♥[สะดุดรัก หอพักอลเวง]♥ "รักติดดิน" ตอนพิเศษ HNY 2016! ♥ [หน้า 106] (02/01/59)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

หมอไอซ์*น้องอุ่น
104 (32.7%)
หมีกริช*พี่เอม
112 (35.2%)
คิมกิมจิ กับบุคคลลึกลับที่ขออุบไว้ก่อนว่าเสะหรือเคะ
102 (32.1%)

จำนวนผู้โหวตทั้งหมด: 239

ผู้เขียน หัวข้อ: ♥[สะดุดรัก หอพักอลเวง]♥ "รักติดดิน" ตอนพิเศษ HNY 2016! ♥ [หน้า 106] (02/01/59)  (อ่าน 924926 ครั้ง)

ออฟไลน์ Ju

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-2
เปียกดีนะตอนนี้ 55555  :กอด1:

ออฟไลน์ GETIIZ

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +90/-4
นู๋ปิ่นหยกกกกกกก ชีวิตดราม่ายิ่งกว่าต้มยำกุ้งน้ำข้น คุณพ่อคุณแม่มาเสียชีวิตพร้อมกัน
แล้วก็คาดว่าตัวเองก็คงรอดตายจากเหตุการ์นี้เหมือนกันใช่ไหม ?? จากแผลที่หลัง ...มันเจ็บปวดมากนะ  นู๋ปิ่นหยกเติบโตมาด้วยความเข้มแข็งจริงๆ ถึงแม้จะงกไปหน่อยก็เหอะ 55555   อันนั้นไม่สำคัญเท่าว่า อะไรทำให้คนๆนึงผ่านความเจ็บปวดขนาดนั้นมาได้ * กระโดกอดนู๋ปิ่นนนน *  :sad4: :sad4: :sad4:

ส่วนคุณชายลูกเจี๊ยบ ยังสติลความมึนงงกับชีวิตตัวเองต่อไป 5555555555555 
ตอนที่คุณชายลูกเจี๊ยบบอกจะเล่นน้ำฝนนี่ พาลให้นึกถึงตอนเด็กๆ ตอนเด็กๆม่ต้องคิดอะไรมกาเนอะ  :z2: :z2:
ฝนตกเป็นอะไรที่ชอบมาก แต่พอโตขึ้นข้อจำกัดในชีวิตก็มากขึ้นตามไปด้วย เราจึงหลีกเลี่ยงที่จะแสดงด้านที่เป็นเด็กออกมา


ออฟไลน์ BitterSweet~

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 788
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-0
ปิ่นหยก หนูผ่านอะไรมาเยอะเกินวัย
แผลที่หลังตอนที่ได้มาคงเจ็บปวดมาก
อายุเพียงเท่านี้  :เฮ้อ:

เจ้าลูกเจี๊ยบยังสติลมึนได้โล่ห์เหมือนเดิม
มึนแล้วได้จับมือกันกลางสายฝน
คิดยังไงก็ได้กำไรเนอะ  o13

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16

ออฟไลน์ Theznux

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 197
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-1
ค้างอ่าาาา 5555 อยากอ่านต่อแล้ววว

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
อยากรู้ชีวิตหนูปิ่น

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
ลูกเจี๊ยบ....จะไปกลัวอะไรย่ะ

เอ็งมีความมึนเป็นอาวุธนะ

ใช้มันทะลุทะลวง(?)หัวใจของปิ่นหยกสิย่ะ

 :กอด1:


ออฟไลน์ goosongta

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1521
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +94/-6
อาทิตย์ถามเหอะ คนอ่านก็อยากจะรู้
ปิ่นหยกจะไม่เจ็บปวดหรอกเพราะมีอาทิตย์เป็นตัวป่วนอยู่ทั้งคน

ออฟไลน์ hobazaki

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
น้องปิ่นของเจ๊ ไปโดนใครทำอะไรมา หรือว่า.............. ลุงหรือเปล่า โฮวววววว น่าสงสาร รวบกอด

faratellll

  • บุคคลทั่วไป
เจ๊ก็รู้สึกหน่วง แบบ เบาเบา :sad4:
ไอ้ลูกเจี๊ยบอย่าคิดมาก ดิ อยากถามอะไรถามเลย ไงแกก็ตีหน้ามึนเข้าใส่อยู่แล้วนิ :laugh:

P.S.  สงสารปิ่นหยกแท้หลา

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ nn~~NN

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1232
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +295/-1
ชีวิตหนูปิ่นมีปมดาร์กง่ะ  :z3:
ว่าแต่คู่คุณพ่อกับคุณน้านี่ท่าทางมีเฮแฮะ

เห็นคุณเรนนี่ใส่เลขหน้าให้แล้วด้วย ขอบคุณมากนะคะ
สุขสันต์วันแม่ค่ะ  :L2:

ออฟไลน์ moredee

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-8
:L2:ไม่รอ แต่จะตามอ่านอย่างใจจดจ่อ เอาเป็นเขียนจนเรียนจบทำงานแล้วก้ดีนะ
 เพราะหอรัก... คงไม่พังยุบ นอกจากทุบทิ้งสร้างใหม่ :m20:

ออฟไลน์ Renze

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +423/-25
แม่ไก่พาลูกเจี๊ยบไปเจอคุณแม่แล้ว  :o8:

แต่ลูกเจี๊ยบยังคงคอนเซปต์เดิม...มึนไม่มีเปลี่ยนแปลง
ความคิดแต่ละอย่าง มึนและอึนมาก

แอบได้กลิ่นดราม่า ชีวิตหนูปิ่นอะไรจะเศร้าขนาดนั้น

MiiCell

  • บุคคลทั่วไป
 o13 Good!! ปิดท้ายก่อนวันแม่เลย
ที่บอกมึนเพราะรักเนี่ย ปิ่นหยกได้ยินมันจะดีใจไหมหนอ?

Tassanee

  • บุคคลทั่วไป
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกก  อยากอ่านต่อ

Porsche23

  • บุคคลทั่วไป
ปิ่นหยกต้องมีอดีตที่เศร้ามากแน่ ๆ เลย..  ㅠㅠ

ตอนหน้าอาจจะได้รู้ (?)  *แอบขอคนเขียนนิดนึง อิอิ

จะว่าไปลูกเจี๊ยบก็เนียนนะ เนียนจนได้มาบ้านปิ่นหยกด้วยแล้วอ่ะ ฮ่า ๆ ๆ

แต่จริง ๆ แล้วปิ่นหยกเองก็ตามใจด้วยแหละ  ฮิ๊ววว ~~

รอตอนต่อไปนะคะ    :กอด1:

ออฟไลน์ ben

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 501
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +49/-3
ถามไปเรยย ลูกเจี๊ยบบบบ o13

ออฟไลน์ ❥ʞαxiќɒ。

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 174
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
ตามมาจากห้องแนะนำนิยายค่าา!
สนุกมากเลยยยยยยยยย! อ่านทีเดียวรวด >< 55555555
ชอบตัวละครทุกตัวของเรื่องนี้เลยค่ะ น่ารักทุกคน (โดยเฉพาะหนูปิ่น xD)
แอบอยากอ่านคู่พี่เอมแล้ววววววว! เคะราชินี อร้างงงงงง(?) 555555

อยากบอกอาทิตย์ว่า.....
ถามเลยยยยยย!!!!! เราอยากรู้(มากๆ)..... UU
สงสารปิ่นหยกมากอ่ะ! ท่าทางจะผ่านอะไรมาเยอะมาก ไอ้ลูกเจี้ยบต้องดูแลดีๆนะ !

ออฟไลน์ ่patsaporn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-6
น้ิองปิ่นหยกของพี่น่าสงสารจัง แต่น้องก็เข้มแข็งมาก ลูกเจี๊ยบต้องรักและดูแลให้ดีนะ
คนเข้มแข็งบทจะอ่อนแอขึ้นมานี่สุด ๆ อ่ะ
ปิ่นหยกตามใจอาทิตย์ตลอดจริง ๆ นะ เค้าเรียกว่าแพ้ทาง ที่จริงน้องเป็นคนดีกับทุกคน
อาทิตย์ห้ามคิดมากนะ

ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ RainyMooD

  • กลิ่นของต้นหญ้าในฤดูร้อน สายลมในหมู่เมฆสีขาว ไม่ว่าจะผ่านไปอีกสักกี่ปี ก็เหลือเราอยู่เพียงลำพัง...
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +208/-3
“คบสิครับ ตอนนี้ก็ยังคบกันอยู่”
อร๊ายยยย ลูกเจี๊ยบหน้ามึนขอแม่เขารึยังน่ะ ตีมึนอีกแล้ววว :o8:


เฮ้ออ ชีวิตแม่ไก่ทำไมมันช่าง...ยังกะตำนานรักดอกเหมย  :m15:

และ เอิ่ม..เดทกลางสายฝน  :o11:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Cupcake

  • @--##-หนูน้ำตาล-##--@
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-0
ไปโดนอะไรมานะปิ่นหยก

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
ถ้าลูกเจี๊ยบกล้าถาม แม่ไก่ก้คงจะยอมตอบบ้างแหละมั้ง ตอนนี้ก็เริ่มเปิดตัวและเปิดใจกันมากขึ้นแล้วนี่ :z1:
เหตุการณ์ที่ทำให้ต้องย้ายจากลุงมาอยู่กับแม่เพชรมันคงเกี่ยวกับแผลและความทรงจำเลวร้ายนั่นของน้องปิ่นหยกสินะ :monkeysad:
เป็นกำลังใจให้น้องปิ่น สู้ๆ หวังว่าความมึนของลูกเจี๊ยบจะทำให้น้องปิ่นมีความสุขนะคะ :กอด1:

Milk

  • บุคคลทั่วไป
ช็อคนะนเนี้ยะ ทำไมปมหลังของปิ่น

ถึงได้น่าสงสารอย่างนี้

คงเป็นเรื่องที่สะเทือนใจมากซินะ :เฮ้อ:

ออฟไลน์ JingJing

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 546
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +83/-2

โอ้วชีวิตหนูปิ่นน่าสงสารจัง อิลูกเจี๊ยบดูแลดีๆนะ

ออฟไลน์ RAINYDAY

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1247/-5
    • FB page
Dormitory Boys – สะดุดรัก หอพักอลเวง

“รัก...ติดดิน”

ตอนพิเศษ  – ถ้าแม่ฟังอยู่(1)




......เกลียด.......



“ไอ้ปิ่น!! ไอ้เด็กเปรต!! ไปซุกหัวอยู่ไหนวะ!!”

เกลียดน้ำเสียงหยาบคายที่เต็มไปด้วยความชิงชังนั่น

กลิ่นสุราปนเหงื่อไคลโชยหึ่งน่าสะอิดสะเอียนลอยมาแต่ไกล เขาไม่รู้ชายผู้มีศักดิ์เป็นลุงคนนั้นอาบน้ำครั้งสุดท้ายตั้งแต่เมื่อไร บางทีอาจจะเป็นสองวันก่อนตอนเจ้าตัวออกจากบ้าน เพราะเห็นว่ายังกลับมาด้วยชุดเดิมทว่ามีเศษดินโคลนติดมาด้วย

เกลียดกลิ่นเหม็นเน่าคละคลุ้งไม่รู้ที่มาซึ่งวนเวียนอยู่รอบตัวลุงของตัวเอง

“กูกลับบ้านก็ยกน้ำยกข้าวออกมาให้สิโว้ย!”

เสียงอะไรสักอย่างล้มลงกระแทกพื้นดังสนั่น คงเป็นเก้าอี้ไม้ที่ไปขวางหูขวางตาลุงอยู่จึงโดนเตะล้มคว่ำ ถ้วยชามกระเบื้องถูกทุ่มลงแตกกระจายตามด้วยถ้อยคำผรุสวาทอีกครู่ใหญ่

เกลียดถ้อยคำและอาการป่าเถื่อนเหล่านั้น


เด็กน้อยซุกตัวอยู่ในซอกหลืบมืด ๆ หลังบ้าน กลิ่นเน่าจากแอ่งน้ำเสียโชยไปทั่วบริเวณ ทั้งยุงและแมลงบินกันให้ว่อน แต่เขายินดียืนบริจาคเลือดเป็นอาหารยุงตรงนี้มากกว่าจะเดินเข้าไปในบ้าน ทั้งที่ข้าวปลาอาหารมีอยู่ในครัว ถ้าลุงมองรอบตัวสักนิดมากกว่าจะเอาแต่หมกมุ่นเรื่องเสียพนันหรือเมาเหล้าจนหัวราน้ำอย่างนี้ก็คงเห็นว่าเขาเตรียมไว้ให้ทั้งหมดแล้ว

เสียงแก้วแตกอีกใบทำให้เขาตัดสินใจหันหลังกลับ... คืนนี้เขาคงต้องไปนอนที่อื่น...ที่ไหนก็ได้ที่ไม่ใช่บ้าน


...ถ้าสถานที่ซึ่งเต็มไปด้วยความเกลียดชังแห่งนี้ยังเรียกว่า ‘บ้าน’ ได้อยู่...



ปิ่นหยก แววสินธุ์ เกลียดทุกอย่างที่นี่


.

.

.

.


กลุ่มควันทะมึนพวยพุ่งเหมือนงูยักษ์สีดำม้วนตัวอยู่เหนือเปลวไฟซึ่งลุกท่วมบ้านเกือบทั้งหลังในเวลาเพียงไม่กี่นาที ตัวบ้านที่ทำจากไม้ยิ่งเป็นเชื้อให้เพลิงโหมกระหน่ำรวดเร็วเสียจนสามชีวิตในบ้านไม่ทันได้มีเวลาตั้งตัว นั่นเป็นคืนก่อนเช้าวันแม่ที่เขาจะไม่มีวันลืมไปชั่วชีวิต...


.......ร้อน.......


เด็กน้อยวัยแปดปีสะดุ้งตื่นกลางดึกด้วยเสียงของหนัก ๆ กระแทกพื้น เขาลุกพรวดพราดขึ้นมานั่งอยู่บนฟูกนอน นัยน์ตาเบิกกว้างมองไม้คานซึ่งติดไฟจนร่วงลงมาอยู่ห่างออกไปเพียงไม่ถึงสองเมตร เปลวไฟสีแดงฉานลุกท่วมลามไปจนถึงประตูทางออกและผนังซึ่งล้วนทำจากไม้ เขม่าควันจากการเผาไหม้ลอยขึ้นขยายตัวในพื้นที่ปิดแคบปะปนกับอากาศจนแสบไปทั้งโพรงจมูก


.....ไฟไหม้.......!!


ในความตื่นตระหนกที่พลุ่งพล่านขึ้นมา เขาไพล่นึกไปถึงคนที่นอนอยู่อีกห้อง ตอนนี้เป็นอย่างไร...? อยู่ที่ไหน....?

“.........แม่...!.....พ่อ!”

เขาตะโกนเรียก ควานหาดอกมะลิประดิษฐ์ตรงหัวนอนที่อุตส่าห์ทำในคาบเรียนคว้าติดมือไปด้วยแล้วผลุนผลันลงจากฟูกนอนซึ่งปูอยู่บนพื้นและไฟเริ่มลามมาถึง ทว่าขยับไปได้เพียงไม่กี่ก้าวเศษไม้ติดไฟก็ร่วงลงมาอีก ร่างเล็กกระโดดหลบไปด้านข้าง หลังกระแทกเข้ากับผนังห้องซึ่งมีไฟลุกท่วม เปลวไฟลามมาติดเสื้อแผดเผาผิวเนื้อบนแผ่นหลังจนทรมานถึงกับยืนไม่อยู่

เขาน้ำตาไหล ทิ้งตัวลงไปกลิ้งอยู่บนพื้น อยากส่งเสียงกรีดร้องแต่กลับมีเพียงเสียงไอปนกับสำลักแทบขาดใจออกจากปาก

“ปิ่นหยก!!”


ในลานสายตาซึ่งเริ่มพร่าเลือน เขามองเห็นใบหน้าเปื้อนน้ำตาของแม่

เธอกระชากเสื้อที่ยังติดไฟออกจากตัวเขา ความรู้สึกปวดแสบปวดร้อนบนแผ่นหลังแล่นปราดขึ้นมาจนน้ำตาร่วงผล็อย เผลอสะอื้นออกมาโดยไม่มีเสียง

“ปิ่นหยก...ปิ่นหยก!! ไม่เป็นไรนะลูก แม่มาแล้วคนดี”
เธอพร่ำบอกเสียงสั่นพร่า อุ้มร่างลูกชายขึ้นแนบอกแล้วเอาผ้าชุบน้ำปิดจมูกและปากของเขาไว้ หันรีหันขวางหาทางออกท่ามกลางกองเพลิงบ้าคลั่งที่โหมกระหน่ำอยู่รอบกาย

เขาอยากถามแม่ว่าพ่ออยู่ไหน ทำไมจึงไม่ได้มาด้วยกัน จำได้ราง ๆ เพียงว่าเมื่อคืนก่อนเข้านอนพ่อบ่นว่ารู้สึกไม่ค่อยสบาย หายากินแล้วก็บอกว่าจะขอนอนแต่หัวค่ำ ตอนนี้จะคงจะตื่นแล้วใช่ไหม

ในหัวมึนงงเคว้งคว้างไปหมดราวกับอากาศที่หายใจเข้านั้นไปไม่ถึงปอด น้ำตาไหลพรั่งพรูลงมาไม่ขาดสาย เจ็บปวด..ทรมานจนแทบไม่สามารถคงสติไว้ได้ ท่ามกลางเปลวไฟร้อนระอุ เขาไม่รู้ตัวว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไรนับตั้งแต่ตื่นขึ้นมาจนแม่อุ้มร่างเขามาถึงนอกบ้านได้ในที่สุด

ข้างนอกนั้นแสงอาทิตย์เริ่มจับกลีบเมฆ สีส้มอบอุ่นของรุ่งอรุณทาบทอบนผืนฟ้า เชื่อมกับสีแดงฉานโชติช่วงจากกองเพลิงบนพื้นดินด้วยกลุ่มควันโขมงน่าพรั่นพรึง เสียงตะโกนดังอื้ออึงไปทั่วอาณาบริเวณจับใจความได้คร่าว ๆ ว่าพ่อของเขายังติดอยู่ในบ้าน แต่สิ่งที่ชัดก้องอยู่ในหูคือเสียงหอบหายใจหนัก ๆ ของแม่ซึ่งค่อยวางร่างเขาลงอย่างเบามือ


....เช้าแล้ว


เช้าวันแม่


คุณครูย้ำนักย้ำหนาก่อนปล่อยเด็ก ๆ กลับบ้านว่าอย่าลืมกราบที่ตักแม่ แล้วมอบดอกมะลิที่ทำเองในคาบเรียนให้กับเธอ เปิดเรียนมาจากวันหยุดทุกคนจะมีเรื่องมาเล่าหน้าชั้นเรียน

ดอกมะลิกระดาษซึ่งถูกกำแน่นจนยับยู่ยี่ในมือเขายังไม่ได้มอบให้เธออย่างที่ตั้งใจ
ได้ยินเสียงกระซิบข้างหูว่า “แม่รักลูก...แม่รักลูกที่สุด” ก่อนเธอจะก้มลงจูบหน้าผากเขาทั้งน้ำตา เขม่าควันเกรอะกรังบนใบหน้า  จากนั้นวิ่งหายกลับเข้าไปในกองเพลิงท่ามกลางเสียงร้องห้ามของผู้คน


เขายังไม่ได้พูดว่า ‘รักแม่ที่สุดเหมือนกัน’




และจะไม่มีวันได้พูดอีกแล้ว


.

.

.

.

“......แม่....แม่ครับ.........พ่อ.............”

เด็กชายตื่นขึ้นมาเพราะความรู้สึกชื้นแฉะบนผิวหน้า เปลือกตาบวมช้ำลืมขึ้นมาก็เห็นเจ้าตูบสีน้ำตาลไม่มีเจ้าของกำลังเลียที่ข้างแก้มเขา ดวงจันทร์กลมโตลอยอยู่เหนือศีรษะบอกให้รู้ว่าคงอีกนานกว่าจะเช้า เขาไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่ามาหลับอยู่ข้างถังขยะนี่ตั้งแต่เมื่อไร

ความฝันนั้นหลอกหลอนเขามาตลอดเวลาหลายเดือน ทุกรายละเอียดยังชัดเจนเหมือนกับเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน ภาพมือและแขนที่ถูกไฟเผาจนกลายเป็นสีดำซึ่งยื่นออกมาจากผ้าคลุมของหน่วยกู้ภัยติดตาจนตอนนี้

เขาไม่มีโอกาสได้เห็นร่างใต้ผ้าคลุม แต่ด้วยอายุแปดปีนั้นมากพอจะรับรู้ได้ไม่ยากว่าที่เห็นอยู่ตรงหน้าเรียกว่า ‘ความตาย’ สิ่งสุดท้ายในความทรงจำของวันนั้นคือตัวเขาเองที่กรีดร้องออกมาด้วยเสียงแหบพร่าแทบขาดใจก่อนสติจะดับวูบ


..แผลไฟไหม้บนหลังได้รับการรักษาหายดีแล้ว ทว่าความเจ็บปวดบางอย่างยังกรีดย้ำซ้ำไปซ้ำมาอย่างเลือดเย็นที่ไหนสักแห่งซึ่งตามองไม่เห็น

ปิ่นหยกลุกขึ้นนั่งพิงถังขยะ ความเย็นจากหยดน้ำตาที่ร่วงหล่นลงบนขาจึงทำให้ได้รู้ว่าความรู้สึกชื้นแฉะบนใบหน้าไม่ใช่เพียงแค่จากน้ำลายสุนัขจรจัดนั่นอย่างเดียว  และเพียงลมหนาวพัดผ่านมาหนึ่งวูบก็ราวกับมันได้ทำลายทำนบที่เก็บกลั้นความรู้สึกเจ็บปวดจนต้องสะอื้นไห้ออกมาในความเงียบงัน

.

.

.

.

“มึงจะทำตัวเนรคุณอีกนานไหม!!?”

เขาสะดุ้งตื่นในจังหวะที่ถูกกระชากคอเสื้อจนตัวลอยขึ้นจากพื้น

“.....ลุง....”

“ยังจำลุงมึงได้ด้วยเหรอไอ้เด็กเลว!! เลี้ยงเสียข้าวสุก!!!”

แสงแดดแยงตาจนต้องขมวดคิ้วมุ่น กลิ่นสุราฉุนกึกระคายจมูก วันนี้ลุงก็ยังเมาแต่เช้าเหมือนทุกที... ไม่สิ...ลุงเมาตลอดเวลาที่ยังตื่น รอยม่วงช้ำเป็นจ้ำตามตัวซึ่งยังไม่หายดีสอนให้เขาสงบปากสงบคำและพยายามทำตัวว่าง่าย หากโชคเข้าข้างก็อาจจบลงแค่ลงไม้ลงมือนิดหน่อยแล้วปล่อยให้เขาไปเตรียมอาหารรอที่บ้าน

“กูเสียพนันเพราะมึงนี่แหละไอ้ตัวซวย!!”

ปิ่นหยกหลับตา คอเสื้อถูกเขย่ารุนแรงจนทั้งหัวโคลงเคลงไปหมด บางทีก็อดคิดไม่ได้ว่าเขาไม่มีญาติคนอื่นจะรับไปเลี้ยงอีกแล้วหรืออย่างไรถึงต้องมาอยู่กับลุงที่ทั้งติดเหล้าและผีพนันเข้าสิงแบบนี้

“วันนี้กูจะไปแก้มือ มึงเตรียมข้าวปลาเอาไว้รอ”
เขาว่าแล้วเหวี่ยงร่างผอมบางนั้นกระแทกถังขยะแล้วล้มลงบนพื้น เข่าครูดไปกับก้อนหินแถวนั้นจนเลือดซิบ แต่นี่นับว่าโชคดียิ่งกว่าโชคดีแล้ว

เด็กชายยันกายลุกขึ้นยืน รีบหันหลังวิ่งกลับบ้าน ได้ยินเสียงลุงตวาดไล่หลัง
“ถ้ายังทำตัวไร้ประโยชน์กูจะเอามึงไปขายเอาเงินใช้หนี้ ไหน ๆ อยู่แม่งก็เป็นสวะ!!”



ปิ่นหยกทำเป็นไม่ได้ยิน

เขาไม่รู้ว่า ‘ขาย’ ที่ว่าคืออะไร แต่มันไม่ใช่ความรู้สึกว่าเป็นเรื่องดีเอาเสียเลย


..............................................................


..................................

.

.

.

.


....ถ้าแม่ฟังอยู่....ไม่ว่าแม่อยู่ไหน ไม่ว่าแม่เป็นใคร

...ช่วยส่งรักกลับมา....


ใครกันช่างเปิดเพลงเศร้าขนาดนี้ในวันแม่


.....ถ้าแม่ฟังอยู่ คิดถึงหนูหน่อยนะ....

หนูขอสัญญาว่า....หนูจะเป็นเด็กดี



หนึ่งปีมาแล้ว...และเขายังมีชีวิตอยู่


ปิ่นหยกเผลอร้องเพลงตามเบา ๆ นัยน์ตาเหม่อลอยออกไปไกลที่เส้นขอบฟ้า รอยตบบนใบหน้ายังเจ็บแปลบแต่นั่นไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไร

ดอกมะลิข้างบ้านส่งกลิ่นหอมเย็นในยามพลบค่ำ แต่กลิ่นนั้นกลับมีแต่จะยิ่งตอกย้ำว่าอะไรที่จากไปแล้วจะไม่มีวันหวนกลับมาอีก
เขาฟุบหน้าลงกับหัวเข่าที่มีแต่รอยเขียวช้ำ ปล่อยน้ำตาร่วงหล่นโดยไม่คิดจะเช็ดและนั่งร้องไห้อยู่อย่างนั้นจนดวงตะวันลับหายผ่านม่านเมฆ เหลือเพียงแสงสีส้มจางเพียงชั่วครู่ก่อนความมืดจะโรยตัวลงเงียบงัน

ค่ำคืนเริ่มต้น และอีกไม่นานก็จะจบลง แต่ทำไมเขาจึงไม่เคยรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงวันและคืนอย่างที่ควรจะเป็นได้อีกเลยตั้งแต่เช้าวันนั้นเมื่อหนึ่งปีก่อน  ดวงอาทิตย์ที่เขาเฝ้าโหยหา....แสงสว่างที่ส่องถึงทุกสิ่ง....แต่เมื่อไหร่กันแสงนั้นจึงจะส่องมาถึงเขาที่ยืนอยู่ในความมืดมนนี้ได้บ้าง


เด็กชายก้มหน้านิ่ง หมดแรงแม้แต่จะส่งเสียงสะอื้น หากเขาปล่อยให้ตัวเองร้องไห้ไปเรื่อย ๆ อย่างนี้ น้ำตาอาจจะเหือดแห้งไปได้ในที่สุด ซึ่งคงเป็นเรื่องดี


ปิ่นหยกเกลียดความอ่อนแอนี้


เขาสัญญากับตัวเอง.....ขออีกแค่ครั้งเดียวเท่านั้น 


แล้วจากนี้ไปเขาจะไม่ร้องไห้อีกแล้ว

.

.

.

.

นอกจากเรื่องลงไม้ลงมือ และหนี้สินที่พอกพูนมากขึ้นจากการพนัน ลุงยังคงพูดเรื่องจะเอาเขาไปขายอยู่เรื่อย ๆ ...และปิ่นหยกไม่เคยเข้าใจ ผ่านไปเกือบสองปี เขายังเอาตัวรอดอยู่ได้ เจ็บเนื้อเจ็บตัวหนักบ้างเบาบ้าง


แต่ไม่เคยร้องไห้อีกนับจากนั้น


เด็กชายไปขอรับจ้างทำงานในละแวกบ้านไม่เกี่ยงหนักหรือเบา เขาเพียงอยากพึ่งผู้เป็นลุงให้น้อยที่สุด และทุกครั้งที่ลุงเมาอาละวาดกลับมาบ้าน เขาเรียนรู้ว่าหากมีเงินให้ได้บ้างก็จะไม่ต้องโดนซ้อมมากนัก มีแต่ระยะหลังซึ่งเริ่มหนักมือขึ้นเรื่อย ๆ  หนี้พนันของลุงพอกพูน มีเจ้าหนี้มาขู่และยึดข้าวของจากบ้านไปหลายครั้ง ....และเขารู้สึกว่าลุงใช้ยาเสพติด


เศษเงินเหรียญที่เพิ่งได้เป็นค่าจ้างจากการทำงานบ้านกลิ้งหลุดมือหล่นลงไปในน้ำครำเน่าเหม็น จะตะครุบไว้แต่ก็ไม่ทัน


“ทำอะไรน่ะไอ้เปี๊ยก”
ลูกชายร้านก๋วยเตี๋ยวซึ่งอายุมากกว่าเขาราวสามสี่ปียืนมอง ลักษณะค่อนไปทางพวกมีอันจะกิน ผิวขาว หน้าตี๋ ในมือหิ้วถุงขนมจากร้านสะดวกซื้อชื่อดัง

“เงินหล่น”  เขาเอ่ยโดยไม่ได้เงยหน้าขึ้นมอง สองมือเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบโคลนจากแอ่งน้ำที่เอามือลงไปควาน

“สกปรกหมดแล้วมึง”

“อือ”

“ได้กินอะไรมั่งยังวะเนี่ย แห้งเหี่ยวเป็นเด็กขาดสารอาหาร”

“กินแล้ว”
เขาโกหก สิ่งสุดท้ายที่ตกถึงท้องคือน้ำจากก๊อกเมื่อคืนนี้
เก็บเงินมาได้เกือบครบแล้ว เหลือเหรียญห้าบาทอีกเหรียญที่ยังหาไม่เจอ เขาก้มหน้าก้มตาและเห็นว่าขาทั้งสองข้างของอีกคนก็ยังไม่ได้ขยับไปไหน

“กูให้”

เสียงนั้นเรียกให้ปิ่นหยกเงยหน้าขึ้นมอง ขนมปังห่อหนึ่งถูกส่งมาในระดับสายตา

“เตี่ยชมมึงว่ะ บอกว่าตั้งใจทำงานดี”  อีกฝ่ายพักดูดน้ำอัดลมในมือแล้วพูดต่อ “เอาไว้มาทำงานอีกดิ กูขี้เกียจโดนเตี่ยใช้”

เขามองขนมปังห่อนั้น แล้วเลื่อนสายตาไปยังใบหน้าผู้เป็นเจ้าของคล้ายจะถามว่าให้จริง ๆ หรือ 
“ไม่มีตังค์จ่ายนะ”

“กูบอกว่าให้ ไม่ได้ขาย สมองไม่ได้รับสารอาหารเลยโง่สินะ”

โลกไม่ได้เลวร้ายไปเสียทีเดียว

“เตี่ยนับถือเทพเจ้าแห่งเงินตราอะไรไม่รู้ มึงลองบูชาดูมั่งสิเผื่อจะรวย”
อีกฝ่ายพูดติดตลกก่อนจะเดินจากไป ถ้อยคำนั้นลอยผ่านหู เขาไม่รู้จักเทพเจ้าแห่งเงินตราอะไรนั่นและตอนนี้ก็มัวแต่สนใจขนมปังที่เพิ่งได้รับมา ครู่ใหญ่กว่าปิ่นหยกจะรู้ตัวว่าควรพูดอะไรบ้าง หันหลังมองก็พบว่าคนที่เพิ่งเดินออกไปยังไม่ทิ้งระยะห่างมากนัก

“....ข...ขอบคุณครับ!”

เด็กหนุ่มคนนั้นโบกมือกลับมาเป็นเชิงรับรู้โดยไม่ได้เหลียวหลัง


...........................................

.......................

.

.

.

.


สภาพภายในบ้านเริ่มย่ำแย่ ตอนนี้แทบไม่เหลือข้าวของเครื่องใช้อะไรอีกแล้ว ถ้าไม่ถูกลุงเมาทำพังก็โดนยึดไปเสียเกือบหมด

“ครับ ๆ พรุ่งนี้เลยก็ได้ครับ”
เสียงลุงคุยโทรศัพท์อยู่หน้าบ้านท่าทางพินอบพิเทาผิดปกติแม้อีกฝ่ายคงมองไม่เห็นผ่านสัญญาณโทรศัพท์  “ไม่เคยมาก่อนครับเสี่ย หลานผมเอง หน้าตาจิ้มลิ้ม จับขัดสีฉวีวรรณหน่อยรับรองว่าเสี่ยต้องชอบ”

ปิ่นหยกสะดุดใจตรงคำว่า ‘หลานผมเอง’


ลุงมีหลานคนอื่นอีกไหม.......?

.

.

.

v

v

v

v
(ยังมีต่อค่ะ)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-10-2012 18:02:26 โดย RAINYDAY »

ออฟไลน์ RAINYDAY

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1247/-5
    • FB page
ตอนพิเศษ – ถ้าแม่ฟังอยู่(2)



เขาได้รู้ในเวลาไม่นานหลังจากนั้น ว่า ‘ขาย’ ที่ลุงมักพูดถึงคืออะไร



ห้องสี่เหลี่ยมคับแคบที่ถูกผลักส่งเข้ามามีเพียงเตียงและโต๊ะเก้าอี้อีกหนึ่งชุดวางอยู่ บรรยากาศทะมึนและกลิ่นสาบปนกลิ่นคาวจาง ๆ รอบตัวทำให้เขาหนาวยะเยือกขึ้นมา นี่ไม่ใช่อย่างที่คิดเอาไว้เลยสักนิด

“มาตรงนี้”
ชายวัยกลางคนที่นั่งรออยู่ก่อนแล้วกวักมือเรียก บนโต๊ะมีแก้วเหล้าวางอยู่ ข้างกันเป็นน้ำสีอำพันที่เหลืออยู่ในขวดเพียงครึ่งหนึ่ง จากแววตาฉ่ำเยิ้มน่าขนลุกที่เห็นพอเดาได้ว่าอีกฝ่ายคงดื่มไปไม่น้อย สายตาน่ารังเกียจพิศมองร่างเล็กตรงหน้าตั้งแต่หัวจรดเท้า ก่อนรอยยิ้มพึงใจจะลากผ่านแนวริมฝีปาก
“ชื่ออะไร”

มือใหญ่กร้านเลื่อนมาแตะแถวเอวแล้วเลื่อนต่ำลงมาที่สะโพกเป็นเชิงเร่งรัดจนเขาเผลอสะดุ้งสุดตัว
“ได้ยินที่ถามไหม หืม..?”

“...ป...ปิ่นหยก...” คำตอบถูกส่งไปตะกุกตะกัก

“ชื่อเพราะนี่”  ริมฝีปากสีคล้ำแสยะยิ้ม ใบหน้ายื่นเข้ามาใกล้แต่กลิ่นเหล้าและบุหรี่ฉุนจัดทำให้เขาถดกายถอยหนี

“ถอดเสื้อผ้าออก”

“.....ถอด?....ทำไม”

“ซื้อแล้วก็ต้องได้เห็นได้ใช้สินค้าไม่ใช่รึไง”
อีกฝ่ายยังคงกรีดยิ้มน่าขนลุก เขาไม่เข้าใจความหมายในประโยคนั้นนัก แต่อะไรบางอย่างในน้ำเสียงกลับดึงความหวาดหวั่นขึ้นมาแล่นพล่านอยู่ทุกรูขุมขน

........กลัว........?

นั่นเป็นสิ่งที่ไม่อยากจะยอมรับ ความก้ำกึ่งระหว่างกลัวและขยะแขยงทำให้ไม่สามารถขยับตัวได้อย่างใจแม้ในขณะที่อีกฝ่ายกระชากแขนเขาเข้าไปใกล้แล้วลงมือปลดกระดุมเสื้อนักเรียนทีละเม็ด...


.....ไม่.....มันไม่ควรเป็นแบบนี้.....

เสื้อเชิ้ตเก่า ๆ มีแต่รอยปะหลุดร่วงจากไหล่ลงไปกองกับพื้น ก่อนที่ใบหน้าอีกฝ่ายจะฝังลงมาแถวกระดูกไหปลาร้า สัมผัสจาบจ้วงนั้นทำให้ทั้งร่างกระตุก เขาร้องห้ามออกมาเสียงสั่น ขยับถอยหลังจนมาติดอยู่ตรงขอบเตียง

“....ม...ไม่.......”

ทว่าไม่มีวี่แววว่าคนตรงหน้าจะหยุด

“.....ปล่อยผม.....ปล่อย!!”

ทั้งร่างถูกผลักหงายลงไปบนเตียง ก่อนอีกฝ่ายจะโน้มตัวตามมาคร่อมไว้ มือใหญ่เลื่อนขึ้นมาตรึงข้อมือทั้งสองข้างของเขา บีบจนแน่นราวกับคีมเหล็กแล้วกดเอาไว้กับเตียง ปลายลิ้นลากผ่านลำคอซึ่งเริ่มยาวระหงของเด็กหนุ่มแรกรุ่น ทิ้งรอยกัดเป็นจ้ำแดงไว้แถวร่องกล้ามเนื้อเป็นแนวพาดผ่านผิวหนังช่วงคอเรื่อยมาจนถึงแผ่นอก

“....ปล่อยผม!!! ไม่เอา.......อย่า.....!!!!”

ปิ่นหยกดิ้นรนอยู่ใต้ร่างใหญ่ ใบหน้าสะบัดไปมาแสดงอาการขัดขืน แรงขบเม้มที่ผิวหนังรุนแรงขึ้นเรื่อยในแต่ละครั้งทำเขาสะอื้นออกมาเบา ๆ  สัมผัสน่าสะอิดสะเอียนจากปลายลิ้นลากไล้ไปถึงยอดอกแล้ววนเวียนอยู่อย่างนั้น พร้อมกับมือหนาข้างหนึ่งที่เลื่อนลงมาอยู่แถวขอบกางเกงของเขา

“...อึก.....ปล่อย....ปล่อยผม..........”


“..................ได้โปรด........”

เข็มขัดถูกกระชากออกจากเอวด้วยมือไม้สะเปะสะปะของคนที่กำลังเมามายได้ที่ ขอบเข็มขัดบางส่วนครูดไปกับเนื้อบริเวณนั้นจนเกิดรอยแดงเป็นทางเรียกเสียงร้องเจ็บปวดออกมาจากริมฝีปากสั่นระริก

“โอ๊ย!!”

....ไม่....เขาไม่ยอมให้เป็นแบบนี้...


.......ไม่เอา.......ไม่.......ไม่!

ปิ่นหยกสูดลมหายใจเข้าลึก หลับตาแน่น สะบัดร่างเร่าอยู่ข้างใต้
หากรอดจากที่ตรงนี้ไปได้ เขาจะหนีออกจากบ้าน ไปให้ไกลจากลุงที่กล้าขายเขา หนีไปจากสถานที่โสมมเหล่านี้แล้วไม่กลับมาอีก


....หากรอดจากที่ตรงนี้ไปได้....


“ไอ้สัตว์นรก!!!”


เขารวบรวมเรี่ยวแรง เหวี่ยงขาสองข้างแล้วแทงเข่าไปตรงเป้ากางเกงของอีกฝ่ายที่คร่อมอยู่ ครั้งแรกพลาดไป...แต่เขาจะไม่ยอมอีกแล้ว


“ร้ายนักนะมึง!”

ร่างนั้นเสียหลักไปเพียงเล็กน้อย มือที่ตรึงข้อมือเขาไว้คลายกำลังลงโดยไม่รู้ตัว และปิ่นหยกเห็นโอกาสจากจังหวะนั้น
...ขอแค่โชคเข้าข้างเขาอีกสักครั้ง ถ้าเทพเจ้าแห่งเงินตราหรือสิ่งบ้าบออะไรสักอย่างเห็นว่าเขายังควรมีชีวิตอยู่ต่อ...

เขาสะบัดมือเต็มแรงเพียงครั้งเดียวก็หลุดจากการเกาะกุม  ฉวยเอาขวดเหล้าข้างโต๊ะมาได้ในเวลาแค่เสี้ยววินาที




เพล้ง!!!!!!




น้ำอำพันไหลลงปนกันสีแดงฉานของเลือดที่ทะลักออกจากปากแผลกลางศีรษะหยดย้อยลงมาถึงหัวคิ้วอาบลงจนทั่วใบหน้าหยาบกร้าน เศษแก้วที่กระเด็นร่วงหล่นตามลงมาบาดเข้าตรงนั้นตรงนี้เป็นหย่อม ๆ บางส่วนกระเด็นมาทิ่มบริเวณหน้าอกของเขาเป็นขีดแดงมีเลือดไหลซึม เจ้าของร่างใหญ่ที่เพิ่งถูกขวดแก้วฟาดลงไปบนศีรษะโงนเงนไปด้านข้างแต่ยังไม่ถึงกับหมดสติ

และนั่นเพียงพอแล้วสำหรับโอกาสหนีของเขา

ปิ่นหยกกระโจนลงจากเตียง เหยียบลงบนเศษแก้วซึ่งกระจายอยู่บนพื้นเข้าเต็มเท้า ความเจ็บที่แล่นริ้วขึ้นมาทำเขาถึงกับกลั้นหายใจแล้วกัดฟันวิ่งหนีออกจากห้อง ทิ้งรอยเลือดจากบาดแผลไว้เป็นทาง


.....อย่าร้องไห้......


......เขาจะไม่ร้องไห้อีกแล้ว......



ตลอดทางเดินมืดทึมนั้นไม่มีใครอยู่ แสงอาทิตย์ที่สาดส่องอยู่ตรงปากทางออกอยู่ใกล้ราวกับจะเอื้อมมือไปคว้าไว้ได้ ขอเพียงข้ามผ่านประตูนั้นออกไป ได้ยืนอยู่กลางแสงแดดอีกครั้ง เขาจะไม่กลับมาเหยียบที่นี่อีกชั่วชีวิต....

.

.

.

น่าเศร้าที่ทุกอย่างไม่ได้สวยหรูเหมือนในนิทานเด็กเสมอไป


“......ลุง!!!?”

ผู้เป็นลุงทำหน้าถมึงทึง สายตาไล่มองสภาพเขาซึ่งเปลือยท่อนบน มีทั้งบาดแผลจากเศษแก้วและรอยจูบอยู่เต็มเนื้อตัว กางเกงนักเรียนหลวม ๆ ยังเกาะบนเอวแต่เข็มขัดไม่อยู่แล้ว เลือดซึ่งไหลเป็นทางจากฝ่าเท้าซ้ายคงทำให้ลุงเข้าใจได้ไม่ยากนักแม้จะยังอยู่ในฤทธิ์สุราหรือสารเสพติดอะไรสักอย่างว่าการที่เขาออกมาไม่ได้เกิดจากความยินยอมพร้อมใจของลูกค้าที่ลุงขายเขาไป

“มึงทำเหี้ยอะไรเสี่ย!?”

“ฆ่าทิ้งไปแล้ว”
เขาสวนทันควัน ทั้งที่ความจริงยังห่างไกลจากคำว่าฆ่านัก ตอนนี้เสี่ยนั่นอาจจะแค่นอนสลบไม่ได้สติอยู่บนเตียงเท่านั้นเอง


เขาเพียงอยากประกาศ ....ทำตัวอวดดีว่าจะไม่ยอมลุงอีกแล้ว


“มึงมันชั่ว!!!! เงินกูยังได้จากเสี่ยไม่ครบเลย!!! ไอ้เด็กนรก!!!!!!”

เสียงคำรามลอดไรฟันของลุงทำให้เขาเกิดกลัวขึ้นมา มีเวลาให้นึกเสียใจในความปากพล่อยของตัวเองเพียงเสี้ยววินาที ก่อนสายตาจะเหลือบไปเห็นมีดมาเชเต้ในมือคนตรงหน้า ลุงหิ้วมันมาในที่แบบนี้คงตั้งใจจะมาเฝ้าเขาไว้เหมือนรู้ว่าคงคิดจะหนี

ร่างใหญ่ย่างสามขุมเข้ามา ใบหน้าแดงด้วยความโกรธเกรี้ยวจนแทบระเบิด ปิ่นหยกก้าวกะเผลกถอยหลัง... ระยะมีดซึ่งยาวราวสิบแปดนิ้วนั้นน่ากลัวทีเดียวโดยเฉพาะเมื่อมันอยู่ในมือคนเมาที่กำลังบันดาลโทสะ

แผลที่ฝ่าเท้าเจ็บแปลบ เศษแก้วคงยังค้างอยู่ในแผลจึงปวดร้าวขึ้นมาทุกทั้งที่ลงน้ำหนักแม้เพียงเล็กน้อย ในสภาพปกติเขามั่นใจว่าตัวเองวิ่งเร็วกว่าลุง แต่ตอนนี้ไม่มีความมั่นใจเช่นนั้นหลงเหลืออยู่แม้สักนิด มีดนั่นยาวพอจะฆ่าคนได้ และเขาไม่คิดอยากใช้ตัวเองเป็นเครื่องพิสูจน์

“....ลุง....”

“ไม่ต้องมาเรียกกูว่าลุง!!!”

เขาสะดุ้ง แววตาของลุงมีแต่ความเคียดแค้นชิงชังไม่ต่างจากน้ำเสียง


.....แววตาที่เหมือนอยากจะฆ่าให้ตายเสียตรงนั้น.....





....อย่าร้องไห้....


ปิ่นหยกย้ำกับตัวเอง กล้ำกลืนก้อนสะอื้นซึ่งจุกอยู่ที่คอและความปวดหนึบจากบาดแผล ก่อนจะหันหลังแล้วออกวิ่ง ...วิ่งด้วยแรงทั้งหมดที่มี

เสียงเอ็ดตะโรดังตามหลัง ทั้งหมดเป็นถ้อยคำอาฆาตมาดร้ายเรื่องที่เขาไม่สามารถทำประโยชน์ด้วยการเอาตัวเองไปแลกเป็นเงินมาให้ลุงใช้หนี้ได้


เขาเจ็บแปลบที่เท้า ....แต่มากกว่านั้นคือที่ใจ



ฉัวะ!!!!




“!!!!!”






เขาเกลียดขาตัวเองเหลือเกิน


.....ทำไมกับแค่ถูกเศษแก้วบาดจึงวิ่งให้เร็วกว่านี้ไม่ได้ ทำไมแค่ถูกฟันที่หลังแต่กลับก้าวขาต่อไปไม่ได้.... ทำไมแค่ความเจ็บปวดเท่านี้ถึงรับน้ำหนักร่างกายไว้ไม่ได้......


“อึก!!”

ร่างผอมบางทรุดลงกับพื้น ปากแผลที่หลังเปิดออกตามแรงของมีดยาวซึ่งฟาดฟันลงมา เลือดแดงสดไหลซึมออกมาจากกล้ามเนื้อและหลอดเลือดที่ฉีกขาด เพียงไม่กี่วินาทีเมื่ออาการชาเริ่มเลือนหายความเจ็บร้าวจึงพลุ่งพล่านขึ้นมาแทน

“...อ...อ๊าาาาาาาาาา.....!!!”


ชายซึ่งถือมีดเปรอะคราบเลือดอยู่ในมือเดินโซเซตามมา ริมฝีปากแสยะยิ้มเยาะ อาการมึนเมาส่งผลให้แม้จะทรงตัวเป็นปกติยังทำได้ไม่ดีนัก แต่ทั้งอย่างนั้นเขาก็ยังหนีไม่ทัน

ปิ่นหยกหอบหายใจหนักหน่วง หัวใจเต้นถี่ทว่าชีพจรแสนจะแผ่วเบา เหงื่อเย็น ๆ ไหลท่วมตัว ภาพตรงหน้าพร่าเลือนเหมือนมองผ่านกระจกฝ้า ...สำหรับเด็กอายุสิบปีอย่างเขา ปริมาณเลือดที่เสียนั้นมากเกินไป

มีดมาเชเต้ในมืออีกฝ่ายถูกเงื้อขึ้นอีกครั้ง คมมีดวาวววับสะท้อนแสงแดดอยู่ตรงหางตา เลือดเขาเองซึ่งติดอยู่บนปลายมีดหยดลงบนใบไม้แห้งสีน้ำตาลจนทั้งใบถูกย้อมเป็นสีแดงฉาน จากมุมเงย..อาวุธนั้นดูคล้ายเคียวของมัจจุราช หากถูกฟันลงมาอีกครั้งทุกอย่างคงจบสิ้นเสียที



....ถ้าความพยายามจะมีชีวิตอยู่ตลอดสองปีของเขาช่างไร้ค่า

เป็นแบบนี้อาจจะดีกว่าหรือเปล่า...?



....แม่ครับ......พ่อครับ.......


.....ปิ่นเหนื่อย.....





ด้านคมของโลหะกรีดชำแรกผิวเนื้อที่แผ่นหลังอีกครั้ง  เสียงเสียดสีระหว่างเนื้อเยื่อของคนและคมมีดบาดลึกในหู เขาอ้าปากกรีดร้อง แต่ไม่มีถ้อยคำใดเล็ดลอดออกมา


...ไม่มีน้ำตาสักหยด... ไม่มีความเจ็บปวดหลงเหลืออยู่อีกแล้ว...



แบบนี้คงดีกว่าจริง ๆ


ร่างผอมบางที่เต็มไปด้วยบาดแผลทิ้งตัวลงบนพื้นพลางระบายลมหายใจรวยริน สายตาซึ่งพร่ามัวไปหมดยังพอมองเห็นร่างของผู้เป็นลุงเดินสะเปะสะปะตรงเข้ามา มีดในมือยกขึ้นคล้ายจะแทงลงอีกครั้ง

ในจังหวะเคลื่อนไหวเงอะงะของคนตรงหน้า ขาที่ควรจะทรงตัวไว้มั่นกลับสะดุดเข้ากับขาของเขาเองซึ่งนอนเหยียดอยู่บนพื้น ส่งผลให้ร่างใหญ่นั้นเซถลาเข้ามาใกล้ทั้งมีดยาวยังกำแน่นอยู่ในมือ หากแต่องศาที่ด้านคมนั้นพุ่งเข้าหากลับไม่ใช่ร่างของเขา..



สวบ!!!



“อร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกก!!!!!!!!”

เสียงกรีดร้องโหยหวนของชายวัยกลางคนดังกึกก้อง เจ้าของมีดล้มคว่ำลงข้างกาย คมมีดปักเฉียงทะลุจากอกด้านซ้ายไปโผล่อีกทางที่ชายโครง...
 
ของเหลวแดงสดบางส่วนกระเซ็นเข้าใบหน้าเขา แต่ละหยาดหยดประกอบจากสารพันธุกรรมซึ่งใกล้เคียงกันของผู้ร่วมสายเลือดตอกย้ำให้นึกอยากแค่นหัวเราะตัดพ้อต่อโชคชะตา นัยน์ตาของลุงที่หันตะแคงหน้ามาทางเขาเบิกค้าง ลมหายใจหอบกระชั้น ไม่มีแม้แต่เรี่ยวแรงจะยกตัวเองขึ้นจากพื้น สัญญาณชีพแผ่วเบา.....และเขาเองก็เช่นกัน....


ปิ่นหยกไม่แน่ใจว่าตัวเองกำลังหลับตาอยู่หรือเปล่า ทุกสิ่งตรงหน้ากลายเป็นสีขาวโพลนไปหมด


ภาพสุดท้ายก่อนสรรพเสียงจะเงียบงัน ...คือร่องรอยเคียดแค้นซึ่งฝังลึกอยู่ในดวงตาเบิกโพลงของลุง



..............................................................


..........................................

.

.

.

.


....ถ้าแม่ฟังอยู่....ไม่ว่าแม่อยู่ไหน ไม่ว่าแม่เป็นใคร...ช่วยส่งรักกลับมา....



วันแม่อีกแล้วหรือ...?


.....ถ้าแม่ฟังอยู่ คิดถึงหนูหน่อยนะ....

หนูขอสัญญาว่า....หนูจะเป็นเด็กดี



กลิ่นดอกมะลิหอมเย็นล่องลอยอยู่ในอณูอากาศ ...แล้วใครกันช่างเปิดเพลงเศร้าขนาดนี้ในวันแม่



“......ปิ่นหยก!”


“แม่?”


หรือเขาตายไปแล้ว?


“ปิ่นหยก...ฟื้นแล้วเหรอลูก...”


......ไม่ใช่......

เพียงแค่ใบหน้าเหมือนกัน....แต่ไม่ใช่แม่


“.........น้าเพชร....?”

ผู้หญิงที่มีใบหน้าพิมพ์เดียวกับแม่ไม่ผิดเพี้ยนโผเข้ามาสวมกอดเขาเอาไว้แน่น ได้ยินเสียงเธอสะอึกสะอื้นอยู่ในอ้อมกอด


.......อุ่น.......


เขาลืมไปแล้วว่าอ้อมกอดของคนที่ยังมีเลือดเนื้อนั้นอุ่นได้ถึงเพียงนี้ และความร้อนจากหยาดน้ำตาของเธอที่ร่วงลงบนไหล่เขาก็ช่วยย้ำเตือนว่าตัวเองยังมีชีวิตอยู่


“....ปิ่นหยก....ปิ่นหยก.........ไม่เป็นไรแล้วนะคนดี.....”


....ลุงตายแล้ว....
เขารู้เพียงเท่านั้น คนตรงหน้าไม่พูดต่อเรื่องผู้ชายคนที่ว่าอีก
 

“......แม่น่าจะพาปิ่นมาอยู่ด้วยกันตั้งแต่แรก.....”
น้ำเสียงนั้นเจือความรวดร้าว ถ้าเพียงแต่เธอจะรู้สักนิดว่าการปล่อยให้ปิ่นหยกไปอยู่กับลุงฝ่ายพ่อนั่นจะทำให้ชีวิตเด็กคนนี้ต้องกลายเป็นอย่างที่เห็น วันนั้นเธอต้องเป็นคนเสนอตัวรับเขามาอยู่ด้วยแม้ตัวเองกำลังอยู่ในช่วงมีปัญหากับชีวิตครอบครัวแน่นอน

ปิ่นหยกกอดตอบ แผลบนหลังยังปวดปร่าทุกครั้งที่ขยับตัว

เขาคิดถึงน้าเพชร ช่วงเวลาสองปีที่ผ่านมาเขาไม่ได้เจอญาติคนอื่นสักคนนอกจากลุง สายตามองเลยไปเห็นจี้หยกซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องที่เดินเข้ามากอดเขาไว้อีกคน ..เวลาผ่านไปเธอเองก็ดูเติบโตขึ้นมากเช่นกัน



“.....เรามาเริ่มต้นใหม่ด้วยกัน.....ไม่ต้องกลัวอะไรอีกแล้วลูกรัก........”



ครั้งนี้จะเชื่อได้ใช่ไหม...?



“......แม่เพชรจะเป็นแม่ให้ปิ่นเอง.....”




น้ำตาที่คิดว่าแห้งหายจากดวงตาทั้งสองไปหมดแล้ว มันมาจากไหนตั้งมากมายอย่างนี้นะ



“...ฮึก...!”


ปิ่นหยกสะอื้นจนตัวโยน





“.........แม่...ครับ....”


เขาไม่รู้ตัวเองว่ากำลังพูดถึงแม่คนไหน.....บางทีอาจจะหมายถึงทั้งสองคน หากเอ่ยเพียงเท่านั้นแล้วก็ทำได้แค่ส่งเสียงร้องไห้ออกมาปริ่มว่าจะขาดใจ ราวกับกำลังชดเชยให้ช่วงเวลาที่เคยเฝ้าย้ำกับตัวเองว่าจะไม่ร้องไห้อีก....








“......ฮือออ...อออ.......ออออ....อ........”







นี่คงเป็นเวลารุ่งสางสำหรับเขาเสียที










ถ้าแม่ฟังอยู่.....คิดถึงหนูหน่อยนะ


...หนูขอสัญญาว่า....หนูจะเป็นเด็กดี.....




..................



....





- จบตอนพิเศษ(ถ้าแม่ฟังอยู่) -






============================



สุขสันต์วันแม่ค่ะ 

สองตอนติดอีกแล้ว (กลัวจะค้าง...แงงง)
หน่วงหน่อย ๆ  เพลงที่เอามาใช้เป็นเพลงที่ฟังทีไรก็น้ำตาจะไหลทุกที  ชื่อเพลง "เรียงความเรื่องแม่" เชื่อว่าน่าจะเคยฟัง
ถ้าไม่เคยลองไปฟังที่นี่ได้ค่ะ http://www.youtube.com/watch?v=ye7G2_PuT2s

*กอดโอ๋ปิ่นหยก* เขียนไปก็สะเทือนใจเอง ลูกเอ๊ยยย TTvTT

ปล. ทำสารบัญแล้ว จะได้เปิดหาตอนเก่าง่าย ๆ อันนี้เลยยย ***สารบัญคลิกที่นี่ค่ะ***



แล้วพบกันตอนหน้า ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านนะคะ :กอด1: :L2: :3123:

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-11-2012 09:44:36 โดย RAINYDAY »

ออฟไลน์ hobazaki

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
โฮว.... ชีวิตปิ่นหยกของแจ้ ไมมันรันทดเยี่ยงนี้ ลุงแม่มก็เลวหาที่เปรียบไม่ได้เลย กล้าที่จะขายหลานแท้ๆ ทั้งเหล้าและการพนันไม่เคยให้ใครได้ดี เลย

กอดปลอบเด็กน้อย คงทั้งเจ็บปวดและขมขื่นใจมากเลยใช้มั๊ยลูก... มาๆๆ มาซุกอกเจามา


ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
น้ำตาไหลเลยอ่ะ  สงสารปิ่นหยกมาก ๆ

ออฟไลน์ kabung

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 468
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-3
 สงสารน้องปิ่นของเจ้ โฮววววววว :monkeysad:

ออฟไลน์ nn~~NN

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1232
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +295/-1
 :z3: :z3: อรั่กก เกิดมายังไม่เคยเจอนิยายแนวเฮฮาที่ใหนมันรันทดขนาดนี้เลยคุณเรนนี่  :z3:
ทุกอย่างมีที่มาจริงๆ ที่ปิ่นงก ที่บูชาเทพเจ้าเงินตรา ที่สู้ชีวิต ที่เพ้ออย่างวันนั้น ....
ต่อไปขอให้น้องพบเจอแต่เรื่องดีๆนะคะ  :m15:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด