♥[สะดุดรัก หอพักอลเวง]♥ "รักติดดิน" ตอนพิเศษ HNY 2016! ♥ [หน้า 106] (02/01/59)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

หมอไอซ์*น้องอุ่น
104 (32.7%)
หมีกริช*พี่เอม
112 (35.2%)
คิมกิมจิ กับบุคคลลึกลับที่ขออุบไว้ก่อนว่าเสะหรือเคะ
102 (32.1%)

จำนวนผู้โหวตทั้งหมด: 239

ผู้เขียน หัวข้อ: ♥[สะดุดรัก หอพักอลเวง]♥ "รักติดดิน" ตอนพิเศษ HNY 2016! ♥ [หน้า 106] (02/01/59)  (อ่าน 924352 ครั้ง)

ออฟไลน์ Whatever it is

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3959
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +380/-8
พี่อันนาเหรอ หุๆ

ชอบรูปหมาป่ากับหมาจิ้งจอกอะ ชวนจิ้นมาก 5555

ออฟไลน์ sukie_moo

  • ปัจจุบัน คือ อดีตของอนาคต
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3488
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +457/-15
ลูกเจี๊ยบเจ้าเล่ห์โคตรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรร

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41

ออฟไลน์ YuuYuu

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
พี่อันนาโทรมาทำไมตั้งสิบสี่สาย  ที่บ้านเกิดอะไรขึ้นหรือเปล่าเนี่ย
แต่ก็เข้าใจปิ่นหยก ปกติไม่เคยพกโทรศัพท์ ถึงจะมีก็คงจะลืมไม่ก็ขี้เกียจพก

แล้วสรุปมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นหละเนี่ย ทำไมไม่โทรเข้าร้านหละค๊า พี่อันนา
ระดับพี่อันนากะอิแค่หาเบอร์ร้านเค้กมันไม่ยากนักหรอก


อาทิตย์มีการพัฒนามากขึ้น... จนน่าตกใจว่าอาจจะตามปิ่นหยกในเรื่องความงกได้ทัน ฮ่าๆๆๆๆ

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
ลูกเจี๊ยบเจริญรอยตามแม่ไก่แล้ว น่ารักจริงๆ :laugh:
แต่มิสคอลมาจากใคร เยอะมากเลยนะ มีธุระอะไรเร่งด่วนขนาดนั้นกัน กลัวเป็นเรื่องไม่ดี :z3:

ออฟไลน์ isBelle__

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
เขินเลย อาทิตย์ทำไมถึงได้น่ารักจนทำให้ต้องยิ้มตามแบบนี้ อยากแย่งเลยเนี่ย หลอกก
ปิ่นหยกก็น่ารัก มามีความสุขฟูฟ่องอะไร แม่ตัวเองเข้ากับลูกเขยได้ดีละสิ

ตอนจบบรรยากาศมันทะมึน ทึมๆ

ออฟไลน์ kasarus

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
ลูกเจี๊ยบเจ้าเล่ห์ขึ้นทุกวัน ชักเป็นห่วงแม่ไก่ซะแล้วสิ

ออฟไลน์ snack

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 951
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-0
ลูกเจี๊ยบแอบเจ้าเล่ห์ขึ้นทุกวันๆนะ..

ออฟไลน์ myd3ar

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-4
คุณพ่อของลูกเจี๊ยบหรือป่าวที่โทมา

หมีกริชออกน้อยจัง

ออฟไลน์ tarkung

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 997
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ TONG

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2535
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-4
อ่านแล้วอบอุ่นมากเลย

รอลุ้นตอนหน้าว่าใครกันนะที่โทรศัพท์มา

ออฟไลน์ Takarajung_TK

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 931
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-2

ออฟไลน์ white choc~

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 336
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-0
โคตรชอบไอ้ลูกเจี๊ยบเลยหว่ะ หน้ามึนได้ใจจริงๆ
ผีตู้เก็บของงี้
เช็ดฝุ่นที่เกาะโทรศัพท์งี้
  :laugh5: ชอบ ๆๆๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ punchnaja

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3354
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +383/-5
เสร็จแน่ ไม่รับสายเจ้าหนี้555555

ปล.แต่ทิ้งท้ายไว้เหมือนมีเรื่องร้ายแรง งึมๆ

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586

¡ииσcэиτ

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7
พี่อันนากำลังเล่นอะไรแพลงๆๆรึป่างเนี่ยยยย

 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ firstlove

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 103
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0

ออฟไลน์ phasau

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 69
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
เมฆหมอกอึมครึม ดราม่ากำลังจะมาใช่มั้ย
ฮือออออออ T T'เ

ออฟไลน์ AllRiseApril

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 507
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-0
ปิ่นหยกน่าสงสาร ลูกเจี๊ยบมันขี้หึง ต้องทำใจ  ฮ่าาา
ได้คุยกับแม่นิดเดียวเองงงง
ว่าแต่ลูกเจี๊ยบคุยไรกับแม่ว๊าาา
แล้วพี่อันโทรมาทำไมเยอะแยะคะ  มีเรื่องอะไรรึป่าวอ่า

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ KARMI

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 920
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-2

ออฟไลน์ kokilolylove

  • รัก ได้ยินหรือเปล่า
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 461
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-1
14สายไม่ได้รับ หวังว่าคงไม่ได้มีเรื่องร้ายแรงอะไร
แม่เพชรคุยอะไรกับอาทิตย์นะ?

faratellll

  • บุคคลทั่วไป
 o18 ตอดเล็ก ตอดน้อย ตลอด ตลอด แม่ไก่จะพรุนละไอ้ลูกเจี๊ยบ
นู๋ปิ่น ......! เป็นไง อากาศใต้ตู้ ดีไหมค่ะ  :laugh:

แหมมมม คิม เจ๊รู้หรอกนะ แอบหนีคุณ สามภพ มาละสิ
P.S. นู๋ปิ่นแอบกินเหล้า  ตอนหน้าคงน้ำตาท่วมจอเป็นแน่

ออฟไลน์ Oilsaoo

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-3
พี่อันโทรมาทวงหนี้หรือเปล่าเนี้ยยย
หวานใต้ตู้เก็บของง น่ารักก

ออฟไลน์ greensnake

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3440
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +920/-14
ความมึนยังเท่าเดิม แต่ความเจ้าเล่ห์และขี้หึงมากขึ้นทุกวัน
เห็นทีปิ่นหยกจะแพ้ทางคนรอบตัวหลายคนเลยนะเนี่ย
โดยเฉพาะลูกเจี๊ยบนอกจากแพ้ทางแล้วยังแพ้ลูกอ้อนอีกด้วย
บรรยากาศอุ่นๆ สมกับเป็นเทศกาลแห่งความสุขจริงๆ :กอด1:
ว่าแต่สายที่ไม่ได้รับนั่นคือพี่อันนาสินะ ขออย่าให้มีอะไรร้ายแรงเลย
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ :L2:
+1 และเป็ดน้อยจ้า

ออฟไลน์ luckyzaaa

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 154
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0
ผีตู้เก็บของน่ารักมากกกกกกกกก >//< เห็นหน้ามึนๆ เจ้าเล่ห์ไม่ใช่เล่นนะเนี่ย
ว่าแต่ใครโทร.มาน้อ คงไม่ดราม่านะ

ออฟไลน์ watcharet

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 663
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-2
แม่คุยกะอาทิตย์ หรือว่าน้องคุยกะอาทิตย์กันแน่ๆ

cutybuay

  • บุคคลทั่วไป
ไอเจี๊ยบบบบ แกหลอกจุ๊บหนูปิ่นของฉัน เจ้าเล่ห์จริงๆ แต่ฉันชอบเอาอีกๆ  :m4:
แอบดีใจมีอิพ่อหมีกริชออกมากระจิ๊ดนึง   :impress:
ว่าแต่อิเจี๊ยบคุยอะไรกับแม่เพรช แล้วใครโทรหาหนูปิ่น ???? --> ดราม่ากำลังจะมาอะป่าวววว  :m26:

ปล. ฝากคนเขียนบอกพี่เอมด้วยว่า ถ้าที่ร้านต้องการพนักงานเพิ่ม อิฉันยินดีเสนอตัวนะคะ ค่าจ้างไม่ต้อง ขอแค่ได้ส่องแล้วก็ลูบๆคลำๆหนุ่มๆในร้านก็พอ อะเจี๊ยก (หื่นจริงกรู อายเบย  :o8:)

ออฟไลน์ RAINYDAY

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1247/-5
    • FB page
Dormitory boys – สะดุดรัก หอพักอลเวง

“รัก...ติดดิน”

CHAPTER 52 – ซ้ำรอย



กิ่งเพชรรับโทรศัพท์กลับคืนมาจากลูกสาวเพื่อจะคุยเรื่องสัพเพเหระกับปิ่นหยกประสาแม่ลูกอีกครู่ใหญ่จนสายเริ่มอุ่นกว่าจะสิ้นสุดการถ่ายทอดความคิดถึงผ่านสัญญาณโทรศัพท์ ประกอบกับเจ้าตัวบอกว่าคืนนี้มีเลี้ยงที่ร้านเค้ก หากมัวแต่ชักช้าจะกินไม่ทันสมาชิกในวงทำเอาอดขำกับนิสัยเห็นแก่กินของลูกชายตัวเองไม่ได้

ทว่าเพิ่งวางสายจากปิ่นหยกได้เพียงไม่ทันถึงนาที อุปกรณ์สื่อสารสีเหลืองตุ่นจากอายุการใช้งานเนิ่นนานก็แผดเสียงแหลมขึ้นอีกครั้ง บางทีอาจเป็นโทรศัพท์จากเพื่อนที่โรงเรียนของลูกสาวที่ชอบโทรมาตอนกลางคืน


“สวัสดีค่ะ”

“สวัสดีครับ”

“.....”

นี่ผิดไปจากที่เธอคาดการณ์ไว้มากทีเดียว

“จะไม่พูดอะไรต่อหน่อยหรือ?”

กิ่งเพชรแยกเขี้ยวใส่อากาศ “มีธุระอะไรคะคุณอานนท์”

“สุขสันต์วันคริสต์มาสครับ”

เธอไม่รู้ควรตอบว่าอย่างไร อยู่ ๆ ก็มีคนโทรมาอวยพรคริสต์มาสไม่ใช่เรื่องปกติสำหรับเธอนัก “บ้านฉันนับถือพุทธ”

“คริสต์มาสเป็นวันของครอบครัว คุณรู้ไหม”

“พอรู้ค่ะ ถึงแม้ฉันคิดว่ามันน่าจะเป็นคริสต์มาสอีฟเมื่อคืนนี้มากกว่า”

“แต่ลูก ๆ ไม่อยู่บ้านสักคน”

“ที่ฉันรู้มากกว่านั้นคือคุณไล่พวกเขาออกจากบ้านเอง”

อานนท์หัวเราะ พร้อมกับที่เธอเอ่ยต่อน้ำเสียงเชือดเฉือน

“แต่ไม่ยักรู้ว่าคุณเป็นพวกตาแก่ขี้เหงา”

“ตาแก่?” น้ำเสียงเนิบนาบค่อยดูมีอารมณ์ความรู้สึกขึ้นมานิดหน่อยพร้อมกับรอยยิ้มเบาบางบนใบหน้า “คุณเองก็อายุเท่าผม...เท่าพี่สาวคุณ”

กิ่งเพชรนิ่งงัน ไพล่นึกไปถึงผู้หญิงอีกคนซึ่งหน้าตาพิมพ์เดียวกับเธอราวส่องกระจก  มวลความคิดถึงก่อตัวขึ้นเงียบ ๆ  พร้อมกับความโหยหาอาลัยซึ่งหมุนวนเป็นวงเหมือนน้ำก่อนจะถูกดูดลงท่อ


“...คุณผิดแล้ว...พลอยอายุสามสิบหก”

เวลาของกิ่งพลอยหยุดอยู่แค่นั้น


เธอจะเป็นสาวอายุสามสิบกว่าไปชั่วนิรันดร์ อย่างที่เธอเคยบ่นหลังคลอดปิ่นหยกว่าไม่อยากแก่


“คุณกิ่งเพชร...”
อานนท์กำลังคิดว่าคำพูดของเขาทำให้เธอรู้สึกแย่หรือเปล่าระหว่างความเงียบสร้างระยะห่างในบทสนทนาจนชวนให้หวั่นใจ กระทั่งได้ยินเสียงเธอต่อว่าต่อขานเจือสำเนียงเหยียดหยามทีเล่นทีจริงอีกครั้งจึงรู้ว่าคงไม่มีอะไรน่าห่วง

“เพราะงั้นเธอไม่แก่เหมือนคุณหรอก”

และอานนท์หัวเราะแผ่วเบาออกมาอีกครั้ง คนในครอบครัวอีกฝ่ายมีลักษณะร่วมกันในการกระทำและกลิ่นอายของคำพูดคำจาบางอย่างซึ่งทำให้อดยิ้มออกมาไม่ได้


สิ่งที่ลูก ๆ ของพวกเขายังไม่รู้(ยกเว้นจี้หยก)คือทั้งสองคนพูดคุยกันเช่นนี้มาได้ระยะหนึ่งแล้ว เป็นความสัมพันธ์ฉันท์มิตร ไม่มีอะไรเกินเลยมากไปกว่านั้นในความคิดกิ่งเพชร แม้ในละแวกบ้านเธอจะเริ่มมีข่าวลืออย่าง ‘เสี่ยเลี้ยง’ หรือลุกลามหนักข้อไปกระทั่งว่าเธอกำลังคิดจะแต่งงานใหม่ซึ่งไม่รู้ว่าไปเอามูลมาจากไหน


แต่ช่างปะไร...ใช่ว่าเธอจะสน


“ยังหัวค่ำอยู่ ออกไปหาอะไรทานกันไหมครับ” 
อานนท์เอ่ยชวน รู้ดีว่าต้องได้รับคำปฏิเสธกลับมาเป็นอย่างแรกแน่นอนหากเขาไม่ได้เสริมไปอีกหนึ่งประโยค “จี้หยกน่าจะดีใจ ตามที่เคยสัญญาไว้ครั้งก่อนว่าจะพาไปดูไฟคริสต์มาส”

“ไปสัญญากันตั้งแต่เมื่อไหร่?”

เธอขมวดคิ้ว หันไปมองลูกสาวซึ่งส่งยิ้มแห้ง ๆ เคล้าสายตาวิงวอนกลับมาพร้อมกับเอ่ยอ้อมแอ้ม “..คุณลุงอานนท์เคยบอกว่าจะพาไปดูต้นคริสต์มาสยักษ์”

กิ่งเพชรส่งสายตาดุน้อย ๆ ให้จี้หยกแล้วเอ่ยเสียงแข็งใส่โทรศัพท์ “ไม่ค่อยดีมั้งคะ” แต่คำบอกเล่าต่อมาทำให้เธอชะงักกับอะไรสักอย่างที่น่าจะใกล้เคียงคำว่าเพี้ยนของคู่สนนทนา


“ตอนนี้ผมอยู่หน้าบ้านคุณ”


อานนท์นิ่งไปครู่หนึ่ง ทิ้งน้ำหนักพิงตัวรถท่ามกลางความหนาวเย็นยามค่ำคืน สายตาจับจ้องไปที่บานประตูขนาดใหญ่หน้าบ้าน ร้านรวงแถวนี้ส่วนใหญ่ปิดกันหมดแล้ว สุนัขที่เดินผ่านไปมาหันมาจดจ้องผู้มาเยือนยามวิกาล และบางตัวเริ่มส่งเสียงเห่า

“ความจริงก็อยู่มาได้สักพัก...อย่างหลังนี้ไม่ค่อยอยากบอกแต่คิดว่าถ้าคุณรู้แล้วคงจะทำให้ตัดสินใจพาจี้หยกไปด้วยกันง่ายขึ้น”

“ไอ้นี่...”
เธอกลอกตาเมื่อรู้ตัวว่าเผลอหลุดขึ้น ‘ไอ้’ พลางยกมือขึ้นกุมขมับ เชื่อว่าเขาพูดจริงเพราะเริ่มได้ยินเสียงไอ้ตูบที่เห่าอยู่หน้าบ้านแทรกเข้ามาในหูโทรศัพท์เป็นการยืนยันตำแหน่ง


“เพราะงั้นเปิดประตูหน่อยได้ไหมครับ”


“......”


จี้หยกซึ่งยืนสังเกตการณ์อยู่ยิ้มแฉ่งออกมาอย่างลิงโลด


รู้ดีว่าอีกประเดี๋ยวจะได้ขึ้นไปนั่งบนรถสีดำคันงามที่พาเธอไปหาต้นคริสต์มาสยักษ์แน่นอน



..............................................................................




.................................................




.




.




.




.



ทางเดินหน้าห้องยามวิกาลเงียบสงัด พวกเขาสองคนเดินกลับขึ้นมาบนห้องพักอย่างเงียบเชียบ รอดจากปาร์ตี้เล็ก ๆ มาได้โดยสวัสดิ์ภาพ ไม่มีเสียงก่นด่าหรือเสียงร้องไห้คร่ำครวญอันแสดงถึงว่ามีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดโดนฤทธิ์แอลกอฮอล์ครอบงำไปเสียก่อน


“ตกลงว่าดื่มอะไรไปครับ?”

“ว็อดก้า”

“เมาแล้ว” เขาแซว

“นิดเดียว ไม่เมา”

อาทิตย์มองพวงแก้มแดงระเรื่อของอีกฝ่าย ท่าทางไม่ได้เมาจริงอย่างเจ้าตัวยืนยันไม่อย่างนั้นป่านนี้คงนั่งปล่อยโฮน้ำตาท่วมห้องไปแล้ว ทว่าสีเลือดฝาดที่สูบฉีดอยู่บนใบหน้าปิ่นหยกไม่ชวนให้สงบจิตสงบใจแล้วอาบน้ำนอนตามปกติได้ง่าย ๆ เลย

“รสพีชอร่อยไหม”

“ก็ดี หอม ๆ”

“อยากชิมบ้าง”

“ห้ามแตะแอลกอฮอล์”  ปิ่นหยกสั่งเสียงเข้มระหว่างปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของชุดพนักงานตัวเองออกทำเขาน้ำลายฝืดคอขึ้นมาทันที  “เมาแล้วปากหมา ชาตินี้ไม่ต้องกินแล้ว”

“ชิมนิดเดียว”

โดยไม่รอคำตอบ เด็กหนุ่มโน้มตัวเข้าหาอีกฝ่าย กลิ่นหอมอ่อนโชยเตะจมูกชัดเจนขึ้นเมื่อใบหน้าเลื่อนเข้าใกล้กันอีกเพื่อไล้ปลายลิ้นละเลียดชิมรสหวานที่ยังติดค้างบนริมฝีปากคนตรงหน้านุ่มนวล 

“อืม..กลิ่นพีชหอมจริง”

ปิ่นหยกยืนนิ่งเป็นหิน..ซึ่งนั่นไม่เป็นการพูดเกินจริงแม้แต่น้อย ไร้สุ้มเสียงใดเล็ดลอดออกมา ไม่แม้แต่จะกะพริบตา นิ่งเสียจนชั่วแวบหนึ่งเขาเกิดความสงสัยขึ้นมาว่าอีกฝ่ายยังหายใจอยู่หรือเปล่า


แล้ววินาทีต่อมา...น้ำตาก็หยดแหมะ


“จะทำอะไรวะ..ไอ้หน้าด้าน”


.....ตามด้วยหยดที่สอง...........สาม.................สี่......



และหลังจากนั้นก็ไหลพร่างพรูเต็มสองข้างแก้ม



ดวงตาสีนิลเบิกกว้างด้วยความตกใจอยู่ครู่หนึ่งก่อนอาทิตย์จะยกมือขึ้นในท่ายอมแพ้แล้วถอยออกมา ยังถือว่าโชคดีที่คราวนี้ไม่มีสะอึกสะอื้นโวยวายแบบครั้งก่อน  “ครับ...ไม่ทำอะไรแล้วคนดี ผมขอโทษ” จะเช็ดน้ำตาให้ก็กลัวเดี๋ยวร้องไห้หนักกว่าเก่าจึงหันไปหยิบม้วนกระดาษทิชชูส่งไป แต่แทนที่จะรับไว้ปิ่นหยกกลับคว้าผ้าขนหนูใกล้ตัวขึ้นมาเช็ด บ่นหงุงหงิงอะไรสักอย่างว่าเปลืองกระดาษก่อนจะสั่งน้ำมูกออกมาหนึ่งที(เชื่อเขาเลย)

“ไหนว่าไม่เมา”

“ก็ไม่ได้เมา”

“ถ้าอย่างนั้นร้องไห้ทำไมครับ”

“ไม่รู้ว่ะ แค่รู้สึก...กลั้นไม่ค่อยได้”

อีกฝ่ายเอ่ยเพียงแค่นั้นแล้วเงียบไป หยดน้ำบนใบหน้าถูกเช็ดออกจนเกลี้ยงโดยไม่มีอะไรไหลตามออกมาอีกทั้งคำพูดคำจาก็ดูมีสติครบถ้วนสมบูรณ์ดี บางทีระดับของอาการสะอึกสะอื้นโวยวายคงแปรผันตรงตามปริมาณแอลกอฮอล์ในกระแสเลือดเพราะคราวนี้ท่าทางสงบกว่าครั้งก่อนเยอะ

“แสดงว่าทุกทีเวลาโดนจูบแล้วอยากร้องไห้แต่กลั้นเอาไว้หรอกหรือ?”

“.....”

ปิ่นหยกเหลือบขึ้นมองหน้าเขาได้เพียงนิดเดียวแล้วก้มลงหลบสายตา นั่นทำอาทิตย์อดขมวดคิ้วน้อย ๆ ไม่ได้ นึกหวั่นใจกับคำตอบที่จะได้รับขึ้นมาอย่างประหลาด เขาไม่น่าถามออกไปเลย

“....ไม่รู้เหมือนกัน....อาจจะประมาณนั้น”

หัวใจเหมือนกำลังชวนเล่นซ่อนหา และเขาก็หาไม่เจอเสียด้วย เพราะอยู่ ๆ มันก็หายวับไปต่อหน้าต่อตาเลยทีเดียว

“ไม่ชอบ?”

อีกฝ่ายเม้มปากแน่นแต่ยังไม่ยอมเงยขึ้นมาสักที ดวงหน้าซึ่งแดงอยู่แล้วยิ่งขึ้นสีจัดไปอีก พร้อมกับถ้อยคำกระซิบแผ่วเบาราวกับเป็นเพียงเสียงลมพัดผ่าน


“......ช...อ..บ.....”


เบาจนแทบไม่ได้ยิน


ก่อนเจ้าของเสียงจะเขย่งบนปลายเท้า ประทับจุมพิตอ่อนหวานบนริมฝีปากเขา พึมพำกระท่อนกระแท่นในจูบที่เริ่มเปลี่ยนเป็นเงอะงะเมื่อเขาเผลอตอบสนองไปกับรสสัมผัสอุ่นซ่านซึ่งแนบสนิทกันอยู่


“....พอดีใจ...น้ำตาก็ไหล...”


ได้ยินเพียงเท่านั้นแล้วคนพูดก็ผลักอกเขาออก ผลุนผลันวิ่งเข้าห้องน้ำเหลือเพียงตัวเขาที่ยืนค้าง ยกมือขึ้นปิดปากพร้อมกับหัวใจซึ่งเต้นตุบ ๆ จนอกแทบระเบิดราวกับจะประกาศตัวว่าที่หายไปเมื่อครู่นั้นกลับมาแล้ว  ร่างสูงหมุนตัวไปพิงกำแพง เอนศีรษะซบกับผนังเย็นเฉียบแล้วไถลลงมานั่งกับพื้น มืออีกข้างขยำอกเสื้อจนแน่นพลางบอกหัวใจตัวเองให้น้อย ๆ หน่อย เขาชอบปิ่นหยกตอนเมานิด ๆ อย่างนี้เป็นบ้า


“รักนาย...รักมากขึ้นอีกแล้ว”



และยังไม่รู้จะทำอย่างไรไม่ให้รักมากไปกว่านี้





...........................................................





.............................






ยังไม่จบ มีต่ออีกรีพลายหน้าถัดไปค่ะ




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-11-2012 15:26:35 โดย RAINYDAY »

ออฟไลน์ RAINYDAY

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1247/-5
    • FB page
CHAPTER 52 - ซ้ำรอย(ต่อ)



.




.




.




.



ปัง!! ปัง ๆ ๆ ๆ ๆ !!!


เสียงกระหน่ำเคาะประตูห้องกลางดึกเรียกให้เจ้าของห้องสองคนซึ่งกำลังจมดิ่งในห้วงนิทราสะดุ้งขึ้นมานั่งทำหน้าตาตื่น เคาะรัวขนาดนี้ไม่แผ่นดินไหวก็คงกำลังมีไฟไหม้หอ เสียงผู้ชายแหบพร่าตะโกนแทรกมาจับใจความได้ว่าน่าจะเป็นชื่อพวกเขาและเนื้อหาว่าให้รีบตื่นมาเปิดประตูสักที

“อาทิตย์ ได้ยินไหม? ปิ่นหยก? ตื่นหน่อย!”


พวกเขามองหน้ากันในความมืดสลัวก่อนจะกระโจนลงจากเตียง ถามพร้อมกันขึ้นมาว่า “ใคร?” แต่ไม่มีฝ่ายไหนให้คำตอบได้


“ครับ!” ปิ่นหยกขานรับเมื่อเสียงเคาะประตูชุดใหม่ดังขึ้นอีกครั้งแล้วสาวเท้ายาว ๆ ไปหยุดอยู่หน้าลูกบิด “ใครครับ” มือกำลังเอื้อมไปเปิดแต่อาทิตย์คว้าไหล่เขาแล้วออกแรงดึงให้ไปยืนอยู่ด้านหลังก่อนจะร้องถามขึ้นอีกครั้ง

“ใครครับ?”

“อาทิตย์หรือ? นี่พี่เอง พี่พล”

“พี่พล..?”
เด็กหนุ่มใช้เวลาแวบหนึ่งในการขุดคุ้ยความทรงจำเกี่ยวกับผู้ชายชื่อ ‘พล’ อีกฝั่งประตู ก่อนจะนึกได้ในเสี้ยววินาทีหลังจากนั้นซึ่งอาจเรียกว่านานกว่าปกตินิดหน่อยด้วยเพิ่งถูกปลุกให้ตื่นกลางดึก เขาเปิดประตูออกโดยยังไม่ทิ้งท่าทีระแวดระวังเพื่อเผชิญหน้ากับชายหนุ่มร่างสูงในเชิ้ตสีฟ้าชายเสื้อหลุดลุ่ยออกจากกางเกง ด้านหลังมียามของหอพักแสดงอาการสงสัยใคร่รู้ยืนกำกับอยู่หลังจากเดินตามขึ้นมาด้วยเพราะเห็นว่าเป็นคนแปลกหน้าซึ่งอ้างว่ารู้จักกับคนในหอ

‘สามพล พร้อมพิมาน’ ทนายความหนุ่มผู้เป็นคนรักของอันนาซึ่งเขาไม่ได้พบหน้านานแล้ว จู่ ๆ มาเคาะประตูห้องกลางดึกเช่นนี้ เขาไม่สามารถคิดว่าเป็นเรื่องดีได้เลย

“พี่พลมีเรื่องอะไรหรือเปล่าครับ?”

“ตกลงรู้จักกันจริงใช่ไหม?” ลุงยามแทรกขึ้นมาเรียกให้อาทิตย์หันไปผงกศีรษะเป็นเชิงตอบรับ

“พี่ชายผมเองครับ”

“งั้นลุงไปเฝ้าที่ป้อมล่ะ” แกหันหลังแล้วเดินลงบันไดไปเมื่อหมดหน้าที่พลางส่งเสียงบ่นกระปอดกระแปด “เด็กสมัยนี้ทำอะไรกันดึก ๆ ดื่น ๆ”

“อาทิตย์ไปหาเสื้อคลุมให้เรียบร้อยแล้วมากับพี่ เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังระหว่างอยู่บนรถ” ชายหนุ่มนัดแนะพลางชะเง้อไปหาอีกคนที่ยืนงงอยู่ข้างหลัง “เธอด้วย ปิ่นหยกใช่ไหม”

ปิ่นหยกชี้หน้าตัวเองงง ๆ “ผมน่ะหรือ” เรื่องของสองคนตรงนี้ดูอย่างไรก็ไม่เห็นเกี่ยวกับเขา

“ถ้าเธอชื่อปิ่นหยก...และเป็นลูกชายของคุณกิ่งเพชร”

ชื่อนั้นทำให้เขาเบิกตากว้าง ความคิดในหัวตีกันให้ยุ่งก็ยังไม่เข้าใจเหตุการณ์ตรงหน้าสักนิด “ใช่ แต่....”

“พี่จะพูดอีกครั้งเดียว รีบไปหาเสื้อคลุมให้เรียบร้อยแล้วตามมา เดี๋ยวคุยกันบนรถ”

อาทิตย์ดันหลังเขาเบา ๆ ให้เข้าไปให้ห้อง อธิบายรวบรัดด้วยคำพูดไม่กี่คำซึ่งไม่ช่วยให้เขารู้เรื่องมากขึ้นเท่าไรนัก
“คนนี้คือพี่พล เชื่อใจได้ เป็นทนายความ แฟนพี่อัน”

ปิ่นหยกสะดุดใจตรงประโยคสุดท้าย
“แฟนพี่อัน? งั้นเขาอาจมาแกล้งตามที่พี่อันบอกก็ได้...พี่สาวแกขี้แกล้งไม่ใช่หรือ”

เด็กหนุ่มร่างสูงสวมเสื้อแจ็กเก็ตทับชุดนอน หยิบอีกตัวซึ่งเป็นของเขามาให้ปิ่นหยกซึ่งยังอ้าปากค้างมองเขาสลับกับมองชายหนุ่มแปลกหน้าที่เดินวนไปวนมาอยู่หน้าห้อง

“พี่พลไม่ทำอย่างนั้นครับ นอกจากจะไม่ลงมาเล่นกับแผนการของพี่อันบางทียังคอยห้ามด้วยซ้ำ ปกติแล้วเป็นคนใจเย็นมาก” เขาว่าพลางจัดคอเสื้อให้อีกฝ่าย “และถ้าเขาแสดงอาการว่ามีเรื่องด่วนก็คือมีเรื่องด่วนจริง ๆ”


ไม่กี่อึดใจต่อมา พวกเขาก็ขึ้นมานั่งอยู่บนรถซึ่งกำลังพุ่งทะยานออกไปจากถนนหน้าหอพักด้วยความเร็วสูงพร้อมกับความสงสัยเหมือนกองด้ายซึ่งขมวดกันจนเป็นปมยุ่งเหยิง


บนรถไม่ได้เปิดเพลง ไม่มีเสียงวิทยุ และหากไม่มีเสียงหอบน้อย ๆ ของสามชีวิตที่โดยสารอยู่มันคงเป็นความเงียบที่น่าขนลุกทีเดียว

“เกิดเรื่องอะไรขึ้นครับพี่พล” อาทิตย์เป็นฝ่ายถามขึ้นก่อนเมื่อเห็นว่าถึงขนาดนี้เขาควรได้รับคำอธิบายอะไรบ้าง

“คาดเข็มขัดให้เรียบร้อย”

เด็กหนุ่มทำตามอย่างว่าง่าย หันไปสบตาปิ่นหยกซึ่งกำลังทำสีหน้าหวาดระแวงโดยไม่รู้ตัวอยู่ที่เบาะหลังเป็นเชิงให้ความมั่นใจ

“พี่อยากให้พวกเธอใจเย็นก่อน ค่อย ๆ ฟัง” เสียงทุ้มบอกให้พวกเขาใจเย็น แต่ระดับความเร็วรถบนมาตรวัดซึ่งกำลังพุ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ นั้นค้านกับเนื้อหาในประโยคอย่างน่าหวั่นวิตก “ตอนอันโทรเข้ามือถือทำไมถึงไม่มีคนรับสาย เธอบอกว่าเคยให้โทรศัพท์ปิ่นหยกไว้”

ปิ่นหยกเผลอกลั้นลมหายใจ สบตากับชายหนุ่มผ่านกระจกมองหลังแล้วเอ่ยเสียงสำนึกผิด...แม้ยังไม่แน่ใจนักว่าเขากำลังทำผิดอยู่หรือเปล่า
“ผม..ลืมชาร์จแบตฯ แล้วก็ลืมพกไว้กับตัว...ไม่เคยมีมือถือมาก่อนเลยไม่ชิน”

“แล้วโทรไปที่ร้านเค้กก็ไม่ติดเหมือนกัน สายไม่ว่างตลอด”

เด็กหนุ่มขมวดคิ้ว...หลังจากคุยกับมารดาเสร็จก็ไม่มีใครใช้งานโทรศัพท์ของร้านเครื่องนั้นอีก หรือบางทีอาจเป็นเพราะเขาวางหูไม่สนิท? “ผมไม่รู้...แต่ผมใช้มันเป็นคนสุดท้าย...ไม่แน่ใจว่าวางหูดีหรือเปล่า”

“ช่างเถอะ” ชายหนุ่มตัดบทเมื่อรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังกดดันอีกฝ่ายมากเกินไปตามนิสัยเดิม “อันจะโทรมาบอกเรื่องนี้นั่นแหละ”

ไม่รู้ทำไม...เขารู้สึกไม่ดีเอาเสียเลย ท้องไส้ปั่นป่วนไปหมดเหมือนมีกองทัพแมลงกำลังพยายามขุดหลุมอยู่ในนั้น ต่อสู้กับความหวาดกลัวบางอย่างซึ่งก่อตัวขึ้นเป็นก้อนมวลขนาดใหญ่อัดแน่นอยู่รอบตัวแล้วกลั้นใจถามออกไปเสียงแหบพร่า  “เรื่องอะไรครับ”

“หายใจเข้าออกลึก ๆ”

เขาพยายามทำตาม แต่พบว่าไม่สามารถทำได้

“รถของพวกเขาเกิดอุบัติเหตุ”

“....”

“ตอนนี้อยู่ที่โรงพยาบาลซึ่งเรากำลังจะไป อันก็อยู่ที่นั่นแล้ว”

“...พวกเขาที่ว่าคือใครครับ”  คราวนี้อาทิตย์เป็นฝ่ายถามหลังจากนิ่งฟังมาครู่หนึ่ง ความร้อนรนแทรกซึมในประโยคนั้นจนไม่สามารถซ่อนไว้ใต้น้ำเสียงซึ่งพยายามปรับให้เป็นปกติได้

สามพลเงียบไปหนึ่งอึดใจ ให้เวลาเด็กหนุ่มทั้งสองคนในรถได้สงบสติอารมณ์จนเสียงหายใจหอบเมื่อครู่กลับมาช้าลง “พวกเขา....คุณพ่อ...พี่หมายถึงคุณอานนท์ แล้วก็แม่กับน้องสาวของเธอ ปิ่นหยก”

นัยน์ตาสีดำสนิทเบิกโพลง รีบถามกลับเกือบจะเป็นเสียงตะโกน “เป็นอะไรหรือเปล่าครับ!?” ขณะที่ปิ่นหยกส่ายหน้าทั้งที่ยังไม่สามารถสลัดความหวาดหวั่นทิ้งไปได้

“ตลกแล้วครับ แม่กับน้องสาวผมดึกป่านนี้ไม่ไปไหนหรอก คงนอนหลับปุ๋ยอยู่บ้านนั่นแหละ”

พวกเขามัวแต่วุ่นวายกับอารมณ์พลุ่งพล่านในรูปแบบของตัวเองจนไม่ทันมองว่าถึงที่หมายแล้ว ชายหนุ่มหักพวงมาลัยเลี้ยวเข้าลานจอดรถของโรงพยาบาลกะทันหันทำเอาหัวเกือบทิ่มก่อนจะรถจอดสนิทที่ซองจอดรถ

“ถึงแล้ว”

สามพลรอจนทุกคนรีบร้อนลงจากพาหนะมายืนทำตัวไม่ถูกอยู่ข้างนอกแล้วจึงสาวเท้านำเข้าไปในตัวโรงพยาบาลพร้อมกับอธิบายไปด้วย “ตอนพี่ออกไปรับพวกเธอ หมอเซ็ตผ่าตัดฉุกเฉินแล้ว ตอนนี้คุณพ่อน่าจะกำลังอยู่ในห้องผ่าตัด” 

ร่างสูงของชายหนุ่มเลี้ยวขวาตรงหัวมุมแล้วเดินนำไปตามป้ายและลูกศรที่เขียนไว้ว่า ‘ห้องฉุกเฉิน’ ก่อนจะพูดต่อ “เลือดออกในช่องท้องน่าจะจากรอยฉีกขาดที่ม้ามแต่อาจมีที่อื่นด้วย ต้องผ่าตัดเปิดช่องท้องไปดู กับกระดูกต้นขาด้านขวาหัก แล้วก็...”  เขานิ่งไป พยายามนึกคำพูดไม่คุ้นเคยที่ได้รับคำอธิบายจากแพทย์ก่อนหน้านี้  “...กระดูกซี่โครงด้านขวาหักสี่ซี่ร่วมกับมีเลือดออกในช่องเยื่อหุ้มปอด อันคงกำลังเฝ้าอยู่หน้าห้องผ่าตัด”


อาทิตย์รู้สึกตัวเองฟังคำพูดเหล่านั้นแทบไม่เข้าใจสักนิด รู้เพียงแต่นั่นดูเป็นอาการบาดเจ็บสาหัสซึ่งไม่น่ารักษาให้หายในวันสองวันหรือแม้แต่สัปดาห์สองสัปดาห์ได้เลย  ขาเขาก้าวเร็ว ๆ ตามไปแต่เหมือนไม่ได้ใช้สติ  “คุณพ่อจะเป็นอะไรไหม....แล้วแม่เพชรกับน้องจี้ล่ะครับ....ทำไมถึงมาอยู่ด้วยกันได้ แล้วเป็นอะไรหรือเปล่า!?”

“ไม่ใช่แม่เพชรกับจี้หรอก” ปิ่นหยกยังปฏิเสธทั้งสีหน้าซีดเผือด “สองคนนั้นไม่ออกไปไหนกลางดึกอย่างนี้”

“ไปด้วยกันได้ยังไงนั้นพี่ไม่รู้” สามพลสูดลมหายใจ รู้สึกทั้งกระอักกระอ่วนจะพูดและเสียใจกับเด็กหนุ่มร่างโปร่งซึ่งเดินตามหลังเขามาทั้งที่เพิ่งเคยพบกันครั้งแรก “แต่เป็นความจริงว่าพวกเขาอยู่ด้วยกันตอนเกิดอุบัติเหตุ”

“จี้หยกหมดสติไป มีกระดูกที่แขนซ้ายกับกระดูกไหปลาร้าหักแต่ไม่รุนแรงมาก หมอบอกศีรษะกระทบกระเทือนแต่ซีทีเบรน(CT brain)แล้วไม่มีเลือดออกในสมอง”

ห้องฉุกเฉินปรากฏอยู่ต่อหน้า ผู้คนในชุดขาววิ่งอยู่ตรงนั้นตรงนี้ท่ามกลางผู้ป่วยมากมาย ดึกดื่นค่ำคืนก็ยังวุ่นวายไม่ได้หยุดหย่อน ปิ่นหยกส่ายหน้าปฏิเสธความคิดชวนหวาดหวั่นในหัวตัวเองแล้วกวาดตามองไปทั่วห้อง แต่เขาไม่เห็นใครที่ดูเหมือนจะเป็นคนรู้จักสักคน หากนี่กำลังอยู่ในแผนการตลกร้ายอะไรสักอย่างของอันนา เด็กหนุ่มก็อยากให้มันรีบจบสิ้นแล้วรอพี่สาวคนงามผู้นั้นออกมาหัวเราะเยาะใส่เขาดัง ๆ ตรงนี้เพื่อเป็นการยืนยันว่าเขาหลงกลร้ายกาจแสนแนบเนียนของเธอแล้ว

“ผมมากับญาติคุณกิ่งเพชรครับ”
ชายหนุ่มเดินตรงเข้าไปเอ่ยแนะนำตัวกับพยาบาลในชุดขาว และปิ่นหยกยิ่งหน้าซีดเผือดลงไปอีก นี่มันห่างไกลจากคำว่าล้อเล่นที่เขาพยายามบอกตัวเองเข้าไปทุกที

พยาบาลสาวพยักหน้าให้พวกเขา “ท่านไหนหรือคะ เป็นอะไรกับคุณกิ่งเพชรคะ?”

“..ผมเป็นลูกของเธอ”  เด็กหนุ่มชี้ที่ตัวเองช้า ๆ ขอบตาร้อนผ่าวอย่างไม่อาจควบคุมได้ แม้แต่เสียงที่เอ่ยออกมาก็ยังสั่นระริกราวกับไม่ใช่เสียงของตัวเอง “..แม่เป็นยังไงครับ”

เธอไม่ได้ตอบในสิ่งที่เขาอยากฟัง ทว่าสีหน้าจริงจังของเธอทำให้เขาหวาดกลัวกับอะไรก็ตามที่กำลังจะได้รับรู้
“เดี๋ยวคุยกับคุณหมอนะคะ” เธอว่าพร้อมกับผายมือไปยังอีกคน

หญิงสาวสวมแว่นในชุดกาวน์สั้นท่าทางทะมัดทะแมงอีกคนตรงเข้ามา ก่อนจะเริ่มแนะนำตัวเองว่าเป็นแพทย์ประจำห้องฉุกเฉินวันนี้แล้วเดินนำเขาผ่านพื้นที่โซนแดงวุ่นวายซึ่งมีแต่กลิ่นคาวเลือดและเสียง ...ปี๊บ...ปี๊บ... บาดหูของเครื่องมือหน้าตาประหลาดที่เขาไม่รู้จักเพื่อข้ามไปยังอีกฝั่งหนึ่งของห้อง



บนเตียงรถเข็นโลหะไร้ชีวิตชีวา...มีร่างหนึ่งนอนนิ่งไม่ไหวติงอยู่บนนั้น



ปิ่นหยกผลุนผลันเข้าไปใกล้ ยื่นมือสั่นเทาเปิดดูใต้ผืนผ้าสีขาวมีรอยด่างสีแดงเป็นดวง ๆ ซึ่งคลุมร่างหญิงผู้นั้นอยู่  สีผิวเธอช่างซีดเซียว ริมฝีปากเขียวคล้ำ คราบเลือดยังติดอยู่ตามใบหน้าและเส้นผม ดวงตาทั้งสองปิดสนิทราวกับเจ้าของร่างเพียงแค่หลับไป



หมอสาวพยายามพูดอะไรกับเขา แต่เด็กหนุ่มไม่ได้ยินเสียงเหล่านั้นแม้แต่น้อย



“.....แม่...เพชร....”



หากเขาเรียกอย่างทุกที...เธอจะตื่นขึ้นมาพูดกับเขาหรือเปล่า



“......แ...ม่...."




ปิ่นหยกกุมมือเธอไว้ มันเย็นเฉียบเหมือนกับที่เคยเป็นทุกครั้งในฤดูหนาวก่อนที่สักพักจะค่อย ๆ อุ่นขึ้นเมื่อได้จับกันไว้เช่นนี้....มันควรจะอุ่นขึ้นเมื่อเขาประคองมือเธอไว้แบบนี้ไม่ใช่หรือ?



“...แม่ครับ.....แม่....แม่เพชร.......แม่...แม่!” 



....ไม่มีลมหายใจ....



เด็กหนุ่มร้องเรียกเสียงดังจนกลายเป็นตะโกนในท้ายที่สุด และเมื่อก้อนสะอื้นแรกหลุดจากลำคอ ความรู้สึกทั้งหมดที่ถูกกักกั้นอยู่ในนั้นก็ล้นทะลักออกมาพร้อมกับหยดน้ำที่ไหลลงอาบแก้ม ม่านน้ำตาบิดเบือนการมองเห็นจนพร่าเลือน..ทว่าไม่อาจบิดเบือนความจริงที่ตอกย้ำอยู่ตรงหน้าได้เลย

เข่าทั้งสองข้างของเขาสั่นจนคล้ายจะทรงตัวไม่อยู่ แม้ตอนที่โน้มตัวทิ้งน้ำหนักลงโอบกอดร่างเย็นชืดบนเตียงของผู้เป็นมารดาแล้วปล่อยเสียงสะอึกสะอื้นแทบขาดใจอยู่อย่างนั้นจนถูกใครสักคนกอดไว้อีกทอดจากข้างหลัง หยาดน้ำอุ่น ๆ หยดลงบนไหล่ของเขาโดยไม่มีถ้อยคำใดเอ่ยออกมา...หรือบางทีอาจมีแต่เขาไม่ได้ยิน สิ่งเดียวที่วนเวียนซ้ำไปซ้ำมาในหูคือเสียงพูดคุยสดใสของเธอทางโทรศัพท์เมื่อตอนค่ำ

เหตุการณ์เพิ่งผ่านมาได้เพียงไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้นเอง ราวกับเขาเพิ่งเห็นเธอหัวเราะอยู่ตรงหน้าเมื่อครู่ แต่พอกะพริบตาแค่ครั้งเดียวเท่านั้นก็พบกับความว่างเปล่าที่ทำเขาแทบใจสลาย


ปิ่นหยกหลับตา..ปล่อยให้น้ำตาทั้งหมดร่วงลงจนกว่ามันจะไม่มีอะไรให้ไหลซึ่งเขาเองก็ยังไม่รู้ว่าต้องใช้เวลาอีกนานเท่าไร ก่อนจะก้มลงจูบลงบนฝ่ามือเย็นเฉียบเธอ...ผู้หญิงที่เป็นแม่อีกคนหนึ่งของเขา คนที่ใช้ชีวิตแทนแม่พลอย ยิ้มแทนเธอ หัวเราะแทนเธอ หรือแม้แต่ต่อว่าต่อขานด้วยน้ำเสียงและใบหน้าแบบเดียวกัน เขารู้สึกตลอดมาที่มีกิ่งเพชรอยู่ว่ายังมีแม่ทั้งสองคนเคียงข้างจนวินาทีที่ได้เห็นร่างไร้ลมหายใจตรงหน้านี้ ซึ่งนั่นทำให้ความสูญเสียซ้ำรอยแผลเก่ายิ่งย้ำความปวดปร่าในอกเป็นเท่าทวี



ด้วยรู้ดีว่าจะไม่มีวันได้ยินเสียงหัวเราะของพวกเธอทั้งสองคนอีกแล้ว




To be continued…






===========================


*หมายเหตุ - CT brain >>> คำเรียกสั้น ๆ ของเทคนิค Computed Tomography : เอ็กซ์เรย์คอมพิวเตอร์ (ภาษาพูดในที่นี่คือเอาไปเอ็กซ์เรย์คอมพิวเตอร์ส่วนศีรษะ/สมอง)ค่ะ



*ยืนแผ่ให้คนอ่านเขวี้ยงหม้อถังกะละมังไห*  :z6: :z6: :z6:


เขียนตอนนี้เหนื่อยมากค่ะ  แม่เพชร....ฮืออออ
ทั้งที่คิดไว้ตั้งนานแล้ว แต่พอเขียนจริงก็น้ำตาร่วงเอง โอยย เขียน ๆ หยุด ๆ อยู่นาน TT___TT

ยอมให้คนอ่านเหยียบอีกทีเอ้า  :z6: << มาโซคิสม์ ;w;
ทนไปด้วยกันนิดนึงนะคะ จะพยายามให้หน่วงไม่นานและรีบ ๆ มาต่อ


ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านและทุกคอมเม้นต์ค่ะ



==========================
*ขออนุญาตตอบคอมเม้นต์รวบยอด
>>ร้านเค้กทานตะวันยังไม่เปิดจ้างพนักงานใหม่(ไปส่องหนุ่ม) แต่คนเขียนยินดีจัดที่นั่งพิเศษแบบริงไซด์เอาไว้จ้องหนุ่ม ๆ กินกันเอง(??)ให้นะคะ XD
>>คนที่โทรมาก็พี่อันนั่นเอง โทรจนแบตหมด โทรเข้าร้านก็ไม่มีคนรับเพราะวางโทรศัพท์ไม่สนิท โถ..


*อนึ่ง พี่สามพล (ใคร!?) แฟนพี่อันนานั่นเองค่ะ //แอบแจ้งไว้ก่อน
เป็นทนาย มีน้องชายชื่อสามภพ พระเอกจาก ● เล่ห์รักฤดูร้อน ● นั่นเอง ปั่นไปหนึ่งตอนแล้ว อ่านพี่ภพคิมหันต์เบา ๆ แก้เครียดลดอาการหน่วงได้ค่ะ TT^TT (ไม่ค่อยโฆษณาเลย)

พบกันตอนหน้านะคะ

ของแถมรีพลายถัดไปเช่นเคย


***สารบัญคลิกที่นี่ค่ะ***


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-11-2012 15:25:48 โดย RAINYDAY »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด