พอออกมาจากห้องของนาตาเซียได้อลันก็คว้าเปียวไปกอด นัวเนียกันไปใหญ่ ฮิโรยูกิทุบท้ายทอยไปปั้กใหญ่จนพี่ชายของ
ตนเองสลบเหมือด เปียวถึงกับถอนหายใจอย่างโล่งอก เด็กหนุ่มขอบคุณฮิโรยูกิที่ช่วย ขณะที่คมลอบกลืนน้ำลายเมื่อเห็นฮิโรยูกิ
คาเสะในรูปแบบนี้ ทำให้โกรธไม่ได้แล้วคมเอ๋ย
เมื่อพาอลันกลับมาถึงห้องพัก ทั้งสามหนุ่ม คม ฮิโรยูกิ และพิชญจึงกลับห้องพักของแต่ละคน เปียวแอบบ่นคนเมายาก่อนขึ้น
เตียงมานอนข้างๆ พอจะเคลิ้มหลับกลับรู้สึกว่ามีอะไรไต่ยุกๆยิกๆไปตามร่างกาย เมื่อลืมตามาดูก็เห็นว่าอลันกำลังซุกไซ้ร่างกาย
ตนเองอยู่เลย เปียวเบิกตาโตอย่างตกใจ จะขยับหนีก็โดนคนตัวใหญ่กว่ากดเอาไว้ ทำได้แค่ดิ้นกระแด่วๆอยู่อย่างนั้น แย่แล้ว~~
“อลัน! นี่... เดี๋ยวสิ ลืมตาดูก่อนไหมว่าใครน่ะ!”
เปียวร้องตะโกนเสียงดัง หวังว่ามันจะทำให้อลันคืนสติสตังมาบ้าง แต่ก็ไม่ เพราะอีกฝ่ายยังคงซุกไซ้ดูดเม้มไปตามผิวเนื้อขาวๆ
ของเขาไม่ยอมหยุด มือเรียวดันหน้าอลันออก อยากยกขาขึ้นช่วยอีกอย่างแต่ถูกทับเอาไว้ราวกับอีกฝ่ายจะรู้ทัน
“เปียว เปียว ช่วยที... ร้อนเหลือเกิน อยากรักเปียว... ที่รัก”
อลันเว้าวอนขอ เปียวเม้มปากสีหน้าหนักใจ พยายามดันตัวอลันไว้สุดใจขาดดิ้น แต่พอเห็นว่าอีกคนท่าทางจะทนไม่ไหวแล้วก็
ชักจะลังเล แต่.. คำว่าแต่ของเปียวถูกลบเลือนหายเมื่ออลันรุกหนักขึ้น สุดท้ายแล้วลูกไก่น้อยก็ยอมให้ราชสีห์(เมายา)รักอีกจนได้
แพ้ตลอดศกเลยเปียว…
… … … … … … … … …
เมื่อตื่นขึ้นมาในเวลาของวันใหม่เปียวก็แทบลุกไม่ขึ้น อลันเอ่ยขอโทษ เปียวเลยว่าไม่ต้องมาขอโทษ มันไม่หายเจ็บ ชายหนุ่ม
ตัวโตก้มหน้าสำนึกผิด แต่อดไม่ได้หรอกที่จะรู้สึกดี ก็ทำกับเปียวนี่นะ ดีกว่านาตาเซียแน่ๆล่ะ ถึงตอนนี้แล้วอลันก็อดรู้สึกดีใจ
ไม่ได้ที่ลูกไก่น้อยของเขาไม่ได้เชื่อในสิ่งที่เห็น แต่เลือกที่จะเชื่อและไว้ใจเขามากขึ้น
อลันให้เปียวนอนพักต่อ ขณะที่ตนเองเข้าไปอาบน้ำแล้วออกมาจัดการกับพื้นห้องที่มันเกลื่อนไปด้วยเสื้อผ้าของเขาและเด็ก
หนุ่ม มองสภาพเตียงที่เปียวนอนอยู่แล้วก็ถอนใจ คงต้องจ่ายเงินเพิ่มเสียแล้วสิ
+++++++++++++
“ช่วยดูแลภรรยาของคุณด้วยนะครับวิคเตอร์ อย่าให้เที่ยวมาวุ่นวายกับผมแบบนี้ เพราะผมไม่ใช่คนใจดีมีเมตตาเท่าไหร่”
อลันออกมานอกระเบียงเพื่อต่อสายโทรศัพท์ทางไกลถึงวิคเตอร์ เฟอร์ริงตันผู้เป็นบิดา ให้ทางนั้นรีบมาจัดการก่อนที่ตนเองจะได้
ลงมือทำอะไรลงไป
“เธอไปทำอะไรให้ลูกหรือแอล?” เสียงวิคเตอร์ถามกลับมา ท่าทางชายชราจะร้อนใจไม่น้อยเมื่อรู้ว่าภรรยาสาวของตนเองไปยุ่ง
วุ่นวายกับบุตรชาย
“ผมว่าคุณควรถามเธอดูเองนะ ให้ผมพูดคงจะไม่ดีเท่าไหร่”
อลันบอกเสียงเรียบ ชายชรารับปากว่าจะจัดการเรื่องนี้ให้เอง แต่ก่อนที่อลันจะได้วางสายเสียงของบิดาก็ดังขึ้นมาอีก ทำให้ชาย
หนุ่มต้องนิ่งฟัง
“แอล... ลูกสบายดีไหม?”
คำถามนั้นทำให้อลันชะงัก เหมือนโดนค้อนทุบหัวอย่างไรไม่รู้ เขาโทรหาวิคเตอร์เพียงเพื่อจะให้อีกฝ่ายช่วยจัดการธุระให้ ไม่ได้
ทักทายหรือเอ่ยถามสารทุกข์สุขดิบของผู้เป็นบิดาสักนิด เมื่อฝ่ายนั้นทักถามมาทำให้อลันรู้สึกสะท้อนในอก
“ผมสบายดี หวังว่าคุณก็คงสบายดีเช่นกัน”
อลันตอบกลับอย่างพยายามรักษาระดับน้ำเสียงไม่ให้มันดูแข็งกระด้างมากจนเกินไป ทางด้านวิคเตอร์ที่ได้ยินลูกตอบกลับมา
เช่นนั้นก็รู้สึกว่าดีมากแล้ว เพราะไม่นึกว่าอลันจะโต้ตอบกับเขาเช่นนี้เลย
“อืม ก็ดีตามประสาคนแก่น่ะ”
“ยอมรับด้วยหรือว่าตัวเองแก่?”
อลันเผลอกระเซ้าแกมเหน็บแนมเล็กๆ พอรู้ตัวว่าตนเองพูดอะไรออกไปอลันก็ชะงัก วิคเตอร์หัวเราะในลำคอกับคำพูดของลูก
ชายคนเล็ก วันนี้อลันมาแปลก ยอมพูดดีๆด้วย แถมยังพูดเล่นกับเขาอีกแหนะ
“ช่วยจัดการให้ผมด้วยนะครับวิคเตอร์” อลันเอ่ยย้ำก่อนที่จะวางสาย
“โอเค ลูกรัก”
เมื่อวางสายจากวิคเตอร์แล้วอลันจึงจะกลับเข้าห้อง ขณะที่กำลังเลื่อนประตูกระจกให้เปิดออก เสียงของคนในห้องก็ดังแว่วมา
“อลัน…”
“ครับ”
เสียงเรียกของคนในห้องทำให้อลันต้องเร่งฝีเท้าก้าวเข้าไปหาโดยไว ชายหนุ่มนั่งลงข้างเด็กหนุ่มที่นั่งจุ้มปุ๊กอยู่บนเตียงพร้อม
เอ่ยถาม
“ว่าไงครับที่รัก?”
“ผมอยากเข้าห้องน้ำ”
เปียวบอกเสียงเบา เหมือนอลันจะได้ยินเสียงแหบหน่อยๆหรือเปล่านะ ชายหนุ่มพาเปียวไปเข้าห้องน้ำ จัดการธุระเสร็จจึงให้อาบ
น้ำด้วยเลยทีเดียว ก่อนให้แช่น้ำอุ่นหลังจากอาบน้ำเสร็จ อลันนั่งอยู่ข้างอ่างอาบน้ำที่เปียวกำลังแช่อยู่ เด็กหนุ่มเอนพิงขอบอ่าง
แล้วหลับตานิ่ง อลันมองรอยแดงบนตัวของเปียว ไม่เพียงรอยจูบแต่ยังมีรอยกัดด้วย นี่เขาทำถึงขนาดนี้เลยหรือ?
เห็นเช่นนั้นแล้วอลันยิ่งรู้สึกผิด มือหนาลูบรอยเหล่านั้นแผ่วเบาด้วยกลัวว่าอีกคนจะเจ็บ เปียวสะดุ้งเล็กน้อยกับสัมผัสบนร่างกาย
ก่อนลืมตาขึ้นมามอง อลันมองสบตาเด็กหนุ่มก่อนเอ่ยถามเสียงแผ่ว
“เจ็บมากไหมคนดี?”
น้ำเสียงห่วงใยปนรู้สึกผิดนั้นทำให้เปียวก้มมองตามมือของอลัน เด็กหนุ่มแตะร่องรอยบนร่างกายของตนเองแล้วส่ายหน้า
“ไม่เป็นไรหรอก แต่อย่าเผลอแบบนี้อีกแล้วกัน”
เปียวบอกอย่างไม่ถือโกรธให้อีกคนสบายใจ แต่ยังมีแอบข่มขู่ปิดท้าย
“ผมแค่อยากยุติการวุ่นวายของเธอ เลยไม่ได้นึกถึงว่าเธอจะทำแบบนี้”
อลันเอ่ยแก้ ในงานเลี้ยงนั้นนาตาเซียตามติดเขาจนน่ารำคาญ เมื่อเธอชวนดื่มเขาเลยตัดปัญหาโดยการดื่มเป็นเพื่อนเธอเพียง
แก้วเดียวแล้วจะได้ขึ้นมาหาเปียวที่ห้อง แต่นั่นมันก็เป็นความคิดที่ไม่รอบคอบเอาเสียเลย ทำให้เสียท่าผู้หญิงคนนั้นไปเสียได้
เปียวมองหน้าคนพูดแล้วถอนใจ ก่อนยักไหล่
“ไม่อยากตอกย้ำ”
“อะไรล่ะ พูดได้” อลันเอ่ยกลั้วหัวเราะ
“ก็... คุณเป็นถึงมิสเตอร์แอล เชี่ยวชาญเรื่องพวกนี้มากด้วยไม่ใช่หรือไง?”
“มิสเตอร์แอลก็คนนะครับ พลาดไม่เป็นหรือไง?”
ชายหนุ่มบีบจมูกเด็กกวนอย่างหมั่นเขี้ยวก่อนปล่อย
“พลาดได้ แต่อย่าพลาดซ้ำสองแล้วกันนะครับ มิส เตอร์ แอล” เด็กกวนยังคงลอยหน้าว่ากระทบมิสเตอร์แอลของตนเอง
“คร้าบ”
อลันตอบรับเสียงทะเล้น ก่อนเอ่ยถามเด็กหนุ่มว่าจะขึ้นจากน้ำหรือยัง เมื่อเปียวพยักหน้า อลันจึงช่วยเป็นหลักให้เด็กหนุ่มพยุงตัว
ลุกขึ้นมา จัดการปล่อยน้ำออกจากอ่าง ก่อนพาเปียวออกจากห้องน้ำ
เปียวนั่งใส่เสื้อผ้าอยู่บนเตียง เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นอลันจึงเดินไปเปิด เปียวชะเง้อมองตามขณะที่สวมเสื้อไปด้วย หน้าประตู
เป็นคมกับฮิโรยูกิและพิชญ อลันมองทั้งสามคนนิ่งๆแต่ยังไม่ได้เชิญเข้าห้อง พิชญขอเข้าไปหาพี่ชาย อลันจึงเบี่ยงกายเปิดทาง
ให้เด็กหนุ่ม ฮิโรยูกิกอดอกมองพี่ชายตนเองยิ้มๆ
“อะไร?”
“เปล้า~”
พออลันเอ่ยถามคนเป็นน้องก็ยักไหล่พลางตอบกลับเสียงสูง อลันจึงเบนสายตาไปมองหน้าคม
“อย่ามาหาเรื่องพี่คมนะอลัน” ฮิโรยูกิขู่ฟ่อทันทีที่พี่ชายหันมามองพี่คมของตนเอง
“ปกป้องกันจริ๊ง ฮะ!”
อลันเขกหัวน้องชายที่ออกหน้าออกตาเหลือเกิน ฮิโรยูกิโอดโอยก่อนบุ่นอุบว่าตนเองโตแล้วยังมาเขกหัวอีก เสียภาพพจน์ฮิโร-
ยูกิ คาเสะหมด อลันส่ายหน้า ก็ดูเอาเถอะ ฮิโรยูกิ คาเสะที่ไหนเป็นแบบนี้ กวนก็เท่านั้น แสบจนเกินจะบรรยาย
หนุ่มลูกครึ่งหันสายตามาที่คมอีกรอบหลังจากถูกน้องชายป่วนไปเมื่อครู่
“ขอบใจที่ไปช่วย”
คมยิ้มรับ แต่ฮิโรยูกิเอ่ยแทรก
“แค่นี้?”
“แล้วจะเอาแค่ไหนกันฮึ? เดี๋ยวกลับไปงานรอนายอยู่เต็มพะเนินเลยคม”
เมื่ออลันเงื้อมืออีก ฮิโรยูกิจึงดันคมมาด้านหน้า ไม่ค่อยเอาตัวรอดเลย
“ไม่ยุติธรรมเลยว่ะอลัน” ฮิโรยูกิต่อว่า
“หรือไม่เอา?” พี่ชายเอ่ยถามกลับกวนพอกัน
“เอาสิ แต่ผมสงสัย... พี่แกล้งเราใช่ไหมอลัน?”
คนเป็นน้องหรี่ตามองอย่างจับผิด เมื่อสถานการณ์มันดูแปลกๆ ก่อนมาที่นี่พี่ชายยังฝากรอยชกเอาไว้บนหน้าคม แถมยังไล่ไป
ให้พ้นหน้าอีกด้วย แล้วตอนนี้ทำไมมันกลับกลายจากหน้ามือเป็นหลังมือเช่นนี้กัน มันง่ายไปหน่อย เหมือนว่าตนเองกับคมกำลัง
โดนอลันปั่นหัว
“มั่วว่ะ”
“มั่วอะไร อย่าเพิ่งไป มาคุยกับผมให้รู้เรื่องเลยนะอลัน”
ฮิโรยูกิร้องตามพี่ชายที่เดินหนีเอาดื้อๆ คมปิดประตูห้องก่อนเดินตามสองหนุ่มเข้าไปด้านใน อลันเข้าไปหาเปียวที่นั่งดูรายการ
โทรทัศน์อยู่ ข้างกันนั้นคือน้องชายอย่างพิชญ เด็กหนุ่มทั้งสองหันมาทางอลันเมื่อฝ่ายนั้นเอ่ยเรียก
“เปียว”
“ครับ?”
“เดี๋ยวผมลงไปข้างล่าง คุณอยากได้อะไรเป็นพิเศษไหม?”
อลันเอ่ยถามเด็กหนุ่ม เปียวหันมาถามน้องชายอย่างพิชญต่ออีกทอดว่าจะเอาอะไรไหม พอน้องบอกว่าไม่เอาอะไรเพราะมีคนไป
ซื้อให้แล้ว เปียวจึงส่ายหน้า
“ไม่เอาครับ ขอบคุณ”
“อยู่กับน้องคุณไปก่อนนะ ผมไปแป๊บเดียว”
ชายหนุ่มตัวโตเอ่ยบอก ฮิโรยูกิส่ายหน้าอย่างรับไม่ได้กับพี่ชายมาดนี้ มาดกลัวเมีย…
เมื่อทั้งสามหนุ่มออกจากห้องพักไปแล้ว เปียวจึงหันมาคุยกับพิชญ
“ขอบใจนะพี”
เปียวเอ่ยบอกแล้วยิ้มให้น้อง พิชญเหลือบมองพี่ชายเล็กน้อย ก่อนหันไปเปลี่ยนช่องโทรทัศน์ต่อแล้วเอ่ยถาม
“เรื่องอะไร?”
“เรื่องเมื่อคืนน่ะ”
เมื่อเปียวบอกพิชญก็พยักหน้ารับรู้
“อืม แค่นี้เอง”
พูดเท่านั้นแล้วสองหนุ่มนั่งดูรายการโทรทัศน์กันไปเงียบๆ รอคนที่ลงไปซื้อของข้างล่างขึ้นมา พิชญลอบมองเปียวบ่อยๆเพราะ
เหมือนพี่ชายของตนเองทำท่าจะหลับอยู่เรื่อย
“แล้วนี่นายเบศเขาไปซื้อของถึงไหนแล้วล่ะ ไม่เห็นมาตามพีเลย”
เปียวเอ่ยถามน้องชายกึ่งล้อ พิชญชะงัก ปรายตามามองเปียวแล้วว่า
“ต้องให้หมอนั่นตามฉันทุกฝีก้าวเลยหรือไง?”
เปียวขยับตัวมานั่งทับขา ยืดตัวไปด้านหน้า กระแซะพิชญที่ทำเนียนดูรายการโทรทัศน์ที่เปิดไว้ต่อ
“แล้วตกลงเอาไง?”
พิชญมองสีหน้าท่าทางอยากรู้ของพี่ชายคนรองแล้วถอนใจเฮือกใหญ่ ก่อนตอบกลับราวไม่ใส่ใจเท่าไหร่
“ก็ดูๆอยู่”
“ดู?” เปียวทวนคำ พิชญเลยตอบมาเสียงสูง
“เอ๊อ นั่นแหละ”
“ดีแล้ว” คนเป็นพี่ว่ายิ้มๆ เหยียดขาออกมาแล้วนั่งเท้าแขนไปด้านหลังในท่าสบาย
“ไม่เห็นดีเลย อีกอย่างนะ แม่ทำท่าจะเป็นลมทุกทีที่เห็นหน้าฉัน”
พิชญมีสีหน้าเซ็งอารมณ์ให้เห็นเมื่อเอ่ยถึงเรื่องดังกล่าว นางวลัยผู้เป็นมารดานั้น พอรู้ว่าพิชญกำลังคบหากับรุ่นน้องที่มหา-
วิทยาลัยก็ทำท่าว่าอยากเจอตัว ให้พิชญชวนน้องเขามาทานข้าวที่บ้าน พิชญพยายามเลี่ยงแล้วแต่นางก็อยากเจอให้ได้ พอเอา
เรื่องนี้ไปบอกรุ่นน้องที่ว่าก็กลายเป็นเรื่องเลยทีนี้ เพราะฝ่ายนั้นรีบกุลีกุจอหาข้าวของเพื่อที่จะมาไหว้ฝากตัวกับนางวลัยเป็นการ
ใหญ่ พอนางวลัยได้เจอรุ่นน้องของพิชญดังใจหวังนางแทบลมจับ เมื่อมโนภาพที่คิดไว้ว่ารุ่นน้องคนดังกล่าวคงเป็นเด็กสาวหน้า
ตาน่ารักคนหนึ่ง แต่เมื่อได้พบเจอจริงๆกลับกลายเป็นเด็กหนุ่มตัวโตไปแทนเสียนี่
“ยังไม่ชินอีก?”
เปียวเอ่ยแซวน้องถึงเรื่องที่นางวลัยทำท่าจะลมใส่ทุกทีที่เจอหน้าพิชญ ลูกชายหัวแก้วหัวแหวน
“ยากจะทำใจ”
พิชญว่า ก่อนที่สองพี่น้องจะหัวเราะออกมา การจะทำให้นางวลัยยอมรับเรื่องดังกล่าวคงเป็นไปได้ยากยิ่ง แต่เมื่อทั้งพิชญและ
เปียวได้เลือกเส้นทางของตนเองแล้วก็ไม่ได้คิดว่าอยากจะเปลี่ยนแปลงมันไปตามแต่ใจใคร
ส่วนนายพรตเองไม่เคยเข้ามาก้าวก่ายในเรื่องชีวิตส่วนตัวของลูกๆ ได้แต่มองอยู่ห่างๆและให้คำแนะนำบ้างเมื่อเห็นว่าไม่ควร
เวลาส่วนใหญ่ของนายพรตที่วางมือจากงานที่บริษัทโดยถาวรแล้วนั้นหมดไปกับการศึกษาเรื่องธรรมะ ใช้ธรรมะกล่อมเกลาจิตใจ
เปียวว่ามันก็ดีไปอย่าง เพราะโรคประจำตัวของนายพรตถ้าเครียดขึ้นมาก็จะไม่ส่งผลดีกับร่างกาย ให้ผู้เป็นบิดาหันเข้าหาธรรมะ
บ้างก็ดีจะได้มีที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ
เรื่องในอดีตที่ผ่านมานั้นเปียวพยายามที่จะไม่นึกถึงมัน ในทุกครั้งเมื่อมีเวลาว่างเปียวมักจะไปทำบุญให้บิดามารดาที่ล่วงลับ และ
เผื่อมาถึงบิดามารดาในปัจจุบันนี้ของเขาเองด้วย
แม้ว่านางวลัยกับนายพรตจะไม่ได้เลี้ยงดูเปียวมาดีสักเท่าไหร่ แต่เพราะมีทั้งสองคนนี้เขาถึงได้เติบโตมาจนทุกวันนี้ ยังนับว่าทั้งคู่
มีเมตตาอยู่บ้างที่ไม่ทิ้งเด็กตาดำๆอย่างเขาไว้ที่สถานสงเคราะห์สักแห่งหนึ่งให้พ้นๆไป
+++++++++++++
อลันกลับขึ้นมาบนห้องพักอีกครั้งพร้อมกับเด็กหนุ่มตัวโตที่ติดสอยห้อยท้ายมาด้วย นายภูเบศวร์ เจ้าหมาน้อยของพิชญ พฤท-
ธาการ เด็กหนุ่มมาพาพิชญกลับห้อง พิชญจึงบอกกับอลันว่าพี่ชายของตนเองหลับไปแล้ว ตัวรุมๆเหมือนจะไม่สบายหรือเปล่า
ไม่รู้ ก่อนบอกลาอลันแล้วเดินตามแรงดึงของภูเบศวร์ไป
เมื่อสองหนุ่มออกจากห้องไปแล้วอลันจึงเดินไปหาเปียว เห็นเปียวหลับไปแล้วอย่างที่พิชญว่า อลันใช้มืออังหน้าผากคนหลับ
เห็นว่าตัวร้อนกว่าอุณหภูมิปรกติ เมื่อเช้าอาบน้ำเสียด้วยสิ ดีที่เมื่อครู่ตอนลงไปซื้อของฮิโรยูกิซื้อยาแก้ไข้แก้อักเสบมาให้ด้วย
อลันจึงปลุกเปียวลุกขึ้นมาทานข้าวก่อนทานยา ว่าจะให้เปียวนอนพักต่ออีกสักหน่อยเดี๋ยวบ่ายๆค่อยกลับบ้านกัน
พอเปียวทานข้าวและทานยาเสร็จอลันจึงให้เด็กหนุ่มนอนพักต่อ เปียวนอนลงอย่างว่าง่าย ขณะที่อลันนั่งอยู่เป็นเพื่อน มือหนา
กุมมืออุ่นๆของคนป่วยเอาไว้ เปียวที่สะลึมสะลือเพราะพิษไข้เอ่ยเรียกคนที่อยู่ข้างกาย
“อลัน…”
“หืม?”
“ขอบคุณนะ… ทุกอย่างเลย”
เด็กหนุ่มพูดราวละเมอ อลันกดจูบหน้าผากอุ่นๆของเด็กหนุ่ม ก่อนกระซิบแผ่ว
“ครับ พักเถอะ เดี๋ยวเราค่อยกลับบ้านกันนะ”
“บ้านเราหรือ?”
เปียวเอ่ยถามทั้งที่ใกล้จะหลับเต็มที แต่ก็ยังคงฝืนตัวเองเอาไว้อยู่ อลันลูบศีรษะทุยแผ่วเบา ก่อนเอ่ยตอบเด็กขี้สงสัย
“ครับ บ้านของเรา”
เปียวยิ้มกับคำตอบรับ เสียงทุ้มนุ่มนั้นราวกับจะกล่อมให้เขาหลับ เด็กหนุ่มตาปรือปรอย ค่อยๆปิดเปลือกตาลงช้าๆแล้วหลับไป
พร้อมกับรอยยิ้ม...
TBC
ขอบคุณทุกท่านทุกกำลังใจและยินดีต้อนรับทุกท่านที่เข้ามาใหม่ด้วยค่ะ บวกๆ 
ปล.@ คุณMooJi เม้นต์ยาวกว่านี้ก็ได้ค่ะ ไม่ว่าหรอก ชอบบบบบบ><
ขอบคุณทุกท่าน พบกันตอนหน้า บทส่งท้าย
วันใหม่ค่ะ 
ปล. อาจจะมีคนสงสัยว่ามันจะจบแล้วรึ? ไม่ให้สุ้มให้เสียงเลยนิ เผื่อเปิดข้ามๆมา จิ้มไปหน้าที่ 39 ได้นะเจ้าคะ
แต่ถ้าใครไม่อยากอ่านนักเขียนเวิ่นเว้อก็อย่ากดไปเน้อ เดี๋ยวเสียอารมณ์ ^^;;