รักใสปิ๊ง
ตอนที่ (7) เริ่มรุก!!
นีออนถูกเพื่อนล็อคคอลงมาจากตึกเรียนมัธยมปลาย อย่าเรียกว่ากอดเลย เรียกว่าล็อคดีกว่า ก็เล่นรัดแน่นเสียขนาดนี้จะหายใจไม่ออกแล้วนะ!
“ปล่อยได้แล้วเซียน เราหายใจไม่ออก!”
นีออนประท้วงเพื่อน แกะแขนเพื่อนออก เซียน เพื่อนนีออน เด็กผู้ชายตัวโตกว่านีออน แต่ไม่สูงเท่าพี่ไทม์ เพอร์เฟคแมน หน้าตาจัดได้ว่าดูดีในระดับหนึ่ง แม้จะไม่ใช่หนุ่มฮอตอะไร แต่ก็ทำให้สาวๆสนใจได้มากพอดู ท่าทางเป็นเด็กที่ดื้อรั้นไม่ฟังใคร ยิ่งตอนนี้ทำหน้าตาบึ้งตึงยิ่งดูเป็นเด็กเอาแต่ใจเข้าไปอีก นีออนตัวเล็กเลยกอดอกหน้าบึ้งตามเพื่อนแล้วถาม
“เป็นอะไร?”
เซียนปรายตามองแล้วไม่ตอบ กิริยานั้นกระตุ้นต่อมโมโหของตัวเล็กได้ดีมาก ไม่พูดก็อย่าพูด อยู่ดีๆมางอนเขาเรื่องอะไรก็ไม่รู้แบบนี้ไม่ง้อหรอกนะ เขายังไม่ทันจะได้ทำอะไรผิดสักอย่าง แค่ชวนมาตึกม.ปลายเป็นเพื่อนแค่นี้เอง บ้าจริง
นีออนจ้องเพื่อนที่ทำเมินเขม็ง ก่อนจะสะบัดหน้าเดินปึงปังออกไป เซียนรีบหันขวับมามองคนที่เดินหนีไปแล้วทันที จะไม่ง้อกันเลยสินะ เด็กชายตัวโตรีบเดินตามเพื่อนตัวเล็ก ตกลงใครงอนใครวะเนี่ย!?
ในห้องม.5/6 หลังจากที่ไทม์เอ่ยชวนน้องให้กลับบ้านด้วยกันไป นีออนก็ตอบตกลงกลับมา เป็นเรื่องน่ายินดี แต่มันจะไม่ดีเพราะเพื่อนที่มาด้วยนี่ล่ะที่รีบดึงนีออนน้อยจากไป ไทม์เข้าห้องเรียนเอาของที่นีออนให้มาเก็บไว้ในโต๊ะ เตรียมตัวจะไปเรียนวิชาถัดไปที่อีกตึกหนึ่ง น้ำที่นั่งอยู่ด้านหลังชะโงกหน้ามากระซิบกระซาบกวนอารมณ์
“ท่าทางจะมีคู่แข่งแล้วว่ะเพื่อน”
ยังมีหน้ามาหัวเราะให้เขาอีก ไทม์วาดแขนไปด้านหลัง รัดคอเพื่อนน้ำให้ยืดตัวมาใกล้ๆ น้ำรีบใช้มือค้ำโต๊ะของไทม์ไว้ทันที เกือบหัวทิ่มแล้ว
“หน้ากูเกือบทิ่มแล้วเมื่อกี้อ่ะ มึงกลัวกูหล่อกว่าใช่ไหมถึงได้จะประทุษร้ายกู เพื่อนเลว”
น้ำทำโวยเพื่อน ไทม์เลยรัดคอแน่นขึ้นอีก เพื่อนน้ำดิ้นขลุกขลักทำท่าจะขาดอากาศหายใจ อยากให้สาวน้อยทั้งหลายมาเห็นพี่น้ำสุดฮอตในตอนนี้จริงๆ ทำไมเพื่อนเขามันไร้สาระขนาดนี้นะ
“น้ำ มึงต้องช่วยกู” ไทม์บอกกับเพื่อนน้ำเสียงจริงจัง น้ำหยุดเล่นแล้วถามเพื่อนไทม์กลับมาสั้นๆ
“คำสั่งหรือคำขอร้อง?”
“ขอร้องแกมสั่ง”
ไทม์ตอบกลับกวนพอกัน น้ำทำท่าคิดก่อนจะบอกเมื่อตัดสินใจได้แล้ว
“งั้นกูขอสั่งมึงก่อนเลย ปล่อยคอกูได้แล้ว มึงจะรักอะไรกูนักหนาวะ กอดอยู่ได้”
ไทม์คลายแขนที่รัดคอเพื่อนไว้ออก พอคอเป็นอิสระแล้วน้ำก็จับๆลูบๆราวหาร่องรอยความเสียหาย ขยับไปนั่งที่เก้าอี้ของตนเอง งานนี้ทั้งเขาและไทม์ท่าจะมีศึกหนัก ตัวน้ำเองไม่ได้อยู่ใกล้ชิดอุ้มรักเท่ากับเพื่อนที่ชื่อแสตมป์คนนั้นที่เจอกันที่โรงเรียนทุกวัน ส่วนน้ำแค่สองวันหยุดสุดสัปดาห์ น้อยไปไหม?
เพราะฉะนั้นแล้วน้ำจึงต้องวางแผนให้รัดกุมสักเล็กน้อย แผนที่จะไม่ทำให้น้องอุ้มรู้ตัวแตกตื่นไปก่อนว่าตนเองกำลังสร้างความสัมพันธ์แบบไหนกับน้อง ที่สำคัญต้องสำรองแผนเอาไว้สกัดคู่แข่งที่เข้ามาด้วย ไม่ได้อยู่ด้วยจึงไม่รู้ว่ามีใครบ้างที่เข้ามาวุ่นวายกับน้องอุ้มของเขา แต่การสร้างความมั่นใจให้น้อง คอยเป็นที่ปรึกษาให้ ทำให้น้องวางใจที่จะพูดเรื่องส่วนตัวมากขึ้น ง่ายต่อการต่อกรกับคนที่มองไม่เห็นนักแล
ส่วนของไทม์นี่ดีกว่าเขาเสียอีก ได้ใกล้ชิดนีออนทั้งเจ็ดวันต่อสัปดาห์เลย เมื่อไหร่อุ้มรักจะเรียนจบมัธยมต้นสักที พี่จะรอไม่ไหวแล้วนะ
ไทม์มองเพื่อนที่เริ่มเพ้อแล้วส่ายหน้า อย่าอะไรเลย คนอื่นเห็นน้ำมั่นใจในตัวเอง ออกกวนๆสักหน่อย แต่ที่เห็นตอนนี้ต่างหากที่เป็นตัวจริง ไทม์เองก็เริ่มจะคิดหนักเรื่องนีออน ตัวเขาไม่อยากจะชี้นำน้องนีออนมากนักเพราะน้องยังเด็กเกินไปกับเรื่องแบบนี้ แต่ถ้าไม่ทำอะไรเลยเพื่อนน้องคนนั้นต้องคาบไปรับประทานแน่ แค่มองตาก็รู้ว่าคิดอะไรกับนีออน แต่ก่อนอื่นเขาจำเป็นต้องทำให้น้องหายเกร็งเวลาอยู่ใกล้เขาก่อน ท่าจะยากแล้วนะแบบนี้
หลังเลิกเรียนไทม์ไปรอน้องหน้าห้องเรียนเช่นวันก่อน ไม่ได้สนใจว่าตนเองจะเป็นจุดสนใจแต่อย่างใด รุ่นน้องนักเรียนหญิงที่เดินผ่านไปมาเมียงมองแล้วซุบซิบกันยิ้มๆ บางทีไทม์หันไปเห็นก็ยิ้มให้รุ่นน้องแอบกรี๊ดเล่น
รออยู่ไม่นานนีออนก็สะพายกระเป๋าออกมาจากห้อง ไทม์ยิ้มทักน้องที่หยุดชะงักอยู่หน้าประตู คงไม่คิดว่าเขาจะมารอล่ะมั้ง เพื่อนของนีออนที่ไทม์เจอเมื่อกลางวันเดินตามนีออนออกมา มองมาที่ไทม์ด้วยสีหน้าและแววตาที่นิ่งกว่าเมื่อกลางวันนี้ เห็นพูดอะไรสักอย่างกับนีออนแล้วก็เดินออกมาก่อน เพื่อนนีออนเดินผ่านจุดที่ไทม์ยืนอยู่ เด็กคนนั้นชะลอฝีเท้าเมื่อมาใกล้ พูดกับไทม์เสียงเบาจงใจให้ได้ยินกันแค่สองคน
“ของๆผม พี่อย่าคิดว่าจะแย่งไปได้ง่ายๆ”
พูดจบเด็กคนนั้นก็เดินผ่านไทม์ไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไทม์ยกยิ้มมุมปากกับคำท้าทายนั้น ของๆน้อง ยังไงก็ต้องเป็นของน้องอยู่แล้วล่ะครับ เว้นเสียแต่ว่า ... มันจะไม่ใช่ของน้องน่ะนะ หึ
นีออนก้าวมาหาพี่ไทม์ช้าๆ อดไม่ได้ที่จะเหลือบมองรอบกายที่มีสายตาหลายคู่มองมาที่ตนเองและพี่ ไทม์ให้น้องเดินนำไปก่อนแล้วตนเองค่อยก้าวตาม ด้วยช่วงขาที่ยาวกว่าจึงต้องเดินให้ช้าลงอีก แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ไทม์หงุดหงิดที่ต้องใช้เวลาในการเดินมากกว่าปรกติ เพราะตอนนี้เขาไม่รีบ ไม่รีบเลยสักนิด
เมื่อออกมาหน้าโรงเรียน ไทม์ให้น้องรออยู่ตรงศาลารอรถ ส่วนตนเองจะกลับไปเอารถที่บ้าน บ้านไทม์อยู่ไม่ไกลจากโรงเรียนทำให้เด็กหนุ่มใช้วิธีเดินมาโรงเรียนแทนการขับรถที่จะทำให้สิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ นีออนน้อยขอตามพี่ไปที่บ้านด้วยเหตุผลที่ว่าพี่ไทม์จะได้ไม่ต้องวนรถไปมา ไทม์ก็ไม่ได้ขัดศรัทธาแต่อย่างใด ดีเสียอีกได้อยู่ใกล้น้องอีกนิด รู้สึกว่าอะไรๆก็เป็นใจให้เขาไปเสียหมดเลยนะวันนี้
ไทม์พาน้องมาที่บ้านเพื่อเอาของมาเก็บและจะเอารถไปส่งน้อง ขณะที่เดินมาด้วยกันนีออนก็ยังคงรักษาระยะห่างจากเขาอย่างรู้สึกได้ พอไทม์แกล้งเดินเฉเข้าไปใกล้ เด็กตัวเล็กก็ขยับห่างไปสองก้าวทุกที เฮ้อ ตกลงน้องเกร็งหรือกลัวกันล่ะนี่
พอมาถึงบ้านทิมน้องชายไทม์ก็กำลังเตรียมจะเอารถมอเตอร์ไซค์อีกคันออกไปข้างนอก มีเด็กผู้ชายอีกคนยืนรอขึ้นรถอยู่ข้างๆ ไทม์จึงเดินเข้าไปทัก
“จะไปไหนกันน่ะทิม?”
ทิมมองหน้านีออนที่เดินมากับพี่ชายตนเองนิดหน่อย ก่อนจะพยักพเยิดให้เด็กผู้ชายอีกคนที่ยืนอยู่ข้างๆเป็นคนตอบคำถามพี่ชาย ขณะที่ตนเองขึ้นคร่อมรถแล้วจัดการใส่หมวกนิรภัย ก่อนจะส่งอีกใบที่เป็นลายน่ารักให้เพื่อน
“เรากำลังจะไปซื้อของกันน่ะครับพี่ไทม์ พอดีอาจารย์สั่งงานมาเยอะเลย อุปกรณ์ที่มีอยู่มันไม่พอน่ะ”
เด็กชายที่เป็นเพื่อนทิมเอ่ยบอกพร้อมรอยยิ้ม รับหมวกจากทิมมาใส่ ส่วนไทม์ก็พยักหน้าเบาๆรับรู้ ดึงมือนีออนให้หลบมายืนใกล้ๆตนเองเมื่อทิมสตาร์ทรถ
“ขับรถดีๆล่ะทิม อย่าพาเพื่อนซิ่งนัก” ไทม์เตือนน้อง ทิมไม่ได้หันมาหาพี่ชายแต่ก็ตอบรับในลำคอกลับมา
“อืม”
นีออนออกจะแปลกใจที่น้องชายพี่ไทม์พูดน้อยขนาดนี้ หรือเขาจะพูดไม่ได้กันนะ แต่พอนีออนคิดแบบนั้นทิมกลับพูดขึ้นมาทำให้ข้อสันนิษฐานของตัวเล็กตกไป
“กร ขึ้นรถสักทีสิ” ทิมสั่งเพื่อนน้ำเสียงติดจะห้วน กร เพื่อนของทิมจึงรีบก้าวขึ้นนั่งอย่างรวดเร็ว
“มัวแต่มองอยู่ได้” ทิมยังแอบบ่นเพื่อนอีก
“เปล่าสักหน่อย” เพื่อนกรรีบปฏิเสธ แต่ดูเหมือนทิมจะไม่จบ
“ก็เห็น”
“เอ๊ รีบไปเลย พูดมาก”
นีออนมองคนสองคนเขาพูดกันแล้วออกอาการงง เขาคุยอะไรกันน่ะ?
กรทุบหลังเพื่อนเบาๆ บ่นอุบๆอิบๆ แล้วเร่งให้ออกรถ ทิมก็ยังหน้านิ่งไม่แสดงอารมณ์อยู่เหมือนเคย แต่พอรถเคลื่อนตัวแขนของคนด้านหลังอ้อมมากอดเอวไว้หลวมๆ นั่นกลับทำให้ริมฝีปากคนขับปรากฏรอยยิ้มเล็กๆ บรรยากาศรอบกายต่างไปโดยสิ้นเชิง
ไทม์มองน้องที่ขับรถออกไปแล้วอย่างเป็นห่วง ไม่ได้ห่วงว่าจะไปล้มที่ไหน แต่ห่วงว่าทั้งคู่จะไปทะเลาะกันกลางทางหรือเปล่า ก่อนจะหันมามองคนข้างกายที่มองตามรถคันนั้นไปท่าทางเหมือนครุ่นคิดอะไรอยู่
“อะไรครับนีออน?”
“หะ... เอ๊ะ! อะไรครับ?”
พอถูกทักเด็กตัวเล็กก็หน้าตาตื่น ไม่รู้จะตอบคำถามหรือถามคำถามดี ไทม์มองน้องที่ทำหน้างงแล้วก็ไม่รู้จะขำหรืออะไรดีเหมือนกัน
“พี่ต่างหากที่ต้องถามนีออนว่ามีอะไรหรือเปล่า เห็นมองตามรถทิม มีอะไรกับทิมงั้นเหรอ?”
“เปล่า ออนอ่ะไม่มีหรอก แต่น้องชายพี่ไทม์น่ะไม่แน่”
“ทำไม?” ไทม์รีบถามทันทีที่น้องว่ามาแบบนั้น ทิมจะมีปัญหาอะไรกับนีออนอย่างนั้นหรือ?
“ก็เขามองออนแปลกๆอ่ะ เมื่อวานก็ครั้งนึงแล้วนะ” ตัวเล็กบอกพี่เหมือนจะฟ้อง
“หือ งั้นเหรอ?”
ไทม์เลิกคิ้วคิดตามที่น้องบอก อย่างทิมจะไปมีปัญหาอะไรกับใครเขา ขี้เบื่อก็เท่านั้น ยิ่งกับนีออนที่เพิ่งจะรู้จักยิ่งไม่น่าเป็นไปได้ บางทีท่าทางของทิมอาจจะทำให้นีออนเข้าใจผิดไปว่าน้องชายเขาหาเรื่องก็ได้
“ที่จริงพี่ว่ามันไม่ได้แปลกอะไรหรอกมั้ง ทิมก็เป็นแบบนี้แหละ มองแต่ไม่พูด” ไทม์อธิบายลักษณะนิสัยของน้องชาย นีออนพยักหน้าว่ามันเป็นแบบที่พี่ไทม์พูดมาเลย
“ทีแรกออนยังแอบคิดว่าเขาเป็นใบ้รึเปล่า” ตัวเล็กแอบกระซิบกระซาบราวกับว่าคนที่ตนเองพูดถึงอยู่แถวนี้แล้วอาจจะได้ยินเข้า
ไทม์หัวเราะความคิดตัวป่วน เด็กหนุ่มเอาของเข้าไปเก็บ นีออนก็เข้าบ้านไปสวัสดีคุณแม่พี่ไทม์ด้วย แม่พี่เขาทำงานบริษัท ไม่เน้นทำนอกเวลาเพราะต้องกลับบ้านมาดูแลลูกกับสามี จึงมักกลับมาถึงบ้านช่วงเดียวกับนักเรียนเลิกเรียนเสมอ พอเอาของเข้าไปเก็บแล้วไทม์ก็ไปจูงรถออกมาจากที่จอดข้างตัวบ้าน เข็นออกไปด้านนอกรั้ว ปิดประตูแล้วจึงสตาร์ทรถพานีออนน้อยกลับบ้าน
---------------
ตอนเย็นหลังเลิกเรียนของทุกวัน ไทม์ยังอาสาจะไปส่งนีออนกลับบ้านเช่นทุกที เด็กตัวเล็กอดแปลกใจไม่ได้ที่อยู่ๆพี่ก็รุกตนเองไม่ตั้งตัวเช่นนี้ แม้แต่เพื่อนอย่างเซียนก็แปลกไป ใช่ว่าจะเดาไม่ออก แต่ก็ไม่ได้แสดงอะไรออกไปว่ารู้ ก็พวกเขาสองคนคิดว่านีออนไม่รู้นี่ แล้วนีออนจะทำเป็นรู้ไปทำไม รอดูสถานการณ์เงียบๆจะดีกว่า
ใช่ว่าจะมีเพียงนีออนที่รอดูสถานการณ์อยู่เงียบๆ คงจะยังไม่ลืมกันว่าไทม์คือเพอร์เฟคแมนที่สาวๆหลายคนอยากเป็นแฟนด้วย และการที่ก่อนหน้านี้ไทม์บอกกับคนที่มาสารภาพรักกับตนเองไปว่ามีคนที่แอบชอบอยู่แล้ว เหล่าแฟนคลับหนุ่มหล่อก็ค้นหากันใหญ่ว่าคนๆนั้นคือใคร จนตอนนี้ก็คงเดาไม่ยาก เมื่อมีอยู่คนเดียวที่พี่ไทม์สนใจอยู่ในตอนนี้ แต่เหล่าสาวน้อยก็ยังไม่อยากปักใจเชื่อ ก็คนๆนั้นเป็นผู้ชายนี่นา!!
เมื่อวันหยุดสุดสัปดาห์มาถึง นีออนกับอุ้มรักก็ยังรับหน้าที่ขายไก่ทอดอยู่หน้าร้านลายไทยเช่นเดิม ลูกค้ามากหน้าหลายตาแวะเวียนมาซื้อแถมมาแซวพ่อค้าฝาแฝดตัวน้อยด้วย บางคนมาบ่อยจนจำกันได้แล้วก็มี เช่นพี่สาวนักศึกษากลุ่มนี้ที่กำลังเลือกซื้อไก่ทอดรสเด็ดอยู่ และเพื่อเป็นการสมนาคุณที่พี่สาวทั้งหลายมาอุดหนุน นีออนจึงจัดของแถมชุดใหญ่ให้พี่ๆโดยไม่ต้องปรึกษาเจ้าของร้านแม้แต่น้อย
“ซื้อไก่ทอดร้านลายไทยวันนี้ ซื้อชิ้นเล็กแถมน้ำจิ้มไก่ ซื้อชิ้นใหญ่แถมหัวใจพ่อค้าด้วยนะคร้าบ~”
เสียงใสของนีออนหยอดพี่สาวนักศึกษา อุ้มรักแอบขำพี่ชาย ไม่รู้ไปคึกอะไรมา เรียกลูกค้าแต่ละทีนี่ไม่มีซ้ำ
“โห~ แถมหัวใจจริงน่ะ แต่เดี๋ยวนะน้องนีออน น้ำจิ้มนี่มันแถมอยู่แล้วไม่ใช่เหรอจ๊ะ?”
พี่สาวก็เล่นด้วย มีถามแซวน้องตัวเล็กแถมมาด้วย นีออนลากเสียงอ้าวเสียยาวเหมือนผมไม่รู้เลยนะนี่
“อ้าว? เหรอครับ งั้นเอาใหม่”
นีออนน้อยตั้งท่าคิดสโลแกนใหม่ให้ร้าน ก่อนจะตีมือเมื่อนึกได้
“ซื้อไก่ทอดร้านเราวันนี้ แถมสับไก่ให้ฟรีๆไปเลยครับ!”
ลูกค้าสาวพากันหัวเราะคารมคมคายพ่อค้าตัวน้อย อยากเก็บกลับไปเลี้ยงดูที่บ้านจริงๆเลยเด็กคนนี้ เมื่อพี่สาวเลือกได้แล้วนีออนจึงส่งต่อให้พี่พนักงานร้านอีกคนที่นีออนแต่งตั้งให้เป็นพนักงานสับไก่มือฉมังช่วยสับให้ สับเองไม่เป็นเดี๋ยวได้สับมือตัวเองแทนไก่แน่ พี่เขาสับให้แล้วอุ้มรักจึงเป็นแผนกเอาใส่ถุงและเก็บเงินจากคุณลูกค้า
“ได้ยินใครพูดแว่วๆว่าซื้อไก่ทอดแถมหัวใจคนขายนะ?”
ไทม์ที่ยกไก่ทอดมาเพิ่มทันได้ยินเสียงแจ๋วๆของน้องตัวเล็กจึงเอ่ยแซวน้องยิ้มๆ คนพูดเสียงแจ๋วเมื่อครู่เขินหน้าแดงที่พี่ได้ยินด้วย ไทม์ส่งถาดที่ถือมาให้พี่พนักงานสับไก่มือฉมังของนีออน ก่อนจะเนียนก้มลงกระซิบหยอกน้อง
“ถ้าแถมจริง พี่จะเหมาหมดร้านเลย”
พอว่าให้น้องอายแล้วไทม์ก็เดินยิ้มเข้าร้านไป พี่สาวนักศึกษามองตามเด็กหนุ่มรูปหล่อ นีออนน้อยหันมาเห็นเลยรีบบอก
“แถมหัวใจคนนี้ แต่คนเมื่อกี้ไม่แถมนะคร้าบบบ”
“ฮิ้วววว”
ลูกค้าโห่ฮากันอย่างพร้อมเพรียงกับท่าทางกวนๆของพ่อค้าตัวน้อย แม้แต่อุ้มรักยังหัวเราะไม่หยุด นีออนเองก็ยังแอบขำตัวเอง
‘ทำไปได้นะเรา>///<’
TBC
ขอบคุณทุกกำลังใจค่ะ มีนักอ่านหน้าใหม่เข้ามาเพียบ ขอบคุณมากๆค่ะที่ติดตามกัน
บวกทุกบวกเมื่อบวกได้เช่นเคยค่ะ
ปล. ใหม่ลงตอนพิเศษน้องข้าวตังไปแล้วนะคะเมื่อวานนี้ เผื่อจะแวะไปอ่านกันก็จิ้มไปได้เลยค่ะ ยังไม่ตกหน้าแหละ
ขอบคุณนักอ่านที่ช่วยดันด้วยค่ะ