[เรื่องสั้น]ยิ่งใกล้…ยิ่งหวั่นไหว(?) SP-เด็กผม ใครก็ห้ามแตะ(3/3)[26/5/56]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [เรื่องสั้น]ยิ่งใกล้…ยิ่งหวั่นไหว(?) SP-เด็กผม ใครก็ห้ามแตะ(3/3)[26/5/56]  (อ่าน 32176 ครั้ง)

ออฟไลน์ bleach_pa

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้



1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ  เผ่าพันธุ์  ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ  ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ
การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0





---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------




[เรื่องสั้น] ยิ่งใกล้…ยิ่งหวั่นไหว(?) 1st






ผมไม่เคยคิดว่าชีวิตจะได้มาเจออะไรแบบนี้


“ อ้าว! ลุง เชิญเข้ามาเลยฮะ ” ใบหน้าหล่อเหลาที่ผมเห็นไกลๆยังสู้มองจากมุมใกล้ไม่ได้ ถึงจะเป็นผู้ชายเหมือนกันแต่ผมต้องยอมรับเลยว่าไอ้เด็กหน้าตาดีชะมัดถึงผมจะไม่ชอบใจเลยซักนิดก็ตาม แถมมันยังตัวสูงกว่าผมซะอีก แต่ประเด็นสำคัญมันไม่ได้อยู่ตรงนั้น


ลุง ???????? 


เรียกแก่ไปไหมผมอายุปาไปใกล้จะเลขสามแต่ว่า ผมมองใบหน้าและรูปร่างของชายหนุ่มตรงหน้าดูจากรูปร่างหน้าตาแล้วน่าจะเรียนมหาลัยอยู่คำว่าลุงก็ออกจะเกินไปอยู่ เป็นพี่แทนจะได้ไหม?


ผมนั่งลงตามคำเชิญของเจ้าของบ้านวางกระเป๋าเอกสารลงข้างตัวนัยน์ตามองร่างที่หายลับไปก่อนจะหันไปมองรอบๆ วันนี้ผมมาเอางานจากบ้านเป้เพื่อนสนิทควบตำแหน่งเพื่อนร่วมงานของผมเห็นมันบอกว่าตอนนี้ที่บ้านมีลูกพี่ลูกน้องมาอยู่ด้วยไม่งั้นผมคงต้องคิดว่ามาผิดบ้านแน่ๆ หน้าตาของเจ้าเด็กนั้นไม่เห็นเหมือนเพื่อนผมเลยสักนิด


ร่างที่ผมกำลังนินทาอยู่ในใจก็เดินย้อนกลับมาในห้องพร้อมน้ำอัดลมเย็นๆภายในแก้วใบสวยวางไว้ตรงหน้าผม


“ รอแป๊ปนะลุง  พี่เป้กำลังกลับมาอยู่ ” ผมมองใบหน้าที่นั้นที่ส่งยิ้มเป็นมิตรมาให้คิ้วกระตุก


ทำไมไอ้เป้ถึงเป็นพี่แต่ผมได้เป็นลุงวะ ไอ้เด็กเวรนี่มันกวนประสาทผมอยู่หรือยังไง!?


“ ………….พี่ ”


“ ครับ? ” ยิ่งมองหน้าไอ้เด็กนี่ยิ่งไม่สบอารมณ์ ทำไมเดี๋ยวนี้มันยิ่งจะมีพวกที่เด็กกว่าผมมันถึงได้หน้าตาดีขึ้นเรื่อยแบบนี้วะ เกลียดขี้หน้ามัน!
 

“ กูอายุเท่าพี่มึง ให้เรียกกูว่าพี่ ” อย่าให้ผมพูดอีกรอบนะเฟ้ย ไอ้เด็กนั้นชะงักไปแบบอึ้งๆก่อนจะจ้องหน้าผมด้วยท่าทางไม่พอใจผมจ้องกลับเหมือนกันเรื่องอะไรจะต้องกลัวมันกัน จ้องกันไปจ้องกันมาจนเป็นสงครามเย็นทางสายตากับไอ้เด็กบ้านี่หน๊อยไอ้เด็กเวรเอ๋ยบังอาจมาหล่อกว่ากูแล้วยังมาเรียกกูว่าลุงอีก แล้วนี่ไอ้เป้เมื่อไรจะมาวะผมจ้องจนปวดตาอยากจะกลับบ้านแล้ว


“ อ้าว มานั่งจ้องหน้ากันทำไมวะ ” เสียงไอ้เป้เหมือนเสียงระฆังบอกหมดยกผมละสายตาจากไอ้เด็กบ้านี่หันมาหาไอ้ตัวการที่ผมต้องมาวันนี้ที่มามาพร้อมกับพี่ไฟพี่ชายของผม


เวรเอ๊ย! ผมล่ะไม่น่าโง่ตามมันเลยจริงๆเพราะทำไมนะหรอก็เพราะไอ้เป้กับพี่ไฟพี่ชายผมเป็นแฟนกันนะสิปกติเห็นมันอยู่บ้านผมบ่อยๆทำไมต้องให้กูมาคอยมึงที่นี่ ทำไมมึงไม่เอาไปให้กูที่บ้านวะ? ในเมื่อมันมากับพี่ชายผมได้มันก็ไปบ้านผมได้ไม่ยากเลยงงจริงๆ


“ มึงให้กูมาเอาที่นี่ทำไมวะ ในเมื่อปกติมึงก็มาขลุกอยู่บ้านกูทุกวัน ” ผมยิงคำถามคาใจ ไอ้เป้สงสายตาพิฆาตใส่ผมทำให้ผมหันเอะใจหันไปมองไอ้เด็กเวรที่หันไปจ้องพี่ไฟอยู่


“ เออๆ งานเอามาซิวันนี้ย้ายมาทำบ้านมึงบ้างก็ได้ ” ผมแถไปเรื่อยให้สถานการณ์ดีขึ้นดูจากท่าทางแล้วไอ้เป้ยังไม่ได้บอกลูกพี่ลูกน้องมันแน่ว่ามันมีแฟนเป็นผู้ชาย งานเข้าผมแล้วไง!


“ นี่ใครอ่ะพี่เป้ ” จู่ๆไอ้เด็กเวรก็ถามขึ้นมา ไอ้เป้สะดุ้งนิดๆยังดีที่มันค่อนข้างเนียนหน่อยแต่จะไม่เนียนก็ตรงที่มองมาหาผมนี่แหละ

“ พี่ไฟพี่ชายฉันเอง ” ผมพูดขึ้นป้องกันเรื่องของทั้งคู่ไอ้เด็กบ้านั้นจ้องหน้าผมนิ่งๆก่อนจะหันไปหาเป้


“ หน้าไม่เห็นเหมือนกัน ” ไอ้เด็กเวร! มึงพึมพำแต่กูได้ยินนะเฟ้ยเฮ้ย ผมกับพี่ไฟเป็นพี่น้องคลานตามกันมาจากในท้องแม่เลยนะหน้าจะไม่คล้ายกันได้ไงฟ่ะไอ้เด็กตาถั่วเอ๋ย


“ ไอ้เก่ง ” เสียงไอ้เป้ดังขึ้นห้ามปรามก่อนจะแนะนำตัวไอ้เด็กเวรนี่


“ นี่ลมเพื่อนพี่ ส่วนลมนี่เก่งลูกพี่ลูกน้องฉัน ” ผมมองหน้าไอ้เก่งที่ดูเหมือนมันจะมีดีแค่ปากเก่งสมชื่ออย่างเดียว


“ ไม่เห็นอยากรู้จัก ” ผมได้ยินเสียงพึมพำจากปากไอ้เด็กนั้นอีกครั้งทำให้ผมหันควับกลับไปมองหน้ามันที่หันมายักคิ้วใส่ผม หน๊อยแก!


“ พี่ว่าจะกลับแล้วนะ ไอ้ลม ” ไอ้พี่ไฟเรียกผมก่อนที่ผมจะกระโจนกัดหัวไอ้เด็กบ้านี่


“ ครับ ” ผมตอบรับอย่างไม่พอใจลุกขึ้นตามพี่ไฟไปก็สะดุดล้มเมื่อมีขามารที่ยื่นมาขัดผมไว้ซะก่อน ไอ้เด็กเวร!


“ มึง……… ” ไอ้เป้เข้ามาล็อกแขนผมลากผมออกมาจากจุดๆนั้นอย่างรวดเร็วความโมโหผมยิ่งพุ่งปรี๊ดเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะดังตามออกมา


“ ปล่อยนะไอ้เชี่ยเป้ ” ผมดิ้นโวยวายพอโดนลากออกมา พี่ไฟที่ยืนอยู่ใกล้รถหันมามองผมด้วยสายตาพิฆาตทำให้ผมนิ่งหุบปากเงียบเนื่องจากถ้าผมดิ้นรุนแรงไปคุณภรรยาของคุณพี่ท่านอาจจะพลอยบาดเจ็บไปด้วย พอผมหยุดดิ้นไอ้พี่ไฟก็คว้าเมียไปดูความเรียบร้อยว่าไม่ได้รับบาดแผลอันใด


ไอ้พี่บ้าเห็นเมียตัวเองดีกว่าน้องในไส้!


“ พี่ไปก่อนนะ ”


“ อะแห่ม ” ผมอดจะส่งเสียงไม่ได้บอกลาส่งตาหวานใส่กันเชียวผมยืนหัวโด่อยู่ตรงนี้อีกคนเชียวนะเผื่อไม่ทันสังเกตเห็น พี่ไฟหันมาไล่ผมขึ้นรถ ผมหน้าหงิกแต่ก็ขึ้นรถมาแต่โดยดีไอ้พี่บ้าเลือกปฏิบัติเอ๋ย ก่อนที่รถจะเคลื่อนไปผมมองไปที่ไอ้เป้ที่ยืนโบกมือลาก่อนจะเห็นไอ้เด็กปากเก่งนั้นยืนมองมาทางรถผมอยู่หน้าบ้านใบหน้ากวนประสาทจนอยากจะลงไปซัดมันสักยก


ดูท่าทางเจ้าเด็กนั้นจะเริ่มสงสัยเรื่องของเป้กับพี่ไฟซะแล้ว ผมจะทำไงดีเนี้ย!




เรื่องแรกที่มาลงบอร์ดนี้ หลังจากตามอ่านผลงานของหลายท่านในนี้มานาน
ฝากเรื่องนี้ด้วยนะครับ  :o8:


16/5/55
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-05-2013 19:26:43 โดย bleach_pa »

ออฟไลน์ gupalz

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +604/-20

Tiamo_jamsai

  • บุคคลทั่วไป
 :กอด1:เปนกำลังใจจ้า

ออฟไลน์ allenlover

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 80
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
สนุกมากเลยจ้ะ
ชอบพระเอกแนวนี้จัง
กวนได้อีกอ่ะ 555+

+1 และเป็นกำลังใจให้นะจ้ะ ;]

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
จะตามต่อนะ อย่าทิ้งไปกลางคันล่ะ

ออฟไลน์ เฉาก๊วย

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2233
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +251/-6

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
พี่ไฟนิสัยง่ะ เห็นเมียดีกว่าน้องในไส้ ไม่ปลื้มค่ะ

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
วัวอ่อนกะหญ้าแก่อ่ะป่าว
 
  ชอบบบ :o8:

ออฟไลน์ นอนกินแรง

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-4
อยากอ่านต่อ

ออฟไลน์ bleach_pa

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0



[เรื่องสั้น] ยิ่งใกล้…ยิ่งหวั่นไหว(?) 2nd






เนื้อไม่ได้กินหนังไม่ได้รองนั่ง ผมยังดันผ่าเอากระดูกมาแขวนคออีก


ถ้าไม่ใช่เพราะเป็นพี่ไฟพี่ชายผมกับไอ้เป้เพื่อนรักผมจะไม่มีวันมาเยียบที่นี่ให้อารมณ์ขึ้นอย่างเด็ดขาด ไอ้พวกสองคนนี้ก็เหลือเกินพอพี่ไฟรับไอ้เป้มาส่งบ้านก็บังคับให้ผมขึ้นรถมาด้วยเพื่อไม่ให้ไอ้เด็กปากเก่งนั้นมันสงสัยอีก เลยกลายเป็นผมที่ลำบากตรากตรำต้องเอาตัวมาเป็นพยานแถมยังต้องลงไปส่งไอ้เป้ที่หน้าบ้านอีก ผมยังเปรยๆว่าคราวหน้าจะมาอยู่นอนซะที่นี่ไปเลยแม่ง


“ ไอ้ลมส่งแค่นี้ก็ได้ กลับไปได้แล้ว ” ไอ้เป้บอกผมที่เดินมาส่งมันหน้าบ้าน ผมก็คิดอะไรดีๆออกผมยิ้มให้มันก่อนจะหันไปตะโกนให้พี่ไฟได้ยิน


“ พี่ไฟคืนนี้ผมค้างที่นี่นะ ” สิ้นเสียงคนที่ขับรถอยู่ก็ทำหน้าเหี้ยมใส่ผม ผมยืนยิ้มตอบกลับพร้อมกอดคอไอ้เป้เอาไว้ยักคิ้วส่งให้ไอ้พี่ชายที่แทบจะลงมาพ่นไฟใส่ผมแต่ก็ทำไม่ได้เพราะไอ้เด็กเก่งที่มาเปิดประตูบ้านให้ยังคงยืนอยู่หน้าบ้านขืนลงมามันอาจจะจับได้


“ เออ! พรุ่งนี้จะมารับ ” สิ้นเสียงเย็นเยียบรถตรงหน้าก็ขับกระชากหายไปอย่างรวดเร็ว วู้! ดีนะที่มีไอ้เด็กเก่งอยู่ด้วยไม่งั้นผมต้องโดนไอ้พี่ไฟฆ่าหมกสนามหญ้าแถวนี้แน่เลย


“ มึงเนี้ยน้า” เสียงอ่อนใจของไอ้เป้ก่อนจะส่ายหัวเบาๆ มันดึงแขนผมออกก่อนเดินเข้าบ้าน ผมมองตามร่างมันไป ไอ้พี่ไฟป่านนี้คงโกรธแทบจะกินหัวผมที่เห็นผมเดินกอดคอไอ้เป้เดินออกมา คงมีแต่มึงเท่านั้นละมั้งที่ไม่รู้ผมยิ้มบางๆส่งไป ก็ดีแล้วผมไม่อยากให้มันรู้เหมือนกัน ถ้ามันรู้เมื่อไรทั้งผมและมันคงมองหน้ากันไม่ติด มันคงเป็นบทลงโทษของคนที่คิดไม่ซื่อแบบผม


ผมกำลังจะตามมันเข้าไปในบ้านก็มีร่างของไอ้เด็กเก่งก้าวมาขว้างหน้าประตูซะงั้น เกือบลืมว่ามันยืนอยู่ตรงนี้เลยแหะ


“ มองอะไร ” ผมพูดเสียงเข้มเมื่อร่างของไอ้เด็กเก่งแต่หันมามองผมด้วยแววตาวาววับเห็นแล้วรู้สึกเสียวสันหลังพิลึก


“ หึๆ ” มันหัวเราะชั่วร้ายใส่ผม ท่าทางเหมือนตัวเองเหนือกว่าแบบนั้นทำให้ผมรู้สึกอยากจะถีบมันซักป๊าบ


“ ไอ้เชี่ย ” ผมด่ามันแต่ไอ้เก่งกลับยิ้มๆมันดึงคอเสื้อผมเข้าไปใกล้แบบไม่ทันตั้งตัวผมเลยเซตามแรงนั้นไปใบหน้าของผมกับมันอยู่ห่างกันแค่คืบก่อนที่มันจะพูดสิ่งที่ทำให้ผมอึ้ง


“ ………..หึ!  ก็แค่มองดูคนที่หลงรักเพื่อนตัวเอง ”
เสียงนั้นยังคงดังก้องอยู่ในหัวผม คำพูดเป็นดังมีดกรีดหัวใจบาดลึก


เชี่ยแล้วไง!





“ มึงมานอนกับกูแล้วกัน ห้องปกติที่มึงนอนตอนนี้เก่งนอนอยู่ ” ไอ้เป้พูดขึ้นขณะที่พวกผมกำลังจะกินข้าวอยู่

ปกติที่ไอ้เด็กเวรนี่ยังไม่มาผมก็มักจะมาขลุกอยู่ที่บ้านไอ้เป้บ่อยๆเนื่องจากมันอยู่บ้านคนเดียวบางทีเหงาๆผมก็จะมาอยู่ด้วยไม่ก็มันก็ไปหาที่บ้านผม หลังจากเมื่อประมาณอาทิตย์ที่แล้วที่มันบอกว่าจะมีน้องมันมาอยู่ด้วยผมก็ไม่ได้มาที่นี่อีกเลย เจอกับเป้แค่ที่ทำงาน  พอมองไปยังไอ้เด็กเก่งแต่ปากที่ยืนมองหน้าผมรอยยิ้มกวนประสาทที่ประดับไว้มุมปากของมันทำให้ผมอยากจะกระโดดจนไปประเคนหมัดวางมวยกันซักรอบ


“ พี่เป้พี่มานอนห้องผมดีกว่า ” ไอ้เป้หันไปมองไอ้เก่งอย่างมึนงงสงสัย


“ ทำไมวะ ” เป้เอ่ยปากถาม


“ ผมแค่กลัวว่าคนแถวๆนี้……มันจะคิดไม่ซื่อนะซิ ” ไอ้เวรนี่มันหันมาทางผมในจังหวะที่มันเว้นวรรคไว้ซะยาว แก! ไอ้เป้ก็ทำหน้างงๆดูท่ามันจะไม่เข้าใจ ผมไม่มองไอ้เวรนั้นแต่หันไปพูดกับเป้


“ อย่าสนใจเสียงนกเสียงกาเลย คืนนี้กูนอนห้องมึงนั้นแหละ ”


“ เออ นั้นสิ ” ทันทีที่เป้ตอบผม ผมก็หันไปยักคิ้วใส่ไอ้เก่งทีนึงมันทำท่าไม่พอใจจ้องหน้าผมเขม็งผมจัดการตักข้าวใส่ปากทำเป็นไม่สนใจ เห็นไหมสุดท้ายไอ้เป้ก็เข้าข้างผมอยู่ดี
   


“ นี่ ” เสียงที่เอ่ยระหว่างที่ผมเดินผ่าน ผมหันไปมองทางต้นเสียงเล็กน้อยก่อนจะเมินผ่านเรียกไม่ได้ระบุชื่อผมไม่เห็นต้องไปสนใจอะไรนิหว่า ด้วยความเกรียนผมก้าวต่อไปโดยไม่สนแต่กลับถูกกระชากหัวไหล่ให้หันไปหาเขา


“ มึงนั้นแหละ ” มึงเลยหรอไอ้เด็กนี่


“ มีอะไร ” ผมถามด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์จ้องกลับด้วยหน้าตากวนๆสบกับนัยน์ตาที่ดูเข้มขึ้นเรื่อยๆของคนตรงหน้า 


“ เลิกยุ่งกับพี่เป้ซะ ”แรงบีบที่หัวไหล่ทำให้ผมหน้ามุ่ย


“ เรื่องอะไรกูต้องเลิก ” มีสิทธิ์อะไรมาสั่งผมฟ่ะ ผมปัดมือที่จับไหล่ออกตูมีสมองคิดเองได้ว่าจะทำอะไรไม่ต้องให้มันมาสั่งสอน สายตาคมกริบที่มองมาผมก็ยักคิ้วกวนๆกลับไปให้มัน มันมองผมนิ่งๆก่อนจะไม่วายทิ้งท้ายให้กวนอารมณ์ก่อนจะจากไป


“ อย่าให้รู้ว่าคิดไม่ดีกับพี่เป้ก็แล้วกัน ” ผมก็ชักจะสงสัยมันแล้วเหมือนกัน ผมมองตามร่างนั้นไป


ทำไมถึงได้หวงไอ้เป้แบบนี้?





ผมนั่งจ้องไม่วางตาสงสัยครับ ความสงสัยมันค้างคาใจเหมือนพอจะเดาได้แต่ก็ยังไม่มั่นใจ ผมมองการกระทำจะว่าเหมือนน้องชายควรทำก็เหมือนแต่ก็ถ้าคิดแบบอกุศลมันก็อาจจะใช่ ผมเลยนั่งกอดอกมองการกระทำของมันอยู่นี่แหละ ไอ้เด็กเวรนั้นทิ้งหนังสือลงบนโต๊ะเสียงดังจนเป้ที่นั่งดูทีวีหันไปมอง


“ ดูเหมือนจะมีปลิงอยู่แถวนี้นะครับ เกาะเขากินหลายวันแล้วยังไม่กลับบ้านกลับช่องไปอีก ” คำจิกกัดแบบสุภาพทำให้ผมยิ้มกว้างผมจะอยู่กดดันมันเนี้ยแหละมีอะไรไม่พอใจไหม


“ เก่ง! ” เสียงไอ้เป้ร้องขึ้นทำให้ไอ้เด็กเก่งคะแนนติดลบหนึ่งเป็นไงล่ะไอ้เด็กเก่งมวยมันคนละชั้นกัน หึ


“ ว่าแต่แกพี่ไฟตามแล้วทำไมไม่กลับบ้านวะ ” เสียงไอ้เป้ถามผมทำให้ไอ้เด็กเวรได้ใจหันมายักคิ้วให้ผม หน๋อย! ผมได้แต่เก็บความรู้สึกอยากจะพ่นไฟใส่มันไว้ในใจ


“ ปกติกูก็มาค้างบ้านมึงบ่อยๆจนเหมือนบ้านตัวเองอยู่แล้วจริงไหม ” ผมตอบไอ้เป้พลางโน้มคอมันที่นั่งอยู่ข้างๆมากอด


“ ปล่อยกูเลยนะเว้ยอึดอัด ” เป้โวยลั่นทำให้ผมหัวเราะร่วนแต่ก็ไม่ยอมปล่อยมัน ก่อนเหลือบมองไอ้เด็กเก่งที่นั่งมองผมกับไอ้เป้นิ่งสายตาคมๆของมันเล่นเอาผมเสียวสันหลัง คิดว่าไอ้เด็กนี้จะลุกขึ้นมาโวยวายอะไรสักหน่อยแต่นี่นิ่ง นิ่งๆแบบสยบความเคลื่อนไหวแบบนี้ทำให้ผมเดาทางมันไม่ถูกเลยจริงๆแหะ





CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ นอนกินแรง

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-4

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
ใครจะเป็นลูกไก่ในกำมือใครระหว่างลุงกับหลาน

ออฟไลน์ jimmyFG

  • Ich Liebe dich.
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2276
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +203/-4
    • @Facebook
มาต่ออีก

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
อีกนิดจิ :impress:

ออฟไลน์ bleach_pa

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0


[เรื่องสั้น] ยิ่งใกล้…ยิ่งหวั่นไหว(?) 3rd






“ ทำไมกูต้องช่วยมึงด้วยฟ่ะ ” ผมเอ่ยอย่างเซ็งๆหลังจากฟังคำของร้องอันหน้าปวดหัวของเจ้าเพื่อนสนิทที่พ่วงตำแหน่งพี่สะใภ้มาด้วย ตั้งแต่คบกันมาแต่ละเรื่องที่มันขอนี่น่าปวดหัวปวดใจผมจริงๆเลย ให้ตายสิ


“ งั้นไม่ต้องก็ได้ ” ไอ้เป้พูดหน้างอ ไอ้นี่ขี้งอนจริงๆอ้อนผมสักนิดก็ไม่ได้


“ เออๆกูรับปาก ” ผมพูดมองใบหน้าที่ส่งยิ้มหวานมาให้ที่อย่างงี้ยิ้มกว้างมาเชียว ผมล่ะไม่เคยปฏิเสธมันได้เลยจริงๆผมมองใบหน้านั้นรอยยิ้มที่ทำให้ผมชุ่มชื่นหัวใจจนต้องหันสายตาหลบภาพนั้น ยิ่งมองมันผมก็ยิ่งเจ็บอย่าลืมซะสิไอ้ลม


“ เป็นอะไรรึเปล่า ” เสียงเอ่ยขึ้นอย่างเป็นห่วงทำให้ผมกลบเกลื่อน


“ เป็นสิวะ โครตลำบากใจแต่เพื่อมึงกูอยู่ได้ไปฮันนีมูนเถอะ ก่อนกลับขอหลานน่ารักๆสักคนมาฝากก็โอเคแล้ว ” ผมปั้นสีหน้าสดใสก่อนจะร่ายยาว ไอ้เป้หน้าเขียวแว้กใส่กลับมา


“ ไอ้เวร กูเป็นผู้ชายนะเว้ยจะมีหลานกลับมาฝากมึงได้ยังไง!!! ” นานๆจะได้เห็นฉากไอ้เป้หลุดโหมดปกติมันเป็นพวกเฉื่อยๆโฉดๆ มาแสดงท่าทางโมโหใส่ผมสักที ผมหลบข้าวของที่เขวี้ยงใส่ด้วยความเขินให้วุ่น อย่างน้อยคนที่พามันไปก็พี่ชายผมคนที่ได้ใจมันไปทั้งดวง ขอแค่เขาทั้งคู่คนที่ผมรักมีความสุขเท่านี้ก็เพียงพอแล้ว





ผมเดินกลับเข้าบ้านนั่งดูทีวีต่อพอไอ้เด็กนั้นเดินตามเข้ามาเห็นก็หน้าหงิก ผมหันไปมองไอ้เด็กบ้าที่ยืนอยู่หน้าประตูห้องนั่งเล่นก่อนที่มันจะถือวิสาสะทิ้งตัวลงนั่งข้างๆบนโซฟาที่ผมนั่งอยู่ก่อนจะคว้ารีโมตทีวีที่ผมถือไว้ไปหน้าตาเฉย


“ ทำไมถึงยังอยู่นี่อีก ” น้ำเสียงไม่พอใจดังขึ้นหลังจากที่ผมกับไอ้เด็กบ้านี้ยืนส่งเป้ขึ้นรถพี่ไฟไป มันไม่รู้หรอกว่าคู่นี้ไปฮันนีมูนกันโดยเป้อ้างว่าไปดูงานที่ต่างจังหวัดเลยติดรถพี่ไฟไปส่วนผมติดงานที่นี่เลยไม่ได้ไปด้วยไม่ได้ อ้างได้สุดยอดมากมายเพื่อนผม


“ เป้ขอไว้ไม่งั้นให้ตายก็ไม่อยู่หรอ ”


   รู้ไว้ซะไอ้เด็กบ้า!


“ หึ อย่างกะอยากให้อยู่ตายเลยล่ะ ” เสียงพูดจากคนข้างๆทำให้ผมทำหน้าเอือม ช่วงนี้พ่อแม่ผมไปหาญาติที่ต่างจังหวัด พี่ชายก็ดันหนีไปเที่ยวกับเพื่อนสนิทผมอีก งานนี้ในฐานะที่อยู่บ้านคนเดียวผมเลยโดนไอ้เพื่อนตัวดีฝากฝัง(ทั้งเป็น)ให้มาอยู่กับไอ้เด็กเก่งอย่างแรกจะได้มีเพื่อนร่วมบ้าน เพื่อนแบบนี้ไม่มีซะยังจะดีกว่า และสองอยู่ด้วยกันหลายคนดูปลอดภัยดี ตรงไหนก็ไม่รู้หวิดจะตีกันตายในบ้านซะมากกว่า ผมเลยได้แต่นั่งเหี่ยวเฉาอยู่ข้างไอ้บ้านี้


“ หิวยัง ” เสียงเอ่ยขึ้นมิทราบว่ามึงจะพูดลอยๆทำไมฟ่ะ ตูหยิ่งไม่เรียกชื่อว่ามึงพูดกับใครตูก็ไม่สน ผมมองภาพที่ฉายในจอทีวีไม่สนใจร่างข้างๆที่หันมามอง จู่ๆเท้าไอ้เด็กบ้าก็เตะผมซะงั้น ผมหันกลับไปหามันที่จ้องผมนิ่งๆ


“ เตะทำไมฟ่ะ ”


“ ถามแล้วไม่ตอบ คิดว่าอยากจะพูดด้วยนักหรือไง ” ชิ! ผมก็ไม่อยากจะสนทนาด้วยหรอกคนอย่างมึงเนี้ย


“ หิวแล้ว ” ผมตอบอย่างไม่พอใจ


“ ……………….. ” และก็เงียบทั้งผมและมันไม่มีใครพูดอะไรต่อ ผมเหลือบมองไอ้บ้านั้นที่มองผมอย่างกดดันมึงต้องการอะไรฟ่ะ แต่ที่แน่ๆผมไม่มีทางทำอาหารให้มันกินแน่ๆ


“ งั้นก็ออกไปกินข้างนอก ” ผมบอก




หลังจากนั้นผมก็ขับรถของไอ้เป้ที่มันทิ้งไว้ให้พาไอ้เด็กเก่งนี่ไปกินข้าวแถวย่านนั้นตอนค่ำร้านอาหารส่วนใหญ่เพิ่งเปิดขายลูกค้ายังไม่ค่อยเยอะผมจอดรถเดินนำมันไปร้านอาหารตามสั่งที่กินประจำ ผมนั่งลงไอ้เด็กนี่ก็เดินเก็กนั่งลงฝั่งตรงข้าม คุณป้าเจ้าของร้านร้านเห็นผมก็ยิ้มทักผมยิ้มตอบกลับไปกินกันจนเป็นลูกค้าประจำไปซะแล้ว


“ เอาผัดซีอิ้วหมูครับ  แล้วมึงจะกินอะไร ” ผมหันไปบอกป้าก่อนจะหันมาถามเพื่อนร่วมโต๊ะ


“ ข้าวผัดกุ้งที่นึงครับ ” ไอ้เด็กนี่ไม่ตอบผมมันตะโกนสั่งเลย ชิ ดีจะได้ไม่ต้องตะโกนบอก ผมมองร่างที่นั่งอยู่หน้าที่นั่งเท้าคางมองนู่นมองนี่ ผมเห็นสาวๆหลายโต๊ะที่นั่งแถวนั้นหันมามองโต๊ะเราเป็นระยะดูเหมือนสายตาส่วนใหญ่จะมาหยุดที่ไอ้หมอนี่ ซึ่งมันทำให้ผมคิ้วกระตุกยิกๆเออกูรู้ว่ามึงหน้าตาดีมึงมันหล่อแต่ช่วยไปหล่อไกลๆตูหน่อยได้ไหม ผมหน้าหงิกอยู่ร่วมบ้านกับมันไม่พอโดนมันแย่งสาวๆไปอีก


ที่จริงจะว่าผมชอบผู้ชายก็ไม่เชิงเพียงแต่คนที่ทำให้ผมรู้สึกแบบนั้นมีแค่ไอ้เป้คนเดียวผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ผมยังชอบผู้หญิงเคยมีแฟนแต่ก็เหมือนคบเป็นแค่ตัวแทนของเป้ ผมไม่เข้าใจเลยจริงๆทุกครั้งที่จูบเธอกอดเธอผมถึงได้คิดถึงแต่ไอ้เป้กว่าจะรู้ตัวได้ว่าชอบมันพี่ผมก็ชิงตัดหน้าไปแล้ว ตอนนั้นผมโกรธจนแทบอยากจะชกกับพี่ไฟให้ตายไปสักรอบอยากจะแย่งไอ้เป้คืนมาแต่ผมรู้ดีว่ามันคงไม่มีวันแค่มองตามันผมก็รู้แล้วว่ามันเองก็ชอบพี่ชายผม


“ เหม่ออะไรกินซิ ” ผมทำหน้างงๆเพิ่งสังเกตว่าบนโต๊ะมาจานข้าวเพิ่มขึ้นมาสองจานกับน้ำเปล่าสองแก้ว  ร่างของคนตรงหน้าผมตักข้าวเข้าปากกินเอาๆ ผมมองจานตัวเองก่อนจะเริ่มลงมือกิน ผมควรเลิกคิดเรื่องนั้นสักที






“ เฮ้อ พวกนั้นไม่อยู่เหลือแค่ฉันกับแกเลย ” เสียงบ่นของไอ้เทมส์ที่นั่งหน้ามุ่ยอยู่ข้างๆ ก้องมันลาพักร้อนไปแล้วยังไอ้เป้ที่ลาไปเที่ยวกับแฟนมันอีกเหลือก็แต่ผมและมันที่ยังคงมาทำงานเหมือนปกติ


“ อย่าบ่นเลยน่า ” ผมพูดฟังมันบ่นมาประมาณสามรอบพอเพื่อนๆหยุดไปผมกับมันก็ต้องทำงานส่วนที่ขาดไปด้วย  ช่วงนี้ผมว่ามันดูเครียดๆยังไงไม่รู้เห็นบางทีมันก็ดูเหม่อลอยพอรู้สึกตัวว่าผมมองอยู่มันก็จะทำเป็นเฮฮากลบเกลื่อน ถึงผมจะสนิทกับมันทีหลังพวกไอ้ก้องหรือเป้แต่ก็คบกับมันมาตั้งหลายปีมีหรือจะไม่รู้


“ ชิๆ ” มันทำหน้างอนใส่ผมค้อนซะ ผมก็ขยี้หัวมันเล่น ผมเองก็เป็นลูกคนเล็กของบ้านเหมือนมันแต่พออยู่กับไอ้เทมส์ทีไรทำไมผมรู้สึกว่ามันเหมือนน้องชายผมทุกที คงเพราะท่าทางน่ารักๆแบบนี้ของมันด้วยล่ะมั้ง


“ เย็นนี้ไปกินข้าวกันไหม ” ผมเอยชวนมัน ผมตกลงกันไอ้เด็กบ้านั้นไว้แล้วว่าจะอยู่กันแบบไม่ยุ่งเกี่ยวต่อกัน ผมกับมันใครจะมาใครจะไปก็ไม่เกี่ยวกันซึ่งผมก็โอเคใครอยากจะอยู่กับมึงไม่ทราบ เย็นนี้ผมเลยกะว่าจะกินข้าวก่อนแล้วก็ค่อยกลับไปหมกตัวอยู่ที่ห้องไอ้เป้ซะ


“ เย็นนี้หรอ เออ… ” ผมมองหน้าเทมส์ที่ทำสีหน้าลำบากใจเลยบอกมันไปว่า


“ ไม่ว่างไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันกลับไปกินที่บ้านก็ได้ ” ผมบอกมันไปแบบนั้น แต่ว่าเย็นนี้บ้านผมไม่มีใครอยู่นิหว่า





ตอนเย็นผมก็เลยขับรถไปส่งมันก่อนที่มันจะเผลอทำตัวเองตายไปซะก่อน ไอ้บ้าเทมส์วันนี้มันใจลอยแล้วลอยอีกอย่างน่าประหลาดผมคิดว่าทำต้องกังวลกับอะไรบ้างอย่างแต่ในเมื่อมันไม่ยอมบอกผมก็ได้แต่เป็นกำลังใจให้มัน


หลังจากไปส่งมันเสร็จสุดท้ายผมก็ลงเอยด้วยการต้มมาม่ากินที่บ้านเพราะไม่รู้จะไปไหนดี ชีวิตไอ้ลมช่างหน้าเศร้ามีพี่กับเขาคนเดียวก็ดันหนีไปสวีตกับแฟน เพื่อนสนิทก็สวีตอยู่กับพี่ชายผมอยู่ไง ไอ้ก้องลาพักร้อนไอ้เทมส์ก็ไม่ว่าง พ่อแม่หนีเที่ยว(?)เอ้ย…ไปหาญาติที่ต่างจังหวัดปล่อยลูกชายคนเล็กอย่างผมไว้ที่บ้านเพื่อนอย่างสบายใจ หลังจากดื่มด่ำกับชีวิตแสนเศร้าและมาม่าจบผมก็เลยคิดว่าคงถึงเวลากลับบ้านได้แล้วมั้ง


ผมขับรถกลับมาบ้านไอ้เป้ระหว่างที่ขับมาก็นึกขึ้นได้ว่าเหมือนโทรศัพท์ดังตอนผมอยู่ที่บ้านพอดีตอนนั้นเข้าห้องน้ำอยู่เลยไม่ได้รับใครโทรมาวะ ผมเอาเบอร์ขึ้นมาดูก็พบว่าไอ้เป้นิหว่า ผมรีบกดหามันทันที


“ ฮัลโหลเป้ แกมีอะไรรึเปล่า? ” ผมถามมัน


“ ลมหรอ ขอโทษทีนะพอดีเก่งบอกว่ามีงานที่คณะดึกรบกวนไปรับมันหน่อยได้ไหม ” เสียงไอ้เป้ผ่านสายมาทำให้ผมอารมณืดีแต่ต้องมาสะดุดที่ ไปรับไอ้เด็กบ้านั้น? ไม่ไปได้ไหมเนี้ย


“ ทำไมอ่ะ ”


“ เออ ลม…อือ ออกไปนะไฟ …….. แกฝากด้วยนะ …….. ” เสียงกุกกักจากปลายสายทำให้ผมพอจะเดาอะไรได้ แล้วไอ้เป้ก็วางสายไป ผมดึงโทรศัพท์ออกมาความรู้สึกหมดแรงก่อนจะปรับทั้งอารมณ์และตั้งสตินี่สรุปแล้วผมต้องไปรับไอ้เด็กบ้านั่นใช่ไหม ผมกดโทรหาไอ้เด็กเก่งนั่นตามเบอร์มือถือที่พี่ชายมันบังคับให้ผมเมมเบอร์เอาไว้ก่อนไป รอสักพักก็มีเสียงรับ


“ ฮัลโหล ” เสียงตอบรับ


“ อยู่ตรงไหน ” ผมถามมันขณะหักเลี้ยวเข้ามหาลัยของเจ้าเด็กบ้านั้น ที่จริงผมเคยเรียนทีนี้เหมือนกันแต่คนละคณะกับมันพอจะจำทางได้อยู่


“ หน้าตึก……  นี่ใครวะ ” ไอ้เก่งตอบมา ไอ้บ้านี้ยังไม่รู้เลยว่าผมเป็นใคร


“ ทำงานเสร็จยัง ” ผมไม่ตอบถามมันกลับ


“ เสร็จแล้วเพิ่งจะเสร็จเนี้ยแหละ ว่าแต่มึงเป็นใครวะ ” มันยังไม่รู้อีกผมก็ไม่อยากบอกปล่อยให้มันเจ็บใจเล่นดีกว่าตอนที่รู้ด้วยตัวเอง หึๆ


“ ออกมาหน้าตึกถ้าอยากรู้ว่าใคร กูจอดรถรอมึงอยู่ ” ผมบอกมันก่อนจะกดวาง ไอ้เรื่องแกล้งชาวบ้านนี่คืองานของผม


นั่งรอสักพักผมก็เห็นร่างไอ้เด็กเก่งนั่นเดินออกมาหน้าตึกร่างสูงๆของมันทำให้ผมเห็นได้ชัดเจนทันทีมันหันซ้ายหันขวาก่อนจะเห็นผมที่อยู่ในรถผมแอบขำเบาๆที่เห็นหน้าไอ้เด็กนั่นผงะไปแป๊ปนึง คงไม่คิดว่าจะเป็นผมล่ะซิ ผมโบกมือให้มันไอ้เด็กเก่งเดินลงมาจากตึกเดินตรงมาที่รถผม ผมกดกระจกลงบอกมันก่อนที่จะถึงตัวรถ


“ ขึ้นรถ ” ไอ้บ้านั้นขมวดคิ้วแต่ก็ก้าวขึ้นรถผมโดยดีทันทีที่ขึ้นรถมันก็หันมามองผม


“ ทำไมมารับ? ” เก่งถาม ผมถอยรถขับออกไปเพื่อกลับบ้านไอ้เป้


“ กูเสือกมั้ง ” ผมกวนมันเลยได้รับเสียงแข็งๆตอบกลับมา


“ กวนวะ นี่กูถามมึงดีๆนะ ” แล้วมึงเคยคุยกับกูดีๆไหมล่ะ ผมอยากจะถามมันจริงๆแต่ก็ไม่ได้พูดมันออกไป


“ เป้ให้มารับ ” ผมบอก ถ้าไอ้เป้ไม่ได้ฝากล่ะก็ไม่มีวันซะหรอก แล้วทั้งผมทั้งมันก็ไม่ได้พูดอะไรต่อบรรยากาศในรถเงียบเชียบวิเวกวังเวงจนถึงบ้าน





ขอบคุณทุกความคิดเห็นนะครับผม  :กอด1:

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-04-2013 12:35:58 โดย bleach_pa »

ออฟไลน์ เฉาก๊วย

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2233
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +251/-6
 :z13:  อยากอ่านต่ออีกแย้ว

+1 ค่ะ

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
อายุก็ห่างกันแต่พูดกูมึงไม่น่ารักเลยอ่ะหนู

ออฟไลน์ gupalz

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +604/-20
รอตอนต่อไป

ออฟไลน์ นอนกินแรง

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-4
ชอบอ่ะ จะรักกันยังไง เชียร์อยู่

ออฟไลน์ jimmyFG

  • Ich Liebe dich.
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2276
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +203/-4
    • @Facebook
มันเหมือนไม่มีทางที่จะรักกัน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16
 :mc4:น่าลุ้น

ออฟไลน์ โชกุน

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 140
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
น่าติดตามมมๆๆ รอลุ้นคร๊าบ

ออฟไลน์ bleach_pa

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0



[เรื่องสั้น] ยิ่งใกล้…ยิ่งหวั่นไหว(?) 4th







ถึงจะไม่หน้าเชื่อและตัวผมเองก็ไม่อยากจะเชื่อ แต่ผมกำลังรู้สึกว่าผมกับไอ้เด็กเก่งกำลังเริ่มญาติดีกัน? มันคงเริ่มมาตั้งแต่ช่วงหลังๆไอ้หมอนี้กลับดึกรถก็ไม่ค่อยมีผมเลยได้รับหน้าทีไปรับเจ้าบ้านี้ทุกวันถึงจะไม่ชอบใจแต่พอมันขอบคุณที่ผมไปรับคุยๆไปเราก็เริ่มญาติดีกันบ้างถึงจะไม่อยากจะยอมรับแต่ผมก็เริ่มรู้สึกว่ามันเริ่มน่าคบขึ้น


นี่ผมเพี้ยนไปแล้วใช่ไหมครับ?


“ วันพรุ่งนี้กลับดึกรึเปล่า ” เสียงของคนนั่งข้างๆผมกำลังเมามันกับเกมส์ตรงหน้าพูดโดยไม่ได้หันไปมอง


“ ไม่อ่ะ ”


“ มารับด้วยนะ ” คำพูดต่อมาทำให้ผมหันไปเลือบมองมันนิดๆอย่างประหลาดใจแต่แล้วผมก็ได้ยินเสียงจากในเกมส์กูตายแล้วซะงั้น ไอ้เด็กบ้านี้เล่นทีเผลอนี่หว่า


“ ลมทำอาหารเย็นนะ ” สิ้นเสียงเจ้าเก่งผมสวนกลับทันที


“ ไม่! ” ทำไมกูต้องทำด้วยฟ่ะ


“ ไม่รู้ใครแพ้คนนั้นต้องทำ ” ไอ้เด็กเวรนี่หันมายิ้มกวนบาทาก่อนจะสะบัดก้นจากไป ผมได้แต่นั่งหน้าหงิกอยู่บนโซฟานี่ที่ผมพรำเพ้อเมื่อกี้ผมมันบ้าไปเองนั้นแหละเห็นๆกันอยู่ว่าไอ้เด็กบ้านี่ไม่น่าคบสักนิด!


ตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ที่ผมกับไอ้เด็กนี้คุยกันมากขึ้นกวนประสาทกันน้อยลง นี่ก็อยู่กันมาจะสองอาทิตย์แล้วอีกสองสามวันไอ้เป้ก็จะกลับมา ถึงผมกับมันจะเริ่มเข้ากันได้แต่มีสิ่งนึงที่ไม่เปลี่ยนมันยังคงเรียกชื่อผมห้วนๆเหมือนเคย ไอ้คำว่า ’พี่’ ช่วยเติมไปข้างหน้าชื่อกูหน่อยได้ไหม?


ชิ ถึงผมจะคิดแบบนั้นแต่สุดท้ายก็เดินไปทำอาหารให้มันอยู่ดี ช่วงนี้ผมก็ไม่ค่อยเข้าใจตัวเองเท่าไรคิดอย่างทำอีกอย่างแต่ก็ช่างมันเถอะ ผมฝีมือทำอาหารค่อนข้างโอเคอาหารไทยญี่ปุ่น ยิ่งพวกอาหารฝรั่งพวกสปาเกตตี้แล้วยิ่งถนัดเลยครับ ผมทำข้าวผัดจากของที่เหลือๆอยู่ในตู้เย็นมาทำ


“ นี่มากินได้แล้ว ” ผมตะโกนขึ้นไปชั้นสองก่อนจะเดินมานั่งกินข้าวที่โต๊ะ เสียงโครมครามก่อนร่างของเจ้าเก่งจะเดินลงมา


“ ข้าวผัดอีกแหละ ” เสียงบ่นทันทีที่นั่งทำให้ผมหน้าหยิก


“ หุบปากไปเลย ให้ฉันทำแล้วยังมาบ่นอีก ”


“ ก็หัดทำอย่างอื่นบ้างสิ ”


“ ชิ พรุ่งนี้เวรนายแล้วกัน ล้างชามด้วย ” ใบหน้าที่โน้มเข้ามาใกล้ผมรู้สึกว่าหัวใจตัวเองเต้นตึกตักเสียงดังจนผมได้ยินชัดเจน ก่อนที่นิ้วของคนตรงหน้าจะปาดเศษขนมออกจากแก้มผม


“ ติดแก้มอ่ะ ” ผมรู้สึกว่าตัวเองหัวใจเต้นแรงเหมือนจะหลุดออกมา ผมก้มหน้าก้มตากินข้าวไม่กล้าสบตาเจ้าเด็กนั้น ทำไมผมต้องรู้สึกทำอะไรไม่ถูกแบบนี้ด้วยวะ?







“  ทำไมช่วงนี้มึงรีบกลับจัง ” เสียงเทมส์หันมาถามผมขณะที่ตายังอ่านเอกสารที่อยู่ในมือ ผมที่ก้มหน้าก้มตาเก็บของอยู่บนโต๊ะเตรียมตัวจะออกไปหันไปมองมัน


“ ต้องไปรับเด็ก ”


“ เด็ก! ” ไอ้เทมส์อึ้งไปก่อนจะหันมายิ้มเจ้าเล่ห์ใส่ผม


“ แหม่ๆ ไม่คิดว่าแกจะร้ายแบบนี้ เด็กแกอายุเท่าไรวะ ” เด็กผม? ทำไมผมต้องรู้สึกเขินๆแบบนี้วะผมสะบัดหัวไปมาก่อนจะคว้ากระเป๋าเดินออกมาก่อนจะตอบมัน


“ ไม่พรากผู้เยาว์แล้วกันวะ ”


ผมขับรถไปตามทางที่เริ่มคุ้นเคยก็ที่นี่ผมก็เคยเรียนอยู่มาทีไรคิดถึงภาพเก่าๆเพื่อนเก่าจังเลยแหะ ผมจอดรถข้างๆคณะมันก่อนจะเดินเล่นแถวนั้นดูเป็นจุดเด่นนิดหน่อยก็ผมเล่นมาทั้งเสื้อเชิ้ตดูยังไงก็เป็นทางการผิดกับแถวนี้ที่มีแต่คนแต่งชุดนักศึกษาไม่ก็ไปรเวทผมยืนอยู่สักพักก็เห็นไอ้เด็กนั้นเดินมา ผมกำลังจะโบกมือเรียกแต่ก็ต้องชะงักไป


ร่างของเจ้าเด็กนั้นเดินตรงมาที่ผม ผมเลื่อนสายตามาหยุดอยู่ร่างที่อยู่ข้างๆเจ้าเด็กเก่ง ร่างบางในชุดนักศึกษาผมทำสีดัดเป็นลอนตัดหน้าม้าตามสมัยนิยม ทำไมไม่รู้ผมถึงได้รู้สึกอึ้งแบบนี้


“ พี่ลม………… ” พี่หรอ?


   “ นี่แป้ง………. ” ..............อย่าพูดต่อนะ เสียงในใจผมดังก้องขึ้น


   “ ….……นี่แป้งเป็นแฟนผมเอง ”  ทำไม?







“ พี่ลมเป็นอะไรรึเปล่า? ” เสียงของเจ้าเด็กนั้นทำให้ผมสะดุ้ง


“ เปล่าๆ  เออ น้องแป้งยินดีที่ได้รู้จักนะครับ ” ผมเริ่มมีสติก่อนจะหันไปแนะนำตัวกับน้องแป้ง เขายกมือไว้ผมก่อนจะขอตัวกลับก่อน ผมยืนยิ้มแบบฝืนๆทำไมวันนี้ผมถึงได้รู้สึกยิ้มไม่ออกแบบนี้นะ ทำไมถึงได้รู้สึกแย่แบบนี้ ผมพยายามปรับสีหน้าให้ดูเรียบเฉยก่อนจะก้าวขึ้นรถ ไอ้เด็กนั้นวิ่งมาก่อนจะขึ้นรถตามผมมาติดๆ


“ อะไรเนี้ย ไม่เรียกกันซักนิด ” ผมสตาร์ทรถขับออกไปโดยไม่หันไปตอบ


“ ลมว่าแป้งน่ารักไหม คิดว่าจะแนะนำให้รู้จักซักพักแล้ว ” แป้งหรอ ทำไมชื่อนี้ถึงทำให้ผมหงุดหงิดนักนะ ผมรู้สึกไม่ชอบชื่อนี้ขึ้นมาทุกที ทำไมนี่ผมเป็นอะไรกันแน่


“ ลม เป็นอะไรรึเปล่า ” ลมชื่อผมกลับมาห้วนๆอีกแล้ว ทั้งๆที่เมื่อกี้อยู่ต่อหน้าคุณน้องแป้งยังเป็นพี่ลมอยู่เลย


“ เปล่านิ ว่าแต่จะไปรับไอ้เป้ไหม ” ผมจำได้ว่าวันนี้เป็นวันที่มันกลับ


“ จริงสิ งั้นไปรับเลยคุณสารถี ”


“ ได้ทีใช้กูใหญ่เลยนะ ” ผมอดจะบ่นไม่ได้ ได้ยินเสียงหัวเราะกลับมา  ผมมองถนนในใจคิดถึงความรู้สึกไม่พอใจเมื่อกี้ นี่ผมเป็นอะไรไปวะ?


“ เก่ง ลม ” เสียงไอ้เป้ที่ยิ้มกว้างวิ่งมาหาผมกับไอ้เด็กเก่งที่ยืนรับมันที่สนามบิน ร่างของพี่ไฟเดินตามมาติดๆผมยิ้มให้พี่ชายก่อนจะหันไปแซวเป้


“ ไหนหลานกูวะ ” ว่าแล้วผมก็โดนมันโบกหัวไปทีด้วยใบหน้าแดงๆ


“ พี่ก็พยายามอยู่ ” สิ้นคำพูดพี่ไฟก็โดนไอ้เป้ทุบด้วยความเขินอย่างแรง ผมกับไอ้เด็กเก่งหัวเราะลั่น  จู่ๆผมก็หยุดยิ้มเมื่อกี้ทำไมผมรู้สึกว่าภาพนั้นมันบาดตาน้อยลงแหะ บางทีผมอาจจะคิดไปเองก็ได้?


“ บ้านกูเป็นยังไงบ้างเนี้ย? ไม่ใช่เก่งกับมึงถล่มจนราบไปแล้วนะ ” เป้หันมาถามผมอย่างหวาดระแวง


“ อะไรผมกับพี่ลมดีต่อกันแล้วจะบอกให้ “ พี่ลม? ไอ้เด็กบ้าคว้าคอผมเอาแขนมาพาดไหล่ไว้ ดีต่อกันหลอกใช้กูไปรับส่งมึงซะมากกว่าเหอะ ไอ้เป้ทำหน้าประหลาดใส่ทั้งผมและมัน


“ จริงอ่ะ ”


“ จริง ”


“ ไม่เชื่อ ” ไอ้เป้สวนกลับทันทีที่ผมตอบแล้วมึงจะถามกูเพื่อ? ผมคว้าแขนไอ้เด็กบ้านั้นออกจากคอแต่มันกลับแกล้งผมโดยการรั้งแขนเอาไว้ไม่ยอมปล่อย ผมหันหน้าไปมองหน้ามันจนปลายจมูกเฉียดแก้มมันไปนิดเดียวใบหน้าผมร้อนวูบผลักมันออกทันที


“ โอ้ย ” ร่างไอ้เด็กบ้านั้นล้มลงไปกองกับพื้น สมน้ำหน้า ฮะฮา เออ….ผมหัวเราะอยู่ก็หันไปเจอพี่ไฟที่ยืนมองผมด้วยสายตาแปลกๆ


“ กลับกันได้แล้ว มาส่งของมา ” พี่ไฟรวบรวมสัมภาระไปถือปล่อยไอ้เป้เดินตัวปลิวส่วนผมนะหรอ ไม่ต้องถามก็หิ้วสัมภาระที่พี่ไฟถือไม่หมดนั้นแหละรายนั้นคุณภรรเมียอันดับหนึ่ง ส่วนผมนะหรอเป็นได้แค่หางของหางแถวเลยทีเดียวไร้อันดับสุดกู่ เชอะ ส่วนไอ้เด็กบ้านั้นก็วิ่งปลิวไปพร้อมๆกับคุณเพื่อนเป้นั้นแหละ


ขณะที่ผมโยนข้าวของขึ้นรถตามคำสั่งคุณพี่ไฟจู่ๆเฮียแกก็หันมาถามผม


“ มีอะไรจะบอกพี่รึเปล่า ” อะไร? ผมยืนงุนงง พี่ไฟถอนหายใจขยี้หัวผมแล้วเดินขึ้นรถทิ้งผมยืนงุนงง
หรือว่าพี่จะรู้ว่าผมชอบไอ้เป้กันแน่?!




ตอนนี้เน็ตที่แอบเล่นอยู่ดันโดนล็อค   :z3:
แต่จะลงอีก2ตอนก็จบแล้ว รู้สึกว่าเรื่องมันเร็วๆแต่ไม่รู้จะแก้ยังไงแล้ว  :m31:
ยังไงมันก็เป็นเรื่องสั้น(?)เนอะ ???

ขอบคุณที่ติดตามอ่านนะครับ   :กอด1:



ออฟไลน์ LalaBam

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2864
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-2
จะจบยังไงเนี่ย

ออฟไลน์ เฉาก๊วย

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2233
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +251/-6
ตอนแรกคิดว่าเก่งจะเป็นฝ่ายรู้สึกตัวก่อนซะอีก   :serius2:

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
แล้วพี่ลมจะต้องกินแห้วหรือเปล่า

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16

ออฟไลน์ นอนกินแรง

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-4
โอ๊ย เก่งมีแฟนแล้วได้งายยยยยย

ออฟไลน์ bleach_pa

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0

[เรื่องสั้น] ยิ่งใกล้…ยิ่งหวั่นไหว(?)  5th






รู้ ยังไม่รู้ ?!


ผมกลับมาอยู่บ้านด้วยความสับสนแอบกังวลใจเรื่องที่พี่ไฟถามวันนั้นแต่พี่แกก็ดูเฉยจนผมไม่รู้ว่าตกลงมันใช่เรื่องที่ผมคิดรึเปล่าเนี้ย ช่วงนี้ผมก็ทำงานตามปกติเย็นๆก็มีไปบ้านเป้บ้างและอีกอย่างที่จู่ๆก็โผล่เข้ามาในชีวิตผมคือ เก่ง


“ พรุ่งนี้ไปช่วยซื้อของหน่อยสิ ”


“ ไม่ ” พรุ่งนี้วันเสาร์หนึ่งในวันหยุดอันน้อยนิดของผม อาทิตย์นึงมีเวลาว่างแค่สองวันยังจะให้ผมออกไปเป็นเพื่อนมันอีก


“ นะลมออกไปเป็นเพื่อนเก่งหน่อยน้า ” ผมละแพ้ไอ้เสียงอ้อนแบบนี้จริงๆสรุปนี่มึงเป็นผู้ชายแท้รึเปล่าเนี้ย ผมล่ะนึกหน้าที่ทำเสียงแบบนี้ของมันไม่ออกจริงๆ


“ แล้วเพื่อนล่ะ ไปกับเพื่อนสิ ” ผมล่ะงงทำไมชอบชวนผมออกไปกับมันจังวะ


“ ไม่เอาเพื่อนติดหญิงรำคาญมัน ไปกับลมดีกว่า ” ผมล่ะเครียด


“ แล้วแฟนมึงล่ะ ”


“ …….. ” ผมพูดผิดไปรึเปล่า ปลายสายที่เงียบไปทำให้ผมเริ่มไม่แน่ใจว่าตัวเองพูดอะไรผิดไปหรือว่ามันจะมีปัญหากับแฟน


“ ไปที่ไหน? ”


“ สยาม ” แหล่งเด็กวัยรุ่นพูดซะแก่เชียวเรา ผมขี้เกียจไปเจอเด็กจำนวนมากแต่ก็นะ


“ อย่างงี้เจอกันที่……… ” ผมยังพูดไม่ทันจบมันก็สวนขึ้นมา


“ มารับด้วย ” ไปรับมันอีก นี่ผมทำกรรมอะไรไว้กับมันเมื่อชาติที่แล้วรึเปล่าเนี้ย



ผมแต่งตัวให้มันดูดีเป็นผู้เป็นคนขึ้นมาหน่อยก่อนจะขับรถไปรับมันที่บ้านไอ้เป้ไอ้เด็กบ้านี่ก็แต่งซะจัดเต็มใส่เสื้อสีเทากางเกงยีนตามด้วยเสื้อหนาวสีดำแว่นกันแดด ผมเบ้ปากแต่งตัวได้โครตเข้ากับสภาพอากาศร้อนจนแทบสุกมึงยังจะแต่งยังกะอยู่เกาหลีมาทำไมหา ถึงแม้ว่ามันจะดูดีแต่มันเวอร์จนแตกต่างจากผมไปไหน ผมในชุดเสื้อคอกลมสีเหลืองครีมกางเกงสีดำก็ออกจากบ้านได้แล้ว


“ ทำไม ไม่เคยเห็นคนหล่อหรือไง ” ดูไอ้เด็กบ้ามันกวนจริงๆ ผมมองมันเต็มๆตาตอนที่ลงจากรถแล้ว แต่งเวอร์ไปไหนแต่ก็อย่างว่าแถวนี้ก็แต่งกันยังกะหลุดออกมาจากแคทวอร์ก


“ ไม่เคยเห็นพวกหลงตัวเองน่ะ ” ผมอมยิ้มทันทีที่เห็นเจ้าเด็กนั้นหน้าหงิก


“ แล้ววันนี้จะไปซื้ออะไรล่ะ ” ผมถามมันขณะเดินไปตามทาง


“ ยังไม่รู้ ” อ้าว ไม่รู้แล้วออกมาทำไมเสียเวลานอนอยู่บ้านมาก


“ แล้วจะซื้อให้ใครล่ะ ” จู่ๆมันก็หยุดเดินทำให้ผมชะงักหันกลับไปเห็นมันยืนนิ่งๆ ท่าทางเศร้าๆทำให้ผมทำอะไรไม่ถูก


“ ลม แป้งบอกเลิกผม ” เสียงเศร้าของเก่งทำให้ผมทำอะไรไม่ถูกได้แต่ตบไหล่มันเบาๆ


“ ใจเย็นๆ อย่าคิดมาก ” ผมบอกมันไปแบบนั้น


“ ช่วงนี้ผมกับแป้งทะเลาะกันบ่อย แป้งบอกผมว่าผมไม่มีเวลาให้ ไม่ค่อยยอมไปไหนด้วย ความคิดก็ไม่ตรงกัน ทั้งๆที่ผมก็ทำเต็มที่ ทำไม ” ผมบีบไหล่มัน เข้าใจความรู้สึกแต่ก็ปลอบอะไรไม่ถูกได้แต่บอกมันว่าอย่าคิดมากใจเย็นๆ แต่ทำไมไม่รู้ในใจของผมมันถึงได้รู้สึกดีใจอย่างบอกไม่ถูก นี่ผมเป็นบ้าไปแล้วหรือยังไง ไม่เข้าใจตัวเองจริงๆ


“ แล้วยังอยากจะคืนดีกับเขาอยู่ใช่ไหม ”  ผมถาม เก่งพยักหน้าผมพยายามไม่สนใจความรู้สึกเจ็บจี๊ดๆ


“ งั้นไปหาอะไรไปซื้อง้อแป้งกันเถอะ ” ผมดึงแขนมันให้ตามไป เข้าร้านกิฟท์ช๊อฟเดินดูพวกของใช้จุกจิก


“ แทนที่จะมานั่งเศร้าก็หาวิธีไปง้อแป้งไม่ดีกว่าหรอ ” ผมทำหน้าที่ที่ปรึกษาที่ดี ไอ้เก่งทำหน้าคิดได้


“ จริงๆด้วยขอบคุณมากเลยนะ ” ไอ้เด็กเก่งหายเศร้าก็เริ่มตบไหล่ผมคืน ได้คืบจะเอาศอกแล้วนะเด็กนี่ แล้วทำไมผมถึงได้รู้สึกเจ็บที่หน้าอกแบบนี้ไม่เข้าใจจริงๆ





หลังจากนั้นมันก็เทียวไล่โทรถามผมหาวิธีง้อน้องแป้งจนผมยังต้องไปช่วยมันจัดเตรียมการง้อแฟนที่ร้านกาแฟที่ทั้งสองคนชอบไปกินกัน ผมยืนเซ็งๆอยู่หน้าร้านรอไอ้เด็กตัวปัญหาที่ผมอยากจะเห็นรอยยิ้มของมัน ทำไมไม่รู้แค่ผมคิดว่าถ้าเจ้านั้นยิ้มร่าออกมาหาผมก็ทำให้ผมทั้งรู้สึกดีใจและปวดใจ ทั้งๆที่เขาจะคืนดีกันแต่ทำไมผมถึงได้


ยังไม่ทันที่ผมจะคิดอะไรต่อร่างสูงของเจ้าเด็กนั้นก็วิ่งออกมาจากร้านผ่านผมไปอย่างเร็วแล้วคว้ารถผมขับออกไปผมเพิ่งสำนึกได้ว่าผมทิ้งกุญแจไว้บนรถแล้วนี่มันขับออกทั้งๆที่ผมยืนอยู่ข้างๆรถ


ไอ้เด็กเวร!


ผมยืนโง่ๆอยู่ตรงนั้นน้องแป้งก็วิ่งออกมาหน้าร้านพอเห็นผมก็รีบหลบตา นัยน์ตาแดงๆของน้องเขาทำให้ผมพอจะเดาเหตุการณ์เมื่อกี้นี้ได้


“ ขอโทษนะค่ะที่ทำให้พี่ต้องมาวุ่นวายเรื่องของเรา ” เรื่องของเราทำไมผมถึงได้รู้สึกไม่ชอบคำคำนี้แบบนี้ และทำให้ยิ่งไม่ชอบน้องแป้งมากขึ้นไปอีกทั้งๆที่สิ่งที่เขาพูดมามันจริงทั้งนั้น ที่ผมไม่เกี่ยวอะไรกับเรื่องของเขาแม้แต่น้อย ผมข่มความรู้สึกไม่พอใจก่อนจะหันไปถาม


“ ไม่เป็นครับ แล้วนี่เกิดอะไรขึ้น? ”


“ ….คือ แป้ง ….. แป้งบอกว่าเรื่องของเรามันจบแล้ว ” น้องแป้งพูดเสียงเบาทำเอาผมกุมขมับทันที มิน่าเจ้าเด็กนั้น ผมร้อนใจแต่รถก็โดนเจ้าเด็กนั้นขับไปไหนแล้วก็ไม่รู้ปวดหัวชะมัด น้องแป้งก็ยืนเครียดอยู่ข้างๆผม ผมเลยหันไปบอกให้เขากลับบ้านไปก่อนผมจะไปตามเก่งกลับมาเอง ผมยืนคิดอยู่สักพัก ก่อนที่จะกดหาเบอร์เพื่อนเจ้าเด็กนั้นที่เคยให้ไว้




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-05-2012 20:12:10 โดย bleach_pa »

ออฟไลน์ bleach_pa

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0


“ ทำบ้าอะไร ” ผมลงไปว้ากกลางวงเล่นเอาเพื่อนๆมันแตกกระเจิง สายตาผมจ้องไปยังร่างที่กำลังจูบปากอยู่กับสาวที่นั่งตักมันนิ่ง ในใจเหมือนถูกบีบรัดแน่นจนผมรู้สึกเหมือนหายใจไม่ออก ใบหน้านั้นหันไปทางอื่นราวกับไม่อยากมองมาที่ผม เมินกันง่ายๆแบบนี้เลยหรอ ผมเดือดดานคว้าคอเสื้อไอ้เด็กบ้านั้น


“ อย่าเมินฉันนะ กลับบ้านเดี๋ยวนี้ ” ผมไม่พูดพร่ำทำเพลงดึงไอ้หมอนั้นลุกขึ้น ทำเอาสาวที่นั่งเกยตักหมอนั้นถูกแรงดึงของผมทำให้เสียสมดุลหล่นตุ้บไปกองกับพื้น ผมไม่สนใจลากเจ้าเด็กบ้านี่ออกมาโดยไม่สนใจเพื่อนมันที่บอกให้ผมใจเย็นๆ ตอนนี้ผมไม่ยกไม่เย็นมันแล้ว


“ …..ปล่อยผม ”


“ ไม่ ” ผมรื้อกุญแจรถจากมันที่เอาไปซุกไว้ในกระเป๋ากางเกง ส่วนรถตอนเข้ามาผมก็เห็นแล้วยิ่งเห็นรถผมยิ่งโมโห ผมเปิดประตูรถยัดเจ้าเด็กนั้นเข้าไปก่อนจะขับออกโดยไม่สนใจเสียงโวยวาย


“ เป็นบ้าไปแล้วหรือไงหา ถึงได้ชอบออกมาก่อเรื่องนัก ” นี่ผมเป็นพ่อมันหรือยังไงไม่ทราบ ทำไมต้องเป็นห่วงเป็นไยตามคอยดูแลมันขนาดนี้มันเป็นลูกผมหรือก็ไม่ใช่ ไอ้เป้ยังไม่รู้ขืนมันรู้ว่าไอ้เด็กนี้ทำตัวเหลวไหลขนาดนี้มีหวังโดนส่งกลับบ้าน


“ เรื่องของผม ” เสียงเจ้าเด็กนั้นเถียงผมทำให้ผมแทบจะเอาหัวโขกกระจกรถ เฮ้อ! ผมขับรถไปที่คอนโดตัวเองที่พ่อแม่ซื้อไว้ให้มันอยู่ใกล้ที่ทำงานก็จริงแต่ผมมักจะกลับบ้านไม่ก็ไปอยู่บ้านไอ้เป้จนตอนหลังที่นี่แทบจะร้างไปเลย


“ งั้นก็กินกับฉันที่นี่ เดี๋ยวโทรบอกเป้ให้ ” ผมไล่ไอ้เด็กจอมก่อปัญหาลงจากรถบอกให้มันขึ้นไปรอผมบนห้องส่วนตัวเองก็เดินเข้าเซเว่นแทบจะเหมาเบียร์มาหมดแถบ ตอนขึ้นไปถึงก็เห็นมันนั่งซึมกะทืออยู่บนพื้น ทำให้ผมได้แต่อ่อนใจทรุดตัวลงนั่งของมัน เปิดกระป๋องส่งให้มันก่อนจะเปิดของตัวเองขึ้นดื่ม


“ ทำไมไม่เป็นเก่ง ทำไม ” ผมนั่งมองมันพร่ำเพ้ออยู่เงียบๆในใจปวดหนึบๆอย่างบอกไม่ถูก ผมเข้าใจการทีต้องปล่อยคนที่เรารักให้ไปให้เขาได้พบกับคนที่ใช่ ผมเข้าใจว่ามันต้องการทีระบายผมถึงได้ทนฟังมาหลายชั่วโมงแล้ว จนผมคว้าขวดมาดื่มเป็นเพื่อนแล้วเนี้ยแก้วอะไรไม่ต้องซดเลยถึงใจกว่า ผมกอดคอก๊งกับมันได้ซักพักก็รู้สึกว่าไอ้เด็กบ้านั้นฟุบไปแล้ว ไปซะและ


“ ทำไมมันถึงเป็นแบบนี้ ฮึก ” ผมทำอะไรไม่ถูกไม่คิดจริงๆว่าเจ้านี้จะร้องไห้ต่อหน้าผม ผมเอื้อมมือไปปาดน้ำตาที่แก้ม


“ ….อย่าร้องไห้ ” ผมไม่อยากเห็นน้ำตาของเจ้าเด็กนี่เลยสักนิด ไม่อยากให้มันปรากฏอยู่บนหน้าเขา ไม่อยากให้เขาเสียใจ ทำไมผมถึงได้รู้สึกเศร้าไปด้วยแบบนี้


“ ……รักเขามากหรอ ” ผมกลั้นใจถามออกไปหลังจากพยายามอยู่นาน เตรียมใจรับกับคำตอบ


“ ผมไม่รู้ ” หา! ไม่รู้ ไม่รู้เนี้ยนะ สีหน้าผมคงโมโหน่าดูไอ้เด็กนั้นหันมามองผมก่อนจะเอ่ย


“ ผมไม่รู้ว่ารักเขารึเปล่า เพียงแต่ผมไม่อยากเสียแป้งไป ไม่อยากให้แป้งไปเป็นของคนอื่น บอกไม่ได้จริงๆว่ารักรึเปล่า ” พอฟังแบบนี้ผมก็เอามือกุมขมับเลยทีเดียว


“ ไอ้เด็กบ้ารักกับหลงมันไม่เหมือนกันหรอกนะ ” ถ้าแค่นี้นายยังแยกไม่ออกแล้วนายจะรักใครได้ แต่ผมก็รักมันนี่หวา แย่ยิ่งกว่าเพราะผมดันรักคนที่ยังแยกว่ารักรึเปล่าไม่ออก จะบ้าตาย ผมตบหัวมันไปอย่างไม่พอใจไอ้เด็กนั้นไม่ยอมแพ้ตบหัวผมคืนบ้าง


“ ฉันเป็นพี่นายนะทำแบบนี้ได้ยังไงหา ” ผมโวยวายไอ้เด็กบ้านี่


“ ทำยังกับผมเคยสนใจ ” ไอ้เด็กนี่กวนซะแหละ ผมไม่ยอมแพ้เอาคืนทันที ทีนี้จากดื่มกันอยู่ดีๆก็วิ่งกันให้วุ่นวายจนสุดท้ายผมก็ถูกมันจับได้ผลักลงพื้นพอจะลุกมันก็กักทับผมเอาไว้


“ ออกไปนะเว้ย ” ผมโวยวายถึงแม้จะหมดแรงนายแผ่ที่พื้น ใบหน้าของเก่งก้มมาใกล้จนผมหายใจไม่ทั่วท้องก่อนที่จะคิดอะไรออกริมฝีปากเราก็แนบชิดกันไปแล้ว ผมหลับตาลงรับสัมผัสนั้นความหวานและไออุ่นข้างกายทำให้ผมอุ่นหัวใจอย่างบอกไม่ถูก ปลายนิ้วอุ่นไล้ตามใบหน้าผมนัยน์ตาสีรัตติกาลตรงหน้าเหมือนสะกดให้ผมคล้อยตาม


“ อยู่กับผมนะลม ” ผมไม่ตอบเพียงแต่กอดร่างตรงหน้าไว้






“ อือ อะ   เก่ง” ผมครางเมื่อเจ้าเด็กบ้านั้นขยี้หน้าอกผม เสื้อผ้าผมหายไปตอนไหนก็ไม่รู้รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่เจ้าบ้านี่กดผมลงบนที่นอนเนี้ยและ เมื่อกี้ผมตอบรับมันว่าจะอยู่เป็นเพื่อนไม่ใช่แบบนี้นะเว้ย


“ ….ปล่อยฉันนะ อือ ” มันไม่สนใจจูบผมจนแทบลืมหายใจ ปากจะบอกว่าไม่แต่ทำไมผมถึงไม่อยากให้มันหยุดลง


“ อา  ” ผมครางออกมาเสียงครางของตัวเองทำให้ผมหน้าแดง เสียงผมทำไมยั่วมันแบบนี้เจ้าเด็กบ้ายิ่งเอาใหญ่มือที่อยู่ไม่สุขรูดรั้งส่วนที่อ่อนไหวทำให้ผมกลั้นเสียงไม่อยู่ มือที่ดันกลับกอดคอเอาไว้ยึดเหนี่ยว สัมผัสดุนดันด้านหลังก่อนที่จะแทรกกายเข้ามาทำให้ผมร้องลั่น ความเจ็บปวดทำให้ผมผลักเขาออกแต่เจ้าบ้านี่กลับยึดผมเอาไว้


“ ไม่เป็นไรนะลม อย่าเกร็ง ” พูดง่ายมาทำเองซิวะ ผมร้องไห้ออกมาแต่ถูกปิดปากด้วยสัมผัสที่อ่อนโยนจนผมเคลิ้ม ถูกเจ้าเก่งคุมเกมส์ชักนำทางผมอย่างอ่อนโยนสัมผัสที่อบอุ่นเสียงกระซิบชื่อของผม ทำให้ผมเชื่อมันโดยไม่สนอะไรทั้งนั้น ไม่ว่าพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไรแม้ว่าเขาจะรักคนอื่นแม้ว่าจะเห็นผมเป็นแค่ตัวแทน แต่ตอนนี้เก่งเป็นของผม ที่รักของผม


“ …..ลม ” ผมได้ยินเสียงที่เอ่ยออกมานัยน์ตาสองข้างของเจ้าเด็กนั้นปิดสนิทผมลูบใบหน้านั้นเบาๆ แล้วก็หน้าแดงก่ำเมื่อคิดถึงความร้อนแรงของเจ้าเด็กนี่เมื่อคืนนี้ ผมกุมหัวที่อยากจะโขกกับพื้นตายนี่ผมทำบ้าอะไรลงไป


ผมมองใบหน้าที่อยู่ด้านข้างใบหน้าของเจ้าเด็กนั้นที่หลับสนิทผมโน้มตัวเข้าไปใกล้จนแทบชิดได้ยินแต่เสียงหัวใจตัวเองที่เต้นดังก้องหูก่อนจะแนบริมฝีปากลงไปบนริมฝีปากอีกฝ่าย ผมผละออกมากุมหัวใจตัวเองที่เต้นอย่างควบคุมไม่อยู่


นี่ผม ผม …….  ผมรักมันหรือเนี้ย!







ผมกุมหัวตัวเองอยู่หน้าคอมก่อนจะโดนใครบางคนผลักหัวผมจนแทบทิ่มคอมด้านหน้า ผมหันกลับไปค้อนไอ้คนที่ผลัก ไอ้เป้ยิ้มกว้างที่แกล้งผมสำเร็จ น่าแปลกที่กลายเป็นผมชะงักทำไมวันนี้ผมถึงรู้สึกว่าหน้าไอ้เป้คล้ายกับญาติผู้น้องมันจังวะ คนที่ทำให้ผมนั่งบ้าอยู่ตรงนี้ ผมนี่เพ้อเจ้อใหญ่แล้ว


“ แกเป็นอะไรรึเปล่าวะ ” เสียงไอ้ก้องเพื่อนสนิทอีกคนของผมถามขึ้นจากโต๊ะข้างๆ


“ นั้นสิ ” คราวนี้เป็นเสียงไอ้เทมส์ที่พยักหน้าอย่างเห็นด้วย ผมได้แต่ส่ายหัวไปมาเป็นการปฏิเสธ


“ ไม่เป็นไร ” ใบหน้าสามหนุ่มเพื่อนสนิทยืนมองผมด้วยสีหน้ารู้ทันก่อนจะลากผมออกไปจากโต๊ะทำงาน
ท้องฟ้าเริ่มมืดลงผมเพิ่งรู้ว่าตัวเองมัวแต่คิดอะไรเรื่อยเปื่อยจนลืมไปว่านี่มันเวลาเลิกงานไปแล้วหลังจากที่ไปกินข้าวเย็นกับก๊วนเพื่อนฝูงเสร็จผมก็ขอแยกกลับบ้านก่อนจนถูกไอ้เป้สักไซร้เพราะปกติผมต้องไปอยู่ที่บ้านมันก่อนที่พี่ไฟจะมาหาไอ้เป้แล้วถึงรับผมกลับบ้านไปด้วยแต่วันนี้ผมขอมันกลับก่อนดูเป็นพิรุษชัดๆ ผมเสแสร้งแกล้งไม่สบายก่อนเผ่นแนบกลับบ้าน


ที่จริงตอนนี้ผมก็คงจะป่วยจริงแล้วล่ะ ยิ่งคิดก็ยิ่งเครียดยิ่งปวดหัวผมไม่น่าปล่อยให้มันเป็นแบบนี้จริงๆฉวยโอกาสตอนที่เขาต้องการใครสักคนมาทำให้ตัวเองเจ็บปวดแบบนี้ เขาไม่ได้รักผมผมรู้ดีรู้ดีมากจนถึงขั้นเสนอหน้าไปช่วยให้เก่งคืนดีกับน้องแป้งอีก แล้วเมื่อคืนผมทำบ้าอะไรลงไปแล้วหลังจากนี้ผมกับเก่งจะเข้าหน้ากันติดได้ไหม ผมไม่รู้อนาคตเลยจริงๆ


นี่ก็ผ่านมาเกือบอาทิตย์ผมปิดมือถือตลอดกลัวที่จะเปิดมันขึ้นมา พอมาทำงานตกเย็นก็อ้างว่าไม่อยากไปไหนรีบกลับบ้านมาทุกวันจนเพื่อนฝูงต้องตามกันมาถามไถ่ยิ่งไอ้เป้ยิ่งแล้วใหญ่มันรีบปรี่มาถามผมว่าทะเลาะกับเจ้าเก่งใช่ไหมถึงได้ไปยอมไปบ้านมัน ซึ่งผมก็ได้แต่อ้ำๆอึ้งๆพยักหน้าตามมันไป


วันนี้ก็เป็นเหมือนทุกวันที่พอเลิกงานผมก็ชิงบอกลาเพื่อนฝูงติดเกียร์โกยแนบกลับบ้านเหมือนไปตามหาควายหาย เมื่อมาถึงหน้าประตูจะเดินไปที่จอดรถผมก็ชะงักค้างเมื่อพบกับใบหน้าที่คุ้นเคยของคนที่ผมไม่อยากพบที่สุดในตอนนี้ ไม่มีรอยยิ้มทักทายผมได้แต่ยืนค้างจนถูกร่างตรงหน้าคว้าข้อมือผมก่อนจะเดินนำลิ่วๆไป


“ …ปล่อยนะ นี่จะไปไหน ” ทันทีที่ตั้งสติได้ผมก็ร้องบอก เห็นเพียงแผ่นหลังของคนตรงหน้าไร้ซึ่งคำตอบ ผมถูกผลักให้เข้าไปนั่งในรถสีดำก่อนที่เจ้าตัวจะนั่งอีกฝากแล้วขับออกไป ผมที่ยังคงอึ้งไปหายหันไปมองเขาแต่แล้วทันทีที่เก่งหันกลับมาผมกลับรีบหันไป
มองนอกหน้าต่างทันที


“ …ทำไมไม่รับสายผม ” เสียงเก่งพูดขึ้นทำลายความเงียบ ผมได้แต่กัดริมฝีปากตัวเองก่อนจะตอบกลับไปตามที่คิดออก


“ โทรศัพท์เสีย ” ผมโกหก


“ คุณโกหก ” เสียงตอบสวนกลับทันทีที่ผมพูดจบทำให้ผมใจสะอึกก่อนจะหันกลับไปสบสายตากับเขาพอดี เก่งหันกลับไปมองทางต่อ ขณะที่ผมก้มมองมือตัวเองพูดอะไรไม่ออกมันทั้งเครียดและกดดัน


“ ผมเลิกกับแป้งแล้ว ” อันนี้ผมรู้ ผมนั่งเงียบๆฟังเขาต่อไป


“ ……คืนนั้นผม…… ”


“ ฉันลืมมันไปแล้ว ” ผมพูดสวนขึ้นทันที่ทั้งที่เขายังพูดไม่จบ ผมไม่อยากให้มันต้องมารื้อฟื้นกันอีก จู่ๆรถก็เบรคจนผมสะดุ้งก่อนที่เจ้าตัวจะขับต่อไปด้วยความเร็วจนผมได้แต่นั่งเงียบทันทีที่จอดผมก็ต้องขมวดคิ้ว นี่มันคอนโดของผมนี่นา ผมหันกลับไปมองเขาที่ถือวิสาสะหยิบกระเป๋าของผมไปถือก่อนจะลากผมเดินเข้าไป ผมดึงเขาเอาไว้


“ จะคุยอะไรก็คุยตรงนี้ ” ผมฝืนสบตากับเจ้าเด็กนั้นอย่างไม่ยอมหลบสายตาแต่แล้วก็ต้องชะงักเมื่อเขาจับไหล่ผมไว้ยื่นหน้าเขามาใกล้จนรู้สึกถึงลมหายใจผมขืนตัวเอาไว้แต่ก็ดิ้นไม่หลุดจากมือคู่นี้



“ อยากให้ผมคุยตรงนี้หรือจะคุยกันดีๆที่ห้องกันครับลม ”






7หน้าเอสี่ปาดเหงื่อ เหลืออีกตอนก็จะจบแล้ว   :katai2-1:
แอบมีnc เบาๆ(?) เขียนได้แค่นี้ 55
คอมเมนต์น้อยจังกว่าจะผ่านหน้าแรกมาได้  :sad4:
ช่วยเมนต์กันหน่อยนะครับ ขอบคุณที่ติดตาม  :L2:

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-05-2013 22:49:22 โดย bleach_pa »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด