ตอนพิเศษ – ถ้าแม่ฟังอยู่(2)เขาได้รู้ในเวลาไม่นานหลังจากนั้น ว่า
‘ขาย’ ที่ลุงมักพูดถึงคืออะไร
ห้องสี่เหลี่ยมคับแคบที่ถูกผลักส่งเข้ามามีเพียงเตียงและโต๊ะเก้าอี้อีกหนึ่งชุดวางอยู่ บรรยากาศทะมึนและกลิ่นสาบปนกลิ่นคาวจาง ๆ รอบตัวทำให้เขาหนาวยะเยือกขึ้นมา นี่ไม่ใช่อย่างที่คิดเอาไว้เลยสักนิด
“มาตรงนี้”
ชายวัยกลางคนที่นั่งรออยู่ก่อนแล้วกวักมือเรียก บนโต๊ะมีแก้วเหล้าวางอยู่ ข้างกันเป็นน้ำสีอำพันที่เหลืออยู่ในขวดเพียงครึ่งหนึ่ง จากแววตาฉ่ำเยิ้มน่าขนลุกที่เห็นพอเดาได้ว่าอีกฝ่ายคงดื่มไปไม่น้อย สายตาน่ารังเกียจพิศมองร่างเล็กตรงหน้าตั้งแต่หัวจรดเท้า ก่อนรอยยิ้มพึงใจจะลากผ่านแนวริมฝีปาก
“ชื่ออะไร”
มือใหญ่กร้านเลื่อนมาแตะแถวเอวแล้วเลื่อนต่ำลงมาที่สะโพกเป็นเชิงเร่งรัดจนเขาเผลอสะดุ้งสุดตัว
“ได้ยินที่ถามไหม หืม..?”
“...ป...ปิ่นหยก...” คำตอบถูกส่งไปตะกุกตะกัก
“ชื่อเพราะนี่” ริมฝีปากสีคล้ำแสยะยิ้ม ใบหน้ายื่นเข้ามาใกล้แต่กลิ่นเหล้าและบุหรี่ฉุนจัดทำให้เขาถดกายถอยหนี
“ถอดเสื้อผ้าออก”
“.....ถอด?....ทำไม”
“ซื้อแล้วก็ต้องได้เห็นได้ใช้สินค้าไม่ใช่รึไง”
อีกฝ่ายยังคงกรีดยิ้มน่าขนลุก เขาไม่เข้าใจความหมายในประโยคนั้นนัก แต่อะไรบางอย่างในน้ำเสียงกลับดึงความหวาดหวั่นขึ้นมาแล่นพล่านอยู่ทุกรูขุมขน
........กลัว........?นั่นเป็นสิ่งที่ไม่อยากจะยอมรับ ความก้ำกึ่งระหว่างกลัวและขยะแขยงทำให้ไม่สามารถขยับตัวได้อย่างใจแม้ในขณะที่อีกฝ่ายกระชากแขนเขาเข้าไปใกล้แล้วลงมือปลดกระดุมเสื้อนักเรียนทีละเม็ด...
.....ไม่.....มันไม่ควรเป็นแบบนี้.....
เสื้อเชิ้ตเก่า ๆ มีแต่รอยปะหลุดร่วงจากไหล่ลงไปกองกับพื้น ก่อนที่ใบหน้าอีกฝ่ายจะฝังลงมาแถวกระดูกไหปลาร้า สัมผัสจาบจ้วงนั้นทำให้ทั้งร่างกระตุก เขาร้องห้ามออกมาเสียงสั่น ขยับถอยหลังจนมาติดอยู่ตรงขอบเตียง
“....ม...ไม่.......”
ทว่าไม่มีวี่แววว่าคนตรงหน้าจะหยุด
“.....ปล่อยผม.....ปล่อย!!”
ทั้งร่างถูกผลักหงายลงไปบนเตียง ก่อนอีกฝ่ายจะโน้มตัวตามมาคร่อมไว้ มือใหญ่เลื่อนขึ้นมาตรึงข้อมือทั้งสองข้างของเขา บีบจนแน่นราวกับคีมเหล็กแล้วกดเอาไว้กับเตียง ปลายลิ้นลากผ่านลำคอซึ่งเริ่มยาวระหงของเด็กหนุ่มแรกรุ่น ทิ้งรอยกัดเป็นจ้ำแดงไว้แถวร่องกล้ามเนื้อเป็นแนวพาดผ่านผิวหนังช่วงคอเรื่อยมาจนถึงแผ่นอก
“....ปล่อยผม!!! ไม่เอา.......อย่า.....!!!!”
ปิ่นหยกดิ้นรนอยู่ใต้ร่างใหญ่ ใบหน้าสะบัดไปมาแสดงอาการขัดขืน แรงขบเม้มที่ผิวหนังรุนแรงขึ้นเรื่อยในแต่ละครั้งทำเขาสะอื้นออกมาเบา ๆ สัมผัสน่าสะอิดสะเอียนจากปลายลิ้นลากไล้ไปถึงยอดอกแล้ววนเวียนอยู่อย่างนั้น พร้อมกับมือหนาข้างหนึ่งที่เลื่อนลงมาอยู่แถวขอบกางเกงของเขา
“...อึก.....ปล่อย....ปล่อยผม..........”
“..................ได้โปรด........”
เข็มขัดถูกกระชากออกจากเอวด้วยมือไม้สะเปะสะปะของคนที่กำลังเมามายได้ที่ ขอบเข็มขัดบางส่วนครูดไปกับเนื้อบริเวณนั้นจนเกิดรอยแดงเป็นทางเรียกเสียงร้องเจ็บปวดออกมาจากริมฝีปากสั่นระริก
“โอ๊ย!!”
....ไม่....เขาไม่ยอมให้เป็นแบบนี้...
.......ไม่เอา.......ไม่.......ไม่!
ปิ่นหยกสูดลมหายใจเข้าลึก หลับตาแน่น สะบัดร่างเร่าอยู่ข้างใต้
หากรอดจากที่ตรงนี้ไปได้ เขาจะหนีออกจากบ้าน ไปให้ไกลจากลุงที่กล้าขายเขา หนีไปจากสถานที่โสมมเหล่านี้แล้วไม่กลับมาอีก
....หากรอดจากที่ตรงนี้ไปได้....“ไอ้สัตว์นรก!!!”เขารวบรวมเรี่ยวแรง เหวี่ยงขาสองข้างแล้วแทงเข่าไปตรงเป้ากางเกงของอีกฝ่ายที่คร่อมอยู่ ครั้งแรกพลาดไป...แต่เขาจะไม่ยอมอีกแล้ว
“ร้ายนักนะมึง!”ร่างนั้นเสียหลักไปเพียงเล็กน้อย มือที่ตรึงข้อมือเขาไว้คลายกำลังลงโดยไม่รู้ตัว และปิ่นหยกเห็นโอกาสจากจังหวะนั้น
...ขอแค่โชคเข้าข้างเขาอีกสักครั้ง ถ้าเทพเจ้าแห่งเงินตราหรือสิ่งบ้าบออะไรสักอย่างเห็นว่าเขายังควรมีชีวิตอยู่ต่อ...
เขาสะบัดมือเต็มแรงเพียงครั้งเดียวก็หลุดจากการเกาะกุม ฉวยเอาขวดเหล้าข้างโต๊ะมาได้ในเวลาแค่เสี้ยววินาที
เพล้ง!!!!!!น้ำอำพันไหลลงปนกันสีแดงฉานของเลือดที่ทะลักออกจากปากแผลกลางศีรษะหยดย้อยลงมาถึงหัวคิ้วอาบลงจนทั่วใบหน้าหยาบกร้าน เศษแก้วที่กระเด็นร่วงหล่นตามลงมาบาดเข้าตรงนั้นตรงนี้เป็นหย่อม ๆ บางส่วนกระเด็นมาทิ่มบริเวณหน้าอกของเขาเป็นขีดแดงมีเลือดไหลซึม เจ้าของร่างใหญ่ที่เพิ่งถูกขวดแก้วฟาดลงไปบนศีรษะโงนเงนไปด้านข้างแต่ยังไม่ถึงกับหมดสติ
และนั่นเพียงพอแล้วสำหรับโอกาสหนีของเขา
ปิ่นหยกกระโจนลงจากเตียง เหยียบลงบนเศษแก้วซึ่งกระจายอยู่บนพื้นเข้าเต็มเท้า ความเจ็บที่แล่นริ้วขึ้นมาทำเขาถึงกับกลั้นหายใจแล้วกัดฟันวิ่งหนีออกจากห้อง ทิ้งรอยเลือดจากบาดแผลไว้เป็นทาง
.....อย่าร้องไห้............เขาจะไม่ร้องไห้อีกแล้ว......
ตลอดทางเดินมืดทึมนั้นไม่มีใครอยู่ แสงอาทิตย์ที่สาดส่องอยู่ตรงปากทางออกอยู่ใกล้ราวกับจะเอื้อมมือไปคว้าไว้ได้ ขอเพียงข้ามผ่านประตูนั้นออกไป ได้ยืนอยู่กลางแสงแดดอีกครั้ง เขาจะไม่กลับมาเหยียบที่นี่อีกชั่วชีวิต....
.
.
.
น่าเศร้าที่ทุกอย่างไม่ได้สวยหรูเหมือนในนิทานเด็กเสมอไป“......ลุง!!!?”ผู้เป็นลุงทำหน้าถมึงทึง สายตาไล่มองสภาพเขาซึ่งเปลือยท่อนบน มีทั้งบาดแผลจากเศษแก้วและรอยจูบอยู่เต็มเนื้อตัว กางเกงนักเรียนหลวม ๆ ยังเกาะบนเอวแต่เข็มขัดไม่อยู่แล้ว เลือดซึ่งไหลเป็นทางจากฝ่าเท้าซ้ายคงทำให้ลุงเข้าใจได้ไม่ยากนักแม้จะยังอยู่ในฤทธิ์สุราหรือสารเสพติดอะไรสักอย่างว่าการที่เขาออกมาไม่ได้เกิดจากความยินยอมพร้อมใจของลูกค้าที่ลุงขายเขาไป
“มึงทำเหี้ยอะไรเสี่ย!?”“ฆ่าทิ้งไปแล้ว”
เขาสวนทันควัน ทั้งที่ความจริงยังห่างไกลจากคำว่าฆ่านัก ตอนนี้เสี่ยนั่นอาจจะแค่นอนสลบไม่ได้สติอยู่บนเตียงเท่านั้นเอง
เขาเพียงอยากประกาศ ....ทำตัวอวดดีว่าจะไม่ยอมลุงอีกแล้ว“มึงมันชั่ว!!!! เงินกูยังได้จากเสี่ยไม่ครบเลย!!! ไอ้เด็กนรก!!!!!!”เสียงคำรามลอดไรฟันของลุงทำให้เขาเกิดกลัวขึ้นมา มีเวลาให้นึกเสียใจในความปากพล่อยของตัวเองเพียงเสี้ยววินาที ก่อนสายตาจะเหลือบไปเห็นมีดมาเชเต้ในมือคนตรงหน้า ลุงหิ้วมันมาในที่แบบนี้คงตั้งใจจะมาเฝ้าเขาไว้เหมือนรู้ว่าคงคิดจะหนี
ร่างใหญ่ย่างสามขุมเข้ามา ใบหน้าแดงด้วยความโกรธเกรี้ยวจนแทบระเบิด ปิ่นหยกก้าวกะเผลกถอยหลัง... ระยะมีดซึ่งยาวราวสิบแปดนิ้วนั้นน่ากลัวทีเดียวโดยเฉพาะเมื่อมันอยู่ในมือคนเมาที่กำลังบันดาลโทสะ
แผลที่ฝ่าเท้าเจ็บแปลบ เศษแก้วคงยังค้างอยู่ในแผลจึงปวดร้าวขึ้นมาทุกทั้งที่ลงน้ำหนักแม้เพียงเล็กน้อย ในสภาพปกติเขามั่นใจว่าตัวเองวิ่งเร็วกว่าลุง แต่ตอนนี้ไม่มีความมั่นใจเช่นนั้นหลงเหลืออยู่แม้สักนิด มีดนั่นยาวพอจะฆ่าคนได้ และเขาไม่คิดอยากใช้ตัวเองเป็นเครื่องพิสูจน์
“....ลุง....”
“ไม่ต้องมาเรียกกูว่าลุง!!!”เขาสะดุ้ง แววตาของลุงมีแต่ความเคียดแค้นชิงชังไม่ต่างจากน้ำเสียง
.....แววตาที่เหมือนอยากจะฆ่าให้ตายเสียตรงนั้น.........อย่าร้องไห้....ปิ่นหยกย้ำกับตัวเอง กล้ำกลืนก้อนสะอื้นซึ่งจุกอยู่ที่คอและความปวดหนึบจากบาดแผล ก่อนจะหันหลังแล้วออกวิ่ง ...วิ่งด้วยแรงทั้งหมดที่มี
เสียงเอ็ดตะโรดังตามหลัง ทั้งหมดเป็นถ้อยคำอาฆาตมาดร้ายเรื่องที่เขาไม่สามารถทำประโยชน์ด้วยการเอาตัวเองไปแลกเป็นเงินมาให้ลุงใช้หนี้ได้
เขาเจ็บแปลบที่เท้า ....แต่มากกว่านั้นคือที่ใจฉัวะ!!!!“!!!!!”เขาเกลียดขาตัวเองเหลือเกิน.....ทำไมกับแค่ถูกเศษแก้วบาดจึงวิ่งให้เร็วกว่านี้ไม่ได้ ทำไมแค่ถูกฟันที่หลังแต่กลับก้าวขาต่อไปไม่ได้.... ทำไมแค่ความเจ็บปวดเท่านี้ถึงรับน้ำหนักร่างกายไว้ไม่ได้......
“อึก!!”
ร่างผอมบางทรุดลงกับพื้น ปากแผลที่หลังเปิดออกตามแรงของมีดยาวซึ่งฟาดฟันลงมา เลือดแดงสดไหลซึมออกมาจากกล้ามเนื้อและหลอดเลือดที่ฉีกขาด เพียงไม่กี่วินาทีเมื่ออาการชาเริ่มเลือนหายความเจ็บร้าวจึงพลุ่งพล่านขึ้นมาแทน
“...อ...อ๊าาาาาาาาาา.....!!!”ชายซึ่งถือมีดเปรอะคราบเลือดอยู่ในมือเดินโซเซตามมา ริมฝีปากแสยะยิ้มเยาะ อาการมึนเมาส่งผลให้แม้จะทรงตัวเป็นปกติยังทำได้ไม่ดีนัก แต่ทั้งอย่างนั้นเขาก็ยังหนีไม่ทัน
ปิ่นหยกหอบหายใจหนักหน่วง หัวใจเต้นถี่ทว่าชีพจรแสนจะแผ่วเบา เหงื่อเย็น ๆ ไหลท่วมตัว ภาพตรงหน้าพร่าเลือนเหมือนมองผ่านกระจกฝ้า ...สำหรับเด็กอายุสิบปีอย่างเขา ปริมาณเลือดที่เสียนั้นมากเกินไป
มีดมาเชเต้ในมืออีกฝ่ายถูกเงื้อขึ้นอีกครั้ง คมมีดวาวววับสะท้อนแสงแดดอยู่ตรงหางตา เลือดเขาเองซึ่งติดอยู่บนปลายมีดหยดลงบนใบไม้แห้งสีน้ำตาลจนทั้งใบถูกย้อมเป็นสีแดงฉาน จากมุมเงย..อาวุธนั้นดูคล้ายเคียวของมัจจุราช หากถูกฟันลงมาอีกครั้งทุกอย่างคงจบสิ้นเสียที
....ถ้าความพยายามจะมีชีวิตอยู่ตลอดสองปีของเขาช่างไร้ค่า
เป็นแบบนี้อาจจะดีกว่าหรือเปล่า...?....แม่ครับ......พ่อครับ.......
.....ปิ่นเหนื่อย.....ด้านคมของโลหะกรีดชำแรกผิวเนื้อที่แผ่นหลังอีกครั้ง เสียงเสียดสีระหว่างเนื้อเยื่อของคนและคมมีดบาดลึกในหู เขาอ้าปากกรีดร้อง แต่ไม่มีถ้อยคำใดเล็ดลอดออกมา
...ไม่มีน้ำตาสักหยด... ไม่มีความเจ็บปวดหลงเหลืออยู่อีกแล้ว...
แบบนี้คงดีกว่าจริง ๆร่างผอมบางที่เต็มไปด้วยบาดแผลทิ้งตัวลงบนพื้นพลางระบายลมหายใจรวยริน สายตาซึ่งพร่ามัวไปหมดยังพอมองเห็นร่างของผู้เป็นลุงเดินสะเปะสะปะตรงเข้ามา มีดในมือยกขึ้นคล้ายจะแทงลงอีกครั้ง
ในจังหวะเคลื่อนไหวเงอะงะของคนตรงหน้า ขาที่ควรจะทรงตัวไว้มั่นกลับสะดุดเข้ากับขาของเขาเองซึ่งนอนเหยียดอยู่บนพื้น ส่งผลให้ร่างใหญ่นั้นเซถลาเข้ามาใกล้ทั้งมีดยาวยังกำแน่นอยู่ในมือ หากแต่องศาที่ด้านคมนั้นพุ่งเข้าหากลับไม่ใช่ร่างของเขา..
สวบ!!!“อร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกก!!!!!!!!”เสียงกรีดร้องโหยหวนของชายวัยกลางคนดังกึกก้อง เจ้าของมีดล้มคว่ำลงข้างกาย คมมีดปักเฉียงทะลุจากอกด้านซ้ายไปโผล่อีกทางที่ชายโครง...
ของเหลวแดงสดบางส่วนกระเซ็นเข้าใบหน้าเขา แต่ละหยาดหยดประกอบจากสารพันธุกรรมซึ่งใกล้เคียงกันของผู้ร่วมสายเลือดตอกย้ำให้นึกอยากแค่นหัวเราะตัดพ้อต่อโชคชะตา นัยน์ตาของลุงที่หันตะแคงหน้ามาทางเขาเบิกค้าง ลมหายใจหอบกระชั้น ไม่มีแม้แต่เรี่ยวแรงจะยกตัวเองขึ้นจากพื้น สัญญาณชีพแผ่วเบา.....และเขาเองก็เช่นกัน....
ปิ่นหยกไม่แน่ใจว่าตัวเองกำลังหลับตาอยู่หรือเปล่า ทุกสิ่งตรงหน้ากลายเป็นสีขาวโพลนไปหมด
ภาพสุดท้ายก่อนสรรพเสียงจะเงียบงัน ...คือร่องรอยเคียดแค้นซึ่งฝังลึกอยู่ในดวงตาเบิกโพลงของลุง..............................................................
..........................................
.
.
.
.
....ถ้าแม่ฟังอยู่....ไม่ว่าแม่อยู่ไหน ไม่ว่าแม่เป็นใคร...ช่วยส่งรักกลับมา....
วันแม่อีกแล้วหรือ...?
.....ถ้าแม่ฟังอยู่ คิดถึงหนูหน่อยนะ....
หนูขอสัญญาว่า....หนูจะเป็นเด็กดี
กลิ่นดอกมะลิหอมเย็นล่องลอยอยู่ในอณูอากาศ ...แล้วใครกันช่างเปิดเพลงเศร้าขนาดนี้ในวันแม่
“......ปิ่นหยก!”
“แม่?”
หรือเขาตายไปแล้ว?“ปิ่นหยก...ฟื้นแล้วเหรอลูก...”
......ไม่ใช่......
เพียงแค่ใบหน้าเหมือนกัน....แต่ไม่ใช่แม่“.........น้าเพชร....?”
ผู้หญิงที่มีใบหน้าพิมพ์เดียวกับแม่ไม่ผิดเพี้ยนโผเข้ามาสวมกอดเขาเอาไว้แน่น ได้ยินเสียงเธอสะอึกสะอื้นอยู่ในอ้อมกอด
.......อุ่น.......เขาลืมไปแล้วว่าอ้อมกอดของคนที่ยังมีเลือดเนื้อนั้นอุ่นได้ถึงเพียงนี้ และความร้อนจากหยาดน้ำตาของเธอที่ร่วงลงบนไหล่เขาก็ช่วยย้ำเตือนว่าตัวเองยังมีชีวิตอยู่
“....ปิ่นหยก....ปิ่นหยก.........ไม่เป็นไรแล้วนะคนดี.....”
....ลุงตายแล้ว....เขารู้เพียงเท่านั้น คนตรงหน้าไม่พูดต่อเรื่องผู้ชายคนที่ว่าอีก
“......แม่น่าจะพาปิ่นมาอยู่ด้วยกันตั้งแต่แรก.....”
น้ำเสียงนั้นเจือความรวดร้าว ถ้าเพียงแต่เธอจะรู้สักนิดว่าการปล่อยให้ปิ่นหยกไปอยู่กับลุงฝ่ายพ่อนั่นจะทำให้ชีวิตเด็กคนนี้ต้องกลายเป็นอย่างที่เห็น วันนั้นเธอต้องเป็นคนเสนอตัวรับเขามาอยู่ด้วยแม้ตัวเองกำลังอยู่ในช่วงมีปัญหากับชีวิตครอบครัวแน่นอน
ปิ่นหยกกอดตอบ แผลบนหลังยังปวดปร่าทุกครั้งที่ขยับตัว
เขาคิดถึงน้าเพชร ช่วงเวลาสองปีที่ผ่านมาเขาไม่ได้เจอญาติคนอื่นสักคนนอกจากลุง สายตามองเลยไปเห็นจี้หยกซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องที่เดินเข้ามากอดเขาไว้อีกคน ..เวลาผ่านไปเธอเองก็ดูเติบโตขึ้นมากเช่นกัน
“.....เรามาเริ่มต้นใหม่ด้วยกัน.....ไม่ต้องกลัวอะไรอีกแล้วลูกรัก........”
ครั้งนี้จะเชื่อได้ใช่ไหม...?“......แม่เพชรจะเป็นแม่ให้ปิ่นเอง.....”
น้ำตาที่คิดว่าแห้งหายจากดวงตาทั้งสองไปหมดแล้ว มันมาจากไหนตั้งมากมายอย่างนี้นะ“...ฮึก...!”ปิ่นหยกสะอื้นจนตัวโยน
“.........แม่...ครับ....”เขาไม่รู้ตัวเองว่ากำลังพูดถึงแม่คนไหน.....บางทีอาจจะหมายถึงทั้งสองคน หากเอ่ยเพียงเท่านั้นแล้วก็ทำได้แค่ส่งเสียงร้องไห้ออกมาปริ่มว่าจะขาดใจ ราวกับกำลังชดเชยให้ช่วงเวลาที่เคยเฝ้าย้ำกับตัวเองว่าจะไม่ร้องไห้อีก....
“......ฮือออ...อออ.......ออออ....อ........”นี่คงเป็นเวลารุ่งสางสำหรับเขาเสียที
ถ้าแม่ฟังอยู่.....คิดถึงหนูหน่อยนะ
...หนูขอสัญญาว่า....หนูจะเป็นเด็กดี.......................
....
- จบตอนพิเศษ(ถ้าแม่ฟังอยู่) -
============================
สุขสันต์วันแม่ค่ะ
สองตอนติดอีกแล้ว (กลัวจะค้าง...แงงง)
หน่วงหน่อย ๆ เพลงที่เอามาใช้เป็นเพลงที่ฟังทีไรก็น้ำตาจะไหลทุกที ชื่อเพลง "เรียงความเรื่องแม่" เชื่อว่าน่าจะเคยฟัง
ถ้าไม่เคยลองไปฟังที่นี่ได้ค่ะ
http://www.youtube.com/watch?v=ye7G2_PuT2s *กอดโอ๋ปิ่นหยก* เขียนไปก็สะเทือนใจเอง ลูกเอ๊ยยย TTvTT
ปล. ทำสารบัญแล้ว จะได้เปิดหาตอนเก่าง่าย ๆ อันนี้เลยยย
***สารบัญคลิกที่นี่ค่ะ***แล้วพบกันตอนหน้า ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านนะคะ
