีมือศิลปินหมดจดมาก สีน้ำมันที่เหมือนจริงยิ่งกว่าภาพถ่าย ผิวหนังมนุษย์ที่เหี่ยวย่นเหมือนจริง ผมตายแล้วเกิดใหม่ยังทำไม่ได้แบบนี้ ภาพสะท้อนตัวตนของศิลปิน มีภาพเกี่ยวกับการเกษตร ภาพของนักมวย บางภาพเป็นภาพแบบนามธรรม โดยเฉพาะสาขาภาพพิมพ์ ออกจะมีนามธรรมซะเยอะ ผมเดินผ่านเข้ามาเรื่อยๆ ทุกภาพผมหยุดดู หยุดอ่านสิ่งที่ศิลปินเขียนอธิบาย รุ่นพี่ผมคนนึงเคยเขียนข้อความสั้นๆเสียดสีว่าหอศิลป์ที่ทุ่มงบประมาณมหาศาลสร้างกลางใจกรุง จัดงานดีๆมาแสดง แต่ไม่มีคนสนใจจะทำความเข้าใจ และมาดูอย่างตั้งใจ งานที่ดีก็เลยดูเหมือนไม่ได้มีคุณค่าอะไรเป็นได้แค่ฉากหลังสวยๆให้ถ่ายรูปอัพลงโซเชียลเน็ตเวิร์คให้กับคนที่ไม่คิดจะมองให้ลึก

ผมพยายามหาว่างานไหนคืองานของไอ้ซองกันแน่ ผมอ่านชื่อ เดาไม่ออกว่าซองมันจะชื่ออะไร แต่ผมก็สะดุดกับภาพท้องฟ้ายามค่ำคืน ชื่อภาพ ไร้เดือน ฟ้าคืนเดือนมืด แต่มีดาวสว่างนับร้อยพับพันดวง ด้วยขนาดงานที่ใหญ่ ท้องฟ้านั้นเลยเหมือนเป็นท้องฟ้าจริงๆ ภาพไม่ได้เน้นความสมจริง แต่เน้นใช้สีทำให้มีความรู้สึกถึงบรรยากาศแบบนั้น งานกึ่งจะนามธรรม แต่ก็ไม่ทั้งหมด ผมขยับตัวออกมามองงานจากระยะไกล ไม่สวยที่สุดในงานนี้ แต่ก็สวยมาก ผมชอบ ขยับเข้าไปใกล้ อ่านคำอธิบายงาน แนวคิดมันเหมือนจะธรรมดา แต่แปลก

...ความสว่างของดาวไม่สู้ดวงจันทร์แต่ดาวจะสว่างในเวลาที่ดวงจันทร์มืดลง ในเวลาที่ทุกอย่างสว่างไสว เราจะไม่มองเห็นคุณค่าของแสงดาว แต่ในเมื่อทุกอย่างมืดลงแสงดาวก็ทำให้เราเดินต่อไป นำทางเราไป…

สำหรับงานนี้รางวัลที่ได้คือชมเชยของสาขาจิตรกรรม

ถึงไม่ใช่ชนะเลิศแต่สำหรับการประกวดแบบนี้ ผมว่าแค่ได้เข้ามาแสดงก็สุดยอดแล้ว เดินต่อไปเรื่อยๆ มีงานที่ไม่ได้รับรางวัลแต่ถูกคัดเข้าร่วมแสดงถูกจัดอยู่รวมด้วย หลายงานที่ผมถูกใจ บางงานในสายตาผม ผมว่าน่าจะได้รางวัลแต่ไม่ได้ แต่ผมเชื่อในเกณฑ์การตัดสิน ศิลปะเหมือนจะไม่น่ายาก แต่มันยาก การออกแบบเหมือนไม่ซับซ้อนแต่ละเอียดอ่อนกว่าที่คิด งานนามธรรมบางรูป(Abstract) สำหรับคนที่ดูไม่เข้าใจ มันก็คือเส้นและสีที่ไม่รู้เรื่อง แต่สำหรับคนที่เข้าใจ มันคือเรื่องราวที่ลึกซึ้ง บางรูปผมก็เข้าใจ บางรูปผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ใช้ความรู้พื้นฐานที่เรียนมาพยายามจะรู้ให้มากที่สุดว่ารูปจะบอกอะไร

ผมใช้เวลาดูงานนี้ไปชั่วโมงนิดๆ งานดีอย่างที่ซองมันพูดนั่นล่ะ...

ถ้ามีเบอร์มันผมคงโทรบอกว่าผมมาดูงานแล้ว และคงถามว่างานไหนเป็นงานของมัน แต่ไม่มีเบอร์ ผมก็คงจะได้เอาไปเล่าให้มันฟังพรุ่งนี้ มาคิดอีกทีผมเองไม่รู้อะไรสักอย่างเกี่ยวกับตัวมัน ความสงสัยที่ผมมี ผมก็ไม่กล้าถาม ไม่รู้จริงๆว่ามันจะมาไม้ไหน พยายามคิดในแง่หลงตัวเองว่ามันเข้ามาจีบ แต่มันก็อดสงสัยไม่ได้จริงๆ

...

เช้าวันศุกร์ ผมตื่นสาย เกือบมาเรียนไม่ทัน ไม่ต้องพูดถึงข้าวเช้าหรืออะไรทั้งสิ้น ผมนอนแบบเต็มอิ่มสุดๆ เมื่อวานพอกลับจากหอศิลป์ผมก็สางงานไปได้สองชั่วโมง อาบน้ำออกมา ล้มตัวลงนอนกะจะเอนหลัง แต่ปรากฎว่านอนไปตั้งแต่สองทุ่ม รู้สึกตัวอีกครั้งนาฬิกาปลุกก็ดังสนั่นอยู่ข้างหู

เลิกคาบตอนเกือบเที่ยง อาจารย์สรุปงาน ผมจดงานโปรเจคใหม่ที่เข้ามาโถมชีวิตผมแบบเซ็งๆ แต่ละคนถอนหายใจเฮือก ผมไม่ได้กลับบ้านเลยตั้งแต่เปิดเทอมก็เพราะมันไม่มีเวลาว่างเกินสองวันนี่ล่ะ หรือถ้าว่างก็ว่างไม่จริง ว่างแบบหลอกตัวเองซะบ่อย

“เมื่อวานมึงไปหอศิลป์ป่ะสรุป” ฉุยมันถามผม วันนี้นั่งกินข้าวกันที่โรงอาหาร ราคาย่อมเยาว์ รสชาติพอใช้  ปลายเดือนแล้วครับ ไม่มีเงินไปกินแถวท่าเรือ

“ไปคนเดียวเลยเพราะมึง งานดีนะมึง แต่หมดแล้วมึงพลาด” ผมพูดแล้วเอาตะเกียบชี้หน้ามัน

“มึงใจรักนะอีตุล งานอะไรวะมึงถึงทุ่มทุนไปดูคนเดียววันสุดท้าย” บัวมันเหน็บผม

“ไม่มีอะไร กุอยากเปลี่ยนบรรยากาศ ทำงานจนจะเป็นบ้าแล้ว” ผมไม่บอกจุดประสงค์ที่แท้จริง ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน แต่ไม่อยากบอก

“อ้อ ของขึ้นว่างั้น” ไอ้ฉุยสรุปอาการผมเองแบบไม่ถามใคร ก็ดีแล้ว เข้าใจกันแบบนั้นล่ะดี


ผ่านมาทั้งวัน ยังไม่เจอไอ้ซอง ตกเย็นเหมือนเช่นเคยทุกวันศุกร์ได้โปรเจคมาหน้าที่ผมคือเข้าห้องสมุดไปค้นงานแล้วก็หอบหนังสือเล่มโตๆกลับหอ เพื่อนคนอื่นกลับไปก่อน แต่ผมยังนั่งเปิดหนังสือดูไปเรื่อย กะรอให้พระอาทิตย์ตกดินค่อยกลับหอ

“ขอนั่งด้วยได้ไหมครับ” ประโยคนี้ไม่ได้ยินมาหลายวัน เงยหน้าขึ้นมาก็เจอกับตี๋เลนนอนเจ้าเก่าคนเดิม ผมยิ้มให้มัน

“นั่งเลย เมื่อวานพี่ไปดูงานที่หอศิลป์มาแล้ว” พอซองนั่งลงผมก็พูด นั่งตรงข้ามกัน เลยเห็นสีหน้าประหลาดใจของมันอย่างชัดเจน

“ไหนพี่ว่างานเยอะไง”

“ก็เยอะ แต่ไม่มีคาบบ่าย ส่งงานเลยไปมา แต่ไม่รู้งานแกงานไหนว่ะ” ผมพูด ไอ้ซองยิ้มกว้าง

“ผมนึกว่าพี่จะไม่ไปดูซะแล้ว ถ้ารู้ว่าพี่จะไปผมจะได้ไปด้วย” พูดเหมือนกับจะหาตัวผมเจอแล้วผมจะติดต่อมันได้ถ้าไม่เจอหน้า

“บอกแล้วว่าให้เอาเบอร์ไป เมื่องานนี้เห็นเดินข้ามสะพานตอนเที่ยง กลับหอเหรอ”

“เปล่าพี่ ผมแวะไปหาเพื่อน ทีแรกกะจะแวะไปหาพี่ด้วยแต่ว่านึกได้ว่าพี่คงไปเรียน”

“งานซองงานไหน” ผมวกกลับคำถามเก่า

“พี่คงจำไม่ได้หรอก” ถ้าไม่บอกแล้วผมจะรู้ไหมล่ะ

“บอกมาดิเผื่อพี่จำได้ พี่ชอบหลายงานเลย” ผมว่าผมต้องนึกออก เพราะผมจำงานที่รับรางวัลส่วนใหญ่ได้

“รูปที่เป็นท้องฟ้า แล้วก็มีดาว... ที่ชื่อไร้เดือน” มันพูดเหมือนจะอายๆ ผมยิ้มออกมา รูปนั้นเองที่ผมชอบ สรุปฝีมือมันจริงๆซินะ คิดยังไงกันถึงวาดออกมาเป็นแบบนี้

“พี่ชอบงานนั้น จำได้ สวยมาก” ผมชมจากใจ สวยจริง ยิ่งรู้ว่าคนที่สร้างงานคือมันผมยิ่งชอบงานนี้ มากกว่าเดิม ไม่รู้ทำไม อาจจะเพราะเป็นคนรู้จักกัน

“ผมก็ชอบงานนั้นมาก เลยอยากให้ไปดู” ซองมันพูดยิ้มๆ ดูซื่อแต่ก็เหมือนมีความรูสึกแฝงนัยยะอยู่ข้างหลังคำพูดของมันอีกที

“ทำไมวาดรูปนั้นวะ” นานๆทีจะได้มีโอกาสคุยกับศิลปินที่ทำงานจริงๆ ผมอยากรู้มานานแล้วว่าคิดอะไรอยู่ถึงวาดรูปนั้น

“ให้ผมตอบจริงๆพี่อย่าว่าผมนะ” จะว่าอะไรมัน ทำงานก็ดีแล้ว ผมพยักหน้ารับปาก

“ผมนึกถึงพี่ นึกถึงพี่ตอนที่ผมยังเป็นเฟรชชี่ ที่ผมไปขอเบอร์ดาว ผมไม่คิดว่าผมจะได้กลับไปหรอก แต่พี่ก็ช่วยผม มันคือเหตุการณ์ไร้สาระมาก แต่ผมประทับใจมาก แต่ผมเคยเล่าให้ใครฟังเลยว่าดาวที่ผมได้เบอร์มาจริงๆไม่ใช่ดาวคณะแต่เป็นพี่ตุล ไม่รู้ว่าทำไมถึงประทับใจ แต่ก็รู้สึกแบบนี้”

ผมอึ้ง... แรงบันดาลใจนั้นที่เขียนยาวเหยียดมันคือการเปรียบเทียบของเหตุการณ์ในตอนนั้น

“ถ้าผมเขียนว่าแรงบันดาลใจคือพี่ ก็คงไม่มีใครเข้าใจ หรอกว่าใคร เพราะมีแต่ผมที่รู้” ซองยิ้มให้ผม ผมไม่รู้จะพูดอะไร ดีใจนะที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับงานที่ดีมากๆงานหนึ่ง แต่ผมเป็นความประทับใจแค่สำหรับงานจริงๆใช่ไหม เท่านั้น ซองเลยอยากรู้จักผม ไม่ได้มีความหมายอื่น

“จริงไหม” ผมถามเบาๆ

ซองพยักหน้า ผิวขาวอย่างคนจีนของมันแต้มสีชมพูเล็กน้อย อาจจะเพราะความเขินอาย ที่ผมไม่เข้าใจว่าทำไมผมเองก็รู้สึกเขินเหมือนกันกับมัน

...

วันเสาร์ผมตื่นขึ้นมาได้ไม่นาน ก็มีคนดูแลหอมาเคาะประตู เอาพัสดุมาส่งให้ซองสีน้ำตาลหนาๆขนาดใหญ่กว่าA2นิดหน่อย จ่าหน้าถึงผม ไม่ต้องเขียนชื่อก็รู้แล้วว่าคนส่งเป็นใคร เปิดออกมาข้างในเป็นรูป ’ไร้เดือน’ แบบย่อแล้วอัดใส่กรอบไม้สีเข้มขัดขอบมาอย่างดี มีขาสำหรับตั้งและรูสำหรับเอาไว้แขวน ข้างหลังภาพเขียนลายมือเดียวกับลายมือที่จ่าหน้าซอง

‘ผมทำกรอบเองเลย ไม่รู้จะถูกใจไหม เป็นของเล็กๆน้อยๆ ผมให้แทนคำขอบคุณ – ซอง’

ผมยิ้มกับโน้ตสั้นๆ

รูปใหญ่ไปผมไม่มีที่วาง เลยลองเอาแขวนไว้ที่เหนือหัวเตียง แขวนกับตะปูเก่าที่ผมเคยเจาะเอาไว้แขวนนาฬิกาหมดอายุเมื่อนานมาแล้ว รูปสวยกรอบสวยเกินกว่าจะเอามาประดับหอพักแคบๆ ไว้ได้กลับบ้านเมื่อไหร่ผมจะเอาไปแขวนไว้ที่บ้านผมแล้วกัน

...

วันอาทิตย์ มีไปรษณีย์มาส่งจดหมายให้ผม ซองเหมือนเดิม มาจากซองคนเดิม แต่คราวนี้มีติดแสตมป์ประทับตรา ผ่านมือไปรษณีย์ ไม่ได้เอามาให้เอง

‘พี่ตุลผมไปอยุธยาสามวัน จันทร์ถึงพุธ เลยอดกินข้าวเช้ากับพี่เลย เดี๋ยวผมจะซื้อสายไหมมาฝากนะ – ซอง’

มันเอาจริง มันส่งจดหมายติดต่อผมทางนี้จริงๆ ผมพลิกซองดูที่อยู่ของมัน ชื่อจริงนามสกุลจริง มันไม่ได้อยู่หอ แต่น่าจะเช่าบ้านอยู่เพราะที่อยู่ใกล้มหาลัย แถวนั้นเป็นโซนที่เป็นบ้านเช่าแบบตึกแถวสำหรับนักศึกษา ส่วนใหญ่พวกที่เรียนคณะที่ใช้พื้นที่ทำงานเยอะๆ รวมกลุ่มกันเช่าบ้านจะสะดวกกว่า

ผมคว้าหากระดาษเอสี่มาพับเป็นซอง ตัด ทากาว ฉีกกระดาษสมุดสเกตชสีนวลมาเขียนสั้นๆลงไปว่า

‘ขอบคุณมากเรื่องรูป แล้วจะรอกินสายไหม’

ผมส่งจดหมายแบบนี้ครั้งล่าสุดก็ตอนมัธยมต้นที่วิชาภาษาไทยมีเรียนเรื่องเขียนจดหมายแล้วให้เขียนจดหมายส่งหาคุณครู และตอนนี้ผมมาส่งจดหมายอีกครั้งตอนอยู่ปีสามกับรุ่นน้องต่างคณะที่ผมพึ่งรู้จัก มันให้ความรู้สึกแปลกประหลาด แต่ก็น่าสนุกดี

ผมจ่าหน้าซองถึงถึงคนรับ เดินออกไปหน้าปากซอย แวะเซเว่นซื้อแสตมป์ ผมติดแสตมป์ แล้วก็หย่อนจดหมายลงในตู้ไปรษณีย์สีแดง มองเวลาไขตู้แบบคนที่ไม่ค่อยแน่ใจกับระบบไปรษณีย์ว่ามันจะไปถึงคนรับเมื่อไหร่

บางทีเสน่ห์ของจดหมายมันอาจจะอยู่ที่การรอคอยและความไม่แน่นอน ไม่รู้ว่าจะถึงแน่ไหม และไม่รู้ว่าจะถึงเมื่อไหร่

...................................................................................

เช้าวันจันทร์ อย่างที่ซองมันบอกไว้ในจดหมาย ผมเห็นเด็กคณะมันเดินแบกเป้ขึ้นรถที่หน้ามหาลัยตั้งแต่เช้าผมยิ้มให้มันที่ยืนอยู่ไกลๆ พอซองเห็นมันก็รีบวิ่งมา

“พี่ได้จดหมายผมป่ะ” ประโยคแรกที่มันถาม มันเองก็คงลุ้นเหมือนกันว่าจดหมายจะถึงไหม

“ได้ ขอบใจมาก พี่เอารูปแขวนไว้ในห้อง อย่าลืมสายไหมนะ” ผมบอกมันขำๆ ไอ้ซองหัวเราะ

“ไม่ลืมแน่ๆ ผมไปนะ”

“โชคดี”

...

วันอังคาร...

...

วันพุธ...

ผมนั่งทำงานข้ามคืน ผมรอเช้าวันพฤหัส

...

เช้าวันพฤหัสมาถึง ผมเดินขึ้นโรงอาหารเวลาแปดโมงเช้า คนเริ่มแน่น ผมต่อคิวซื้อข้าวราดแกง สั่งผัดผักกับหมูทอด เดินหาโต๊ะว่างแล้วนั่งลง พยายามไม่กินเร็วเกินไป ผมกลัวว่าผมจะลงไปก่อนที่ซองมันจะมา ทั้งๆที่ปกติมันไม่ใช่เรื่องน่ากังวลเลย

“ขอนั่งด้วยได้ไหมครับ” เสียงคุ้นเคย ทำให้ผมยิ้มรับ ซองลากเก้าอี้นั่งลง วางจานข้าวแล้วชูถุงสายไหมขึ้นมาให้ผมเห็น ผมรับถุงจากไอ้ซอง วันนี้เพื่อนผมคงมีขนมกินระหว่างคาบแล้วล่ะ

“ได้จดหมายพี่ตุลด้วย ไม่นึกว่าจะส่งมา” ผมดีใจจดหมายถึงด้วยว่ะ

“ส่งมาเลยส่งกลับบ้าง แล้วไปอยุธยาเป็นไง” ผมบอกเหตุผล แล้วถามต่อ ซองเหมือนจะยินดีมากที่ผมถาม มื้อเช้าทั้งมื้อนั้นจนเกือบจะถึงเวลาเรียน ซองนั่งเล่าวีรกรรมบ้าของมันกับเพื่อนที่ไปสร้างเอาไว้ที่อยุธยาให้ผมฟัง


ผมเดินหิ้วถุงสายไหมเข้าห้องเรียน ไม่มีกลิ่นอะไรออกมาสักนิด แต่พริบตาที่เห็นถุงเพื่อนครึ่งห้องก็แทบจะมารุมทึ้งสายไหมราวกับว่ามันเป็นขนมล้ำค่าที่ประทานมาจากสวรรค์ ซองมันซื้อมาให้หนึ่งชุดใหญ่ แต่ก็หมดในเวลาไม่ถึงสิบนาที ผมได้กินอยู่อันนึง

“มึงเอาสายไหมมาจากไหน” ไอ้ฉุยกินหมดแล้วถึงนึกขึ้นได้ว่าต้องถาม

“น้องให้มา” ผมตอบสั้นๆ

“น้องไหนวะ”

“ซอง”

“ห๊ะ! ซองไหนวะ ภาคเราเหรอ” มันยังอยากรู้

“มึงไม่รู้จัก แดกไป” ผมตัดบท ไอ้ฉุยก็ว่าง่าย ไม่ถามอะไรต่อ ดีแล้ว อย่ารู้เลยเดี๋ยวยาว



........................................................................................9-5-2012


เออ ไม่จบอ่ะ  ต้องขอต่ออีกตอน แบบว่า เกินโควต้ามาก หวังว่าคนอ่านคงเข้าใจและไม่ด่าเรา
เอาวะ จริงๆ ตอนหน้าจะพยายามเอาให้จบ ไม่จบไม่มาอัพ :sad4: (จะพยายามไม่ยืดเยื้อ)

บทนี้ออกจะศัพท์เทคนิคเยอะในตอนต้นๆ ถือว่าเป็นการปลุกกระแสไปในตัวด้วยแล้วกัน คำพูดที่ตุลบอกว่ารุ่นพี่ตุลบอกนั้นมีจริงนะ คนพูดทำนองนี้เขาเป็นนักวาดภาพ+เขียนการ์ตูนพระกอบคนนีงนี่ล่ะ งานผ่านตากันมาตามร้านหนังสือเยอะอยู่ หอศิลป์อยู่กลางสยามอย่าปล่อยให้มันเหงานะ มีงานจัดตลอด บางครั้งหลายงานด้วย ดีๆทั้งนั้นเลย เราไปมากี่รอบก็ไม่เคยผิดหวังอ่ะ เจองานที่ประทับใจตลอด

ส่วนสถานที่ในเรื่องนี้มีจริงนะ พยายามให้เรื่องนี้ดูเป็นจริง และรักษาอารมณ์เฉื่อยๆ

ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านค่ะ :กอด1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-03-2013 01:43:22 โดย gargoyle »

ออฟไลน์ สุขาพาเพลิน

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 617
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-1
    • facebook
น่ารักได้อีกน้องซองเนี่ย ^^

อย่าลืมมาต่อน้องซองพี่ตุลนะครับ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด