Dormitory Boys – สะดุดรัก หอพักอลเวง
“รัก...ติดดิน”
Chapter 30 – มารยา...นี่เล่นเอาเหนื่อยแทบขาดใจปิ่นหยกนั่งหอบพิงกำแพงตรงหัวนอน เป่าระบายลมหายใจผ่านกลีบปากแดงช้ำออกมาหนักหน่วง แผ่นอกเปลือยเปล่าขยับขึ้นลงเป็นจังหวะทุกครั้งเมื่อกอบโกยอากาศเข้าปอด ช่วงเวลาที่ขึ้นไปเดินไต่อยู่บนเชือกเส้นเล็ก ๆ ครั้งแรกของนักกายกรรมผาดโผน ความรู้สึกจะประมาณที่เขาเป็นเมื่อราวครึ่งชั่วโมงก่อนได้หรือเปล่า
เขาปรายตามองผ้าปูที่นอนซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นสีเหลืองสด รอยเลือดซึมอยู่ตรงกลางเป็นดวงโดดเด้งขึ้นมาชัดเจนในความซีดจางของเนื้อผ้าเก่าบ่งบอกอายุการใช้งาน
แต่นั่นไม่ใช่เลือดเขา“ยังเจ็บอยู่ไหม?”
เขาหันไปถามอาทิตย์ซึ่งแผ่อยู่บนเตียงแต่มองไม่เห็นใบหน้าที่หันไปทางอื่น มีผ้าห่มผืนบางพาดปิดเนื้อตัวเอาไว้ตั้งแต่ช่วงสะโพกถึงต้นขา
“ทนได้ ...เลือดหยุดไหลแล้วครับ”
“งั้นขออีกทีนะ”
“......”
เวลาผ่านไปครู่ใหญ่กว่าร่างสูงจะตอบกลับมาเสียงอ่อนระโหย “....จบไปรอบหนึ่งแล้วยังไม่พออีกเหรอ”
เขากรีดยิ้มเหี้ยมเกรียม ขยับตัวเข้าไปใกล้ร่างที่นอนแน่นิ่งโชว์ผิวเนื้อขาวละเอียดซึ่งบัดนี้มีทั้งรอยข่วนและจ้ำเขียวช้ำกระจายอยู่เต็มแผ่นหลัง ขนาดเขาก้มลงไปเป่าลมร้อนผ่าวตามด้วยงับเบา ๆ ตรงใบหูก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะกระดิกตัว นึกสนุกจึงบรรจงประดิษฐ์เสียงเย็นเยียบกระซิบข้างหู...
“ยังว่ะ”
และเขาเห็นมันสะดุ้ง
แม้จะสะใจเป็นบ้าแต่ก็ต้องยอมรับว่าเกือบเสียท่าไปแล้ว ปกติเขาไม่ชอบอะไรครึ่ง ๆ กลาง ๆ นักหรอก แต่ครั้งนี้คำว่า ‘เกือบ’ ทำให้รู้สึกโล่งใจเหมือนยกเล้าไก่ออกจากอก
ปิ่นหยกลุกขึ้นหยิบเสื้อยืดบนพื้นขึ้นมาสวมแล้วคลานกลับขึ้นที่นอน เหลือบมองร่างสูงซึ่งไม่รู้ว่าสลบเหมือดไปแล้วหรือแค่นอนช้ำใจเอาหน้าตะแคงซบหมอนก็อดขำไม่ได้ ลองยื่นนิ้วหัวแม่เท้าไปเขี่ยสีข้างให้จักจี้เล่นจนอีกฝ่ายบิดตัวหนีจึงได้รู้ว่ายังไม่น็อคเอาท์เสียทีเดียว
...หรือควรจะเอาให้สลบเลยดี เป็นการประกันว่าเขาจะรักษาอธิปไตยของตัวเองได้ตลอดรอดฝั่งในอีกครึ่งคืนที่เหลือ
“อาทิตย์....” เขาเอ่ยเสียงนุ่ม
“ไม่ต่ออีกจริงดิ”
“ปิ่นหยกจะฆ่าผมเหรอครับ”
มุมปากซ้ายยักยิ้มพึงใจกับผลงาน นึกถึงประโยคเด็ดในหนังจีนว่าสิบปีแก้แค้นไม่สาย แต่ระดับนี้แล้วไม่ต้องรอถึงสิบปีก็ได้ ในเมื่อใจดีจนเหลิงยังไม่รู้จักเจียมเขาก็พร้อมจัดหนักกลับไปให้รู้ว่าเป็นแค่ลูกเจี๊ยบน้อยอย่าทำได้ใจให้มากนัก
ครั้งนี้เขาได้ฟันมันแล้วจริง ๆ
ช่วยไม่ได้...ก็มันนั่นแหละผิด...............................................
................................
.
.
.
.
เมื่อราวครึ่งชั่วโมงก่อน“...ไอ้ลูกเจี๊ยบ...หยุ--! อ๊ะ!”
อย่างน้อยถ้ามันจะหยุดหื่นสักหน่อยแล้วฟังเขาพูดให้จบประโยค
“อือ....ปากนิ่มเวอร์...”
เสียงทุ้มของอาทิตย์พึมพำในจูบ ยิ่งกดน้ำหนักลงไปก็ยิ่งอยากได้มากกว่านั้น หากจะมีรสอื่นที่เขาชอบมากกว่ารสวานิลลาก็คงเป็นความหวานละมุนเมื่อปลายลิ้นเกี่ยวกระหวัดกันกับคนตรงหน้านี้เอง
มือใหญ่ลากผ่านผิวเนื้อร้อนผ่าวจากเอวบางสอดเข้าไปใต้เสื้อยืด ไล้ไปตามรอยนูนของแผลเป็นซึ่งพาดอยู่กลางแผ่นหลังของปิ่นหยก สัมผัสที่ไม่ได้ราบเรียบไปกับฝ่ามือเสียหมดให้ความรู้สึกวาบหวิวรุมเร้าจนใจเต้นระรัวอย่างน่าประหลาด..
เขาเลื่อนใบหน้าออกมาด้านข้าง ริมฝีปากละออกมาอย่างแสนเสียดายจากที่แนบสนิทกันอยู่ก่อนจะย้ายมาอ้อยอิ่งตรงมุมปากซึ่งถูกบดเบียดจนเริ่มแดงช้ำแล้วบรรจงพรมจูบไปตลอดแนวสันกราม ได้ยินเสียงอีกฝ่ายครางออกมาหวามไหวยิ่งชวนให้รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังเมามายขึ้นมาอีกครั้ง ปลายนิ้วออกแรงเค้นคลึงเป็นวงเบา ๆ อยู่แถวบาดแผลเก่าซึ่งกลายรอยตำหนิขนาดใหญ่และจะคงอยู่อย่างนั้นไปชั่วชีวิตคล้ายจะย้ำเตือนให้เห็นถึงความไม่สมบูรณ์แบบของร่างกายเลือดเนื้อมนุษย์
...ความไม่สมบูรณ์แบบบนร่างกายของปิ่นหยกเขาถอดเสื้อตัวเองออกแล้วโยนทิ้งไม่แยแส ตามด้วยเสื้อยืดเก่าจนคอเสื้อย้วยไปหมดของปิ่นหยกที่ถูกเขาดึงออกผ่านศีรษะอย่างรวดเร็ว สังเกตอย่างตั้งใจในระยะประชิดจึงเห็นว่าผิวเนื้อบนอกเปลือยเปล่าตรงหน้าก็ยังมีรอยแผลเป็นจุดเล็กจุดน้อยกระจายอยู่เพียงแต่อาจจะไม่ชัดเจนเหมือนที่แผ่นหลัง หางตามองเห็นปิ่นหยกที่หน้าแดงซ่าน....ความจริงคือแดงไปทั้งตัวแล้วตอนนี้....มองมาอย่างคาดโทษ ก่อนที่เขาจะโน้มใบหน้าลงจุมพิตแผ่วเบาบนหนึ่งในแผลเป็นมากมายเหล่านั้น
“...สวยครับ” ....เขาหลงรักทั้งหมดนั่น รักในความไม่สมบูรณ์พร้อม...
ในแต่ละรอยตำหนิบนร่างกายที่เป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวจนกลายเป็นปิ่นหยกอย่างทุกวันนี้...
“.....อา....อาทิ--! อะ!”
ปิ่นหยกยกมือตะครุบปากตัวเอง นี่แย่แล้วจริง ๆ แค่จะส่งเสียงเรียกชื่ออีกฝ่ายให้ชัดเจนแบบไม่มีเสียงน่าอายอย่างอื่นเล็ดลอดออกมาด้วยยังทำไม่ได้ เผลอหลับตาปี๋ไปทีเดียวอาภรณ์ท่อนล่างก็ถูกดึงรูดลงไปค้างอยู่ที่หัวเข่าไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไร
“เฮ่ย!!!” ถึงกับร้องเสียงหลง เข่าชันขึ้นปกปิดจุดซ่อนเร้นโดยอัตโนมัติ เกร็งขาเต็มที่ยื้อยุดกับแรงดึงจากมือใหญ่ที่พยายามจะกดขาเขาให้เอียงออกด้านข้างด้วยองศาที่ล่อแหลม เวลาอื่นทำเป็นเอื่อยเฉื่อยเหมือนเครื่องใช้แบตเตอร์รี่อ่อน แต่ทีเรื่องหื่นกามแบบนี้ทำไมถึงได้ไวนัก
“ถอดทำพร่องเหรอ!!”
เขาโวยลั่น เอื้อมมือหมายจะกระชากกางเกงแถวหน้าแข้งให้มาอยู่ในตำแหน่งที่ถูกที่ควร ความพยายามสุดใจขาดดิ้นกลับยิ่งดูทุลักทุเลเมื่อต้องแข่งกับไอ้คนถอดซึ่งคอยจะดึงมันลงมาอีก ยังไม่นับเรื่องหักลบความเสียเปรียบที่ต้องคอยระมัดระวังไม่ให้ท่อนขาพับลงตามแรงกดหนักหน่วงจนอะไร ๆ มาปรากฏต่อสายตายิ่งทำให้ความหวังจะรอดริบหรี่จนแทบมองไม่เห็น
“เลิกเล่นได้แล้--!! อ๊ะ......!”
วันนี้กรูจะได้พูดเป็นประโยคกับเขาบ้างไหม!?
“ก็ไม่ได้เล่นเสียหน่อย”
และมันควรจะมีวิธีปิดปากอย่างอื่นที่เข้าท่ากว่าจูบนะ
“......อ...อืออ....อ.............”
....ร้อนไปหมด.......ลิ้นที่ไม่ใช่ของตัวเองซึ่งกวาดต้อนเขาอยู่ในปากตอนนี้ก็ร้อน แต่ผิวเนื้อแถวอกถูกฝ่ามือหนาสัมผัสยิ่งร้อนผ่าวราวกับจะลุกเป็นไฟไปตลอดทางที่ปลายนิ้วพลิ้วไหวนั้นลากผ่านจนมาหยุดอยู่นิ่งตรงกลางหน้าท้อง ปลายนิ้วหัวแม่มือวนเวียนไปมาอยู่แถวสะดือทำเขาสะดุ้งขนลุกชันไปทั้งตัว อยากหอบหายใจระบายความร้อนรุ่มน่าอึดอัดนี้ก็ติดอยู่ที่ปากไม่ว่างให้ทำได้
ความปวดหนึบที่ท้องน้อยแล่นริ้วราวกับจะตอบรับเมื่อสัมผัสได้ว่าฝ่ามืออีกฝ่ายเลื่อนลงมาต่ำเสียจนน่ากลัว เขาเป็นแค่วัยรุ่นชายที่ฮอร์โมนยังพลุ่งพล่าน และร่างกายผู้ชายก็แย่ที่มันตรงไปตรงมาอย่างน่าอดสูเมื่อถูกกระตุ้นรุกเร้าด้วยสัมผัสวาบหวามอย่างนี้
...อาทิตย์ละริมฝีปากออกมาแช่มช้า แม้จะอาลัยอาวรณ์ความหวานซึ่งโฉบชิงมาได้เพียงไรทว่าหากมัวแต่จูบคงน่าเสียดายยิ่งกว่าที่จะไม่ได้เห็นสีหน้าของปิ่นหยก นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มปรือลงฉ่ำเยิ้ม ปากแดงสดเจ่อช้ำเผยอออกหอบหายใจหนักจนแผ่นอกกระเพื่อม เม็ดเหงื่อผุดพราวทั่วทั้งใบหน้าและลำคอ มองแล้วก็อดไม่ได้จะเอาปลายจมูกไปถูเบา ๆ ตรงนั้นตรงนี้บนดวงหน้าเนียนใสขึ้นสีระเรื่ออย่างรักใคร่
มัววุ่นวายกับเสียงครางอืออาและอาการคล้ายจะหลบหลีกจากการซุกไซ้อย่างไร้ผลของอีกฝ่ายเพียงชั่วครู่ สายตาก็เหลือบลงไปเห็นอะไรบางอย่างที่ขยายตัวดึงดันอยู่แถวส่วนล่างซึ่งเจ้าตัวพยายามซุกซ่อนไว้ด้วยการนั่งชันเข่าขึ้นมา ถึงกระนั้นก็ทำได้ไม่เต็มที่นักด้วยเขาเองเบียดตัวเข้าไปนั่งขวางทางอยู่
......อย่างจงใจ
ใบหน้าคมยักยิ้มแฝงเล่ห์ร้ายพร้อมลากปลายนิ้วลงต่ำเชื่องช้าเหมือนจะถ่วงเวลา เพียงสะกิดแผ่วเบาบนส่วนอ่อนไหวที่เริ่มขยายตัวขึ้น ร่างโปร่งตรงหน้าก็สะดุ้งเฮือกแล้วเกร็งจนสั่นไปทั้งตัว
“......เปียกแล้วนะ....ปิ่นหยกลามก”
เจ้าของชื่อฟังแล้วอยากจะด่าให้ลั่นบ้านว่ามันมีสิทธิ์มาว่าคนอื่นอย่างนั้นด้วยเหรอ!? เพียงแต่ลิ้นดูจะลืมวิธีออกเสียงเป็นภาษาคนไปแล้วจึงทำได้เพียงขมวดคิ้วแทบเป็นปม ไม่กล้าแม้แต่จะส่งสายตาอาฆาตใส่ไอ้ตัวต้นเรื่อง
นัยน์ตาดำขลับช้อนขึ้นมองก่อนจะโฉบไปงับเบา ๆ บนจมูกเชิดรั้น เห็นปิ่นหยกทั้งปิดตาทั้งเม้มริมฝีปากแน่นแล้วก็รู้สึกว่าน่ารักจนแทบทนไม่ไหว เขาเอื้อมไปประคองส่วนนั้นเบามือ ยังไม่ทันได้ขยับแม้แต่ปลายนิ้วอีกฝ่ายก็สั่นสะท้านไปหมด แขนเรียวตวัดขึ้นเกาะบนไหล่หนาแล้วออกแรงจิกลงมาจนเนื้อบุ๋มลงไปตามรอยเล็บ เจ็บเอาการเลยทีเดียว...แต่น่าแปลกที่เขาชอบแบบนี้เป็นบ้า
“....ให้ช่วยนะ?”
เขาถาม........ไปอย่างนั้นเอง
ไม่ได้ต้องการคำตอบ และไม่คิดรอฟังแต่อย่างใด สภาพคนตรงหน้าบอกให้รู้ว่ารอไปก็คงไม่ได้ยินอะไรอย่างอื่นนอกจากเสียงครางหวานหู
“....อ....อาทิตย์....อ...อึก!”
อืม...เพิ่มเสียงเรียกชื่อเขาขึ้นมาอีกอย่างก็ได้ ซึ่งนั่นทำให้รู้สึกดีจนต้องก้มหน้าลงไปขบเม้มเบา ๆ บนลาดไหล่ทั้งมือยังหยอกเย้าส่วนที่แข็งขืนขึ้นมาอย่างรู้งานเรียกเสียงครางกระเส่าดังระงมทั่วห้อง ปฏิเสธไม่ได้ว่าเขารักเสียงนั้นแทบคลั่ง แต่ว่า...
“....ชู่วว.......เดี๋ยวคุณแม่กับน้องจี้ตื่นนะครับ”
หากจะแก้ไขที่สาเหตุเขาควรหยุดเสีย แต่มือกลับทำสิ่งตรงกันข้าม
“....ฮ้า..า..!”
ปิ่นหยกขมวดคิ้วแน่น ใบหน้าชวนมองสะบัดเชิดขึ้นจนเม็ดเหงื่อบนใบหน้าไหลร่วงลงมาตามลำคอระหง ขบริมฝีปากไว้ด้วยพยายามเต็มเปี่ยมว่าจะไม่หลุดเสียงร้องน่าอายออกมาอย่างที่ถูกทัก แต่สำหรับกรณีนี้แค่ความพยายามของเขาคนเดียวอาจจะไม่พอ
“.....ห...หยุดก่อน...อา...อาทิตย์....อึ้ก!!”
“ไม่ไหวเหรอ...งั้นช่วยเก็บเสียงให้นะครับ”
แล้วเรียวปากอิ่มก็แนบลงมา......หนักแน่น...ทว่านุ่มนวล
หากไม่นับเรื่องความอับอายขายขี้หน้าซึ่งอาจจะทำให้เขาไม่สามารถมองอีกฝ่ายอย่างปกติได้อีกแล้ว คงปฏิเสธไม่ได้ว่ามือที่ขยับเร็วบ้างช้าบ้างราวกับจะกลั่นแกล้งนอกจากจะทำให้เขารู้สึกเหมือนทั้งร่างกำลังถูกเหวี่ยงขึ้นที่สูงแล้วโดนกระชากร่วงหล่นลงมาซ้ำแล้วซ้ำเล่ายังมีอะไรอย่างอื่นเจืออยู่ในนั้นด้วย..
.....มัน..........รู้สึก.....
....ดี.....บรรลัยแล้ว!“....อา....ฮะ.......!!”
เสียงครางที่เล็ดลอดออกมาเมื่อปลายลิ้นแยกจากกันนั่นอะไร!? เผลอปล่อยตัวไปกับสถานการณ์ตรงหน้าหน่อยเดียวก็ทำท่าจะโดนพัดหายไปกับกระแสเชี่ยวกรากสีม่วงที่คราวนี้ดูม่วงจัดกว่าทุกที เด็กหนุ่มสิบเจ็ดปีอนาคตไกลอย่างเขาไม่ควรต้องมาเสียตัวให้สัตว์ปีกหน้าไหนตั้งแต่ยังไม่ทันจะบรรลุนิติภาวะไม่ใช่หรือไง
ในหัวขาวโพลนไปหมด สีสันตรงหน้าพร่าเลือนจนเป็นเพียงแสงวิบวับที่แม้หลับตาลงแล้วก็ยังเห็นแสงสีผิดเพี้ยนอยู่หลังเปลือกตา เขาไม่รู้ตัวว่าจิกลงไปบนแผ่นหลังกว้างหรือแม้กระทั่งออกแรงหยิก ขยำ กำ ข่วน อะไรไปกี่ครั้งต่อกี่ครั้งเพราะไอ้ลูกเจี๊ยบงี่เง่าไม่เห็นจะสะดุ้งสะเทือนอะไรแม้แต่น้อย มีแต่ตัวเขาเองที่บิดกายเร่าอย่างน่าอับอายอยู่ใต้ร่างสูงซึ่งโน้มตัวแทรกอยู่ระหว่างขาสองข้างที่ไม่รู้ว่าแยกออกจากกันขนาดนี้ตั้งแต่ตอนไหน จูบซึ่งเน้นย้ำซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่บนริมฝีปากแต่ละครั้งราวกับดูดกลืนสติสัมปชัญญะเขาไปทีละน้อยจนแทบแห้งเหือด
...ไม่ไหวแล้ว“...อ..อ๊ะ!!”
“............”
ได้ยินเสียงทุ้มคุ้นหูพึมพำว่า
‘ว้าว..’ ซึ่งเขายังไม่กล้าลืมตามอง ช่วงเวลาแวบหนึ่งที่เหมือนสติจะหลุดลอยไปโลกอื่นนั้นเกิดอะไรขึ้นกัน
“ออกมาเยอะเลย ไม่ค่อยได้ทำเองเหรอ”
ชัดเจน.. เขาโดนเหวี่ยงตัวลอยมาถึงฝั่งแล้วเรียบร้อย....ในมือไอ้หน้าหนานี่แหละ! หลักฐานกระจายอยู่เต็มหน้าท้องทั้งของเขาเองและของอีกฝ่าย หน้าเขาร้อนจนแทบระเบิดอยู่แล้ว แต่หน้ามันต้องหนาสักเท่าไรถึงพูดเรื่องอย่างว่าออกมาได้นิ่งสนิทขนาดนี้ มือถูกดึงขึ้นไปแนบอยู่กับใบหน้าคมก่อนมันจะเอียงหน้ามาจูบย้ำ ๆ บนฝ่ามือ ลากลิ้นไปจนถึงปลายนิ้วแล้วขบเม้มแผ่วเบาไปทีละนิ้วขณะที่ส่งแววตาพราวระยับมองลงมา
“...หลังเสร็จแล้วยิ่งเซ็กซี่นะครับ”
โดยไม่ทิ้งช่วงให้เขาได้ทำตัวใจกว้างปล่อยสติสตางค์ไปวิ่งเล่นนอกร่างอยู่นาน อีกฝ่ายก็หันไปดึงขอบกางเกงตัวเองลงจากเอวต่อหน้าต่อตา มืออีกข้างเอื้อมมาเกาะอยู่บนเข่าของเขาแล้วออกแรงผลักให้แยกขาออกกว้างขึ้นอีก
“ปิ่นหยกครับ....”
เขาควรต้องตอบมันว่า
‘ครับ’ ไหม น้องชายที่เป็นของลับของสงวนนั่นไม่ควรเอาออกมาเพ่นพ่านพร้อมกับเรียกชื่อคนอี่นด้วยเสียงกระเส่าอย่างนี้มันรู้บ้างหรือเปล่า
“......ขอนะ”
สติซึ่งกระเจิดกระเจิงไปเมื่อครู่บินกลับเข้าร่างโดยสมบูรณ์ทันที เมื่อส่วนปลายร้อนชื้นจ่ออยู่ที่ปากทางซึ่งควรเป็นทางออกวันเวย์ห้ามอะไรสวนเข้ามาให้ผิดกฎธรรมชาติ...
ไม่นะ...กรูยังไม่พร้อมเสียเอกราช!“อาทิตย์!!”
มืออีกข้างที่ยังว่างของมันคว้าขาเขาขึ้นท่าทางตั้งใจจะให้เอาไปพาดไว้บนบ่า... แน่นอนว่าเขาขัดขืน
“ไอ้ลูกเจี๊ยบ!!”เขาร้องดังขึ้นอีก หวังว่าสองคนอีกห้องจะไม่ได้ยิน แต่เขาอยากให้มันทะลวงผ่านกระดูกค้อน ทั่ง โกลน ในหู และหวังว่าจะเข้าสมองมันบ้าง
ไร้วี่แวว และไอ้อะไรที่คอยเขี่ยไปเขี่ยมาที่ช่องทางด้านหลังก็ทำเขาใกล้บ้าเต็มที เรียกชื่อแล้ว โวยก็แล้ว....เหลือแค่
“....อ....อา...ทิตย์...........ครับ”
เสียงแบบนี้นิ่มพอหรือยัง?อีกฝ่ายชะงัก ทำสีหน้าเหมือนไม่เชื่อหู “....พูดเพราะ...”
“...หยุดก่อน...นะครับ..........นะ?”
ไม่ลืมจะใส่สำเนียงอ้อนไว้ในพยางค์สุดท้าย และนั่น...
ไม่ได้คิดไปเองใช่ไหมว่าเขาเห็นมันทำหน้าเคลิ้ม“เวลาด่าก็ชอบนะ"
ใบหน้าคมคลี่ยิ้มละมุน เมื่อใหญ่เอื้อมมาเกลี่ยปอยผมชุ่มเหงื่อของเขาไปทัดหลังใบหู "แต่พูดเพราะแล้วน่ารักจัง”
เขาใจเต้นโครมครามจากหลายสาเหตุ เหมือนเห็นทางรอดรำไร ภาษาดอกไม้กับคุณชายลูกเจี๊ยบอาจดูพอไปด้วยกันได้แต่วิธีพูดแบบนี้พอออกมาจากปากเขาเองแล้วมันดูสตรอเบอร์รี่อย่างไรบอกไม่ถูก ถึงอย่างนั้นหากทำให้รอดไปได้จะลูกเล่นนิด มารยาหน่อย มันก็คุ้มที่จะลอง
“อาทิตย์ เพิ่งบอกว่าจะไม่ทำให้เสียใจไม่ใช่เหรอ”
ไอ้ลูกเจี๊ยบตอแหล แต่อย่าคิดว่าแหลเป็นคนเดียวนะในใจนี่ไปคนละเรื่องกับที่พูดแล้ว
“รู้ไหมถ้านายทำแบบนี้ฉันจะเสียใจมาก”
คดีเก่ายังไม่หมดอายุความเลยนะไอ้เวร จะก่อคดีใหม่อีกแล้ว!ท่าทีโอนอ่อนทำให้เขาใจชื้น อาศัยทีเผลอขยับตัวถอยมาอีกนิดแล้วกลั้นใจปล่อยไม้เด็ดเสียงสั่นไหวซึ่งอาจจะไม่ค่อยเนียน แต่ส่งไปพร้อมสีหน้าเหมือนอยากร้องไห้คงพอถูไถได้บ้าง
“.......นี่ไม่ใช่แบบที่คนรักจะทำเลยครับ....อาทิตย์.....”ที่สำคัญกรูยังไม่ได้รับปากจะเป็นคนรักกับเมิงด้วยควรสะอื้นหน่อยดีไหม...อย่าดีกว่า เดี๋ยวจะดูสาวแตกเกินไป
เขาช้อนสายตาขึ้นมองเพียงแวบหนึ่งพอไม่ให้หลุดหลงเข้าไปในหลุมดำซ่อนความเจ้าเล่ห์คู่นั้นจนหาทางกลับไม่เจอ ได้แต่ภาวนาว่านัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มแบบที่คนชอบชมว่าเหมือนตาสวย ๆ ของแม่เพชรจะช่วยเขาได้บ้าง ทำใจกล้ายื่นมือไปดึงกางเกงมันกลับเข้าที่เดิมให้เรียบร้อยอย่างเนียน ๆ แล้วชักมือกลับรวดเร็ว... ปิดไว้ก่อนเถอะนะขอร้อง
โลกทั้งใบแทบกลายเป็นวิมานสีชมพู อาทิตย์ทำสีหน้าก้ำกึ่งด้วยส่วนผสมระหว่างซาบซึ้งยินดี ความมึน และอาการกรุ้มกริ่ม
ปิ่นหยกฉวยโอกาสกระโจนพรวดเดียวออกมาอยู่อีกฝั่ง และจังหวะที่ท่านชายลูกเจี๊ยบที่ยังเริงร่าในวิมานโถมตัวเข้ามาเตรียมจะกอดให้เต็มรักสักทีก็...
“พลั่ก!!!!”กำปั้นลุ่น ๆ ของ ‘คนรัก’ พุ่งเข้าซัดเต็มครึ่งปากครึ่งจมูกฟันซี่หนึ่งหลุดกระเด็นออกมากลิ้งอยู่บนพื้น และเจ้าของฟันถึงกับหน้าหงายลงไปนอนนับดาว เลือดไหลพราก ๆ ออกทั้งจมูกและปากลงเต็มผ้าปูที่นอน
ร่างโปร่งหันไปคว้ากางเกงมาสวมรวดเร็วขณะที่คุณชายยังเมาหมัดร้องครางพลางกุมใบหน้าตัวเองเอาไว้
เจ็บมือฉิบหาย! เมื่อกี้ต่อยไปสุดพลังเลยทีเดียวแต่ดูท่าจะยังไม่พอ เขาต้องการความแน่นอนในชีวิตว่าหลังจากนี้จะไม่มีเรื่องบ้า ๆ เกิดขึ้นอีก
ขออีกสักหน่อยเถอะน่า
ความค้างคาใจที่กรุ่นอยู่ในอกเขาตั้งแต่ตอนโดนมันปากหมาใส่ที่ร้านอาหารจะได้ปลดปล่อยเสียที
อโหสินะไอ้ลูกเจี๊ยบ..หลังจากนี้จะได้ไม่ต้องจองเวรจองกรรมกันอีกเขาหันไปเล็งเป้าหมาย แย้มยิ้มอย่างที่หากมีใครเห็นคงต้องบอกว่าเป็นรอยยิ้มอำมหิตที่สุดที่เขาเคยทำมาในชีวิตเลย
ก่อนจะง้างขาแล้วเตะเปรี้ยงเข้าไปเต็มเป้ากางเกง“!!!!!!!”ไม่มีเสียงร้องสักแอะ
ซึ่งเดาว่าจุกตายไปแล้วจนร้องไม่ออกคงฟังดูน่าเชื่อถือที่สุดเสียงอืออาของคนที่นอนตัวงออยู่ข้าง ๆ บอกให้รู้ว่ายังไม่ตายแต่อาจจะใกล้เคียง เป็นหมันชัวร์ โตไปกลายเป็นไก่ตอนแน่เมิง
ปิ่นหยกหอบหายใจหนัก ๆ มองผลงานตรงหน้า.. การแก้แค้นหอมหวานเสมอ ทบต้นทบดอกไปให้หมดตั้งแต่คดีที่ค้างคาอยู่จนถึงปัจจุบัน ตอนนี้เขาโคตรโล่ง ก้มลงไปเก็บฟันซึ่งร่วงอยู่บนพื้นขึ้นมาแล้วสะกิดให้มันเงยหน้ามาคุยกันก่อน
“เป็นไง?”
“.........จุก....”
เขาหัวเราะกับสีหน้าเหยเกนั่น...ขอโทษว่ะ....ขอโทษที่ตั้งใจ
“อ้าปากดิ๊ ดูหน่อยฟันซี่ไหนหลุดออกมา”
อาทิตย์กัดฟันแน่น ที่หน้าไม่เท่าไหร่ แต่ตรงเป้านี่จุกไปถึงโคตรเหง้าศักราชได้แล้ว อารมณ์อะไรที่ค้างอยู่ถึงกับหายวับพร้อมกับวิมานกลางอากาศไปเลย
ปิ่นหยกมองสภาพดูไม่จืดของคุณชายตรงหน้า ทั้งสะใจทั้งสงสาร จะหมดหล่อจริง ๆ ก็เพราะทำตัวอย่างนี้ให้โดนต่อยเอาบ่อย ๆ นี่แหละ ฟันที่หลุดออกมาบอกให้รู้เลยว่าแรงต่อยเมื่อครู่ไม่ใช่น้อย ไม่นับที่เตะเข้าไปเต็ม ๆ นั่นอีก
“ฟันหลุดต้องรีบเอากลับเข้าเบ้าฟัน” เขาเอ่ยเสียงยียวน ทิ้งมาดออดอ้อนที่ใช้เอาตัวรอดไปเสียสิ้น
“รีบใส่เข้าไปเซลล์รากฟันมันจะมีโอกาสเชื่อมกลับได้เอง เพราะงั้นอ้าปาก จะใส่ให้ หรืออยากกลายเป็นคุณชายฟันหลอ?”
อาทิตย์ทำหน้าปุเลี่ยน สุดท้ายก็ยอมอ้าปากให้ประเมินความเสียหายแต่โดยดี และปิ่นหยกท่าทางครึ้มอกครึ้มใจเป็นพิเศษจนถึงกับผิวปากหวือออกมาเมื่อได้เห็นเบ้าฟันกลวง ๆ
หลังจากเคยโดนหลอกว่าไปฟันมันมาครั้งหนึ่งที่ชายทะเล ครั้งนี้เขาได้ฟันมันจริง ๆ จนได้
ฟันหน้าซี่ล่างเสียด้วยTo be continued…-----------------------------------
หมายเหตุ - ฟันหลุดต่อได้จริงค่ะถ้าเพิ่งหลุด จะให้พระเอกฟันหลอก็ใจร้ายไปหน่อย *หัวเราะ*
ยังไม่ได้มีอะไรกันนะคะ แค่..เอ่อ....มือ 5555
และเจอแบบนี้พ่อพระเอกอาจจะยังไม่กล้ามีไปอีกนาน หายโกรธลูกเจี๊ยบแล้วเนอะ หมดเรื่องค้างคาใจซะที เป็นหมันก็ดีอีกแบบนะคะ จะได้ไม่ไปยุ่มย่ามกับคนอื่น (เรอะ?)
//คนเขียนโดนฆ่าหมกเล้า ขอโต๊ดค่ะ เด็กผู้ชายเขารักกันรุนแรง คิดว่าเปลี่ยนวิกฤติเป็นโอกาสนะคะ จะได้ใช้ความเจ็บมาอ้อนแม่ไก่ได้เยอะ ๆ ยิ่งใจอ่อนง่ายอยู่ด้วย(ฮา)
พบกันตอนหน้า รักคนอ่านทุกท่านค่ะ ขอบคุณที่ช่วยแก้คำผิดให้ด้วยนะคะ แฮ่ ๆ
***สารบัญคลิกที่นี่ค่ะ***ปล. ชอบเพลงนี้มากเลยค่ะ ลองร้องตามใส่ทำนองแล้วเข้ามาก 555
*แม่ไก่ครับ แม่ไก่ครับ ผมมีเรื่องอยากจะถามแม่ไก่ครับ
คือสมมตินะครับสมมติ สมมติผมเป็นพระเอก
ไปเจอแม่ไก่ตัวเล็ก จิกเจ็บๆ งก ขี้โวยวาย
สมมติผมตกหลุมรัก แม่ไก่ทำเป็นไม่รู้
ผมเลยอยากถามดู จะยอมรู้เมื่อไหร่ล่ะครับ
เมื่อไหร่จะรู้ล่ะครับ เมื่อไหร่จะรู้ล่ะครับ
เมื่อไหร่จะรับล่ะครับ เนียนไม่รู้ผมรุกนะครับ
