มีสิทธิ์ไหม...ที่จะรักใครสักคน
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: มีสิทธิ์ไหม...ที่จะรักใครสักคน  (อ่าน 214572 ครั้ง)

piyakorn

  • บุคคลทั่วไป
 :a4:เข้ามารออีกวันยังไม่เห็นมาเลยครับ หรือว่ามัวคุยอยู่แต่กับเจ้าปลาทอง

Bambu

  • บุคคลทั่วไป
โทษทีครับที่หายไป 2 วัน เพราะว่าไปดูงานที่ทางมหาวิทยาลัยจัดขึ้นอะครับ ได้ไปปลูกป่าชายเลนด้วย สนุกมาก ๆ

ต่อกันดีกว่าเนอะ
-----------------------

ภารกิจรัก

เช้านี้เป็นวันเสาร์ครับ แต่ผมกลับตื่นเช้าผิดปกติ อันเนื่องมาจากไอ้ข้อความ ที่ส่งมาอีกเมื่อเช้านี้

“วันนี้ไปเที่ยวกัน 9  โมงจะไปรับ”

“กัส”


ตอนนี้ผมบอกตามตรงครับ ว่าผมทำตัวไม่ถูกเท่าไหร่ อันเนื่องมาจากสาเหตุที่ผมบอกไปนั่นก็คือ ผมไม่เคยมีแฟนมาก่อนเลย และกัสเนี่ยก็เป็นคนที่เคยคิดว่าไกลเกินเอื้อมไปด้วย แต่ทำไมเขาเลือกผม  แล้วทำไมผมไม่ดีใจเท่าที่ควรหละ แต่เอาเหอะ ไหน ๆ ก็ไหน ๆ หลวมตัวไปแล้วนิหว่า ไอ้เราก็ดันปากไว ไปรับปากเขาไว้แล้ว

พอถึงเวลา เกือบ ๆ จะ 10 โมง เสียงโทรศัพท์มือถือผมก็ดังขึ้นอีกครั้ง

“บิว เรามาถึงแล้ว รออยู่ข้างล่างนะ ลงมาเลย” พูดจบปุ๊ ก็ตัดสายปั๊บ ไอ้เราจะถามอะไรซักหน่อย ก็เป็นอันไม่ได้ถาม มันจะรีบไปไหนกันวะเนี่ย แต่ก็ไม่มีเวลาคิดอะไรมาก  คว้ารองเท้าได้ก็รีบออกจากห้อง ก่อนจะออกชะเง้อมองถาดอาหารเจ้าปลาทอง ซึ่งก็เห็นว่ายังเหลือเยอะอยู่ แปลกใจเหมือนกันว่าทำไมช่วงนี้เจ้าปลาทองกินน้อยจัง สงสัยอยากลดความอ้วน (ฮา)

ใช้เวลาไม่ถึง 2 นาที ผมก็วิ่งลงมาถึงรถเก๋งคันงามสีดำหรู จอดสนิทอยู่  มองเข้าไปข้างในเห็นกัสนั่งอยู่ในที่นั่งประจำคนขับ พอกัสเห็นผม ก็ยิ้มให้หนึ่งที ก่อนจะควักมือเรียกผมให้ขึ้นไปนั่งในรถ  ผมก็มัวแต่ตะลึงในความหล่อ เลยลืมไปเลย หุหุ

“หวัดดีกัส”  ผมเริ่มทักกัสมันก่อนครับ เพราะว่าไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี กัสมันก็ไม่ได้ตอบอะไร แต่หันมายิ้มให้หนึ่งที

“วันนี้จะไปไหนหรอ” 

“ไปดูหนัง”  กัสมันตอบแล้วครับ แต่ตามันยังคงมองอยู่บนถนน ระหว่างทางที่นั่งไป ผมก็เหลือบตามองไอ้กัสมันเป็นระยะ ๆ วันนี้มันดูดีจริง ๆ ครับ กัสมันอยู่ในเสื้อเชิร์ตสีดำ กางเกงผ้าสีครีม  ผมถูกเซ็ตไว้อย่างพอดี ยิ่งมองยิ่งเห็นความแตกต่างระหว่างผมกับกัสมากขึ้น

“เบื่อหรอครับ”  คำถามแรกจากปากกัสมันครับ มันถามผมหลังจากที่ผมจ้องกัสจนเพลิน ทำให้กัสมันสังเกตเห็น

“อ๋อ...เปล่า คิดอะไรเพลินไปหน่อย”  กัสมันก็ไม่ได้ว่าอะไร เอาแต่ส่งยิ้มหวาน ๆ มาให้ จะละลายอยู่แล้ว

พอไปถึงห้าง เราก็ตกลงกันว่าจะไปซื้อตั๋วหนังก่อนแล้วค่อยไปหาอะไรกินกันต่อ เพราะเริ่มหิวแล้วด้วย

“บิว จะดูเรื่องไรดี”  นาน ๆ ทีผมจะได้ออกมาดูหนังครับ  แทบทุกเรื่องเลยที่ยังไม่ได้ดู 

“แล้วแต่กัสสิ  กัสอยากดูเรื่องไรหละ”  จริง ๆ แล้วเกร็งนิดๆ ด้วยอะครับ กลัวเลือกออกมาแล้วจะไม่ถูกใจกัสเขา

“อืม........งั้นเป็นเรื่องนี้ละกัน ท่าทางน่าสนุก”   กัสพูดพร้อมกับชี้ไปที่โปสเตอร์หนังเรื่องหนึ่ง เป็นหนังฝรั่งครับ สไตล์โรแมนติก คอมเมอดี้

“ก็ได้ ท่าทางน่าสนุกเนอะ”  อิอิ ใจตรงกันอีกด้วย เพราะว่าตอนแรกผมกะจะเลือกเรื่องนี้เหมือนกันอะครับ แต่กลัวกัสมันหาว่าปัญญาอ่อน

ระหว่างที่กำลังเดินไปซื้อตั๋วนั้น ด้วยความที่เราเดินตัวติดกันเกินไปหน่อย ทำให้มือผมกับมือกัสมีโอกาสสัมผัสกันบ่อยครั้ง หลาย ๆ ครั้งเข้า กัสก็เลยค่อย ๆ เอานิ้วก้อยของเขา สอดเข้ามาในนิ้วก้อยของผม ผมหันหน้าไปมองหน้ากัสทันที แต่กัสเขาก็ไม่ได้มีท่าทีอะไร แต่กัสเขาจะรู้ไหมนะว่าผมนะ ทั้งเขินทั้งอาย พยายามเอามือออก แต่นิ้วก้อยของกัสก็ยังคงเกี่ยวไว้แน่นไม่ยอมปล่อย ผมก็เลยต้องปล่อยเลยตามเลยไป ในใจก็ดีใจด้วยอะครับ ที่กัสเขาไม่รังเกียจเรา แถมยังเดินจับมือเราอีก อิอิ

พอได้ตั๋วหนังเสร็จเราก็ไปหาอะไรกินกัน ซึ่งพอดีว่าเราชอบอาหารญี่ปุ่นด้วยกันทั้งคู่ ก็เลยตัดสินใจกินฟูจิ ซึ่งก็ของโปรดผมเลยอะครับ ระหว่างที่กินไปเราทั้งคู่ก็คุยกันสนุกสนาน  ดู ๆ ไปแล้วไอ้กัสนี่มันขี้เล่นเหมือนกันนะครับ ทำให้ผมหัวเราะได้อยู่เรื่อย ระหว่างโทรศัพท์กัสก็ดังขึ้นครับ

“สวัสดีครับ”

“........................................” ผมเห็นกัสมันเงียบไปนานก็เลยเงยหน้ามองมันนิดหน่อย ตอนแรกก็กะว่าจะไม่ได้สนใจหรอกครับ เพราะเรื่องส่วนตัวเขา แต่เห็นเงียบผิดปกติก็เลยมอง ก็เลยได้เห็นว่ามันกำลังมองผมอยู่ก่อนแล้ว

“กินข้าวกับเพื่อนครับ”  อ้าว แล้วเมื่อวานใครขอกรูเป็นแฟนวะ  แต่ก็เข้าใจอะครับว่ามันคงอายที่มีแฟนเป็นผู้ชาย เรื่องอย่างงี้ แม้โลกจะเปลี่ยนไป แต่ก็ไม่ได้หมายว่าจะรับได้ทุกคนหรอก ใช่ไหมครับ

“มาดูหนังครับ”

“ไว้กลับบ้านแล้วจะโทรหานะ  เดี๋ยวต้องเข้าโรงหนังแล้ว”  อ้าวโกหกนิหว่า

“เหมือนกันครับ” 

“บายครับ”  มันพูดเสร็จแล้วมันก็วางสาย แล้วก็หันมาถามผมว่าอิ่มยัง ถ้าอิ่มแล้วจะได้เก็บตังค์เลย  มันถามผมมาอย่างนี้ผมก็เลยต้องอิ่มสิครับ แล้วมันก็เรียกเก็บเงิน ผลไม้ที่เขามีให้มันก็ไม่กิน ท่าทางลุกลี้ลุกลนแปลก ๆ

สักพักหนึ่งโทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีกแล้ว แต่คราวนี้เป็นไอ้ฟิล์มครับ ที่ผมรู้ เพราะว่ามันเรียกชื่อไอ้ฟิล์ม

“ว่าไงฟิล์ม”  ไอ้กัสกรอกเสียงไปตามสาย

............................................................

“อืม เรียบร้อยดี”

………………………………………….

“อย่าลืมละกัน 555”

.........................................................

“อืม แค่นี้ก่อนละกัน จะเข้าโรงหนังแล้ว บาย” มันพูดเสร็จแล้วมันก็วางสายไป  ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันคุยเรื่องอะไรกัน ที่ได้ยินมาก็จับใจความไม่ถูก ปะติดปะต่อไม่เข้าใจ แต่คร่าว ๆ ว่าไอ้ฟิล์มมันคงใช้ให้กัสทำอะไรให้ซักอย่างนั่นแหละ แต่ก็ไม่กล้าถามครับ กลัวโดนหาว่าไปยุ่งเรื่องของเขา

ระหว่างดูหนังมือผมกับมือกัสก็ยังไม่ยอมปล่อยออกจากกันเลยครับ ท่าทางคงจะลืม แต่พอหนังเดินไปได้ซักครึ่งเรื่องหันไปมองไอ้กัส  อ้าว หลับซะงั้น แล้วชวนกรูมาดูทำไมวะ แต่ผมไม่สนใจครับ  ดูหนังดีกว่า เพราะว่าส่วนตัวชอบดูหนังสไตล์นี้อยู่แล้วครับ เรื่องนี้ไอ้แป๋มรู้ดี เพราะชวนมันมาดูบ่อย จนมันเบื่อซะละ

พอหนังจบแล้วผมก็เลยต้องรับหน้าที่ปลุกกัสให้ตื่นขึ้น มันหันมามองผมพร้อมกับท่าทางอาย ๆ ของมัน

“อ้าว จบแล้วหรอ” ไม่ใช่หนังควบนะเมิง

“อืม”

“งั้น ไปกันดีกว่า อยากเข้าห้องน้ำ” พูดจบมันก็ดันตัวผมขึ้นพร้อมกับผลักผมเดินไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ท่าทางจะปวดฉี่  พอถึงห้องน้ำผมก็ให้มันเข้าไปก่อน แล้วผมเข้าต่อจากมัน  พอผมทำธุระเสร็จแล้วเดินออกมาเห็นมันคุยโทรศัพท์อยู่

“งั้นแค่นี้ก่อนนะ แล้วจะโทรไปหาใหม่” มันพูดจบ ก็วางสายทันที ซึ่งผมทันได้ยินแค่ประโยคปิดท้าย

“เราจะไปไหนกันต่อหรอ” ผมหันไปถามไอ้กัสครับ เพราะนี่มันจะ 4 โมงเย็นแล้ว

“ไปเดินซื้อของกันดีกว่า…นะ” ประโยคแรกเหมือนจะเป็นประโยคคำสั่ง แต่พอฟังจบก็เหมือนจะเป็นประโยคขอร้อง

“อืม ก็ได้”  ผมยังไม่ทันพูดจบมันก็จูงมือผมเดินออกมาเลย  แหม คนเยอะแยะ ไม่อายเลยนะเมิง  ผมเขินมากครับ คนก็แอบมองหลายคนเหมือนกัน แต่ผมเห็นมันเฉย ๆ ผมก็เลยเฉย ๆ บ้าง ระหว่างที่เราเดินกันอยู่นั้น มันก็ชี้ให้ผมดูนั่นดูนี่ แถมยังจะซื้อของให้ผมตั้งหลายอย่าง แต่ผมปฏิเสธครับ เพราะเกรงใจ แต่ในที่สุดมันก็ซื้อเสื้อให้ตัวหนึ่ง เพราะมันขู่ว่าถ้าไม่เอาเสื้อตัวนี้ มันจะจูบโชว์ครับ  ผมก็เลยต้องรับ และอีกอย่างก็คือตุ๊กตาหมีที่ปักตัวอักษรไว้ที่เสื้อหน้าอกครับ กัสมันซื้อมา 2 ตัว ตัวที่ปักตัวอักษร G นั้นมันยกให้ผม ส่วนกัสมันเอาหมีตัวที่ปักตัวอักษี B ไปครับ มันบอกว่าไว้เป็นสัญลักษณ์ของกันและกัน จะได้เอาไว้ดูต่างหน้า มันพูดมาอย่างนี้ เลยทำให้ผมจากเดิมที่เคยชอบมัน ชักจะเปลี่ยนมาเป็นรักมันแล้วครับ จากแรก ๆ ที่ผมเกร็ง ๆ ตอนนี้ผมรู้สึกผ่อนคลาย และสบายมากขึ้น อาจจะเป็นเพราะว่าผมมีกัสอยู่ข้าง ๆ ก็ได้นะครับ

เราเดินซื้อของกันถึงประมาณ 1 ทุ่มถึงจะกลับบ้าน ตอนแรกกัสชวนกินข้าวด้วยกันอีก แต่ผมปฏิเสธไปครับ เพราะว่ายังอิ่มอยู่เลย

“กัส ขึ้นห้องก่อนไหม”  ผมตัดสินใจอยู่นานมากครับระหว่างนั่งมาบนรถ ใจหนึ่งก็คิดว่าถ้าไม่ชวนจะเสียมารยาท อีกใจหนึ่งก็คิดว่าถ้าชวนมัน มันจะหาว่าเราให้ท่ามันหรือเปล่า หุหุ แต่ท้ายที่สุดก็ตัดสินใจชวนครับ คิดว่ามันคงไม่คิดอะไรมาก

“อืม ก็ดีเหมือนกัน จะขอเข้าห้องน้ำหน่อย” ว่าง่ายจริง ๆ นะพ่อหนุ่ม

 “บิว ห้องน่ารักจังเลย จัดเองหรอ” 

“อืม จัดเองคือว่าพอดีเราชอบนะ  แต่มันเล็กไปหน่อย เนอะ”

“ไม่หรอก กำลังดี ก็อยู่คนเดียวนิ” อืมก็ถูกของมัน

เออ บิว หมีที่เราซื้อให้บิวนะ วางไว้ตรงนี้นะ” กัสพูดขึ้นพร้อมกับเอาหมีที่ซื้อมาวางแหมะไว้บนหัวเตียงนอน

“เผื่อจะได้ฝันถึงเรา”

“งั้นหมีตัวนั้น กัสก็เอาไปวางไว้ที่เดียวกับเรานะ” ผมพูดขึ้นบ้างหลังจากเขินอยู่นาน
“อืม...ได้สิ” กัสพูดจบพร้อมกับยิ้มตาหยีมาให้  โอ้ยจะละลาย

ระหว่างที่ผมจัดของกินที่ซื้อมาเข้าตู้เย็นอยู่ กัสก็เดินชมห้องผมอยู่ พร้อมกับชมไปตลอด  อันนู้นก็น่ารัก  อันนี้ก็สวย 

“บิว ๆๆ” กัสครับ มันเรียกผมเสียงดังเลย

“อะไรหรอ” 

“บิวเลี้ยงนกแก้วด้วยหรอ  แล้วมันพูดได้ปล่าว”  นี่เมิงจะตื่นเต้นทำไมเนี่ย แค่นกแก้ว กรูไม่ได้เลี้ยงนกฮูกไว้นิหว่า

“อืมพูดได้ แต่ไม่กี่คำหรอก”

“แล้วจะให้มันพูดต้องทำยังไงหละ”

“ก็แค่เอาของกินล่อ มันก็พูดแล้ว”  แต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่านกแก้วมันจะพูดว่าอะไร ก็กำลังจะห้ามไอ้กัสมัน แต่ไม่ทันแล้วครับ

“บิวน่ารัก  บิวน่ารัก”   ผมมองหน้ากัสมัน พร้อม ๆ กับมันที่หันมามองหน้าผม 

“แหะๆๆ”  ทำอะไรไม่เป็นเลย ได้แต่ส่งยิ้มแห้ง ๆไปให้มัน

“5555555555555555” ไอ้กัสมันคงกลั้นหัวเราะไม่ไหว ปล่อยก๊ากออกมาเลยครับ
“หัวเราะไร” ผมทำตาดุ ๆ ใส่มัน

“ปล่าว แค่อยากจะบอกว่า น่ารักดีเนอะ ให้นกแก้วชมตัวเอง 55555”

“ยังไม่หยุดอีก”  ผมเริ่มโกรธนิด ๆ อะไร ผิดด้วยหรือไง ก็ไม่มีคนชมจริง ๆ นิหว่า

“อ๊ะ ๆๆ หยุดก็ได้” ปากมันบอกว่าหยุด แต่ผมเห็นมันเม้มริมฝีปากไว้แน่น พร้อมกับเอามือกุมท้อง

“บิว ๆ “

“อะไร”

“ขอขำอีกทีนะ” มันพูดเสร็จก็หัวเราะก๊ากออกมาอีกที ไอ้ผมก็ได้แต่กระฟัดกระเฟียด

“อ๊ะ ๆๆพอละ ไม่ขำละ  บิวนี่ตลกดีเนอะ เอ้ยๆๆ น่ารักดี”

“ได้มายังไงอะ นกแก้วอะ”

“แป๋มให้มาวันเกิดนะ ”

“ชื่อไร” มันยังซักไม่เลิก

“ปลาทอง”

“ไม่ ถามว่านกตัวเนี้ย ชื่อไร”

“ก็ปลาทองไง  มันชื่อว่าปลาทอง”

“เอ้า เป็นนกดันตั้งชื่อว่าปลาทอง เสียชาติเกิดหมด”  มันจะสนใจอะไรนักหนาวะ

“ไหนบอกว่าจะมาเข้าห้องน้ำไง” 

“เออ ใช่ ลืมไปเลย” พูดเสร็จมันก็ตรงดิ่งเข้าห้องน้ำ

ระหว่างที่มันเข้าห้องน้ำ เสียงโทรศัพท์มันก็ดังขึ้น ครั้งแรกผมปล่อยให้มันดับไปเอง เพราะกลัวว่าจะเสียมารยาท แต่พอครั้งที่สองดังขึ้น ผมจึงรออยู่นาน มันก็ไม่ดับ และเสียงมันดังมาก ก็เลยเดินไปชะโงกดูที่หน้าจอ

“แจง”

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586

เอ๋!

นั้นไง

ชักมีอะไรซะแล้วไหมหละ

ก็ชื่อสาวที่ไหนอะนั้น  :m30:

acht

  • บุคคลทั่วไป
รู้สึกแปลกๆ ทะแม่งๆไงไม่รู้ มันต้องมีเบื้องหลังแน่เลยอ่ะ  :m21:

ifwedo

  • บุคคลทั่วไป
จะมาแกล้งบิวรึเปล่านะ

ออฟไลน์ krappom

  • 人は誰でもそれぞれに悩みを抱えて生きる
  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1182/-23

กัสกะฟิล์มนี่ท่าทางแปลกๆ นะ
มีแผนอะไรป่าวหว่า
 :m16:


piyakorn

  • บุคคลทั่วไป
 :a4:ฟิล์มต้องให้กัส มาแกล้งบิวแน่นอน ถ้าอย่างนั้นใจร้ายทั้งสองคนเลย

myLoveIsYOu

  • บุคคลทั่วไป
เออ แฮะ ชักเริ่มแปลก ๆ มีลับลมคมใน  :o o12

Bambu

  • บุคคลทั่วไป
“แจง”

“ใครคือแจงวะ” ผมพยายามคิดในแง่ดีเอาไว้ ว่าคงจะเป็นเพื่อนผู้หญิง คงไม่มีอะไรหรอกมั้ง สักพัก กัสก็ออกมาจากห้องน้ำออกมาพอดี

“กัส เมื่อกี้มีโทรศัพท์มานะ โทรมาสองครั้ง”  บอกเสร็จ กัสมันก็หยิบโทรศัพท์บนโต๊ะออกมาดูชื่อคนที่โทรมา

“อืม ขอบใจนะ งั้นเรากลับก่อนนะ แล้วคืนนี้จะโทรหา”  พูดเสร็จกัสก็ออกจากห้องไป ทิ้งให้ผมยืนคิดอะไรเงียบ ๆ อยู่คนเดียวในห้อง ตาก็จ้องมองระหว่างประตูที่กัสเพิ่งเดินออกไปกับหมีที่อยู่บนหัวที่นอน

“กัสจะให้เราฝันถึงกัสหรอ...แล้วกัสหละ จะฝันถึงเราบ้างหรือเปล่า”  ผมก็ได้แต่ถามตัวเองเบา ๆ แหละครับ
“บิวน่ารัก บิวน่ารัก” ผมไม่รู้ว่าตัวเองยืนเหม่อนานเท่าไหร่ จนได้ยินเสียงเจ้าปลาทองร้อง จึงสะดุ้ง

“ตายละหว่า ลืมให้อาหารปลาทองนิหว่า” แต่พอหันไปหาเจ้าปลาทอง อ้าว อาหารยังอยู่เต็มนิหว่า มีแต่น้ำที่พร่องไปนิดหน่อย ทำไมไม่ยอมกินอะไรเลย ไม่สบายหรือเปล่า ไม่รู้ว่าจะทำยังไง เลยตัดสินใจโทรหาแป๋มทันที

“ฮัลโหล แป๋มหรอ ที่บิวนะ”

“อืมว่าไงจะ”

“แป๋ม แกรู้ปะว่าทำไมเจ้าปลาทองไม่กินข้าววะ”

“อ้าว ก็มันอยู่กับแก ฉันจะรู้ไหมหละ  ลองพามันไปหาหมอดิ”

“หมอที่ไหนวะ เห็นมีแต่หมอหมา แต่หมอนกแก้วไม่เคยเห็นวะ”

“อืม ไม่รู้เหมือนกันวะ เอางี้ เดี๋ยวกรูถามเพื่อนให้ละกัน” ดีมากเมิง
“ได้ ๆ ขอบใจมากนะเว้ย”  พูดเสร็จผมก็วางสายทันที เพราะตอนนั้นกังวลใจมาก ๆ ว่าเจ้าปลาทองมันจะเป็นอะไรหรือเปล่า เพราะเพิ่งจะสังเกตุเห็นว่าพักนี้ไม่ค่อยกินอาหาร เสียงเจื้อยแจ้วที่เคยดังก็ไม่ค่อยได้ยิน ระหว่างนั้นเสียงโทรศัพท์ผมก็ดังขึ้น ผมรีบรับสายทันที ต้องเป็นแป๋มแน่ ๆ

“ฮัลโหล แป๋มหรอ เป็นไงบ้าง”

“อะไรเป็นไงหรอ”  อ้าวไม่ใช่ไอ้แป๋มนิหว่า ไอ้กัสนี่เอง

“อ้อ .....เออ เปล่าไม่มีไรหรอก พอดีว่าเจ้าปลาทองไม่ยอมกินข้าวนะ ก็เลยโทรหาแป๋มให้ถามเพื่อนให้หน่อยว่ามันเป็นอะไร นี่ก็กำลังรอโทรศัพท์แป๋มอยู่”

“เราโทรมารบกวนหรือเปล่า”

“อ้อ เปล่า ๆ ไม่รบกวน คุยได้ มีไรหรอ”

“โทรหาบิวต้องมีอะไรด้วยหรอ ถึงจะโทรได้”  ไรวะ แค่นี้ทำเป็นงอน

“เปล่า ๆ นะ คือว่า  ยังไม่ชินอะ”

“55555 ไม่เป็นไรครับ ไม่เป็นไร  ล้อเล่น”  ไอ้นี่ กรกูกำลังเครียด

“..................................”

“โกรธหรอ”  มันเห็นผมเงียบไป มันก็เลยถามกลับมา ดูจากน้ำเสียงแล้วคงสลด

“เปล่า ใครจะกล้าโกรธกัสหละคับ” อิอิ หยอดมันไปหน่อย กลัวมันทิ้ง

“งั้นเราคุยได้ไช่ปะ”

“อืม คุยได้สิ” 

“คือ เรื่องโทรศัพท์อะ”  ว่าแล้ว กรูจะลืมได้อยู่แล้วเชียว

“อืม มีไรหรอ”  ต้องแกล้งทำโง่เข้าไว้

“คือ............บิวเห็นแล้วใช่ปะว่าใครโทรเข้ามา”

“อืม เห็นแล้ว”  เอาให้เคลียร์มาเลยดีกว่า

“เออ........จริง ๆ แล้วเขาเป็น...เป็น.. เออ.......เป็นแฟนเก่ากัสเองนะ”

“แล้วไง” 

“ก็แค่อยากจะบอกว่ากัสเลิกกับแจงเขาไปแล้ว”

“อืม”

“บิวเชื่อกัสใช่ปะ”

“อืม บิวเชื่อกัส”  ครับ ผมเชื่อกัสจริง ๆ ถ้าเราไม่เชื่อใจคนที่เรารัก แล้วจะให้ไปเชื่อใจใครละจริงไหมครับ ถ้าจะถามว่าผมหึงไหม ใช่ครับผมหึงนิดหน่อย แต่ผมก็ไม่ค่อยกล้าแสดงออกอะไรมาก กลัวกัสมันรำคาญครับ ก็ดีครับที่เรารู้จากปากของกัสแทนที่จะไปรู้จากคนอื่น

“ขอบใจมากนะ ที่เชื่อใจกัส”

“อืม”

“งั้นพรุ้งนี้เราไปเที่ยวบ้านบิวได้ปล่าว”

“อืมได้สิ ทำไมจะไม่ได้หละ”

“ดีจัง แล้วเดี๋ยวกัสไปหานะ”

“คร้าบบบบ”

พอวางสายจากกัสเสร็จ ผมก็นึกถึงเจ้าปลาทองขึ้นมาได้ เลยรีบกดโทรศัพท์หาแป๋มอีกทีหนึ่งเพื่อที่จะถามว่าเป็นไงบ้าง พอไอ้แป๋มรับสายเท่านั้นแหละ เสียงแหลม ๆ ของมันก็ด่าสวนขึ้นมาทันที

“นี่แก ฉันโทรไปตั้งหลายรอบ ทำไมสายไม่ว่างเลยวะ”  ดูท่าทางมันคงโมโหมาก ๆ

“เออ พอดีเพื่อนโทรมานะ” จะให้บอกได้ไงละว่าเป็นกัส  มันยังไม่รู้เรื่องนี้ซักหน่อย

“แน่ใจหรอเมิง ไม่ใช่คุยกับผู้ชายหรอ”  อีนี่ทำเป็นรู้ดีนะเมิง

“แล้วเรื่องเจ้าปลาทองกรูหละ ว่าไง”  อิอิ ต้องเปลี่ยนเรื่อง

“เออ กรูเกือบลืม เมิงชอบชวนกรูเสียอยู่เลย กรูจะบอกว่า กรูมีเพื่อนเป็นสัตวแพทย์ เดี๋ยวพรุ้งนี้กรูจะพาเขาเข้าไปดูเจ้าปลาทองให้ พอดีมันว่างพรุ้งนี้พอดี  วันอื่นคิวเต็มเอียด”

“เออ ๆ ดี ขอบใจมาก ๆนะ กรูกลัวว่ามันจะตายวะ”

“ปากหมา มันไม่ตายหรอกนะเว้ย”

“เออ ๆ ขอบใจ แค่นี้ใช่ปะ บาย”

“เออแค่นี้แหละ แหมรีบเชียวนะเมิง จะไปคุยกับผู้ชายต่ออะดิ”

“อีนี่  ไม่มีไร ง่วงนอนโว้ย จะนอน”

“เออ ก็ได้ แล้วพรุ้งนี้เจอกันนะโว้ย”

“อืมบาย”  วางสายเสร็จก็กำลังจะหันหลังเพื่อที่จะล้มตัวลงนอน

“ตายละหว่า ตายแน่ๆๆ”  จะไม่ให้ตายได้ไงละครับ ก็ไอ้แป๋มมันบอกว่าพรุ้งนี้มันจะพาเพื่อนมันมาดูเจ้าปลาทอง ส่วนไอ้กัสมันก็บอกว่ามันจะมาพรุ้งนี้ ชิบแล้วไงกรู ทำไงดีวะเนี่ย เฮ้ยกลุ้ม ถ้าไอ้แป๋มรู้เรื่องละก็ มันจะว่าไงบ้างวะเนี้ย

ผมก็นอนคิดไม่ตก คิดไปคิดมาก็คิดไม่ออก

“ปล่อยไปตามเวรตามกรรมละกันกรู” 

เช้าวันรุ้งขึ้นไอ้แป๋มมาถึงห้องก่อนครับ มันมาพร้อมกับผู้ชายคนหนึ่ง

 “นี่ พัด นี่เพื่อนแป๋ม ชื่อบิวนะ แล้วบิวนี่พัดที่เป็นสัตวแพทย์ จะมาดูเจ้าปลาทองให้”

“หวัดดีคับ พี่พัด”  ผมเรียกพี่ครับ เพราะเห็นเขาอายุมากกว่า

“ไม่ต้องเรียกพี่ก็ได้ เรียกพัดเฉย ๆ ก็พอครับ” แหมเสียงนุ้มจังเลย แหะๆๆ

“ไหนๆๆ เจ้าปลาทองของบิวอยู่ไหน พามาให้พัดดูหน่อยสิครับ”

“อ้อ เดี๋ยวนะครับ” ผมตอบเสร็จก็วิ่งปร๋อไปตรงระเบียง หยิบกรงนกเจ้าปลาทองเข้ามาในห้อง พร้อมกับปิดประตู และหน้าต่างทั้งหมด เผื่อว่าต้องเอาออกมาจากกรง ระหว่างที่คุณหมอพัดก้มลงพิจารณา เจ้าปลาทองของผม ผมสังเกตเห็นว่าหมอพัดนั้นเป็นคนที่หน้าตาดีมาก ๆ  สูงเชียว ขาว ตี๋ ใส่แว่นอีกต่างหาก

“นี่ไอ้บิว เพื่อนฉันถามแกว่าเจ้าปลาทองเป็นยังงี้นานยัง ไม่ได้ยินหรือไง มัวแต่จ้องหน้าเพื่อนฉันอยู่นั่นแหละ”  อ้าว นี่กรูนั่งจ้องหน้าเพื่อนเมิงอยู่หรอวะเนี่ย

“อ้าว....อ้อ ก็น่าจะได้สักอาทิตย์แล้วหละครับ”  พูดจบก่อนจะหันไปมองค้อนเจ้าแป๋ม 1 ที นังนี้รู้ทันอีก
แล้วหมอพัดก็หยิบเจ้าปลาทองออกมาดู พร้อมกับตรวจ

“เออ พัดครับ มันเป็นอะไรหรอครับ”

“อืม...จากที่ดู ๆ จากภายนอก ท่าทางคงจะเป็นโรค ซิททาโซซิล นะ”

“หา...โรคอะไรซิทๆๆ นะครับ”  โรคอะไรวะ ไม่เคยเห็นรู้จักเลย

“อ้อ โรคซิททาโซซิลนะครับ หรือเรียกง่ายๆ ว่าโรคนกแก้ว คืออาการของมันก็จะเบื่ออาหาร ซืม ขนฟู และตาก็จะหม่น ๆ นะครับ เดี๋ยวผมจะส่งยามาให้นะครับ  แล้วคลุกกับอาหารให้มันกินนะครับ”

“โห พัดนี่เก่งจังเลยนะคับ” พัดไม่ตอบครับ แต่ยิ้มตาหยีส่งมาให้

“เรียบร้อยแล้ว งั้นผมขอตัวกลับก่อนนะครับ พอดีมีธุระ”

“อ้อ ครับ แล้วกลับยังไงละครับเนี่ย”

“ไม่เป็นไรยะ เดี๋ยวฉันจะไปส่งเพื่อนฉันเอง แกไม่ต้องไปส่งหรอก พอดีว่าจะกลับอยู่เหมือนกัน” แป๋มครับ พูดแทรกขึ้นมาเลย คงกลัวว่าผมจะไปทำอะไรเพื่อนมัน แหม ผมมีกัสอยู่แล้วทั้งคน
ระหว่างที่พัดกำลังเก็บอุปกรณ์อยู่นั้น ก็มีเสียงดังขึ้นที่หน้าประตูห้อง

“บิว กัสมาแล้วคร้าบบบ คิดถึงบิว..........จังเลย” 

“....................................................” :m21: :m21:

niph

  • บุคคลทั่วไป
 :m30:
จะเป็นไงต่อละนี่ ประกาศก้องมาแต่ไกล

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






myLoveIsYOu

  • บุคคลทั่วไป
โอ้ว เสียงมาแต่ไกลเลย จะเป็นยังไงต่อละทีนี้  :m4:

ออฟไลน์ nOn†ღ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-6
กัสมาดีหรือมาร้ายละเนี่ย ชักแปลก ๆ  :m21:


ifwedo

  • บุคคลทั่วไป
นั่นซิ กัสมาดีมา

ออฟไลน์ krappom

  • 人は誰でもそれぞれに悩みを抱えて生きる
  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1182/-23

ไม่อยากให้รู้ก็ต้องรู้ล่ะทีนี้

 :m20:


ออฟไลน์ artday

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1

[D]a[D]a [T]oo[N]

  • บุคคลทั่วไป
หุหุหุ เสร็จกัน :m29:

Arus

  • บุคคลทั่วไป
... เล่นของสูง ไปเอา"พี่พัด" ของ "คุณพี่A-lone" มาเล่นด้วยเนี่ย
 :m20: :m12: :m14: :m24:
 :m13: :m30: o2 :m29:

Bambu

  • บุคคลทั่วไป
พอกัสมองเห็นเรา 3 คนนั่งอยู่ หน้าของมันจากที่ยิ้ม ๆ ก็เจื่อนลงทันที ส่วนไอ้แป๋มนั้นไม่ต้องพูดถึง  มันหันมองหน้าผมที หน้ากัสที สายตาแบบว่าอยากรู้มาก ๆ

“อ้าว กัส ซื้ออะไรมาเยอะแยะเลย”  ผมรีบเปลี่ยนเรื่องทันทีครับ

“เอ๊ะ...อ้อ  พอดีผ่านมาแถวนี้ เห็นรถแป๋มจอดอยู่ข้างล่างนะ ก็เลยขึ้นมา คิดไว้อยู่แล้วว่าแป๋มต้องอยู่”  แหมๆๆ กัสเมิงแถได้เนียนมาก ๆ

“อืม ใช่ แต่กำลังจะกลับอยู่พอดีเลย  เรากลับก่อนนะ บิว เดี๋ยวพัดต้องไปทำธุระอีก ไปก่อนนะกัส”  ไอ้แป๋มบอกลาทุกคนครับ แต่ตานี่มันจ้องผมจนแทบจะหลุดจากเบ้าให้ได้

หลังจากที่แป๋มกับพัดออกไปแล้ว  กัสมันก็เดินเข้ามานั่งข้าง ๆ ผมที่ตอนนี้ทรุดตัวลงนั่งหมดแรงอยู่บนโซฟา

“ขอโทษนะ”  ผมหันหน้าไปมองกัส เห็นทำหน้าสลดอยู่

“อืม...ไม่เป็นไร ว่าแต่กัสนั่นแหละ จะทำยังไง”  ผมถามกัสมันกลับบ้างครับ สำหรับผมแล้วนะไม่เป็นไรหรอก เพราะว่าแป๋มมันก็รู้อยู่แล้วว่าผมเป็น แต่สำหรับกัสแล้วไอ้แป๋มมันคงช็อกอะครับ

“อืม ไม่เป็นไรหรอก แค่มีบิวอยู่ด้วย กัสก็ไม่กลัวอะไรแล้ว”  พูดพลางก็เอามือมาขยี้หัวผม ตอนนั้นผมรู้สึกรักมันมากขึ้นกว่าเดิม และรู้สึกอบอุ่นมาก ๆ ครับ

“ปะ เรามากินข้าวเช้าดีกว่า  นี่ยังไม่ได้กินอะไรเลยใช่ม๊า กัสซื้อมาเยอะแยะเลย” พูดจบกัสมันก็ชูถึงกับข้าวเยอะแยะเลยครับ ส่วนผมก็เดินไปหยิบจานมา

“เออ บิว เจ้าปลาทองเป็นอะไรไปหรอ”  กัสพูดขึ้นขณะดีดนิ้วเล่นกับเจ้าปลาทองครับ แต่ดูแล้วเจ้าปลาทองคงไม่อยากเล่นด้วย

“เห็นพัดบอกว่าเป็นโรคอะไรซักอย่างเนี่ยแหละ จำไม่ได้แล้วว่าโรคอะไร เขาจะฝากยาแป๋มมาให้”

“อ้อ  แล้วใครคือพัดหละ”  กัสเดินเข้ามาช่วยผมยกจานพร้อมถามมองหน้าผม

“อ้อ เพื่อนแป๋มมันนะ เขาเป็นสัตวแพทย์ เลยมาช่วยดูให้”

“อย่าไปเข้าใกล้เขามากละกัน” มันพูดไม่มองหน้ามองตาผม

“ทำไมอะ เขาก็ดีนะ”

“ไม่รู้หละ กัสไม่ชอบนิ” เมิงหึงกรูใช่ม๊า

“ก็ได้” พอผมรับปากมัน มันก็ยิ้มออกมาเลยครับ


ระหว่างที่กินข้าวกันเราก็คุยกันไปเรื่อยเปื่อยครับ หยอกกันบ้าง งอนกันบ้าง ดู ๆ ไปแล้วก็น่ารักดี คิดไม่ถึงนะครับว่ากัสจะขี้หึง อิอิ


“เออ บิว เมื้อเช้ากัสซื้อหนังมาอะ  บิวมีเรื่องเล่นปะ” กัสถามผมขึ้นขณะที่เราช่วยกันล้างจานอยู่ครับ

“อืม มีสิ  ซื้อเรื่องไรมาอะ” กำลังเซ็ง ๆ อยู่พอดี

“เรื่องน็อททิ้ง ฮิลล์ นะ” ผมจำได้แล้วครับ หนังเรื่องนี้ ผมยังไม่เคยดูหรอก  เพราะตอนนั้นอยู่ต่างจังหวัด เลยไม่มีโอกาสได้ไปดู

“จริงหรอ เรายังไม่ได้ดูเลย”  ผมยิ้มกว้างเลยครับ ส่วนกัสพอเห็นผมยิ้ม มันก็เลยยิ้มตาม  ตาหยีเลยครับ น่ารักดี 

ล้างจานเสร็จก็จัดแจงเปิดหนังดู ดูไปได้ซัก 10 นาที หันไปหากัส  อ้าว หลับไปแล้วนิหว่า ผมเลยค่อย ๆ จัดแจงให้กัสมันนอนเหยียดขาสบาย ๆ บนโซฟา ส่วนผมก็ลงมานั่งกับพื้นหันหลังพิงโซฟา  ดูหนังที หันไปดูหน้ากัสที เห็นมันนอนกอดอก ก็เลยลุกขึ้นไปหยิบผ้าห่มในห้องนอนออกมาห่มให้มัน รู้สึกมีความสุขจังเวลาได้อะไรเพื่อคนที่เรารักเนี่ย

ระหว่างที่กำลังดูหนังเคลิ้ม ๆไปกับความโรแมนติกอยู่นั้น จู่ ๆ ก็ต้องสะดุ้งกับการจู่โจมของคนด้านหลังที่ขโมยหอมแก้มดังฟอดใหญ่ พร้อมกับอ้อมกอดแน่น ๆ ของคนข้างหลังที่คิดว่าหลับไปแล้ว

“กัส ทำอะไรอะ ตกใจหมด”  ผมหันไปดุ ก็เห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของคนที่นอนสบายอยู่บนโซฟา ท่าทางพึ่งจะตื่น

“ก็ตั้งแต่เป็นแฟนมา กัสยังไม่เคยได้หอมแก้มบิวเลยนะ”ไม่ต้องมายิ้มเลยเมิง


ผมไม่ได้พูดอะไรต่อ เพราะมัวแต่เขิน  ครั้งแรกนะคับเนี่ย ส่วนไอ้กัสก็ยังไม่หยุดซักที  ค่อยยื่นหน้าเข้ามา เอาหน้าผากมันมาชนกับหน้าผากผม

“หน้าแดง ๆ ตัวร้อน ๆ เนี่ย โกรธหรือว่าอายหรอ”  ตอนนี้ผมสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่น ๆ ของมันเลยครับ

“ไอ้บ้า”  เขินนะเฟ้ย

“ถามจริง ๆ บิวชอบกัสหรือเปล่า” มันไม่พูดปล่าว ยังทำตาเยิ้มใส่อีก  ใกล้กันเกินไปแล้วนะเมิง

“อืมมมมมมมมม.....ไม่บอก”  เล่นตัวหน่อย

“ง่า”   ไม่ต้องมาทำหน้างุ้ม เสียงอ้อนเลย

“แล้วกัสหละ ชอบเราตอนไหน”

“อืม....ชอบบิวตอนไหนหรอ”   ทำไมคิดนานจังวะ

“ก็...ก็ วันที่เจอบิวเดินกับแป๋มนะ กัสเห็นว่าบิวน่ารักดี ก็เลย..ก็เลย ชอบอะ” อิอิ ถ้าผมเดาไม่ผิด ผมเห็นไอ้กัสมันเขินนะเนี่ย

“แต่วันนั้นเราเห็นกัสเดินกับผู้หญิงนิ”  ต้อนครับ ต้องต้อนให้จนมุม

“อ้อ คนนั้นนะแจง แต่เราไม่ได้เป็นอะไรกันแล้วนะ...เชื่อใจกัสนะ”

“กัส”  ผมมองเข้าไปในตาของมัน

“หือ”  มันก็จ้องกลับมา ท่าทางจะเคลิ้ม

“เอาหน้าผากออกได้ยัง ปวดฉี่!!!”

“โหบิวอะ ไม่โรแมนติกเลย” มันทำเสียงกระเง้ากระงอดก่อนจะปล่อยมือที่กอดผมอยู่ ผมก็ได้แต่ขำในท่าทีของมัน


…….....ยิ้มให้ความผิดหวัง อย่างคนคุ้นเคยยิ้มให้ความมืดมน    อย่างคนรู้จักกันนี่คือเพื่อนเก่าที่เราต้องเจอ เจอกันเมื่อนานแสนนาน............  ไม่ใช่เสียงเพลงหรอกครับ เสียงริงโทนผมต่างหาก หุๆๆ

“อ้าว ชิบแล้วไง ไอ้แป๋มโทรมา” ผมกับกัสมองหน้ากันทันที ก่อนที่กัสจะตัดสินใจเดินมาหยิบโทรศัพท์จากมือผม และออกไปยืนคุยที่หน้าระเบียงโดยที่ไม่ให้ผมตามไปด้วย

มันสองคนคุยกันนานมาก นานจนผมแทบจะทนไม่ไหว ดูจากสีหน้าของกัสแล้ว ตอนแรกก็ออกจะเครียด ๆ แต่ตอนหลังรู้สึกว่าผ่อนคลายลง เพี้ยง!! ขอให้จบแบบสวย ๆ ด้วยเถิด สาธุ

หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง แต่สำหรับผมแล้วมันเหมือนครึ่งวัน กัสก็เข้ามาในห้อง ผมรีบกระโจนเข้าไปถามทันที

“กัส   เป็นไงบ้าง แป๋มมันว่าไงบ้าง”

“......................................................”ทำไมกัสไม่ตอบหละ

“กัส”  ผมเรียกมันเสียงค่อยแล้วครับ ตอนนี้รู้สึกว่ามันจะจบไม่สวย

“บิวจะเอาข่าวดีหรือข่าวร้ายก่อนหละ”  เอ๊ะ ยังไง มีทั้งข่าวดีข่าวร้าย

“เอาข่าวดีก่อนละกัน” เผื่อว่ามันจะช่วยกลบข่าวร้ายได้

“ข่าวดีก็คือ............แป๋มมันยอมให้กัสคบกับบิวแล้วหละ มันแค่โกรธที่ไม่ยอมบอกมัน แถมมันยังบอกด้วยว่าให้กัสดูแลบิวดีๆ”

พอกัสพูดจบ หน้าที่เจื่อน ๆ ของผมก็อาบไปด้วยรอยยิ้มทันดี ก่อนที่จะกระโจนเข้าไปกอดคอกัสแบบลืมตัว  แบบว่าดีใจอะ

“แต่เอ๊ะ  แล้วข่าวร้ายหละ”

“ข่าวร้ายก็คือ...บิวคงจะต้องอยู่กับกัสไปตลอดเลยหละ”  มันพูดจบก็ยักคิ้วให้ทีหนึ่ง นี่แกล้งกันนิหว่า

“บิว” อยู่ดี ๆ กัสก็หยุดยิ้ม ก่อนที่จะมองตาผม พร้อมกับเอามือขึ้นมาค่อย ๆ รูปไปตามหน้าผาก ไล่ลงมาตามแก้มอย่างแผ่วเบา

“หือ”

“กัสรักบิวนะ” ไม่พูดปล่าว แต่ค่อย ๆ ก้มหน้าเข้ามาช้า ๆ ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าอะไรจะเกิดขึ้น ใจหนึ่งก็อยากขัดขืน แต่อีกใจหนึ่งก็อยากตอบรับ ซึ่งความรู้สึกอย่างหลังกลับมีกำลังมากกว่า จึงทำให้ผมไม่ปฏิเสธ ผมค่อย ๆ หลุบเปลือกตาลงช้า ๆ ปล่อยให้ทุกอย่างดำเนินไปตามที่มันควรจะเป็น

ตอนนี้ลมหายใจของกัสมันชัดเจนมากยิ่งขึ้น  ก่อนจะตามมาด้วยสัมผัสที่แผ่วเบาบนริมฝีปาก ไม่มีการรุกล้ำให้ตกใจ แต่แค่สัมผัสนิ่ง ๆ ของริมฝีปากที่เปียกชื้นนั้น ทำให้ใจผมหวิว ๆ พิกล ขาเริ่มไม่มีแรงทรงตัว จนต้องใช้มือทั้งสองข้างยึดไหล่อีกฝ่ายหนึ่งไว้ ริมฝีปากนั้นสัมผัสเนิ่นนาน และจูบเน้น ๆ อีกครั้งหนึ่งที่ริมฝีปากบนของผมก่อนที่จะค่อย ๆถอนออก

“ดีไหม” ตอนนี้หน้ากัสแดงเหมือนกันครับ ไม่รู้ว่าหน้าของผมจะแดงเหมือนหน้ากัสหรือเปล่า

“รู้สึกดีไหม”  กัสยังคงรุกคำถามผมต่อ แต่ตอนนั้นไม่มีแรงตอบเพราะอาการใจหวิว ๆ จึงได้แต่พยักหน้าเบา ๆ ก่อนจะก้มหน้าหลบสายตาที่จ้องมองมาอย่างกับจะทะลุไปถึงข้างใน

เมื่อกัสเห็นผมพยักหน้า รอยยิ้มกว้างก็เผยอออกมา พร้อมทั้งดึงผมเข้าไปกอด ผมรับรู้ได้ถึงความรู้สึกอบอุ่นแบบที่ไม่เคยได้สัมผัสมานานมากแล้ว ตั้งแต่ผมเหลืออยู่ตัวคนเดียว ผมพยายามซุกหน้าลงไปให้แนบแน่นกับหน้าอกกัสให้ได้มากที่สุดเพื่อที่จะได้จดจำความรู้สึกดี ๆ แบบนี้ตลอดไป


ตอนนี้ผมมั่นใจในตัวผู้ชายคนข้างหน้าผมมากขึ้น ผมไม่กลัวอะไรอีกแล้ว ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตามในอนาคตข้างหน้า ผมก็พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับมันตราบใดที่ผมยังมีกัสอยู่ข้าง ๆ  สำหรับคนอื่น ๆ แล้วการเจอกันครั้งนี้ของผมกับกัสมันอาจจะดูเหมือนว่าเร็วเกินไป แต่สำหรับผมแล้ว ผมถือว่ามันเป็น “รักแรกปิ๊ง” ในโลกนี้มีคนเป็นล้าน ๆ คน แต่ผมขอแค่คน ๆ เดียวที่พร้อมจะเดินไปพร้อม ๆ กับผม และผมก็มั่นใจแล้วครับว่าผมได้เจอคน ๆ นั้นแล้วครับ คนที่กอดผมอยู่นี่ไง....

ออฟไลน์ nOn†ღ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-6
 :o8:  :o8:

ขอให้รักราบรื่นนะ   :oni2:

piyakorn

  • บุคคลทั่วไป
 :a4:กัส น่ารักและดูอบอุ่นดีจัง แต่ผมยังกลัวว่ากัสจะมีแผนการณ์อะไรอยู่ อะดิ๊

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ifwedo

  • บุคคลทั่วไป
ขอให้ราบรื่นด้วยคน

ออฟไลน์ krappom

  • 人は誰でもそれぞれに悩みを抱えて生きる
  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1182/-23

รักกันก็ดีแล้ว

แต่ก็ยังอดรู้สึกทะแม่งๆ ไม่ได้แฮะ

 :m29:


ออฟไลน์ -~iK@iZ_KunG~-

  • Tomorrow Never Die!!!
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2231
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +220/-2
รักกันนาน ๆ นะครับ

แต่รู้สึกจะมีอะไรบางอย่างที่ยังไม่กระจ่างนะ หุหุ

 :m1: :m1:

ออฟไลน์ artday

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
ตอนนี้ดูทะเลมันสงบยังงัยไม่รู้ กลัวมีเรื่องเศร้า  :m23: :m23: รออ่านต่อนะ

detective Q

  • บุคคลทั่วไป
สนุกดีแฮะ

snowblack

  • บุคคลทั่วไป
ชอบครับมาต่ออีกเร็วๆนะครับ

เป็นกำลังใจให้ครับ :m13:

Bambu

  • บุคคลทั่วไป
ช่วงนี้เป็นช่วงสอบแล้วครับ จึงทำให้ผมกับกัสต่างต้องทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด แต่บางทีกัสก็จะมาอ่านหนังสือสอบที่ห้องผมนะครับ  คณะที่กัสเรียนอยู่นั้นค่อนข้างยากเหมือนกัน ทำให้ต้องอ่านหนังสือหนักกว่าผม  แต่ดูกัสมันก็ตั้งใจดีเหมือนกันครับ  บางทีผมเห็นกัสเครียด ๆ ผมก็จะแหย่ให้มันหัวเราะบ้าง มันก็จะแหย่ผมคืนครับ แกล้งกันไปมา สนุกดีครับ  แต่ผมกับมันนั้น ยังไม่มีอะไรเลยเถิดไปถึงขั้นมีอะไรกันหรอกนะครับ  อย่างมากก็แค่จูบกัน นอนกอดกันแค่นั้น อาจจะเป็นเพราะว่าผมยังไม่พร้อมด้วย ส่วนกัสนะหรอ ตามใจผมสิครับ อิอิ


หลังจากผ่านช่วงหฤโหดแล้ว เราตกลงกันว่าจะไปเที่ยวกัน โดยไปกันทั้งหมดอะครับ ก็มี ผม กัส แป๋ม และไอ้ฟิล์มแฟนมัน ดูท่าทางไอ้กัสกับฟิล์มจะกระดี้กระด้าใหญ่ จนผมแปลกใจ ถามมันมันก็บอกมันดีใจที่จะได้มาเที่ยวต่างจังหวัดกับแฟนเป็นครั้งแรก  ผมก็หน้าบานเลยสิครับ


วันนั้นเราตกลงกันว่าจะขับรถไปกันเอง เพราะมีกันอยู่แค่สี่คน ฟิล์มทำหน้าที่คนขับครับ ไอ้แป๋มนั่งหน้า ส่วนผมกับกัสนั่งข้างหลังครับ จุดหมายปลายทางของพวกเราก็คือ หัวหิน เพราะไอ้ฟิล์มมันมีคอนโดอยู่ที่นั่น (รวยจริงนะเมิง)  เราออกจากกรุงเทพกันแต่เช้า ใช้เวลาไม่นานเราก็มาถึงหัวหิน ระหว่างทางนั่งรถมา ผมก็หลับมาตลอด เพราะว่าเมื่อคืนตื่นเต้นจัด จนนอนไม่หลับ

“บิว ๆ ถึงแล้ว”

ผมงัวเงียลืมตาขึ้นมา กัสนั่นเองครับที่ปลุกผม แต่พอผมหันไปอีกทางสิ่งที่ผมเห็นทำให้ผมหายง่วงเป็นปลิดทิ้ง เพราะว่าตอนนี้เบื้องหน้าของผมคือหาดทายที่ขาวสะอาด ตัดกับผืนน้ำสีเขียวอมฟ้าที่นิ่งสนิท เส้นขอบฟ้าอยู่ใกลๆ ที่แบ่งระหว่างท้องฟ้ากับผื่นน้ำ แม้ว่าจะเป็นช่วงบ่าย แต่ว่าแดดร่มลมตก กำลังดีเลยครับ ผมกำลังเคลิ้มได้ที่ถ้าไม่ได้ยินเสียงมาจากนรก

“ไอ้บิว เมิงจะลงจากรถได้ยัง เคลิ้มเชี่ยไร”  ไอ้ฟิล์มนั่นเองครับ แม่งชอบขัดจังหวะความสุขกรู หันไปหาไอ้กัส ก็เห็นมันขำใหญ่  พอกันเลยนะเพื่อนคู่นี่

“ทำยังกะไม่เคยมาทะเล”  ไอ้เชี่ยนี่ยังไม่เลิก ผมก็ไม่ได้โต้ตอบอะไรออกไปครับ แต่ส่งค้อนให้มันวงใหญ่

“ปะ บิว เดี๋ยวกัสถือกระเป๋าให้” พูดจบก็จะดึงกระเป๋าผมไปถือครับ

“เฮ้ย ไม่เป็นไร ไม่หนักหรอก แค่นี่เอง เดี๋ยวถือเอง”

“เล่นตัวอีกนะเมิง” แม้ว่าจะเป็นเสียงเบา ๆ ที่ไอ้ฟิล์มมันพูดขึ้นมา แต่ผมก็ได้ยินอย่างชัดเจน ผมหันขวับไปมองหน้ามันทันที มันก็หันจ้องผมกลับมาอย่างไม่ลดละ พร้อมกับยักคิ้วให้หนึ่งที

“ไม่เอาน่าฟิล์ม” ไอ้แป๋มครับ หันไปดุแฟนมัน ส่วนผมนะหรอ อยากจะเดินเข้าไปสกายคิกมันซักที ดีนะเนี่ยที่มันตัวใหญ่กว่า ตัวสูงกว่าแค่นั้น ไม่งั้นได้เป็นเรื่องแล้ว

“แป๋ม เดี๋ยวเมิงช่วยหาตะกร้อช่วยครอบปากแฟนเมิงไว้ด้วยนะ อย่าให้ไปกัดใครเขา เดี๋ยวต้องเสียเงินค่าฉีดยาโรคพิษสุนัขบ้าอีก”  ก่อนจะแยกย้ายกันไป ขอเอาคืนซักทีครับ

“ปากดีนักนะเมิง เดี๋ยวก็.........”  ไอ้ฟิล์มครับ มันพูดจบไว้แค่นั้น และมันก็ทำหน้ากวนอวัยวะเบื่องล่างมาก ๆ พร้อมทั้งเอามือรูปคางตัวเอง


“แป๋ม  กรูจะนอนที่ไหนวะ”  ผมหันไปหาถามไอ้แป๋มครับเมื่อเราเดินขึ้นมาถึงห้องพักแล้ว  ห้องพักนี้ค่อนข้างกว้างพอสมควรครับ เป็นห้องชุดที่มีห้องนอนสองห้อง ห้องน้ำ ห้องครัว ห้องนั่งเล่น ระเบียงที่มองเห็นวิวทะเลชัดเจน

“กรูเป็นผู้หญิง กรูก็ต้องนอนคนเดียว ส่วนแกก็ไปนอนห้องเดียวกับกัสกับฟิล์มนะ มันเป็นห้องใหญ่ นอนได้หลายคน”

“ง่า -*-“ ผมเริ่มกระเง้ากระงอด เพราะไม่อยากไปนอนห้องเดียวกับไอ้ฟิล์มมัน

“กรูนอนกับเมิงไม่ได้หรอ”

“ไม่ได้ อีนี่เมิงไปนอนกับพวกนั้นนะดีแล้ว”  แล้วมันก็เดินเอาของเข้าไปเก็บในห้อง พร้อมกับปิดประตูหายไป ทิ้งให้ผมเผชิญหน้ากับมารคนเดียว เมิงนะเมิง จำไว้

“บิว นอนห้องเดียวกับกัสนี่แหละ ดีแล้ว”  อยู่ ๆ ไอ้กัสมันก็พูดขึ้น แล้วก็ถือกระเป๋าผมนำเข้าห้องไป ตามด้วยฟิล์มที่เดินตามเข้าไป ทำให้ผมต้องจำใจเดินตามเข้าไปอีกคน

พอผมเข้าไปในห้อง ก็เริ่มสำรวจห้องทันทีครับ ห้องนี้ใหญ่เหมือนกัน มีเตียงอยู่ 2 เตียง ซึ่งเป็นเตียงขนาดนอนได้ 3 คนสบาย ๆ เลย ไอ้ฟิล์มนอนเตียงหนึ่ง ส่วนกัสบอกว่าให้ผมนอนเตียงเดียวกับมันครับ และไม่วายที่จะถูกไอ้ฟิล์มกัดอีกจนได้ ตามประสาคนชอบกระแหนะกระแหนของมันนั่นแหละครับ  แต่ผมทำเป็นหูทวนลมซะ จนมันเลิกไปเองแหละครับ

หลังจากเก็บข้าวของเสร็จแล้ว เราก็จะตกลงกันว่าจะเล่นน้ำทะเลกันก่อนที่จะไปหาอะไรกิน เนื่องจากว่ามันเป็นหาดส่วนตัวของคอนโดนี้ จึงทำให้ไม่มีคนเลยครับ หาดทรายก็สวย ทะเลก็สวย นิ่งสงบดี แต่เขาว่า ทะเลที่นิ่ง ๆ นี่น่ากลัวใช่ไหมครับ  แต่สำหรับผมแล้ว ผมไม่กลัวหรอกครับ อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด เพียงแต่เราจะรับมือกับมันยังไงต่างหาก

ช่วงนี้ก็ปล่อยให้เป็นช่วงหวาน ๆ ระหว่างไอ้แป๋มกับฟิล์มมันครับ ตอนแรกไอ้แป๋มจะไม่เล่นน้ำเพราะกลัวดำ แต่ไอ้ฟิล์มมันอุ้มไอ้แป๋มตัวลอยเลยครับและจับโยนลงไปในทะเล และมันก็แกล้งกันไปแกล้งกันมา จับกดน้ำมั่ง เอาทรายปั้นเป็นก้อน ๆ และปาหัวกันบ้าง ดูแล้วโหด ๆ ยังไงไม่รู้

ระหว่างนั้นผมหันไปมองไอ้กัส เห็นมันมองมาเหมือนกัน ผมเริ่มรู้ชะตาตัวเองแล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้น เลยตั้งท่าจะวิ่งหนี แต่ไม่ทันเสียแล้ว มือยาว ๆ ของมันคว้าเอวผมไว้ และแบกผมขึ้นบ่า และวิ่งลงไปในทะเลอย่างเร็ว

“กัส ปล่อยยยยยยยยย ไม่เอานะเว้ย ปล่อยยยยยยยยย” ผมแหกปากดังลั่นชายหาด ดีนะว่าไม่มีคนอยู่

แต่กัสเหมือนจะไม่ได้ยินเสียงผม มันแบกผมวิ่งลงไปในทะเล พอลึกถึงระดับหนึ่งมันก็จับผมโยนลงไปในทะเล ทั้งเจ็บทั้งจุก จนลุกไม่ขึ้น ใครเคยโดนน่าจะรู้นะครับว่าตอนที่ก้นเรากระแทกลงบนพื้นทรายมันเจ็บขนาดไหน หันไปเห็นไอ้กัสเห็นมันยืนหัวเราะอยู่ เลยจะหาวิธีเอาคืนมัน


“โอ้ย!!!!” ผมร้องเสียงดังลั่น พร้อมกับทำหน้าเหยเกเพื่อให้กัสมันเห็นว่าผมเจ็บมาก กัสมันตกใจมาก เลยรีบเข้ามาพยุงผม

“ป๊าบบบบบบบ” ไม่ใช่เสียงอะไรหรอกครับ แต่เป็นเสียงทรายเนื้อละเอียดที่ผมกำขึ้นจากพื้นปาใส่หน้ามันเต็ม ๆ ตามด้วยเสียงหัวเราะอย่างสะใจของผม

“โหย เล่นยังงี้ใช่มะ……..ด้ายยยยยย” มันกระเง้ากระงอดใส่ผม พร้อมทั้งกระโจนเข้าหาผมทั้งตัว พร้อมทั้งล็อคตัวผมไหวและแบกขึ้นจนลอยในอากาศ และก็ทุ่มผมลงน้ำอีกที แต่คราวนี้ผมไม่ยอมหรอกครับ ผมก็ยึดมันไว้แน่น ทำให้ตอนนี้ผมกับมันล้มไปด้วยกันทั้งคู่

“โอ้ยยยยย!!!!!!!”  ไม่ใช่เสียงใครหรอกครับ เป็นเสียงของผมเองที่ร้องขึ้นมาอย่างเจ็บปวด เนื่องจากว่าตอนล้มลงไปนั้นลงไปผิดท่า รวมถึงน้ำหนักที่ไม่ใช่เบา ๆเลยของกัสที่ล้มทับตามลงมา ทำให้มือที่ผมยันกับพื้นไว้รับน้ำหนักไม่ไหวนั่นเอง

“เฮ้ยยยย บิว เป็นไรอะ” ไอ้กัสถามผมเสียงตื่น ท่าทางงมันคงจะตกใจไม่ใช่น้อย หน้ามันเจื่อนลงไปเลยครับ ส่วนตอนนี้ไอ้ฟิล์มกับไอ้แป๋มก็วิ่งเข้ามาสมทบอีกคน


ไอ้กัสรีบดึงมือผมขึ้นมาดู  โอ้โห นี่ขนาดแป็บเดียวนะครับเนี่ย บวมเป่งเลย
 
“ท่าทางมือคงจะเคล็ดวะ กรูว่ารีบพาส่งโรงพยาบาลเหอะ”  เสียงไอ้มารฟิล์มครับพูดขึ้น
“เออ....ได้ บิวเดินไหวไหม” ไอ้กัสถามผมขึ้นครับ

“อืมไหว ไม่เป็นไรมากมั้ง คงจะแค่ซ้นนะ” และก็จริงครับ เมื่อเราไปคลีนิคแถวนั้น หมอก็เช็ค ๆ ดูแล้วก็บอกว่าแค่ซ้น นวดน้ำมัน ประคบผ้า และพันเอาไว้ ไม่กี่วันก็คงหาย แต่ผมนะสิครับ เซ็งเลย มาทะเลแทนที่จะได้เล่นน้ำ กลับต้องมานั่งแกร่วดูพวกมันเล่นน้ำกัน

ตอนเย็นหลังจากกินข้าวกันเรียบร้อยแล้ว เราก็มีปาร์ตี้เล็ก ๆกัน 4 คนริมชายหาดนั่นแหละครับ กัสบอกให้ผมนั่งเฉย ๆ เดี๋ยวมันจะทำมาให้กินเอง  ผมก็เลยนั่งคุยกับไอ้แป๋มมันไปเรื่อย ๆ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของสองหนุ่มในการปิ้งบาบีคิวครับ


“แป๋ม ถามไรหน่อยดิ” ผมหันไปถามไอ้แป๋มที่ตอนนี้นั่งเขี่ยทรายเล่นอยู่

“อือ ว่าไง”

“แกรู้ไหมวะ ว่าทำไมกัสถึงมาชอบกรู”

ไอ้แป๋มมันทำท่าคิดไปนิดหนึ่ง

“อืมมมมมมม กรูไม่รู้เหมือนกันวะ บิว แต่ก่อนมันก็ไม่มีวี่แววว่าจะชอบผู้ชายเลยนะ”

“หรอ.......” ตอนนี้สายตาผมเลื่อนลอยไปหยุดที่กัสที่ตอนนี้กำลังหัวเราะร่ากับไอ้ฟิล์มสองคน ดู ๆ ไปกัสนี่มันหล่อเข้าขั้นเทพเลยนะ แล้วทำไมมันถึงมาบอกว่าชอบผม แถมยังขอผมเป็นแฟนหลังจากที่รู้จักกันไม่นาน เพราะอะไรน๊า

“เออ บิว”

“หือ” ผมขานรับไอ้แป๋ม แต่ตาผมยังคงเลื่อนลอยไปที่ไอ้กัสอยู่

“กัสเขาดีกับบิวไหม”

“ดีสิ ดีมากเลย” ผมหันไปยิ้มให้ไอ้แป๋มหนึ่งที

“งั้นก็ดีแล้ว ดีใจด้วยนะเว้ย มีแฟนซักที”  ไอ้แป๋มกันก็ยิ้มตอบผมกลับมาพร้อมทั้งเอามือกอดไหล่ผม แล้วอยู่ ๆ ไอ้แป๋มมันก็ร้องเพลง ๆ หนึ่งขึ้นมาครับ

“อยากบอกให้รู้ เธอคือลมหายใจ
 คือสายใยที่ใจ ผูกพันธ์
 วันคืนที่แสนเศร้า ไม่นานก็พ้นผ่าน
 คงมีสักวันที่เป็นของเธอ


พอไอ้แป๋มมันร้องขึ้นมาจนถึงตอนนี้ แล้วมันก็หยุด  พร้อมกับยื่นกิ่งไม่มาให้ผม  ผมก็เลยต้องรับมุขร้องต่อมันซะหน่อย
 
ได้ยินใช่ไหม หัวใจมันเต้นแรง
 ทุกๆครั้งที่เราได้เจอ
 ยืนยันให้มั่นใจ ยังไงก็รักเธอ
 ไม่ต้องถามเลย ว่านานสักเท่าไหร่



พอมาถึงท่อนฮุก เราสองคนก็เริ่มใส่อารมณ์เต็มที่ ตะเบ็งแหกปากขึ้นมาพร้อม ๆกัน ส่วนไอ้ฟิล์มกับกัสตอนนี้มองเราสองคนอย่างอารมณ์ดีเลยแหละครับ

ตราบใดที่ฟ้า นั้นมีตะวัน ก็คงเปรียบดังใจฉัน
 ต้องการแต่เธอ คนเดียวมั่นคงในใจ
 หากวันใดฟ้า ไม่มีตะวัน ก็เหมือนเป็นความรัก มืด ไป
 คงอยู่ไม่ไหว หากฉันไม่มีเธอ ... ฮุ้


ท่อนนี้อันที่จริงแล้วผมจะต้องเป็นคนร้องครับ เพราะว่ากิ่งไม้ที่ใช้แทนไมค์นั้นอยู่ที่ผม  แต่กัสครับ มันแย่งไปร้องเสียก่อนพร้อมกับมองหน้าผมไปด้วย


เมื่อไหร่ที่ท้อ เมื่อไหร่ที่เสียใจ มองหาใครไม่เจอสักคน
 เธอจะมีฉันอยู่ ปลอบใจที่หมองหม่น
คลายความร้อนรนให้มันหายไป

ยิ่งนานเท่าไหร่ฉันยิ่งรักเธอ


พอมันร้องท่อนสุดท้ายจบ ตามันมองผมเยิ้มเลยครับ
“เฮ้ย ๆ เมิงสองตัวจะกินกันมั้ย” เสียงไอ้ฟิล์มครับที่เป็นเสียงมารมาขัดความสุขผม  ทำให้ผมกับกัสต้องแยกกันออกอย่างเขิน ๆ ส่วนไอ้แป๋มก็หัวเราะคิ๊กคัก  เฮ้ย จะมีใครมีความสุขเท่าผมตอนนี้ไหมครับเนี่ย อยากให้ความสุขนี้อยู่ตลอดไปนาน ๆ จัง มีเพื่อนที่น่ารัก มีแฟนที่น่ารัก ทุก ๆ คนล้วนน่ารัก แต่เขาว่าความสุขมักอยู่กับคนเราไม่นานนัก เพื่อน ๆ ว่าจริงไหมครับ

kimsumsoon

  • บุคคลทั่วไป
คิ้มว่าเป็นแผนของฟิล์มที่ใช้กัสมาจีบบิวแน่ๆเลย
เพื่อให้บิวมีแฟนแล้วจะได้ไม่ตัวติดกันกับแป๋ม
เผื่อว่าฟิล์มมันจะได้จู๋จี๋ ดู๋ดี๋กับแป๋มมั่ง


ifwedo

  • บุคคลทั่วไป
คนที่น่าสงสารก็กลายเป็นบิวดิ ฮืออ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด