สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก (นิยายขนาดสั้น) ....ตอนที่ 8+บทส่งท้าย [29/6/2555]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก (นิยายขนาดสั้น) ....ตอนที่ 8+บทส่งท้าย [29/6/2555]  (อ่าน 52361 ครั้ง)

ออฟไลน์ พี่วันเสาร์

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1381
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +282/-3
ปลื้มใจแทนพี่เอสจริงๆที่มีปอมที่รักมั่นคง :o8:
พี่เอสเริ่มใจอ่อนแล้วปอมรุกอีกนิดเดี๋ยวมีเฮ :laugh:

yayee2

  • บุคคลทั่วไป
สายใยระทวยไปเลย อิ อิ

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
พี่เอสจะรอดปลอดภัย จนครบ 2 อาทิตย์มั้ยเนี่ย แอร๊ยยย  แต่ไม่อยากให้รอดนะ 55555555555

ออฟไลน์ nongrak

  • ยังไงก็รักคาเมะจังที่สุด
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +912/-14
บิลน่ารักแถมชอบหยอดพี่เอสอย่างนี้
เดี๋ยวพี่เอสก็ใจอ่อนยอมรับรักน้องบิลเอง

+1+เป็ดให้เรื่่องน่ารักๆแบบนี้

kakuro

  • บุคคลทั่วไป
บิลต้องเอาพี่อาร์มเป็นพวกก่อนมั้ง
แต่ใจพี่เอสไปอยู่กับบิลเกือบหมดแล้วล่ะ :-[

ออฟไลน์ Xenon

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 705
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-4


/5



   สายใยนอนฟุบหน้ากับโซฟาด้วยความอับอาย ในขณะที่วิลเลียมนั้นกำลังผัดข้าวให้เขากิน และลอบมองร่างบางบนโซฟาเป็นระยะด้วยความเอ็นดู

   ‘บ้าจริง เกือบไปแล้ว ...นี่ถ้าท้องไม่ร้องขึ้นมา จะไปถึงไหนต่อไหนกันนะเรา’

   สายใยคิดในใจอย่างนึกตำหนิตัวเอง ที่ดันเคลิบเคลิ้มไปกับสัมผัสของชายหนุ่มจนเผลอลืมตัวลืมตนแบบนี้ ยิ่งนึกถึงใบหน้าตกใจกึ่งขำของอีกฝ่าย ก็ยิ่งทำให้เขาอับอายมากยิ่งขึ้น

   “เสร็จแล้วครับพี่เอส มากินกันเถอะครับ พออิ่มแล้วจะได้ไม่มีอะไรขัดจังหวะอีก”

   วิลเลียมบอกพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ทำเอาคนที่เงยหน้ามามองหน้าแดงก่ำ แล้วก้มหน้าซุกโซฟาไปอีกรอบ

   “หึ ๆ ขอโทษครับ ไม่แหย่แล้ว มากินข้าวกันเถอะครับนะ หิวไม่ใช่หรือ”

   ชายหนุ่มบอกกึ่งขำกึ่งเอ็นดู สายใยนอนอยู่แบบนั้นครู่หนึ่งแล้วจึงเงยหน้าขึ้น ใบหน้ายังคงแดงระเรื่ออยู่ให้เห็น จนวิลเลียมต้องเผลอกลืนน้ำลายลงคอ เพราะสีหน้าแบบนั้นมันช่างดูน่ารักเหลือเกินในสายตาของเขา

   “กินข้าวกันเถอะพี่”

   วิลเลียมยิ้มน้อย ๆ ให้ ซึ่งสายใยก็พยักหน้าค่อย ๆ เพราะเขาก็เริ่มรู้สึกหิวขึ้นมาเหมือนกัน

   “อร่อยดีนี่”

   สายใยเอ่ยชมหลังจากที่เคี้ยวคำแรกที่ตักเข้าปาก วิลเลียมยิ้มกว้างอย่างดีใจ ทำให้คนกินชะงัก หน้าแดงน้อย ๆ แล้วก้มหน้าก้มตากินต่อไปเงียบ ๆ

   “อยากอยู่กับพี่แบบนี้ไปทุก ๆ วันจังเลยนะ ได้คุยกับพี่ ...เห็นพี่ยิ้ม ...เห็นพี่มีความสุข”

   วิลเลียมพึมพำ แต่พอเห็นสายใยหยุดมือและมีสีหน้าลำบากใจ เขาก็ถอนหายใจเบา ๆ แล้วกินข้าวผัดในจานของตนไปเงียบ ๆ เช่นเดียวกัน จนกระทั่งทั้งคู่กินหมดวิลเลียมจึงเก็บจานเปล่าไปล้าง โดยที่สายใยทักท้วงตามมา

   “เดี๋ยวพี่ล้างเอง บิลไม่ต้องล้างหรอก”

   “ไว้หายดีแล้วจะปล่อยให้ล้างนะครับ ตอนนี้นั่งรอเฉย ๆ ก่อนนะ”

   วิลเลียมหันมาบอกยิ้ม ๆ ทำให้คนท้วงต้องนั่งเงียบ แล้วเฝ้ามองแผ่นหลังของอีกฝ่าย ก่อนจะหวนคิดถึงคำพูดและการกระทำที่ผ่านมาของชายหนุ่ม แล้วเขาก็ต้องก้มหน้ามองโต๊ะ เม้มปากน้อย ๆ อย่างไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน

   “พี่เอส...พี่...เป็นอะไรหรือเปล่าครับ เหม่อเชียว”

   วิลเลียมที่ล้างจานเสร็จ เดินมาถามคนที่กำลังนั่งเหม่อ สายใยสะดุ้งเฮือก เมื่ออีกฝ่ายเอื้อมมือมาจะจับไหล่เขา  ท่าทางตกใจและพยายามจะเบี่ยงหลบ ทำให้วิลเลียมชะงักแล้วค่อย ๆ ดึงมือกลับมาก่อนจะฝืนยิ้ม

   “ขอโทษ...พี่คงไม่ชอบสินะ”

   “เอ่อ...คือพี่ไม่ได้ตั้งใจ...”

   สายใยพยายามจะแก้ตัว แต่ก็ยังคงสับสนในตัวเองเช่นเดิม เขาไม่ได้รังเกียจวิลเลียม แต่ก็ไม่อยากสานสัมพันธ์ให้มันแน่นแฟ้น มากไปกว่านี้

   “ไม่เป็นไร ผมเข้าใจ ... แล้วก็ต้องขอโทษด้วยนะครับ เพราะยังไงผมก็เลิกรักพี่ไม่ได้อยู่ดี”

   วิลเลียมบอกพร้อมรอยยิ้มเศร้า ๆ ทำให้คนมองเจ็บแปลบที่ใจไปด้วย 

   “พี่จะขึ้นชั้นสองเลยหรือเปล่า ผมว่าจะไปนอนพักสักหน่อย ถ้าพี่จะไป ผมจะอุ้มพี่ขึ้นไปให้”

   “...เอ่อ พี่ขอนั่งเล่นอยู่แถวนี้ดีกว่า”

   สายใยปฏิเสธ ทำให้อีกฝ่ายหน้าซึมยิ่งขึ้นไปอีก เจ้าตัวพยักหน้ารับรู้ แล้วจึงเดินกลับขึ้นไปชั้นบน พอสายใยได้ยินเสียงปิดประตู เขาจึงถอนหายใจออกมาแผ่วเบา

   “ขอโทษนะบิล ...ยังไงพี่ก็ทำตามคำสัญญานั่นไม่ได้ ...ไม่ใช่รังเกียจบิลนะ แต่พี่...”

   ชายหนุ่มกลืนคำพูดที่เหลือไว้ในลำคอ เขานอนเอนกายลงบนโซฟา หลับตาลงเพื่อข่มความสับสนในใจซึ่งกำลังเกิดขึ้นในยามนี้

   

   สายใยนอนหลับยาวโดยที่ตัวเขาเองก็ไม่รู้สึกตัว แต่พอได้ยินเสียงใครคุยกันเบา ๆ แว่วมาเข้าหู เขาก็ลืมตาตื่นขึ้น แล้วก็ต้องพบว่าตนนั้นกำลังนอนอยู่บนเตียงในห้องของตัวเอง

   “พี่ฝากเอสด้วยนะบิล ไว้พี่จะมาเยี่ยมใหม่”

   เสียงทุ้มที่ดังลอดมาจากประตูห้องที่เปิดแง้มทิ้งไว้ ทำให้สายใยขมวดคิ้วเพราะจำได้ว่านั่นคือเสียงของสิทธาพี่ชายของตน

   “ไม่ต้องห่วงนะครับพี่อาร์ม ผมจะดูแลพี่เอสเป็นอย่างดี”

   เสียงของวิลเลียมตอบกลับไป แล้วจึงตามมาด้วยเสียงถอนหายใจเฮือกใหญ่ของอีกคนที่ดังขึ้น จากนั้นสายใยก็ได้ยินเสียงฝีเท้าหนัก ๆ ค่อย ๆ ห่างออกไป สักพักประตูห้องจึงเปิดออกมา พร้อมกับร่างของใครบางคนที่กำลังทำให้หัวใจของเขาสับสนปั่นป่วนในช่วงนี้

   “อ้าว ตื่นแล้วหรือครับพี่เอส เป็นไงครับ หิวหรือยัง เดี๋ยวผมยกข้าวเย็นขึ้นมาให้พี่นะ”

   วิลเลียมทักทายอย่างยิ้มแย้ม แววตานั้นก็แสดงออกว่าห่วงใยเอาใจใส่เขา จนสายใยต้องรีบหลบตา หน้าร้อนวูบวาบขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่

   “เอ่อ...ขอบคุณ พี่ยังไม่หิวหรอก...อ๊ะ จริงสิ เมื่อครู่พี่อาร์มมาหรือเปล่า?”

   สายใยรีบเปลี่ยนเรื่องคุย ร่างสูงที่มองอยู่ขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่ก็ตอบคำถามไปตามตรง

   “ครับ มาได้สักพักแล้ว แต่พี่เอสหลับอยู่ ผมกับพี่อาร์มเลยไปนั่งคุยกันด้านล่าง นี่เมื่อครู่พี่อาร์มเขาก็แวะมาดูพี่อีกรอบ แต่เห็นพี่ยังไม่ตื่นก็เลยไม่ได้ปลุก ตอนนี้ก็กลับไปแล้วครับ”

   สายใยพยักหน้ารับรู้ ก่อนจะนึกขึ้นได้อีกเรื่อง

   “แล้วพี่ขึ้นมานอนบนห้องนี้ได้ไง...เอ่อ...บิลพามาหรือ”

   ชายหนุ่มถามตะกุกตะกัก วิลเลียมอมยิ้มแล้วพยักหน้า

   “ครับ ผมกลัวพี่จะนอนลำบาก เลยอุ้มขึ้นมา.... ไม่ต้องห่วงนะครับ ไม่ได้ล่วงเกินอะไร”

   ท้ายประโยคเจ้าตัวแย้มยิ้มน้อย ๆ แหย่ ทำให้คนฟังหน้าแดงวาบ แล้วรีบหลบตาอีกครั้ง ใจเต้นแรงอย่างไม่คิดว่าจะเป็นได้ ทั้ง ๆ ที่เฝ้าบอกตัวเองว่าไม่ได้สนใจอะไรอีกฝ่ายเลยแท้ ๆ

   “พี่เอส ...เป็นอะไรไปครับ ...เจ็บตรงไหนอีกหรือเปล่า”

   วิลเลียมแกล้งถาม ทั้งที่มองสีหน้าอีกฝ่ายก็พอจะเดาได้ เขาซ่อนยิ้มไว้ในสีหน้าแล้วทำเป็นวิตกกังวลพร้อมกับขยับมาทรุดนั่งบนเตียงของชายหนุ่ม

   “เอ่อ...พี่ ...เปล่า...คือ...ไม่ได้เจ็บอะไร”

   สายใยบอกเสียงสั่น นึกโมโหตัวเองที่จะพูดจะทำอะไรก็ดูติดขัดไปเสียหมด

   “หรือครับ...ถ้าอย่างนั้นผมก็โล่งอก”

   วิลเลียมบอกพลางถอนหายใจ พร้อมกับยิ้มน้อย ๆ อย่างอ่อนโยน ทำให้คนมองสบตาด้วยหัวใจกระตุกวูบ ใบหน้าร้อนวูบวาบเมื่อมือใหญ่เอื้อมมาลูบเส้นผมของตนแผ่วเบา

   “คิดถึงสมัยก่อนจังนะครับ เวลาผมเจ็บหรือมีแผล พี่ก็จะคอยปลอบ คอยดูแลอยู่ใกล้ ๆ ตลอด ...พี่รู้ไหม ตอนนั้นผมมีความสุขมาก จนบางครั้งผมยังแอบคิดว่า เจ็บบ่อย ๆ ก็ดีนะ จะได้มีพี่คอยห่วงแบบนี้ไปเรื่อย ๆ”

   วิลเลียมเล่าถึงอดีตสมัยตนยังเป็นเด็กน้อย ทำให้สายใยนึกตามแล้วหลุดอมยิ้มนิด ๆ ก่อนจะสะดุ้งโหยงเมื่อลมหายใจร้อน ๆ จากคนใกล้ตัวเป่ารินรดมาใกล้ใบหน้าของเขา

   “พี่เอส... ผมรักพี่นะ”

   คำสารภาพรักหวาน ๆ พร้อมแววตาวาววามที่ส่งประกายความรักอย่างไม่คิดปิดบัง สะกดให้สายใยนิ่งอึ้ง ไม่คิดปฏิเสธหรือหลีกหนี เขาค่อย ๆ ปรือตาลงเมื่อใบหน้าของอีกฝ่ายขยับเข้ามาชิดมากขึ้นทุกที

   “บิล...พี่...อืม...”

   เสียงเรียกชื่อชายหนุ่มแผ่วเบา ก่อนที่ริมฝีปากจะถูกประทับลง ทำให้คำพูดที่คิดจะบอกออกไปถูกกลืนหายในลำคอ ทว่าผู้รุกรานก็ไม่คิดสนใจว่าร่างบนเตียงจะพูดอะไร เพราะยามนี้เจ้าตัวกำลังเพลิดเพลินกับการลิ้มรสริมฝีปากและเรียวลิ้นหวานชื้นอย่างหรรษา

    “อะ...อืม...พอเหอะบิล...”

   สายใยครางกระเส่า เมื่อร่างสูงกว่าเริ่มไม่พอใจแค่ริมฝีปาก แต่กลับซุกหน้าไซ้ไปทั่วลำคอและลงมาถึงแผ่นอกเนียน เสื้อที่เขาสวมอยู่ถูกโยนไปไว้ข้างเตียง ส่วนกางเกงก็กำลังถูกอีกฝ่ายปลดเปลื้องออกอย่างไม่รีบร้อนนัก

   “พี่เอส...ให้ผมเถอะนะ...ผมอยากกอดพี่”

   วิลเลียมพึมพำเสียงต่ำด้วยความลุ่มหลงในสัมผัสอันแสนหวานที่ได้รับจากร่างบาง

   “มะ...ไม่เอา...พี่...กลัว”

   สายใยบอกเสียงสั่นเมื่อมือใหญ่ดึงกางเกงของเขาลง และลูบไล้ไปทั่วสะโพกแผ่วเบา แม้จะมีชั้นในผ้าฝ้ายนุ่มสวมอยู่ แต่ชายหนุ่มก็ยังคงรู้สึกเสียววาบไปทั่วท้องอยู่ดี

   “ยะ...อย่า...อ๊ะ! เจ็บ!”

   สายใยหลุดอุทานเมื่อมือใหญ่บีบเค้นที่สะโพกเขาหนักขึ้นอย่างเผลอตัว ทำเอาวิลเลียมชะงัก หยุดมือ อารมณ์วาบหวามหายไปเกือบหมด

   “พี่เอส! เจ็บมากไหม! ผมขอโทษ...ผมลืมไปว่าพี่เจ็บอยู่”

   ชายหนุ่มผู้อ่อนเยาว์กว่าเงยหน้ามาละล่ำละลักขอโทษด้วยแววตาสำนึกผิด ทว่าสายใยกลับไม่ได้โกรธ ที่อีกฝ่ายล่วงเกินเขาเมื่อครู่แม้แต่น้อย ทว่าเจ้าตัวกลับตอบออกไปด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาและพยายามหลบตาเต็มที่

   “ไม่เป็นไร...พี่อยากพักแล้ว”

   แม้จะรู้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้ต้องการพักผ่อนจริง แต่วิลเลียมก็จำใจพยักหน้า แล้วถอยห่างออกมายืนข้าง ๆ จ้องร่างบนเตียงด้วยใบหน้าเศร้า ๆ ก่อนจะพึมพำขอตัวกลับห้องไป

   “บ้าชะมัด...ทำไมใจง่ายแบบนี้นะเรา”

   สายใยพึมพำต่อว่าตัวเอง เพราะเมื่อวิลเลียมจากไปแล้ว เขากลับรู้สึกโหยหาสัมผัสเมื่อครู่จากชายหนุ่ม ใบหน้าแดงระเรื่อซุกหลบกับหมอนใบใหญ่ของตน พยายามข่มตาให้หลับ แม้จะทำได้ยากลำบากนักก็ตาม



   เช้าวันถัดมา สายใยขยับตัวพร้อมกับนิ่วหน้าเล็กน้อย บริเวณสะโพกยังรู้สึกช้ำระบมจากอุบัติเหตุเมื่อวาน แต่พอหวนคิดถึงเหตุการณ์เมื่อเย็น เจ้าตัวก็ต้องหน้าแดงวาบ เพราะถ้าไม่ใช่เพราะความระบมช้ำดังกล่าวจนทำให้เขาต้องหลุดร้องเจ็บออกมา มีหวังคงได้เลยเถิด แล้วต้องเจ็บบริเวณเดียวกันในอีกแบบแทนแน่

   “บ้าจริง....คิดอะไรลามกแบบนี้กันนะ”

   สายใยบ่น แล้วค่อย ๆ ยันกาย ลุกขึ้นช้า ๆ เข้าห้องน้ำทำธุระส่วนตัวจนเรียบร้อย แต่พอออกมาก็เห็นวิลเลียมนั่งรอเขาอยู่บนเตียงด้วยสีหน้าห่วงใย

   “พี่เอส...เป็นไงครับ เดินไหวแล้วหรือ”

   สายใยชะงักก่อนจะหลบตาแล้วพึมพำตอบ

   “อะ...อืม ดีขึ้นแล้ว”

   วิลเลียมจ้องคนตรงหน้าที่ไม่ยอมสบตาเขานิ่ง ก่อนที่ตัวเองจะหลุบตาลง แล้วเอ่ยออกไปเสียงแผ่ว

   “... แต่ยังไงพี่ก็ต้องทานข้าวและทานยานะครับ เมื่อวานผมลืมไป ไม่งั้นพี่คงค่อยยังชั่วไวกว่านี้”

   พอพูดถึงเมื่อวานสายใยก็หน้าแดงวาบ พยายามเบือนหน้าหนีเต็มที่ ทว่าอีกฝ่ายที่เงยหน้าขึ้นมาหลังจากนั้นไม่ทันได้เห็น เลยพาลนึกไปว่าชายหนุ่มนั้นโกรธเรื่องที่ตนทำไปเมื่อวาน

   “พี่...ผมขอโทษ...จะด่าว่าทุบตียังไงผมก็ยอม  แต่พี่อย่าเมินผมแบบนี้เลยนะ”

   สายใยสะดุ้งรีบหันกลับไปมองคนพูด แล้วก็ต้องใจหายวาบเมื่อเห็นสีหน้าและแววตาที่เจ็บปวดของอีกฝ่าย

   “ไม่ใช่นะ! พี่ไม่ได้โกรธบิลเลย! พี่...”

   สายใยรีบแก้ตัวแล้วก็ชะงักก่อนจะหน้าแดงวาบด้วยความเอียงอาย ทำให้คนมองนิ่งอึ้ง ใบหน้าสลดกลับกลายเป็นยิ้มกว้าง แล้วลุกขึ้นมากอดคนตัวเล็กกว่าแน่นอย่างยินดี

   “พี่เอส…พี่ไม่ได้โกรธไม่ได้เกลียดผมสินะ....แสดงว่าผมยังมีหวังใช่ไหม...”

   “บิล...ปล่อยพี่เถอะ...เอ่อ...พี่หิวข้าวแล้วนะ”

   สายใยบอกอาย ๆ ทำให้คนกอดอมยิ้มแล้วยอมปล่อยคนในอ้อมแขนตามมา

   “งั้นไปทานข้าวเช้าด้วยกันนะครับ ...ผมทำข้าวต้มเครื่องไว้ให้พี่ พี่ไปชิมหน่อยสิว่ากินได้ไหม”

   สายใยเบิกตามองคนตรงหน้าอย่างนึกทึ่ง ดูท่าอีกฝ่ายจะถนัดงานครัวเหมือนอย่างที่คุยเอาไว้เสียแล้ว

   “อะ...อืม”

   สายใยรีบหลบตาพยักหน้ารับคำ เพราะขืนจ้องตากันนานกว่านี้ คงไม่แคล้วจะได้อดมื้อเช้าแน่ เพราะยิ่งจ้องนัยน์ตาของอีกฝ่ายก็เริ่มเปลี่ยนเป็นหวานเชื่อมขึ้นมาแทน

   “หึ ๆ งั้นไปกันเถอะครับ”

   ดูเหมือนวิลเลียมจะรู้ตัว เขาอมยิ้มน้อย ๆ แล้วประคองร่างบางข้างกายลงไปด้านล่าง เพื่อไปรับประทานอาหารมื้อเช้าด้วยกัน



   “อร่อยจัง ...นายนี่เก่งนะ”

   สายใยชิมข้าวต้มเครื่องในชามแล้วเงยหน้าไปยิ้มชมคนทำ วิลเลียมยิ้มกว้างแล้วตอบกลับไป

   “ก็ฝึกเพื่อที่จะมาเป็นเจ้าบ่าวให้พี่นี่ล่ะ ...เวลาเราแต่งงานกัน ผมจะได้คอยดูแลปรนนิบัติพี่ ให้พี่มีความสุขยังไงล่ะครับ”

   คำตอบหวาน ๆ ทำให้คนฟังแทบสำลักข้าวต้ม ใบหน้าขาวแดงวาบ พยายามไม่เงยหน้าสบตาอีกฝ่าย ก่อนจะก้มหน้าก้มตากินข้าวต้มจนหมดชาม

   “รอสักพักค่อยทานยานะครับ”

   วิลเลียมเก็บชามไปวางไว้ในอ่างล้างจาน แล้วมานั่งจ้องหน้าอีกฝ่าย จนสายใยเริ่มอึดอัด

   “บิลไม่มีอะไรทำหรือ”

   “มีสิครับ...ก็มองหน้าพี่ไง”

   คนฟังหน้าแดง แล้วก้มหน้าหลบต่อ จนสักพักวิลเลียมก็ลุกขึ้น แล้วหยิบยาพร้อมน้ำมาวางตรงหน้าชายหนุ่ม

   “ทานยานะครับ”

   “อะ...อืม”

   สายใยรับคำแล้วทำตามอย่างไม่เกี่ยงงอน และพอทานยาเรียบร้อย เขาก็ลุกขึ้น หวังจะหนีไปทำงานบนห้อง แต่อีกฝ่ายก็รวบร่างเขาช้อนขึ้นอก แล้วกระซิบบอก

   “เดี๋ยวผมไปส่งให้ที่ห้องนะ” 

   “ตะ...แต่พี่เดินเองได้...”

   สายใยอุบอิบบอก ทว่าคนอุ้มกลับแย้งกลับด้วยใบหน้าระบายยิ้ม

   “... สะเทือนน้อย ๆ จะได้หายไว ๆ ไงครับ”

   ชายหนุ่มหน้าแดงนิด ๆ แต่ก็ยอมพยักหน้าให้อีกฝ่ายอุ้มกลับห้อง เพราะคิดว่าต่อให้แย้งไปยังไง วิลเลียมก็คงไม่สนใจฟังอยู่ดี

   เมื่อถึงห้องวิลเลียมก็วางร่างโปร่งลงบนเตียง สายใยพึมพำขอบคุณ แต่ก็ต้องชะงักคำพูดเอาไว้ เมื่อร่างสูงโน้มใบหน้าลงมาประชิดแล้วขโมยชิมริมฝีปากของเขาอย่างรวดเร็ว

   “ค่าอุ้ม ...ขอบคุณที่ใช้บริการนะครับ”

   บอกแล้ววิลเลียมก็ยิ้มแย้มพลางเดินผิวปากกลับห้องอย่างอารมณ์ดี ทิ้งให้สายใยนั่งตะลึง พอรู้สึกตัว ชายหนุ่มก็โวยวายด้วยใบหน้าแดงก่ำ พร้อมกับเขวี้ยงหมอนไปที่ประตูอย่างหงุดหงิดแกมอาย ที่ถูกแกล้งเอาเปรียบเข้าให้อีกจนได้



...TBC...

แหม....มีแต่คนเชียร์ให้พี่เอสไม่รอด ...ก็นะ  ไม่รอดแน่ แต่เป็นตอนหน้า ๆ นะคะ หุ ๆ ...ก็ติดตามกันไป เรื่องนี้เป็นนิยายขนาดสั้น เพราะงั้นอีกไม่กี่ตอนก็จบแล้วจ้า  ^^"  อ่านเอาหวาน ๆ เติมน้ำตาลให้ชีวิตแก้ขัดกันน้อ 

kakuro

  • บุคคลทั่วไป
ขอบคุณคุณปัด :L2:
พี่เอสใจอ่อนเกือบเสร็จน้องบิลแล้ว :o8:
รอวันบ่าวสาวเข้าหอ :-[

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4514
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
น้องบิลรุกหนักขนาด

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9405
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
พี่เอสไม่รอดแน่เลย น้องบิลช่างเอาใจขนาดนี้  :o8:

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






yayee2

  • บุคคลทั่วไป
บิลเร่งทำคะแนนใหญ่เลย แล้วไอ้ตีหน้าเศร้านี่แหละบิลเอ๊ยยย..
ยิ่งเป็นตัวทำคะแนนจากพี่เอสล่ะ
เร่งมือพิชิตใจให้ได้นะบิล ภายในสองอาทิตย์นี่แหละ

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
ในที่สุดก็กลับมาตามสัญญา รุกเข้าไปบิล พี่เอสจะได้ใจอ่อน

ออฟไลน์ Xenon

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 705
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-4



/6


   ...หลังจากวิลเลียมมาอยู่ร่วมใต้ชายคาเดียวกัน เวลาผ่านไปเพียงแค่อาทิตย์กว่า แต่สายใยกลับคิดว่ามันช่างยาวนานนับเดือนเลยทีเดียว แม้จะลำบากใจที่ถูกอีกฝ่ายคอยรุกเอาเปรียบ แต่ชายหนุ่มก็กลับเริ่มเคยชินจนเหมือนกับอีกฝ่ายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของเขาเข้าให้แล้ว จากที่เคยปฏิเสธขัดขืนก็เริ่มโอนอ่อนผ่อนตามโดยที่เขาเองก็ไม่ทันรู้สึกตัว

   “อรุณสวัสดิ์ครับพี่ ...เช้านี้จะทานอะไรดีครับ”

   คนที่แวะมาปลุกแต่เช้าถึงเตียงจูบอรุณสวัสดิ์พร้อมเอ่ยถาม ทำให้คนที่ปรือตาตื่นสะดุ้งเฮือก หน้าแดงก่ำ แล้วรีบยันกายลุกขึ้นนั่งเขยิบหนีไปสุดเตียงพร้อมโวยวายใส่

   “พี่บอกแล้วใช่ไหม ว่าไม่ให้เข้ามาปลุกแบบนี้!”

   วิลเลียมหัวเราะในลำคอ ก่อนจะแสร้งตีหน้าเศร้าสลด แล้วเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา

   “ขอโทษครับ...ผมผิดเอง พี่อย่าเกลียดผมเลยนะ”

   สายใยสะดุ้งเฮือก พอเห็นใบหน้าแบบนั้นของอีกฝ่ายก็ทำเอาเขาใจอ่อน แล้วจึงอ้อมแอ้มตามมา

   “พี่ก็ไม่ได้เกลียด ...เอาเป็นว่า ถ้าคราวหน้าจะเข้ามา ช่วยเคาะประตูห้องสักหน่อยก็แล้วกัน”

   วิลเลียมซ่อนยิ้มในสีหน้า แล้วจึงเอ่ยถามต่อ

   “ถ้าเคาะแล้วพี่ยังไม่ตื่น จะเข้ามาเลยได้ไหมครับ”

   สายใยขมวดคิ้วมองหน้าคนถาม แต่พอเห็นใบหน้าและดวงตาใสซื่อคู่นั้น ก็ทำให้เขาถอนหายใจก่อนจะพยักหน้าตอบรับ

   “ถ้าอย่างนั้นก็ได้...แต่ไม่ต้องมาจูบแบบนี้...พี่ไม่ชิน”

   ใบหน้านั้นแดงระเรื่อเมื่อหวนคิดถึงจูบยามเช้า เพราะแทนที่วิลเลียมจะจูบแก้ม หรือหน้าผาก แต่ชายหนุ่มกลับจูบที่ริมฝีปากเขาแทน ซึ่งเขามั่นใจว่ามันไม่น่าจะใช่ความเคยชินของวัฒนธรรมเป็นแน่ นอกจากชายหนุ่มจะจงใจเสียเองมากกว่า

   “ถ้าที่แก้มล่ะครับ...”

   วิลเลียมต่อรอง ทำเอาสายใยชะงัก แต่ในที่สุดเขาก็ต้องกลืนคำตอบปฏิเสธลงคอ เมื่อเห็นแววตาร้องขอที่จับจ้องมาอย่างน่าสงสารคู่นั้น

   “ก็ได้...”

   “รักพี่เอสที่สุดในโลกเลยครับ”

   วิลเลียมบอกแล้วกอดรัดร่างบนเตียงหมับ ก่อนจะหอมแก้มซ้ายขวาของอีกฝ่ายอย่างหากำไร ทำเอาสายใยนิ่งอึ้ง พูดอะไรไม่ออก

   “ถ้าอย่างนั้นผมจะไปรอข้างล่างนะครับ ...หรือว่าพี่อยากให้ผมช่วยถูหลังให้ตอนอาบน้ำ ก็บอกนะครับ ผมยินดีบริการ”

   ชายหนุ่มบอกแล้วยิ้มกว้างติดเจ้าเล่ห์ ทำเอาสายใยหน้าแดงวาบ แล้วไล่ให้เจ้าตัวออกนอกห้องไป ก่อนที่เขาจะเดินคว้าผ้าขนหนูเข้าไปในห้องน้ำ ล็อกห้องแน่นหนา ก่อนจะยืนใจเต้นแรงอยู่ในนั้นพักใหญ่ แล้วจึงเริ่มลงมืออาบน้ำชำระล้างร่างกายของตนในเวลาถัดมา

   

   วิลเลียมมองคนที่กำลังเดินลงมาจากชั้นสองด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน ... หลังจากที่สายใยหายจากอาการเคล็ดขัดยอก เขาก็ตัดสินใจว่าจะไม่รีบร้อนลงมือเร่งรุกเข้าหาอีกฝ่ายเหมือนอย่างที่ผ่านมา เพราะเขาอยากให้สายใยเริ่มเคยชินกับตัวเขา มากกว่าที่จะกลัวเขาจนเผลอทิ้งระยะห่าง  ซึ่งถึงแม้มันจะใช้เวลาสักหน่อย แต่ผลของมันก็ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกพึงพอใจ และคิดว่า นี่คงถึงเวลาแล้วที่เขาจะเริ่มลงมือสานสัมพันธ์ขั้นต่อไปสักที...

   “พี่เอสครับ เช้านี้จะกินอะไรดีครับ เดี๋ยวผมทำให้”

   หน้าที่ทำอาหาร เป็นอีกหน้าที่หนึ่งที่วิลเลียมยึดมาจากสายใย เพราะอยากปรนนิบัติเอาใจคนที่เขารักคนนี้ให้มากยิ่งขึ้น

   “นายนี่นะ ...ถ้าเจ้านายพี่อาร์มมาเห็นพี่คงโดนดุแย่เลย”

    สายใยพึมพำพลางถอนหายใจ เพราะต่อให้ปฏิเสธยังไงเพื่อนสมัยเด็กของเขาคนนี้ก็ยังคงดื้อรั้นไม่ยอมฟังสักนิด

   “ไม่เห็นเกี่ยวเลยครับ อีกอย่างมาอาศัยบ้านพี่อยู่ ขืนไม่ช่วยแบ่งเบาภาระอะไรเลย แม่ผมรู้เข้า คงโดนดุเหมือนกัน”

   วิลเลียมโต้กลับ ทำให้สายใยชะงัก ก่อนจะหลุดยิ้มออกมาน้อย ๆ อย่างยอมแพ้ และตอนเช้าเขาจึงอาสาเป็นผู้ช่วยชายหนุ่มแทน เพราะตระหนักดีว่าวิลเลียมนั้นมีฝีมือในการทำครัวดีกว่าเขาอยู่หลายเท่านัก

   “นึกถึงเมื่อตอนเด็กจังนะครับ ....ตอนนั้นผมกับพี่โดนป้าดาบ่นแทบแย่ ที่ทำครัวซะเละเทะไปหมด”

   สายใยสะดุ้งนิด ๆ ที่ถูกพาดพิง เขายิ้มแห้ง ๆ ส่งให้อีกฝ่าย แต่ไม่ได้บอกกับวิลเลียมให้ทราบว่า แม้กระทั่งตอนโต ลองเขาได้เข้าไปช่วยมารดาทำครัวเมื่อไหร่ ก็มักจะถูกบ่นและไล่ออกมานั่งรอแทนเป็นประจำเสมอไม่เปลี่ยนล่ะนะ

   “บิล...ต้องใส่น้ำตาลกี่ช้อนน่ะ”

   สายใยหันมาถามคนข้างกาย แต่พอเขาเงยหน้ารอคำตอบก็ถูกอีกฝ่ายขโมยจูบริมฝีปากเข้าให้อย่างรวดเร็ว ก่อนจะแสร้งทำเป็นเฉไฉตอบคำถามอีกฝ่ายเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

   “น้ำตาลหรือครับ ...ช้อนเดียวก็พอแล้ว”

   วิลเลียมบอกพร้อมรอยยิ้มหวาน ทำเอาสายใยหน้าแดงระเรื่อแล้วรีบก้มหน้าหลบตาเตรียมจะตักน้ำตาลพูนช้อนใส่ลงไปในผัดผักตรงหน้า ทำเอาวิลเลียมสะดุ้ง แล้วรีบจับมืออีกฝ่ายปรามเอาไว้ก่อน

   “เดี๋ยวผมปรุงเองดีกว่า พี่เอสช่วยผมหั่นผักทีนะครับ”

   วิลเลียมบอกพร้อมรอยยิ้มอ่อนหวาน จนคนมองตอบหน้าแดง และพยักหน้ารับ โดยไม่ทันได้เฉลียวใจว่าตัวเองโดนกันท่าออกจากการปรุงรส เพราะอีกฝ่ายเกรงว่ารสชาติจะออกมากินไม่ได้นั่นเอง

   

   และแล้วมื้อเช้าที่แสนอร่อยก็ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี  วิลเลียมยืนช่วยเป็นลูกมือสายใยล้างจาน เพราะชายหนุ่มไม่ยอมยกหน้าที่ทั้งหมดให้แขกแน่ แม้ว่าอีกฝ่ายจะสนิทสนมรู้จักกันมาตั้งแต่เด็กก็ตาม

   “พี่เอส ...อยากจูบพี่จัง”

   คำพูดเปรยเบา ๆ ทำให้คนที่ยื่นจานที่ล้างแล้วส่งให้อีกฝ่ายเก็บ แทบจะทำจานตกมือ สายใยหน้าแดงวาบ แล้วหันไปโพล่งใส่ด้วยความเขิน

   “ไม่ได้!”

   “ทำไมล่ะ ...แค่จูบเอง ผมอุตสาห์ทำตัวเป็นเด็กดี  ไม่ย่องเข้าหาพี่ในตอนกลางคืนแล้วแท้ ๆ ... ไม่งั้นนอนหลับไม่รู้เรื่องรู้ราวอย่างพี่ ผมลักหลับไปก็ไม่รู้สึกตัวหรอก”

   วิลเลียมออดอ้อน แต่คำอ้อนของเขากลับทำให้คนฟังหน้าร้อนวูบวาบ มือไม้สั่นจนต้องวางจานลง เห็นดังนั้นวิลเลียมจึงจับสายใยล้างมือ และปิดน้ำก๊อกให้เรียบร้อย ก่อนจะประคองมานั่งโซฟาด้วยกัน โดยที่สายใยเองไม่ได้ขัดขืน แถมยังใจเต้นแรงโดยที่เขาก็ห้ามไม่อยู่อีกต่างหาก

   “พี่ก็รู้ว่าผมรักพี่...อยากกอดพี่... ที่ผมต้องอดทนจนถึงตอนนี้ก็เพราะกลัวพี่เกลียดกลัวผม...ถ้าผมเผลอไปบังคับขืนใจพี่เข้า”

   วิลเลียมบอกตรง ๆ ทำให้สายใยยิ่งหน้าแดง ใจเต้นแรงจนเจ้าตัวก็กลัวว่าอีกฝ่ายจะได้ยินเข้าให้  ทางด้านวิลเลียมนั้นลอบเฝ้าสังเกตปฏิกิริยาของอีกฝ่ายตลอด ชายหนุ่มลอบยิ้มนิด ๆ ที่เห็นสายใยหวั่นไหวกับเขา เจ้าตัวจึงโน้มใบหน้าเข้าไปใกล้อีกฝ่ายมากขึ้น พร้อมกับกระซิบด้วยถ้อยคำอ่อนโยน

   “พี่ครับ... ผมรักพี่จริง ๆ นะ”

   วิลเลียมบอกพร้อมกับโน้มใบหน้าใกล้อีกฝ่ายลงไปทุกขณะ ทว่าสายใยกลับไม่ขัดขืนอันใด คำพูดบอกรักครั้งล่าสุดที่เขาได้ยิน สะกดเขาให้หยุดนิ่งและค่อย ๆ หลับตาพริ้มรอคอยจูบนั้นอย่างเคลิบเคลิ้ม

   “อือ...บิล...พี่...อ๊ะ...”

   คนที่กำลังโดนเล้าโลมครางประท้วงแผ่วเบาเมื่อวิลเลียมเริ่มกระทำมากยิ่งกว่าจูบ แต่กลับลูบไล้ไปทั่วเรือนร่างของเขาและค่อย ๆ ปลดเปลื้องเสื้อผ้าของเขาทีละชิ้น โดยที่สายใยไม่อาจต้านทานได้

   “พี่เอสของผม... สวยจริง ๆ”

   วิลเลียมเงยหน้าขึ้นมองผลงานของตัวเองอย่างชื่นชม ร่างเปลือยเปล่าที่ยามนี้แดงระเรื่อไปแทบทั้งร่าง โดยเจ้าของร่างหลับตาหนี และพยายามกลั้นเสียงครางของตัวเองอย่างสุดฤทธิ์

   “พี่เอส...อย่ากัดปากแบบนั้นสิครับ...ผมอยากได้ยินเสียงของพี่จัง”

   วิลเลียมอ้อนไปพลางลูบไล้ผิวกายอันน่าหลงใหลของคนที่เขาหลงรักไปพลาง ในที่สุดสายใยก็ทนไม่ไหว ปล่อยเสียงครางหลุดจากริมฝีปากออกมาแผ่วเบา

   “อา...บิล...พอเถอะ...พี่รู้สึกแปลก ๆ...จะแย่อยู่แล้ว...ฮึก!”

   แผ่นอกขาวสะท้านเฮือก เมื่อริมฝีปากของชายหนุ่มผู้อ่อนเยาว์กว่าเม้มยอดอกของเขาแรง ๆ ข้างหนึ่ง ส่วนอีกข้างก็ถูกนิ้วมือบีบคลึงกระตุ้นให้ความสุขไม่แตกต่างกันนัก

   “พี่ครับ...ขอผมได้ไหมครับ...นะครับ”

   วิลเลียมครางเสียงกระเส่าพร้อมกับเล้าโลมร่างตรงหน้าด้วยความรักใคร่   ความปรารถนาที่เก็บงำมาตลอดระยะเวลาสิบห้าปี มันทำให้เขาเริ่มควบคุมตัวไม่ไหว จนถึงแม้จะได้ยินคำปฏิเสธจากอีกฝ่าย ชายหนุ่มก็คิดว่าเขาคงจะหยุดตัวเองไม่ได้แล้วเป็นแน่

   “อื๊อ...บิล...พี่....อ๊า!”

   สายใยอุทานเมื่อถูกล่วงล้ำด้วยนิ้วเรียวยาวของอีกฝ่าย เจ้าตัวดิ้นพล่านสั่นศีรษะไปมาด้วยความเจ็บปวด วิลเลียมรีบปลอบประโลมและเฝ้าจุมพิตพลางลูบไล้กระตุ้นอารมณ์ชายหนุ่มไปทั่วเรือนร่าง จนสายใยเริ่มกลับมาคล้อยตามอีกครั้ง

   “พี่ครับ...ผมสัญญานะ ... ว่าผมจะอ่อนโยนกับพี่”

   วิลเลียมกระซิบแผ่วเบา เขาดึงนิ้วออกจากร่างของชายหนุ่มและค่อย ๆ แทนสิ่งนั้นไปด้วยส่วนที่แข็งขึงและเติมเต็มเสียยิ่งกว่า ...เสียงกรีดร้องดังขึ้นด้วยความเจ็บปวด และอาการเกร็งตอดรัดทำให้วิลเลียมนิ่วหน้า ทว่าชายหนุ่มก็ใช้ความอดทนไม่ผลีผลาม และยังคงปลอบประโลมให้ร่างในอ้อมกอดหายหวาดกลัว จนกระทั่งสายใยเริ่มเคยชินกับสิ่งแปลกปลอมซึ่งอยู่ในร่างของตน

   “เราจะมีความสุขไปด้วยกันนะครับ...ผมสัญญา”

   วิลเลียมกระซิบบอกอย่างอ่อนโยน ทำให้คนที่มีใบหน้านองน้ำตา สะอื้นนิด ๆ ก่อนจะฝืนยิ้มตอบ แล้วจากนั้นสายใยจึงปล่อยกายปล่อยใจให้อีกฝ่ายนำไปอย่างไม่คิดขัดขืน จวบจนกระทั่งทั้งเขาและอีกฝ่ายได้ถึงฝั่งฝัน และปลดปล่อยออกมาในเวลาไล่เลี่ยกันในที่สุด...

   

   วิลเลียมอุ้มร่างของสายใยมาไว้บนเตียงชั้นสอง พร้อมกับเช็ดเนื้อตัวทำความสะอาดให้อีกฝ่ายอย่างรักใคร่ รู้สึกดีใจที่ได้เป็นหนึ่งเดียวกับคนที่เขาเฝ้ารักมาตลอดตั้งแต่เด็กคนนี้ได้สักที

   “พี่เอสครับ...พี่เป็นของผมแล้วนะครับ นับจากนี้ไปผมจะคอยดูแลพี่ตามสัญญาที่เคยให้ไว้...ผมรักพี่มากเลยนะ”

   ร่างสูงพึมพำแล้วจึงก้มลงจูบหน้าผากคนที่นอนหลับอย่างอ่อนเพลียบนเตียง ก่อนจะเอนกายลงนอนข้าง ๆ และกอดร่างนั้นแน่น พร้อมกับหลับไปด้วยกันในเวลาต่อมาจากนั้นไม่นาน

   

   ...สายใยปรือตาขึ้นมามองรอบด้านอย่างลำบาก เขารู้สึกปวดเมื่อยเนื้อตัวไปหมด แต่เพราะเสียงดังโวยวายที่ได้ยินจึงทำให้เขาไม่อาจจะนอนอยู่เฉยได้

   “อืม...อะไรกันนะ...หนวกหูจริง...”

   ชายหนุ่มพึมพำ แล้วก็ต้องชะงักเมื่อเห็นภาพพี่ชายกำลังยืนอยู่ตรงบริเวณหน้าห้อง สีหน้าของอีกฝ่ายบ่งบอกถึงความโมโหเต็มที่ ส่วนวิลเลียมเองก็ยืนอยู่ด้วยกัน ทว่าริมฝีปากของเจ้าตัวนั้นบวมเจ่อและมีมีเลือดไหลซึมริมฝีปากออกมาให้เห็น

   “เกิดอะไรกันน่ะพี่...บิล...”

   วิลเลียมหันมาฝืนยิ้มน้อย ๆ ให้กับสายใย แล้วหันไปมองสิทธาด้วยแววตาจริงจัง

   “ผมขอโทษที่ล่วงเกินน้องชายพี่อาร์ม ...แต่ผมรักพี่เอสจริง ๆ ต่อให้พี่รังเกียจ หรือจะทุบตีผมยังไง ผมก็ไม่มีวันยอมปล่อยมือจากพี่เอสไปแน่!”

   สิทธากัดฟันกรอด ก่อนจะสบถอะไรเบา ๆ แล้วหันมาทางน้องชายของตน

   “เอส! บอกพี่มาซิ! เอสเต็มใจเอง หรือหมอนี่มันข่มขืนน้อง!”

   สายใยเงียบกริบ จ้องมองสิทธาที่มีสีหน้าเกรี้ยวกราดอย่างหวาด ๆ แต่พอหันไปเห็นสีหน้าของชายอีกคน เขาก็ต้องชะงัก แล้วปวดแปลบที่ใจกับรอยยิ้มเศร้า ๆ ของวิลเลียม

   “ผม...”

   สายใยอึกอัก เขากำผ้าห่มที่คลุมกายแน่นสักพัก ก่อนจะถอนหายใจออกมา แล้วเงยหน้าขึ้นสบตากับพี่ชายของตน

   “ขอโทษครับพี่...ผมเต็มใจ...เอ่อ...ให้บิลกอด...”

   สิทธานิ่งอึ้ง เงียบไปอึดใจ เขาเองก็รู้อยู่หรอกว่าวิลเลียมชอบสายใย แต่เขาไม่คิดว่าน้องชายของตนจะมีใจให้อีกฝ่ายด้วยแบบนี้

   “เอส...น้องก็รู้ว่าความรักแบบนี้ มันไม่เป็นที่ยอมรับของสังคม...”

   “แต่ว่า...

   วิลเลียมทำท่าจะค้าน แต่สายใยนั้นเรียกชื่อของชายหนุ่มขัดขึ้นก่อน

   “บิล”

   “พี่เอส...”

   สายใยสบตากับชายหนุ่มผู้อ่อนวัยกว่าแวบหนึ่ง ซึ่งแววตาคู่นั้นก็ทำให้วิลเลียมนิ่งไป และยอมเงียบฟังอีกฝ่ายพูดกับสิทธาแทน

   “ผมรู้ครับพี่...ตอนบิลสารภาพรักกับผม ตอนนั้นผมเองก็คิดว่ามันเป็นไปไม่ได้แน่ ...ผมต้องหาทางหลีกเลี่ยงให้ได้...แต่...”

   สายใยหยุดเว้นวรรค เขามองชายหนุ่มซึ่งได้ชื่อว่าผูกพันเป็นหนึ่งเดียวกับเขาด้วยแววตาอ่อนโยนวูบหนึ่ง แล้วจึงหันมาทางพี่ชายอีกครั้ง

   “แต่สุดท้าย ผมก็ทำไม่ได้ครับพี่...ผมทนใจแข็งใจดำ ปฏิเสธคนที่เฝ้าคิดถึงผมมาตลอดสิบห้าปีไม่ลง...พี่ครับ ...การที่มีคนหนึ่งเฝ้าคิดถึงแต่เรา ปรารถนาดีต่อเรา รักเพียงแค่เราคนเดียว ไม่เคยคิดเหลียวมองใคร ...คนแบบนั้น ไม่ใช่หรือครับ ที่จะคู่ควรให้เรารัก และคู่ควรแก่การมอบใจให้เขา ...ใช่ไหมครับพี่”

   สิทธาเงียบกริบเมื่อได้ยินคำพูดของผู้เป็นน้องชาย เขาทอดถอนหายใจยาวออกมาอย่างเหนื่อยล้า แล้วจึงหันไปมองวิลเลียมนิ่ง

   “ถ้านายทำให้น้องของฉันเสียใจ  ฉันจะไม่มีวันให้อภัยนายเลย ต่อให้นายเป็นลูกชายคนสำคัญของบริษัทคู่ค้าของบริษัทฉันก็ตาม ฉันนี่ล่ะจะลากนายมาอัดให้หนักยิ่งกว่าครั้งนี้แน่!”

   วิลเลียมจ้องหน้าอีกฝ่ายนิ่งอย่างไม่คิดหวั่นเกรง หรือข่มว่าตัวเองฐานะเหนือกว่า ทว่ากลับจ้องมองด้วยแววตาหนักแน่นจริงจัง พร้อมกับลั่นวาจาออกไป

   “แน่นอนครับพี่อาร์ม ...ผมจะไม่มีทางทำให้พี่เอสเสียใจ และจะไม่ยอมให้ใครหน้าไหนมาดูถูก หรือ รังแกให้พี่เอสเสียใจแน่”

   สิทธาจ้องมองคนตรงหน้าอย่างพิจารณา แต่ก็เห็นเพียงแววตาที่จริงจังดังเช่นคำพูดเท่านั้น

   “ดี! หวังว่าคงทำได้อย่างที่บอกแล้วกัน”

   ชายหนุ่มบอกเสียงเข้ม ก่อนจะเดินเข้ามาหาน้องชายแล้วตบไหล่อีกฝ่ายเบา ๆ

   “ยังไงก็ต้องบอกพ่อกับแม่ให้รู้ด้วยนะ”

   “ครับพี่...”

   สายใยพึมพำ ทั้งที่ยังคงหนักใจว่าจะบอกกับบิดามารดาถึงเรื่องนี้อย่างไรดี

   “ผมจะติดต่อให้พ่อกับแม่บินมาเมืองไทย เพื่อสู่ขอพี่เอสตามประเพณีครับ...”

   วิลเลียมเอ่ยขัดขึ้น ทำให้สองพี่น้องหันขวับมามองแล้วนิ่วหน้านิด ๆ ก่อนที่สิทธาจะถอนหายใจตามมา

   “เฮ้อ! อาจจะดีก็ได้ เพราะแม่กับน้าขวัญตาก็สนิทกันมากอยู่”

   สิทธาตัดบท ก่อนจะหันไปล่ำลาสายใยสักครู่ แล้วจึงขอตัวกลับบ้านไปอย่างเหนื่อยอกเหนื่อยใจ เพราะแต่เดิมแค่จะแวะมาเยี่ยมเยียนถามสารทุกข์สุขดิบน้องชาย กลับกลายเป็นว่าตอนนี้เขาได้น้องเขยเพิ่มขึ้นมาในครอบครัวแทนอย่างปุบปับ ชนิดที่เขาไม่มีโอกาสได้ตั้งตัวทำใจล่วงหน้าแม้แต่น้อย



... TBC...


ใครที่ลุ้นพี่เอสเสียตัว คงสมหวังกันแล้วสินะคะ  :o8:  สำหรับเรื่องนี้ใกล้จบก็จริงแต่ยังไม่จบ ยืดเยื้อ พร่ำเพ้อไปได้อีกสองสามตอน แหะ ๆ ...ก็แหม ได้ลูกเขาก็ต้องสู่ขอ เข้าหอกันตามประเพณีใช่ไหมล่ะ  :-[

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4514
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
ได้น้องเขยที่รักมั่นในตัวน้องชายขนาดนี้มันดีแล้วนะพี่อาร์ม

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
แอร๊ยยย และแล้ว พี่เอส ก็ใจอ่อนจนได้ แบบนี้ต้องปิดซอยเลี้ยงนะเนี่ย น้องมันรักจริงหวังแต่งซะขนาดนี้ รีบรับรักน่ะดีแล้วนะ

ถ้าคุณพี่อาร์มไม่ปลื้มน้องเขยคนนี้ อิฉันขอรับอุปการะก็ได้นะ ฮิ้วววววววววววว 555

ออฟไลน์ nongrak

  • ยังไงก็รักคาเมะจังที่สุด
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +912/-14
พี่เอสจ๋าน้องบิลรักขนาดนี้ก็ยอมๆน้องไปเถอะ

ให้เป็ดจ้า

yayee2

  • บุคคลทั่วไป
โอ้ว..ว้าว..ดีใจจัง :m4: พี่เอส  :oo1:เรียบร้อยโรงเรียนน้องบิลไปแล้ว :haun5:
งั้นมาเตรียมตั้งขบวนแห่ขันหมากกันดีกว่า เอ้า...   :m11:โห่.... ฮิ้วววว...

pattybluet

  • บุคคลทั่วไป
 :-[ ในที่สุด พี่เอสก็ใจอ่อน ฮ่าๆๆๆ ก็น้องน่ารักอ่ะเนอะ ทำไงได้ :impress2:

kakuro

  • บุคคลทั่วไป
น้องบิลทำสำเร็จแล้ว
พี่เอสยอมรับด้วยความเต็มใจ
ทีนี้ก็รอผ่านด่านพ่อแม่ทั้งคู่ :m18:

ออฟไลน์ Ju

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-2
รออ่านต่อ  o13

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






LiTTlE [A]

  • บุคคลทั่วไป
ฮิ้วววววววววววววววววว
ในที่สุดบิลก็ทำสำเร็จแล้ว
ได้พี่เอสแล้วต้องรักให้มากๆ มากกว่าปัจจุบันด้วย :impress3:
รีบๆมาขอเลย
 :กอด1:  :pig4:

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9405
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
พ่อตา แม่ยายยังไม่ดุเท่าพี่เขยเลยนะเนี่ย :laugh:
ถ้าเป็นน้องบิลต้องดูแลพี่เอสได้แน่ๆ อย่าปล่อยให้พี่เค้าลำบากนะคะ :กอด1:
ตอนนี้บ้านบิลรวยแล้ว ต้องจัดงานแต่งแบบอลังการแน่เลยใช่ไหม :o8:

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
ขอร่วมส่งตัวพี่เอสกับน้องบิลเข้าหอด้วยคน

ออฟไลน์ RoseBullet

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1027
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-2
โอ้ พี่เอสใจอ่อนแบบเต็มขั้น ร่วมจุดพลุให้น้องบิล แหม ก็รอมั่นคงมาตั้งนานนมเนอะ
เอาจริงๆตอนนี้รู้สึกว่าพี่เอสยอมเพราะใจอ่อน แต่ยังไม่รู้สึกว่าความรู้สึกพัฒนาไปถึงขั้นรัก
ก็ไม่แปลกแหละเพราะห่างกันไปตั้งหลายปี เพิ่งมาใกล้ชิดกันไม่นานนี้นี่เอง
ต่ออีกหลายตอนก็ได้ค่ะ ชอบอ่ะ รอดูตอนน้องไปสู่ขอกับพ่อแม่พี่เอสน้า~

ออฟไลน์ MiSS-U

  • {^o^} {^3^}
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2800/-11
อ่านแล้วยิ้มให้กับความน่ารักของทั้งคู่จริงๆค่ะ

และแทบจะโฮ่ร้องให้บ้านแตกที่หนูบิลได้ตัวพี่เอสแล้ว  555

รอตอนต่อไปนะคะ

ออฟไลน์ Xenon

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 705
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-4


7/


    ...หลังจากสิทธาจากไปแล้ว วิลเลียมที่เดินไปส่งชายหนุ่มถึงหน้าบ้านก็รีบกลับขึ้นมาชั้นสอง เขาเปิดประตูห้องนอนของสายใย แล้วตรงเข้าไปกอดร่างบนเตียงอย่างรักใคร่

   “พี่เอสของผม ... ผมรักพี่ที่สุด”

   “อะไรกันบิล ...ปล่อยนะ จู่ ๆ มากอดทำไมเนี่ย!”

   สายใยโวยวายทั้งตกใจ ทั้งเขิน ที่จู่ ๆ ก็ถูกอีกฝ่ายกอดหมับเข้าให้แบบนี้

   “ก็แหม...ตอนที่พี่อธิบายให้พี่อาร์มฟัง...เรื่องที่ตัดสินใจยอมรับรักผมน่ะ ผมงี้ซึ้งจนอยากจะกอดจูบพี่เสียเดี๋ยวนั้น ...ติดก็ตรงที่มีพี่อาร์มอยู่ด้วย ขืนทำลงไปมีหวังโดนต่อยอีกเปรี้ยงพอดี”

   วิลเลียมบอกแล้วยิ้มน้อย ๆ ให้ แต่สายใยนั้นกลับเอื้อมมือไปแตะที่ริมฝีปากของอีกฝ่ายอย่างเป็นห่วง

   “เจ็บมากไหม ...พี่อาร์มมือหนักเสียด้วยสิ”

   คนฟังชะงัก ก่อนจะแย้มยิ้มอ่อนโยน พลางจับมือข้างนั้นของสายใยมาจูบเบา ๆ แล้วตอบกลับไปพร้อมรอยยิ้มที่ไม่จางหาย

   “ไม่หรอกครับ ...มันก็สมควรแล้วนี่นะ ก็ใครใช้ให้ผมล่วงเกินน้องชายของพี่อาร์มเองล่ะ”

   สายใยหน้าแดงวาบด้วยความอาย เขาดึงมือของตัวเองกลับ ซึ่งวิลเลียมก็ยอมปล่อยให้ง่าย ๆ แต่ขยับมานั่งข้าง ๆ แล้วโอบร่างเปลือยในผ้าห่มเข้ามาชิดร่างเขาแทน

   “ผมรักพี่จริง ๆ นะ ...ผมรู้ว่าผมทำผิดต่อพี่เอส ต่อพี่อาร์ม และครอบครัวของพี่ ...แต่ผมรักพี่จนทนไม่ไหว ...ผมอยากให้พี่เป็นของผมคนเดียว ...ผมรู้ ผมเห็นแก่ตัวและอาจจะดูเหมือนเด็กเอาแต่ใจในสายตาพวกพี่  แต่หัวใจของผมมันไม่ยอมรับใครคนอื่นอีกแล้ว ...นอกจากพี่คนเดียวเท่านั้น”

   วิลเลียมพึมพำกับร่างในอ้อมกอด สายใยซบใบหน้าลงกับอกกว้างของอีกฝ่าย รู้สึกซาบซึ้งและตื้นตันใจ ต่อคำสารภาพรักที่เขาเองก็รู้ดีว่า มันกลั่นออกมาจากหัวใจของอีกฝ่าย หาใช่คำเสแสร้งแกล้งเอาใจแต่อย่างใด ...ฟังจากเสียงหัวใจที่เต้นแรงไม่แพ้เขาในยามนี้ มันก็ยืนยันได้ดีพอแล้ว

   “บิล... พี่เองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะรักบิลได้มากเท่าบิลรักพี่ไหม ...แต่พี่สัญญาว่า นับจากนี้ พี่จะตอบแทนความรักของบิลให้เท่ากับเวลาสิบห้าปีที่บิลมอบมันให้พี่ทั้งหมด”

   “พี่เอส...”

   วิลเลียมครางเรียกชื่ออีกฝ่ายแผ่วเบาด้วยความปลาบปลื้ม เขากอดรัดร่างนั้นแน่นอยู่สักพัก จึงยอมปล่อยให้อีกฝ่ายเป็นอิสระ เพราะชายหนุ่มไม่แน่ใจตัวเองว่า หากเขากอดสายใยนานกว่านั้น เขาจะควบคุมตัวเองให้หักห้ามใจได้ไหวไหม 

   “ผมรักพี่นะครับ ...นอนพักก่อนนะ เดี๋ยวผมไปเตรียมอาหารเย็นให้”

   วิลเลียมจูบที่ริมฝีปากของคนที่เขาประคองให้นอนลงไปกับเตียง แล้วจึงขอตัวออกจากห้อง ทิ้งให้คนบนเตียงนอนหน้าแดงด้วยความเขิน  ถึงแม้พวกเขาจะไปถึงไหนต่อไหนกันเรียบร้อย แต่สำหรับสายใยก็ยังไม่ชินเรื่องพวกนี้อยู่ดี และจะว่าไปแล้ว วิลเลียมก็ถือเป็นคนที่เขาคบหาด้วยแบบคนรักเป็นคนแรกเลยก็ว่าได้



   หลังจากนั้นอีกสามวัน แม่และพ่อเลี้ยงรวมไปถึงพี่ชายคนโตของวิลเลียมก็บินตามมาสมทบที่เมืองไทย ส่วนพี่ชายอีกสองคนที่เหลือนั้นติดงานด่วนไม่ได้ตามมาด้วย   

   ทางด้านบิดามารดาของสายใยเมื่อได้รับข่าวจากสิทธาว่าจะมีคนมาสู่ขอลูกชายคนเล็กของพวกเขา ทั้งคู่ก็รีบเดินทางมากรุงเทพฯ แม้แต่พี่สาวของสายใยก็ยังทิ้งลูกให้สามีเธอเลี้ยงแล้วตามบิดามารดามาด้วยความเป็นห่วงปนตกใจกับข่าวคราวที่ได้รับ…

   “ฉันต้องขอโทษแทนลูกชายจริง ๆ นะคะคุณดาที่ทำเรื่องไม่ดีไม่งามแบบนี้ขึ้น... แต่ถึงยังไงฉันก็ยืนยันนะคะว่า ลูกชายฉันน่ะรักหนูเอสเขาจริง ๆ”

   แม่ของวิลเลียมบอกกับสุดาแม่ของสายใย เมื่อทั้งสองครอบครัวมีโอกาสได้พบปะพูดคุยกันอย่างเปิดอกถึงความสัมพันธ์ของลูกชายทั้งสองของพวกตน

   “เฮ้อ! พูดตามตรงนะแม่ขวัญ ฉันเองก็ตกใจอยู่เหมือนกันตอนเจ้าอาร์มโทรมาบอก แต่พอรู้ว่าผู้ชายคนที่ว่านั่นคือตาปอม ฉันก็คิดว่าพอจะเข้าใจและรับได้... ก็เด็กคนนี้ติดเจ้าเอสยังกับอะไรดี  จนฉันยังเคยแซวกับพี่ไกรเลยว่า ถ้าตาปอมเป็นผู้หญิง คงจะจับให้หมั้นหมายกันเสียตั้งแต่เด็กไปแล้ว”

   สุดาบอกแล้วยิ้มให้หญิงสาวที่รู้จักคุ้นเคยกันดีในสมัยก่อน ขวัญตายิ้มน้อย ๆ แล้วเอ่ยขอบคุณอีกฝ่ายที่ไม่ถือสาหาความลูกชายของเธอ และดูเหมือนว่าทางสุดาและเกรียงไกรจะยอมรับความสัมพันธ์ของทั้งวิลเลียมและสายใยได้บ้างแล้ว

   “เราเองก็โตขึ้นมากจนเปลี่ยนไปเยอะเลยนะตาปอม ...ไม่สิ ตอนนี้เห็นเอสมันบอกว่าเปลี่ยนเป็นชื่อบิน ๆ อะไรนั่นแล้วใช่ไหม”

   “ชื่อ ‘บิล’ ครับป้าดา แต่ป้าจะเรียกผมปอมก็ได้ ถึงยังไงผมก็ยังเป็นเด็กข้างบ้านจอมซนของป้าดาคนเดิมล่ะครับ”

   วิลเลียมยิ้มหวานตอบ ทำให้สุดายิ่งรู้สึกนึกเอ็นดูมากขึ้น นี่ถ้าสายใยเป็นลูกสาวเธอคงจะยินดีกับทั้งคู่อย่างออกนอกหน้าไปกว่านี้แล้ว

   “ว่าแต่ปอม เอ๊ย บิล  นี่เปลี่ยนไปยังกับคนละคนเลยเนอะ ใครจะเชื่อล่ะคะคุณแม่ ว่าเด็กตัวเล็ก ๆ ที่คอยเดินตามตาเอสต้อย ๆ แบบนั้น จะโตมาหล่อ เท่ สมาร์ท แบบนี้ ....แหม พูดก็พูดเถอะ พี่ล่ะอิจฉาเธอจริง ๆ นะเอส”

   สิริพี่สาวของสายใยเอ่ยชมวิลเลียม แล้วหันไปแซวน้องชายที่นั่งหน้าแดงก้มหน้าก้มตาอยู่ใกล้ ๆ แถวนั้น

   “จริงสิบิล แล้วแบบนี้จะเอายังไงล่ะ ถ้าแต่งกันแล้วจะให้เอสไปอยู่ที่โน่นด้วย หรือบิลจะมาอยู่ที่นี่แทน”

   คำถามต่อมาของสิรีทำเอาทั้งสองครอบครัวเงียบกริบ เพราะยังไม่ได้คิดตกลงกันเรื่องนี้มาก่อน สำหรับครอบครัวของวิลเลียมที่มาเมืองไทยนี่ก็แค่ต้องการรับผิดชอบเรื่องที่ลูกชายทำลงไป และสู่ขอสายใยมาเป็นเจ้าสาวให้ชายหนุ่ม ตามที่อีกฝ่ายขอร้องเท่านั้น

   “แหงล่ะ... บิลกับแฟนก็ต้องไปอยู่ด้วยกันที่อังกฤษอยู่แล้ว... ฝ่ายนั้นเป็นฝั่งเจ้าสาว  ตามปกติก็ต้องไปอยู่บ้านฝ่ายชายไม่ใช่หรือ”

   พี่ชายคนโตของวิลเลียมเอ่ยด้วยภาษาไทยที่แม้จะมีสำเนียงออกฝรั่งไปบ้าง แต่ก็ยังออกเสียงได้ชัดเจน แสดงให้เห็นว่าอีกฝ่ายฝึกฝนและเรียนการพูดภาษาไทยมาเป็นอย่างดี

   “ไม่ใช่เรื่องที่ลูกจะตัดสินใจแทนน้องนะ แดน เรื่องแบบนี้ต้องให้บิลกับคนรักของเขาเป็นคนตัดสินใจเอง”

   อัลเบิร์ตบิดาบุญธรรมของวิลเลียมหันไปดุลูกชายของเขาด้วยภาษาไทยชัดถ้อยชัดคำเช่นเดียวกัน  ส่วนชายหนุ่มที่ถูกดุเบ้หน้าแล้วยืนเงียบไปอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์นัก จนสายใยนึกหวั่นแต่ก็ต้องชะงักเมื่อมือใหญ่ของคนนั่งข้าง ๆ บีบมือเขาเบา ๆ เป็นกำลังใจ

   “ผมรู้ว่าพี่อยากให้ผมกลับไปอยู่ด้วยกัน ...แต่ผมก็รู้ดีว่า พี่เอสน่ะคงไม่อยากจากเมืองไทยและบ้านหลังนี้ไป ...เพราะฉะนั้น ผมตัดสินใจจะอยู่ที่นี่กับพี่เอสครับ”

   วิลเลียมบอกอย่างหนักแน่น ทำให้สายใยก้มหน้าลงเพื่อหลบใบหน้าแดงก่ำด้วยความตื้นตันของตน ส่วนแดเนียลนั้นมีสีหน้าบึ้งตึง เขาทำท่าเหมือนจะโต้เถียงอะไรบางอย่าง ก่อนจะถอนหายใจหนัก ๆ ตามมาภายหลัง

   “ก็ได้...ฉันยอมรับการตัดสินใจของนาย ...แต่ยังไงก็ต้องแวะกลับมาเยี่ยมที่บ้านบ้างนะ  ถ้านายไม่มา ฉันกับ แอนดี้ แล้วก็ โทนี่ จะมาหานายที่นี่เอง รู้ไหม!”

   แดเนียลบอกกับน้องชายต่างสายเลือดที่เขารักเหมือนกับน้องชายแท้ ๆ  ฝ่ายวิลเลียมนั้นจึงยิ้มให้พี่ชายของเขาแล้วเอ่ยขอบคุณแผ่วเบา

   “ในเมื่อลูกตัดสินใจแล้ว พ่อก็จะยอมรับตามนั้น ...ส่วนเรื่องการแต่งงานพ่ออยากให้ทำพิธีทั้งที่นี่ แล้วไปทำที่บ้านเราทางโน้นด้วย ถึงจะทำพิธีทางศาสนาที่นั่นไม่ได้ แต่พ่อก็อยากจัดงานเลี้ยงขึ้นเพื่อต้อนรับสมาชิกใหม่ของครอบครัวเราเช่นกัน ...ไม่ทราบว่าพวกคุณจะสะดวกกันไหม”

   ท้ายประโยคอัลเบิร์ตหันไปถามทางครอบครัวของสายใย ซึ่งพวกเขาก็สบตากัน แล้วก็พยักหน้าน้อย ๆ พร้อมรอยยิ้มตามมา

   “ได้ค่ะ ถึงฉันจะกลัวเครื่องบินกับอากาศหนาวอยู่บ้าง แต่งานแต่งลูกทั้งที ยังไงก็คงต้องไป”

   สุดาเป็นฝ่ายตอบคำเชิญชวนนั้นแทนทุกคนในครอบครัว ทำให้อีกฝ่ายยิ้มออก

   “อัลคะ... ถ้าเป็นไปได้ เรื่องตั๋วกับค่าใช้จ่าย...”

   ขวัญตากระซิบบอกกับสามี ซึ่งอัลเบิร์ตก็หันมายิ้มน้อย ๆ แล้วพยักหน้ารับรู้ ก่อนจะหันไปบอกกับสุดา

   “ผมอยากให้ทางคุณระบุรายชื่อญาติพี่น้องและแขกที่จะไปร่วมพิธีว่ามีกี่คน เดี๋ยวทางผมจะดำเนินการทั้งเรื่องการขอวีซ่า และค่าใช้จ่ายทั้งหมดในการเดินทางเองครับ”

   ทุกคนในครอบครัวของสายใยสะดุ้ง แล้วรีบปฏิเสธกันยกใหญ่ด้วยความเกรงใจ แต่อัลเบิร์ตและขวัญตาก็ยังคงยืนกรานตามเดิม ทำให้สุดาต้องหันมาปรึกษากับลูก ๆ ก่อนจะถอนหายใจเบา ๆ

   “ก็ได้ค่ะ งั้นคนที่จะไปร่วมพิธีทางนั้นก็ขอแค่พวกเราเครือญาติกันเองก็พอค่ะ”

   “ไม่ต้องเกรงใจหรอกครับ นี่เป็นงานสำคัญที่จะมีเพียงครั้งเดียวในชีวิตนะครับ”

   วิลเลียมรีบพูดแทนบิดา แต่ทางสมาชิกครอบครัวของสายใยต่างสบตากัน แล้วสายใยจึงเป็นฝ่ายพูดขึ้นแทน

   “เพราะเป็นงานสำคัญครั้งเดียวในชีวิตน่ะสิ... พี่ถึงอยากให้มีเฉพาะคนสำคัญสำหรับพี่จริง ๆ ร่วมงานด้วยเท่านั้น”

   คำพูดของสายใยทำให้วิลเลียมนิ่งเงียบและลอบถอนหายใจเบา ๆ เพราะไม่รู้จะเถียงยังไง ทางด้านอัลเบิร์ตนั้นแย้มยิ้มน้อย ๆ อย่างชอบใจในตัวว่าที่ลูกสะใภ้ ที่สามารถควบคุมลูกชายคนเล็กของเขาได้เสียอยู่หมัดด้วยคำพูดเพียงไม่กี่ประโยคเท่านั้น

   “เป็นคนที่วิเศษเหมือนอย่างบิลบอกไว้เลยนะครับแม่ ...ไม่แปลกเลยที่บิลจะรักจะหลงมาได้ถึงสิบห้าปีแบบนั้น...แถมหน้าตาก็น่ารักกว่าที่เคยคิดเอาไว้เสียอีก”

   แดเนียลกระซิบกับแม่เลี้ยงของเขา ยิ่งพอเห็นตอนสายใยยิ้ม เขาก็ยิ่งรู้สึกว่าน้องชายตัวเองตาแหลมและตัดสินใจได้ไม่ผิด   

   “นั่นสิจ๊ะ ...แม่เองก็ดีใจที่หนูเอสยังคงเป็นคนเดิมที่บิลรัก ...ถ้าเป็นหนูเอสอย่างตอนนี้ แม่ก็เชื่อมั่นว่า พวกเขาจะสามารถฝ่าฟันความทุกข์ และใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขตลอดไป”

   ขวัญตากระซิบตอบ จากนั้นพวกเขาก็เริ่มพูดคุยตกลงกันเรื่องสินสอดทองหมั้น ซึ่งทางครอบครัวของสายใยไม่ได้เรียกร้องอะไรมากนัก แถมยังช่วยกันคอยปรามเวลาอัลเบิร์ตกับลูก ๆ เสนอค่าสินสอดที่ค่อนข้างจะมหาศาลเกินไปในความคิดของพวกเขา

   และกว่าที่ทั้งสองครอบครัวจะเห็นตรงกันและยอมพบกันครึ่งทาง เวลาก็ผ่านไปจนถึงมื้อเที่ยงพอดี สุดาจึงอาสาทำอาหารเลี้ยงทุกคนที่นี่  โดยที่ก็ไม่มีใครปฏิเสธ โดยเฉพาะครอบครัวของอัลเบิร์ตที่ได้รับการบอกเล่าจากขวัญตาและวิลเลียมว่า ฝีมือทำอาหารของสุดานั้นอยู่ในระดับแนวหน้าเลยทีเดียว



   เมื่ออิ่มหนำสำราญกันดีแล้ว  อัลเบิร์ตและขวัญตารวมไปถึงแดเนียลก็ขอตัวกลับไปเตรียมการเรื่องงานแต่งที่พวกเขากำหนดฤกษ์งามยามดีเอาไว้ ในอีกเดือนข้างหน้า ส่วนวิลเลียมนั้นก็จำต้องกลับไปพร้อมบิดามารดาเพื่อจัดการทั้งเรื่องแต่งงาน และเรื่องที่จะย้ายมาลงหลักปักฐานในประเทศไทยแทน  แต่ชายหนุ่มก็ให้สัญญาว่าจะโทรมาคุยกับสายใยบ่อย ๆ 

   “ไม่ต้องทำหน้าเศร้าขนาดนั้นก็ได้ สิบห้าปียังทนรอมาได้ รออีกแค่ไม่ถึงเดือนคงไม่ตายหรอกมั้ง”

   แดเนียลเอ่ยแซวน้องชายของตนที่นั่งทำหน้าเศร้าซึมมาตลอดทางในรถยนต์คันหรู วิลเลียมฝืนยิ้ม แล้วจึงพยักหน้าเบา ๆ

   “นั่นสิครับ ...รออีกแค่ไม่ถึงเดือน...เฮ้อ! ไม่รู้จะทนไหวไหมเนี่ย แค่ห่างกันแป๊บเดียวก็อยากจะกลับไปกอดพี่เอสจะแย่อยู่แล้ว”

   วิลเลียมบ่นพึมพำ ทำให้บิดา มารดา และพี่ชาย ต้องอมยิ้มน้อย ๆ เมื่อเห็นอาการตกอยู่ในห้วงรักชนิดที่หนักหนากว่าเดิมเมื่อครั้งที่อีกฝ่ายอยู่อังกฤษเสียอีก

   “สุภาษิตไทยเขาเรียก ...อดเปรี้ยวไว้กินหวาน... ยังไงล่ะลูก พอถึงเวลาเก็บเกี่ยวเมื่อไหร่ ผลที่ได้มันก็ยิ่งรสเลิศและอิ่มเอมมากขึ้นเท่านั้น”

   อัลเบิร์ตบอกพลางหัวเราะอย่างอารมณ์ดี ส่วนขวัญตานั้นหน้าแดงนิด ๆ เพราะเข้าใจในความหมายแฝงของประโยคที่สามีพูดดี

   “จำแต่เรื่องดี ๆ ทั้งนั้น คราวหน้าจะไม่สอนภาษาไทยให้แล้ว”

   ขวัญตาบ่นเบา ๆ แต่คนนั่งข้าง ๆ ก็ยังคงได้ยิน เขารวบร่างของภรรยามากอดและหอมแก้มเนียนนั้นฟอดใหญ่ จนวิลเลียมนึกอิจฉา และยิ่งทำให้คิดถึงสายใยขึ้นมาอีก แต่เขาก็จำต้องอดทนเอาไว้ เพราะการรอคอยในครั้งนี้ มันไม่ว่างเปล่าเคว้งคว้างเหมือนสิบห้าปีที่ผ่านมาอีกแล้ว

    “อีกแค่หนึ่งเดือนเท่านั้นเองนะครับพี่เอส...”

   วิลเลียมพึมพำ แล้วยิ้มน้อย ๆ อย่างเป็นสุขเมื่อนึกถึงอนาคตที่เขาวาดฝันเอาไว้ ...อนาคตที่จะมีคนสำคัญของเขาคอยเคียงข้างกันตลอดไป



... TBC ...

ตอนนี้ตัดตอนมาสั้น ๆ หน่อยนะคะ พอดีจังหวะมันจบช่วง  ....ส่วนตอนหน้าเป็นตอนจบแล้วค่ะ (เพิ่งเขียนเสร็จก่อนจะแปะตอนนี้นี่ล่ะค่ะ)   ตอนจบรับรอง ยาว+หวาน ถูกใจแน่ค่ะ   ...จะว่าไปเรื่องนี้เน้นเขียนออกแนวหวาน จีบกันไปมาอย่างเดียวเลยนะเนี่ย สงสัยเรื่องหน้าคงต้องลดน้ำตาลลงบ้างแล้วล่ะค่ะ เดี๋ยวเบาหวานจะถามหากัน  :o8:

ออฟไลน์ nan239

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 57
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
+1ถ้าจบแล้วขอตอนพิเศษเยอะๆๆนะค่ะ

ออฟไลน์ qq_oo

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1749
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +143/-4
รอๆๆๆจ้า อ่านไปยิ้มไป

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
ดีใจจังที่ทุกคนรับได้ไม่มีปัญหาให้ปวดกะโหลก ....... หลังจากนี้ก็รอกินเค้กงานแต่งงาน  :mc4:  :mc4:

yayee2

  • บุคคลทั่วไป
ขอเป็นคนถือขันหมากเอกนะคะ :m13:(ใครจะให้เธอถือยะ :3125:)
"...ขันหมากเอกเลือกเอาที่รูปสวย (ไม่ผ่านละแกน่ะ o12)
นุ่งยกห่มผวยจับผิวหน้า
พร้อมกันทันใดก็ไคลคลา
ครู่หนึ่งถึงท่า... "(อิ อิ  ต่ออีกสามคำเป็นออกทะเลแน่)

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด