Dormitory Boys – สะดุดรัก หอพักอลเวง“รัก...ติดดิน”
CHAPTER 20 – กรุณารับผิดชอบด้วยครับ
นี่ไม่ใช่สิ่งที่เขาคิดว่าจะได้รับรู้หลังจากตื่นขึ้นมาด้วยอาการผะอืดผะอมแบบนี้เลย
แสงแดดสาดส่องผ่านรอยแยกของผ้าม่าน เสียงคลื่นกระทบหาดดังแว่วมาไกล ๆ เครื่องเรือนและสิ่งของในห้องคงสภาพเหมือนกับเมื่อวานนี้เกือบทุกอย่าง
บนเตียงสี่เสาขาวสะอาดที่ตั้งเด่นอยู่กลางพื้นที่ว่าง... เขานอนร่วมเตียงใต้ผ้าห่มผืนเดียวกับเพื่อนคุณชายร่างสูงซึ่งยังหลับเป็นตาย แต่นั่นไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดอะไรแม้เขาจะไม่ชอบใจนักเพราะปกติอยู่ที่หออีกฝ่ายก็เสนอหน้ามานอนด้วยจนชินเสียแล้ว เพียงแต่วันนี้มีบางอย่างผิดแผกไปจากเดิม
เสื้อผ้าหายไปไหน?จิตใต้สำนึกลึกสุดใจของปิ่นหยกอยากกรีดร้องออกมาให้ดังไปถึงอีกชายฝั่งของทะเล แต่ในความเป็นจริงร่างกายกลับแข็งทื่อไม่ยอมขยับ แม้แต่หายใจยังไม่กล้าส่งเสียงดัง... ถ้าเขาขยับแล้วมันตื่น...? ถ้าเขาหายใจเสียงดังแล้วมันตื่น....? ถ้าเขาบลา ๆ ๆ แล้วมันตื่น........?
จะเอาหน้าไปมุดไว้ที่ไหนวะ!? ที่แย่คือเขาจำเหตุการณ์เมื่อคืนนี้ไม่ได้เลย ความทรงจำสุดท้ายค้างเติ่งอยู่แถวชายทะเลช่วงที่คิมแหกปากครวญเพลงที่หกหรือเจ็ด... ส่วนเรื่องหลังจากนั้นถูกซัดหายไปกับฟองคลื่นไหลลงอ่าวไทยเรียบร้อยแล้ว เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากลับมาถึงบ้านได้อย่างไร
เด็กหนุ่มหันไปมองข้างกาย ผ้าห่มผืนเดียวกับที่คลุมร่างเปลือยเปล่าของเขาตอนนี้พาดผ่านผิวขาวจัดของร่างสูงซึ่งหลับพริ้มอยู่แค่ระดับเอว แผ่นอกแน่นไร้อาภรณ์ปกปิดกระเพื่อมขึ้นลงสม่ำเสมอตามจังหวะการหายใจ และเขาไม่กล้าพอจะเลิกผืนผ้าดูท่อนล่างของอีกฝ่ายว่าได้ใส่อะไรเอาไว้บ้างหรือเปล่า
สมองมีแต่เรื่องเลวร้ายที่หลอนไปเองฉายขึ้นมาเป็นฉาก ๆ นอนเปลือยกันสองคนแบบนี้สิ่งที่แย่น้อยที่สุดในความเป็นไปได้ต่าง ๆ อาจจะเป็นเมื่อคืนนี้พวกเขาเต้นระบำเปลื้องผ้าจนเหนื่อยเลยหลับไป ซึ่งนั่นไม่ช่วยให้รู้สึกดีขึ้นสักนิด แต่สำหรับสถานการณ์เลวร้ายที่สุด.......
คงไม่ใช่ว่ามีใครเสียตัวไปแล้วใช่ไหม?ในความเงียบงัน... อาทิตย์พลิกตัวแล้วส่งเสียงครางอืออาในลำคอ ซึ่งนั่นเพียงพอแล้วที่จะทำให้เขาสะดุ้งเฮือก หัวใจร่วงผล็อยไปกลิ้งเล่นอยู่แถวนิ้วก้อยเท้า
กรูยังไม่พร้อม สมองยังประมวลผลไม่เสร็จ....เมิงอย่าเพิ่งตื่นขึ้นมาเชียวนะ! เย็นไว้ไอ้ปิ่น... มันอาจจะไม่ได้มีอะไรน่ากลัวก็ได้ ผู้ชายแก้ผ้านอนเรื่องธรรมดาออกจะตาย
เขาลอบมองคนข้าง ๆ อีกครั้งด้วยอาการวิตกจริต
เอ่อ.....ถึงจะแก้ผ้าสองคน....บนเตียงเดียวกัน......อืม....ใต้ผ้าห่มเดียวกัน ก็....เรื่องธรรมดา...แล้วถ้าหากว่าบังเอิญ.......สมมติ แค่สมมติเท่านั้น.... ว่ามีใครเสียท่าไปแล้วจริง ๆ.....
ปิ่นหยกลองขยับสะโพก
....ไม่เจ็บ.....อย่างน้อยก็ไม่ใช่กรูล่ะวะ!เด็กหนุ่มถัดตัวออกมาอย่างระมัดระวังที่จะไม่ทำเตียงยวบยาบจนอีกฝ่ายตื่น บนพื้นตรงปลายเตียงนั่น...เขาเห็นแล้ว เสื้อกล้าม กางเกงขาสั้น...แม้กระทั่งกางเกงลิงตัวเก่งของเขากองกระจุกอยู่ น่าอายจนถึงกับต้องสบถออกมาอย่างเหลืออดด้วยเสียงกระซิบทั้งใบหน้าร้อนฉ่า “บ้าฉิบหาย!”
อีกนิดเดียวก็จะขยับไปถึงปลายเตียง จากนั้นเขาก็จะคว้าเสื้อผ้าบนพื้นวิ่งเข้าห้องน้ำแต่งตัวให้เรียบร้อยแล้วเตรียมปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ไอ้คนที่นอนสบายใจเฉิบอยู่ตรงนี้ไม่มีทางรู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นเหมือนกับที่เขาก็ไม่รู้ และถ้าอาทิตย์เกิดจำอะไรได้ขึ้นมาเขาก็จะยืนยันแบบหน้าด้าน ๆ ว่าความทรงจำของคนเมามันเชื่อถือได้ที่ไหนกัน
แผนเยี่ยม...ท่านปิ่นเมพที่สุด!
“...ฮึบ....!”
เขายังไม่กล้าออกจากผ้าห่ม แต่จะดึงผ้านั่นติดมือมาด้วยตอนที่ออกมาก็กลัวจะเห็นอะไร ๆ ท่อนล่างของอีกฝ่ายเพราะใช้ผ้าผืนเดียวกัน จึงได้แต่พยายามเอื้อมมือไปคว้าชุดของตัวเองบนพื้นทั้งที่ยังไม่ยอมลงจากเตียง
อีกนิดเดียว....เฉี่ยวโดนปลายนิ้วแล้วเมื่อกี้.....อีกทีหนึ่งก็คง.....
“อรุณสวัสดิ์”โครม!!!หล่นจากเตียงด้วยสภาพล่อนจ้อนมันโคตรจะไม่เท่เลย!อาทิตย์ชะโงกหน้าตามมาดู และเขาส่งเสียงโหยหวนเป็นผีถูกข้าวสารเสก
“อร๊ากกกกกกกกกกกก!!!! ไม่ต้องเสนอหน้า อย่ามองนะเว้ย!!!!”แล้วผ้าห่มที่พาดอยู่ล่อแหลมบนเอวท่านชายก็ถูกเขากระชากพรวดเดียวแบบไร้สติยั้งคิดมาบังตัวเองและน้องชายสุดที่รักเอาไว้ก่อน ไม่ทันได้นึกถึงความกลัวในคราวแรกที่ไม่กล้าดึงผ้าออกมาเพราะกลัวว่าท่อนล่างอีกฝ่ายจะไม่ได้สวมอะไรไว้เลยเหมือนกัน แต่ ณ จุดนี้ช่างหัวมันแล้ว ต่อให้เจ้านั่นเปลือยอยู่จริงแต่ถ้าเขาหลับตาปี๋แบบนี้ก็ไม่ต้องเห็นอะไรไม่ใช่หรือไง
“นายต้องตอบกลับมาว่าอรุณสวัสดิ์สิ”
เสียงผ้าเสียดสีกับผิวเนื้อดังสวบสาบ อาทิตย์คงขยับตัวทำอะไรสักอย่างอยู่บนเตียงแต่เขาไม่คิดจะหาคำตอบ มือกระชับผ้าห่มห่อขึ้นมาชิดถึงคอแล้วหันไปควานหาเสื้อผ้า จะอรุณสวัสดิ์ปัญญานิ่มอะไรก็ช่างแต่ขอแต่งตัวก่อนแล้วค่อยคุย
“ปิ่นหยก” อาทิตย์ส่งเสียงกลั้วหัวเราะเมื่อเห็นร่างที่ห่อตัวอยู่ในผ้าผืนใหญ่กำลังปิดตาแน่นพร้อมกับเอามือควานเปะปะอยู่บนพื้น “ทำอะไรน่ะ”
“เฮ่ย!!!”อย่างน้อยมันควรจะรอให้เขาตอบก่อนค่อยกระทำการอุกอาจด้วยการรวบตัวเขาแล้วยกลอยหวือกลับขึ้นมาอยู่บนเตียงโดยที่ยังคงสภาพมีผ้าห่มสีขาวพันรอบตัวเป็นก๋วยเตี๋ยวหลอดแบบนี้ เขาเผลอลืมตาตอนที่โดนอุ้ม และพบว่าไม่น่าเลย
โอย...หน้ามืด ไอ้ลูกเจี๊ยบนี่จะขาวไปไหน...
ผิวเนื้อละเอียดซึ่งควรจะอยู่ใต้ร่มผ้าพอเจอแดดอ่อน ๆ ตอนเช้าแบบนี้ดูราวกับจะเปล่งแสงได้ มัดกล้ามเนื้อได้รูปเรียงแน่นอยู่บริเวณแผงอกไปจนถึงหน้าท้องและเขาพยายามไม่มองต่ำลงไปกว่านั้น เห็นแค่ขอบกางเกงบ๊อกเซอร์ที่เกาะอยู่ตรงเอวก็ใจชื้นขึ้นมานิดหน่อยว่าท่านชายไม่ได้โป๊เปลือยอยู่ รู้อย่างนี้ดึงผ้าห่มหนีมาตั้งแต่แรกก็ดีหรอก!
“ซิกซ์แพคสวยปะ”
“อยู่ ๆ ถามทำไม!?”
อาทิตย์อมยิ้มกรุ้มกริ่ม “ก็เห็นจ้องอยู่”
เขาไม่เคยนึกอยากจกลูกตาตัวเองทิ้งเท่านี้มาก่อนเลยเด็กหนุ่มร่างสูงเอาแขนรวบส่วนคอดซึ่งน่าจะเป็นเอวของคนที่กำลังประพฤติตัวเป็นก๋วยเตี๋ยวหลอดเข้ามาใกล้ ก่อนจะโฉบเบา ๆ ขโมยจูบบนริมฝีปากในเวลาชั่วพริบตา
“มอร์นิ่งคิสครับผม”
ปิ่นหยกรู้สึกหน้ามืดตาลายคล้ายจะเป็นลม... นี่มันชักเกินขีดความสามารถของเขาในการรับมือเข้าไปทุกที
“เมื่อคืนนายทำฉันตกใจแทบแย่”
จูบรับอรุณแล้วตามด้วยประโยคเมื่อครู่ มันยิ่งจะทำให้คิดไปไกลว่าตอนเมาเมื่อคืนเขาเผลอปล้ำไอ้ลูกเจี๊ยบวิปริตนี่ไปแล้วหรืออย่างไร ตื่นมาบรรยากาศมันถึงได้น่าขนลุกจนร้อน ๆ หนาว ๆ ไปหมดทั้งตัวแบบนี้
“....ฉัน....ทำอะไร?”
“จำไม่ได้เหรอ”
“ไม่ได้”
เขาอยากจะตบปากตัวเองนัก ไหนล่ะแผนที่กะทำเนียนยืนยันว่าไม่ได้เกิดอะไรขึ้นแล้วตราหน้าอีกฝ่ายที่อาจจะจำอะไรได้ว่าเป็นแค่ความทรงจำของคนเมา ทีนี้เป็นไง...ดันหลุดปากไปแล้วว่าจำไม่ได้ ควายปิ่นเอ๊ย!
อาทิตย์เลิกคิ้ว “จำไม่ได้เลยเหรอ ทั้งที่เมื่อคืนออกจะ...”
“ออกจะ...?”
ปากหนอปาก...
เผลอทวนคำไปแล้ว ส่วนลึกในใจก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าอยากรู้ แต่ก็ห้ามความกลัวไม่ไหวเลยจริง ๆ
“เซ็กซี่”
โกหกคำโตทีเดียว
ความจริงปิ่นหยกที่เมาแอ๋แล้วแหกปากร้องไห้มันช่างหาความเซ็กซี่ไม่มี“...ห...ห๊ะ!?”
“แล้วก็เร้าใจมาก”
“................ว่าไงนะ.....”
ร่างโปร่งเอ่ยเสียงแหบแห้ง และในความเห็นของอาทิตย์แล้ว.. ใบหน้าและลำคอแดง ๆ ที่โผล่พ้นผ้าห่มออกมาแบบตอนนี้สิเซ็กซี่กว่าเยอะ ถึงจุดนี้เขารู้สึกตัวเองกำลังสนุกสนานกับการโกหกมาไกลจนเกินจะหันหลังกลับแล้ว
“ได้แล้วต้องรับผิดชอบ รู้ไหม”
ปิ่นหยกแทบหงายหลังหล่นเตียง แต่โชคดี... หรือจะเรียกว่าโชคร้ายเพราะตกเตียงอาจฟังดูดีกว่าถูกอาทิตย์ดึงเอาไว้ก่อนจะร่วงลงไปแล้วก้มมากระซิบแผ่วเบาน้ำเสียงออดอ้อนที่ข้างหูเป็นไหน ๆ
“คงไม่ใช่พวกชอบฟันแล้วทิ้งนะครับ?”
นรกแล้ว...ถึงจะเป็นหนึ่งในสถานการณ์เลวร้ายที่คาดการณ์ไว้ในหัว แต่พอมาได้ยินว่าเกิดขึ้นจริง ๆ แล้วแขนขาก็เกิดจะหมดแรงขึ้นมาเสียอย่างนั้น ไอ้เทพแห่งเงินตราเฮงซวย! บอกหลายรอบแล้วไงว่าไม่เอาเมียเป็นผู้ชาย!!
อาทิตย์กรีดยิ้ม... ปิ่นหยกจำเรื่องเมื่อคืนไม่ได้เลยจริง ๆ
ไม่อย่างนั้นคงรู้ตัวนานแล้วว่ากำลังโดนหลอกฟันแล้วทิ้งอะไรนั่นเขากุขึ้นเองทั้งเพ ความจริงน่าขำมีแค่ปิ่นหยกเมาแล้วร้องไห้ไม่หยุด ขุดเรื่องอะไรต่อมิอะไรตั้งแต่แมลงสาบยันเครื่องบินรบสหรัฐฯมานั่งคร่ำครวญ สิ่งที่ทำให้เขาตกใจจริง ๆ คือตอนที่อีกฝ่ายกรีดร้องพร้อมกับกระเสือกกระสนหนีจากอะไรสักอย่างที่เขาไม่อาจเข้าถึงต่างหาก
...มันอาจเป็นอดีต หรือเป็นแค่ฝันร้ายภาพหลอนของคนที่กำลังเมามาย แต่เขาไม่มีทางรู้ได้เลย
นึกอยากจะถามตั้งแต่เมื่อครู่นี้ แต่หลังจากประเมินแล้วว่าคงไม่ได้คำตอบจากเจ้าตัว และหากมันเป็นเรื่องเลวร้ายเจ็บปวดถึงขนาดทำให้มีอาการทางกายภาพออกมาขนาดนั้นเขาก็ไม่อยากคาดคั้นให้เสียบรรยากาศจึงเฉไฉมาเป็นเรื่องอื่นที่น่าสนุกกว่า
ส่วนเรื่องที่ว่าทำไมถึงอยู่ในสภาพเปลือยเปล่า...นั่นก็เพราะปิ่นหยกทำตัวเองทั้งนั้น
เมื่อคืนหลังจากปล่อยให้นั่งหลั่งน้ำตาจนสาแก่ใจ เขาก็ไล่อีกฝ่ายไปอาบน้ำ ภาษาอาจจะเถื่อนถ่อยไปหน่อยซึ่งยอมรับก็ได้ว่าเขาเมาพอสมควร แต่พอร่างโปร่งเดินออกมาหลังจากอาบน้ำไปร้องไห้ไปอยู่พักใหญ่ แทนที่จะแต่งตัวให้เรียบร้อยกลับลงไปนอนซุกใต้ผ้าห่มทั้งอย่างนั้น ปลุกขึ้นมาก็คร่ำครวญจนน่ากัดให้ปากฉีก สุดท้ายจึงตัดสินใจปล่อยเลยตามเลย หากไม่ติดเรื่องอาการผิดปกติของปิ่นหยกที่เขาเพิ่งเป็นประจักษ์พยานมาสด ๆ ร้อน ๆ ก่อนหน้านั้น... การนอนร่วมเตียงทั้งที่อีกฝ่ายไม่มีเสื้อผ้าติดตัวสักชิ้นเรื่องอาจไม่จบอยู่แค่ลงไปนอนข้างกันเฉย ๆ ก็เป็นได้
“....ขอโทษ” เสียงอ่อนระโหยโรยแรงของปิ่นหยกแทรกแซงความคิดอกุศลทั้งหลายของเขาให้หยุดชะงัก
“หืม?”
“....แก...” ปิ่นหยกก้มหน้างุด สังเกตดี ๆ ในระยะใกล้แบบนี้ก็ยังเห็นเปลือกตาบวมช้ำผลจากการร้องห่มร้องไห้มาราธอนเมื่อวาน ริมฝีปากแดงสดสั่นน้อย ๆ ก่อนจะพูดต่ออ้ำอึ้ง
“....เจ็บหรือเปล่า”
....เจ็บ...? เจ็บเรื่องอะไร?"........"
“...ข..เขาบอกมาว่า...ถ...ถ้าเป็น...แบบ....เอ้อ.....ผู้ชายกับผู้ชาย.....ล....แล้ว.......ฝ่ายรับ...จะแบบ......”
เสียงตะกุกตะกักนั้นยิ่งพูดก็ยิ่งเบาลง...เบาลง ผิดกับใบหน้าที่แดงขึ้น...แดงขึ้น... อาทิตย์เริ่มเข้าใจขึ้นมาแล้วว่าอีกฝ่ายต้องการจะสื่อถึงอะไร
“แล้ว....?”
แต่ขอฟังต่ออีกสักหน่อยน่า...
ปิ่นหยกเผลอเหลือบตาขึ้นมองอย่างคับแค้น ใจหนึ่งก็นึกอยากด่าว่าผู้หญิงรึก็ไม่ใช่ เสียตัวให้เขาหน่อยเดียวจะเป็นไรไปไม่ท้องสักหน่อย แต่อีกใจก็แทบคลั่งตายพอคิดว่าตัวเองไปทำอะไรล่วงเกินเพื่อนร่วมห้องร่างสูงคนนี้เข้าเสียแล้ว ไม่ได้รู้ตัวเลยว่าความจริงไม่มีอะไรอย่างที่ว่าสักนิด
“ตัวยังกะควาย...ทำไมไม่ขัดขืน!” เขาจ้องตาเขียว และอาทิตย์เผลอหัวเราะชอบอกชอบใจ ไม่ได้ประพฤติตนให้สมบทบาทการเป็นผู้เสียหายแม้แต่น้อย
“...ก็เมา”
ปิ่นหยกพ่นลมออกจมูกด้วยเสียงครึ่ง ๆ กลาง ๆ ระหว่างถอนหายใจกับสะอื้น
เอาวะ! ลูกผู้ชายกล้าทำกล้ารับ
“แล้วจะให้ทำยังไง”
“รับผิดชอบ”
“ด้วยการ?”
“เป็นแฟนกัน”
“พร่อง!!”“......ก็กะอยู่แล้วแหละว่าเป็นผู้ชายนายคงไม่ได้อยากรับผิดชอบอะไร....”
อาทิตย์แสร้งถอนหายใจยาว ผินหน้าไปทางหน้าต่างกระจกบานใหญ่ สายตาเหม่อออกไปไกลที่สุดเส้นขอบฟ้า
“ช่างเถอะ..... ยังไงฉันก็ไม่ได้มีอะไรเสียหาย”
แน่ล่ะ จะไปมีได้อย่างไร... ในเมื่อไม่มีอะไรเกินเลยสักหน่อยปิ่นหยกทำหน้ากระอักกระอ่วน นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มดูสลดลงจนจับสังเกตได้โดยไม่ต้องหันไปมองตรง ๆ ...นี่เขาแกล้งหนักมือไปหรือเปล่านะ?
หลังจากปล่อยเวลาผ่านไปครู่ใหญ่เหมือนจะเว้นระยะทำใจ เด็กหนุ่มร่างโปร่งจึงเอ่ยออกมาเสียงแผ่ว
“...แล้วต้องเป็นไปถึงเมื่อไหร่”
“ตลอดไป”
บ้านเขาตระกูลนักธุรกิจ... ขอเรียกร้องสูงเก็งกำไรไว้ก่อนละกัน
“ฟาย! คดียังมีหมดอายุความเลย!”
“งั้นเอาช่วงที่ฉันยังอยู่หอก็ได้”
“ได้...กลับไปคราวนี้รีบย้ายของออกจากห้องฉันเลย”
“งกแล้วยังใจดำสุด ๆ”
ฮืออ...ปวดหัว...“พอที” ปิ่นหยกตัดบทแล้วคลานลงจากเตียงทั้งยังห่ออยู่ในผ้าผืนใหญ่ “จะไปอาบน้ำ!”
“ให้ช่วยไหม”
ผ้าห่มถูกโยนโครมออกมาเมื่อเจ้าตัวหายเข้าไปหลังบานประตูห้องน้ำเรียบร้อยแล้ว
“ไปตายซะ!”อาทิตย์เดินไปหยิบผ้าบนพื้นขึ้นมากอดไว้แล้วเอนหลังลงบนเตียงนุ่ม ไออุ่นจาง ๆ ยังติดอยู่บนนั้น ไม่ต้องห่วงหรอก... ถึงเขาตายวิญญาณก็จะยังวนเวียนอยู่ที่หอไม่ไปไหนนั่นแหละ ไม่งั้นก็เสียสิทธิ์ที่ตกลงกันไว้น่ะสิ
เสียงน้ำจากฝักบัวดังออกมาให้ได้ยิน นึกภาพปิ่นหยกกระฟัดกระเฟียดแล้วก็ทั้งขำทั้งรู้สึกว่าน่าเอ็นดู เขาโกหกมาไกลขนาดนี้เชียว ทั้งที่ไม่ได้ตั้งใจหรือวางแผนอะไรมาก่อนแท้ ๆ
“เว้ยยยยยย!!!!” คนขี้หงุดหงิดตะโกนลั่นอยู่ในห้องน้ำ ร่างสูงยิ้มบาง ๆ ให้กับบานประตูที่กั้นพวกเขาออกจากกัน ความคิดจะบอกเรื่องจริงให้อีกฝ่ายรู้คงต้องชะลอเอาไว้ก่อน...
ขืนบอกตอนนี้ได้โดนส่งไปเป็นดาวลูกไก่ดวงที่แปดแหง ๆ To be continued…คุยกันท้ายเรื่องปิ่นหยกเข้าใจผิดเกี่ยวกับสถานะรุก-รับของตัวเองอยู่นะ 555
พล็อตหลักดำเนินช้าเพราะสองคนนี้มัวแต่จีบกันนี่แหละ (ฮา) ใจเย็นนะคะ

ขอบคุณที่ติดตามค่ะ รักคนอ่านทุกท่านเลย >w<
ปล. เห็นตรงคอมเม้นต์ส่วนนี้แล้วรู้สึกว่ามันใช่มาก ๆ เลย
อดีตอะไรของปิ่นอ่ะ มันมีปมแบบนี้มา อย่างนี้ต้องสมยอมอย่างเดียวสินะ
จะไปอาศัยน้ำเมาทำให้เขาเป็นขอเราไม่ได้แล้วนะคุณชาย 
อดไปนะคุณชาย 555
แล้วพบกันตอนหน้าค่ะ ^_^