วัยทำงานนะคะ สักยี่สิบปลาย ๆ ละกัน แม้จะวาดหน้าเด็กไปหน่อย =////=
(เหมือนว่าถ้าจิ้มที่รูปแล้วรูปมันจะขยายใช่ไหมคะ

)

หน้า 3 โปรดจิ้มค่ะ(รูปหื่นไปไม่กล้าแปะ ฮือออ เปิดระวังหลังนะคะ)

ตอนพิเศษ - ปณิธานค้างปี
....เปาะ.....แปะ..... ผมปล่อยให้หยดน้ำเย็นเฉียบร่วงลงจากเส้นผม
....เปาะ........แปะ...........เปาะ........แปะ..... สัมผัสได้เลือนรางยามมันไหลลงไปตามลาดไหล่
....เปาะ..........แปะ............เปาะ..........แปะ...........เปาะ............แปะ.....และตอนนี้เริ่มรำคาญเสียงมันแล้ว
ผมยกมือนวดกลางหว่างคิ้ว ตอนนี้ใกล้หมดวันที่เจ็ดกุมภาพันธ์ เลยจากเที่ยงคืนก็จะกลายเป็นวันที่แปด โอเค..ทุกคนนับเลขเป็น อย่าเพิ่งหงุดหงิดไป ผมแค่อยากถ่วงเวลาอีกนิดหน่อย เพราะแปดกุมภาพันธ์เป็นวันเกิดผม
“โอยย..ย...”และขอยกให้เป็นวันที่อันตรายที่สุดวันหนึ่ง ...ในหลาย ๆ ความหมาย
อาทิตย์บอกจะออกไปข้างนอกคงยังไม่กลับ ผมคิดว่าตัวเองยังมีความหวังอยู่บ้าง ถ้าจะชิ่งก็ควรเป็นตอนนี้เปล่าวะ!?
“ปิ่นหยกครับ”
“เฮ่ย!?” ผมสะดุ้ง ตวัดสายตาไปยังประตูซึ่งกั้นอยู่ระหว่างผมกับเจ้าของเสียงทุ้มนั้นโดยพลัน ยังไม่ทันได้ตอบอะไรก็มีประโยคคำถามส่งมาอีก
“ทำไมอาบน้ำนานจัง?”
ผมเถียงอยู่ในใจว่าที่นานเพราะ(มัวแต่คิดเรื่อง)มันนั่นแหละ! ว่าแต่บอกจะออกไปหาซื้ออะไรมากิน ทำไมถึงกลับเร็วอย่างนี้
“...เสร็จแล้ว” ผมร้องตอบ รีบจัดการตัวเองให้เรียบร้อย มัวยืนแก้ผ้าเหม่อลอยตัวเปียกน้ำเย็นเดี๋ยวเป็นหวัดกันพอดี จนถึงบัดนี้ต่อให้มีกำลังทรัพย์พอจะอำนวยความสะดวกเรื่องน้ำอุ่นและค่าไฟอย่างที่อาทิตย์ชอบนักหนาแต่ผมก็ยังชินกับการเอาน้ำเย็นสาดโครมให้หัวโล่งมากกว่า เครื่องทำน้ำอุ่นกินไฟอย่างกับอะไรดี
ผมเบียดตัวเองแทรกผ่านประตู เดินตัดหน้าหมอนั่นอย่างไม่อาจเลี่ยงได้เพราะอาทิตย์ยืนยิ้มแป้นแร้นขวางอยู่ประหนึ่งรอเก็บค่าผ่านทางซึ่งผมไม่มีให้ ..หมายถึงถ้ามันจะเอาเงิน
แต่ค่าผ่านทางของอาทิตย์มักไม่ใช่เงินนี่สิ
“..อืออ..อ..”ผมได้กลิ่นโคล่าบางเบา
...บนริมฝีปากอาทิตย์“เปิดใช้ยาสีฟันหลอดใหม่แล้วหรือ?” พร้อมกับที่รอยยิ้มละมุนถูกส่งมา ประโยคคำถามเรียบง่ายเสียงนุ่มดูแสดงถึงความใส่ใจ คงจะดีถ้ามันไม่ได้ถามเช่นนั้นออกมาหลังจูบ “นายว่าดีไหม?”
“เออ” และผมดันบ้าจี้ตอบ “ก็เย็น ๆ ดี” แม้ตอนนี้เริ่มรู้สึกร้อนมากกว่า
“ดีใจจังครับ” อาทิตย์ว่าพลางยื่นใบหน้าเข้ามาเบียดชิดอีกครั้ง "เพราะฉันชอบ"
ผมไม่รู้มันหมายถึงผมหรือยาสีฟัน แต่ผมไม่ได้ถอยหนี ไม่ได้ผลักหมอนั่นออก (แฮ่ม! มันเลยจุดนั้นไปแล้วแม้จะยังใจเต้มตูมตามทุกครั้ง) ว่ากันตามจริงผมจูบตอบค่อนข้างจะตามอารมณ์...ซึ่งค่อนข้างจะเร่งเร้า....และค่อนข้างจะ....ล่อแหลม? เพราะอย่างน้อยมันควรปล่อยผมไปแต่งตัวให้เรียบร้อยก่อนจะมายืนงับเอา ๆ จนปากแทบช้ำอยู่อย่างนี้ ท่อนบนผมโล่งโจ้งโหวงเหวง และฝ่ามือร้อนผ่าวซึ่งลูบไล้สลับกับเค้นคลึงเบา ๆ บนแผ่นหลังแถวแผลเป็นรอยใหญ่ของผมไม่ค่อยส่งเสริมให้ปณิธาน
‘ต้องรอด’ สัมฤทธิ์ผลได้เลย
“อีกแป๊บเดียว” ริมฝีปากเราแยกจากกันเพียงชั่วขณะเพื่อให้อาทิตย์ส่งเสียงพึมพำพร้อมกับลมหายใจอุ่น ๆ ซึ่งรดลงคลอเคลีย แถมด้วยพยายามวุ่นวายกับปลายจมูกผมเหมือนปลาทองฮุบอาหารไปด้วย “พ้นเที่ยงคืนก็วันเกิดปิ่นหยก”
“อือ”
“มีเซอร์ไพรส์”
“ไอ้เวร!” ผมอดด่าไม่ได้ “บอกอย่างนี้แล้วจะเรียกเซอร์ไพรส์ป๊ะแกดิ!” พูดจบก็เขย่งบนปลายเท้าแล้วยื่นหน้าไปขบเบา ๆ บนริมฝีปากล่างของอาทิตย์ ถึงจุดนี้ผมสารภาพก็ได้ว่าผมชอบมาก กลีบปากมันนุ่มนิ่ม อิ่ม หยุ่น และบางครั้งก็ดูเจ่อนิด ๆ โดยเฉพาะตอนทำปากยื่นปากยาวใส่ อดคิดไม่ได้ว่าเซ็กซี่ดี แต่ผมไม่มีวันบอกมันเด็ดขาด
“เซอร์ไพรส์สิครับ” หมอนั่นยิ้มทั้งที่ผมยังเล็มอยู่กับริมฝีปากมันอยู่ ซึ่งเริ่มจะทุลักทุเลขึ้นทุกทีเมื่อผมชักเมื่อยที่ต้องเขย่ง และผมเริ่มรู้สึกสังหรณ์ไม่ดีอย่างน่าประหลาดตอนเอวตัวเองถูกรวบไว้ จากนั้นขาสองข้างก็ลอยขึ้นเหนือพื้น ระดับสายตาเราพอดีกันโดยผมไม่ต้องพยายามยืดตัวหรือให้มันก้มลงมาหาแล้ว ส่วนถ้อยคำยืนยันด้วยเสียงกระซิบแหบพร่าของไอ้ลูกเจี๊ยบนั้นก็ชัดเต็มหูเลยทีเดียว
“เชื่อสิว่าต้องเซอร์ไพรส์แน่ ๆ”ผมเผลอกลืนน้ำลายอึกใหญ่ ไม่ทันได้เถียงอะไรเพราะปากไม่ว่างอีกแล้ว และหากให้คาดเดาจากประสบการณ์วันเกิดใครสักคนไม่ว่าผมหรือมันในทุกปีที่ผ่าน..
เกรงว่าจากเซอร์ไพรส์จะกลายเป็นสะพรึงมากกว่า“อือ...อ...อาทิตย์...แก...” ผมพยายามถอนริมฝีปากตัวเองออกมา และพยายามมากกว่านั้นในการจะไม่ส่งเสียงครางน่าขนลุกแค่เพียงคิดว่ามันออกมาจากลำคอผมเอง “....เตรียมอะไรไว้...บอกหน่อย....ครับ” ผมพยายามล่อ แม้รู้ดีว่ามารยาสารเพ(ซึ่งผมอดทนทำได้ไม่นานนักหรอก)ทั้งหลายแหล่ของผมเริ่มจะทำอะไรอาทิตย์ไม่ได้แล้ว
อีกฝ่ายเปิดโหมดดื้อด้วยการไม่ตอบ ไม่หือไม่อืออะไรสักอย่างนอกจากจ้องจะกินปากผมอย่างเดียว ผมเลิกหวังจะรอดจากการถูกงาบในวันเกิดมานานแล้ว (แม้คราวนี้กำลังจะเป็นวันเกิดผม...ผมควรได้งาบมันเหมือนตอนวันเกิดมันแล้วเจ้าตัวมาเรียกร้องจะเอาผมเป็นของขวัญมากกว่า) มันไม่ได้แย่หากจะมีอะไรกัน เอ่อ...ความจริงมันก็ดี....ผมค่อนข้างจะ...อืม...เราไปประเด็นอื่นกันเถอะ
ผมไม่กะรอดแบบรักษาประตูได้จนจบเกม เรื่องแบบนั้นผ่านมานับครั้งไม่ถ้วนแล้ว ..อา...อย่าให้ต้องเล่าอีกเลย...ผมเริ่มไม่รู้จะเอาหน้าไปมุดไว้ที่ไหนแล้ว
แต่ไอ้พวก...ของเล่น...ผมควรเรียกมันว่าของเล่นใช่ไหม? ที่อาทิตย์สรรหามาได้อย่างลึกลับสืบต้นตอไม่เจอโดยอ้างว่าเป็นของขวัญดูจะเริ่มแอดวานซ์ขึ้นทุกปี โซ่แส้กุญแจมือบ้าบอนั่นกลายเป็นของเล่นเด็กไปเลย และจากที่คบกันมาหลายปีแล้ว ประเมินร่วมกับการไต่ระดับขั้นกว่าของขั้นกว่าขึ้นไปเรื่อย ๆ ตามปีที่ผ่าน ผมไม่อยากเดาเลยว่าปีนี้จะเป็นอย่างไร
“เดี๋ยวก่อนครับปิ่นหยก”จูบซึ่งถ้าเปรียบเป็นกาต้มน้ำร้อนก็คงกำลังเดือดพล่านจนควันพุ่งพลันชะงักลง พร้อมกับที่อาทิตย์ย่อตัวปล่อยให้ผมยืนทำหน้าเหวอบนเท้าตัวเองอยู่ที่เดิมแล้วเลื่อนไปจูบหน้าผากปิดท้าย เห็นผมเงอะงะทำตัวไม่ถูก ไม่สามารถจัดการกับใบหน้าร้อนฉ่าซึ่งอยากเอาไปตั้งไว้ที่อื่นมากกว่าบนคอของผมได้มันก็หัวเราะเบา ๆ แล้วถามเสียงอ่อนโยน “ค้างหรือครับ”
และผมยิ่งหน้าร้อนเลยทีนี้ ..โทษมัน! โทษไอ้ลูกเจี๊ยบหน้ามึนที่นับวันก็ยิ่งเจ้าเล่ห์!
“อะไร! ใครค้าง อย่ามามั่ว!”
ถ้าใจผมจะขยับด้วยจังหวะปกติให้สอดคล้องกับที่ปฏิเสธไปคงดีไม่น้อย
“เที่ยงคืนแล้ว” อาทิตย์พยักเพยิดไปทางนาฬิกาแขวนผนังซึ่งอยู่ด้านหลังผม ระหว่างที่หันหน้าไปมองตามริมฝีปากอุ่น ๆ ที่ผมชอบนักหนาก็กดจูบย้ำลงมาอีกที่ขมับ
“สุขสันต์วันเกิดครับแม่ไก่ของผม”คำอวยพรมึน ๆ ติดจะรั่วทำผมเขินอย่างน่าประหลาด
“รัก...” อาทิตย์ยังพยายามทำคอมโบต่อด้วยการก้มลงมากระซิบเสียงกระเส่าจนขนแถวท้ายทอยลุกซู่ ย้ำอีกครั้งพร้อมกับจูบหนัก ๆ ซ้ำไปซ้ำมาที่ใบหู
“รักนาย”ผมคล้ายจะหมดแรงยืนไปเสียดื้อ ๆ อยากทิ้งตัวลงบนพื้นแล้วจมดิ่งทะลุชั้นอะไรต่อมิอะไรของพื้นบ้าน พื้นดิน และแผ่นเปลือกโลกแล้วจำศีลอยู่ในนั้นสักเดือนสองเดือนค่อยขึ้นมาเจอหน้าผู้คน อย่างน้อยจะได้หมดปัญหาเรื่องต้องทนทำหน้าไม่ถูกขณะที่สู้กับกล้ามเนื้อหัวใจซึ่งคงใกล้ระเบิดอกออกมาเต็มที
“ร..รู้แล้ว” ผมเสียงสั่นเมื่อสัมผัสร้อนผ่าวแถวหูเลื่อนลงมาอยู่ที่ต้นคอ พรมจูบไปเรื่อยจนถึงแนวกระดูกไหปลาร้า รู้สึกว่าโดนกัดที่ไหนสักแห่งซึ่งแยกแยะลำบากเพราะสติผมบินฉวัดเฉวียนไปมาน่ามึนหัวแล้วตอนนี้ อาทิตย์กึ่งดึงกึ่งลากผมไปทางห้องนอนโดยที่ไม่ได้ละใบหน้าออกจากซอกคอและแผ่นอกผมแม้แต่น้อย (มานึกทีหลังแล้วสงสัยมากว่าทำได้อย่างไร?)
ประตูถูกผลักเปิดออกช้า ๆ แต่กลิ่นหอมรัญจวญลอยเตะจมูกผมตั้งแต่ก่อนจะมองเห็นภาพตรงหน้าด้วยซ้ำ
“...อาทิตย์”
“ชอบไหมครับ?”
ห้องนอนสลัวด้วยแสงสีส้มไหวระริกของเทียนนับสิบ..หรืออาจจะถึงร้อย? ซึ่งวางอยู่ทั่วห้อง บนพื้น โต๊ะข้างเตียง ขอบหน้าต่าง ความโรแมนติกลดลงนิดหน่อยเมื่อผมเผลอคิดว่ามันบ้าจุดเข้าไปได้อย่างไรโดยไม่ทำไฟไหม้ห้อง และนั่น...ก้อนขยุกขยุยหน้าตาพิลึกใต้ตู้คืออะไรสักอย่างที่ไหม้ดำปี๋ไปแล้วหรือเปล่า ความคิดผมถูกรบกวนให้ชะงักลงด้วยเสียงทุ้มอ่อนโยนก่อนจะเผลอคำนวณค่าใช้จ่ายให้บรรยากาศล่ม ซึ่งผมว่าเสียงอาทิตย์โรแมนติกกว่าไอ้เทียนหอมซึ่งคงราคาแพงนี่ตั้งมากมาย
“อธิษฐานเร็ว”
ผมมองหน้ามันตาปริบ ๆ ทั้งเขินทั้งขำกับสีหน้าตื่นเต้นเป็นเด็กทั้งที่โตกันป่านนี้แล้ว “อธิษฐานแล้วฉันต้องไล่เป่าไอ้เทียนพวกนี้ให้หมดหรือเปล่าวะ?”
“ปิ่นหยกไม่โรแมนติกเลย” อาทิตย์ตัดพ้อ
“ขอให้รวย”
“ไม่โรแมนติกเลยจริง ๆ ด้วย!”
แสงเทียนยังเต้นเกิดเป็นเงาเลือนรางวิบวับ บางกลุ่มเรียงไว้เป็นรูปหัวใจ และผมเห็นที่พื้นมุมหนึ่งเหมือนจะเรียงเป็นรูปลูกเจี๊ยบกับแม่ไก่(มั้ง?) ..ผมใช้จินตนาการช่วยในการเดานิดหน่อย
“วันเกิดทั้งที อธิษฐานแค่นั้นจริงหรือ?”
ผมมองหน้าคนพูด บางทีนี่อาจเป็นเซอร์ไพรส์อย่างที่อีกฝ่ายว่า คุณชายอาทิตย์คงคิดได้เสียทีว่าควรเลิกทำเรื่องน่าขนลุกแบบปีก่อน ๆ ได้แล้ว ผมยิ้มโล่งอก ที่มากกว่านั้นคืออิ่มเอม รู้สึกมีอะไรบางอย่างอุ่นวาบเต็มตื้นในใจ อาศัยช่วงที่ยังอยู่ใต้แสงสลัวพอจะสู้กับความเขินได้บ้างดึงคอเสื้ออีกฝ่ายโน้มลงมาหาก่อนจะกระซิบที่ข้างหู
“แล้วก็ขอให้แกรักฉันตลอดไป” อาทิตย์เบิกตากว้าง จากนั้นก็คลี่ยิ้มละมุน พร่ำตอบกลับมาว่ารักซ้ำแล้วซ้ำเล่า และผมชอบริมฝีปากมันจริง ๆ นะ
ชอบจนเผลอเริ่มจูบก่อนจนได้ผมไล่มันไปดับเทียนให้หมดก่อนจะต้องมีใครโทรเรียกเจ้าหน้าที่ดับเพลิง อาทิตย์อิดออดอีกครู่ใหญ่จึงยอมแต่โดยดีเมื่อเทียนเล่มหนึ่งไหม้พรมเช็ดเท้าไปเกือบทั้งผืน โชคดีที่ดับทันโดยยังไม่ไปติดอะไรอย่างอื่น บรรยากาศจริงใต้แสงเทียนซึ่งในละครเลี่ยงจะพูดถึงมันลำบากตรงต้องเก็บกวาดซากของไหม้เกรียมและน้ำตาเทียนเลอะเทอะบนพื้นนี่เอง
“เสร็จแล้ว” อาทิตย์ยิ้มร่า ส่วนผมแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยและตั้งใจว่าจะไม่ถอดอีก
“อือ”
“รางวัลล่ะ?” ลูกเจี๊ยบโข่งทวงอีกแล้ว ผ่านไปนานเท่าไรก็ยังไม่เลิกนิสัยหน้ามึน
“วันนี้วันเกิดฉัน” ผมพยายามดุ “ฉันต้องเป็นคนได้ต่างหาก”
“อา...จริงสินะ” หมอนั่นพยักหน้าอย่างว่าง่าย “ฉันต้องให้ของขวัญนาย” พูดจบก็ยิ้มกรุ้มกริ่มน่าสงสัย หันไปรื้ออะไรกุกกักในตู้ ครู่เดียวก็กลับมาพร้อมลังกระดาษขนาดใหญ่หน้าตาไม่น่าไว้วางใจ
และทำไมผมถึงรู้สึกว่ามันเดจาวูแปลก ๆ
“นี่อะไร!?”
“อยากรู้ก็เปิดสิครับ” อาทิตย์อ้อมไปโอบด้านหลังแล้วอาศัยว่าอกแน่นหน้าท้องแข็งดันผมไปยืนอยู่ต่อหน้ากล่องลึกลับหน้าตามีพิรุธ จำได้ว่าปีสองปีก่อนก็เป็นอะไรคล้าย ๆ อย่างนี้ “แต่เปิดแล้วต้องใช้นะ”
"ไอ้เลว!” ผมสบถสู้กับจมูกที่พยายามดันอยู่ข้างแก้ม “งั้นไม่เปิด”
“ทำไมล่ะ” อาทิตย์ส่งเสียงตัดพ้อ “ปิ่นหยกไม่รักผมแล้วหรือ?”
เจอมุกนี้เข้าไปเล่นเอาใจสั่น แถมนอกจากจมูกดันเข้ามาก็เริ่มมีลิ้นมาแจมด้วยแล้วตอนนี้ “...ม...ไม่รัก...”
“แต่ฉันรักนาย” มันยิ้มร่า บอกให้รู้ว่าที่ผมพูดนั้นเข้าหูที่ไหน
“เรื่องของแก”
“เพราะงั้นเดี๋ยวเปิดให้”
“จะเปิดเองก็ปล่อยฉันสิว้อย!” ผมร้องโวย
ความรู้สึกบอกว่าเรื่องที่กลัวอยู่มันกำลังจะเกิดขึ้นจริง ๆ แน่แล้ว อาทิตย์เอื้อมมือมาเปิดกล่องให้จริงอย่างปากว่า แต่ที่แย่คือมือนั้นอ้อมมาจากด้านหลังโดยยังกักผมไว้ระหว่างวงแขนกับแผ่นอกแน่น และตรงหน้าคือไอ้กล่องลึกลับซึ่งของข้างในทำผมอยากเอาเทียนทั้งหมดเมื่อครู่สุมลงไปแล้วจุดไฟเผาให้มันตายตกไปตามกัน
“..อ...อาทิตย์” ผมเสียงสั่น ของพวกนั้นเคยเห็นแต่ในอินเตอร์เน็ต “...จ...จะใช้จริง ๆ เหรอวะ”
“อื้อ!” เสียงกระตือรือร้นมาเชียว มันใช่เวลาไหม!?
“...ไม่เอา”
“รักปิ่นหยก” มาอย่างหล่อ จูบหนักหน่วงที่ซอกคอก็เล่นเอาเผลอคราง รู้ทั้งรู้ว่าผมแพ้ทางก็ยังมาไม้นี้อีกแล้ว(หรือเพราะมันรู้นี่แหละเลยใช้ไม่หยุด?)
“..ฉ...ฉันไม่รักแก”
“จริงหรือ?”
“...จริง”
“มองตาด้วยครับ”
“ไม่เอา อาทิตย์ ไอ้โรคจิต!”
ผมไม่หนักแน่นเลย รู้สึกตัวเองว่าใกล้เสียท่ามันเต็มทีแล้ว“ลองหน่อยเดียว อุตส่าห์ซื้อมา”
เสียงอาทิตย์เว้าวอนเกินไป“...ไอ้ลูกเจี๊ยบ”
“นะ...?”
ดวงตาสีดำขลับคู่นั้นก็โศกเกินไป“นะครับคนดี?”
“...ม...ไม่...”
“ปิ่นหยกครับ...?” เวรเอ๊ย! กรูจะขาดใจตายสุดท้ายริมฝีปากอิ่มตอนกระซิบชื่อผมแบบที่ไม่เคยใช้เสียงเช่นนั้นกับใครอื่นก็ราวกับเป็นคำสั่งประหาร ดาบเดียวลงไปนอนกองรวยรินอยู่กับพื้น...หรืออาจจะเตียง...ช่างเถอะ....ผมรักมัน(อย่าให้รู้ว่าใครไปบอกไอ้ลูกเจี๊ยบ) แม้จะขนลุกขนพองกับความหื่นเข้าใกล้โรคจิตเข้าไปทุกที แต่คราวนี้จะยอมสักครั้ง ตั้งปณิธานมั่งคงว่าปีหน้าผมจะระวังให้มากกว่านี้
แต่จะว่าไป นั่นมันปณิธานของผมตั้งแต่เมื่อปีก่อน ๆ แล้วนี่หว่าอาทิตย์ยิ้มละไมเมื่อรู้ว่าไม้ตายเช่นนั้นยังคงใช้ได้ผลกับผมเสมอมา มือก็หยิบของในนั้นขึ้นมาวางบนเตียงทีละชิ้น ส่วนผมได้แต่กลืนน้ำลายอย่างยากเย็น
ตระหนักได้ว่าอย่างแรกที่ควรทำคือโทรไปลางานพรุ่งนี้ Happy Birthday 08/02/13
=========================
อาทิตย์ซื้ออะไรมา 'เล่น' ให้จิ้นเองตามบริบทของเรื่องและประสบการณ์+ขอบเขตจินตนาการของคนอ่านนะคะ ปล่อยไว้อย่างนี้ระทึกใจดี =3= //โดนเตะ
อาจจะเล่นเฟอร์บี้กันกุ๊กกิ๊กจนเช้าก็ได้นะคะ อิ__อิ
ไม่มีประเด็นอะไรอีกแล้ว สนองนี้ดคนเขียนอย่างเดียวเลย สุขสันต์วันเกิดแม่ไก่
//ปิ่นหยกขว้างกะละมัง จะพ้นวันแล้วโอ้แม่เจ้า!
พอดีติดธุระโน่นนี่เลยเพิ่งได้มาปั่นค่ะ แต่ก็ยังทันวันนะะะ ฮือออ ทันแบบเดี๋ยวตามมาแก้คำผิดทีหลัง
ตอนแรกจะวาดเป็นการ์ตูนอย่างเดียวแล้วค่ะ แต่ทีนี้ไม่ทันอะ...เลยตัดเหลืออะไรก๊องแก๊งยุกยุยสี่หน้าแล้วต่อด้วยตอนพิเศษแทน (ฮา)
แอบแถม รูปแม่ไก่ที่ทำไม่สำเร็จ

เพราะพอวาดเสร็จแล้วดันออกมาเป็นเอลฟ์หนุ่มสักคนแทน TTvTT *พรากกกกก* ถือว่าเป็นแม่ไก่ร่างเอลฟ์ละกันนะคะ

//หลายร่างเหลือเกิน คน ไก่ เอลฟ์ อะไรนักหนา (คนเขียนชอบเวิ่นค่ะ ฮา)
จุ๊บ ๆ ส่งท้ายด้วยแม่ไก่แบบโคลสอัพค่ะ 5555

แล้วพบกัน...เมื่อไหร่ไม่รู้ แต่เจอกันบ่อยกว่านั้นได้ในเรื่องเล่ห์รักฤดูร้อน และบ่อยขึ้นอีกที่ twitter และ FB ค่ะ แฮร่ ๆ
รักคนอ่าน ม๊วฟฟฟฟฟฟ
