ตอนที่ 16วินวันนี้อากาศแจ่มใสมากยิ่งใจของผมที่นั่งรอคนตัวเล็กอยู่บริเวณโซฟารับแขกตัวนุ่มนั้น หัวใจมันเบ่งบานอยากพบหน้าคนที่ตัวเองโหยหาเร็วๆ ผมได้แต่ชะเง้อคอว่าเมื่อไหร่กัสจะออกมา เมื่อคืนก็นอนไม่หลับอยากให้ถึงตอนเช้าเร็วๆเพื่อจะได้มานั่งรออยู่ตรงนี้
‘วินสัญญาว่าจะไม่ปล่อยกัสห่างสายตาวินอีกเลย’ ประโยคที่ผมพูดเมื่อคืนไม่ได้เกินจริงไปเลยมันมาจากใจล้วนๆ ซึ่งผมสัญญากับตัวเองไว้แบบนั้นจริงๆ
จุดที่สายตาผมจับจ้องอยู่นี้คือทางเข้าห้องรับแขก ผมเฝ้ารอว่าร่างเล็กคนของหัวใจผมจะออกมาเมื่อไหร่ พลันก็ปรากฏหนุ่มน้อยตัวเล็กผิวขาวแก้มอมชมพูในชุดเสื้อยืดคอปกสีฟ้ากับกางเกงสีขาวพอดีตัวกำลังเดินตรงมาทางผม เราสบตากันผิวแก้มคนน่ารักก็ขึ้นสีเข้มทันตา ผมไม่รู้หรอกว่าตัวเองส่งสายตาแบบไหนไปให้กัส รู้แค่อยากจะกักเก็บคนน่ารักตรงหน้านี้ไว้กับตัวไม่ให้ไปไหน ไกลตาด้วยไม่อยากให้ใครเห็นถึงความน่ารักที่กัสมีเหมือนที่ผมได้เห็น
“ทำไมวินมาเช้าจัง ไม่เกรงใจคนที่บ้านมายเลยนะ” กัสเดินเข้ามานั่งโซฟาตัวที่ใกล้กับของผม และแกล้งส่งเสียงดุแก้เขินทั้งๆที่แก้มยังแดงระเรื่อ
“วินคิดถึงกัสครับ เมื่อคืนนอนไม่หลับพอเช้าก็รีบมาหากัสเลย” ผมเริ่ม ‘จีบ’ คนน่ารักด้วยประโยคธรรมดาแต่กลับเรียกสีที่แก้มใสให้เข้มขึ้นอีก พร้อมด้วยอาการก้มหน้าก้มตาหลบสายตาของกัส จนผมอยากจะจับคนน่ารักมาฟัดแก้มสักที ใบหน้าหวานที่แดงระเรื่อยั่วตาค่อยๆชัดขึ้นๆสู่สายตาผม จนกระทั่งเห็นเส้นเลือดฝาดใต้ผิวใสและกลิ่นหอมอ่อนๆที่ผมไม่เคยลืม
“ฟอดดดด!” เฮ้ย! ผมทำอะไรไปเนี่ย แค่คิดว่าอยาก ‘ฟัดแก้ม’ คนน่ารัก ผมก็ขยับตัวไปหอมแก้มกัสแบบไม่รู้ตัว ทำเอาคนน่ารักทำหน้าเหวออ้าปากค้างยกมือกุมแก้มเลยทีเดียว และใบหน้ากัสก็แดงจัดลามไปยังหูและคอขาวๆนั่นทันตา แต่ไหนแต่ไรมาสำหรับกัสแล้วไม่รู้ผมเป็นอะไรมันเหมือนมีแรงดึงดูดให้ผมอยากเข้าใกล้มาตลอด แม้ก่อนเจอกัสผมเคยเจอคนที่หน้าตาดีกว่ากัสมามาก แต่ก็ไม่ได้รู้สึกอยากเข้าใกล้อะไรก็แค่ชื่นชมในความหน้าตาดีเท่านั้น
“วินทานข้าวมารึยังคะ มาทานด้วยกันมั้ย” เสียงชักชวนของสาวตัวเล็กผู้เป็นเจ้าของบ้านดังขึ้น ทำให้ผมได้สติผละตัวออกจากใบหน้าหวานที่กลิ่นแก้มหอมยังติดจมูกอย่างเสียดาย ก่อนหันไปมองหน้าหมอมายและหมอมิคที่มายืนด้านหลังของผมตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ จึงส่งยิ้มเป็นทัพหน้าให้กับความหาญกล้าที่มาขโมยหอมแก้มเพื่อนรักของคนทั้งคู่เผื่อมายกับมิคจะเห็นใจผมบ้าง
“ขอบคุณครับมาย งั้นวินไม่เกรงใจนะครับขอร่วมโต๊ะด้วยคน” พูดจบผมลุกขึ้นจูงมือกัสที่ยังก้มหน้าพยายามซ่อนใบหน้าแดงๆให้พ้นจากสายตาผม กัสพยายามดึงมือตัวเองออกจากการเกาะกุมของผม แต่ใครจะไปยอมกันนี่ดีแค่ไหนแล้วที่ผมแค่จับมือใจจริงอยากโอบประคองซะด้วยซ้ำครับ ผมแอบมองไปที่เพื่อนทั้งสองคนของกัสที่ยืนนิ่งเหมือนอึ้งที่ผมกล้าถึงเนื้อถึงตัวกับกัส แต่ในเมื่อเราเข้าใจกันดีแล้วผมก็ไม่อยากเสียเวลาไปมากกว่านี้อีก อยากจะใช้เวลาต่อจากนี้ชดเชยเวลาหนึ่งปีที่เสียไป
“วันนี้กัสไปเดินเที่ยวซื้อของที่ห้างใกล้ๆกับวินนะครับ” เมื่อพวกเรานั่งประจำที่โต๊ะอาหารแล้วผมก็เอ่ยปากชวนคนน่ารักออกเดทซะเลย กัสเหลือบตาจากจานข้าวขึ้นมองผมอมยิ้มนิดๆก่อนเหลือบไปมองหน้ามิคกับมาย ‘นี่คงหาตัวช่วยล่ะสิ’ แต่ผมไม่คิดจะปล่อยโอกาสที่จะอยู่กับกัสหรอกครับ ถึงแม้จะมีเพื่อนสนิทของกัสไปด้วยก็ตาม ‘ผมยอม’ ขอแค่มีกัสอยู่เคียงข้างก็พอ
“แหม ไม่คิดจะชวนมิคกับมายเดียร์เหรอนายวิน” มิคคิ้วขมวดมุ่นส่งเสียงประชดใส่ ผมต้องกลั้นขำให้กับความหวงเพื่อนของคนตัวเล็กตรงหน้า ก่อนจะคลี่ยิ้มเอาใจส่งให้มิคและมายเพื่อนสนิทของคนที่ผมรัก
“มิคกับมายไปด้วยกันนะครับ” ผมเอ่ยชวนอย่างจริงใจ เพราะถึงสองคนตัวเล็กจะไปด้วยก็ไม่ได้ทำให้ความสุขที่ผมมีระหว่างที่ได้ใกล้ชิดกัสลดลงเลย
“กัสยังไม่ได้ตอบว่าจะไปเลยนะวิน” เสียงค้านที่มาจากคนน่ารักของผมดังขึ้น ทำให้ผมต้องหันกลับมามองกัสที่แกล้งทำหน้าบึ้งใส่ผม แต่ปิดบังประกายตาพราวระยับไม่อยู่ เหมือนคนน่ารักเค้าถูกใจที่ได้แกล้งผมเล็กๆน้อยๆ
“ถึงกัสปฏิเสธวินก็จะลักพาตัวไปกับวินให้ได้ ฮึๆๆ” ผมหัวเราะให้กับคนน่ารักที่เรียกชื่อผมเสียงดังก่อนทำหน้าบึ้งอย่างขัดใจที่ถูกผมแกล้งกลับ
“มายกับมิคไม่ไปหรอกจ้ะไปกันสองคนเถอะ คนไม่มีแฟนเค้าก็ต้องอยู่ด้วยกันสิจริงมั้ยกัส แต่ต้องซื้อขนมมาฝากนะไม่งั้นไม่ยอมด้วย” มายหันไปหยอกเย้ากัสที่นั่งอยู่ข้างผมด้วยรอยยิ้มพราวสายตาล้อเลียน
“ฮิๆๆ มายอ่ะ ใครเป็นแฟนกันไม่ใช่ซะหน่อยยังไม่ได้เป็นจริงมั้ยวิน” ผมแค่ส่งยิ้มให้กับกัสที่เลิกงอนแล้วหลังโดนเพื่อนสนิทแซว แต่ผมไม่คิดจะรับคำด้วยไม่อยากขัดใจคนน่ารักอีก เดี๋ยวจะโดนกัสงอนยาวแล้วจะแย่ และแอบหมายมั่นว่าถึงตอนนี้ไม่ใช่แฟนแต่เร็วๆนี้ตำแหน่งแฟนกัสนั้นผมไม่พลาดแน่
.................................
การมีคนที่รักเคียงข้างมันมีความสุขแบบนี้นี่เอง แม้ห้างสรรพสินค้าใจกลางเมืองในวันหยุดคนจะเยอะเดินเข้าร้านไหนก็มีผู้คนพลุกพล่าน แต่มันก็ไม่ได้ทำผมหงุดหงิดใจไปได้ การได้กุมมือกัสไว้แล้วเดินเคียงข้างกันช่วยกันดูของเหมือนอดีตที่เราเคยทำร่วมกัน สามารถเรียกความสุขแบบเดิมๆกลับมาได้
“กัสครับดูเรื่องนี้มั้ยเป็นแนวที่กัสชอบเลย”
ผมชี้ชวนหนังแนวโรแมนติกคอมเมดี้ที่เข้าโรงอยู่ตอนนี้ ชักชวนให้กัสเลือกแนวโปรดของตัวเอง เมื่อกัสพยักหน้ารับผมจึงให้นั่งรอที่เก้าอี้ข้างจุดขายตั๋วไม่อยากให้ไปยืนต่อแถวคอยยิ่งวันหยุดคนยิ่งเยอะ ส่วนผมรีบเดินไปต่อแถวซื้อตั๋วด้วยตัวเอง ขณะที่ผมรอซื้อตั๋วอยู่ตาก็คอยหันไปมองกัสที่นั่งอยู่ คนของผมนั่งอ่านหนังสือที่เราเพิ่งไปซื้อมาด้วยกันไปพลางๆระหว่างรอ สายตาผมไม่อยากจะเคลื่อนไปจากคนน่ารักเลย และต้องแอบส่งสายตาพิฆาตไปให้ไอ้คนที่มานั่งเก้าอี้ข้างๆกัส เหมือนมันพยายามจะชวนกัสคุยด้วย ผมล่ะอยากจะเข้าไปดึงกัสออกมาแต่ถึงคิวพอดีจึงรีบหันไปเลือกที่นั่ง เมื่อได้ตั๋วหนังแล้วผมเดินปรี่เข้าหาคนทั้งคู่ทันที
“กัสครับวินได้ตั๋วแล้ว เราไปซื้อของทานเล่นก่อนเข้าโรงหนังกันครับ” ปากผมพูดกับกัสแต่ส่งสายตาพิฆาตส่งไปให้คนที่มานั่งข้างกัสแทน ก่อนเอื้อมมือไปโอบเอวบางเข้าหาตัว
ไอ้ผู้ชายใจกล้าไม่ดูตาม้าตาเรือริอาจเข้ามาจีบคนของผมมันเหลือบตาขึ้นมามอง ผมถลึงตาจ้องหน้ามันเขม็งอย่างให้รู้กันไปว่าคนนี้น่ะของใคร มันหน้าเจื่อนขึ้นทันตาพลางหลบสายตาผมพัลวัน ให้ซะรู้บ้างว่า ‘คนนี้ของกู’ ผมพากัสเดินออกมาก่อนกัสจะเงยหน้าขึ้นมองตาผมพร้อมส่งยิ้มหวานมาให้ คนน่ารักก็ไม่ได้รู้ตัวเลยว่ามีคนจะเข้ามาจีบ เฮ้อ แบบนี้ยิ่งปล่อยให้ห่างสายตาไม่ได้ซะแล้ว
“กัสครับอย่าทำตัวน่ารักกว่านี้นะ วินหวง ดูสิไอ้นั่นจะจีบรู้ตัวรึเปล่า หืม” ผมหันหน้าเข้าหาร่างบางระหว่างยืนเข้าแถวรอซื้อของ และพูดประโยคนี้เพื่อให้คนตัวเล็กได้รู้ตัวพร้อมใช้หลังมือลูบแก้มเนียนแผ่วเบา
กัสได้ฟังแล้วทำหน้าเหวอตาโตเผยอปากน้อยๆแก้มแดงขึ้นทันตา ถ้าเราไม่อยู่ท่ามกลางผู้คนผมจับกัสฟัดแก้มไปแล้วนะเนี่ยข้อหาทำตัวน่ารักเกินเหตุ เมื่อกัสรู้สึกตัวว่าเราใกล้ชิดกันเกินไปจึงหันหนีไปอีกด้าน ซึ่งผมแอบเห็นใบหูเล็กๆตรงหน้าแดงระเรื่อไม่ต้องเดาก็รู้ว่าทำคนน่ารักให้ได้อายซะแล้ว แต่เรื่องอะไรจะให้คนอื่นมาเห็นใบหน้าน่ารักน่าใคร่ที่ผมแสนหวงนี้กันผมจะขอเก็บไว้ดูคนเดียว เพราะแค่กัสทำหน้านิ่งๆไม่ได้โชว์ยิ้มหวานยังมีคนมาสนใจกัสเลยนี่ครับ ผมจึงจับไหล่บางทั้งสองข้างไว้ก่อนหมุนร่างบางกลับมาและเอาหน้ากัสซุกเข้าหาอกตัวเอง
“อื้อ วินทำอะไร” กัสคงตกใจที่อยู่ๆผมก็ทำอะไรโจ่งแจ้ง เจ้าของใบหน้าหวานตกใจตาโตผิวแก้มขึ้นสีระเรื่ออย่างเขินอายก่อนเงยขึ้นมามองกัน ผมจึงก้มลงกระซิบข้างใบหูหอมเบาๆ
“ก็วินหวงไม่อยากให้ใครเห็นหน้ากัสตอนเขินนี่ครับ ถ้าอายซุกหน้าไว้กับอกวินนะ” ระหว่างที่ผมกระซิบก็แอบสูดกลิ่นหอมข้างแก้มใสแผ่วเบาไม่ให้เจ้าของเค้าจับได้ว่าผมขโมยหอมแก้มแบบเนียนๆ ‘ชื่นใจจัง’
ผมเงยหน้าขึ้นจากแก้มใสก็ได้สบตาเข้ากับคนที่ต่อแถวอยู่ด้านหลัง เป็นกลุ่มหญิงสาววัยรุ่นที่ยืนอึ้งอ้าปากค้างไปตามๆกัน สาวๆคงได้เห็นภาพสวีทเล็กๆของเราทั้งคู่เข้าผมจึงส่งยิ้มกว้างไปทักทาย ไม่ว่าใครจะคิดยังไงผมไม่แคร์อยู่แล้ว ขอแค่มีคนที่ซุกหน้าอยู่กับอกผมก็พอแล้วครับ เมื่อถึงคิวเข้าซื้อของเราก็ได้น้ำอัดลมสีแดงแก้วใหญ่และข้าวโพดคั่วรสหวานของโปรดกัสมาไว้ในมือ กัสเลิกสนใจสิ่งรอบตัวหันมาสนใจของกินในมือแทน หลังได้ของครบผมจึงกุมมือนุ่มไว้ก่อนหมุนตัวออก จึงได้สบตากับกลุ่มสาวๆที่ต่อแถวด้านหลัง พวกเธอต่างส่งยิ้มกว้างมาให้พร้อมยื่นลูกอมรูปหัวใจห่อใหญ่มาให้กัสด้วย กัสทำหน้าเหวอมองสาวๆตาไม่กระพริบด้วยคงสงสัยว่าไม่ได้รู้จักกันมาก่อน และไม่ได้รู้เลยว่าสาวๆกลุ่มนี้เค้าเห็นฉากสวีทเล็กๆของเราเข้าให้แล้ว
“หนูให้พวกพี่ค่ะ พี่น่ารักมาก พวกหนูเป็นกำลังใจให้นะคะ” กัสยื่นมือรับของมาอย่างงงๆแต่ก็ยังไม่ลืมขอบคุณ ส่วนผมก็ระบายยิ้มและก้มหัวให้สาวๆเค้านิดหน่อยแทนคำขอบคุณ ก่อนเราจะพากันเดินออกมารอบริเวณใกล้ประตูเข้าโรงหนัง
“วินรู้จักกับเด็กๆกลุ่มนั้นเหรอ” กัสที่ยังติดใจสาวๆกลุ่มนั้นอยู่จึงเอ่ยถามผมอย่างสงสัย และหันไปมองกลุ่มเด็กสาวที่เพิ่งจากมา โดยที่สาวๆพวกนั้นยังมองตรงมาที่คู่ของเราอยู่พร้อมโบกมือให้ด้วย
“ไม่รู้จักครับ” หลังคำตอบของผมกัสหน้าเหวอสะบัดหน้ามาจ้องผมอย่างสงสัยหนักกว่าเดิม ‘คนน่ารักนี่ ทำอะไรก็ยังดูน่ารักไม่เปลี่ยนจริงๆ’ ดูท่าผมคงเป็นเอามากนะครับ หลงคนน่ารักไม่ลืมหูลืมตาเลย
“อ้าว แล้วเค้าให้เราทำไมอ่ะ”
“คงเห็นคู่เรารักกันดีมั้งเลยอยากเป็นกำลังใจให้” ผมคลี่ยิ้มหวานใส่ตาคนน่ารักหลังตอบข้อสงสัยแล้ว
กัสเปลี่ยนจากงุนงงเป็นเขินอายแทนหลังมีสีหน้าครุ่นคิดถึงสิ่งที่ผมพูด และไม่หันกลับไปที่กลุ่มเด็กสาวอีกเลย คนน่ารักคงอายที่มีคนรู้ถึงความสัมพันธ์ของเราเข้า แต่จะมีใครไม่รู้บ้างล่ะครับผมแสดงออกมากขนาดนี้ เอาให้รู้กันไปเลยว่าคนนี้เป็นคนของผมใครอย่ามายุ่งเชียว ‘ผมจองแล้ว’ เมื่อได้เวลาเปิดประตูให้คนดูได้เข้าโรงหนัง ผมจึงจับจูงมือนุ่มข้างที่ว่างของกัสเดินเข้าโรงหนังอย่างไม่รีบร้อนนัก ให้คนอื่นได้เข้าไปก่อนไม่อยากให้ใครมาเบียดมาใกล้กัสเลย ‘ผมหวง’ เราเดินเข้ามานั่งตามที่นั่งที่ผมได้เลือกไว้เป็นที่นั่งสำหรับคู่รักที่อยู่ชั้นบนสุดด้วยเบาะนุ่มยาวไม่มีที่กั้นระหว่างกัน แบบนี้สิที่ผมต้องการได้นั่งใกล้ชิดอิงแอบเกาะกุมมือระหว่างดูหนังเป็นความสุขที่ผมหวังไว้ ใครจะว่าผมเจ้าเล่ห์ก็ว่าไปครับเพราะผมไม่เคยต้องทำแบบนี้กับใคร จะมีก็แต่คนน่ารักข้างๆนี่คนเดียวที่ผมจะเจ้าเล่ห์ใส่ด้วย
“วิน ทำแบบนี้อย่าคิดว่ากัสตามไม่ทันนะ” กัสหันมาหาก่อนพูดกับผมนิ่งๆเมื่อเรานั่งกันเรียบร้อยแล้ว และคงรู้ว่าผมคิดอะไรที่เลือกที่นั่งแบบนี้ ‘คนอะไรทั้งน่ารักทั้งฉลาดเหมาะแล้วกับคนรูปหล่อแบบผม’ ผมคว้ามือนุ่มมากุมไว้ก่อนยื่นหน้าไปพูดใกล้หู อย่าว่าผมฉวยโอกาสนะครับก็เราอยู่ในโรงหนังใครเค้าพูดเสียงดังกัน
“แล้ววินทำอะไรล่ะครับ” ผมแกล้งไม่เข้าใจสิ่งที่ร่างบางพูดและถามกลับดูสิว่ากัสจะตอบกลับยังไง
‘โอ๊ย! จะน่ารักไปไหนที่รัก’ แม้ตอนนี้ไฟในโรงหนังจะมืดลงแต่แสงจากจอฉายหนังที่กำลังฉายก็ส่งแสงมากระทบหน้าเนียน ทำให้รู้ว่าประโยคที่ผมถามไปได้เรียกสีเลือดที่แก้มจากคนน่ารักได้ การหยอกให้กัสเขินได้ก็เป็นความสุขอย่างหนึ่งของผม เพราะแสดงให้รู้ว่าผมยังมีอิทธิพลต่อใจกัสอยู่
“ฟอดดด” อดใจไม่ไหวแล้วขอหอมอีกสักครั้งเถอะ นี่ถ้าอยู่กันสองคนผมจับกัสทำมากกว่านี้แล้วครับ
“โอ๊ยยย” แต่ผมก็ต้องร้องลั่นเพราะแรงบิดเต็มแรงที่หน้าขาจากคนน่ารักที่โดนผมฉวยโอกาสด้วย ทำเอาคนที่นั่งข้างๆหันมาให้ความสนใจทันที ผมได้แต่ยิ้มแหยยกมือและผงกหัวขอโทษให้ ก่อนหันกลับมามองกัสซึ่งเจ้าตัวแอบอมยิ้มสะใจที่เอาคืนผมกลับได้
ตอนนี้หนังเริ่มฉายแล้วผมจึงคว้ามือบางมากุมไว้ คราแรกเจ้าของมือจะดึงกลับแต่เรื่องอะไรผมจะยอมจึงยื้อไว้ จนกัสอ่อนใจปล่อยให้มือนุ่มตกเป็นเชลยของผม เรื่องราวของหนังเป็นยังไงไม่รู้เพราะผมไม่ได้สนใจ ตาผมจับจ้องเพียงเสียวหน้าด้านข้างของกัสที่เดี๋ยวก็ยิ้มกว้าง เดี๋ยวขมวดคิ้ว เดี๋ยวหัวเราะตามเรื่องราวตรงหน้า ใบหน้าที่หลากหลายอารมณ์ของคนน่ารักทำให้ผมอยากจะเก็บมันไว้กับตัวไม่อยากให้ใครได้เห็น และผมก็รู้สึกเมื่อยหน้ามากไม่ต้องมีใครบอกก็รู้ว่าผมคงยิ้มกว้างมานานแค่ไหนแล้ว คนที่ทำให้ผมยิ้มได้กว้างปากแทบฉีกได้ก็มีแค่คนตรงหน้านี้คนเดียวเท่านั้น ภาพใบหน้าของกัสมีน้ำตาไหลอาบแก้มทำผมสะดุ้ง แม้มันจะเกิดจากเรื่องราวบนจอภาพแต่ทำเอาผมใจหายวาบ ผมรีบควักผ้าเช็ดหน้าไปซับน้ำตาที่รินไหลออกมาทันที กัสสะดุ้งเล็กน้อยก่อนหันมาทำหน้าตกใจใส่ แต่เมื่อเห็นว่าผมยิ้มปลอบใจให้กัสจึงคลี่ยิ้มหวานกลับคืน คนน่ารักคงรับรู้ได้ว่าผมกังวลกับน้ำตาที่อาบอยู่บนหน้าหวาน ก่อนที่มือขาวจะยื่นมากุมทับมือผมที่ถือผ้าเช็ดหน้าอยู่และบีบเบาๆอย่างรู้ใจ ผมขอสัญญากับตัวเองอีกข้อว่าต่อไปจากนี้ถ้ากัสจะมีน้ำตาต้องเกิดจากความดีใจ และคนที่จะทำให้กัสดีใจได้ก็ต้องเป็นผมคนเดียวเท่านั้น ผมกุมมือบางขึ้นจรดริมฝีปากเหมือนเป็นดั่งสัญญากับคนที่ผมรักแทนคำสัญญา ก่อนรอยยิ้มหวานตรงหน้าจะกว้างขึ้นเหมือนเจ้าของเค้ารับรู้ ทำให้ผมที่จับจ้องอยู่ใจเต้นรัวเหมือนผมได้ตกหลุมรักกัสอีกครั้งและมันคงไม่ใช่ครั้งสุดท้ายสำหรับผมเป็นแน่
.......................................
โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ ^O^
รับรู้ได้ถึงระดับความหวานที่เพิ่มขึ้นแล้วใช่ม้า

และมันจะหวานไปอีกค่ะ
บวกเป็ดให้ทุกเม้นท์นะคะ ขอบคุณทุกการติดตามค่ะ
ปล.เขาค้อหนาวมาก
ฝากการรวมเล่มชุด "เสน่ห์รัก" ด้วยนะคะ หน้าแรกเลยค่ะhttp://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=33594.msg2026832#msg2026832เปิดจอง & โอน หนังสือตั้งแต่ วันนี้ ถึง 16 ก.ค. 55 
1.เสน่ห์รักปักใจ 1 เล่ม (ฉบับรีไรท์) >>> กัส+วิน
38 ตอน 5 ตอนพิเศษ
จำนวน 420 หน้า ราคาเล่มละ 350 บาท