รักใสปิ๊ง > <
ตอนที่ 2 เพราะโลกกลมหรือพรหมลิขิตไทม์ขับรถมาส่งน้องนีออนถึงหน้าบ้าน บ้านของเด็กตัวเล็กเป็นเรือนไทยหลังใหญ่ทีเดียว อายุน่าจะเก่าแก่พอดู นีออนลงจากรถแล้วจะถอดหมวกนิรภัยออกแต่ก็แกะไม่ได้ ไทม์เห็นน้องงมอยู่นานเลยขยับเข้าไปช่วย น้องก็ดูจะให้ความร่วมมือดีเพราะเห็นยืนนิ่งทันทีที่เขาเข้าใกล้ หรือจะไม่ใช่?
“ทำไมเราต้องเกร็งขนาดนั้นล่ะนีออน กลัวพี่กัดเหรอ?”
ไทม์พูดติดตลกขณะปลดหมวกนิรภัยออกให้น้องตัวเล็กแล้ว พอโดนทักตัวเล็กก็ยิ่งเกร็งเข้าไปอีก ก่อนจะก้มหน้าบอกพี่ไทม์เสียงเบา
“ผมก็ไม่รู้ มันเป็นไปเอง”
ไทม์ยิ้มกับท่าทางนั้นของน้อง ก่อนจะถามกลับไปอีกครั้ง “กลัวพี่?”
“ไม่ใช่” นีออนยังปฏิเสธ แต่ก็ไม่ได้อธิบายต่อว่าเป็นเพราะอะไร
“ถ้าอย่างนั้น…”
“กลับมาแล้วเหรอนีออน แม่ว่าอยู่ว่าได้ยินเสียงรถ”
ก่อนที่ไทม์จะได้ถามอะไรอีก คุณแม่ของเด็กตัวเล็กก็ก้าวลงบันไดบ้านมา ไทม์ยกมือไหว้คุณแม่น้อง ท่านรับไหว้แล้วจึงถาม
“ใครกันล่ะนี่?”
พอแม่เอ่ยถามนีออนจึงได้แนะนำพี่ไทม์ให้แม่รู้จัก “รุ่นพี่ที่โรงเรียนครับแม่ ชื่อพี่ไทม์”
ไทม์ไหว้ท่านอีกครั้งเมื่อน้องตัวเล็กแนะนำ
“อ๋อ แล้วนี่ไปยังไงมายังไงถึงได้มาส่งเจ้าตัวป่วนได้ล่ะ” คุณแม่ถามไถ่กึ่งกระเซ้าหยอกลูกชาย
“พี่เขามีน้ำใจไงแม่” คนนี้ก็ตอบแทนพี่ไทม์ตลอด คนที่ถูกถามตัวจริงเลยได้แต่ยิ้มขำ
“แม่ถามเราหรือไง ฮึ?”
“แม่อ่ะ” นีออนทำเสียงออด กอดเอวแม่อ้อนๆ คุณแม่จึงพยักพเยิดกับพี่ไทม์ให้ดูเด็กที่ทำเป็นอ้อน ไทม์ก็มองน้องตัวเล็กยิ้มๆเช่นเคย ช่างไร้บทพูดจังนะคนนี้
“ออน กลับมาแล้วเหรอ กลับช้าจัง อุ้มกลับมาก่อนตั้งนาน”
เสียงเด็กผู้ชายอีกคนดังมาจากบนบ้านตั้งแต่ตัวยังไม่พ้นมุมบันไดด้วยซ้ำ เด็กชายตัวอวบหน้าตาละม้ายคล้ายนีออนอยู่มาก ทำให้ไทม์มองหน้าน้องนีออนสลับกับเด็กที่เพิ่งเดินเข้ามางงๆ
“นี่อุ้มรัก น้องชายฝาแฝดของผมครับ”
เด็กชายอุ้มรักสวัสดีรุ่นพี่หน้าหล่อเมื่อนีออนแนะนำให้พี่คนนั้นรู้จักตนเอง ก่อนจะกระซิบกับนีออนเบาๆ
“ใครอ่ะ?”
“รุ่นพี่ที่โรงเรียน” นีออนก็กระซิบบอกแฝดผู้น้องเบาๆกันอยู่สองคน
“แค่นั้นเหรอ?”
นีออนเขม้นมองเมื่ออุ้มรักถามคำถามแปลกๆ “แล้วจะให้แค่ไหนล่ะ?”
“เปล่า ก็เห็นมาส่งถึงบ้าน”
เด็กตัวอวบแก้ตัวเบาๆ และหลังจากที่ได้แนะนำตัวกันไปแล้ว คุณแม่ของนีออนน้อยก็ชวนไทม์ขึ้นบ้านไปดื่มน้ำดื่มท่ากันก่อนกลับ ไทม์เองก็ไม่ได้ปฏิเสธคำชวนนั้น ท่าทางคงจะลืมไปแล้วสิว่า เพื่อนน้ำ หนุ่มสุดฮอตเขากำลังรออยู่
‘ไอ้ไทม์ มึงทิ้งกู!!!!’
เสียงคร่ำครวญจากหนุ่มน้ำสุดหล่อผู้อาภัพรัก
----------------
โรงเรียนมัธยมประจำจังหวัดแห่งเดิม ที่ที่นีออนเรียนอยู่ วันนี้ยังคงดำเนินไปอย่างเป็นปรกติเช่นทุกที เมื่อใกล้คาบสุดท้ายของช่วงเช้า นีออนก็ยังคงมานั่งอยู่ริมหน้าต่างที่เดิมเช่นทุกวัน และ พี่ไทม์ก็ยังคงเดินผ่านจุดนี้เช่นทุกวันเหมือนกัน แต่ที่ต่างออกไปคงเป็นการที่พี่เขาเงยหน้ามายิ้มและโบกมือให้นี่ล่ะ
นีออนก็ยังคงมองรอบตัวอยู่เหมือนเดิมกลัวว่าหากเข้าใจว่าพี่ไทม์ทักทายตนเองก็จะหน้าแตกเอาได้เกิดมันไม่ใช่ขึ้นมา ไทม์เห็นว่าน้องตัวเล็กมองรอบๆตัวก็เลยชี้นิ้วให้น้องหยุดมอง แล้วชี้ย้ำๆตรงที่นีออนนั่งอยู่ว่ามองคนนี้ไม่ใช่คนอื่น เด็กตัวเล็กกะพริบตาปริบ ก่อนนิ้วเรียวจะชี้ที่ตนเองเป็นการถามพี่ไทม์ว่าทักเขาหรือ?
ไทม์พยักหน้าตอบมานีออนน้อยจึงได้ยิ้มตอบพี่ไป ไทม์โบกมือให้น้องอีกครั้งก่อนจะเดินเข้าอาคารเรียน รอยยิ้มเล็กๆยังติดบนริมฝีปากของตัวเล็ก แต่มันก็ต้องหุบลงเมื่อเพื่อนพี่ไทม์เดินเข้ามาอยู่ในระดับสายตา นีออนแลบลิ้นใส่ก่อนลุกเดินออกไปจากโต๊ะข้างหน้าต่าง
น้ำที่เงยหน้ามองน้องนีออนจากด้านล่าง ถึงกับออกอาการเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน เจ็บใจจริงจังที่โดนเด็กปีนเกลียวอีกแล้ววว
----------------
เช้าวันเสาร์
บ้านเรือนไทยหลังใหญ่ รอบๆบริเวณบ้านปลูกไม้ผลไม้ยืนต้นเรียงราย พื้นที่ว่างก็ปลูกไม้ดอกประดับประดาสวยงาม ตรงริมรั้วไม้ระแนงยังปลูกผักสวนครัวไว้ใช้ยามจำเป็นอีกด้วย บรรยากาศภายในบริเวณบ้านดูร่มรื่นเย็นสบาย ด้านหลังรั้วบ้านติดกับคูคลองท้องร่อง ที่อีกฝั่งเป็นสวนผลไม้เล็กๆของครอบครัว
บนยกพื้นของตัวเรือน เด็กชายตัวเล็กกำลังนอนอ่านการ์ตูนอยู่บนเสื่ออย่างสบายอารมณ์ โดยข้างกันนั้นมีเด็กผู้ชายหน้าตาคล้ายกันมากกำลังนั่งทานขนมขบเคี้ยวดูโทรทัศน์ช่องการ์ตูนอยู่ ทั้งคู่คงมีจุดที่ต่างกันตรงดวงตา และที่เห็นเด่นชัดคงเป็นรูปร่าง ที่คนหนึ่งผอมบาง ส่วนอีกคนออกตุ้ยนุ้ยแก้มป่องน่าหยิก
“อุ้ม เบาเสียงทีวีหน่อย ออนอ่านการ์ตูนไม่รู้เรื่อง”
นีออน หรือเด็กชายออมรัก ที่นอนอ่านหนังสือการ์ตูนเอ่ยบอกอีกคนที่ก็กำลังเปิดการ์ตูนดูอยู่เช่นกัน ก็ไม่รู้ว่าทำไมไม่เลือกที่จะดูด้วยกันไปเสีย มันก็การ์ตูนเหมือนๆกันนั่นล่ะ
“แล้วออนจะมาอ่านการ์ตูนตรงนี้ทำไม อุ้มกำลังดูทีวี”
อีกคนที่หน้าตาถอดพิมพ์เดียวกันเอ่ยแย้ง กอดอกหน้างอที่พี่ชายฝาแฝดมากวนใจเวลาแห่งความสุข น้องอุ้ม หรือเด็กชายอุ้มรัก เด็กผู้ชายที่เป็นฝาแฝดกับนีออนน้อย หน้าตาของทั้งคู่ดูคล้าย แต่ไม่ถึงกับเหมือนกันทั้งหมด เพราะอุ้มรักตาโตกว่า ในขณะที่นีออนตาชั้นเดียว ไม่ถึงกับตี่จนหยิบหยี แต่ก็ไม่โตเท่าคนน้อง และอุ้มยังมีตัวที่อวบอ้วนกว่าแฝดผู้พี่ ถ้าไม่นับรูปร่างก็คงมีจุดสังเกตแค่ดวงตาที่ไม่เหมือนกัน
“ก็ตรงนี้มันมีที่นอนนี่นา ถ้าไม่อยากให้ออนกวนอุ้มก็ย้ายไปนั่งที่อื่นเลยไป” นีออนสะบัดมือไล่แฝดคนน้อง
“เอ๊ะ! อุ้มมาก่อนนะ อยู่ดีๆมาไล่อุ้มได้ไง”
พอสองคนนี้เริ่มจะเถียงกันจากเรื่องเล็กๆก็จะลุกลามไปอีกหลายๆเรื่องที่ไร้สาระมากๆ คุณแม่จึงต้องเข้ามาห้ามเด็กแฝดทั้งสองหน่อ
“พอๆๆ สองคนนี้มันยังไงกัน ฮึ เป็นแฝดกันเสียเปล่าทำไมความคิดมันไม่ลงรอยกันสักที”
“ก็อุ้มอ่ะเปิดทีวีเสียงดัง” นีออนรีบฟ้องก่อน
“ออนไล่อุ้มอ่ะแม่” อุ้มรักก็ไม่ยอมเหมือนกัน
“หยุด หยุดเลย ถ้ายังไม่หยุดเถียงกันนะ วันหยุดแม่จะให้ไปช่วยงานร้านลุงไทย”
“ไม่เอานะ!!”
นีออนกับน้องอุ้มรีบปฏิเสธทันที ให้ไปช่วยงานร้านลุงไทย ฆ่าเราให้ตายเสียดีกว่าาา
“อาทิตย์หน้าไปเลยดีกว่า”
“แม่!!!!”
ฝาแฝดตัวป่วนร้องพร้อมกันราวนัดไว้ คุณแม่ทำหูทวนลมไม่สนใจเสียงลูกนกตาดำๆทั้งสอง เดินฮัมเพลงอารมณ์ดีจากไปเมื่อตัดสินใจได้แล้วว่าจะให้สองฝาแฝดเขาไปช่วยงานลุงไทย ซึ่งก็คือพี่ชายของตนเอง
เด็กชายทั้งสองมองหน้ากันแล้วเบ้หน้าทำท่าขนลุกขึ้นมาอย่างพร้อมเพรียง พวกเขาไม่อยากไป ลุงไทยน่ากลัวอ่า~
---------------------
น้องอุ้มตัวอวบนั่งห้อยขา เอนกายไปด้านหลังแล้วเท้าแขนอยู่บนเตียงนอน สองฝาแฝดเขานอนห้องเดียวกันมาตั้งแต่จำความได้แล้ว ห้องในบ้านมีไม่มากก็แบ่งๆกันไปกับพี่ชายและพี่สาว อุ้มรักมองดูพี่ชายฝาแฝดเดินวนไปวนมาคิดหาทางออกกับสถานการณ์นี้อย่างหนักใจ ต้องเป็นความลับด้วยเดี๋ยวแม่จับได้จะเพิ่มโทษให้ไม่รู้ตัว
“ออน ออนว่าเราจะทำยังไงดีอ่ะ จะได้ไม่ต้องไปช่วยงานร้านลุงไทย อุ้มนะไม่อยากไปเลย อุ้มไม่ชอบพนักงานเสิร์ฟร้านลุงไทย ชอบมาวุ่นวายกับอุ้ม”
“ฟ้องแม่ดิ” คนเป็นพี่เสนอทางออกอย่างเร็วไว
“เฮ้ย! ไม่ได้ แม่ไม่เชื่อเราหรอก ต้องคิดว่าเราปั้นน้ำเป็นตัวมาหลอกแม่เพราะเราไม่อยากไปร้านลุงไทยแน่ๆ”
นีออนพยักหน้าหงึกหงักคิดตาม มันก็จริงนะ คำพูดของเด็กหรือจะน่าเชื่อถือเท่าคำพูดผู้ใหญ่
“แล้วเอาไงดี”
สองแฝดกอดอกจับคางทำท่าคิด หัวคิ้วขมวดปมจนแทบจะผูกกันแล้ว ก่อนที่อุ้มรักจะโพล่งขึ้นมาเมื่อนึกได้
“เออ เราบอกให้พี่ไอไปคุยกับแม่ให้ไหม?” อุ้มถามความเห็นนีออนน้อยด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
“พี่ไอเนี่ยนะ?”
นีออนถาม ไอ หรือไอรัก พี่ชายคนโตของนีออนและอุ้ม อุ้มรักก็พยักหน้ารับคำถามนีออน อีกฝ่ายเลยถามกลับมาอีก
“ขอถาม ในบ้านนี้ใครใหญ่สุด”
“แม่…” อุ้มรักนิ่งไปก่อนจะอ้อมแอ้มบอก
“เห็นมะ แล้วพี่ไอจะช่วยอะไรเราได้”
เด็กชายทั้งสองถอนหายใจเฮือกใหญ่ จะมีใครช่วยพวกเขาได้บ้างเนี่ย คิดไปคิดมาก็เครียด เครียดแล้วอุ้มก็เริ่มหิว เลยลุกออกไปจากห้องนอนเพื่อหาอะไรมารองท้องสักหน่อย ปล่อยให้นีออนคิดหาทางต่อไป
“โอ๊ย คิดไม่ออกอ่ะ”
สุดท้ายตัวเล็กก็จนปัญญากับปัญหานี้ ได้แต่ยอมรับชะตากรรม จะต่อกรกับแม่บังเกิดเกล้า เร็วไปร้อยปีแล้วนีออนเอ๋ย
----------------
สัปดาห์ต่อมาคุณแม่ก็พาแฝดป่วนทั้งสองมาหาลุงไทย ร้านลุงไทยก็เปิดขายอาหารไทยตามชื่อแกนั่นล่ะ เช่าด้านล่างของตึกแถวเปิดร้านขายมาหลายปี จนตอนนี้ขยายร้านออกไปถึงสามห้อง แต่คงไม่ขยายไปมากกว่านี้เพราะถือว่าตอนนี้อยู่ตัวแล้ว ภรรยาลุงไทยชื่อป้าน้อย น่ารักใจดีดั่งนางฟ้า แต่ลุงไทยนี่สิ จะหน้าโหดไปไหนคร้าบบบ แฝดกลัว
“มาช่วยงานก็ดี เจ้าแฝดนี่มันจะได้มีอะไรทำบ้าง”
คุณลุงไทยวางมาดโหดใส่หลานชายทั้งสอง พวกนี้นี่กลัวอะไรนักไม่รู้ คนมันหน้าตาแบบนี้จะให้ทำอย่างไรได้ แต่ก็ดีที่หน้าตาแบบนี้ใช้ข่มขู่เวลาสองแฝดเขาดื้อได้ชะงัดนัก
หลังจากฝากฝังกันเป็นที่เรียบร้อย คุณแม่ก็อยู่คุยกับลุงไทยและภรรยาต่อไป ขณะที่นีออนและอุ้ม สองแฝดจอมป่วนปลีกตัวออกมาเดินเล่นหน้าร้านอาหารของลุง อุ้มรู้สึกหิวน้ำจึงแวะเข้าไปในร้าน พอเดินเข้าไปจะหาน้ำดื่มสักหน่อยกลับไปจ๊ะเอ๋กับพี่ผู้ชายผิวแทนที่กำลังจะเดินออกมาพอดี อุ้มชะงักเมื่อเกือบชนกับพี่เขา
“เฮ้ย! น้องบังอร มาทำอะไรแถวนี้เนี่ย ว่าแต่... ไม่เจอกันวันเดียว เปลี่ยนไปเยอะนะเรา”
“หา?”
อุ้มรักถึงกับมึน อะไรอ่ะ อุ้มงง????? เราเคยรู้จักกันด้วยหรือ แล้วเขาไม่ได้ชื่อบังอรนะ เขาชื่ออุ้มรักต่างหากล่ะ
“เอ๊า ทำไมทำหน้าเหมือนหมางงแบบนี้ล่ะตัวแสบ”
เง้อออ ท่าทางเหมือนรู้จักกันดีด้วยอ่า หรือพี่เขาจะทักคนผิด แล้วอุ้มจะทำไงดีล่ะ เดี๋ยวพี่เขาจะโกรธหรือเปล่าถ้าทำให้พี่เขาหน้าแตกอ่ะ
“คือ... เรารู้จักกันเหรอครับ”
อุ้มน้อยพยายามใช้น้ำเสียงเกรงอกเกรงใจเป็นอย่างมาก อย่าโกรธอุ้มนะ><
พี่ผู้ชายคนนั้นทำหน้าเหมือนจะช็อคกับการถามคำถามเบาๆของอุ้ม ก่อนจะหรี่ตามอง แล้วถามกลับมา
“ว่าไงนะ ขอใหม่อีกที”
“อ่า…” ขอใหม่อุ้มก็พูดไม่ออกแล้วล่ะครับ พี่อย่ามองอุ้มแบบนั้นสิ อุ้มไม่รู้จักพี่จริงๆนะ
“อุ้ม!”
เสียงเรียกชื่ออุ้มดังมาทำให้เจ้าของชื่อใจชื้นขึ้นเป็นกอง เมื่อรู้ว่านีออนกำลังมา พี่ผิวแทนหันไปมองที่มาของเสียง ก่อนจะเบิกตาโต
“เฮ้ย! น้องบังอร!!”
นีออนเมื่อเห็นว่าน้องชายฝาแฝดยืนอยู่กับพี่น้ำปากเสียจึงรีบเอาตัวบางๆของตนเองไปบังน้องอุ้มเอาไว้ หลังจากวันที่ปะทะคารมกันนั้นพี่น้ำก็ชอบเรียกเขาว่าบังอรอยู่เรื่อย แล้วยังบังเอิญเจอกันบ่อยๆอีก แม้แต่พี่ไทม์เองนีออนก็ยังได้เจอแทบทุกวันนอกจากที่ริมหน้าต่างแล้ว โลกมันกลมดีจริงๆนะนี่
“จะทำอะไรน้องผมน่ะ”
“เฮ้ย ถามแบบนี้หาเรื่องกันเหรอฮ๊ะ!”
น้ำเท้าสะเอว ตั้งท่าหาเรื่องเจ้าเด็กแสบ นีออนกลับไม่รับลูก เปลี่ยนไปถามคำถามใหม่เมื่อนึกขึ้นมาได้
“พี่ทำงานที่ร้านนี้เหรอ?” ที่ต้องถามไปแบบนั้นเพราะการแต่งตัวของพี่เขา นี่มันชุดพนักงานเสิร์ฟร้านลุงไทย
“เปลี่ยนอารมณ์ไวนะ เออ ทำอยู่ที่นี่แหละ เสาร์อาทิตย์ว่างๆน่ะ”
นีออนพยักหน้ารับรู้ น้ำมองเด็กแสบกับเด็กอีกคนที่ยืนอยู่ด้านหลัง หน้าตาคล้ายกันน่าจะเป็นพี่น้องของเด็กนี่ล่ะมั้งนะ
“แล้วเรามาทำอะไรที่นี่ล่ะ จะมาทานข้าวเหรอ เชิญด้านในเลยไหม?”
“ทำไมไม่เชิญตอนผมจะกลับเลยล่ะครับ” นีออนถามเสียงนิ่ง ก็อยากกวนอ่ะ ใครจะทำไม
“โอ้~ มีประชดประชัน”
น้ำเขกกะโหลกเด็กแสบ อุ้มตกใจนิดๆกับการหยอกล้อกันแรงๆของนีออนกับพี่คนนี้ นีออนน้อยที่ถูกเขกหัวก็ร้องดังเสียจนเกินจริง
“โอ๊ยยย ผู้ใหญ่ชอบใช้ความรุนแรง!”
มองคนทำตาเขียวขุ่น หนุ่มน้ำที่หมั่นไส้เด็กแสบเมื่อครู่ ตอนนี้กลับอยากหัวเราะ ตัวเล็กแต่ใจใหญ่หรือไง ดูทำท่าเข้า ไม่กลัวเขาเลยสินะ
“ตกลงว่าไง จะมาทานข้าวหรือแค่ผ่านมา?”
“เราจะมาทำงานที่นี่ครับ”
อุ้มรักที่มองสถานการณ์เงียบๆมานานยิ้มบอก เพราะนีออนไม่มีทางพูดแน่ ดูจากสีหน้าที่เริ่มงอง้ำแล้วคงจะระเบิดลงอีกไม่นานนี้ล่ะ น้ำมองน้องของเด็กแสบแล้วก็ยิ้มตอบ แหมะ แก้มป่องได้อีกนะน้องนะ น่าฟัดจริงๆ เด็กคนนี้ หวังว่าคงไม่แสบเหมือนแฝดตัวพี่นี่นะ
‘แย่ชะมัดที่มาเจอพี่น้ำที่นี่ แล้วแบบนี้ถ้าเขากับน้องมาทำงานที่ร้านก็ต้องเจอพี่น้ำทุกสัปดาห์เลยสิ เซ็งจัง’
ตัวเล็กแอบบ่นในใจ แต่ที่น่าจะแย่ยิ่งกว่าก็คงเป็นเพราะคนที่กำลังเดินออกจากร้านมาตรงนี้นั่นต่างหาก ผู้ชายตัวสูง หน้าตาหล่อเหลา ผูกผ้ากันเปื้อนครึ่งเอว อ๋าา ทำไมถึงเท่แบบนี้อ่า นีออนแอบเพ้อเบาๆเมื่อเห็นคนนั้น
‘เฮ้ย! ไม่ใช่สิ ทำไมพี่ไทม์ถึงมาอยู่ที่ร้านนี้ได้ล่ะ?’
เรียกสติตัวเองกลับมาเร็วไวเมื่อพี่ไทม์เดินมาใกล้แล้ว ไทม์เลิกคิ้วแปลกใจที่เห็นนีออนน้อยที่นี่ เขาก็ไม่ค่อยเข้าใจนักหรอกว่า ทำไมเวลาน้องเจอเขาถึงได้ต้องทำหน้าตาตื่นอยู่ตลอด
“สวัสดีครับน้องนีออน น้องอุ้ม”
อุ้มรักยิ้มทักทายพี่ไทม์ แต่นีออนกลับอยากหันหน้าหนีมากกว่า ใจเอ๋ยใจ อย่าเต้นดังนักนะ เดี๋ยวพี่ไทม์ได้ยิน
“ผมเพิ่งนึกได้ว่ามีธุระ ขอตัวนะครับ”
ตัวเล็กบอกรัวเร็ว ก่อนจะจับมืออุ้มรักดึงออกเดินไปจากหน้าร้าน แต่ก็ต้องชะงักกึก เมื่อน้ำเสียงกวนๆของรุ่นพี่ผิวเข้มเอ่ยดักขึ้นมาก่อน
“เด็กนี่จะมาสมัครงานที่ร้านนี้น่ะ ใช่ไหม?”
นีออนหันมามองคนพูดช้าๆ ถลึงตาใส่คนพูดที่กอดอกยักคิ้วกวนๆมาให้ ก่อนจะหันไปมองพี่ไทม์ที่ยังยิ้มใจดีอยู่เช่นเคย
“น้องนีออนอยากทำงานที่ร้านนี้หรือครับ?”
“คือ ออน…”
“ใช่ครับ”
ก่อนที่คนอ้ำอึ้งจะได้คิดหาคำตอบอะไรออกไป อุ้มรักก็ตอบรับกลับไปเสียก่อน นีออนหันมาเรียกน้องชายฝาแฝดเสียงหนัก
“อุ้ม!”
“ทำไมล่ะ ก็เรามาที่นี่เพราะเราจะมาทำงานกันไม่ใช่เหรอ ออน?”
น้องอุ้มเอียงคอมองแฝดผู้พี่งงๆ ก็แม่บอกว่าจะให้มาทำงานที่ร้านลุงไทยอาทิตย์หน้า อุ้มก็พูดความจริง แล้วมันผิดตรงไหนเนี่ย นีออนมองหน้าอุ้มรักแล้วก็อยากกัดลิ้นตัวเองตาย อย่ามาทำใสซื่อบ้องแบ๊วนะอุ้มรัก
‘ช่างไม่เข้าใจหัวอกของนีออนเลยแม้แต่น้อย ดูหน่อยสิว่าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้านั่นคือใคร หรือสนใจแค่อาหารของร้านนี้จนไม่สนใจอย่างอื่นแล้ว จะฆ่าออนให้ตายใช่ไหมอุ้มรักกกกก’
TBC• ผ่านไปอีกหนึ่งตอนกับการทำความรู้จักน้องอุ้มรักอีกหนึ่งคน
• ขอบคุณทุกท่านนะคะที่ให้การต้อนรับน้องนีออนอย่างอบอุ่น
• เป็นครั้งแรกเลยที่คอมเม้นต์ตอนแรกพุ่งไปที่ 20 คอมเม้นต์ อั๊ยยะ 
• เราจะค่อยๆเป็นค่อยๆไปกันนะคะทุกท่าน 