เนื่องในโอกาสฮาโลวีนที่กำลังจะมาถึงค่ะ จะรออัพวันจริงพรุ่งนี้แต่กลัวไม่ว่าง จัดไปก่อนเลย~Dormitory Boys – สะดุดรัก หอพักอลเวง
“รัก...ติดดิน”ตอนพิเศษ – หลอก หรือ เลี้ยง (หมอไอซ์ x อุ่นใจ)
..ของใช้ที่มีความทรงจำ
ปากกาที่เปื้อนเลือด..อุ่นใจจามสองครั้งติด หยิบกระดาษทิชชู่ขึ้นเช็ดน้ำมูกใส ๆ ซึ่งหยดตามลงมา
ยิ่งไม่สบายก็ยิ่งเห็นชัด....เขาเกลียดหมอกควันสีเทาพวกนี้ชะมัด!.......................................................................
................................
.
.
.
“Trick or treat~!?”“.......”
“TRICK OR TREAT!?”ธาราทำสีหน้าว่างเปล่าใส่เด็กหนุ่มที่ยืนยิ้มแฉ่งอยู่หน้าประตู... มรสุมอยู่เวรติดกันมาถึงสี่วันเพิ่งผ่านพ้นจนได้หยุดพักบ้างตอนนี้ เขาไม่ได้เดินสะโหลสะเหลกลับหอหลังลงเวรจากห้องฉุกเฉินมาเพื่อเล่นเกม
‘หลอกหรือเลี้ยง’ ในคืนฮาโลวีนกับเด็กน้อยปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม
“ไปนอนซะ”
แล้วประตูก็ถูกผลักปิดปังต่อหน้าต่อตาคนที่ยังยิ้มค้างปรับอารมณ์ไม่ทัน
“เฮ่ย! พี่หมอ ทำงี้ไม่ได้นะ!”
ชายหนุ่มกดล็อคที่ลูกบิด ใส่กลอนซึ่งอยู่ใต้กว่านั้นลงมาเพิ่มความแน่นหนา หากมีโซ่ก็อยากจะคล้องเอาไว้อีกชั้นแล้วเอาดินน้ำมันอุดตามร่องประตูป้องกันการรั่วซึมของสิ่งมีชีวิตไม่พึงประสงค์ยามวิกาลอันอาจทำให้ช่วงพักที่หาได้ยากเต็มทีของเขาต้องสูญเปล่า
“พี่หมอออออออ หมอไอซ์ค้าบบบบ!!”
เสียงโหยหวนดังขึ้นอีกฝั่ง แต่ความง่วงและเหนื่อยล้าจากการทำงานบอกเขาว่าอย่าไปสนใจ เข็มนาฬิกาบนผนังชี้ไปที่เวลาเที่ยงคืนครึ่งแล้ว ถึงพรุ่งนี้จะเป็นวันเสาร์แต่ก็ยังต้องอยู่เวรอีก เขาควรรีบนอนเอาแรงมากกว่าจะเสียเวลากับประเพณีปล่อยผีสัญชาติตะวันตก
“เปิดหน่อย แป๊บเดียว ผมอุตส่าห์รอจนป่านนี้”
เขาโคลงศีรษะ ถอดแว่นวางไว้บนโต๊ะข้างเตียง ควานหาหูฟังเครื่องเล่นเอ็มพีสามมายัดใส่หูแล้วลงไปนอนแผ่ก่อนจะหลับตาลงอย่างรวดเร็วพร้อมกับความเมื่อยขบทั่วร่าง เสียงกีตาร์อะคูสติกแผ่วเบาคลออยู่ในหูชวนในเคลิบเคลิ้ม มองเห็นประตูสู่ดินแดนนิทราแง้มเปิดรำไรหลังเปลือกตา
...กึงงงง....!!“!?”
แกรกกก....กกก....กก...ก.....!!...แกรกก...กก...ก...ราวกับประตูห้องของเขากำลังถูกกระทำชำเรา และนั่นเป็นเสียงขณะประตูผู้น่าสงสารกำลังยืนหยัดปกป้องอธิปไตยของตัวเอง บางทีเสียงแกรกกรากที่ได้ยินนั่นอาจมาจากการพยายามตะกุยประตูของอุ่นใจ ธารากดเร่งความดังของเพลงที่ฟังอยู่มากขึ้นโดยไม่แม้แต่จะชายตาไปมอง
แกร๊ก!เอาแล้วไง! เสียงสปริงจากลูกบิดประตูดังขึ้นบอกให้รู้ว่ามันถูกไขออกเป็นที่เรียบร้อย อุ่นใจมีกุญแจห้องนี้ ...ที่จริงก็มีทุกห้องหากอยากได้เพราะเป็นน้องชายเจ้าของหอพัก แต่นั่นจะเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลผู้อยู่อาศัยในหออย่างร้ายกาจและเจ้าตัวก็ดูมีจิตสำนึกพอจะเข้าใจเรื่องนี้ดี (อาจยกเว้นกับห้องนี้ซึ่งเจ้าเด็กแสบนั่นไม่ยักคิดว่าตัวเองกำลังละเมิดสิทธิเขาอยู่)
กึงงง!!ไขลูกบิดได้แล้วแต่ติดกลอนล่ะสิ!ธาราตัดสินใจปิดเพลงเมื่อพบว่ามันไม่ช่วยกั้นเสียงภายนอกออกจากหูเขาเท่าที่ควร เครื่องเล่นเอ็มพีสามคู่ใจถูกซุกไว้ใต้หมอนแล้วเจ้าของก็พลิกตัวกลับมานอนฟังเสียงจากนอกห้องในความมืด
“พี่หมอโหดเกินไปแล้ว!” อุ่นใจโอดครวญ
และนี่คือเหตุผลว่าทำไมเขาจึงต้องเสียเวลาติดกลอนเพิ่มอย่างกับคนเป็นโรคประสาทชายหนุ่มหัวเราะ
‘หึ’ ออกมาหนึ่งพยางค์ถ้วน ลุกขึ้นเปิดโคมไฟหัวเตียง ควานหาแว่นขึ้นมาสวมแล้วเดินไปหยุดอยู่หน้าประตู เสียงกุกกักดังอยู่อีกครู่ใหญ่บอกให้รู้ว่าแมวยักษ์หน้าห้องยังไม่เลิกตะกุย
“กลับห้องไปนอนได้แล้ว”
อุ่นใจงึมงำอะไรออกมาสักอย่างแต่เขาได้ยินไม่ถนัด ครู่หนึ่งก็ได้ยินคำโวยวายดังขึ้นอีกครั้ง
“ไปก็ได้ ง้อตายล่ะ! คนอะไรวะ”น้ำเสียงกระฟัดกระเฟียดตอบกลับมา ตามด้วยเสียงฝีเท้าตึง ๆ ดังขึ้นและเบาลงจนถูกกลืนหายไปกับความสงัดเงียบที่เขาโหยหา แต่ธารารู้ดีถึงสิ่งที่ซ่อนอยู่ภายใต้เสียงนั้น เพราะมุกนี้เคยถูกเอามาใช้แล้วหนึ่งครั้งและเจ้าตัวคงลืมไป
อุ่นใจยังอยู่ที่เดิมแน่นอน....ตรงหน้าประตูนั่นแหละ ชายหนุ่มยกมือนวดขมับตัวเอง เจ้าเด็กบ้านั่นทำเขาตาสว่างหมดแล้ว
“ว่างมากนักหรือ?”
“......”
“ไม่ต้องทำเงียบ รู้ว่ายังอยู่ตรงนั้น”
เขาได้ยินเสียงจิ๊จ๊ะขัดอกขัดใจ
“ไม่ว่างหรอก แต่อยากมา”
“...”
“นะพี่หมอ...? แป๊บเดียว เมื่อกี้ฝันไม่ค่อยดี”
“...เฮ้อ......”......................................................................
...........................................
.
.
เสียงกลอนถูกปลด ก่อนที่ประตูจะเปิดผาง สำเร็จแล้ว!
“Trick or treat?”อุ่นใจยิ้มเผล่ ถามคำเดิมออกมาอีกครั้ง
อีกฝ่ายถอนหายใจท่าทางรำคาญเขาเต็มแก่ อย่าว่าแต่ธาราเลย เขายังรำคาญตัวเองอยู่ไม่น้อยที่คอยจะมีลางสังหรณ์อะไรแปลก ๆ ผุดขึ้นมาให้วิตกไปล่วงหน้าโดยใช่เหตุจนอยู่ไม่สุขเช่นนี้ และข้ออ้างอะไรจะเหมาะไปกว่าการละเล่นหลอกหรือเลี้ยงสำหรับคืนฮาโลวีน(แม้เลยเที่ยงคืนไปแล้วนิดหน่อย)
เงียบกันไปพักหนึ่ง ก่อนธาราจะยกมือขึ้นกอดอกพลางพยักหน้าท้าทาย "ทริค”
“เอาจริงอะ ผมง่วงจะแย่”
“เรื่องมาก แล้วถามทำไม พี่ห้ามเธอนอนหรือ? ตกลงจะเอายังไงบอกมา”
โห...มาเป็นชุด นั่นทำเขาอดเบ้ปากออกมาไม่ได้ คนอุตส่าห์เป็นห่วงแท้ ๆ เด็กหนุ่มยืนลังเลแต่แล้วก็หาวออกมาหวอดใหญ่ มือแทนที่จะยกขึ้นปิดปากให้เรียบร้อยกลับแบออกยื่นไปตรงหน้า
“ทรีต”
“ห้องพี่ไม่มีขนม”
“วิตามินซีก็ได้”
“นั่นก็ไม่มี”
“เป็นหมอต้องมีวิตามินซีสิ”
“แล้วเป็นน้องชายเจ้าของร้านเค้กเธอพกเค้กติดตัวไหมล่ะ”
เดี๋ยวนะ...ขอถอยมายืนจุกแป๊บหนึ่ง“ฮาโลวีนทั้งที ไม่มีอะไรมาทรีตเลย ขี้ตืดโคตร ๆ”
ธารากลอกตา เดินไปหยิบอะไรบางอย่างมาโยนให้เขา “เอ้า ทรีตด้วยไอ้นี่”
เด็กหนุ่มก้มลงมองสิ่งที่เพิ่งรับเอาไว้ในมือ แผงสีขาวซึ่งดูอย่างไรก็ไม่มีทางเป็นขนมไปได้มีชื่อสามัญเด่นชัดทิ่มลูกตา
‘พาราเซตามอล’“.....”
นี่มันห่างไกลคำว่าขนมไปหลายขุมทีเดียว!
ธาราเอียงตัวไปยืนพิงกรอบประตูแล้วหาวขึ้นมาบ้าง เขาได้แต่มองตามตาปริบ ๆ เห็นว่าคนตรงหน้าไม่มีอะไรผิดปกติอย่างที่ระแวงไปเองก็รู้สึกโล่งขึ้นมานิดหน่อยแต่ยังไม่สนิทใจนัก
“ผมเข้าไปได้เปล่า”
“ไม่ต้องเลย ถ้าไม่มีอะไรก็กลับไปได้แล้ว พรุ่งนี้พี่ต้องทำงา—”
ไม่ทันแล้ว..เขาวิ่งปร๋อเข้าห้องมาเป็นที่เรียบร้อย จัดแจงเปิดไฟเสียสว่างโร่พลางหันซ้ายขวามองไปทั่ว ความไม่สบายใจที่ค้างคาอยู่นี้บอกไม่ถูกเลยว่ามาจากไหนรู้แต่สัมผัสได้ว่ามันวนเวียนอยู่ใกล้ ๆ นี่เอง
เขาเดินสอดส่องได้ครู่เดียวอีกฝ่ายก็ตามเข้ามา หมอหนุ่มดูท่าคงใกล้สติหลุดจากร่างเต็มทีท่าเดินตอนกลับมาในห้องจึงดูโซเซพิกล
“วันนี้ยุ่งเหรอพี่หมอ”
“ประมาณนั้น อีอาร์บ่ายคนอย่างกับปลวก”
อุ่นใจพยักหน้าช้า ๆ ขณะที่อีกฝ่ายคล้ายจะเลิกสนใจเขาไปแล้ว หลังจากพ่นลมหายใจท่าทางเหนื่อยหน่ายออกมาหนึ่งครั้งก็ล้มตัวลงนอนแผ่ทั้งที่ห้องยังเปิดไฟเกือบครบทุกดวง
“พี่จะนอนแล้ว อยากทำอะไรก็ทำแต่อย่าส่งเสียงหนวกหู" ชายหนุ่มยอมแพ้ในที่สุด "ถ้าจะออกไปก็ล็อคห้องให้ด้วย”
“...ไม่ออกได้ไหมล่ะ”
เด็กหนุ่มบ่นพึมพำ สายตายังกวาดมองไปทั่วห้องจนมาสะดุดเข้ากับปากกาด้ามหนึ่งที่โผล่ออกมาจากกระเป๋าเสื้อกาวน์สั้นซึ่งวางพาดบนเก้าอี้ เขาสูดน้ำมูก เริ่มจะคันจมูกอยากจามขึ้นมาอีกแล้ว หรี่ตามองกลุ่มควันสีเทารอบกระเป๋าข้างที่มีปากกาเสียบอยู่ด้วยสีหน้าครุ่นคิด
“ไอ้นี่พี่ได้มาจากไหนอะ”
ไม่มีเสียงตอบ หันไปมองก็พบว่าเจ้าของห้องหลับปุ๋ยไปแล้ว แว่นยังไม่ทันได้ถอดเลยด้วยซ้ำ
อุ่นใจดึงปากกานั้นขึ้นมา สีเหลืองหม่นของพลาสติกที่ด้ามดูขมุกขมัวชอบกล บนจุกปากกามีคราบสีแดงแห้งกรังติดอยู่เป็นจุดเล็ก ๆ สองสามแห่ง และเขาไม่ชอบความรู้สึกตอนสัมผัสมันเอาเสียเลย ช่างน่าขนลุกแบบเดียวกับความฝันที่ทำเขาตื่นขึ้นกลางดึก
“ผมขอนะ” พูดจบเขาก็ทำเสียงขรึมเลียนแบบอีกฝ่าย “อือ..เธอเอาไปสิ...โอ้! ขอบคุณครับพี่หมอ....ไม่เป็นไร ๆ”
พูดเองเออเอง...อนุญาตตัวเองเป็นที่เรียบร้อยก็หยิบมันขึ้นมาหักกร๊อบ ด้ามพลาสติกร้าวเป็นรอยแต่ยังไม่แยกออกจากกัน
"แข็งว่ะ"
เด็กหนุ่มเม้มปาก เกร็งมือเต็มแรงหักมันอีกครั้งแล้วบิดจนแตกเป็นสองท่อน ยืนชื่นชมผลงานอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะโยนซากปากกาหัก ๆ ทิ้งออกนอกระเบียง
“พี่ติดหนี้ผมอีกแล้ว”....................................................................
......................................
.
.
.
“เฮ่ย ไอซ์”
ก้องหล้า ชายหนุ่มร่างท้วมในเสื้อกาวน์สั้นเอ่ยทักเขาแล้วเร่งฝีเท้าเข้ามาใกล้เมื่อเห็นแล้วว่ากำลังจะเดินไปทางเดียวกัน “ได้ข่าวเมื่อคืนเวรยุ่งเหรอวะ”
“โคตรยุ่ง CPR ไปสาม แถมมีคนเมาอาละวาดแทบจะแทงคู่กรณีตายใน ER เผลอ ๆ จะแทงหมอด้วยแล้ว”
เขาประชด เวรห้องฉุกเฉินคืนฮาโลวีนวานนี้ยุ่งเยินจนต้องจดจำไปอีกนานทีเดียว “ยังไม่รวมเคสไก่กามหาศาลอีก”
อีกฝ่ายหัวเราะ “น่ากลัวฉิบหาย เมื่อกี้พี่ยามข้างหน้าเล่าให้ฟังเป็นฉาก ๆ ช่วงนี้ดวงแกแรงจังวะ”
“เออ สงสัยอยู่เหมือนกัน เยินมาหลายเวรแล้ว” ชายหนุ่มยักไหล่ แกว่งกาแฟกระป๋องในมือขณะสาวเท้าไปตามทางเดินยาวเหยียดเชื่อมระหว่างตัวตึกของโรงพยาบาล “แต่เวรวอร์ดเช้านี้สงบดีนะ แปลก”
“เฮ่ย เดี๋ยวขอแวะร้านถ่ายเอกสารแป๊บดิ”
“Interesting case อาทิตย์นี้ของแกเหรอ?”
“อือ ยังไม่เสร็จเลย งงฉิบหาย” ก้องหล้าเอ่ยรับ หันไปวางหนังสือเล่มโตบนเคาน์เตอร์ร้านถ่ายเอกสารแล้วพลิกหน้านั้นหน้านี้ไปมา “จากนี่ครับ ถึงหน้าสองร้อยเจ็ดสิบหก...อ่า....แล้วก็หน้าสามร้อยเก้าสิบห้าถึงอันนี้....ไม่ใช่ ๆ อันนี้....เออ เอางี้เดี๋ยวผมจดให้”
เขาควานหาปากกาในกระเป๋าตั้งใจจะเอามาจดหน้าที่ต้องการให้ร้านแต่กลับพบว่าลืมหยิบปากกาติดตัวมาด้วย “ไอซ์ มีปากกาไหมวะ เอามายืมหน่อย”
ธาราพยักหน้า แต่แล้วก็นึกขึ้นได้ว่าปากกาสีเหลืองหม่นซึ่งเขาเองจำไม่ได้แล้วว่าติดมือมาจากไหนด้ามนั้นหายไปเมื่อคืนนี้ ทั้งที่ใช้มาได้ตั้งหลายวันเพราะเขียนดีถูกใจ เมื่อเช้าเขาตื่นขึ้นแต่งตัวมาทำงานก็เจอแต่ปากกาลูกลื่นรูปกระต่ายดูคิกขุผิดวิสัยชายหนุ่มวัยฉกรรจ์จะหยิบมาใช้วางอยู่บนโต๊ะพร้อมกับโพสต์อิทแผ่นเล็กแปะไว้ว่า
‘ใช้ด้วยนะครับ!’ ซึ่งคนทำลงชื่อเอาไว้เรียบร้อยจะได้ไม่ต้องเสียเวลาเดา มั่นใจได้เลยว่าเลือกลายสาวแตกขนาดนี้จงใจแกล้งเขาแน่นอน คาดว่าปากกาด้ามเดิมที่หายไปก็น่าจะเป็นฝีมืออุ่นใจด้วยเหมือนกัน
“เอ้านี่”
ก้องหล้ารับปากกาไปจากเขาโดยไม่ได้เงยหน้าขึ้นมา แต่พอเห็นสิ่งที่อยู่ไหนมือก็ถึงกับอุทานออกมาเสียลั่น
“อื้อหือ ปากกาแกสาวมากไอซ์!”
“ใช้ ๆ ไปเหอะน่า”
“รสนิยมอย่างงี้เหรอวะ”
เขายักไหล่ ขี้เกียจต่อความยาวสาวความยืด รู้สึกครึ้มอกครึ้มใจอย่างไรบอกไม่ถูก ความจริงวันนั้นเขาอารมณ์ดีไม่มีสาเหตุต่อเนื่องไปทั้งวันทีเดียวแม้ว่าเมื่อคืนก่อนได้นอนไปไม่เยอะอย่างที่ตั้งใจ
หลังลงเวรในเช้าอีกวัน ราวน์วอร์ดเสร็จแล้วธาราแวะร้านสะดวกซื้อของโรงพยาบาลหาอะไรรองท้องก่อนกลับห้องพัก กำลังจะจ่ายเงินสายตาก็เหลือบไปเห็นแผงยาพาราเซตามอลวางอยู่บนเคาน์เตอร์ นึกถึงหน้ามุ่ย ๆ ของคนที่ยังบ่นหงุงหงิงตอนเช้าวานนี้เรื่องได้ยาสามัญประจำบ้านแทนขนมสำหรับทรีตวันฮาโลวีนแล้วยังอดขำอยู่ในใจไม่ได้
เมื่อคืนนี้ทั้งเวรสงบจนน่าไม่น่าเชื่อว่าเป็นโรงพยาบาลเดียวกับเมื่อสองสามวันก่อน และนั่นทำให้เขาอารมณ์ดีพอจะหยิบช็อกโกแลตคิสขึ้นมาอีกห่อทันก่อนพนักงานคิดเงินเสร็จ
“เพิ่มอันนี้ด้วยครับ”
เขายืนมองของทั้งหมดถูกวางใส่ถุงพลาสติกอย่างใจเย็น แอบสังเกตเห็นพนักงานสาวลอบมองจุกปากการูปกระต่ายที่เสียบอยู่ในกระเป๋าเสื้อเขาแล้วยิ้มมุมปาก ภาพพจน์ขรึม ๆ ท่าทางจะตกลงฮวบฮาบ
ปากกากระต่ายนี่คงเป็นทริค...ส่วนแผงยาของเขาที่ให้ไปจะถือว่าเป็นทรีตได้ไหม....ไม่น่าได้ ดูทำลายฝันเด็กอย่างไรแปลก ๆ
ช็อกโกแลตคิสในถุงส่งเสียงกรอบแกรบยามเขาแกว่งมือ
ทรีตช้าไปหน่อย...แต่เจ้าเด็กแสบนั่นคงถูกใจช็อคโกแลตคิสมากกว่าพาราเซตามอลHappy Halloween! (ล่วงหน้าหนึ่งวันค่ะ) ^o^
===============================
ในที่สุดก็อัญเชิญหมอไอซ์มามีบทได้เสียที 5555 พี่หมอชื่อจริงชื่อธาราค่ะ
ในเรื่องหลักจะสังเกตว่าอุ่นใจมักปรากฏตัวพร้อมขนม ช็อกโกแลตบาร์ ช็อกโกแลตคิส นั่นโน่นนี่(ฮา)
ลางสังหรณ์แปลก ๆ ของอุ่นใจ เอาไว้ค่อยเล่าถึงในพาร์ทของสองคนนี้นะคะ
อนึ่ง คำพูดบางคำในเรื่องถือว่าอ่านขำ ๆ ให้บทสนทนาดูสมจริง ข้ามไปเลยก็ได้ แต่ถ้าสงสัยมีคำอธิบายคร่าว ๆ ค่ะ
*วอร์ด(ward) – หอผู้ป่วยใน
*CPR (Cardiopulmonary resuscitation) – การช่วยฟื้นคืนชีพ/การกู้ชีพ
*เวรวอร์ด – คำเรียกเวรที่แพทย์อยู่ดูแลคนไข้ในหอผู้ป่วยแต่ละแผนก เช่น แผนกอายุรกรรม ศัลยกรรม สูติกรรม ฯลฯ
*เวร ER(Emergency Room) – เวรเฝ้าห้องฉุกเฉิน โดยทั่วไปจะแบ่งเป็น 8 ชม.x 3 เวรในหนึ่งวัน คือ เวรเช้า(8.00 น.-16.00 น.), เวรบ่าย (16.00 น.-00.00 น.) และ เวรดึก (00.00 น.-8.00 น.)
*วอร์ดราวน์(n.) (ward round) หรือที่เรียกกันทั่ว ๆ ไปในรูปแบบคำกริยาว่า ราวน์วอร์ด คือการตรวจเยี่ยมผู้ป่วยในหอผู้ป่วยทีละเตียงในแต่ละวันของแพทย์ วันละหนึ่งรอบ...สองรอบ...สามรอบ xxxรอบ แล้วแต่แพทย์/ผู้ป่วย/บริบทในรพ.แต่ละแห่ง
ขอเอารูปเก่าซึ่งเข้ากับตอนนี้มาแปะนิดนึง


ของแถมรีพลายถัดไป
ขอบคุณคนท่านทุกท่านงาม ๆ

แล้วพบกับแม่ไก่ลูกเจี๊ยบตอนหน้าค่ะ ^^
***สารบัญคลิกที่นี่ค่ะ***