ตอนที่ 19/2
อุปสรรคก่อให้รักบังเกิดครืดดดดดดดดดดดดดดดด . . (เสียงเลื่อนประตูกระจก)
“ง่ะ มาแล้วเหรอ ทำไมคุยโทรศัพท์นานจัง” ปอนด์กำลังนอนดูทีวี ปากกำลังเคี้ยวขนมเสียงดังแจ้บๆ ขนมที่พวกบูมกับคิกซื้อมาให้
ให้ตายสิ ผมเห็นหน้ามันแล้วผมรู้สึกผิดยังไงไม่รู้บอกไม่ถูก ทั้งๆที่ผมเองก็รู้ถึงเหตุผลที่เซน เอ่อ . . จูบ ก็เหอะ นั่นมันจูบลา และอีกอย่างเซนก็เมาด้วย และก็อีกอย่างนึง!!! . . ผมมิทันได้ตั้งตัวอะไรเลย
ไอ้ปาปารัซซี่บ้าจะตามติดผมไปถึงไหน ผมหันซ้ายหันขวามองดูในห้องพักผู้ป่วยของปอนด์เผื่ออาจจะมีกล้องจิ๋วกระปิ๋วหลิวซ่อนอยู่ราวกับคนโรคจิต
“มองหาอะไรอ่ะ” ปอนด์ถาม ไม่ได้เอะใจอะไรนัก เพราะกำลังหนุกกับทีวี และก็ขนมขบเคี้ยวนั่น
“เอ่อ บูมกับคิกล่ะ” ผมเลียบๆเคียงๆถาม ไม่อยากจะให้ปอนด์รู้เลยจริงๆ แต่ถ้ามันรู้ล่ะก็ผมก็พร้อมที่จะอธิบาย ที่มันไม่รู้เรื่องอะไรเลยเพราะมันอยู่ในโรงพยาบาล(และไม่เปิดรายการซุบซิบดารา) หรือผมจะบอกมันไปตรงๆดี
“เห้ย!!! ปอนด์ กูจูบกับเซนมา ก่อนที่กูจะมาจูบมึง!!!!!” อ่า . . นั่นมันไม่ยิ่งทำให้มันแย่ขึ้นกว่าเดิมอีกหรือ T____________T
“อ๋อ ออกไปซื้อหนมมาเพิ่มน่ะ . . พวกมันเห็นแนวโน้มว่ากูจะได้อยู่โรงบาลต่ออีกสักวันสองวัน”
“เหรอวะ” ผมยังคงยืนอยู่ใกล้ๆประตูกระจกริมระเบียง “นี่”
“หืม?” ปอนด์ไม่ได้หันมาหาผม
“เดี๋ยวจะออกไปบริษัทแป๊บนึงนะ”
หันขวับมาทันทีเลย . .
“งานเหรอ” ปอนด์ถามอย่างคนที่เข้าอกเข้าใจผม แต่ทำหน้าเหมือนไม่เข้าใจเอาเสียเลย
“เอ่อ . . ประมาณนั้นน่ะ” งานแถลงข่าว . . ในอนาคตน่ะสิ
“แล้ว . . จะกลับมาอีกป่ะ” สีหน้าของปอนด์ลุ้นมาก นั่นยิ่งทำให้ผมรู้สึกแย่เข้าไปอีก โธ่ กูกับมึงเมื่อไหร่จะมีเรื่องดีแบบตลอดรอดฝั่งนะ ให้ตายสิ
“กลับสิ” ผมตอบเสียงอ่อนแรง
“ต้องไป . . นานรึเปล่า” ปอนด์ไม่สนใจทีวีอีกต่อไปแล้ว
ผมไม่รู้ว่าผมต้องออกไปนานเท่าไหร่ ไม่รู้ว่าปัญหานี้จะแก้สามารถแก้ได้ในเวลาอันใกล้นี้หรือไม่ แต่ผมรู้อยู่อย่างหนึ่ง . . ไม่ว่าจะยังไงไอ้ปอนด์จะยังอยู่ตรงนี้เสมอ อยู่เพื่อรอผม
ผมเดินเข้าไปหาปอนด์ แตะมือเรียวยาวของมัน
“ไม่นานหรอก” ผมพูดให้ปอนด์สบายใจ
“จริงนะ”
“เออดิ”
“มึงไปนาน กูอาจไม่หายเร็วนะ”
“จ้ะๆ”
“หอมหน่อย”
“หา??”
ผมขยับถอยหลังกรูด ปอนด์หัวเราะ ดึงมือผมให้กลับเข้าไปใกล้ แล้วก็จุมพิตลงบนหลังมือของผมแทน
อะ เอ่อ คือ เอ่อ อ่า ทำเหี้ยอะไรของมึงเนี่ย!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
“หอมดีจัง”
“กูไปดีกว่า” รีบหายไปจากที่นี่ซะ ก่อนที่มันจะเห็นหน้าแดงๆของผม หลังๆไอ้ปอนด์ชักเริ่มทำอะไรแบบนี้ให้ผมเขินอยู่เรื่อย . .
“หึหึ” มันหัวเราะในลำคออย่างมีความสุข เร่งเสียงทีวีขึ้น และก็กินขนมต่อ
ทีวี . . ทีวี . . ทีวีงั้นเหรอ
ผมเดินออกจากห้องพักของปอนด์ สวนทางกับบูมและก็คิกพอดิบพอดี
“เฮ้”
“อุ้ย พี่ธาม ไม่อยู่กับปอนด์มันต่อล่ะครับพี่”
“ไอ้คิก พี่ธามเค้าก็ต้องมีงานมีการทำดิวะ”
“ไอ้บูม ไอ้คิก” ผมคุยกับรุ่นน้องด้วยสีหน้าท่าทางที่เอาจริงเอาจัง ทั้งๆที่เมื่อกี้หน้าของผมยังแดงเป็นปื้นอยู่เลย
“ครับพี่ธาม”
“เกิดเรื่องใหญ่ขึ้นแล้วว่ะ”
ดวงตาของพวกมันทั้งสองคนเบิกกว้างขนาดใหญ่พอๆกับเรื่องที่เกิด . .
“พยายามอย่าให้ปอนด์เปิดทีวีในช่วงนี้นะ”
. . 2 BROKEN HEARTS FALL IN LOVE . .
หลังจากที่โทมัสพาผมไปแต่งองค์ทรงเครื่องเรียบร้อยแล้ว ผมก็มาปรากฏตัวในคราบของธาม นักร้องนำที่กำลังตกเป็นข่าวอื้อฉาว . . แสงแฟลชที่หน้าบริษัทต้นสังกัดของผมวูบวาบไปหมด ไมค์ที่ยื่นส่งมาให้ คำถามรัวๆของนักข่าวที่แย่งกันพูดแย่งกันถาม . . ทุกสิ่งทุกอย่างหนักกว่าทุกงานที่ผมเคยเจอ การ์ดที่ป้องกันไม่ให้แฟนคลับถ่าโถมเข้ามารุมถามคำถาม
ทุกอย่างมันเกิดขึ้นก็เพราะ . . ตัวของผมเอง
ปัง!
พี่แอน รองประธานต้นสังกัดของผมทุบโต๊ะเสียงดังปัง ในห้องประชุมของบริษัทมี่ภาพของผมจูบกับเซนฉายอยู่บนจอ มีหลายภาพ และก็มีหลายมุม ผมซ่อนความหนักอกหนักใจเอาไว้อย่างยากลำบาก โทมัสที่ยืนอยู่ข้างๆสามารถลมจับได้ทุกเมื่อ งานนี้ไม่มีสมาชิกในวงสักคน เนื่องจากทุกคนไปเที่ยวฉลองความสำเร็จอยู่เมืองนอกโน่น เว้นผมคนนึง . . หนึ่งประเทศนั้นไปบ่อยแล้ว และสองผมตัวติดไอ้ปอนด์เป็นตังเม
ขนาดตัวติดแล้ว . . ปัญหาก็ยังมี
“ธาม พี่รู้นะว่าธามเป็นอะไร” พี่แอนพร้อมที่จะทำร้ายโต๊ะอีกครั้ง “ตอนนี้ธามกำลังดังมาก ทำไมธามถึงไม่ระวังตัว แล้วเรื่องที่เกิดขึ้นนี่ ช่วยบอกพี่ทีสิว่าเราควรจะแก้ปัญหายังไง”
. . เพราะผมคนเดียว ทำเอาคนวุ่นวายกันเรือนหมื่นเรือนแสน
“ผมไม่ทราบครับ” เป็นคำตอบที่โคตรจะไม่แมนเลย แต่ผมไม่รู้ว่าผมจะตอบยังไงจริงๆ
“ให้ตายเถอะ T_______T” พี่แอนทึ้งหัว “ใครก็ได้ดึงสายโทรศัพท์ออกที!!! หนวกหูจะตายชัก!!!”
เพราะเสียงโทรศัพท์ที่ดังไม่หยุด ทำให้พี่แอนสามารถประสาทเสียได้มากขึ้นเป็นทวีคูณ
“ผมขอโทษ”
“เอาเถอะๆๆ” พี่แอนยกมือปัด “มันก็ต้องมีพลาดกันบ้างแหละน่า . . หรือเราจะฉวยโอกาสนี้ ดันธามเยอะๆดี?”
“ผมเกรงว่ายิ่งดันก็จะยิ่งดับน่ะสิครับ” ดันดาราที่มีภาพหลุดจูบกับผู้ชายเนี่ยนะ . .
“คงไม่ขนาดนั้นหรอก” พี่แอนกัดฟัน โทมัสสูดน้ำมูกเสียงดังฟืดๆ “คนในรูปเป็นใครเหรอธาม”
“เอ่อ . .” ผมทำตัวไม่ถูก “พี่ชายคนนึงน่ะครับ”
“พี่ขอเบอร์เค้าหน่อยสิ”
“พี่แอนจะทำอะไร”
“มันเป็นการแก้ปัญหาอย่างเดียวที่พี่นึกออกตอนนี้”
“ไม่เอาครับ ผมจะแถลงข่าว ผมจะประกาศออกสื่อไปเลยว่าตัวจริงผมเป็นยังไง และผมจะลาออกจากวงการ”
“อย่าโง่ไปหน่อยเลย!!!!!” พี่แอนตวาด “นึกถึงคนอื่นๆในวงสิธาม ตอนนี้เค้ากำลังสนุกสนานกับงานมากขนาดไหน พี่รู้ธามเป็นคนยังไง ธามไม่มีวันทำให้คนอื่นพังด้วยอย่างแน่นอน”
“แล้วแผนของพี่แอนคืออะไรเหรอครับ”
“พลิกวิกฤติให้เป็นโอกาสน่ะสิ”
ผมไม่รู้ว่าพี่แอนจะทำอะไร แต่ถ้ามันสามารถแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น และไม่ทำให้คนอื่นพังไปด้วย ผมก็ยอม . .
ผมเหนื่อยกับสิ่งที่เกิดขึ้น นักข่าวข้างนอกนั่น แฟนคลับ คนในบริษัท คนในวง ทุกคนลำบากกันไปหมดก็เพราะผม . .
และถ้าปอนด์รู้เข้าล่ะก็ . .
ผมรู้ว่ามันจะต้องเข้าใจผม
ไอ้บูมกับไอ้คิกแย่งรีโมทของผมไปและไม่ยอมให้เปิดทีวีอีกเลย
ไม่รู้ว่าอะไรเข้าสิงพวกมันครับ หาโน่นหานี่มาให้ผมทำจนลืมทีวีไปเสียสนิท ถ้าเผื่อในทีวีมีรายการที่ธามอาจจะไปถ่ายทอดสดล่ะเห้ย? = = แต่พวกมันก็ไม่ยอมให้ผมเปิดมันอยู่ดี ผมจึงได้แต่ฟังพวกมันเถียงกัน อ่านการ์ตูน นั่งวาดรูปเล่นและก็ผล็อยหลับ
รู้สึกตัวอีกที . . ผมก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นแชมพูหอมๆ ผมที่โคตรจะนิ่มเกินธรรมชาติ ยุกๆยิกๆอยู่แถวๆลำคอ เตียงของโรงพยาบาลยุบลงฮวบ ใครบางคนปีนขึ้นมานอนกับผมบนเตียง หนำซ้ำยังแทรกเข้ามาในอ้อมกอดของผมอีกนะ
“อย่าเพิ่งพูดไรมาก กูเหนื่อย” กะจะทักท้วงเข้าไปแล้วเชียว แต่ถ้าทักไปแล้วธามมันออกจากอ้อมแขนของผมล่ะ . . นั่นยิ่งจะทำให้ผมขาดทุนไม่ใช่เหรอ ผมเงียบน่าจะดีกว่า
“หอมจัง” ไอ้ธามกลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่ผมชอบดมที่สุดในโลกไปแล้ว ผมสูดเอากลิ่นหอมบนเรือนผมของมันเข้าไปเต็มปอด
“อย่าขยับมากดิ เดี๋ยวจะสะเทือนแผลเอา”
“ยอมเลยอ่ะ” ก็ใครจะไปรู้ว่าคนที่หนีสัมผัสผมชิบหายจะวิ่งเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดของผมเองแบบนี้ “เป็นอะไร ทำงานมาเหนื่อยเหรอ”
“ประมาณนั้นอ่ะ”
“พักซะนะ” ผมกระซิบใส่ข้างหูธาม เบียดกันอยู่บนเตียงเล็กๆนี่ไม่สบายกายก็จริง แต่โคตรสบายใจ แม้มันจะเต้นแร้งเต้นกาจนเหมือนจะหลุดออกมาจากนอกอกก็เถอะ
“ถามไรหน่อยดิ”
“หืม?” มันมาแปลกหลายเรื่องแล้วนะเนี่ย
“มึงเชื่อใจกูป่าว”
เชื่อสิ . . สมองผมสั่งการให้ตอบโดยไม่ต้องคิดเพียงแต่ผมยังไม่ได้พูดออกไปเท่านั้น เรื่องราวต่างๆที่ผมเพิ่งจะผ่านพ้นมาทำให้ผมหยุดฉุกคิดอะไรบางอย่างก่อนที่ผมจะตอบ
“มึงรู้ป่าว ว่าก่อนที่กูจะเจอมึง กูเจ็บแค่ไหน กูผิดหวังแค่ไหน กูเศร้าแค่ไหน กูไม่สามารถผ่านมันมาได้ง่ายๆแน่ๆถ้ากูไม่มี . . มึง . .”
“. . กูไม่รู้ว่าความรู้สึกแบบนี้มันเกิดขึ้นมาเมื่อไหร่ แต่ตอนนี้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น กูก็พร้อมที่จะยอมรับ . .”
“. .ถ้ามึงทำให้กูเจ็บเหมือนที่กูเคยโดนมา กูยอม . .”
“. .ถ้ามึงทำให้กูผิดหวังกับเรื่องอะไรก็แล้วแต่ กูก็ยอม . .” “. . หรือถ้ามึงทำให้กูเศร้า ไม่ว่าจะยังไง กูก็จะตอบเหมือนเดิม ว่ากูยอม” ในความมืดผมจับใบหน้าของธามซบลงที่อกของผม ให้มันฟังเสียงหัวใจของผม “ไม่ต้องสงสัยอะไรแล้วล่ะเกี่ยวกับเรื่องนั้น”
ผมรู้สึกได้ . . ว่าชุดคนป่วยสีน้ำเงินของผมนั้นมันชุ่มน้ำบริเวณที่ที่หน้าธามซบอยู่
“ร้องไห้เลยเหรอ . . คนดี” ผมอดหัวเราะเบาๆไม่ได้ “ความจริงจากใจล้วนๆเลยนะ ให้เจ็บแค่ไหนก็ยอม ถ้าเป็นเพราะมึง กูยอมเจ็บ”
“ไร้สาระ” ธามพูด น้ำเสียงกลั้วสะอื้น
“หึหึ”
“ใครมันจะไปอยากทำให้คนที่ตัวเองรักต้องเจ็บด้วยล่ะ” “ฮะ??????????????!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”
“ไม่พูดซ้ำ”
“ขออีกที”
“ไม่ได้”
“ขอฟังอีกทีไม่ได้เหรอ ไม่ใช่ไม่ได้ยินนะ แต่อยากฟังอีก!!!!!”
“ไม่”
“กูปล้ำนะ”
“กูจะชกแผลมึง”
“ก็บอกแล้วไงว่ายอมเจ็บน่ะ”
“ไอ้ . . ซาดิสต์เอ๊ย”
“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ” ผมกอดธามอย่างแนบแน่น พร้อมกับเอาขาเกี่ยวเอาไว้ราวกับมันเป็นหมอนข้าง
“รักเหมือนกัน” “…”
“โอ้ย!!! ทุบมาได้ เจ็บนะ!!!” “ไหนบอกยอมเจ็บ??!!!” โวยวายแบบนี้ กำลังเขินอยู่แน่ๆ เปิดเทอม T_T