[เรื่องสั้น] Twitter [SEX PHONE] เอ็กซ์ x ปอร์ THE END [22.05.55]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [เรื่องสั้น] Twitter [SEX PHONE] เอ็กซ์ x ปอร์ THE END [22.05.55]  (อ่าน 115332 ครั้ง)

Nima4

  • บุคคลทั่วไป
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้ามละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์  และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด
โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน

ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

6.อย่าพูดคุย ทักทาย นักเขียน คนอ่่านโดยรีพลายดังกล่าวไม่เกี่ยวพันกับนิยายให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรคอมเม้นต์สักคอมเม้นต์เีดียวก็เพียงพอแล้ว ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และทำลิงค์โยงมายังนิยาย และให้นักเขียนทุกคนทำลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยเกี่ยวกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วย เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
 
*************************************************************************************





คุณจำความรู้สึกครั้งแรกที่ได้สบตาคนที่แอบชอบได้หรือเปล่า


Sex phone






http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=4TnqxLedzhA






..................

...........

.......

....


...



..


.

Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-05-2012 23:03:52 โดย Nima4 »

Nima4

  • บุคคลทั่วไป
Re: [เรื่องสั้น] SEX PHONE [13.05.55]
«ตอบ #1 เมื่อ13-05-2012 21:28:59 »

 เสียงนุ่มที่ดังผ่านลำโพงราคาแพงระยับคงไม่ได้รู้ตัวว่าทำให้ร่างเพรียวลมที่กำลังกึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่ที่โซฟาตัวเขื่องอารมณ์ไม่ดีเอาเสียเลย

ปลายนิ้วกดฟอเวิร์ดข้อความอีกเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วไม่รู้ แต่ดูเหมือนมันจะไม่สำคัญเลยสินะให้ตายเถอะ

ไอ้ดีเจคลื่นนี้มันกวนตีนเขาใช่มั้ย?






“ฮ๊า..ยังมีอีกหลายเพลงที่ต่อคิวกันอยู่ ผมว่าผมคงโดนผู้ฟังทางบ้านโวยวายอีกแน่เลย แต่สภาพอากาศตอนนี้กำลังดีมากๆ เลยนะครับ งั้นมาฟังเพลงนี้เป็นการส่งท้ายชั่วโมง ชั่วโมงหน้ามาพบกับดีหมูตู๋นที่จะมารับหน้าที่อยู่กับผู้ฟังทางบ้านในช่วงเช้ามืดแบบนี้นะครับ ราตรีสวัสดิ์สำหรับคืนฝนตก และอรุณสวัสดิ์สำหรับเช้าที่เต็มไปด้วยละอองฝนนะครับ...สวัสดีคร้าบบบบบ”
















ตลอดล่ะ ตล๊อดดดดดดดดดดดดด





กี่ครั้งแล้วที่ต้องกดข้อความส่งไปขอเพลงที่ตัวเองอยากฟัง แต่ทำไม...ไม่เคยได้ฟังสักที  ความจริงแล้วไอ้เพลงที่อยากฟังนั้นแผ่นก็มีอยู่หรอกนะ แต่เขาอยากฟังผ่านรายการวิทยุมากกว่า


แล้วดู....มันมาเปิดให้ตอนท้ายชั่วโมงที่...นั่นไง...ฟังไม่ถึงครึ่งเพลงตัดเข้าโฆษณาจบรายการ












กูขอกรี๊ดใส่เครื่องเล่นสักทีได้มั้ยวะ...




ฮ่วย!







ไอ้ดีเจคลื่นนี้...แม่ง...กวนตีน






อยากให้พ่อเจอนะว้อย...พ่อจะสาปให้ผู้ชายตามจีบเลย!





ร่างผอมเพรียวผุดลุกขึ้นอย่างเสียอารมณ์เขากดปิดเครื่องเล่น เดินกระแทกเท้ามายังโต๊ะที่มีแลปท็อปเปิดค้างไว้อยู่...หน้าตาที่เดิมทีก็ไม่ได้จะหล่อเหลาอะไร ก็แค่ไปวัดไปวาได้ ติดจะไปทางหาเรื่องชาวบ้านด้วยซ้ำ แสดงออกว่าไม่สบอารมณ์อย่างเห็นได้ชัด ริมฝีปากเม้มเข้าหากันแน่น เท้าสะเอว ก่อนจะทรุดลงนั่งกับเก้าอี้ตัวโปรด

สองมือยกขึ้นลูบใบหน้า ก่อนจะกุมขมับเท้าไว้กับโต๊ะ ดวงตาของเข้าจ้องมองไอ้เจ้าหน้าจอที่เป็นรูปลูกบอลวิ่งไปวิ่งมา ก่อนจะถอนหายใจทิ้ง


คิดไม่ออก...ไม่ออกจริงๆ







 
ความรักโรแมนติกในวันฝนตกอย่างนั้นเหรอ?


















ไอ้ บก.ตัวแสบนั่นคิดอะไรอยู่ ถึงได้บอกให้เขาเขียนนิยายแบบนั้นล่ะเนี่ย...



โอเคใช่... เขาคือนักเขียนชื่อดัง แต่ดังเรื่องนิยายแนวอีโรติกว้อยยยยย ไม่ใช่รักโรแมนติก ที่จะค่อยๆ มาละเมียดละไมภาษานิยายให้สวยงามเคลิบเคลิ้ม

เข้าใจมะ?ว่าเป็นพวก หัวฮาร์ทคอร์น่ะ





ชิส์...(ไอ้)คุณเจ้านาย...ฝากไว้ก่อนเถอะ!




ปวดหัว!











มาเฟีย... คือชื่อของเขา ตอนเกิดพ่อดันบ้าซีรีย์มาเฟียฮ่องกง เลยเอามาเป็นชื่อลูกชายเสียอย่างนั้น แต่เพื่อนมักเรียก เฟียบ้าง...มาฟ บ้าง...


บางทีก็มี ไอ้เฟีย




แต่หนักเข้า ไอ้เฟี่ย!


ด่ากูเหี้ย?




ช่างมัน...





อย่างที่บอกไป เขาคือนักเขียนนิยาย แต่เป็นนิยายรัก อีโรติคนะ ไม่ใช่ นิยายรักประเภทหวานใสกิ้งๆ

ไอ้นิยายรักโรแมนติกนี่มันคืออะไรวะเฮ้ย! 




มาเฟียหงุดหงิดแต่ก็ไม่รู้จะทำอะไรให้ดีไปกว่านั้น มองนาฬิกาที่บอกเวลาอีกไม่กี่นาทีก็จะหกโมงเช้าแล้วถอนหายใจ







ผ่านไปอีกหนึ่งคืนที่ไม่ได้นิยายแม้แต่บรรทัดเดียว...



เพราะไอ้ดีเจนั่นคนเดียว รายงานสภาพอากาศอยู่ได้ ไม่อย่างนั้นเขาก็ได้ฟังเพลงโปรดไปแล้ว...มันเลวร้ายมาก บางครั้งก็มาพูดเรื่องอาหาร


ถามว่าเขาอยากรู้เหรอ?






ก็เปล่า?



แล้วจะพูดทำไม...ไม่เข้าใจ เพลงก็ไม่เปิด หมายถึงเพลงที่เขาขอน่ะนะ แค่เป็นเพลงเก่านิดหน่อยทำเป็นเมินเหรอ...




เชื่อสิ คืนพรุ่งนี้นะ ไอ้บ้านั่นมันต้องมา พูดอีกนั่นแหละว่ากินนั่น ดื่มนี่ ฝนอย่างนั้น หนาวอย่างนี้...







อยากรู้ที่ไหนวะเฮ้ย!







บ่นเข้าไปแล้วก็ย้อนกลับมาถามตัวเองว่าถ้ามันเยอะขนาดนั้นทำไมยังทนฟัง เลื่อนไปฟังคลื่นอื่นสิ...ไม่ก็ปิดไปเลย...


ก็เออนะ...เขาก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าจะทนฟังเสียงหมอนี่ไปทำไมทุกคืนๆ สงสัยเขาจะประสาท




นอนดีกว่า








กระเป๋าเป้ใบสวยนอนแอ้งแม้งอยู่ที่โซฟาตัวยาวในห้องนั่งเล่น มันไม่ได้รับการสนใจจากเจ้าของของมันที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จเท่าไหร่ เพราะตอนนี้เจ้านายของมันกำลังสนใจอยู่กับการใช้โทรศัพท์ในบ้านอยู่


คุณมีหนึ่งข้อความใหม่...





ติ๊ด...


“เอ่อ... ผมเอาพวกซุปสกัดฝากไว้ที่ตู้ไปรษณีย์นะ ทานมันก่อนนอนด้วยนะ...อืมมม...ฝันดีนะ กวิน” เจ้าของชื่ออมยิ้มน้อยๆ ก่อนจะเดินยู่ปากไปที่กระเป๋าเป้ เอื้อมมือเลยเจ้าสัมภาระนั้นไปที่ถุงพลาสติกสกรีนตราของร้านสะดวกซื้อชื่อดังมาถือไว้


หยิบเอาขวดอาหารเสริมที่เจ้าของเสียงในโทรศัพท์บอกออกมาเปิด ยกดื่ม พร้อมกับเดินกลับไปที่โทรศัพท์ ใช้ปลายนิ้วจิ้มหมายเลขที่เคยโทรออกประจำทุกวัน

เบอร์ของบ้านข้างๆ เจ้าของของฝากน่ารักพวกนี้ แต่ไม่มีใครรับสาย... แน่นอนอยู่แล้ว เวลาเช้าแบบนี้คงยังนอนอยู่ มันก็ถึงเวลาที่เขาต้องนอนด้วย...
กวินรอจนสัญญาณตัดเข้าบริการฝากข้อความ ถึงได้ยิ้มออกมาอีกครั้ง...

“ตอนนี้ผมไม่สะดวกรับสาย กรุณาฝากข้อความไว้หลังสัญญาณครับ....”

ติ๊ดดดด

“คุณครับ... ผมกลับมาแล้วนะ ขอบคุณสำหรับซุปสกัด แล้ว...ค่อยคุยกันนะ ฝันหวานครับ” แล้วเขาก็กดวางสาย ยกเจ้าขวดเล็กๆ นั่นขึ้นดื่มจนหมด ก่อนจะเอาขวดนั้นไปล้างในห้องครัว แล้ว เอาเก็บไว้ในชั้นเหนือศีรษะ...

เขาอาจจะต้องหาชั้นเพิ่มแล้วล่ะ เพราะดูเหมือนมันจะเต็มแล้ว...

ตู้ใส่ของที่มีแต่ขวดซุปสกัดเต็มไปหมด

กวินยิ้มกับตัวเอง ความจริงแล้วเขาไม่ใช่ผู้ชายที่จะมาใส่ใจเรื่องอะไรหยุมหยิมหรอกนะ ออกแนวจะขาดความใส่ใจด้วยซ้ำ

ก็เคยถูกแฟนบอกเลิกด้วยเหตุผลว่าเขาใจร้าย และไร้ซึ่งความเอาใจใส่ดูแลมาแล้ว นั่นการันตีความสามารถในเรื่องนี้ของเขาได้เป็นอย่างดี...

ดังนั้นเขาไม่เข้าใจนักหรอกว่าทำไมตัวเองถึงได้ลุกขึ้นมาทำอะไรแบบนี้...

มันดูขัดกับความเป็นตัวเขาจริงๆ

แต่...นั่นอาจจะเป็นเพราะเจ้าของเจ้าขวดอาหารเสริมพวกนี้นั่นแหละมั้ง...ว่าแล้วก็เดินไปที่ห้องนั่งเล่นอีกครั้งแง้มผ้าม่านออกแล้วมองไปยังบ้านข้างๆ ที่มีลักษณะไม่ต่างจากบ้านของเขาเท่าไหร่...





ทุกอย่างเงียบสนิท...

เจ้าของบ้านคงนอนแล้วจริงๆ...


เขาปิดม่าน เดินไปค้นกระเป๋าเป้ เอามือถือและไอพอดออกมาก่อนจะเดินเข้าห้องนอนไปล้มตัวลงนอนบนเตียง


ทั้งที่เป็นเวลาแปดโมงแล้วแท้ๆ แต่สภาพอากาศด้านนอกยังครึ้มไปเสียหมด อาจจะเป็นเพราะฝนที่ยังคงเทลงมาเรื่อยๆ นั่นแหละ...

หูของเขาฟังเพลงที่เปิดจากเจ้าไอพอดเครื่องโปรด เพลงเก่านานหลายปีแล้ว...แต่มันยังเพราะอยู่เสมอ...ยิ่งฟังมันยิ่งทำให้เขานึกถึง...


เพื่อนบ้าน...ข้างๆ











รู้จักกันได้ยังไงนะ...






กวินก็แค่ออกไปทำงานตามปรกติ แต่ที่แปลกตาก็คือ...เจ้ากล่องพัสดุที่วางเด่นอยู่ที่ประตูรั้วหน้าบ้าน เขารีบไปดูแต่ปรากฏว่า...
มันเป็นพัสดุที่ส่งมาให้ใครก็ไม่รู้...แต่ที่อยู่เป็นเลขที่บ้านของเขา...

คชกร พงษ์การัน(มาเฟีย)...


จ่าหน้าถึงคนชื่อนี้ แต่ที่อยู่เป็นเลขที่บ้านของเขา ทำเอาพ่อหนุ่มหน้าหวาน งงไปสามตลบ... บ้านเขามีคนชื่อนี้ด้วยเหรอ? ก็อยู่คนเดียวมาหลายปี หรือว่านี้มีผี...



ไม่น่า...จะ...นะ




เริ่มระแวง... แต่พอจะเดินเอาไปเก็บไว้ในบ้านก็เกิดอะไรดลใจคิดก็ไม่รู้ว่า... อาจจะเป็นของเพื่อนบ้านที่เขาไม่เคยทักทายเลยก็ได้...



เคยแต่เห็นและมองหน้ากันมาเป็นปีๆ แต่ไม่เคยทักทายกัน...


ก็นะ...เห็นแล้วหน้าตาอีกฝ่ายรับแขกที่ไหน ชอบทำหน้ายับๆ เยินๆ อยู่ได้... เขาก็เมินใส่สิ...



แต่ก็นั่นแหละ เขาเลยตัดสินใจเดินไปดูป้ายชื่อที่ติดอยู่ที่ตู้รับไปรษณีย์ของเพื่อนบ้าน...









นั่นไง...



คชกร พงษ์การัน...




ตัวเท่าบ้าน!

ก็ตั้งใจว่าจะเอาวางไว้หรอกนะแต่ฝนที่ทำท่าจะตกทำให้เขาตัดสินใจกดออดหน้าบ้าน แต่...ก็ไม่มีใครออกมาเปิดประตูให้ แล้วเจ้าฝนก็ลงเม็ดมาจริงๆ

กวินไม่มีทางเลือก เลยรีบวิ่งกลับมาที่บ้านของตัวเอง  เขามองหน้ากล่องพัสดุอีกครั้ง เห็นว่าหลังชื่อของอีกฝ่ายมีเบอร์โทรติดอยู่ด้วย เขาก็เลยลองโทรดู...มันไม่ใช่เบอร์มือถือแต่เป็นเบอร์ในบ้าน ก็ไม่รู้ว่าของใครแต่ตามท้ายชื่อผู้รับอาจจะเป็นของเจ้าของพัสดุนั่นแหละ


และแน่นอนว่า...

“ตอนนี้ผมไม่ว่างรับสาย กรุณาฝากข้อความไว้หลังสัญญาณครับ....”

ตี๊ดดดดด

“สวัสดีครับ...ผม กวินนะครับ ดูเหมือนจะมีพัสดุถึงคุณ คชกร พงษ์การันนะครับ จ่าหน้าชื่อนี้แต่เลขที่บ้านของผม ยังไงถ้าใช่ก็ติดต่อกลับมาที่เบอร์ที่โทรเข้ามานี้นะครับ...สวัสดีครับ”


กวินวางสายและมองกล่องพัสดุที่เอาวางไว้ตรงโต๊ะในห้องนั่งเล่น ก่อนจะรีบเดินมาคว้าร่มแล้วออกไปทำงาน ก่อนที่จะสาย...

แล้วในค่ำคืนที่เขาต้องทำงานนั้น... โทรศัพท์ที่บ้านของเขาก็มีข้อความเด้งเข้ามา...

เขาอมยิ้มกับตัวเอง เมื่อนึกถึงตอนที่พยายามเอาพัสดุไปให้เจ้าของบ้านหลังนั้น...


“ผม คชกรครับ เป็นเจ้าของพัสดุเอง คนที่ส่งมาคือ ปรมินทร์ใช่มั้ยครับ เขาเขียนเลขที่บ้านผิด ผมจะเอาของได้ยังไงครับ”




จำได้ว่าข้อความนั้นโทรเข้ามาตอนสามทุ่มกว่าๆ แต่เขามาเปิดฟังตอนแปดโมงเช้า... เขาก็โทรกลับไปที่บ้านหลังนั้นแต่ก็ไม่มีใครรับสาย มีแต่เสียงของระบบตอบรับ

“คุณครับไม่อยู่บ้านเหรอ? ผมจะเอาของให้คุณยังไงดีล่ะเอางี้นะ ผมจะแวะเอาไปวางไว้ที่ตู้รับของคุณตอนเย็นก่อนผมออกไปทำงานนะครับ ถ้าคุณอยู่ที่บ้านก็ออกมาเอานะครับ”

ใช่แล้วล่ะ...เย็นนั้นก่อนไปทำงาน เขาเลยเอากล่องพัสดุไปวางไว้ที่ตู้รับของเพื่อนบ้าน แล้วก็ไปทำงานเช่นทุกวัน... ก็ไม่ได้คิดหรอกนะว่า ตอนสามทุ่มของวันนั้นจะมีข้อความฝากไว้อีก

“ผมได้ของแล้วครับ ขอบคุณมาก เอ่อ...พอดีผมออกไปซื้อของเมื่อตอนหัวค่ำ เอ่อ...เป็นซุปสกัดน่ะครับ ของเล็กๆ น้อยๆ ถือว่า เป็นคำขอบคุณของผมนะครับ”

ตอนที่ได้ฟังเขาจำได้ว่าตัวเองรีบเดินออกไปที่ประตูหน้าบ้าน เขาเห็นถุงจากร้านสะดวกซื้อแขวนอยู่ที่ตู้รับของตัวเอง เขาอมยิ้มเดินไปถือมันเข้ามาในบ้าน...

หลังจากนั้น เขาก็โทรไปขอบคุณอีกฝ่าย โดยผ่านการฝากข้อความเครื่องรับในบ้าน

ก็คงตั้งแต่ตอนนั้นแหละมั้งที่ทุกวันจะต้องคอยเช็คข้อความจากเครื่องรับภายในบ้านทุกเช้าหลังจากกลับมาจากทำงาน และส่งข้อความไปให้เครื่องของอีกบ้านเช่นเดียวกับที่ทำเมื่อสักครู่...

เป็นแบบนี้มาหลายเดือนแล้ว...

ทั้งที่ก็มีโอกาสเห็นหน้ากันบ่อยๆแต่...

ไม่รู้สิ...

เขาไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงไม่ทักทายเพื่อนบ้านแบบต่อหน้า...และเหมือนอีกฝ่ายก็มีอาการเหมือนกับเขา... ต่างคนต่างรู้สึกเหมือนผิวหน้ามันร้อนๆ เมื่อต้องมองตากันตรงๆ

คำพูดมากมายที่ส่งผ่านเครื่องรับในทุกๆ วันมันไม่มีเปล่งออกมาเมื่อได้มองตากัน ต่างฝ่ายต่างได้แค่มองหน้าแล้วก็โค้งทักทาย จากนั้นก็ต่างพากันหลบสายตากันและกัน...

มันเป็นเพราะอะไรก็ไม่รู้...ไม่เข้าใจ...

พอหลบตากันปุ๊บ ก็รีบเดินเข้าไปในบ้าน แล้วโทรไปหาอีกฝ่ายแทน

เขาเคยลองแล้ว... ลองโทรไปตอนที่เห็นข้างบ้านอยู่บ้าน

เขาเห็นเลยจะจะว่าอีกฝ่ายไม่รับสายของเขา ยืนมองให้โทรศัพท์ตัดเข้าสัญญาณตอบรับ...เขาโกรธนะ แต่...

“ทำไมไม่รับสายของผมล่ะ ผมเห็นคุณยืนมองโทรศัพท์” พอเขาฝากข้อความไว้...ไม่ถึงสองนาทีอีกฝ่ายก็โทรกลับมา ขารับสายแต่อีกฝ่ายดันกดวางสายทิ้ง พอเขาโทรกลับไปก็ไม่รับสายอีก ยืนมองให้มันตัดเข้าระบบฝากข้อความ...

“ทำไมวางสาย...แล้วทำไมไม่รับสาย ผมจะโกรธคุณแล้วนะ” เขาโกรธจริงๆ นั่นแหละ รู้สึกแย่จริงๆ อยากจะเดินไปเคาะประตูบ้านของอีกฝ่ายแล้วโวยวายแต่ก็ไม่ใช่นิสัยของเขาเสียด้วยสิ เขารู้แต่ว่า อีกฝ่ายโทรมาอีก และกดวางทันทีที่เขารับสาย


ไอ้บ้าเอ้ย...จะกวนประสาทหรือไงวะ!

กวินโมโหจริงๆ นั่นแหละ ไม่อย่างนั้นเขาไม่มีทางหยาบคายแบบนี้หรอก เขายืนนิ่งอยู่ที่บานกระจกหน้าต่างของห้องนั่งเล่น จ้องมองมาที่ห้องนั่งเล่นของเพื่อนบ้าน เขาไม่คิดจะโทรกลับไปอีก...

แม้ว่าอีกฝ่ายจะโทรกลับมาอีกครั้ง เขาก็ไม่ขยับตัวไปรับสาย เอาแต่ยืนจ้องอีกฝ่ายที่มายืนตรงหน้าต่างห้องนั่งเล่นมองมาทางเขาเช่นกัน

“ผม กวินครับ ตอนนี้ผมไม่สะดวกรับสาย กรุณาโทรหลับมาใหม่ หรือฝากข้อความไว้นะครับ”


ติ๊ดดดดดดดด...

“...........”







“......ผมขอโทษ..........................................ผม..............................................................................เขิน” 


เท่านั้นแหละ


ทำเอาไอ้ที่โกรธๆ เปลี่ยนเป็นอึ้งแทน...




เขิน...


เขินที่จะรับสายหรือคุยกับเขาตรงๆ อย่างนั้นเหรอ?



กวินแทบไม่เชื่อสายตาเมื่ออีกฝ่ายวางสาย ผ้าม่านของบ้านเพื่อนบ้านก็ปิดพรึบทันที และตัวเขาเอาก็คลี่ยิ้มออกมาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ฝ่ามือยกขึ้นมายีผมอย่างไม่รู้จะทำยังไง


ยังไงล่ะ...


ไปไม่เป็นแล้วนี่...



กวินรู้ตัวอีกครั้งก็คือตัวเองเดินไปฝากข้อความไว้ที่เครื่องรับของอีกฝ่าย และยืนฟังข้อความตอบกลับด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้มจนปวดไปทั้งแก้ม...


จะไม่ให้นอนขำได้ยังไงเมื่อกลับมานั่งนึกถึงวันนั้น ก็เล่นไม่ทำอะไรกันเลยนอกจากฝากข้อความกลับไปกลับมากันอยู่อย่างนั้นจนไม่ได้นอนหมดแรงต้องโดดงานไปซะหนึ่งคืน โดนนายเล่นงานจนเกือบแย่...อีกฝ่ายดูเหมือนจะสบายกว่าเขามาก เพราะมีเวลานอนเหลือเฟือ ก็เล่นเป็นฟรีแลน จะหลับจะนอนตอนไหนก็ได้



มาเฟีย... หน้าตากวนประสาท แต่นิสัยน่ารักนะนั่น...

ส่วนเขา... กวิน... หน้าตาน่ารัก แต่นิสัย...น่ารักกว่าหน้าคร้าบบบบบ




........................

........



....




....



...














Tiamo_jamsai

  • บุคคลทั่วไป
Re: [เรื่องสั้น] SEX PHONE [13.05.55]
«ตอบ #2 เมื่อ13-05-2012 21:41:14 »

 :กอด1:

ออฟไลน์ Number1_90

  • 넘버원~
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 631
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-0
Re: [เรื่องสั้น] SEX PHONE [13.05.55]
«ตอบ #3 เมื่อ13-05-2012 22:05:10 »

 :mc4: มาเจิมเรื่องใหม่ค่ะ

มารออ่านตอนต่อไปค่ะ  :กอด1:

ออฟไลน์ choijiin

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2082
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +445/-5
Re: [เรื่องสั้น] SEX PHONE [13.05.55]
«ตอบ #4 เมื่อ13-05-2012 22:08:41 »

โอ๊ย ไม่ต้องเถียงกัน
น่าร้ากทั้งคู่แหละค่า
 :impress2:

ปลล.น้องนิมาแว่บมาเรื่องนี้แล้ว
อย่าลืมมูมู่ของพี่น้า คิดถึงจะแย่แล้ว
 :o12:

Nima4

  • บุคคลทั่วไป
Re: [เรื่องสั้น] SEX PHONE [13.05.55]
«ตอบ #5 เมื่อ13-05-2012 22:16:58 »

Sex phone



“ฮ้า...สวัสดีครับวันนี้เราเริ่มชั่วโมงกันด้วย “Click me” เพลงที่ค้างมาจากท้ายชั่วโมงที่แล้ว คืนนี้ฝนก็ลงเม็ดพรำๆ อยู่นะครับเดินทางตอนดึกก็ระวังตัวด้วย มาต่อกันกับเพลงต่อไปเลยดีกว่ากับเพลงนี้ Lost without U” สิ้นเสียง  ซาวด์เพลงเพราะๆ ก็ดังขึ้นมา





ร่างผอมเพรียวถอนหายใจเฮือกใหญ่ เบะปากอย่างไม่พอใจ

เขาไม่เถียงหรอกนะไอ้เจ้าดีเจนี่มันเลือกเพลงมาเปิดได้เพราะเข้ากับบรรยากาศแบบสุดๆ แต่เข้าใจมะว่า...





เพลงที่เขาเพียรส่งข้อความไปขอเนี่ย มันก็เข้ากับคืนฝนตกแบบนี้เหมือนกันนะว้อยยยย



แค่มันเป็นเพลงเก่าไปหน่อยเท่านั้นเอง...




แล้วเขาก็เป็นบ้าอะไรล่ะเนี่ยที่มานั่งบ่นใส่ไอ้เครื่องเล่นแบบนี้


หงุดหงิดแล้วก็ทำอะไรไม่ได้ นอกจากตวัดสายตาเชือดเฉือนใส่มัน ก่อนจะลุกเดินกระแทกเท้าตึงๆ ไปที่มุมห้องที่มีโต๊ะวางโทรศัพท์อยู่ เขานั่งลงตรงเก้าอี้นวมที่เพิ่งซื้อมาตัวใหม่ ก่อนจะกดหมายที่แสนคุ้นเคยออกไป


“ผม กวินครับ ตอนนี้ผมไม่สะดวกรับสาย กรุณาโทรกลับมาใหม่ หรือฝากข้อความไว้นะครับ”


ติ๊ดดดดด





“กำลังโมโหน่ะ ดีเจคลื่นนี้งี่เง่าที่สุดเลยเหอะ ฉันขอเพลงไปไม่รู้กี่รอบแล้วก็ไม่ยอมเปิดให้สักที โกรธเนี่ย จะเลิกฟังคลื่นนี้ละ”






แล้วก็วางสาย...




เท่านี้?   





ใช่แล้วล่ะ! เท่านี้แหละ ไม่มีอะไรมากมาย หาที่ระบาย ก่อนที่ร่างสูงเพรียวจะเอนหลังพิงกระจกหน้าต่างห้องนั่งเล่น หูก็ฟังทำนองเพลงสุดท้ายที่ใกล้จะจบ...แต่มันไม่จบทั้งหมดหรอก เพราะจะต้องมีเสียงดีเจมาก่อกวนต่อ





แต่ไม่แฮะ….





ซาวด์เพลงหวานๆ ที่แสนคุ้นหูดังขึ้น มาเฟียฉีกยิ้มรีบพุ่งไปที่หน้าเครื่องเล่นที่สถานีวิทยุกำลังเปิดเพลงอยู่ แทบจะแนบหูเข้ากับลำโพงทั้งที่แค่กดเพิ่มเสียงก็เรียบร้อยแล้วแท้ๆ


เขายิ้มร่า ทำท่ากำหมัดกระทุ้งศอกอย่างชอบใจ ความพยายามในรอบสองอาทิตย์มานี้มันเป็นผลแล้ว...




แหมมมม จะว่าไปไอ้ดีเจเสียงนุ่มคนนี้ก็ใช้ได้ทีเดียวนะเนี่ย...








It's been a long and  winding journey, but I'm finally here tonight
Picking up the pieces, and walking back into the light. In to the sunset of your glory, where my heart and future lies.
There's nothing like that feeling, when I look into your eyes...


มาเฟียเดินกลับมานั่งที่เดิม ปากก็ฮัมเพลงหวานๆ นั้นคลอตามเบาๆ ก่อนจะนึกขึ้นได้ก็กดโทรศัพท์ไปฝากข้อความอีกครั้ง


“ผม กวินครับ ตอนนี้ผมไม่สะดวกรับสาย กรุณาโทรหลับมาใหม่ หรือฝากข้อความไว้นะครับ”

ติ๊ดดดดด

“ฉันได้ฟังเพลงที่ขอแล้ว ต้องให้บ่นขู่ว่าจะเลิกฟังคลื่นนี้เลยอะ กว่าจะได้ฟัง ฉันชอบเพลงนี้มากลองไปหาฟังดูนะ Angles Brought Me Here…” พอพูดชื่อเพลงไปก็เกิดอาการหน้าแดงเสียอย่างนั้น ก่อนจะรีบวางสาย ถดตัวพิงกระจกสองมือปิดปาก ชันเข่าจนตัวแทบจะกลมเป็นลูกบอล






รู้สึกร้อนไปทั้งหน้า...



ย้อนกลับไปเมื่อสักครู่ได้มั้ย? ขอไปลบเอาชื่อเพลงออกได้มั้ย? ให้ตายเถอะ...เขาบอกให้กวินไปฟังเพลงนั้นเนี่ยนะ...








อ๋า...







นั่นมันเหมือนเพลงบอกรักชัดๆ





โอ้ย...อะไรเนี่ย....




คิดแล้วก็เขิน เสียงเพลงก็ยิ่งทำให้เขินหนักกว่าเดิม...


“จะมาเปิดอะไรตอนนี้วะเฮ้ย...เห็นมั้ยฉันเผลอไปเลย ความผิดของนายคนเดียว ไอ้ดีเจพยากรณ์อากาศ” ไม่รู้จะโทษใครก็โวยวายกับไอ้เครื่องเสียงเสียอย่างนั้น






โบ้ยความผิดให้กับพ่อดีเจที่นั่งทำงานอยู่แบบไม่รู้เรื่องรู้ราว...






งื้อ...



ทำไงดีล่ะเนี่ย...ถ้ากวินไปหาฟังจริงๆ จะคิดยังไงล่ะนั่น.... โอ้ยยยย




My dreams came true, when I found you I found you, my miracle...
If  you could see, what I see, that you're the answer to my prayers
And ,if you could feel, the tenderness I feel you  would know, it would be clear, that angels brought me here...



ก็เพลงมันหวานขนาดนี้....







มาเฟียนั่งกอดเขาอยู่ที่มุมห้อง หูก็ฟังเพลงที่คลออยู่บางเบานั้น ท่ามกลางแสงสลัวของดาวไลท์ในบ้าน และเสียงฝนที่ตกลงมา...





ไม่รู้ทำไมฟังเพลงนี้แล้วมันต้องมีหน้าของพ่อหนุ่มหน้าหวานข้างบ้านลอยเข้ามาในหัวทุกที รอยยิ้มหวานๆ กับแววตาซึ้งๆ นั้นมัน...


Standing here before you, feels like I've been born again.
Every breath is your love, every heartbeat speaks your name...
My dreams came true, right here in front of you my miracle...
If you could see, what I see, you're the answer to my prayers.
And if you could feel, the tenderness I feel.
You would know, it would be clear, that angels brought me here...


งื้ออออ....ชอบอะ







ชอบผู้ชายคนนั้น...









ผู้ชายที่ชื่อ... กวิน








ชอบตอนไหนอย่าถามนะ...รู้แค่ว่าชอบ...ชอบมาก








Brought me here to be with you,
I'll be forever grateful (oh forever Faithful)
My dreams came true
When I found you my miracle...
If you could see, what I see, you're the answer to my prayers
And if you could feel, the tenderness I feel
You would know, it would be clear, that angels brought me here...
Yes they brought me here...
If you could feel the tenderness I feel
You would know, it would be clear, that angels brought me here...








มาเฟียยิ้มกับตัวเอง ก่อนจะนิ่งฟังเสียงพูดของดีเจที่เขานั่งบ่นนั่งด่าอยู่ทุกคืน ข้อหาเปิดเพลงไม่ตรงใจเขา แต่คืนนี้ไม่ว่าพ่อดีเจจะพูดมาก พูดน้อยยังไง มาเฟียก็...

เกิดอาการพูดคนเดียวแบบนี้



“วันนี้ผมไปแวะทานเค้กที่ร้านเดจาวูมาล่ะครับ อร่อยมาก”




“แหมๆ...ร้านนั้นเคยไปกินแล้วน่า ขนมเค้กอร่อยจริงๆ นั่นแหละ”




“คุณผู้ฟังถ้าขับรถผ่านไปแถวนั้นก็แวะชิมดูนะครับ ถ้าไม่อร่อย ผมให้เตะแฟนกับพี่เจ้าของร้านเดจาวูเลยครับ”


“พูดอย่างนี่ก็รอดตัวสิ...นิสัยว่ะ”


“มาฟังเพลงต่อไปกันเลยดีกว่าครับ ไหนๆคืนนี้ก็เล่นเพลงเก่าๆ แล้วขอต่ออีกสักเพลงดีนะครับ ‘Every time- Britney spears’ ครับ”


“วันนี้เปิดเพลงเพราะนะเรา”





กลายเป็นว่ามาเฟียนั่งฟังเพลงไป แล้วก็พูดตอบโต้เสียงพ่อดีเจผ่านเจ้าเครื่องเสียงภายในบ้านคนเดียว...เอ่อ... ดีนะว่าดึกแล้วไม่อย่างนั้นถ้าเกิดมาใครเดินผ่านมาเห็นคงว่าเขาบ้า...









แต่...เสียงของพ่อหนุ่มดีเจจอมพยากรณ์อากาศคนนี้ คุ้นหูจังน้า ฟังเพลินดีจัง...
























มาเฟียงัวเงียตื่นมาในตอนบ่ายแก่มากแล้ว เมื่อคืนหลังจากจบชั่วโมงเพ้อของตัวเองไปแล้วเขาก็ลงมือเขียนนิยายที่ไม่ได้เริ่มไว้เลยแม้แต่น้อย ยอมรับเลยล่ะว่าเมื่อคืนนี้มันเป็นอะไรที่บิ้วแตกได้ที่สุด


รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่แสงพระอาทิตย์สอดส่องเข้ามาในบ้าน ถึงได้รู้ตัวว่าได้เวลานอนแล้ว...


ร่างผมเพรียวออกมาที่ห้องนั่งเล่นหลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว เขานั่งนิ่งกำลังคิดว่าจะออกไปซื้ออะไรมากินดี...แล้วก็พลันนึกได้ว่า...




เขายังไม่ได้ดูระบบฝากข้อความ...











ร่างสูงพุ่งไปยืนที่โทรศัพท์และก็ยิ้มถูกใจเมื่อเห็นว่ามีหนึ่งข้อความจริงๆ ที่ฝากเอาไว้...





“คุณมีหนึ่งข้อความ....”




ติ๊ดดดด







“ดีใจจังที่อารมณ์ดีแล้ว...เพราะเพลงนี้หรือเปล่า?” เสียงพูดเงียบไป แต่ถึงสองวินาทีเสียงนุ่มของอีกฝ่ายก็ดังขึ้นอีก แต่มันไม่ได้มาเป็นคำพูด กลับมาเป็น...







“My dreams came true, right here in front of you. My miracle...
If  you could see, what I see, you're the answer to my prayers
And if  you could feel, the tenderness I feel. You would know, it would be clear, that angels brought me here.......คุณ..ชอบเพลงเดียวกับผมรู้มั้ย?”











รู้ไม่รู้ไม่สนแล้วตอนนี้!





เพราะร่างเพรียวลมของเขามันทรุดลงนั่งยองกับพื้นข้างๆ โต๊ะวางโทรศัพท์มือข้างหนึ่งกอดเข่าไว้ อีกข้างยกขึ้นปิดปากที่กำลังยิ้มจนเจ้าตัวกลัวว่ามันจะฉีกแล้ว... แถมใบหน้ายังเห่อร้อนแดงเสียจนไม่กล้าส่องกระจก...




กวิน...กวิน...





ผู้ชายคนนี้...












ไม่ไหวแล้วนะ....









งื้อออออ



















ท่อนแขนเรียวเอื้อมไปที่โทรศัพท์กดฟังข้อความซ้ำไปซ้ำมาอยู่อย่างนั้น ทั้งที่พอฟังเสียงนุ่มๆ นั้นร้องเพลงก็เขินจนแทบจะระเบิดตัวเองตายแล้ว...แต่ก็ยังไม่เลิกทรมานตัวเองอีกนะ




เพราะ...เพราะที่สุด



ยิ่งฟังก็ยิ่งชอบ...





ชอบที่สุดตรงที่กวินร้อง












กวิน...









อย่าทำให้ชอบมากกว่านี้สิ











แค่นี้ก็ไม่ไหวจะชอบแล้วนะ....

















ถ้าเกิดคุณกำลังทำอะไรพิเศษให้ใครสักคน ต่อให้คุณหลับคุณก็จะยังคงพะวงหาแต่เรื่องที่ได้ทำลงไป เหมือนกับที่กวินกำลังเป็นอยู่ตอนนี้



เขารีบออกจากห้องนอนหลังจากที่อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว วันนี้เขาต้องรีบออกเร็วหน่อยเพราะที่สถานีของเขามีงานนอกนิดหน่อย...   






ปลายนิ้วจิ้มปุ่มข้อความทันที




“เอ่อ......ชอบ........ชอบ......เพลงเดียวกันนะ”








รูปประโยคไม่ได้ยาวอะไรมากมาย แต่มันทำให้กวินมีหลากหลายความรู้สึกเป็นบ้า... ว่าจะใจเต้นแรงกับคำว่าชอบ แล้วก็ดิ่งวูบกับความหมายว่าชอบเพลงเดียวนะกัน...



แต่พอสรุปจากน้ำเสียงที่ได้ยินแล้วก็นะ







มันออกจะเหมือนคนพูดเขินมากขนาดนั้น ...สั่นไหว แผ่วเบา...ทั้งที่ทุกทีเจ้าตัวจะเป็นคนพูดอะไรฉะฉาน แม้จะไม่ใช่คนพูดมาก แต่ถ้าน้ำเสียงอย่างนี้...


อีกคน...เขินสุดๆ แน่....

อื้อออออ... แบบนี้นี่มัน....







“ยะ...ฮู้!!!”



















คลื่นเดิมเจ้าประจำที่หมุนไปฟังทั้งที่บ่นแล้วบ่นอีกว่าพ่อดีเจเสียงนุ่มเปิดเพลงยาก แต่พอถึงเวลาปุ๊บคนขี้บ่นกลับมานั่งจุมปุ๊กอยู่ที่ห้องนั่งเล่น ในมือถือรีโมทย์หมุนเล่นไปเล่นมา


“เข้าสู่ชั่วโมงที่สองสำหรับคืนที่ท้องฟ้าโปร่งต่างจากคืนก่อนนะครับ...ผู้ฟังทางบ้านเป็นยังไงบ้างครับ เรามาเปิดสายหน้าไมค์กันดีกว่า โทรเข้ามาเลยครับที่ xxx-xxxx-xxxx ผมรออยู่”






มาเฟียเม้มปากแน่น...เสียงของดีเจคนนี้




เขารู้แล้วว่าทำไมเขาถึงยอมทนฟังไอ้คลื่นเพี้ยนๆ นี่ทุกคืน เสียงของคนจัดรายการช่วงนี้...คล้ายกับกวิน... คล้ายกันมาก...





ถ้าหลับตา...ตอนนี้ก็เหมือนกับนั่งฟังกวินพูดอยู่เลยไม่มีผิด...








เพราะอย่างนี้ใช่มั้ย...เขาถึงได้ฟังอยู่ตลอด








คำพูดที่ไม่ได้อยู่ในข้อความคำพูดที่พูดเรื่องทั่วๆไป...ถ้าเขาจะคุยกับกวินจริงๆจะได้ยินเสียงของกวินจริงๆที่ข้างๆหูแบบนี้หรือเปล่า?





จะรู้สึกดีแบบนี้มั้ย?




“เอาละครับ มีสายโทรเข้ามาเยอะจนระบบโทรศัพท์ของเราพังๆ ๆ ๆไปแล้ว ทำเอาอยากกินขาไก่”






มาเฟียหัวเราะเมื่อได้ยินอย่างนั้น มันเกี่ยวกันมั้ยเนี่ย ไอ้เจ้าดีเจคนนี้มันชื่ออะไรวะ...


“เอาอย่างนี้ดีกว่า...เราจะเป็นฝ่ายโทรหาคุณเอง เป็นเกมส์ที่ผมเพิ่งคิดมาได้แบบสดๆ ร้อนๆ เพราะเมื่อตอนเย็นผมกินบะหมี่แถวเยาวราช อร่อยอีกแล้ว^^”




มันต้องพูดไปยิ้มไปแน่ๆ  และไอ้เหตุผลที่เอ่ยอ้างมาน่ะ มันใช่เรื่องที่ไหนวะครับเนี่ย



“ผมจะสุ่มจากเบอร์โทรที่ส่งข้อความมาขอเพลงมากที่สุด ในอาทิตย์ และเบอร์นั่นได้แก่..................ผมไม่บอกคุณผู้ฟังหรอก ลุ้นกันเอาเอง” แล้วจะพูดให้ตื่นเต้นทำไมเนี่ย





มาเฟียแอบส่ายหน้ากับมุกขำๆ ของพ่อดีเจ ที่ดูเหมือนวันนี้จะอารมณ์ดีเกินขอบเขต แต่ก็ไม่ขำได้ไม่นาน เพราะอยู่ๆ มือถือของเขาก็กรีดร้องขึ้น


เบอร์โทรเข้าเป็นเบอร์แปลกๆ ตอนแรกเขาตั้งใจว่าจะไม่รับสายแต่...ก็แค่ตามมารยาท

“ครับ”

“ผมโทรจากรายการ Romantic on night คลื่น(เหงาสาวข้างบ้าน)....103.33 mHz. นะครับ คุณคือคนที่ส่งข้อความมาขอเพลงบ่อยที่สุด ยินดีด้วย ชื่ออะไรครับ?”

“เออะ...เออ...”

“มีคนชื่อนี้ด้วยเหรอ?” ซาวด์เอพเฟล็กแซวดังมาจากในเครื่องเสียง ทำเอามาเฟียอึ้ง นี่เขาไม่ได้ฝัน? หรือละเมอใช่มั้ย? ทำไมเสียงของดีเจคนนี้?...


“คุณครับ บอกชื่อให้ผู้ฟังทางบ้านหน่อย”

“มาเฟีย” แล้วก็มีเสียงปรบมือดังแทรกเข้ามา พร้อมกับเสียงพ่อดีเจตัวแสบที่แอบได้เบอร์เขาไปเพราะส่งข้อความไปขอเพลง

“มาเฟีย...คืนนี้อยากฟังเพลงอะไรครับ เราจะเปิดให้ทันทีเลย”

“Angles brought me here”

“คุณขอเพลงนี้มาทุกคืนเลย”

“แต่คุณก็ไม่เคยเปิดสักคืน แถมเปิดไม่จบ”

“ก็เวลามันหมดก่อนนี่ครับ แต่เมื่อคืนวานผมแก้ตัวเปิดให้จนจบเพลงเลยนะครับ”




ไม่รู้ว่าเพราะอะไรหรอกนะ แต่มาเฟียอมยิ้มทั้งที่โดนอีกฝ่ายกวนประสาทอยู่...



“ตอนนี้ผมจะได้ฟังจนจบเพลงใช่มั้ย?”

“แน่นอนครับ...แล้วทำไมถึงชอบเพลงนี้ครับ”

“ฟังแล้วนึกถึงหน้าคนที่ชอบ”ตอบกลับไปอย่างรวดเร็ว ทำเอาได้ยินซาวด์โห่แซวจากคลื่นวิทยุเลยทีเดียว


“โรแมนติคนะครับนี่....ขอบคุณนะครับมาเฟีย ถือสายรอสักครู่นะครับ” ปลายสายพูดแบบนั้น


มาเฟียรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังจะเปิดเพลงและดึงสายของเขาไปหลังไมค์ เพราะทุกครั้งพอมีหน้าไมค์ ก็จะมีคนขอหลังไมค์ แต่...เขาไม่ได้ขอหลังไมค์นี่...

 ซาวด์เพลงหวานๆ ดังขึ้นมาแล้ว...มาเฟียได้ยินเสียงกุกกัก  และเสียงพูดคุยเรื่องเปิดเพลงต่อไปเบาๆ หลังจากนั้น





“คุณครับ....” คุณครับ.... น้ำเสียงนี้ การเรียกแบบนี้







“กวิน...เหรอ?”




“ครับ...จำเสียงผมไม่ได้เหรอ?” มาเฟียอึ้งไปเลยทีเดียว...เฮ้ยๆ ๆ ๆอะไรยังไงละเนี่ย!!!




“เป็นดีเจที่นี่เหรอ?”


“ครับ คลื่นที่คุณครับจะเลิกฟังนั่นแหละ” โอ๊ะ...ข้อความนี้คุ้นหูพิลึกนะ


แต่ไม่ยักจะอยากจำ


“ก็คุณไม่เปิดเพลงให้ผมนี่” มาเฟียบ่นอุบอิบ ก่อนจะนึกขึ้นได้ “แล้วคุณรู้ได้ยังไงว่าเป็นผม”


“ก็ดูจากเวลาที่ฝากข้อความกับตอนที่ผมเปิดเพลง...ง่ายนิดเดียว ยิ่งลองโทรมาแบบนี้ได้ยินเสียงผมก็จำได้แล้ว มีแต่คุณนั่นแหละที่จำเสียงผมไม่ได้”



“อะไรล่ะ...ก็ใครจะไปคิดเล่า” มาเฟียเถียง แต่เสียงเพลงที่ได้ยินมันทำให้เขายิ้มอยู่แทบตลอดเวลา อีกฝ่ายจะเป็นเหมือนกันมั้ยนะ






“มีเวลาไม่ถึงสามนาทีครับ คุณครับ ตอบคำถามผมหน่อยสิ”





“อะไรเหรอ?”




“ฟังเพลงนี้แล้วคิดถึงหน้าใคร? ถ้าไม่ตอบผมกลับไปจะไปเคาะประตูบ้าน จะบุกเข้าไปถามให้รู้เรื่อง”




เฮ้ย! ไอ้หนุ่มหน้าหวานๆ ตาใสๆ คนนั้นทำไมมันถึงได้....ดิบ...อย่างนี้เนี่ย...






แต่...






แอบได้ใจอะ....





“ก็...”



“เร็วครับ...เวลาจะหมดแล้ว...”


“คนแถวบ้านนี่แหละ”



“เพื่อนบ้านหรือเปล่า?...ใช่มั้ย?” อีกฝ่ายเร่งทันทีทำเอามาเฟียนั่งขดตัวเพราะความเขินอาย




ให้ตายเซ่....






เกิดมาก็เพิ่งเคยนี่แหละ...อายจน...ไม่รู้จะทำยังไงแล้ว...







“อื้อ...คนที่ฝากข้อความไว้ทุกวันนั่นแหละ”







โอ้ย...เขินโว้ย...





“ผมก็ชอบเพลงนี้ ฟังแล้วนึกถึงหน้าคนที่ชอบ”



“ใครล่ะ...ถ้าไม่ตอบจะไม่โทรไปฝากข้อความอีก” ป๊อด...ไม่กล้าบุกบ้านอีกฝ่ายหรอก

“ผมจะได้เดินไปคุยต่อหน้าเลยดีมั้ยล่ะ”

“ไม่เอา...”

“ไม่บอกหรอก... เวลาหมดแล้ว เจอกันที่บ้านนะครับ...คุณครับ” แล้วสายก็ตัดฉึบไปเลย...



อะไรเนี่ย....



เขาโดนแกล้งใช่มั้ย...ไอ้คนหน้าใสนั่น





งื้อออออ...



บอกชอบไปแล้วอะ...



เขินนนนนนนน....

















คุณมีหนึ่งข้อความใหม่....
ติ๊ดดดดด


“คุณครับ ของฝากที่ตู้ไปรษณีย์นะครับ งอนจริงอะ ไม่เห็นมีซุปเลย”

ชิส์.... ไอ้คนที่ยืนฟังข้อความ ใจหนึ่งก็อยากทำหน้าบึ้ง อีกใจหนึ่งก็อยากจะตีหน้าเฉยๆ เมื่อตอนที่ฟังข้อความเสียงนั้น แต่พอเอาเข้าจริง... เขากลับยืนอมยิ้ม...ก่อนจะรีบเดินออกไปที่หน้าบ้าน ตรงไปที่ตู้รับ




ซองใส่ซีดี?



มาเฟียรีบกลับเข้ามาในบ้าน เพราะฝนที่เริ่มลงเม็ดนั่นแหละ เจ้าตัวงงๆ นิดๆ ว่าคุณเพื่อนบ้านมีอะไรมาฝากเขา เลยรีบตรงไปที่เครื่องเล่น จัดการเปิดเครื่องใส่แผ่น...และ...




It's been a long and  winding journey, but I'm finally here tonight .
Picking up the pieces, and walking back into the light.
In to the sunset of your glory, where my heart and future lies.
There's nothing like that feeling, when I look into your eyes...
My dreams came true, when I found you. found you, my miracle...
If  you could see, what I see, that you're the answer to my prayers
And if you could feel, the tenderness I feel.
You  would know, it would be clear, that angels brought me here...
Standing here before you, feels like I've been born again.
Every breath is your love, every heartbeat speaks your name...
My dreams came true, right here in front of you.My miracle...
If you could see, what i see, you're the answer to my prayers
And if you could feel, the tenderness I feel.
You would know, it would be clear, that angels brought me here...
Brought me here to be with you,
I'll be forever grateful (oh forever Faithful)
My dreams came true
When I found you
My miracle...
If you could see, what I see, you're the answer to my prayers
And if you could feel, the tenderness I feel
You would know, it would be clear, that angels brought me here...
Yes they brought me here...
If you could feel, the tenderness I feel...
You would know, it would be clear, that angels brought me here...





เพลงที่เขาชอบ...แต่มัน...ไม่ใช่ที่เคยฟัง...มันเป็น...เสียงของ...ของ...


เพราะมัวแต่ยืนอึ้งอยู่ พอรู้ตัวอีกครั้ง...ระบบฝากข้อความก็เริ่มทำงาน เพราะกำลังมีคนฝากข้อความที่โทรศัพท์...







“ฟังเพลงหรือยัง...คุณครับ เสียงผมไม่ค่อยดีหรอก แต่อยากร้องให้คนที่ชอบฟังน่ะ...ผมตอบคำถามแล้วนะ ห้ามงอน ผมง้อไม่เป็น”


งื้อ.... แล้วจะช้าอยู่ทำไม ต่อให้เขินแทบตายก็เถอะ...



ปลายนิ้วกดจิ้มเบอร์โทรของข้างบ้าน มองออกไปมองที่ห้องนั่งเล่นของบ้านอีกหลังที่อยู่ไม่ไกล เห็นเจ้าของบ้านกำลังนั่งกอดหมอนอิงกับโซฟา สายตาจ้องมองนิ่งมาที่เขา


“ผม กวินครับ ตอนนี้ผมไม่สะดวกรับสาย กรุณาโทรกลับมาใหม่ หรือฝากข้อความไว้นะครับ”




ติ๊ดดดดดด


เขินเหมือนกันละซี่....โอ้ย....

“ชอบคุณเหมือนกัน กวิน” แล้วมาเฟียก็แทบระเบิดตัวเองตาย เมื่อได้ยินข้อความตอบรับจากอีกฝ่าย แต่ไม่ใช่ผ่านโทรศัพท์หรอกนะ...มาเป็นเสียงตะโกนเลยล่ะ...


“คุณครับ...ชอบมาตั้งนานแล้วเหมือนกันครับ!”


โอ้ย....เขินนนนนนนนนนนนอะ...






........................................................ :man1:





เจอกันพรุ่งนี้ค่ะ

 :bye2:


ฝันหวานค่ะ  :a12:





Nima4

  • บุคคลทั่วไป
Re: [เรื่องสั้น] SEX PHONE [13.05.55]
«ตอบ #6 เมื่อ13-05-2012 22:18:27 »

โอ๊ย ไม่ต้องเถียงกัน
น่าร้ากทั้งคู่แหละค่า
 :impress2:

ปลล.น้องนิมาแว่บมาเรื่องนี้แล้ว
อย่าลืมมูมู่ของพี่น้า คิดถึงจะแย่แล้ว
 :o12:


ลงตอนจบไปแล้วนะค้าาาาา สงสัยตกไปหน้าสองแล้ววววว

อิอิ


Tiamo_jamsai

  • บุคคลทั่วไป
Re: [เรื่องสั้น] SEX PHONE [13.05.55]
«ตอบ #7 เมื่อ13-05-2012 22:20:31 »

 :L2:เปนกำลังใจให้จ้า

shockoBB

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
อ๊ากกก เขินแทนทั้งสองคน
หวานอ่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ BBlabong

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 27
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
โอ่ยยยยยยย เขิ๊นนนนนนนนนนนน >//////<

ออฟไลน์ minipuri

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 65
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
มดกัด มดกัด มดกัด  :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2:

ออฟไลน์ choijiin

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2082
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +445/-5
ตอนนี้เหมือนคนบ้าแล้ว
อ่านเรื่องนู้นน้ำตาท่วมจอ
มาต่อเรื่องนี้ก็ยิ้มแก้มปริ
สับสนในตัวเองง่า
 :z3:

แต่แหมๆๆ ใครรุกใครรับล่ะเนี่ย คุคิ
 :z1:

ออฟไลน์ N.T.❁

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-8
ว๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
เขินมากกกกกก

  :o8: :-[

แก้มจะระเบิดแล้ววว เรื่องนี้น่ารักมากมายยย มีต่ออีกใช่มั้ยคะ? น่ารักมาก เอาอีกๆ 555

 :L2:


ออฟไลน์ puchi

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 762
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-5
โอ้ยยยยย จะน่ารักไปไหนเนี่ย ทั้งคู่เลยอ่ะ

ปวดแก้ม  อมยิ้มทั้งเรื่องเลยอ่ะ

ชอบค่ะ

CrazierM

  • บุคคลทั่วไป
อ๊ายยยยยยยยย ชอบเรื่องนี้มากกก!!
อ่านไปยิ้มไป กัดหมอนไป ดิ้นไป เขินแทนอ่า 555
น่ารักมากๆเลย แอร๊ยย

shockoBB

  • บุคคลทั่วไป
>///< น่ารักอะ
 :m3: :m3: :m3:

ออฟไลน์ suck_love

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
อ่านแล้วยิ้มตามเลยแฮะ  :-[ แต่เค้าแอบจิ้นมาเฟียเป็นรับแหละ นิสัยมันให้ไงไม่รู้ค่ะ :z1:
ปล  :pig4: นะค่ะ

ออฟไลน์ moredee

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-8
 :กอด1:อย่าจบแบบเจ็บๆน้า มันอิน(มาจากเรื่องโน้นนนนน)

Jesale

  • บุคคลทั่วไป
อ๊าย เขินอ่ะ น่ารักมาก

กวิน มาเฟีย

อยากอ่านอีกอ่ะ ยิ้มแก้มปริ  :-[


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
อ๊าาาาา เขินนนนนนน  :o8:

Animee

  • บุคคลทั่วไป
โอ้ยตายยยยย เขินจนจะระเบิดอยู่แล้ววววว >//////////<

PiaShaRe ^^

  • บุคคลทั่วไป
เบาหวานกำเริบเรย ^^

ออฟไลน์ aloney

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 743
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-4
โรแมนติคมากๆ

อ่านแล้วเขิน กัดหมอน ผ้าห่มกระจาย เขินจนบิดตัวเองเป็นเลข8
หวานมาก ก

kasune

  • บุคคลทั่วไป
โอ้ยยยย น่ารักมาก
เขินแทน -/////////-
เรื่องนี้เป็นอะไรที่น่ารักที่สุด..

romeno

  • บุคคลทั่วไป
เขินคล้ายๆ มาเฟียเลย แต่ของเราจะกัดหมอน กับกรี๊ดอัดหมอน >w<

Nima4

  • บุคคลทั่วไป
Re: [เรื่องสั้น] SEX PHONE [14.05.55] THE END
«ตอบ #26 เมื่อ14-05-2012 07:54:34 »



Sex phone III
มันคงเป็นอาการที่ใครๆก็เป็นกันละมั้งมาเฟียคิดว่าอย่างนั้น อย่างเช่นนั่งทำงานอยู่ดีๆ ก็ยิ้มขึ้นมาเสียเฉยๆ ทำอะไรก็เป็นว่ามีแต่รอยยิ้ม อะไรที่แสนจะเครียดแค่ไหนก็ยังยิ้ม...




สุขใจ...ที่สุด

   
คืนนี้จะไม่มีเสียงของกวินผ่านลำโพงเครื่องสวยอีก เพราะเจ้าตัวฝากข้อความไว้แล้วว่าวันนี้หยุด... ดังนั้น ไม่จำเป็นต้องฟัง... แต่ไอ้ที่ทำให้นั่งยิ้มอยู่ได้ตลอด เขินจนล้มตัวกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บนโซฟาก็เพราะไอ้เสียงเพลงที่เจ้าตัวร้องเอง อัดจากที่ห้องส่งสถานีวิทยุแล้วเอามาให้เขา


ก็พอจะเดาๆ ได้บ้างว่าอีกฝ่ายก็คงจะคิดเหมือนกัน ก็ท่าทางออกขนาดนั้น แต่ก็แอบเผื่อใจไว้เสมอว่า อาจจะแค่คิดไปเองอะนะ... ใครจะไปคิด...โอยยย...


กำลังอยู่ในโลกส่วนตัวเองดีๆ เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น มาเฟียยิ้ม ปล่อยให้มันเข้าสู่ระบบฝากข้อความ “ทานข้าวเย็นหรือยังครับ... ทานพร้อมกันมั้ย?” กำลังคิดถึงอยู่นะ โผล่มาอย่างเร็วเลยนะ...




ผู้ชายคนนี้...อ่อยหรือไงนะ...


มาเฟียอมยิ้ม ก่อนจะเดินไปที่เครื่องรับ แล้วกดโทรออก...

“ผม กวินครับ ตอนนี้ผมไม่สะดวกรับสาย กรุณาโทรกลับมาใหม่ หรือฝากข้อความไว้นะครับ”

ติ๊ดดด...

“มีอะไรทานบ้างล่ะ... อยากดื่มโค้ก...”


ไม่นานหลังจากวางสาย อีกฝ่ายก็ฝากข้อความกลับมาอีกว่า...

“ไม่มีหรอก...คุณครับไม่มีอะไรทานเลยเหรอ? ฝนตกไม่ได้ออกไป ไม่มีอะไรในตู้เย็นด้วย” สรุปโทรมาชวนเพราะตัวเองกำลังจะอดตาย?


โอ้ย... อย่ามาอ้อนได้มั้ย...


หลงนะว้อยยยยย

“ผม กวินครับ ตอนนี้ผมไม่สะดวกรับสาย กรุณาโทรกลับมาใหม่ หรือฝากข้อความไว้นะครับ”


ติ๊ดดดดดด....


“มีแต่ขนม เดี๋ยวจะเอาไปไว้ที่ตู้รับนะ...เฮ้ย!!!”  มาเฟียร้องเสียงดังเมื่อยู่ ไฟในบ้านของตัวเองก็มืดลงเสียอย่างนั้น...




อะไรกันเนี่ย...


พอมองไปที่บ้านข้างๆ ก็มีสภาพไม่ต่างกัน

อย่าบอกนะว่า เป็นทั้งหมู่บ้านน่ะ....


เอาอีกแล้ววววว... ฝนตกหนักทีไร เป็นต้องไฟดับ




เซ็ง...






มาเฟียวางโทรศัพท์ไว้ ก่อนจะเดินฝ่าความมืดไปในห้องครัวที่ตัวเองแทบจะไม่ใช้ทำอะไรนอกจากชงกาแฟ เเล้วเปิดตามลิ้นชักได้เทียนเล่มเล็กๆ มาสองเล่ม  เขาเดินเอาเทียนมาวางที่ห้องนั่งเล่น ก่อนจะสะดุ้ง เพราะเสียงเคาะประตูบ้าน?



“คุณครับ...” เสียงที่ดังตะโกนอยู่นั้นทำเอาเขานิ่งค้าง...



กวิน...




กวินมา!


“คุณครับ...เปิดประตูให้ผมหน่อย ผมเปียกไปหมดแล้ว หนาวด้วย” ร่างสูงเพรียวเกิดอาการตื่นเต้น สั่นขึ้นมาเสียอย่างนั้น...


กวินมาหาเขา...เสียงที่ได้ยินก็ไม่ได้ผ่านโทรศัพท์แล้ว อยู่แค่บานประตูกั้น

แล้วเขาจะทำยังไงดีล่ะตอนนี้...ดูสิเสื้อผ้าก็เป็นชุดธรรมดา...แล้ว...หน้าตาก็...


โอ้ยยยยย...เวรแล้ว....




“คุณครับ” เสียงนั้นละห้อยจนน่าสงสาร อะไรอีกละ “จะไม่เจอผมจริงๆเหรอ?” คิดไปโน่น



เขาแค่ตื่นเต้นว้อยยย

“ไม่อยากเจอผมเหรอ?” เอ่อะ... “คุณครับ”

“กำลังจะเปิด” นั่นแหละ พอรู้ตัวก็พูดออกไปแล้ว...


ก็...ก็ ดูเขาทำเสียงอ้อนเซ่.... ดับดิ้นไปเลย!




มาเฟียเปิดประตูหน้าบ้านจนได้ และสิ่งที่เขาเห็นก็คือ...


....มนุษย์เสื้อกันฝนใส่แว่นเนิร์ดที่ยิ้มแฉ่งรอเขาอยู่...




ไหนบอกเปียก ไหนบอกหนาว?...



อีกแล้วนะ กวิน!


“กลับไปเลยยยยยย” มาเฟียว่าเสียงหนัก ก่อนจะตั้งท่างับประตูใส่หน้า แต่ขอโทษตั้งใจบุกมาหาขนาดนี้เรื่องอะไรจะกลับง่ายๆ กวินดันและรีบแทรกกายผ่านประตูเข้ามา...



“โกหก”


“ผมเปล่านะ”


“ไหนบอกเปียก”


“ก็นี่ไง” กวินใช้มือข้างหนึ่งชี้ที่เสื้อกันฝนของตัวเอง


“ไหนบอกหนาว”


“หนาวจริงๆ นะ” ว่าแล้วก็ทำท่าสั่นๆ



อร้ากกกก...น่ารักไปปะ?


“ถอดเสื้อไปน้ำมันหยด” เขาไม่ได้มีความหมายอะไรลึกซึ้งจริงๆ นะ แต่...


อีกฝ่ายมันกวนประสาทเขาใช่ปะ?


“งื้อ..อะไรน่ะ มาทงมาถอด” กวินเย้า ทำท่ากอดอกประหนึ่งว่าตัวเองกำลังจะโดนมาเฟียลวนลามอย่างนั้น และแน่นอนว่า...ท่าทางนั้นมัน...โคตรจะน่ารัก



แต่...

ใช่เวลา?

“หิวจนหน้ามืดหรือไงกวิน”


“ความจริงผมแอบอยากหน้ามืดตอนมองคุณครับนะ”



“อะไรนะ?”  เขาไม่ได้หูหนวกหรอกนะ แต่ไอ้ที่ได้ยินน่ะมัน... คิดไปไกลนะว้อย!


“....” กวินไม่ตอบ แต่พยายามถอดเสื้อกันฝนออกจากตัว แล้วหันซ้ายหันขวา ไม่รู้จะเอาไปวางไว้ตรงไหน เพราะความมืดที่ยังไม่ค่อยชิน


“เอามานี่มา” มาเฟียแย่งเอาเสื้อพลาสติกในมือของอีกฝ่ายมาวางไว้ที่ชั้นวางของใกล้ๆ กับชั้นวางรองเท้า เขาเพิ่งสังเกตว่ากวินถือถุงพลาสติกมาด้วย...



“ผมเอาเทียนมาด้วย” ว่าแล้วก็ยิ้มเผล่ อย่างน่ารัก...



งื้อ...อย่ามาโปรยเสน่ห์แถวนี้นะ

“เข้ามาสิ” ร่างเพรียวลมเชิญแขกยามวิกาลเข้ามาในบ้านแบบจริงจัง เขาเดินนำกวินเข้ามาในห้องนั่งเล่นที่มีเทียนจุดอยู่แค่สองเล่ม...

“คิดถูกที่ผมเอาเทียนมาด้วย"

“มันหมดพอดีไม่ได้ดูก่อนออกไปซื้อของ ที่นี่ไฟดับบ่อยมาก”

“คงมีปัญหาที่หม้อแปลงหน้าหมู่บ้านแหละ ผมอุตส่าห์บอกอยู่ทุกวี่วันว่าพายุจะเข้าๆ ก็ไม่มีใครเชื่อผม”

“เป็นกรมอุตุฯ หรือไงกวิน”

“ผมเป็นคนที่คุณครับบอกว่าชอบต่างหาก”









ก็ถ้าจะมาทำให้เขินขนาดนี้นะ...



“กลับไปเลย” กวินมุ่ยหน้ากับคนที่พูดประโยคนั้น ส่งตัวเองเข้าไปนั่งที่โซฟาตัวเล็กของห้องรับแขก ทำหน้าเจี๋ยมเจี้ยมก่อนจะยักคิ้วแผลบใส่คนที่นั่งอยู่ที่โซฟาใหญ่อีกฝั่ง...

"เรื่องอะไรจะกลับ” ก็เป็นซะอย่างนี้... ใครจะไปคิดว่าเป็นคนที่พูดอะไรได้เยอะแยะขัดกับหน้าตา...

“เป็นคนนิสัยอย่างนี้หรอกเหรอ?”

“ผมนิสัยน่ารักกว่าหน้าตาครับ” ก็ถ้าไม่ใช่เพราะไอ้หน้าใสๆ ตาซื่อๆ ยิ้มหวานๆ แว่นเนิร์ดทรงเก๋ เสื้อโปโลสีขาวนั้นละก็...จะตบให้ดิ้นตายเลย...

มาเฟียไม่พูดอะไรอีก... ก็กลัวว่า ถ้าพูดอะไรไปอีก จะโดนย้อนให้หัวใจทำงานหนักกว่าเดิม... สุดท้ายก็ปล่อยให้ความเงียบเข้ามาครอบคลุมทั่วทั้งบ้าน...พร้อมกับเปลวเทียนที่ส่องสว่างมากขึ้นเพราะกวินจุดเทียนหอมที่ตัวเองหอบเอามาด้วย...

แสงสลัวไหววูบไปมา เหมือนกับอารมณ์ความรู้สึกของคนที่นั่งเอนตัวกับโซฟานุ่ม กลิ่นหอมของมันอบอวนให้เคลิ้มฝัน...

“มีเยอะเหรอ?”

“ของเพื่อนที่ทำงานครับ” มาเฟียเหลือบมองที่นั่งอีกฝั่งของโซฟาตัวที่ตนนั่ง ย้ายมานั่งตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่? เนียนนะ...


“เพื่อนเหรอ?”

“ครับ...เขาจัดรายการช่วงกลางวันเสียส่วนมากครับ” มาเฟียพยักหน้า เท้าคางของตัวเองกับที่วางแขนเหลือบมองอีกคนที่นั่งพิงพนักโซฟาเป็นระยะ...

กวินไม่ได้พูดอะไรเพิ่มเติม... ความจริงเขาก็ไม่ได้ตั้งใจจะชวนคุยอะไรให้มากมายหรอก แบบ...ไหลไปตามน้ำ ยิงมุกสดไปเรื่อย...

พอเงียบลงก็เป็นอันหาเรื่องคุยไม่ถูกเหมือนกัน...

มันไม่ได้คุยกันยากนักหรอก เพียงแต่ที่ผ่านมา...ไม่มีใครพูดอะไรกันก่อนเองต่างหาก มัวแต่เขินกันไปอายกันมา... เป็นไงล่ะ พอจะอะไรจริงจัง ก็ไปกันไม่ถูก

เปลวเทียนสลัวไปไหววูบไปมา กลิ่นหอมอ่อนโชยอบอวน...เสียงสามลม พายุกับพัดอยู่ด้านนอก มันเด่นชัดเลยว่าแทบจะทำให้ได้ยินเสียงลมหายใจของกันและกัน...

กวินเหลือบไปมองร่างที่เอนซบอยู่ที่มุมโซฟา... ก็เลือกนั่งกันไป เอาซะไกลคนละฝั่งโซฟา แต่ว่า... จะขยับเข้าหายังไงล่ะ



ที่คุยได้จ้อยๆ ก่อนหน้านี้มันก็เกินความคาดหมายแล้วนะ หรือจะต้องใช้มุกเนียนอีก? จะเนียนยังไงล่ะ?


วินาทีที่ครุ่นคิด เป็นช่วงจังหวะที่สายตาของอีกฝ่ายหันมาพอดี...




คุณจำความรู้สึกครั้งแรกที่ได้สบตาคนที่แอบชอบได้หรือเปล่า





ทั้งสองคนไม่รู้หรอกนะว่ามันเป็นยังไงในตอนนั้น เพราะตอนนี้ที่รู้สึกได้ก็คือ... ใบหน้ามันรู้สึกชาๆ เย็นเยียบ ก่อนจะเริ่มระอุร้อนขึ้นมาที่ละนิด ริมฝีปากก็ต้องเม้มให้แน่นเข้าไว้เพราะถ้าเกิดเผลอยิ้มออกมาด้วยความดีใจ มันจะดูออกหน้าออกตาไปมั้ย?


มาเฟียจึงได้แต่หลบสายตาซุกหน้ากับท่อนแขนแอบยิ้มอยู่อย่างนั้น ส่วนกวินก็แค่ก้มหน้านั่งเท้าแขน แล้วยิ้มออกมา

มันเหมือนปั๊บปี้เลิฟ แต่ทั้งคู่รู้ดีว่ามันไม่ใช่  ก็ไม่ใช่ว่าเคยผ่านอารมณ์แบบนี้มาก่อนเสียเมื่อไหร่ แค่กับคนๆที่นั่งอยู่คนละมุมตอนนี้มันทำให้รู้สึก ตื่นเต้นพร้อมทั้งสงบนิ่งได้ในเวลาเดียว....


“ฟังเพลงมั้ย?”

“ไฟดับ” มาเฟียตอบทันที

“ไอพอดไม่ต้องใช้ไฟฟ้านะจนกว่าแบตจะหมด” นั่นไง...ไหลไปได้ทุกช่องสิน่า...


แต่ที่ทำให้มาเฟียสะดุ้งน้อยๆ ก็คือ...ไม่รู้ว่าตอนไหนที่อีกฝ่ายขยับมาอยู่ใกล้ๆ จนสามารถเอาหูฟังใส่หูให้เขาข้างหนึ่ง พอขยับตัวลุกขึ้นเลยกลายเป็นว่าอยู่ห่างกันแค่คืบ ทั้งที่ตอนแรกห่างกันเป็นเมตรๆ


เพิ่มจากความเงียบงันก่อนหน้าคือเสียงเพลงเพราะๆ ที่ได้ยินในหู กับระยะห่างที่ไม่คิดว่าจะได้อยู่ใกล้กันแค่นี้... น้ำหอมที่ใช้กลิ่นอะไรนะ หรือว่าจะเป็นกลิ่นจากเทียนหอมที่อุตส่าห์หอบมา

“เราใกล้กันแค่นี้เอง” กวินยกมือขึ้นทำท่าความห่างของทั้งคู่ แค่ปลายนิ้วโป้งกับนิ้วชี้  “เห็นด้วยมั้ย?” มาเฟียพยักหน้า....แต่กวินกลับส่ายหน้า

“แต่ผมไม่เห็นด้วย”

“ทำไม? พูดเองนะ” ถามไปแล้วก็เกิดอาการอยากตบปากตัวเองเมื่อเห็นท่าทางยิ้มเจ้าเล่ห์ของอีกฝ่าย...

“ก็จริงๆ แล้วเราอยู่ห่างกันแค่นี้” กวินทำท่าคืบมือ ยิ้มกริ่มให้กับมาเฟียที่เอนตัวไปพิงพนักโซฟา “ถ้าจะให้ใกล้เท่านี้” ขยับปลายนิ้วให้ใกล้เท่าระยะเดิมแรก

“เราก็ต้องใกล้กันมากกว่านี้สิ”


“อย่ามาเนียน” มาเฟียยิ้มใช้ฝ่ามือผลักมือของพ่อหน้าหวานที่ทำมึนจะเนียนเข้ามาใกล้อีกออกด้วยอารมณ์โคตรจะเขิน





“ผมก็เนียนตลอดล่ะ ดูสิผิวอย่างเนียน” ไม่พูดเปล่ายื่นแขนมาตรงหน้าของมาเฟียจนเขาต้องยกมือขึ้นแตะๆ พิสูจน์


“แน่ะ...แตะอั๋งผม” มาเฟียถึงกับตาโตเมื่อได้ยินแบบนั้น ผลักแขนของพ่อตัวแสบออกไปอีก


“นายบอกให้ดู”



“ก็บอกให้ดู แต่คุณครับแตะ” ทั้ง มึน ทั้งเนียน ทั้งกวน!


“ไปไกลๆ เลย”


“เรื่องอะไร เนียนมาขนาดนี้ละ” ยอมรับกันแบบหน้าซื่อตาใสตามแบบฉบับของกวินเลยว่า...เขามันจอมเนียนเลยล่ะ


“เด็กอะไรวะ”
“ผมจะยี่สิบสามแล้วครับ”

“ก็อ่อนกว่าฉันอยู่ดี ตั้งปีหนึ่ง”

“คุณครับแก่ว่างั้น?”

“กวิน”


“ครับ^^” ไอ้เด็กหน้าเป็น!

“แค่ปีเดียว”

“มันก็ตั้ง365วันนะครับ” ไม่ไหวแล้วว้อยยย มาเฟียฟาดเพี๊ยะเข้าที่แขนของกวิน อีกฝ่ายก็สู้สิ เรื่องอะไรจะยอมเป็นกระสอบทราย

ตีกันไปกันมาก็เป็นอันสะดุดกึก เมื่อซาวด์หวานๆ ดังแทรกเข้ามาในหู....



It's been a long and  winding journey, but I'm finally here tonight
Picking up the pieces, and walking back in to the light
In to the sunset of your glory, where my heart and future lies
There's nothing like that feeling, when I look into your eyes...

เมื่อสายตาได้สบกัน รอยยิ้มอ่อนๆ ที่เผยขึ้น ความอ่อนหวานที่สื่อออกมานั้นมันไม่ยากหรอกที่จะทำให้อีกฝ่ายยิ้มตอบออกมา... ความหมายที่หวานซึ้ง ที่เคยจำได้ขึ้นใจ มันกลับกระท่อนกระแท่นในความทรงจำ คงเพราะห้วงเวลาที่แสนหวานที่ได้ยิน



My dreams came true, when I found you
I found you, my miracle...


คงเป็นสิ่งมหัศจรรย์จริงๆ ที่ทำให้เกิดเรื่องเหล่านี้ขึ้น ใครจะไปคิดกันล่ะ ว่าเพื่อนข้างบ้าน จะกลายมาเป็นคนในใจ เพียงเพราะการเฝ้ามองกันและกันและฟังเสียงผ่านระบบฝากข้อความ...



If  you could see, what I see, that you're the answer to my prayers
And if  you could feel, the tenderness I feel
You  would know, it would be clear, that angels brought me here...

จริงหรือ...หากความรู้สึกนี้ไม่ได้หลอกตัวเอง...ความจริงแล้วพ่อเพื่อนบ้านของเขาคือคนที่ถูกส่งมาเพื่ออยู่เคียงข้างเขา

รับรู้ได้ถึงความรู้สึกที่มีให้กัน โดยไม่จำเป็นต้องพูดอะไร...


Standing here before you, feels like I've been born again
Every breath is your love, every heartbeat speaks your name...


ตอนนี้ต่างฝ่ายต่างรับรู้ได้ถึงความใกล้ชิดที่ไม่เคยมีมาก่อน ทุกลมหายใจ ทุกจังหวะของหัวใจที่กระหน่ำรัวสลับกับหนักหน่วง แต่กลับเข้ากันได้ทั้งสองดวง...อย่างเป็นธรรมชาติ... ราวกับถูกปั้นแต่งมาเพื่อกันและกันแล้ว



My dreams came true, right here in front of you, My miracle...
If you could see, what I see, you're the answer to my prayers
And if you could feel, the tenderness I feel
You would know, it would be clear, that angels brought me here...



“บอกแล้วไงว่าเราอยู่ใกล้กันนิดเดียวเชื่อผมหรือยัง...คุณครับ” น้ำเสียงหวานนุ่มนั้นมันทำให้เขาหน้าร้อนผ่าว ไม่ว่าจะฟังผ่านคลื่นวิทยุ เครื่องรับหรือแม้แต่อยู่ต่อหน้ากันแบบนี้...เมื่อเรียกร้องชื่อของเขา... เหมือนกับชื่อของเขามีไว้ให้คนๆ นี้เอ่ยถึงเพียงคนเดียว


Brought  me here to be with you,
I'll be forever grateful (oh forever Faithful)
My dreams came true
When I found you, My miracle...


มันคือท่อนที่เขาชอบที่สุด ใช้คำว่ารักที่สุดเลยก็ว่าได้ แต่เขาก็ยังคงรู้สึกมากมายกับท่อนนี้ เมื่อได้ฟังและสบตากับอีกฝ่าย....ตรึงทุกอย่างให้หยุดนิ่งอยู่กับที่เมื่อสายตาส่งผ่านความนัยที่หมายความเช่นเดียวกับที่หูกำลังได้ยินเนื้อเพลง...

“นึกถึงหน้าคนที่ชอบอยู่หรือเปล่า...คุณครับ” มาเฟียส่ายหน้ายิ้มบางๆ

“กำลังมองอยู่ต่างหาก...” กวินยิ้มหวาน ขยับเคลื่อนกายเข้าไปใกล้อีกนิด...นิดเดียวจริงๆ นะ

แต่...ทั้งสองร่างก็ชะงักนิ่งค้าง...กลับเข้าสู่โหมดแห่งความเป็นจริงที่ทำเอาต้องสะอึกหัวเราะ


“แบตไอพอดของผมหมด”


“เลือกหมดได้ถูกเวลาจริงๆ” แถม...



พรึบ!!!




แสงไฟในตัวบ้านส่องสว่างขึ้นแทบจะพร้อมกัน ทำเอาเปลวแสงสลัวของเทียนไร้ประโยชน์ไปเดี๋ยวนั้น



“นี่ก็เลือกมาได้ถูกเวลาเกินไปแล้ว” กวินบ่นอุบอิบ ขยับกายนั่งให้ดีกว่าเดิม แน่นอนว่ามาเฟียนั้นดีดตัวเองกลับไปนั่งท่าเดิมทันทีที่ไฟมานั่นแหละ...


จะดับต่ออีกหน่อยก็ไม่ได้...


ใบหน้าหวานถูกเท้าด้วยฝ่ามือ มองไปยังเครื่องเสียงที่อยู่ตรงหน้า ก่อนจะเอื้อมไปหยิบรีโมทย์มาเปิดการทำงานของมันที่ค้างอยู่เพราะไฟดับ ไม่ถึงนาทีเสียงเพลงที่เจ้าของบ้านฟังก่อนหน้านี้ก็ดังขึ้น

ไม่มีซาวด์ดนตรี ไม่มีท่วงทำนองที่เพราะพริ้ง มีเพียงเสียงหวานนุ่มที่คนฟังถึงกับหน้าแดงพร้อมๆ กันแต่ต่างความรู้สึก...


คนหนึ่งหน้าแดงเพราะถูกจับได้ว่า วันทั้งวันเอาแต่ฟังเพลงที่อีกฝ่ายตั้งใจอัดมาให้... อีกคนก็หน้าแดงเพราะเขินกับความบ้าของตัวเองที่ทำในสิ่งที่ไม่เคยคิดจะทำมาก่อน...

สุดท้าย ก็เป็นหนุ่มหน้าหวานนั่นแหละที่คิดอะไรประหลาดขึ้นมาได้อีก ก็ในเมื่อมันเขินอยู่แล้วก็ควรดับความอายด้วยความเขินที่มีมากกว่า...ดังนั้น...

เสียงของเขาจึงเปล่งออกมา แข่งกับเจ้าลำโพงที่ทำงานอยู่


‘If  you could see, what I see, you're the answer to my prayers
And if  you could feel, the tenderness  I feel
You would know, it would be clear, that angels brought me here...
Yes they brought me here...
If you could feel, the tenderness I feel...
You would know, it would be clear, that angels brought me here...’


มันเกินจะห้ามใจตัวเองแล้ว... สายตาที่จดจ้องมองแผ่นหลังของคนที่นั่งเท้าศอกอยู่นั้นมันอ่อนหวานแค่ไหนคงไม่มีใครรู้หากไม่มาเห็นเอง แต่สิ่งที่เจ้าตัวแสดงออกตอนนี้มันยิ่งกว่าสิ่งใดทั้งหมด...



มาเฟียขยับกายเคลื่อนเข้าไปใกล้แผ่นหลังนั้น เกยคางไหล่ไหล่แข็งแรงและสอดอ้อมแขนโอบกระชับเอวสอบของหนุ่มหน้าหวาน



กวินไม่ได้ว่าอะไร ไม่ได้ขยับตัวหนี แต่เขากลับหยุดร้องเพลง... มันไปต่อไม่ได้แล้ว หัวใจของเขากำลังเต้นรัวเร็วอย่างบ้าคลั่ง เสียงของเขาอาจจะสั่นมากกว่านี้... ถ้าหากยังร้องหรือพูดอะไรออกไป...


สิ่งที่ทำได้ก็คือ...หลับตานิ่งๆ หูฟังเสียงเพลงที่ถูกตั้งให้รีพลีสเอาไว้  ทุกความรู้สึกจดจ่ออยู่กับจังหวะการเต้นรัวของหัวใจคนที่โอบกอดเขาจากด้านและของตัวเอง...


“หัวใจเต้นแรงมาก”

“ครับ” กวินตอบแค่นั้น ก่อนจะจับมือข้างหนึ่งของมาเฟียให้มาทาบที่อกข้างซ้ายของตัวเอง “เต้นแรงมากจริงๆ”

“กวิน” เรียกด้วยเสียงสั่นแผ่วพร้อมกับเผลอจิกปลายนิ้วลงที่แผงอกแข็งแรงที่มีเสื้อโปโลขว้างกั้นผิวเนียน กระชับอ้อมแขนและเบียดกายเข้าแนบชิด…ไม่ไหวจะทนนะ...


กวินพลิกกายหันมาหาเจ้าของอ้อมกอด สอดแขนรอบเอวที่ดูจะบางเหลือเกิน  จดจ้องมองสบตากับอีกฝ่ายก่อนจะยิ้ม


พรึบ!....แสงสว่างหายไปเหลือแต่เปลวไฟของเทียนหอม ทำเอาทั้งสองคนสะดุ้งแล้วหัวเราะออกมาอีกครั้ง...


“อีกกี่นาที”


“ไม่รู้สิ อาจจะไม่มาอีกก็ได้...” กวินนิ่งคิดกับคำตอบนั้น ไม่มาเลยก็ดีนะไฟฟ้าน่ะ มาพรุ่งนี้เลยเถอะ...






ไม่มีใครพูดอะไรอีก มีเพียงรอยยิ้มเปื้อนหน้าที่มอบให้กัน รู้ตัวอีกทีก็คือหน้าผากก็แตะกันเบาๆ ปลายจมูกไกล่เกลี่ยกันไปมาราวกับจะหยอกล้อซึ่งกันและกัน


ใบหน้าของแต่ละคนต่างมองไม่ชัดเจน เพราะระยะห่างที่แทบจะเรียกว่าแนบชิดนั้น...


คงไม่มีใครว่าอะไรหรอกนะ ถ้านี่จะเป็น

คืนแรกที่ได้คุยกันแบบจริงๆ จังๆ

คืนแรกที่อยู่ใกล้ชิดกันขนาดนี้

เป็นคืนแรกที่จะมีจูบแรก...กับคนที่รัก



..............................





...................





............




......



....





....



น่ารักเนอะ :man1:


romeno

  • บุคคลทั่วไป
Re: [เรื่องสั้น] SEX PHONE (ต่อค่ะ) [14.05.55]
«ตอบ #27 เมื่อ14-05-2012 08:16:55 »

ู^
^
 น่ารักมากกกกก :mc3: :mc3: :mc3: :mc3:

ออฟไลน์ naTerquelA

  • If you ..... love me?
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 136
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
Re: [เรื่องสั้น] SEX PHONE (ต่อค่ะ) [14.05.55]
«ตอบ #28 เมื่อ14-05-2012 09:09:36 »

เอาอีกเหอะ นะๆๆ

ออฟไลน์ Alone Alone

  • ขอตายในอ้อมกอดฮยอกแจ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-0
Re: [เรื่องสั้น] SEX PHONE (ต่อค่ะ) [14.05.55]
«ตอบ #29 เมื่อ14-05-2012 09:30:12 »

กวิน รวบหัวรวบหางเลย

แอร้ยยยยยยย :impress2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด