อ้อนนักรักซะดีแมะ 8/6/2555 : 12.45 น. ตอนจบ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: อ้อนนักรักซะดีแมะ 8/6/2555 : 12.45 น. ตอนจบ  (อ่าน 88609 ครั้ง)

ออฟไลน์ NuNew

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 176
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-2
รับกติืกาักันก่อนครับ

แล้วเดี๋ยวมาทักทายกัน


บันทึกเพิ่มเติม 9/5/2555

ผมคงไม่ได้ระบุชื่อตอนนะครับ ไม่สามารถจริง ๆ

เรื่องนี้ผมเขียนจากความทรงจำ + คำบอกเล่า แล้วก็เอามาัดัดแปลงใ้ห้มันเป็นนิยาย

เพราะงั้นมันก็จะไหลไปเรื่อย ๆ บางตอนสั้น บางตอนยาว บางตอนก็จะเพ้อ ๆ

เพราะคนเขียนก็ออกแนวเ้พ้อเจ้อเล็กน้อย





ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์  และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด
โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.อย่าพูดคุย ทักทาย นักเขียน คนอ่่านโดยรีพลายดังกล่าวไม่เกี่ยวพันกับนิยายให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรคอมเม้นต์สักคอมเม้นต์เีดียวก็เพียงพอแล้ว ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และทำลิงค์โยงมายังนิยาย และให้นักเขียนทุกคนทำลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยเกี่ยวกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม




กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่

http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะ
ไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง

เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควาน
ตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ...........
.
.
เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า............
.........
บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้
เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์  และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน

ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด  คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกัน

การแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน
แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต
และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่น

ช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ    เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆ
ก็ขอให้ระลึกเสมอว่า อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเอง
เพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่ง

ส่วนการพูดคุยนั้น  ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์
ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย

ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้
หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชาย
เข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

5.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

6.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

7.ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บเพจนี้ เกิดจากการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และ ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง

8.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด
โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม
ให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่า
แล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ด
เป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

9.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

10.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

11.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน

ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

12.อย่าพูดคุย ทักทาย นักเขียน คนอ่่านโดยรีพลายดังกล่าวไม่เกี่ยวพันกับนิยายให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรคอมเม้นต์สักคอมเม้นต์เดียวก็เพียงพอแล้ว ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และทำลิงค์โยงมายังนิยาย และให้นักเขียนทุกคนทำลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยเกี่ยวกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วย เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน




เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆ

หุหุ

admin
thaiboyslove.com
.......................................
                                                            วันที่ 3 ธ.ค. 2551

วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7


เรียน   ท่านสมาชิกทุกท่านทราบและโปรดดำเนินการอย่างเคร่งครัด

เรื่อง  กฎกติกาและมารยาท


          กรุณาอ่านข้อความข้างล่างที่แนบมาด้วยข้าล่างนี้   ด้วยความระมัดระวังยิ่ง

เพราะเป็นบรรทัดฐานที่พึงยึดและปฏิบัติตามอย่างไม่สามารถพิจารณาเป็นอื่นได้

หากผู้ใดฝ่าฝืน  ทางเราจะดำเนินการลงโทษอย่างเด็ดขาดต่อไป


      จึงเรียนมาให้ทราบโดยทั่วกัน

                                                                                 นับถือ

                                                                            อิเจ้  โมดุเรเตอร์




......................................
หวังใจเป็นอย่างยิ่งว่าคงได้รับความร่วมมือจากทุกท่านนะครับ

ถ้าพบเห็นกระทู้ได้ละเมิดกฎข้างต้น Webmaster,Administrator,Moderator สามารถลบกระทู้ดังกล่าวได้ทันที โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

หากผู้ได้ฝ่าฝืน การทำการดังกล่าว ทาง Webmaster,Administrator,Moderator จะมี message ไปแจ้งเตือน

หากยังกระทำความผิดดังกล่าวอีก ทางWebmaster,Administrator,Moderator จะลบaccoutสมาชิกท่านนั้นออกจากระบบทันที


ขอบคุณในความร่วมมือ

พูห์

Junrai_Hyper

Global Moderator
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-06-2012 12:57:15 โดย ์NOO »

ออฟไลน์ NuNew

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 176
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-2
Re: อ้อนนักรักซะดีแมะ
«ตอบ #1 เมื่อ08-05-2012 00:14:45 »



เป็นเรื่องแรกที่ผมขอเอามาโพสท์ที่เล้าเป็ดนี้นะครับ

ก่อนหน้านี้ก็ไม่เคยได้เข้ามาด้วยซ้ำ

ผมเพิ่งจะสมัครเป็นสมาชิกเมื่อไม่กี่วันนี่เอง

หวังว่าจะได้รับตอบรับที่ดีจากผู้อ่านทุกท่านนะครับ


ขอเล่าที่มาก่อนซักหน่อยนะครับ

เรื่องนี้เป็นเรื่องเก่าที่ผมเคยโพสท์ไว้ที่เว็บนึงนานมาแล้ว และพอเว็บนั้นปิดไป

ผมก็ไม่ได้ลงที่ไหนอีกเลย มันยังคงเป็นไฟล์เล็ก ๆ ที่ผมเก็บไว้ในเมล์อยู่นั่นเอง

แล้วอยู่มาวันนึง เมื่อเร็ว ๆนี้ ก็มีคนที่เคยอ่านที่เว็บเก่านั้น อยากจะอ่านมันซ้ำ

ผมก็เลยตัดสินใจที่เอามาลงอีกครั้ง

อย่างน้อยก็ไว้เป็นอนุสรณ์ว่าครั้งนึงผมก็แต่งนิยายจบกะเค้าได้เหมือนกัน

ขอฝากตัวเป็นสมาชิกด้วยคนครับ





       ปืนเป็นหนุ่มโสด รูปหล่อ ปากหวาน (เวลาจะฉอเลาะสาว)  พูดเพราะ (ได้ถ้าอยากทำ) อายุอานามไม่มาก แค่ 25

เหมาะที่จะเลี้ยงดูใครเป็นตัวเป็นตนได้แล้ว แต่ก็ยังไม่เลี้ยงใครสักคน ยังคงลอยละล่องไปท่ามกลางหมู่ภมรและภุมรี

อย่างสนุกสนาน อาศัยความมั่นคงในอาชีพและรูปร่างหน้าตา เป็นต้นทุนในการหาความสุขสำราญในชีวิตไปวัน ๆ

อย่างไม่รู้เบื่อหน่าย

   งานการที่ปืนทำตั้งแต่เรียนจบก็คืองานธนาคาร ที่เปิดรับสมัครตอนที่เขาเรียนจบพอดี

หลังจากที่ไม่ได้เปิดรับพนักงานมากว่าสองปี ดังนั้นปืนจึงเป็นหนุ่มน้อยวัยละอ่อน ที่เด็กสุดท่ามกลางรุ่นพี่

(แปลว่าทำงานมาก่อน) แต่ถ้าว่ากันตามวัยนั้นมีตั้งแต่รุ่นน้าขึ้นไปจนถึงรุ่นป้า รุ่นลุงนั่นทีเดียว

..แต่ขอโทษ....


   “ในที่ทำงานน่ะนะ ต่อให้อายุเท่าไหร่ก็มีแต่รุ่นพี่ ไม่มีแก่กว่านี้ จำไว้นะจ๊ะน้องปืน”

น่าน...พี่ก้อย พี่เลี้ยงที่สอนงานเป็นคนแรกกำชับก่อนจะเปิดหลักสูตร ถ้าปืนไม่ยอมรับกฎเหล็กข้อนี้

คงไม่ผ่านโปรเป็นแน่


   
     ช่วงต้นฤดูร้อน เป็นเวลาที่เด็กนักเรียนมัธยมปลายกำลังติวเพื่อสอบเอ็นทรานซ์กันอย่างเอาเป็นเอาตาย

ในจังหวัดที่ปืนอยู่นับว่าเป็นศูนย์กลางการศึกษาของภูมิภาค จึงมีสถานศึกษายอดนิยมอยู่หลายแห่งด้วยกัน

พร้อมกันนั้นก็มีสถาบันกวดวิชามากมายมาตั้งรกรากทำมาหากินกันอย่างเป็นล่ำเป็นสัน

(และพากันรวยเอา..รวยเอา)

 เด็กนักเรียนที่ตั้งใจจะติวเข้มก่อนเอ็นทรานซ์ต่างพากันหลั่งไหลมาเพื่ออัพเดทแนวข้อสอบกันอย่างล้นหลาม

จากทั่วสารทิศที่ใกล้เคียง ทำให้หอพัก อพาร์ทเมนท์ แมนชั่น คอร์ท แฟลต คอนโดฯ เกสท์เฮ้าส์

 หรือแม้แต่บ้านที่แบ่งห้องให้เช่า ที่อยู่ในละแวกเดียวกับสถาบันกวดวิชา แทบไม่มีห้องว่าง

        ปืนก็อาศัยอพาร์ทเมนท์มาตั้งแต่สมัยเรียนหนังสือ จนกระทั่งทำงานแล้วก็ยังไม่ไปไหน

(เพราะค่าเช่าถูก...นอกจากราคาถูกแล้วยังแถมลูกสาวเจ้าของอพาร์ทเมนท์ให้ด้วยโดยเจ้าของไม่เคยรู้)

อพาร์ทเมนท์ของปืนอยู่ใกล้สถาบันกวดวิชาตั้งสองแห่ง เช้าขึ้นมาก็จะมีแต่เสียงเจี๊ยวจ๊าวของเด็กรุ่นพวกนั้น

จนต้องรีบลุกขึ้นมาชะโงกหน้ามอง (หาเหยื่อ)

   “สด...กรอบ...ทั้งน้านนน” ปืนจุ๊ปากด้วยความมันเขี้ยว

   
    ได้รับประทานอาหารทางสายตาแต่เช้าอย่างนี้ ปืนก็ให้รู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่าเป็นที่สุด

 อาบน้ำอาบท่าเสร็จสรรพปืนก็แต่งหล่อออกจากห้อง ชุดทำงานของปืนก็แค่เชิร์ตขาวธรรมดาคู่กับสแล็คสีเข้ม ๆ

ผูกเนคไทที่มีสัญญลักษณ์ของธนาคาร....เรียบแต่ดูดี ใคร ๆ มักจะไปผูกเนคไทกันก่อนจะได้เวลาเปิดที่ทำการ

แต่ปืนชอบที่จะผูกไปให้เสร็จ จะได้เดินยืดออกจากห้องพักอย่างเต็มภาคภูมิ

(มันรู้ตัวว่าหล่อหนิ...ช่วยไม่ได้)

        เช้านี้ปืนเดินออกมาเหมือนทุกวัน ปิดประตูล็อคกุญแจได้ก็เดินไปรอลิฟท์ที่สุดทางเดิน

เสียงคนเดินตามมาข้างหลัง คุยกันไปเถียงกันไปเบา ๆ

   “ไม่มีหาดูหมดแล้ว”

 เสียงนุ่ม ๆ ของวัยรุ่นหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงวิตกกังวล

   “เอามาด้วยรึป่าว”

 อีกคนเสียงห้าวกว่านิดหน่อย ถามขึ้นมาเหมือนไม่แน่ใจ

   “เอามาดิ ตอนอยู่บนรถยังเห็นอยู่เลย”

   “เออ…จำได้ ๆ ยังแวะเติมเงินค่าโทรศัพท์ที่ตู้เอทีเอ็ม.ก่อนขึ้นรถเลย  เฮ้ย! แล้วมันหายไปไหนอ่ะ”

   “นั่นดิ สงสัยต้องโทรบอกแม่ให้ส่งตังค์มาใหม่แล้วมั้ง”

 เสียงแรกฟังดูสิ้นหวัง เหมือนกำลังจะร้องไห้

        ปืนกดลิฟท์รอ สองคนนั้นก็มาหยุดอยู่ข้าง ๆ ระหว่างรอลิฟท์กำลังมา ปืนอดไม่ได้ที่จะหันไปมองเด็กหนุ่มทั้งสองคน

 พลางทายเล่น ๆ ว่า เสียงนุ่มหู น้ำเสียงน่ารัก ๆ เป็นของคนไหน คนที่ยืนติดกับเขารูปร่างเล็กแต่หนาล่ำใบหน้าคม

คิ้วเข้ม ผิวสีคล้ำกว่าอีกคนที่ดูเพรียวบางกว่ากัน และสูงกว่าเล็กน้อย ผิวขาวสะอาด ปากนิด จมูกหน่อย

ใบหน้าบอกอารมณ์เศร้า เขาขอเดาว่า คงเป็นคนนี้แหละ เพราะหน้าตาดูว่าวิตกกังวล คงเป็นคนที่พูด

คล้ายว่าจะหาของไม่เจอ ลิฟท์เปิดออก ปืนรีบเดินเข้าไป ก่อนจะรีบหันกลับมาเพื่อจะมองใบหน้าให้ชัด ๆ

...น่ารักจริง ๆ ด้วย ดูดิ...ปากงี้แดงน่าจูบชะมัด


   ชื่นตาชื่นใจพอสมควรก็ขึ้นรถไปทำงานอย่างสบายใจ กว่าจะจบคอร์สติว  เขาคงมีโอกาสพาตัวเข้าไปใกล้ชิดได้

 ยิ่งมาอยู่ชั้นเดียวกันแบบนี้ ก็ไม่น่าจะเกินความสามารถ

   
     ช่วงเช้าเมื่อเปิดทำการมักจะเป็นเวลาที่ว่างจากลูกค้า....8.30 น.นับว่าสายพอสมควรสำหรับการออกทำมาหากิน

แต่นั่นแหละ  ห้างยังเปิด 9โมงครึ่งได้เลย ออฟฟิศส่วนใหญ่ก็เปิด 8โมง  กว่าจะมาเดินบัญชีที่ธนาคารก็ยามสาย

ไม่ก็หลังเที่ยงไปแล้ว...แล้วก็ไปยุ่งอีกทีตอนใกล้จะปิดทำการ ลูกค้าจะรีบเอาเงินมาเข้าบัญชี

ให้ทันตัดเช็คในช่วงเย็นก่อนจะปิดระบบจริง ๆ

        สายหน่อยลูกค้าทะยอยกันเข้ามาใช้บริการหนาตาพอสมควร ปืนละสายตาจากลิ้นชักเก็บเงิน

เมื่อเสียงคิวเรียกเข้าเคาน์เตอร์ของเขาแล้ว

   “พี่ครับ ผมจะขอเบิกเงินจากบัญชี แต่ว่าไม่มีสมุดได้มั้ยครับ”

 ปืนเงยหน้าขึ้นมองลูกค้าตรงหน้าเต็มตา...ไอ้หนุ่มเมื่อเช้านี่หว่า

   “ได้ครับ ก็ใช้บัตรเอทีเอ็มไปกดที่ตู้ได้เลย”

   “แต่บัตรผมหาย”

 หน้าตามันเหมือนจะร้องไห้...เห็นแล้วน่าสงสารจัง

   “หายแล้วก็ทำใหม่ได้”

ปืนนึกถึงบทสนทนาที่ได้ยินโดยไม่ตั้งใจเมื่อเช้า สงสัยว่าไอ้หนุ่มคนนี้คงไม่ได้อยู่ที่นี่แหงเลย

อีกอย่างอพาร์ทเมนท์ของเขาช่วงนี้เต็มไปด้วยเด็กนักเรียนที่มาติวก่อนเอ็นฯ สงสัยคงจะมาจากต่างจังหวัด

   “บัญชีผมอยู่ที่.....ครับ”

 เขาเคยชื่อจังหวัดเกือบใต้สุดแดนสยามออกมา....งานเข้าล่ะสิ

   “งั้นก็ต้องกลับไปทำบัตรใหม่ที่นั่นนะครับ แต่ถ้าน้องจะเบิกเงินก็ต้องมีสมุดคู่ฝากมาด้วย” ปืนชี้แจงระเบียบให้ฟังชัด ๆ (สมัยนั้น

เทคโนโลยียังไม่ทันสมัยถึงขนาดที่ทำบัตรเอทีเอ็มต่างสาขาได้)

   “สมุดผมก็หาย”

อารายฟระ....โตเป็นควายแล้วยังรักษาของแค่นี้ไม่ได้เลยเหรอวะเนี่ย....ปืนเริ่มจะระอา

   “อ้าว! แล้วจะทำยังไงดีล่ะครับ”

   “ผมก็ไม่รู้ พี่ช่วยผมหน่อยได้มั้ยครับ ตอนนี้ผมไม่มีตังค์เลย คิดว่ามาถึงธนาคารก็จะเบิกเงินได้

 แล้วนี่ผมก็ไปสมัครติวมาแล้วเมื่อเช้านี้ เค้านัดจ่ายค่าเรียนตอนบ่ายโมง...ถ้าผมไม่มีเงิน....”

 หน้าใส ๆ ใกล้จะร้องไห้เต็มแก่ ปืนเองก็ไม่รู้จะช่วยยังไงดี

   แล้วความคิดของจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ก็ผุดพรายขึ้นมาทันที

   “เอางี้ดีมั้ย พี่ให้น้องยืมเงินไปลงทะเบียนเรียนก่อน ตอนนี้ก็โทรไปบอกที่บ้านให้ส่งเงินผ่านระบบโอนเงินด่วนมา

ได้เงินมาแล้วก็ค่อยมาคืนพี่”

   หน้าจิ้มลิ้มพริ้มเพราค่อยมีสีหน้าดีขึ้นที่ปืนช่วยหาทางออกให้ แต่มันดันนึกหาทางออกอื่นแทน

   “มีโอนเงินด่วนด้วย ใช่สิผมก็ลืมไป ขอบคุณมากครับพี่ ผมไม่ต้องยืมเงินพี่แล้วแค่โทรไปบอก

ให้ที่บ้านโอนมาแล้วผมรอรับได้เลย ขอบคุณมากครับ”

 ดูท่าทางมันดีใจ หน้าบานเป็นดอกไม้ได้ฝนเชียว

   หนุ่มหน้าใสถอยกลับไปนั่งที่เก้าอี้รับลูกค้าตรงโถงกว้าง กดโทรศัพท์มือเป็นระวิง

กดแล้วยกหูฟัง....แล้วเอาลงมาดู....กดใหม่อีกที

.....เอาลงมาดู.....แล้วกดอีก....

   ปืนเดาว่าคงจะ ’ไม่มีสัญญานตอบรับจากเลขหมายที่ท่านเรียก’ หน้าใส ๆ ที่เริ่มบานเมื่อครู่หุบลงทีละน้อย

แล้วลุกขึ้นเดินมาหาปืนด้วยนัยน์ตาละห้อย

   เขาถอดนาฬิกาข้อมือออกแล้วส่งให้ปืน...Rolex....ถึงจะไม่ใช่เรือนทองคำ แต่ดูก็รู้ว่ามีราคามิใช่น้อย

   “พี่ยึดนาฬิกาผมไว้นะครับ ราคาของมันน่าจะเกินสามหมื่น ผมขอยืมเงินพี่หมื่นนึง

ไว้ถ้าผมติดต่อทางบ้านให้โอนเงินมาได้แล้ว ผมจะมาไถ่คืน”

   โห! ไอ้หนู....ยืมทีละหมื่นเลยเหรอ

   “ทำไมยืมเยอะจัง แล้วถ้าพี่ไม่มีจะให้ล่ะ”

 ปืนแกล้งแหย่หน่อยเดียว น้ำตาซึมเชียวนะไอ้หนู

   “งั้นผมขอยืมแค่ค่าลงทะเบียนก็ได้ หกพัน....นะครับพี่ ช่วยผมหน่อย”

 ออดอ้อนซะอย่างนี้ มีเหรอที่ปืนจะปฏิเสธได้ลงคอ

   แต่อย่าคิดนะว่าจะได้อะไรไปฟรี ๆ ก่อนออกจากบ้านแม่สอนมารึเปล่าล่ะน้องว่าของฟรีไม่มีในโลก

   ปืนยอมแลกเงินหมื่นกับนาฬิกา ไม่ใช่เพราะโลภ อยากได้ของแพง แต่มาคิดดูแล้วว่า

ไอ้น้องคนนี้ก็น่ารักไม่ใช่เล่น หน้าตาขาว ๆ ใส ๆ ที่เห็นเมื่อเช้านั้น (ด้วยอาการแอบดู)

เทียบกันไม่ได้เลยเมื่อเห็นใกล้ ๆ แบบนี้ ตอนที่ปืนบอกไอ้หนุ่มนั่นว่า ให้ลงไปรอข้างล่างหน้าตู้ ATM.

 ประเดี๋ยวเขาจะตามไปน่ะ ปืนแกล้งชะโงกหน้าไปกระซิบ

 เพื่อจะได้เห็นแก้มเนียน ๆ ใส ๆ ที่เป็นสีชมพูระเรื่อใกล้ ๆ

แถมยังแอบสูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ อีกต่างหาก

   พอลงไปถึงข้างล่าง เขาก็บอกให้น้อง ซึ่งเขารู้ชื่อแล้วว่า ‘ปอ’ พยายามติดต่อที่บ้าน

ให้โอนเงินด่วนมาที่ธนาคารของเขา แล้วตอนบ่ายให้ปอมารับได้เลย

แต่ให้เอาเงินของเขาไปจ่ายค่าสมัครติวให้เรียบร้อยก่อน

   “ที่จริงถ้าเงินด่วน ผมรอรับเลยก็ได้นะครับพี่”

   “ไม่เป็นไร ไปทำธุระให้เรียบร้อยก่อนดีกว่า เสร็จแล้วมาหาพี่ที่นี่นะ”

   ปอรับคำแล้วรีบไป....เออ...เด็ก ๆ นี่มันซื่อดีแท้ ๆ ปืนมีเหตุผลที่จะซื้อเวลา ก็คือ

สร้างความผูกพัน หรือ บุญคุณติดค้าง หรือ อะไรก็ตามแล้วแต่จะเรียก

ให้เขาได้ใกล้ชิดปอมากขึ้น ถึงมันจะดูเจ้าเล่ห์ไปหน่อย...แต่บอกตัวเองว่า

เขาแค่ถูกชะตาเด็กคนนี้แค่นั้นเองล่ะน่า....


   
ปอมานั่งรอเขาตั้งแต่บ่ายสอง เป็นช่วงที่งานกำลังยุ่งสุด ๆ เพราะใกล้เวลาที่ธนาคารจะปิดทำการ

 ปืนเห็นตั้งแต่แรกที่ปอเดินมา แต่เขาก็ไม่มีโอกาสที่จะทักทาย

พอเงยหน้าขึ้นกะจะให้ปอรู้ว่าเขาเห็นปอแล้ว ปอก็ดันก้มหน้า แล้วพอถึงเวลาปิดประตูที่ทำการ

ปืนก็ไม่เห็นปอซะแล้ว

   เขารีบปิดบัญชีส่งเงินให้แคชเชียร์ ก่อนจะขออนุญาตหัวหน้ากลับบ้านก่อนเวลา

ซึ่งก็อีกหนึ่งชั่วโมงเป็นอย่างน้อย เพราะมัวแต่เป็นห่วงเจ้าเด็กนั่น

ป่านนี้จะไปอยู่ไหนก็ไม่รู้ ถึงเขาจะรู้ว่าปอพักอยู่ที่เดียวกันกับเขา

มันก็ไม่ช่วยให้หายกระวนกระวายใจไปได้เลย ไม่ใช่เพราะเงินหกพันที่เด็กนั่นขอยืมไป

เพราะนาฬิกาเรือนละสามหมื่นยังอุ่น ๆ อยู่ในกระเป๋า

ปืนก็บอกตัวเองไม่ถูกว่าเพราะอะไรเขาถึงต้องเป็นห่วงมันขนาดนี้....

นอกจากเป็นห่วง เขายังแคร์มันอีกด้วย กลัวว่าปอจะโกรธที่ต้องนั่งรอเขานาน ๆ

เขาก็ลืมไป  ไม่น่าบอกให้มันรีบมาทั้งที่เขายังต้องทำงาน

 เด็กนั่นเลยต้องมานั่งรอเสียเวลาและอาจจะเสียอารมณ์ด้วยก็ไม่แน่


   ปืนเดินลงบันไดมาชั้นล่างจนกระทั่งถึงลานจอดรถก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของปอ

หรือว่าจะกลับอพาร์ทเมนท์ไปแล้ว แต่ปอไม่รู้นี่นาว่าเขาพักอยู่ที่เดียวกัน

เด็กหน้าซื่อ ๆ ตาใส ๆ อย่างนั้นคงไม่คิดจะผิดคำพูดกับเขาหรอก

   “มีเด็กนักเรียนมารอคุณปืนครับ”

 ลุงยามเดินมาบอกเมื่อเห็นปืนลงมา

   “ไหน...อยู่ไหน”

สายตาก็พยายามสอดส่าย

   “อยู่ในห้องผมแน่ะครับ รอจนหลับ ผมก็เลยให้ไปนอนในห้อง”

 ลุงยามพาเขาเดินไปที่ห้องพักเล็กที่ปกติจะเก็บสัมภาระของยามที่ธนาคารจ้างไว้ตลอด24ชั่วโมง

   เจ้าปอนอนหลับน่าสงสารเชียว เก้าอี้พับสำหรับนอนเล่นของยามตัวนิดเดียว

ถึงเจ้าปอจะยังไม่เป็นหนุ่มโตเต็มที่ แต่แขนขาที่ยาวเก้งก้างคงทำให้นอนไม่สบายนัก

   “ตื่น ๆ”

ปืนเขย่าตัวปลุก ปอก็ลืมตาทันทีเหมือนจะรออยู่ตลอดเวลา

   “อ้าว! พี่เลิกงานแล้วเหรอครับ”

   “ฮื่อ…ไปกลับบ้าน”

   “พี่...ผมติดต่อแม่ไม่ได้อ่ะ”

คงเป็นเรื่องที่ยังกังวลอยู่ ปอถึงได้พูดขึ้นเป็นประโยคแรก เปืนพยักหน้า ไม่ได้ว่าอะไร

   “ผมยังไม่มีเงินคืนพี่เลยนะครับ”

ปืนก็พยักหน้าอีก

   “ผมยังไม่ได้กินข้าว”

   “มื้อไหน”

ปืนสงสัย เพราะนี่มันยังไม่เย็นพอที่ปอจะโอดครวญได้ว่ายังไม่กินข้าว

   “ตอนเที่ยง”

   “แล้วหิ้วท้องอยู่ทำไม”

   “ก็พี่บอกว่าลงเรียนเสร็จแล้วให้กลับมาหาพี่ที่นี่”

   “พี่ก็ไม่ได้ห้ามกินข้าวนี่”

   “แต่ผมเหลือเงินแค่ค่ารถกลับมาหาพี่เนี้ย ตังค์ก็หมดแล้ว”

..เวร...ปืนบ่นในใจ นี่เขาผิดสินะ

   สุดท้ายก็ต้องพาปอไปกินข้าวก่อนจะกลับเข้าอพาร์ทเมนท์

   “ขอบคุณครับพี่ที่เลี้ยงข้าว แล้วก็ทุก ๆ อย่างด้วย ถ้าผมไม่ได้พี่ช่วยคงแย่แน่เลย”

   “ไม่เป็นไร มีอะไรช่วยได้พี่ก็อยากจะช่วย แล้วนี่อยู่ห้องไหน”

 ปืนเดินนำไปที่ลิฟท์

“ผมอยู่ชั้นสาม พี่ปืนไม่ต้องไปส่งผมหรอก แค่นี้ผมไปเองได้ ขอบคุณมากครับ”

 ปอรีบยกมือไหว้ขอบคุณ “พรุ่งนี้ถ้าผมติดต่อที่บ้านได้ผมจะไปหาพี่ที่ทำงานนะครับ”

   “เอาเบอร์โทรพี่ไว้ดีกว่า แล้วค่อยคุยว่าจะเอายังไง บอกเบอร์นายมาซิ”

ปืนกดหมายเลขที่ปอบอกแล้วกดออก

   “มีปัญหาอะไรให้พี่ช่วยก็โทรเบอร์นี้แล้วกัน”

ลิฟท์เปิดออก แล้วปืนก็ก้าวเข้าไป แต่อีกคนยังไม่ยอมตามมา

   “มีไร”

 ปืนถาม

   “ผมไปเองได้ พี่ปืนกลับเถอะ แค่นี้ผมก็เกรงใจมากแล้ว”

   “เออ...พี่ก็กำลังกลับอยู่นี่ไง”

ปืนยิ้ม เขายังไม่ได้บอกเจ้านี่ว่าเขาก็พักอยู่ที่เดียวกัน ชั้นเดียวกันนั่นแหละ

ปอคงจำเขาไม่ได้ว่าเคยลงลิฟท์พร้อมกันเมื่อตอนเช้านี้เอง

   “แต่พี่...”

   “พี่อยู่ชั้นสามห้อง สามหนึ่งสอง”

   เห็นหน้าเจ้าปอครึ่งยิ้มครึ่งงง ช่างถูกใจปืนซะจริง ๆ เขาก็อยากจะเห็นสีหน้างง ๆ ตอนที่รู้ว่าพักอยู่ที่เดียวกันแบบนี้แหละ


   “แล้วพี่ปืนก็ไม่บอกผม”

   “บอกทำไมเดี๋ยวก็รู้เอง”

 ปืนพูดยิ้ม ๆ พอใจที่ได้เห็นหน้างอ ๆของปอ แล้วก็ตามมาด้วยเสียงต่อว่าเล็ก ๆ แบบงอน ๆ

แต่แอบดีใจของอีกฝ่าย

   ปืนไปส่งปอที่หน้าห้องก่อนจะเดินย้อนมาที่ห้องของตัวเอง

 แต่พอหันหลังปิดประตูกำลังจะล็อก ก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น

   “อ้าว! ตามมาทำไม”

   “ผมอยากเห็นห้องพี่ปืนอ่ะครับ ขอผมเข้าไปหน่อยนะ”

   เขาจำเป็นต้องถอยให้เจ้าปอเข้ามา เด็กหนุ่มเดินไปรอบห้อง เปิดประตูออกไปที่ระเบียง

ชะโงกหน้าลงไปมองข้างล่าง

   “นี่มันชั้นสามนะ เดี๋ยวก็หัวทิ่มลงไปหรอก”

ปืนคว้าไหล่สองข้างของเจ้าปอเข้ามาชิดอกด้วยความหวาดเสียว

เพราะมันเล่นชะโงกจนออกไปตั้งครึ่งตัว ปอหันมายิ้มแหย แล้วเดินกลับเข้าห้องไปนั่งเล่นที่โต๊ะคอมฯต่อ

แต่ปืนยังรู้สึกอุ่น ๆ ที่อกอยู่เลย เมื่อกี้ตอนที่คว้าปอเข้ามาแนบอก มันรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก

   “พี่ปืน...ว่าง ๆ ผมมาเล่นคอมฯห้องพี่ได้ป่ะ”

   “ถ้าพี่ไม่มีงานนะ”

   “ขอบคุณครับ”


   สองหนุ่มต่างวัยนั่งซักถามกันเรื่องส่วนตัวที่พอจะเปิดเผยได้

ปืนก็เลยได้รู้ว่า ปอเป็นลูกชายคนเดียวของพ่อกับแม่ ที่บ้านขายของหนีภาษีประเภทเครื่องไฟฟ้า

อยู่ที่ด่าน.........ของทางใต้ การค้าช่วงนี้ขึ้น ๆ ลง ๆ เพราะมีเหตุปัจจัยจากความไม่สงบ

แต่ก็ยังพอมีกินมีใช้อย่างเหลือเฟือ เพราะพ่อแม่ตั้งใจจะส่งลูกชายคนเดียวให้เรียนสูง ๆ

จึงเริ่มเก็บเงินเก็บทองตั้งแต่แต่งงานกัน ตอนนี้ฐานะจึงมั่นคงเป็นปึกแผ่น

   “บ้านที่นี่ก็มีนะครับ แต่ให้เค้าเช่าทำกิจการเกี่ยวกับทัวร์อะไรนี่แหละ เป็นตึกกลางใจเมืองแถวถนน......”

   อุวะ....แพงนะนั่นน่ะ.....

ปอเอ่ยชื่อถนนสายหลักกลางใจเมืองจริง ๆ เฉพาะที่ดินตรงนั้นเวลาจะซื้อจะขายเค้าไม่ขายกันเป็นห้องนะ

แต่คิดกันเป็นตารางวาเลยทีเดียว ปืนจำราคาประเมินไม่ได้เพราะไม่ได้ทำงานด้านสินเชื่อ

แต่เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมามีลูกค้าเอาตึกแถวบนถนนสายนั้นมาวางเป็นประกันการกู้เงิน

เป็นตึกแถว 4 ชั้น เนื้อที่ห้องเดียว

(ประมาณ 25 ตารางวา จัดสรรแบบที่ดินสมัยเก่าจะกว้างกว่าปัจจุบัน ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 18-20 ตารางวาเท่านั้น)

ราคาประเมินประมาณ 20 ล้าน แต่ถ้าซื้อขายจะมากกว่านี้ อาจจะได้ที่ราคา 30 ล้าน

“แล้วเพื่อนที่เดินไปด้วยกันเมื่อเช้าล่ะ”

 ปืนบอกปอไปแล้วว่าเขาเห็นปอตอนลงลิฟท์ด้วยกัน

“มันไปแล้วครับ มันขออาศัยผมแค่คืนเดียว รอแฟนมันตามมาเช่าหออยู่ด้วยกัน

ผมเจอมันตอนที่มาจ่ายเงินค่าเรียน แล้วก็เลยแยกกัน แต่เราก็ยังโทรติดต่อกันได้ครับ”

“เออ...ก็ดี ที่ยังมีเพื่อนบ้าง มาอยู่เมืองใหญ่ ๆ อย่างนี้ ถ้าไม่คุ้น เดี๋ยวหลง”

“ไม่หลงหรอกครับ แถวนี้ผมเคยมา ผมมาติวที่นี่เป็นปีที่สองแล้ว ปีที่แล้วก็มา”

เออ...ทำไมปืนไม่ยักเห็น

“แต่ผมไปอยู่กับเพื่อนที่หอพักหลังโรงเรียนหญิง แม่มันกับแม่ผมเป็นเพื่อนกันก็เลยให้อยู่ด้วยกัน

จะได้มีเพื่อน”

 มิน่า...ถ้าอยู่แถวนี้คงไม่หลงหูหลงตาปืนหรอก

“เอ้า! ไปนอนได้แล้วปะ พรุ่งนี้พี่ต้องตื่นแต่เช้า เราล่ะ มีเรียนกี่โมง”

“ช่วงเช้า 9 โมง พักเที่ยงแล้วต่อตอนบ่ายถึง 4 โมงครับ”

“เออ....ขยันเรียนเข้านะ จะได้ไม่เสียเงินเปล่า ค่าเรียนแพงนะนั่น สมัยพี่น่ะไม่มีปัญญาได้เรียนหรอก

บ้านพี่ไม่ได้ร่ำรวยอะไร”

“แม่ก็บอกผมแบบนี้แหละ ถึงเราจะพอมีตังค์แต่ก็ไม่ได้ฟุ่มเฟือย แม่สอนให้ผมประหยัด”

ประหยัดที่ไหน....อพาร์ตเมนท์เนี่ย ปืนอยู่มาตั้งแต่แรก ถึงได้ราคาลูกค้าประจำ

 แต่ถ้าเช่าอยู่ชั่วคราวมันราคาสองเท่าเชียวนะ

ปอคงจะเดาจากสีหน้าไม่ค่อยเชื่อของปืนก็เลยพูดต่อ

“แต่ที่นี่มันใกล้ที่เรียนอ่ะครับ ผมมาสำรวจเมื่อปีที่แล้ว ปีนี้เลยขอแม่ พอดีกับทีเพื่อนผมคนนั้นมันไม่ได้มาเรียนด้วย

แม่ก็เลยยอม แต่ผมก็ดีใจนะที่ได้มาเจอพี่ปืน แพงแค่นี้ก็คุ้มครับ”

แน่ะ....มีหยอดให้ดีใจนะเจ้าปอ

ปืนรู้สึกเอ็นดูปออยู่มากเหมือนกัน เพราะดูท่าทางจะเป็นเด็กที่พูดเป็น คือพูดอย่างมีสัมมาคารวะ รู้กาลเทศะ

แถมหน้าตาดี ปืนนึกชมพ่อแม่ของปออยู่ในใจว่าช่างสอนลูกได้น่ารักดีจริง ๆ


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-05-2012 01:03:38 โดย ์NOO »

ออฟไลน์ NuNew

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 176
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-2
Re: อ้อนนักรักซะดีแมะ
«ตอบ #2 เมื่อ08-05-2012 00:18:00 »


วันรุ่งขึ้น ปอก็ได้รับเงินโอนจากทางบ้าน แต่ยังไม่มีโอกาสได้เบิกเงินเพราะไปติวทุกวัน กว่าจะเลิกเรียน

ธนาคารก็ปิดแล้ว กลายเป็นภาระของปืนที่จะต้องเอาเอกสารมาให้ปอลงชื่อที่ห้องพัก แล้ววันรุ่งขึ้นอีกวัน

ถึงจะเบิกเงินออกมาให้ได้

“ไปพร้อมพี่ตอนเช้ามั้ย เบิกเงินเสร็จแล้วกลับมาเรียนน่าจะทัน”

 ปืนเสนอทางเลือกแต่เจ้าตัวดูจะไม่สนใจ

“ไม่ดีกว่า ผมต้องรีบไปแต่เช้า ไม่งั้นไม่มีที่นั่งดี ๆอ่ะ นั่งข้างหลังมองวีดีโอไม่ชัด

นะ...พี่ปืนเบิกให้ผมนะ”

“เออ...แล้วไม่กลัวพี่อมเงินนายเหรอ”

 ปืนแกล้งลองใจ

“ไม่กลัว ดี...ผมจะได้เกาะพี่ปืนกินไปตลอดเลย”

...ซะงั้น


นับตั้งแต่วันนั้น เจ้าปอก็เริ่มที่จะมีปืนเป็นสรณะ ตกเย็นก็มานั่งรอพี่ปืนที่ล็อบบี้ของอพาร์ทเมนท์

พอถูกถามเข้าก็บอกว่า

“ผมมารอกินข้าวพร้อมพี่”

“พี่กินมาแล้ว”

“อ้าว!“

พอหน้าใส ๆ เริ่มจ๋อยลง ปืนก็อดใจอ่อนไม่ได้สักที

“แต่พี่กินก๋วยเตี๋ยวได้อีก”

“งั้นเราไปร้านป้านวยนะครับ พี่กินก๋วยเตี๋ยว ผมกินข้าวผัด”

 เออ...ไปก็ไป....แพ้ทางมันจนได้

“ทีหลังอย่ารอเลย บางทีพี่ก็อาจจะเลิกค่ำ เพราะงานเยอะ ไม่ก็มีประชุม”

“ไม่เป็นไรครับ ผมกินอะไรรองท้องก่อนก็ได้”

 เฮ้อ!...ปืนได้แต่ถอนใจ แล้วก็ต้องกินข้าวเย็นสองรอบอยู่หลายครั้ง จนในที่สุด

ก็ต้องเป็นฝ่ายรองท้องมาจากร้านข้างที่ทำงานก่อนจะมากินของจริงพร้อมเจ้าปอ

...สงสารที่มันต้องรอนาน ๆ แล้วยังต้องนั่งกินคนเดียว กลัวมันจะเหงา


เย็นวันหนึ่งหลังจากวันแรกที่รู้จักกันได้สักสองอาทิตย์ ปืนก็พบใครอีกคนมานั่งรอกินข้าวเย็นพร้อมกับเขา

 คราวนี้เป็นผู้หญิง

“พี่ปืนมาแล้ว”

เจ้าปอทำท่าดีใจจนแทบจะกระโดดเข้าหาเขาทีเดียว

“พี่ปืนแม่มา”

 ปอลากแขนพี่ปืนเข้าไปหาผู้หญิงกลางคนหน้าตาบอกว่ามีเชื้อสายจีนท่าทางใจดี ที่นั่งอยู่ตรงเก้าอี้รับแขก

“สวัสดีครับ”

ปืนไหว้ทำความเคารพ อีกฝ่ายรับไหว้แล้วยังลุกขึ้นเดินเข้ามาใกล้ ๆ จับไม้จับมืออย่างสนิทสนมด้วยรอยยิ้ม

 ราวกับว่าได้รู้จักกันมานาน

“คนนี้เองพี่ปืน หน้าตาก็ดี แถมยังใจดีอีกด้วย แม่ขอบคุณมากนะปืน ที่ช่วยดูแลน้อง”

น่าน...เป็นแม่คนที่สองของปืนเข้าแล้วไง

“ไม่เป็นไรครับ”

ไม่รู้จะตอบอะไรดี เพราะตั้งตัวไม่ทัน ความเจ้าเล่ห์ของตัวเองกลายเป็นความดีโดยไม่รู้ตัว

เสือปืนก็เลยได้แต่ยิ้มรับ

“ปอโทรเล่าให้แม่ฟัง ว่าได้พี่ชายแล้ว เจ้านี่เค้าอยากมีพี่มีน้อง แต่ก็นั่นแหละ แม่ก็มีเค้าแค่คนเดียว

นี่พอเจอพี่ชายใจดีก็เลยติด ปืนรำคาญน้องรึเปล่า”

“ไม่ครับ ไม่เลย ปอเป็นเด็กดีมากครับ”

“จะดุด่าว่ากล่าวยังไงก็ได้ แม่ฝากน้องด้วยนะปืน”

“แหม! ผมไม่กล้าดุหรอกครับ ปอเค้าดูแลตัวเองได้ดีอยู่แล้ว”

แม่เล่นฝากฝังให้เป็นน้องชายกันอย่างนี้ ปืนชักจะพูดไม่ออกเอาเลย ไอ้ที่ทำเจ้าเล่ห์เพทุบายไว้ตั้งแต่ต้น

ทำให้ปืนไม่กล้าทำตามที่เคยคิดไว้ซะแล้ว...จะกลับตัวทันมั้ยวะนายปืนเอ๊ย...

“ไปทานข้าวกันเถอะ แม่จองโต๊ะไว้แล้วที่ภัตตาคาร........”

นี่ก็เหลาชั้นเลิศ ค่าอาหารก็แพงเป็นที่หนึ่ง ลำพังปืนคงไม่กล้าเข้า จ่ายค่าอาหารทีกระเป๋าแทบฉีกอย่างนี้

ยอมกินก๋วยเตี๋ยวข้างทางดีกว่า แต่ไหน ๆ ลาภปากมาทั้งที ก็ไม่ควรปฏิเสธให้ผู้ใหญ่เสียน้ำใจ

“ขอบคุณครับ งั้นผมขอตัวขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าประเดี๋ยวนะครับ คุณ...เอ้อ...คุณแม่รอผมเดี๋ยวเดียว”

ปืนลังเลชั่วเสี้ยววินาทีว่าจะเรียกสุภาพสตรีตรงหน้าว่าอะไรดี ก็ตัดสินใจได้....แม่ก็แม่วะ

“ไม่เป็นไร ไม่ต้องรีบ แม่จองไว้ตอนทุ่มครึ่ง ดึกไปมั้ย รึว่าเลื่อนเป็นหกโมงครึ่งดี”

 นี่ก็ยังไม่ทันจะหกโมง กว่าจะได้เวลาอาหารออก ปืนคิดว่าตัวเองคงหิวตายพอดี

เขาคำนวณเวลาในใจอย่างรวดเร็ว แต่งตัวใหม่แบบไม่ต้องอาบน้ำให้เสียเวลา (ไม่ให้มิเตอร์ค่าน้ำขึ้นด้วย)

ใช้เวลาไม่ถึงสิบนาที รวมเวลารอลิฟท์ขึ้นลงเป็นสิบห้านาที นับเวลาเดินจากจากอพาร์ตเมนท์

...อืม....

“เลื่อนเวลาก็ดีครับ ประเดี๋ยวดึกเกินไป พรุ่งนี้น้องต้องเรียนแต่เช้า”

เหตุผลที่อ้างเรื่องน้อง ฟังดูมีน้ำหนัก เวลาอาหารจึงร่นเข้ามาให้พอดีกับที่ปืนต้องการ

(ประโยชน์เข้าข้างตัวเองเห็น ๆว่ะปืน)

นึกว่าจะต้องหารถโดยสารเสียแล้ว เมื่อปืนเดินออกจากอพาร์ตเมนท์กลับมีรถพร้อมคนขับ

รอที่จะพาพวกเขาไปภัตตาคารจีนกลางเมือง

“รถของบริษัททัวร์ที่เค้าเช่าตึกเราน่ะ มาทีไรเค้าก็มารับมาส่งแม่ทุกที ไม่เคยคิดค่าเช่ารถด้วยนะ

แม่ล่ะเกรงใจเค้าจริง ๆ แต่ถ้าไม่รับน้ำใจเค้าจะเสียใจมากกว่า ก็ดีนะ สะดวกดีเหมือนกัน

 แม่เองก็ไม่ค่อยคล่องเส้นทางเท่าไหร่ นี่ประเดี๋ยวก็จะสั่งอาหารใส่กล่องไปเผื่อเด็ก ๆ ที่ออฟฟิศด้วย”

โห...ไม่ใช่ขี้ไก่เลยนะ บริษัททัวร์ที่ว่านั่น ปืนก็รู้จักชื่อเสียงดี ว่าเป็นเป็นบริษัทยอดนิยม

ที่ลูกทัวร์จะเลือกใช้บริการก่อนบริษัทอื่น

            ลูกค้ารายนี้ไม่ได้ใช้บริการกับธนาคารของปืน เพราะระยะทางห่างกัน ไม่สะดวกที่เค้าจะมาใช้บริการ

ซึ่งเป็นธรรมดาของลูกค้าส่วนใหญ่มักจะเลือกธนาคารใกล้บ้าน แล้วบริษัทนี้อยู่กลางเมืองที่มีธนาคารตั้งอยู่ทุกถนนให้เลือก

อืม...ปืนมองการณ์ไกลถึงขนาดว่า

ถ้าเค้าสามารถเข้าถึงลูกค้ารายนี้ได้ เค้าก็อาจจะชักจูงให้ลูกค้ามาใช้บริการกับเขาได้เหมือนกัน

....ฝันไปโน่น....

   

    เมนูอาหารที่ถูกสั่งไว้ล่วงหน้า และบริการอย่างเป็นกันเองที่ได้รับ ทำให้ปืนพอจะเดาได้ว่า

ระหว่างร้านนี้กับแม่ของปอจะต้องมีความสัมพันธ์ฉันท์มิตรไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง

และคำตอบก็เฉลยออกมาเพียงแค่เสิร์ฟจานแรกเท่านั้นเอง

“ซ้อ....เป็นไงอร่อยถูกปากรึป่าว”

หนุ่มใหญ่ร่างเล็ก เดินทักทายแม่ (ของปอ) อย่างยิ้มแย้ม ถามเหมือนจะเป็นคนปรุงอาหารเองเลยนะ

“รสชาติดีเหมือนเดิมเลย อาหมง นั่ง ๆ ๆ กินด้วยกันมา”

แม่ (ของปอ) ทักทายตอบด้วยรอยยิ้มยินดีไม่ต่างกัน

“ไม่ดีกว่าซ้อ ตามสบายเลย ผมกินทุกวันจนเลี่ยนแล้ว”

 ท่าจะรวยนะ มีเงินมากินเหลาได้ทุกวัน

“ก็เปลี่ยนเป็นขายเคเอฟซีบ้างซี เปลี่ยนรสชาติ”

“ฮ่า...ฮ่า...ฮ่า....แล้วไม่มีใครบอกซ้อเหรอว่าร้านของเรามีไก่ทอดแบบนั้นเสิร์ฟด้วยอ่ะ”

“อ้าว! แล้วทำไมไม่ยกมา ไม่รู้เหรอว่าอาปอชอบที่สุดเลย”

“ฮ้า!...จริงเหรออาตี๋....เอ้า! เด็ก ๆ ไปยกไก่สูตรเด็ดมาเร็ว ๆ”

ฟังแค่นี้ ปืนก็รู้แล้วว่าที่เดามาตั้งแต่ต้นน่ะผิดหมด ที่แท้หนุ่มใหญ่ที่เข้ามาร่วมวงก็เป็นเจ้าของร้านนี่เอง

“ขอบคุณครับเจ็ก”

ปอยิ้มพร้อมกับไหว้ขอบคุณผู้ใหญ่ได้น่ารัก ปืนก็ว่าแล้วว่าเด็กคนนี้พื้นฐานการอบรมดี

“แล้วนี่ อาหมง พี่ชายอาปอ...คุณปืน”

“ฮ้า! พี่ชาย...ซ้อ....หมายความว่า....”

 อาหมงทำท่าตกใจที่แม่(ของปอ) แนะนำลูกชายตัวโตเบ้อเริ่ม

“ม่ายช่าย....”

 แล้วแม่ก็เลยเล่าเรื่องของปืนที่ช่วยเหลือปอตอนมาสมัครเรียนกับติวเตอร์ให้ฟัง

“โห....คุณปืนนี่เป็นคนดีจริง ๆ เลยนะ ขอบคุณ ๆ อาตี๋นี่ผมรักเหมือนลูกชายคนนึงเลย

 เพราะว่าเกิดวันเดียวกับลูกสาวผม โตมาด้วยกันเลยแหละ”

 และอีกต่าง ๆ นานา จนปืนไม่รู้จะตอบอะไรดี ได้แต่ยิ้มรับคำชม (ประเภทบ้ายอไง)

เป็นอันว่าอาหารมื้อนี้ อาหมงไม่เก็บตังค์ แถมยังได้ติ่มซำรสเลิศ กลับไปฝากพนักงานที่บริษัททัวร์อีกกล่องใหญ่

“นาน ๆ ซ้อจะมาซักที ให้ผมได้เลี้ยงขอบคุณซ้อบ้างเถอะ”

ปืนนั่งฟังเรื่องราวแต่หนหลังที่เล่าสู่กันฟังก็พอจะทราบว่าที่ปอกับหยิน (ลูกสาวอาหมง)

เติบโตมาด้วยกันก็เพราะแม่ (ของปอ) เป็นคนเอาไปเลี้ยงให้

เนื่องจากตอนนั้นครอบครัวอาหมงกำลังล้มลุกคลุกคลานอยู่กับร้านอาหารจีนซึ่งสมัยนั้นเป็นแค่ห้องแถวเล็ก ๆ

กว่าจะมีวันนี้ได้ก็ผ่านความทุกข์ยากมาหลายครั้งหลายหน แต่ละครั้งก็จะมี ‘ซ้อ’ คอยช่วยเหลือตลอดเวลา

“ฝากบอกเฮียด้วยนะซ้อว่าทิ้งร้านมาเที่ยวบ้างเถอะ ตอนนี้อาตี๋ก็มาเรียนที่นี่ด้วย เราจะได้ร่วมกินข้าวด้วยกันซักมื้อ

อาตี๋กับอาหยินจะได้เจอหน้ากันบ้าง”

“โฮ้ย! รายนั้นเค้าห่วงร้าน ยิ่งตอนนี้ค้าขายไม่ค่อยคล่อง ก็จะยิ่งทิ้งไม่ได้ใหญ่เลย ลูกค้ามาถึงร้านเจอร้านปิดนี่เสียดายเงิน

แทนที่จะได้ก็สูญ”

“ตามใจ ๆ เรื่องค้าขายนี่ผมไม่ว่าอยู่แล้ว เอาเป็นว่าว่าง ๆ แล้วกันนะซ้อ มาเมื่อไหร่ก็แวะมาได้เลย ไม่ต้องเกรงใจ

ผมกับอานีไม่ไปไหนอยู่แล้ว หลังร้านนี่ก็เป็นบ้านเราเอง ความจริงอาตี๋มาเรียนที่นี่ก็ไม่น่าจะต้องไปเช่าหออยู่นะ

มาอยู่กับผมก็ได้ ดีซะอีกจะได้เจอกับอาหยินทุกวัน”

แม่มองหน้าปอ แต่เจ้าลูกชายกลับยิ้มหน้าทะเล้นแล้วส่ายหน้า

“เด็กเดี๋ยวนี้เค้าชอบอิสระ ไม่เป็นไรหรอก ตอนนี้ก็ไม่ห่วงอะไรแล้ว เค้ามีพี่ชายแล้วหนิ”

แม่พูดแล้วมองมาที่ปืนยิ้ม ๆ เป็นการยืนยันคำพูด



     คืนนั้นเจ้าปอนอนกอดแม่โดยไม่ได้แวะมากวนปืนเหมือนทุกคืน จะว่าไปก็ดีที่จะได้มีเวลาทำอะไรเป็นส่วนตัวบ้าง

แต่คิดอีกทีปืนก็ว่ามันว่าง ๆ เหมือนห้องมันจะกว้างกว่าที่เคยเป็นยังไงก็ไม่รู้


          เช้าขึ้นมาปืนก็เจอแม่กับปอรออยู่ที่ล็อบบี้พร้อมหน้ากัน

“แม่จะกลับวันนี้เลยนะปืน ห่วงป๊าเค้าน่ะ อยู่คนเดียวไม่มีใครคอยเตือนให้กินข้าวกินปลา”

เออ...ปืนเลยได้พ่อเพิ่มมาอีกคน

“ปอดูแลตัวเองดี ๆ นะลูก อย่ากวนใจพี่เค้ามาก เค้าต้องทำงาน แล้วอย่าดื้อให้พี่เค้าต้องกลุ้มใจ

ถ้าเค้าเบื่อเดี๋ยวเค้าจะไม่มาดูแล แม่ต้องพาเรากลับไปอยู่บ้านไม่รู้ด้วย”

 ปืนรู้ว่านี่เป็นคำขู่ทีเล่นทีจริงของแม่ แต่ก็อดจะเสียวสันหลังไม่ได้ว่า

....นี่ถ้าลูกเค้าเป็นอะไรในมือปืนจะว่ายังไงเนี่ย

“แม่ไม่ต้องห่วงนะ ปอไม่รบกวนพี่ปืนหรอก”

คำว่า ‘ปอไม่รบกวนพี่ปืนหรอก’ ปืนยังได้ยินจากปากมันในครั้งต่อ ๆ มาอีกหลายต่อหลายครั้ง

จนคำนั้นไม่ศักดิ์สิทธิ์อีกต่อไป เพราะกลายเป็นว่าเวลามันไม่ได้อย่างใจ มันก็จะเอามางอดแง่ดใส่ปืนซะทุกที

ด้วยความที่ปืนไม่ยอมตามใจ


แต่ละวันผ่านไป ปืนก็เริ่มคุ้นชินกับการที่มีปอมาเดินป้วนเปี้ยนอยู่ใกล้ๆ เวลาอยู่ในห้องพักของตัวเอง

ทั้ง ๆ ที่ปอก็มีห้องเป็นของตัวเอง แต่ไม่ค่อยจะได้ใช้ประโยชน์จากห้องนั้นสักเท่าไร

   ถ้าจะลงตารางเวลาแต่ละวันก็คงเหมือน ๆ กัน คือ เช้าขึ้นมาปอจะมาเคาะเรียกที่หน้าห้องเป็นประจำ

เนื่องจากห้องของปืนเป็นทางผ่านไปสู่ลิฟท์ ลงมาถึงหน้าอพาร์ทเมนท์ก็แยกย้ายกันไปตามหน้าที่ของตัวเอง

ปอเดินไปติวเตอร์ ส่วนปืนก็ขึ้นรถโดยสารไปทำงาน

(ระยะทางไม่กี่โล นั่งรถสองแถวในท้องถิ่น ประมาณสิบห้านาทีถึง)

ตกเย็นเลิกงานก็กลับมากินข้าวพร้อมกัน หรือไม่ก็อาจจะนัดไปเจอกันที่ร้านอาหารนอกบ้าน

 อาจจะเป็นร้านอร่อย ๆ สักร้าน หรือไม่ก็เป็นศูนย์อาหารของศูนย์การค้าใดศูนย์การค้าหนึ่งใกล้ ๆ

 ถ้าหากต้องซื้อของใช้เข้าบ้านในวันนั้น กินเสร็จ ซื้อของเสร็จก็กลับที่พัก เจ้าปอแยกตัวไปอาบน้ำ

แทนที่จะเข้านอนเลยก็ดันมานอนเขลงอยู่ที่ห้องของปืน ดูโทรทัศน์บ้าง เล่นเกมคอมฯบ้าง

 แล้วแต่ว่าวันไหนเครื่องคอมฯจะว่าง เพราะบางวันปืนก็หอบงานกลับมาทำที่ห้อง

“ประหยัดของตัวเอง แต่มาเปลืองที่พี่นะเจ้านี่”

“ไม่นะ ผมก็มาอยู่เป็นเพื่อนไง บางทีผมก็ช่วยงานพี่ปืนได้เห็นป่าว”

เออ...มันลำเลิก ก็จริงอยู่ที่ปืนใช้โปรแกรมคอมฯบางอย่างไม่คล่อง เพราะสมัยก่อนการเรียนคอมฯก็ค่อนข้างแพง

เครื่องคอมฯยิ่งแล้วใหญ่ ฐานะอย่างครอบครัวปืนไม่มีปัญญาซื้อไว้ให้ลูกซ้อมมือหรอก

มีให้แค่ค่าเล่าเรียนก็ดีถมไปแล้ว

มันมาเปิดคอมฯใช้สักสิบหน ช่วยงานปืนได้แค่หนเดียว มันยังมีหน้ามาลำเลิกกับเขานี่ มันน่าซัดซะให้น่วมนะไอ้เนี่ย

แต่ไม่ว่ายังไง การมีปออยู่ใกล้ ๆ ทุกวันก็กลายเป็นว่า.....เรามีเรา....ม่ายช่าย 

กลายเป็นน้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า เพราะปอถูกฝึกให้ช่วยตัวเองมาตั้งแต่เด็ก ๆ ให้ทำงานบ้านเป็น

โดยเฉพาะซักเสื้อผ้าของตัวเอง (โยนเข้าตู้ฝาหน้า ทั้งซัก ทั้งอบ แล้วผึ่งให้แห้งภายในสิบห้านาที)

ซักเสร็จแล้วก็ยังรีดผ้าเองได้เรียบกริบอีกด้วย จนเดี๋ยวนี้ปืนไม่ต้องส่งผ้าซักที่ร้านอีกแล้ว

ยกเว้นเสื้อสูทที่ใส่ในที่ทำงาน แต่ปืนต้องจ่ายค่าแรงเจ้าปอด้วยการให้มันเอาผ้าของตัวเองมาซักรวมกันด้วย

 ด้วยข้ออ้างที่เข้าข้างตัวเองอย่างที่สุดของเจ้าปอ

“คิดดูนะพี่ปืน เดี๋ยวนี้พี่ปืนไม่ต้องดองผ้าไว้หลายวันรอให้ที่ร้านมาเก็บไปซักอาทิตย์ละหน ผมซักผ้าสามวันหนนึง

 ผ้าก็ไม่มีกลิ่นอับด้วย เราซื้อน้ำยาซัก น้ำยาปรับผ้านุ่มเอง แถมด้วยน้ำยารีดผ้าเรียบ เราก็เลือกกลิ่นที่เราชอบได้เลย

 แทนที่จะต้องทนกับกลิ่นน้ำยาเหมาโหลที่ร้านเค้าซื้อเป็นแกลลอนอ่ะ หอมก็ไม่หอม แล้วเวลาเค้ารีดเสื้อขาว ๆ

 ของพี่ปืนน่ะ เค้าก็จะปรับไฟแรงให้ผ้าเรียบเร็ว ไม่สนใจหรอกว่า ไฟแรง ๆ จะทำให้ผ้าขาวหมองได้

นี่ผมก็ดูแลเสื้อผ้าให้พี่ปืนเอง เห็นมั้ยเสื้อก็ทั้งหอม ทั้งขาว อย่างผมนี่หาได้ที่ไหนอีก””

เหรอ....ปืนก็เพิ่งรู้ว่าที่เขาต้องซื้อเสื้อทำงานสีขาวบ่อย ๆ เพราะเห็นสีมันไม่ขาวแล้วน่ะ

มันมีต้นเหตุมาจากการใช้ไฟแรงรีดผ้านี่เอง...โธ่! ก็คนมันไม่เคยทำเองนี่หว่า อยู่บ้านแม่ก็ทำให้

ออกมาอยู่เองถ้าจะหาเมียมารีดให้ก็ต้องลงทุนไปสู่ขออีก ค่าสินสอดตั้งเท่าไหร่ เก็บเงินไว้เที่ยวไว้กินก่อนดีกว่า

ค่อยคิดหาเมีย ตอนนี้มีเมียรายวันแบบไม่ต้องเสียตังค์ไปก่อนแล้วกัน

ครอบครัวเป็นเรื่องของอนาคตยังอีกไกล....ดูมันคิดไปได้


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-05-2012 01:13:35 โดย ์NOO »

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16
Re: อ้อนนักรักซะดีแมะ
«ตอบ #3 เมื่อ08-05-2012 08:14:40 »

 :กอด1:นึกว่าใครที่แท้คนกันเอง 


อ่านที่เวปโน้นยังไม่จบ ดีใจจังที่น้องนูเอามาลงที่เวปนี้


 :mc4: :mc4:

ออฟไลน์ daboo

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 444
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
Re: อ้อนนักรักซะดีแมะ
«ตอบ #4 เมื่อ08-05-2012 12:52:43 »

ผมชอบเรื่องนี้นะ 


ตามอ่านมาตั้งแต่เวปเก่าแล้วหล่ะ


ดีใจจังที่ได้กลับมาอ่านอีก

ออฟไลน์ Pakbung Mazo

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 505
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-3
Re: อ้อนนักรักซะดีแมะ
«ตอบ #5 เมื่อ08-05-2012 13:44:29 »

มารอค่า :)

ออฟไลน์ น้ำแข็งใส

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 274
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +130/-1
Re: อ้อนนักรักซะดีแมะ
«ตอบ #6 เมื่อ08-05-2012 15:11:02 »

ว๊าย  :mc4: ดีใจจะได้อ่านเรื่องนี้อีกครั้ง

 :กอด1: Noo 

ออฟไลน์ NuNew

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 176
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-2
Re: อ้อนนักรักซะดีแมะ
«ตอบ #7 เมื่อ09-05-2012 00:21:23 »

:กอด1:นึกว่าใครที่แท้คนกันเอง 
อ่านที่เวปโน้นยังไม่จบ ดีใจจังที่น้องนูเอามาลงที่เวปนี้
 :mc4: :mc4:

หวัดดีครับพี่เอก เหมือนเราไม่ได้เจอกันมาซักครึ่งศตวรรษเลยเนอะ


ผมชอบเรื่องนี้นะ 
ตามอ่านมาตั้งแต่เวปเก่าแล้วหล่ะ
ดีใจจังที่ได้กลับมาอ่านอีก

คนที่เค้าชวนให้มาลงที่นี่ เค้าก็บอกผมว่า มีสมาชิกจากเว็บโน้นมาอยู่ที่นี่หลายคน
ผมก็ว่าจะมาขอไออุ่นจากคนคุ้นเคยแถว ๆ นี้แหละครับ
 


มารอค่า :)

ลงใหม่คราวนี้คงไม่ต้องรอนานแล้วครับ เพราะเขียนจบหมดแล้ว
ไม่เหมือนเว็บเก่า รอกันเป็นชาติ 555
 



ว๊าย  :mc4: ดีใจจะได้อ่านเรื่องนี้อีกครั้ง

 :กอด1: Noo

:กอด1: คืนคุณน้ำแข็งใส ผมก็ดีใจครับ เหมือนได้เจอมิตรเก่า


ออฟไลน์ NuNew

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 176
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-2
Re: อ้อนนักรักซะดีแมะ
«ตอบ #8 เมื่อ09-05-2012 00:26:23 »




อีกไม่กี่วันคอร์สติวของปอก็จะจบลงแล้ว พอดีกับได้เวลาสอบเอ็นทรานซ์ที่ปอต้องกลับบ้านซะที คณะที่ปอเลือกเป็นอันดับต้น ๆ

อยู่ในกรุงเทพเป็นส่วนใหญ่ อันดับสุดท้ายอยู่ที่นี่ ก็ตอนนั้นยังไม่รู้จักพี่ปืนนี่นา อุตส่าห์เลือกที่นี่ตั้งคณะนึงแน่ะ ก็เพราะ คุณแม่

ขอร้องนะ ใจจริงปออยากไปเผชิญชีวิตนักศึกษาในกรุงเทพมากกว่า ถ้าไหน ๆ จะต้องไปเรียนไกลบ้านล่ะก้อ แต่ตอนนี้สิ ปอกลับ

มานั่งนึกเสียดาย....รู้งี้เลือกที่นี่ทั้งหมดทุกอันดับก็จะดีหรอก ปอรู้ตัวเองว่าถ้าว่าตามความสามารถล้วน ๆ ปอก็น่าจะติดคณะใด

คณะนึงของม.ที่นี่แน่นอนอยู่แล้ว....(เรียกว่าโม้ป่าววะ)....

ทำยังไงดีถึงจะได้เรียนที่นี่ ได้อยู่กับพี่ชายที่แสนดีอย่างพี่ปืนกันนะ

ส่วนปืนพอใกล้วันปอกลับบ้าน ก็ชักจะรู้สึกเหงาล่วงหน้าขึ้นมาแล้ว

ห้องคงกว้างกว่าเดิม...... เมื่อไม่มีไอ้คนตัวเล็กๆ มาเดินเกะกะ

เสื้อผ้าใครจะซักจะรีดให้.....คงต้องส่งซักเจ้าเดิม อาจจะต้องซื้อเสื้อขาวบ่อย ๆ อีกแล้ว

นึกถึงตอนต้องกินข้าวคนเดียว ก็เริ่มมีอาการอาหารไม่ย่อยขึ้นมารำไร แล้วทำไมก่อนหน้านี้ถึงอยู่มาได้ว้า....ไอ้ปืน


“พี่ปืน ไปเที่ยวบ้านผมมั้ย” ปอเอ่ยปากชวน

วันนั้นเป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์ ที่อยู่ติดห้องทั้งคู่ ไม่รู้จะออกไปไหน แดดหน้าร้อนก็ร้อนซะ....อยากเย็นก็ต้องเดินห้าง แต่ก็ต้องฝ่า

ความร้อนไปก่อน แต่ในเมื่อยู่ห้องก็เย็นเหมือนกัน ก็เลยขอยืมดีวีดี หนังสนุก ๆ จากร้านใต้

อพาร์ทเมนท์มาดูก็เพลินดี ดูไปหลับไป

   “ไม่เอาหรอก กลัวระเบิด”

   “ไม่มี้...ผมยังมาถึงที่นี่ได้เลย มาได้ก็กลับได้ ที่บ้านผมน่ะไม่มีเหตุร้ายหรอกครับ เราต่างคนต่างทำมาหากิน อยู่กันอย่างญาติ

เมืองเล็ก ๆอ่ะครับพี่ปืน รู้จักกันหมดว่าใครเป็นใคร”

   “บ้านนายน่ะไม่มีเหตุ แต่ก่อนจะถึงบ้านนายอ่ะ มันผ่านกี่ด่านล่ะ จะเกิดเหตุตอนไหนใครจะรู้”

ปืนแกล้งทำท่าว่ากลัว แต่ความจริงเขาก็รู้ว่าตลอดระยะทาง จะมีด่านทหารและตำรวจเป็นจุด ๆ คอยระวังรักษาความปลอดภัย

เป็นที่รู้กันว่าถ้าจะเดินทางไกล ๆภายในเขตนี้ ต้องรักษาเวลาทั้งขาไปและขากลับ รวมทั้งต้องพยายามอย่าทำตัวให้เป็นจุดเด่น

โดยไม่จำเป็น เขาเคยไปช่วยงานที่สาขาแถวนั้นเมื่อปีที่แล้ว บรรยากาศไม่น่ากลัวอย่างที่คิด แต่นั่นแหละ พอมีเหตุขึ้นแต่ละครั้งก็

ผวากันไปนาน คนนอกพื้นที่ก็พลอยไม่กล้าย่างกรายเข้ามา

“คนเรานะพี่ปืน ถึงที่ตายมันก็ตายได้ไม่เลือกสถานที่ เลือกเวลาและวิธีการหรอกนะครับ”

หนอย...ไอ้ตัวเล็กทำมาสอน ไอ้ที่กลัวน่ะ กลัวไม่ตาย แต่มันดันเจ็บรึไม่ก็พิการ กลายเป็นภาระญาติพี่น้องหรอกว้า...

“เอ...เย็นนี้ใครอยากกินพิซซ่ามั่งเนี่ย” ปืนเรียกร้องความสนใจ

“จริงอ่ะพี่ปืน ผมอยากกินตั้งหลายวันแล้ว แต่พี่กลับเย็นทุกวันเลยไม่กล้าชวนอ่ะ”

“แล้วทำไมไม่ไปชวนเพื่อน”

“ไปกับเพื่อนก็โดนหารดิ ไปกับพี่ปืนผมไม่ต้องเอากระเป๋าตังค์ไปก็ยังได้”

“อ้อ....ไอ้นี่ หลอกกินฟรีนี่หว่า”

“น่า...นะ คิดซะว่าเป็นค่าจ้างซักผ้ารีดผ้านะครับ พี่ปืนที่แสนใจดี”

เออ...ไอ้ปืนมันบ้ายอ เสียรู้เด็กอีกแล้วเหรอวะเนี่ย แต่อย่างว่าแหละ เขาเป็นผู้ใหญ่กว่า แถมมีงานมีเงินเดือน จะหลอกกินของ

เด็กก็น่าเกลียด (กินเด็กล่ะว่าไปอย่าง)


ตกลงก็เลยต้องตามใจเด็ก ทั้งที่ปืนเองไม่ได้ชอบพิซซ่าเป็นพิเศษ แต่เวลาเห็นปอกินอย่างเอร็ดอร่อย เขาก็พลอยเจริญอาหาร

ไปด้วย ดังนั้นพิซซ่าขอบชี้สถาดใหญ่ กับวิงแซ่บสองกล่องก็หมดไปในเวลาไม่ช้าไม่นาน ที่เหลือก็มีเศษเฟรนช์ฟรายด์ท่อนสั้น ๆ

กับเป็บซี่ 2 ลิตรก้นขวด แล้วอย่าคิดว่ารวมพลังหารสองนะ ตอนปืนหยิบชิ้นแรกเข้าปาก เป็นเวลาเดียวกับที่เจ้าปอมันกินชิ้นที่ 2

หมดไปครึ่งนึง...เปล่า....ปืนไม่ได้ต่อให้มันหรอก ก็แค่หยิบจานแบ่งมา 2 ใบเตรียมแก้วน้ำ สำหรับ 2 คน หยิบน้ำแข็งใส่แก้ว แล้ว

รินเป๊บซี่ แค่นี้เอง พิซซ่าชิ้นแรกของเจ้าปอก็ละลายในปากเรียบร้อยแล้ว ปืนกิน 2 ชิ้นก็เริ่มที่จะจุกแอ้กแล้ว ที่เหลือก็เป็นหน้าที่

ของเจ้าปอจัดการเลียถาด....เอ้ย...เก็บถาด ฐานที่มันกินเป็นคนสุดท้าย แต่ว่า...

“พี่ปืนล้างจาน ล้างแก้วนะ”

“ใช้พี่อีกแล้วนะปอ”

“ก็เดี๋ยวจานแตก ผมโดนพี่ดุอีกอ่ะ”

“มาถ่างตาดูมาว่านี่น่ะ มันจานเมลามีน ไม่ใช่กระเบื้อง”

“อ๋อ...เหรอ.....” อย่ามาทำหน้าเจี๋ยมเจี้ยม “พี่ปืนเปลี่ยนมาใช้เมลามีนมะไหร่เหรอ”

“ก็เมื่อเอ็งทำใบที่หกแตกเมื่อสามวันก่อนไง ที่เปลี่ยนเพราะว่ามันไม่มีใช้แล้วโว้ย”

ปืนก็รอดตัวจากการล้างจานไปได้

“เคร้ง!!!”

“อะไรอีกอ่ะปอเอ๊ย!!” ปืนตะโกนถามจากหน้าโทรทัศน์

“แก้วน้ำอ่ะพี่ปืน” เสียงตะโกน จ๋อย ๆ จืด ๆ ลอดออกมาจากในครัวเล็ก

....กูนึกแล้ว....เออ....พรุ่งนี้จะซื้อแก้วกระดาษ ใช้แล้วทิ้งแมร่งมันเลย ไม่ต้องล้าง




ออฟไลน์ KuMaY

  • คนไม่สำคัญ ทำไรก็ผิด
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 620
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0
Re: อ้อนนักรักซะดีแมะ
«ตอบ #9 เมื่อ09-05-2012 00:28:41 »

พี่นูมาลงเล้านี้แล้ว o13
คิดถึงพี่นูจัง :กอด1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: อ้อนนักรักซะดีแมะ
« ตอบ #9 เมื่อ: 09-05-2012 00:28:41 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ NuNew

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 176
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-2
Re: อ้อนนักรักซะดีแมะ
«ตอบ #10 เมื่อ09-05-2012 00:30:34 »



คืนสุดท้ายแล้วสินะ พรุ่งนี้สาย ๆ ที่บ้านปอก็จะมารับ คราวนี้ป๊าขับรถมาเอง เพราะวันก่อนแม่กลับไปบอกว่าอาหมงชวนให้มา

เที่ยวบ้าง ก็เลยถือโอกาสมาเยี่ยมเยียนกัน แล้วก็รับลูกชายหัวแก้วหัวแหวนกลับไปด้วย เจ้าตัวดีก็เลยหน้าระรื่น ดีใจที่นาน ๆ ทีจะ

มีโอกาสได้เที่ยวนอกบ้านพร้อมหน้ากันทั้งครอบครัว

“สมัยผมเด็ก ๆ แม่บอกว่าป๊าจะพาไปเที่ยวพักผ่อนต่างจังหวัดบ่อยมาก บางทีไปเที่ยวชายทะเล บางทีก็ไปเที่ยวน้ำตก มีหนนึง

ไปถึงเขาใหญ่แน่ะพี่ปืน” ฟังมันทำน้ำเสียงตื่นเต้นดีใจราวกับว่ามันจำได้งั้นแหละว่าแต่ละแห่งแต่ละที่หน้าตามันเป็นยังไง

“จำได้เหรอ ทำมาคุย”

“ถึงจำไม่ได้ผมก็รู้น่าว่ามันคงจะมีความสุข อย่างน้อยผมก็รู้ว่าป๊ากับแม่ต้องมีความสุขแน่ ๆ เพราะว่าเพิ่งแต่งงานกันใหม่ ๆ ลูกก็น่า

รัก”

“ไอ้ขี้โม้ ชมตัวเองก็ได้”

“ไม่ได้โม้...ที่บ้านมีรูปผมสมัยเด็กเพียบเลย ไปเที่ยวไหนป๊าก็จะถ่ายรูปผมกับแม่เก็บไว้เยอะแยะไปหมด แล้วผมตอนเด็ก ๆ ก็

น่ารักจริง ๆ นะ”

“เอ้า!! ยังคุยไม่เสร็จ”

“โธ่! พี่ปืนฟังผมหน่อยดิ ก็ตอนผมเปิดอัลบั้มของตัวเองดูอ่ะนะ ผมก็รู้สึกว่าเด็กคนนี้น่ารักจัง ตอนนั้นผมไม่รู้หรอกว่าเป็นตัวเอง

เพราะโตแล้วหน้ามันก็เปลี่ยนไง แม่ก็เลยบอกว่านั่นน่ะ ผมเอง”

ถึงตอนนี้ก็ยังน่ารัก....รู้ตัวมั้ยเนี่ย...เจ้าปอ


“พี่ปืน”

เสียงเรียกของปอดึงเขาขึ้นมาจากหลุมความคิด ที่นับวันจะหมกหมุ่นแต่เรื่องความน่ารักของปอ ที่พยายามเท่าไร ปืนก็ไม่อาจจะ

เปลี่ยนแปลงความรู้สึกให้เป็นอื่นไปได้ จะว่าไปนี่ก็เป็นความรู้สึกแรกที่เขาได้พบหน้าปอที่หน้าลิฟท์ ยิ่งย้ำลึกและหนักแน่น เมื่อ

พบกันอย่างไม่คาดฝันที่แบ็งก์ที่ปืนทำงานอยู่ หน้าใส ๆ เสียงนุ่ม ๆ แล้วยังเนื้อนิ่ม ๆ ที่ปืนเผอิญได้สัมผัสเป็นบางครั้งอย่างตั้งใจ

บ้างไม่ตั้งใจบ้าง โดยน้องมันไม่เคยรู้ตัว

สิ่งเหล่านี้คอยแต่จะย้ำเตือนว่าแท้ที่จริงก้นบึ้งของหัวใจปืน หลงรักไอ้เด็กเมื่อวานซืนคนนี้เข้าเต็ม ๆ แต่ทำยังไงมันก็คงไม่มีวัน

เป็นจริงไปได้ เพราะปอไม่ได้มีใจโน้มเอียงฝักใฝ่เพศเดียวกันอย่างที่ปืนเป็นอยู่ ปืนรู้จากปากปอเองเลยว่ามันกำลังติดหญิงที่นั่ง

ข้าง ๆ ในชั่วโมงติว ถึงขนาดสัญญากันว่า จะติดต่อกันตลอดไม่ให้ห่างหาย แม้ว่าจะแยกย้ายกันกลับบ้านแล้วก็ตาม

“ตกลงจะไปเที่ยวบ้านผมมั้ย พรุ่งนี้ป๊าจะขับรถมาเอง เราจะได้แวะเที่ยวระหว่างทางกลับบ้านด้วยไง”

“ไปยังไงเล่าปอ พี่ทำงานนะ ต้องลางานล่วงหน้า หายไปเฉย ๆ ได้ที่ไหน”

“พรุ่งนี้พี่ปืนก็ไปลาซะสิ วันมะรืนเราเดินทางกัน ป๊ากับแม่ก็ค้างที่นี่ซะคืนนึง พอดีเลย ป๊าจะได้ไม่เหนื่อยจนเกินไป”

วางแผนไว้เสร็จสรรพ ปืนคิดว่าก็ดีเหมือนกัน ถ้าป๊ากับแม่ของปอไม่ขัดข้อง เขาก็อยากติดรถไปด้วย ส่วนขากลับก็กลับรถทัวร์มา

คนเดียว อย่างน้อยก็จะได้ยืดเวลาที่จะได้เห็นหน้าไอ้ตัวเล็กอีกวันสองวัน



รุ่งขึ้นปืนก็ลางานได้สมดังความตั้งใจ เพราะตอนเช้าเจ้าปอรีบมาคอนเฟิร์มว่าอย่าลืมลางาน ป๊ากับแม่จะมาถึงราว ๆ เที่ยง ปอบอก

ว่าจะไปรับปืนที่ทำงานเพื่อไปกินข้าวเที่ยงด้วยกัน แต่เขาบอกว่า ช่วงพักเที่ยงแค่ชั่วโมงเดียว เข้าทำงานสายก็ไม่ได้ มันผิด

ระเบียบ กินข้าวแบบรีบ ๆ ก็ไม่อร่อยแถมเสี่ยงกับโรคลำไส้อีกด้วย ขอผัดเป็นมื้อเย็นก็แล้วกัน อันนี้ปอก็เลยเห็นด้วย ปืนคาดว่าถ้า

เป็นมื้อเย็นก็คงได้ไปกินที่ร้านอาหารของอาเจ็กหมงอีกแน่เลย....ยังไงก็ลาภปากล่ะวะ (แผนสูงอีกตามเคบนะปืน)

แต่ทำยังไง ๆ ระหว่างวันปืนก็ไม่ค่อยจะมีสมาธิทำงานเอาซะเลย พอคิดไปถึงวันที่ปอกลับไปอยู่บ้าน แล้วก็ คงไม่ได้เจอกันอีก

ปืนก็รู้สึกใจหายวับไปทุกที ทั้งที่อยู่ตามลำพังมาได้ตั้งนานนม เหงาขึ้นมาก็หาใครมาช่วยแก้เหงา จะ ชายหรือหญิงปืนก็เคยมา

แล้วทั้งนั้น....เอาน่า....หนนี้ถ้าเหงานัก อย่างดีก็กลับไปใช้ชีวิตแบบเดิม ไม่เห็นต้องวิตกจริตไปล่วงหน้าเลยนี่หว่า

ขนาดปลอบตัวเองอย่างนั้น ก็ไม่วายจะคิดเรื่องเดิมขึ้นมาแวบ ๆ จนผลสุดท้าย ตอนเย็นปืนก็ทำงานพลาดจนได้

“เงินขาด 2,000“ ปืนสรุปยอดเงินสดคงเหลือตอนสิ้นวัน ก่อนส่งแคชเชียร์

“หาดูดี ๆ รึยัง ผ่านรายการผิดรึป่าว” เพื่อนที่นั่งข้าง ๆ หันมาช่วยพลิกรายการบนสลิปเพื่อช่วยตรวจสอบอีกครั้ง

“ช่วยดูอีกทีก็ดีนะ เอาเฉพาะครึ่งวันบ่ายแล้วกัน เพราะช่วงเช้าผมตรวจสอบก่อนไปทานข้าวแล้ว”

ใช้เวลาไป 15 นาที เพื่อนก็ส่ายหน้า

“ไม่น่าเลยปืน คุณทำงานละเอียดมาตลอด แล้ววันนี้เป็นอะไรไป ผมสังเกตมาแต่เช้าแล้วนะว่าคุณเหมือนไม่ค่อยสบายอ่ะ”

“ก็นิดหน่อย” จะให้บอกไงล่ะว่า เขากำลังกังวลเรื่องบางเรื่อง ไม่ใช่เพราะเจ็บป่วยอะไร

“นั่นสิ ก็พอดีแหละ พรุ่งนี้คุณก็ได้ลาอยู่แล้ว พักผ่อนแล้วกันนะ”

ปืนพยักหน้า แต่ในใจคิดอยู่....ถ้าไม่สบายจริง ๆ ก็เห็นจะลาป่วยไม่ใช่ลาพักร้อนเตรียมเที่ยวอย่างนี้

เป็นอันว่าปืนต้องชดเงินสดที่ขาดหายไปจากบัญชี เพื่อให้ปิดบัญชีเงินสดได้ลงตัว ทั้งที่เขาไม่เคยสับเพร่าขนาดนี้มาก่อน

รายการนี้เป็นไปได้ทั้ง รับเงินจากลูกค้าขาดไป หรือไม่ก็อาจจะจ่ายเงินลูกค้าเกินไป ซึ่งถ้าเป็นรายการจ่าย ผู้รับก็ต้องรู้อยู่แล้วว่า

ได้เงินไปเกิน แต่ที่ไม่คืนคงเพราะคิดว่าลาภลอย ลูกค้าประเภทนี้ ปืนถือว่าเป็นเจ้ากรรมนายเวรตามมาทวงคืน....ช่างหัวมัน (ก็จะ

เอาคืนกะใครล่ะว้า...มันนึกม่ายออกอ่ะ) ส่วนรับเงินขาด ถือว่าเป็นความสับเพร่าของปืนเต็ม ๆ เพราะบางทีผู้ฝากเงินไม่ได้ตั้งใจ

(ก็ค่อยตามไปทวงกันชาติหน้านะ)




ออฟไลน์ NuNew

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 176
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-2
Re: อ้อนนักรักซะดีแมะ
«ตอบ #11 เมื่อ09-05-2012 00:33:49 »

พี่นูมาลงเล้านี้แล้ว o13
คิดถึงพี่นูจัง :กอด1:



น้องเมย์อ่านจบแล้วหนิเนอะ

มีคนจะเอามาโพสท์ให้ แ่ต่พี่นูงก 555

อยากโพสท์เองมากกว่า ของของเรา อยากรับผิดชอบด้วยตัวเองครับ

 :กอด1:  คิดถึงน้องเมย์เหมือนกันครับ


ออฟไลน์ KuMaY

  • คนไม่สำคัญ ทำไรก็ผิด
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 620
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0
Re: อ้อนนักรักซะดีแมะ 9/5/2555
«ตอบ #12 เมื่อ09-05-2012 00:54:38 »



น้องเมย์อ่านจบแล้วหนิเนอะ

มีคนจะเอามาโพสท์ให้ แ่ต่พี่นูงก 555

อยากโพสท์เองมากกว่า ของของเรา อยากรับผิดชอบด้วยตัวเองครับ

 :กอด1:  คิดถึงน้องเมย์เหมือนกันครับ



เมอ่านจบแล้ว แต่เมจะอ่านใหม่อีกอ่ะ o3
ถ้าพี่นูไม่มาต่อนะ จะทวงยิกๆๆๆๆๆเลย o18

ออฟไลน์ NuNew

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 176
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-2


ตกเย็นปืนก็กลับที่พักก่อนเวลาเลิกงานด้วยข้ออ้างว่าไม่ค่อยสบาย ไหนจะเรื่องเงินสดขาดและต้องชดใช้เอง เป็นอันว่ารอดตัวไม่

มีใครว่าอะไร ทั้งนี้ ปืนแค่คิดว่าอยากกลับมาอยู่ใกล้ ๆ ปอ เพราะเหลือเวลาที่จะอยู่ด้วยกันน้อยเต็มที

ป๊าของปอเป็นผู้ใหญ่ใจดี อายุในราว 50ปีแล้ว มากกว่าแม่ถึงสิบปี กว่าจะแต่งงานกันก็อายุเยอะแล้วทั้งคู่ ทางการแพทย์บอกว่า

มีลูกตอนอายุมากแล้วค่อนข้างเสี่ยงต่อการที่เด็กจะผิดปกติทางสมอง แต่ถ้าอยู่ในความดูแลของหมอ และดูแลสุขภาพดี ๆ ก็ไม่มี

ปัญหา ของปอก็คงเป็นประการหลัง ที่ป๊ากับแม่คงจะดูแลทั้งตัวเองและลูกตั้งแต่ยังตั้งท้อง ทำให้ปอเป็นเด็กร่าเริง ดูแล้วออกจะ

จีเนียส ซะด้วยซ้ำ

“ป๊าขอบใจนะที่ดูแลปออย่างดี เจ้านี่เค้าอยากมีพี่ชายมาตั้งนานแล้ว แต่ป๊าไม่ไหว มีคนเดียวก็ต้องหยุด เพราะอายุเยอะแล้ว แต่ก็

ดีที่ได้ปืนมาเป็นพี่ชายนะ...ไงล่ะ ชอบมั้ยพี่ชายแบบนี้” ป๊าพูดกับปืน แล้วหันไปถามลูกชาย ก่อนจะชวนกันออกไปทานข้าวเย็น

ที่ร้านอาเจ็กหมง

“ผมชวนพี่ปืนไปเที่ยวบ้านเราด้วยนะป๊า”

“ก็ดีสิ แล้วไม่ทำงานเหรอ” ป๊ามีใบหน้ายิ้มแย้มอย่างจริงใจ

“ผมลางาน 3 วันครับ ถ้าป๊าไม่ว่าอะไร ผมรบกวนด้วยนะครับ”

“ไม่รบกวน ๆ ลูกชายจะไปเที่ยวบ้านทั้งที ใช่มั้ยเฮีย” แม่รีบพูดตอบรับลูกชายนอกไส้จนปืนรู้สึกเขิน

“ดี ๆ มาคราวนี้มีแต่เรื่องดี ๆ เดี๋ยวก็ได้พบอาหมงอีก ไปกินข้าวฉลองกันดีกว่า”

ปืนรู้สึกว่าตัวเองโชคดี ที่ผู้ใหญ่ของปอให้ความเอ็นดูและเป็นกันเอง ราวกับว่ารู้จักกันมานาน ทั้งป๊าและแม่ มีท่าทีต้อนรับปืนเข้า

เป็นสมาชิกของครอบครัวตั้งแต่พบกันครั้งแรกทั้งคู่  แต่ปืนคงจะดีใจได้อย่างบริสุทธิ์ใจมากกว่านี้ ถ้าในใจของตัวเองไม่มีพิรุธ....

เพราะปืนไม่ได้อยากเป็นพี่ชายของปอ


ระหว่างนั่งไปในรถ ซึ่งป๊าขับ ให้แม่นั่งคู่ไปข้างหน้า  ส่วนปืนก็นั่งฟังเจ้าปอคุยอยู่ที่เบาะหลัง

“พี่ปืน” ปืนหันไปมองหน้าเจ้าปอที่เรียกชื่อเขาแล้วไม่ยอมพูดอะไรต่อ

“ไม” เขาหันหน้าไป ก็เห็นมือของปอที่ยื่นมาตรงหน้า

“ผมให้พี่ปืนเป็นที่ระลึก” ปอวางนาฬิกาเรือนสามหมื่นลงในมือปืน ซึ่งเขาจำได้ว่าปอให้มาเพื่อค้ำประกันเงินยืมในวันแรกที่เจอ

กัน และหลังจากได้คืนแล้วก็ใส่ติดข้อมือมาตลอด

“ให้พี่ทำไม ของแพง ๆ อย่างนี้”

“ผมอยากให้พี่ปืนคิดถึงผม”

“เออ...มันก็ต้องคิดถึงอยู่แล้ว” ไม่ได้หลงรักใครบ่อย ๆนี่หว่า

“จริงอ่ะ....แต่ผมอยากให้”

“เก็บไว้เถอะ พี่มีของพี่แล้ว”

“รับไปเถอะปืน กลับไปบ้าน เจ้าปอเค้ายังมีอีกหลายเรือน”

เสียงป๊าพูดมาจากด้านหน้าของรถ ปืนก็ยิ่งทึ่ง.....บ้านนี้เค้าให้ของคนเป็นว่าเล่นอย่างนี้เลยนะ รู้ก็รู้ล่ะว่ารวย แต่นาฬิกาเรือนละ

สามหมื่นไม่ใช่ของที่จะเอามาแจกกันเล่น ๆ นะ

“แต่ผมรับไม่ได้หรอกครับ ราคามันสูงเกินไป” ปืนตอบเสียงอ่อย การปฏิเสธผู้ใหญ่ที่หวังดี ปืนก็ไม่อยากจะทำ ถ้าราคามันจะน้อย

กว่านี้สักนิดอ่ะนะ

“2-3 พัน ไม่เท่าไหร่หรอกครับพี่ปืน แล้วผมก็ไม่ค่อยได้ใส่ด้วย”

“หา!! ว่าไงนะ 2-3 พัน รึว่า 2-3 หมื่น” ปืนหูผึ่งกับราคาที่เจ้าปอพูด เพราะมันต่างจากราคาแรกถึงสิบเท่า

ป๊ากับแม่หัวเราะเสียงดัง แล้วแม่ก็พูดว่า

“ไปหลอกพี่เค้าไว้แล้วพูดไม่เหมือนเดิมล่ะสิเจ้าปอ”

“ป่าวนะพี่ปืน....ไอ้นี่อ่ะ ราคาจริงมันสามหมื่นเจง ๆ แต่ของผมเป็นก็อปเกรดเอ ราคาก็เลยเหลือสามพัน”

“สามพันรึว่า 2-3 พัน” ปืนคาดคั้น ตาเขียวปั้ด

“ก็...สองกว่า  ๆ เกือบสามพันอ่ะ” เสียงเจ้าปอดังแค่อุบอิบ ๆ

“ไม่รู้เรอะเจ้าปอว่าพี่เค้าทำแบ็งก์ เราต้องพูดตัวเลขกับเค้าตรง ๆ เห็นมั้ย เลยถูกจับได้เลย” ป๊าหัวเราะไปตลอดทาง ถูกใจที่ปืน

จับโกหกเจ้าปอได้

“หนอย!!  แล้วดันจะหลอกเอาเงินพี่ไปตั้งหมื่น ดีนะที่ไหวตัวทันให้แค่ค่าลงทะเบียน”

“จะเท่าไหร่ผมก็ไม่คิดจะเบี้ยวนี่ครับพี่ปืน ผมแค่อยากได้ตังค์เยอะหน่อย ติดกระเป๋าไว้แค่นั้นเอง”

“แม่ก็ขอโทษปืนด้วยนะที่ไม่ได้บอกตั้งแต่มาคราวที่แล้ว เพราะแม่รู้ว่ายังไงเราก็ต้องคืนเงินให้ปืนอยู่ดี ตอนที่ปอเค้าเล่าว่าทำไม

ปืนถึงกล้าให้เงินเค้ามา แม่ก็คิดว่า คงเป็นเพราะปืนมีจิตใจดี ถึงได้คิดเรื่องช่วยเหลือปอก่อนใช่มั้ยปอ”

“ใช่ครับแม่ เพราะก่อนที่ผมจะโทรหาแม่ พี่ปืนเสนอผมแล้วว่าจะให้ผมยืมเงินไปลงทะเบียนก่อน พอได้เงินโอนมาแล้วค่อยคืน”

“นั่นไง...แม่กับป๊าคุยกันก็คิดเหมือนกันเลยว่า เราเจอคนที่มีจิตใจดี ลูกเราก็เลยโชคดีไง จริงมั้ยป๊า”

“จริงจ้ะแม่”

เลยทำเอาปืนทั้งเขิน ทั้งละอาย ปน ๆ กันไป เพราะว่าแรกเริ่มของความคิดที่จะให้ความช่วยเหลือมันไม่ใช่อย่างที่ทุกคนคิด แต่

มันเป็นเรื่องที่เขาตั้งใจจะผูกมัดเจ้าปอด้วยเหตุผลอย่างอื่น.....แต่ในใจปืนก็แย้งกันเองว่า แค่ครั้งแรกเท่านั้นหรอกนะที่เขาใช้เล่ห์

เพทุบาย แต่หลังจากนั้นแล้วมันคือความรู้สึกจากใจของเขาล้วน ๆ แล้วไหนจะคำชื่นชม สรรเสริญเยินยออย่างจริงใจจากผู้ใหญ่

ทั้งสอง ทำให้ปืนไม่มีวันที่จะกล้าทำร้ายจิตใจท่านได้เลย


ที่ร้านอาหารจีนของอาหมงคืนนี้ลูกค้ามากเป็นพิเศษ ไม่รู้เทศกาลอะไร โต๊ะที่ครอบครัวของปอสั่งจองไว้ก็เลยต้องยกให้ลูกค้า

ที่ไม่ได้จองล่วงหน้า เพราะเป็นนักท่องเที่ยวจากต่างจังหวัด ป๊ากับแม่ของปอ ไม่อยากให้อาหมงเสียรายได้ เพราะสำหรับคนกัน

เอง นั่งโต๊ะไหนก็เหมือนกัน อาหมงก็เลยเชิญเข้าไปในบ้านแทน

บ้านของอาหมงก็ไม่ใช่อื่นไกล เป็นด้านหลังของร้านซึ่งมีเนื้อที่ลึกถึงสามสิบเมตร ทะลุถนนสองสาย เพียงแต่ด้านหลังที่ติดกับ

ถนนอีกสายหนึ่งเปิดให้ร้านเสริมสวยเช่าพื้นที่ด้านล่าง พื้นที่ตั้งแต่ชั้นสองไปถึงชั้นสี่ เป็นที่พักอาศัยของครอบครัวอาหมง วันนี้

แทนที่จะได้กินอาหารเหลาราคาสุดแพง ปืนก็รู้สึกผิดหวังนิด ๆ (ตะกละนะเนี่ย)

ภรรยาของอาหมงเป็นคนปรุงอาหารทุกจาน เครื่องปรุงก็ไม่แตกต่างจากครัวของเหลาเลย

“เป็ดย่างสูตรของเราเองนะเฮีย น้ำซอสที่ราดเราปรุงให้ไม่เหมือนใคร ขิงเราก็ดองเอง ชิมดูซิ ถูกปากรึเปล่า”

จบคำเชิญชวน ป๊าก็ใช้ตะเกียบคีบเป็ดย่างใส่ปาก แล้วก็ร้อง ฮ้อ!! เป็นอันว่าอร่อย การพูดคุยอย่างออกรสสลับกับการบริโภค

อาหารรสเลิศ ซึ่งหลังจากเป็ดย่างก็ตามติด ๆ ด้วยปลาเต๋าเต้ยหม้อไฟ ปลากะพงนึ่งบ๊วย แต่จานที่ดูประหลาดจนไม่กล้าชิม ก็คือ

ก้างปลาทอดกรอบ แม้แต่ป๊าเองยังงง ๆ กับเมนูนี้เลย

“มันกินได้เหรอหมง”

“นี่แหละสุดยอดเลยเฮีย ก็ไอ้ปลาเต๋าเต้ยที่เราแล่เอาแต่เนื้อไง ก้างกับกระดูกมันแทนที่จะทิ้งซะเปล่า ๆ ก็เอามาทอดให้กรอบ

แถมมีประโยชน์ด้วยนาเฮียนา….กินกระดูกบำรุงกระดูกไงเฮีย”

“เรอะ....เดี๋ยวนี้คนเรากินกระทั่งก้างปลาเลยเหรอเนี่ย”

“โธ่.....ป๊าก็ ปลาเต๋าเต้ยน่ะมันถูก ๆซะที่ไหนล่ะ โลละตั้งหลายร้อย จะทิ้งก้างให้เสียของทำไมล่ะ ไหนลองชิมซิ....อื้ม....กรอบ

อร่อยจริง ๆ ด้วยอาหมง”

หลังจากคำรับรองของแม่ปอ ทุกคนก็เลยรุมกันคีบก้างปลาเต๋าเต้ยทอดกรอบกันคนละหนุบคนละหนับ

ขณะที่ใคร ๆ กำลังอร่อยกับอาหารบนโต๊ะ ทันใดนั้น ก็มีเสียงดังปัง เหมือนกับใครทำของหนัก ๆ ตกลงบนโต๊ะ แล้วก็ตามมาด้วย

เสียงตะโกนลั่นบ้านของสาวน้อย

“หิว ๆ ป๊า แม่ หิวอ่ะ”

“นั่นแหละ เค้าล่ะ” อาหมงส่ายหน้า แต่น้ำเสียงก็บอกถึงความเอ็นดูลูกสาวคนเดียวชัดเจน

สิ้นเสียงอาหมง เจ้าของเสียงก็เดินมาถึงโต๊ะอาหารพอดี

“แม่....ป๊า” เด็กสาววัยรุ่น รูปร่างเก้งก้าง ผิวขาวอย่างลูกคนจีน ตัดผมสั้นแค่ติ่งหู ทักเสียงดัง แล้วเดินไปกอดแม่ของปอ อีก

ฝ่ายกอดตอบแล้วจูบแก้มลูกสาวนอกไส้สองข้างดังฟอด

“คิดถึงจังเลย แม่มาเมื่อไหร่อ่ะป๊า”

ผู้ใหญ่ทั้งโต๊ะมองหน้าที่เปื้อนยิ้มกันไปมา ขำคำถามที่หลุดออกจากปากของผู้มาใหม่ เพราะหยินเรียกป๊าและแม่ของปอเหมือน

กับที่เรียกป๊าและแม่ของตัวเอง ก็เลยไม่รู้ถามใคร และใครจะเป็นคนตอบ

“อือ...หยินลืม” เมื่อเจ้าตัวนึกได้เองก็เลยหัวเราะ

เสียงหัวเราะนั้นมาสะดุด หยุดลงเมื่อเห็นว่ามีคนแปลกหน้าร่วมโต๊ะด้วย แล้วสายตาก็ป้อนคำถามว่า ‘ใคร’

“ไหว้พี่ปืนเค้าสิหยิน” แม่ปอแนะนำ หยินก็ยกมือไหว้ตามอย่างว่าง่าย

“พี่ปืนเป็นพี่ชายเรา” ปอทึกทัก ส่วนหยินทำหน้างงหนักกว่าตอนที่ยังไม่รู้จักเสียอีก

“นั่งลง ๆ กินข้าวก่อน ตะโกนมาแต่ไกลว่าหิวไง” เก้าอี้ข้าง ๆ อี๊นีถูกเลื่อนออกให้นั่ง แต่ลูกสาวกลับไถลเดินไปนั่งใกล้ปอแทน

“นั่งด้วยดิ”

ปืนได้โอกาสสำรวจใบหน้าทุกคนในที่นั้น เพราะรู้สึกว่าบรรยากาศบนโต๊ะอาหารเปลี่ยนไป ผู้ใหญ่ทั้งสี่ที่มีฐานะเป็นพ่อแม่ ต่างก็

อมยิ้มเหมือนถูกอกถูกใจอะไรซักอย่าง ซึ่งปืนก็คิดเอาว่าคงเป็นเพราะได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันทั้งสองครอบครัว ได้ระลึก

ความหลังร่วมกัน หลังจากที่ไม่ได้พบปะกันเป็นเวลานาน

เรื่องราวที่มาของพี่ชายปอ ถูกเล่าขานให้หยินได้ฟังเป็นคนสุดท้ายของครอบครัว ซึ่งสาวน้อยรับรู้ด้วยความทึ่งและชื่นชม ปืนคิด

ว่าเขาไม่ได้เข้าข้างตัวเอง เมื่อมองเห็นแววตาที่ว่านั้น ยามที่หยินมองสบมา เล่นเอาปืนเขินอีกเป็นรอบที่เท่าไรไม่รู้

บ้านนี้ (เจ็กหมงกับอี๊นี)  ท่าทางจะเลี้ยงลูกแบบตามใจสุด ๆ อย่างเห็นได้ชัดเจนมากจากกิริยาอาการที่หยินแสดงออก คำพูดคำ

จา ไม่ได้ก้าวร้าว แต่ก็ตรงไปตรงมา ดูไปดูมา เจ้าปอน่าจะสลับร่างกับหยินนะ คนหนึ่งพูดจาเรียบร้อย อีกคนดูโผงผาง แก่น ๆ

“แต่หนูไม่ยอมเป็นน้องพี่ปืนหรอก” อะไรแว่ว ๆ นะ ปืนเริ่มดึงตัวเองกลับมาร่วมวงอย่างรวดเร็ว

“ทำไมพูดอย่างงั้นล่ะหยิน ไม่น่ารักเลย” อี๊นีปรามลูกสาวเบา ๆ

“ใช่ เค้าอายุมากกว่าเราตั้งเยอะ เป็นพี่อาปอ ก็เป็นพี่ของเราด้วย” เจ็กหมงเสริม

“หนูอยากเป็นอย่างอื่นมากกว่า”

คราวนี้พ่อแม่ทั้งสี่คนหันมามองลูกสาวจอมแก่นเป็นตาเดียว

“หนูจะเป็นแฟนพี่ปืน”

“ไฮ้! เด็กคนนี้พูดจาแก่แดด” คนเป็นแม่ตีเผียะเข้าที่แขนเรียว ๆ ของลูกสาวอย่างไม่จริงจังนัก

ส่วนปืนรู้สึกร้อนผ่าวจากใบหน้าไปจนถึงใบหู คาดว่ามันคงแดงก่ำไปด้วยความเขินอาย....เด็กอะไร...ช่างกล้านะ...เลยได้แต่ก้ม

หน้าก้มตาไม่กล้ามองหน้าผู้ใหญ่คนไหน ทั้งที่ไม่ได้เป็นความผิดของเขาซะหน่อยที่หยินกล้าพูดจาออกมาแบบนี้ หันไปสบตากับ

ปอพอดี เห็นเจ้านั่นก็ทำหน้าแปลก ๆ ครึ่งยิ้มครึ่งบึ้ง

“หนูจองละนะพี่ปืน ห้ามควงใครด้วย รอหนูโตก่อนแล้วค่อยควงหนู”

“พอ ๆ อาหยิน เรานี่ยิ่งโตยิ่งพูดจาเหลวไหล ขอโทษพี่เค้าเร็ว” เจ๊กหมงเอ็ดลูกสาว แต่อย่างไรก็ไม่ได้เจืออารมณ์ไม่พอใจ ยิ่งย้ำ

ให้ปืนรู้สึกว่า ที่สาวเจ้าเอาแต่ใจได้ขนาดนี้ก็เพราะไม่ได้ดุว่าให้จริงจัง แค่ปราม ๆ พอให้รู้ว่าพ่อแม่ไม่ได้ปล่อยปละละเลยก็เท่านั้น

หยินพูดแบบนั้นยิ่งทำให้ปืนรู้สึกอึดอัดจนอยากจะหลุดออกไปจากสถานการณ์ขณะนี้ ก็พอดีปอพูดขึ้นมา

“หยินอ่ะชอบพูดเล่นเรื่อยเลย รู้ทั้งรู้ว่าเราเป็นคู่หมั้นกัน” อ้าว!...ไหงงั้นล่ะปอ

มิน่า....ดูว่าใคร ๆ ก็หน้าบานเป็นจานเชิงกันทั้งนั้น ปืนน่าจะเดาได้ตั้งแต่แรก....น่าจะตั้งแต่วันแรกที่มากินข้าวที่นี่คราวก่อนด้วยซ้ำ

จำได้ว่า เจ๊กหมงบอกว่า ปอกับหยินน่าจะได้มีโอกาสพบกันบ้าง....เพื่ออะไร....ก็เพื่อจะได้ ใกล้ชิดสนิทสนมกันมากยิ่งขึ้นน่ะสิ....

ปืนเอ๊ยปืน....จากทีแรกว่าคงอกหักเพราะปอน่าจะชอบหญิง ก็กลายเป็นว่ามาถึงทางตันสวรรค์ปิดตาย แต่ก็ดีเหมือนกัน ได้น้อง

ชายน่ารัก ๆ มาหนึ่งคน แถมด้วยน้องสะใภ้ห่าม ๆ เฮ้ว ๆ อีกคน แล้วยังไงเสียปืนเองก็ใช่ว่าจะอดอยากปากแห้งกับความรักซะเมื่อ

ไหร่ ก็แค่กลับไปใช้ชีวิตแบบเดิม เมื่อไม่มีเจ้าปอมาวนเวียนใกล้ๆ ก็แค่นั้น

ออฟไลน์ StillLoveThem

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3253
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +295/-10
...สวัสดีน้องนู เราเคยคุยกันแล้ว พี่อ่านเรื่องนี้จบแล้วเหมือนกัน
...ยินดีต้อนรับสู่เล้าเป็ด เข้ามาให้กำลังใจน้องนูเฉยๆๆๆ 555555
:laugh:

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
พี่ปืนอย่าเพิ่งคิดไปไกล
เอาใจช่วยนะค๊า :L2:

ครอบครัวน้องปอ
อบอุ่นกันดีจัง :กอด1:


ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16
 :กอด1: :3123:เป็นกำลังใจ




Tiamo_jamsai

  • บุคคลทั่วไป
 :กอด1: :กอด1:เป็นกำลังใจจร้า

ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9

ออฟไลน์ NuNew

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 176
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-2
Re: อ้อนนักรักซะดีแมะ 9/5/2555 รอบค่ำ
«ตอบ #19 เมื่อ09-05-2012 22:23:09 »



กว่าจะได้ลากลับคืนนั้น ก็ปาเข้าไปสี่ทุ่มแล้ว กินข้าวเสร็จแล้วก็ต่อด้วยของหวาน ซึ่งปืนก็ล่อซะเต็มคราบ ไม่นึกว่าอาหารที่บ้านก็

อร่อยไม่แพ้ที่เหลาเลย...ไม่เสียเที่ยวจริง ๆ

กลับมาถึงห้องพัก ปืนก็เดินไปส่งครอบครัวของปอที่ห้อง

“เอ...ผมว่าผมไปนอนห้องพี่ปืนดีกว่านะแม่”

“ไปกวนพี่เค้าทำไม นอนกับแม่นี่แหละ เดี๋ยวปูผ้านวมที่พื้นหน้าเตียงอ่ะแหละ ให้ป๊านอน”

“อ้าว! ไหงเป็นป๊าล่ะแม่ เจ้าปอแหละนอนพื้น พรุ่งนี้ป๊าต้องขับรถ ขอนอนหลับสบาย ๆดีกว่า” แล้วป๊าก็เดินผิวปากไปหยิบ

ผ้าเช็ดตัว เดินเข้าห้องน้ำ

“เอ้า! จะเอายังไงก็แล้วแต่ ป๊าจองเตียงล่ะนะ” ไม่วายหันมาสั่งเสียก่อนจะปิดประตูนะป๊า

“งั้นปอไปนอนห้องพี่ดีกว่า เตียงออกกว้าง...ปะปอ” ปืนชวนอย่างมีน้ำใจ....ดูเหมือนจะเป็นอย่างนั้น....แต่ลึก ๆ แล้วปืนก็คิดว่าดี

เหมือนกัน จากกันคราวนี้ไม่รู้ว่าจะได้เจอกันอีกรึเปล่า เหลือเวลาอีกไม่ถึงอาทิตย์ที่จะได้เห็นหน้าปอแล้ว ขอเก็บความทรงจำดี ๆ

เกี่ยวกับปอไว้ให้มากที่สุดก็แล้วกัน

ปืนเปิดประตูห้องเดินนำเข้าไปก่อน รู้สึกถึงบางอย่างที่เคลื่อนไหวอยู่ภายในจิตใจของตัวเอง ความจริงก็ใช่ว่าจะไม่เคยอยู่กันตาม

ลำพังกับเจ้าปอมาก่อน แต่กี่ครั้ง ๆ ก็ไม่เคยที่จะนอนค้างคืนด้วยกัน เพราะห้องพักก็อยู่ใกล้กันแค่นี้ ง่วงเมื่อไรปอก็เดินกลับไป

นอนที่ห้องได้

“พี่ปืน ผมนอนเลยนะ” เจ้าปอซึ่งอยู่ในชุดนอนเรียบร้อยมาจากห้องของตัวเองแล้ว ก็คลานขึ้นเตียง ขยับไปริมด้านซ้าย คว้า

ผ้าห่มมากอดได้ก็หลับตา

“อืม” ปืนเดินทำโน่นทำนี่ ให้วุ่นวาย สักพักก็ชะเง้อมองเจ้าปอทีว่าหลับแน่ ๆ แล้วก็เปลี่ยนเสื้อผ้า จะเข้านอนบ้าง ยังไม่ทันไรก็มี

เสียงของคนที่คิดว่าหลับดังขึ้น

“เมื่อไหร่จะนอนเนี่ยพี่ปืน ไฟมันแยงตาผมนะ”

“อ้าว! นึกว่าหลับแล้ว”

“หลับลงได้ไง สว่างโร่ออกงี้” ปอปัดผ้าห่มไปไว้ข้างตัว พลิกตัวนอนตะแคงหันหน้ามาหาปืน

“ทีกลางวันทำไมหลับได้หลับดี” ปืนผลักหัวทุย ๆ ของเจ้าปอล้อ ๆ

“มันเหมือนกันที่ไหนอ่ะพี่ปืน คนมันง่วงเวลาไหนก็หลับได้หมดแหละ”

“งั้นแปลว่าตอนนี้ไม่ง่วงดิ”

“ง่วง แต่ตอนนี้หายง่วงแล้ว” ว่าแล้วปอก็ลุกขึ้นนั่ง หยิบหมอนมากอด

“งั้นมาคุยกันดีกว่า” พูดไปแล้วปืนก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะคุยอะไร....ก็แค่อยากเห็นหน้า

“คุยไรอ่ะครับ”

“อะไรก็ได้”

“พี่ปืนอยากคุยก็คุยมาดิ”

“แล้วปอไม่อยากคุยเหรอ”

“ไม่รู้จะคุยอะไรนี่นา”

“งั้นก็นอนแล้วกัน” หมดอารมณ์ว่ะ ปืนเองก็ไม่รู้จะเริ่มคุยเรื่องอะไรดี เพราะที่ผ่านมาหนึ่งเดือน ก็ใช้เวลาทำความรู้จักกันมากพอที่

จะไม่ต้องถามเรื่องส่วนตัวกันอีกแล้ว หลังจากการทำความความรู้จัก ขั้นตอนต่อไปก็ต้องทำความเข้าใจ แต่ว่า....ปืนคงไม่มีโอกาส

ที่จะได้ทำขั้นตอนนี้ซะแล้ว เพราะอีกไม่กี่วัน ปอก็ต้องก้าวเดินไปสู่อนาคตของตัวเอง ที่คงไม่มี ‘พี่ปืน’ คนนี้อีกต่อไป

“พี่ปืน”

“หือ”

“ผมไม่อยากเรียนที่กรุงเทพแล้วอ่ะ”

“อะไรยังไม่ทันจะสอบเลย ไม่อยากเรียนซะแล้ว” ปืนยิ้ม ขำในความคิดที่ไม่อยู่กะร่องกะรอยของปอ

“ผมไม่เอ็นฯดีมั้ย”

“เดี๋ยวโดนเลย เตรียมตัวมาขนาดนี้แล้วไม่สอบ นี่มันอนาคตนะ ไม่ใช่หนังการ์ตูน”

ปอเงียบไป ปืนหันไปเห็นสีหน้าที่ดูหมกมุ่นอยู่กับความคิดของปอ แล้วก็นึกอยากรู้ว่า อะไรทำให้ปอไม่อยากสอบเอ็นทรานซ์

“นึกยังไงไม่อยากสอบ”

“ไม่อยากไปกรุงเทพ”

“ก็ไหนว่าเลือกที่นี่ด้วยไงล่ะ”

“ก็เผื่อว่ามันได้อันดับต้น ๆ อ่ะพี่ปืน”

“โห! ไอ้ขี้คุย นี่แน่ใจขนาดนี้เลยเหรอวะ เอาให้มันติดจริง ๆ ซะก่อนดีมั้ยค่อยคิดอีกทีอ่ะ...ฮึ”

“ผมพูดจริงนะพี่ปืน....เออ...เอางี้ดีกว่า ผมบอกป๊ากับแม่ว่าผมจะเอ็นฯปีหน้า เลือกที่นี่ให้หมดทุกอันดับเลยดีมั้ย”

“อย่าพูดเป็นเล่น ป๊ากับแม่เค้าอยากเห็นอนาคตที่ดีของเรา อย่าทำให้เค้าเสียใจสิ”

“แล้วที่ผมคิดนี่มันทำให้อนาคตไม่ดีตรงไหนเหรอพี่ปืน” มันถามจริง ๆ รึมันจะกวนบาทากันแน่เนี่ย

“แล้วทำไมต้องเสียเวลาไปอีกทั้งปีด้วยล่ะ”

“ผมว่าแม่กับป๊าไม่น่าจะว่าอะไรนะ ที่จริงเค้าไม่ได้อยากให้ผมเลือกมหาวิทยาลัยในกรุงเทพตั้งแต่แรกแล้ว แต่ผมดื้อเอง เค้าก็ไม่
อยากขัดใจ”

“ไปถามเค้าก่อนดีมั้ย แต่สำหรับพี่นะ พี่อยากให้สอบ ได้ที่ไหนก็เรียนไป ทุกคณะที่ปอเลือกมันก็เป็นสิ่งที่ปอชอบไม่ใช่เหรอ

แล้วทำไมเกิดจะมาเปลี่ยนใจเอาตอนนี้ ไหนบอกเหตุผลดี ๆ พี่มาซักข้อซิ”

“ผม....อือ....ช่างมันเหอะ ยังไงมันก็เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว ถึงผมบอกป๊ากับแม่ ก็คงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง” ปอพูดตัดบท หันไป

วางหมอนที่เดิมแล้วลงนอน

“นอนกันเร็วพี่ปืน พรุ่งนี้ป๊าว่าจะออกแต่เช้า”

ยังไม่ทันจะคิดทำอะไรต่อ ก็ได้ยินเสียงปอดังอู้อี้ เพราะหน้าจมอยู่กับหมอน

“ปิดไฟด้วยนะครับพี่ปืน”

เออ....รู้แล้ว

ปืนเดินไปปิดไฟ แล้วกลับมานอนที่เตียง ไม่นานเขาก็ได้ยินเสียงลมหายใจสม่ำเสมอของคนที่นอนอยู่ข้าง ๆ ช่างหลับง่ายหลับ

ดายซะจริง ในขณะที่ปืนยังอยู่ในวังวนความคิดตัวเอง




จะดีสักแค่ไหน ถ้าสิ่งที่ปอพูดเมื่อกี้จะเป็นความจริง ถ้าปอได้เรียนที่นี่ ก็เป็นไปได้ว่าเขากับปอก็ต้องได้พบกันอีกแน่นอน ต่อให้

ปอต้องอยู่หอพักของมหาวิทยาลัยก็เถอะ เสาร์อาทิตย์เขาก็ไปรับมาขลุกอยู่ด้วยกันที่นี่ก็ยังได้ เย็น ๆ ก็ไปกินข้าวด้วยกัน ปืน

เข้าไปหาปอในมหาวิทยาลัยก็ได้ ดีซะอีก ข้าวในม.น่ะถูกกว่าข้างนอก แถมยังอร่อยอีกต่างหาก มีหลายอย่างให้เลือก ยังกับฟู้ด

เซ็นเตอร์ของห้างสรรพสินค้าเลย

ถ้ามีวันหยุดติดกันหลาย ๆ วัน ก็ออกต่างจังหวัดไปเที่ยวทะเล ภูเขา น้ำตก ถ้าปอเหงา ก็ชวนเพื่อน ๆ ไปกันหลาย ๆ คน ตั้งแคมป์

กันซะเลย หรือบางทีอาจจะไปเที่ยวบ้านปอดี ไปสานสัมพันธ์ระหว่างครอบครัวซะหน่อย

ปืนนอนคิดฟุ้งซ่านไปคนเดียวจนผล็อยหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้ มาตื่นเอาจริง ๆ ว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่คิดไปแล้วล่วงหน้า ไม่มีอะไร

เลยที่จะเป็นความจริงไปได้




ปืนรับฟังผลเอ็นทรานซ์ ด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก จะว่าดีใจไปกับปอก็ใช่ ที่ปอสอบติดมหาวิทยาลัยการเมืองชื่อดังของประเทศ

ถึงจะได้แค่อันดับสองก็เถอะ แต่คิดอีกที ก็เสียดายนักหนาที่ปอน่าจะสอบได้ที่นี่ ที่ปืนรออยู่ทุกวันว่าจะได้มีโอกาสอยู่ด้วยกัน

(คนละห้อง) อีกครั้ง



“พี่ปืนครับ ผมจะแวะหาก่อนขึ้นกรุงเทพนะ ผมจะมารถไฟขบวน......รับด้วยนะครับ”

ปอโทรศัพท์มาบอกล่วงหน้า ก่อนวันเดินทาง เห็นว่าป๊ากับแม่ไม่ได้มาด้วยเพราะนัดกับเพื่อน ๆ อีกกลุ่มหนึ่งที่นี่ เพื่อจะเดินทาง

โดยสารรถไฟขึ้นกรุงเทพพร้อมกัน

“รุ่นพี่เค้าจะไปรับที่หัวลำโพงอ่ะพี่ปืน ผมตื่นเต้นจังไม่เคยนั่งรถไฟไกล ๆ แบบนี้เลยอ่ะ” ปอพูดพลางหัวเราะขำความเปิ่นของตัว

เอง




วันนัดพบมาถึง ปืนก็ไปรออยู่ก่อนแล้ว เห็นปอเดินลงจากรถไฟมาพร้อมด้วยกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ 2 ใบ กับเป้สะพายหลังใบโต

“ผมยาวขึ้นแล้วหนิ” ปืนทัก ผมของปอเส้นเล็กนุ่มสีดำสนิท และเหยียดตรง เมื่อตอนที่เจอกันครั้งแรกก็ดูมันทื่อ ๆ ชี้ ๆ แต่ตอนนี้

เริ่มจะประต้นคอ ก็เลยดูน่ารักไปอีกแบบ

“ผมจะไว้ผมยาวล่ะพี่ปืน ฝันมานานแล้ว ว่าถ้ายาวถึงกลางหลังเมื่อไหร่ ผมจะถักผมเปีย” ปอพูดไปยิ้มไปอย่างมีความสุข การที่

ได้พบพี่ชายนอกไส้อีกครั้งก่อนจะไปเรียนไกลถึงกรุงเทพ ทำให้ปอมีกำลังใจขึ้นเยอะ

“พี่ปืนถักเปียเป็นรึป่าว”

“ฮึ” ปืนส่ายหน้า ทำหน้าตาประหลาด

“ทำไมอ่ะครับ”

“ก็แล้วทำไมต้องทำเป็นล่ะ”

“ก็ไว้ทำให้ผมไง”...เฮ้อ...ไอ้เด็กบ้านี่ ยิ่งวันมันยิ่งเพี้ยน....แต่ปืนก็ว่ามันน่ารักอยู่ดี

โทรศัพท์ปอดังขึ้น ปอวางกระเป๋าลงกับพื้นชานชาลา ก่อนจะล้วงมันออกมาจากกระเป๋ากางเกง

“ครับ เนย……..ถึงแล้ว กำลังจะเข้าบ้าน.............ก็อพาร์ทเมนท์ที่เคยอยู่แหละครับ แต่คราวนี้มาพักกับพี่ชาย...............ก็ใช่

ครับผมเป็นลูกคนเดียว แต่พี่ปืนอ่ะ ผมรักเหมือนพี่ชายไง.................ผมไปรอที่ห้องพี่ปืนแล้วกันครับ...................ครับเดี๋ยว

เจอกัน”

“ปะพี่ปืน”

“ใครเหรอ” ปืนถามออกไปอย่างสงสัยเต็มที ฟังดูว่านัดเจอกันที่อพาร์ทเมนท์ของเขานะ แต่เขายังไม่รู้เลยว่าจะได้ต้อนรับใคร

“เนยครับ”

“ก็ใครล่ะ นัดเจอที่ห้องพี่เหรอ”

“ครับ พี่ปืนไม่ว่าใช่มั้ย” ปอถามอย่างไม่ค่อยมั่นใจ เพราะก่อนจะนัดเนยก็ไม่ได้ขออนุญาตเจ้าของห้องก่อน

“ไม่ว่าหรอก แต่เนยนี่น่ะใคร”

“ก็คนที่นั่งข้าง ๆ ผมตอนติวไง ผมยังไม่ได้บอกพี่ปืนเลย ก็มันลืมอ่ะ”

“บอกอะไรล่ะ แล้วมีอะไรที่พี่ควรรู้เหรอ”

“ผมกับเนยตกลงจะคบกันเป็นแฟนนะ เนี่ย เนยก็สอบได้ที่เดียวกับผมแต่คนละคณะล่ะ โชคดีจริง ๆ แต่ถึงจะสอบติดกันคนละที่
ผมก็ยังคิดจะคบกับเนยอยู่ดีแหละ แล้วตอนนี้ก็.......................”


เสียงของปอค่อย ๆ แผ่วลงจนปืนไม่ได้ยินเรื่องที่ปอกำลังพูด เพราะโสตประสาทไม่รับรู้อะไรต่อไป

อุตส่าห์ดีใจว่าปอยังนึกถึงพี่ปืน ก่อนจะเดินทางไปเรียนซะไกล เขาเองก็กำลังวางแผนว่าจะทำอะไรดี ๆด้วยกัน ระหว่างที่ปอยัง

พักอยู่กับเขา เก็บไว้เป็นความประทับใจ เผื่อวันข้างหน้าปอจะได้นึกถึงว่ายังมี ‘คนรู้จัก’ อยู่ที่นี่ ที่เขาสามารถแวะมาได้ทุกเวลา

แต่กลายเป็นว่า ระหว่างที่อยู่ที่นี่สองสามวัน ปอกลับนัดใครอีกคนไว้รอท่า

หัวใจของปืนทำไมมันถึงรู้สึกเจ็บจี๊ด ๆ ขึ้นมาแบบนี้ได้นะ


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: อ้อนนักรักซะดีแมะ 9/5/2555 รอบค่ำ
« ตอบ #19 เมื่อ: 09-05-2012 22:23:09 »





ออฟไลน์ KuMaY

  • คนไม่สำคัญ ทำไรก็ผิด
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 620
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0
Re: อ้อนนักรักซะดีแมะ 9/5/2555 รอบค่ำ
«ตอบ #20 เมื่อ10-05-2012 03:15:06 »

ปอช่างทำร้ายจิตใจพี่ปืนได้ลงคอ :o12:

ออฟไลน์ Pakbung Mazo

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 505
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-3
Re: อ้อนนักรักซะดีแมะ 9/5/2555 รอบค่ำ
«ตอบ #21 เมื่อ10-05-2012 16:14:32 »

ปออออ ทำไมทำกับพี่ปืนแบบนี้

ออฟไลน์ daboo

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 444
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
Re: อ้อนนักรักซะดีแมะ 9/5/2555 รอบค่ำ
«ตอบ #22 เมื่อ10-05-2012 23:13:31 »

ตอนนี้เวปที่คนเข้าเยอะๆก้เปบนี้แหล่ะครับ


พี่เสียดายนิยายในเวปเก่า   หลายเรื่องเลยที่ชอบ  แต่โดนลบ   เห้อออออ

ออฟไลน์ NuNew

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 176
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-2
Re: อ้อนนักรักซะดีแมะ 115/2555 รอบแรก
«ตอบ #23 เมื่อ11-05-2012 00:49:35 »



ปอไปกรุงเทพเดือนกว่าแล้ว ครั้งสุดท้ายที่เจอกันก็ที่อพาร์ทเมนท์นี่เอง ปืนคิดจะไปส่งที่สถานีรถไฟ

อย่างน้อยก็ขอยืดเวลาที่จะได้เห็นหน้าปอออกไปอีกหน่อย แต่ก็ต้องล้มเลิกความตั้งใจ

เมื่อปอบอกว่า

“ที่บ้านเนยเค้าจะไปส่งนะพี่ปืน ดีเหมือนกัน ไม่งั้นเราก็ต้องเหมารถรับจ้างไป เพราะสมบัติผมมันเยอะ

ดูดิ..เอามาจากบ้านก็กระเป๋าสามใบแล้ว มาถึงนี่ยังได้ของกินของใช้เพิ่มมาอีก พี่ปืนอ่ะ ขนอะไรต่ออะไรมาให้ผมก็ไม่รู้”

อ้าว! ผิดอีก....ไอ้ปืน

ตลอดสามวันที่ปอมาพักกับปืนมันเป็นวันทำงาน จึงไม่ได้มีเวลามาเสวนากันมากมายนอกจากหลังมื้อเย็นไปแล้ว

ซึ่งก็แน่นอนที่ปืนจะต้องกินข้าวมื้อเย็นคนเดียว ส่วนปอมีนัดกับเนยทุกวัน มีบ้างที่สองคนนั้นชวนไปกินข้าวด้วย

แต่ปืนก็ปฏิเสธไปทุกครั้ง บอกตัวเองว่า กินคนเดียวน่าจะคล่องคอกว่ากันเยอะ

ทำไมไม่รู้ปืนไม่อยากเห็นปอเวลาที่อยู่กับเนย รู้สึกเหมือนตัวเองไม่มีความหมายอะไรเลยสำหรับปอ

จากที่เขาเคยได้รับความสนใจจากปอเต็มที่ เพราะปอจะมีแต่ ‘พี่ปืน’ เท่านั้น

แต่นับจากวันที่เนยก้าวเข้ามา ปืนเหมือนไม่มีตัวตนไปแล้วสำหรับปอ



สัมผัสครั้งสุดท้ายที่ปืนยังคงตราไว้ในความรู้สึกก็คือ อ้อมกอดของปอก่อนจะเดินจากไปขึ้นรถของบ้านเนย

ที่จอดรอรับอยู่หน้าอพาร์ทเมนท์ ปืนรู้สึกอุ่นวาบซาบซ่านอย่างไม่เคยรู้สึกกับใครมาก่อน เขารู้ว่าปอคงไม่ได้คิดอะไร

นอกจากความนับถือฉันท์พี่ชายที่ปอไม่เคยมี แต่สำหรับปืน เขารู้แต่ว่าเวลาที่เขาอยู่กับปอมันช่างมีความสุขเหลือเกิน

เขาอยากจะมีปออยู่ข้าง ๆ เขาตลอดไปอย่างนี้


.....มีปอ....โลกของปืนดูสว่างสดใส วันที่ปอจากไป ทุกสิ่งทุกอย่างรอบกายมันดูแห้งแล้งลงอย่างบอกไม่ถูก

....ช่างมันเถอะ....อย่างดีก็เหงาหน่อย ไม่นานก็หาย

....ปืนบอกตัวเองให้เชื่ออย่างนั้น


ปืนกลับมาใช้ชีวิตเหมือนเดิม เที่ยวเตร่ กินเหล้าเคล้านารี หวังว่าจะทำให้เขาลืมปอได้ในเร็ววัน

แต่ดูเหมือนจะไม่ช่วยอะไรมากนัก เพราะเมื่อกลับมาถึงห้องพัก เขาก็รู้สึกเหงาอย่างเดิม

ชีวิตของปืนวนเวียนไปอย่างนี้วันแล้ววันเล่า จนวันหนึ่งปืนก็ได้รับโทรศัพท์จากปอ

“พี่ปืนเป็นไงมั่ง”

“ก็ดีหนิ”

เขาพยายามทำเสียงเรียบ ๆ เรื่อย ๆ ไม่อยากให้ปอจับได้ว่าเขาตื่นเต้นยินดีเพียงไหนที่ได้ยินเสียง

“ผมไม่อยู่อ่ะ เที่ยวดึกอีกรึป่าว”

ปอถามล้อ ๆ เพราะพอจะรู้ว่าปืนก็นักเที่ยวนักดื่มคนหนึ่ง

“ก็มีมั่ง”

“ระวังรักษาสุขภาพด้วยนะ แก่แล้ว อย่าหักโหมรู้มั้ย”

ปืนหัวเราะเบา ๆ

“ไอ้เด็กแก่แดด ไม่ต้องมาทำเป็นสั่งสอน แล้วนี่เปิดเทอมแล้วใช่มั้ย”

“ครับ แต่ไม่ค่อยได้เรียนหรอก ช่วงนี้กิจกรรมรับน้องเกือบทุกวันเลย”

“อย่ามัวเพลินล่ะ จะเที่ยวจะเล่นก็แบ่งเวลาให้ดี “

“คร้าบ...คุณพ่อ ไม่ต้องห่วงนะครับ ผมไม่เหลวไหลเด็ดขาด ผมกับเนยสัญญากันว่าจะช่วยกันเรื่อง.....”

มาอีกแล้ว ชื่อที่ไม่อยากได้ยิน ปืนอดทนฟังปอพูดถึงแฟนโดยไม่ขัดคอ จนปอเป็นฝ่ายเปลี่ยนเรื่องคุย

“พี่ปืน ผมได้คุยกับรุ่นพี่คณะ เค้าพูดถึงแนวการเรียนคณะผมอ่ะ”

“ก็ดีหนิ จะได้เตรียมตัวล่วงหน้า”

“แต่ผม....ไม่รู้สิ ผมว่ามันไม่ใช่แนวที่ผมถนัดนะ แต่ช่างเหอะ ไหน ๆ ก็สอบได้แล้ว ยังไงผมก็จะเรียนให้จบแหละ

มันคงไม่ยากเกินไปจริงมั้ยพี่ปืน”

“ใช่ พี่เชื่อว่าปอทำได้อยู่แล้ว แต่ยังไงก็ต้องแบ่งเวลาเรียน เวลาพักผ่อนให้ดี ๆ นะ อยู่ห่างบ้านอย่างนี้เจ็บป่วยขึ้นมา

ไม่มีใครให้อ้อนเหมือนอยู่ที่บ้านรู้มั้ย”

“โห! อ้อนอะไรกัน ผมโตแล้วนะ ไม่มีแล้วลูกอ้อนน่ะ”

ปอหัวเราะมาตามสาย

“ก็ดีแล้ว”

“พี่ปืน เมื่อไหร่จะหาพี่สะใภ้ให้ผมซะทีล่ะ”

 อยู่ ๆเจ้าปอก็เปลี่ยนเรื่องคุยซะงั้น

“ไม่มีหรอก ใครเค้าจะมาอยู่กับพี่ ไม่เห็นจะมีอะไรดี”

“ใครบอก พี่ปืนของผมดีที่สุด ผมยังจำวันแรกที่เราเจอกันได้นะครับ ถ้าไม่ได้พี่ปืน ผมก็ต้องกลับบ้านมือเปล่า

อาจจะเอ็นฯไม่ติด อาจจะผิดหวังจากผลเอ็นฯจนต้องฆ่าตัวตาย”

“เฮ้ย!...พูดอะไรอย่างนั้น”

ปืนตกใจจนเผลอเสียงดังใส่โทรศัพท์

“เป็นอะไรพี่ปืน ผมพูดเล่น เสียงดังไปได้ แก้วหูแตกเลยผม”

“เออ...ขอโทษ ใครใช้ให้พูดเล่นไม่เป็นมงคลล่ะวะ”

“ดึกแล้วพี่ ผมขอตัวไปนอนก่อนนะ”

“อืม....เป็นเด็กดีล่ะ”

“ครับ แค่นี้นะครับ”

“อืม”

“พี่ปืน”

“หืม”

“ผมคิดถึงพี่ปืนนะครับ”

.............

“พี่ก็เหมือนกัน”

เป็นคืนแรกหลังจากที่ปอไปกรุงเทพ ที่ปืนนอนหลับทั้งที่มีรอยยิ้มค้างอยู่บนริมฝีปาก




สามเดือนของชีวิตนักศึกษาในมหาวิทยาลัยของรัฐสอนอะไรปอหลายอย่าง ทั้งเรื่องเรียน กิจกรรม และความรัก

ช่วงแรกของเปิดเทอมเต็มไปด้วยกิจกรรมระหว่างรุ่นพี่รุ่นน้อง ตามมาด้วยกีฬาเชื่อมความสามัคคีทั้งหลายแหล่

ปอไม่รังเกียจกิจกรรมที่ประดังประเดกันเข้ามา แม้ว่าบางครั้งเวลากิจกรรมกับเวลาเรียนจะซ้อนกันบ้าง

ปอก็พยายามที่จะตามเลคเชอร์ให้ทัน เขารู้สึกสนุกกับกิจกรรมที่มีการเรียนเป็นตัวประกอบและมีความรักเป็นกำลังใจ

แต่ระยะหลัง ๆ เขาเริ่มสลับให้การเรียนเป็นตัวนำ กิจกรรมเป็นตัวประกอบ แต่กำลังใจกลับเริ่มลดน้อยถอยลง

 โดยมีสาเหตุมาจากคนสองคนเริ่มที่จะไม่มีเวลาให้กันแล้ววันของการแตกหักก็มาถึง

“ปอลืมวันเกิดเนย”

 คำแรกที่กล่าวหาก็ทำเอาปอจนมุมซะแล้ว

“วันเกิดเหรอ”

ปอทำหน้างง เปล่าเลยปอไม่ได้ลืม เขาไม่เคยรู้ต่างหาก

“เมื่อวันเสาร์ไง ใคร ๆ ก็ไป แล้วปอก็มัวแต่ซ้อมเชียร์”

“เอ่อ...ผมขอโทษนะเนย”

 ขอโทษทั้ง ๆที่ไม่ได้ผิดอะไรเนี่ยแหละ แต่เอาเถอะ ถ้ามันจะทำให้สถานการณ์ดีขึ้นปอก็ยอมทำ

“ก่อนหน้านี้ก็ผิดนัด”

ก็ถูก หนนั้นปอกำลังคุยกับรุ่นพี่ติดพันอยู่ จะปลีกตัวก็เกรงใจ

“ผมบอกเนยแล้ว”

 ปอไม่ชอบที่จะขุดคุ้ยเรื่องเดิม ๆ ที่เคยสร้างปัญหาระหว่างกันมาพูดซ้ำซาก

“แล้วอีกหลาย ๆ ครั้งที่ปอไม่ได้ไปทานข้าวเย็นกับเนย”

“บางวันผมเลิกเรียนค่ำ บาง...”

“ทุกครั้งปอก็มีข้อแก้ตัวไม่เคยซ้ำกันเลย”

“แต่ผมไม่เคยโกหกเนยนะ”

“พอเถอะ นับจากนี้ปอไม่จำเป็นต้องหาข้อแก้ตัวมาบอกเนยอีกแล้ว”

“หมายความว่าไง”

“หมายความว่าเราเลิกกัน เนยไม่ทนปออีกแล้ว”

“ทำไมมันง่ายอย่างงี้อ่ะเนย”

 ปอทำหน้างง หัวสมองรู้สึกว่างเปล่า

“ง่ายเหรอ ไม่ง่ายเลยนะปอ เรามาด้วยกัน คบกันมาก็หลายเดือน เนยเองไม่เคยให้โอกาสใครเข้ามาจีบ

เพราะถือว่าเนยมีปออยู่แล้ว ทั้งที่มีคนสนใจอยากเป็นแฟนเนยไม่รู้เท่าไหร่ แล้วสุดท้ายปอก็ทำให้เนยเสียใจ

 เวลาที่ปอไปสนุกกับกิจกรรม ปอรู้มั้ยว่าเนยต้องอยู่คนเดียว ทำอะไร ๆคนเดียว ในขณะที่เพื่อน ๆเนยเค้าไปกับแฟน

มีแฟนมาคอยเทคแคร์ แต่ปอทำอะไรให้เนยบ้าง”

“ผมคิดว่าเนยจะเข้าใจ”

ท่าทางเนยมั่นอกมั่นใจในสิ่งที่กำลังพูด แม้แต่ปอเองก็รู้ว่าสิ่งที่เนยพูดไม่ได้ผิดความจริง แต่ทำไมเนยไม่เคยบอกเขาว่า

เนยต้องการอะไร นั่นมันทำให้เขาเหมาเอาเองว่าเนยเข้าใจและรับได้ และเขาก็มั่นใจในสิ่งที่ทำมาตลอด

“เข้าใจสิปอ เนยเข้าใจ แต่ไม่เอาอีกแล้ว เนยก็อยากได้คนที่เข้าใจเนยเหมือนกัน เมื่อไม่ได้จากปอ

เนยไปหาจากคนอื่นก็ได้”

“เนยคิดดีแล้วเหรอ”

“จะบอกอะไรให้นะปอ เนยคิดมานานแล้ว ให้โอกาสปอมาหลายครั้ง แล้วผลที่ได้รับก็เหมือน ๆ กัน”

“แต่เนยไม่เคยบอกผมแบบนี้ ผมคิดว่าเราเข้าใจกันดี”

“เนยก็หวังให้ปอเข้าใจด้วยตัวเอง เมื่อปอไม่สนใจ เนยก็ไม่รู้ว่าเราจะคบกันต่อไปเพื่ออะไร”

มีด้วยหรือ หวังจะให้คนอื่นเข้าใจตัวเองโดยที่ไม่เคยถาม ไม่เคยบอกกัน....ใครมันจะไปรู้ใจคนอื่นได้ทะลุปรุโปร่ง

เอาเถอะ...รอให้เนยอารมณ์ดีกว่านี้ปอจะลองเข้าไปง้อดูอีกที พูดอะไรกันไปตอนนี้ก็มีแต่จะยิ่งแย่ลง



แต่ปอไม่เคยง้อเนยสำเร็จ ราวกับว่าเนยเองก็รอโอกาสที่จะบอกเลิกกับปออยู่เหมือนกัน เพียงแต่เหตุผลที่จะอ้าง

มันยังไม่มีน้ำหนักมากพอ แต่คำพูดที่กล่าวหากันครั้งสุดท้าย มันคงเพียงพอสำหรับเนยแล้วกระมัง

ที่จะยุติความสัมพันธ์ลงได้เราคงมาสุดทางแล้วจริง ๆ



การถูกปฏิเสธจากผู้หญิงที่เขารัก ทำให้ปอสูญเสียความมั่นใจในตัวเองไปจนหมด

กิจกรรมที่เคยทำด้วยความรู้สึกสนุกสนานก็กลายเป็นเรื่องน่าเบื่อ เขาไม่อยากเข้าร่วมอีกต่อไป

เรื่องขำขันในที่ประชุม ปอก็มองไม่เห็นแง่ขัน แถมยังรู้สึกรำคาญ

เรื่องเล่าตลก ๆ ทะลึ่ง ๆ ที่เพื่อนฝูงเล่าสู่กันฟังเป็นประจำเสียอีก

ปอรู้สึกว่าตัวเองแตกต่างจากคนอื่น

หนักเข้าก็พาลไม่อยากพบหน้าใครคนเดียวที่ปอนึกถึงก็คือพี่ชายนอกไส้


ปอกดโทรศัพท์ทันที อีกฝ่ายก็รับทันใจเหมือนกัน

“พี่ปืน”

“อืม....มีไร หายไปนานหนิ เรียนหนักเหรอ”

แค่ได้ยินเสียงปอก็รู้สึกว่าอะไร ๆ ที่กำลังทับถมในใจมันสลายไปอย่างรวดเร็วจนรู้สึกดีขึ้น

เวลานี้ปอต้องการคนที่เข้าใจเขามากที่สุด เพื่อที่จะเรียกความมั่นใจในตัวเองกลับคืนมา

“ก็เรื่อย ๆ ครับ แต่เรื่องอื่นมันหนัก”

“กิจกรรมล่ะสิ....บอกแล้วว่าต้องแบ่งเวลาให้ดี ไม่งั้นการเรียนเราจะแย่ลงรู้มั้ย”

“ไม่ใช่กิจกรรมหรอกพี่ปืน”

“แล้วเรื่องอะไร”

……….

“ปอ.....เป็นอะไร” ปืนได้ยินเหมือนเสียงสะอื้นที่ปลายสาย

“พี่ปืน ผมอยากกลับบ้าน”

ออฟไลน์ NuNew

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 176
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-2
Re: อ้อนนักรักซะดีแมะ 11/5/2555 รอบแรก
«ตอบ #24 เมื่อ11-05-2012 01:17:07 »

คืนนี้ลงแค่ตอนเดียวก่อนนะครับ

ผมมัวแต่จัดหน้าใหม่อยู่ ตอนที่เปิดด้วย IE ย่อหน้ามันตลก ๆ

แต่จัดแล้วก็ไม่รู้จะหายรึป่าว เฮ้อ....แ่ย่จัง ผมไม่ค่อยเก่งเรื่องแบบนี้ซะด้วย

ใครมีคำแนะนำเก๋ ๆ กระซิบใน PM หน่อยนะครับ

ออฟไลน์ โดดเดี่ยวแต่ไม่

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +178/-6
Re: อ้อนนักรักซะดีแมะ 11/5/2555 รอบแรก
«ตอบ #25 เมื่อ11-05-2012 14:14:01 »

ขอบคุณสำหรับเรื่องเล่าดีๆและเป็นเรื่องราวในความทรงจำเสมอ ไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปเลย
ขอต้อนรับนักเขียนท่านใหม่นร้าครับ น้องนูคนน่ารัก

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
Re: อ้อนนักรักซะดีแมะ 11/5/2555 รอบแรก
«ตอบ #26 เมื่อ11-05-2012 14:43:06 »

 :กอด1: :L1:

ออฟไลน์ kingkakingka

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 185
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
Re: อ้อนนักรักซะดีแมะ 11/5/2555 รอบแรก
«ตอบ #27 เมื่อ11-05-2012 16:04:48 »

สนุกๆมากเลยบค่ะ

มาต่อไวๆนะค่ะ :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ silverphoenix

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1182
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +347/-3
Re: อ้อนนักรักซะดีแมะ 11/5/2555 รอบแรก
«ตอบ #28 เมื่อ11-05-2012 20:18:19 »

นึกถึงพี่ปืนขึนมาเชียวล่ะ  หนูน้อย

ออฟไลน์ daboo

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 444
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
Re: อ้อนนักรักซะดีแมะ 11/5/2555 รอบแรก
«ตอบ #29 เมื่อ11-05-2012 22:08:18 »

รออ่านอีกค๊าฟ


จำได้แค่เนื้อเรื่องลางๆ   อยากอ่านให้ลึกซึ้งอีก

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด