จอมไตรซีรีส์(ดิน)ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน END
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: จอมไตรซีรีส์(ดิน)ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน END  (อ่าน 171942 ครั้ง)

ออฟไลน์ ormn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3925
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-8
    • http:///uc.exteenblog.com/riko-tomo/images/23213506_1208714389_3598161_Okane_ga_Nai_v01_ch01_pg002__Cover.jpg
:L2:เคยอ่านตอนของกลอนแล้วอะ

ก็เลยเข้าใจกลอนนะแล้วพอมาอ่านตอนของปาม


ก้เข้าใจเหมือนกันอะว่าทั้งสองเปนเพื่อนรักกัน :กอด1: :กอด1:


ปล.รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคะอิอิ :bye2: :bye2: :call: :call:

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9405
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
ปามน่าสงสารจังเลย อย่าคิดมากน้า :กอด1:

ออฟไลน์ StillLoveThem

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3253
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +295/-10
...เออ เข้าใจเรื่องราวแล้ว ไม่งง แล้ว เพราะว่าเคยอ่านเรื่องของกลอนมาก่อน แต่ก็จำได้ลางๆๆ ว่าปารมีนี่เป็นพี่เลี้ยงเด็ก
...และเป็นเพื่อนของกลอนนี่เอง แต่นึกว่าปารมี เป็นผู้หญิงงงงงงงงงง555 แหม วสุธานี่เจอกัน ก็จูบเค้าซะแล้ว
...แสดงว่ากับพี่เลี้ยงคนอื่นๆก็โดนสินะ หรือว่าไม่โดนหว่า
:laugh:

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4514
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
เรื่องนี้เดินไว สงสารปามตอนที่มีปัญหากับยัยหนูกลอนจริง ๆ

ออฟไลน์ silverphoenix

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1182
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +347/-3
เฮ้ยยยย  เท่าที่จำได้  มันจะถึงตอนที่ปามโดน....
แล้วชิมิๆ  อ่าาาา  จะเป็นยังไงน้าาา
รอถึงวันจันทร์ไม่ไหวแล้ว  555

 

janeyuya

  • บุคคลทั่วไป
แล้วเค้าได้กันตอนไหน ╰( ̄▽ ̄)╭♡



ออฟไลน์ A-J.seiya*

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +306/-8
อ่าาาา
คุณดิน ><
เรื่องมาชนกะไม้กลอนแล้วสินะ
เอาจริงๆ คือ มองมุมไหน ก็ไม่เข้าใจคุณไม้ (หัวเราะ)
ขนาดอ่านด้านที่ปามเล่า ก็ไม่เข้าใจ
แต่คุณดินนะ มาวันแรกก็จูบเค้าแล้ว
เดี๋ยวปั๊ดดดด
เรื่องราวจะดราม่าที่ตรงไหนล่ะนี่!!!!

ออฟไลน์ สมุนไพร

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1581
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-3

ออฟไลน์ เฉาก๊วย

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2233
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +251/-6
ความคิดของไม้จากเรื่องนี้ไม่กระจ่างเท่าไหร่ แต่พอจะเข้าใจความคิดของปามในเรื่องไม้กลอนมากขึ้น
ก็แหงล่ะเนาะ เพราะเรื่องนี้คนอ่านจะเห็นความคิดของปามเป็นหลัก

ปามจากเรื่องนี้ดูบอบบางกว่าที่วาดภาพไว้ในเรื่องไม้กลอนค่ะคุณจิ๊บ รอๆๆๆ ซีนที่ทำให้ปามต้องหนีคุณดินไปอยู่กับกลอน
 :pig4:

ออฟไลน์ JUPJIB

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +218/-0
ตอนที่3

“คุณวสุธา”

ปารมีเรียกพ่อของเด็กทั้งสามไว้ก่อนที่เขาจะก้าวขึ้นบันได เจ้าของชื่อหันมามองคนเรียกเพราะไม่คิดว่าตัวเองจะเจออีกฝ่ายในเวลานี้

“มีอะไร ทำไมยังไม่นอนอีก”

เสียงดุๆ แสดงความไม่พอใจชัดเจนทำเอาปารมีหวาดๆจนเกือบลืมความตั้งใจเดิมไปหมด แต่พอนึกถึงกลอนขึ้นมาแรงฮึดก็ตามมาด้วย

เพราะวสุธาไม่ได้เดินเข้ามาหา ปารมีจึงเป็นฝ่ายเดินเข้าไปใกล้แทน

“คุณวสุธา พอทราบเรื่อง....เอ๊ะ...นี่คุณดื่มเหล้ามาหรือ”

ปารมีเปลี่ยนเรื่องทันทีที่เข้าใกล้อีกฝ่ายแล้วกลิ่นแอลกอลฮอล์โชยเข้าจมูกอย่างแรง พอพูดถึงเรื่องนี้ วสุธาก็หันหลังเดินหนีขึ้นบันไดไปเหมือนไม่ต้องการพูดถึง หากปารมีเองก็ไม่ยอมแพ้ เดินตามขึ้นไปเช่นกัน

“เมาหรือเปล่าครับเนี่ย”

ท่าทางวสุธาจะดื่มมาเยอะ ปกติวสุธาไม่เคยดื่มหนัก ปารมีออกจะแปลกใจอยู่ แต่เพราะว่าเด็กๆอวดนักหนาว่าคุณพ่อไม่สูบบุหรี่ ไม่ดื่มเหล้า ยกเว้นออกงานสังคม ปารมีเลยไม่พอใจขึ้นมา ทำแบบนี้เหมือนหักหลังลูกๆชัดๆ

“ทำไมต้องดื่มด้วย คุณนี่ ถ้าเด็กๆมาเห็น”

“คุณไม่เกี่ยว เป็นพี่เลี้ยงของลูกผม ไม่ใช่พี่เลี้ยงของผม จำไว้หน่อยสิ”

วสุธาหยุดเดินก่อนที่จะถึงประตูห้องไม่กี่ก้าวแล้วหันมาเมื่อรู้สึกทนกับเสียงบ่นข้างหลังไม่ไหว

การทะเลาะกันระหว่างทั้งสองคนกำลังจะเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ ไม่มีใครรู้หรอกว่าตอนจบมันไม่ใช่การที่คนหนึ่งยอมเงียบและแยกย้ายกันไปอย่างทุกครั้ง

“ทำไมคุณถึงต้องมายุ่งจุ้นจานเรื่องของผมด้วยนะ”

“นึกว่าผมอยากยุ่งรึไง”

“อย่านึกว่าผมจะยอมรับคุณมาเป็นคนในครอบครัวนะ คนนอกยังไงก็เป็นคนนอก อย่ามาทำตัวยุ่งหน่อยเลย”

เสียงทะเลาะของสองคนไม่เบานัก ต่างฝ่ายต่างก็ไม่ยอมฟังที่อีกคนพูด ปารมีพยายามพูดเสียงเบา เพราะไม่ต้องการให้เด็กๆตื่นขึ้นมากลางดึก แต่ดูเหมือนว่าวสุธาจะลืมเรื่องนั้นไปเสียสนิท เจ้าตัวตะเบ็งเสียงเต็มที่ ไม่มีการลดหลั่นทอนเสียงให้เบาลงแต่อย่างใด คงเพราะฤทธิ์แอลกอลฮอล์ที่ทำให้คนตรงหน้าไม่สนและไม่นึกถึงอะไรทั้งนั้น นี่แหละที่เขาว่าน้ำเปลี่ยนนิสัย จากเดิมที่เป็นคนทำอะไรสุขุมอยู่ตลอด ต่อปากต่อคำไม่เคยลดราวาศอกอย่างชาญฉลาดทุกครั้ง กลับกลายเป็นคนไร้เหตุผล ทุกคำที่พูดออกจากปากบ่งบอกว่าออกมาจากอารมณ์ความรู้สึกไร้ความนึกคิดทั้งสิ้น หนังสือปรัชญาชีวิต ของคาลิบ ยิบลาน เคยบอกไว้ เหตุผลกับอารมณ์ต้องอยู่คู่กัน หากแต่สิ่งที่นำต้องเป็นเหตุผลอารมณ์ค่อยตามมาทีหลัง แต่รู้สึกว่าคนตรงหน้าจะไม่เคยอ่านซะด้วยสิ นอกจากนี้ยังโดนน้ำเมาทำเอาเสียศูนย์ขนาดนี้ ไม่รู้พูดไปจะได้เรื่องหรือเปล่า ปารมีถอนหายใจเหนื่อยๆ คำพูดที่คนพูดจงใจส่งตรงมาเพื่อทำร้ายความรู้สึกของเขายังดังเข้าหูไม่หยุดหย่อน ปารมีหยุดปากไม่ต่อร้องต่อเถียงอีก แต่ความเงียบไม่ได้ช่วยให้อะไรๆดีขึ้น วสุธาเกิดอาการฉุนขาดไปแล้วเรียบร้อย ดูเหมือนยิ่งพูดวสุธาจะยิ่งโมโห พอดูท่าว่าคนตรงหน้าจะไม่สงบง่ายๆปารมีเลยดึงแขนให้เข้ามาโวยวายต่อในห้องเจ้าตัว ไม่ได้รู้เลยว่า กำลังทำตัวเป็นลูกแกะที่เดินเข้ามาในถ้ำเสือ

“คุณนี่เสียงดังจริง อยากให้พวกเด็กๆตื่นขึ้นมาดูคุณเป็นบ้าแบบนี้รึไง”

หวังว่าประตูห้องนี้จะกันเสียงได้บ้าง

“หึ อย่ามาอ้างลูกๆผมหน่อยเลย คุณมันก็ไม่ต่างจากคนอื่นหรอก ต้องการอะไรจากผมล่ะ เงิน อำนาจ หรือเซ็กซ์”

ร่างบางฟังไปฟังมาก็ชักฉุน หัวข้อในหนังสือปรัชญาชีวิตที่ท่องไว้ประจำใจเสมอหายวับไปกับคำพูดที่ได้ฟัง

“มันจะมากไปแล้วนะครับ”

ระเบิดเสียงไม่ต่างกัน ดูเหมือนปารมีจะไม่สนใจเสียแล้วว่าเสียงจะลอดประตูไปปลุกใครให้ลุกขึ้นมาฟังบ้าง

พอโดนเสียงดังใส่วสุธาก็ไม่ได้คิดได้แต่อย่างใด ยิ่งเพิ่มอารมณ์โกรธมากยิ่งขึ้นก็เท่านั้น  ร่างสูงอาศัยรูปร่างที่ใหญ่โตกว่าฉุดแล้วเหวี่ยงอีกฝ่ายเต็มแรงอย่างไม่ยั้งมือ ปารมีลอยหวือไปกระแทกลงบนเตียงสปริงอย่างแรง พอเงยหน้าขึ้นมองก็เจอวสุธาที่ถอดเนทไทเรียบร้อยกำลังย่างสามขุมเข้ามาหา ไอ้ที่เคยไม่เข้าใจอะไรๆก็เข้าใจได้ชัดเจนทันที

ปารมีด่าตัวเองเพราะคิดว่าน่าจะคิดได้ คราวที่แล้วที่คอยวสุธาเพื่อต่อว่าที่ผิดสัญญากับเด็กๆก็เจอคนตรงหน้านี้ปล้นจูบไป คราวนี้ยังใจกล้าอีกก็เลยนำพาให้ต้องไปเจออะไรที่มันแย่กว่าการโดนจูบโดยไม่เต็มใจมากนัก จะยันตัวลุกหนีก็ไม่ทันเสียแล้วเพราะวสุธาเข้าประชิดถึงตัวเรียบร้อย ปารมีถูกจับพลิกตัวใบหน้าถูกกดลงจนแทบจะจมไปในที่นอน มือถูกจับไพล่หลังและเนทไทที่วสุธาถอดออกมาเมื่อครู่ก็กลายเป็นสิ่งพันธนาการแขนทั้งสองข้าง

“คุณวสุธา จะทำอะไรน่ะ”

ร้องถามทั้งที่พอจะรู้ความตั้งใจของอีกฝ่ายอยู่แล้ว ไม่มีเสียงตอบ ไม่มีการหยุดการกระทำใดๆ มือหนาดึงกางเกงนอนและชั้นในของปารมีออกอย่างง่ายดาย

“คุณวสุธา อย่านะ อย่าทำผมนะ”

ปารมีพยายามดิ้นอย่างสุดความสามารถ ดิ้นด้วยแรงทั้งหมดที่มี น้ำตาเริ่มรินไหลเมื่อไม่สามารถหลุดพ้นจากสถานการณ์นี้ไปได้ 

“ขอร้อง อย่าทำ”

ดูเหมือนไม่ได้เรียกสติของวสุธาให้กลับมาได้ด้วยถ้อยคำและน้ำตา เนินเนื้อเบื้องหลังถูกยกให้ลอยเด่นขึ้นมาตรึงไว้อย่างแน่นหนาไม่ให้ขยับไปไหน  พร้อมกับการสอดแทรก

“โอ๊ย!.........อย่า ขอร้อง ผมเจ็บ”

คำขอร้องที่ส่งไปไม่ถึง วสุธาเข้าใจว่ามันคงจะเข้าไปได้ง่ายดายแต่อะไรๆดูเหมือนจะไม่เป็นไปอย่างที่คิด ช่องทางนั้นไม่ได้เปิดรับการรุกรานอย่างว่าง่าย ทำให้ต้องเริ่มทุกอย่างใหม่โดยเริ่มจากนิ้วมือ

“อ๊ะ........อย่า มันเจ็บ”

ปารมีร้องออกมาอย่างทนไม่ได้ นิ้วมือเพิ่มขึ้นเรื่อยๆตามความพอใจของคนรุกราน ไม่ได้สนใจว่าร่างกายข้างใต้รู้สึกดีไปด้วยหรือไม่ เมื่อเป็นที่พอใจนิ้วมือจึงถูกถอนออก

ปารมีผ่อนลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก แต่แล้ว กลับต้องหวีดร้องออกมาสุดเสียง เมื่อสิ่งแปลกปลอมที่ใหญ่กว่านิ้วมือถูกแทรกเข้ามาครั้งเดียวจนสุด

“อึก.........อึก”

จุกจนพูดไม่ออก ปารมีรู้ว่าช่องทางนั้นฉีกขาด รับรู้ถึงความเหนียวของเลือดที่ไหลลงมาตามขา แต่ก็ยังไม่ได้รับความสนใจ

วสุธาเริ่มขยับกายโดยไม่สนว่าอีกคนจะเป็นยังไง ปารมีก็ได้แต่ก้มหน้ากดลงกับที่นอน ไม่สามารถหยุดการกระทำของร่างสูงได้ เสียงสองร่างกระทบกันและเสียงเฉอะแฉะน่าอายดังไปทั่วทั้งห้อง

“พอ...หยุด...ขอร้อง...พอ” ปารมียังพร่ำพูดไม่รู้จักจบสิ้นถึงแม้จะแทบไม่มีเสียงออกมาแล้ว น้ำตาไหลนองทั่วใบหน้า บางส่วนหยดลงที่นอนเพราะไม่มีอะไรมาซับ

แต่สิ่งเหล่านั้นมันไม่ได้รับความสนใจสักนิด...ไม่เลย

.............................................................

สิ่งที่ทำให้ปารมีตัดสินใจออกจากบ้านจอมไตรไม่ใช่เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนซะทีเดียว

หลังจากที่ล่วงเกินปารมีครั้งแล้วครั้งเล่าจนพอใจ วสุธาก็นอนหลับไป อาจเพราะด้วยฤทธ์แอลกอฮอล์ เพราะใช้แรงมากเกินไป หรือทั้งสองอย่างรวมกัน

ปารมีขยับตัวลุกขึ้นทันทีที่คิดว่าอีกฝ่ายหลับสนิทแล้ว ทั้งๆที่อยากนอนพัก แต่ก็ทำใจให้นอนหลับตรงนี้ไม่ได้ ร่างบางพาตัวเองออกมาจากห้องวสุธาอย่างทุลักทุเล แข้งขาไม่มีแรงจนต้องเดินพิงกำแพงไปตลอดทางเพื่อไปยังห้องนอนของตน ในหัวสับสนไปหมด ปารมีไม่รู้เลยว่าจะทำอย่างไรกับเรื่องที่เกิดขึ้นดี

ตอนนั้นเองที่ปารมีรู้สึกเหมือนได้ยินเสียงฝีเท้าเบาๆ แต่ไม่รู้เพราะไม่ปกติหรืออย่างไร จึงไม่ได้ใส่ใจกับมันนัก ปารมีตรงกลับเข้าห้องนอนอย่างยากลำบาก แต่ก็ไม่วายชะโงกมองตาหวานที่นอนหลับอยู่ในเปลว่ายังปกติดีอยู่หรือไม่ เมื่อแน่ใจว่าเรียบร้อย จึงทุ่มกายลงบนที่นอนทันที ทั้งที่ยังรู้สึกเหนอะหนะตามร่างกาย แต่ก็ไม่มีแรงจะลุกขึ้นไปทำอะไรจริงๆ

....................

ปารมีตื่นสาย แต่ก็ไม่มีใครมาปลุก ทันทีที่รู้สึกตัว ปารมีก็รีบลงไปทำอาหารเช้าให้เด็กๆ ไม่รู้ว่าปารมีคิดไปเองหรือเปล่า วันนี้เด็กๆทั้งสามคนดูเงียบไป และไม่กระตือรือร้นจะไปปลุกตาหวานให้ตื่นเหมือนทุกเช้า ทั้งสามคนดื่มนม แต่ไม่แตะต้องอาหารอย่างอื่นแม้แต่น้อย ที่สำคัญ ปารมีคิดว่าไม่มีใครพูดกับปารมี

ปารมีไม่รู้ว่าเพราะอะไรจนกระทั่งก่อนไปโรงเรียน ระหว่างที่เด็กๆขึ้นไปเอากระเป๋านักเรียนบนห้อง ปารมีตามขึ้นไปเพราะเป็นห่วงที่ไม่ยอมทานข้าวกัน จึงได้ยินเหตุผลว่าทำไมวันนี้เด็กๆถึงมึนตึงกับตนกันนัก

“ทำไมเราต้องโกรธคุณปามด้วยล่ะ”

ธรณินถามพี่ชายอย่างสงสัย ปารมีชะงักเท้าตัวเองก่อนที่จะเดินเข้าไป

“เพราะเป็นคนทรยศน่ะสิ เพราะจะมาแย่งคุณพ่อไป”

ปฐวีกล่าวตอบน้องชายด้วยเสียงหนักแน่น

“ใช่ เมื่อคืนพี่สองคนเห็นเขาออกมาจากห้องคุณพ่อด้วย”

ปฐพีกล่าวเสริม เท่านั้น ปารมีก็เริ่มนึกได้เป็นฉากๆ ที่จริงแล้วเสียงฝีเท้าเมื่อวานคงเป็นของเด็กสองคนนี้ แต่ปารมีไม่ได้ใส่ใจเพราะตอนนั้นตนเองไม่ปกติ

เจ้าตัวพาตัวเองเดินออกมาให้ห่างจากห้องของเด็กๆ รู้แล้วว่าเพราะอะไร เด็กทั้งสามจึงมึนตึงไป ข้าวปลาก็ไม่ยอมทาน....จริงสิ เขาเคยได้รับคำเตือนจากเด็กๆแล้วว่าอย่ามายุ่งกับคุณพ่อ ทั้งๆที่เด็กๆไว้เนื้อเชื่อใจเขา แต่ว่าเรื่องแบบนี้ก็ยังเกิดขึ้น ปารมีเป็นคนทรยศอย่างที่เด็กๆว่าจริงๆ

“อยู่ไม่ได้แล้วสิ”

พูดกับตัวเองเบาๆ ปารมีเองรู้ตัวดีที่สุดว่าการถูกทรยศหักหลังทั้งที่ไว้ใจมันเจ็บและเสียใจมากแค่ไหน เขาหมดคุณสมบัติที่จะอยู่ใกล้พวกเด็กๆเสียแล้ว

ปารมียังคงไปส่งเด็กๆขึ้นรถตามปกติและกล่าวลา......สำหรับปารมีมันเป็นการลาจาก..... แต่เด็กๆทั้งสามคนไม่ทราบ และตอนนี้คงไม่สนใจด้วย ทั้งสามไม่ส่งเสียงร่ำลาอย่างที่เคยทำ..... แม่บ้านบอกว่าเด็กๆคงงอนอะไรอีกแล้วก็เท่านั้นเอง ปารมีที่รู้เรื่องดีได้แต่ส่งยิ้มกลับไปให้คนที่พูดปลอบใจตน

ข้าวของถูกเก็บใส่กระเป๋า ปารมีแยกของที่คนในบ้านซื้อให้ตาหวานและที่เด็กๆซื้อมาฝากตนไว้ที่นั่น ไม่ได้เอาใส่กระเป๋าด้วย ไม่กล้าเอาไปเพราะตัวเองได้ทำลายความไว้ใจของเด็กๆไป ไม่สมควรจะได้รับอะไรพวกนี้เลย

สามเดือนที่ผ่านมาเงินเดือนของปารมีแทบไม่ได้ใช้ เพราะว่าจะอะไรที่นี่ก็มีให้พร้อม ปารมีคิดว่าคงพออยู่ว่างๆได้อีกสักสองถึงสามเดือนถ้าประหยัด

“ค่อยๆหางานใหม่ทำไปก็แล้วกัน”

ปลอบใจตัวเองก่อนจะออกจากบ้านนั้นมาเงียบๆ

.................................

ปารมีอุ้มตาหวานออกมา บอกแม่บ้านไว้ว่าจะไปซื้อของ เพราะข้าวของในเป้ไม่มากแม่บ้านเลยไม่สะดุดใจ จดหมายลาออกถูกแฟกซ์ไปยังสำนักงาน และตัวจริงใส่ซองทิ้งไว้ในห้องทำงานของวสุธาที่บ้าน

พอออกมาพ้นจากบ้านจอมไตรแล้วปารมีก็นึกไม่ออกว่าจะไปที่ไหนดี ห้องเช่าก็ไม่มีแล้ว ลำพังตัวเขาเองไม่เท่าไหร่ แต่นี่ยังมีตาหวานอยู่อีกคน  แล้วปารมีก็นึกถึงห้องกลอนขึ้นมา ตอนนี้กลอนหายไปไหนไม่รู้ ตามที่ไม้บอกคือกลอนขอไปพักคนเดียว ไม่รู้เมื่อไหร่จะกลับ กลอนเคยให้กุญแจห้องกับปารมีไว้ ถึงจะไม่ดีนักที่ถือวิสาสะเข้าไปในขณะที่เจ้าของห้องไม่อยู่แถมไม่ได้ขออนุญาตก่อน แต่ปารมีไม่มีที่ไปแล้วจริงๆ ไปรบกวนสักพักน่าจะไม่เป็นไร

.......................................


มีต่อข้างล่างค่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ JUPJIB

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +218/-0
“กลอน ไปไหนมาน่ะ เป็นห่วงแทบแย่”

ปารมีมาอยู่ที่ห้องกลอนได้สองวัน กลอนก็กลับมา เขาดีใจมากที่เห็นหน้าเพื่อนที่หายไปจึงถลาเข้าไปกอดและถามด้วยความเป็นห่วง ปารมีลืมไปสนิทว่ากลอนโกรธตนอยู่ กลอนไม่ได้ตอบอะไร พอปารมีนึกขึ้นได้จึงคลายอ้อมกอดออกช้าๆ

“ปามขอโทษนะกลอน ปามมาคิดๆ ดูแล้วปามเองก็ผิดจริงๆ อาจเพราะเข้าไปอยู่ที่บ้านนั้น คนเยอะแยะเต็มไปหมด มีทั้งคนที่ห่วงปามและคนที่ให้ปามห่วง เลยทำให้นิสัยเปลี่ยนไป ขอโทษนะ ต่อไปปามสัญญาว่าจะไม่ยุ่งเรื่องของกลอนอีก อย่าโกรธกันเลยนะ”

ปารมีพยายามอธิบายให้เพื่อนฟัง อาจเป็นข้อแก้ตัวที่ฟังไม่ขึ้น แต่เมื่อเข้าไปอยู่ที่นั่นปารมีได้รับรู้ถึงความอบอุ่นของการห่วงใยกันของคนในครอบครัวที่ปารมีแทบจะไม่เคยได้รับ ปารมีจึงอยากเผื่อแผ่ให้แก่คนที่ปารมีรักได้รู้สึกบ้าง และกลอนก็เป็นคนปารมีรักมากคนหนึ่ง

 “นายไม่ผิดหรอกปาม ฉันผิดเอง อย่าขอโทษทั้งที่นายไม่ได้ทำอะไรผิดแบบนี้เลย”

ท่าทางปารมียิ่งขอโทษ กลอนก็จะยิ่งหงุดหงิด แต่ปารมีก็อยากอธิบายให้กลอนฟังอยู่ดี

“ไม่หรอกกลอน ความจริงปามเองก็ยุ่งมากเกินไปจริงๆ ถ้าเป็นตัวเองก่อนหน้านี้จะไม่เป็นถึงขนาดนี้แท้ๆ”

ถ้าเป็นตัวเองก่อนหน้านี้ ปารมีจะไม่ห่วงใยจนกลายเป็นก้าวก่ายมากไปแบบนี้

 “นายกลับไปก่อนเถอะ”

กลอนว่าแล้วเดินเข้าห้อง ปารมีได้แต่คอตก ไม่กล้าเล่าสถานการณ์ให้อีกฝ่ายฟัง ก็ในเมื่อกลอนไม่เต็มใจให้เขาอยู่ด้วย แล้วเขาจะอยู่ได้ยังไง

“ขอโทษที่เข้ามาอยู่โดยไม่ได้ขอนะ”

ปารมีรีบตรงไปเก็บของและพูดเร็วปรื๋อ กลัวกลอนจะไม่พอใจมากไปกว่านี้

“นาย...มาอยู่ที่นานรึยัง”

กลอนถามอย่างแปลกใจ ข้าวของๆปารมีส่วนใหญ่ถูกเก็บไว้ในกระเป๋า แต่ที่ระเบียงมีเสื้อผ้าของปารมีและตาหวานตากอยู่ มันบอกให้รู้ว่าปารมีใช้ชีวิตในนี้ ไม่ใช่แค่แวะมาอย่างที่กลอนเข้าใจ

“แล้วนายไม่ทำงานแล้วเหรอ”

เงียบไปชั่วอึดใจก่อนที่ปารมีจะเอ่ยด้วยเสียงเบาๆ

 “ออกแล้วล่ะ”

กลอนหน้าเครียดขึ้นมาทันที ท่าทางเหมือนกลอนจะนึกว่าเป็นเพราะตัวเองอยู่แน่ๆ

 “ไม่ใช่เพราะกลอนหรอก คือปามมีปัญหานิดหน่อยน่ะ”

ก็ยังไม่มีความกล้าพอจะเล่าเรื่องตัวเองให้ฟังอยู่นั่นเอง

 “แล้วนายจะไปไหน”

ปารมีเงียบไม่ตอบ เพราะยังคิดไม่ออกว่าจะไปอยู่ที่ไหน มือที่เก็บข้าวของหยุดไม่ขยับ แล้วร่างปารมีก็สั่นเทาน้อยๆ น้ำตาไหลออกมาอย่างห้ามไม่ได้ กลอนตกใจจึงรีบย่อตัวลงมาจับบ่าเพื่อนไว้

“มีอะไรไหนบอกสิ”

ปารมีไม่พูดเอาแต่สะอื้นร้องไห้ แล้วอยู่ๆกลอนก็ดันมองลอดเสื้อเข้าไปเห็นร่องรอยจากการกระทำของวสุธาที่ยังไม่จางไป กลอนดึงเสื้อขึ้นเพราะต้องการมองให้ชัดเจน ถึงปารมีจะพยายามขัดขืน แต่กลอนก็เห็นจนได้

“นี่มันอะไร!”

 “ตอบมาสิปาม!”

กลอนถามอย่างร้อนใจ เขาได้แต่ภาวนาอย่าให้มันเป็นอย่างที่เขาคิดเลย

 “บอกมาสิปาม..”

เมื่อไม่มีเสียงตอบ กลอนก็ถามขึ้นมาช้าๆ เบาๆ ด้วยถ้อยคำขาดๆหายๆว่า

 “ปาม...โดน...เอ่อ...ข่มขืน...ใช่ไหม”

ปารมีไม่ตอบ แต่ก้มหน้าและร้องไห้ แค่นี้ก็เหมือนเป็นคำตอบได้แล้ว

 “ใครทำ ปามรู้จักไหม”

เสียงกลอนสั่น กลอนกำลังร้องไห้ไปด้วยกันกับปารมี คำถามที่ปารมีไม่ตอบ แต่กลอนตั้งใจแล้วว่ายังไงต้องเอาคำตอบมาให้ได้

“ถ้าปามไม่บอก กลอนจะพาไปหาหมอ และแจ้งความด้วย”

ถึงจะดูใจร้าย แต่ถ้าไม่ขู่ ปารมีจะไม่ยอมพูดแน่ๆ

“.........”

คำตอบแผ่วเบาจากปากปารมี

ดูเหมือนเป็นคำตอบที่ทำให้กลอนนิ่งไปทันตา คำแรกที่แวบเข้ามาในหัวคือไม่อยากจะเชื่อ

นั่นสิเป็นใครก็ไม่อยากเชื่อทั้งนั้นแหละ ใครจะคิดว่าคนในตระกูลจอมไตรจะทำเรื่องแบบนี้

“ปาม.....ไม่ได้เต็มใจใช่ไหม”

ปารมีนิ่ง กัดริมฝีปากแน่นกับคำถามนั้น แค่นั้นก็ตอบได้แล้วว่าเพื่อนเขาคนนี้ไม่ได้เต็มใจไปกับเรื่องนี้ด้วยแน่ๆ

 “ปามอยู่ที่นี่ก่อนนะ”

กลอนว่าแล้วลุกขึ้นยืน เพราะรู้จักกันมานาน ปารมีจึงหวั่นใจ กลอนต้องไม่อยู่เฉยแน่ แต่คนธรรมดาอย่างเราๆจะไปทำอะไรเขาได้

 “กลอนจะไปไหน  อย่าไปหาเขานะ เราทำอะไรไม่ได้หรอก”

ปารมีดึงมือกลอนไว้ แต่กลอนจับมือปารมีให้คลายออกจากมือตนช้าๆ

“จะไปซื้อของหน่อยนะ ปามคงเอ่อ..เจ็บ...กลอนจะไปซื้อยาให้นะ”

ปารมีปล่อยกลอนไป พอลองมองในแง่ดีแล้ว กลอนเองก็มีความคิด น่าจะรู้ว่าเราทำอะไรเขาไม่ได้ อาจจะแค่ไปซื้อยาจริงๆ ปารมีเองก็อยากได้ แต่ไม่กล้าไปซื้อกลัวเขาซักว่าโดนอะไรมา แล้วจะไม่มีคำตอบให้ ปารมีโกหกไม่เก่งเสียด้วย

.....................

กลอนหายไปนานเกินไป ร้านขายยาอยู่ไม่ไกล ทำไมกลอนไปนานขนาดนี้ ปารมีนั่งชะเง้อคอมองที่ประตูอยู่ตลอดเวลา เป็นห่วงเพื่อนกลัวว่าจะไปทำอะไรบุ่มบ่าม แล้วคนที่จะเดือดร้อนไม่ใช่ใคร แต่ก็เป็นกลอนนั่นล่ะ

“กลอนไปไหนมาน่ะ”

ปารมีแทบจะวิ่งมาไปหากลอนทันทีที่ประตูเปิด กลอนยื่นถุงยาที่แวะซื้อระหว่างทางแล้วเดินไปข้างใน ตาหวานตื่นแล้วและกำลังเล่นของเล่นที่กลอนซื้อให้อยู่ ปารมีไม่ได้เอาข้าวของที่บ้านนั้นซื้อให้ติดตัวมาเลย โทรศัพท์ที่ปิดเสียงปิดสั่นกระพริบตลอดเวลาแสดงว่ามีคนโทรเข้ามาแต่ปารมีไม่รับ กลอนหยิบขึ้นมาดูหน้าจอ ความหงุดหงิดไม่พอใจทำให้กลอนไม่สนใจเรื่องมารยาทกดรับสายทันที

“ปารมี...”

ก่อนที่ทางนั้นจะได้พูดอะไรต่อกลอนก็กรอกเสียงลงไปซะก่อน

“อย่ามายุ่งกับปาม เลิกโทรมาได้แล้ว รำคาญ”

ต้องบอกว่าตะโกนอาจจะถูกกว่า ปารมีลงนั่งข้างๆเพื่อนแล้วยิ้มเศร้าๆ

“ฉันอยากไปอยู่ที่อื่นสักพักจัง”

 “ไปทำไม เราต้องไม่หนี อย่าให้พวกนั้นได้ใจว่ารังแกกันได้”

กลอนพูดอย่างโกรธแค้น

“แต่ เขา เอ่อ อาจจะตามมา”

ปารมีพูดด้วยความไม่แน่ใจ เขาไม่แน่ใจอะไรทั้งนั้น ไม่แน่ใจว่าใจจริงของตัวเองอยากหรือไม่อยากให้ทางนั้นตามมากันแน่...และดูเหมือนกลอนจะจับความรู้สึกสับสนในใจของเพื่อนรักได้

“ลองมาสิ กลอนจะตั้นหน้าให้ยับเลย”

ปารมีหัวเราะคิกกับท่าทางอวดกล้ามน้อยๆของกลอน กลอนเองก็ยิ้ม ดีใจที่ปารมียังยิ้มได้ ตาหวานคลานต้วมเตียมไปทั่วห้อง มือถือปารมียังกระพริบไม่หยุด แต่ไม่มีใครสนใจมันอีกเลย

................................................

วสุธาพยายามโทรหาปารมีหลายครั้ง เขารู้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นเป็นความผิดของตัวเขาเองทั้งหมด ตั้งใจว่าเย็นวันนั้นจะกลับไปพูดกันให้รู้เรื่อง แต่เมื่อกลับไปปารมีก็ไม่อยู่ที่บ้านแล้ว เด็กๆทั้งสามคนดูจะตกใจมาก ก็แน่ล่ะ การเข้ามาอยู่ของปารมีเพียงไม่กี่เดือนแต่กลับทำให้เด็กชื่นชอบและผูกพันได้อย่างรวดเร็ว คงเป็นพรสวรรค์ของเจ้าตัว และที่สำคัญ เรื่องรสชาติอาหารของปารมีนั้นเด็กๆไม่เคยบ่นเลย แต่ถึงจะตกใจ ทั้งสามก็เป็นคนในตระกูลจอมไตรก็เลยพยายามสงวนท่าทีไว้ หากธรณินซึ่งยังอายุยังน้อยนั้น เพียงแค่วันถัดมาก็ร้องไห้งอแงหาปารมี และยังร้องไห้เพราะคิดถึงตาหวานอีกด้วย เดือดร้อนคนทั้งบ้านต้องช่วยกันปลอบอยู่นาน

พอคิดๆแล้ววสุธาก็นึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นวันนั้นขึ้นมา

วันนั้นวสุธาไม่อยู่ในอารมณ์ที่ปกตินัก เพราะเป็นวันครบรอบวันตายของเลวี่ภรรยาเขา ซึ่งทุกคนแม้แต่เด็กๆก็รู้ว่าไม่ควรกวนใจวสุธา

แต่ปารมีไม่รู้ ปารมีไม่เคยรู้มาก่อนว่าวันนั้นเป็นวันอะไร วสุธาที่โมโหและหงุดหงิดขาดความยับยั้งชั่งใจ  รู้แต่ว่าตอนนั้นเขาเจ็บปวด และอยากทำให้ใครสักคนเจ็บปวดบ้าง คิดง่ายๆว่ามันอาจจะบรรเทาความเจ็บของเขาไปได้เพียงนิดก็ยังดี และก็ใช่ มันเป็นจริงตามนั้น ร่างกายอุ่นๆของอีกฝ่ายทำให้รู้สึกดีอย่างที่ไม่เคยรู้สึกกับใคร ทำให้ตักตวงกับอีกฝ่ายซ้ำแล้วซ้ำเล่าตลอดทั้งคืน ช่วงเวลาที่มีอีกฝ่ายอยู่ในอ้อมกอดเป็นช่วงเวลาที่วสุธารู้สึกพอใจอย่างที่สุด หยุดตัวเองไม่ได้แม้จะรู้ดีว่ามากเกินไป แต่ก็ไม่อาจห้ามใจ

หลังจากตื่น เขาก็ชะล้าใจ คิดว่าเมื่อทำงานเสร็จค่อยกลับมาคุยกันให้รู้เรื่องก็ได้ แต่เมื่อกลับไปบ้านปารมีก็หายไปแล้ว

ที่ๆปารมีจะไปที่จริงใครๆก็น่าจะเดาได้ว่าเป็นที่ไหน แต่วสุธาไม่รู้ วสุธาให้คนออกตามหาทั้งที่โรงแรมและท่ารถ แต่ก็ไม่เจอปารมี เขาลืมคิดถึงห้องของเพื่อนปารมีไปเลย จนกระทั่งไม้กลับมา เลยพูดเตือนให้เขาคิดถึงที่นั่น ไม่ต้องรอไปพิสูจน์ เพราะยังไม่ทันได้ทำ เจ้าของห้องที่น่าจะเป็นที่พักพิงให้ปารมีก็บุกตรงมาชกหน้าเขาโดยไม่หวั่นกลัวอะไรที่ไหน เป็นสิ่งยืนยันให้รู้ชัดว่า ปารมีต้องอยู่ที่ห้องของกลอนเป็นแน่

กลอนรู้เรื่องแล้ว และวสุธาไม่โกรธสักนิดที่กลอนมาชกเขา เพราะแน่ใจว่าที่เขาทำลงไปแค่ชกอาจจะยังไม่พอด้วยซ้ำ  เขาเพียรโทรหาปารมีด้วยตัวเอง ทั้งๆที่ขนาดธุรกิจร้อยล้านพันล้านเขายังให้เลขาต่อสายให้ เมื่อโทรศัพท์ไม่ได้ผล วสุธาก็เดินทางมาที่ห้องของกลอนด้วยตัวเอง แต่ไม่เคยได้รับการต้อนรับ

สุดท้าย เมื่อน้องชายอาสาจะช่วย วสุธาจึงยิ้มรับความช่วยเหลือนั้นทันที

ถึงจะได้เข้าไปคุยกับปารมี แต่อาการนิ่งฟังนั้นทำเอาวสุธาหวั่นใจอยู่มาก อาจจะเหมือนปารมีกำลังฟังอย่างตั้งใจแต่เขาดูออกว่าปารมีไม่ได้ฟังทีเขาพูดเท่าไหร่ เพราะฉะนั้นหลักๆที่สำคัญวสุธาจึงย้ำหลายรอบ

“ไว้ผมจะมาเอาคำตอบนะ”

วสุธาพูดย้ำทิ้งท้ายไว้ เขายังไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่จะมีโอกาสได้เจอกับปารมีอีก กลอนเพื่อนของปารมีนั้นกันท่าน่าดู แต่ก็สมควรแล้วที่เขาต้องโดนแบบนี้ นี่ถ้าไม่เพราะไม้อาสาจะช่วยดึงเวลากลอนตอนที่กลอนออกไปข้างนอกตามคำบอกเล่าจากคนดูแลตึกที่โดนซื้อมาเป็นพวกเขาเรียบร้อยแล้วล่ะก็ วสุธาคงไม่มีโอกาสได้คุยกับปารมีสักนิดแน่ๆ

เด็กๆเริ่มงอแงมากขึ้นทุกที จากธรณินคนเดียว ตอนนี้ทั้งปฐวีและปฐพีต่างก็ไม่ค่อยยอมทานข้าวเท่าไหร่ แน่นอนเพราะติดรสมือคุณปามของเด็กๆนั่นล่ะ จนวสุธาต้องสัญญาว่าจะพาปารมีกลับไปให้ได้ เด็กๆถึงได้ยอมงอแงกันน้อยลง ไม่ว่ายังไงเรื่องนี้จะต้องเป็นไปตามความต้องการของเขา วสุธาหมายมั่นอย่างตั้งใจ

...................................

ปารมีนั่งหมดสภาพอยู่กลางห้องตอนที่กลอนกลับมาจากข้างนอก ทันทีที่เห็นเพื่อนรักเจ้าตัวก็เหมือนเพิ่งรู้สติโผเข้าเพื่อนทันที น้ำตาที่กลั้นไว้จากความตื่นกลัวในการเผชิญหน้ากับวสุธานั้นหลั่งออกมาโดยไม่สามารถยับยั้ง

“เขามากลอน เขามา เมื่อไหร่เขาจะหยุดสักที”

กลอนกอดปลอบใจเพื่อน ก่อนจะดันตัวปารมีออกเพื่อสังเกตความผิดปกติ เขากลัวว่าวสุธาอาจจะกลับมาทำร้ายปารมีอีกครั้ง แล้วถ้าเป็นแบบนั้น ครั้งนี้ เขาจะไม่ยอมรามือเฉยๆแน่นอน ต่อให้ต้องแลกด้วยอะไรทุกสิ่ง กลอนก็จะต้องเอาคืนบ้างให้ได้ แต่ก็ไม่มีอะไรผิดปกติ

....หลังจากดูและฟังที่ปารมีเล่า ก็ค่อยเบาใจที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นมากกว่าที่ฝั่งนั้นมาพูดอะไรสักอย่าง ซึ่งปารมีไม่ได้ฟัง ...โชคดีไป แต่ไม่รู้ว่าเป็นโชคดีของฝั่นโน้นที่ไม่ต้องเจอการเอาคืนจากกลอน หรือว่าเป็นโชคดีของกลอนที่ไม่ต้องเข้าแลกกับตระกูลนั้น

ตอนนี้ปารมีกับกลอนยังงงและสงสัย อะไรที่วสุธาจะมาเอาคำตอบจากปารมี ....

...................

ปารมีตื่นขึ้นมาไม่เจอกลอน ก็คิดว่าเพื่อนคงออกไปไม่ไกลนัก นั่งรอจนเที่ยง จนบ่าย กลอนก็ยังไม่กลับ เพราะงั้นทันทีที่ได้ยินเสียงประตูเปิด ปารมีจึงแทบถลาไป แต่ก็ต้องชะงักเท้าทันทีเหมือนกันเมื่อเห็นว่าคนที่เข้ามานั้นเป็นใคร

“คุณวสุธา”

เสียงแผ่วเบารอดออกมาจากริมฝีปากบาง

“ชั้นมาเอาคำตอบ”

ปารมียืนนิ่งสนิท ต่างจากผู้มาเยือน ที่เดินตรงเข้ามาในห้องโดยไม่มีท่าทางหวั่นเกรงใดๆทั้งๆที่อยู่ในอาณาเขตของคนอื่น วสุธาเดินตรงไปอุ้มตาหวานขึ้นมาและหอมแก้มแรงๆอย่างทุกครั้งที่เจอ  เด็กชายเองก็คงจำวสุธาได้เลยยิ้มดีใจที่ได้เห็นหน้าคนๆนี้ ส่วนปารมี ได้แต่ยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น แต่สายตาก็คอยมองวสุธาไว้ในทุกๆท่าทาง เพราะกลัวจึงต้องมอง เพราะระแวงจึงต้องมอง เพราะไม่ไว้ใจจึงต้องมอง เป็นการระแวดระวังภัยอย่างหนึ่งของปารมี

“ว่าไง คุณคิดว่ายังไง”

“ขอโทษครับ ผมขอปฏิเสธ”

ปารมีไม่รู้ว่าวสุธามาเอาคำตอบเรื่องอะไร แต่ก็มั่นใจว่าคำตอบที่ตนต้องตอบนั้น ไม่ใช่คำตอบรับแน่ๆ....แล้วมีรึ วสุธาจะไม่รู้ว่าปารมีตอบมาทั้งที่ไม่ได้ฟังตนสักนิด

“เพราะอะไรล่ะ”

ปารมีนิ่งไป กัดริมฝีปากตัวเองแน่น พยายามคิดหาคำตอบที่ตอบออกไปแล้วจะไม่ทำให้วสุธารู้ความจริงว่าปารมีไม่ได้ฟังที่วสุธาพูดคราวที่แล้วสักนิด

“ผะ...ผมไม่ต้องการ”

น่าจะเป็นคำตอบรวมๆที่ดูดีที่สุดแล้ว วสุธายิ้มอย่างรู้ทัน ร่างสูงวางตาหวานลงกับที่นอนแล้วหันกลับมาพูดกับปารมี

“งั้นตกลงตามนี้”

พูดจบวสุธาก็กดโทรศัพท์โทรออก ไม่นานร่างเล็กๆสามร่างก็ปรากฏตัวที่ห้อง

“คุณปาม”

ทั้งสามกระโดดเข้าหาปารมีด้วยความคิดถึง ก่อนจะผละออกมาหาตาหวาน

“ตาหวาน กลับบ้านกันนะ”

ธรณินพูดกับน้องในอ้อมกอดของพี่ชาย ในระหว่างนั้นวสุธาก็เก็บข้างของๆตาหวานและปารมีลงกระเป๋าเป้ไปด้วย

“นี่มันอะไรกันครับ”

ปารมียังงงไม่หาย เขามั่นใจว่าที่เขาตอบไปคือการปฏิเสธ แล้วไหงเด็กๆถึงมาที่นี่กันได้ แล้วคำว่ากลับบ้านของธรณิน แถมวสุธายังมาเก็บข้าวของๆเขา ทำไมกัน?

“ก็คุณปฏิเสธการรับเงินจากผม แล้วยินดีกลับไปอยู่ที่บ้านจอมไตรไง”

ปารมีอึ้งไปเพราะไม่คิดว่าที่ตัวเองเลือกตอบออกไปนั้นจะผิดจากความตั้งใจลิบลับแบบนี้

วสุธายิ้มเรียบๆที่มุมปากเมื่อปารมีไม่รู้ตัวเลยว่าโดนหลอกเสียแล้ว

คราวที่แล้วเขาพูดกับปารมีเยอะแยะ ที่เขามาเอาคำตอบนั้น แน่นอนเป็นคำถามว่าปารมีอยากจะกลับไปอยู่ที่จอมไตรหรือไม่ แต่หลังจากที่ดูๆแล้วปารมีไม่ได้ฟังคำถามเลย วสุธาก็เลยถือโอกาส ไม่ว่าปารมีจะตอบอย่างไรคำถามก็จะทำให้คำตอบนั้นเป็นการตกลงกลับไปอยู่ที่จอมไตร ก็แค่เลือกคำถามให้ตรงกับคำตอบ เขาตั้งใจจะรับผิดชอบปารมีเต็มที่ การกลับไปครั้งนี้ของปารมีไม่ใช่ในฐานะพี่เลี้ยง แต่เป็นการกลับไปในฐานะคนรักของเขา เรื่องนี้วสุธาได้คุยกับลูกทั้งสามคนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และเด็กๆก็ยอมรับได้ เพราะสำหรับเด็กๆแล้วมันดีกว่าการที่ปารมีจะหายไป

“คุณปามไม่อยากกลับไปอยู่กับผมหรือครับ”

ธรณินยืนเกาะแขนคนทำหน้าลำบากใจ เอ่ยถามเสียงเครือด้วยใบหน้าหงอยเหงาและน้ำตาคลอ ปารมีมองธรณินแล้วมองเลยไปยังปฐพีกับปฐวี ทั้งสองก็มองมาที่ปารมีเป็นตาเดียว ใบหน้าที่แสดงให้รู้ว่าถ้าปารมีตอบไม่ตรงใจ ทั้งคู่ก็พร้อมจะปล่อยโฮออกมาแน่ๆ ปารมีถอนหายใจก่อนจะพยักหน้าตอบรับ

“ครับ กลับก็กลับ”

แค่นั้นเด็กๆก็เปลี่ยนใบหน้าเป็นยิ้มแย้มอย่างรวดเร็ว จนราวกับใบหน้าเศร้าสร้อยเมื่อครู่เป็นเพียงเรื่องโกหก.......และแน่นอนว่ามันเป็นเรื่องโกหก สี่พ่อลูกคิดไว้อยู่แล้วว่าถ้าใช้ไม้นี้ปารมีต้องใจอ่อนแน่ๆ และก็เป็นไปตามที่พวกเขาคิดจริงๆ... เห็นจะมีแต่ปารมีเท่านั้นแหละมั้งที่ไม่รู้ว่า ที่เขาต้องกลับไปอยู่ที่จอมไตรนี่ ทั้งหมด .......มันเป็นแผน......

............................................
TBC

ตอนที่ 4 มาวันพุธค่า

ออฟไลน์ Eternal luv

  • ชะตาฟ้าลิขิต แต่ชีวิตนะ...ของกรู
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 361
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-1

TRFNMAE

  • บุคคลทั่วไป
ร้ายกาจทั้งสี่พ่อลูกเลยอ่ะ o18

ออฟไลน์ jeeu

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 688
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-1
นั่นไง!!!!!!
คุณดิน นิสัยว่ะ เมาแล้วขาดสติ
ปล้ำคุณปามของเด็กๆได้ไงเนี่ย
แต่ขำคุณปามอ่ะ เพราะไม่ยอมฟังตอบอะไรไป มันก็ลงเอยแบบที่คุณดินต้องการอยู่ดี
เด็กๆเจ้าเล่ห์ติดใครน้อ 55555+

ออฟไลน์ reborn23

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 369
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
วางแผนกันดีนัก  สี่คนพ่อลูก

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
วสุเจ้าเล่ห์  แต่ปามก็นิสัยแบบเด็ก ๆ เหมือนกันน่ะนะ

Tiamo_jamsai

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ Zurruz

  • สาววายพันธุ์ยัน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 754
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
ไม่เสียชื่อจอมไตรจริงๆ

เอ ปลํ้าปามไปอย่างงั้น ระวังอดอีกนะ

ออฟไลน์ A-J.seiya*

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +306/-8
ร้ายทั้งพ่อทั้งลูกอ่ะ
ตกลงว่า ,, ให้คุณปามเป็นแม่ใมหม่ช่ะ? เด็กๆ
ฮ่าๆๆๆๆ
น่ารักจัง ,,, คุณปามสู้ๆ

ออฟไลน์ minyoung

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 417
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-1
ร้ายทั้งตระกูล ทุกรุ่น น่าถีบจริงเลย แต่ตระกูลนี้ดีเนอะมีแต่เพศผู้หมดเลย แถมมีเมียเป็นเพศผู้หมดด้วย อิอิ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ NOoTuNE

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +317/-15
เออออ ง่านดีเนอะคุณดิน รังแกเค้ายังจะมาเจ้าเล่ห์ใส่อีก


กลับไปอยากให้ปามเอาคืนให้หนักกว่านี้

shockoBB

  • บุคคลทั่วไป
เจ้าเล่ห์ทั้งพ่อทั้งลูก 5555
 :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
ผิดไหมที่จะบอกว่าสงสารหนูปามอ่ะ :sad4:

ออฟไลน์ TanyaPuech

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +531/-23
 :laugh:   เจ้าเล่ห์กันทั้งตระกูลจิงๆ

kisz

  • บุคคลทั่วไป
โหยยยยยยยยยยยยยย ยอมง่ายไป๊ ฮ่าาาาาา

ออฟไลน์ สมุนไพร

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1581
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-3

ออฟไลน์ aloney

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 743
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-4
4คนพ่อลูกแสบจริงๆ


ออฟไลน์ พี่วันเสาร์

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1381
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +282/-3
ความใจดีและใจอ่อนของปามคือจุดอ่อนที่ทำให้สี่คนพ่อลูกเจ้าเล่ห์สามารถใช้เป็นข้ออ้างได้ :laugh:

ออฟไลน์ gupalz

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +604/-20
วางแผนกันมาอย่างดีเลยครอบครัวนี้

ออฟไลน์ ujen

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2455
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +183/-13
เจ้าเล่ห์ทั้งตระกูล :o9:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด