ตอนที่ 24วิน‘พรุ่งนี้ก็จะเป็นวันศุกร์แล้วสินะ’ ผมกำลังนั่งเอนหลังพิงโซฟาเบดตัวใหญ่ในห้องนอนคลึงแหวนที่นิ้วนางข้างซ้ายพลางนึกถึงใบหน้าคนรักไปด้วย ผมนั้นอยากให้ถึงพรุ่งนี้เร็วๆ ตั้งแต่วันที่ได้รับบทลงโทษจากกัสให้แค่จับมือก็ผ่านมาสามสัปดาห์แล้ว ผมที่ไปหากัสทุกสัปดาห์ก็ได้แค่นอนจับมือและมองหน้าหวานที่อยู่ใกล้แค่เอื้อมแต่จับต้องมากกว่านี้ไม่ได้ ผมอึดอัดใจมากที่ถ่ายทอดได้เพียงแค่คำพูดว่า ‘รัก’ มีบ้างที่ผมแอบขโมยหอมแก้มนุ่มเมื่อเจ้าของหลับสนิทให้พอเป็นแรงใจ แต่อย่าให้กัสได้รู้เชียวไม่งั้นผมคงได้รับโทษเพิ่มแน่ๆ กำลังคิดถึงคนรักเพลินๆก็ถูกขัดจังหวะจากสายเรียกเข้าทางโทรศัพท์มาจากเพื่อนหนุ่มผิวเข้ม ‘ฟิน’
“ไงมึงโทรมาซะดึกมีอะไรรึเปล่า”
“ไม่มีโทรมาไม่ได้เหรอไอ้วิน พอมีคู่หมั้นเนี่ยไม่สนใจเพื่อนฝูงเลยนะ”
“น้อยใจไปได้ไอ้นี่มีไรว่ามาเลย อย่าช้าเดี๋ยวต้องโทรหากัสอีก”
“เออๆ พรุ่งนี้มึงต้องไปหากัสใช่มั้ย ขอกูตามไปด้วยสิอยากไปสูดอากาศต่างจังหวัดบ้าง”
“อารมณ์ไหนของมึงเนี่ย เออ อยากไปก็ได้แต่กูจะไปออกหน่วยเคลื่อนที่กับกัส พื้นที่มันลำบากหน่อยนะ มึงจะไปด้วยหรือจะรอในตัวจังหวัดล่ะ”
“กูไปด้วย ดีเหมือนกันเบื่อๆว่ะ”
“ตามใจพรุ่งนี้มาเจอกูที่บ้านสักบ่ายสามโมงละกัน”
คุยกันเสร็จผมก็วางหูไปนึกสงสัยเหมือนกันว่าไอ้ฟินมันเบื่ออะไรนักหนา แต่ก็ไม่แปลกใจมากนักเพราะไอ้ฟินเคยเอ่ยปากว่าจะขอตามไปเที่ยวเหมือนกัน แต่ที่ผ่านมามันยังไม่ว่างและมันคงเบื่อแสงสีกลางคืนแล้วมั้ง เพราะในกลุ่มผมนั้นไอ้ฟินใช้ชีวิตหนุ่มโสดได้คุ้มที่สุดแล้วมันเที่ยวได้ทุกคืนแต่งานมันก็ไม่เคยทิ้ง แต่เป็นแบบนี้ก็ดีผมจะได้มีเพื่อนร่วมเดินทางและช่วยขับรถด้วย อ้าว เลยเวลาโทรหาที่รักแล้วมัวแต่คุยกับไอ้ฟิน เดี๋ยวโดนคนน่ารักงอนผมจะแย่เอาและคงต้องบอกกัสเรื่องที่ไอ้ฟินจะตามไปด้วย แต่กัสคงไม่มีปัญหาอะไรเพราะอย่างน้อยก็ได้ไอ้ฟินเป็นลูกมือเพิ่ม ส่วนผมก็จะได้มีเวลาสวีทเล็กๆกับกัสเพิ่มด้วย
...................................
ศาลาประชาคมประจำหมู่บ้านถูกใช้ประโยชน์ให้เป็นสถานที่รับบริการทางการแพทย์ชั่วคราว โดยมีเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลมาให้การตรวจรักษาโรคและให้บริการตรวจรักษาฟันให้แก่ชาวบ้านในหมู่บ้านที่ห่างไกลแห่งนี้ กลุ่มคน
ทำงานเหล่านี้ยอมเสียสละตัวในช่วงวันหยุดมาออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ และหนึ่งในนั้นก็มีคนที่ผมรักและคิดถึงมากรวมอยู่ด้วย เวลาล่วงเลยมาบ่ายมากแล้วอากาศค่อนข้างร้อนแต่กัสก็ยังตั้งใจให้บริการรักษาคนไข้อยู่ แม้ต้องทำงานมาตั้งแต่เช้าแล้วส่วนผมและเพื่อนสนิทที่ติดมาด้วยก็มีหน้าที่เรียกคิวคนที่มานั่งรอให้เข้ารับการรักษาหรือช่วยหยิบจับของที่พอช่วยได้ ผมเห็นกัสทำงานไม่ได้หยุดเลยก็รู้สึกเหนื่อยแทนเพราะคนมารอรับบริการเยอะพอสมควร เมื่อผู้คนรู้ข่าวว่ามีหมอมารักษาถึงที่ต่างจูงลูกหลานมาตรวจรักษา แต่กัสก็ยังยิ้มให้คนไข้ทุกครั้งเมื่อรักษาคนนั้นๆเสร็จแล้ว
“กัสครับพักดื่มน้ำหน่อยนะ เหลือคนไม่มากแล้วเดี๋ยวหมอกัสเป็นลมไปคนไข้จะใจเสียเอาน้า”
กัสจึงถอดผ้าปิดจมูกและเสื้อคลุมตัวยาวออกก่อนส่งยิ้มหวานมาให้ ก่อนหันไปบอกเพื่อนสนิทตัวเล็ก ‘มิค’ ที่นั่งพักให้มาแทนที่ตน มิคหันมายกมือแตะเปลี่ยนตัวและยิ้มให้กับกัสอย่างล้อเลียน กัสรับน้ำจากผมและเดินมานั่งพักตรงส่วนนั่งพักที่ตอนนี้ไม่มีใครอยู่ ขณะกัสยกน้ำดื่มผมสังเกตเห็นเหงื่อซึมตามไรผมและจมูกเล็กๆนั่น ผมจึงเอื้อมมือใช้ผ้าเช็ดหน้าซับไปตามผิวชื้นเหงื่อ กัสคงร้อนและเหนื่อยมากแต่ก็ไม่ปริปากพูดอะไร จนกัสดื่มน้ำหมดแก้วแล้วจึงหันมาส่งยิ้มให้ผม
“วินเบื่อมั้ยออกมาไกลแบบนี้”
“ไม่หรอกครับที่ไหนมีกัส วินก็ไม่เบื่อแล้ว กัสนั่นแหละเหนื่อยมั้ยทำงานแต่เช้าได้พักแค่ตอนเที่ยงนิดเดียวเอง”
“ก็เหนื่อยนิดหน่อยนะ แต่กัสอยากรีบทำให้ชาวบ้านน่ะมานั่งรอกันตั้งแต่เช้าแล้ว พวกเค้าอยู่ไกลจากโรงพยาบาลพอพวกเรามาเค้าคงดีใจที่มีหมอมารักษาถึงที่น่ะ”
“กัสเนี่ยน่ารักและยังใจดีอีกน้า แฟนใครเนี่ย แฟนกัสโชคดีจังที่ได้กัสเป็นแฟน”
“ฮิๆๆๆ พูดเข้าข้างตัวเองก็เป็น คนอะไรเนี่ย”
“แหมๆๆ ไอ้วินมึงเกรงใจคนอื่นมั่งเหอะเค้าทำงานกันอยู่กลับแอบมาสวีทกันสองคน”
หลังคำแซวของไอ้ฟินทำเอากัสตาโตมองไปรอบๆตัวซึ่งผมก็มองตามเห็นพี่พยาบาลที่วัดความดันอยู่ พี่เภสัชที่จ่ายยา และไอ้หมอตี๋พจน์ที่คนไข้เพิ่งลุกไปหันมามองทางเราส่งยิ้มแซวมาให้ แต่ไอ้คนสุดท้ายนี่กลับมองเฉยและหันกลับไปทันที มันคงเห็นภาพบาดตาล่ะสิ แต่ช่วยไม่ได้แอบมาหลงคนมีเจ้าของแล้วเองนี่หว่า ผมหันกลับมามองหน้ากัสที่ใบหน้าขึ้นสีเพราะคงอายเพื่อนร่วมงานคนอื่นนั่นเอง ผมเคยถามกัสเหมือนกันว่าอายมั้ยที่มีผมเป็นแฟน จำได้ติดตาว่าตอนนั้นกัสทำหน้ามุ่ยและตอบว่าไม่อาย แต่เราก็ไม่จำเป็นต้องป่าวประกาศและถ้ามีใครถามก็จะบอกความจริงไป คนที่ทำงานกัสหลายคนก็รู้แล้วว่ากัสมีผมเป็นแฟนแต่ก็ไม่มีใครรังเกียจหรือตำหนิอะไร กลับเป็นว่าคนเหล่านั้นต่างอิจฉากัสที่มีแฟนหน้าตาดีหรือออกแนวแซวซะมากกว่า เมื่อแรกรู้ทำผมยิ้มปลื้มไม่หุบอยู่นานเลยล่ะ หลังจากเราเป็นที่จับตากัสลุกขึ้นบอกว่าจะไปดูมิคที่ทำงานแทนคงอายสายตาพี่ๆที่ส่งมาล้อตัวเอง ผมนึกเอ็นดูคนขี้อายอยากหอมสักฟอดแต่คนเยอะแบบนี้ไม่กล้าหรอกก็ได้แค่คิด จึงหันกลับมาที่
เพื่อนตัวเองที่ตอนนี้นั่งทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ถึงความผิดที่ทำให้ผมอดสวีทกับแฟนตัวเอง
“มึงนี่นะมันน่าโดนเตะสักที แล้วไปไหนมาเนี่ยหายไปตั้งแต่บ่าย”
“แค่นี้ทำเป็นโกรธมึงก็สงสารกูมั่งเถอะไม่มีแฟนมาด้วยนี่หว่า ที่หายไปกูไปถ่ายรูปแถวๆนี้แหละ ธรรมชาติที่นี่ยังสมบูรณ์อยู่เลยไม่ได้เห็นแบบนี้นานแล้ว”
“ไอ้ฟินมึงไม่เบื่อแบบนี้ก็ดีแล้ว เดี๋ยวจะหาว่ากูพาเพื่อนมาลำบาก”
“กว่าจะเสร็จวันนี้เจ้าหน้าที่ที่มาเนี่ยคงเหนื่อยมากนะมึง แค่เห็นกูยังเหนื่อยแทนเลย นับถือพี่ๆแกว่ะเดินทางก็ไกลต้องมาตรวจรักษาให้คนที่รอตรวจ คนก็มาเยอะมาก”
“อืม ใช่ดีใจแทนชาวบ้านที่นี่ว่ะ ไอ้ฟินกูเพิ่งเคยเห็นกัสทำงานแบบนี้ครั้งแรกว่ะ กูภูมิใจในตัวกัสมาก”
“ใช่กูก็ภูมิใจ”
ผมหันไปมองหน้าเพื่อนสนิทมันกำลังมองไปทางกลุ่มคนที่ทำงานตรงหน้าสายตามันจับจ้องไปที่คนๆหนึ่ง เฮ้ย! มันมองหมอมิคยิ้มๆแบบนี้หมายความว่าไงวะ
“ฟิน มึงมองหมอมิคแบบนี้หมายความว่าไง อย่าเชียวนะมึง”
“ไร กูก็มองคนอื่นด้วยไม่ใช่หมอมิคคนเดียวซะหน่อย คิดมากน่า”
“กูเพื่อนมึงนะ กูคิดมากดีกว่าคิดน้อยว่ะ แต่ขออย่างอย่ามาเล่นๆนะโว้ย คิดให้ดีคนนี้มึงเล่นๆไม่ได้”
รีบเตือนเพื่อนสนิทที่น่าจะคิดไม่ซื่อกับมิคแน่ๆผมเป็นเพื่อนไอ้ฟินมานาน มันสนใจใครทำไมจะไม่รู้แต่มันเริ่มสนใจมิคตอนไหนมากกว่า ไอ้ฟินสนใจได้แต่ต้องจริงจังแต่ไอ้คนโสดเจ้าชู้แบบมันจะจริงจังกับมิคจริงเหรอ ถ้ามันแค่เล่นๆผมต้องแย่แน่ๆเพราะต้องโดนกัสโกรธที่ปล่อยให้ไอ้ฟินไปทำเล่นๆกับมิคนั่นเอง ไอ้ฟินหันกลับมามองผมเราสบตากันเงียบๆ
“กูยอมรับว่าเริ่มสนใจ แต่มึงสบายใจได้ตอนนี้กูยังไม่แน่ใจแต่ถ้ายังรู้สึกแบบนี้ก็จะไม่เริ่มแน่ๆ กูจะรอจนแน่ใจในความรู้สึกของตัวเองก่อนถึงจะเริ่ม” ผมส่งมือไปตบหลังเพื่อนอย่างเข้าใจในความรู้สึกของมัน ก็ไม่รู้ว่ามันสนใจมิคตอนไหนเพราะคู่นี้ก็รู้จักกันมาก่อนหน้านี้นานแล้วเท่าๆกับที่ผมรู้จักกับกัส
ไอ้ฟินลุกขึ้นไปเก็บภาพบรรยากาศการออกหน่วย ส่วนผมก็ลุกมาช่วยหยิบจับของและเรียกคิวคนที่นั่งรอที่เหลือไม่มากนัก จนเสร็จสิ้นการทำงานอันแสนเหนื่อยของวันเจ้าหน้าที่ต่างเก็บของขนขึ้นรถ หลังจากนั้นก็มีคนพาพวกเราไปยังสถานที่พักที่เป็นสถานีอนามัยของหมู่บ้าน เพราะคืนนี้เราต้องพักกันที่นี่เดินทางกลับโรงพยาบาลไม่ทัน ด้วยระยะทางไกลและหนทางที่ลำบากพอควร สถานที่พักเป็นอาคารสำหรับรักษาคนไข้มีห้องโถงว่างอยู่ ส่วนเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลคนอื่นต่างแบ่งไปพักที่บ้านพักของเจ้าหน้าที่อนามัยคนอื่นด้วย ดังนั้นคนที่พักที่นี่ก็จะมีผม กัส มิค ฟิน และไอ้หมอตี๋พจน์ พี่เจ้าหน้าที่นำฟูกนอนหมอนผ้าห่มเท่าจำนวนคนมาให้ และจัดอาหารเย็นไว้ให้ที่หน้าสถานีอนามัยกลางลานหญ้า โดยมีชาวบ้านนำอาหารมาเพิ่มให้บางส่วนแสดงถึงน้ำใจเพื่อตอบแทนที่หมอมารักษาถึงที่ พวกเราทั้งหมดที่มาต่างมารวมตัวกันเพื่อทานอาหารที่มีไม่มากแต่ก็มาจากน้ำใจของพี่เจ้าหน้าที่และชาวบ้าน ซึ่งมีการพูดคุยกันบ้างระหว่างทานอาหาร
“หมอกัสนี่โชคดีจังน้ามีแฟนแบบนี้ ตามมาดูแลถึงที่เลย หาจากไหนเนี่ย ฮิๆๆๆ” พี่พยาบาลที่นั่งตรงข้ามกัสเอ่ยแซวขึ้นทำเอาคนน่ารักข้างๆผมนั่งหน้าแดงระเรื่อก้มหน้าก้มตาตักข้าวแต่ไม่ยอมตอบอะไร
“พี่บุษครับ ตรงนี้ยังมีอีกคนสนใจมั้ยครับ”
“แหมน้องฟินเนี่ยอย่ามาพูดเล่นนะพี่บุษเอาจริงนะคะ ยิ่งห่างสามีกับลูกมาแบบนี้ด้วย”
บทสนทนาระหว่างไอ้ฟินและพี่บุษพี่พยาบาลที่เป็นคนแซวกัสเรียกเสียงหัวเราะจากทุกคนได้ ยกเว้นก็แต่ไอ้หมอตี๋คนเดียวที่นั่งเงียบและลุกขึ้นขอตัวไปพักผ่อนทันทีหลังกินเสร็จ กัสมองตามหลังมันที่เดินจากไปพร้อมถอนใจเฮือกใหญ่ออกมา หันกลับมาสบตาผมที่มองกัสอยู่ก่อนแล้วแววตาลำบากใจที่ฉายออกมาทำให้ผมเข้าใจว่ากัสคงลำบากใจทำตัวไม่ถูกเรื่องไอ้หมอพจน์อยู่ ผมเข้าใจนะเรื่องความรักนี่จะให้ตัดทันทีนี่ทำไม่ได้หรอกมันคงต้องใช้เวลา ผมก็ไม่ได้โกรธที่ไอ้หมอพจน์นั่นมาชอบกัสแค่หมั่นไส้นิดหน่อยแค่นั้น เรานั่งทานกันคุยกันไปซักพักกัสก็ขอตัวไปพักผ่อน ผมจึงเตรียมลุกตามแต่ถูกห้ามไว้ก่อนโดยกัสกระซิบบอกข้างหูว่า
“กัสขอเวลาคุยกับหมอพจน์หน่อยนะครับ” ฟังทีแรกก็ว่าจะไม่ยอมก็ใครล่ะอยากให้แฟนตัวเองไปอยู่กับผู้ชายอื่นสองต่อสอง แต่เมื่อนึกถึงหน้าไอ้หมอตี๋นั่นที่ทำหน้าหงอยๆเมื่อมองมาที่เราสองคนตอนใกล้ชิดกันก็นึกเห็นใจขึ้นมาจึงพยักหน้าตอบกลับไป
“วินให้เวลาไม่เกินยี่สิบนาที ถ้านานกว่านี้วินจะไปตามนะครับ” กัสส่งยิ้มน้อยๆอย่างขอบคุณมาให้และเดินไปทางที่พักที่ไอ้หมอพจน์เพิ่งเดินเข้าไป เมื่อลับร่างบางผมจึงหันกลับมาที่โต๊ะตอนนี้เหลือเพียงไอ้ฟินและมิค ส่วนคนอื่นขอตัวกลับที่พักแล้ว และเจอสายตาเป็นคำถามของไอ้ฟินที่ส่งมาให้ผมจึงส่ายหน้าปฏิเสธว่าไม่มีอะไร
“ก็ต้องสงสารอีกฝ่ายบ้างนะ คนเค้าแอบมองมานานและก็เป็นคนดีด้วย นายโชคดีมากรู้มั้ยที่กัสกลับมาคบด้วยทั้งๆที่มีคนที่ดีกว่าเข้ามาแท้ๆ” หลังคำพูดมิคผมก็ได้คิดว่าผมน่ะโชคดีมากที่กัสยังให้โอกาสเราได้คบกันอีกครั้ง ก่อนนี้ถ้ากัสจะเลือกหมอพจน์ผมก็ไม่มีสิทธิ์โวยวายอะไร ไอ้ฟินตบหลังให้กำลังใจมันคงเข้าใจหัวอกผมตอนนี้ล่ะครับก็เรามันเพื่อนสนิทกันนี่หน่า
“อาทิตย์หน้าหยุดหลายวันมิคมีโปรแกรมไปไหนมั้ย” ไอ้ฟินหันไปถามหมอตัวเล็กที่นั่งตรงข้ามกัน
“ว่าจะกลับบ้านไปหาพ่อกับแม่น่ะ แต่ยังไม่มีโปรแกรมเที่ยวนายมีอะไรล่ะ”
“ผมอยากชวนไปเที่ยวอัมพวาน่ะไปด้วยกันมั้ย เฮ้ย ไอ้วินมึงทำหน้าตกใจทำไมกูก็จะชวนเพื่อนๆไปกันหมดนั่นแหละ อยากหาที่เที่ยวว่ะช่วงนี้เบื่อๆ
กรุงเทพ”
ผมตกใจหมดไม่นึกว่าเพื่อนผมคนนี้จะรุกเร็วขนาดชวนหนุ่มน้อยออกเที่ยวซะแล้ว เมื่อช่วงบ่ายเพิ่งสังเกตว่ามันสนใจหนุ่มน้อยข้างๆนี่เองชวนมิคเที่ยวซะแล้วท่าทางมันจะเอาจริงแฮะ แต่ก็ดีเหมือนกันสัปดาห์หน้าก็ครบเดือนพอดีไปเที่ยวต่างจังหวัดก็ถือว่าเป็นการซ้อมฮันนีมูนกับกัสละกันครับ
“ยังไม่เคยไปเหมือนกันคนที่เคยไปมาเค้าติดใจกันใหญ่มีทั้งร้านขายของเลียบริมน้ำ ยิ่งของกินที่ทั้งแปลกและก็อร่อย นายฟินนายจัดการเรื่องที่พักได้เลยนะเราไปด้วย อืม นับมายเดียร์ด้วยนะรายนั้นถ้าจะดีใจใหญ่บ่นอยากไปมานานแล้ว” หมอกัสยิ้มตาหยีเมื่อคิดถึงที่เที่ยวและของกิน ส่วนเพื่อนผมยิ้มน้อยๆจ้องมิคไม่กระพริบ เอาล่ะสิงานนี้ไอ้ฟินมันหวังทำคะแนนแน่ๆ
“ได้ครับ เดี๋ยวผมจัดการให้” ไอ้ฟินยิ้มตอบแต่ท่าทางงานนี้มันได้เจองานหินแน่ เพราะท่าทางหมอมิคไม่ได้รับรู้เลยว่าตนได้รับความสนใจจากเพื่อนของผมแล้ว ผมว่าไอ้ฟินเป็นรองของกินซะแล้วครับ เพราะมิคเลิกสนใจมันและหันไปนั่งทานขนมหวานที่วางอยู่ตรงหน้าแทนยิ้มหวานๆที่ไอ้ฟินส่งไปให้
“คุยอะไรกันอยู่ได้ยินว่าจะไปเที่ยว ไปไหนกันเอ่ย” เสียงหวานที่นำมาก่อนร่างบางจะเดินมานั่งที่เดิมข้างผม
สีหน้าของกัสเป็นปกติมียิ้มน้อยๆประดับหน้าแต่ตามีแววเศร้าจางๆ ผมหวังว่าทุกอย่างที่กัสไปคุยคงเรียบร้อยด้วยดี แต่ผมคงไม่ถามกัสว่าคุยอะไรกับไอ้หมอพจน์บ้าง ด้วยเชื่อว่ากัสคงจัดการเรื่องหมอพจน์ได้อย่างดีที่สุดและมั่นใจในรักที่กัสมีให้ผม เพราะถ้ากัสจะชอบไอ้หมอพจน์ก็คงคบกันไปแล้วก่อนที่เราจะคืนดีกัน และเชื่อว่าถ้ามีปัญหาที่แก้ไม่ได้กัสจะต้องบอกผมแล้วเราจะหาทางออกด้วยกัน ผมกอบกุมมือบางมาบีบแน่นและส่งยิ้มให้กำลังใจคนน่ารัก ส่วนกัสกระชับมือตอบพร้อมส่งยิ้มให้ผมได้สบายใจว่าทุกอย่างเรียบร้อยดี
“เราคุยกันว่าจะไปอัมพวาอาทิตย์หน้าที่หยุดยาวกัสห้ามปฏิเสธนะ เราไม่ได้เที่ยวด้วยกันนานแล้ว” มิคเอ่ยชวนและรวบรัดเพื่อนให้ตกลงไปเที่ยวด้วยกัน ทำเอากัสอดหัวเราะเพื่อนตัวเองไม่ได้
“ฮึๆๆ คร้าบ กัสไปด้วยอยู่แล้วชวนมายไปด้วยนะเห็นอยากไปมานานแล้ว”
“แน่นอน ถ้าไม่ชวนเราสองคนโดนบ่นหูชาแน่ๆ คิกๆๆ” เพื่อนกลุ่มนี้นี่เค้ารักและรู้ใจกันจริงๆไปไหนไปด้วยกันตลอด
บรรยากาศของเราสี่คนที่นั่งอยู่ชื่นมื่นขึ้นมาทันตาเมื่อคุยเรื่องไปเที่ยว ต่างวางแผนกันว่าจะไปที่ไหนบ้างแวะซื้อของฝากอะไร นี่ขนาดยังไม่ได้ไปนะสงสัยถ้าไปจริงๆคงวุ่นวายน่าดู ส่วนผมไม่ได้แสดงความคิดเห็นอะไรแต่แอบวางแผนเรื่องซ้อมฮันนีมูนอยู่ในใจคนเดียว
“วินเป็นอะไร ยิ้มคนเดียวอยู่ได้กัสจะเข้าบ้านแล้วนะ”
อ้าว ที่รักทำไมเดินไปถึงนู่นแล้วล่ะทิ้งกันเฉยเลย แค่แอบคิดอะไรๆนิดเดียวเอง ผมรีบลุกและก้าวเข้าหาคนรักที่ยืนรอด้วยใบหน้าหน้าประดับยิ้มละไม ‘คนอะไรน่ารักได้ทุกอิริยาบถเลย’
.................................
โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ ^O^
ตอนนี้เป็นจุดเริ่มต้นของมิคฟินนะคะใครคิดถึงยกมือขึ้น

และชิวๆกันไป ติดตามกัสวินต่อวันพรุ่งนี้ค่ะ
บวกเป็ดให้ทุกเม้นท์แล้วนะคะ
ปล.เหลืออีก 1 สัปดาห์จะปิดโอนและจองแล้วใครสนใจรับหนุ่นๆไปกอดรีบหน่อยน้าเปิดจอง & โอน หนังสือตั้งแต่ วันนี้ ถึง 16 ก.ค. 55 
1.เสน่ห์รักปักใจ 1 เล่ม (ฉบับรีไรท์) >>> กัส+วิน
38 ตอน 5 ตอนพิเศษ
จำนวน 420 หน้า ราคาเล่มละ 350 บาท