ตอนพิเศษ - ของขวัญ (ต่อ)
เขาเป็นฝ่ายผละออกมาก่อนด้วยใกล้หมดลม ปรือตามองเรียวปากอิ่มของอีกฝ่ายที่แดงเจ่อจากสงครามน้ำลายเมื่อครู่ เซ็กซี่ฉิบหาย...ไม่รู้จักเกรงใจกันบ้างไอ้ลูกเจี๊ยบเฮงซวย
“ปิ่นหยกดื้อ...ดื้อมากครับ”
อาทิตย์คล้ายจะอ่านสายตาเขาออก ...แบบนี้ไม่ดีเลย
เขาโน้มคออีกฝ่ายลงมาชิดจนปลายจมูกชนกัน ความอยากเอาชนะกลบความอับอายไปเสียสิ้น เอื้อนเอ่ยเสียงแหบพร่าใส่ใบหน้าคมคายชวนมองอย่างจงใจให้ลมร้อนเป่ารดลงไป “แกก็ดื้อ...อาจารย์พูดไม่ฟัง”
“ก็อาจารย์พูดไม่เพราะ”
ชายหนุ่มร่างสูงยิ้มพราย จูบเมื่อครู่ทำเอาความรู้สึกแถวกลางร่างกายถาโถมบ้าคลั่งเข้าใส่ อยากแกล้งต่อก็ใช่ แต่สภาพเรือนร่างปิ่นหยกที่ใกล้เคียงเปล่าเปลือยกับรอยจูบซึ่งเขาทำไว้เต็มลำคอและแผ่นอกทำเอาความคิดจะรั้งอีกฝ่ายให้อารมณ์ค้างดูยากลำบากเสียเหลือเกินในเมื่อเขาเองก็ทนแทบไม่ไหว มือใหญ่เอื้อมไปคว้ามืออีกคนขึ้นมาวางทาบไว้กับส่วนที่มีเลือดร้อนผ่าวปริมาณมากไหลเวียนผ่านซึ่งขยายตัวร่ำร้องสัมผัสอย่างอื่นเพื่อตอบรับแรงอารมณ์ที่โหมกระหน่ำ
ปิ่นหยกสะดุ้งเมื่อความร้อนจากท่อนเอ็นนั้นแทรกผ่านเนื้อผ้ามาถึงมือ แต่ยังไม่เท่าตอนที่อีกฝ่ายเอ่ยเสียงนุ่มพร้อมกับเอาจมูกถูที่ปลายคางเขาด้วยกิริยาออดอ้อน “...ถอดให้หน่อยนะ”
เขาทำใจกล้ากุมส่วนนั้นไว้ในมือข้างหนึ่ง ส่วนมืออีกข้างยื่นเงอะงะไปแถวขอบกางเกงอีกฝ่าย พยายามดึงลงก็กลับหลุดมือครั้งแล้วครั้งเล่ายิ่งทำให้เสียความมั่นใจบอกไม่ถูก หลังหมดลูกบ้าชุดล่าสุดยางอายก็ดูจะกลับเข้าร่างอีกครั้ง สุดท้ายก็อาทิตย์นั่นเองที่เป็นฝ่ายปลดเปลื้องผ้าผ่อนส่วนล่างตัวเองทั้งหมดลงไปกองอยู่ที่เข่า
เขากลั้นลมหายใจ จนป่านนี้แล้วจะมาทำหวั่นไหวเป็นสาวแรกแย้มก็ใช่ที่ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกเสียหน่อย แต่สิ่งที่ผงาดอยู่ตรงหน้านั้นเห็นเข้าทีไรก็อดใจสั่นไม่ได้ ครั้งสุดท้ายนานเท่าไหร่แล้ว...? ดูยังไงก็คิดว่ามันไม่น่าผ่านเข้ามาได้เลย
มือใหญ่เอื้อมมาเกี่ยวผ้าชิ้นน้อยตัวสุดท้ายของเขาหลุดออกจากเรียวขาง่ายดาย สมองมึนงงจนจำไม่ได้ว่าขยับขาช่วยไปบ้างหรือเปล่า รู้สึกได้ถึงปลายนิ้วซึ่งลากวนอยู่แถวช่องทางด้านหลัง ใจเต้นระรัวจนอกแทบระเบิดเมื่อนิ้วเรียวชำแรกผ่านเข้ามาเป็นนิ้วแรก
“...ข้างในร้อนจัง”
บางทีเขาก็นึกสงสัยว่าถ้าไม่ต้องมีเสียงพากย์ระหว่างทำเรื่องพวกนี้มันจะตายไหมปิ่นหยกผ่อนลมหายใจกระท่อนกระแท่นเมื่อนิ้วที่สองและสามแทรกเข้ามาในร่าง รู้สึกอึดอัดขึ้นมาน้อย ๆ แต่สามนิ้วที่สอดใส่นั้นเทียบไม่ได้เลยกับอะไรที่รออยู่ และจะเสียใจเอาตอนนี้คงไม่ทันแล้ว
“...อาทิตย์...ตรงนั้น....อะ!”
“ตรงนี้เหรอครับ”
อาทิตย์กระซิบถาม ถูกสะกดด้วยสีหน้ายวนใจและผิวเนื้อแดงระเรื่อจากเลือดอุ่น ๆ ซึ่งสูบฉีดไปทั่วร่างคนตรงหน้าจนไม่อาจละสายตาไปไหนได้ ปลายนิ้ววนย้ำลงไปตรงจุดซึ่งไวต่อความรู้สึกจนร่างนั้นเกร็งไปหมด ปลายเท้าจิกงุ้มอยู่กลางอากาศ เม็ดเหงื่อผุดขึ้นบนหน้าผากจนปอยผมด้านหน้าเปียกชุ่มพร้อมกับลมหายใจที่เริ่มถี่กระชั้น เขาผลักต้นขาอีกฝ่ายโดยใช้แรงเพียงเล็กน้อยให้แยกจากกันก่อนจะถอนนิ้วมือออกแล้วเลื่อนมาวางไว้บนสะโพกมน พรมจูบลงบนหน้าท้องที่เจ้าตัวบ่นว่าทำยังไงก็ไม่ได้ซิคซ์แพ็คเท่าเขาเสียทีก่อนจะจ่อส่วนแข็งขืนของตัวเองเข้าที่ปากทาง
ปิ่นหยกหลับตา ไร้การต่อต้านขัดขืนเมื่อเรียวขาตัวเองถูกยกไปเกี่ยวไว้ที่เอวคนตรงหน้า ส่วนปลายถูกดันเข้ามาเพียงเล็กน้อยด้วยขนาดที่เป็นคนละเรื่องกับนิ้วมือก่อนนี้โดยสิ้นเชิง มือเกาะเกร็งอยู่ที่แขนแข็งแกร่งด้วยมัดกล้ามเนื้อ ปล่อยริมฝีปากเคลื่อนไหวไปตามการชักจูงของอีกฝ่ายซึ่งก้มลงมาแลกลิ้นขณะที่ค่อย ๆ ดันแกนกายเข้ามาอยู่ในการครอบครองของเขาจนสุด
“ปิ่นหยก...ไม่เกร็งนะครับคนดี”
สุ้มเสียงทุ้มต่ำพึมพำข้างหู เขาพยักหน้าช้า ๆ หลับตารับเรียวปากอิ่มที่ประทับลงบนเปลือกตาแผ่วเบา มือใหญู่ลูบผมชุ่มเหงื่อออกจากหน้าผากเขานุ่มนวลราวปุยนุ่นด้วยท่วงทำนองอ่อนหวานแบบเดียวกับจังหวะขยับกายเบื้องล่าง นัยน์ตาดำสนิทเต็มไปด้วยความอ่อนโยนยามจ้องมองคนอันเป็นที่รัก ..รักเสียจนไม่อยากให้ต้องเจ็บเลยแม้สักนิด
“เจ็บหรือเปล่า”
เจ้าของชื่อส่ายหน้า นัยน์ตาคู่สวยเอ่อคลอด้วยหยาดน้ำใส ไม่เจ็บเลยคงเรียกว่าโกหก แต่ที่มากกว่านั้นคือความรู้สึกเต็มตื้นจนแทบเอ่อล้นขึ้นมาในอก เวลาแบบนี้อาทิตย์อ่อนโยนเหมือนทุกครั้งเป็นครั้งแรกเสมอ..
เขาเอื้อมมือโอบแผ่นหลังกว้างเอาไว้แล้วเบียดตัวเองเข้าหา
“...ขยับเร็วอีกสิ”
คน ๆ นี้จะทำให้เขาตกหลุมรักไปถึงไหนกันนะสองร่างบดเบียดเข้าหากันด้วยจังหวะเดิมอีกครู่หนึ่ง ก่อนอารมณ์กลับเร่งเร้าให้ขยับกายแนบชิดหนักหน่วงรุนแรงกว่าเดิมในทุกครั้งที่สอดแทรกร่างกายตัวเอง เสียงร้องหวามไหวดังขึ้นเมื่อส่วนปลายสัมผัสโดนจุดเดิมซึ่งเคยส่งปลายนิ้วเข้าไปเค้นคลึง หยาดเหงื่อรินรดลงปะปนกันจนแยกไม่ออกว่าเป็นของใครพอกับปลายลิ้นเกาะเกี่ยวโรมรันจนแทบหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว
เรือนร่างแข็งแกร่งโถมลงกระแทกกระทั้นลงไปลึกสุดเท่าที่จะสามารถไปถึง เห็นสายตามึนเมาในรสรักของอีกฝ่ายเด่นชัดขึ้นต่อหน้าพร้อมกับที่ร่างนั้นกระตุกเกร็งไปทั่ว หยาดน้ำขาวขุ่นกระเซ็นลงเปรอะเต็มหน้าท้องทั้งเขาและปิ่นหยก เสียงหอบกระเส่าดังขึ้นตอนเขาขยับกายชำแรกเข้าไปอีกครั้งก่อนที่สายตาจะพร่าเลือน บทรักซึ่งถูกบรรเลงจนถึงจุดสูงสุดกระชากเขาสู่ห้วงอารมณ์วาบหวาม เรียกความรู้สึกร้อนผ่าวให้อีกฝ่ายจากน้ำรักซึ่งหลั่งรินอยู่ในร่าง
เขาถอนกายออกมาเชื่องช้า น้ำขาวขุ่นบางส่วนไหลตามออกมาจากช่องทางซึ่งล่อลวงให้ลุ่มหลง ก้มลงกดจูบบนขมับปิ่นหยกซึ่งนอนหายใจรวยริน ตาหรี่ปรือใกล้ปิดเต็มทีแต่ยังอุตส่าห์ยกมือขึ้นเกลี่ยผมเขาทัดไว้หลังใบหู ผงกศีรษะขึ้นกระซิบอ่อนโยนจนแทบกลืนหายไปกับเสียงหอบหากไม่ตั้งใจฟังให้ดีพอ...
“....สุขสันต์วันเกิดครับอาทิตย์”ของขวัญมีชีวิตของเขาปีนี้น่ารักเหลือเกิน
..................................................................................
.........................................
.
.
.
.
ปิ่นหยกงัวเงียสิ้นเรี่ยวแรง ไม่มีขัดขืนสักนิดตอนเขาช้อนร่างเจ้าตัวขึ้นมาแล้วอุ้มกลับห้องนอนทั้งที่ยังเปลือยเปล่าอยู่ในชุดวันเกิด คราบทั้งหลายแหล่นั่นไว้ค่อยทำลายหลักฐานพรุ่งนี้ละกัน
พอโดนจับวางลงบนเตียงได้ก็ซุกเข้าหาหมอนข้างอย่างเดียว เห็นแล้วอิจฉากระทั่งหมอนข้างคู่แข่งจนต้องดึงออกมาแล้วโยนลงไปกลิ้งอยู่บนพื้น
“อยากกอดมากอดฉันดีกว่า”
เขาว่าพลางดึงแขนอีกฝ่ายมาเกาะที่เอว ปิ่นหยกเพียงลืมตาขึ้นเบลอ ๆ ซุกกายเข้าหาเขาอย่างน่ารักแล้วจมดิ่งสู่ห้วงนิทราหอมหวาน
....อาทิตย์ยิ้มละไม ตระกองกอดร่างอุ่น ๆ แสนรักอยู่อย่างนั้นจนแสงแรกแห่งอรุณรุ่งมาเยือน
“เวรเอ๊ย!!!!” และนั่นคือเสียงที่ปลุกเขายามเช้า
“รอยเต็มไปหมด!” ปิ่นหยกโวยลั่น พลางวางกระจกพกไว้ข้างหัวนอน
“ฉันติดกระดุมคอเสื้อถึงเม็ดบนสุดจนนักศึกษาสงสัยหมดแล้วเนี่ย! ร้อนฉิบหาย”
เขางัวเงียขึ้นขยี้ตา ยังไม่ตื่นดีเท่าไรนักแต่พอเข้าใจประเด็นจากสิ่งที่ได้ยิน มือคว้าเอวอีกฝ่ายที่กำลังทำสีหน้าหงุดหงิดผิดกับเมื่อคืนลิบลับลงมานอนข้างกันแล้วซุกที่ต้นคอเพื่อประทับรอยเพิ่มอีกสักสองสามแห่งอย่างไม่กลัวตาย
“ร้อนก็ไม่ต้องติดถึงเม็ดสุดท้ายสิครับ”
“ไอ้เลว!! เปิดคอเสื้อแม่มก็เห็นรอยจ้ำ ๆ เนี่ย พวกเด็กจะคิดยังไง!”
“คิดว่าคนนี้มีเจ้าของแล้วไง”
ปิ่นหยกตบหน้าผากตัวเอง แล้วเปลี่ยนใจหันไปดีดหน้าผากไอ้ตัวต้นเหตุแทนดีกว่าก่อนจะกลิ้งหนีออกมา รอยเยอะขนาดนี้ต้องแต่งตัวเรียบร้อยทนร้อนไปอีกกี่วันกัน
“งอนเหรอ ให้เอาคืนก็ได้นะ”
ร่างสูงเบียดกระแซะ ห่างกันหน่อยเดียวก็โหยหากลิ่นกายอีกฝ่ายเสียแล้ว “รอยเก่าเริ่มจางพอดี ทำใหม่ให้หน่อย” ว่าพลางแกะกระดุมเสื้อตัวเองแบบลืมไปเลยว่าเคยมียางอายซึ่งปิ่นหยกคงเถียงว่าก็ไม่เห็นเคยมีมาแต่แรกอยู่แล้ว
“คราวนี้เอาชัด ๆ เลย อยากโชว์”
“ไอ้โรคจิต”
“อือ ๆ โรคจิตก็ได้ เร็ว ๆ ตรงนี้” คุณชายเอานิ้วจิ้มไปที่คอแถวต่ำกว่าคางลงมานิดหน่อยทำนองว่าชี้เป้า แอ๊บหน้าซื่อตาใสแต่จิตใจซกมกพร้อมแสดงอาการออดอ้อนไม่เจียมอายุ ปิ่นหยกมองตามตำแหน่งที่ว่าและบอกได้อย่างเดียวคือมันบ้าไปแล้ว ให้ทำรอยไว้สูงขนาดนั้นเอาผ้าพันคอผูกไว้ยังจะปิดไม่มิดเลยด้วยซ้ำ
คำร้องขอถูกทิ้งให้รอนานจนเริ่มทนไม่ไหว อาทิตย์ตัดสินใจยั่วยุสักหน่อยเป็นการเพิ่มเชื้อไฟ
“หรือทำไม่เป็น ครั้งก่อนที่เป็นรอยนี่แค่ฟลุคหรอกเหรอ”
"......"
ด้วยเหตุนี้แทนที่จะได้รอยจูบ ..เขาเลยได้รอยฟันครบวงสวยงามที่ต้นคอกลับมาแทนแต่เอาเถอะ...รอยฟันก็เร้าใจดีอีกแบบ เจ็บ ๆ คัน ๆ ดีพิลึก ส่วนเจ้าของร่องรอยที่ตีตราเขาไว้หนีไปนอนคลุมโปงบอกลาโลกภายนอกเรียบร้อยแล้ว จะรื้อผ้าห่มก็สงสารเลยกอดหมับทั้งที่ยังห่ออยู่ใต้ผืนผ้าอย่างนั้น
“นี่ปิ่นหยก...”
“อะไร”
เสียงอู้อี้ตอบกลับมา เขาชอบจริง ๆ เวลาเรียกชื่ออีกฝ่ายไม่ว่าจะด้วยเรื่องไร้สาระแค่ไหนแล้วได้รับคำถาม
‘อะไร’ มาแบบนี้ทุกครั้งเหมือนสมัยยังเด็ก
“เรารักกันจนแก่เลยนะ จะรักนายจนกว่าจะผมหงอก ใส่ฟันปลอม แล้วก็หง่อมจนเดินไม่ไหวเลย”
เสียงสวบสาบดังขึ้นแผ่วเบา ปิ่นหยกมุดออกจากผ้าห่มมาทำตาขวางใส่ “แช่งเหรอไอ้เลว!”
เขาหัวเราะ นึกถึงรอยฟันที่ลำคอว่าถ้าคนอื่นเห็นเข้าจะว่ายังไงแล้วก็หุบยิ้มไม่ได้เลย
“งั้นนายก็แช่งฉันแบบนั้นบ้างสิ”
“ชิ! ขอให้แฟนไม่รัก”
"....."
เขาทำหน้าตึง สายตาจับจ้องใบหน้าอ่อนระโหยแต่ยังทำปากดีข้าง ๆ
“ให้แก้ตัวได้อีกที”
“ขอให้แฟนไม่รัก!”
ชายหนุ่มหรี่ตา กระชากผ้าห่มออกแล้วพลิกตัวคร่อมร่างอีกฝ่ายก่อนจะตรึงแขนทั้งสองข้างเอาไว้มั่น โน้มตัวลงกระซิบข้างหูเสียงเย็น “.....โอกาสสุดท้าย...พูดใหม่ครับคนดี”
ปิ่นหยกอึกอัก พวงแก้มกลายเป็นสีแดงระเรื่อยิ่งตอนที่เขาเม้มริมฝีปากเบา ๆ ตรงติ่งหู ความนุ่มนิ่มน่ามันเขี้ยวทำเอาต้องห้ามใจตัวเองแทบแย่ไม่ให้เผลอใช้ฟันขบ คนอะไรช่างน่ากัดไปทั้งตัว แค่เสียงลมหายใจซึ่งกระแทกออกมาผะแผ่วเฮือกหนึ่งของอีกฝ่ายก็แทบเป่าความยับยั้งชั่งใจเขาปลิวหายไปหมดแล้ว ประสาอะไรจะให้มาทนกับฮอร์โมนซึ่งพลุ่งพล่านในตัวขณะที่ร่างกายเปลือยเปล่าแนบชิดกันอยู่อย่างนี้
“พูดไม่ดีทำอีกรอบนะ”
หื่นเอ๊ย! แต่เช้าเนี่ยนะ!
ปิ่นหยกพ่นลมหายใจหงุดหงิดกลบเกลื่อนร่องรอยความขวยเขินบนใบหน้า เอ่ยขึ้นแผ่วเบาเสียงแทบไม่หลุดจากลำคอ
“.....รัก....”
“รักใครครับ?”
“.......รัก....อาทิตย์”
“อยากฟังแบบเพราะ ๆ ด้วย”
ต่อรองไม่เลิก! ข้อเรียกร้องสูงอย่างกับบริษัทประกันชีวิต
วันเกิดมัน...ท่องไว้....ตามใจมันหน่อย“......รัก......อาทิตย์....ครับ”นาน ๆ ครั้งอาทิตย์จะยิ้มกว้างแทบโชว์ฟันครบสามสิบสองซี่ และนี่เป็นหนึ่งในนาน ๆ ครั้งที่ว่า
ทำไงดี...อยากกินเข้าไปทั้งตัวเลย “ผมก็รักปิ่นหยกครับ”ที่ขู่ไว้ว่าพูดไม่เข้าหูได้มีอีกรอบ แต่เขาคงลืมบอกไปว่าถ้าพูดดีน่ารักก็กะว่าอีกสักสองสามรอบท่าจะเหมาะ
กว่าอาทิตย์จะเห็นนาฬิกาข้อมือซึ่งปิ่นหยกซุกเอาไว้ในตู้ก็ปาเข้าไปเกือบหมดวันพอดี และเรื่องทำบุญวันเกิดที่ตั้งใจไว้ได้มีอันต้องเลื่อนเป็นวันถัดมา
เพราะคนที่ตั้งใจจะพาไปยังลุกไม่ไหวไปอีกหนึ่งวันเต็มHAPPY BIRTHDAY! 19.09.12====================================
เป็นหนุ่มใหญ่แล้วอร๊างดีนะคะ =////=
เหมือนตอนนี้ช่วยคอนเฟิร์มกลาย ๆ กับเนื้อเรื่องปัจจุบันว่ายังไงก็ได้เป็นพ่อไก่น่า สู้ต่อไปลูกเจี๊ยบ
ตั้งซุ้มรับบริจาคเลือด พร้อมแจกทิชชูไว้ซับ...เอ้อ...เหงื่อ? ตรงทางออก //ไม่ทันแล้วมั้ง (ฮา)
แล้วพบกันตอนหน้าค่า รักคนอ่านสุด ๆ เลยยย

Edit - ขอบคุณงาม ๆ ที่ช่วยแก้คำผิดค่าาาา m(_ _)m
***สารบัญคลิกที่นี่ค่ะ***