Snatch
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Snatch  (อ่าน 109529 ครั้ง)

must

  • บุคคลทั่วไป
Re: Snatch (ตอนที่ 1 : 2-07-55)
«ตอบ #60 เมื่อ03-07-2012 19:59:50 »

หูยยย~ แค่ตอนแรกก็ทำเอายิ้มไม่หุบเลยทีเดียว รู้สึกว่าน่ารักมากๆ

Snatch ตอนอ่านชื่อเรื่องทำเอาหน้าของแบรด พิทท์ผุดขึ้นมาทันที
ประทับใจต่อการเป็นคนรักเดียวใจเดียวของก้านโคตรๆ (เขินแทนแนช)

ก้านเลือกที่จะรอคอยเพียงแค่แนช อย่างมีความหวังโดยการให้กำลังใจตัวเอง
ก้านยินดีที่จะเฝ้ารอแนช แม้โอกาสที่ตัวเองจะสมหวังนั้นมีเพียงน้อยนิด
นับถือจิตใจที่มั่นคงและแน่วแน่ของผู้ชายที่ชื่อก้านมว๊าากกก~

ออฟไลน์ kyoya11

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4680
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +340/-12
Re: Snatch (ตอนที่ 1 : 2-07-55)
«ตอบ #61 เมื่อ03-07-2012 20:55:07 »

เรื่องนี้มาแนวน่ารัก :-[.......หรือเปล่า o18
สแนชกับก้าน.... :กอด1:

ออฟไลน์ Wordslinger

  • แป้งจี่รีรีข้าวสาร
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1180/-5
Re: Snatch (ตอนที่ 1 : 2-07-55)
«ตอบ #62 เมื่อ03-07-2012 22:02:00 »

 :กอด1:

ขอเม้นต์แยกเลยละกัน

อ่านตอนที่หนึ่งยังน่ารักขนาดนี้ เรียกว่าตกหลุมรักเลยล่ะ สแนชน่ารักอย่างนี้ มิน่าล่ะ ไม่สงสัยเลยว่าทำไมน้องก้านจึงได้ตามรักตามหลงมาในระยะหลายปีนี้ แม้จะเรียนจบไปแล้ว และต่างคนต่างทำงานกันคนละที่ ก็ยังเฝ้ารักเฝ้ารอ โอ๊ะ มันถูกใจจริงๆ แต่น้องก้านนี่ก็แสบพอประมาณนะ อุตส่าห์แต่งเป็นหญิงมาหลอกพี่สแนชได้
 
เรื่องนี้สนุกมากเลยค่ะคุณไจฟ์น้องที ตอนเขียนเรื่องนี้นี่ กำลังหวานกันหรือเปล่าเอ่ย?  :L1:

ออฟไลน์ @PurPle SuN@

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
Re: Snatch (ตอนที่ 1 : 2-07-55)
«ตอบ #63 เมื่อ04-07-2012 02:34:07 »

มาปูเสื่อรอพี่แนชกะน้องก้าน อยากอ่านตอนต่อไปแล้ว ^___^

ออฟไลน์ MyTeaMeJive

  • MyTeaMeJive
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1894
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3313/-9
Snatch (ตอนที่ 2 หน้า 3 : 4-07-55)
«ตอบ #64 เมื่อ04-07-2012 06:11:56 »

ตอนที่ 2

ยอมรับกับตัวเองว่าหัวใจกำลังเต้นไปตามแต่แนชจะพาไป
อารมณ์เปลี่ยนไปตามแต่แนชจะทำให้มันเปลี่ยน
เป็นอำนาจที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ โดยที่ไม่เคยคิดที่จะต่อต้าน
ตั้งแต่ตอนที่พบเขาครั้งแรก คือตอนที่เดินผ่านห้องเรียน แล้วเห็นรุ่นพี่ตัวเล็กคนนั้นนั่งอ่านหนังสืออยู่ในห้อง ก็ทำให้ยิ้มได้
ยิ้มได้โดยที่ไม่รู้เหมือนกันว่ามันเกิดจากอะไร
ต่อมาก็พยายามหาโอกาสที่จะได้อยู่ใกล้ๆ แค่ได้นั่งใกล้กันในโรงอาหาร แอบฟังเขาคุยกันด้วยความอยากรู้ ก็มีความสุข
มีความสุขได้โดยที่ไม่รู้ว่าทำไม แค่นี้ก็มีความสุข
จนถึงตอนที่เล่นฟุตบอลอยู่ในสนามแล้วหันไปเห็นเขาเดินผ่านเพื่อจะกลับบ้าน ก็มีเรี่ยวแรงซ้อมบอลต่อได้ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
ไม่เหน็ดเหนื่อย ไม่หมดกำลังใจต่อให้แ้พ้ในการแข่งขัน
เรื่องพูดจาทักทายยอมรับเลยว่า นายก้านไม่มีความกล้ามากพอ ได้แต่ส่งยิ้มให้ ถึงจะโดนล้อชื่อว่าไอ้กล้ามก็ยังชอบ
ขอแค่นี้จริงๆ สำหรับการหล่อเลี้ยงหัวใจให้มีความสุขต่อไปได้อีกหลายชั่วโมง
ไอ้คำจำกัดความว่ารัก หรือหลงน่ะไม่ได้อยู่ในสมอง
รู้แต่ว่าขอแค่ได้เห็นก็พอ
ถึงแม้ว่าการเป็นนักกีฬาจะทำให้มีสาวๆ แวะเวียนเข้ามาทำความรู้จัก แต่สุดท้ายก็เดินผ่านไป เพราะนายก้านไม่ได้มีอะไรที่เหมือนพระเอกในละคร ไม่เคยเอาใจใส่ ไม่มีเวลา ไม่เคยจำเรื่องราวอะไรได้สักอย่าง
รู้แต่ว่าสักวัน จะต้องไปยืนอยู่ข้างกันให้่ได้...
จนกระทั่งได้พบอีกครั้งเมื่อแนชกลับมาบ้าน เพียงแค่แวบเดียวที่เห็นว่ายืนอยู่กับกิมที่ตลาด หัวใจมันก็กระโดดออกมาร้องตะโกน ว่านี่แหละคือคนที่ทำให้นายก้านเป็นคนไม่มีหัวใจ
เพราะยกหัวใจให้คนๆ นี้ไปตั้งนานแล้ว
แต่เพราะแนชอยู่กรุงเทพฯ การทำความรู้จักถึงได้แทบจะไม่ได้คืบหน้าไปจากการพบกันครั้งแรก ที่ไม่เคยกล้าคุยก็ยังคงไม่รู้ว่าจะพูดอะไรเมื่อเจอกัน
ท้อใจจริงๆ ที่แนชจำอะไรเกี่ยวกับคนๆ นี้ไม่ได้เลยสักนิด
แล้วหัวใจมันก็หกคะเมนตีลังกา พอได้อยู่ใกล้ก็อยากกอด อยากเข้าไปมีพื้นที่อยู่ในชีวิตของแนชมากขึ้นเรื่อยๆ ต่อให้เตือนตัวเองว่าเขาอาจมีคนของเขาอยู่แล้วก็ตาม
ก็ปฏิกิริยาตอนที่ได้ฟังคำสารภาพรักมันเป็นแบบนั้น
....เหนือความคาดหมาย....
ดูลังเล ไม่แน่ใจ
ทุกอย่างบอกชัดเจนว่านายก้านไม่ควรเดินหน้าต่อไป เพราะมีแต่จะผิดหวัง
แต่ก็ยังทำ
ยังคงโทรหาอยู่ทุกวัน ทั้งคิดเข้าข้างตัวเองว่าที่แนชคุยด้วยก็เพราะเขามีใจให้เราเหมือนกัน
สีหน้าท่าทางที่บอกถึงความไม่แน่ใจในวันนั้นค่อยๆ จางลงไป เหลือแต่เสียงหัวเราะกับน้ำเสียงที่ได้ฟังอยู่ทุกวัน

“แนช อาทิตย์นี้จะกลับบ้านหรือเปล่า”
“ยังๆ เสาร์นี้กูทำครึ่งวัน”
“แนชไม่ได้กลับบ้านมาเดือนนึงแล้วนะ”
“เหรอ.....” แนชนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “คงสักอาทิตย์หน้าน่ะ”
“ที่จริงทำครึ่งวันเสาร์ เลิกงานก็ตีรถมาระยองได้นะ หรือจะให้ผมไปรับ”
“เฮ้ย ไม่ต้อง เสาร์อาทิตย์งานมึงยุ่ง ไว้กูจะกลับเมื่อไหร่กูจะบอกแล้วกัน มึงไม่ต้องตีรถมาหรอก”

พอถึงวันศุกร์ของหลายสัปดาห์ถัดมารถปิคอัพคันใหญ่ก็มาจอดอยู่ที่ด้านหน้าอพาร์ตเมนต์เล็กๆ คนขับวางแผนที่ไว้หน้ารถแล้วลงไปทำความรู้จักกับร้านค้า จนถึงยามหน้าตึก พอหกโมงเย็นถึงได้กดโทรศัพท์หาคนที่คิดว่าเพิ่งเลิกงาน
“แนช เลิกงานหรือยัง”
“ยังๆ อีกแป๊บหนึ่ง”
“แล้วไปไหนต่อหรือเปล่า”
“ไปสิ วันนี้วันศุกร์นะ”
ก้านเงยหน้ามองฟ้าที่มืดลงอย่างรวดเร็ว “ขับรถเองหรือเปล่า อย่าเมานะ”
เสียงหัวเราะมาจากปลายสายทำให้ก้านยิ้มตาม “ไม่หรอก กินเลี้ยงเสร็จแล้วก็จะกลับ”
“งั้นก็คงสักสี่ทุ่มใช่มั้ย”
“คงงั้นแหละ มีอะไรหรือเปล่า”
“เปล่า ไม่มีอะไร แนชทำงานหนักมาตลอดอาทิตย์ เป็นห่วงว่าถ้าดึกมาก เดี๋ยวจะหลับ”
“ไม่หรอก มึงก็พักผ่อนเสียบ้างนะ”

ก้านกดวางสายพร้อมกับเหลียวหาร้านข้าวฝากท้องอีก 1 มื้อแล้วก็เดินมาอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ในรถ เดินเล่นรอบรถ กลับไปนั่งดูโทรทัศน์กับยาม ที่ดูเหมือนจะพอใจมากกว่าที่คนแปลกหน้าคนนี้ ลงมาจากรถแล้วก็มานั่งดูโทรทัศน์อยู่ด้วยกัน แทนที่จะเดินไปทั่ว
เกือบ 5 ทุ่มรถญี่ปุ่นคันเล็กเลี้ยวผ่านประตูเข้ามาจอดที่ลานจอดรถด้านใน
ชายหนุ่ม 2 คนเดินข้างกัน
ไม่ได้คุยกัน ไม่ได้จับมือกัน แต่เพราะคนหนึ่งหยุดรออีกคนจนเข้ามาใกล้ ส่งยิ้มให้กันแล้วเดินคู่กันมา ทำให้ก้านเหมือนหัวใจหล่นลงไปกองอยู่กับพื้น
แต่ทันทีที่คนตัวเล็กมองเห็นว่าใครยืนอยู่ที่หน้าอพาร์ตเมนต์ ก็ร้องทักแล้ววิ่งเข้ามาหา
“ก้าน มาตั้งแต่เมื่อไหร่”
“มาตั้งแต่บ่าย ผมขอโทษ ผมรู้ว่าผมไม่ควรมา แต่ผมคิดถึงแนชมากก็เลยแค่อยากมาหา อยากพบ....ผม...ขอโทษ...”
คำขอโทษที่แหบพร่าย้ำไปย้ำมา แล้วหันหลังเดินกลับไปที่รถ
“ไปคุยกันที่ห้องก่อนมั้ย”
คนตัวสูงที่มาพร้อมกับแนชกลับเป็นคนเรียกไว้
“ไม่ครับ ผมขอโทษ ผมจะไม่ทำอย่างนี้อีกแล้ว” ก้านเดินก้มหน้าตรงกลับไปที่รถคันใหญ่

แต่ออกรถมาพ้นกรุงเทพฯ ได้ไม่เท่าไหร่ รถคันใหญ่ก็ต้องจอดชิดข้างทาง คนขับรถก้มหน้าลงแนบหลังมือที่จับพวงมาลัย
ปล่อยให้น้ำตาไหลเป็นทาง
รู้ทั้งรู้แต่ก็ยังทำ ไม่โทษตัวเองแล้วจะโทษใคร
นี่คือคำตอบของคำถามที่ว่า ไม่ถามกันสักคำหรือไงว่ามีแฟนหรือยัง
นี่คือคำตอบของช่องว่างยาวนานหลายปีที่ไม่ได้พบกัน
เวลาที่หายไป
เท่าที่คุยกับเพื่อนของแนช ทุกคนบอกว่าแนชกลับบ้านมาคนเดียว ไม่ค่อยได้เล่าเรื่องที่ทำงานสักเท่าไหร่ อาจเพราะงานที่ทำมันคนละเรื่องกับเพื่อน
เรื่องเล่าที่ชวนให้คิดเข้าข้างตัวเองว่า แนชไม่มีใคร
แต่ที่เห็นวันนี้มันไม่ใช่
เหมือนโลกหยุดหมุนไปเนิ่นนาน รู้สึกตัวเมื่อมีเสียงเคาะกระจกรถด้านคนขับ หนุ่มตัวเล็กยืนอยู่ แต่ใกล้กันคือผู้ชายคนที่พบกันที่อพาร์ตเมนต์
“เปิดประตู”
ก้านปาดน้ำตาแต่ยังไม่ยอมเปิดประตู
“เปิดประตู! อย่าให้กูต้องโมโห!”
“ไม่”
"ไม่ห่าอะไร สัดชอบทำให้กูโมโห เหี้ยไอ้ยักษ์บ้าขี้น้อยใจ เดี๋ยวพ่อทุบรถให้ช่างไม่รับซ่อมซะหรอก! กูบอกให้เปิดประตู!” ประโยคท้ายหนุ่มตัวเล็กเงื้อกระเป๋าในมือประกอบท่าทางจนก้านต้องรีบเปิดประตู
พอเปิดประตู แนชก็โยนกระเป๋าใบเล็กไว้ที่เบาะด้านหลัง แล้วดึงก้านมาหาคนที่ยืนอยู่ข้างๆ
“นี่พี่มนตรี ทำงานที่เดียวกัน แต่เขาอยู่คอนโดฯ ใกล้ๆ เลยติดรถกลับมาด้วยกัน กูไม่ได้ไปกินเลี้ยงกับเขา 2 คนแต่ไปกันหลายคนเพราะพี่ที่ทำงานเขาเลี้ยงวันเกิด มึงเข้าใจมั้ย”
ก้านหันไปมองหน้าคนที่ยืนยิ้มขำอยู่ข้างๆ
“ไม่ใช่แฟนแนชหรือครับ”
“ไม่ใช่หรอกครับ” มนตรียังคงตอบด้วยรอยยิ้ม จนก้านต้องลูบท้ายทอยเก้อๆ
“คุยกันนะ” มนตรีบอกแล้วกลับไปที่รถ
ก้านชี้ไปที่รถคันนั้น “นั่นรถแนชไม่ใช่หรือ”
“ใช่ รถกู แต่ถ้าไม่เอารถกูมา จะตามมึงมาทันมั้ยสัด ขึ้นรถเลย!” แนชด่าไม่หยุด ความดังของเสียงไม่ได้เบาลงกว่าเดิมเลยสักนิด
“ผมขับเองก็ได้”
“ไม่ได้!” แนชหันไปเสียงดังใส่หน้าคนตัวโตที่กำลังจ๋อยจืด “เดี๋ยวมึงน้อยใจอะไรขึ้นมา ขับรถชนต้นไม้ข้างทางทำไง ไม่ต้องยืดยาด ขึ้นรถเลย”
แต่แนชก็ขับรถไปทั้งที่ด่าไม่หยุด จนก้านชักเริ่มกังวลว่าใครกันแน่ที่จะขับรถชนต้นไม้ข้างทาง
กระทั่งเข้าเขตระยองแนชก็พลิกดูนาฬิกาข้อมือ
“สัด ดึกป่านนี้แม่เข้านอนแล้วแน่ๆ”
พอหันไปมองคนข้างๆ ที่ค่อยคลี่ยิ้มกว้าง แนชก็กลับรู้สึกแปลกๆ
“สัด กูบอกแล้วไงว่าห้ามยิ้ม”
ก้านกลับยิ่งยิ้มกว้างกว่าเดิม
ยิ้มแบบนั้นมันยิ่งทำให้คนนี้หน้าแดงจัด หัวใจก็เต้นแรงตามไปด้วย
“ให้ผมขับเองดีกว่า”
“ไม่ต้อง บอกทางมา”
ขับรถต่อไปอีกพักแนชก็บ่น “สัด ถ้านี่เป็นแผนมึงนะ กูจะถลกหนังหัวมึงมาทอดกรอบ” ดวงตากลมตวัดมองคนที่นั่งข้างๆ “คราวก่อนเอาตุ๊กตามาหลอกกู คราวนี้เอาน้ำตามาหลอกกูอีก กูเป็นห่าอะไรของกูวะเนี่ย”

ก้านมองคนที่ด่าด้วยเสียงสูง คงเพราะโกรธตัวเองมากกว่า
...อยากหยิกแก้มชะมัด....
“ขำอะไร” เสียงห้วนๆ ตวัดมาหาทันที
แต่คนนี้หุบยิ้มไม่ทันเสียแล้ว ก็เลยยิ้มค้างมันอยู่อย่างนั้น
...เออนะ แค่เขาตามกลับมาบ้าน ก็อารมณ์ดีได้ โดนด่ามาตลอดทางก็ไม่สะเทือน...

รถคันใหญ่เลี้ยวเข้าโฮมสเตย์ ผ่านห้องพักที่คืนนี้มีคนพักอยู่เพียง 2 คนเป็นคู่สามีภรรยาศิลปินชาวตะวันตก ที่ยังนั่งเขียนรูปอยู่ที่ระเบียงด้านหน้าห้องริมสุด

พอจอดรถก้านก็หันไปหยิบกระเป๋าของแนชแล้วเดินนำเข้าไปในบ้าน หันมามองคนที่เดินตามเข้ามา
ตอนที่เจอที่กรุงเทพแนชดูตกใจ ตอนที่ตามมาทันระหว่างทางดูโกรธ
แต่ตอนนี้ดูเหนื่อยๆ
ก้านเป่าลมหายใจจากปาก จนคนตัวเล็กสงสัย
“เป็นอะไร”
ก้านส่ายหน้า เดินไปเปิดตู้เย็นรินน้ำดื่มมาส่งให้
แนชดื่มหมดแก้ว แล้วก็ส่งแก้วคืนให้ นึกไม่ออกเหมือนกันว่าตอนนี้ควรจะคุยอะไรยังไงกันดี เพราะที่อยากด่าก็ด่าไปแล้ว ที่อยากบ่นก็บ่นแล้ว เลยเดินไปล้างหน้า เข้าห้องน้ำเสร็จแล้วกลับออกมา ก้านยังยืนรออยู่
“ทำไมต้องไปรอ”
“แนชไม่ได้กลับบ้านกว่า 2 เดือนแล้ว”
“แล้วไง ที่ผ่านมากูก็เป็นงี้แหละ ถ้ามีงานวันเสาร์หรืออาทิตย์กูก็ไม่กลับบ้าน”
“ก็ผมไม่รู้”
“เออ งั้นก็รู้ไว้ซะ ไม่ต้องไปรอ”
ก้านกัดริมฝีปากแน่น ท่าทางผิดหวังจนแนชต้องเกาศีรษะแรงๆ
“ห่า ทำไมกูต้องมาทำอะไรแบบนี้ด้วยวะ ไม่เข้าใจจริงๆ”
“ผมขอโทษ ต่อไปผมจะไม่ไปอีกแล้ว”
“ไม่ใช่อย่างนั้น คือมัน....พูดยากจริงโว้ย” คนตัวเล็กยิ่งพูดยิ่งอึดอัดตัวเอง บ่นไปว่าไป เดี๋ยวยักษ์ร้องไห้ขึ้นมาอีกทำไง
“แนชอยากให้ผมทำอะไร”
“ทำแบบที่มึงเคยทำ”
“แบบที่ผมทำ” ก้านทวน ขณะที่รู้สึกเจ็บแปลบในหัวใจ “เข้าใจแล้ว แนชขึ้นไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนเถอะ ผมขอเดินดูรอบๆ นี่ก่อน”

ก้านออกมาที่ด้านนอก พูดคุยกับยามครู่หนึ่งก็กลับเข้ามาที่บ้านพัก กะเวลาว่าแนชจะอาบน้ำเสร็จแล้ว
กลับเข้ามาแนชกลับยืนรออยู่ที่หน้าบ้าน
“มึงหายไปนาน”
“ผมคุยกับลุงยามที่ด้านหน้า อากาศมันเย็นๆ เดี๋ยวแกหลับ”
แนชยิ้มขำ “มึงกลับเข้ามาแกก็หลับแล้ว”
“แนชหิวหรือเปล่า”
“ไม่หรอก เมื่อหัวค่ำกินบุฟเฟ่ต์อิ่มจนถึงพรุ่งนี้เที่ยงน่ะแหละ”
คนตัวเล็กเหลือบตามอง “มึงไปอาบน้ำเถอะ”

แนชเวลาอารมณ์เย็นลงนี่เป็นคนละคนกับคนที่ร้องด่าลั่นถนนคนนั้นจริงๆ
แต่เมื่อนึกย้อนกลับไปตอนนั้น กลับทำให้ก้านต้องหัวเราะขำ
กูนี่ก็หลงเขาเสียหัวปักหัวปำ น้อยใจบ้าบออะไรก็ไม่รู้ อย่างกับเขาตกปากรับคำเป็นแฟนกันแล้วอย่าง
ออกมาจากห้องน้ำ แนชยังนั่งรออยู่บนเตียงใหญ่ “แอบไปร้องไห้อีกหรือเปล่า”
“เปล่า”
“เออ ดีแล้ว เพราะกูจะโมโหเวลาที่มึงร้องไห้”
ก้านใส่กางเกงนอนขาสั้นแล้วเดินมานั่งข้างๆ “ก็มีแต่แนชคนเดียวนี่แหละที่ทำให้ผมร้องไห้”
“อย่ามาโทษกู ก็มึงน่ะแหละ คิดเยอะเอง”

เมื่อหันไปมองคนที่ยังคงนั่งรออยู่ทั้งที่ดึกมากแล้ว ใจที่ยังกังวลเพราะกลัวคำตอบ กลับรู้สึกว่า ควรถามคำถามนั้น..
“แนช...มี..แฟนหรือยัง”
แนชกะพริบตางงๆ “มาถามอะไรตอนนี้”
“เพราะผมกลัวคำตอบ แล้วครั้งก่อนที่เราคุยกัน แนชทำเหมือนแนชมีแฟนแล้ว แต่แนชก็คุยกับผม”
“ก็แค่คุย” แนชบอกแล้วเกิดอาการอยากตบปากตัวเอง เพราะไอ้คนตัวโตหงอยลงไปทันที
“แนชมีแฟนแล้วจริงๆ ใช่มั้ย”
“ถ้ามีแล้วกูยังตามมึงมาถึงที่นี่ กลับไปกูคงได้กลายเป็นศพ”
ก้านหันไปมองคนที่ยังคงตอบโยกโย้ไปเรื่อย นึกสงสัยอยู่เหมือนกันว่าจะมีวันที่ได้ยินคำว่ารักจากแนชสักครั้งหนึ่งมั้ย
คนตัวโตลุกไปเปิดลิ้นชักข้างเตียงนอนหยิบกล่องไม้ใบเล็กจิ๋วมาส่งให้ แต่แนชกลับกอดอกแน่น
“ให้”
“ฮึ”
“ถ้าไม่เอาผมจะร้องไห้นะ”
แนชเหลือบตามองคนตัวโตแล้วหลุดขำ “ไอ้ห่า ไอ้บ้า ไอ้เพี้ยน ขู่บ้าบอคอแตก มีดีแค่สวยกว่าผู้หญิงเท่านั้นแหละ”
“รับไว้เถอะ ไม่ใช่แหวนหมั้นหรอกน่า”
คนตัวเล็กหน้าแดงไปถึงหู
“อ้าวนี่คิดว่าเป็นแหวนจริงๆ น่ะ ก็คิดอยู่เหมือนกันว่าจะให้ แต่มันเร็วไป ให้แนชไปเลือกเองดีกว่า”
“มึงนี่คิดอะไรเป็นเรื่องเป็นราวมากเลยนะเนี่ย”
แนชบ่นอุบอิบ แต่ก็ยังไม่ยอมรับกล่องมาอยู่ดี ก้านเลยจับให้นั่งคร่อมตักหันหน้าเข้ามาหา แนชไม่ได้ขัดขืนสักเท่าไหร่ เพราะชักเริ่มเหนื่อยใจกับไอ้นิสัยทื่อๆ ของก้าน

“คงเพราะในสมอง และในหัวใจของผมมีแต่แนช บางครั้งเวลาที่เห็นกระเป๋า หรือเสื้อผ้า ผมจะเผลอคิดไปว่า ของชิ้นนี้เหมาะกับแนช ผมซื้อแล้วเอาไปฝากไว้ที่แม่ได้มั้ยนะ”
“เดี๋ยวนะ แม่ไหน แม่กูหรือแม่มึง”
“แม่แนชสิ”
“เหอะ เข้าบ้านครั้งเดียว เรียกแม่เลยนะ”
อันที่จริงก็คิดอยู่เหมือนกันว่าพ่อกับแม่ เข้ากับก้านได้ดี อาจเพราะก้านเรียนจบก็กลับมาทำงานที่บ้าน คงได้เจอพ่อกับแม่บ่อย
ก้านก้มลงหอมแก้มที่เบี่ยงหลบทันที
“ห่านี่ ตลอดๆ ตามใจทีไรแม่งแถมทุกรอบ”
“ก็...เวลาอยู่ใกล้แล้วอยากทำแบบนี้” แขนแข็งแรงรัดแน่น “อยากกอดไว้แบบนี้ตลอดเวลา”
“ก้าน”
“ครับ”
“กูขอบใจที่มึงคิดดีๆ กับกู แต่กูไม่อยากให้มึงคาดหวังอะไรกับกูมากนัก คือ....มึงอาจชอบกูเพราะ มึงแค่เดินผ่าน หรืออยู่ใกล้ๆ แต่ไม่รู้จัก กูเอาแต่ใจมากเลยนะ ปากจัดด้วย เรื่องมาก ขี้บ่น”
“แต่ผมว่า ผมเจอมาหมดแล้วนะ”
“เออ แล้วกูก็พูดอะไรซึ้งๆ อย่างที่มึงพูดไม่เป็น”
“ก็ไม่เป็นไร”
“แล้วอย่ามาเหนื่อยใจกับกูทีหลังแล้วกัน”
ก้านหันมาโอบกอดแนชไว้แน่น “ขอบคุณที่ให้โอกาสผม”
“ให้โอกาสอะไร ก็แค่...มึงอย่าร้องไห้อีกก็พอ”
ก้านก้มลงกดจมูกที่ข้างแก้ม “งั้นก็รับของที่ผมซื้อมาให้แนชนะ”
“อะไร”
แนชหันมามองมือใหญ่ แต่ริมฝีปากบางกลับหันมาสบกับคนที่รออยู่มือใหญ่ดันหลังศีรษะให้เงยหน้าขึ้นรับจูบ ดูดเม้มริมฝีปากแล้วบดขยี้
มือเล็กๆ ดันอกกว้างแต่แทบไม่ขยับ ยิ่งนานยิ่งเหมือนหมดแรง จนก้านผละออก แนชก็เอนตัวลงซบกับไหล่หนา
“ห่า เหนื่อย ทำไมจูบแล้วมันเหนื่อยอย่างนี้ทุกครั้งเลยวะ คนอื่นเขาจูบกันมันจะเหนื่อยอย่างนี้มั้ยเนี่ย”
ก้านยิ้มขำคนที่ยังบ่นไปเรื่อย ขณะที่เปิดฝากล่อง หยิบสร้อยข้อมือทำด้วยเงินมาใส่ให้
“ชอบมั้ย”
“ฮื่อ”
“ก้าน”
“ครับ”
“จะสว่างอยู่แล้ว กูนอนได้หรือยัง”
“ง่วงแล้วหรือ”
“ง่วงสิ กูไม่ใช่มนุษย์เหล็กอย่างมึงนะ”
พอก้านคลายแขนออกแนชก็คลานไปนอนที่อีกด้านหนึ่งของเตียง แล้วก็หลับไปทันที
เร็วจนคนที่เดินไปปิดไฟแล้วกลับมานอนข้างๆ ยังประหลาดใจ

(มีต่อครับ  :z2:)

ออฟไลน์ MyTeaMeJive

  • MyTeaMeJive
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1894
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3313/-9
Snatch (ตอนที่ 2 หน้า 3 : 4-07-55)
«ตอบ #65 เมื่อ04-07-2012 06:14:34 »

ตอนที่ลืมตาตื่นคนที่นอนอยู่ข้างๆ ซุกหน้าอยู่ที่ต้นแขน ผมยุ่งระหน้าผาก กับริมฝีปากบางแดงเรื่อ นึกอยากจูบแต่ก็กลัวจะทำให้ตื่น ค่อยๆ ขยับตัวลุกไปอาบน้ำแปรงฟัน ออกไปดูงานที่ร้านก่อสร้าง จนเกือบเที่ยงถึงได้รีบกลับมาที่โฮมสเตย์
อย่างที่คิดไว้ไม่มีผิด แนชยืมรถมอเตอร์ไซค์ของคนงาน ขี่กลับไปบ้าน ก้านก็เลยต้องขับรถตามมา พอเข้าบ้านมาสวัสดีพ่อกับแม่
แนชที่กำลังกินข้าวเที่ยงอยู่กับพ่อแม่ แค่ลุกไปตักข้าวเพิ่มอีกจาน
“มา แกงส้ม กับผัดคะน้า ปลาทอดฝีมือแม่กู อร่อยที่สุดในโลก”
นอกจากได้นั่งกินข้าวอยู่ข้างกัน ยังเห็นสร้อยข้อมือที่ยังคงอยู่ที่เดิม ทำให้รู้สึกโล่งใจ พ่อกับแม่ถามอะไรมาก็ตอบไปตามตรง
อาจเพราะใช้เวลาอยู่กับความคิดของตัวเอง และทำความรู้จักกับแนชในจินตนาการมานานเกินไป ทั้งที่รู้และเห็นว่า แนชก็ไม่ได้ปฏิเสธความหวังดีที่ให้ไป แต่ก็อดไม่ได้ที่จะระแวงอยู่ดี
พอกินข้าวเสร็จลุกไปช่วยแนชล้างจาน ก้านก็เลยกระซิบถาม
“คืนนี้กลับไปนอนที่บ้านหรือเปล่า”
แนชหันไปมองแม่ ที่เข้าประจำที่ตรวจรายงานนักศึกษา แม่เหมือนรู้ใจ
“จะไปกินเหล้ากันหรือไง”
“โห แม่”
“ไม่ต้องมาโหแม่เลย อย่างกับแม่ไม่รู้งั้นแหละ”
“ยังไงก็เอามอเตอร์ไซค์ไปคืนเขาก่อน แล้วค่อยไปกินเหล้า”
“งั้นเดี๋ยวไปเย็นๆ แล้วกัน แวะไปหาไอ้กิมก่อน” แนชหันมาบอก
ก้านยิ้มกว้าง หันไปไหว้พ่อกับแม่ เพราะต้องกลับไปที่ร้าน ได้ยินพ่อคุยกับแนชก็เลยหยุดฟังไปด้วย
“ตกลงขอย้ายกลับมาระยอง ไปถึงไหน”
“ยังไม่มีที่เลยพ่อ แต่บอกพี่ที่ฝ่ายบุคคลเขาไว้แล้ว”
“เออ ยังไงที่นี่ก็บ้านเรา”
พ่อพูดกับแนช แต่แนชหันไปทำตาขวางใส่คนที่ยืนยิ้มกว้างอยู่ข้างๆ “ไอ้นี่มายืนยิ้มอะไรแถวนี้ ไปทำงานได้แล้ว”

ค่ำลงกิมกลับเอารถมอเตอร์ไซค์แนชใส่ท้ายรถกระบะมาส่งที่โฮมสเตย์
“รถล้มหรือไง” ก้านตรงเข้ามาถามด้วยความเป็นห่วง
ขณะที่คนงานในโฮมสเตย์เจ้าของรถตัวจริงกลับแค่ยิ้มๆ ปีนขึ้นท้ายรถไปช่วยกิมยกรถลงมา
“สัดเหอะ ห่วงรถ”
“ไม่ใช่อย่างนั้น ก็เห็นเอารถใส่ท้ายมา คิดว่าเป็นอะไร”
ก้านตอบหงอๆ จนกิมต้องช่วย “ไม่ได้เป็นอะไรหรอก กูเห็นว่ามันโพล้เพล้แล้ว ให้มันขี่กลับมาคนเดียว เดี๋ยวโดนแก๊งค์ซิ่งคิดว่าเสือน้อยข้ามถิ่น”
แนชหันไปเงื้อขาจะถีบ กิมรีบหนีไปยืนข้างก้าน
“อย่ามาใช้กำลังกับกูนะ ไอ้เสือน้อย”
“สัดๆๆๆๆ” แนชด่าไม่หยุด
ก้านหันไปถามกิม “พี่จะกินข้าวก่อนหรือกินเหล้าก่อน”
“เฮ้ย ไม่ๆ แค่มาส่งมันเพราะจะกลับไปกินข้าวที่บ้านเยาว์”
“อ้อ..” ก้านลากเสียงยาวเพราะรู้ว่ากิมกำลังคบอยู่กับนงเยาว์สาวสวยที่ผู้ใหญ่แนะนำให้รู้จักกัน

จนเมื่อกิมขับรถออกไป ก้านก็พาแนชไปกินข้าวที่โรงครัวของโฮมสเตย์ ลูกค้าที่เป็นศิลปินคู่สามีภรรยากำลังเรียนการทำยำหมูย่างจากแม่ครัว
ก้านเลยหันมาถามแนช
“จะลองทำแกงจืดเองมั้ย”
“ไม่ มึงทำไปเหอะ กูรอกินอย่างเดียว”
แต่ก้านก็ไม่ได้ทำเหมือนกัน เพราะแม่บ้านอีกคนเข้ามาทำแกงเขียวหวาน กับไข่เจียว แล้วก็ผัดผักให้อย่างรวดเร็ว
แนชหันมามองหน้าเจ้าของโฮมสเตย์ที่ยิ้มกว้าง
“ผมถามจากพี่กิม ว่าแนชชอบกินอะไร พี่กิมบอกว่า ยังไงก็ได้ แต่ต้องมีผัดผักพี่ชอบกินผัดผักเปล่าๆ”
แนชได้แต่พยักหน้ายอมรับ..ก็..ตามนั้นแหละ ถูกทุกข้อที่ว่ามา..

ลูกค้าที่โต๊ะข้างๆ ชี้บอกว่า อยากได้แกงเขียวหวานเหมือนกัน แม่บ้านก็รีบหันไปทำให้ แต่แนชกลับชวนให้ยกกับข้าวทั้งหมดมากินด้วยกัน
คุยกันไปแนะนำที่เที่ยวกันไปจนกระทั่งอิ่ม

“ทำโฮมสเตย์มันสนุกแบบนี้เอง” แนชบอกหลังจากที่ลูกค้าแยกไปเดินเล่นหลังอาหารมื้อใหญ่
“ใช่ ถ้ารีสอร์ททำแบบนี้ไม่ได้เด็ดขาด เพราะลูกค้าเยอะ”
“ถึงจะที่นี่ก็เถอะ ถ้ามีลูกค้าเต็ม 5 ห้องก็วุ่นวายเหมือนกัน”
“แล้วมึงก็ต้องดูแลแบบนี้ทุกห้องใช่มั้ย”
“ไม่หรอก บางคนเขามาพักแบบต้องการความเป็นส่วนตัวมากๆ หรืออาจจะมาเพื่อนอนพักไม่ได้มาเที่ยว เขาจะสั่งอาหารไปที่ห้อง ถึงที่นี่จะให้บรรยากาศแบบอยู่บ้าน แต่เราก็ไม่ควรเดินไปกดออดเรียกเขาออกมาข้างนอก”
ก้านเล่าเรื่องงานของตัวเองแล้วหันไปถามแนช
“แล้ววันนี้ ไปหาพี่กิม ผมยังคิดว่าพี่จะไปกินเหล้าด้วยกันก่อน”
“เปล่า” แนชบอกแล้วเดินไปนั่งที่เก้าอี้ไม้ตัวยาวหน้าบ้าน “มันนัดกับนางสาวนงเยาว์ไว้” หนุ่มตัวเล็กพูดขำๆ “ไม่อยากเชื่อเลยว่ามันจะถูกใจคนที่พ่อแม่หาให้”
“นงเยาว์เขาก็เป็นคนค้าขาย แต่งเข้าบ้านมาช่วยกันทำงานก็มั่นคงดี” ก้านนั่งลงข้างๆ
“แล้วมึงล่ะ” จู่ๆ แนชก็หันมาถาม “พ่อแม่มึงจะแนะนำผู้หญิงให้มึงหรือเปล่า”
ก้านส่ายหน้า “เขาเคยทำแล้วตั้งแต่ตอนที่ผมเรียนจบกลับมาบ้าน เขาก็นัดผู้หญิงให้ดูตัว แต่ผมปฏิเสธไปว่า เสียเวลาของฝ่ายผู้หญิงเขาเปล่าๆ เพราะเวลาที่มีคนถามว่า ผมมีแฟนหรือยัง หรือผมรักใคร คนที่ผมนึกออกมีเพียงคนเดียว...คือแนช”
คนที่หันไปมองทางอื่น มีแก้มสีแดงเรื่อขึ้นทันที “พ่อแม่มึงรู้หรือเปล่าว่ามึง...ชอบผู้ชาย”
“รู้”
ก้านมองสีหน้าตกใจของแนชที่หันขวับกลับมาทันที แต่ตัวก้านเองกลับขำ
“ทำไมต้องตกใจขนาดนั้น”
“ตกใจสิ ห่า ขนาดกู กูยังไม่กล้าบอกเขาเลยว่ากูโดนเจ้าของโฮมสเตย์และสารพัดกิจการลักพาตัวกูมา แล้วก็ตั้งหน้าตั้งตาจีบกูอยู่เนี่ย”

แนชยกเรื่องทั้งหมดว่าเกิดจากก้าน ไม่โทษตัวเองสักนิดที่ไม่เคยปฏิเสธก้านเลยสักครั้ง

“ผมก็แค่ทำให้เขารู้น่ะว่า ผมไม่ได้คิดอะไรกับผู้หญิง เขาก็ค่อยๆ พูดถึงน้อยลง”
“แล้วเขารู้ได้ยังไง”
“เพราะเมื่อสักปีก่อน ผมบอกเขาว่า ผมแน่ใจตัวเองแล้วว่าผมรักใคร อย่าพยายามทำให้ผมเปลี่ยนใจเลย”
“ปีก่อน สัด รู้ช้ามาก...” แนชประชด
“ผมรู้ใจตัวเองมานานแล้ว แต่การพูดคำว่ารักออกไป มันไม่ควรเป็นคำที่พูดง่ายๆ ผมรักคนๆ หนึ่งมานานเกินไป ถึงไม่มีโอกาสได้ใกล้ชิดมากกว่าเดิม แต่ผมก็ถอยกลับไปที่จุดเริ่มต้นไม่ได้อีกแล้ว”

แนชลุกขึ้นยืน “กูจะไปอาบน้ำ มึงต้องไปเดินดูอะไรก่อนหรือเปล่า”
“ครับ”
หนุ่มตัวเล็กพยักหน้า บอกให้รอก่อน แล้ววิ่งเข้าไปในบ้าน กลับออกมาพร้อมกับไฟฉายอันใหญ่
“กูเปลี่ยนถ่านแล้ว ถือไปด้วย”

ก้านเดินไปที่หน้ารีสอร์ท ดูความเรียบร้อยแล้วกลับเข้ามา เห็นแนชที่อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว ออกมานั่งรอที่หน้าบ้าน
“เข้าไปข้างในสิ ข้างนอกยุงเยอะ”
“นี่มึงออกคำสั่งกับใครเนี่ย” แนชกอดอกยืนตาขวาง
คนตัวได้แต่ส่ายหน้า ขำแบบเหนื่อยๆ “ขอโทษครับ ไม่ได้ออกคำสั่ง แค่แนะนำ”
“มึงทวนประโยคเมื่อกี้ใหม่เลย มีตรงไหนเป็นคำแนะนำ”
“ก็....” ก้านอึกอัก “เห็นแนชออกไปข้างนอก เดี๋ยวโดนยุงกัดจะไม่สบายเป็นไข้เลือดออก”
ถึงแนชจะกลับบ้านมาบ่อยกว่าคนบ้านเดียวกันคนอื่น แต่แนชก็ยังดูเหมือนคนกรุงเทพฯ มากกว่าคนแถวนี้อยู่ดี
“แต่คราวนี้มึงกลับมาเร็วกว่าครั้งก่อน”
“ลุงยามกลัวแนชจะเหงา บอกให้ผมรีบกลับเข้ามาดู”
แนชพยักหน้ายอมรับ “ไม่ถึงกับเหงาหรอก แต่มันเงียบ ๆ เพราะปกติถ้ากูไม่นอนดูละครอยู่กับแม่ ก็อยู่ในวงเหล้ากับไอ้กิม” หนุ่มตัวเล็กทำท่าเหมือนนึกขึ้นมาได้ “กูไม่เคยเห็นมึงกินเหล้า”
“กิน แต่ก็อย่างที่บอก ถ้าที่นี่มีแขกผมก็ไม่อยากกิน เพราะถ้าเกิดเขาจะเรียกหาอะไรขึ้นมาตอนที่ผมเหม็นเหล้ามันก็ไม่ดี เขาจะรู้สึกว่าไม่ปลอดภัย”
“มันก็จริง”

กำลังจะเดินเข้าบ้าน ได้ยินเสียงร้องตะโกนมาจากบ้านพักด้านหน้า ตามมาด้วยเสียงโครมครามคล้ายมีคนขว้างปาสิ่งของ
ก้านผละจากแนชวิ่งตรงไปที่ต้นเสียงทันที
คู่สามีภรรยาคู่นั้นกำลังทะเลาะตบตีกันวุ่นวาย ทั้งขว้างปาสิ่งของใกล้มือเข้าใส่กัน ก้านตรงเข้าไปแยกฝ่ายสามีออกมา ทำให้ลุงยามเข้าไปกันฝ่ายหญิงได้
แต่การที่ผู้ชายอื่นไปโดนตัวผู้หญิงอื่น ต่อให้ในกรณีแบบนี้มันก็อาจโดนตบได้ แนชเลยต้องเข้าไปใช้หลังบังฝ่ายภรรยาไว้
แต่ทั้งคู่ก็ยังร้องตะโกนด่าและพยายามที่จะทำร้ายกันต่อ ก้านเลยต้องพาฝ่ายสามีให้ห่างออกมา
กว่าที่ทั้งคู่จะอารมณ์เย็นลง และกลับมาคุยกันเวลาก็ผ่านไปร่วมชั่วโมง
ก้านจัดการทุกอย่างจนเรียบร้อยถึงได้หันมาชวนแนชกลับมาบ้านพัก
ดวงตากลมที่มองมาเต็มไปด้วยความแปลกใจ และเหมือนมีคำถาม
“จะถามอะไร”
“ไมได้ถาม แต่กำลังคิดว่ามึงดูใจเย็นแล้วก็เป็นผู้ใหญ่มากกว่ากูเสียอีก”
คนตัวโตยิ้มกว้าง โอบไหล่บางเดินเข้าบ้านพัก
“เป็นแนชก็ต้องทำเหมือนผม”
แต่แนชไม่เห็นด้วย “ไม่หรอก เพราะเมื่อกี้กูกำลังจะด่า ว่าทะเลาะกันทำห่าอะไร ตอนกินข้าวยังดีๆ กันอยู่เลย”
ก้านถึงกับหัวเราะเสียงดัง

ตอนสายก้านมาส่งแนชที่บ้าน แวะเข้ามาสวัสดีพ่อกับแม่ แล้วก็กลับไปที่โฮมสเตย์
ลูกค้าทั้ง 2 คนมารอเช็กเอาท์ และพูดขอโทษที่เมื่อคืนทำให้ทุกคนต้องเดือดร้อน ข้าวของเสียหาย แต่ก้านกลับยิ้มกว้าง
“คนอยู่ด้วยกันมานาน มันก็ต้องมีเรื่องที่ไม่ถูกใจกันบ้าง”
“ที่จริงตอนอยู่บ้านเราก็ทะเลาะกันนะ แต่ไม่เคยถึงกับทำลายข้าวของแบบนี้ คงเพราะถือว่า ที่นี่ไม่มีใครรู้จัก ไม่คิดว่าต้องระวังตัวหรือเกรงใจใคร ก็เลยเป็นได้ถึงขนาดนี้” ฝ่ายสามีบอก
“ครับ ไว้โอกาสหน้าให้ผมพาคุณไปเที่ยวข้างนอกดีมั้ยครับ”
“ดีๆ” ฝ่ายสามีเห็นด้วย 
แต่ในระหว่างที่สามีกำลังเซนต์สลิปบัตรเครดิต ฝ่ายภรรยาก็ถามก้าน
“ผู้ชายตัวเล็กๆ อีกคนน่ะใคร ”
ก้านยิ้มกว้างขณะที่ตอบคำถาม “พี่ที่ผมรักมากที่สุดครับ”

....สำหรับก้านแล้ว แนชคือคนที่ต้องการจะเป็นคนรัก แต่เหมือนแนชยังต้องการเวลาให้แน่ใจ ตอบแบบนี้มันก็น่าจะตรงที่สุด
ถ้าขืนตอบว่าเป็นคนรัก แนชรู้เข้ามีหวังโดนด่าเสียงดังอีกแน่
แต่ก็ยังคงหวังเสมอ ว่าจะมีสักวันที่บอกกับใครก็ตามที่ถามว่า ผู้ชายตัวเล็กๆ อีกคนน่ะใคร ว่านั่นคือคนรักของผม.... 

แต่ฝ่ายสามีหันไปทำเสียงไม่ค่อยพอใจภรรยาที่ถามเรื่องส่วนตัว แล้วหันมาบอกกับก้าน
“เขาบอกว่า คนนั้นดูไม่ค่อยเข้มแข็งแบบผู้ชาย”
ก้านอยากบอกว่า ถึงแนชจะผอม และผิวขาวจัด แต่ที่จริงเป็นคนเข้มแข็งมาก แต่ยังไม่ทันอธิบาย ฝ่ายสามีก็พูดต่อด้วยน้ำเสียงที่เบาลงกว่าเดิม “เมียผมเขาไม่ชอบพวกโฮโมน่ะ พอเห็นผู้ชายตัวผอมๆ ท่าทางสำอางค์ก็ว่าเป็นพวกนั้นไปเสียหมด แต่สำหรับผมก็ว่า คนเรามันจะเหมือนกันหมดได้อย่างไร”
ทั้งที่รู้สึกเหมือนหัวใจเต้นแรงขึ้นวูบหนึ่ง แต่ก้านยังคงยิ้มรับ ผายมือเดินนำคู่สามีภรรยาไปที่รถเล็ก ที่มีกระเป๋ากับข้าวของของทั้งคู่ ให้คนงานของโฮมสเตย์พาไปส่งที่สถานีรถ
แม่บ้านแตะที่ข้อศอกเบาๆ
“คุณคะ ถ้าเกิดเขารู้”
“รู้ก็คือรู้” ก้านตอบเหมือนไม่ได้ใส่ใจ “ไม่รู้ก็ไม่ต้องติดประกาศบอก ยังไงนี่มันก็ไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับที่นี่อยู่แล้ว”
แม่บ้านส่ายหน้า “เสียดาย”
“ไม่ต้องเสียดายหรอก เพราะพวกเขาอาจไม่กลับมาพักกับเราอีก”
“จริงสินะ มาตีกันแทบตายแบบนี้ คงไม่กลับมาหรอก”

บ่ายจัดหลังจากที่เคลียร์งานทุกอย่างเรียบร้อยทั้งที่โฮมสเตย์และที่รีสอร์ทก็กลับมารับแนชมาส่งที่กรุงเทพฯ กว่าจะมาถึงก็ค่ำ
“แนช”
“พักผ่อนบ้างนะ”
แนชหันมาประชด “บอกใคร มึงบอกตัวมึงเองเหอะ เดี๋ยวไปโน่น เดี๋ยวมานี่ ถ้าแยกร่างเป็นหงอคงได้มึงคงทำ”
“น่าสนใจ” ก้านรับมุก ได้ยินเสียงหัวเราะร่วนเป็นคำตอบ
พอลงรถที่หน้าอพาร์ตเมนต์แนชก็ไม่ลืมบอก “ไม่ต้องมาดักกูอย่างเมื่อวันศุกร์แล้วนะ ยังไงที่นั่นก็บ้านกู พ่อแม่กูอยู่ที่นั่น ดาบเผดิมแกเกษียณแล้ว ส่วนอาจารย์สายหยุดก็ใกล้จะได้อำลาลูกศิษย์ กูต้องกลับไปดูพวกเขาแน่ๆ”
“อ้าว แล้วผมล่ะ” ก้านท้วง
แนชชี้หน้า “มึงก็ดูแลตัวเองให้ดี กินให้อิ่ม นอนให้พอ ขับรถระมัดระวัง”
“ครับ”

ก้านรับคำสั่ง แล้วขับรถกลับออกมา

=========จบตอนที่ 2=======
เรื่องนี้มีที่มาตอนที่ไปเที่ยว  แล้วก๊วนพี่ไจฟ์เขาก็พูดกันว่า ถ้าเป็นเจ้าของรีสอร์ทจะให้มีอะไรอยู่ในรีสอร์ทบ้าง สุดท้ายพี่ไจฟืก็บอกว่า "กูไม่ทำรีสอร์ท แต่กูจะไปนอนรีสอร์ทมึงฟรีๆ" โครงการวิมานในอากาศจึงพับไปในที่สุด
แต่พล็อตให้พระเอกสวยกว่า และเด็กกว่านายเอก ผมคิดเองตอนขับรถกลับบ้าน แล้วมันก็ขยายออกมาเรื่อยๆ ตามที่คุณอ่าน จะให้พระเอกเด็กกว่าหลายๆปี ก็เขียนไม่ได้ทั้งคู่ มันอะดึ๋ยกึ๋ยกึ้ดน่ะ
คำศัพท์วันนี้ "น้องเต้ย" มีที่มาจากเืพื่อนสาวของพี่ไจฟืคนหนึ่งที่เขา (เธอ)ไม่ชอบให้ใครเรียกว่ากระเทย เพราะ "ชั้นเป็นผู้หญิง" ดังนั้นเวลาที่คุยกันจึงต้องมีการคิดคำใหม่ และกลายเป็นน้องเต้ยในที่สุด ...มีใครชื่อเต้ยมั้ยอ่ะ  :m29:
น้องตู่ ก็คือตุ๊ด
อีกเรื่องที่อยากบอก เรื่องนี้มี 6 ตอนจบ เพราะฉะนั้น ตอนนี้มันก็เกือบครึ่งเรื่องแล้วละนะ  :m26:

พบตอนที่ 3 วันสีฟ้านะครับ
พี่ไจฟ์กับทีสุดหล่อครับ 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-07-2012 07:10:58 โดย jivetea »

kakuro

  • บุคคลทั่วไป
Re: Snatch (ตอนที่ 2 หน้า 3 : 4-07-55)
«ตอบ #66 เมื่อ04-07-2012 06:32:05 »

ขอบคุณไจฟ์ที :L2:
ไจฟ์ทีบรรยายการต่อปากต่อคำได้เก่งมาก ชอบอ่าน เหมือนฟังเพื่อนเถียงกัน
คอมเม้นท์ไม่เก่งนะ แต่อ่านแล้วรู้สึกว่าแนชกับก้านน่ารักจัง ถึงจะคนละแบบก็เถอะ
เรื่องของไจฟ์ทีมีข้อคิดทุกตอนนะ แต่ขอจดไว้เตือนใจตัวเองนะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-07-2012 07:06:44 โดย kakuro »

ออฟไลน์ skynotebook

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-1
Re: Snatch (ตอนที่ 2 หน้า 3 : 4-07-55)
«ตอบ #67 เมื่อ04-07-2012 07:01:41 »

มาแว้วววว
-------------------------
 :o8:  สรุปว่าเรื่องนี้น้องทีเป็นคนเขียนใช่ไหมค่ะเนี่ย
พระเอกออกแนวขี้น้อยใจนะเนี่ย ว่าแต่เหมือนใครหรือป่าวน่า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-07-2012 09:30:44 โดย skynotebook »

ออฟไลน์ route rover

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-7
Re: Snatch (ตอนที่ 2 หน้า 3 : 4-07-55)
«ตอบ #68 เมื่อ04-07-2012 07:09:16 »

ก็ยังยืนยันคำเดิมว่า แนช น่ารักมาก  :impress3:

ออฟไลน์ MiSS-U

  • {^o^} {^3^}
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2800/-11
Re: Snatch (ตอนที่ 2 หน้า 3 : 4-07-55)
«ตอบ #69 เมื่อ04-07-2012 07:17:12 »

อ่านแล้วเพลินเชียวค่ะ ไม่อยากให้จบตอนเลย

แต่ก็อยากรู้ว่าแนชจะใจอ่อนกับหนุ่มหน้าสวยเมื่อไหร่

+1และเป็ดแทนคำขอบคุณค่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Snatch (ตอนที่ 2 หน้า 3 : 4-07-55)
« ตอบ #69 เมื่อ: 04-07-2012 07:17:12 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ indy❣zaka

  • กระซิกๆ เบื่อดราม่า...
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +625/-26
Re: Snatch (ตอนที่ 2 หน้า 3 : 4-07-55)
«ตอบ #70 เมื่อ04-07-2012 07:17:53 »

ก้านนี่แลดูมั่นคงดีเนอะ

Tasaitatsu

  • บุคคลทั่วไป
Re: Snatch (ตอนที่ 2 หน้า 3 : 4-07-55)
«ตอบ #71 เมื่อ04-07-2012 08:29:29 »

น้องก้านดูใจเย็นดีจัง แต่ขี้น้อยใจนะเนี่ย ชอบคิดเองเออเองอย่างที่แนชพูดจริงๆด้วย
ชอบเวลาที่แนชอยู่กับก้านจริงๆ แนชดูเย็นลงถึงจะบ่นนั่นนี่นู็้นก็ตามเถอะ

รอให้ถึงวันสีฟ้าคะ แต่วันสีฟ้าที่น้องทีบอกมันก็จะถึงตอนที่สามแล้ว
แอบไม่อยากให้มีแค่หกตอน แหะๆๆ

ขอบคุณสำหรับตอนนี้ค่ะ ^______^

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
Re: Snatch (ตอนที่ 2 หน้า 3 : 4-07-55)
«ตอบ #72 เมื่อ04-07-2012 08:53:36 »

ก้านดูเป็นผู้ใหญ่แต่ถ้าเป็นเรื่องของแนชจะดูเป็นเด็กน้อยไปเลยอ่ะ

คงเพราะสถานะที่ยังไม่แน่นอนละมั้ง....แนชให้ความมั่นใจก้านเค้าหน่อยสิ :impress2:

ออฟไลน์ aehJTS

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1830
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +216/-8
Re: Snatch (ตอนที่ 2 หน้า 3 : 4-07-55)
«ตอบ #73 เมื่อ04-07-2012 09:25:52 »

ชอบก้านอะ ชอบมากเลยนิสัยน่ารักเชียว :-[
แต่ทำไมมันน้อยตอนจังเลยแค่ 6 เองเหรอ
6 ตอนหลัก 15 ตอนพิเสษใช่ไหมคะ (โดนไจฟ์กระทืบ :z6:)


 :pig4: คะ

ออฟไลน์ @PurPle SuN@

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
Re: Snatch (ตอนที่ 2 หน้า 3 : 4-07-55)
«ตอบ #74 เมื่อ04-07-2012 09:31:54 »

6 ตอนจบ  o22 จะสั้นไปไหนสองหนุ่ม แต่ก็นะสั้นแค่ไหนเราก็อยากอ่าน  :sad4:

แอบชอบประโยคนี้มากถึงมากที่สุด "ผมรักคนๆ หนึ่งมานานเกินไป ถึงไม่มีโอกาสได้ใกล้ชิดมากกว่าเดิม แต่ผมก็ถอยกลับไปที่จุดเริ่มต้นไม่ได้อีกแล้ว” มันบอกความรู้สึกก้านได้ดีมาก

ขอบคุณไจฟ์และนายน้ำชา รักษาสุขภาพกันด้วยนะจ๊ะ

ออฟไลน์ rubymoona

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-5
Re: Snatch (ตอนที่ 2 หน้า 3 : 4-07-55)
«ตอบ #75 เมื่อ04-07-2012 09:50:12 »

จะรอวันสีฟ้าอย่างใจจดใจจ่อเลยคะ!
ชอบจังน๊า บรรยากาศแบบนี้แหละ อ่านแล้วชวนสบายใจจังเลย ชอบมากๆ
คุณพระเอกเราก็นะ น่ารักเป็นบ้า ว้ายๆๆๆ คุณนายเอกเราก็นะ วีนเหวี่ยงซึน!เลิศอ่ะ!

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
Re: Snatch (ตอนที่ 2 หน้า 3 : 4-07-55)
«ตอบ #76 เมื่อ04-07-2012 09:50:22 »

6 ตอนเองเหรอ  โหะ โหะ  ก้านดูขี้ใจน้อยเนาะ  แหม  มันน่าจับมาปลอบจริง ๆ

Yukisae

  • บุคคลทั่วไป
Re: Snatch (ตอนที่ 2 หน้า 3 : 4-07-55)
«ตอบ #77 เมื่อ04-07-2012 09:55:34 »

6ตอนจบบบ?!?! สั้นแท้ o22
แต่ตอนนึงก็ยาวอยู่ เหอะๆ
อ่านตอนแรกเกือบร้องไห้แน่ะ สงสารพระเอก
ตอนนี้ก็สงสารงต้องเจอนายเอกฮาร์ดคอร์ 5555
++จ้า

ออฟไลน์ inspirer_bear

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-5
Re: Snatch (ตอนที่ 2 หน้า 3 : 4-07-55)
«ตอบ #78 เมื่อ04-07-2012 10:19:34 »

6ตอนจบเองหรออ *0* ไม่อยากจะเชื่อเลย 55

พระเอกหน้าสวยแถมอ่อนไหวง่ายด้วยแหะ

คราวหลังถามก่อนจิ อย่าเพิ่งหนีออกมา

แต่ไง พี่แนชก็มาง้อแหละเนอะ ง้อรึเปล่า ไอ้ด่าตลอดทางเนี้ย 555

รอวันสีฟ้าค้าบบบ :z2:

ออฟไลน์ sukie_moo

  • ปัจจุบัน คือ อดีตของอนาคต
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3488
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +457/-15
Re: Snatch (ตอนที่ 2 หน้า 3 : 4-07-55)
«ตอบ #79 เมื่อ04-07-2012 10:34:56 »

ตอนก้านไปรับแนช แล้วร้องไห้ จะร้องตามเลยอ่ะ สงสารก้านสุดๆ แต่พอแนชตามมา แก้มแทบระเบิด


มีแค่ 6 ตอนเองเหรอ ยืดไม่ได้เหรอ  เหมือนละครช่องหลายสีไง เรตติ้งดีๆก็ยืดไปอีกเยอะ 

ปล.น้องที  พี่เรียกน้องเตย(กระเทย) แทนพวกสาวๆจ๊ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Snatch (ตอนที่ 2 หน้า 3 : 4-07-55)
« ตอบ #79 เมื่อ: 04-07-2012 10:34:56 »





ออฟไลน์ love2y

  • (′~‵)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2059
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-11
Re: Snatch (ตอนที่ 2 หน้า 3 : 4-07-55)
«ตอบ #80 เมื่อ04-07-2012 10:43:57 »

ก้านน่ารักจริงๆ ^^

ออฟไลน์ jeeu

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 688
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-1
Re: Snatch (ตอนที่ 2 หน้า 3 : 4-07-55)
«ตอบ #81 เมื่อ04-07-2012 12:09:17 »

พี่แนช นี่พี่ไม่ได้รักน้องก้านเหรอ!!!!
ขับรถตามง้อน้องซะขนาดนี้ (ถึงจะตามมาด่าก็เถอะนะ)
ชอบที่น้องก้านร้องไห้อ่ะ ดูเก๋ดี น้อยใจพี่ กูร้อง.... น่าร๊ากกกก~~~
พี่แนช รีบๆใจอ่อน น้องรอหลายปีแล้วเน้อ

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
Re: Snatch (ตอนที่ 2 หน้า 3 : 4-07-55)
«ตอบ #82 เมื่อ04-07-2012 12:11:30 »

น่าอิจฉาแนชจริงๆ
ก้านมั่นคงได้ขนาดนี้ :L1:

PAAPAENG~

  • บุคคลทั่วไป
Re: Snatch (ตอนที่ 2 หน้า 3 : 4-07-55)
«ตอบ #83 เมื่อ04-07-2012 12:15:13 »

ฮ๊าาาาาาา
น้องเต้ยยยยย สวยอยู่นะ เป็นนางเอกด้วย
#ผิดแล้วล่ะ! 555

อีกไม่นานแนชก็จะเสร็จก้าน #ห๊ะ
สู้ๆนะก้าน ก้านดูน่ารักมากเลยอ่ะ
ชอบผู้ชายตัวโตนิสัยแบบนี้ >.<

เจอกันวันฟรายเดย์ค่ะ  :)

ออฟไลน์ moredee

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-8
Re: Snatch (ตอนที่ 2 หน้า 3 : 4-07-55)
«ตอบ #84 เมื่อ04-07-2012 12:41:41 »

เรื่องนี้ต้องเป็นขนมขบเคี้ยว หรือ ของขบเคี้ยว(snack food)  เพราะมีแค่ 6 ตอน :laugh:

ออฟไลน์ choijiin

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2082
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +445/-5
Re: Snatch (ตอนที่ 2 หน้า 3 : 4-07-55)
«ตอบ #85 เมื่อ04-07-2012 12:45:47 »

พระเอกเด็กกว่าหลายๆปี ก็เขียนไม่ได้ทั้งคู่ มันอะดึ๋ยกึ๋ยกึ้ดน่ะ


กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
 :jul3:
น้องทีเอาซะคนอ่านคิดตามได้เลย
แต่พี่ชอบนะที่พระเอกสวยๆนายเอกน่ารัก
มันมีแต่คนสวยๆงามๆมันชื่นหัวใจจริงๆ
 :m1:

 :กอด1: น้องทีหมุบหมับ เจอกันตอนหน้านะจ้ะ

ออฟไลน์ gupalz

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +604/-20
Re: Snatch (ตอนที่ 2 หน้า 3 : 4-07-55)
«ตอบ #86 เมื่อ04-07-2012 12:48:26 »

6 ตอนเองหรอ

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
Re: Snatch (ตอนที่ 2 หน้า 3 : 4-07-55)
«ตอบ #87 เมื่อ04-07-2012 13:03:18 »

เรื่องนี้สั้นจังเลย

แนชน่ารักอ่ะ ส่วนก้านก็มั่งคงมาก ๆ

must

  • บุคคลทั่วไป
Re: Snatch (ตอนที่ 2 หน้า 3 : 4-07-55)
«ตอบ #88 เมื่อ04-07-2012 13:04:08 »

"ผมรักคนๆ หนึ่งมานานเกินไป ถึงไม่มีโอกาสได้ใกล้ชิดมากกว่าเดิม แต่ผมก็ถอยกลับไปที่จุดเริ่มต้นไม่ได้อีกแล้ว”
ชอบประโยคนี้ที่ออกมาจากปากก้าน และแค่เพียงประโยคสั้นๆ ประโยคเดียวแต่มันครอบคลุมทั้งหมดจริงๆ นะ
ไม่ว่าจะเป็น การเลือกที่จะรอโดยไม่รู้ว่าจะสิ้นสุดลงเมื่อไหร่ การเลือกที่จะรักโดยไม่รู้ว่าอีกฝ่าจะมีรักมอบให้หรือเปล่า
การเลือกที่จะก้าวต่อไปแม้จะมองไม่เห็นจุดหมายปลายทาง การกระทำทุกอย่างของก้านใช้ประโยคด้านบนตอบได้หมด


ไม่ชอบให้ใครเรียกว่ากระเทยเลยเรียกว่า "น้องเต้ย" พอได้อ่านตรงนี้ก็เลยคิดถึงพี่สาว(?) ที่สนิทกันคนหนึ่งทันที
เพราะนางก็ไม่ชอบให้ใครมาเรียกนางว่ากระเทยเหมือนกัน นางบอกว่า "กูไม่ใช่กระเทย แต่กูเป็นตุ๊ด" m(_  _)m

ว่าแต่ไอ้คำว่า 'อะดึ๋ยกึ๋ยกึ้ด' เนี่ย ความหมายตามหลักพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานคืออะไร กร๊าาากกก~

yayee2

  • บุคคลทั่วไป
Re: Snatch (ตอนที่ 2 หน้า 3 : 4-07-55)
«ตอบ #89 เมื่อ04-07-2012 13:29:49 »

ชื่อคนเขียน คือแรงจูงใจสำคัญที่ทำให้รีบเข้ามาอ่าน
น้องทีนี่เขียนเก่งขึ้นทุกวันๆนะจ๊ะ(มีครูที่ปรึกษาดี)
ใครอยู่ใกล้แนชคงไม่เหงานะ
และถ้าได้อยู่ใกล้ก้าน ก็จะได้ความรู้สึกที่นุ่มๆเย็นๆ(ถ้าก้านไม่อยู่ในอารมณ์น้อยใจนะ อิ อิ)

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด