♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: P.15 ซื้อรวมเล่มได้ที่งานตลาดฟิค 22มีนา บูธ H2-3
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: P.15 ซื้อรวมเล่มได้ที่งานตลาดฟิค 22มีนา บูธ H2-3  (อ่าน 137958 ครั้ง)

ออฟไลน์ akihito

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 12 หน้า 5 (up 22Jun)
«ตอบ #120 เมื่อ23-06-2012 01:04:26 »

รีบบอกความจริงไปดีกว่าชาค่ะ
เดี่ยวเต๋าครับรู้เองขึ้นมาเรื่องราวจะใหญ่โต

ออฟไลน์ Sirada_T

  • We Will [Luk] You!!
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 454
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-0
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 12 หน้า 5 (up 22Jun)
«ตอบ #121 เมื่อ23-06-2012 01:38:04 »

อ๋อยยย น่ารักๆ

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7579
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 12 หน้า 5 (up 22Jun)
«ตอบ #122 เมื่อ23-06-2012 04:32:20 »

น่ารักดีแท้ แต่ถ้าความจิงเปิดเผยละ แง๊ๆ

รอด้วยคนน้า

ออฟไลน์ nongrak

  • ยังไงก็รักคาเมะจังที่สุด
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +912/-14
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 12 หน้า 5 (up 22Jun)
«ตอบ #123 เมื่อ23-06-2012 08:00:43 »

น่าสนุกนะ ใครๆก็มองว่าคชาเป็นทอม

ออฟไลน์ mutyamania

  • สามารถติดตามงานติดเรทที่ลงเล้าไม่ได้ที่ ReadAWrite ในชื่อมัสยากลับมาจากป่าช้า
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1898
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +794/-139
    • https://mutyawhocamebackfromthedead.readawrite.com
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 12 หน้า 5 (up 22Jun)
«ตอบ #124 เมื่อ23-06-2012 13:55:13 »

อยากให้ความแตกไวไว....อยากอ่านซีนอารมณ์....กับฉากตบจูบ 5555

คนแต่ง...แต่งได้น่ารักน่าหยิกดีค่ะ  ชอบมากเลย

ออฟไลน์ moredee

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-8
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 12 หน้า 5 (up 22Jun)
«ตอบ #125 เมื่อ23-06-2012 15:33:16 »

:monkeysad:โอวววววววววววววววววว คงไม่มาม่านะ

[newZy]CASS

  • บุคคลทั่วไป
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 12 หน้า 5 (up 22Jun)
«ตอบ #126 เมื่อ23-06-2012 22:51:55 »

อยากให้เต๋ารู้ความจริงแล้วอ่า

ออฟไลน์ bangkeaw

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 567
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-4
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 12 หน้า 5 (up 22Jun)
«ตอบ #127 เมื่อ24-06-2012 01:18:08 »

อ๊ายยยยย น่ารักมาก
แต่ถ้าเต๋ารู้ความจริงแล้วจะเป็นไงเนี่ย ไม่อยากเศร้าเลย

bozang

  • บุคคลทั่วไป
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 12 หน้า 5 (up 22Jun)
«ตอบ #128 เมื่อ25-06-2012 23:14:17 »

♀ TOM (or) BOY ♂
13
[/color]
 





ความผิดปกติของหัวใจ... ทำไมเจ้าตัวจะไม่รู้
แต่ที่ยังทำเฉยอยู่... ก็แค่อยากหลอกตัวเองต่อไป
 

ใบสมัครแฟนครับยังถูกวางแน่นิ่งไว้บนโต๊ะอาหาร ใบหน้าหวานไม่กล้าเงยสบตาอีกคู่ที่จ้องมองตนอยู่... นัยน์ตาของเขาเพียงโฟกัสที่ตัวอักษรเพียงไม่กี่ตัวบนกระดาษ เพ่งมันราวกับจะอ่านทวนอีกรอบให้แน่ใจ ราวกับจะเปลี่ยน ร.เรือ เป็น ล.ลิง อย่างที่ควรเป็น

แต่ไม่ว่าจะทำยังไง... ใบสมัครแฟนครับ ก็ไม่ใช่ ใบสมัครแฟนคลับ
และไม่ว่าจะทำยังไง... เสียงหัวใจก็ไม่หยุดเต้นดังเสียที

มันคือ ความจริง ที่เขาควรจะยอมรับแต่แรกว่าความรู้สึกของเขาได้เปลี่ยนไป  และตอนนี้... เขาก็รู้แล้วว่าตัวเองควรจะเขียน ความจริง ลงไปเช่นกัน
           




ตาคู่คมเบิกกว้างอย่างตื่นเต้นเมื่อเห็นอีกคนหยิบปากกาแล้วเขียนข้อความลงไปในนั้น... อะดรีนาลีนในกายพุ่งพล่าน  เขาอยากรู้จนเต็มแก่ว่าอีกคนเขียนลงไปว่าอะไร แต่ใจก็พยายามไม่สะกดอักษรเล็กๆ เหล่านั้นกลับหลัง  เขาเพียงแต่นั่งรอให้อีกคนยื่นกระดาษแผ่นนั้นคืนมาให้  รอคอย...ด้วยจิตใจที่ร้อนรน

เพียงไม่กี่วินาทีนั้นการรอคอยก็สำเร็จผล  เขามองใบหน้านิ่งๆ ที่สบตากับเขาตอนเงยหน้าขึ้นมาจากแผ่นกระดาษ ก่อนจะเปลี่ยนไปอ่านข้อความบนนั้นแทน

“นนทนันท์”  เต๋าอ่านออกเสียง ริมฝีปากคลี่ยิ้มออกมาเมื่อนึกได้ว่าคงเป็นชื่อจริงของอีกฝ่าย

“อ่านเต็มๆ สิ”

ได้ยินดังนั้น คนใจร้อนก็ก้มลงไปอ่านใหม่  แววตายังคงเป็นประกายเมื่อได้อ่านมันอย่างรีบร้อน  “นนทนันท์ อัญชุลีประดิษฐ์”
ก่อนจะนึกได้ว่าข้อความนั้นมีความแปลกประหลาดไป จึงทวนอ่านใหม่อีกครั้งเอง

“นายนนทนันท์... นาย...หมายความว่าไงชา?”

คนถูกถามไม่ได้ตอบทันที แต่ดึงกระดาษแผ่นนั้นคืนมา  “ก็หมายความอย่างนั้นไง”  ตอบเสียงแผ่วเมื่อเห็นแววตาเต็มไปด้วยความสงสัยใคร่รู้เต็มที

“ไม่ตลกนะชา”

“ก็ไม่ตลกไง”  เขาถึงได้เครียดแบบนี้


บรรยากาศสีเทาก้าวเข้ามาบนโต๊ะอาหารโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว  นัยน์ตาของเต๋าเต็มไปด้วยคำถาม ความไม่เข้าใจ  แววตาคู่นั้นแม้จะดูเข้มแข็งแต่ก็ดูอ่อนไหวอย่างน่าประหลาด  เป็นคชาที่เป็นฝ่ายหลบตาคู่นั้นอีกครั้ง  หัวใจสั่นรัว...กับความกลัวในจิตใจ


“เต๋า... คือเรา...”  พยายามจะเริ่มตั้งต้นใหม่ แต่ยิ่งได้มองสายตาคู่นั้น ความหวั่นไหวก็ยิ่งคืบคลาน

“ถ้าเรา... เป็นผู้ชายล่ะ?”  จากประโยคบอกเล่ากลายเป็นประโยคคำถามแทนจนได้  แต่คำถามแปลกประหลาดคลุมเครือนั้น แทนที่จะนำความเข้าใจกลับยิ่งนำพาให้สงสัยยิ่งกว่าเดิม

ท่ามกลางสถานการณ์บีบคั้นนี้... คชารู้แล้ว ว่าตัวเองผิดที่ปล่อยให้เวลาล่วงเลยมานานเกินไป

“คือเรา...”  เสียงเดิมอึกอักไป ยิ่งเห็นแววตาเร่งเร้าที่จ้องมองมา
“เรา...”  คชาสูดลมหายใจเข้าลึกท่ามกลางเสียงหัวใจที่ดังกว่าเสียงของตัวเอง

“เราว่าจะไปแปลงเพศเป็นผู้ชาย”
สุดท้าย... เขาก็เลือกที่จะต่อเวลาให้ตัวเองอีกครั้ง

“มุกนี้ตลกก็ได้”  เต๋าพูดออกมาพลางยิ้มน้อยๆ หากแต่นัยน์ตายังมีความประหวั่นใจบางอย่าง  และยิ่งทวีคูณเมื่อได้ยินอีกคนพูดต่อ

“ไม่มุก... นี่พูดจริง”
เพียงเท่านั้นท่าทีของเต๋าก็กลับนิ่งกว่าเดิม

“บอกแม่แล้วหรือไง?”
“ยัง... แต่แม่ไม่ว่าหรอก”
“นี่ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ นะ”
“ก็ไม่ได้เล่นนี่”
“ชา...”
“ทำไม?”
“เลิกหนีความจริงสักที”

ถ้อยคำแทงใจดำเสมือนมีดปลายแหลมแทงลึกที่อกซ้าย... คชาเพียงนิ่งไป จะเขาให้ทำยังไง ในเมื่อความจริงนั้นมันเป็นสิ่งที่อีกคนยังไม่รู้

“ฟังเสียงหัวใจก่อนสิชา”

เหมือนกำลังถูกแทงเข้าซ้ำสองตรงแผลเดิม...  เสียงหัวใจงั้นหรอ...ทำไมเขาจะไม่ได้ยินล่ะ? เสียงหัวใจตัวเองที่เต้นดังออกมาแบบนี้ กับความรู้สึกแปลกๆ ที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับใคร
เขาอยากจะยอมรับความจริง เขาอยากจะฟังเสียงหัวใจ
แต่จะทำยังไง... ในเมื่อสองสิ่งมันขัดแย้งกัน?


ผู้ชายกับทอมน่ะรักกันได้... แต่ผู้ชายกับผู้ชายมันรักกันไม่ได้หรอกเต๋า
 

 
 

เม็ดฝนที่ตกโปรยปรายทำให้บรรยากาศเงียบเชียบภายใต้ร่มคันเดิมดูจะมีเสียงขึ้นมาบ้าง  หลังจากทานข้าวมื้อเย็นที่ร้านอาหาร  ทั้งสองคนก็ยังคงตกอยู่ในภวังค์ความคิดของตนเองจนกระทั่งเดินไปถึงปลายทาง... ตรอกหอพักเพียงพอ
แต่เต๋ายังไม่ปล่อยให้อีกคนจากไปง่ายๆ หรอก

“รอนี่ก่อน”  ร่างสูงเดินเข้าไปในบ้าน ทิ้งร่มสีหวานไว้กับคนตัวเล็ก ให้เป็นเหมือนกับเครื่องยืนยันว่า ตราบใดที่เขายังไม่มาเอาร่มคืน อีกคนก็ห้ามไป

คชาก้มมองปลายเท้า  ร่มที่ยืนอยู่เพียงคนเดียวมันสบายและไม่เปียกฝน หากแต่ร่มที่มีคนยืนอยู่ข้างๆ แม้ไม่ได้พูดกันสักคำ มันกลับอบอุ่นกว่าเป็นไหนๆ

“ชาค่ะ”  เสียงเรียกคุ้นหูทำให้รู้ว่าเป็นใคร  ใบหน้าหวานหันไปมองก็พบว่าอีกคนยื่นซองพลาสติกเล็กๆ มา  “ยา... กลับไปกินซะเดี๋ยวเป็นหวัด”

แปลกใจเล็กน้อยที่อีกคนนึกถึงเขาขนาดนี้ทั้งที่ตัวเองยังไม่คิดสนใจ  “ขอบคุณ”  คชาเอ่ยสั้นๆ พลางรับมันมาใส่กระเป๋ากางเกง  กำลังจะยื่นร่มคืนให้เจ้าของ ทว่ามือนั้นกลับถูกอีกฝ่ายกุมไว้เสียเอง

“เดี๋ยวไปส่งหน้าหอ...”  เต๋าเข้ามาในร่มอีกครั้ง  ฝ่ามือขาวนั้นบีบกระชับมืออีกฝ่ายแนบแน่น  ความอบอุ่นแทรกซึมผ่านมือหนาจนคนถูกเกาะกุมสัมผัสได้... คชานึกดีใจที่มีอีกคนอยู่ข้างกันแบบนี้
            หากแต่ขณะเดียวกัน เขาก็นึกถอนใจ เพราะมันคงอีกไม่นาน...
            เป็นครั้งแรก... ที่เขานึกอยากยืดระยะทางออกไปให้ไกลกว่าเดิม
 
 


- - -
 


 
            “แหม... มีคนมาจีบแล้วแอบงุบงิบไม่บอกเพื่อนนะน้องทอม”
            “มิน่า ถึงไม่สนหมอ”
            “อะไรยังไงอะชา... ได้ยินว่าไปกินข้าวกันด้วยจริงดิ?”
            ไม่ผิดจากที่คิดไว้เลยสักนิดว่าเหล่าเพื่อนร่วมคณะของเขาจะต้องพากันหยิบยกเองเมื่อวานมาล้อ  ทั้งที่ปกติคชาก็เป็นคนอารมณ์ดี ไม่ได้อะไรกับเรื่องแบบนี้นัก หากแต่สถานการณ์ในตอนนี้มันเริ่มเกินจะรับไหว
            คชาเพิ่งจะรู้... ว่าตอนนี้มันมาไกลเกินไปแล้ว
            ตั้งแต่เมื่อเช้า ที่เปิดประตูหน้าห้องออกไปก็เจอพัดลมตัวนึงที่วางอยู่... คชารู้ได้ทันทีว่าเป็นของใคร เพียงแค่ได้อ่านข้อความ

            ‘พา fan มาให้... ถ้าเปิดใจเมื่อไหร่แฟนจะตามมา’

ร่างเล็กได้แต่ยกมือขึ้นขยี้ผมตัวเองจนยุ่งเหยิงเมื่อนึกถึงพัดลมที่ได้เมื่อเช้า ก่อนความคิดจะกลับเข้าร่างมาฟังเสียงเพื่อนๆ รอบกายใหม่ คชาเพียงส่ายหน้าออกมา ไม่เถียงอะไร เพียงพูดแค่ว่า  “ไม่มีอะไร แค่รู้จักกัน”  ตอบปฏิเสธไปอย่างนั้นหากแต่ไม่มีใครเชื่ออยู่ดี

            “แค่รู้จัก... แต่ไอ้เช็ดหัวให้กับเดินกางร่มคันเดียวกันไปกินข้าวสองคนกระหนุงกระหนิงมันไม่ใช่นะเว่ย”  โปเต้พูดพลางยิ้มล้อ

            “เออ... ก็เป็นเพื่อนกันไง”  คชาตอบอย่างไม่สบอารมณ์  เขาไม่ชอบเลยที่ต้องถูกคนอื่นพูดล้อแบบนี้ ทั้งที่ตัวเองเครียดแทบตาย  “หยุดพูดซะที เหนื่อยจะฟัง”

            “เพื่อนกัน... ตอบเหมือนดาราเลยนะมึง”

            “เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อรึเปล่าวะ?”

            ได้ยินดังนั้นร่างเล็กก็พลันถอนหายใจหน่วงๆ ออกมา  คชาส่ายหน้า ก่อนจะประกาศกร้าวชัดเจน
            “ไม่มีใครคิดอะไรกับใครทั้งนั้นแหละ!”

            โกหกออกไปอีกครั้ง... คชารู้ดี เขาหลอกตัวเองไม่ได้ แต่ไม่ว่ายังไง เขาก็ยังไม่พร้อมจะบอกความจริงกับคนอื่นๆ ในตอนนี้


“โปเต้... กูขอไปอยู่บ้านมึงสักอาทิตย์นึงได้ไหม?”

            นี่ต่างหากคือสิ่งที่คชาต้องทำ...
 
 



- - -
 
 




            ในห้องเบอร์ 23 ห้องเดิม  เป็นเวลาหลายชั่วโมงแล้วที่คชายังคงนั่งคิดเรื่องเดิมซ้ำไปซ้ำไปมาอย่างนี้  คิด...ว่าจะหาทางบอกความจริงอย่างไรดี  มันเหมือนง่ายแต่ไม่ง่ายเลยสักนิดเดียว
            แต่เขาไม่อยากให้เวลาเดินไปมากกว่านี้อีกแล้ว


            สุดท้าย ขณะเวลาเกือบห้าทุ่ม  เขาก็ตัดสินใจกดปุ่มโทรออกหาใครคนนั้น  มือเรียวแนบเครื่องมือสื่อสารลงข้างแก้ม  หูก็คอยฟังเสียงนั้นอย่างใจจดใจจ่อ  เขารู้ดีว่าถึงจะดึกป่านนี้แล้วแต่เต๋าคงยังไม่นอน  เสียง ‘ตื๊ด... ตื๊ด…’  ในขณะรอสายทำเอาหัวใจเต้นระส่ำ  ใจนึงอยากให้อีกคนรับไวๆ  แต่อีกใจก็อยากยืดระยะเวลานี้ออกไปนานๆ


“เต๋า...ทำอะไรอยู่ ว่างรึเปล่า?”  เป็นคำแรกที่เขาพูดถามเมื่ออีกฝ่ายกดรับ

“ดูบอล...เชลซีแข่งอยู่เนี่ย มาดูด้วยกันไหม?”  แม้ไม่ได้บอก หากแต่เสียงจากโทรทัศน์เครื่องใหญ่ก็อธิบายได้ดีว่าอีกฝ่ายกำลังทำอะไร  และน้ำเสียงคนพูดก็บอกได้เลยว่าอยู่ในอารมณ์ดีแค่ไหน  “กำลังจะโทรไปชวนอยู่พอดี”

คชาลืมไปเสียสนิท... ฟุตบอลนัดสำคัญที่ถ้าเป็นเมื่อก่อนคงไม่พลาดแม้แต่เสี้ยววินาที

“คือเรา...”  จะเอายังไงดี? จะเอายังไง? คชาได้แต่ถามตัวเองซ้ำไปซ้ำมา  เขาแค่อยากโทรมาสารภาพเพราะไม่กล้าบอกต่อหน้า ทว่าโอกาสดันไม่เอื้ออำนวย หากแต่ก็ไม่ซะทีเดียวเมื่ออีกฝ่ายชวนเขาออกไปหาแบบนี้

“ตั้งแต่วันนั้นเรายังไม่เคยดูบอลด้วยกันเลยนะ วันนั้นที่ชาบอกจะมาก็ผิดนัด จนเราต้องไปหาเอง”  ความรู้สึกผิดแล่นริ้วขึ้นมาทันที ไม่ใช่เพราะใจความแต่เพราะน้ำเสียงที่ฟังดูตัดพ้อนั่นต่างหาก

“เอ่อ...อือ ก็ได้”  และเพราะความใจอ่อน เสียงใสจึงตบปากรับคำไปในที่สุด  สมองเร่งนึกว่าจะพูดข้อความทั้งหมดที่จะบอกอีกฝ่ายต่อหน้าตอนไหนหรือยังไงดี


            ถ้าอย่างนั้น  คืนนี้คงเป็นคืนสุดท้าย…
 
 




เต๋ายิ้มกว้างเมื่อเห็นคนที่คิดถึงมายืนรออยู่หน้าบ้านแบบนี้  มือหนารีบเปิดประตูให้อีกคนเดินเข้ามา  คชาในชุดนอนสีฟ้าลายตารางมองดูน่ารักจนแทบไม่อยากละสายตาจากไปแม้เสี้ยววินาที

“ถอดรองเท้าไว้ตรงนี้”  เต๋าบอกอีกคน รอยยิ้มยังคงประดับใบหน้าทำเอาคชาต้องมอบยิ้มแก้เก้อให้  คนตัวเล็กถอดรองเท้าแตะตามที่อีกคนบอกก่อนจะเดินเข้าไปดูทีวีที่เปิดทิ้งไว้ในห้องนั่งเล่น

โซฟาหนังสีดำบุ๋มลงไปตามคนสองคนที่นั่งอยู่  คชาเว้นระยะห่างจากอีกฝ่ายไว้ประมาณหนึ่งฟุต ไม่มากเกินแต่คงไม่น้อยไป
มันอาจจะเป็นฟุตบอลนัดแรกในชีวิตที่คชานั่งมองดูด้วยจิตใจที่เลื่อนลอยแบบนี้... เขาพยายามเรียบเรียงข้อความและคำพูดในหัวออกมาหลายต่อหลายที  แต่หันไปมองอีกฝ่ายที่นั่งลุ้นเกมการแข่งขันตรงหน้าก็กลับพูดไม่ออกสักครั้ง


และวินาทีนั้นที่เต๋าหันมาสบตาเข้าพอดี  “เป็นอะไร? ไม่สบายหรอ? ทำไมทำหน้าอย่างนั้น?”  ระยะห่างฟุตนึงลดน้อยลงเมื่อเต๋าขยับเข้าใกล้เพื่อยื่นหลังมืออบอุ่นมาแตะกลางหน้าผาก  คำถามกับสีหน้าเป็นห่วงเป็นใยทำเอาคนฟังทั้งรู้สึกผิดและรู้สึกดีไปพร้อมๆ กัน  “วันก่อนกินยารึเปล่า?”

“กินแล้ว... ปกติดี ไม่ได้ไม่สบายหรอก”  เขาเอ่ยตอบเสียงแผ่ว  “สงสัยแอร์หนาวไปมั้ง”  ยกเหตุผลข้างๆ คูๆ ขึ้นมาอ้าง

ได้ยินดังนั้นเจ้าบ้านก็รีบลุกเดินไปหรี่เครื่องปรับอากาศลงให้ ซ้ำยังขึ้นไปหยิบผ้าห่มผืนเล็กมาคลุมตัวเด็กน้อยในชุดนอนสีฟ้าให้อีก  “โอเคไหมชา?”

“อ...อืม โอเค ขอบใจ...ดูบอลต่อเถอะ”  ภายใต้ผ้าห่มสีเหลืองอ่อน  คชาประสานมือตัวเองไว้แนบแน่น  เขาเกลียดสายตาที่อีกฝ่ายใช้มองเขาแบบนั้น มันทั้งอบอุ่น ทั้งลึกซึ้ง และเปี่ยมไปด้วยความห่วงใย  แต่ในขณะเดียวกัน...ก็ยอมรับเลยว่าอยากให้เต๋ามองเขาด้วยสายตาแบบนี้ไปตลอดไป

แต่คงไม่มีวันนั้น
 
 




แม้ตอนแรก คชาจะแทบไม่ได้สนใจฟุตบอลตรงหน้า  หากแต่สุดท้าย... สัญชาติญาณแฟนบอลที่กำลังดูทีมโปรดเล่นอยู่ก็ดึงเขากลับมาหาการแข่งขันจนได้  สุดท้าย ร่างเล็กก็กลับไปเป็นแฟนบอลที่จงรักภักดีต่อเชลซีเหมือนเดิม

“แลมพาร์ต!! แลมพาร์ต!!! แลมพาร์ต!!! โคตรเมพเลยว่ะเต๋า!!!”  ร่างเล็กหันไปพูดกับอีกคนอย่างมีความสุข  รอยยิ้มสดใสที่เปื้อนใบหน้าหวานยิ่งทำให้คนน่ารักยิ่งน่ารักเป็นเท่าตัว  “สุดยอดเลยอะ... นี่มันเป็นลูกเตะที่สุดยอดในประวัติการณ์เลยนะ”  เสียงใสเอ่ยอย่างภูมิใจ  “เจ๋งอะเต๋า... เปลี่ยนใจมาเชียร์เชลซีตอนนี้ยังไม่สายนะ”

อารมณ์ที่เปลี่ยนจากตอนแรก 180 องศาทำเอาอีกคนต้องหัวเราะตามเบาๆ  ฟุตบอลเอฟเอ คัพ รอบรองชนะเลิศนี้เชลซีเป็นฝ่ายชนะทอตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ไปด้วยสกอร์ 5 ประตูต่อ 1 และได้ไปชิงแชมป์กับหงส์แดงลิเวอร์พูล  เจ้าตัวถึงได้ดีอกดีใจขนาดนี้ 

เต๋าส่ายหน้าน้อยๆ หากแต่ใบหน้าก็ยังมีรอยยิ้มบางประดับไว้ “คนเรามันรักแล้วรักเลย... มาเปลี่ยนใจง่ายๆ ไม่ได้หรอกชา”

เพียงเท่านั้น คนฟังก็หน้าขึ้นสีโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว  คชายกมือเกาศีรษะแก้เก้อ... ก็แววตาตอนอีกคนพูดน่ะ เหมือนกำลังสื่อถึงใครบางคนมากกว่าแมนยูทีมรักน่ะสิ

ใครบางคน... ที่กำลังนั่งอยู่ตรงหน้านี้

เต๋า... พูดแบบนี้เห็นใจคนฟังหน่อยเถอะ
 
 



เป็นเกือบตีหนึ่งแล้วที่ร่างเล็กยังนั่งอยู่ในบ้านของเต๋า... คชามองนาฬิกาที่แขวนไว้ในบ้าน แน่นอนว่าตอนนี้หอพักต้องถูกแขวนแม่กุญแจตัวใหญ่เพื่อปิดแล้ว แต่จะเป็นไรในเมื่อคนตรงหน้าเขามีกุญแจ
ที่สำคัญกว่า... คือคืนนี้ต้องพูดเรื่องนั้นกับเต๋าต่างหาก

ท่ามกลางสถานการณ์ที่เริ่มคับขัน เข็มนาฬิกากลับยังคงเดินต่อไปอย่างไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อย และมันยิ่งเร่งเร้าให้คชาต้องรีบพูดความจริงออกไปก่อนจะไม่มีโอกาส

“เต๋า... คือ...”  เห็นอีกคนเพิ่งเดินออกมาจากห้องน้ำ คชาก็พูดขึ้น  หากแต่ไม่ทันได้เอ่ยใจความอะไร ข้อมือบางก็ถูกกึ่งลากกึ่งจูงให้ขึ้นบันไดไปเสียก่อน

“ไปไหนอะเต๋า?”

“ไปห้องเรา”

“เฮ้ย!!!!”
 
 




กว่าข้อมือบางจะถูกปล่อยเป็นอิสระก็เมื่ออีกฝ่ายเปิดประตูระเบียงออกไป... คชาถอนหายใจออกมาเต็มแรงเมื่ออีกฝ่ายพาเขาออกมายืนตรงระเบียงสีขาวนี่  ยอมรับตรงๆ เลยก็ได้ว่าเมื่อกี๊คิดไกลไปถึงไหนต่อไหน

แอบคิดไปแล้ว... ถ้าเกิดอีกคนนึกปล้ำเขาขึ้นมา แล้วถอดเสื้อผ้าออกเห็นว่าเขาเป็นผู้ชาย เต๋าจะทำหน้ายังไง
แต่มันก็ไม่เกิดอะไรบ้าๆ แบบนั้นขึ้น  เมื่อจุดมุ่งหมายของเต๋ามีเพียงแค่…


“ดาวสวยไหม?”  คนข้างๆ ถามเขา  ตอนนั้นคชาจึงแหงนมองขึ้นไปบนฟ้าตามที่อีกฝ่ายทำบ้าง  ฟ้าสีดำสนิท มีจุดเล็กๆ สว่างไสวอยู่บ้างเล็กน้อย

“หน้าต่างห้องเธอมองไม่เห็นดาวไม่ใช่หรือไง? วันนี้พามาดูแล้วนะ”

ครั้งที่เท่าไหร่แล้วนะที่อีกคนจดจำรายละเอียดเกี่ยวกับเขาได้มากขนาดนี้  “ขอบใจ”  คชาทำได้เพียงเท่านั้น... มันอาจจะเป็นสิ่งที่มากที่สุดที่สามารถตอบแทนอีกฝ่ายได้

“รู้ไหมชา... ตั้งแต่มีเธอเข้ามา ฉันก็ชอบออกมายืนอยู่ที่ระเบียงนี่”  สัมผัสโอบกอดจากด้านหลังทำเอาคชาอ้าปากค้างโดยไม่รู้ตัว  มืออบอุ่นคู่นั้นประสานไว้ที่ด้านหน้า ไม่แน่นหนา ทว่าก็ไม่ได้อ่อนปวกเปียกเสียจนหลุดออกจากกันได้ง่ายๆ

“รู้ตัวอีกที... ก็ชอบดูดาวบนฟ้าสลับกับมองหน้าต่างเล็กๆ นั่นแล้ว”

ยิ่งได้ยินถ้อยคำจากปากอีกคนมากเท่าไหร่ มันก็ยิ่งเสียดแทงไปในจิตใจมากเท่านั้น… คชาไม่อยากได้ยิน ไม่อยากฟัง... ความรู้สึกที่อีกฝ่ายมันมากล้นจนเกินกว่าเขาจะรับไหว

“เต๋า...”  ฝ่ายคนในอ้อมกอด พอตั้งตัวได้ก็หันหน้าไปหาอีกฝ่ายหมายจะเอ่ยความในใจสักที  หากแต่ได้จังหวะพอดีกับที่ร่างสูงขยับเข้าใกล้

จึงกลายเป็นคชาที่เกือบจะหอมแก้มอีกฝ่ายไปอย่างฉิวเฉียด… เป็นอีกครั้งที่คชานิ่งค้างราวกับเป็นหุ่นยนต์  ทั้งร่างกายหรือใบหน้าเหมือนกับถูกสาปให้นิ่งไว้อย่างนั้น
เว้นก็แต่หัวใจที่เต้นดังจนกลัวอีกฝ่ายจะได้ยิน


รอยยิ้มบางเบาถูกประดับไว้ที่ริมฝีปากหยัก ตาคู่คมเพ่งมองใบหน้าหวานที่ขึ้นสีชมพูระเรื่อ... เต๋าคลายอ้อมแขนที่ประสานกอดอีกฝ่ายไว้ออก ยกมือข้างหนึ่งไล้แก้มใสนั้นเบาๆ


“เต๋า...”  พยายามปัดมือนั้นออกทว่ากลับไม่เป็นผล  ร่างเล็กเอ่ยค้านด้วยเสียงติดขัด  “อย่าทำแบบนี้เลย... เรา...” 
หากแต่คำพูดนั้นกลับกลายเป็นเพียงลมหายใจบางเบาที่ถูกกลืนกินด้วยริมฝีปากหยักจนหมดสิ้น  ใบหน้าขาวคมเอียงเล็กน้อย

เพื่อมอบจูบรสหอมหวานได้ถนัดถนี่



ราวกับตัวเขากำลังเบาเหมือนนุ่น... ราวกับกำลังนอนหนุนก้อนเมฆบนฟ้าไกล

เปลือกตาบางค่อยๆ หลับลง มือที่กำแน่นถูกคลายออกจากกัน


ทั้งหมดราวกับกำลังฝันไป... เป็นไปได้ไหม? ถ้าคชาจะหลับใหลตลอดกาล
 







TBC


ยังมีคนอ่านอยู่ไหมคะเนี่ย เห็นคนไปตามอ่านในเด็กดีกันหมดแล้วหง่า แหะๆ
ถ้ามีก็แสดงตัวกันหน่อยนะค้า >w<
 :กอด1:

MEMO MINI

  • บุคคลทั่วไป
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 13 หน้า 5 (up 25Jun)
«ตอบ #129 เมื่อ25-06-2012 23:25:03 »

จิ้ม :z13: :z13: :z13:
v
v
v
v
v
เม้นแรกมั๊ยหนิ

เปนกำลังใจให้ชาค่ะ

 :3123: :3123:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-06-2012 23:33:57 โดย MEMO MINI »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 13 หน้า 5 (up 25Jun)
« ตอบ #129 เมื่อ: 25-06-2012 23:25:03 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ mutyamania

  • สามารถติดตามงานติดเรทที่ลงเล้าไม่ได้ที่ ReadAWrite ในชื่อมัสยากลับมาจากป่าช้า
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1898
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +794/-139
    • https://mutyawhocamebackfromthedead.readawrite.com
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 13 หน้า 5 (up 25Jun)
«ตอบ #130 เมื่อ25-06-2012 23:27:23 »

ปวดตับอ่ะ  อยากให้ถึงตอนเต๋ารู้ความจริงไว ๆ เพราะเรามันซาดิสต์  ชอบอ่านดราม่าหนัก ๆ แบบว่าสะใจดีพิลึก  รอตอนหน้าจ้า 

ออฟไลน์ Tumz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 450
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-4
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 13 หน้า 5 (up 25Jun)
«ตอบ #131 เมื่อ25-06-2012 23:44:42 »

 :sad4: เริ่มดรามา

 :pig4:  ครับผม

ออฟไลน์ •ผั๑`|nกุ้va’ด•

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1279
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-69
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 13 หน้า 5 (up 25Jun)
«ตอบ #132 เมื่อ25-06-2012 23:52:14 »

อุกรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด!!! กรีดร้องอย่างโหยหวน. ไม่อยากจะคิดว่าถ้าเต๋ารู้จะเกิดอะไรขึ้น.  ยังตามอยู่นะจ๊ะ มารายงานตัว

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7579
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 13 หน้า 5 (up 25Jun)
«ตอบ #133 เมื่อ26-06-2012 01:10:37 »

งะ อึดอัดแทน จะมีรักทั้งทีก้อเห้อT^T

รอรอตอนต่อไป

ออฟไลน์ akihito

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 13 หน้า 5 (up 25Jun)
«ตอบ #134 เมื่อ26-06-2012 12:41:03 »

รีบสารภาพซ้าาาา จูบกันแล้วเนี่ย
เดี่ยวก็มาม่าอีก ไม่อยากกินมาม่า

ออฟไลน์ bangkeaw

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 567
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-4
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 13 หน้า 5 (up 25Jun)
«ตอบ #135 เมื่อ26-06-2012 16:39:26 »

เครียดค้าาาาา
มาไกลเกินไปแล้ว จูบกันแล้วด้วย
รีบๆ สารภาพซะ  :z3:

[newZy]CASS

  • บุคคลทั่วไป
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 13 หน้า 5 (up 25Jun)
«ตอบ #136 เมื่อ26-06-2012 20:35:17 »

รอติดตามตอนต่อไปค่ะ

bozang

  • บุคคลทั่วไป
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 13 หน้า 5 (up 25Jun)
«ตอบ #137 เมื่อ26-06-2012 21:21:39 »

♀ TOM (or) BOY ♂
14
[/color]







เป็นไปไม่ได้... ที่จะจมอยู่ในความฝันตลอดกาล

เปลือกตาบางค่อยๆ หรี่มองนาฬิกาปลุกที่อยู่บนหัวเตียง... เสียงมันเงียบไปพักใหญ่แล้วเขาก็นอนต่อเพราะเมื่อคืนกว่าจะกลับมานอนที่ห้องก็เป็นเวลาตีหนึ่งครึ่งได้  แต่ที่สำคัญยิ่งกว่าคือเรื่องราวที่ประเดประดังเข้ามามันทำเอาข่มตาหลับไม่ไหว  สัมผัสบางเบาที่ริมฝีปากยังคงเหลือทิ้งไว้ในความรู้สึกให้จดจำ
คชากะพริบตามองเวลาในนาฬิกาปลุกอีกครั้งราวกับจะดูให้แน่ใจว่าไม่ได้มองผิดไป  เข็มสั้นชี้ไปที่เลขเก้า...ฉิบหาย! เข้าเรียนแล้ว!!!!!

กระเด้งตัวขึ้นจากที่นอนนุ่มโดยอัตโนมัติ กระวีกระวาดถอดเสื้อผ้าออกเดี๋ยวนั้นก่อนจะวิ่งผ่านน้ำด้วยความเร็วสุดชีวิต ล้างหน้าแปรงฟันพอลวกๆ แล้วจึงรีบแต่งตัวภายในห้านาที  เพราะวันนี้มีคาบเรียนตอนเก้าโมงเช้าและอาจารย์ก็มักจะเช็คชื่อตอนเก้าโมงครึ่ง  แต่ที่มากกว่านั้นคือเขากับแพรวาโดนเพ่งเล็งมาตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้วที่ทำขวดยาทาเล็บแตกกลางห้อง  สมองนึกไปถึงเพื่อนสาวข้างห้องที่ป่านนี้คงจะไปถึงคลาสแล้ว... ที่แพรวาไม่ได้รอคงเพราะคิดว่าเขาออกไปก่อนแล้วแน่ๆ

จากบันไดมาถึงหน้าหอพักอย่างรวดเร็ว คชาแอบเห็นเจ้าหมาน้อยตะวันที่นอนอยู่ แต่วันนี้ไม่มีเวลาจะไปเล่นกับมันเหมือนวันที่ตื่นเช้า  ขาเรียวรีบก้าวไวๆ ...ถึงมหาวิทยาลัยจะอยู่ใกล้ แต่ไม่ได้แปลว่าจะไปถึงได้ภายในสองสามนาที

ก็ต้องเดินไปนี่…


“ขึ้นมาสิ”  เสียงทุ้มคุ้นหูรั้งเขาไว้เสียก่อน  หันหน้าไปมองก็พบลูกเจ้าของหอคนเดิมและจักรยานแม่บ้านสีแดงอีกคัน  เท่านั้นใจก็กระตุกวาบเมื่อนึกถึงเรื่องเมื่อคืน... ความจริงที่เตรียมจะบอกแต่ก็พลันสลายไปกับรอยจูบนั้น และสุดท้าย ความพยายามทุกอย่างก็กลายเป็นศูนย์

“รีบไม่ใช่หรอ?”  เสียงเดิมรั้งให้เขากลับมาสนใจกันสถานการณ์ตรงหน้า  เต๋าพยักเพยิดไปที่เบาะหลังเป็นสัญญาณให้เขาซ้อนจักรยานคันนี้ไป

“ไม่เป็นไร เดี๋ยววิ่งไป”  คชาปฏิเสธทันควัน... แค่การเจอหน้ากันเพียงแค่นี้เขายังรู้สึกแปลกๆ เลย นับประสาอะไรกับจะซ้อนท้ายจักรยานให้อีกคนไปส่งล่ะ

“ไม่เชื่ออีก บอกให้ขึ้นก็ขึ้นมาสิ”  น้ำเสียงที่บอกเหมือนกับจะดุเล็กน้อย  มือหนาถือวิสาสะรั้งข้อมืออีกฝ่ายไว้เบาๆ  “เร็ว... อยากไปสายหรือไง?”

“ก็ไม่อยาก...แต่...”

“เกลียดคำว่า ‘แต่’ ชะมัดเลย” 

แววตาตัดพ้อคู่เดิมยังคงทำหน้าที่ของมันได้เป็นอย่างดี คชาไม่ชอบสายตาแบบนี้...สายตาที่ทำเอาเขาต้องยอมใจอ่อนเสียทุกครั้ง  “รีบหน่อยนะ”

การขี่จักรยานโดยแรกเริ่มนั้นดูค่อนข้างจะทุลักทุเล คงมาจากเพราะน้ำหนักตัวเกือบหกสิบกิโลฯ ของคนซ้อนท้าย  “ตัวหนักนะเรา”  แม้จะพูดอย่างนั้นแต่ใบหน้าขาวจัดกลับอมยิ้มจางๆ เมื่อนึกตามว่าอีกคนกำลังทำหน้ายังไงอยู่  หารู้ไม่เลยว่าที่จริงอีกคนนั่งใจลอยไปถึงไหนต่อไหนเสียแล้ว

และเมื่อผ่านไปไม่นาน การขี่จักรยานเริ่มเข้าที่เข้าทาง... ร่างเล็กซึ่งนั่งอยู่เบาะหลังก็เริ่มตาปรืออย่างคนนอนไม่พอ มือเรียวกำชายเสื้อเชิ้ตนักศึกษาสีขาวของคนขี่ไว้เป็นที่ยึดเหนี่ยวพร้อมๆ กับสมองที่ชัทดาวน์เองโดยอัตโนมัติ 

รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่จักรยานคันเดิมเบรกเสียเต็มแรง


“โอ๊ย!”  เสียงใสร้องเพราะหัวกระแทกกับแผ่นหลังคนข้างหน้าเต็มๆ

“ลงไปก่อน”  เต๋าเอ่ยหากแต่อีกคนกลับนั่งงง  “เร็วสิ”  ตอนนั้นเองที่คชาเห็นว่าจักรยานแล่นมาจอดที่ริมถนน


ชั่วครู่ที่เผลอน้อยใจคิดว่าอีกคนจะทิ้งให้เขาเดินไปต่อเอง หากแต่ขาก็ก้าวลงจากตะแกรงด้านหลังโดยดี... คชาหันซ้ายหันขวามองทาง ทว่าเมื่อหันมาอีกที  ก็เห็นเต๋าก็ลงมายืนอยู่ข้างๆ กันแถมยังคว้าข้อมือของเขาไปจับอีกครั้ง ส่วนมืออีกข้างก็จูงจักรยานเพื่อเดินข้ามทางม้าลายไป

เต๋าไม่เคยทิ้งคชาไปไหน  มีแต่คชาที่คิดไปเอง...

“ขึ้นมา”  พ้นทางม้าลาย เสียงทุ้มบอกสั่งให้ซ้อนท้ายอีกครั้ง หากแต่หนนี้ร่างเล็กกลับทำตามอย่างว่าง่าย  พาหนะสีแดงสองล้อถูกปั่นไปเร็วเท่าที่สมรรถนะของมันจะเอื้ออำนวย หนทางที่ขรุขระเป็นระยะทำให้ศีรษะเล็กนาบไปกับแผ่นหลังอีกฝ่ายหลายต่อหลายครั้ง จนกระทั่งไปถึงมหาวิทยาลัย

“เต๋า.. จอดก่อน ส่งประตูนี้พอ”  คชารีบเอ่ยห้าม ไม่กล้าให้อีกคนไปส่งถึงหน้าคณะ เพราะกลัวจะเจอคนรู้จักเข้าอีก  คนตัวเล็กรีบลงจากตะแกรงหลังทั้งๆ ที่ยังจอดไม่สนิท  “ขอบใจนะ”  วิ่งเข้าประตูไปโดยไม่ได้หันมามองอีกคน  สมองจดจ่อเพียงห้องเรียนกับอาจารย์คนเดิมที่รออยู่


คาบเรียนรวมวิชาสื่อสารมวลชนเบื้องต้นในเช้าวันนี้ อัดแน่นไปด้วยนักศึกษาคณะนิเทศศาสตร์ชั้นปีที่ 1 เกือบสองร้อยชีวิตบนห้องเรียนขนาดใหญ่แบบสโลปเป็นบันไดขึ้นไป  และดูเหมือนว่าตอนนี้จะเป็นเวลาที่ทุกคนตั้งใจฟังเป็นพิเศษ  เมื่อเสียงเนิบๆ ของอาจารย์สาววัยใกล้เกษียณคนเดิมกำลังเช็คชื่อนักศึกษาที่เข้าเรียน

“ธันวา”

“มาครับ”

“นนทนันท์”

- เงียบ -

“นนทนันท์...”

“มาแล้วคร้าบ”  ร่างเล็กที่เพิ่งเปิดประตูหน้าห้องเขามาส่งรอยยิ้มบานแฉ่งไปให้อาจารย์คนเดิมที่นิ่วหน้ามอง เขาหยุดยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นจนกระทั่งเห็นเธอก้มหน้าลงขีดลงในกระดาษและขานชื่อต่อไปจึงรีบก้าวไวๆ ไปหากลุ่มเพื่อนที่นั่งเรียงกันอยู่
ทันเวลาพอดี... คุ้มค่าที่อุตส่าห์แทรกตัวเข้าไปในลิฟท์ที่คนแน่นเอี้ยดแบบนั้น


ร่างเล็กนึกพลางหันไปทักทายกลุ่มเพื่อนๆ สองสามคำ ก่อนจะปิดเปลือกตาด้วยความง่วงนอนเสียเต็มประดา

อยากตั้งใจเรียนอยู่นะ... แต่ตอนนี้สมองยังไม่พร้อมรับเรื่องราวอะไรเลยจริงๆ






การเช็คชื่อนักศึกษาเกือบสองร้อยชื่อผ่านพ้นเสร็จสิ้นไปในเวลาไม่กี่นาทีต่อมา... หากทว่านักศึกษาร่างใหญ่ที่เพิ่งโผล่พรวดเข้ามาที่ประตูด้านหลังก็ทำเอาการเรียนการสอนต้องหยุดชะงัก... แม้การเข้าจากประตูด้านหลังจะทำให้ไม่มีนักศึกษาคนไหนที่จะมาสนใจนัก  หากแต่กับอาจารย์ผู้สายตายาวที่อยู่ด้านล่างสุดล่ะก็...มองเห็นทุกสิ่งเป็นอย่างดี

เด็กสมัยนี้มันแสบจะตาย! …ขนาดบอกว่าวันนี้จะเช็คชื่อห้ามมาสาย ยังมีคนมาถึงเอาเวลานี้เลย

“เอ้า... ที่เพิ่งมาใหม่น่ะชื่ออะไร มาสายนะรู้ไหม?”  เธอถามด้วยน้ำเสียงตำหนิ

“ศุภวิชญ์ครับ”  นักศึกษาร่างใหญ่เอ่ยเสียงดังอย่างไม่สนใคร

“อีกคนล่ะ?”  อาจารย์คนเดิมหมายถึงนักศึกษาอีกคนที่เพิ่งเข้าประตูด้านหลังตามมา

“เอ่อ...”  เขามีท่าทีเลิ่กลั่ก  “เปล่าครับ...ผมเก็บกระเป๋าตังค์ได้ เอามาคืนเจ้าของเฉยๆ”

เมื่อคำพูดคำนั้นแสดงถึงความเป็นคนแปลกหน้าไม่คุ้นเคย  ไม่กี่วินาทีต่อมา เหล่านักศึกษาเกือบครึ่งห้องก็เริ่มหันมามองที่พวกเขา  สาวๆ หลายคนเริ่มหันไปซุบซิบกันเมื่อเห็นว่าคนที่เข้ามาในห้องเรียนใหม่ไม่ใช่ใคร หากแต่เป็น ‘เต๋า’ หนุ่มรูปหล่อ ผู้เล่นกองหน้าเบอร์ 23 แห่งคณะบัญชี

ตอนนั้นเอง ร่างเล็กซึ่งกำลังนั่งเคลิ้มใกล้เข้าสู่นิทราจึงถูกสะกิดด้วยเพื่อนๆ ที่รู้ดีว่า นายคนนั้นน่ะ มาหาใคร

“ชาๆ ตื่น... มีคนมาหา / เร็วชา กิ๊กมึงมาแล้ว”

“หือ... อาราย?”  พูดเสียงยานคางพลางหันไป... ก็ต้องนิ่งค้างเมื่อเห็นกระเป๋าสตางค์ตัวเองอยู่ในมือของร่างสูงคนเดิมกับที่มาส่งเขา

“ไหน... เอามาดูซิว่าของใคร?”  เสียงเนิบๆ ของอาจารย์(ไม่)สาวกล่าวออกไมโครโฟน

ได้ยินดังนั้นคชาก็รีบสะดุ้งตอบขึ้นทันควัน  “ของผมเองครับ”  เขาก็แค่ไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่ อีกทั้งก็กลัวอาจารย์จะประกาศชื่อบนบัตรนักศึกษาออกไปเหมือนคราวก่อนจนคนรู้กันหมด

“นนทนันท์... มาสายแล้วยังป้ำเป๋อลืมของไว้อีกนะ รีบไปขอบคุณเขาแล้วกลับมานั่งที่เร็วเข้า เพื่อนเขาจะได้ไป”


ใบหน้าหวานหันไปพยักหน้าให้อาจารย์  ขาเรียวกุลีกุจอวิ่งขึ้นบันไดไปหาอีกคนที่ยืนรออยู่ท้ายห้องเรียนแบบสโลป... สมองนึกดีใจที่ได้รับของคืนโดยไม่ต้องผ่านมือใคร  แต่คชากลับไม่ทันคิด... สรรพนามกับคำลงท้ายที่ใช้พูดกับอาจารย์แบบนั้น มันทำเอาคนที่ถือกระเป๋าสตางค์ในมือเผลอเปิดมันออกดู

ต่อหน้าต่อตาเจ้าของ  วินาทีนั้นร่างเล็กก้าวขายาวที่สุดในชีวิตเพื่อจะไปให้ถึงกระเป๋าใบนั้นก่อนให้ได้

“เฮ้ย! อย่า...” 

คำพูดสุดท้าย...ที่ไม่อาจฉุดรั้ง

เต๋ามองดูรูปถ่ายในอดีตของอีกคนในนั้นกับครอบครัว... ภาพเด็กชายผมสั้นเกรียนสองคนในวัยเยาว์กับหญิงสาววัยกลางคน... เด็กคนซ้ายมองยังไงก็คือคนเดียวกันกับเจ้าของกระเป๋าใบนี้ไม่มีผิด ทั้งใบหน้า แววตาและรอยยิ้ม ทุกอย่างมันบ่งบอกชัดเจน
ความสงสัยที่ถาโถมเข้ามาทำให้เต๋ารีบเปิดช่องต่อไปเพื่อหาคำตอบด้วยความใคร่รู้เต็มที

ชั่วพริบตาเดียว...ความจริงก็ถูกเปิดเผยผ่านบัตรสี่เหลี่ยมแข็งๆ ใบเดียว
ก็แค่บัตรประชาชน...

“นายนนทนันท์ อัญชุลีประดิษฐ์...”  เสียงทุ้มอ่านมันออกมาเบาๆ ราวกับจะพูดย้ำกับตัวเอง  ทั้งที่เจ้าตัวเคยเขียนให้เขาดูอย่างนี้หากแต่เขากลับไม่เอะใจอะไรเลย

มัวแต่หลงเชื่อลมปากอีกคนไปได้... นอกจากคำว่า ‘โง่’ เต๋าก็ไม่รู้จะพูดคำไหนกับตัวเองอีกแล้ว





ท่ามกลางเสียงซุบซิบแซมไปด้วยเสียงหัวเราะเบาๆ ของนักศึกษาคนอื่นๆ ในห้อง  เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นในโสตประสาต... เสียงเดิมที่คอยเรียกชื่อของเขา...

“เต๋า...”  ร่างเล็กที่เพิ่งวิ่งขึ้นมาถึงรีบดึงสติของเขากลับมาที่ปัจจุบัน  แววตาคู่นั้นตื่นตระหนกอย่างไม่ปกปิด  “คือเรื่องมัน...”  เขาจะพูดยังไงดี... มันควรจะเริ่มที่ตรงไหน?

“สนุกมากรึเปล่า?”  หากแต่คำพูดประชดประชันกลับเหมือนธนูที่ทิ่มลงกลางหัวใจ เต๋าเอ่ยเท่านั้นก็วางกระเป๋าสตางค์สีดำไว้ที่โต๊ะตัวใกล้ๆ  ก่อนจะเดินพรวดออกไปโดยทันที



คชาเก็บกระเป๋าเจ้ากรรมใบนั้นมาไว้กับตัว รีบเดินตามอีกคนออกไปก็เห็นแผ่นหลังไวๆ ที่เพิ่งเข้าไปในลิฟท์  ทั้งคู่ประสานมองตากันเพียงไม่นาน... คำพูดนับล้านที่พรั่งพรูออกมาไม่สามารถไปถึงอีกคนเมื่อเขาเพียงยืนแน่นิ่ง  ก่อนที่ร่างเล็กจะปล่อยให้ประตูอะลูมิเนียมเงาวับค่อยๆ เลื่อนเข้าหากันอย่างง่ายดาย  เหลือเพียงใบหน้าเย็นชาเป็นภาพสุดท้ายในความทรงจำ

คชาหยุดยืนอยู่แค่ตรงนั้น  เขาไม่ได้ตามลงไป  เขาไม่มีอะไรจะแก้ตัว


ยังไงก็ตั้งใจจะบอกความจริงวันนี้อยู่แล้ว  ให้เรื่องวุ่นๆ มันจบลงเท่านี้ก็ดีเหมือนกัน

เข้าใจแล้วใช่ไหมเต๋า ว่าเรา... รัก กัน ไม่ ได้

ขอโทษ... แล้วเราจะไม่มาให้นายเห็นหน้าอีกเลย




- - -




ผมเกลียด... ที่ความทรงจำของผมกับเธอ ไม่สิ กับเขา มันมากมายมหาศาลอย่างนี้


มันก็แค่แค่สามอาทิตย์ที่เราได้รู้จักกัน แต่ทุกเรื่องที่ผ่านเข้ามากลับทำเอาผมวกเข้าเรื่องของอีกคนได้หมดทุกสิ่งราวกับว่าเราผูกพันกันมาเนิ่นนาน

สนามหญ้ายามเย็นในวันนี้ก็เช่นกัน  มันยังคงสีมีเขียวเหมือนเดิม แต่กลับดูแห้งเหี่ยวไปในความรู้สึกด้วยเหตุผลบางอย่าง... วันนี้ทีมของพวกเรามาซ้อมบอลในสนามเดียวกับที่แข่งในวันนั้น เย็นวันที่ฝนเทลงมาแต่บรรยากาศกลับอบอุ่นในหัวใจ

ไม่มี อีกแล้ว

ผมหวัง..ยิ่งกว่าหวัง ว่าการมาซ้อมบอลในวันนี้จะช่วยผ่อนคลายทุกสิ่งทุกอย่างในใจได้  เรื่องทั้งหมด..ความจริงทั้งหมดที่บ่งบอกว่าผมโง่เง่ายิ่งกว่าควายมันทำเอาผมรู้สึกเจ็บทุกที

เรื่องที่เขาเป็นผู้ชาย... ยังไม่เจ็บเท่าการที่ผมถูกหลอกแบบนี้

เขาอาจจะมีความจำเป็นบางอย่าง... แต่เขาไม่คิดจะเชื่อใจผมสักหน่อยหรอ? ไม่คิดจะบอกกันก่อนหรือไง?

จะหลอกกัน อีกนานเท่าไหร่?

แล้วทำไม ไม่ตามลงมา... ไม่พูดไม่จา ไม่อธิบายอะไรสักคำ...?




“เต๋า!”  เจ้าของชื่อหันไปหาเพื่อนซี้หน้าฝรั่งอย่าง ‘เบน’ ที่ส่งเสียงเรียก เขาวิ่งขึ้นไปรอรับบอลที่ส่งมาด้วยเท้าซ้าย เลี้ยงออกไปพลางหลบอีกฝ่ายที่พยายามจะตัดบอลนั้น  สำหรับในสนาม เวลาเพียงเสี้ยววินาทีก็สำคัญ เพราะมันสามารถกลายเป็นโอกาสแห่งชัยชนะได้เลย

และโอกาสนั้นก็มาถึงแล้วเมื่อเต๋าหลบหลีกอีกฝ่ายได้ ก่อนจะใช้เท้าขวายิงประตูเสียเต็มแรง

เขาเตะลูกกลม   ๆ นั่นราวกับว่ากำลังกำจัดเรื่องวุ่นวายทั้งหมดออกไป
แล้วมันก็เป็นประตูจนได้... เต๋ายกยิ้มดีใจกับตัวเอง ก่อนจะหันไปมองข้างสนามที่เดิม

เผลออีกแล้ว... เขาหันไปมองที่ตรงนั้นเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้... ที่ที่วันนั้นมีใครอีกคนนั่งอยู่เพื่อชมการแข่งขันฟุตบอล

ปัญหา... ถ้าแค่โยนมันทิ้งไป เดี๋ยวมันก็กลับมาใหม่อยู่ดี…




หลังจากซ้อมฟุตบอลเสร็จตอนหัวค่ำ  ทุกคนก็อยู่ในสภาพหิวเจียนตาย เหล่าทีมฟุตบอลคณะบัญชีจึงเลือกมากันที่ย่านร้านอาหารใกล้ๆ มหาวิทยาลัย... คงจะไม่เป็นไรเลย ถ้าไม่ใช่ร้านนี้

   ร้านที่เคยบอกกับใครคนนึงไว้ว่า ‘คราวหลังไว้มากินด้วยกัน’


“ทำไมต้องมากินเสต็กด้วยวะ?”  เสียงทุ้มเอ่ยถามไอ้เพื่อนตัวดีคนนำความคิดอย่างหนุ่มผมหยิกผิวสองสี นามว่า ‘น้ำแข็ง’

“ก็กูหิวนี่หว่า... อยากแดกเนื้อ”

คำตอบไม่มีผลต่อคนถามนัก เต๋านั่งนิ่งๆ อยู่สักพักพนักงานก็มารับออเดอร์ ใบหน้าขาวจัดก้มมองภาพอาหารแสนน่ากินในเมนู เปิดพลิกไปพลิกมาก่อนจะปิดมันลง

“สั่งดิเต๋า เหลือมึงอะ”
มือหนาเปิดเมนูอาหารออกอีกครั้ง มองมันอีกไม่นานก็ถอนหายใจออกมายาวๆ ก่อนจะปิดมันลง  “กูกลับบ้านดีกว่า” 

“ไรของมึงอีกวะ?”  เบนถามขึ้น

“ไม่อยากกินเสต็ก”  เต๋าพูดสั้นๆ เท่านั้นก่อนจะหยิบกระเป๋าของตัวเองที่ตั้งไว้ใกล้ๆ ออกเสร็จก็เดินออกไปจากร้านในทันที


ไม่อยากกินเสต็กตอนนี้... เพราะอยากเก็บไว้กินกับใครอีกคน
ยังไม่หายโกรธหรอกนะ แต่กำลังจะไปให้อีกคนทำให้เขาหายโกรธสักที

แล้วเราจะได้มากินเสต็กด้วยกันนะ... ชาค่ะ





จากร้านเสต็กร้านนั้นมาที่บ้านของเขาใช้เวลาเพียงไม่ถึงยี่สิบนาที  เต๋ารีบกลับเข้าไปในบ้าน วางข้าวของลงก่อนจะคว้าเอากุญแจดอกเดิมที่มีเลข 23 ติดอยู่และเดินออกมาทันที

สองทุ่มครึ่ง... ถ้าเข้าหอพักเพียงพอไปในเวลานี้อาจจะเจอใครสักคนที่เป็นผู้หญิงและทำเอาเธอคนนั้นตกใจ แต่ในตอนนี้คงไม่มีอะไรสำคัญเท่าการไปเจอเจ้าของห้องเบอร์ 23 คนนั้น

เต๋าไม่ได้มาง้อ เพราะเขาไม่ได้ทำอะไรผิด แต่กำลังมาให้อีกคนขอโทษดีๆ และอธิบายความจริงทั้งหมดต่างหาก


ขายาวก้าวไวๆ แต่ยังไม่เท่าที่ใจต้องการ พลันนึกถึงใบหน้าหวานราวกับผู้หญิงของใครคนนั้น  เขาใช้มุกเดิมๆ กับป้าที่เฝ้าหอด้านล่างว่า  “พ่อให้ขึ้นมาจัดการลูกบิดที่มันเสีย”  ก่อนจะก้าวขึ้นบันไดตรงไปที่ห้องเบอร์ 23 ด้วยใจที่ร้อนรน

เขาเคาะประตูบานนั้นสองสามที หากแต่ไม่มีเสียงตอบรับจึงจัดการไขกุญแจเข้าไปอย่างคนใจร้อน และประตูก็ถูกเปิดออกได้อย่างง่ายดายเมื่ออีกฝ่ายไม่ได้ลงกลอนไว้

ห้องนั้นมืดมิด มือซ้ายจึงเอื้อมไปกดสวิตช์ไฟให้ภาพแจ่มชัด

เพียงเสี้ยววินาที...

ความว่างเปล่า... คือสิ่งเดียวที่เห็นในสายตา

ความเงียบเหงา... คือสิ่งที่ปรากฏในห้องแห่งนี้

ความผิดหวัง... คือสิ่งที่เกิดขึ้นในหัวใจ


จะมาก็มา จะไปก็ไป... ไม่คิดจะบอกกันสักคำหน่อยหรือไงชา?

จะทำร้ายใจกันไปถึงไหน... เท่าไหร่ถึงจะพอ?










TBC


ขอบคุณทุกคนมากๆที่ติดตามจ้า
หลายคนมากๆ อ่านแล้วบอกว่า เต๋าโกรธน้อยไป น่าจะโกรธมากกว่านี้ แหะๆ เราดราม่าไม่เก่งเท่าไหร่น่ะ
ติชมได้ตามสบายจ้า

ออฟไลน์ litlittledragon

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1938
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +304/-1
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 14 หน้า 5 (up 26Jun)
«ตอบ #138 เมื่อ26-06-2012 21:46:49 »

งานนี้หนุ่มบริหารจะทำไงต่อล่ะเนี้ย

ออฟไลน์ •ผั๑`|nกุ้va’ด•

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1279
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-69
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 14 หน้า 5 (up 26Jun)
«ตอบ #139 เมื่อ26-06-2012 21:58:06 »

แว๊กกกก,,  คชาหนีไปแล้ว!!

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 14 หน้า 5 (up 26Jun)
« ตอบ #139 เมื่อ: 26-06-2012 21:58:06 »





ออฟไลน์ akihito

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 14 หน้า 5 (up 26Jun)
«ตอบ #140 เมื่อ26-06-2012 21:58:53 »

ก็ชาค่ะก็บอกไปแล้ว
แต่เต๋าไม่เชื่อเองนี่นา

[newZy]CASS

  • บุคคลทั่วไป
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 14 หน้า 5 (up 26Jun)
«ตอบ #141 เมื่อ26-06-2012 22:18:03 »

ชาค่ะ ไหนบอกอย่าทำร้ายเต๋าไง
กลับมาเดี๋ยวนี้เลยนะ

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7579
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 14 หน้า 5 (up 26Jun)
«ตอบ #142 เมื่อ26-06-2012 23:29:00 »

แง๊ๆ อารายยังไงเนี่ย คนนึงตกใจแต่กลับให้อภัย

ส่วนอีกคนคิดไกลแล้วเดินจากไปเองอย่างงั้นหลอ

คงไม่หรอก อิอิ เรารู้ว่าเด๋วก้อดีกาน อิอิ

ออฟไลน์ cher7343

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1686
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-4
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 14 หน้า 5 (up 26Jun)
«ตอบ #143 เมื่อ26-06-2012 23:35:26 »

ฮือออออออออออออออออออออ
 :o12: :o12:


ในที่สุดความจริงก็ปรากฏ
สงสารทั้งสองคนเลย ถ้าเราเป็นชา เราก็ไป  :sad4:

timvasabi

  • บุคคลทั่วไป
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 14 หน้า 5 (up 26Jun)
«ตอบ #144 เมื่อ27-06-2012 00:06:22 »

ชาไปไหนอ้า~

เต๋าไม่โกรธแล้วนะ กลับมาก่อนเด้!!

55555 รอตอนต่อนะค่ะ น่ารักดีอะ

ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9
ม่ด้ข้มป๊บดียวอมม่ห้กินซงั้น พรม่พูดถึงม่ข้จกันสักที

bozang

  • บุคคลทั่วไป
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 14 หน้า 5 (up 26Jun)
«ตอบ #146 เมื่อ28-06-2012 08:44:56 »

♀ TOM (or) BOY ♂
15
[/b][/color]








ราวกับทุกอย่างเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน…

‘แก... อย่าทำอะไรฉันนะ ฉันไม่มีอะไรให้ขโมยด้วย’
‘นาย.. คือที่เมื่อกี๊เราบอกว่าเป็นผู้ชาย เราแค่...พูดเล่น...นะ’
‘วันนี้เมนส์มา’
‘แม่สอนตั้งแต่เด็กว่า อย่ายุ่งกับผู้ชายแปลกหน้าอะ’

เหมือนเราเพิ่งรู้จักกัน

‘มันต้องอย่างนี้สิเชลซี!!!! บอกแล้ว... กลับบ้านไปนอนร้องไห้เหอะเต๋า’ 
‘โอ๊ย! ไอ้กรรมการบ้าเอ๊ย สองลูกเลยหรอวะ? ฟาล์วตรงไหนเนี่ย แมนยูสำออยว่ะ’
‘ออกประตูไม่ได้ก็โดดลงไป’
‘นายมันไอ้ตัวซวยชัดๆ’

เหมือนเราเพิ่งสนิทสนมกัน

‘ยกหมอนข้างให้ก็ได้’
‘ผู้หญิงไม่ได้มีคนเดียวในโลกหรอกเต๋า’

เหมือนเราเพิ่งรู้สึกดีต่อกัน

‘ถ้าเรา... เป็นผู้ชายล่ะ?’
‘เต๋า... คือเรื่องมัน...’   



เรื่องมันเหมือนว่า.. ผมเป็นแค่คนโง่คนนึง...




ดอกไม้ที่เคยเป็นสีขาวสะอาดบบัดนี้แห้งกรอบเป็นสีน้ำตาลอ่อนตามกาลเวลา  มือหนาวางดอกไม้ดอกนั้นลงที่เดิม บนโต๊ะเขียนหนังสือตัวเดียวในห้องเบอร์ 23 แห่งนี้ ใกล้ๆ กันมีพัดลม กาต้มน้ำ กับขนมสองสามห่อที่วางอยู่

ทุกอย่างล้วนมีความหมายและความทรงจำ หากแต่มันกลับถูกทิ้งไว้อย่างเดียวดาย

ไม่รู้ว่าคนที่รับ...เขาไม่ใยดี หรือไม่ต้องการ

เต๋ายกยิ้มที่มุมปากมองมัน ก่อนจะกลับหลังหันออกมา สวิตช์ไฟดวงเดิมถูกกดปิดให้มืดสนิทอีกครั้ง  มือหนากดล็อคมันก่อนจะค่อยๆ ปิดลงอย่างช้าๆ
ทุกสิ่งทุกอย่างจะถูกเก็บไว้ในห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆ ห้องนี้

สำหรับคนให้น่ะ... ไม่อยากได้อะไรคืนหรอก





- - -




ดวงอาทิตย์ทอแสงสีส้มทองเป็นประกายในช่วงเวลาสุดท้ายก่อนจะลาลับขอบฟ้า  ในหมู่บ้านอันเงียบสงบในเขตกรุงเทพฯ ชั้นใน  รถแท็กซี่จอดลงที่หน้าบ้านหลังสีขาวขนาดไม่ใหญ่หลังหนึ่ง หนุ่มร่างเล็กจ่ายเงินให้คนขับเป็นที่เรียบร้อยก็ลงจากรถ ยืนรอเพียงไม่นานหนุ่มตี๋ใส่แว่นลูกชายเจ้าของบ้านก็ออกมาเปิดประตูให้

“เหมือนกูพามึงหนีตามกันมายังไงก็ไม่รู้ว่ะ”  โปเต้พูดติดตลกพลางช่วยถือกระเป๋าใบใหญ่หนึ่งใบเดินนำเข้าไป
นอกจากกระเป๋าใบนั้นแล้ว มีเพียงเป้ที่ใช้สะพายไปเรียนกับโน้ตบุ๊คอีกหนึ่งเครื่อง แม้ความจริงจะยังเหลือข้าวของอยู่อีกหลายอย่าง แต่คชาก็นำไปฝากไว้ที่ห้องข้างๆ ของแพรวาจนเกือบหมดแล้ว

เหลือก็แต่ของ...ที่ไม่ใช่ของเขา
ฝันดีที่เป็นไปไม่ได้... ตอนนี้คชาตื่นเต็มตาแล้วล่ะ



“กินอะไรมารึยังจ๊ะคชา?”  เพียงแค่ก้าวเข้ามาภายในบ้านหลังเล็กหลังนี้ ผู้เป็นแม่ของโปเต้ก็เอ่ยถามด้วยรอยยิ้มอบอุ่น  คชายกมือขึ้นสวัสดีหม่าม๊าที่ถามไถ่สารทุกข์สุกดิบของตนพลางยิ้มน้อยๆ ก่อนจะพูดคุยกับหม่าม๊าของโปเต้เหมือนกับทุกครั้งที่เขามาที่บ้านหลังนี้

“เต้... ไปจัดห้องใหม่ให้เพื่อนไป”  ส่วนป่าป๊าที่เพิ่งกลับบ้านมาไม่นานหลังจากนั้นก็พูดสั่งลูกชายของตนอย่างเต็มที่จนคชาต้องรีบบอกปัด  “ผมนอนห้องเต้ดีกว่าครับ อยู่แค่อาทิตย์เดียวเอง”

ห้องนอนของโปเต้เป็นที่อาศัยของคชาอีกหนึ่งอาทิตย์ต่อจากนี้  ห้องสี่เหลี่ยมผืนผ้านี้มีพื้นที่กว้างขวางกว่าห้องเช่าเบอร์ 23 นัก  หลังจากที่เดินตามเจ้าของห้องเข้ามา คชาก็นั่งลงอย่างคุ้นเคยพลางเริ่มหยิบข้างของเครื่องใช้จำเป็นออกมาจัดวาง 

“กูอยู่ไม่เกินอาทิตย์หรอก... สิ้นเดือนนี้หอเฟรมก็ว่างแล้ว”  เขาเอ่ยเรียบๆ

“โห... มาอยู่กะกูแค่ไม่กี่วันก็จะไปหาไอ้เฟรมต่อละ ใจง่ายนะมึงอะ”

“เออ... จะให้กูอยู่บ้านมึงไปตลอดรึไงล่ะไอ้นี่”  คนพูดหันไปทำปากเป็ดใส่เพื่อนซี้ที่กำลังจัดที่นอนให้อยู่ ฟูกนิ่มถูกลากมาไว้ข้างๆ เตียงนอนของเจ้าของห้อง

“มึงนอนกะไอ้เฟรมสองคนพอไหมวะ?”  โปเต้พยักเพยิดหน้าไปทางฟูกขนาดไม่ใหญ่นักที่เพิ่งเอามาปู  ที่จริงมันเหลือเฟือสำหรับคนคนเดียว แต่เพราะวันนี้เฟรมนึกอยากมานอนค้างด้วยเขาเลยถาม  คชาทำท่าคิดอย่างชั่งใจ กำลังจะบอกอีกคนว่าไม่เป็นไร หากแต่ก็ถูกชิงพูดเสียก่อน  “กูไปเอามาอีกอันละกัน เดี๋ยวพวกมึงได้เสียกันในห้องกู”

   “ทะลึ่งละไอ้เต้”

“ทะลึ่งอะไร กูหมายถึงได้เสียใจเพราะนอนเบียดกัน”

โปเต้ใช้นิ้วชี้ดันแว่นตาพลางยิ้มกริ่ม คชาไม่ตอบทว่าขมวดคิ้วทำหน้าย่นใส่ หากแต่พออีกคนเดินจากไป ใบหน้านั้นก็เผยรอยยิ้มบางเบาออกมา หากแต่ดวงตากลับดูไม่สดใสอย่างที่ควรจะเป็น





   เฟรมมาถึงในเวลาไม่นานหลังจากนั้น เกมเพลย์สเตชั่นถูกหยิบขึ้นมาวางเตรียมพร้อมเล่น  ถึงแม้จะมีจอยสติ๊กเพียงแค่สองอัน ทว่าทั้งสามก็สนุกไปกับมันแม้จะต้องสลับกันเล่น

   “เล่นท่าอะไรวะไอ้เต้”

   “ท่าน้ำนนท์มั้ง”

   “หรอ.. คิดว่าท่าพระจันทร์ซะอีก”

   “แต่กูว่าพวกมึงท่าจะบ้าแล้วว่ะ”

   เสียงหัวเราะดังขึ้นเป็นระยะแม้เกมที่เล่นจะเป็นเกมต่อสู้... กว่าทั้งสามคนจะได้เข้านอนก็เป็นเวลาย่างเข้าวันใหม่เสียแล้ว  เครื่องเกมถูกเก็บเข้าแบบลวกๆ  โปเต้หันไปจัดที่ผ้าห่มของตนเองให้เรียบร้อย คชาลุกไปเข้าห้องน้ำ ส่วนเฟรมกำลังสวดมนต์

“ชา... มึงย้ายมากะทันหันแบบนี้ มีเรื่องอะไรรึเปล่าวะ?”  เสียงทุ้มของโปเต้ตะโกนถามเพื่อนที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล  คชาที่ล้างมืออยู่ยืนนิ่งทบทวนคำถามนั้น

“ไม่มีอะไร”  คำตอบสั้นๆ ถูกกล่าวออกไป

“มันต้องมีดิ... เกี่ยวกับไอ้เด็กบัญชีคนนั้นใช่ไหมวะ?”  คนในห้องน้ำค่อยๆ เงยหน้ามองตัวเองในกระจก แม้เขาจะล้างมือเสร็จแล้วแต่ยังกลับปล่อยให้น้ำไหลผ่านมือต่อไป  เขาไม่อยากเดินออกไปตอบคำถามนี้พลางมองหน้าคนถามไปด้วย

“ไม่มีอะไรทั้งนั้นแหละ”  คชาตอบด้วยคำพูดเดิมๆ อีกครั้ง

“ปากแข็ง... แพรวาบอกว่ามันต้องเกี่ยวกับเด็กบัญชีคนนั้นแน่ ใช่ไหมไอ้เฟรม?”

“เออ... วันนี้ตอนเย็นกูไปส่งแพรวาที่หอมา เจอไอ้นั่นเดินออกมาจากหอด้วย / ต้องไปหามึงแน่ๆ เลยว่ะไอ้ชา”

ร่างเล็กที่เดินออกมาจากห้องน้ำพอดีถึงกับชะงักมองเพื่อนทั้งสองเมื่อได้ยินอย่างนั้น  “มึงมั่วแล้ว”  เขายังตอบปฏิเสธสั้นๆ อีกเช่นเคย

“มั่วอะไร เห็นอยู่กับตา... แพรบอกด้วยว่าเคยเห็นแกอยู่กับไอ้หมอนั่นบ่อยๆ”

“เดี๋ยวนี้สนิทกับแพรวาจังนะเฟรม...ไปส่งที่หอด้วย กุ๊กกิ๊กกันรึเปล่าวะ?”

“ไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่องเลยไอ้ชา”  เฟรมพูดขึ้นอย่างคนรู้ทัน หากแต่ใบหน้ากลับขึ้นสีแดงจางๆ  “เป็นมึงมากกว่าที่กิ๊กกั๊กกะไอ้เต๋านั่น... วันนี้ในคาบมันเกิดอะไรขึ้นวะ?”

ใบหน้าเพื่อนทั้งสองหันมามองเขาด้วยสายตาคาดคั้น... หากแต่นัยน์ตานั้นเจือปนด้วยความเป็นห่วงเอาไว้  คชารู้ดีว่าเพื่อนๆ ต่างพากันเป็นห่วงแค่ไหน  แต่เรื่องนี้...เขาจัดการเองได้

“กูเลือกทางที่ดีที่สุดแล้ว พวกมึงไม่ต้องห่วงหรอก”
คนตัวเล็กพูดพลางเดินไปปิดไฟในห้องนอนสีขาวลงจนมืดสนิท  ก่อนจะล้มตัวลงนอนพลางคลี่รอยยิ้มจางๆ ในความมืดนั้น เขาเอื้อมมือไปตบบ่าเจ้าของห้องที่นอนอยู่บนเตียง ก่อนจะหันไปหาเพื่อนซี้อีกคนที่ล้มตัวลงนอนข้างๆ กัน

   “ขอบใจมากนะ... ไอ้เต้ไอ้เฟรม”





- - -





   สนามกีฬาในร่มของมหาวิทยาลัยในยามเย็นเริ่มคลาคล่ำไปด้วยนักศึกษา คงเพราะผลพวงจากกีฬาเฟรชชี่ที่ต้องแข่งขันกันหลายรายการ ทั้งบาสเกตบอล วอลเล่ย์บอล ว่ายน้ำ ยูโด หรือแม้แต่มวย ทุกสนามในเวลานี้จึงเต็มไปด้วยนักศึกษาที่ทั้งกำลังแข่งขันและกำลังซ้อมกันอยู่อย่างขะมักเขม้น

   “ไอ้เบน... ตั้งใจเล่นหน่อยสิวะ! เอะอะก็วิ่งไปหาบอสตลอด ไม่ตั้งใจซ้อมมันเสียเวลาคนอื่น อยากแพ้เหมือนบอลเมื่อวานหรือไง”

   “กูไปขอกำลังใจจากแฟนหน่อยไม่ได้รึไง เขาเพิ่งหายงอนกูเนี่ย  หงุดหงิดมาจากไหนวะไอ้เต๋า เป็นไรของมึงวะ!?”

   หนุ่มลูกครึ่งฝรั่งปะทะคำพูดด้วยภาษาไทยคล่องปรื๋อกับเพื่อนร่างสูงที่ยืนทำหน้าเครียดใส่ตรงหน้า ...เขาก็แค่วิ่งช้านิดเดียว แวบไปหาบอสที่ข้างสนามเสียหน่อยแค่นี้ และที่สำคัญมันก็เป็นเพียงแค่การซ้อมกีฬาบาสเกตบอลสำหรับเตรียมแข่งขันในวันศุกร์ซึ่งก็อีกตั้งหลายวัน  ส่วนไอ้เรื่องการแข่งขันฟุตบอลเมื่อวานที่แพ้ ก็สมควรอยู่หรอกเพราะดันไปเจอกับทีมคณะวิทย์กีฬาที่มีตัวเก็งทีมชาติอยู่หลายคนน่ะสิ

   “ช่วงนี้มึงเป็นอะไรวะ?”  เบนถามต่อเมื่อเห็นอีกคนกำลังพยายามสกัดกลั้นอารมณ์พุ่งพล่านที่เขาไม่ทราบสาเหตุเอาไว้ ...ไอ้เต๋าคนนี้น่ะ เป็นเพื่อนกับเขามาก็ตั้งแต่มัธยม นับครั้งได้เลยที่มันจะอารมณ์เสียใส่คนอื่นอย่างไร้เหตุผลแบบนี้ ปกติมันใจเย็นจะตาย

   “เออ... กูอารมณ์ไม่ค่อยดี”  เสียงทุ้มเอ่ยออกมา หันไปมองหน้าแฟนเพื่อนที่เพิ่งเดินมาสมทบก็ถอนหายใจออกมาแรงๆ ก่อนจะปลีกตัวออกไป

   เหมือนเกินไป... ทรงผมใหม่ของบอส ทำให้เขานึกถึงใครอีกคน.... เพียงเท่านั้นอารมณ์ความหงุดหงิดบางอย่างมันก็ถูกระบายออกมาแบบนี้ ทั้งที่สะกดมันมาได้ตลอดสองสามวันที่ผ่านมา

   สุดท้าย สองขาของเขาก็นำพาเข้ามาในห้องน้ำ เขาสบตาคู่คมของตนเองในกระจกบานใหญ่ น้ำเย็นๆ จากก๊อกน้ำถูกปล่อยให้ไหลผ่านมือหนาคู่นั้น ก่อนจะใช้มันวักน้ำใส่หน้าตัวเองแรงๆ ราวกับจะให้สายน้ำดับความรู้สึกของตัวเองลง

   ใจนึง... เขายังโกรธ ยังเจ็บปวดเมื่อนึกถึงเรื่องราวทั้งหมด หากแต่อีกใจมันกลับทั้งคิดถึง ทั้งเป็นห่วง

   สามวันแล้วที่คนคนนั้นจากไป... ย้ายจากห้องนั้นแล้วไปอยู่ที่ไหน? ป่านนี้จะทำอะไรอยู่?


   “เล่นไรวะไอ้เต้!”

   “อ้าว มึงบอกร้อนนี่”

   “ไม่ได้บอกให้สาดน้ำใส่ซะหน่อย เปียกไปทั้งตัวหมดแล้ว”

   สองเสียงที่คุยกันดังก้องในห้องน้ำนั้นทำเอาคนที่ก้มลงล้างหน้าต้องนิ่งค้างเพื่อเงี่ยหูฟังให้แน่ใจ

“ก็ไหนบอกอยากอาบน้ำไง”

   “เออ กูอยากอาบน้ำ แต่ไม่ได้อยากโดนสาดน้ำใส่ว้อย นี่ไม่ใช่สงกรานต์นะไอ้เต้”

และเมื่อเสียงนั้นเริ่มดังเข้ามาใกล้... ก็ยิ่งชัดเจนว่าหนึ่งในเสียงนั้นเป็นของใครคนนึงที่เขาคิดถึงแทบตลอดเวลา  ใบหน้าขาวจัดเงยขึ้นมาก็เห็นใบหน้าของใครคนนั้นผ่านกระจกสะท้อนตรงหน้า คนตัวเล็กสวมชุดกีฬาอย่างคนมาออกกำลังกาย เนื้อตัวเปียกชุ่มอย่างที่ว่าในบทสนทนาเมื่อครู่

เพียงไม่กี่เมตรถัดมา ที่ชายืนอยู่จากตรงนี้

   เพียงไม่กี่วินาทีถัดมา ที่แววตาคู่นั้นประสานมองเขาผ่านกระจกเช่นเดียวกัน  และแววตาสดใสคู่นั้นก็แปรเปลี่ยนเป็นความนิ่งเฉยได้ในเวลาเพียงชั่วอึดใจ  ก่อนจะเสมองไปในทิศอื่นเหมือนไม่เคยมีเขาอยู่ในสายตา

   ราวกับว่าไม่มีตัวตน ราวกับไม่ใช่คนรู้จักกัน

   “กลับบ้านกันเหอะว่ะเต้”

   “เออๆ”


   สองคนเดินออกจากห้องน้ำนั้นไปแล้ว เขาทำได้เพียงมองตามแผ่นหลังบางนั้นไป  เสื้อสีน้ำเงินหมายเลข 3 กับคำว่า ‘KACHA’ บนเสื้อ คงจะเป็นคำตอบได้

   ไม่มี ‘ชาค่ะ’ อีกต่อไป... จะเหลือก็เพียง ‘คชา’

   และเสียงหัวเราะแว่วๆ ที่ได้ยินลอยมาก็ทำให้เขารู้ว่า คชาคนนั้นมีความสุขมากเพียงใด

   เขายืนมองใบหน้าอันเรียบเฉยของตนเองในกระจก.... หมดห่วงไปได้ คชาไม่เป็นเดือดเป็นร้อนเลยกับการไม่มีคนชื่อ ‘เต๋า’ อยู่ในชีวิต

ดีจังนะ ...สักวันเขาเองก็คงจะยิ้มออกมาแบบนี้ได้เหมือนกัน

   สักวัน...




   แต่เต๋ากลับลืมนึกไป... แม้แต่กระจกเงาที่สะท้อนภาพทุกอย่างอย่างตรงไปตรงมา ภาพของมันยังกลับด้านซ้าย-ขวาเสมอ
นับประสาอะไรกับภาพตรงหน้านี้เล่า





- - -






   เพราะการพบกันอย่างไม่คาดฝันมันทำเอาเขาไม่ทันได้ตั้งตัว  ใบหน้าเฉยชาและเจ็บปวดของอีกคนยังคงติดตรึงอยู่ในโสตประสาท  มันน่าเศร้าที่ภาพสุดท้ายในความคิดเราไม่ได้มีแม้แต่รอยยิ้มให้กัน  เต๋าคงยังโกรธเขามากเรื่องนั้น ซึ่งมันก็สมควรแล้ว

   แต่การที่เขาเลือกจะหลีกหนีและหมางเมิน มันก็สมควรแล้วเหมือนกัน... การรักเพศเดียวกันมันไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้องหรอก และเขาก็คิดว่าอีกคนคงจะเข้าใจเรื่องนี้ดี

   ก่อนที่มันจะลุกลามมากเกินไป เขาจึงต้องตัดไฟแต่ต้นลม

   ถ้ารู้ว่ายิ่งใกล้ยิ่งทำให้รัก... แล้วจะอยู่ใกล้กันไปทำไม?


   “ชา... เป็นไรวะ?”

   “เปล่า”

   ตะเกียบในมือซ้ายยังคงทำหน้าที่คีบเส้นในจานได้เป็นอย่างดี  คนตัวเล็กสูดเส้นราเมนในชามเข้าปากพลางมองอะไรไปเรื่อยเปื่อย
   วันนี้ เขากับเพื่อนๆ มาหาอะไรกินกันต่อเพราะโปเต้ทนหิวรอไปกินที่บ้านไม่ไหว คนอื่นๆ ก็หิวเพราะออกกำลังกายกันอย่างเต็มที่  และเขาที่ไม่ใช่คนมีปากมีเสียงอะไรก็เออออตามเพื่อนไปเหมือนทุกครั้ง มารู้ตัวอีกที... ก็มานั่งอยู่ในร้านอาหารร้านนี้แล้ว

   และมันเป็นร้านเดิม ร้านเดียวกับที่เคยมาด้วยกันวันนั้น...วันที่ฝนตกชุ่มฉ่ำในหัวใจ

   “ชา... เป็นไรวะ? มีความหลังกับร้านนี้รึไง?”  เฟรมเป็นฝ่ายถามขึ้นมา และมันก็เรียกสติจากคนที่ใจกำลังหลุดลอยได้เป็นอย่างดี 

“เดี๋ยวนะไอ้เต้...ร้านที่มีคนเห็นไอ้ชามากินกับหนุ่มบัญชีมันร้านนี้รึเปล่าวะ?”

   “ไม่รู้ว่ะ แต่กูว่าชัวร์... นี่มึงกับไอ้เต๋ายังไม่เคลียร์กันอีกหรอวะ? วันนี้เจอกันในห้องน้ำก็ไม่เห็นทักทาย”

   “อะไรนะชา... เจอเต๋าด้วยหรอ?”  แพรวาซักขึ้นอย่างสนอกสนใจ จะว่าไป...แพรวาอาจจะเป็นคนที่รับรู้เรื่องนี้มากที่สุดแล้วก็เป็นได้

   “อือ ก็เจอกันเฉยๆ ไม่มีอะไรหรอก”  เขาบอกปัดไป... มันก็ไม่มีอะไรจริงๆ ไม่ใช่หรอ? แค่มองหน้ากันแปปเดียวแล้วก็เดินออกมา ไม่มีบทสนทนาหรือแม้แต่คำพูดสักคำ

   “ชา... มีปัญหาอะไรบอกแอ้นได้นะ”  หญิงสาวฉีกยิ้มหวานให้แก่เพื่อนที่นั่งหน้านิ่งอยู่ตรงหน้า  และมันก็ทำให้คนได้รับต้องส่งยิ้มบางๆ กลับไป  แต่นั่นกลับดูน่าหงุดหงิดในสายตาเพื่อนคนอื่นๆ ซะเหลือเกิน... มัวแต่นั่งอมพะนำบอกปัด แล้วก็ทำท่ายิ้มเศร้าๆ แบบนี้เนี่ยนะ! 

ท่ามกลางสายตาหลายคู่ที่มองมาอย่างคาดคั้น  ใบหน้าหวานทำเสมองไปที่กำแพงไม่ไกล โพสอิทมากมายเรียงรายกันอยู่บนกำแพง  บ้างก็ให้กำลังใจ ชื่นชมอาหารของทางร้าน  แต่บ้างก็ดูจะเขียนเป็นการส่วนตัวไปสักหน่อย เขียนบอกรักนักร้องขวัญใจบ้างล่ะ บอกรักแฟนบ้างล่ะ

   ดีนะ... ที่วันนั้นเขาไม่ได้เขียนอะไรแปะลงไป เพราะดูจะเป็นการสร้างความทรงจำให้มันมากมายไปกว่าเดิม

   คชาทำเมินคำถามที่เพิ่มขึ้นจากเพื่อนๆ ที่นั่งอยู่ แสร้งทำเป็นอ่านกระดาษใบเล็กสีแสบตาเหล่านั้นอย่างสนอกสนใจ  ทั้งๆ ที่ไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับตัวเขาเลย

   ‘ไม่สมัครวันนี้ วันอื่นก็ได้... รออยู่นะ  - TAO’
   แน่ใจจริงหรอ...ว่าไม่เกี่ยว?


   โพทอิทสีเขียวมะนาวอันนั้นแม้อ่านเพียงรอบเดียวเขาก็จำมันได้ขึ้นใจ... ไม่รู้ว่าวันนั้นอีกคนแอบไปเขียนมันเมื่อไหร่ แต่ก็คงเป็นหลังจากที่ให้ใบสมัครอันนั้นกับเขาล่ะมั้ง

   นึกดูแล้ว... มันน่าเศร้าพิกล


   “เป็นไรอีก ดูทำหน้าเข้า”

   “กูจะงอนแล้วนะ มีอะไรไม่ยอมบอกเพื่อนฝูงเนี่ย”

   เพื่อนๆ กลุ่มเดิมยังคงสังเกตสังกาคนตัวเล็กที่ทำหน้านิ่งได้เป็นอย่างดี  คชายิ้มบางๆ ให้กับทุกคนราวกับจะบอกว่าไม่เป็นไร  หากแต่นัยน์ตาคู่นั้นกลับไม่ยิ้มด้วยเลย 

   “ชา... มีอะไรรึเปล่า? อยากให้แอ้นช่วยไหม?”

   แอ้นถามขึ้นด้วยความเป็นห่วงอีกครั้ง  คชายิ้มรับ หากแต่ขมวดคิ้วและจ้องมองคนตรงหน้าอย่างครุ่นคิด

   “มี... แอ้นช่วยอะไรเราหน่อยสิ”  และคำตอบนี้ทำเอาทุกคนบนโต๊ะต้องหันมาฟังอย่างใจจดใจจ่อ เพราะในที่สุด เจ้าตัวปัญหาก็ยอมแพล่มออกมาสักที

   ร่างเล็กสูดหายใจเข้าลึก ก่อนจะผ่อนมันออกมาอย่างช้าๆ ไม่เร่งรีบ  สมองนึกทบทวนคำพูดที่กำลังจะเอ่ยออกมาอีกที
   เขาแน่ใจ...


   “แอ้น... เป็นแฟนกับคชาได้ไหม?”

   แน่ใจ... ว่านี่เป็นทางออกที่ดีแล้วจริงๆ

   
   






TBC

ขอบคุณทุกคนมากๆจ้าที่ติดตาม >w<
อ่านแล้วเป็นยังไงติชมกันได้นะ

 :really2:

ออฟไลน์ cher7343

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1686
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-4
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 15 หน้า 6 (up 28Jun)
«ตอบ #147 เมื่อ28-06-2012 09:43:46 »

 :sad4: :sad4:
แง เราไม่ไหวแล้วนะ ตอนนี้เต๋าน่าสงสารมากกกกกกกกก
ชาอย่าทำแบบนี้ มันไม่ใช่แค่ทำร้ายตัวเองและเต๋านะ มันเป็นการทำร้ายแอ๊นด้วย


ฮือออออออออออออ
 :เฮ้อ: เมื่อไหร่จะกลับไปเป็นเหมือนเดิม

คนเขียนมาต่ออีกไวๆนะ เป็นกำลังใจให้จ้า

ออฟไลน์ bangkeaw

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 567
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-4
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 15 หน้า 6 (up 28Jun)
«ตอบ #148 เมื่อ28-06-2012 10:10:15 »

ในขณะที่เต๋าไม่ได้โกรธมาก และอยากให้กลับไปเป็นเหมือนเดิม
แต่กลับเป็นคชาที่วิ่งหนีไปซะงั้นอ่ะ ฮือออออ
เต๋าต้องจับตัวคชามาคุยให้รู้เรื่องแล้วล่ะ

[newZy]CASS

  • บุคคลทั่วไป
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 15 หน้า 6 (up 28Jun)
«ตอบ #149 เมื่อ28-06-2012 10:41:50 »

คชานายทำร้ายเต๋าทำไม TT

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด