Dormitory boys – สะดุดรัก หอพักอลเวง
“รัก...ติดดิน”CHAPTER 51 – สายที่รับ...และสายที่ไม่ได้รับ...ใกล้ถึงคริสต์มาส...ร้านเค้กทานตะวันถูกตกแต่งด้วยคู่สีหลักเขียว-แดงสะดุดตาไล่ไปตั้งแต่เพดานจรดพื้น เถามิสเซิลโทปลอมแขวนอยู่บนผนัง หันไปทางไหนก็พบดาวพลาสติกสะท้อนแสงวิบวับ ตุ๊กตาเรนเดียร์จมูกแดงของซานตาคลอสทำหน้าแป้นแล้นอยู่ใต้ต้นคริสต์มาสขนาดใหญ่กลางร้าน กล่องของขวัญที่ข้างในมีเพียงอากาศธาตุว่างเปล่าแต่ยังอดแอบเอามาเขย่าเล่นไม่ได้วางเกลื่อนอยู่ข้างกัน แม้พนักงานในร้านทุกคนนับถือศาสนาพุทธ แต่อะไรเข้ากับเทศกาลแบบนี้ดึงดูดความสนใจจากลูกค้าได้ดีอย่างไม่ต้องสงสัย ยิ่งใกล้สิ้นปีกับอุณหภูมิที่ลดให้ชื่นใจลงมานิดหน่อย(เพราะเมืองร้อนก็คงได้แค่นี้)ผู้คนก็ยิ่งคึกคัก แล้วใครจะกล้าปฏิเสธเทศกาลแห่งความสุขได้ลงคอ บรรดาลูกจ้างทั้งหลายไม่ถูกเอมจิตบังคับแต่งชุดแดงติดหนวดขาวฟูฟ่องมาวิ่งเสิร์ฟเค้กก็ถือว่าบุญนักหนาแล้ว
แต่อาจจะยกเว้นแวววัน“พี่ใส่อย่างนี้ดีไหมหนุ่ม ๆ”
เธอถามเริงร่าพลางเดินนวยนาดในชุดกระโปรงสีแดงสดเหนือเข่าขึ้นมาเล็กน้อย ประดับด้วยขนปุกปุยสีขาวแถวชายกระโปรงและส่วนผ้าคลุมไหล่ บนศีรษะมีหมวกผ้าทรงกรวยประดับขนปุยแบบเดียวกับเสื้อผ้าวางหมิ่นเหม่ไว้ด้วยมุมที่เจ้าตัวพิจารณาแล้วว่ารับกับทรงผมทวินเทลของวันนี้ที่สุด
“ติดหนวดอีกนิดเจ๋งเลยพี่แวว!”
ซานตี้สาวหันมาทำตาเขียวใส่เด็กหนุ่มผู้มาเยือนทันที
“ไอ้คิม เดี๋ยวเจ้เฉาะหัวแบะเลย!”
เจ้าของชื่อยักไหล่ ออกอาการกลัวอย่างเสแสร้งแล้วเดินไปเกาะหลังเพื่อนรักซึ่งกำลังวางออร์เดอร์ลูกค้าลงบนเคาน์เตอร์ ก่อนจะได้รับคำถามซึ่งดูเหมือนคนพูดก็ไม่ต้องการคำตอบนักกลับมา
“มาทำไรวะ”
“พักผ่อน”
คิมหันต์ตอบนิ่ง ๆ ตรงไปตรงมาไม่ต้องถอดความ ร้านเค้กนี้ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของเขา จะมีหายหน้าหายตาไปบ้างช่วงที่อาทิตย์ย้ายเข้ามาใหม่ แต่หลังจากนั้นเมื่อความสัมพันธ์ของเพื่อนทั้งสองชัดเจนขึ้นเด็กหนุ่มก็หมดความกระอักกระอ่วนใจกับการมาจับจองโซฟาเยิน ๆ ตัวเดิมซึ่งแอบอยู่มุมร้านและไม่มีลูกค้าคนไหนคิดนั่ง พร้อมกับหนังสือสักเล่ม หิ้วแล็ปท็อปมาเล่นฟรีไวไฟ หรืออาจจะวิ่งไปช่วยเป็นเด็กเสิร์ฟอีกคนในวันที่คนเข้าร้านเยอะเช่นวันนี้..
“คิมเอาไปเสิร์ฟโต๊ะสามดิ๊”
“เวรนี่! ยังไม่ทันได้นั่งเลย ใช้ละ”
“ชิ่ว ๆ”
ปิ่นหยกโบกมือไล่แล้วแวะเก็บจานเปล่าบนโต๊ะที่ลูกค้าเพิ่งเดินออกไปยกเข้าหลังร้าน ระหว่างทางเห็นเอมจิตกำลังวุ่นอยู่กับเครื่องบดกาแฟ ถ้วยเซรามิคสีขาวลายเถาไม้เลื้อยที่วางอยู่ไม่ไกลส่งกลิ่นหอมกรุ่นจนอดทำจมูกฟุดฟิดระหว่างทางไม่ได้ กลิ่นหอมละมุนซึ่งล่องลอยรอบตัวพี่ใหญ่ของครอบครัวสมมติเล็ก ๆ นี้ทำเขาเคลิ้มไปชั่วครู่ เหมือนกำลังเดินเล่นในดินแดนขนมหวาน มาตระหนักถึงความจริงอีกทีเมื่อเดินเลยเข้ามาเจอภาพจานชามแก้วน้ำใช้แล้ววางซ้อนกันกองพะเนินแถวอ่างล้างจาน รู้ตัวว่ากว่าจะถึงเวลาร้านปิดเย็นนี้ต้องเหนื่อยแน่นอน
“พี่ปิ่น เห็นกุญแจห้องเก็บของปะ”
อุ่นใจชะเง้อเข้ามาในครัว ทำหน้าเจื่อนอยู่เดิมนิดหน่อยอยู่แล้วก่อนจะยิ่งดูเจื่อนมากขึ้นอีกเมื่อเขาส่ายหน้าปฏิเสธ
“ไม่เห็น”
“เมื่อวานยังใช้เปิดอยู่เลย...เอาไปไว้ไหนแล้วหว่า”
“บอกพี่เอมเอากุญแจสำรองดิ”
“เดือนนี้อุ่นทำหายสองรอบแล้ว” เจ้าตัวเกาท้ายทอยพลางส่งรอยยิ้มจืดชืด “ขืนพี่เอมรู้ว่าหายอีกโดนงับหัวหลุดแหง”
ปิ่นหยกหัวเราะแห้งเหี่ยวไปด้วย รู้ดีว่าอุ่นใจไม่ได้พูดเกินจริงเลยแม้แต่น้อย เอมจิตโหมดโหดเป็นร่างที่ปรากฏตัวขึ้นนาน ๆ ครั้งแต่ความสำคัญขอยกให้เทียบเท่ากับภัยธรรมชาติใหญ่ ๆ ที่พวกเขาภาวนาว่าอย่าให้มีเลยจะดีที่สุด
“งั้นก็งัดเลย” เขาขยิบตาให้น้องเล็ก “ปกติทำอยู่ไม่ใช่เหรอ”
“......”
“กุญแจเดี๋ยวค่อยไปหา”
อุ่นใจยิ้มเจ้าเล่ห์ งัดประตู สะเดาะกุญแจ..งานถนัดเขาเลย เพียงแต่อยากหาผู้สนับสนุนสักคนเท่านั้นเอง
“พี่ปิ่นโคตรรู้ใจ”
“ให้ไวไอ้น้อง เดี๋ยวดูต้นทางให้”
ช็อกโกแล็ตคิสจำนวนหนึ่งกำถูกยัดใส่มือเขา ก่อนเจ้าของขนมหวานที่ราวกับถูกใช้เป็นสินบนจะวิ่งปรู๊ดไปง่วนทำอะไรกุกกักอยู่หน้าลูกบิดประตูเจ้าปัญหา
........................................................................
............................................
.
.
.
.
เขาออกมาจากครัวอีกครั้งเพื่อพบคิมหันต์นั่งเอกเขนกอ่านหนังสือเตรียมสอบอยู่บนเก้าอี้ตัวโปรด แต่หน้าจอแล็ปท็อปเปิดโหลดการ์ตูนค้างไว้ อีกหน่อยเขาจะไปยุให้เอมจิตเก็บค่าเช่าที่นั่ง ค่าอินเตอร์เน็ต ค่าไฟ และค่าหมั่นไส้(หากมันคิดเป็นมูลค่าได้)กับเพื่อนรักตาตี่นี่สักวัน
เสียงกระทบกันของโมบายซึ่งแขวนอยู่กับประตูทางเข้าร้านดังขึ้น ปิ่นหยกรักเสียงกรุ๋งกริ๋งกังวานของมัน วันไหนไม่ได้ยินคงรู้สึกเหมือนชีวิตขาดอะไรไป ร่างที่เดินเข้ามาใหม่ไม่ใช่ลูกค้าแต่เป็นสมาชิกของร้านอีกคนที่หายออกไปเป็นชั่วโมงเพราะโดนเวรซื้อของประจำสัปดาห์นี้
“มาแล้วครับ”
นั่นเป็นเสียงทุ้มอีกอย่าง ที่ทำให้เขารู้สึกว่าหากวันไหนไม่ได้ยินคงรู้สึกขาดอะไรไปเหมือนกับเสียงโมบายหน้าประตู แต่แน่นอนว่าเขาไม่คิดบอกอาทิตย์เรื่องนั้นเด็ดขาด
“วันนี้ครีมเทียมลดราคา” เด็กหนุ่มร่างสูงว่าแล้วเดินตรงเข้ามารื้อของแยกเก็บตามตู้และชั้นวาง เสียบบิลค่าใช้จ่ายไว้กับแท่นเสียบโลหะ “กระดาษเช็ดปากซื้อสองแถมหนึ่งด้วย”
ปิ่นหยกเลิกคิ้ว นึกถึงท่านชายคนที่เดินตามเขาแถวตึกร้างเมื่อวันเปิดเทอมไม่ออกเลยจริง ๆ
“เก่ง ๆ”
เขาเอ่ยชมด้วยสำเนียงค่อนขอด แต่ลูกเจี๊ยบที่แม้จะรู้จักเอางานเอาการบ้างแล้วก็ยังคงความหน้ามึนไม่มีขาดตกบกพร่องด้วยการหันมาทำตาเป็นประกายวิบวับใส่
“รางวัลล่ะ?”
“เดี๋ยวอาทิตย์หน้าให้ไปซื้ออีกรอบ”
“ขี้โกงนี่”
“งั้นแถมอาทิตย์ถัดไปด้วย” เขายักคิ้ว
“ปิ่นหยกอย่าทำมึนใส่สิครับ”
ถูกกล่าวหาว่ามึนจากมนุษย์หน้ามึนต้นตำรับเป็นเรื่องน่าหงุดหงิดจริง ๆ ให้ตาย!
“อย่างแกว่าใครได้ด้วยเรอะ!?”
อาทิตย์ยิ้มกริ่ม ไม่ได้เถียงอะไรกลับมา ย่อตัวลงเก็บครีมเทียมลดราคาไว้ในตู้ชั้นล่างสุด มุดเสียจนทั้งศีรษะแทบหายเข้าไปในนั้น ขยับจัดวางพวกมันอยู่ครู่หนึ่งก่อนน้ำเสียงตระหนกจะดังอู้อี้จากในตู้
“ปิ่นหยก!”
“ห๊ะ!?”
“ช่วยหน่อย”
“อะไร..เป็นอะไร? หัวติดรึไง!?”
ปิ่นหยกทำหน้าเลิ่กลั่ก ถ้าเข้าไปติดอยู่ในนั้นจริงเขาจะได้ขอเวลายืนหัวเราะ แล้วเรียกผู้คนมาเป็นไทยมุงให้ขายหน้าเล่นก่อนช่วยออกมา
“เร็ว ๆ ครับ”
โดนเร่งเข้าก็ทำเอาเด็กหนุ่มพ่นลมหายใจพรืด ย่อตัวตามลงไปดูชัด ๆ ว่าแค่เก็บของเข้าตู้มันจะมีปัญหาอะไรเยอะแยะ “ไหนขยับดิ๊!” เขาออกคำสั่งพลางยื่นหน้าเข้าไปดู
ข้างในนั้นก็แค่ช่องเก็บของมืด ๆ ธรรมดาอย่างถึงที่สุด ไม่เห็นมีอะไรน่าตกใจสักนิด
...ไม่มีจนกระทั่งถูกบางอย่างนิ่ม ๆ หยุ่น ๆ แตะเข้าบนริมฝีปากในความมืดนั่นเองใช้เวลาอีกครู่หนึ่งกว่าจะตั้งสติได้และรู้ตัวว่าเมื่อครู่นี้เกิดอะไรขึ้น บางทีไม่ต้องรู้..แล้วนึกเสียว่าเป็นจิ้งจกสักตัวกระโดดเกาะปากอาจดีกว่า เพราะเขาเริ่มสิ้นคิดว่าจะทำอย่างไรกับหนังหน้าร้อนฉ่าของตัวเองดีเต็มทน ผีตู้เก็บของนี่จะเฮี้ยนเกินไปแล้ว
“ชื่นใจ”
“...อ...ไอ้...!”
“ถ้าให้ไปซื้ออีกคราวหน้าต้องได้รางวัลใหญ่กว่านี้นะ”
“ไอ้โรคจิต!”
“อือ เป็นคนโรคจิตของนายคนเดียว”
และอาทิตย์ยิ้มกว้าง...แต่ปิ่นหยกไม่น่าจะเห็น ร่างสูงถอยหลังมุดออกมาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ลุกยืนเรียบร้อยแล้วยังสามารถทักทายลูกค้าซึ่งเพิ่งเปิดประตูเข้ามาน้ำเสียงราบเรียบเป็นประโยค “เชิญด้านในครับ” ไร้อาการสะดุดแม้สักนิด ก่อนเดินออกไปต้อนรับยังมีหันมาทิ้งท้ายให้อีกฝ่ายเจ็บใจเล่นอีกว่าอย่าอู้นาน ปล่อยคนที่เพิ่งเสียท่านั่งขบเขี้ยวเคี้ยวฟันว่าตัวเองไม่ใช่หรือคอยแต่จะเป็นคนชวนอู้อยู่เกือบตลอดเวลา
ร้านเค้กคึกคักเช่นนั้นเกือบทุกวันจนถึงคริสต์มาสจริง ๆ
เวลาล่วงเข้าช่วงเย็นย่ำ ลูกค้าไม่รู้ว่าโผล่กันมาจากไหนเยอะแยะ พวกเขาวิ่งทำงานกันตาเหลือกทั้งที่ใกล้เวลาปิดร้านเต็มที คิมหันต์โผล่มาช่วยในช่วงท้ายทั้งที่นัดกันไว้ึค่ำกว่านี้ (เพราะเอมจิตบอกคืนนี้จะเลี้ยงฉลองกัน) แม้จะทำงานไปบ่นไปก็ยังอุตส่าห์ช่วยจนปิดร้าน
ระหว่างกำลังก้ม ๆ เงย ๆ กับจานเปล่าของลูกค้า ปิ่นหยกเงยหน้ามองนาฬิกาแล้วเบนสายตาออกไปหน้าร้าน หลังปรับโฟกัสได้ก็ถึงกับต้องกะพริบตาปริบ ๆ อ้าปากค้างเมื่อคล้ายจะเห็นร่างใหญ่ของกริชในชุดซานตาคลอสสีแดงสดเป็นเงาตะคุ่มอยู่ข้างนอก...?
“???”
“เดี๋ยวคิดเงินเลยค่ะ”
“อะ...ครับ!”
เด็กหนุ่มหันมาสนใจหน้าที่ตัวเอง พูดคุยกับลูกค้าได้ครู่เดียวเงยขึ้นมาก็ไม่เห็นบุคคลน่าสงสัยเสียแล้ว โลกนี้มีเรื่องแปลกประหลาดให้ข้องใจเสมอ เผลอขมวดคิ้วน้อย ๆ ขณะบอกตัวเองว่าเขาคงคิดไปเอง หมีใหญ่บ้าพลังอย่างกริชไม่มีทางแต่งตัวอย่างนั้นเดินทะเล่อทะล่า ทำตัวเป็นซานต้าควบบิ๊กไบค์ไล่แจกของขวัญทำลายฝันเด็กแน่นอน
“ปิ่นหยก โทรศัพท์”
“ของผม?”
รอยยิ้มบางวาดขึ้นบนริมใบหน้าชายหนุ่มเจ้าของร้านพร้อมกับศีรษะซึ่งผงกน้อย ๆ มีคำขยายความตามมาที่ทำให้เขาฉีกยิ้มตอบแล้วรีบกระโจนไปคว้าหูโทรศัพท์มาไว้ในมือ
“จี้หยกกับคุณน้า”
“ครับผม!”ปิ่นหยกยิ่งหน้าบานขึ้นอีกเมื่อได้ยินเสียงที่คิดถึงจากอีกปลายสาย
“ครับ”
“สบายดี แม่เพชรล่ะ”
“โหยยย...ปิ่นก็คิดถึง”
“อื้อ..! พี่ต้นอะนะ”
อาทิตย์หูผึ่งทันที เดินฉับ ๆ เข้ามาวนเวียนอยู่แถวโทรศัพท์ทำทีเป็นหยิบโน่นจับนี่จนแทบไม่เหลืออะไรให้คว้าแล้ว
“อยากกินดิ”
เขาคุยพลางเหลือบมองท่านชายที่เริ่มออกอาการเพี้ยนไปด้วย ท่าทางคงไม่มีอะไรทำแถวนี้แล้วจึงได้เอาเหยือกน้ำมาเอียงเล่นให้น้ำหยดบนโต๊ะแล้วเอาผ้าตามเช็ดเหมือนคนว่างงานแทนที่จะไปช่วยอุ่นใจปิดร้าน
“บอกว่าเอามาเยอะ ๆ เลย”
ปิ่นหยกกรอกเสียงใส่หูโทรศัพท์ ขณะที่สายตาจับจ้องคนตรงหน้าไม่วางตา นึกสนุกจึงพูดต่อเสียงนุ่มกับคนในสาย “..ปิ่นชอบ ฝากบอกพี่ต้นด้วยว่า—”
ตู๊ด...ตู๊ด...ตู๊ด...ตู๊ด“เฮ่ย!?”สายตัดไปแล้ว...ผู้ต้องหาถูกจับได้คาหนังคาเขาขณะกำลังก่อเหตุ“กดวางทำไมไอ้เวร!”
“ฝุ่นมันเกาะเลยจะเช็ดครับ”
และคำให้การของจำเลยฟังไม่ขึ้นเอาเสียเลย!“เช็ดอะไรโทรศัพท์ตอนคนอื่นคุยอยู่!”
“อยากกินอะไร ทำไมต้องให้พี่ต้นเอามา”
มนุษย์หน้ามึนซึ่งเริ่มมึนขั้นแอดวานซ์จัดการเปลี่ยนเรื่องไม่มีปี่มีขลุ่ย เขาไม่แน่ใจว่าควรหงุดหงิดหรือหัวเราะดี แย่ตรงที่อยากโวยแต่ปากคอยจะอมยิ้มอยู่นั่น จัดการวางหูลงที่เดิมเรียบร้อย ยังไม่ได้ทันสวนกลับท่านชายเสียงโทรศัพท์ก็ดังแหลมแหวกอากาศขึ้นอีกครั้ง
กริ๊งงง...งงงงงง..งงงงง...งงง...ปิ่นหยกรีบตะครุบมันขึ้นมาใหม่พร้อมกับลากตัวเครื่องมาไว้ในอาณาเขตปลอดภัยใกล้มือ ไม่ลืมแยกเขี้ยวขู่ไปก่อนเผื่อคุณชายจะอยากปัดฝุ่นบนโทรศัพท์ขึ้นมาอีก
“สวัสดีครับ ร้านเค้กทานตะวันครับ”
“แม่เอง”
“ง่ะ แม่เพชร..ขอโทษ เมื่อกี้มีลูกเจี๊ยบซุ่มซ่ามหล่นใส่ปุ่มวางสาย”
“อาทิตย์น่ะหรือ?”
“......”
อีกฝั่งหัวเราะท่าทางจะชอบใจที่เขาพูดไม่ออก
“แม่เพชรขำอะไร”
“อาทิตย์ยังอยู่ตรงนั้นไหม?”
เขาเหลือบตามองคนในบทสนทนาที่ทำท่าเหมือนอยากยื่นหูเข้ามาฟังด้วยเต็มแก่ก่อนจะเอ่ยตอบเบา ๆ อย่างเสียมิได้
“ยังอยู่ครับ วนเวียนเป็นผีหลอกวิญญาณหลอนเลย”
กิ่งเพชรหัวเราะอีกครั้ง “แม่คุยกับอาทิตย์หน่อยสิ”
ปิ่นหยกอยากประท้วงว่านี่มันขี้โกงเกินไปแล้ว ในสายนี้แม่เขา และเพิ่งจะได้คุยกับครู่เดียวเท่านั้นเองเพราะถูกขัดจังหวะ แล้วนี่ลูกเจี๊ยบพเนจรจะมาถือสิทธิอะไรล่วงล้ำเวลาของครอบครัวที่นานทีมีสักครั้ง
“คุยอะไรอะ ฝากปิ่นบอกมันก็ได้”
เด็กหนุ่มอิดออดถ่วงเวลาอยู่อีกนิดหน่อย ท้ายที่สุดก็ยอมส่งหูโทรศัพท์ให้โดยไม่ลืมจะยืนกอดอกจ้องเขม็งเป็นการกดดันทางสายตาไปด้วย ได้ยินเสียงแต่ฝั่งอาทิตย์ที่แทบจะเอ่ยอยู่คำเดียวว่าครับ....ครับ...ได้ครับ...ครับ พร้อมกับเหลือบมองมาทางเขา เหตุการณ์ยิ่งทวีความน่าสงสัยด้วยรอยยิ้มกรุ้มกริ่มบนริมฝีปากอิ่มของท่านชายเป็นระยะแล้วก็ให้นึกคาใจว่าผู้เป็นมารดากำลังพูดอะไรอยู่
และก่อนความอดทนของเขาจะสิ้นสุดลงก็ได้ยินคำรับ “ครับ” ครั้งสุดท้าย แล้วอุปกรณ์สื่อสารในมืออีกฝ่ายจึงถูกส่งคืนมาเสียที
“แม่เพชร เมื่อกี้คุยอะไรกับมันอะ”
เสียงหัวเราะใสแจ๋วดังกลับมา “คิดถึงพี่ปิ่น”
คนในสายกลายเป็นจี้หยกผู้เป็นน้องสาวไปเสียแล้ว
นั่นทำให้ปิ่นหยกคิดว่าบางครั้งมารดาของเขาก็เจ้าเล่ห์ไม่น้อยเลยทีเดียว........................................................
............................
.
.
.
.
คริสต์มาสกับหม้อไฟชาบู ชาบู กลายเป็นส่วนผสมที่ลงตัวอย่างน่าประหลาด
ครอบครัวร้านเค้กสุขสันต์รวมคิมหันต์เป็นกรณีพิเศษอีกหนึ่งคน(และหมีกริชซึ่งเขาไม่แน่ใจว่าอยู่ด้วยหรือเปล่าเพราะไม่ทันสังเกต)นั่งฉลองกันต่อหลังปิดร้าน พวกเขาส่งเสียงดัง กิน ดื่ม ยกเว้นอาทิตย์กับปิ่นหยกที่ต่างฝ่ายต่างเขม่นใส่กันว่าอย่าได้ริแตะต้องเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เสียงพูดคุยออกรสนัวเนียกับเสียงร้องคาราโอเกะ(เพลงจิงเกิลเบลส์ดังซ้ำไปมาอย่างบ้าคลั่ง) และคิมหันต์พยายามควบกวางเรนเดียร์ปลอมพร้อมกับเอาขวดน้ำอัดลมเปล่ายัดใส่ถุงเท้าเป็นของขวัญให้แวววัน วงสังสรรค์ขนาดย่อมดำเนินต่อไปจวบจนเวลาล่วงเลยเสียดึกดื่นพร้อมกับความอิ่มและง่วงจนแทบจะทิ้งตัวลงคลานกับพื้น
ชั่วขณะหนึ่ง...ปิ่นหยกรู้สึกถึงความสุขที่ฟูฟ่องขึ้นในใจ นึกอยากให้วันเวลาสงบสุขเช่นนี้ดำเนินเรื่อยไปไม่มีที่สิ้นสุด
บรรยากาศอบอุ่นปนสะลืมสะลือละลายความสงสัยที่ปิ่นหยกล้มเลิกความพยายามจะรู้ไปแล้วด้วยง้างปากท่านชายไม่สำเร็จเสียทีว่าคุยอะไรกับกิ่งเพชรทางโทรศัพท์ ได้แต่ปล่อยให้เป็นความลับของโลกต่อไป อีกฝ่ายอยากบอกเมื่อไหร่เขาก็คงได้รู้เอง คิดแล้วก็หันไปแอบจิบแอบโซลูทวอดก้ากลิ่นพีชแก้เซ็งนิดหน่อย ร้อนวาบไปทั้งคอแต่แค่นี้ไม่น่าถึงกับมึนเมาเป่าปี่
ขณะกำลังสนุกสนานกันอยู่ที่ร้าน โทรศัพท์มือถือของเขาซึ่งเคยได้จากอันนาก็กำลังส่งเสียงดังอยู่ในห้องพักที่ไม่มีคนอยู่ มันดังขึ้นจนดับลงไปเองซ้ำแล้วซ้ำเล่าราวกับผู้โทรมากำลังร้อนรนในความพยายามติดต่อเจ้าของมือถือ แสงไฟสว่างวาบและหรี่ลงสลับกันไป จอแสดงผลปรากฏตัวอักษรแจ้งจำนวนสายที่ไม่ได้รับ
’13 Missed calls’สัญลักษณ์แบตเตอร์รี่เปลี่ยนเป็นสีแดงคล้ายอยากเรียกร้องให้ใครสักคนมาเสียบมันเข้ากับสายชาร์จ ซึ่งปกติก็มีบ้างไม่มีบ้าง และกว่าจะได้ประจุไฟใหม่อีกครั้งอาจต้องรอถึงพรุ่งนี้หรือวันมะรืนตามอารมณ์ของปิ่นหยก เสียงเรียกเข้าดังขึ้นอีกครั้งบ่งบอกว่าผู้โทรมายังไม่ละความพยายาม ทว่าคราวนี้ดังอยู่ได้เพียงไม่กี่วินาที...แสงจากหน้าจอก็พลันมืดสนิทลง
สายไม่ได้รับครั้งที่ 14 ดับไปพร้อมกับแบตเตอร์รี่โทรศัพท์To be continued…======================================
ตอนนี้เบา ๆ ครึ้ม ๆ นะคะ
แอบหยอดถึงตัวละครอื่นรอบตัวนายเอกไปหลายคน ให้ความรู้สึกว่าชีวิตช่วงนี้มันอุ่น ๆ ในใจดี ^o^
//เกร็ดเล็ก ๆ จากตอนนี้คืออุ่นใจงัดประตูเก่งเพราะวุ่นวายกับประตูห้องพี่หมอบ่อย ส่วนคิมหันต์มาเวิ่นเว้อที่ร้านเพราะลี้ภัยจากพี่ภพมา <<ไม่ใช่ละ! (ฮา ไม่ต้องเชื่อนะคะ XD)
ขอบคุณงาม ๆ ผู้อ่านทุกท่าน *กอด* รักทุกคอมเม้นต์และขอบคุณมาก ๆ ที่ช่วยแก้คำผิดให้ด้วยค่ะ

พบกันตอนหน้า และของแถมรีพลายถัดไปเช่นเคยค่า ^v^
***สารบัญคลิกที่นี่ค่ะ***