>> กอด~ ตอนพิเศษ แมวเมา กับความลับ P.26 25/12/13
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: >> กอด~ ตอนพิเศษ แมวเมา กับความลับ P.26 25/12/13  (อ่าน 159554 ครั้ง)

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8896
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
Re: กอด~ ทบทวน~ P.-3 21/6/12
«ตอบ #60 เมื่อ21-06-2012 21:22:49 »

รอตอนต่อไปค่า :z2:

ออฟไลน์ ormn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3925
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-8
    • http:///uc.exteenblog.com/riko-tomo/images/23213506_1208714389_3598161_Okane_ga_Nai_v01_ch01_pg002__Cover.jpg
Re: กอด~ ทบทวน~ P.-3 21/6/12
«ตอบ #61 เมื่อ21-06-2012 21:35:23 »

:เฮ้อ:อ่านแล้วรู้ซึกว่าจะดาม่ายังไงไม่รู้อะ :กอด1: :กอด1:


อ่ยาเศ้รามากนะเดี๋ยวทำใจอ่านไม่ไหวอะ :3123: :3123:


รอตอนต่อไปจ้า :bye2: :bye2:

ออฟไลน์ NOoTuNE

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +317/-15
Re: กอด~ ทบทวน~ P.-3 21/6/12
«ตอบ #62 เมื่อ21-06-2012 22:12:16 »

ถ้าทำจริงๆคิดว่าภาคจะมีความสุขจริงๆไหม


เราจะเจ็บปวดคนเดียว หรือ "มันจะพากันเจ็บปวดทุกคน"

Tassanee

  • บุคคลทั่วไป
Re: กอด~ ทะเลกับความลับ~ P.-3 21/6/12
«ตอบ #63 เมื่อ21-06-2012 23:15:03 »

ทะเลกับความลับ~
.
.

2 เดือนผ่านไป
.

.

“ภาค  ๆ  ตื่นเร็ว  ตื่นซี่ไอ้ขี้เซา ....ตุ๊บ!!”  ผมเขย่าภาคจนตัวโยกคอน แต่ภาคก็ยังนอนสงบนิ่งมิสั่นไหวไปตามแรงผม

 เล่นเอาผมเหนื่อยเปล่าโดยหาประโยชน์ไม่ได้   สุดท้ายไม่ไหวก็เลยฟาดด้วยหมอนแรงๆ ไปหลายที

“โอ๊ยยยยย  อืออออ~”  เสียงยานคางของภาคเป็นปฏิกิริยาตอบสนองขั้นแรก ก่อนจะค่อยเลิกเปลือกตาชำเรืองมาทางผมนิดๆ

แล้วปิดมันลงไปอีก  แล้วก็พยายามเปิดเปลือกตาตัวเองอีกครั้งคราวนี้กระพริบปริบ ๆ อยู่หลายทีก่อนจะหันมามองผม

“ไรครับแพน  ภาคง่วงตาจะปิดอยู่แล้ว  เมื่อคืนกว่าจะได้กลับก็ตีสองเข้าไปแล้ว  แข่งกีฬาทั้งวันเลยขอนอนหน่อยไม่ได้เหรอ”

ภาคว่ากระเง้ากระงอดอยากจะนอนต่อเต็มที่  เปลือกตาจะหลับแหล่มิหลับแหล่

“หึหึ ...ไม่ได้ ๆ ไปเที่ยวกันนะภาค นะนะนะ  ไปทะเลกันปิดเทอมทั้งทีอ่ะ นะนะ” ผมรั้งแขนภาคขึ้น  ภาคเลิกคิ้วมามองนิดนึง

“ทำไมไม่บอกก่อนหล่ะครับหืม  ว่าแต่ไปกับใครบ้าง”

“กับแพนไง สองคน นะนะ จองที่พักไว้แล้วด้วยขออนุญาติพ่อกับแม่ไว้แล้วด้วย นะนะ” ผมเอาหัวถูไถอกภาคเป็นการใหญ่
.
“คร๊าบบบบบ  ว่าแต่ที่ไหนหล่ะ  ฮาวววววววว”  ภาคดันตัวขึ้นนั่งในที่สุด อ้าปากหาว ก่อนจะยิ้มบางๆ ให้ผม ลูบหัวไปมาอย่างเอ็นดู

“เสม็ดนะๆ ใกล้เอง ป่ะๆ อาบไปกันได้แล้ว”ผมยิ้มปากกว้างตอบ ดันให้เร่งไปอาบน้ำ

“อื๊ออออ  เดี๋ยวภาคอาบน้ำก่อนนะ แล้วไปเก็บกระเป๋าด้วย”  ภาคว่า

“อาบน้ำเถอะ แพนเก็บกระเป๋าเตรียมให้แล้ว”

“โห.....จอมวางแผนน่ะเราเนี่ย ถ้าภาคไม่ว่างจะทำไง” ภาคยิ้มอย่างอารมณ์ดี ขยี้หัวผมเบาๆ

“คิคิ  จะพาภาคเบี้ยวนัด แล้วหนีไปเที่ยวกับแพนนะสิ  ฮ่าๆ  รู้หรอกน่าว่าว่างอ่ะ  ก็แพนถามภาคแล้วจำไม่ได้รึไง”

“คร๊าบๆ  รอแป๊บเดียวนะ ภาคจะรีบอาบน้ำเลย  ฮ่าๆ”  ภาคว่าวิ่งเข้าห้องน้ำไป  ผมทิ้งตัวลงบนเตียง......

กลิ่นของภาคแผ่วเบา ....แต่กลับอบอุ่นได้เสมอ   กดจูบเบาๆ ที่ผ้าห่มผืนนั้น ก่อนจะพับเก็บแล้วซ่อนไว้ในตู้เสื้อผ้า

ผมจัดที่นอนให้เรียบร้อย  แต่ก็ไม่วาย.....ทิ้งตัวลงไปเกลือกกลิ้งอีกครั้ง  มือสัมผัสลูบไล้ไปทั่ว  ความร้อนที่ยังกระจายตัวอยู่

เนื่องจากใครบางคนพึ่งลุกไปไม่นาน...... คิดถึงจัง  ผมหลับตาแล้วนึกถึงอ้อมกอดอบอุ่นเมื่อคืนนี้  ภาคกอดผมไว้แน่นเหมือนเช่น
ทุกๆ คืนที่ผ่านมา  ไม่มีวันไหนที่เราไม่นอนด้วยกัน  ไม่มีคืนไหนที่ภาคจะไม่กอดผม  ไม่มีวันไหนที่ภาคจะละ...สัมผัสนั่น

เผลอจิกมือแน่นที่เตียงนุ่ม  เจ็บแปลบขึ้นในอก   ไม่นานก็ได้ยินเสียงประตูห้องน้ำเปิดออกมา  ผมหันไปดู  เห็นภาคยิ้มกว้าง

“เสร็จแล้วครับ รอภาคอีกแปล๊บขอหล่อหน่อย ” ผมอมยิ้มขำๆ นอนมองภาคแต่งตัว  เสริมหล่อตามปกติ

“ป่ะ  ...ไปกัน”    ภาคยื่นมือมาดึงมือผมที่ยื่นรอไว้อยู่ก่อนแล้ว  ออกแรงดึงเบาๆ ผมก็ลุกขึ้นยืนได้ทั้งตัว   

“ป่ะ”   ผมพยักหน้า  ภาคยักคิ้วกวนๆ ทีนึงยื่นมือมาโอบไหล่ผม ต่างคนต่างสะพายเป้คนละใบ เดินตามกันมาด้านล่างที่มีพ่อกับแม่

รอไปส่งผมกับภาคขึ้นรถ  จริงก็แค่ทางผ่านที่พ่อกับแม่จะไปช็อปปิ้งตะหาก ฮ่าๆ 

.

.
.

“ไปนะครับ” “ไปแล้วนะฮะ”  ผมกับภาค ยกมือไหว้พ่อกับแม่ผม หลังจากที่พ่อจอดรถที่สถานีรถปรับอากาศแห่งหนึ่ง

“อือ  เที่ยวกันดีๆ หล่ะ ระวังตัวด้วยนะ ไอ้ป่วน” พ่อว่า

“ดูแลตัวเองดีๆ นะลูก ภาคด้วยนะครับ” แม่ว่า

“คร๊าบบบ” “ครับ”  ผมกับภาครับพร้อมกัน   โบกมือบ๊ายบาย พ่อกับแม่ ที่ตอนนี้เคลื่อนรถออกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ภาคเดินไปต่อแถวที่ช่องขายตั๋วมีผู้โดยสารเยอะเลยทีเดียว แต่ละคนหอบกระเป๋ากันวุ่นวาย  มีเสียงพูดคุยกันสนุกสนาน

“ท่าเรือไปเสม็ดสองคนครับ”  ผมหันกลับไปมองอีกทีภาคก็ซื้อตั๋วเรียบร้อย  นั่งซดกาแฟสดซึ่งไม่รู้ไปซื้อตั้งแต่เมื่อไหร่

นั่งเฝ้าสัมภาระสองใบ แว่นตาสีชารับกับหน้าภาคมาก  ผมเห็นสาวๆ หลายคนสะกิดกันแล้วส่งซิกให้หันมามองภาค

โดยที่เจ้าตัวเองยังไม่รู้สึกตัวสักนิด ผมได้แต่อมยิ้ม...ไปที่ไหนก็ยังงี้ตลอด  ผมเดินไปเลือกชาขวดในตู้เย็นบริเวณใกล้

เคาเตอร์ขายตั๋ว จ่ายเงินแล้วเดินไปนั่งข้าง ๆ ภาค เห็นสาวๆ ยังมองภาคตาเป็นมัน  ผมสะกิดภาคเบาๆ ยื่นหน้าไปกระซิบ

“สาวมองตรึมเลยภาค” ผมว่า ยกคิ้วไปด้านสาวๆ ที่ว่า  หน้าตาน่ารักใช้ได้เลยครับ  ภาคเหล่ตามองนิดนึงแล้วหันกลับมาถามผม

“แล้วไง?  จะให้ไปจีบเหรอไม่เอาหรอกขี้เกียจ” ภาคว่าหัวเราะเบาๆ

“น่าเสียดาย”  ผมรำพึงรำพันเบาๆ

“หืม?  ชอบเหรอ?”  ภาคหันมาถามผมไม่จริงจังเท่าไหร่

“อืมม   แหะ ๆ  ก็น่ารักดี .....โอ๊ย”  ผมว่ายิ้มแก้มปริ  แต่แล้วก็ต้องร้องเสียงหลงเมื่อภาคเบิดกระโหลกผมเน้นๆ  อูย

“ไอ้เด็กแก่แดด....พอเลย  ห้ามมอง ห้ามคิด  ห้ามจีบ” ภาคว่า แล้วดึงหมวกผมลงปิดตา ผมดิ้นเบาๆ ดึงหมวกขึ้น ยู่หน้าใส่ภาค

“โหยยยย  โหดว่ะ...แพนจะไปจีบเค้าได้ไง  สองตาเค้าแลแพนที่ไหน มองแต่ภาคกันทุกคน”

“ฮ่าๆ  ก็ภาคหล่ออ่ะ”  ภาคว่า ยกมือขึ้นเสยผมที่ลมพัดมาละบริเวณหน้าพอดี   กลายเป็นท่าประกอบคำพูดได้เป็นอย่างดี

“คร๊าบๆ รู้แล้ว”  ผมหัวเราะจนปวดท้อง ขำคนหลงตัวเอง   


ไม่นานรถทัวร์ก็มาจอดตรงหน้า ผมกับภาคสะพายเป้ขึ้นรถ....  ภาคดันให้ผมเข้าไปนั่งชิดริมหน้าต่างเพื่อจะได้มองข้างทางได้สะดวก

นักท่องเที่ยวทั้งหลายแหล่ทะยอยกันขึ้นมาไม่ขาดสาย เหลือที่ว่างไม่กี่ที่รถก็เคลื่อนตัวออกไป  เสียงเพลงเปิดคลอเบาๆ กับแอร์

เย็นฉ่ำ ผมมองดูสองข้างทางได้สักพักเผลอหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้  รู้สึกตัวอีกทีก็มีมือภาคที่คอยลูบหัวผมอย่างเบามือ

สบายจนบอกไม่ถูก  ขยับตัวซุกไหล่ภาคอีกนิดก็ผลอยหลับต่อทันที

Mc_ma

  • บุคคลทั่วไป
Re: กอด~ ทะเลกับความลับ~ P.-3 21/6/12
«ตอบ #64 เมื่อ22-06-2012 00:01:45 »

ว๊ากกกกกกกก......จะดราม่ามั้ย แพนทำอะไรแปลกๆบนเตียงอ่ะ

ทะเลกับความลับ???  แพนคิดจะทำอะไรอ่าาาา????  อย่านะๆๆๆๆ

อยากให้คุยกะภาคให้เข้าใจ คิดอะไรไปเองคนเดียวบางทีมันก็อาจไม่ได้เป็นอย่างที่คิดก็ได้

ภาคอาจไม่มีความสุขกับหนทางที่แพนเลือกให้

เตรียมทิชชูไว้เผื่อ (หากดราม่าจริง จะได้มีใช้ หรือจะเอาไว้ซับเลือดดี ก็ไปเสม็ดกันอ่ะ  :pigha2:)

ขอบคุณค่ะ รอตอนต่อไปนะคะ
บวกๆ  :L2: :L2: :L2:

ปล. แต่ไปเสม็ดนี่.......มันเสร็จทุกรายน๊าาา...แพน คึคึุ  :impress2: :impress2:  :haun4: :haun4:


ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5591
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
Re: Re: กอด~ ทะเลกับความลับ~ P.-3 21/6/12
«ตอบ #65 เมื่อ22-06-2012 00:47:20 »

จะไปอำลากันที่ทะเลหรอ

Tassanee

  • บุคคลทั่วไป
Re: กอด~ ทะเลกับความลับ~ P.-3 21/6/12
«ตอบ #66 เมื่อ23-06-2012 00:05:19 »



(ต่อ)


เวลาผ่านไปนานแค่ไหนไม่ได้จำ  ฮ่าๆ มาถึงเอาฮาไว้ก่อน  ผมที่กำลังหลับสบายถูกก่อกวนโดยชายทราบเพศ (ปกติในข่าวจะบอกว่าชายไม่ทราบเพศ)

อายุ 13 ย่าง 14 ปี ผิวขาว แต่ตอนนี้ค่อนไปทางคล้ำเนื่องจากเล่นกีฬา ส่วนสูงประมาณ 165 ซม. กำลังศึกษาระดับ ม. 1
   
ฮ่าๆ ถ้าจะรู้รูปพรรณสัณฐานคนร้ายขนาดนี้ก็ชี้ตัวไปเลยดีกว่าเน๊าะ ก็ภาคนะแหล่ะครับที่ผลักหัวผมจนหมุน 380 องศา 

(น่าจะคล้ายๆ ข่าว 380 องศา)  ไม่รู้จะฮาไปไหนหนักหนา มุขแป๊ก ๆ ทั้งน้านนนน  จนผมต้องฝืนปรือตาขึ้นมามองอย่างงุนงง

“หืออออ”  ผมกระพริบตาช้าๆ มองหน้าภาคอย่างสงสัย  เห็นภาคส่ายหน้าขำๆ ผลักหัวผมอีกทีจนหน้าหงาย แต่ผมพึ่งตื่นไง

เลยงงๆ อยู่ ไม่ได้โต้ตอบกลับอะไรภาคทั้งนั้น  ภาคเลยยิ่งขำใหญ่ ผมพึ่งสังเกตุว่ารถจอดนิ่งสนิท นักท่องเที่ยวบนรถดูบางตาจนผมสงสัย

และก็ได้คำตอบโดยที่ยังไม่ได้เอ่ยปากถาม  เพราะสมองมันยังไม่ประมวลผลใดๆ ทั้งสิ้น

“ถึงแล้ว ...ป่ะ ลงได้แล้วเดี๋ยวไม่ทันเที่ยวเรือเที่ยวถัดไปนะ  อีก 20 นาที”  ภาคว่าพร้อมดันตัวลุกขึ้น แล้วหันมาดึงมือผม ฉุดให้

ลุกขึ้นตาม  พอลงมาถึงด้านล่างภาคก็เอาโซ่ที่ปลายมีตัวล็อคสองด้านเอาไว้เกี่ยวกระเป๋าตังค์กับกางเกง หรือกุญแจเพื่อไม่ให้หาย

ด้านหนึ่งเกี่ยวที่กางเกงตัวเอง อีกด้านหนึ่งเกี่ยวที่กางเกงยีนส์ผม  ความยาวแค่ 1 ฟุต คิดเอาเองว่าจะกับภาคจะตัวติดกันแค่ไหน

มีใครเคยแกล้งเพื่อนตอนพึ่งตื่นมั้ยครับ  คือมันรู้แหล่ะว่าเราโดนแกล้ง  แต่สมองมันไม่ประมวลผลไง ทำให้เราทำได้แค่งงๆ ไม่รู้

จะจัดการกับสถานการณ์ตรงหน้ายังไง  ได้แต่ปล่อยให้อีกฝ่ายหัวเราะคิกคัก แล้วลากผมให้เดินไปอย่างเร่งรีบ ผมเลยรีบคว้าแขนภาคไว้

ให้เดินช้าลงหน่อย เพราะเดินไม่ทัน เลยกลายเป็นภาคกุมมือผมไว้อย่างนั้นไม่ปล่อยอีกเลย  เราเดินตรงไปยังท่าเรือ สอบถามราคา

ภาคหันมาถามว่าจองโรงแรมไว้ที่ไหน  พอผมบอกเสร็จ ภาคซื้อตั๋วเรือเฟอร์รี่ทั้งขาไปและกลับ ในคราเดียวมาให้ 

“หิวมั้ย  จะเที่ยงแล้ว เรือมาแล้วอ่ะ จะรอไปเที่ยวถัดไปรึเปล่าจะได้กินข้าวกันก่อน”  ภาคหันมาถาม ผมส่ายหน้าไปมา

“ไม่เอาอ่ะ ซื้ออะไรไปกินรองท้องก็ได้  นะๆ ไม่อยากรอเรืออีกตั้งชั่วโมงอ่ะ”  ผมหน้างอนิด ๆ จริงๆคือง่วงนอนมากกว่า  อยากรีบ

ขึ้นเรือจะได้รีบนอน  ฮ่า ๆ อันนี้ แพลนที่วางไว้

“ป่ะ งั้นไปร้านตรงนั้นกัน”  ภาคชี้ไปร้านขายของชำร้านหนึ่งใกล้บริเวณนั้น เลือกอาหารสำหรับรองท้องระหว่างการโดยสารเรือ

เราเลือกไม่กี่อย่างเสร็จก็จ่ายตังค์แล้วมานั่งรอเรือที่ไม่อีกกี่นาทีก็มาจอดตรงหน้า ผมกับภาคกระโดดขึ้นเรืออย่างคล่องแคล่ว

อาการง่วงค่อยๆ ทุเลาเบาบางไปแล้ว   ก่อนกระโดดมีเรื่องฮาๆ ครับ เพราะผมเกือบตกทะเล  จำกันได้รึเปล่าก่อนที่จะเดินมาท่าเรือ

ภาคทำอะไรผม?   ก็จะอะไรซะอีกหล่ะ ก็ไอ้โซ่ที่คุณชายเค้าตั้งใจแกล้งผมน่ะแหล่ะ ก็ลืมกันทั้งคู่ไง ดีที่ท่าเรือมันมีเสาต้นใหญ่อยู่

ดีที่ภาคเองก็ไม่ไว้ใจผมเท่าไหร่  เพราะเห็นว่าผมยังมีอาการง่วงเป็นอยู่ แต่ยังดื้อจะกระโดดขึ้นเรือไง  พอกระโดดปุ๊บ โซ่ที่ตรึงเราไว้

ก็กระชากผมที่กระโดดลอยไปข้างหน้าให้ถอยหลัง  ส่วนภาคเองก็ถูกแรงกระชากจากตัวผมที่กระโดดลอยไป ดึงไปข้างหน้า

แต่ภาคจับเสาเตรียมไว้แล้วไง มืออีกข้างที่ว่างก็รวบกอดเข้าที่เอวผมแล้วกระชากกลับเข้าฝั่งไว้ได้ทัน  ภาคกอดผมแน่นเป็นแม่ลิงกอดลูกลิงเลยทีเดียว

ผมก็อารามตกใจหน้าเหวอไปพักหนึ่ง  ก่อนจะพักยก  (อย่าบอกใครนะครับว่าผมแอบขาสั่น)  ยังไม่ยอมข้าม  ไปนั่งหมดแรง

รีบปลดโซ่เป็นการใหญ่ นั่งลงที่พื้น พร้อมยู่หน้าใส่ภาคทันที 

“โทษที ๆ  ฮ่าๆ  เกือบเห็นลูกแมวตกน้ำแล้วมั้ยหล่ะ”

“ชิส์  ตกก็ตกด้วยกันน่ะแหล่ะ  แต่ว่าที่เป็นแบบก็เพราะใครหล่ะ?”  ผมประชดเข้าให้  ภาคยิ้มค้าง ยกมือขึ้นสองแขนเป็นท่ายอมแพ้

ก่อนจะก้มให้ ทำท่าขออภัยแบบคนป่า

“ชาบู  ชาบู  ชาบู  ฮ่าๆ.....โอ๊ย”   ผมหมั่นไส้เลยฟาดแขนภาคแรงๆ ไปที เจ้าตัวยังหัวเราะร่วน แต่ก็ลูบแขนตัวเองป้อย ๆ เห็นแล้ว

ก็อดขำไม่ได้

Mc_ma

  • บุคคลทั่วไป
Re: Re: กอด~ ทะเลกับความลับ~ P.-3 21/6/12
«ตอบ #67 เมื่อ23-06-2012 00:20:06 »

มาสั้นๆ  :z2: :z2: :z2:

กอดกันเบาๆก่อนขึ้นเรือ   :impress2: :impress2:


Tassanee

  • บุคคลทั่วไป
Re: กอด~ เดินทาง~ P.-3 25/8/12
«ตอบ #68 เมื่อ25-08-2012 03:01:37 »

ต้องขอกราบขออภัยงามๆ นะคะ  ลืมจริงๆ พอดีตอนแต่งเรื่องนี้ชีวิตบัดซบมาก  กดดันจนลืมไปเลยว่า
แต่งเรื่องนี้ค้างอยู่ เผลอไปแต่งเรื่องใหม่ โฮะๆ  ปกติไม่แต่งสองเรื่องพร้อมกันค่ะ
แต่ต่อไปจะพยายามอัพให้บ่อยๆ นะคะ ขออภัยจริงไม่ได้ตั้งใจจะละทิ้งแต่ประการใด
 :m15: :m15: :m15: :m15: :sad11:

ถือโอกาสแนะนำเรื่องใหม่ด้วยแล้วกันค่ะ  .....

รัก....ที่ขาดหาย
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=33937.0




กอด~เดินทาง....




“ไปกันได้ยัง?”  ภาคถามดันตัวลุกขึ้น พร้อมกับยื่นมือมาตรงหน้าผม 

“อืม”  ผมพยักหน้ารับ แล้วเอื้อมมือไปจับ  ภาคแค่ออกแรงดึงเบาๆ ผมก็ตัวลอยลุกขึ้นมาอย่างง่ายดาย     รอยยิ้ม......สดใสเหมือนดวงตะวัน 

ผม......จะจดจำไว้  คิดแล้วก็ยิ้มตอบ อยากหล่ออยากเท่ห์เหมือนภาคบ้างจัง  ไม่ว่าทำอะไร....ก็มีเสน่ห์ มีแต่คนให้ความสนใจ

 เชื่อผมสิ ตอนนี้สาวๆ กว่าครึ่งเรือกำลังมองคนหล่อที่กำลังช่วยดึงน้องตัวเล็กอย่างผมอย่างสนใจ

ไม่ใช่ว่าแค่ภาคดูใจดีหรอก.....แต่คงเป็นเพราะความหล่อมันกระแทกตา  ฮ่าๆ  ไม่ได้ยอหรอกฮะ เพราะมันเรื่องจริง  ภาคกุมมือผมไว้แน่น 

พอถึงเรือก็กระโดดข้ามไปก่อน  แล้วยื่นมือมารอดึงผมที่กำลังจะข้ามตามไป  ผมมองภาคแล้วอมยิ้ม....ยื่นมือไปจับ  แล้วกระโดดตามไป

ไม่ว่าที่ไหน......แค่มีภาคอยู่ด้วยก็อบอุ่น   จนบางครั้งก็กลัวที่ต้องเสียมันไป แต่ช่างมันเถอะ.....แค่ตอนนี้ผมอยากอยู่กับภาค อยากจดจำทุกๆอย่าง

และอยากให้ภาคจำรอยยิ้มของผมด้วยเช่นกัน  ความทรงจำ......ที่มีแค่ผมกับภาคเท่านั้นที่จะได้รับรู้  และร่วมสร้างมันไปด้วยกัน 

 “นั่งไหนดี? แพนอยากนั่งข้างบนหรือข้างล่างอ่ะ?”

“ข้างบนดีกว่า  อยากดูวิวอ่ะ  แต่ตอนนี้ง่วงสุดๆ เลยอ่ะภาค ....โอ๊ย”  ผมเอามือลูบหัวตัวเองป้อยๆ  โดนฝ่ามืออรหันต์ฟาดมาเบาๆ

“หมั่นไส้ว่ะ  นอนก็นอนมาตลอดทางแล้วยังจะมาง่วงอะไรอีกอ่ะแพน   ภาคนะเมื่อคืนก็นอนดึกแถมนั่งรถมาไม่ได้นอนเลยสักนิดเห๊อะ”

“อ้าวแล้วไมไม่นอนอ่ะ?” ผมถามขึ้นอย่างสงสัย เพราะระยะเวลาเดินทางก็หลายชั่วโมงอยู่แล้วภาคทำไมไม่นอนหล่ะเนี่ย

“ก็เพราะแพนน่ะแหล่ะ”

“อ้าว...แล้วแพนเกี่ยวไรด้วยเนี่ย?”

“ก็แพนน่ะแหล่ะนอนไงไม่รู้อ่ะ  หลับซะสนิทเลยซบไหล่ภาคแล้วจะกลิ้งลงพื้นหลายที ภาคเลยต้องกอดไว้ตลอดทางไม่กล้าหลับนะสิ”

“เหรอ...  แฮะๆ  .  ภาคใจดีเน๊าะ”  ผมยิ้มเขินๆ เกาหัวตัวเองแก้เขินซะเลยฮ่าๆ  ภาคหัวเราะชอบใจก่อนจะโน้มตัวมากระซิบข้างหู

“ใจดี....แล้วชอบป่ะหล่ะ?”  พูดเสร็จก็หันมายักคิ้วหลิ่วตาให้  ทำผมขำจนทนไม่ไหว ปกติภาคทำยังงี้ที่ไหนกันหล่ะ  ฮ่าๆ 

“วุ๊...ถามอะไรเนี่ย ฮ่าๆ ชอบล้อเล่นอยู่เรื่อย”  พูดจบผมก็ฉิ่งเดินหนีปีนบันไดขึ้นไปชั้นสองแทน  ....ไม่ค่อยมีคนสักเท่าไหร่ ทั้งๆ ที่ข้างล่าง

ผู้คนก็ดูหนาแน่นพอสมควร แต่ข้างบนผู้คนกลับดูโหลงเหลงพิกล  ผมเดินไปจับจองม้านั่งด้านหลังสุด ก็เห็นภาคที่เร่งตามมาอย่างกระชั้นชิด

กำลังจะนั่งลงกับกับอี้ไม้  ภาคก็ยื่นมือมาฉุดแขนผมไปซะก่อน  ผมเลยต้องหันไปมองด้วยความสงสัย ว่า....จะดึงแขนทำไมอ่ะ

“ไรอ่ะภาค?”  ผมเห็นภาคทำหน้ามุ่ย  ก็เริ่มงงแล้ว  ง่า......งอนเรื่องไรเนี่ย

“แพนยังไม่ตอบภาคเลย”  ผมกระพริบตาปริบๆ ด้วยความสงสัย  ว่าแต่ถามอะไรเมื่อไหร่กันเนี่ย

“ตอบอะไรอ่ะภาค?”  หันไปถาม  ขณะที่เราทั้งคู่นั่งลงบนเก้าอี้ไม้

“โห~  ปลาทองได้ใจมากอ่ะแพน ”  ภาคว่าแล้วยีหัวผมใหญ่เลย  โฮะๆๆ  ...ผมเลยเซไปด้วย เพราะเรือก็เริ่มออกจากท่าแล้ว

“ก็ที่ถามว่า......ใจดีแล้วชอบมั้ยหล่ะ?”    ภาคโน้มตัวมากระซิบอีกรอบ  ผมเลยยิ้มขำ

“โห~  คำตอบนี่จะเอาจริงอ่ะ ”   ผมถามยิ้มๆ  เห็นภาคพยักหน้าหงึกๆ

“อือ  ...ก็จริงดิ”   

“ไม่ชอบ”  ผมเห็นภาคยิ้มเจื่อนๆ  กลับมาให้ผม  มือที่กุมมือผมอยู่ข้างหนึ่งบีบมือผมแน่นจนเจ็บ  แต่ผมไม่ได้พูดอะไร 

“..........”   เงียบ  .... 

“อ๊ะ....ขอโทษ” ภาคหันมามองหน้าผม เหมือนจะรู้ตัวว่าบีบมือผมอยู่ ก็รีบปล่อยมือออก  ลอบกลืนน้ำลายลงคอเบาๆ ก่อนจะพยายามยิ้มจืดจาง

มาให้ผมอีกที   แล้วหันหลัง..... แกล้งสนใจทะเลแทน   เห็นภาคแอบถอนหายใจอยู่หลายรอบแล้ว  ผมเลยยื่นมือไปจิ้มไหล่ภาคเบาๆ

“ภาค  ....ภาค  นี่ๆ หันมาหน่อย”

“หืออ.....มีไรเหรอ”  ภาคตอบผมเบาๆ  แต่ไม่ได้หันกลับมา

  “แพนยังพูดไม่จบ  หันมาหน่อยไม่งั้นไม่บอกน่ะ”   ผมทุบไหล่ภาคเบาๆ  ภาคเลยหันมา สายตาหลุบต่ำมองที่พื้น แอบเห็นตาภาคแดงๆ เหมือน

คนที่ร้องไห้  ฮ่าๆ  แต่จะให้ภาคร้องไห้เรื่องอะไรหล่ะ  .....ผมแค่แกล้งภาคนี่นา  ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลยภาคเอ๊ย ...

“ครับว่าไง?”   ภาคเงยหน้าขึ้นมาถามแค่แป๊บเดียวสายตาก็มองลงที่พื้น  อาจจะเพื่อหาเศษเหรียญ ฮ่าๆ ผมล้อเล่นครับ แค่หลบสายตาผม

“จะบอกว่าไม่ได้ชอบ.........แต่”  ผมทิ้งไว้แค่นั้นก็ยื่นหน้าเข้าไปใกล้  แล้วกระซิบข้างหูแทน

“รักเลยตะหาก”   

“หืมมมมมมม?  จริงอ่ะ”  ภาคเงยหน้าขึ้นมามองผมอย่างรวดเร็ว  ดวงตาทอประกายวับวาว จากที่ทำหน้าเศร้าสลดเมื่อสักครู่ 

แต่ตอนนี้...ไม่เหลือเค้าเดิมเลยสักนิด    เปลี่ยนโหมด...ไวยังกะลิง หูตั้ง ตาวาววับ หางกระดิก  เหมือนลูกหมาเวลาดีใจ จนผมอดขำ

กับท่าทางของภาคไม่ได้  .....มือทั้งสองข้างที่เขย่าตัวผมจนโยกคอนไปทั้งตัว  ผมหัวเราะหึๆ  มองภาพที่น่าจดจำอีกภาพหนึ่ง

“อ๊ะ  ...โทษที แพนเจ็บเปล่า?”  ผมส่ายหน้าแทนคำตอบ  ภาคเลิกเขย่าตัวผมแต่ยังไม่ยอมปล่อย  หันมาจ้องตาผมเขม็ง

“ถ้าถามว่าจริงไหม?  ตอบได้เลยว่าถ้าเต็มร้อย ก็ได้ล้านเปอร์เซ็น อ่ะ .. ก็ภาคเป็นพี่ชายที่แพนรักที่สุดเลยอ่ะ”  ผมยิ้มกว้างตอบภาค

ขณะที่ภาคกำลังลูบผมผมไปมา  และก็หยุดชะงักเพียงเท่านั้น  หันมายิ้มอ่อนโยน  แม้จะไม่ได้เป็นประกายวาววับอย่างเมื่อครู่  แต่ก็ไม่ได้เศร้า

มากอย่างก่อนหน้านั้น  เชื่อสิ....ว่าผมก็อยากให้คำตอบมันเป็นมากกว่านั้น  ถ้าการที่ผมอยู่ข้างๆ ภาค  มันจะทำให้ภาคมีความสุขกว่านี้

“แค่พี่เองเหรอ.... ไม่เป็นไรหรอก  แค่แพนรักก็ดีตั้งเท่าไหร่แล้ว”  บทสนทนาจบเพียงเท่านั้น  ผมทิ้งตัวลงนอนบนเก้าอี้หลายตัวยืดขาเหยียดยาว

ส่วนหัวหนุนตักภาค เลื่อนหมวกลงมาปิดหน้า แล้วหลับตาลง. ภาคลูบหัวผมเบาๆ สบายจนเคลิ้มหลับไป

.

.

“ตุ๊บ.........โอ๊ยยยยยยย”   เผลอหลับไปได้แค่สิบนาที  ก็กลิ้งตกมานอนบนพื้นเป็นที่เรียบร้อย ภาคปรือตามามองน้อยๆ  ก่อนจะยื่นมือมาดึงผม

ไปนั่งข้าง ๆ   สีหน้าอ่อนเพลียอย่างเห็นได้ชัด  ลูบหัวผมเบา

“เป็นไงเจ็บตรงไหนมั้ยครับ”   ภาคเอ่ยถาม  ผมส่ายหน้าเบาๆ

“เจ็บก้นนิดหน่อย อ่ะ”  ผมทำท่าจะทิ้งตัวลงนอนต่อ ภาคก็รั้งไว้ไม่ให้นอนตามเดิม ลุกขึ้นจูงมือผมไปยังโซนหัวเรือ ที่มีห้องคล้ายห้องเครื่อง

ภาควางสัมภาระลง  พร้อมกับทิ้งตัวลงนั่งที่พื้นเรือหันหลังพิงผนังห้องเครื่องที่ว่า  แล้วเอามือตบพื้นแปะ ๆ ตรงหว่างขา 

“หืมม?”  ผมจ้องมองภาคเป็นคำถาม

“นั่งตรงนี้  นั่งตรงนั้นเดี๋ยวหลับล้มกลิ้งหัวกระแทกพื้นอีก  มานั่งตรงนี้ พิงอกภาคนี่แหล่ะดีแล้วจะได้ไม่ล้ม   เร็วๆ อย่าเรื่องมานะแพน” ภาคว่า

พรางตบมือ แปะๆ ที่เดิม  เร่งให้ผมทำตามคำสั่ง  ผมหน้างอเล็กน้อย  แต่สุดท้ายก็ยอมทำตาม  ทิ้งตัวลงนั่งตรงหว่างขา  พิงหลังกับอกภาค

ภาคชันเข่าขึ้น  แล้วเอื้อมมือมาโอบกอดเข่าตัวเองคล้ายๆ ล้อมเป็นคอกกั้นสำหรับผม  ผมหันหน้าเข้าหาคอภาค ได้กลิ่นหอมๆ ลอยเอื่อยๆ

กลิ่นน้ำหอม.....อ่อนๆ   ที่ภาคชอบใช้มันเสมอ ไม่รู้แต่ตั้งเมื่อไหร่....รู้อีกทีมันก็กลายเป็นกลิ่นประจำตัวภาคซะแล้ว  และผมก็ชอบ  ชอบมากๆ

มันทำให้ผมรู้สึกอบอุ่น  รู้สึกถึงความอ่อนโยน  และปลอดภัย  เพราะมีคนๆ นี้อยู่ใกล้  ค่อยๆ หลับตาลงไปแล้วจมดิ่งสู่นิทรา
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-08-2012 03:18:38 โดย Tassanee »

ออฟไลน์ NOoTuNE

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +317/-15
Re: กอด~ เดินทาง~ P.-3 25/8/12
«ตอบ #69 เมื่อ25-08-2012 06:32:40 »

ทำไม มันช่างหวานปนเศร้าจัง เฮ้ออออ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: กอด~ เดินทาง~ P.-3 25/8/12
« ตอบ #69 เมื่อ: 25-08-2012 06:32:40 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
Re: Re: กอด~ เดินทาง~ P.-3 25/8/12
«ตอบ #70 เมื่อ25-08-2012 08:44:02 »

รู้สึกเหมือนอีกนานกว่าแพนจะเข้าใจภาค




สงสารภาคขึ้นมาตะหงิดๆ

Tassanee

  • บุคคลทั่วไป
Re: กอด~ เดินทาง~ P.-3 25/8/12
«ตอบ #71 เมื่อ25-08-2012 10:50:46 »

เรือที่โดยสารค่ะ

[attachment deleted by admin]

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5591
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
Re: Re: กอด~ เดินทาง~ P.-3 25/8/12
«ตอบ #72 เมื่อ25-08-2012 11:52:52 »

อืมมมมมมมมม รอคอยต่อไปนะน้องภาค

ออฟไลน์ janamanza

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 653
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-2
Re: Re: กอด~ เดินทาง~ P.-3 25/8/12
«ตอบ #73 เมื่อ25-08-2012 12:35:06 »

เด็กเดี๋ยวนี้มันโตเร็วจริงๆป้าแก่ๆตามไม่ทัน อิอิ
น่ารักดีแท้เหลา  แต่จะดีถ้ามันไม่มาม่ามาก  มากเรียกน้ำตาป้าอ่ะนะ 555

Mc_ma

  • บุคคลทั่วไป
Re: Re: กอด~ เดินทาง~ P.-3 25/8/12
«ตอบ #74 เมื่อ26-08-2012 14:06:43 »

พายุใหญ่กำลังจะมาแน่ๆ
รู้สึกสงสารภาคไปล่วงหน้ายังไงไม่รู้
แพนคิดจะทำอะไรอยู่รึเปล่านะ ไม่อยากให้เกิดเรื่องไม่ดีขึ้นเลย

สองใจดูเหมือนว่าจะตรงกันมาตั้งนานแล้ว
แต่ต่างคนต่างก็คิดกันไปว่าอีกคนไม่ได้คิดแบบเดียวกัน
อยากให้เ้ข้าใจกันเร็วๆจัง

เค้าว่ากันว่า...ฟ้าหลังฝน สวยงามเสมอ
ถ้างั้น....พายุรีบพัดมา  แล้วก็พัดผ่านไปไวๆนะคะ

ขอบคุณคนแต่งมากค่ะ
ดีใจมากๆที่มาต่อเรื่องนี้แล้ว
คิดถึงแพนกับภาคมาก.......จริงๆ

ปล. ไปเสม็ดเสร็จทุกราย จริงๆนะ (คึคึ :z1: :z1: )


Tassanee

  • บุคคลทั่วไป
Re: กอด~เพียงเรา P.-3 17/9/12
«ตอบ #75 เมื่อ17-09-2012 23:48:53 »

กอด~เพียงเรา

ในที่สุดผมกับภาคก็เดินทางมาถึงอ่าวหวาย  เกาะเสม็ดหาดทรายขาว ทะเลสวยสมคำร่ำลือ ช่วงนี้ไม่ใช่วันหยุดยาวทำให้นักท่องเที่ยว

ดูบางตา แต่ก็ไม่ได้เหงาถึงขนาดไร้ผู้คน  บรรยากาศอบอุ่นของทะเลบวกกับคนที่ยืนกุมมือข้างๆ กัน แค่นั้นคำว่าเหงาก็ปลิวหายไปไกล

จากความคิด   เราสะพายเป้คนละใบ พร้อมกับหนีบรองเท้าแตะเหมาะกับบรรยากาศของทะเล  ผมพันขากางเกงขึ้นสูงจนเลยเข่า

เพื่อไม่ให้มันเปียกน้ำตอนที่ลงจากเรือเพื่อขึ้นฝั่ง   ส่วนภาคดูสบายๆ กับกางเกงขาสามส่วน   มาถึงก็ติดต่อที่พักเพื่อเก็บสัมภาระ

ได้ห้องแถวริมทะเลราคาย่อมเยาอาจจะเพราะคนน้อย หาดตรงนี้เลยแทบจะเป็นหาดส่วนตัว  ผมเปลี่ยนกางเกงเป็นขาสั้นเสร็จ

ก็เดินออกจากห้องน้ำมาหาภาคที่ตอนนี้นอนหลับรอด้วยความเหนื่อยล้าจากการเดินทาง และอดนอนมาหลายวันเพราะกีฬาสี ผมยืนมอง

อยู่อย่างนั้นเงียบๆ  สุดท้ายก็ค่อยย่องมานั่งลงข้างๆ เตียง สองแขนวางทาบลงบนที่นอนก่อนจะเกยคางมองดูอีกฝ่ายที่หลับสนิทซะจน

ไม่รู้เรื่องอะไร  ลมหายใจสม่ำเสมอค่อยผ่อนเข้าออกเป็นจังหวะ ใบหน้าคม...ที่ไม่ว่าจะมองตอนไหน  ทั้งหลับทั้งตื่นก็ดูดีไปหมด 

ผมไล้มือเบาๆ บนแก้มเนียน อยู่เนิ่นนาน ก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปใกล้ แตะจูบบางเบาที่สุดเท่าที่จะทำได้ กลัวว่าอีกคนจะตื่น   แล้วทิ้งตัว

กลับมานั่งมองข้างเตียงเช่นเดิม รอยยิ้มแต่งแต้มมุมปากเมื่อไหร่ไม่รู้  เท่าที่รู้ภาพตรงหน้านี้ อยากจะจำไว้จนวันตายเลย... ให้ตายสิ


ผมหยิบมือถือ ขึ้นมาถ่ายรูปภาคเก็บเอาไว้  ใน Folder ที่ซ่อนไว้ลึกที่สุด ไม่มีใครจะหาเจอได้ นั่งมองอยู่อย่างนั้น หัวใจกลับสั่นระริก

จนต้องยกมือขึ้นกอบกุมไว้แน่น เจ็บจนน่าใจหาย  ...... ได้แต่พยายามบอกความรู้สึกที่มันล้นเอ่อ....ให้คนหลับตาพริ้มได้ฟัง

“รักภาคนะ  รักที่สุดในชีวิตแพนแล้ว” ผมเอ่ยเสียงแผ่วราวกับกระซิบ   ความเจ็บค่อย ๆ แทรกเข้าไปใจหัวใจที่ซ่อนอยู่เบื้องลึก 

น้ำตาคลอหน่วยรอบขอบตา  อยากมีความสุข.....ไปนานๆ แบบนี้ กุมมือกันแบบนี้ นอนกอดกัน กินข้าวด้วยกัน เดินไปด้วยกัน อยู่ข้างๆ กัน


แต่มัน.....ทำได้แค่ในความคิดรึเปล่านะ   สูดหายใจเข้าลึกๆ ให้เต็มปอด ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่ผมจะมาเสียใจ   

มันไม่ใช่เลย....ตอนนี้เป็นเวลาแห่งรอยยิ้ม....  ความสุข......   และความทรงจำที่ผมจะตักตวงไว้ได้  ณ โอกาสนี้   

ผมยื่นมือไปกอบกุมมือภาคไว้ เอนหัวราบขนานกับพื้นเตียง จ้องมองใบหน้าคมของภาค  หล่อขนาดนี้......ดีขนาดนี้...............

ถ้าผม....เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ภาคต้องสับสน  มัวติดอยู่กับผมคง.....น่าเสียดายแย่  บางครั้งความ “รัก”  มันต้องการเวลา

ผมไม่อยากให้ความเคยชิน....ที่เป็นอยู่ทำให้ภาคไขว้เขว  ถ้าเราจะรักกัน....  มันต้องไม่ใช่เพราะแค่คุ้นเคย

แต่มันต้องเป็นความรู้สึกที่แท้จริง  ถ้ามันใช่.....ต่อให้เรื่องครอบครัวของเรามันเป็นเรื่องใหญ่แค่ไหน

สัญญาเลย........  ผมพร้อมจะฝ่าฟันมันไป จะทำทุกๆ อย่างให้เรา.......ได้อยู่ด้วยกัน

.

.
.

เผลอหลับไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ .....ลืมตาตื่นขึ้นมาก็อยู่ในอ้อมกอดของภาคแล้ว   หึหึ....เป็นภาระได้ยันนาทีสุดท้ายเลยแฮะ 

ผมซุกตัวเข้าหาอกกว้างของอีกฝ่าย  ภาคกอดตอบแน่น ๆ ผมเลยเงยหน้าขึ้นมอง นี่ภาคตื่นอยู่หรอกเหรอนึกว่าหลับซะอีก

“ตื่นเมื่อไหร่อ่ะ ทำไมไม่ปลุกแพน”  ผมหันไปถามเสียงงัวเงีย  ขยี้ตาเล็กน้อย เพื่อให้ภาพที่มองเห็นชัดเจนขึ้น  ภาคไม่ตอบ

หากเอาแต่ยิ้ม แล้วจ้องกลับมาที่ผม มือหนาๆ ของภาคลูบแก้มผมไปมาอย่างเพลิดเพลิน 

“แพน?”

“หืมม?”

“จูบหน่อยได้มั้ย?  อยากจูบอ่ะ”    ผมไม่ได้ตอบ กำลังจ้องเข้าไปในดวงตาคมสีดำขลับที่มองตอบกลับ มือหนาๆ ยังลูบไล้ไปมา

บนใบหน้าผม  หากแต่....ใบหน้าของภาค  กลับค่อยๆ เคลื่อนเข้ามาใกล้เรื่อยๆ ใกล้....เข้ามาเรื่อยๆ  จนผมต้องหลับตาลง ....

 รู้สึกได้ถึงริมฝีปากของใครอีกคนกำลังทาบทับลงมาอย่าวแผ่วเบา แล้วละออก  ก่อนจะแตะจูบลงมาซ้ำๆ 

ลิ้นร้อนไล้เลีย..สอดแทรกมาตรงกลางระหว่างกลีบปากบนกับกลีบปากล่างของผม  ดูดกลืนความหวาน.........ข้างใน 

ไล่ต้อนลิ้นผมให้จนมุม จนผมต้องหันมาดูดดุนลิ้นอีกฝ่ายกลับเพื่อต่อต้าน แต่เหมือนเพิ่มความต้องการของอีกฝ่ายเสียเปล่าๆ 

เสียงดังจ๊วบจ๊าบ ...ในยามที่ปากผละออกจากกัน  ดังเป็นระยะ  ความรู้สึกเหมือนกำลังล่องลอยคว้างอยู่ในอากาศ

ปราศจากเรี่ยวแรง  จนต้องใช้สองมือยึดคนข้างบนไว้แน่น  เหมือนจะถูกทำให้หลอมละลายอยู่ตรงนี้ .......แทบขาดใจ 

กว่าที่ภาคจะยอมละริมฝีปากออก  และปล่อยให้ผมได้มีโอกาสได้กอบโกยเอาลมหายใจเข้าปอด ทั้งที่อีกฝ่ายหอบแค่เล็กน้อยเท่านั้น 

รู้ว่าตัวเองหน้าแดงซ่านสักแค่ไหน  พักหลังๆ นี่ ยิ่งรู้ตัวว่าชอบภาคมากเท่าไหร่ร่างกายก็ยิ่งตอบสนองภาคมากขึ้นเท่านั้น อย่างไม่รู้ตัว

รู้แต่ว่า......ต้องการ  หากแต่.....ผมยอมให้มันเกิดไม่ได้  แม้ในใจจะเรียกร้องแทบขาดใจ ถ้าทำอย่างนั้น  ...เรื่องทุกอย่างจะยากขึ้น 


ไม่อยากทำให้ภาคสับสนไปมากกว่านี้แล้ว 

“พ...พอแล้ว”    ผมพูดเสียงตะกุกตะกัก  ทั้งที่ยังหายใจหอบถี่  เร่งสูดอากาศเข้าปอดอยู่อย่างนั้น

“ครับ ..ครับ   หึหึ”  ภาคว่าขำ ๆ  ดึงผมเข้าไปกอดแน่นๆ   ผมกอดตอบซุกหน้าเข้าหาอกกว้างมากขึ้น ป้องกันปากหวานๆ

ของใครบางคนจะซุกซนไม่หยุดหย่อน    โอบกอดกันอยู่อย่างนั้น   ไม่ต้องมีคำพูดใด.....  แค่ฟังเสียงหัวใจของกันและกัน

เท่านั้นก็อิ่มเอม......  เสียจนหัวใจพองคับอกแทบจะระเบิด  หัวใจเต้นรัวเป็นกลองชุด ว่าแล้วก็ลองเช็ดจังหวะหัวใจของอีกฝ่าย

ซึ่งก็พบว่าไม่ต่าง~    ภาคลูบเบาๆ ที่หัวผม   ก่อนจะก้มลงมาจูบ  พร้อมกับคำกระซิบเสียงแผ่วเบา  ที่ทำผมกระชับกอดให้แน่นขึ้นไปอีก


“รักแพนนะ”
.

.

.

“จ๊อกกกกกกกกกกกกกก”  แล้วท้องเจ้ากรรมก็ทำบรรยากาศหวานๆ เมื่อสักครู่พังไม่เป็นท่า .....ง่ะ   ได้ยินแต่เสียงหัวเราะดังระงม

ไม่อยากจะเงยหน้าเลย  ถ้าทำได้ ...... จะซุกหัวกับอกกว้างนี่แหล่ะ 

“ฮ่าๆๆๆๆ  หิวเหรอแพน?”  ภาคหันมาถามทั้งที่กำลังขำผม  จนตัวโยน  ชิส์......น่าหมั่นไส้สุดๆ  ผมยู่หน้าใส่ พร้อมๆ


กับอายจนหน้าแดงตามไปด้วย

“ก็ยังไม่ได้กินอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลยอ่ะ ตั้งแต่เช้ามา แล้วนี่ก็จะห้าโมงเย็นแล้วด้วย”  ผมว่าน้ำเสียงงุ้งงิ้งไปตามเรื่องตามราว
“งั้นไปล้างหน้าไปหาอะไรกินกัน”   ภาคดันตัวลุกขึ้นนั่งตรงปลายเตียง ก่อนจะหันมายื่นมือมาให้ผม  ผมยื่นมือไปจับ  ภาคออกแรง

แค่นิดๆ เท่านั้นแหล่ะ ตัวผมก็ราวกับติดสปิงเด้งไปนั่งข้างๆ ภาคทันที  ผมเอาหัวชนที่ไหล่ภาคเบาๆ หลายที อย่างก่อกวน

ก่อนจะเปลี่ยนเป็นเอาหัวถูไถแบบออดอ้อน   ภาคส่ายหน้าขำเบาๆ เอามือลูบที่หัว  แล้วกดจูบลงมากลางกระหม่อมผม


“ขี้อ้อนจริง  ป่ะๆ ไปล้างหน้าได้แล้ว”  ภาคลุกขึ้นยืนพร้อมกับดึงผมที่ยังนั่งอยู่ริมเตียงให้ลุกตาม  แต่ผมโยเย
“เง้อ.....ขี้เกียจอ่ะ”   ผมส่ายหัวไปมา   ภาคปล่อยมือแล้วหันหลังย่อตัวลงเล็กน้อย

“ขึ้นมาเร็ว  ไอ้ตัวขี้เกียจ ”   ผมยิ้มกว้างที่ได้แกล้งภาค  โอบแขนรอบไหล่ภาค  ส่วนมือทั้งสองข้างของภาคสอดเข้าที่ขาทั้งสองข้างของผม

ก่อนจะยกตัวขึ้น ผมรัดขาที่เอวภาคแน่น เพราะกลัวจะตก   ภาคแบกผมไปในห้องน้ำก่อนจะวางผมลงหน้าอ่างล้างหน้า ...

ซึ่งห่างจากเตียงประมาณ 5 เมตรได้ ไกลมากกกกกกกกก    พอขาถึงพื้นกำลังจะเอื้อมมือไปเปิดน้ำก็ต้องชะงัก จนต้องหันมามองด้านหลัง


“ไม่ต้อง....เดี๋ยวภาคทำให้”  พูดจบ ภาคที่ยืนซ้อนหลังผมอยู่ก็เอื้อมมือไปเปิดก๊อกน้ำ  ผมเอนตัวลงเล็กน้อย  ภาคเอามือรองน้ำจนเต็มมือ

ลูบมาที่หน้าผม  พอเงยหน้า อีกฝ่ายก็บีบโฟมถูจนฟองเต็มมือ ป้ายลงบนหน้าผม นวดเบาๆ จนทั่วหน้า ก็เอื้อมมือไปเปิดก๊อกอีกครั้ง
เอามือรองน้ำ แล้วเอาน้ำสะอาดล้างหน้าให้ผมอยู่สองสามรอบจนหมดฟอง   จากนั้นก็หยิบผ้าเช็ดหน้าที่ถูกจัดวางไว้ในห้องน้ำเรียบร้อยแล้ว

มาซับหน้าให้ผมเบาๆ  ผมได้แต่ยิ้มเล็กๆ ที่มุมปากขณะที่อีกคนก็มีรอยยิ้มไม่ต่างกัน   พอทำเสร็จเท่านั้นแหล่ะอีกฝ่ายก็เรียกร้อง

“ทำให้ภาคมั่งสิ”

“โหยไม่ไหวหรอกภาคตัวโต แพนซ้อนด้านหลังก็ไม่ล้างหน้าให้ภาคไม่ถึงหรอก”

“ไม่เป็นไร  งั้นทำอย่างอื่นให้ภาคแทนแล้วกัน”   ผมเห็นแววตาซุกซนในตาภาค รู้สึกเหมือนคิ้วกระตุกเล็ก ๆ ฤกษ์ไม่ค่อยงามยามไม่ค่อยดีซะแล้ว

“ไรอ่ะ  ถ้ายากๆ แพนทำให้ไม่ได้หรอกนะ  ขอบอกไว้ก่อน”   ผมหันไปมองหน้าภาคอย่างไม่ไว้วางใจ  ดักทางไว้ก่อน เผื่อมีไรไม่ปลอดภัย

“หึหึ...ง่ายๆ เหอะแพน ไม่มีไรยากเชื่อภาคสิ”  พูดจบก็ยักคิ้วให้ผมแบบกวนๆ มาสองที แถมไอ้รอยยิ้มมุมปากนั่น หือออ~ ไม่น่าไว้ใจเลยเหอะ

ภาคล้างหน้าล้างตาเสร็จก็หยิบผ้าเช็คหน้าผืนเดิมไปเช็ด  แล้วหันมายิ้มแฉ่งให้ผม 

“เป็นไงหล่อมั้ย?”   

“อืม.....ก็นะ”  ผมยกยิ้มมุมปากนิด  เกือบกลั้นขำไม่ไหว  ก็ภาคยิ้มอย่างนี้ทีไรก็ตาหยีทุกที  ขนาดไม่ใช่ลูกหลานคนจีนซะหน่อย

“ก็หล่ออ่ะดิ  หึหึ”  ภาคว่ายกยิ้มอย่างภาคภูมิใจ ไม่วายกระดกคิ้วขึ้นเดียวเพื่อแสดงความมั่นใจอย่างสุดขีด

“อืมหล่อ.....แต่แบบแป๊ะยิ้มนะ ฮ่าๆ ๆๆ”  พูดเสร็จผมก็ซอยเท้าวิ่ง 4x100 หนีภาคไป ไม่ได้สักกี่ก้าว คนขายาวแขนยาวก็สาว

มือมาถึงตัว กระโดดจับทีเดียวก็ล้มกลิ้งไปบนเตียงกันทั้งคู่

“จะหนีไปไหนแพน ...มารับผิดชอบคำพูดตัวเองซะดีๆ  มองเลยๆ ว่าภาคเหมือนแป๊ะยิ้มตรงไหน  ดูดีๆ” 

“หึหึ ...ก็เหมือนตอนยิ้มตาหยีน่ะแหล่ะ ฮ่าๆ  ”

“ไม่เหมือนซะหน่อย...อย่ามาหลอก”  ภาคก้มลงมาไซร้คอเบาๆ ผมดิ้นหนี้เป็นพันวันแต่ไม่ได้ผล เพราะบ้าจี้เข้าไส้
“ฮ่าๆๆ  อย่า ๆ  ยอมแล้วๆ  อย่าแกล้งแพน  นะนะ”  ผมระร่ำระรักบอกหน้าดำหน้าแดง  ก็เมื่อกี้มันจักจี้นี่นา


“หึหึ  ดีมาก บอกมาก่อนว่าภาคหล่อ”  ภาคจ้องหน้าผมระยะประชิด หน้าเราห่างกันแค่คืบเท่านั้น 

“ก็......หล่อน่ะแหล่ะ หึหึ” 

“หัวเราะทำไม”

“หัวเราะก็ไม่ได้ วุ้ย” 

“งั้นโดนทำโทษ”

“อะไรๆ อย่ามาเนียนนะภาค”

“ไม่ทำโทษก็ได้  แต่เมื่อกี้แพนสัญญาแล้วจะชดเชยให้ภาค”

“แล้วจะให้ทำยังไงอ่ะ”   ภาคยกยิ้มไม่ตอบ  แต่กลับทิ้งตัวลงข้างๆ ผมแทน  ผมหันไปมองด้วยความสงสัย ก่อนจะหน้าแดงจัด





.

.

“ช่วยจูบภาคเหมือนกับเมื่อกี้ได้ไหม?   ก่อนจะไปเข้าห้องน้ำอ่ะ”  ภาคหันมามองผมด้วยรอยยิ้ม  ที่อบอุ่น  ......

“...............”  เงียบฉี่     ทำได้แต่หน้าขึ้นสี  ปกติก็มีแต่ภาคเท่านั้นแหล่ะที่เป็นคนเริ่ม


.

.

.

นี่จะให้ผมเป็นคนเริ่มเหรอ   ละ...แล้วต้องทำยังไงดีหล่ะ...     เขินจนแทบอยากจะละลายหายไปจากตรงนี้

.

.

.

“ถ้าลำบากใจ....ไม่เป็นไรก็ได้นะ”   ภาคดันตัวลุกขึ้นนั่ง  แต่ผมคว้ามือหนาๆ นั่นไว้  ไม่ปล่อยหรอก....อย่างน้อยก็ตอนนี้


.
.


“ท...ทำสิ.....ทำอยู่แล้ว..”

ออฟไลน์ NOoTuNE

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +317/-15
Re: กอด~เพียงเรา P.-3 17/9/12
«ตอบ #76 เมื่อ18-09-2012 06:44:41 »

หน่วงดี

ออฟไลน์ นอนกินแรง

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-4
Re: กอด~เพียงเรา P.-3 17/9/12
«ตอบ #77 เมื่อ18-09-2012 19:59:10 »

หึหึหึหึ

Tassanee

  • บุคคลทั่วไป
Re: กอด~เพียงเรา P.-3 17/9/12 @ แถม+++
«ตอบ #78 เมื่อ19-09-2012 13:52:16 »

แถม++

ผมดันตัวคร่อมตัวภาคไว้  ค่อยๆ โน้มใบหน้าให้เข้าใกล้ไปอีก  ใบหน้าหล่อเหลาของอีกฝ่ายยกยิ้มที่มุมปากนิดๆ ติดจะเจ้าเล่ห์อยู่สักหน่อย

ไม่รู้ตอนนี้ผมความจะสบตา หรือมองที่ปากกันแน่  รู้แต่ว่าตอนนี้หัวใจเต้นระทึก ....ดังกึกก้อง จนรู้สึกรำคาญตัวเอง

ใบหน้าฉาบสีแดงราวกับเป็นลูกตำลึงก็ไม่ปาน  ไม่รู้จะเอาหน้าไปซ่อนไว้ไหน  เมื่อก่อนไม่เคยรู้สึกอายขนาดนี้ 

อาจจะเป็นเพราะทุกที....ทำได้แค่ตั้งรับไม่เคยลุกเองเลยจริงๆ สักครั้ง  พอต้องมาทำเองมันก็เขินอย่างบอกไม่ถูก

ยังไม่ทันที่ริมฝีปากจะได้แตะลงกับปากอีกฝ่าย  มือร้อนๆ ของภาีคก็ซุกซนล้วงเข้าใต้เสื้อ ลูบไล้บริเวณบั้นเอวเล่น

ราวกับกำลังเร่งเร้าให้ผมรีบปฏิบัติการตามที่ปากกล้าๆ ของตัวเอง รับปากไว้  บ้าเอ้ย.....มือสั่นไปหมด 

สุดท้ายก็ตัดสินใจ ก้มลงจุมพิศอีกฝ่าย แตะริมฝีปากลงเบาๆ  ภาคดูดดุนริมฝีปากผมเบาๆ ก่อนจะแทรกลิ้นเข้ามา

"อื๊ออออออออออ~~"  ทั้งที่คิดว่าจะทำให้อีกฝ่ายครางเสียงหวาน  แต่ทำกลับกลายเป็นผมเองนั่นแหล่ะ ที่ส่งเสียงแปลกๆ อยู่นี่

ร่างกายอ่อนระทวยได้อีก  เข้าใจอะไรผิดไปรึเปล่า ?   ปกติคนที่รุกต้องทำให้อีกฝ่ายอ่อนระทวยไม่ใช่เหรอวะ

แล้วทำไม?.........ทำไมกลายเป็นผมซะเอง  ทิ้งตัวหมดแรงบนร่างหนาๆ ของภาค ก่อนจะถูกพลิกกลับให้ไปอยู่ด้านล่าง

โดนรุกกลับซะงั้น  นี่มันอะไรกัน....  สมองมันเบลอไปหมด  ความรู้สึกที่เบาหวิวราวกับกำลังล่องลอยอยู่ในอากาศ แล้วทิ้งตัว

ลงสู่ที่ต่ำ จมดิ่งกับความเสียวซ่านที่อีกฝ่ายประเคนให้  บ้าเอ้ย.......  ควบคุมอะไรไม่ได้แล้ว  สมองผมไม่สั่งงาน

ร่างกายก็พาล เชื่อฟังแต่ความรู้สึกซะอย่างนั้น  สองแขนโอบรอบลำคอหนาของภาค แทนที่จะผลักไส  บ้ารึเปล่า?..

"อ๊าาาาา~" ผมเผลอครางเสียงสั่น  เมื่อมีมือดีล้วงลึกเข้าไปในกางเกงขาสั้น  ที่ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายแกะกระดุม ปลดซิบตั้งแต่เมื่อไหร่

มือร้อนๆ ลูบไล้ตามแนวยาวของน้องชายผมผ่านผ้าผืนบาง ที่เป็นสิ่งเดียวที่ทำหน้าที่กลางกั้น แต่ว่ามันบางซะจน...

ผมรู้สึกว่าถูกมือหนาๆ ลูบไล้ตรงๆ กับของสงวน  มือจิกแน่นๆ บนไหล่กว้าง รนลานอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ อยากจะยุติเรื่องนี้

แต่ทำไมร่างกายตัวดีกลับตอบสนอง  เสียงกระซิบเสียงแหบพร่า ......ทำผมใจสั่นมากขึ้นไปอีก

"ชอบมั้ย?"  ผมไม่ได้ตอบ ทำได้เพียงกระจายสีบนใบหน้าให้แดงซ่านยิ่งกว่าเก่า  เม้มริมฝีปากแน่น  ได้ยินเสียงหัวเราะ

ชอบใจของอีกฝ่าย  ยิ่งทำให้อายหนักเข้าไปใหญ่

"หึหึ.....มากกว่าจูบได้มั้ย?" ภาคถามเสียงกระเส่า ผมชะงักกึก......... มือจิกภาคแน่น

.

.

.


"ม..ไม่ได้."  ผมตอบเสียงตะกุกตะกัก  มือทุบหลังอีกฝ่ายตาลีตาเหลือก เพื่อจะหนี 

"โอ๊ย....เจ็บ"  อีกฝ่ายหน้างอ  พอผมหยุดทุบ  ภาคกลับยกยิ้ม

"อืือ...ไม่ทำก็ไม่ทำ   เสียดายจัง น่ากินขนาดนี้" พูดจบ ผมก็ผลักภาคให้กลิ้งออกไปด้านข้าง

ก่อนที่ตัวเองจะกระโจนหนีออกไปรอด้านนอก ใบหน้าแดงซ่อนที่ปกปิดไม่ไหว

บ้าจริง....ยังไม่พ้นคืนแรกเลย  จะโดนซะแล้ว.... แล้วอีกสามคืนที่เหลืออ่ะ  .......

.
.
.

ง่ะ......น่ากลัว

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5591
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
Re: Re: กอด~เพียงเรา P.-3 17/9/12
«ตอบ #79 เมื่อ19-09-2012 23:11:34 »

อื้อออออออออ สุขแบบเศร้าๆไงไม่รู้เนอะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Re: กอด~เพียงเรา P.-3 17/9/12
« ตอบ #79 เมื่อ: 19-09-2012 23:11:34 »





ออฟไลน์ นอนกินแรง

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-4
Re: กอด~เพียงเรา P.-3 17/9/12
«ตอบ #80 เมื่อ21-09-2012 22:13:21 »

คิคิคิคิ เสร็จแน่!

ออฟไลน์ kitty08

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-4
Re: กอด~เพียงเรา P.-3 17/9/12
«ตอบ #81 เมื่อ08-11-2012 11:32:43 »

 :m25:เกือบจะพลาดเรื่องนี้ซะแล้ว ดีน่ะเนี่ยที่คุณทัดมาลงลิ้งไว้ให้น่ะ ชอบจังเลยน่ะแนวนี้น่ะ ความรักความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนแต่รักในวัยนี้ก้อมักมีอายุเป็นอุปสรรค เพราะมันเป็นแนว coming of age นี่เน๊อะ หนทางข้างหน้ายังอีกยาวไกลที่ทั้งสองต้องเดินผ่านและเรียนรู้ ยังไงเชื่อมือคุณทัดว่าจะไม่ทำให้เรากินมาม่าจนเบื่อน่ะ  :m15: ภาคดูโตเร็วมาก ๆ เลยเน๊อะ ส่วนน้องก้อมีความคิดความอ่านที่คาดไม่ถึงจริง ๆ เราชอบฉากแรกที่แม่สอนลูกมาก ๆ เลย เป็นไอเดียที่น่ารักมาก ๆ แล้วเรื่องของปอนก้อเป็นแฟนตาซีเล็ก ๆ ที่แสนน่ารักน่ะ ยังไงขอเอาใจช่วยความรักของหนุ่มน้อยทั้งสองน่ะ (ขอเรียกหนุ่มน้อยเพราะดูจะโตแล้วน่ะ)
ป.ล. งานนี้มีเชียร์ทำเป็นเล่มเช่นเดิม นาน ๆ จะเจอเรื่องตั้งแต่ในวัยเด็กสักที น่ารักอ่ะ :impress3:

Tassanee

  • บุคคลทั่วไป

Tassanee

  • บุคคลทั่วไป
Re: กอด~เพียงเรา " Image N' PAN " P.-3 17/9/12
«ตอบ #83 เมื่อ10-11-2012 23:55:00 »


Tassanee

  • บุคคลทั่วไป
ขออภัยจริงๆ  เข้าสู่ภาวะ ทำงาน 8โมงเช้า ถึงเที่ยงคืนอีกแล้ว
เหนื่อยโฮกกกกกกกกกกก   แต่จะพยายามมาต่อค่ะ 
ส่วนใครที่เคยอ่านใน FB นะคะ  เนื้อหาเปลี่ยนแปลงนิดหน่อย ฮ่าๆ



เรื่อง  กอด~


ตอน.. รัก...ต้องการเวลา  80%


“รอนานมั้ย?”  น้ำเสียงอบอุ่นๆ ที่กระซิบอยู่ข้างหู  ทำผมหดคอหนีหันไปก็เจอรอยยิ้มพิมพ์ใจรออยู่ก่อนแล้ว  หน้าที่แดง

แล้วแดงอีกของตัวเอง เลยไม่มีโอกาสได้มาเข้าโหมดปกติสักเท่าไหร่   ได้แต่หลุบตาลงต่ำส่ายหน้าไปมาแทนคำตอบ

“ป่ะงั้นไปกินข้าวกัน”  มือแข็งแรงของภาคกอบกุมมือผม เราสอดมือเข้าหากัน  คนอื่นคงคิดแค่พี่กับน้อง  แต่ผมตอนนี้

ร้อนๆ หนาวๆ กับรอยยิ้มหล่อๆ ของภาค  จนอยากจะแทรกแผ่นดินหนี   อยู่ดีๆ ก็เขินแบบไม่มีเหตุผล   

ไม่รู้ว่าเป็นอะไรมากรึเปล่า  ปกติก็จูงมือ กอดคอ เกาะไหล่กันออกจะบ่อย...  ก็ไม่เคยจะตะขิดตะขวางใจมากเท่าวันนี้

หันไปมองทะเล ....ที่ตะวันทอแสงอ่อนๆ  ท้องฟ้าฉาบทอแสงสีส้มรำไร ปะปนอยู่กับสีครามที่ค่อยๆ หม่นลงตามเวลาเย็นย่ำ

รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก  ค่อย ๆ ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามความรู้สึก  ลมทะเลพัดมาเป็นระยะ  พร้อมกับเกลียวคลื่น

ม้วนเล็กๆ ที่ซัดเข้าหาฝั่งระลอกแล้วระลอกเล่าจนแตกฟอง  จากนั้นก็สลายกลายเป็นแค่น้ำทะเลธรรมดา

และไหลลงสู่ท้องทะเลดังเดิม

.

.

ผมกับภาคเดินไปเรื่อยๆ ไม่ได้สบตากัน  หากแต่ความอบอุ่นจากมือใหญ่ที่กอบกุมกันไว้แน่นนั้น  ก็ทำผมอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก 

ได้แต่เดินตามทางที่อีกฝ่ายชักจูงไปเรื่อย  ๆ  จนมาถึงร้านริมทะเลร้านหนึ่งถึงได้หยุดฝากท้องและกระเพาะอาหาร

สั่งไปไม่กี่อย่าง..  เพราะเราเน้นผลาญ บุฟเฟ่กันมากกว่า แม้ทางร้านตั้งเงื่อนไขว่าต้องสั่งอาหารทะเลหนึ่งชุดถึงจะโซยบุฟเฟ่ได้

 กินกันจนอิ่มแต่ละคนตบท้องตัวเองเสียงดัง ปุ๊ๆ   เอนหลังพิงพนักเก้าอี้เต็มตัวนั่งพุงกลาง  เสียงหัวเราะเฮฮา

ดังออกมาเป็นระยะ  หลังจากขุดเรื่องนั้นเรื่องนี้มาเผากันจนสำราญ ก็เช็คบิล... แล้วเดินละเลียดไปตามริมหาด

ดื่มด่ำบรรยากาศยามค่ำคืน ลมทะเลพัดเย็น เสียงคลื่นที่ราวเสียงเพลงดังกังวานขับขาน  พระจันทร์เจิดจ้าเต็มดวง

ทอแสงนวลผ่องให้ท้องฟ้าไม่เหงา  พร้อมกับดวงดาวที่โอบล้อมดวงจันทร์  มือแข็งแรงของภาคยังคงเกาะกุมมือผมไว้แน่น

เช่นเดียวกับขามา เสียงสนทนาเจื้อยแจ้วเรื่อยเปื่อยระหว่างทางกลับ   กับทำให้มีความสุขได้มากกว่าที่คิด

ในบรรยากาศที่ถูกเพาะบ่ม  ไม่รู้ผมคิดไปเองรึเปล่าว่าตอนนี้... ทุกอย่างมันกำลังเหมือน “คู่รัก” มากขึ้นทุกที 

สีชมพูหวานลอยอบอวลอยู่รอบกาย จนไม่กล้าที่จะสบตากับอีกฝ่ายก้มหน้ามองพื้นไปเสียเฉยๆ  แม้จะลอบมองเป็นระยะ 


ใบหน้าที่พาให้ใจสั่นหวั่นไหวอยู่ทุกเวลานี้   นานแค่ไหนแล้วนะ?ที่ไม่ได้อยู่กันแค่สองคนแบบนี้  ....  ในที่ที่ไม่จำเป็น

ต้องแคร์สายตาใคร  หรือไม่มีใครมายืนข้างๆ เวลาเราไปไหนด้วยกันมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก...   แต่ก็....ยังไม่กล้าพอ

ที่จะฝันไปไกลกว่านั้น   เพราะผมรู้ว่าปลายทางมันจบยังไง  .....  แค่ตอนนี้มีความสุข...วนเวียนจนเราสัมผัสได้ขนาดนี้ 

ผมก็ไม่จำเป็นต้องไปดิ้นรนหาสิ่งที่ทุกข์มาแต่งแต้มมันให้หมองมัว   เพลินซะจน....มองเมินเรื่องบางเรื่องที่ทำให้เรามาอยู่ ณ ที่นี้

เผลอคิดเข้าก็ถึงกับห่อไหล่ หดหู่อย่างบอกไม่ถูก  สายตาจ้องมองเห็นเพียงพื้นทราย  มือข้างที่เป็นอิสระอีกข้าง

ยกขึ้นกอดอกตัวเอง ความหนาวเหน็บเกาะกุมจิตใจ

“หนาวเหรอแพน?”   ภาคหันมาถาม   ปล่อยมือที่เกาะกุมกันออก  แล้ววาดแขนมากอดไหล่  ผมหันไปยิ้มส่ายหน้าช้าๆ

แต่ก็ยังปล่อยให้อีกฝ่ายโอบต่อไป  รอยยิ้มกินใจของอีกฝ่ายที่โปรยมาไม่หยุดหย่อน  ทำให้ความกังวนเมื่อสักครู่จางหายไป

เดินทอดน่องกันไปเรื่อยๆ จนถึงที่พัก   

“แกร๊ก.....  อาบน้ำก่อนมั้ย?”   ภาคหมุนลูกบิดเสร็จก็ก้มหน้ามาถามผม   

“อือ...อีกแป๊บ  แพนเหนื่อยอ่า  พาไปเดินอ้อมหาดซะตั้งไกล”   


“อ้าว  เห็นตอนเดินก็มีความสุขดีนี่นา ไม่ยักก็บ่น”  ภาคว่าส่ายหน้าขำๆ

“ก็...ตอนนั้นมันลืมนิ  มาเลยๆ  มานวดให้แพนเลย”   ผมกระโดดปุ๊ลงบนเตียง   คว่ำหน้าหนุนหมอน  กวักมือเรียกภาคหยอยๆ

“มียังงี้ด้วย...หึหึ”  อีกฝ่ายเอาแต่หัวเราะ ส่ายหน้าไปมา ราวกับว่าผมเป็นเด็กเอาแต่ใจ  แต่สุดท้ายก็ยอมทำให้แต่โดย  มือแข็ง
แรงของภาคนวดลงที่ขา  น้ำหนักกำลังดี  พึ่งกินอิ่ม  เดินเหนื่อย  มีคนมานวดให้แบบนี้  หนังตาผมก็พาลทรยศ 

หนักอึ้งขึ้นมาเสียเฉยๆ  สบายจนหลับไปในที่สุด 


.

.

.

.

“อือ.....” เสียงไอ้ตัวเล็กครางเบาๆ อยู่ใต้อ้อมกอดผม  คงเป็นเพราะความเหนื่อยล้าตลอดทั้งวัน  แค่บีบนวดเบาๆ


อีกฝ่ายถึงหลับตาพริ้มเพรา หลับไม่รู้เนื้อรู้ตัว ปล่อยให้ผมรุกรานร่างกายอีกฝ่ายได้ง่ายดาย  จริงๆ ก็แค่กอด จูบ เท่านั้น

ผมเองก็ยังไม่กล้าล่วงล้ำ ทำอะไรเกินเลยถึงขั้นทำให้อีกฝ่ายมาเป็นของผม   ยังไม่อยากถูกเกลียด แม้ความรู้สึกจริงๆ

ก็ต้องการอีกฝ่ายแทบแย่  อย่าหาว่าผมบ้ากามเลยครับ  ผู้ชายก็แบบนื้แต่ที่มากกว่าร่างกาย  เป็นเพราะผมห่วงอีกฝ่ายต่างหาก

แพนไม่เคยระวังตัว ที่สำคัญไม่เคยรู้ตัวหรอกว่ามีหมาป่าหลายตัวจ้องจะงาบลูกแกะตัวน้อย ดวงตาใสซื่อคนนี้อยู่  วันๆ ก็ได้แต่


ทำตาใสลอยไปลอยมาอยู่ทั้งวัน  ทำให้ผมอกจะแตกตายอยู่หลายครั้ง แต่เป็นเพราะผมสร้างสมกิตติศัพท์มาดี  คนทั้งโรงเรียน

เลยคิดว่าเราเป็นแฟนกัน  เลยไม่ค่อยมีใครกล้าเข้ามาย่อมย่ามกับไอ้ตัวเล็กมากนัก   แต่ตอนนี้ไม่เหมือนกัน....

ผมไม่ได้อยู่ด้วยกันกับแพนตลอดเวลาเหมือนเมื่อก่อน ...  เลยไม่รู้ไอ้หมาป่าตัวไหนจะแอบงาบไปรึเปล่า  แค่คิด...ก็กังวลแทบ
แย่

ตอนนี้เลยต้องทำตัวให้ยุ่ง  ทำกิจกรรมเป็นบ้าเป็นหลัง เพียงเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของตัวเองก็เท่านั้น 


แต่ก็นะ...มันก็แค่ชั่วคราว   เผลอเมื่อไหร่ก็แอบคิดถึงคนในอ้อมกอดทันที  หรือผมจะเป็น แพนลิซึม กันน่ะ เสพติดจนยากจะเลิก

มีแต่อยากเสพ อยากสูด อยากดม  อยากกด (เกี่ยว?)  มากขึ้นทุกวัน  ยิ่งไอ้ตัวเล็กไม่ค่อยจะยอมตกลงปลงใจเท่าไหร่ 

ความหนักใจมันก็มากเท่านั้น   ผมรู้  ....  ว่าเรื่อง  “ความรัก”   บางครั้ง มันก็มักต้องการ “เวลาปรับตัว”   ผมกับแพน

ยิ่งเราใกล้ชิดกันมากเท่าไหร่  การเปลี่ยนสถานะเดิมไปยัง “สถานะ ใน ขั้นกว่า”  มันเลยดูจะยากอยู่สักหน่อย 

แต่ผมก็อยากเป็นเจ้าของ  หลังจากทำได้แค่เช็คตัวให้อีกฝ่ายเสร็จ ก็มานอนกอดกันเหมือนเช่นทุกวัน  ตัวแพนหอม


หอม....จนผมอดใจไม่ไหว  ต้องแอบจูบริมฝีปากแดงจัดของอีกฝ่าย    แค่มอง ...  แค่เห็นอีกฝ่ายยิ้มให้  แค่.แพนเข้ามาใกล้

ทำไมผมรู้สึกว่า  อีกฝ่ายเอาแต่ยั่วยวนผมอยู่ทุกเวลาทุกนาที  สัญชาตญาณดิบบอกว่า  การที่ผมล่วงเกินร่างกายอีกฝ่าย

มันไม่ใช่เรื่องผิด  หากแต่....เป็นความชอบธรรมต่างหาก   เป็นสิทธิ์ของผมมาตั้งแต่ตอนนั้น ...  ตอนที่เราใกล้กันตอนเล็กๆ

ตอนที่ผมสัญญากับตัวเองว่า.....จะดูแลแพน  และเป็นลูกหมาผู้ซื่อสัตย์ของแพนแทนปอนด์    เมื่อรู้ว่าเมื่อไหร่....

ที่แพนจะยกเลิกสัญญานั่น  แต่ผมเองคงยอมไม่ได้ที่จะยอมให้มันยุติเพียงเท่านั้น   ว่าแล้วก็กดจูบที่ริมฝีปากอีกฝ่ายเบาๆ

กระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นอีกนิด  ก่อนที่จะปล่อยดวงตาค่อยๆ ปิดลง

.

.


.

.

.

เวลาที่เดินผ่านไปไวเหลือเกิน  แล้วก็เดินมาถึงวันที่ผมไม่อยากให้ถึงวันสุดท้ายแล้วพรุ่งนี้ผมกับภาคจะกลับแล้ว 

แต่ก่อนหน้านั้นผมเอง...คงจะต้องบอกความจริงบางอย่าง ตลอดเวลาที่อยู่ที่นี่ นอกจากจะเล่นน้ำทะเล ทานอาหารทะเล

ขี่ บานาน่าโบ๊ท ที่ต้องไปแจมกับนักท่องเที่ยวคนอื่น  ก็ยังมีเจสกี  แถมยังมีเดินเล่นชิวๆ ตามหาดทราย  ดูพระอาทิตย์ตกดิน


ดำน้ำดูประการัง ตกหมึก สารพัดกิจกรรมที่ทางเกาะจัดให้  เรียกว่าเล่นทุกอย่างที่ขวางหน้าเพราะได้ budget มาเยอะ

เลยต้องใช้เงินให้เกิดประโยชน์สูงสุด  ปิดท้ายของวันด้วยการทานอาหารร้านใหม่ ที่อยู่ไม่ไกลจากที่พักนัก กินจนอิ่มหนำสำราญ

นั่งหย่อนพุงอยู่นานก็ได้เวลากลับซะที  เดินโต๋เต๋ เตะแข้งเตะขากันเล่น ตามหาดหาดทรายไปเรื่อยๆ

“อร่อยมั้ยอ่ะ?”   ภาคหันมาถาม  มือยังกอบกุมกันแน่น    ผมเลยพยักหน้าหงึกหงักเป็นคำตอบ แล้วหันไปถามอีกฝ่าย


“อืม  ภาคชอบอะไรอ่ะ?” อาหารมื้อนี้เด็ดๆ อยู่หลายอย่าง ภาคทำหน้าครุ่นคิด  ...อยู่สัก 3 วินาที แล้วหันมาตอบ

“แพน......”   ผมหันไปหา  ก็อยู่กันแค่นี้แล้วจะเรียกทำไมเสียงดัง  เลิกคิ้วสูงๆ ด้วยความสงสัย

“หืม?”   ภาคหยุดเดินเสียดื้อๆ มือที่กอบกุมกันอยู่นั้น  รั้งให้ผมหยุดเดินไปด้วย  ผมหันไปมองไม่เข้าใจ

“ชอบแพนอ่ะ”  อ่อ  .... ผมมองตาภาคนิ่งๆ  ได้แต่บอกตัวเองว่า...ทำตัวให้เฉยๆ เข้าไว้...


“อืม... ก็เคยบอกแล้วนี่”   ผมตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงปกติ   แล้วหันหลังเดินต่อ... กวักมือเรียกให้อีกฝ่ายเดินตามมาอีกที

ตอนนี้หัวใจมันเต้นตุบตับไม่เป็นส่ำ   รู้สึกหายใจติดขัดขึ้นมาเล็กน้อย อาศัยความมืดในเวลากลางคืนอำพรางใบหน้าที่ร้อนผ่าว

จนต้องเดินนำอีกฝ่ายมาด้านหน้า  ไม่กล้ามองกลับไปด้านหลัง

“ชอบจริงๆ นะ ไม่ใช่แบบที่แพนเข้าใจ  ภาค...”  ภาควิ่งมาดักตรงหน้า  ยืนขวางตรงหน้าไม่ยอมให้ผมเดินต่อไป

เสียงที่หยุดไป....  กำลังทำผมหยุดหายใจไปด้วย  ภาคกำลังจะก้าวข้ามคำว่า “เพื่อนสนิท” ของเรารึเปล่า?   


ผมบีบมือภาคแน่นๆ  จ้องตาอีกฝ่ายไม่วางตา ก่อนจะพูดแทรกขึ้นมาก่อนประโยคที่ภาคพูดมันจะจบประโยค

“ภาค...อย่าพึ่งพูดอะไรนะ  ถ้าไม่แน่ใจก็อย่าพึ่งพูด เรายังเด็ก...  เด็กมากจริงๆ”   ผมบอกภาคเสียงเบา  คล้ายๆ เสียง

ในลำคอมันถูกกลืนหายไปไหนก็ไม่รู้

“ภาคแน่ใจ”   ภาคหันมาตอบผม  แต่ยังไง....เด็กอย่างเราก็มีความหวั่นไหวในแววตา  อาจจะแค่ตอนนี้ที่ภาครู้สึกว่า

ยังต้องการผม  เพราะผมยังอยู่ข้างๆ ภาคเสมอ   เพราะภาคไม่ได้เปิดโอกาสจะมองใคร  ผมยิ้มให้กับภาค 

บางครั้งก็ยิ้มให้กับความโชคดี.....ที่ทำให้เราได้อยู่ใกล้ชิดกัน  ที่ทำให้เราเคยมีกันและกัน  หรือจะขอบคุณความโชคร้าย...

ที่ทำให้เราใกล้กันเกินไป ใกล้....จนแยกไม่ได้ระหว่าง.....  “รัก”  กับ  “คุ้นเคย”  ไม่รู้จริงๆ ....ว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่นี้

มันเป็นอย่างไหนกันแน่......    ได้แต่ยิ้มจืดจางตอบกลับอีกฝ่าย

“แล้วจะเอาอะไรมาพิสูจน์?”


“....”    ภาคนิ่งงันไม่มีคำตอบอะไรเอ่ยออกมา  ดวงตาคู่คมไหววูบอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะก้มมองพื้นทราย

“ไม่รู้สิ.....  ภาครู้แต่ว่าแค่มีแพนก็พอแล้ว   มันพอแล้วจริงๆ นะ”  ภาคเงยหน้าขึ้นมาสบตาผม  รอยยิ้มที่ฉาบริมฝีปากผมอยู่

จะว่าสุขหรือทุกข์กันดีหล่ะ?   รู้สึกโกรธตัวเล็กขึ้นมาเล็ก ๆ ว่าทำไมผมไม่เกิดมาเป็นผู้หญิงซะให้รู้แล้วรู้รอดไป  อย่างน้อย....

มันคงจะง่ายกว่าตอนนี้มาก   มันคงง่ายที่ผมจะรับรัก.....และให้เราเดินไปด้วยกัน  แต่เพราะเราเหมือนกัน  เพราะเราเป็นผู้ชาย

มันเลยทำให้ผมอดสงสัยไม่ได้เลยว่า......ระหว่างเรา  มันเป็นความรักจริงๆ  หรือว่าแค่ ใกล้ชิดกัน






ออฟไลน์ NOoTuNE

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +317/-15
 :z3: :z3: :z3: :z3:


สงสารน้องแพน สงสารภาค สงสารทั้งคู่


แต่ก็คิด ว่า เวลา อาจจะช่วยอะไรๆที่มันไม่ มั่นคง มั่นใจ ช่วยให้มันชัดเจนมากขึ้นก็ได้นะ

ออฟไลน์ kitty08

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-4
เวลาและความอดทนจะช่วยให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดี ขอเป็นกำลังใจให้ทั้งคุณทัด น้องแพนกับน้องภาคน่ะจ้ะ  :mc4:

Tassanee

  • บุคคลทั่วไป
เรื่อง  กอด~

ตอน.. รัก...ต้องการเวลา  100%



“ภาคจริงจังกับแพนจริงๆ เหรอ”  ผมหันไปถามย้ำกับอีกฝ่ายเพื่อความแน่ใจ  ภาคกุมมือผมไว้แน่น.....ดึงตัวผมเข้าไปกอด

“จริงสิ..จริงจังที่สุดเลย”   น้ำเสียงหนักแน่นนั่น.....  บางครั้งก็ทำให้ผมเจ็บปวด  ก็สิ่งที่กำลังจะบอกภาคต่อจากนี้

มันจะทำให้เราเจ็บ......    ยิ่งกว่าครั้งไหน ๆ   ผมกอดภาคตอบแน่น.... ไม่รู้จะเอาน้ำตาไปซ่อนไว้ไหน นอกจากอกคนตรงหน้า

กลั้นใจดันตัวภาคออกมา มองตัวตาคมของคนตรงหน้า....  เหมือนปอนด์    ซื่อสัตย์  และจริงใจ จนผมต้องก้มหน้าลงต่ำ

พูดจากับพื้นทรายแทน  กลัวจะห้ามน้ำตาตัวเองไม่ไหว  ถ้าได้เห็นสายตาเจ็บปวด  ตัดพ้อ ต่อว่า ของคนตรงหน้า

“พิสูจน์ได้ไหมหล่ะ?”  สุดท้ายก็ต้องเงยหน้าขึ้นมาสบตาอยู่ดี  ความจริง.....ที่หนียังไงก็ไม่พ้น  รอยยิ้มของภาคปรากฎขึ้น

ทำหัวใจผมเต้นแรงอีกครั้งไม่ใช่เพราะมันปิติ  แต่เพราะ.....  ผมกำลังจะทำรอยยิ้มหายไปต่างหาก

“ยังไงครับ  แพนบอกมาเลย ขออย่างเดียวอย่าตัดโอกาสกัน  แค่แพนลองให้โอกาสภาค แค่นั้นก็พอ”  ผมมองนัยตาสุกใส

แวววาวเป็นประกายวิบวับเต็มไปด้วยความหวังของภาค   สูดลมหายใจเข้าปอดหนักๆ แล้วเอื้อนเอ่ยเหตุผลที่เราต้องมา

อยู่ที่นี่เพียงลำพังกันโดยไม่มีผู้ใหญ่ขัดขวางจน ณ เวลานี้ 

“ห่างกันสักพักเป็นไง ...  ลองดูว่าห่างกันแล้วภาคจะลืมแพนมั้ย?” สายตาที่มองมาที่ผมดูสับสนวุ่นวาย รอยยิ้มเมื่อครู่จางหาย

จนไม่เหลือร่องรอยความดีใจก่อนหน้า มือที่กอบกุมกันอยู่เมื่อครู่ล่วงผลอยลงไป เหลือเพียงความตื่นตะลึงทิ้งไว้ในสายตา

“แพนจะไปไหน...ไม่เห็นจำเป็นต้องห่างกันเลย”  เหมือนภาคจะพึ่งได้สติ มือที่กอบกุมกันอย่างอบอุ่นเมื่อครู่ถูกยกขึ้นมาบีบแน่น

ที่แขนทั้งสองข้างราวกับคีมเหล็กที่บีบแขนผมจนเจ็บ  พร้อมกับสายตาที่จ้องมองมาอย่างคาดคั้นค้นหาความจริงที่ซ่อนอยู่

ผมไม่ได้ร้องหรืออุทรณ์แต่ประการใด ยังยืนนิ่งเม้มปากตัวเองแน่นๆ  สูดอากาศให้เต็มปอดอีกครั้ง ก่อนจะผ่อนออกมาหนักๆ

เพื่อบรรเทาความตรึงเครียด  นัยตาแดงก่ำจนปวดกระบอกตา  หากแต่.....น้ำตายังไม่ได้ไหลออกมาเท่านั้นเอง

.

“.................”

.

“ทำไมแพน  ทำไมจะต้องห่างกัน หมายความว่าไง ภาคไม่เข้าใจ”  อีกฝ่ายเร่งเร้าราวกับนี่เป็นเรื่องคอขาดบาดตาย  เมื่อเห็นผม

ยืนนิ่งไม่ตอบอะไรทั้งนั้น  ไม่ใช่ไม่อยากบอก....  แต่กลับรู้สึกปากหนักขึ้นมาเสียเฉยๆ  พูดอะไรไม่ออก ราวกับไม่เคยพูดมาก่อน

“แพนจะไปอเมริกา...แม่ติดต่อเรื่องให้เรียบร้อยแล้ว ป้าแพนอยู่ที่นั่น อีกสองอาทิตย์เดินทางแล้ว”   ผมพูดมันออกไปในที่สุด

“.............     ทำไมกัน?”   นั่นไงสายตาที่ตัดพ้อ  สายตาที่เจ็บปวดกำลังจ้องมาที่ผม  มือของภาคล่วงหล่นลง พร้อมกับขา


ที่ทรุดฮวบลงกับพื้น น้ำตาเจ้ากรรมดันไหล  .....  อดทนไม่ไหว เพราะผมกำลังทำภาคร้องไห้  ภาคปาดมือเช็ดหน้าแรง ๆ

ราวกับโกรธตัวเอง   ผมรีบทรุดตัวลง จับมือภาคไว้แน่น ก่อนจะเช็ดน้ำตาที่อาบแก้มอีกฝ่ายเบาๆ  ทนฝืนปล่อยให้สายตา

ที่ตัดพ้อต่อว่านั่น  จ้องมองมาอย่างเอาเรื่อง  เหมือนใจจะขาด  ...... ผมเองก็เจ็บไม่แตกต่าง  แต่มันไม่มีวิธีไหนที่ดีกว่านี้

ภาครั้งตัวผมไปกอดแน่น  ๆ   ซึ่งผมก็กอดตอบภาค ไร้ซึ่งเสียงพูดคุย   ปล่อยให้ความเงียบกลืนกินหัวใจเราทั้งคู่

.

.

“ทิ้งกันได้ลงคอ..... ภาคจะอยู่ได้ยังไงถ้าไม่มีแพน จะนอนกอดใคร จะหอมแก้มใคร จะจูบใคร แล้วความรู้สึกภาคหล่ะ?

แพนไม่แคร์เลยใช่มั้ย?  ถึงภาคจะเสียใจ...ก็ไม่เป็นไรเหรอ?”   ผมกอดภาคแน่นๆ อีกครั้ง จุกทั้งคำพูดและความรู้สึก

“แพนถึงได้บอกไงว่ามาพิสูจน์กัน  ถ้าภาครักแพนจริงๆ แค่เราไม่ได้อยู่ด้วยกัน ภาคก็จะไม่ลืมแพนใช่ไหม?  แพนแค่อยากรู้

ความรู้สึกระหว่างเรา มันเป็นความรักจริงๆ เหรอภาค หรือว่าแค่ความผูกพันธ์  ภาคแน่ใจจริงๆเหรอ?”

“ภาคแน่ใจ  ก็บอกแล้วว่าภาคแน่ใจ”  เสียงภาคตะโกนตอบกลับมาดังซะจนเหมือนเสียงขู่ หากแต่มีความเจ็บปวดเจือปนไม่น้อย

 “งั้นก็พิสูจน์  แค่ 3 ปี รอได้ไหม?”   ภาคส่ายหน้าวุ่นวายดึงผมเข้าไปกอดแน่นๆ 

“ไม่เอา.....ไม่ให้ไป ทำไมต้องไปไกลขนาดนั้น  แล้วถ้าแพนเจอคนใหม่หล่ะ? ถ้าแพนรักคนอื่นหล่ะ?  ภาคจะทำยังไง?”

ผมลูบหัวภาคตอบเบาๆ 

“ภาค....ในทางกลับกัน  ถ้าภาคมีคนอื่นหล่ะ? แต่แพนเชื่อใจภาคนะ แพนถึงไม่กลัวที่เราจะห่างกัน มันอาจจะเหงา แต่...

เราก็ยังติดต่อกันได้นิ มีเครื่องมือสื่อสารตั้งมากมาย”

“มันไม่เหมือนกันหรอกแพน  ในเมื่อ....ไม่มีทางที่ภาคจะได้กอดแพน”

“.............”

“สัญญาได้ไหมว่าจะไม่มีคนอื่น”


“ไม่ได้หรอก....แต่สัญญาว่าจะบอกภาคทุกเรื่อง  ภาคเองก็เหมือนกัน....ถ้าเจอคนที่ดี..”  กลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่

“อย่าพูด......ไม่อยากฟัง”

“ช่วยลองคบดูได้มั้ย?.  เปิดโอกาสให้ตัวเองดู....   ถ้าคนๆ นั้นใช่ แสดงว่าเรื่องระหว่างเรามันเป็นแค่ความผูกพันธ์”

“หยุดเลย พอ...เลิกพูด  งั้นยิ่งไม่ให้ไปเลย......อย่าไปนะ   แพน...อยู่กับภาคที่นี่นะครับ”  ภาคพูดเสียงอู้อี้อยู่กับไหล่ผม

หยดน้ำตาเปียกชื้นของอีกฝ่ายกำลังไหลลงบนบ่าผม  ซึมซับความเสียใจของอีกฝ่าย   

“รักแพนจริงมั้ย?”

“อืม”

“อดทนนะ....สัญญายังไงก็จะกลับมา”


“อืม...ต้องกลับมานะ  อย่ามีใคร”

“เอาแต่ใจ”

“ก็ใครใช้ให้ขโมยหัวใจคนอื่นไปก่อน”

.

.

.


“คืนนี้.......ขอได้ไหม  เป็นค่ามัดจำและทำใจ” 

“.................”   >/////<    ทำไมขึ้นต้นด้วยเสียใจ.....แต่จบด้วยประโยคหน้าอายแบบนี้ได้น่ะ



“............”    :m21:

ออฟไลน์ kitty08

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-4
 :m20:ภาคสุดยอดน่ะ อย่าเสียโอกาสที่มีค่าไปน่ะ :m1: เราเข้าใจการกระทำของแพมน่ะ อย่าว่าแต่ภาคกลัวแพมมีคนอื่นเลย คนอ่านก้อกลัวเหมือนกันล่ะ :m15: แต่เพื่ออนาคตที่มั่นคงเราต้องพิสูจน์ตัวเองน่ะ
ป.ล.คุณทัดมาต่อเร็ว ๆ น่ะ ค้างอย่างแรง :m16: เรื่องนี้ดูโอเคเลยค่ะ นายแน่มาก o13

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5591
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
กำลังเศร้าๆ ดันมาหื่นซะง้านภาคเนี่ย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด