ตอนที่ 10
KISS ME ONE MORE TIME “หึหึหึ”
ตั้งแต่ต้นสัปดาห์แห่งการเรียน ไอ้เพื่อนทั้งสองของผมแม่งก็เอาแต่หัวเราะแบบนี้มานานมากแล้วล่ะครับ ปกติผมก็ไม่ค่อยใส่ใจเท่าไหร่นัก เพราะเวลาที่พวกมันหัวเราะงี้คือเวลาที่พวกมันเห็นขาอ่อนของสาวสวยๆ ไม่ก็เห็นหน้าอกไซส์บิ๊กเบิ้มที่จู่ๆก็ลอยมากระแทกตาพวกมัน แต่ครั้งนี้เห็นทีจะไม่ใส่ใจไม่ได้ เพราะดูเหมือนผมนี่แหละคือต้นเหตุที่ทำให้พวกมันหัวเราะแบบนี้ เอ๊ะ . . กูไม่ได้ใส่กระโปรงสั้นจู๋หรือมีหน้าอกดูมๆนะพวกมึง
“เป็นห่าอะไร”
“โอ้ย ป๊าว” เสียงสูงขนาดนี้ แม่งตอแหลสัดอ่ะครับ ไอ้คิกยิ้มแฉ่ง ไม่ได้สนใจหนังสือเรียนตรงหน้าของมันเลย เห็นอย่างงี้น่ะได้ท้อปไม่ก็รองท้อปตลอด ไอ้บ้านี่มันซุ่มอ่านตั้งแต่ดึกยันเช้าครับ เคล็ดลับก็คือไฮเนเก้นและเบลนด์สองแปดห้า(โอ้ย ไอ้บ้า)
“พวกกูก็แค่สงสัย หน้าตามึงดูอิ่มเอิบ ดูสดใส ดูไม่หมอง ดูไม่เศร้า เหมือนแต่ก่อนที่กูกับไอ้คิกเคยเจอมาก่อน” ไอ้บูมไขความกระจ่างให้
“กูปกติเหอะ” สักพักเดี๋ยวพวกแม่งก็ลากเข้าเรื่องของไอ้ธามชัวร์ ผมรู้อย่างนั้นจึงรีบกดหัวจมกับตำราไฟแนนซ์อย่างด่วน
“เชี่ยแม่งตอแหล!” ไอ้คิก!!!! มันฉวยหนังสือไปจากหน้าผมเฉยเลย ไอ้สัด!!! จะสอบแล้ว!!!! “บอกกูมา พี่ธามโทรหาไอ้บูมแล้วก็เกิดอะไรขึ้น บอกกูมาน้า!!!” นิสัยไอ้คิกแอบเด็กน้อยครับ บ้านมันตามใจก็งี้
“เสียงดังเพื่อ”
“เออน่ะ บอกๆมาเหอะ อัพเดทเพื่อนอัพเดทฝูงบ้างไรบ้าง”
ผมมองหน้าตัวขี้เสือกสองคนอย่างเอือมๆ “ก็ . . มันก็มา . .”
“มา มาอะไร ? มาทำอะไรมึง?”
จะใช้คำว่าดูแลก็ดูขัดๆกับบุคลิกไอ้ธามยังไงไม่รู้ อีกอย่างหนึ่ง . . ผมอายเพื่อนด้วยแหละมั้งถ้าจะใช้คำนั้น แค่นี้พวกแม่งยังล้อตายห่า “หาข้าวหายาให้ และก็เอิ่ม . .” ถ้าบอกว่าเช็ดตัวให้ด้วยคงจะ . .
“เชี่ยแม่ง พี่ธามกูโคตรน่ารักอะ!!!” ดีหน่อยที่ไอ้คิกไม่ได้ติดใจอะไรอีก
“สุดยอดเลย เพื่อนกู เจอทีก็เจอของดีเกรดเอ สุดยอดๆ”
“ไอ้ธามเนี่ยนะดี?”
แปะ ผมโดนหัวหน้าแฟนคลับไอ้ธามโบกหัวเข้าให้แล้ว “ดีสัดๆ ดีเหี้ยๆ อะไรจะมาพร้อมมาเต็มได้ขนาดนั้น จะว่าหล่อก็หล่อ จะว่าสวยก็สวย เป็นดารา เป็นนักร้อง ร้องเพลงเพราะ วาดรูปเก่ง และที่สำคัญ . . รวยเหี้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย”
“ลูกชายเจ้าของสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่หลายแห่ง รวยอันดับต้นๆของประเทศ ตระกูลกฤตฤทธิไกรนี่เค้าสูสีกับตระกูลโภคินทร์พิพัฒน์มาตั้งแต่สมัยโน้นนนนนนนนนน”
โภคินทร์พิพัฒน์ โภคินทร์พิพัฒน์ โภคินทร์พิพัฒน์ . .
นามสกุลพี่คินนี่หว่าผมจำได้ . . จะว่าไปเรื่องพี่คินที่มีอยู่ในหัวนี่มันลดลงไปตั้งแต่เมื่อไหร่กัน . . ไอ้ความรวยของพี่เค้าผมก็พอจะนึกออกอยู่บ้าง แต่ถ้าไอ้ธามมันรวยพอๆกับพี่คินจริง ผมว่าก็ . . รวยเวอร์ไปหน่อยนะ
“ตระกูลนี้เค้าเป็นเพื่อนกันมานานนี่หว่า” อ้าว ไอ้คิกแม่งลากเรื่องเข้ามาหาเรื่องนี้ได้ยังไง “เออใช่!!! กูจำพี่คนหนึ่งได้ เพื่อนพี่ธามไง ที่หล่อๆมีสาวติดเยอะๆอ่ะ”
“นามสกุลโภคินทร์พิพัฒน์ช้ะ? เอ . . พี่เค้าชื่ออะไรนะ”
“คินตา” ผมพึมพำตอบ ใจเหม่อลอยไปไกล . .
“เออใช่!!!!! พี่คินตา!!!! หล่อแต่บางมุมก็แอบน่ารักเหมือนพี่ธามเลย”
“เฮ้ยเดี๋ยว!!!” ผมร้องเสียงดัง “มึง . . พวกมึงว่าไงนะ สองคนนี้เค้าเป็นเพื่อนกันเหรอวะ!!!!!!”
พวกมันสองคนทำหน้างง “ก็ใช่อ่ะดิ แม้จะเป็นคู่แข่งทางธุรกิจกัน แต่ลูกชายสองตระกูลนี้คบกันมาตั้งแต่ยังแบยังเบาะ สมัยเรียนอยู่ห้องเดียวกันมาเป็นสิบๆปีมั้ง”
เหมือนฟ้าผ่าลงมากลางกระบาลของผม . . ความจริงที่ผมเพิ่งรู้ . . แม่ง . . โคตรบังเอิญอย่างเหลือเชื่อ!!!!!!!!!!!!!!!!! “ไอ้เหี้ย เพ้อเจ้อละ กูรักคนที่กูอยากรัก” เสียงไอ้ธามลอยมาแต่ไกล ความทรงจำที่มันเคยพูดไว้เกี่ยวกับคนที่มันชอบพรั่งพรูมาให้ผมได้รับรู้
“ก็เพื่อนมึงใช่มั้ยล่ะ” ตอนนั้นผมนึกว่ามันชอบเพื่อนตัวเอง . .
“แฟนเพื่อนต่างหาก” เฮ้ย!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! และคำพูดของมันที่ผมจำได้อย่างเลือนรางอีกอย่างหนึ่งก็คือ มันชมแฟนเพื่อนคนนี้นักหนาว่าดีอย่างงั้นดีอย่างงี้ แต่เพื่อนมันก็เป็นคนดี เค้าทั้งคู่เหมาะสมกันแล้ว ถ้าไม่ใช่พี่เหนือ . . ผมว่าก็ไม่น่าจะทำให้คนอย่างธาม กฤตฤทธิไกรสนใจได้อยู่แล้ว ก็เฮียแกเล่นหล่อ เข้ม เฟอร์เฟคขนาดนั้นนนนนนน . . บอกได้เลยว่าช็อคแดก . .
“อ้าว ไอ้ปอนด์ เป็นเหี้ยไร!!!”
“ไอ้บูม ไอ้ปอนด์ตัวแข็งทื่อไปเลยมึง ชิบหายละ มึงพูดอะไรที่ไม่ดีๆหรือเปล่าเมื่อกี้!!!”
“กูว่ากูพูดน้อยแล้วอ่ะ” ไอ้บูมตกใจขนาดหนัก “มึงแหละ มึงเลย เพราะมึงแหละเชี่ยคิก ไอ้ปอนด์ถึงเป็นเงี้ย”
“เฮ้ย สัดปอนด์!!! พวกกูขอโต๊ดดดดดด” ไอ้คิกยกมือไหว้พนมไว้เหนือหัว
“เปล่าๆ” ผมก็พอจะมีสติอยู่บ้างแหละน่า “กูก็แค่ . .”
“แค่อะไรวะ . .”
“กู . .” ผมหันหน้ามาสบตากับพวกมันทั้งสองคน “พวกมึงเคยเจอเรื่องอะไรที่แม่งโคตรบังเอิญมั้ยวะ”
พวกมันส่ายหน้าพรืด “บังเอิญอะไรของมึงวะปอนด์ ไหนลองเล่าดิ๊”
ถ้าเรื่องมันมาถึงขนาดนี้ . . ผมว่าปิดบังพวกมันไปก็ไร้ความหมายและก็ไร้ประโยชน์
“ถ้างั้นคนที่ชื่อคินตาก็เป็นรุ่นพี่ของพวกมึงด้วยดิ” นี่ก็เป็นเรื่องบังเอิญอีกเรื่อง . . ใช่มั้ย
“อือ” ไอ้คิกรีบตอบ “ไอดอลสัด ควงทีควงระดับดาว ดาวสาธิต ดาวคอนแวนต์ ดาววัฒนา เห็นแล้วอิจฉา น้ำลายไหล”
ผมกลืนน้ำลาย . . ก่อนเปิดปากเล่าทุกสิ่งที่ไม่คิดว่าพวกมันจะสมควรได้ยินมาก่อน
“เค้าคือคนที่กูชอบ ก่อนที่กูจะซิ่วมาเรียนที่นี่ว่ะ” 2 BROKEN HEARTS
“ปอนด์ ช่วงนี้คิกบอกว่าปอนด์เครียดเหรอคะ” ผับแห่งหนึ่งอยู่แถวๆทองหล่อ ผมกำลังถูกสาวคนไหนไม่รู้ของไอ้คิกมาคลอเคลียใหญ่ หลังจากที่ผมเล่าเรื่องอดีตของผมให้ไอ้บูมกับไอ้คิกฟัง พวกแม่งก็ลากผมมาที่นี่จนได้ เท้าผมยังไม่ได้เหยียบถึงคอนโดตัวเองเลยด้วยซ้ำ ไอ้บูมก็จัดเสื้อที่มีอยู่ในรถมันให้ผมใส่และก็บึ่งมาที่นี่ตั้งแต่ตอนสี่ทุ่มกว่า
ผมไม่ได้สนใจพวกผู้หญิงเหล่านั้น . . ตรงกันข้าม ผมกลับสนใจไอ้น้ำสีอัมพันที่อยู่ตรงหน้ามากกว่า คืนนี้คาดว่าคงจะมีแต่เมากับเมาลูกเดียว ซึ่งสาเหตุก็ยังไม่รู้แน่ชัดว่าเพราะอะไรกันแน่
ไม่รู้นั่นแหละดี แดกทีจะได้ลืมๆไปซะ .. “อืม” อาจเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์มั้ง ผมถึงได้นัวเนียเธอเป็นการใหญ่ อาจไม่มากเท่าไหร่ก็แค่เอาหน้าไปซุกซอกคอที่ฉุนไปด้วยกลิ่นน้ำหอมนั้น ดูท่าเธอจะชอบ ไม่ได้รังเกียจไรหนวดบางๆของผมเลยสักนิด
“เครียดอะไรบอกเจนนี่มาก็ได้นะ เจนนี่รับฟังทุกอย่าง” น้ำเสียงหวานที่ฟังดูไม่เป็นธรรมชาติกระซิบเข้ากับหูของผม ที่ถึงแม้จะมีต่างหูสีดำติดอยู่ แต่ก็ไม่ได้รู้สึกเลยว่าหูมันหนัก ตอนนี้หูผมคงจะเบามาก ใครพูดอะไร คงเชื่อไปหมด นี่ขนาดแค่ตีหนึ่งเองนะ ผมมึนขนาดนี้แล้วเหรอ “หรืออยากคลายเครียดด้วยวิธีอื่น ก็บอกนะคะ เราไปต่อกันได้นะ”
ขนลุกซู่ . . เจนนี่นี่มีเสน่ห์เย้ายวนเหลือคณานับ เรียกได้ว่าผู้ชายร้อยทั้งร้อยคงอยากมาอยู่แทนที่ผมเป็นแน่
“เจนครับ อย่ามอมไอ้ปอนด์ดิ มันเป็นคนไม่ค่อยได้แดกน่ะครับ” มึงจะสุภาพหรือมึงจะถ่อย เลือกสักทางซิ เชี่ยบูม
“เจนเปล่านะ ปอนด์มาถึงก็มีแต่ยกๆๆอย่างเดียวเลยอะ”
“ไอ้สาดดดดดดด อย่าห้ามกรูวววววววววววว” ไอ้เหี้ยปอนด์เอ๊ย น่าอายมั้ยล่ะนั่น แค่พูดยังไม่เป็นภาษา
“ไหวมั้ยคะ เดี๋ยวเจนพาไปนอน เอามั้ย”
ไอ้บูมกับไอ้คิกเงียบเหมือนอยากให้ผมตัดสินใจเอง ถ้าไปกับเจนนี่เธอคงเสร็จผมอย่างราบคาบโดยไม่มีข้อแม้ . .
แต่นั่นมันไม่ใช่ตัวผมว่ะ . .
“เชี่ยบูม หรือเชี่ยคิก ก็ด้ายยยย ไปส่งกูหน่อยดิ๊”
“ได้เลยเพื่อน” ทั้งคู่ลุกขึ้นยืน และพร้อมใจกันหิ้วปีกของผมคนละข้าง โดยมีเจนนี่โวยวายอยู่ข้างหลัง
ขอโทษนะ . .ไม่ว่าจะวันนี้หรือวันไหน ผมก็ไม่สามารถทำให้ความปรารถนาของเธอกับของผมสมหวังได้ . . “เชี่ยปอนด์ แม่งตัวอย่างควายเลย ไอ้เหี้ยเอ๊ยยยยย” ไอ้คิกบ่นตอนจับผมยัดเข้าไปไว้ในรถ
“มึงขับไหวมั้ยสัดคิก เดี๋ยวกูขับเอง”
“เออดี กูก็ว่ากูมึนหัวเหมือนกันว่ะ”
ผมจำได้แค่ว่า . . พอหัวผมแตะกับเบาะหลังรถของไอ้คิกเท่านั้นแหละ . . ผมก็หลับไปเลย
“โทมัส มันน่าเกลียดไปมั้ยอ่ะ”
“เอิ่ม จะให้ผมขับรถไปส่งคุณหนูที่คอนโดคุณหนูเลยมั้ยครับ”
“แต่พรุ่งนี้เช้ามีอัดรายการแถวนี้นะ”
“ฮ่าๆๆ แล้วคุณหนูจะกลัวอะไรล่ะครับ คุณปอนด์เขาก็เป็นคนดีออกอย่างนั้น เขาต้องช่วยคุณหนูแน่ๆ”
“แต่แบบ…”
“คุณหนูอยากเห็นหน้าเค้าใช่ม้า ยอมรับกับผมมาตรงๆดีกว่า ผมเลี้ยงคุณหนูมา ผมรู้นิสัยคุณหนูดี”
“จะบ้าเหรอ ไม่ใช่ซักหน่อย” เวรๆ ไม่ชอบเลยเวลาที่โดนโทมัสจับผิดในเรื่องแบบนี้
“ถ้างั้นเราตื่นแต่เช้าแล้วค่อยมาแถวนี้ก็ได้นี่ครับ ไม่เห็นต้องมารบกวนคุณปอนด์เลยนี่”
“ก็ได้” ผมยอมรับแบบเหวี่ยงนิดนึง “ก็แค่อยากเห็นว่ามันไม่เป็นอะไรแล้ว แค่นั้นแหละ วันนั้นปอนด์มันไม่สบายเพราะธามนะ”
“คร้าบบบบบบ ครับบบบบบบ” โทมัสที่นั่งอยู่ที่นั่งคนขับหัวเราะกรุ้มกริ่ม “แปลกดีนะครับ ไม่ได้เห็นคุณหนูเป็นเดือดเป็นร้อนเพราะใครแบบนี้มานานมากแล้ว”
“โทมัส เปล่าซักหน่อย” ผมเริ่มเซ็ง “เปลี่ยนเรื่องพูดได้มั้ย แล้วเนี่ยเมื่อไหร่จะถึงน่ะ”
“เลี้ยวข้างหน้าก็ถึงแล้วครับ ฝนตกหนักมากนะครับเนี่ย”
เอาเป็นว่าถ้าผมไปคอนโดไอ้ปอนด์ตอนนี้ล่ะก็.. ผมคงต้องแถทุกอย่างให้ดูสมเหตุสมผลมากที่สุดไปก่อนละกัน นี่ขนาดกับโทมัส โทมัสยังรู้หมดจนผมพรุนไปหมดแบบนี้ แล้วถ้าเป็นไอ้ปอนด์ล่ะ?
คอนโดไอ้ปอนด์เป็นคอนโดที่เคยกัดเอาไว้ว่าคุณภาพไม่ได้เรื่อง ซึ่งอันที่จริงก็ไม่ใช่ทั้งหมดหรอกครับ เพียงแต่คอนโดของป๊าที่ผมเคยเห็นมาจนชินตามันดีกว่าเท่านั้นเอง
“นั่นใช่คุณปอนด์มั้ยน่ะครับ”
พอรถจอดสนิท ผมก็เห็นไอ้คิกกับไอ้บูมพยายามลากซากของไอ้ปอนด์ออกมาจากรถอย่างทุลักทุเล . .
ไอ้เหี้ยปอนด์แม่ง เมาอย่างหมาเลยครับ
“โทมัสกลับไปก่อน พรุ่งนี้มารับด้วย ตีห้านะ”
“ครับผม” โทมัสรับคำ “ไม่เป็นไรแน่นะครับคุณหนู”
“อื้อ”
ผมเดินไปหาสามคนนั้น ไอ้บูมกับไอ้คิกหน้าซีดเผือดยกมือไหว้ผมทักทายผมไม่เป็นภาษา
“มันเป็นเหี้ยไรเนี่ย”
ฉับพลันทันทีผมไม่นึกไม่ฝันว่าไอ้ปอนด์มันเอาเรี่ยวแรงมาจากไหน ถึงได้ผละออกมาจากสองคนนั้นแล้วก็เข้ามาตะครุบตัวผมเอาไว้อย่างแนบแน่นจนผมตกใจ กลิ่นแอลกอฮอล์คละคลุ้งจนผมมึนไปหมด
จู่ๆก็เข้ามากอด . . อะไรวะเนี่ย!!!!
“โอ้ว มาย ก้อด” เพื่อนไอ้ปอนด์พึมพำว่างี้
และที่แย่ไปกว่านั้น ไม่รู้อะไรดลใจมัน จู่ๆไอ้ปอนด์ก็ใช้มือของมันช้อนใบหน้าของผมขึ้นมา และใบหน้าของมันก็โน้มเข้ามาหาผม และก็ - -
ริมฝีปากบางเฉียบของมันประทับเข้ามากับริมฝีปากของผม . . อย่างนุ่มนวล จนตัวของผมอ่อนยวบไปหมด
จู่ๆก็มากอด จู่ๆก็มา . . จูบเหรอวะ?
“อืมมมมม” มันผละออก แล้วก็พูดด้วยน้ำเสียงเอื่อยๆของคนเมา
“แบบนี้หอมกว่าเยอะเลย” ที่มันทำไป . .ไม่ได้คิดเลยใช่มั้ยว่าตัวกูจะเป็นยังไง!!!!!!!!!!!!!!!!!!
ผมคงหน้าแดงแจ๋ ส่วนไอ้ปอนด์เพราะจูบผมเสร็จแม่งก็เดินลอยหน้าลอยตาไปทิ้งตัวใส่เพื่อนมันทั้งสองอย่างหน้าด้านๆ
เมาแล้วน่าเตะอย่างงี้เหรอวะ!!!!!!!!!!!!
แชะ แชะ
“พี่ธาม!!!!!!!!! หลบ!!!!!!!!!!!!!!!” ไอ้บูมผลักผมเข้าไปในรถ
“ชิบหายแล้ว ไอ้เหี้ยปอนด์ มึงก็เข้าไป!!!!!” ไอ้คิกกับไอ้บูมเข้าใจสถานการณ์เร็วกว่าที่คิด “คิก เร็วๆเลยมึง ไอ้เหี้ยเอ๊ย หยุดเดี๋ยวนี้นะ!!!!!!!!!!!!!!!!”
ต่างกับผม . . ที่ยังมึนๆไม่รู้เรื่องเท่าไหร่
แต่พอไอ้คิกมันตอบสิ่งที่ผมคาใจเท่านั้นแหละ ไอ้ความอึ้งที่ไอ้ปอนด์มันฝากเอาไว้ก็มลายหายแทบหมดสิ้น
“พวกปาปารัซซี่น่ะพี่!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”
เจอกันตอนหน้าค่ะ