♥[สะดุดรัก หอพักอลเวง]♥ "รักติดดิน" ตอนพิเศษ HNY 2016! ♥ [หน้า 106] (02/01/59)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

หมอไอซ์*น้องอุ่น
104 (32.7%)
หมีกริช*พี่เอม
112 (35.2%)
คิมกิมจิ กับบุคคลลึกลับที่ขออุบไว้ก่อนว่าเสะหรือเคะ
102 (32.1%)

จำนวนผู้โหวตทั้งหมด: 239

ผู้เขียน หัวข้อ: ♥[สะดุดรัก หอพักอลเวง]♥ "รักติดดิน" ตอนพิเศษ HNY 2016! ♥ [หน้า 106] (02/01/59)  (อ่าน 923383 ครั้ง)

ออฟไลน์ nn~~NN

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1232
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +295/-1
มีตัวละครปริศนาเพิ่มละ....
ว่าแต่ถ้าลูกเจี๊ยบยังไม่หยุดหยอด น้องปิ่นต้องระเบิดตายกลางทุ่งโกโก้ครันช์ไปก่อนแน่ๆเลย  :laugh:

ออฟไลน์ analogue

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-3

ออฟไลน์ RAINYDAY

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1247/-5
    • FB page

Dormitory Boys - สะดุดรัก หอพักอลเวง


“รัก...ติดดิน”


Chapter 12 – ปิ่นหยก



กริชกลับไปพร้อมรถกระบะผุ ๆ แล้ว เป็นปิ่นหยกนั่นเองที่บอกว่าจะเดินกลับหอซึ่งอยู่แค่หน้าโรงพยาบาล ไม่ต้องรอ


อาทิตย์มองอีกฝ่ายนั่งล้างขาอยู่หน้าก๊อกน้ำ นี่ผิดจากที่เขาคาดไว้นิดหน่อย ตอนแรกคิดว่าเย็บแผลเสร็จคงจะไปเรียนต่อตามประสาเด็กทุนรักเรียนและเขาคงตามไปด้วย แต่พอเดินออกจากโรงพยาบาล ปิ่นหยกที่กระโดดหลบน้ำจากสายยางรดน้ำต้นไม้ของคนสวนแล้วเหยียบลงบนฝาคอนกรีตปิดท่อระบายน้ำซึ่งเก่าจนมีรอยร้าว ก่อนจะทรุดฮวบตกท่อไปก็ประกาศกร้าวว่าช่างหัวโรงเรียนมันแล้ววันนี้


เพราะงั้นเขาก็คงไม่มีเหตุผลจะต้องไปนั่งแกร่วในบรรยากาศการเรียนเครียด ๆ ของห้องคิงที่ไม่มีคนตรงหน้านี้อยู่ล่ะนะ


“ทำไมไม่ไปเรียน?” ปิ่นหยกหันมาทำตาขวางตอนที่เขาบอกว่าจะไม่ไปเหมือนกัน 

“แล้วนายล่ะ?”

“ไม่อยากไป”

“ฉันก็ไม่อยากไป”

“กวนเรอะ!?”

“คำตอบเดียวกัน งั้นนายก็กวนด้วยสินะ”

“ไอ้....!!”



ถ้าไปโรงเรียนแล้วเขาจะคุยเล่นแบบนี้กับใครล่ะ?



ปิ่นหยกนั่งเอาหน้าซบก๊อกน้ำอยู่ครู่หนึ่งเหมือนพยายามจะสงบสติอารมณ์ และเขาก็ตามไปทรุดตัวลงนั่งข้าง ๆ นึกเห็นใจว่าวันหนึ่งคงยาวนานมากทีเดียวหากมันเริ่มต้นด้วยการกระโดดหลบมอเตอร์ไซค์ได้แผลฉีกที่แขน พอมาโรงพยาบาลก็ไปวิ่งชนใครไม่รู้ล้มหงายหลังตามด้วยถูกเท้าคนแถวนั้นสักคนเตะโดนเข้าตรงแผลพอดิบพอดี (ซึ่งเรื่องนั้นปิ่นหยกมาเล่าให้ฟังทีหลัง) ออกมาก็ถูกนกขี้ใส่หัว  เดินผ่านสวนหน้าโรงพยาบาลยังเกือบถูกคนสวนที่กำลังรดน้ำต้นไม้ฉีดน้ำใส่โดยไม่ตั้งใจ อุตส่าห์หลบทันก็ดันมาเหยียบฝาท่อระบายน้ำคอนกรีตร้าว ๆ จนหล่นพรวดลงไปทั้งขา...


“ไหวไหม?”
เขาก้มลงไปดูเมื่อเห็นว่าเวลาผ่านไปครู่ใหญ่ เผื่ออีกฝ่ายจะเผลอฟุบจนหลับไปแล้ว 

“ถ้าไม่ไหวจะได้อุ้มกลับ”

คนที่ก้มหน้าอยู่ส่งเสียงครึ่ง ๆ กลาง ๆ ระหว่างถอนหายใจกับเสียงครางอย่างหงุดหงิด 
“เดินเองได้ว้อย!”

“เป็นห่วงนะครับ เดี๋ยวเดินสะดุดอะไรอีก”

“บ้าเอ๊ย”  ปิ่นหยกสบถออกมาเบา ๆ จากนั้นก็เงียบไปครู่หนึ่งแล้วพูดจึงต่อทั้งที่ยังไม่เงยหน้า มีแต่ใบหูแดงแปร๊ดที่โผล่พ้นไรผมออกมาให้เห็น “ผู้ชายเขาไม่พูดอะไรกันแบบนี้รู้หรือเปล่า”

“แบบไหน”


แบบที่เมิงพูดอยู่เป็นกิจวัตรนั่นไง..!


อา....ไม่ ๆ.....ใจเย็น ๆ
“........แบบที่.......ที่ควรเอาไปใช้...จีบสาวมากกว่าพูดกับเพื่อน”

อาทิตย์เลิกคิ้ว เขาจำไม่เห็นได้เลยว่าใช้คำพูดแบบจีบสาวอะไรไปตั้งแต่เมื่อไหร่ 
“ไม่เคลียร์เลย ฉันไม่เคยจีบผู้หญิง”

นี่พูดจริงหรือตั้งใจกวนประสาท ปิ่นหยกกัดลิ้นตัวเองไม่ให้เผลอโวยวายก่อนจะตัดบท 
“ช่างเหอะ จะกลับแล้ว”

“อย่าเพิ่งเปลี่ยนเรื่องสิ ไหนยกตัวอย่างให้ฟังหน่อย”

ดูเหมือนเขาจบแต่ท่านชายจะยังไม่จบ  ปิ่นหยกที่เดินนำหน้าอยู่หันกลับไปมองคนข้างหลัง ยิ่งเห็นก็ยิ่งรู้สึกว่าน่าหมั่นไส้จริง ๆ คนที่บอกว่าตัวเองไม่เคยจีบสาวแต่ดันหยอดตลอดเวลาแบบนี้มีในโลกด้วยเรอะ! หรือทุกทีเคยแต่จีบหนุ่ม...


เขาเสียวสันหลังวาบ หรือมันจะเป็นเกย์จริง ๆ!


อยากเปลี่ยนเรื่อง แต่สายตาแบบเด็กน้อยใสซื่อที่เขามั่นใจว่ามันต้องแกล้งทำแน่ ๆ แต่อาจจะแกล้งได้เนียนไปหน่อยก็ทำเอาความคิดว่าจะไม่ใจอ่อนถูกสั่นคลอน

 “วิธีพูดอย่างที่แกชอบทำนั่นแหละ”

“เช่น?”

“อาทิตย์น่ารักจังครับ”

“ขอบคุณนะ นายก็น่ารักเหมือนกัน”

“แค่ยกตัวอย่างว้อย!!”

อีกฝ่ายหัวเราะ  “ปิ่นหยกน่ารักจังครับ”

ยังไม่ทันจะได้เถียงอะไรก็...


“ว้ายยย!!”

โครม!!!!


เอาล่ะ! ก่อนหน้านี้ที่เขาบอกว่าจะยังไม่นับวันนี้เป็นวันซวย ตอนนี้ขอถอนคำพูดแล้ว วันนี้ซวยมาก...ซวยบัดซบ...!!


หลักฐานชิ้นล่าสุดคือกะละมังที่ครอบหัวเขาอยู่นี่แหละ เวรเอ๊ย! กะละมังมีไว้โยนเล่นจากระเบียงเรอะ! ไม่อยากจะคิดเลยว่าน้ำที่ค้างอยู่ในนั้นผ่านการซักล้างอะไรมาบ้างแล้ว เงยหน้าขึ้นไปมองหาที่มาของวัตถุปริศนาจากฟากฟ้าก็พบสาวน้อยวัยรุ่นเอามือปิดปากทำหน้าตระหนกอยู่บนระเบียงชั้นสองซึ่งคงจะเป็นหอผู้ป่วย ท่าทางจะเพิ่งทำอาวุธที่ประทุษร้ายเขาหลุดมือมาโดยไม่ตั้งใจ เกือบปรอทแตกแล้วแต่พอเห็นหน้าว่าเป็นเด็กผู้หญิงแถมยังส่งเสียงขอโทษขอโพยละล่ำละลักก็โกรธไม่ลง


“ไม่เป็นไรครับ”

เขาเงยหน้าขึ้นโบกมือให้เด็กสาวคนนั้น แต่ที่ว่าไม่เป็นไรนั่น...แท้จริงกำลังบอกกับตัวเองมากกว่า


เอาสิ! มันจะอะไรนักหนา ต่อให้เอเลี่ยนบุกโลก ท่านปิ่นหยกผู้ถึกทุยและสู้ชีวิตผู้นี้ยังไงก็ต้องรอดกลับหอให้ได้

.

.

.

.

เขารอดมาได้แล้วจริง ๆ แม้จะทุลักทุเลระหว่างทางอยู่บ้าง


“บอกแล้วว่าให้อุ้มกลับมาก็ไม่เชื่อ”
อาทิตย์บ่นเล่นทีจริงระหว่างที่พวกเขาไต่ขึ้นบันไดหอพักโดยไม่ได้แวะไปบอกพี่เอมที่น่าจะอยู่ที่ร้านก่อนว่าวันนี้โดดเรียน บางเรื่องผู้ใหญ่ก็ไม่จำเป็นต้องรู้

คนตัวเล็กกว่าหันไปเอากุญแจห้องปาใส่กะให้แสกกลางหน้าผากหรือไม่ก็จิ้มเข้าแผลเลยยิ่งดี แต่อีกฝ่ายดันหลบได้แถมยังเอามือคว้ากุญแจเอาไว้กลางอากาศอย่างเท่ หมั่นไส้เว้ย!

“รู้ว่าอยากให้ แต่กุญแจห้องมีแล้วครับ”

อีกฝ่ายโยนลูกกุญแจกลับมา เขาส่งเสียงจิ๊อย่างขัดใจพลางยื่นมือไปรับด้วยท่าที่คิดว่าเท่ไม่แพ้กันด้วยอารมณ์อยากจะเอาชนะ(บ้าง)

“ไนซ์แคช!” 
อาทิตย์ตบมือแปะ ๆ และนั่นทำให้เขารู้สึกตัวว่ามัวเล่นบ้าอะไรเป็นเด็กอยู่กลางบันได เดี๋ยวก็กลิ้งหล่นลงไปสังเวยอาถรรพ์วันซวยอะไรสักอย่างอีกสักแผลสองแผลจนได้

"ไร้สาระ" เขาบ่น ละเลยความจริงที่ว่าตัวเองเป็นฝ่ายเริ่มเล่นก่อน


ประตูห้องพักชั้นสองไล่ไปตามหมายเลข....สองศูนย์หนึ่ง ห้องพี่เอม...สองศูนย์สอง ห้องน้องอุ่น....ถัดไปเป็นสองศูนย์สาม ห้องของพวกเขา แต่ปิ่นหยกกลับเดินมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องอุ่นใจ

“เดี๋ยวแวะหาอุ่นก่อน เห็นที่โรงพยาบาลเมื่อเช้า ไม่รู้กลับรึยัง”

อาทิตย์พยักหน้า เลือกจะยืนพิงผนังรออยู่ตรงนั้นแทนที่จะเข้าห้องไปก่อน ปล่อยให้ปิ่นหยกเดินไปเคาะประตูห้องสองศูนย์สองเบา ๆ


ไม่มีเสียงตอบกลับมา


“อุ่นใจ”

ลองเคาะดูอีกครั้ง เอาหูไปแนบประตูก็ไม่ได้ยินเสียงอะไร...หรือว่าจะยังไม่กลับ?

หลังจากหันรีหันขวางอยู่ครู่หนึ่ง ท่าทางคงจะไม่มีคนอยู่จริง ๆ ปิ่นหยกเลื่อนมือไปจับที่ลูกบิดประตู ออกแรงหมุนเพียงเบา ๆ แบบไม่หวังผล และผิดคาดที่พบว่ามันไม่ได้ล็อค


เด็กหนุ่มแง้มประตูออกเพียงเล็กน้อยแล้วยื่นหน้าเข้าไป สายตากวาดมองสภาพห้องคุ้นตาที่เขาเองก็เคยเข้ามาบ่อย ๆ ไฟในห้องไม่ได้เปิดไว้ มีเพียงแสงลอดผ่านรอยแยกของผ้าม่านส่องเข้ามากระทบลงบนข้าวของเครื่องใช้เห็นเป็นเงาสลัว...สิ่งที่ผิดแปลกไปมีเพียงอย่างเดียวคือภาพร่างสูงของใครสักคนนั่งอยู่ตรงขอบเตียง


ผิดห้อง?


เขาถอยออกมารวดเร็วแล้วปิดประตูลงอย่างเงียบเชียบในจังหวะที่คนในห้องเหมือนจะยังไม่รู้ตัวว่ามีแขกมาเยือน สายตาตวัดไปมองเลขหน้าห้อง ห้องอุ่นใจก็ถูกแล้วนี่! ของในห้องก็เหมือนเดิมแทบจะทุกอย่าง แล้วคนในนั้นใคร?


ช่วงเวลาแห่งความลังเลใจผ่านไปครู่หนึ่ง ก่อนที่เขาจะเปิดประตูอีกครั้ง กำลังคิดว่าถ้ายิงคำถามแรกใส่ว่า 'มาทำอะไรในห้องอุ่นใจ' จะฟังดูหยาบคายไปไหม แต่แล้วภาพที่เห็นก็ทำเอาคำพูดทั้งหมดที่ตั้งใจจะเอ่ยออกมาถูกกลืนลงคอไปจนเกลี้ยง


“ข...ขอโทษครับ!”

ปิ่นหยกโพล่งขึ้นทันทีที่รู้สึกตัว ก่อนจะกระชากประตูปิดแบบไม่สนใจว่าเสียงมันจะดังจนไปขัดจังหวะกิจกรรมของสองคนในห้องนั่นหรือเปล่า



“ปิ่นหยกเป็นอะไร”
คนที่ยืนรออยู่ข้างหน้าส่งเสียงทักเมื่อเห็นอาการลุกลี้ลุกลนและใบหน้าแดงเป็นลูกตำลึงสุกของอีกฝ่าย


“เปล่า!”
เป็นการโกหกที่ไม่เนียนเลย...เขารู้  แต่จะให้บอกยังไงว่าเห็นอุ่นใจกับผู้ชายใส่แว่นร่างสูงที่น่าจะเป็นพี่หมออะไรสักอย่างคนนั้นกำลัง...




......จูบ......



นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน


...ตั้งสติก่อน นี่เขากำลังตกใจอะไรอยู่ อุ่นใจก็จัดว่าอยู่ในช่วงวัยรุ่น เวลามีความรู้สึกรักใคร่ชอบพอก็อาจจะเลือกวิธีแสดงความรักแบบนั้นได้เป็นเรื่องปกติ ถ้าอุ่นใจจูบกับผู้หญิงเขาอาจจะไม่ช็อคอย่างนี้...แต่....นั่นผู้ชาย..ไม่ใช่เรอะ!? หรือพี่หมอคนนั้นแกเป็นผู้หญิง...บ้าเหอะ!  ถึงอย่างนั้นก็เถอะ....ถ้าพูดถึงเรื่องจูบกับผู้ชาย....เขาเองก็....

สายตาเหลือบไปมองคู่กรณีที่เคยมีประสบการณ์จูบขวัญผวาถึงขั้นปากแตกมาด้วยกันโดยไม่รู้ตัว จึงได้เห็นว่าพ่อคุณชายอาทิตย์ก็กำลังจ้องเขาด้วยสีหน้าดูมึน ๆ เหมือนเคย ผิดแต่สายตาออกจะแฝงความอยากรู้อยากเห็นมากกว่าปกตินิดหน่อย และนั่นทำให้สติที่ตั้งใจจะเรียกกลับมายิ่งพาลจะกระเจิดกระเจิงกู่ไม่กลับ


“เห็นอะไรในห้องนั้นเหรอ”


“เปล่า!”
ก็โกหกอีกนั่นแหละ!


อาทิตย์เลิกคิ้วน้อย ๆ พร้อมกับหันไปไขประตูห้องของพวกเขา ผลักมันเปิดออกแล้วเอาแขนโอบไหล่คนข้าง ๆ ให้เดินเข้าไป

ปิ่นหยกโกหกไม่เคยเนียนสักครั้ง แต่ในเมื่ออีกฝ่ายไม่คิดจะพูดอะไรเขาก็ไม่อยากเซ้าซี้ ความจริงถ้าไม่ใช่เรื่องที่ตัวเองอยากรู้หรือสนใจเขาก็ไม่คิดจะขุดคุ้ยอะไรให้เหนื่อยแรง ติดก็ตรงที่ท่าทางวิตกจริตจนน่าสงสารของคนตรงหน้านี่แหละที่ทำให้รู้สึกอยากดึงมากอดปลอบขึ้นมา
 

และถ้าเขาอยากกอด..มันก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไม่กอดนี่นะ



"!!!!?"


ปิ่นหยกเบิกตากว้าง ไม่ค่อยแน่ใจนักว่าเกิดอะไรขึ้น รู้ตัวอีกทีก็อยู่ในอ้อมแขนของคนที่เมื่อครู่ยังแค่โอบที่ไหล่แท้ ๆ หลังจากความพยายามจะดิ้นให้หลุดอยู่พักใหญ่ดูเหมือนจะไม่เป็นผลเขาก็ตัดสินใจว่าช่างมันเถอะ เก็บแรงไว้ทำอย่างอื่นคงคุ้มกว่า



“ไม่เป็นไรนะครับ”

อืม...ถ้านี่เป็นคำพูดของพระเอกในหนังรักมันคงฟังดูโรแมนติกฉิบหายวายป่วง แต่นี่ผิดที่ผิดเวลารึเปล่าน่ะ!!?


“ฉันไม่เป็นไร แกต่างหากเป็นอะไรมากไหมเที่ยวไล่กอดคนอื่น!”


“ไม่เคยไล่กอดใครมาก่อนนะ” เด็กหนุ่มร่างสูงแก้ต่างเสียงอู้อี้ ใบหน้ายังซบอยู่บนไหล่ของคนที่ยืนตัวแข็งทื่ออยู่ในวงแขน...
ปิ่นหยกถอนหายใจ จุดประสงค์ที่บอกนี่คือเขาควรจะต้องปลาบปลื้มตื้นตันหรือว่ายังไง? 


อาทิตย์สูดลมหายใจเข้าลึก
“แล้วนายก็ไม่ใช่คนอื่นด้วย”


อีกฝ่ายไม่ได้ตอบอะไรแต่ก้มหน้างุดเสียจนคางชิดอก และนั่นทำให้เขาได้ใจกระชับอ้อมกอดแน่นเข้ามาอีก



....มันอุ่น....



เขาชอบเวลาอยู่ใกล้กับปิ่นหยก ชอบเวลาอีกฝ่ายพยายามสอนให้เขาทำอาหารหรือทำความสะอาดร้านด้วยท่าทางจริงจัง ตอนที่พยายามลากเขาลงจากเตียงตีสี่ทุกเช้าทั้งที่ตัวเองก็ยังทำหน้าง่วงแทบลืมตาไม่ขึ้น  เวลาหงุดหงิด เวลาหัวเราะ หรือเวลาที่ยกมือขึ้นมาลูบหลังของเขาเบา ๆ ทั้งที่ยังอยู่ในอ้อมกอดอย่างตอนนี้



ความจริงแล้วเขายังคิดไม่ออกเลยว่าไม่ชอบอะไรในตัวคนตรงหน้า



.........................


.................

.

.

.

.



“ถ้ามีลูกสาว จะให้ชื่อปิ่นหยก”

“ชอบขนาดนั้นเลยหรือ?”

เธอไม่ตอบ..แต่ยิ้มน้อย ๆ

“แล้วถ้าเป็นลูกชายล่ะ?”

หญิงสาวมุ่นคิ้วครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เก็บปิ่นไม้ที่มีหยกชิ้นเล็ก ๆ ห้อยประดับเข้ากระเป๋าอย่างทะนุถนอมแล้วหันมาตอบหน้าตาย
“ยังไม่ได้คิด”

“ไม่เตรียมพร้อมเลย”

“ไม่ได้กะจะแต่งงานมีลูกเร็ว ๆ นี้ซะหน่อยนี่”

"นั่นสิ หาพ่อให้ได้ก่อนดีกว่าเนอะ"
ประโยคนั้นทำเอาเธอหันมาค้อนขวับ และเขาเพียงหัวเราะอยู่ในลำคอ  ตัวเขาเองก็ไม่นึกอยากจะมีลูกหรือว่ามีครอบครัวตอนนี้เหมือนกัน ยิ่งถูกคุณพ่อปล่อยเกาะให้ใช้ชีวิตปากกัดตีนถีบตามลำพังยิ่งไม่อยากจะคิดเรื่องเอาเงินไปหาเลี้ยงครอบครัวเลย... อย่างน้อยก็จนกว่าจะเรียนจบนั่นแหละ

“ขอบคุณนะ”
เธอเอ่ยขึ้นอีกครั้ง พวงแก้มเป็นสีชมพูระเรื่อชวนมอง

“หือม? เรื่องอะไร”

“ปิ่นที่ให้มาไง”

เขาพยักหน้าช้า ๆ “อันนั้นไม่ได้มีราคามากมายหรอก เป็นของเล่นของลูกพี่ลูกน้องที่ติดกระเป๋ามา ถือว่าเป็นค่าข้าวเหนียวหมูปิ้งที่ให้กินฟรีมาตั้งนาน”

“ชิ! ทีหลังจะให้ของคน ไม่ต้องบอกก็ได้นะว่าเอาของคนอื่นมาให้น่ะ”

“ก็ได้ งั้นอันนั้นของฉันเอง ใช้ปักผมประจำ” เขาเอ่ยหน้านิ่ง

“เพ้อเจ้อ!” แล้วเธอก็หัวเราะร่วน



ผ่านไปยี่สิบกว่าปีแล้ว น่าแปลกที่เขายังจำเสียงหัวเราะของเธอในวันนั้นได้ดี



...............


....


“ท่านครับ?”   
คมสันเรียกพลางยื่นแฟ้มใส่เอกสารสรุปรายงานการประชุมที่ผ่านมาให้ วันนี้เจ้านายของเขาดูเหม่อลอยแปลก ๆ

“??”

“เอกสารที่ท่านเรียกครับ”

เขารับแฟ้มมาพลิกดูคร่าว ๆ แล้วตัดสินใจเก็บเอาไว้อ่านทีหลัง ทั้งที่เพิ่งเป็นคนโทรศัพท์ไปบอกให้ลูกน้องคนสนิทเอามาให้เมื่อครู่นี้เอง “ขอบใจมาก” เป็นคำตอบรับเพียงสั้น ๆ ก่อนที่คมสันจะขอตัวกลับไป


“เหม่อคิดถึงคุณอาทิตย์เหรอคะ” หญิงชราร่างท้วมวางถ้วยกาแฟลงบนโต๊ะของเขาเบามือ ใบหน้าที่เต็มไปด้วยริ้วรอยนั้นยังมีรอยยิ้มอบอุ่นประดับอยู่เช่นเคย บัวมักจะรู้ใจคนในบ้านเสมอ แต่ครั้งนี้เธอเดาผิด


“ไม่คิดถึงหรอกครับ ตอนนี้ไม่รู้อยู่ไหนแล้วด้วย”

“คุณนนท์ปากแข็ง ถ้าคิดถึงก็ไปรับกลับมาสิคะ จะตามหาลูกชายคนเดียวไม่น่าเหลือบ่ากว่าแรงเลย คุณอาทิตย์เพิ่งจะเป็นเด็กมัธยมเท่านั้นเอง”

“บัวคอยให้ท้ายอย่างนี้ไงครับ อาทิตย์ถึงไม่รู้จักโตสักที เอื่อยเฉื่อยแบบนั้นต้องดัดหลังซะบ้าง”

เธอถอนหายใจออกมาแผ่วเบา ริมฝีปากระบายยิ้มแบ่งรับแบ่งสู้ ในเมื่อทั้งอันนาและอาทิตย์เป็นเด็ก ๆ ที่เธอรักเหมือนลูกแท้ ๆ จะไม่ให้ห่วงได้อย่างไร

"เป็นคุณพ่อที่ใจร้ายจริง ๆ"

“ถ้าจะตามหา ผมไปตามคนอื่นยังจะดีกว่า”

“แบบคุณนนท์จะมีใครที่ต้องตามด้วยเหรอคะ”

“ไม่รู้สิครับ”


เขาตอบอย่างขอไปที นัยน์ตาสีดำขลับแบบเดียวกับคุณพ่อของเขาซึ่งส่งผ่านพันธุกรรมไปถึงลูกชายที่เป็นรุ่นหลานจับจ้องไปยังตุ๊กตาหยกรูปมังกรบนโต๊ะอย่างครุ่นคิด



...ปิ่นหยก....แววสินธุ์?

ชื่อของเด็กที่เจอในโรงพยาบาลคนนั้นยังดังซ้ำไปซ้ำมาอยู่ในหู


เขาถอนหายใจยาวแล้วเอนหลังพิงพนักเก้าอี้บุนวมตัวโปรด มันเป็นเพียงข้อสันนิษฐานลม ๆ แล้ง ๆ และเขาก็ไม่ได้มีเวลามากมายจะไปเล่นไล่จับกับเด็กมัธยมไม่รู้ลูกเต้าเหล่าใครที่แค่บังเอิญทำให้นึกถึงความทรงจำเก่า ๆ ขึ้นมา


อานนท์หัวเราะเบา ๆ กับถ้วยกาแฟที่เริ่มจะเย็นชืด



"เธอน่าจะคิดไว้ตั้งแต่ตอนนั้นด้วยนะ...ว่าถ้าเป็นลูกชายจะให้ชื่อว่าอะไร"



To be continued…



คุยกันท้ายเรื่อง


ปิ๊งป่อง!! คุณพ่อของอาทิตย์ค่ะ.. ทุกคนทายถูกหมดเลย (ก็ส่อซะขนาดนั้น..ฮา)

ก่อนไป แถมหมีกริชกับพี่เอมค่ะ วาดขอบคุณที่แฟนเพจได้ครบ 100+ Likes ขอบคุณมากนะคะ  :กอด1:


ห้ามบอกว่าพี่เอมเสะกว่าน้าาา โฮรววววว เผลอวาดพี่เอมเสะไปหน่อยค่ะ(หรือวาดหมีเคะไป 555) เอาไว้แก้ตัววันหลัง

ขอบคุณมาก ๆ ทุกคอมเม้นต์ แล้วพบกันตอนหน้าค่า ^o^
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-12-2012 17:38:55 โดย RAINYDAY »

ออฟไลน์ nn~~NN

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1232
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +295/-1
ลูกเจี๊ยบกวนประสาทดีจริงๆ  แต่บทจะหวานก็หวานเนาะ  ท่าทางปิ่นหยกคงแพ้ทาง  :กอด1:
ว่าแต่... คุณพ่อมีความหลังอะไรกับคุณแม่หนูปิ่นน้อ  o8

ออฟไลน์ moredee

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-8
:กอด1:อยากกอดปิ่นหยกจริงๆด้วย

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4514
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
คุณแม่ปิ่นหยกคือแฟนเก่าคุณพ่อลูกเจี๊ยบใช่รึเปล่า

ออฟไลน์ Ju

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-2
แปะไว้ๆ พรุ่งนี้จะตามมาอ่าน  :m1:

ออฟไลน์ Whatever it is

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3960
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +380/-8
คุณพ่อของลูกเจี๊ยบเกี่ยวไรกะแม่ปิ่นหยกเหรอ

ว่าแต่คู่อุ่นใจเค้าจูบกันแล้ววววว

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
เป็นวันมหาซวยของปิ่นจริง ๆ นั่นแหละ  เหอะ ๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
 แม่ปิ่นหยกเคยกิ๊กกะคุณพ่อไอ้เจี๊ยบป่ะเนี่ย

ออฟไลน์ Ju

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-2
เอ๊ะ พ่อของอาทิตย์เป็นอะไรกับปิ่นหยก ?  o12

Porsche23

  • บุคคลทั่วไป
อาทิตย์กวน ๆ มึน ๆ น่ารักมากกก ~~   :-[

อุ่นใจกะคุณหมอจูบกันแล้ว!!? กรี๊ดดด.. รวดเร็วทันใจมากเลยค่าา  55555

รูปวาดสวยมาก ๆ เลยค่ะ   o13

รอตอนต่อไปนะคะ!

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9405
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
พ่อลูกเจี๊ยบกับแม่ปิ่นเป็นเพื่อนกันมาก่อนรึ? หรือว่าเป็นอะไรที่มากกว่านั้น :z1:
แต่รุ่นลูกอะ ลุ้นให้เป็นแฟนกันเร็วๆ :o8:
ไม่ทันเคลียร์เรื่องน้องอุ่นใจเห็นหมอกสีเทาหลังปิ่นเลย มามีเรื่องจูบกับพี่หมอซะงั้น
ปิ่นกับอาทิตย์อย่ายอมแพ้ จุ๊บกันครั้งที่สองเร็ว :laugh:

ออฟไลน์ u_cosmos

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1114
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-1
หลังจากปิ่นหยกแล้วน้องอุ่นก็ตามมาติดๆ(หรืออาจจะนำไปโดยที่ไม่รู้ >/////<)
หรือจริงๆแล้วมันไม่มีอะไร >////<

นี่แม่ของปิ่นหยกเคยช่วยพ่อของอาทิตย์ไว้งั้นหรอ
สายใยพันผูกสินะ 

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16

ออฟไลน์ ben

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 501
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +49/-3
แม่ปิ่นหยกเปนคนรักเก่าของป๊ะปีาอาทตย์ป่ะอ่ะ >< แต่ว๊ษยๆๆน้องอุ่นใจกะพี่หมอออทำน้องหยกหน้าแดงด้วย :-[

ออฟไลน์ TONG

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2535
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-4
ลูกเจี๊ยบกวนประสาทได้น่ารักมากกกกกกกกกกกกกก

ออฟไลน์ Theznux

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 197
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-1
อะฮึ้ยยย น่าติดตามต่อแล้ววว

ออฟไลน์ TanyaPuech

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +531/-23
 :impress2:   น่ารักไปล่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ indy❣zaka

  • กระซิกๆ เบื่อดราม่า...
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +625/-26
ฮั่นแน่!!! กิ๊กกันตั้งแต่รุ่นพ่อรุ่นแม่เลยอ่ะ  :laugh:

อืม แต่ว่า ปิ่นหยกไม่เคยพูดถึงพ่อเลยสักกะครั้งอ่ะ เพราะไรหว่า  :m28:
เคยเห็นแต่บอกว่า ส่งเงินไปให้แม่กับน้องที่บ้านด้วย  แล้วปะป๊าไปไหนง่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-07-2012 01:51:19 โดย indy❣zaka »

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7579
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
มาแระไงเงื่อนงำ อิอิ

รอรอต่อปายยย

ออฟไลน์ YuuYuu

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
มาอ่านทีเดียวสี่ตอนรวดค่ะ  หนีหายไปทำงานมาเพิ่งได้คลานมาอ่านนี่หละค่า

ชอบคนแบบอาทิตย์หงะ...  ถ้าพี่เอมไม่เคะคงชอบ...  แต่ด้วยที่ว่าเป็นคนชอบเสะ  อาทิตย์เลยโดนใจไปเต็มๆ ณ จุดนี้ค่ะ //ปักป้ายแม่ยกลูกเจี๊ยบ

ว่าแต่คุณพ่อของอาทิตย์นี่แอบกิ๊กกะม่ะม๊าปิ่นหยกสินะ  ฮี่ๆ  ไม่เป็นไรนะคะ  รุ่นพ่อไม่ได้ม่ะม๊าปิ่นหยก  แต่รุ่นลูกคุณพ่อก็จะได้ลูกชายมาแทน  ทดแทนกันได้เนาะ  ฮ่าๆๆๆๆ


ชักอยากเห็นพี่หมอของน้องอุ่นใจแล้วหละค่าาาาาาาา

ออฟไลน์ kasarus

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
ใใครบังอาจมาทำอะไรน้องอุ่น
พี่เอมรีบจัดการเร็ว

เอ.....หรือว่าพี่เอมต้องไปจัดการกับนายหมีกรีซลีย์ก่อน

IamA

  • บุคคลทั่วไป
ขอเดาว่าแม่ปิ่นหยกเป็นผู้ให้ความช่วยเหลือพ่ออาทิตย์ตั้งกะสมัยระเห็ดออกจากบ้าน ... ถ้าเป็นอย่างงี้ บุญคุณนั่นจะทำให้ความรักระหว่างอาทิตย์และปิ่นหยกง่ายขึ้นรึเปล่าหว่า

ว่าแต่พี่หมอลักหลับน้องอุ่นรึน้องอุ่นสมยอมอ้า!!

MiiCell

  • บุคคลทั่วไป
นั่นแน่!!!พ่อแม่เป็นเพื่อนกันซะด้วยอ่ะ
พ่อลูกเจี๊ยบดันกินข้าวเหนี่ยวหมูตั้งนาน
ดั้งไม่แหมบหรอนั่น?  :laugh:

ออฟไลน์ RAINYDAY

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1247/-5
    • FB page
Dormitory Boys – สะดุดรัก หอพักอลเวง


“รัก...ติดดิน”


CHAPTER 13 – สัตว์คอยาว มีลายสีน้ำตาลบนพื้นเหลืองนั้นคือยีราฟ


::Artid’s POV::



......โครกก...กกก.......ก......

กระเพาะของผมเริ่มส่งเสียงประท้วงในความเงียบ


“...หิว....” 

ภาษาของระบบทางเดินอาหารถูกแปลออกมาเป็นภาษามนุษย์ให้ปิ่นหยกฟัง แต่ไม่มีปฏิกิริยาตอบรับจากอีกฝ่ายที่นอนขดหันหลังให้ผมอยู่มุมเตียงโดยมีผ้าห่มพันรอบตัวแน่นหนาเป็นดักแด้ ของทุกอย่างบนหัวเตียงถูกกวาดไปไว้บนโต๊ะอีกฝั่งหลังจากเจ้าตัวเพิ่งถูกนาฬิกาปลุกซึ่งควรจะวางอยู่ดี ๆ หล่นตุบกระแทกกลางศีรษะแบบไม่มีที่มาที่ไป... อดคิดไม่ได้ว่าแม้จะเหตุการณ์จะไม่รุนแรงอะไรมากมาย แต่วันนี้ปิ่นหยกช่างซวยซ้ำซวยซ้อนจนน่ารันทดใจจริง ๆ


“หิวอะ”  ผมลองพยายามดูอีกครั้ง


“.....”
ปิ่นหยกยกมือขึ้นมาปัดยุงที่บินวนอยู่ข้าง ๆ หู แต่ไม่ยอมตอบอะไรออกมาสักคำ ดูเหมือนเขาเห็นว่าผมน่าสนใจน้อยกว่ายุงที่หลงเข้ามาในห้องเสียอีก


“หิวครับ”   ผมก้มลงไปกระซิบ
“ถ้าไม่ไปหาอะไรกินกัน จะกินนายแทนแล้วนะ” 
ตามด้วยเป่าลมเบา ๆ ใส่หูคนที่กำลังทำเป็นเมิน เกือบจะเผลอใจกัดเข้าที่ใบหูนั่นไปแล้วแต่ยังพอมีสติยับยั้งชั่งใจอยู่บ้าง...หลังจากนั้นก็นับเลขอยู่ในใจ...


หนึ่ง...


.....สอง....


.............สา—




“ไอ้ลูกเจี๊ยบเวร!! ไอ้ทะลึ่ง!!!! เห็นไม่ว่าอะไรแล้วลามปามนะ!!”


สองวินาทีเศษ...ผมชนะยุงแล้ว

การตอบสนองของปิ่นหยกดูช้ากว่าปกตินิดหน่อย (ทว่าหน้านั่นแดงไปนานแล้วตั้งแต่ผมยังไม่ทันนับหนึ่ง) แต่ไม่แน่นะ ถ้าเมื่อครู่นี้ผมงับหูเขาเข้าจริง ๆ มันอาจเร็วกว่านี้ก็ได้


...น่าลองเนอะ...
 

“เหนื่อยเหรอ”

“เปล่า!”

“หรือว่าเจ็บแผล”

“เปล่า!”

“หรือว่า—”

“เซ้าซี้อะไรอยู่ได้เนี่ย”

“ถ้าไม่เป็นไรงั้นไปหาอะไรกินกัน”

“ไปเองดิ ไม่ได้ตัวติดกันซะหน่อย” เขาส่งเสียงบ่นหงุงหงิง 
“ออกไปเพ่นพ่านเดี๋ยวตายโหงขึ้นมาทำไง”


สรุปว่ายังกังวลเรื่องที่เจอแต่อะไรแย่ ๆ หลังจากโดนอุ่นใจทักเมื่อเช้าสินะ


ที่ว่าไม่ได้ตัวติดกันนั่นมันก็จริงของเขา แต่พอนึกถึงว่าจะต้องไปกินมื้อเที่ยงคนเดียวโดยที่ไม่มีปิ่นหยกไปด้วยก็ทำเอาผมเกิดเบื่ออาหารขึ้นมาเสียอย่างนั้น


.....จ๊อกกก...กกก....
...คือ...ถึงผมจะรู้สึกเบื่ออาหาร แต่ท้องไส้มันห้ามไม่ได้น่ะ เราพูดกันคนละภาษา



“ปิ่นหยกไม่หิวเหรอ”

“คิดว่าอย่างฉันเคยอดข้าวต่อเนื่องนานเท่าไหร่กัน”

“อดอาหารนาน ๆ ไม่ดีกับสุขภาพรู้ไหม”

“เด็กอนุบาลก็รู้” เขาพ่นลมหายใจออกจมูก “พวกคนรวยก็สักแต่พูดนั่นแหละ พวกนั้นบอกว่าไม่ดี แต่พวกเราไม่มี มันเหมือนกันที่ไหน”


ผมมองคนที่เถียงฉอด ๆ อย่างพิจารณา ชั่วขณะที่พูดออกมานั้น แวบหนึ่งเขาทำสีหน้าอย่างกับชีวิตที่ผ่านมาช่างเลวร้ายเสียจนคนอย่างผมจะไม่สามารถเข้าใจได้ และจะว่าไปแล้วผมก็แทบไม่รู้อะไรเกี่ยวกับทางบ้านของเขาเลยนอกจากเรื่องราวของแม่และน้องสาวซึ่งนาน ๆ ครั้งเขาจะเอ่ยถึงสักที


ผมสอดมือเข้าไปใต้ผ้าห่ม คว้าที่เอวของเขาแล้วดึงเข้ามาใกล้ ทุกอย่างเป็นไปโดยไม่ได้ผ่านการไตร่ตรองผ่านสมอง  ผมแค่อยากกอด แล้วก็ขี้เกียจหาเหตุผลว่าทำไม และถ้าเขาอยากนับว่านี่เป็นเรื่องซวยอีกอย่างของวันนี้ผมก็ไม่คิดจะเสียเวลาแก้ต่างให้วุ่นวาย

“ขอโทษนะครับ”


เขาสะดุ้ง...แต่ไม่ได้ดิ้นหนี
เขาอาจจะเบื่อ.......ขี้เกียจ........หมดแรง.......


...หรือบางที......เขาอาจจะรู้สึกดีกับกอดนี้เหมือนที่ผมรู้สึกก็ได้.......


ผมระบายลมหายใจทิ้งอย่างไร้สาระทั้งที่ยังกอดเอวเขาไว้หลวม ๆ อยู่อีกพักใหญ่  ถ้ามันตีค่าเป็นเงินได้ปิ่นหยกคงจับผมมานั่งอบรมเรื่องหายใจทิ้งขว้างไปแล้ว


“อาทิตย์”

“ครับ?”

“....เอาจริง ๆ เลยนะ คุยกันแบบลูกผู้ชาย รับรองว่าจะไม่เอาไปแพร่งพรายที่อื่น...”   แต่ละคำของเขารัวจนฟังไม่ค่อยได้ศัพท์คล้ายคนพูดกำลังประหม่า
ผมใช้จังหวะตอนที่เขาเงียบไปเอาคางวางพาดไว้บนไหล่ที่ถึงจะไม่ได้บอบบางแบบพวกผู้หญิงแต่ก็ถือว่าบางกว่าไหล่ผมเยอะ...ถ้าเขาจะผอมแบบนี้ ออกแรงกอดมากขึ้นอีกนิดหน่อยจะเป็นไรไหมนะ?

ไม่ใช่แค่นึกแต่ผมได้ลงมือพิสูจน์ความสงสัยใคร่รู้นั้นไปแล้ว ผลคือปิ่นหยกหยิกที่แขนผมเต็มแรงอย่างกับบิดดินน้ำมันออกจากก้อน ใจคอเขาคงกะให้เนื้อหลุดออกมาเลยถ้าทำได้


“.....คือ...ฉันรู้ว่าสังคมเราไม่ค่อยเปิดกว้างเรื่องนี้กันเท่าไหร่ และถ้าพ่อแกรู้ก็อาจจะรับไม่ได้เลยต้องปิดไว้...แต่ว่านะ...แบบ...ไหน ๆ เราก็เป็นรูมเมทกัน...ถ้าไงจะได้ระวัง..เอ่อ...จะได้....ช่างเถอะ แต่ว่า....”  เขาเกริ่นเกินจำเป็นต่ออีกยาวเหยียดแล้วจึงถามออกมาด้วยเสียงที่แทบไม่ดังไปกว่ากระซิบ

“.....แกเป็นเกย์จริง ๆ ใช่ไหม!?”

แล้วเขาที่เป็นฝ่ายถามก็หน้าขึ้นสีเสียเอง....


ผมเป็นเกย์เหรอ...? บ้าน่า...


“เปล่านี่”

เขาทำสีหน้าไม่เชื่อสุดฤทธิ์  “งั้นเคยชอบผู้หญิงรึเปล่า”

“เคย”

“ใคร?”

“บัว”

“นั่นไม่นับว้อย!!!”

“ไม่นับบัวเป็นผู้หญิง ปิ่นหยกหยาบคายจัง”

“กร๊วกนี่! แกแหละจิตอกุศล! หมายถึงไม่นับว่าชอบแบบนั้น”

“แล้วหมายถึงชอบแบบไหนล่ะ”

“.....แบบ.........”

ปิ่นหยกกัดริมฝีปากล่างตัวเองจนมันเปลี่ยนจากสีแดงสดเป็นซีดขาว ดูท่าทางเขาเหมือนเขาต้องใช้กำลังภายในมากทีเดียวในการเอ่ยถ้อยคำต่อจากนั้นออกมา
“........แบบคนรัก”


ผมนั่งรอให้เขาพูดอะไรสักอย่างเพื่อขยายความต่อ แต่อีกฝ่ายกลับไม่มีทีท่าว่าจะสาธยายอะไรมากไปกว่านั้น
“ช่างเหอะ”


จากที่สังเกตหลายครั้งแล้ว เวลาที่เขาเปลี่ยนเรื่องหรือไม่ก็ตัดบทกะทันหันแบบนี้ สาเหตุมักมาจากความเขิน...และนั่นทำให้ผมรู้สึกดียังไงไม่รู้สิ

“ปล่อยดิ๊!”
เขาอาศัยจังหวะช่วงที่ผมกำลังเผลอเอาศอกถองมาที่ชายโครงเต็มเหนี่ยวก่อนจะคลานหนีออกไปอย่างทุลักทุเล นี่มันจุกไม่ใช่น้อยเหมือนกันนะ

“เกาะเป็นปลิงอยู่ได้”

ผมยักไหล่ “ทีนายกับคิมยังเห็นกอดกันออกจะบ่อย” 

“มันเหมือนกันที่ไหนเล่า!”

“กำลังจะบอกว่าฉันพิเศษกว่าคิมใช่ปะ”

“หลงตัวเองเกินไปแล้วเว้ย!” 

แล้วหมอนใบใหญ่ก็ถูกฟาดเข้าหน้าผมเต็มรัก...ซึ่งคงรักมากทีเดียวเพราะเล่นเอาถึงกับหน้าหงายไปวูบหนึ่ง ผมตามไปตะครุบตัวเขาไว้ทันทีที่ตั้งหลักได้ 


ตุบ!!



“อึก!!”

เขานอนคว่ำหน้าอยู่บนเตียง มีผมเกาะหนึบจำกัดการขยับตัวหนีของเขาเอาไว้ด้วยน้ำหนักของตัวเองที่นอนทับอยู่ข้างบน เทียบขนาดร่างกายแล้วผมได้เปรียบเห็น ๆ และผมก็ไม่คิดว่ามันเสียหายอะไรถ้าจะใช้ข้อได้เปรียบนี้ให้เป็นประโยชน์

“ตัวแม่มหนัก! คิดว่าตัวเองไซส์เท่าลูกแมวน้อยรึไง!”

“ขอโทษครับ” 
ผมไม่รู้ว่าวันนี้จะพร่ำขอโทษเขาอีกกี่หน  ไม่แน่ใจด้วยว่ากำลังขอโทษเรื่องอะไรอยู่  แต่ถึงขอโทษก็ไม่คิดจะปล่อยหรอกนะ


”ฉันรู้สึกดี ๆ กับนายนะ....แต่บอกไม่ได้ว่าแบบไหน”



ปิ่นหยกกะพริบตาปริบ ๆ สองสามครั้ง จัดว่าใช้เวลาประมวลผลนานทีเดียวหากเทียบกับมาตรฐานเดิมของเขา  ก่อนทำท่าเหมือนจะพ่นควันออกทางหูแล้วก็ฟุบลงกับเตียง มือสองข้างยกขึ้นปิดหน้าปิดตาให้วุ่นวายทั้งที่ต่อให้ไม่ยกขึ้นมาปิดหน้าเขาก็แทบจมหายไปกับฟูกอยู่แล้ว


...และผมจะว่าไงดี...



......นี่มันน่ารักมากเลย.......



ถ้าเขาจะต่อว่าผมเรื่องชอบทำให้เขาเขิน(หรือโกรธ?)จนหน้าแดงบ่อย ๆ ผมก็อยากจะฟ้องกลับเหมือนกันว่าเขาเองก็ด้วยที่ชอบทำให้ผมรู้สึกแน่น ๆ หวิว ๆ ในอกอยู่ประจำกับท่าทางพวกนั้น  ตอนที่อยู่คนละห้องกันผมอาจเคยได้ยินคนพูดถึงเขามาบ้าง ส่วนใหญ่เป็นเรื่องผลการเรียน ถัดจากนั้นเป็นเรื่องความงก และอีกหัวข้อที่พูดถึงไม่แพ้กันคือ ‘น่ารัก’ …แต่ผมไม่เคยเข้าใจคำพูดเหล่านั้นจนได้มาอยู่ด้วยกันนี่เอง


“ที่ว่าชอบแบบคนรักนั่นเป็นยังไง...บอกให้ฟังหน่อย”

“......”

เขานิ่งไปอีกแล้ว หน้าก็ยังไม่ยอมเงยขึ้นมา ผมเลยก้มไปส่องจนชิด นึกอยากทำอะไรแบบที่ตั้งใจจะลองอยู่เมื่อครู่ขึ้นมา


"...."


“ฟายย!!! กัดหูทำไมเนี่ย!!!!!”



ผมหัวเราะ.....
เผลอหัวเราะเสียงดังเสียด้วย  แม้จะเจ็บที่คางอยู่นิดหน่อยตอนที่เขาพรวดพราดเงยหน้าขึ้นมาเอาหัวกระแทกเข้าพอดี วันนี้ผมก็เจ็บตัวเยอะเหมือนกันนะ

“เรียกไม่ตอบนี่นา”

“บ้าเอ๊ย” เขาจ้องผมตาเขียว ดูดี ๆ เหมือนจะเห็นน้ำตาคลอหน่วย....แย่แล้ว หรือว่าเล่นมากไป แต่เมื่อกี้ก็แค่งับเบา ๆ เองนะ (ปิ่นหยกมาด่าทีหลังว่า ‘ประเด็นมันไม่ใช่เรื่องงับแรงหรืองับเบาว้อย’)


“อย่าร้องนะครับ...ขอโทษ” ผมทำท่าจะกอดเขาอีกรอบ แต่คราวนี้โดนชิงยันโครมออกมาเสียก่อน

“ไม่ได้ร้อง! ถ้าจะขอโทษจ่ายเป็นเงินชดเชยมาเลยดีกว่าไอ้ลูกเจี๊ยบนรก”

“เอาตัวไปแทนได้ไหมล่ะ”

“ไร้ประโยชน์” เขายกมือขยี้ตาพลางทำสีหน้ารังเกียจ
โหดร้ายสุด ๆ ที่ผ่านมาไม่เคยมีใครทำหน้าแบบนั้นใส่ผมเลยนะ เขาอาจจะเห็นว่าผมออกอาการสลดลงไปนิดหน่อยเลยเอามือมาโคลงหัวผมเล่น ก่อนจะส่งเสียง ‘ฮึ!’  ขึ้นจมูกออกมาทีหนึ่ง


“...เคยรู้สึกอยากอยู่ใกล้ ๆ ใครตลอดเวลาหรือเปล่าล่ะ? ....แบบ....อยากเห็นหน้า อยากคุยด้วย”

ผมหันไปมอง ปิ่นหยกไม่ได้มองกลับแต่ลุกไปทำตัววุ่นวายกับการจัดของบนโต๊ะทั้งที่มันไม่เห็นจะรกอะไรเลยสักนิด

“อยากจับมือ..กอด อยากเป็นกำลังให้ อยากให้เขาเป็นของเราคนเดียว....”


นั่นมันอย่างกับเอาความรู้สึกผมมาพูดทั้งนั้นเลย


“แล้วไงอีก”


เขาขมวดคิ้ว พึมพำดังพอให้ผมได้ยิน 
“โง่จริงหรือแกล้งโง่วะ เนียนจนจะแยกไม่ออกแล้ว โตป่านนี้ไม่เคยปิ๊งสาวเป็นไปได้ไง” 

“น่า ๆ ...ต่อเร็ว”

“ไม่ได้เล่านิทานนะไอ้บ้านี่! หลักสูตรระยะสั้นแค่นี้พอแล้ว ที่เหลือไปหาเอาเอง”

“สั้นจัง”



...แต่ถ้าแบบนั้นคือชอบ...



“งั้นสรุปว่าฉันชอบนาย”



ปิ่นหยกปล่อยตั้งหนังสือในมือร่วงลงไปกองบนพื้น



ผมแค่พูดคำตอบที่ตรงกับคำจำกัดความของเขาออกมา เหมือนเวลามีคนเล่าให้คุณฟังว่ายีราฟเป็นสัตว์คอยาว ขายาว มีลายสีน้ำตาลบนพื้นเหลือง  แล้วพอคุณเห็นสัตว์ที่มีลักษณะแบบนั้นก็เลยระบุออกมาว่านั่นคือยีราฟ....มันก็เท่านั้นเอง...



“เวรเอ๊ย! ไหนบอกไม่ได้เป็นเกย์ไง”

“ก็ไม่ได้เป็นซะหน่อย”

“ไม่เป็นแล้วมาชอบอะไรผู้ชายวะ!”

“ความชอบต้องมีเพศด้วยหรือ?”

เขาทำหน้าเหมือนอยากจะเถียงว่า ‘มันก็ควรชอบเพศตรงข้ามสิ!’ นั่นก็อาจจะจริง...แต่ว่านะ....


“ฉันชอบนายเพราะไม่ใช่ว่าเพราะเป็นผู้ชาย แต่เพราะว่าเป็นปิ่นหยกต่างหาก”


วินาทีนี้ถ้าหน้าเขาแดงจนระเบิดตูมออกมาได้ผมจะไม่แปลกใจเลย หากคุณพ่อไม่ยึดโทรศัพท์ไปแล้วผมก็อยากจะเอามาถ่ายวิดีโอเก็บไว้ดูเล่นอีกบ่อย ๆ

“.....อาทิตย์.........แกพูดอะไรออกมารู้ตัวบ้างไหม....”

“รู้ตลอดแหละ พูดอีกทีก็ได้”



สาระสำคัญของบทสนทนาหยุดอยู่เพียงแค่นั้น


............


....



…มันฟังดูแปลกประหลาด...ผมรู้...


กับเพื่อนผู้หญิงสมัยก่อนที่ผมอาจจะเคยคิดว่ามันใกล้เคียงคำว่าชอบก็ใช่ว่าจะไม่มีอยู่เลย เพียงแต่มันก็แค่ใกล้เคียง ผมไม่ได้ชอบพวกเธอมากไปกว่านั้น ไม่ได้อยากกอด ไม่ได้อยากเก็บไว้คนเดียว และผมก็ไม่เคยชอบผู้ชายแบบคนรักมาก่อน 


แต่สำหรับเขาคงต้องให้เป็นกรณียกเว้น....มันอาจจะมากกว่าคำว่า ‘ชอบ’ ด้วยซ้ำ เพราะถ้าอ้างอิงจากเลคเชอร์สั้น ๆ ของปิ่นหยกเมื่อครู่ ผมรู้สึกว่าอยากได้....มากกว่านั้น......



มากกว่านั้นมาก ๆ เลยทีเดียว



ชีวิตผมที่ผ่านมาไม่มีอะไรต้องขวนขวาย เงินซื้อไม่ได้ทุกอย่างแต่ก็เกือบทุกอย่าง ไม่จำเป็นต้องพยายาม สิ่งที่อยากได้ผมก็จะต้องได้ และตอนนี้ผมก็กำลังสงสัย


ถ้าผมอยากได้เขาล่ะ..?



นอกจากเงินที่ตอนนี้คงมีไม่พอ.....ผมจะต้องซื้อด้วยอะไรดี



To be continued...




คุยกันท้ายเรื่อง


อย่าเพิ่งเลี่ยนตาย นาน ๆ ทีค่ะ ตอนหน้าไม่เอาแบบนี้แล้ว เขียนไม่ไหวจะเป็นลม 555

สั้นหน่อยนะคะตอนนี้ ช่วงเวลาสุขสงบมันดีอย่างงี้เอง =w=
ข้อสงสัยเกี่ยวกับรุ่นพ่อ และประเด็นอื่น ๆ ของตัวละคร(อย่างเช่นอุ่นใจ)จะค่อย ๆ เฉลยแทรกไประหว่างเนื้อเรื่องค่ะ  หรือไม่ก็อาจไปโผล่ในภาคของคู่อื่นเลย //ซะงั้นอะ

ขอบคุณมากทุกคอมเม้นต์เลยค่ะ เรื่องน่ายินดีที่สุดของคนเขียนสมัครเล่นแบบเราพอได้เห็นว่ามีคนอ่านก็ดีใจมาก ๆ แล้ว 

พบกันตอนหน้าน้า ^^


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-11-2012 23:58:13 โดย RAINYDAY »

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41

ออฟไลน์ TONG

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2535
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-4

ออฟไลน์ goosongta

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1520
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +94/-6
พระเอกเราซึนได้โล่ห์จริงๆ
น้องหยกฉลาดกว่าเยอะเลย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด