Dormitory Boys – สะดุดรัก หอพักอลเวง“รัก...ติดดิน”
CHAPTER 18 – กีฬาเป็นยาวิเศษห้องนี้สุดยอดไปเลยโคมไฟในห้องทั้งที่หัวเตียง เพดาน หรือผนังสานขึ้นอย่างประณีตบรรจงจากไม้ไผ่ เครื่องเรือนทำจากไม้โทนสีน้ำตาลอ่อน โซฟายาวทอดตัวแนบชิดเข้ากับผนังห้องสีขาวดูปลอดโปร่ง ได้กลิ่นหอมหวานของดอกลั่นทมโชยมาจากที่ไหนสักแห่ง
เตียงสี่เสาสีขาวขนาดใหญ่น่าลงไปกลิ้งเล่นตั้งเด่นอยู่กลางห้อง ซึ่งเขาพยายามมองข้ามความจริงน่าสยดสยองว่ามันเป็นเตียงคู่ไปก่อน บนนั้นมีดอกกล้วยไม้วางประดับอยู่สองช่อ ผ้าม่านสีขาวเนื้อบางซึ่งล้อมอยู่รอบเตียงพลิ้วไหวตามลมทะเลเอื่อย ๆ ที่โชยเข้ามาทางประตูกระจกบานใหญ่เชื่อมกับระเบียง มีหมอนอิงปักลายเถาวัลย์อ่อนช้อยสองใบวางพิงกันบนเก้าอี้หวายข้างนอก เลยออกไปเป็นหาดทรายและผิวน้ำหยอกล้อกับแสงแดดเป็นประกายระยิบระยับทอดยาวออกไปจรดผืนฟ้า
บ้านพักบรรยากาศแบบนี้ควรจะต้องใช้เวลาจองกันล่วงหน้าไม่น้อยทีเดียว แต่เอมจิตกลับหามาได้ง่าย ๆ เหมือนหาบังกะโลราคาประหยัดข้างทาง ร้านเค้กทานตะวันสวัสดิการดีเสียจนเขาอยากจะฝากตัวเป็นลูกจ้างประจำไปจนวันตาย
เขากวาดตามองไปรอบตัว ทิ้งกระเป๋าเป้ลงพื้นแล้วกระโดดขึ้นไปนั่งบนเตียง
นุ่มโคตร! ทั้งนุ่มทั้งเด้ง เฟอร์นิเจอร์และของประดับอย่างอื่นก็ดูจัดวาดได้ลงตัวเหมาะเจาะ ที่ขัดใจอยู่อย่างเดียวก็คือทุกอย่างในห้องนี้ดูจะถูกจัดเป็นคู่ไปเสียหมดนี่แหละ!
“เหมือนมาฮันนีมูนเลยเนอะ”เอาแล้วไง“เงียบ ๆ แบบนี้อย่างกับทั้งโลกมีแค่ฉันกับนายเลย”
ปิ่นหยกตัดสินใจปล่อยเบลอคุณชายแล้วหันไปเกลือกกลิ้งกับเตียงนุ่มนิ่ม พยายามสะกดจิตตัวเองว่ากำลังอยู่ในห้องคนเดียวและไม่ได้ยินคำพูดเพ้อเจ้ออะไรทั้งนั้น...
“.....นี่....ปิ่นหยก”
แล้วไม่ต้องมาทำเป็นกระซิบเสียงเคลิ้มใกล้ ๆ ด้วย! ไม่หลงกลหรอกเว้ย
อาทิตย์ทิ้งตัวลงนั่งตรงขอบเตียง พิศมองอีกฝ่ายนอนแผ่กินที่เกินตัว... ใบหน้าซึ่งพยายามแสดงให้ดูเฉยเมยก็ยังอุตส่าห์มีสีเลือดฝาดจาง ๆ บนแก้มให้เขาเห็น..... ปิ่นหยกช่างไม่เนียนเอาเสียเลย
เขาโน้มใบหน้าลงไปใกล้อีกนิด…...แล้วก็อีกนิด......ลมโชยเอื่อยพัดโมบายเปลือกหอยที่ระเบียงกระทบกันดังกรุ๋งกริ๋งเบา ๆ คลอไปกับเสียงคลื่น ข้างนอกนั้นดวงตะวันทอแสงเจิดจ้า...หาดสวย...ฟ้าใส... และบรรยากาศเป็นใจอย่างถึงที่สุด อีกเพียงนิดเดียวริมฝีปากก็จะสัมผัสกันแผ่วเบา ให้ปลายลิ้นได้แลกเปลี่ยนรสหวานนุ่มนิ่มและอุ่นชื้น....
แต่ช้าก่อน!“ไม่ได้แอ้มซะหรอก!!” ปิ่นหยกเอามือสองข้างตะปบใบหน้าอีกฝ่ายเอาไว้ได้ทันก่อนสถานการณ์จะข้ามผ่านเส้นอันตรายเข้ามา
หลังจากเสียท่าซ้ำแล้วซ้ำเล่า คนเรามันก็ต้องมีการเรียนรู้กันบ้าง
ปากยื่น ๆ ของคุณชายทำให้เขาหัวเราะลั่น น่ารักตายล่ะ!! ถ้ากลับไปเกิดใหม่เป็นเด็กห้าขวบก็ว่าไปอย่าง ถึงแม้อายุสมองตอนนี้อาจจะเข้าได้ก็เถอะ
อาทิตย์ชะงักอยู่ท่าเดิมไปครู่หนึ่งเหมือนรอให้คนข้างล่างหัวเราะจนพอใจทั้งที่มือทั้งสองข้างของอีกฝ่ายก็ยังประกบอยู่สองข้างแก้ม เขาเอียงใบหน้าแนบไปกับฝ่ามือนั้น รู้สึกได้ถึงความร้อนแทรกผ่านผิวหนังส่วนที่สัมผัสกัน.... มันไม่ได้นุ่มนิ่มแบบผู้หญิง ติดจะกระด้างเสียด้วยซ้ำ
....แต่เขารักสัมผัสแบบนี้ชะมัด... “พยายามดีแล้ว แต่ยังไม่พอนะรู้ไหม”
และสีหน้าปิ่นหยกก็ชัดเจนว่าไม่เข้าใจที่เขาพูด... คงต้องแสดงตัวอย่างให้ดูนิดหน่อย
“มือยังว่างอยู่เลย”
ว่าแล้วเขาก็ยกมือของตัวเองขึ้นมา วางทาบซ้อนลงไปบนมือของปิ่นหยกที่แนบกับแก้มของเขาอีกทีหนึ่งถึงตรงนี้อีกฝ่ายเริ่มจะมองเห็นอะไรทะลุปรุโปร่งไปเป็นฉาก ๆ แล้ว สังเกตจากนัยน์ตาที่เบิกกว้างอยู่บนใบหน้าซึ่งคงมีเลือดมาสูบฉีดมากกว่าเมื่อนาทีก่อนเยอะทีเดียว และเขาก็เพียงแต่ยิ้มบาง ๆ ที่ตัวอย่างเล็กน้อยของตัวเองได้ผล
“อาทิตย์...” ปิ่นหยกกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก “.....แกไม่ได้คิดอะไรสัปดนอยู่ใช่ไหม”
“เห็นฉันเป็นคนแบบนั้นเหรอ”
เห็นเต็มสองลูกตาเลยว้อย!“หึ...น่ารัก”
ปิ่นหยกทำหน้าเหวอ... เสียง
‘หึ’ เมื่อกี้ของไอ้คุณชายฟังดูโรคจิตจนเขาขนลุก หลังจากนั้นจึงรู้สึกตัวว่าความคิดจะขนลุกกับแค่เสียงหัวเราะประหลาดความยาวหนึ่งพยางค์นั้นมันยังเร็วไปเมื่ออีกฝ่ายซุกจมูกเข้าโด่ง ๆ นั่นเข้าหาฝ่ามือของเขา
“เฮ่ย ๆ ๆ!!!”ไม่เคลิ้มนะ...ไม่ ๆ ๆ...ถึงจะเอาจมูกมาซุกมือเขาก็ไม่รู้สึกอะไรเลย หรือต่อให้เอาปากตามมาแนบที่ข้อมือแบบนี้ด้วยก็ไม่รู้สึก........ไม่ต้องมาทำเป็นพรมจูบไล่มาถึงแผลเป็นที่แขนด้วย.......ไม่เห็นจะสะดุ้งสะเทือนอะไรสักนิด ……..ถ...ถึงต่อให้.........ลากลิ้น..............ลิ้น...........เดี๋ยวสิ.....ลิ้น!?
“เลียทำไมวะเฮ่ย!!!!!!”เขาเด้งผลุงขึ้นจากเตียงเหมือนมีสปริงติดอยู่ที่หลัง
“อี๋!!!...อ..ไอ้ลูกเจี๊ยบซกมก!!!” เขาจะติดไข้หวัดนกจากน้ำลายสัตว์ปีกอย่างมันไหม ก้มลงไปมองที่ข้อมือยังมีของเหลวแฉะ ๆ ติดอยู่ ให้เช็ดกับเสื้อตัวเองก็ขนพองสยองเกล้าเกินไปถึงเสื้อจะเก่าแล้วก็เถอะ สุดท้ายเลยตัดสินใจเอาไปถูไถกับเสื้อไอ้ตัวต้นเรื่องแทน
“เอาคืนไปให้หมดเลยเวรเอ๊ย! ถ้าเป็นน้ำลายนกนางแอ่นเอาไปทำรังนกขายจะไม่ว่าสักคำ!!”
อาทิตย์หัวเราะขณะที่ยังนั่งนิ่งให้อีกฝ่ายเอาแขนเช็ดถูจนสาแก่ใจ เขาแค่ตั้งใจจะแกล้งเล่นหน่อยเดียวเท่านั้นเอง แต่สีหน้าท่าทางปิ่นหยกมันชวนให้หยุดอยู่แค่นั้นเสียที่ไหน
“แกแมร่งวิปริต หมดอารมณ์กลิ้งเล่นเลย!” อีกฝ่ายบ่นทิ้งท้ายก่อนจะหยุดเอาแขนถูกับเสื้อเขาแล้วหันหลังเดินไปทางประตูพร้อมกับถอดเสื้อเชิ้ตตัวนอกออก โยนไว้บนโต๊ะเหลือแต่เสื้อกล้ามที่สวมไว้ข้างในก่อนจะเผ่นแผล็วออกจากห้องไป
เขาเดินตามออกมาก็เห็นคิมและแวววันนั่งแยกเขี้ยวใส่กันบนโซฟาห้องนั่งเล่นรออยู่แล้ว
“ไอ้ปิ่นนนนน!!!!” พอเห็นหน้าเพื่อนปุ๊บคิมก็กระโจนเข้าใส่ทันที “กว่าจะออกมาได้นะ”
ปิ่นหยกหันไปส่งสายตาอาฆาตเงียบ ๆ ทั้งที่ยังโดนเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดกอดคอแน่น
‘ช้าเพราะเมิงทรยศไม่ยอมมานอนห้องเดียวกะกรูดี ๆ นี่แหละ’คิมปรายตามองอาทิตย์ที่ดูจะขยับตัวยุกยิกอยู่ไม่สุขเพียงอึดใจก่อนจะเดินตรงเข้ามาเอามือแยกเขาออกจากคนที่กำลังกอดคออยู่ด้วยสีหน้านิ่ง ๆ โดยไม่พูดไม่จาอะไรสักคำ เขาทำเป็นอิดออดอยู่ครู่หนึ่งจึงยอมถอยออกมายืนกอดอกมองเหตุการณ์ตรงหน้า สายตาจับจ้องภาพเพื่อนร่างสูงเบียดตัวเข้าใกล้ปิ่นหยกแล้วเอาแขนพาดไว้ที่ไหล่เพื่อนรักของเขาอย่างถือวิสาสะ
คิมหรี่ตา มุมปากข้างซ้ายขยับขึ้นเพียงไม่กี่องศา...แต่สำหรับเขาแล้วนั่นก็นับเป็นอีกรูปแบบหนึ่งของการยิ้มพึงพอใจ
สมมติฐานแรก....ยืนยัน“นั่นรอยอะไร”
“หา??”
แทนคำตอบ... เด็กหนุ่มผมทองชี้ไปที่รอยแดงเป็นจ้ำที่ต้นคออีกฝ่าย ปิ่นหยกมองตามนิ้วนั้นแบบงง ๆ แต่เมื่อนึกได้ว่าคิมหมายถึงอะไรก็รู้สึกอยากจะงัดพื้นบ้านนี้ขึ้นมาแล้วมุดหายไปให้ถึงแกนโลกเลย ซวยแล้ว รอยลูกเจี๊ยบจิกเมื่อวานนี้... เขาพลาดเองที่ถอดเสื้อเชิ้ตตัวนอกออก แต่ใครจะบ้าใส่เสื้อมีปกวิ่งลงทะเลกันวะ ถ้าจะโทษก็ต้องโทษไอ้หน้ามึนข้าง ๆ นี่แหละ!
“...เอ่อ...ร...รอย..”
อาทิตย์ยื่นหน้าเข้ามาในบทสนทนาแล้วเอ่ยแทรก “รอยจู--!”
“ยุงกัด!!!!!!!” เขาตะโกนลั่นบ้านพร้อมเอาหลังมือฟาดปากมันไปหนึ่งทีโทษฐานทำตัวเป็นเด็กดีไม่พูดโกหกผิดเวล่ำเวลา
คิมพยักหน้าน้อย ๆ พร้อมกับเลิกคิ้ว เขาก็คิดไว้อยู่แล้วว่าคงจะได้คำตอบประมาณนี้ แค่อยากเห็นปฏิกิริยาอะไรนิดหน่อย แล้วก็เป็นเรื่องดีที่ได้เห็นสมใจ..
“หนุ่มน้อยไปเล่นน้ำกะเจ้ป้ะ!!” แวววันโยนลูกบอลที่เธอเพิ่งเป่าลมเสร็จไปมาในห้อง ขัดจังหวะการทดสอบสมมติฐานที่สอง...สาม....สี่....และอื่น ๆ ของเขา แต่ช่างเถอะ เวลามีเยอะแยะ
“ใช่ ๆ เล่นน้ำ ฮ่า ๆ ๆ ๆ มาทะเลต้องเล่นน้ำดิ!”
เมื่อเห็นแสงที่ทางรอดสว่างรำไร ปิ่นหยกก็พร้อมสนับสนุนเต็มที่ ยังไงก็ได้ขอหนีออกจากคำถามแปลก ๆ ของคิมไปก่อน
“ว่าแต่ไหนอุ่นล่ะ?”
“ไปคุยโทรศัพท์แถว ๆ ริมหาดนู่นแหละ”
“แล้วพี่เอม?”
“สงสัยยังหลับอยู่”
ปิ่นหยกหันมองซ้ายขวามองหาอีกคนที่ไม่ได้อยู่ตรงนั้น “กริช?”
พูดถึงหมี หมีก็มาส่วนที่ทำให้การมาของพี่หมีอลังการยิ่งขึ้นไปอีกคือเจ้าตัวมาพร้อมกับรอยบวมปูดบนแก้มขวา...เรียกให้สายตาทุกคู่มุ่งเป้าไปยังตำแหน่งดังกล่าวด้วยความสงสัย
“มองอะไร!?” ร่างสูงใหญ่เกินอายุทำตาขวางอย่างไม่เฉพาะเจาะจงต่อบุคคลใด
และนั่นเป็นเรื่องไม่น่าถามที่สุดในกาแลคซีทางช้างเผือกเลย
“มองรอยปูด ๆ บนหน้านาย” แต่ก็ยังมีคนบ้าพอจะตอบ.. เสียงนั้นดังมาจากหญิงสาวหนึ่งเดียวในกลุ่ม
รอยบวมอย่างกับเพิ่งไปต่อยกับใครมาบนหน้ากริชซึ่งเพิ่งจะเดินออกมาจากห้องนอนที่แชร์กับเอมจิตทำให้เธอรู้สึกหวั่นอยู่ลึก ๆ และลางสังหรณ์ของผู้หญิงก็ค่อนข้างไว้ใจได้ทีเดียว “ไม่ได้มีเรื่องอะไรกันใช่ไหม”
กริชยักไหล่ “แค่ยุงกัด”
“ยุงทะเลมันคงเยอะนะ กัดทั้งไอ้ปิ่นทั้งไอ้กริช”
เสียงคิมพูดแทรก แล้วก็ได้รับสายตาพยาบาทสองคู่ของผู้ถูกพาดพิงแทนคำขอบคุณ
.....................................................................
..............................................
ทั้งที่ท้องฟ้าออกจะเจิดจ้า แต่บรรยากาศริมทะเลวันนี้ช่างทะมึนนัก...ความทะมึนลึกลับดูจะทวีความรุนแรงเมื่อแก๊งลูกจ้างร้านเค้กบวกคิมไปด้วยอีกคนจับกลุ่มเล่นวอลเลย์บอลชายหาดกัน แต่บอลดันหลุดจากมือใครสักคน(ซึ่งไม่มีใครยอมรับ)พุ่งเข้ากระแทกแก้มข้างขวาของกริชซึ่งนั่งกระดกเบียร์กระป๋องอยู่ริมหาด อัดซ้ำเข้าที่รอยบวมช้ำจากยุงลึกลับด้วยความแม่นยำสูงราวกับติดนำวิถี....
กระป๋องเบียร์กระเด็นหลุน ๆ หลุดมือเด็กหนุ่มร่างใหญ่แล้วกลิ้งไปกับพื้นทราย ฟองเบียร์ไหลลงผสมกับฟองคลื่นกระทบฝั่ง และอุณหภูมิเลือดของทุกคน ณ ที่นั้นก็เข้าใกล้จุดเยือกแข็งในบัดดล
ยกเว้นอุณหภูมิเลือดหมีกริชที่ดูจะทะลุจุดเดือด..............................................................
................................................
ศึกวอลเลย์บอลชายหาดหลังจากนั้นทำพวกเขาแทบเอาชีวิตไม่รอด..
ขนาดกริชต่อให้ด้วยการไล่คนอื่นไปอยู่ทีมตรงข้ามทั้งหมด ตั้งแต่อาทิตย์ ปิ่นหยก คิม ส่วนแวววันขอตัวไปเป็นกรรมการด้วยการใช้สิทธิ์ความเป็นหญิงสาวที่เธออ้างว่า จะให้เอาหน้าไปรับลูกบอลของกริชนั้นคงเกินความสามารถของอิสตรีบอบบาง(ที่คิมเถียงว่าไม่จริง)อย่างเธอ
ศึกสามรุมหนึ่ง...หรือเรียกให้ถูกคงเป็นหนึ่งถล่มสามดำเนินไปอย่างทุลักทุเล ไม่มีการเปลี่ยนตัว ไม่มีขอเวลานอก ไม่มีสแตนด์อิน(เพราะพี่หมีไม่อนุญาต) แวววันยืนนับคะแนนอยู่ห่าง ๆ อย่างห่วง ๆ ถ้าเป็นไปได้เธอก็อยากจะขอหมวกกันน็อคมาสวมไว้ป้องการการบาดเจ็บที่ศีรษะในกรณีฉุกเฉิน
กริชจะเทพไปแล้ว ทั้งเซ็ตทั้งตบอยู่คนเดียวแบบนี้ทั้งที่ความจริงฝีมืออีกทีมก็ใช่ว่าจะแย่ ตอนเล่นกันเองนั้นถือว่าเยี่ยมเลยด้วยซ้ำ เห็นแบบนี้ถึงแม้เด็กหนุ่มตรงหน้าจะตรงสเปกเธออย่างไรแต่หนุ่มล่ำในแผ่นดินไทยคงไม่ไร้เท่าใบพุทรา หาเอาใหม่น่าจะเข้าท่ากว่าจีบไอ้เด็กโหดนี่เป็นไหน ๆ
....เกมดำเนินไปอย่างน่าเวทนา... กินเวลานานเหมือนชั่วกัปชั่วกัลป์เสียงเป่านกหวีดจบเกมประหนึ่งเสียงระฆังสวรรค์ สิ้นเสียงนกหวีดยาวเหยียด ปิ่นหยกก็ถึงกับลงไปนอนแผ่หราบนผืนทรายกลางแดดรำไรยามบ่ายคล้อย
“แกไม่ใช่คนแล้วไอ้กริช แมร่งตบเอา ๆ! พ่อแม่ผลิตมาติดทีมชาติรึไงวะ”
อาทิตย์และคิมไม่สามารถจะเห็นด้วยมากไปกว่านี้อีกแล้ว ผู้แพ้ทั้งสามไม่มีใครห่วงสกอร์มากกว่าชีวิตตัวเอง ในเมื่อตอนท้ายของเกมแทนที่จะวิ่งรับบอลกลับกลายเป็นทุกคนวิ่งหลบบอลที่ถูกฟาดลงมากันหมด
“อ่อนฉิบหาย!” กริชหัวเราะ
ปิ่นหยกมองตามตาค้าง....ท่านเทพแห่งเงินตราครับ...มันหัวเราะว่ะ! หลังจากปล่อยพลังใส่พวกเขาจนอารมณ์ดีแล้วสินะ! โอ้กีฬา(ถ้าพวกเขายังเรียกการละเล่นโหดร้ายนั่นว่าเป็นกีฬาได้อยู่)เป็นยาวิเศษช่วยปลดปล่อยพลังบ้าของมันได้อย่างไม่น่าเชื่อ บรรยากาศตอนนี้ดูผ่อนคลายลงผิดจากตอนกระป๋องเบียร์หลุดมือหมอนั่นหลังโดนลูกวอลเลย์บอลอัดหน้าเป็นกอง
ลูกกลม ๆ ซึ่งถูกใช้เป็นอาวุธสงครามของพี่หมีตลอดเกมถูกโยนตามลงมา ถือว่ามันยังมีความเป็นมนุษย์อยู่บ้างเพราะความแรงที่พุ่งเข้ามานั้นไม่สูงมาก อย่างน้อยเขาก็พอจะกลิ้งหลบได้ทันแม้สภาพจะดูไม่เท่นัก... บอลตกลงบนพื้นทรายแล้วกลิ้งกลุก ๆ ไปชนร่างอาทิตย์ที่ทำตัวเป็นศพริมทะเลไปแล้ว
“โคตรหิวเลย...หมดแรงจะกระดิก..”
คิมโอดครวญเสียงอ่อนระโหย... นั่นทำให้คนที่เหลือรู้สึกตัวว่านี่มันใกล้จะถึงเวลามื้อเย็นเต็มแก่ มีกระทั่งเสียงท้องร้องของใครสักคนดังสนับสนุนอย่างเป็นทางการ
“นี่จะต้องมาตายริมทะเลให้ปูเสฉวนแทะซากเหรอวะ ไอ้กริช ไอ้ฆาตรกร กรูยังไม่อยากเป็นผีทะเล”
ปิ่นหยกเหลือบมองเพื่อนรักอย่างสังเวช.. มันยังจะมีแก่ใจเล่นมุกปัญญาอ่อน
“หิวกันรึยัง”ถ้าเสียงนกหวีดหมดเวลาจากเกมเมื่อครู่เป็นเหมือนระฆังสวรรค์ เสียงนี้ก็อาจจะเป็นระฆังสวรรค์ที่ดังผ่านเครื่องขยายเสียงทุกคนแทบจะหวีดร้องออกมาพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย
“พี่เอ๊มมมมมมมมมม!!!!!” ยิ่งเห็นเตาปิ้งย่างขนาดใหญ่กับกระบะใส่กุ้ง หอย หมึก ปู สด ๆ พร้อมถังน้ำแข็งและเครื่องดื่มเต็มอัตราศึกตั้งอยู่ไม่ห่างยิ่งทำเอาพยาธิในท้องดิ้นเร่า ๆ ด้วยความบันเทิงเริงใจ พลังชีวิตที่เหือดแห้งไปเหมือนจะไหลเข้าร่างอย่างน้อยก็พอให้มีแรงลุกแล้วกระเสือกกระสนไปยังแหล่งอาหาร
“ผมมาช้าไปหน่อยแฮะ” อุ่นใจที่เพิ่งเดินตามมาเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋าแล้วหยิบลูกวอลเลย์บอลบนพื้นมาปั่นบนนิ้วชี้
“อดเล่นด้วยเลย เสียดายเป็นบ้า”
ณ จุดนี้ สามชีวิตที่เพิ่งผ่านศึกหนักรู้สึกอิจฉาอุ่นใจเป็นที่สุดTo be continued…======================================
คุยกันท้ายเรื่องหมีโหดขี้แหลก็มีมุมน่ารัก(?)นิดนึงเหมือนกัน 5555
แต่เนื่องจากไม่ใช่คู่หลักของภาคนี้ เพราะงั้นจึงยังไม่โฟกัสไปที่ความสัมพันธ์ของหมีกับพี่เอมนะคะ อย่างที่บอก ถ้าเขียนพร้อมกันแล้วเราอาจจะลำเอียงรักคู่โน้นคู่นี้มากกว่า เอาทีละคู่ละกัน (ฮา)
วันนี้มาบอกว่ามีทวิตเตอร์ของเรื่องนี้แล้วล่ะค่ะ http://www.twitter.com/RAINYsFICTION
เอาไว้เอาไว้อัพเดท เวิ่น เพ้อ ฯลฯ เกี่ยวกับนิยายเรื่องนี้อย่างเดียวเลยค่ะ เพราะที่จริงเรามีทวิตหลักของตัวเองอยู่ แต่จะเอามาฟลัดเรื่องนิยายก็เกรงใจคนใน Timeline เลยทำใหม่ไว้เลย
ในที่นี้เล่นทวิตเตอร์กันรึเปล่าคะ มาฟอลกันเดี๋ยวตามไปฟอลกลับค่ะ แฮ่ ๆ ^o^
========================================
อีกนิดก่อนจาก (Reply เดียวล่อซะคุ้ม) หลังจากที่มาได้ถึง 18 ตอนแล้ว
อยากรบกวนถามนิดนึงค่ะ ว่าชอบใครในเรื่องบ้าง อยากเก็บไว้เป็นข้อมูลพัฒนาตัวละคร ขอ 3 คน เรียงตามลำดับ 1, 2, 3 ตั้งแต่ตัวละครหลักยันตัวประกอบเลยค่ะ XD
ไม่ได้ลองใช้โพลเพราะว่าอยากรู้แบบ 3 ลำดับนี่เอง
แปะรูปตัวละครช่วยในการตัดสินใจ (ช่วยไหม...ฮา) เฉพาะคนที่มีรูปค่ะ พอดีว่าวาดไม่ครบ เอิ๊ก
ปิ่นหยก(ซ้าย) อาทิตย์ (ขวา)

พี่เอม

น้องอุ่น

พี่หมอ(ชื่อจริงชื่อธาราค่ะ ชื่อเล่นชื่อไอซ์)

คิม กิมจิ

หมีกริช (ติดหน้าพี่เอมมาหน่อยนึง)

อันนา(พี่สาวอาทิตย์)

พี่แวว ที่ยังหาแฟนไม่ได้สักที 555

โหวตคนที่ไม่มีรูปก็ได้นะคะ อย่างคุณอานนท์เงี้ย //ไม่ได้ชี้นำนะ

โหวตแล้วทำอะไร... ไม่รู้เหมือนกันค่ะ อาจจะเอาไปวาดรูป (ฮาา)
ปล. อยากเป็นแววนะคะ ทริปนี้คงเปรมมากกก...ก...
อยากเป็นเหมือนกันค่ะ ได้ไปเที่ยวกับหนุ่ม ๆ(ที่มีคู่แล้ว?)เป็นพรวน ฮา
ขอรีเควสคู่คุณพ่อน้องอาทิตย์กับน้องคิมกิมจิดอง คร่าาาา!!!!
โครม!!! (ซาวน์เอฟเฟกต์คนแต่งตกเก้าอี้ !!!!) มันมาได้ไง??? แกเอาอะไรจิ้นนนนนน ห๊าาาา??!!
เค้าแค่คิดว่าถ้าคู่นี้มันมาคู่กันได้ต้องเป็นอะไรที่มึนและฮาสุดยอดจะบรรยายเท่านั้นเอ๊ง!!! กร๊าก
*ตกเก้าอี้จริง ๆ* 55555 //สารภาพว่าไม่ได้คิดคู่นี้ในหัวเลยค่ะ (ฮาาา) แต่ถ้าอยากอ่านอาจจะทำเป็นพิเศษที่ไม่ใช่เนื้อเรื่องหลัก (อารมณ์แบบแฟนฟิกของเรื่องนี้)พูดถึงเหตุการณ์ที่ไม่ได้เกิดขึ้นจริงในเรื่อง ประมาณนั้นค่ะ คงพอไหว 555 เพราะว่าไม่งั้นเดี๋ยวพล็อตเปลี่ยน

อยากหาคนมาปราบคิมจัง คนที่มีสายตากว้างไกล(เสะตาโตๆ)
สะดุดกึกตรงคำนี้... แล้วก็รู้สึกคล้อยตามอย่างประหลาดจนอยากหาเสะตาโต ๆ(?)มาอีกซักคนเลยค่ะ 555
ขอบคุณมาก ๆ ทุกคอมเม้นต์ค่าาาาา >3<
แล้วพบกันตอนหน้านะคะ ^^