♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: P.15 ซื้อรวมเล่มได้ที่งานตลาดฟิค 22มีนา บูธ H2-3
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: P.15 ซื้อรวมเล่มได้ที่งานตลาดฟิค 22มีนา บูธ H2-3  (อ่าน 138059 ครั้ง)

ออฟไลน์ Sorso

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 795
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-3
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 08 หน้า 4
«ตอบ #90 เมื่อ04-06-2012 23:43:05 »

เอาล่ะสิ พระเอกยังไม่รู้เลยอ่า...

ออฟไลน์ aloney

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 743
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-4
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 08 หน้า 4
«ตอบ #91 เมื่อ04-06-2012 23:48:19 »

กรี๊ด ด ด
สวนด น่ารักมาก ก
ชอบคู่นี้ง่ะ ><

ออฟไลน์ choijiin

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2082
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +445/-5
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 08 หน้า 4
«ตอบ #92 เมื่อ04-06-2012 23:48:38 »

แอบสงสารเต๋านิดนึง
ยังไม่ทันรู้ตัวเลยว่าชอบชาค่ะ
น้องคชาของเราก็จะจรลีออกจากหอซะแล้ว
 :o12:

[newZy]CASS

  • บุคคลทั่วไป
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 08 หน้า 4
«ตอบ #93 เมื่อ04-06-2012 23:51:46 »

 :L1: :pig4:


รอติดตามตอนต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ jimmyFG

  • Ich Liebe dich.
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2276
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +203/-4
    • @Facebook
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 08 หน้า 4
«ตอบ #94 เมื่อ04-06-2012 23:59:23 »

โอ้ยยิ่งอ่านยิ่งลุ้น แต่ไม่ไปอ่านที่เด็กดีหรอก จะรออ่านที่นี่

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 08 หน้า 4
«ตอบ #95 เมื่อ05-06-2012 00:27:47 »

กดน้ำร้อนชงมาม่า :sad4:

ออฟไลน์ bangkeaw

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 566
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-4
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 08 หน้า 4
«ตอบ #96 เมื่อ05-06-2012 16:15:25 »

ชาคะ จะไปจากหอนี้ซะแล้ว จะทำยังไงดีล่ะ

iDistort

  • บุคคลทั่วไป
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 08 หน้า 4
«ตอบ #97 เมื่อ05-06-2012 21:22:28 »

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: น่ารักดีคับ อยากอ่านต่อแล้วว ยาวๆๆเลยได้ไหม 555

bozang

  • บุคคลทั่วไป
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 08 หน้า 4
«ตอบ #98 เมื่อ06-06-2012 00:16:02 »

♀ TOM (or) BOY ♂
09








ช่วงเวลาเย็นใกล้ค่ำแบบนี้คงเป็นเวลาดีที่เหล่านักเรียนนักศึกษา รวมถึงเหล่าคนทำงานต่างก็เสร็จสิ้นภารกิจของตน  จึงไม่แปลกที่ผู้คนมากมายจะเดินสวนกันไปมาในห้างสรรพสินค้าชื่อดังใจกลางเมืองแห่งนี้  ซึ่งกลายเป็นสถานที่นัดพบของคนอีกคู่หนึ่ง
ไม่ใช่คู่รัก หรือจะบอกว่าเพื่อนซี้ก็คงไม่ใช่... เพราะเป็นลูกเจ้าของหอ กับคนเช่าห้องเบอร์ 23 ที่กลายมาเป็นที่ปรึกษาในการเลือกซื้อของให้กับสาวในฝันนามว่า แพรวา เท่านั้นเอง

และด้วยนัดกันในสถานที่แบบนี้  ความตั้งใจของคชาที่จะยกเอากาต้มน้ำไปคืนจึงต้องเป็นอันยุติลงชั่วคราว…

คชาในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์ง่ายๆ สวมเสื้อคลุมอีกตัวทับเพื่อปิดบังหน้าอกแบนราบแบบผู้ชายก้าวเท้าเข้ามาหาคนที่ยืนรออยู่ก่อน  เต๋ายังอยู่ในชุดนักศึกษาสถาบันเดียวกับเขา สะพายกระเป๋าเป้สีดำเพราะเพิ่งเลิกเรียน

พอเห็นแบบนี้ คนตัวเล็กก็เพิ่งนึกได้... เกือบสองอาทิตย์ที่ผ่านมา นี่เป็นการเจอกันครั้งแรกที่ไม่ใช่บริเวณแถวๆ หอพัก
ตอนแรกไม่อยากสุงสิงด้วยไม่ใช่หรอ? แล้วทำไมถึงเลยเถิดมาได้ขนาดนี้?

“ว่าไงชา จะซื้ออะไรให้แพรวาดี?”  เต๋าหันมาถามอีกคนที่เดินตามหลัง ชะลอให้เพื่อนทอมมาเดินอยู่ข้างๆ กัน  “นี่เป็นของชิ้นสำคัญเลยนะ”

เห็นท่าทีกระตือรือร้นของอีกคนอย่างนั้น คำพูดของแพรวาเมื่อตอนบ่ายก็แล่นเข้ามาในหัว 

‘ฝากไปบอกเขาด้วยละกันว่าแพรวามีคนที่ชอบอยู่แล้ว เลิกทำอะไรบ้าๆ สักที’
จะบอกเต๋าแบบนี้ได้ยังไง?... ขนาดคนอื่นอย่างเขา ฟังแล้วยังสะอึกเลย

“เป็นไรชา? ไม่สบาย?”  เห็นสีหน้าไม่ค่อยสู้ดีของอีกคน เต๋าจึงถามขึ้นมา และยิ่งเห็นอีกคนยืนนิ่งแบบนั้น  เลยถือโอกาสยกหลังมือแตะหน้าผากอีกคนเบาๆ  “ตัวก็ไม่ร้อนหนิ หรือว่า...”

“เวียนหัวแพ้ท้องรึเปล่า? ตกลงนี่ลูกของเราจริงๆ หรอ?”  กลับมาพูดจาทะเล้นใส่ซะจนคชาต้องขมวดคิ้วเบะปากค้อนให้อย่างที่เคยทำประจำ  ที่ทำท่าอ้วกใส่วันนั้น เต๋ามันยังเอามาเล่นจนถึงวันนี้!

“ท้องก็บ้าแล้ว!”  ท้องไม่ได้ว้อย! เขาโวยเสียงใส กระฟัดกระเฟียดใส่ซะจนอีกคนหัวเราะออกมาเบาๆ

“นั่นสิ ตัวก็แค่นี้... ว่าแต่หิวยัง จะกินอะไรเดี๋ยวเลี้ยงเอง”

“อ้าว... ไม่ซื้อของให้แพรวาแล้วรึไง?”

“หลังกินเสร็จก็ได้ นี่หกโมงแล้ว เวลาอาหารพอดี... เอาร้านนี้ละกันขี้เกียจเดิน”  พูดพลางเดินนำไปยังร้านอาหารญี่ปุ่นที่อยู่ในระดับสายตา ก่อนจะหันมาถามความเห็นอีกคน

“กินได้ใช่ไหมชา?”

“อือ”

“โอเคนะ... เดี๋ยวสั่งของเปรี้ยวมาให้”

“เต๋า!!!!!”





หลังจากสั่งอาหารเป็นที่เรียบร้อย คชาก็มองเหม่อผ่านกระจกใสออกไปนอกร้าน หากแต่สมองยังคิดทบทวนเรื่องเดิมซ้ำไปซ้ำมา... คำพูดของแพรวา กับกาต้มน้ำอันนั้น

“เออเต๋า...กาต้มน้ำนั่น”  บางทีเรื่องนี้อาจจะพูดง่ายกว่า  “คือ...”  ทว่าพูดได้เท่านั้นเขาก็นิ่งไปเพราะไม่รู้จะต่อยังไงดี

เดี๋ยวเราเอาไปคืนนะ เพราะเราว่าจะย้ายหอพอดี... คำพูดแค่นี้ที่ปากไม่ยอมทำงาน
หรือเพราะหัวใจมันไม่ยอมสั่งการเสียมากกว่า

แต่เพราะความเงียบทำให้คนตีความไปอีกอย่าง...  “จะขอบคุณ? ไม่เป็นไร เรื่องแค่นี้”  เสียงทุ้มเอ่ย แม้ปากไม่ได้ยิ้มกว้างแต่แววตาก็สื่อถึงความยินดี

“ยกอันเก่าของที่บ้านมาให้น่ะ ลองดูก่อนว่าใช้ได้ไหม ถ้าไม่ได้ค่อยว่ากันอีกที”  พูดพลางหันไปสนใจน้ำชาที่พนักงานเสิร์ฟเพิ่งเอามาให้ ดันแก้วหนึ่งไปไว้ตรงหน้าอีกฝ่าย ก่อนจะดูดชาเขียวจากแก้วของตัวเอง

“ชาค่ะ... ไว้วันหลังชงชาให้กินมั่งสิ”  เหมือนพูดเล่น แต่คนพูดน่ะแอบคิดจริง

“เราคงไม่ได้อยู่ชงแล้วล่ะ”

เพียงคำพูดสั้นๆ แค่นั้น การกระทำทุกอย่างก็หยุดเคลื่อนไหว เต๋านิ่ง มองหน้าอีกฝ่ายอย่างไม่เข้าใจ ก่อนจะถามออกมา

“หมายความว่าไง?”

“เราว่าจะย้ายหอน่ะ”

“ย้ายทำไม? ที่นี่ไม่ดีตรงไหน?”

ตอบไม่ได้... ถึงหอพักเพียงพอจะไม่สมบูรณ์แบบแต่ก็ไม่ได้ถึงขั้นเลวร้าย แถมเกือบสองอาทิตย์ที่เขามาอยู่ก็เริ่มเรียนรู้ที่จะปรับตัวให้คุ้นชิน

“อยากดูทีวี? อยากเล่นเน็ต?”
ได้ยินอีกฝ่ายถามก็พยักหน้าเออออตามไป ทั้งๆ ที่ใจไม่ได้ต้องการมันขนาดนั้นเลย

“ก็มาบ้านฉันสิ มีทุกอย่างนั่นแหละ”  เว้นไปไม่กี่วิก็พูดต่อ  “อยากได้พัดลมด้วยใช่ไหม? เดี๋ยวพาไปซื้อเดี๋ยวนี้เลย”

ใครจะคิดว่าคำตอบของเศรษฐพงศ์จะง่ายแค่นี้… เขาไม่รู้เลย... สิ่งที่ว่ามาไม่เกี่ยวกับเหตุผลที่เพื่อนทอมคิดย้ายหอเลยสักนิด แต่ที่อีกคนต้องไปเพราะไม่ควรมาอยู่แต่แรกแล้วต่างหาก

หอพักหญิงก็คือหอพักหญิง... จะมีผู้ชายมาอยู่ได้ยังไง?

อาหารจานแรกที่มาเสิร์ฟทำให้บทสนทนาเว้นวรรคลงชั่วคราว  คชานั่งนิ่งหากแต่ลนลานอยู่ข้างใน ไม่รู้จะจัดการยังไงเพราะไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะมีท่าทีแบบนี้

“แค่เราคนเดียว หอไม่ขาดรายได้หรอก”  ร่างเล็กพูดต่อเมื่อสรรหาคำพูดออกมาได้

“แล้วคิดว่าฉันอยากได้เงินหรือไง!”  เต๋ากระชากเสียงตอนท้ายซะจนอีกฝ่ายสะดุ้งโหยง  ตาคู่คมมองสีหน้าจ๋อยๆ ของอีกคนแล้วก็พ่นลมหายใจออกมาแรงๆ
แล้วจะโมโหไปทำไมวะ? ก็แค่คนคนเดียว

“แล้วจะไปอยู่ที่ไหน?”

“ไม่ไกลจากหอเดิมนักหรอก เพื่อนหาให้” 

“จะย้ายเมื่อไหร่?”

“เร็วๆ นี้แหละ”  เร็วที่สุด...เท่าที่จะเร็วได้

“เดี๋ยวช่วยขนของ”

“ไม่เป็นไร”

“ก็บอกจะไปช่วยไง”  เอ่ยเสียงทุ้มเหมือนปกติหากแต่สายตาดุดันอย่างควบคุมไม่ได้ เขาก้มลงดูดน้ำเย็นๆ ในแก้วเผื่อมันจะช่วยคลายความหงุดหงิดลง แล้วจึงหันไปสนใจอาหารในจาน เพื่อเบนความคิดของตัวเอง

อาหารอีกจานที่สั่งถูกนำมาเสิร์ฟในตอนนั้นพอดี ทั้งสองคนจึงหยุดบทสนทนาแล้วลงมือทานแทน  มันคงเป็นมื้ออาหารที่อึดอัดที่สุดของทั้งคู่เมื่อต่างคนต่างเงียบ  หลายครั้งที่คชาแอบมองสังเกตท่าทีของอีกฝ่าย แต่เมื่อถูกจับได้ก็รีบหลบสายตาทันที

“เอ่อ... แล้วของที่ให้แพรวา จะให้เมื่อไหร่อะ?”  คชาเป็นฝ่ายถามเมื่อทานข้าวไปได้เกินครึ่งจาน... ไม่ใช่แค่อยากชวนคุยเท่านั้น แต่เพราะนึกถึงอีกฝ่ายด้วยจริงๆ

“พรุ่งนี้... ให้พร้อมกับบอกเฉลย ว่าฉันเป็นเจ้าของขนมพวกนั้นเอง”

“แค่นั้น?”

“ก็คงบอกชอบ ต่อจากนั้นก็คงต้องดูว่าแพรวาจะว่าไง”

เขาชะงักไปชั่วครู่เมื่อได้ยินคำพูดของเต๋า... เห็นสีหน้าที่ดูจะมีความหวังบางอย่าง ไม่ได้ดูหงุดหงิดเหมือนยี่สิบนาทีก่อนหน้านี้เลย

แม้จะดีใจที่อีกฝ่ายเลิกอารมณ์เสีย แต่ยังอดกังวลไม่ได้... ถ้าเต๋าถูกปฏิเสธกลับมา... ไม่สิ ยังไงเต๋าก็ต้องถูกปฏิเสธแน่ๆ อยู่แล้ว ...กับผู้หญิงมั่นใจในตัวเองอย่างแพรวา

เขาควรจะบอกเต๋าก่อนไหม? แต่ตอนนี้ เขาไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นพูดยังไงเลยจริงๆ

“จะซื้ออะไรไปสารภาพรักดี... ชาค่ะ พวกผู้หญิงเขาชอบอะไรกัน?”

“หา...”  ในเมื่อเขาไม่ใช่ผู้หญิง เขาควรตอบว่าอะไร  “ดอกไม้มั้ง”  ผู้หญิงทุกคนน่าจะดีใจไม่ใช่หรอเวลาที่ได้ดอกไม้

“แล้วเธอชอบดอกไม้อะไร?”

“ถามเรา? ดอกไม้? ...ดอก..มะลิ”  คิดยังไงก็พูดออกไปโดยทันที  เขาชอบดอกมะลิ ดอกไม้ดอกเล็กๆ สีขาวบริสุทธิ์หอมเบาบางที่ทำให้นึกถึงครอบครัว
ไม่รู้ตัวเลย รอยยิ้มบางเบาของเขากำลังทำให้อีกฝ่ายหลุดยิ้มจางๆ ออกมาเช่นกัน

“อะไรชาค่ะ... อยากเป็นแม่คนหรอ?”

“จะบ้าหรือไง! ก็กลิ่นมันหอมดี”  เบะปากพูดออกมาอย่างเคย... เพราะบ้านที่โคราชปลูกไว้ แล้วเขากับน้องก็ชอบไปเก็บมาเอาให้แม่ตอนวันแม่ต่างหาก

“อืม... แล้วเธอว่าอย่างแพรวาจะชอบดอกไม้อะไร?”

“แพรวา...”  หยุดคิดไม่นานก็ตอบออกไป  “ไม่รู้สิ รู้แต่แพรวาชอบสีชมพู”

“ชมพูหรอ... งั้นกินเสร็จไปซื้อกัน”






กลิ่นหอมของเหล่ามวลหมู่ดอกไม้หลายสิบชนิดที่ปรุงผสมปนเปกันพาให้คนทั้งสองที่เดินเข้ามาใหม่อดรู้สึกสดชื่นตามไม่ได้ โดยเฉพาะคนตัวเล็กที่เหลียวซ้ายแลขวามองดูดอกไม้รูปร่างแปลกตาที่พากันอวดโฉมไปทั่วทุกมุมร้าน

“เอาแบบไหนดีชา?”  เต๋าหันไปถามอีกคนที่กำลังมองสำรวจทั้งหมดนั่นอย่างสนอกสนใจ  ส่วนตัวเองก็มองสอดส่องแบบที่ต้องการไปด้วยอีกเช่นกัน  แต่ก็ละลานตาไปหมดเสียจนเลือกไม่ถูกเลย

“ไม่ทราบว่าจะเอาไปให้ในโอกาสไหนคะ?... เลือกให้ตามความหมายก็ดีนะคะ”  พนักงานสาวกล่าวกับทั้งคู่ด้วยน้ำเสียงสดใส เธอลุกออกจากเคาท์เตอร์ของร้านเดินตรงมาหาลูกค้าทั้งสองคน  “ดอกไม้แต่ละชนิดแต่ละสีก็มีความหมายของมัน”

“แล้วถ้าจะสารภาพรัก?”


ไม่นานหลังจากที่ได้ฟังพนักงานสาวกล่าวแนะนำ เต๋าก็จัดแจงเลือกสั่งดอกไม้ สีโบว์ กระดาษห่อ พร้อมทั้งการ์ด เพื่อให้ที่ร้านจัดการนำไปส่งในวันพรุ่งนี้ช่วงบ่ายเสร็จสรรพ  ร่างสูงกำลังหยิบกระเป๋าเงินออกมาเพื่อจ่ายสตางค์  ส่วนคชานั้นเดินออกมารออยู่หน้าร้านได้พักหนึ่งแล้วเพราะต้องออกมารับโทรศัพท์เสียก่อน

“โอเคเฟรม พรุ่งนี้บ่ายสองนะ”  พูดตกลงกับเพื่อนคนเดิมเสร็จสรรพก็กดวางสาย มือบางเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกง สมองน้อยๆ ไล่ลำดับสิ่งที่ต้องทำ

คืนนี้ ไปนัดแพรวาให้มาเจอกับเต๋าตอนพรุ่งนี้บ่ายๆ
และเวลาเดียวกันนั้น เขาต้องออกไปดูหอใหม่กับเฟรม… อาจจะต้องกดเงินไปด้วย เพราะเฟรมบอกว่า ถ้าพอใจก็จ่ายเงินแล้วเข้าอยู่ได้เลย

หมายความว่าคืนนี้ต้องเตรียมเก็บของแล้วสินะ... แล้วกาต้มน้ำนั่นล่ะ?

ร่างเล็กยืนครุ่นคิดอยู่ตรงนั้น จิตใจเหม่อลอยออกไปยังห้องเบอร์ 23 ของตน  นึกถึงข้าวของทั้งหมดที่ต้องกลับไปเก็บ  นึกถึงแพรวาที่จะต้องกลับไปนัดหมาย  นึกถึงเพื่อนร่วมหอร่วมชั้นอีกสองคนอย่างจอยและพี่หลิน  นึกถึงใครบางคนที่เขาต้องมาเกี่ยวพันแบบงงๆ ในช่วงสองอาทิตย์ที่ผ่านมานี้

“คิดอะไรอยู่?”  และใครคนนั้นก็เป็นคนปลุกเขาออกจากภวังค์ความคิดที่หลุดลอย  ตาคู่คมประสานมองเพื่อนตัวเล็กที่ยังคงเหมือนมีอะไรอยู่ในใจ

“เปล่า... ไม่มีอะไร”  เสียงใสตอบอีกคนพลางพยายามสลัดเรื่องในหัวออกไปให้พ้นทาง  ก่อนที่คชาจะเดินนำอีกคนไปด้วยใจที่ยังคงไม่อยู่กับเนื้อกับตัว 

“ชาค่ะ”  ทว่าเสียงเรียกจากคนข้างหลังทำให้เขาต้องหันกลับมา ตอนนั้นเองที่คชาเพิ่งสังเกตว่าในมืออีกคนไม่ได้ว่างเปล่า
ลิลลี่สีขาวเพียงดอกเดียวในมือถูกยื่นออกไป  เพียงเท่านั้นก็เป็นฝ่ายคนรับเองที่ยืนงง… ถึงมันจะเป็นเพียงดอกลิลลี่ดอกเดียวที่ถูกห่อแบบง่ายๆ ด้วยพลาสติกใสกับโบเล็กๆ ก็ตาม แต่ไม่มีความจำเป็นอะไรที่อีกคนต้องเอามาให้เขาเลย

คชาเลิกคิ้วขึ้นในเชิงถาม ขมวดคิ้วมองตาแป๋วอย่างไม่เข้าใจ ดูท่าจะไม่เชื่อในสิ่งที่ตากำลังเห็นอยู่เสียเลย  “ให้เอาไปให้แพรวาหรอ?”  คงจะเป็นแบบเดิมเหมือนกับทุกครั้ง

“เปล่า”  ได้ยินเท่านั้น คนฟังก็มือไม้สั่นแปลกๆ  “ให้คนชื่อ ชาค่ะ นั่นแหละ... ขอบใจนะ สองอาทิตย์ที่ผ่านมา” 

ถ้าเป็นทุกครั้ง เขาคงเถียงออกไปแล้วว่าตัวเองชื่อ ชา ไม่มีค่ะอย่างที่อีกคนชอบเติมให้  หากแต่คราวนี้ มันต่างออกไป  ความรู้สึกต่างๆ มากมายไหลมาตีกันไปหมด

ประหลาดใจ.. ดีใจ.. ตื่นเต้น.. โหวงเหวง..

“ไม่เป็นไร”  เขาพูดตอบออกไปเรียบๆ ขัดกับเสียงหัวใจที่กำลังเต้นดัง  ก็ถูกแค่อีกคนดึงมือเขาไปเพื่อยัดดอกไม้นั่นใส่ในมือเขาก็เท่านั้นเอง

แต่ทำไมนะ... รู้สึกเหมือนถูกไฟช็อตเลย

มือหนาอุ่นคู่นั้นบีบมือเขาเบาๆ อีกสองสามทีราวกับจะตอกย้ำความรู้สึกบางอย่างที่กำลังก่อตัวในใจ...  เต๋าขยับเดินเข้ามาใกล้  พูดเสียงไม่ดังแต่ได้ยินก้องในสมอง

“อย่าไปไหนเลยชาค่ะ... ไม่อยากอยู่หอเราแล้วหรอ?”


คชาไม่รู้... คำพูดนั้นไม่ได้เพียงดังก้องในสมอง หากแต่กระทบไปถึงก้อนเนื้อในอกข้างซ้ายให้สูบฉีดแรงยิ่งกว่าเดิม
ทว่าสุดท้าย... ก็เป็นตัวเขาที่ขืนมือออกจากสัมผัสอบอุ่นที่กอบกุมนั้นเอง

‘ไม่ใช่ไม่อยาก แต่อยู่ไม่ได้’  คำพูดในใจที่ไม่ได้ส่งผ่านออกไปถึงอีกคน



   “ขอโทษนะเต๋า”








TBC

bozang

  • บุคคลทั่วไป
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 08 หน้า 4
«ตอบ #99 เมื่อ06-06-2012 00:34:05 »

♀ TOM (or) BOY ♂
10






มวลหมู่กุหลาบงามสีชมพูหวานที่ถูกจัดช่อไว้ด้วยกระดาษห่อและโบสีขาวส่งกลิ่นหอมเย้ายวนจางๆ แก่ผู้ที่ถือมัน  ชายหนุ่มที่วันนี้แต่งตัวดูดีกว่าทุกวันยังคงยืนรออยู่ที่นัดหมายพลางก้มลงมองนาฬิกาข้อมือ

จวนจะถึงเวลาแล้ว...
หลายอาทิตย์ที่ผ่านมา ได้เวลาเฉลยสักที
แผนนี้...จะพลาดไม่ได้อีกต่อไป



- - -




หนุ่มร่างเล็กเอ่ยคำลาแก่เพื่อนร่วมหอร่วมชั้นอีกสองคน  เมื่อความจริงเปิดเผยไปแล้วหนึ่ง ครั้งที่ตามมาก็ไม่ยากเย็นเท่าไรนัก  หลังจากอธิบายเรื่องราวทั้งหมดไปเมื่อครู่ใหญ่ที่ผ่านมา  ทั้งจอยและพี่หลินก็ไม่ถือสาเพราะพอจะเข้าใจ แม้ก่อนหน้าจะโดนสอบสวนไปยกใหญ่ก็เถอะ

“กลับมาเยี่ยมบ้างนะชา”

“ไว้เจอกันครับพี่หลิน”

“หัดไปซ้อมสลาฟมาบ้างล่ะ อย่าให้เห็นว่าเอาแต่แพ้ผู้หญิง”

“โหย... หยามกันนี่หว่าลั่น”  เขาพูดแกมหัวเราะ โบกมือลาอีกสองคนก่อนจะเดินออกมาจากห้องเบอร์ 24  มือเรียวปิดประตูบานนั้นลง มองตรงไปยังประตูห้องเบอร์ 21 ของเพื่อนร่วมชั้นอีกคนที่ไม่ได้อยู่ด้วยกันตอนนี้

แพรวาออกไปตั้งแต่สิบนาทีก่อนหน้า  ป่านนี้คงไปถึงแล้ว...

ส่วนเขาเองก็ถึงเวลาต้องไปเหมือนกัน




- - -




สวนสาธารณะใจกลางเมืองช่างร้างลาผู้คนเหลือเกินแม้แต่ในวันหยุดแบบนี้  ใต้ร่มเงาไม้ใหญ่  ชายหนุ่มที่ยืนรออยู่พักหนึ่งหัวใจเต้นแรง เมื่อเห็นคนที่นัดไว้กำลังทำท่ามองหาใครสักคน

และเมื่อเธอมองมาทางเขา เพียงชั่ววินาทีที่สบตา ขายาวของเธอก็เดินตรงมาทางนี้อย่างไม่หวั่นเกรง  ริมฝีปากหยักฉีกยิ้มหวานให้แก่หญิงสาวตรงหน้า ดอกไม้สีหวานงดงามสะอาดตาถูกยื่นส่งให้

“เราชอบเธอ”  คำสารภาพถูกกล่าวออกไป  เธอสบตาเขานิ่งงัน
วินาทีนั้น หัวใจของเขาเต้นแรงเสียจนตัวเองได้ยิน  และยิ่งถี่ขึ้นเมื่อเธอยื่นมือออกมารับดอกไม้นั้นไว้  ยิ่งเห็นภาพเธอรับมันไป หัวใจก็ยิ่งพองโต

“ดอกไม้สวยจัง”  แพรวาพูดพลางก้มลงดอมดมมัน  จมูกโด่งของเธอสูดลมหายใจรดกลีบกุหลาบเนียนบนช่อ  “หอมด้วย” 
สำเร็จ... ผู้หญิงชอบดอกไม้จริงๆ ด้วยว่ะชา

“ขอบคุณสำหรับขนมที่ผ่านมานะ”  เสียงหวานเอื้อนเอ่ย สายตาก็มองตรงมายังคนตรงหน้าอย่างแน่วแน่  “ขอบคุณสำหรับดอกไม้นี่ด้วย สวยมากเลย”

ได้ยินดังนั้น คนให้ก็ยิ้มกว้างอย่างยินดี  “ดีใจนะที่แพรวาชอบ”

“อื้ม”  เธอพยักหน้าตอบ  “เราชอบดอกไม้เต๋ามากเลย”

เหมือนลำธารที่ผุดกลางผืนแผ่นดินแห้งแล้ง เพียงแค่คำว่า ‘ชอบ’ คำเดียวก็เพียงพอที่จะพาให้เต๋ายืดอกภูมิใจเป็นไหนๆ
ไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายพูดอะไร เต๋าก็รีบรุกคืบต่อมา

“เราไปหาอะไรกินกันไหม? อยู่นี่ร้อนชะมัดเลย”

วูบหนึ่งในตอนนั้น เต๋าเห็นสีหน้าลังเลของเธอ... หากแต่ในวินาทีต่อมา  รอยยิ้มบางเบาของแพรวาก็ถูกส่งให้อีกฝ่ายอย่างนุ่มนวล ดวงตากลมโตมองอีกฝ่ายไม่ไหวติง หากแต่สมองพลันนึกไปถึงคำพูดเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อนของ(อดีต)เพื่อนทอม หลังจากที่เค้นถามจนรู้ว่าคนที่นัดพบเธอวันนี้คือใคร

‘แพรวา... ไปหาเต๋าเถอะ  ออกไปพูดเองเลยว่าคิดยังไง’
คชาบอกให้เธอมา...

‘แต่เต๋าเป็นคนดีนะ อย่าทำร้ายจิตใจเต๋าได้ไหม?’
และบอกไม่ให้เธอทำร้ายเต๋า...


“เอาสิ ก็ดีเหมือนกัน”




- - -





   -703-
   หลังจากตรงจากลิฟท์ขึ้นมา คุณป้าที่เป็นเจ้าของก็เดินนำพวกเขาเข้ามาในห้องแห่งนี้  ตาเรียวกวาดดูรอบๆ  เตียงนอนถูกวางชิดผนังข้างซ้าย โต๊ะเขียนหนังสือตัวไม่ใหญ่ และตู้เสื้อผ้าตรงมุมห้องน้ำ มีหน้าต่างบานใหญ่ตรงกลางให้ลมตีเข้า ผนังสีขาวก็ทำให้ห้องหับมองดูสะอาดสะอ้านน่าอยู่ดี  ซ้ำยังกว้างกว่าห้องเบอร์ 23 ของเขาอยู่พอสมควร
   แม้จะหมายถึง...ค่าเช่าที่แพงขึ้นเป็นเท่าตัว
   แต่เงินห้าพันบาท แลกกันกับความสบายใจบางอย่าง มันก็คุ้มค่าอยู่เหมือนกัน

   ร่างเล็กที่ถือกระเป๋าในมือค่อยๆ วางมันลงบนพื้นข้างเตียง  เดินไปตรงนู้นตรงนี้ หันซ้ายแลขวาช่วยกันสำรวจกับเพื่อนอีกคน

   “โอเคเลยนี่หว่าคชา”  เฟรมโผล่หน้าออกมาจากตู้เสื้อผ้า กวาดตาสำรวจมันอีกทีแล้วจึงปิดมันลงอย่างเดิม

   “ฮะ... อืม ก็ดี”    คชาตอบเรียบๆ จริงอยู่ที่เขากำลังใช้เงินซื้อความสบายใจ หากแต่ในนั้น กลับยังมีอีกหลายอย่างที่ค้างคา
   กับใครบางคน... กาน้ำ และดอกไม้

   “ตกลงเอาเลยไหมวะชา...จะได้เซ็นสัญญาแล้วก็กลับไปขนของที่เหลือมาเลย”  เฟรมเปิดหน้าต่างพลางหันหน้ามาถามเพื่อนซี้ 

“ว่าไง?”

   “ขอดูอีกนิดนึงก่อน”  เขาตอบเรียบๆ  “อยากลองเน็ตด้วยอะ ลงไปขอรหัสป้าเขาให้หน่อยดิ”

   “ได้เลยคร้าบน้องทอม”

   “เดี๋ยวเหอะไอ้นี่!”  เสียงใสโวยวายตามหลังอีกคนไป  เขาเห็นรอยยิ้มกวนๆ ของเพื่อนซี้ที่ส่งมาอย่างทะเล้นตามด้วยเสียงปิดประตูห้อง

   คล้อยหลังเฟรมออกไปแล้ว ร่างเล็กก็เดินไปยังหน้าต่างบานกว้างบานนั้น มันอาจจะเป็นสิ่งที่เขาชอบที่สุดในห้องนี้  ใบหน้าหวานชะโงกออกไปพลางมองแหงนขึ้นไปเหมือนทุกที

ความว่างเปล่า มาแทนที่ระเบียงสีขาวกับใบหน้ากวนของใครบางคน

ใช่สิ... นี่ไม่ใช่ห้องเบอร์ 23 แล้วนี่นา


ตาคู่เรียวมองออกไปยังท้องฟ้าเบื้องหน้า เพราะนี่คือชั้นเจ็ด ลมก็เลยแรง แถมวิวก็มองเห็นได้กว้างไกล
   บางที... ที่ตรงนี้คงมองเห็นดวงจันทร์





- - -





   ที่นี่อาจจะเป็นเพียงร้านอาหารร้านเดียวในย่านนี้ที่ติดแอร์เย็นสบาย  ชายหนุ่มกับหญิงสาวเดินเข้ามาในร้านด้วยกันอย่างสงวนท่าที  แม้จะไม่ได้มีบุคลิกขี้อายเป็นทุนเดิม ทว่าการมากินข้าวเพียงสองต่อสองแบบนี้มันก็ทำเอาทั้งคู่ประหม่าอยู่ไม่เบา  และแม้ไม่ใช่วันแรกที่เต๋าได้คุยกับแพรวา ทว่าครั้งสุดท้ายก็คือวันที่ฝ่ายหญิงมาขอเช่าห้อง... ตั้งแต่หนึ่งเดือนก่อนหน้านี้...

   “สั่งอาหารสิแพรวา”  เสียงทุ้มเอ่ยกับหญิงสาวตรงหน้าหลังจากที่เขาสั่งของตนเองไปได้ครู่นึงแล้ว

“แดงมะนาวแก้วนึงค่ะ”  เธอพูดพลางละสายตาจากเมนูอาหาร ก่อนจะส่งมันคืนให้พนักงานที่ยืนรอ
คล้อยหลังพนักงานเดินออกไปแล้ว  ชายหนุ่มก็รีบถาม  “ไม่หิวหรอ?”

คำตอบที่ได้คือการส่ายหน้า  “ไม่กินดีกว่า”  เธอเอ่ยเท่านั้น ปรายตามองออกไปนอกร้านแน่นิ่ง  มวลความอึดอัดก่อตัวขึ้นอย่างน่าประหลาดทั้งๆ ที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย  แต่มีหรือที่เต๋าจะอยู่เฉยอย่างนั้นได้

“สั่งอย่างอื่นหน่อยไหม?  ของหวานรึเปล่า?”  เต๋าคะยั้นคะยอ ส่วนหนึ่งเพราะไม่ชอบบรรยากาศเงียบเชียบแบบนี้  อีกส่วนก็รู้สึกไม่ดีหน่อยๆ ที่กลายเป็นแพรวาต้องมานั่งรอเขากินฝ่ายเดียว

แพรวาหันมองใบหน้าอีกฝ่าย ส่ายหน้าเป็นคำตอบพลางส่งรอยยิ้มจางๆ และเท่านั้นก็เพียงพอให้อีกคนชื่นฉ่ำหัวใจ


พนักงานที่นำเครื่องดื่มมาเสิร์ฟเพียงวูบเดียวไม่ได้มาขัดจังหวะของทั้งคู่เลยแม้แต่น้อย  เมื่อรอยยิ้มแสนหวานยังถูกส่งให้กัน  ยิ่งรอยยิ้มพิมพ์ใจของเธอมอบให้เขาอย่างไม่รู้หยุดหย่อนแค่ไหน  มันก็ทำให้เขามีความสุขราวกับเหมือนนกที่โผบินไปไกลเท่านั้น

“เต๋า.. พูดตรงๆ เลย... เราดีใจนะ ที่มีใครสักคนมีความรู้สึกดีๆ ให้”
นกวัยหนุ่มกางปีกกว้างท้าลมแรงกลางเวหา

“ขอบใจมากนะ”
โลดแล่นทะยาน บนผืนท้องนภา...

“แต่เรามีคนที่ชอบอยู่แล้ว... ขอโทษด้วยที่คงรับอะไรจากนายไม่ได้”
ก่อนจะตกลงมาเพราะชนกิ่งไม้ใหญ่

“ดอกไม้นี่... เก็บไว้ให้คนอื่นเถอะ”
และพบว่าที่แท้มันไม่ได้บินไปไหนไกล เพราะสุดท้ายก็วนมาที่เดิม

แพรวาเดินจากไปแล้ว... เหลือเพียงดอกไม้ช่อใหญ่กับนกปีกหักอีกหนึ่งตัว
   



- - -




   “เครื่องทำน้ำอุ่นใช้ได้เลยเว่ยไอ้ชา”  เสียงก้องของหนุ่มหน้ามึนดังออกมาจากห้องน้ำบอกเพื่อนซี้ร่างเล็กที่กำลังหยิบโน้ตบุ๊คเครื่องเก่าออกมาวางเพื่อลองทดสอบอินเตอร์เน็ตที่หอพักดู

   “แล้วชักโครกอะ กดลงไหม?”  คชาตะโกนถามต่อ มือก็กดคลิกเข้าหน้าเว็บต่างๆ ไปพลาง

   “เออ... เดี๋ยวขอลองก่อน แปปนึงนะ ปวดอยู่พอดี”

   “ไอ้เฟรม!”

   “เปิดพัดลมดูดกลิ่นให้ด้วยดิ”

   “เออๆ”

   ร่างเล็กเดินลุกไปกดเปิดให้ตามที่อีกคนขอ จะกลับมานั่งที่เดิมก็แวะเปิดดูที่ตู้เสื้อผ้าที่ทำด้วยไม้สีเข้มเสียก่อน  มันว่างเปล่าไร้สิ่งใดๆ และภายในเพิ่งทาสีใหม่เป็นสีขาวเช่นเดียวกับกำแพงห้อง

   หรือจะเอาเสื้อผ้ามาใส่ตู้เลยดี?

   ไม่มีปัญหาอะไรเลยแบบนี้... ก็ไม่มีเหตุผลที่จะทำให้เขาไม่อยู่นี่หว่า


   คนตัวเล็กเดินไปหยิบกระเป๋าใบใหญ่ที่หิ้วมา  รูดซิบเปิดมันออกเพื่อหยิบเอาเสื้อผ้าเท่าที่ติดมาใส่ลงไปในตู้นั้น
   เพราะไม่มีไม้แขวนเสื้อให้เลยสักอัน คนตัวเล็กจึงจัดแจงพับมันวางลงไปก่อน  มือเปิดประตูตู้เสื้อผ้าทั้งสองบานออกกว้างเพื่อให้จัดการได้ถนัดขึ้น  ก้มลงวางเสื้อตัวที่หนึ่ง สอง สาม ตามลำดับลงไป  ก้มหน้าลงยื่นหน้าเข้าไปภายใน กลิ่นสีที่เพิ่งทาใหม่ก็ตีขึ้นจมูก  หากแต่ที่มากกว่านั้น  กลิ่นเหม็นบางอย่างกลับเข้ามาแทรกซึม

   คชาสูดลมหายใจแรงๆ ก่อนจะถอยหลังออก  กวาดเอาเสื้อผ้าที่เพิ่งบรรจุออกมาเพื่อกวาดหาสิ่งผิดปกติใดๆ  ทว่ากลับไม่มี
   แต่ในมุมในที่สุดของตู้ที่สีทาทับไม่มิดก็ชวนให้สะดุดบางอย่าง  และเพียงเท่านั้นเขาก็ลองเอาเล็บขูดสีต่อบริเวณนั้นออก
   สิ่งที่ปรากฏ มันคือสีแดง...ที่เข้มเกือบกลายเป็นสีน้ำตาล

   เพียงเท่านั้นเขาก็กระวีกระวาดถอยหลังออกไปด้วยใจที่ร้อนรน  ตะโกนคุยกับเพื่อนที่ยังอยู่ในห้องน้ำ  “ไอ้เฟรม เสร็จยังวะ ออกมาดูอะไรหน่อย”

   “แปปดิ ไม่เคยได้ยินหรือไง จะขี้ต้องขี้ให้สุดเว่ย”  เสียงก้องของเฟรมดังออกมาติดขำๆ หากแต่คนฟังไม่อยู่ในอารมณ์นั้นเลยสักนิด

   “เออ...เร็วๆ”
   อาจจะเครียดจนคิดมากเกินไป... เขาคิด มือก็ขยี้ศีรษะตนเองจนยุ่ง หากแต่ใบหน้าหวานนั้นยับย่นเสียกว่า  ร่างเล็กทรุดตัวลงนั่งกับพื้น หันไปเห็นโน้ตบุคของตนที่ถูกเปิดทิ้งไว้ที่หน้าเว็บกูเกิลพอดี  พลันนิ้วเรียวก็ค่อยๆ ลองพิมพ์ชื่อหอพักลงไป

   “หอพักรื่นรมย์”   พิมพ์เสร็จก็กดปุ่ม enter ตบท้าย  ตาเรียวมองดูหน้าเว็บที่โหลดขึ้นมาทันที
   เน็ทที่นี่เร็วอย่างที่ว่า และผลการค้นหาที่ไม่ค้นพบอะไรผิดปกติทำให้คนนั่งมองเริ่มสบายใจ  หากแต่ยังคงมีความรู้สึกบางอย่างที่บอกไม่ได้ว่าคืออะไร

   “มีอะไรวะไอ้ชา?”  เฟรมที่เพิ่งเดินจากห้องน้ำออกมาถามพลางนั่งลงข้างๆ เพื่อน  ตาก็มองหน้าจอคอมที่ถูกเปิดค้างเอาไว้

   “อ๋อ... ลองหาข้อมูลหอนี้น่ะหรอว่าคนเคยพูดถึงว่าไง เออก็ดีเหมือนกัน”  เฟรมพูดพลางหันไปเล่นคอมนั้น มือลองกดเลื่อนลงมาดู

“อืม... แต่ไม่มีอะไร สงสัยคิดมากไปเอง”  คชาพูดพลางลุกขึ้นยืน เดินเข้าห้องน้ำเพื่อจะไปฉี่บ้าง 
ในตอนนั้น เฟรมจึงลองพิมพ์ค้นหาในกูเกิลอีกครั้งดู

   ‘เย็นใจแมนชั่น’ เป็นคำที่ถูกพิมพ์ลงไปแทน  และเพียงเท่านั้น ผลการค้นหาที่มากกว่าเดิมก็ปรากฏในสายตา
   เฟรมกดคลิกลงไปที่ลิงค์อันที่สะดุดตา  ไล่อ่านไม่นานก็รีบตะโกน

   “เฮ้ย ไอ้ชา ออกมาดูนี่เร็ว”
   และเท่านั้น คนในห้องน้ำก็กระวีกระวาดออกมาหาเพื่อนที่หน้าจอคอมฯ

   “อะไรวะเฟรม? หือ...เย็นใจแมนชั่น?”  ร่างเล็กถามเพื่อนอย่างประหลาดใจ หากแต่เริ่มรู้สึกว่าที่สังหรณ์มีเค้าลาง

   “ชื่อเดิมของหอนี้ก่อนจะเปลี่ยนเมื่อเดือนก่อนไง”  เฟรมหันมาตอบเพื่อนเรียบๆ ก่อนจะเปิดอีกหน้าให้เพื่อนดู

   ‘ฆ่าปาดคอสาวออฟฟิศตายคาห้อง ยัดศพคาตู้เสื้อผ้าเผ่นหนี  ตำรวจคาด ฝีมือแฟนเก่า – เย็นใจแมนชั่น ห้อง 703’

   คชากำหมัดแน่น  หันมาพูดกับอีกฝ่ายนิ่งๆ  “เฟรม... มึงก็รู้ใช่ไหมว่ากูแมน?”

   “เออ รู้”

   “งั้นจำไว้ใส่หัวเอาไว้เลย... ถ้ากูอยู่หอนี้ได้ ต่อไปนี้ไม่ต้องเรียกกูว่าคชา!”

   “อ้าว แล้วจะให้เรียกว่าไร?”

   “ก็เรียกคชาเหมือนเดิมดิ เพราะกูไม่อยู่โว้ย!!!!!”

   อยู่ก็บ้าแล้ววววววววววว คนตายเชียวนะ เคยมีคนถูกฆ่าตายในนี้เชียว คิดแล้วอยากจะร้องไห้... ฮือ...
   ไอ้เพื่อนชั่ว! หาห้องหรือหาเรื่องมาให้กันแน่วะ… โฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮ T^T





- - -





ประตูห้องเบอร์ 23 ถูกไขเข้ามาด้วยลูกกุญแจดอกเดิมที่แอบพกไว้... หลังจากเพิ่งถูกปฏิเสธไปเมื่อสองชั่วโมงก่อน  เต๋าก็กลับนึกถึงหน้าใครบางคนเข้ามาแทน

ใคร...คนที่รู้แผนของเขาทั้งหมดดี

เมื่อโทรหาแล้วไม่รับสาย ความกระวนกระวายบางอย่างก็แล่นมาแทนที่  และเมื่อเปิดประตูห้องเบอร์ 23 นี้ ก็พบว่าเจ้าตัวไม่อยู่อย่างที่คิดจริงๆ  แถมข้าวของทั้งหมดที่ทิ้งเอาไว้ก็มีการเก็บเอาไว้อย่างเรียบร้อยต่างจากที่เคยมาคราวนั้น

เก็บข้าวของเตรียมจะย้าย... คนจะไป จะรั้งไว้ได้ยังไงล่ะเต๋า?

เขาถามตัวเองพลางก้าวขาเดินไปตรงโต๊ะเขียนหนังสือที่บัดนี้มีถุงพลาสติกใบใหญ่วางอยู่  ด้านในเป็นขนมที่เขาเคยเอามาฝากให้แพรวา... ทั้งที่บอกให้ชาไปแล้วแต่อีกคนกลับวางทิ้งไว้อยู่อย่างนั้น  ข้างๆ กันมีกาต้มน้ำสีขาว ถัดไปเป็นลิลลี่ที่มอบให้อีกฝ่ายเมื่อวาน

‘รู้สึกดีที่ได้รู้จักและอยู่ใกล้’  มันก็แค่ความหมายตามที่พนักงานบอก... แต่เต๋าเพิ่งจะรู้ซึ้ง การได้รู้จักกันมันมีค่าขนาดนี้ เมื่อไม่มีอีกคนอยู่ข้างกายจริงๆ

เขาไม่รู้... ความรู้สึกนี้ควรเรียกว่าอะไร  เขาชอบแพรวาไม่ใช่หรอ? แต่ทำไมการไม่เจอคนคนเดียวทำเอาเขาลืมเรื่องแพรวาไปเสียสนิท?

แพรวาต่างหาก... ที่เป็นผู้หญิงในแบบที่เขาชอบ

แพรวาต่างหาก... ที่เขาได้รู้จักก่อน

แพรวาต่างหาก... ที่...


   “อ้าว เต๋า!”  เสียงใสคุ้นหูที่ดังขึ้นดังหลังทำเอาหัวใจของใครบางคนเต้นรัว  ร่างสูงขาวหันกลับไปด้านหลัง พอเห็นหน้าใครบาง
คนเข้าก็รีบก้าวเท้าเข้าไปหาในทันที  ตาคมคู่นี้จ้องมองใบหน้าหวานของอีกคนราวกับไม่เชื่อสายตา

   “ชา... อย่าเพิ่งไปเลยนะ อยู่ด้วยกันก่อน”  เต๋าเอ่ยเสียงค่อย ไม่รอให้อีกคนตอบ...สองแขนแกร่งก็โอบร่างเล็กตรงหน้าเอาไว้ทันที ตาคู่คมค่อยๆ หลับลงอย่างสบายใจ ศีรษะเผลอซุกไซ้เพื่อนทอมโดยไม่รู้ตัว

   เต๋าไม่รู้เลยว่าทั้งหมดนี้... ทำให้หัวใจอีกดวงเต้นรัวไม่ต่างกัน

 






TBC

มาลงสองตอนเลยละกัน แหะๆ
แอบมีคนตามไปอ่านที่เด็กดี สงสัยรอไม่ไหว 555
ยังไงก็ขอบคุณมากๆ นะค้า <3

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 08 หน้า 4
« ตอบ #99 เมื่อ: 06-06-2012 00:34:05 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ EoBen

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3306
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-6
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 9,10 หน้า 4
«ตอบ #100 เมื่อ06-06-2012 00:53:23 »

แอบสาระภาพ ว่าไปตามอ่านในเด็กดีมาค่ะ

แฮะๆ


ออฟไลน์ jimmyFG

  • Ich Liebe dich.
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2276
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +203/-4
    • @Facebook
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 9,10 หน้า 4
«ตอบ #101 เมื่อ06-06-2012 01:10:03 »

รอติดตามครับ เมื่อไหร่ความจริงจะเผยสักทีล่ะเนี่ย เต๋าต้องช๊อคแน่ๆ

ออฟไลน์ akihito

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 9,10 หน้า 4
«ตอบ #102 เมื่อ06-06-2012 11:55:29 »

กรี๊ดดดดดดด น่ารักอ่ะ
เริ่มรักกันแล้วว ชาค่ะรีบบอกเต๋าไปดีกว่า
ว่าแต่อีหอพักนั้น แม่ง สยองจริง :freeze:

ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9

ออฟไลน์ Kalamall

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 729
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-2
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 9,10 หน้า 4
«ตอบ #104 เมื่อ06-06-2012 14:20:48 »

 :a5:  เกือบได้หลอนแล้วมั้ยละชา

โอ๊ยยยยย :กอด1:  หัวใจมันเต้นตึกตักๆ เอาไงละทีนี้ต้องเป็นน้องชาค่ะให้พี่เต๋าต่อสินะ ลุ้นๆๆ

iDistort

  • บุคคลทั่วไป
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 9,10 หน้า 4
«ตอบ #105 เมื่อ06-06-2012 22:11:32 »

งะ ถ้ารู้ว่าชาค่ะเป็นผช จะเป็นไงเนี้ย  :z3: :z3: :z3:

ออฟไลน์ hongzaa

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-2
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 9,10 หน้า 4
«ตอบ #106 เมื่อ06-06-2012 22:18:23 »

ถ้าเต๋ารู้จะโกรธมั้ยเนี้ยยยย

*เราแอบไปอ่านในเว็บ เด็กขยัน มาด้วยแหละ 555+
เราชอบเรื่องนี้มากกว่าเรื่องแรกนะ ฮาดี 55+*

ออฟไลน์ Oilsaoo

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-3
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 9,10 หน้า 4
«ตอบ #107 เมื่อ06-06-2012 23:25:39 »

ถ้าเต๋ารู้ เต๋าจะโกรธมั้ยเนี้ยย

ออฟไลน์ bangkeaw

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 566
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-4
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 9,10 หน้า 4
«ตอบ #108 เมื่อ06-06-2012 23:56:45 »

ว้ายๆๆ กอดกันด้วยอ่ะ
แล้วชาค่ะก็กลับมาอยู่ที่เดิมสินะ

ออฟไลน์ nk23992

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 262
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 9,10 หน้า 4
«ตอบ #109 เมื่อ07-06-2012 01:05:45 »

แฮะรู้ทันด้วยอ่ะ สนุกมากเลยรอไมไหวว ไปตามในเด็กกีด้วยแหละ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 9,10 หน้า 4
« ตอบ #109 เมื่อ: 07-06-2012 01:05:45 »





biwtiz

  • บุคคลทั่วไป
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 9,10 หน้า 4
«ตอบ #110 เมื่อ07-06-2012 22:14:48 »

เต๋าจะรู้ความจิงมั้ย

bozang

  • บุคคลทั่วไป
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 9,10 หน้า 4
«ตอบ #111 เมื่อ21-06-2012 22:28:23 »

♀ TOM (or) BOY ♂
11
[/b]





อ้อมแขนหนาที่โผเข้าโอบร่างของเขาไว้สวมกอดแน่นไม่ยอมปล่อย ใบหน้าขาวจัดที่ซุกไซ้อยู่ตรงแถวลาดบ่ากำลังเอนซบลงมา  ไรผมดกหนาคลอเคลียอยู่บริเวณลำคอ  ลมหายใจที่เป่ารดบางเบาชวนให้รู้สึกแปลกๆ ในอก

ตึกตัก... ตึกตัก... ตักตัก...

“เต๋า ปล่อยก่อน”  ไม่ให้ยาวนานไปกว่านั้นเสียงใสก็เอ่ยขึ้น  มือเรียวค่อยๆ แกะอ้อมกอดของอีกคนออก  “อยู่ๆ มาทำงี้ได้ไง... เรา...”  กำลังจะอ้างต่อว่าตนเป็นผู้หญิง ทว่าเสียงกลับหาย... เขาไม่อยากโกหกต่อไปอีกแล้ว

“เราเสียหายนะเต๋า”  ประโยคเต็มถูกเอ่ยตอนที่อีกฝ่ายยอมผละเขาออก ทั้งสองมองหน้ากันตาสบตา  แต่เท่านั้นก็พาให้ความรู้สึกแปลกๆ กลับมาอีกครั้ง

“เสียหายหรอชา?”  เต๋าทวนคำถาม  “งั้นเรารับผิดชอบเอง”  ว่าพลางโผเข้ากอดเพื่อนทอมตรงหน้าอีกครั้ง ไม่ได้เผลอไผลเหมือนทีแรกแต่คราวนี้ตั้งใจล้านเปอร์เซ็นต์  “จะให้ชดใช้ยังไง?”

ถูกถามแบบนี้ ถูกกระทำแบบนี้ แล้วจะให้คชาทำยังไงต่อไป? เขายืนนิ่งจำให้อีกฝ่ายกอด แต่สมองก็นึกย้อนไปถึงเหตุการณ์ก่อนหน้า
เพราะเรื่องแพรวาแน่ๆ ที่ทำให้เต๋าเป็นอย่างนี้...

“นาย...เป็นยังไงบ้าง?”  คชาถามเสียงค่อย  “แพรวา...เอ่อ...”

“โดนปฏิเสธมา”  เต๋าตอบคนในอ้อมแขนชัดๆ ตรงๆ  นึกหงุดหงิดไม่น้อยเมื่อคิดถึงเหตุการณ์นั้น หากแต่ความรู้สึกทั้งหมดก็กลับกลายเป็นศูนย์เพียงแค่รู้สึกถึงสัมผัสน้อยๆ จากมือที่ประสานไว้ด้านหลัง
ชาค่ะกำลังกอดตอบเขา...

“ไม่เป็นไรนะ”  คนตัวเล็กยกมือข้างหนึ่งลูบศีรษะอีกฝ่ายแผ่วเบา  แม้มันจะงกๆ เงิ่นๆ ติดขัดแค่ไหน แต่กลับสะกดความไม่สบอารมณ์ของอีกฝ่ายเหลือเพียงเถ้าธุลี
ห้วงความคิดของเขา มีเพียงคนในอ้อมกอดนี้...

“ผู้หญิงไม่ได้มีคนเดียวในโลกหรอกเต๋า”
นั่นสิ... ฉันยังมีเธอใช่ไหมชา?

คนฟังเงียบไปแล้วแต่ยังค้างกอดนั้นไว้แน่นิ่ง  คชาที่ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไรอยู่ จึงได้แต่ยืนค้างในท่าเดิมแบบนั้น
ผู้ชายกอดกัน... เพื่อนกอดกัน... จะเสียหายอะไร?

“เออ.. เต๋า... เราว่าจะไม่ย้ายหอแล้ว”  อาศัยจังหวะนี้บอกอีกคนซะเลย ก็ในเมื่อหอใหม่หลอนซะขนาดนั้น ใครมันจะไปอยู่ไหว... สุดท้ายก็กลับมาตายรังที่เดิม

“อืม”  เต๋าตอบเรียบๆ คำเดียวแต่หัวใจกำลังพองโต... ยิ่งกว่าดีใจหลายเท่าตัวที่กลับมาเจออีกคนพร้อมกับข่าวดีแบบนี้  เขาค่อยๆ ผละอ้อมกอดนั้นออก ยกยิ้มมุมปากอย่างอดเสียไม่ได้
ระยะห่างก็แค่นี้ ทั้งยังสายตาที่ถูกจดจ้อง ไม่ชวนให้อึดอัด แต่มันชวนให้...

ตึกตัก... ตึกตัก... ตักตัก...


“ขนมที่ให้ไปทำไมไม่เอามากิน”  ก่อนที่คชาจะหาคำตอบให้ตัวเองเป็นคำพูดได้ อีกคนก็ว่าพลางเดินไปหยิบขนมกลับมาหาเพื่อนทอมห่อหนึ่ง  มือหนาแกะมันออกมา หยิบชิ้นนึงยื่นให้ริมฝีปากสีชมพูตรงหน้า  “กินสิ”
ไม่รู้ว่าเต๋าเป็นอะไร...มาอารมณ์ไหนถึงได้ชวนเขากินขนมแบบนี้?  คชาขมวดคิ้วน้อยๆ แต่ก็อ้าปากรับคุกกี้ชิ้นนั้นแต่โดยดี  เคี้ยวมันตุ้ยๆ มองอีกคนอย่างไม่เข้าใจ

“ถึงตอนแรกเราจะให้แพรวา แต่ตอนนี้มันเป็นของชาค่ะแล้วรู้ไหม?”
คชาพยักหน้ารับ... เข้าใจคำพูด แต่ไม่เข้าใจคนพูดเลย

“อร่อยรึเปล่า?”  คชาพยักหน้าอีกครั้ง  ปากก็จำต้องกินขนมอีกชิ้นที่คนตรงหน้าป้อนให้  ตาเรียวเห็นพื่อนที่เพิ่งอกหักแอบอมยิ้มก็พลอยชื้นใจ  แต่ยังไม่เข้าใจในตัวอีกคนอยู่ดี
แต่ถ้าเขากินแล้วเต๋าจะยิ้มแบบนี้... มันก็...โอเค

ร่างเล็กเคี้ยวคุกกี้ชิ้นที่สองเสร็จจึงพูดขึ้นบ้าง  “นายก็กินมั่งสิ...”  มือบางหยิบมันออกมาหนึ่งชิ้น ยื่นส่งให้อีกคน
เต๋าเห็นแล้วก็รีบส่ายหน้า  ทว่ากลับอ้าปากเป็นสัญญาณ  จนคนตัวเล็กต้องป้อนอีกฝ่ายกลับโดยดี... ถึงจะแกล้งป้อนใส่หลายๆ ชิ้นจนมันเต็มปากจนล้นแล้วก็เถอะ

“ฮ่าๆๆๆ”  คชาหัวเราะเสียงใส ยิ่งเห็นอีกฝ่ายพยายามเคี้ยวมันจนหมดก็ยิ่งขำ  ใบหน้าขาวๆ แถมติดจะขี้เก๊กที่เคี้ยวคุกกี้จนหน้าบิดเบี้ยวทำให้คชาอดหัวเราะออกมาดังๆ เสียไม่ได้

จากที่ตอนแรกนึกอยากให้อีกฝ่ายอารมณ์ดี... แต่เป็นคชาที่หลุดขำออกมาเสียเอง  ร่างเล็กรีบเดินไปหยิบขวดน้ำเปล่า เทใส่แก้วแล้วป้อนอีกคนตามหลังเมี่อเคี้ยวเสร็จ

สงสารคนเพิ่งช้ำรักมา... เดี๋ยวขนมติดคอตายกันพอดี

“อร่อยไหมเต๋า?”  คชาถามกวนๆ  ใบหน้าหวานหยุดหัวเราะแล้วแต่ยังไม่หยุดยิ้ม  “ชอบปะ?”  ก็ถ้าชอบจะได้ป้อนเยอะๆ อีกไง
เต๋าเงยหน้าขึ้นจากแก้วใบใหญ่  “ชอบ”  ตอบสั้นๆ พยางค์เดียว แต่ใบหน้าที่ไร้ท่าทีล้อเล่นกลับทำเอาคนฟังค้างนิ่ง

“ชอบเห็นชายิ้ม”  คนพูดยิ้ม จ้องมองใบหน้าหวานที่เริ่มขึ้นสีชมพูจางๆ ถ้าเขาไม่ได้ตาฝาดไป
“ยิ้มอีกสิชา”




- - -




   เข้าอาทิตย์ที่สามของการเรียนแล้ว... คชาที่ในวันนี้กลายเป็น ‘นายนนทนันท์’ เต็มตัว ใช้ชีวิตได้อย่างสบายใจ  นั่งเล่นหัวเราะกับใครๆ  ซ้ำยังเข้าห้องน้ำชายเป็นปกติได้เสียที
ถึงจะมีเพื่อนบางคนที่ยังล้อว่าเขาเป็นทอม...

“น้องทอมอยากกินไรฮะ เดี๋ยวพี่เฟรมกับพี่เต้จะไปซื้อมาให้”  ไม่ใช่ใครที่ไหน  ก็ไอ้เฟรมกับไอ้เต้สองตัวนี้นี่แหละ!

“แล้วอยากโดนทอมถีบป้ะ!?  เอาโคอาล่ามาร์ชสตรอเบอร์รี่อันนึง”
และถึงจะมีใครบางคนอยากให้เขาเป็นทอมมากกว่าก็ตาม

“คชา... แอ้นไม่คุ้นเลยอะที่คชาเป็นผู้ชาย”  เธอเอ่ยขึ้นเมื่อเฟรม โปเต้ และแพรวาลุกออกไปซื้อขนมกัน เหลือเพียงเขาที่อยู่กับเธอสองคน

“ฮะๆ หรอ”  เขาหัวเราะน้อยๆ ในลำคอ... แต่ยังไงความจริงก็คือความจริง

แอ้นส่งยิ้มให้เขาพลางพูดต่อ  “อืม... แต่คชารู้ไหม? เรานั่งทบทวนดูแล้ว ที่เรารู้สึกกับคชามันยังเหมือนเดิม”
ได้ยินเท่านั้น คนฟังก็ถึงกับชะงัก  คชานั่งหน้าเหวอ หันมามองเธอที่จ้องมองเขานิ่งๆ ปราศจากท่าทีเคอะเขินใดๆ

“คชาทำเราสับสนนะรู้ไหม? เราไม่เคยชอบผู้ชายมาก่อนเลย”  แอ้นเอ่ยเสียงหวาน แตะมือเขาเบาๆ  “ชาเป็นคนแรก”

“แต่เรา...”

“อืม... คชาไม่ได้ชอบเรา เรารู้... แต่ไม่เป็นไรใช่ไหมถ้าเราจะชอบคชา?”

“อ..อืม”  เขายิ้มให้เธอเบาๆ แต่กำลังบอกขอโทษในใจ
ถึงแอ้นเป็นนางฟ้าสำหรับเขา... แต่ไม่ใช่ทุกคนหรอกที่จะตกหลุมรักนางฟ้า
ขอโทษนะแอ้น




- - -




“ไม่ไปเล่นเกมบ้านไอ้เต้ต่อจริงๆ หรอวะชา?”
เฟรมเอ่ยถามขึ้นมาเมื่อกินข้าวมื้อเย็นที่โรงอาหารคณะเสร็จ  นี่เพิ่งจะหกโมงเศษ และคชาก็ไม่ได้มีที่ไปที่ไหนนอกจากหอ
แถมยังเป็นหอหญิงที่ต้องจำใจอยู่ต่อไปอีกสองอาทิตย์ด้วยนี่สิ!

“เออ... เดี๋ยวกลับพร้อมแพรวาเลยดีกว่า ง่วงนอน”

“เอางั้นจริงอะ? โห่... ไรว้า... โชคดีๆ ดูแลแพรวาด้วยละกัน อย่าให้ไปดักฉุดใครเขาเข้า”

“หนอย... เฟรม!”

“เฮ้ย.. ไอ้ชาช่วยด้วย กูจะโดนนางยักษ์ทำร้าย”

เอาอีกแล้วสองคนนี้... คชาส่ายหน้าเบาๆ กับภาพตรงหน้า กัดกันซะทุกที...  เขารีบปรามทั้งคู่  “เออ... ไปกันเหอะแพรวา บ๊ายบาย”  ประโยคหลังพูดกับคนอื่นๆ ที่เหลือ  ยิ้มรับแอ้นที่ส่งยิ้มมาให้เขาน้อยๆ

ระยะทางกลับหอเพียงพอไม่ได้ไกลนัก เดินไปคุยไปกับแพรวาแปปเดียวก็ใกล้จะถึง... หากแต่เมื่อใกล้เข้ามาเรื่อยๆ  สายตาก็เริ่มสอดส่ายหาใครคนนึง

ใครที่ทิ้งท้ายคำพูดแปลกๆ ไว้ แต่กลับไม่เจอหน้ามาสองวันแล้ว
หายไปไหนกัน?




ไขประตูเข้าไปในห้องเบอร์ 23 เสร็จเรียบร้อย  ร่างเล็กก็เปิดหน้าต่างออก เงยหน้ามองไปบนระเบียงฝั่งตรงข้ามชั้นสี่เพื่อหาใครคนนั้น  แต่มันกลับว่างเปล่าไร้สิ่งมีชีวิตใดๆ
หรือเศร้าเพราะอกหักจนโดดตึกตายไปแล้ว?

คิดได้ดังนั้น... ร่างเล็กก็มองหาร่องรอยบนระเบียงสีขาวเครียดขรึม... แต่ก็ต้องจำผละสายตาออกเมื่อไม่พบสิ่งผิดปกติใดๆ
นี่เราทำอะไรอยู่วะ? เราคือนายนนทนันท์นะเว้ย! ไม่ใช่ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน!

ปิดหน้าต่างลงเช่นเดิมเสร็จ มือเรียวก็ขยี้หัวอย่างหงุดหงิด ก่อนจะถอดเข็มขัดนักศึกษา ดึงชายเสื้อเชิ้ตสีขาวออก แล้วล้มตัวนอนบนเตียง
พลิกตัวซ้ายขวาจัดท่าทาง ข่มตาให้หลับ แต่ก็ไม่ง่วงสักนิดเดียว...
คชาลืมตาโพลง  เขารู้ตัวดีว่าไม่ได้ง่วงตั้งแต่แรก... ไม่รู้สึกง่วงตั้งแต่ตอนที่เฟรมถามตอนเย็นแล้วด้วย เพราะวันนี้เขาหลับมาเต็มอิ่มตั้งแต่ในคาบเรียนแล้ว!
ที่ไม่ไปเล่นเกมบ้านโปเต้... ก็แค่...
แค่...
อยาก..... กลับหอ... มา.......
มา.....

ลอกเล็กเชอร์แพรวาเท่านั้นแหละว้อย!


คิดได้ดังนั้น ร่างเล็กก็กระเด้งตัวจากที่นอน ลุกออกไปเคาะประตูห้องข้างๆ ทันที




“อ้าว... ไหนว่าจะเอาไปซีรอกซ์ไง?”  แพรวาเพิ่งเปิดประตูห้องตนเองให้อีกคนเข้ามา พูดพลางยื่นโน้ตย่อของตัวเองให้เพื่อนทอมที่บัดนี้กลายเป็นเพื่อนชายข้างห้อง

“อืม... ก็ประหยัดค่าถ่ายเอกสารไง”  คชาพูดพลางเปิดแต่ละหน้าดู  “ลอกเองจะได้จำได้ ขอบใจนะแพรวา”  พูดเสร็จก็หันหลังเตรียมเดินออกไป  ขาเรียวกำลังจะก้าวออก แต่พอได้ยินคำถามของแพรวาก็กลับชะงักอยู่ตรงนั้น

   “แล้วเต๋าเป็นไงบ้าง?”

   “ไม่รู้เหมือนกันดิ ช่างเหอะ อย่าไปสนใจเลย”

   “อ้าว... ไหนตอนแรกบอกไม่ให้ทำร้ายจิตใจเต๋า”  คชาไม่พูดอะไรมากไปกว่านั้น หากแต่ทำทีไม่สนใจแล้วเดินกลับไปยังห้องของตนเอง  ร่างเล็กอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดนอน  ก่อนจะลงมือลอกโน้ตทั้งหมดไปเรื่อยๆ ด้วยจิตใจที่ขุ่นมัวเต็มที

   เพียงไม่นาน... ที่คชาจมอยู่กับตัวอักษรและปลายปากกา  หากแต่ความคิดกลับล่องลอยไปหาเรื่องอื่นๆ เรื่อยเปื่อย

   ทำไมชีวิตมันน่าเบื่อแบบนี้?  ทำไมไม่ไปเล่นเกมกับไอ้เฟรมไอ้เต้?  ทำไมเขาต้องมาทำอะไรที่หอนี่?  ทำไมต้องมีชีวิตในห้องแคบๆ เล็กๆ แบบนี้?  แล้วทำไมเขาต้องมาอยู่กรุงเทพฯ คนเดียว?

   ทำไม... ทำไม... ทำไม...


   ‘จ๊อกกกกก..’

   ทำไมหิวแบบนี้?


   อาจจะเป็นโชคดีก็ได้ที่เสียงน้ำย่อยในกระเพาะอาหารที่ทำงานมาช่วยคั่นความคิดขุ่นมัวลงไปได้บ้าง  คชาวางปากกาด้ามสีดำก่อนจะหันไปดูเวลาบนมือถือ

   สองทุ่มกว่าแล้ว  ข้าวเย็นเมื่อสองชม.ก่อนไม่ได้เรื่องเลยจริงๆ...

   ลุกออกจากโต๊ะเขียนหนังสือ พลันหางตาก็หันไปเห็นถุงขนมใบใหญ่ ก็ขนมของใครคนเดิมอีกนั่นแหละ
   ตายไปรึยังวะป่านนี้?  คิดแล้วก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูอีกทีแต่ไม่พบว่ามีใครโทรมาเลย

   เฮอะ... ไอ้คนอย่างนี้ตายไปซะได้ก็ดี... ใช่สิ เรามันหมดประโยชน์แล้วหนิ พอไม่มีเรื่องแพรวาเลยได้ทีเขี่ยเราทิ้งไปเลยไง
ขนมพวกนี้... เดี๋ยวจะเผาคืนไปให้ก็แล้วกัน






สามทุ่มเศษ หลังจากที่ออกมาแวะซื้อขนมกินตอนดึก  ร่างเล็กนั่งอยู่บนพื้นหน้าตึกหอพัก มือข้างหนึ่งบิขนมในมือให้กับสุนัขสีขาวมอซอที่นั่งจ๋องอย่างรอคอย ปากก็พูดโทรศัพท์กับคนในสายไปด้วย
ขนมลูกเต๋าที่ซื้อมา...ไม่รู้ว่าเพราะอยากกินหรือเพราะคิดถึงใครบางคน


“สบายดีครับแม่”  ริมฝีปากบางยิ้มกว้าง... ไม่ได้พูดความจริงทั้งหมด เพราะปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการมาอยู่คนเดียวในเมืองใหญ่ไม่ใช่เรื่องลำบาก  “สบายบรื๋อ... ชาซักผ้าเป็นตั้งแต่วันแรกเลยเหอะ”  พูดกับคนในสายพลางนึกถึงวันแรกที่หาวิธีใช้เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญอยู่นาน  มืออีกข้างก็ลูบหัวหมาน้อยตะวันไปด้วย

“ที่นี่ของกินเพียบ อร่อยกว่าข้าวผัดของแม่ตั้งเยอะ”  แค่นหัวเราะออกมาเบาๆ แต่ในใจคิดถึงกับข้าวฝีมือแม่ใจแทบขาด  “แล้วเคนท์เป็นไงบ้าง?”  ถามถึงน้องชายตัวแสบซะหน่อย

คชายิ้มบางๆ เมื่อได้ยินแม่เล่าเรื่องน้องชายให้ฟัง เคนท์เตะบอลเข้าในการแข่งขันของโรงเรียนที่ทำเอาเจ้าตัวคุยโวไปสามบ้านเจ็ดบ้าน  คชาพูดคุยสัพเพเหระกับแม่อีกไม่นาน บทสนทนาก็ถึงคราวต้องสิ้นสุดลง

“อยู่กรุงเทพฯ ก็อย่าไว้ใจใครมากล่ะลูก คนเรามันรู้หน้าไม่รู้ใจ  คชาน่ะซื่อเกินไป”

ได้ยินแล้วรู้สึกเข้าตัวเองยังไงบอกไม่ถูก  “ครับแม่”  อาจจะจริงอย่างที่แม่ว่า... มากรุงเทพฯ ได้ไม่ถึงเดือนก็ยังถูกเขาหลอกใช้... แต่ต่อไปเขาจะไม่ยอมให้เป็นแบบนั้นแล้วจริงๆ

“โชคดีนะลูก อย่าไปเที่ยวเถลไถลที่ไหนนักล่ะ แม่กับน้องคิดถึงคชานะ”  น้ำเสียงของแม่ยังคงเข้มแข็งแต่แฝงด้วยความอ่อนโยนเช่นเคย

“ครับ”  เพียงพูดตอบรับธรรมดา หากแต่น้ำตากลับหยดแหมะลงบนพื้นปูน
คชาก็..คิดถึงเหมือนกัน...

เครื่องมือสื่อสารถูกลงกระเป๋าหลังจากวางสาย ท่อนแขนถูกใช้ปาดคราบน้ำตาที่รื้นออกมายกใหญ่
บ้าเอ๊ย... อุตส่าห์ทำใจแข็งมาตั้งสองอาทิตย์ มาเสียน้ำตาเอาตอนนี้จนได้
นึกพลางก้มหน้าลงมองหมาน้อยตัวเดิม

“ตะวัน...แกมาอยู่นี่ไม่คิดถึงแม่บ้างรึไง?”  ปากพูดกับมันพลางหยิบขนมลูกเต๋าชิ้นสุดท้ายในถุงยื่นให้  “แล้วแกไม่มีพี่น้องกับเขาเลยหรอ?”  บางทีมันคงไม่ใช่การถาม แต่เป็นการรำพึงรำพันความรู้สึกออกมาเสียมากกว่า  ทว่าสำหรับหมาน้อยตัวนี้ มันได้ยินที่เขาพูดทุกคำ แต่ไม่ได้ฟังเขาแม้แต่คำเดียว เพราะสิ่งเดียวที่มันสนใจจะมีแค่ขนม เมื่อมันเพียงแค่มาดมแถวๆ มือของเขาเท่านั้น

“เฮ้อ... สมองแกคงมีแต่ของกินล่ะสิ หมดแล้วอะ  โบ๋เบ๋...”  ว่าพลางหยิบเอาถุงเปล่าให้มันดู  ก่อนจะแกล้งโดยการเอาครอบจมูกของมันเสียเลย

ร่างเล็กหัวเราะแห้งๆ เมื่อเห็นมันพยายามสะบัดถุงขนมออก แกล้งแหย่มันเล่นพอสนุกสนาน เขายิ้มร่า เขาหัวเราะเสียงดัง หากแต่ข้างในนั้นยังมีคราบน้ำตาและกลิ่นความเหงาที่เจือปน

เหงา... ที่ไม่ใช่เพราะคิดถึงบ้านเพียงอย่างเดียว...
ตาเรียวแหงนมองขึ้นไปบนตึกฝั่งตรงข้าม  ชั้นสี่ห้องนั้นยังคงปิดไฟมืดสนิท
นี่ตายไปแล้วจริงๆ หรือไงวะ?

วูบนึงในความคิด... คชากลับรู้สึกโหวงเหวงอย่างบอกไม่ถูก ก็รู้ว่าอีกฝ่ายคงไม่ได้ตายจากไปไหนหรอก แต่แค่คิดว่าอีกคนจะไม่อยู่ มันก็...



“ชอบแกล้งหมาหรือไง?”  และทันใดนั้น... เสียงที่คุ้นหูก็ทำเอาคชาหันควับไปในทันที

“เต๋า”  หลุดเรียกชื่ออีกคนออกมา  “มาทำอะไรเนี่ย?”  ถามเหมือนจะไม่อยากจะเจอ หากแต่ที่จริงกำลังดีใจ  ริมฝีปากบางก็ยกยิ้มขึ้นโดยไม่รู้ตัว
ดีใจ... จนลืมไปแล้วว่าตัวเองเคยตัดพ้อต่อว่าอีกคนไว้สารพัดสารเพ

“อยากมาหาไม่ได้หรือไง?”  เต๋าถามกลับ อมยิ้มมองอีกคน  “ไม่เจอกันตั้งสองวัน ไม่คิดถึงกันบ้างหรอ?”
คชาไม่ตอบ หากแต่ความรู้สึกยินดีจนล้นปรี่ในอกมันกำลังแทนคำตอบแก่ตัวเขาเอง

“แล้วหายไปไหนมา?”  ปล่อยให้เขาด่าอยู่คนเดียวตั้งนาน

ได้ยินอีกคนถามดังนั้นก็ยกยิ้ม ขยับมองหน้าอีกคนใกล้ๆ  “ถามแบบนี้คิดถึงล่ะสิ”  เต๋าเอ่ยทีเล่นทีจริง อ้าแขนออกกว้าง  “กอดสักทีไหม? จะได้หายคิดถึง”

“ยังไม่ได้พูดสักคำเลย”  ทำหน้ายู่ใส่อีกฝ่ายแต่ข้างในกลับอมยิ้ม ใบหน้าหวานหันไปหาหมาตัวน้อยแก้เก้อ  มือบางลูบหัวมันเบาๆ เหมือนที่ทำก่อนหน้า  ทำปากเป็ดใส่เจ้าหมาตัวนั้นเสียน่ารักน่าชัง

“ชา...”  เต๋าเรียก  “ชาค่ะ” 

เจ้าของชื่อหันมาก็พบว่าอีกคนขยับเข้ามาใกล้ซะประชิด  “ร..เรียกทำไม?”  ตกใจจนพูดเสียงสั่น

“เราไม่ได้หายไปไหนหรอก... สองวันที่ผ่านมาก็อยู่แถวนี้ทั้งนั้นแหละ”  คิดแล้วน่าขำเป็นบ้า... สัญญากับตัวเองไว้ว่าจะไม่ไปเจอหน้า แต่การแอบมองเขาผ่านรูเล็กๆ ช่องหน้าต่างมันเหมือนพวกโรคจิตชะมัดเลย

เหตุผลที่ทำน่ะเหรอ?... เพราะแค่อยากจะมั่นใจในความรู้สึกของตัวเองจริงๆ  ไม่อยากจะเอาเวลาไปทิ้งเหมือนตอนที่คิดว่าตัวเองชอบแพรวา  ทั้งๆ ที่หัวใจมันมีอีกคนเข้ามาโดยไม่รู้ตัว

ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ?


“อ...อือ แล้วไง?”  คชาถามกลับเสียงแผ่ว

“ต่อไปจะไม่หายไปไหนอีกแล้ว”  เต๋าพูดต่อ  “จะมาให้เจอหน้าทุกวันเลย”
ชารู้สึกยังไงไม่รู้ แต่ตัวเขาน่ะแทบบ้า... เหนื่อยนะ ที่ต้องมาแอบมองอีกคนจากที่ไกลๆ แต่ไม่ได้เข้าไปหา ไม่ได้เข้าไปคุย

“ใครอยากเจอนาย?”  อีกฝ่ายสวนกลับเสียงแข็ง ทำไม่รู้ไม่ชี้ไม่สนใจ แต่หารู้ไม่... ใบหน้าหวานที่ขึ้นสีแดงจางๆ ของตัวเองมันแทนอะไรหลายๆ อย่างได้เป็นอย่างดี 

และนั่นยิ่งทำให้อีกคนได้ใจ... ถึงเต๋าจะไม่รู้แน่ชัดว่าอีกคนกำลังคิดยังไง  แต่มาเขินใส่กันแบบนี้ น่ารักเกินไปแล้วนะ

“ร้อนหรอชา?”  เต๋าถามอีกคนนิ่งๆ

“เปล่าหนิ”  คชาตอบพลางส่ายหน้า ก็ลมพัดเข้ามาอย่างนี้ จะให้ร้อนได้ไง  “ร้อนตรงไหน ลมออกจะแรง”

“นั่นสิ อากาศก็ไม่ร้อน...” แอบยกยิ้มที่มุมปาก  “แล้วทำไมหน้าแดงล่ะ?”

“หา... ก็....”  ยิ่งเห็นเพื่อนทอมแก้ตัวไม่ถูกแล้วยิ่งสนุกเข้าไปใหญ่

“ไม่สบายรึเปล่า?”  เต๋าว่าแล้วก็เอาหลังมือทาบ  “ตัวก็ไม่ร้อนนี่นา แต่ทำไมหน้าแดงจัง นั่นๆ ...แดงใหญ่แล้วเนี่ย”
สองมือเรียวยกขึ้นทาบแก้มใสของตัวเอง ไม่ได้อยากพิสูจน์หรอกว่าร้อนรึเปล่า แต่อยากจะปิดมันจากสายตาอีกคนต่างหาก
รู้นะว่าแกล้งล้อเขาอยู่!

“แดงแล้วทำไมล่ะ!? กลับบ้านไปเลยไป”
เต๋าหัวเราะร่า ยิ่งเห็นอีกคนทำท่าโวยวายอย่างนั้นแล้วยิ่งสนุกใหญ่  นึกอยากแกล้งต่อในใจแต่แค่นี้พอแล้วดีกว่า

“ไปก็ได้...”  เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็เจอกันใหม่อยู่ดี  “ฝันดี...เจอผีเมื่อไหร่ก็โทรมา เดี๋ยวไปไล่เอง”

“เต๋า!!!”  แค่พูดคำว่า ‘ผี’ คนฟังก็ไม่ชอบแล้ว!  นี่มันแกล้งกันชัดๆ

“หรือไม่ก็บอกผีว่า... ห้ามเข้าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากลูกเจ้าของหอ”

“หา...”  ขมวดคิ้วคิดตามอย่างไม่ค่อยเข้าใจ


“ไปจริงๆ ละ อย่าลืมล็อคประตูห้องด้วยล่ะ ฝันดี”  และนี่เป็นประโยคสุดท้ายของวันนี้  เต๋าเดินไปแล้ว ส่วนคชาก็กำลังเดินขึ้นห้องพลางทบทวนคำพูดเมื่อครู่นี้ในใจ


เจ้าของห้องมันเขาไม่ใช่หรอ? แล้วทำไมต้องขออนุญาตที่มันด้วย!!!!!

ไอ้เต๋า!  ไอ้บ้าเอ๊ยยยยยยยยยยยย!
พูดแบบนี้คิดก่อนรึเปล่าวะ!!!?






TBC

โทษทีที่หายไปนานเลยนะ เดี๋ยวจะทยอยเอามาลงนะคะ อิอิ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-06-2012 22:32:42 โดย bozang »

ออฟไลน์ akihito

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 11 หน้า 4
«ตอบ #112 เมื่อ21-06-2012 23:16:11 »

มาต่อแล้วววว อิอิ
น่ารักขึ้นทุกทีๆ เต๋าก็รู้ความรู้สึกตัวเองแล้วด้วย
ว่าแต่เมื่อไหร่ชาจะบอกเต๋าเรื่องที่เป็นผู้ชายเนี่ย

papark

  • บุคคลทั่วไป
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 11 หน้า 4
«ตอบ #113 เมื่อ22-06-2012 01:27:40 »

สนุกจังครับ ~

ชาต้องบอกเต๋านะ
(มันต้องแอบดราม่า 55)

ออฟไลน์ mutyamania

  • สามารถติดตามงานติดเรทที่ลงเล้าไม่ได้ที่ ReadAWrite ในชื่อมัสยากลับมาจากป่าช้า
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1898
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +794/-139
    • https://mutyawhocamebackfromthedead.readawrite.com
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 11 หน้า 4
«ตอบ #114 เมื่อ22-06-2012 01:38:23 »

สนุกดีค่ะ  เพิ่งอ่านได้แค่สี่ตอน  แต่อยากบอกว่าชอบแนวๆนี้  ไม่ได้อ่านอะไรใส ๆ มานานนมมา  คชาฮานะคะ  เต๋าก็รั่ว ๆ ดีอ่ะ  ยังไงก็ขอเม้นท์ก่อนละกัน  เดี๋ยวอ่านถึงปัจจุบันแล้วจะมาเม้นท์อีกรอบนะคะ


สู้ ๆนะคนแต่ง

ออฟไลน์ bangkeaw

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 566
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-4
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 11 หน้า 4
«ตอบ #115 เมื่อ22-06-2012 17:05:55 »

เรื่มชอบกันแล้วสินะ

iDistort

  • บุคคลทั่วไป
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 11 หน้า 4
«ตอบ #116 เมื่อ22-06-2012 23:33:45 »

ชาค่ะน่ารักก  :impress2: :impress2:

bozang

  • บุคคลทั่วไป
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 11 หน้า 4
«ตอบ #117 เมื่อ22-06-2012 23:45:29 »

♀ TOM (or) BOY ♂
12







สนามฟุตบอลของมหาวิทยาลัยในยามเย็นวันกลางสัปดาห์เริ่มคึกคักไปด้วยเหล่านักศึกษามากมาย เพียงเพราะมีการแข่งขันฟุตบอลของเหล่าเฟรชชี่ปีหนึ่งระหว่างสองคณะ  หนุ่มหน้าหวานในวันนี้ใส่เสื้อบอลสีน้ำเงินเบอร์ 3 ยืนยิ้มร่าอยู่ข้างสนาม เช่นเดียวกับเพื่อนร่วมทีมที่ต่างใส่เสื้อทีมสีน้ำเงินตามที่เขาเจาะจงให้ไปทำมา  ยิ่งเท้าได้สัมผัสกับปลายหญ้าชื้นๆ มันยิ่งรู้สึกดีใจ
เมื่อวันก่อนแข่งกับคณะแพทย์ ได้เป็นตัวต่อบอลส่งให้เพื่อนยิงจนเข้า  วันนี้ขอจัดเองสักลูกสองลูกหน่อยเหอะ!

แผ่นอกขาวไร้การปกปิดเผยให้เห็นผ่านคอเสื้อสีน้ำเงินตัวหลวมโพรก ต้นขาเนียนโผล่พ้นชายกางเกงที่เลิ่กสูงขึ้นเมื่อเจ้าตัวกำลังยืดเส้นยืดสายอยู่ข้างสนาม เขาไม่ได้สนใจมันสักนิด จนกระทั่งหนุ่มแว่นร่วมก๊วนเดินเข้ามาทักทาย

“เบาๆ หน่อยน้องทอม... หนุ่มๆ มองน้ำลายหกแล้ว”
ได้ยินดังนั้นร่างเล็กที่กำลังเหยียดขาวอร์มอัพก็ถึงกับชะงัก หรี่ตามองหน้าหาเรื่อง  “เพ้อเจ้อไอ้เต้ มีแต่สาวๆ เขามองกูตาเยิ้ม” 

ว่าพลางหันไปมองแสตนด์ด้านหลังที่มีเพื่อนร่วมคณะมานั่งเชียร์กันอยู่ประปราย  ชายตาหวานยิ้มให้สาวๆ ที่ว่า
แม้ที่ได้กลับมาจะมีแค่รอยยิ้มของแอ้นกับหน้าเจื่อนๆ ของแพรวาก็เถอะ

“แหม่... เดี๋ยวนี้มีขึ้นกูขึ้นมึงนะน้องชา”  ภายใต้กรอบแว่นสีน้ำเงินดูคงแก่เรียนนั้นมีแววตาล้อเลียนเขาอยู่ไม่น้อย... อย่าคิดว่ามีแค่เฟรมคนเดียวที่ชอบแสบใส่เขาเลย ไอ้เต้ก็พอกัน!!!

คชาทำปากยื่นใส่เพื่อน  “พอเลย... กูเป็นผู้ชายแล้วว้อย เดี๋ยวถีบให้”  ขู่ฟ่อๆ ด้วยสีหน้าโหดๆ ที่ยังไง๊ยังไงเพื่อนคนเดิมก็มองว่าทำตัวเป็น ‘ลูกสาวกำนัน’ ชัดๆ

“ห้าวว่ะ”  ถ้าละครคณะมีบทผู้หญิงปลอมเป็นชายล่ะก็ โปเต้สาบานว่าจะลองส่งชื่อน้องทอมคชาคนนี้ไปคัดดู

“เขาเรียกแมนว้อย!” 

“แมนก็แมน... แล้วที่ว่ามีหมอมาจีบหลังเตะบอลอะ?” 

“จีบเชี่ยไร! คุยกันเฉยๆ”  ร่างเล็กเถียงทันควัน  “แค่บอกขอโทษที่ชนกันในสนามแค่นั้น โม้ยังกะไปกินข้าวด้วยกันมา”  คชาพูดแกมบ่น  ด้วยพอจะรู้ว่าเรื่องพวกนี้คงไม่ได้มีต้นตอมาจากไอ้โปเต้นี่หรอก แต่คงมีคนแกล้งลือกันเล่นไปตามประสาเด็กคณะเขา

หารู้ไม่... ต้นตอมันมาจากไอ้สี่ตาคนนี้นี่แหละ! เห็นหงิมๆ แบบนี้น่ะร้ายนัก

“เฮ้ย ทีมนั้นมาแล้ว”  เสียงพูดของใครสักคนในคณะดังมาจากไม่ไกลทำให้บนสนทนาของคชากับโปเต้ชะงักกลางคัน  ตาเรียวหันไปกวาดมองคู่แข่งที่จะฟาดแข้งในวันนี้  เดินเข้ามาเยอะขึ้นเรื่อยๆ จนเริ่มรู้สึกหนาวๆ  “วันนี้คณะอะไรวะ?”  ถามขึ้นลอยๆ หากแต่ไม่ได้คำตอบจากใครสักคน

ร่างเล็กก้มลงหยิบผ้าขนหนูสีขาวชุบน้ำเย็นๆ มาลูบต้นคอ  อากาศตอนนี้ออกจะร้อนอบอ้าวไม่แพ้ช่วงกลางวัน  ดวงอาทิตย์ที่คล้อยต่ำไม่ช่วยให้อุณหภูมิลดลงเลย  คชาเงยหน้าขึ้นมองทีมฝั่งตรงข้ามอีกครั้ง ฝ่ายนั้นเริ่มสวมเสื้อทีมสีแดงกันแล้ว แถมกองเชียร์ที่มาก็น้อยเสียเมื่อไหร่  ริมฝีปากบางขมุบขมิบตามเมื่ออ่านชื่อคณะนั้นในใจ ‘บัญชี’  มิน่า... บนแสตนด์มีแต่สาวๆ แถมแต่ละคนก็หน้าตาน่ารักกันทั้งนั้นเลย

จะมองทางซ้ายก็เข้าตา จะมองทางขวาโอ๊ะโอยก็โดน >w<

ทำนองเพลงคุ้นหูเริ่มดังทุ้มขึ้นในใจ  ตาเรียวเล็กชายมองสาวขาวหมวยน่ารักแล้วก็อดยิ้มจางๆ ไม่ได้  ทำไมที่คณะไม่เห็นมีสาวๆ น่ารักจิ้มลิ้มแบบนี้มั่ง

อุตส่าห์ไม่ซุก แน่ะ! ยังซน มาจ้างให้ทนก็ทนไม่ไหว

   สอดส่ายสายตาเป็นประกายซุกซนจนกระทั่งไปสะดุดกับสาวบัญชีคนนึงที่มองมาทางนี้เหมือนกันเข้า  มุมปากทั้งสองข้างของเธอค่อยๆ ยกขึ้น  นี่เธอคนนั้นกำลังส่งยิ้มให้ผมมาอยู่รึเปล่า?

ก็ถูกใจอีกแล้ว มันอดไม่ไหวใจแตกอีกแล้ว สกัดยังไงก็เอาไม่อยู่ ควบคุมไม่อยู่ มันอู้หูซะทุกราย


สาวๆ คนอื่นในแสตนด์ก็เริ่มมองมาทางนี้เหมือนกันล่ะ อย่าทำแบบนี้สิ มันเขินนะ >//<

บาดใจอีกแล้ว มันหลบไม่พ้นใจหล่นอีกแล้ว

   “กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด”

ขนาดไกลๆ มือไม้ก็สั่น ก็มันจะละลาย

ถึงขนาดกรี๊ดให้เลยหรอ ไม่เอาน่า วันนี้เราคนละฝั่งกันนะคร้าบ อย่าทำให้เกิดรักต้องห้ามสิ!

ถ้าหากละอายใจ...

   “กรี๊ดดดดดดดดดด  เต๋า!!! เต๋า!!!!!!!”  เต๋าไหนวะ!?  แม่งเอ๊ย ขัดอารมณ์หมดเลย!  อุตส่าห์กำลังมโนว่าสาวๆ บนแสตนด์กรี๊ดให้อยู่เชียว

ได้ไหมช่วยไป..... ไกลๆ หน่อย.... นี่จะตามรังควานกันไปถึงไหนวะ!!!!!

   ไอ้เผือกเต๋าเพียงพอ! หล่อตายล่ะ!!!!! 

ลางสังหรณ์เริ่มมาตั้งแต่ฉุกคิดขึ้นได้ว่าคณะบัญชีมันรวมบริหารเข้าไปด้วย แต่ก็ไม่คิดว่าจะเป็นคนเดียวกันจนกระทั่งสายตาลากผ่านไปมองเข้าพอดี 

ลูกชายเจ้าของหอพักเพียงพอวันนี้ใส่ชุดนักกีฬาเต็มยศ เสื้อทีมแดงสดตัดกับผิวขาวซีดเป็นทุนเดิมอย่างชัดเจน ซ้ำเจ้าตัวยังยืนยิ้มมุมปากกวนๆ เด่นเป็นสง่าอยู่หน้าแสตนด์ฟากนั้น

ไอ้ขี้เก๊กเอ๊ย! เฮอะ...แกแพ้แน่!  คนตัวเล็กเย้ยอีกคนในใจหากแต่ใช้ผ้าขนหนูสีขาวปิดใบหน้าไว้เต็มๆ   ถ้าไม่ได้อยู่ในสภาพผู้ชายเต็มตัวแบบนี้คงเข้าไปเกรียนใส่แล้ว แต่ยิ่งหลุบตามองสภาพตัวเองตอนนี้...มันคือหลักฐานชั้นดีว่าเขาน่ะเป็นผู้ชายทั้งแท่งไม่ใช่ทอมแอ๊บแมนอีกต่อไป

   ยังไงก็ตาม ขอเผ่นก่อนละกัน!  วันนี้ยังไม่พร้อมจะเปิดเผยตัว T^T  คิดได้ดังนั้นก็หันเดินไปที่กระเป๋าของตัวเองทั้งๆ ที่ใบหน้ายังมีผ้าขนหนูชื้นๆ มาแปะเอาไว้อยู่  แอบมองดูซ้ายขวาก็หยิบข้าวของวิ่งไปยังห้องน้ำโลด!!!

   ไม่แข่งมันแล้วโว้ยวันนี้! เดี๋ยวไม่มีที่ซุกหัวนอน ไม่คุ้มกัน!
   





กว่าหัวใจจะเริ่มคลายจังหวะการเต้นให้ช้าลงก็เป็นตอนที่เขาปิดประตูห้องน้ำดัง ‘ปัง!’พลางลงกลอน  คนตัวเล็กถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่... เหนื่อยหน่ายที่ตัวเองต้องมาปิดบังเพศเหมือนตอนเพิ่งเปิดเทอมทั้งที่ทุกคนก็รู้กันหมดแล้วว่าเขาเป็นผู้ชาย...
เขารู้ดี ความลับไม่เคยมีในโลก และสักวันเต๋าก็ต้องรู้  เพียงแต่วันนี้เขาไม่ได้เตรียมใจจะบอกนี่หว่า

ยิ่งเริ่มสนิทกันมากขึ้น มันยิ่งทำให้รู้สึกกล้าๆ กลัวๆ
มันจะโกรธไหมวะ? หลอกมันมาได้ตั้งนาน
ไม่หรอกน่า... คงไม่หรอก...

คชานึกพลางลงมือเปลี่ยนจากชุดบอลสีน้ำเงินเป็นชุดนักศึกษาแสนมิดชิดตามเดิม...ใบหน้าหวานออกอาการหงอยๆ เพราะตัวเองไม่ได้ลงแข่ง แต่ถึงกระนั้นก็หมายมั่นจะกวดขันให้ทีมนิเทศชนะแมทช์นี้ให้ได้เพื่อเขาจะได้ลงแข่งในนัดต่อไป

   คนตัวเล็กพับชุดบอลใส่กระเป๋าเป้สะพายหลัง มือบางกำลังจะเอื้อมไปเปิดกลอนทว่าแรงสั่นจากโทรศัพท์ในกระเป๋าก็เบนความสนใจไปเสียก่อน

   - - เผือก - -

   ตายยากชะมัด โทรมาทำไมวะ!?  แม้จะนึกอย่างนั้นแต่ก็กดปุ่มรับสาย

   “อยู่ไหนชาค่ะ?”  เสียงจากปลายทางดังขึ้นทันที

   “ย..อยู่...”  กำลังจะพูดต่อเสียงเขาก็วูบไปเมื่อระลึกได้ว่าเสียงของอีกฝ่ายไม่ได้มาจากโทรศัพท์เพียงอย่างเดียว  แต่มันดังก้องอยู่ในห้องน้ำนี้ด้วยน่ะสิ!

   ใครใช้ให้มาเข้าห้องน้ำตอนนี้วะ!!!!!

   “ว่าไงนะ ได้ยินไม่ชัด?”  เสียงทุ้มเสียงเดิมดังมาจากที่ไม่ไกล... ไม่เกินสามเมตรนี่เองแหละมั้ง!
ห่างกันแค่ผนังบางๆ ที่กั้น... สยองชะมัดเลย!

   มือเรียวหยิบโทรศัพท์เครื่องเก่ามาถูกับเสื้อนักศึกษาจนเกิดเสียงครืดคราด ก่อนจะกดตัดสายแล้วปิดเครื่องไปในทันที

   ฟู่ววววววววววว... รอดตัวไป






กว่าจะออกมาจากห้องน้ำก็เป็นตอนที่แน่ใจแล้วว่าไม่มีคนอื่นอยู่อีก... หลังได้ยินเสียงนกหวีดในสนามเป่าขึ้นเป็นสัญญาณเริ่มการแข่งขัน คนตัวเล็กค่อยๆ คลายกลอนที่ลงไว้ โผล่เสี้ยวหน้ามาดูไม่พบใครก็รีบออกมาทันที  ขาเรียวก้าวยาวๆ กลับไปที่สนามท่ามกลางความสงสัยของเพื่อนร่วมทีมที่ถามว่าหายไปไหนมา

   “วันนี้เหนื่อย ขอพักหน่อย”  คชาพูดกับเพื่อนร่วมทีมตัวสำรองในชุดสีน้ำเงินตรงขอบสนาม  “เดี๋ยวดูเกมให้”  ว่าพลางหันไปดูการแข่งขันในสนามที่เพิ่งเริ่มได้ไม่นาน

   “กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด”  ทว่าไม่ทันได้สนใจสถานการณ์บนพื้นสนามเขียวสด เสียงกรี๊ดจากสาวๆ แสตนด์ฝั่งเขาเองก็ส่งเสียงดังขึ้นเสียก่อน คชามองตามไปยังต้นเหตุของเสียงกรี๊ดกร๊าดเหล่านั้น ก็พลันเจอะกับนักบอลกองหน้าของคณะบัญชีที่กำลังโปรยยิ้มจางๆ ขึ้นไป

   ไอ้ผีเผือกเอ๊ย! มาเตะบอลหวังจะให้สาวกรี๊ดอย่างเดียวสิท่า!  นึกก่นด่าในใจพลางเบะปากออกอย่างหมั่นไส้  ตาคู่เรียวยังคงจับจ้องอีกคนที่กวาดตามองขึ้นไปบนแสตนด์คณะนิเทศ ก่อนที่จะไล่ลงมาสบตากับเขาพอดี

   ตอนนั้นเอง... คชาถึงได้เห็นว่าอีกฝ่ายหยุดสายตานิ่ง และฉีกยิ้มกว้างกว่าเดิมเป็นเท่าตัว

ยิ้มหาพระแสงอะไรวะ!  นึกตอบโต้เป็นคำพูดผ่านสายตาแบบนั้นกลับไป หากแต่อีกฝ่ายทำหน้าเป็นทองไม่รู้ร้อนซ้ำยังยักคิ้วหลิ่วตาให้ ก่อนที่มือขาวซีดนั้นจะจับที่เสื้อตัวใหญ่ราวกับจะชี้ชวนให้มองที่เสื้อสีแดงตัวนั้นตาม

2 3

เบอร์ยี่สิบสาม…
แล้วไงวะ? จะมาทวงค่าเช่าห้อง 2,300 บาทรึไง!?
   





   เสียงโห่เฮดังลั่นสนามเมื่อฝั่งคณะบัญชีเป็นฝ่ายทำประตูที่หนึ่งเข้า  “ขยันวิ่งหน่อยสิวะ!”  คชาตะโกนเสียงดังไปยังเพื่อนร่วมทีมที่มีท่าทีเนือยๆ ไม่ขยันขันแข็งอย่างเคย เว้นก็แต่ไอ้เพื่อนหน้าสิวที่ดูมันยังทำตัวดี๊ด๊าเหมือนเดิม  “เฟรม... อย่ามัวแต่หลีสาวดิ!”

   คนถูกเรียกชื่อได้แต่หันมามอบรอยยิ้มแห้งๆ ให้  ก่อนจะหันไปสนใจลูกกลมๆ ในสนามต่อ  สมาชิกทีมสีน้ำเงินดูจะวิ่งกันคึกคักมากขึ้นเมื่อเสียประตูแรกให้อีกฝ่าย  ทว่าทีมคณะนิเทศเริ่มเกมบุกทีมคณะบัญชีไม่ทันไร เสียงนกหวีดก็ดังขึ้นเสียก่อน

   ...หมดเวลาครึ่งแรก…

   เหล่านักฟุตบอลทีมสีน้ำเงินกรูกันเข้ามานั่งพักข้างสนาม  คชายื่นผ้าชุบน้ำหมาดๆ กับขวดน้ำให้เพื่อนร่วมทีมแต่ละคน  “สู้ๆ นะเว่ย ทำดีแล้ว”  บอกเพื่อนร่วมทีมที่ดูท่าทางกำลังเหนื่อยล้าเต็มที


   ห้านาทีแรกของช่วงพักครึ่ง ทีมนิเทศทุกคนเข้ามานัดแนะการเล่นของแต่ละคน ก่อนจะแยกย้ายกันไปหามุมพักของตนเอง  เว้นก็แต่คชาที่ยังคงนั่งมองพื้นหญ้าสีสดกับลูกบอลกลมๆ จากข้างสนามเหมือนเดิม  นึกอยากลงไปเล่นด้วยใจจะขาดแต่ทำไม่ได้ 
เพราะใครบางคนน่ะสิ!

ใครบางคนที่คอยส่งยิ้มกวนตีนให้ตลอดทั้งการแข่งขัน... แถมดูสาวๆ ก็กรี๊ดกร๊าดมันมากด้วยเถอะ

เฮอะ... หล่อตาย! แค่ตัวสูงกับขาวเท่านั้นเองล่ะวะ!!!


“ขอน้ำบ้างสิ”  ได้ยินเสียงที่พูดกับตน มือบางก็คว้าน้ำเปล่าที่วางอยู่ใกล้ๆ มาโดยไม่ทันมอง  ยื่นมันส่งให้ทว่าคนตรงหน้ากลับนิ่งไม่รับไปเสียที  จนกระทั่งใบหน้าหวานต้องเงยขึ้นมองตาม

ขาขาวซีดกับกางเกงสีดำเบอร์ 23… ไล่สายตาขึ้นไปก็พบกับไอ้ผีหน้าขาวคนเดิมที่ประดับไปด้วยรอยยิ้มแบบกวนๆ

“ไม่ให้”  คนตัวเล็กรีบชักมือกลับทันที  “ไปฝั่งตัวเองสิ มาทำอะไรตรงนี้”  พูดพลางทำหน้าย่นใส่ หากแต่คนถูกไล่ดันไม่ไป ซ้ำยังทรุดตัวนั่งลงข้างๆ เพื่อนทอมคนเดิมเสียอีก

“เพื่อนเธอยังไปฝั่งนู้นได้เลย”  เต๋าอ้าง  พอคชาหันหน้าไปมองตาม ก็เห็นเสื้อสีน้ำเงินลอยเด่นมาแต่ไกล ซ้ำยังเป็นไอ้เฟรมกับไอ้เต้ด้วยสิ!

แหม่... ถ้าไม่มีไอ้เต๋าอยู่นี่คงเดินตามไปเหล่สาว เอ้ย ไปตามกลับมาแล้ว!


ปากบางขมุบขมิบอย่างหมั่นไส้เพื่อนทั้งสอง  “ขำอะไร?”  หันมาทำหน้าเหวี่ยงใส่ไอ้คนตัวขาวเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะของอีกฝ่ายเบาๆ  “กลับไปนั่งฝั่งนู้นเลยไป”

“อยากกระชับมิตรไม่ได้หรอ?”  เต๋าพูดพลางทำหน้าอ้อนๆ ใส่  หากแต่ในสายตาอีกฝ่ายกลับรู้สึกว่าอีกคนอยากจะกวนเขาเล่นแค่นั้น

“กระชิบมิตรหรือมาหลีสาว?”  คชาถามเสียงแข็ง...หงุดหงิดไม่หายที่เห็นเพื่อนร่วมคณะมองไอ้เผือกนี่ตาเป็นมัน

“ทีเด็กนิเทศยังข้ามไปจีบเด็กบัญชีได้เลย  ทำไมหนุ่มบัญชีจะข้ามมาจีบสาวนิเทศบ้างไม่ได้?”

“จีบ?”  พูดทวนคำก่อนจะนิ่งไปชั่วครู่  “ที่อกหักจากแพรวายังไม่เข็ดรึไง?”  ใบหน้าหวานขมวดคิ้วถามเมื่อเริ่มเรียกสติได้คืนมา
คชากำลังหงุดหงิด... ยิ่งมองรอยยิ้มกวนที่ถูกส่งมาให้ก็ยิ่งรู้สึกอย่างนั้น  ฉับพลัน...ภาพที่เขากอดปลอบอีกคนในห้องตัวเองก็ลอยขึ้นมา นึกเสียดายที่อุตส่าห์ปลอบใจอีกคนในวันนั้น แต่ไม่กี่วันต่อมา มันก็ทำหน้าระรื่นบอกเขาว่าจะจีบผู้หญิงคนใหม่
ไม่รู้ทำไมถึงได้โมโหแปลกๆ ...ส่วนนอกจากนั้นคือความหมั่นไส้!

“ชาค่ะ... นี่ไม่รู้หรอว่าฉันมาจีบใคร?”  เต๋าถามทีเล่นทีจริง

“ไม่รู้”  ส่วนคนถูกถามตอบกลับเสียงแข็ง ยังอยู่ในโหมดหงุดหงิดไม่หาย

“งั้นถ้านัดนี้นิเทศชนะ จะบอกให้ก็แล้วกัน”  เต๋าพูดพลางลุกขึ้นเดินกลับไปยังฝั่งเดิมที่เดินมา ทิ้งให้เพื่อนทอมนั่งหน้าย่นอยู่ตรงที่เดิม

ถามสักคำก่อนไหมว่าอยากรู้รึเปล่า เฮอะ!





เมื่อฟ้ามืดมิดลงเรื่อยๆ  กองเชียร์บนแสตนด์เชียร์หลายคนก็เริ่มทยอยลุกออกไป บ้างก็กลับบ้าน บ้างไปหาอะไรทานเพราะเย็นมากแล้ว หากแต่คชายังนั่งลุ้นเกมการแข่งขันเบื้องหน้าอยู่ที่เดิม แม้เมื่อครู่แพรวากับแอ้นจะมาชวนให้ไปกินข้าวด้วยกันก็เถอะ
   หิวก็หิว... แต่ ณ จุดนี้ ถึงศักดิ์ศรีจะกินไม่ได้แต่ต้องมาก่อน... ทีมเขาต้องชนะ ยังไงเกมนี้ก็ต้องชนะ  เพื่อที่คชาจะได้ลงแข่งอีกครั้ง เพื่อที่ไอ้เผือกนั่นจะได้เจ็บใจเล่น

การแข่งขันในครึ่งหลังเริ่มต้นดุเดือดกว่าครึ่งแรกนัก... คชานั่งจ้องลูกกลมๆ ในสนามตาแทบไม่กะพริบ  ฝั่งนิเทศเกือบได้ประตูตีเสมอหลายต่อหลายหน ทว่าก็บอลก็ถูกสกัดได้อยู่ร่ำไป  ยิ่งเห็นใบหน้าขาวกับรอยยิ้มกวนๆ ที่ชอบชายตามองมาทางนี้อยู่เรื่อยราวกับจะเยาะเย้ยก็ยิ่งรู้สึกขัดใจ

ถ้าเป็นไปได้... คชาอยากลงไปเตะเสียตอนนี้  ไม่ใช่เตะบอลแต่ไปเตะไอ้กองหน้าเบอร์ 23 นี่แหละ!! กวนประสาทเหลือเกิน!!!!!


กำลังนั่งเชียร์ข้างสนามอยู่ดีๆ หยาดน้ำจากเบื้องบนก็เริ่มตกเปาะแปะลงมา  คชาลุกขึ้นยืนหากแต่ไม่ได้ไปไหนไกล สายตาจ้องลูกบอลกลมๆ ที่อยู่อีกฝั่งของสนามอย่างชวนลุ้นแม้ตัวจะเปียกน้ำฝนบ้างก็ตาม แต่จะเป็นไรในเมื่อฝนไม่ได้ตกหนัก แค่นี้สบายอยู่แล้ว

ตาเรียวแทบถลนออกมาบอลถูกเลี้ยงไปตรงแถวหน้าโกลฝั่งนั้น  คชาส่งเสียงร้องดีใจ และตอนนั้น ผ้าผืนใหญ่ก็โปะลงมาบนศีรษะของเขา หันไปมองอีกทีก็เห็นไอ้คนตัวขาวกำลังเอาผ้าขนหนูสีขาวมาขยี้หัวเขาเล่นอยู่

“ไปนั่งบนแสตนด์ไป”  ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นไอ้เบอร์ 23 คนเดิม

“ไปเล่นในสนามไป”  คชาย้อนกลับ ไม่อยากจะสนใจเสียงนกเสียงกาเสียงหมาเสียงแมวที่มาขัดจังหวะการดูบอลในตอนนี้

“เปลี่ยนตัวออกมาแล้ว ไม่เห็นหรอ”  เต๋าตอบ มือยังสาละวนอยู่บนศีรษะอีกคนกับผ้าขนหนูผืนนั้น  “เดี๋ยวก็เป็นหวัดหรอก”


   ถึงอากาศจะเย็นชื้น เม็ดฝนจะโปรยปราย  ทว่าบรรยากาศรอบตัวกลับอบอุ่นอย่างน่าประหลาด แม้สายตาเรียวเล็กของคชาจะยังโฟกัสไปที่ภาพภาพเดิม หากแต่สมองมันทำลายประเด็นเหล่านั้นไปหมดสิ้นแล้ว  เขาไม่รับรู้ด้วยซ้ำว่าใครครองบอล หรือใครจะทำประตูได้  ทั้งหมดกลายเป็นเพียงละอองฝน เหลือเพียงสัมผัสขี้เล่นปนอบอุ่นบนศีรษะของเขาต่างหากที่รบกวนจังหวะการเต้นของหัวใจ


ไม่ใช่การขยี้หัวเล่นอย่างที่คชาคิดไว้ในตอนแรก... แต่มันคืออะไร? ตอนนี้เขาก็ชักจะไม่แน่ใจเหมือนกัน


ถ้าคราวที่แล้วไฟช็อต คราวนี้คงจะเป็นฟ้าผ่า...

ใช่... ฝนเริ่มตกแรงขึ้นแล้ว อีกไม่นานมันต้องฟ้าผ่าแน่ๆ  เอาสิ...ผ่าเปรี้ยงลงมาแรงๆ ได้ยิ่งดี  ความรู้สึกแปลกประหลาดนี้จะได้หายไป








‘เปรี้ยง!’
แล้วฟ้าก็ผ่าสมใจ…


เสียงดังกึกก้องกังวานไปในทั่วพื้นที่เปิดอย่างสนามฟุตบอลแห่งนี้  หยาดฝนจากที่ตกเป็นเม็ดเปาะแปะก็กลั่นตัวไหลลงมาเป็นสาย ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนกรรมการต้องตัดสินใจเป่านกหวีดเพื่อยุติการแข่งขันลง เหล่านักฟุตบอลตัวชุ่มฉ่ำจึงวิ่งกราวเข้ามาในที่ร่ม นักเตะเสื้อสีน้ำเงินที่กระหายชัยชนะหลายคนพากันทรุดตัวลงนั่งแข้งขาอ่อนแรง

เพราะนัดนี้ทีมนิเทศศาสตร์เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ไป 0 ประตูต่อ 1  ทั้งๆ ที่เมื่อครู่ฝั่งนิเทศกำลังเป็นต่อ เกือบจะตีเสมอได้... แต่กลับต้องแพ้เพราะอากาศไม่เป็นใจแบบนี้

คนตัวเล็กปรายตามองเพื่อนร่วมทีมที่อยู่ไม่ไกล อยากเดินเข้าไปทักแต่ก็ถูกรั้งไว้ด้วยอ้อมแขนแกร่งที่บีบไหล่เขาไว้... นานเกินไปจนคชาเริ่มไม่รู้สึกถึงการมีอยู่ของมัน แต่ถ้าถามว่าตั้งแต่เมื่อไหร่นั้น ก็คงตั้งแต่ที่อีกฝ่ายกึ่งลากกึ่งผลักให้เขาเข้ามาอยู่ในร่มแบบนี้

สองเพื่อนซี้อย่างเฟรมและโปเต้เห็นหันมาเห็นเขาเข้าพอดี คชากำลังจะถือโอกาสเข้าไปทักหากแต่มือขาวซีดข้างเดิมก็รั้งไหล่เขาไว้ มันไม่ได้บีบแน่นเหมือนทีแรกหากแต่กอบกุมเหมือนจะเว้าวอนไว้ไม่ให้ไป

เพียงเท่านั้น ก้อนอกข้างซ้ายก็กระตุกรัว  สองขาหยุดนิ่งโดยอัตโนมัติ คชาหันไปมองหน้าอีกคนในเชิงถามก็ได้คำตอบเป็นเสื้อยืดสีดำที่อีกฝ่ายไปคว้าเอามาตั้งแต่ไหนก็ไม่รู้

ไม่รู้... เพราะตัวเขาเองก็เพิ่งได้สติดีตอนได้ยินเสียงฟ้าผ่านั่นแหละ ก่อนหน้านั้นใจมันลอยไปลอยมาไร้จุดหมายได้พักหนึ่งแล้ว
แค่เพราะผ้าขนหนูผืนนั้น ที่บัดนี้เป็นเครื่องประดับคอของคชาไปโดยปริยาย

“เอาไปเปลี่ยน...เปียกหมดแล้ว”  น้ำเสียงทุ้มต่ำที่เคยกวนโมโหแต่ในขณะนี้เหลือทิ้งไว้เพียงความอบอุ่นอย่างน่าประหลาด 

“อยากโป๊หรือไง?”  เห็นสายตาที่มองต่ำลงมาตรงหน้าอกหน้าใจ คชาก็รีบยกแขนขึ้นกำบัง วันนี้เขาไม่ได้ใส่ฮู้ดมาเหมือนทุกวันเพราะอากาศนั้นร้อนแสนร้อน หากแต่เสื้อกล้ามตัวหนาที่อยู่ด้านในก็ทำให้ไม่เห็นอะไรในเวลาปกติดี

ทว่าในเวลาเปียกปอนแบบนี้เขาก็ชักไม่แน่ใจ... คนตัวเล็กรับเสื้อตัวนั้นมาอย่างเคอะเขิน กำลังจะหันเดินไปทางห้องน้ำก็ดันไปสบตากับสายตาของเพื่อนซี้ทั้งสองที่มองมา

แววตาสี่ดวงนั้นกำลังล้อเลียนเขาอยู่ชัดๆ!




ใช้เวลาไม่นาน... คชาก็เดินออกมาจากห้องน้ำหญิงในเสื้อบอลสีดำสกรีนคำว่า TAOTAO กับเลข 3 อยู่บนอก ที่บ่ายังคงมีผ้าขนหนูสีขาวผืนเดิมพาดเอาไว้  โดยไม่ต้องสอดส่ายมองหาให้ยาก เพียงมองลอดเข้าไปในห้องน้ำชาย ก็พบอีกคนในเงาที่สะท้อนกับกระจกออกมาเด่นชัด

“รอก่อนนะชา ไว้หาอะไรกินแล้วค่อยกลับบ้าน”  เต๋าพูดออกมาเชิงสั่งกับคนที่อยู่ด้านหน้าห้องน้ำอย่างไม่สนใคร
ไม่สน... ว่าไอ้คนที่อยู่ข้างในจะเป็นใครบ้าง ทั้งเพื่อนเขา เพื่อนตัวเองหรือใครต่อใคร
ไม่สน... ว่าไอ้คนที่อยู่ข้องนอกจะเคอะเขินแค่ไหนที่ตัวเองประกาศลั่นออกมาแบบนี้

คชาไม่ได้ตอบ หากแต่ยืนรออย่างงุ่นง่านอยู่หน้าห้องน้ำแบบนั้นต่อไป  กำลังทำใจว่าพรุ่งนี้เช้าคงต้องมีข่าวว่าหนุ่ม ต. กองหน้าคณะบัญชีมาตามจีบเขาอยู่ตามประสาเด็กคณะสื่อสารมวลชนแน่ๆ

ทุกคนคงจะหลงเข้าใจผิดไปยกใหญ่  ทั้งๆ ที่เต๋ากำลังจะจีบคนอื่นอยู่แท้ๆ





อาจเป็นครั้งแรกที่เต๋านึกขอบคุณคุณแม่ของเขาที่บังคับให้เขาพกร่มออกมาแบบนี้  ร่มสีชมพูหวานของที่บ้านที่เขาไม่กล้าใช้เองคนเดียวแน่ๆ หากแต่พอมีคนมาอยู่ใต้ร่มคันนี้ด้วยกันแล้วมันกลับรู้สึกอบอุ่นใจอย่างประหลาด

เท้าอีกคู่ของคนข้างๆ ก้าวไวกว่าปกติจนเต๋ารับรู้ได้ เขาไม่ได้พูดอะไร แต่ก็รู้ว่าอีกคนคงจะเขินอายที่ออกมาด้วยกันสองคนแบบนี้ แถมยังที่เขาประกาศกร้าวในห้องน้ำชายต่อหน้าคนอื่นๆ นั่นอีก

“กินอะไรดี?”  เสียงทุ้มถามลอยๆ เมื่อมาเดินถึงย่านร้านอาหารมากมายใกล้มหาวิทยาลัย  เขาลดร่มสีแหววลงเมื่อเดินเข้ามาในที่ร่ม  “อะไรก็ได้”  ได้ยินเสียงอีกคนตอบเขาอย่างนั้น

“เสต็กไหม?”  เต๋าหันไปถามอีกครั้ง ทว่ากลับเห็นอีกคนมองร้านอาหารญี่ปุ่นอย่างสนอกสนใจ คชาหันมาหากำลังจะเข้าไปในร้านอาหารเสต็กตามที่อีกคนพูดถึง หากแต่ก็ถูกดันเข้ามาในร้านอาหารญี่ปุ่นเสียก่อน

“ไว้กินเสต็กคราวหน้าก็ได้”  เต๋าพูดขึ้นหลังจากนั่งลงภายในเก้าอี้ในร้าน คชาหัวใจวูบหวิวประหลาดที่ได้ยินอย่างนั้น... เขาเริ่มสงสัยในความแปลกประหลาดของความสัมพันธ์ที่ดูจะสนิทสนมจนเกินไปเข้าทุกที มันมีความแตกต่างในความรู้สึกไม่เหมือนกับเฟรมหรือโปเต้  แต่ก็ต้องยอมรับกับตัวเองว่าลึกๆ แล้วเขาดีใจ

สิ้นเสียงสั่งอาหาร พนักงานก็เดินจากไป คชามองออกไปผ่านกระจกใสไปยังภายนอก ก็ดันเจอะเข้ากับสาวๆ ร่วมเขาคณะจนได้  คชายิ้มทักทายสาวๆ กลุ่มนั้น นึกพลาดที่ไม่นั่งด้านในร้านแต่แรก  เขาสะกิดอีกคนให้หันไปหาพวกเธอตามที่ถูกบอก เพียงเต๋าโปรยยิ้มการค้า พวกเธอก็ดูยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ก่อนจะเดินจากไป

“แฟนคลับเยอะจริงๆ นะนาย”  คชาเป็นฝ่ายพูดขึ้นเปรยๆ

“คนมันฮ็อตก็แบบนี้”  เต๋าทำท่ายิ้มภูมิใจ เห็นอีกฝ่ายทำหน้าเหม็นเขียวใส่จึงพูดต่อ  “อยากสมัครด้วยไหมล่ะ?”  ทำทีหยิบกระดาษออกมาจากกระเป๋าเป้ใบใหญ่ เขียนอะไรบางอย่างก่อนจะยื่นมันให้อีกฝ่ายดูพร้อมปากกา

เพียงไม่กี่วินาทีต่อมาที่คชาก้มหน้าอ่าน  “เขียนผิดนี่”  พูดเสียงแผ่วหลังจากตึกตรองไม่นาน ก่อนจะช้อนมองใบหน้าอีกฝ่ายที่ประดับไว้ด้วยรอยยิ้มขี้เล่นแสนกวนเหมือนทุกที

ใจนึกเกลียดที่ความรู้สึกประหลาดที่เขาไม่อยากยอมรับมันกำลังก้าวเข้ามาอีกครั้ง  หัวใจของเขากำลังตีรวนและสับสน  ยิ่งนึกถึงคำพูดที่อีกฝ่ายพูดเมื่อชั่วโมงก่อนหน้านี้ก็ยิ่งไม่เข้าใจ

ที่บอกจะจีบสาวนิเทศก่อนหน้า... มันคงไม่ใช่...


“ไม่ผิดหรอกชาค่ะ... ที่เขียนอะถูกแล้ว”
ก้มหน้าลงอ่านมันอีกรอบแล้วก็รู้สึกว่าใบหน้าตัวเองมันร้อนจนแทบต้มน้ำได้ ทั้งๆ ที่มันก็แค่ข้อความสั้นๆ ประโยคเดียว...



- ใบ สมัคร แฟน ครับ -





ควรจะเขียนอะไรลงไปดีล่ะชา???













TBC

>w<
โดยส่วนตัว ชอบตอนนี้มาก แต่งเองชอบเอง 5555
ขอบคุณทุกคนมากๆ นะจ๊ะ อิอิ
เม้นกันสักนิดเม้นกันสักหน่อยก็ดีนะ

iDistort

  • บุคคลทั่วไป
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 12 หน้า 5 (up 22Jun)
«ตอบ #118 เมื่อ22-06-2012 23:57:59 »

มาแว้วว  :pig4: :pig4: :pig4: จิ้มๆๆ

ออฟไลน์ •ผั๑`|nกุ้va’ด•

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1278
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-69
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ ::::: Part 12 หน้า 5 (up 22Jun)
«ตอบ #119 เมื่อ23-06-2012 00:03:26 »

  :man1:  ไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้าเต๋ารู้ความจริงขึ้นมาว่าคชาไม่ใช่สาว จะเกิดอะไรขึ้น. แต่ตอนนี้น่ารักจริง

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด