✽เล่ห์พรางรัก✽ บทส่งท้าย เพียงเราสอง(จบบริบูรณ์)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ✽เล่ห์พรางรัก✽ บทส่งท้าย เพียงเราสอง(จบบริบูรณ์)  (อ่าน 536711 ครั้ง)

ออฟไลน์ Ju

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-2

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
แล้วจะพูดทำไมล่ะคำนั้นน่ะ  เอาไว้พูดกับเปียวคนเดียวก็พอแล้วนี่
เป็นเราก็ไม่เข้าใจหรอกเว้ยเฮ้ย   

ออฟไลน์ slurpee04

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 691
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-1
เปียว!ทำไมทำกันแบบนี้ :z3:

สงสารอลัน  :m15:

ออฟไลน์ Bowbonk

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-4

ออฟไลน์ kojibara

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-1

ออฟไลน์ wanmai

  • ★รักใสปิ๊ง★(>_<)
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 936
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1195/-5
แวะมาจิ้มบวกขอบคุณทุกคอมเม้นต์ในตอนที่18ที่ผ่านมา

ขอบคุณมากค่ะ :pig4:

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ t2007

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2401
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-5
เปียวกลับบ้านแล้ว
พยายามทำหัวใจตนเองให้เข้มแข็ง เพื่อหวนสู่รักกับอลันอีกครั้งนะ
อย่าปล่อยมือตลอดไปเลยนะ มันเจ็บง่ะ
ขอบคุณน้องวันใหม่คร้าบบบบบบ

ออฟไลน์ ❝CHŌN❞

  • เหงา เหงา :(
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1924
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-3
สงสารอลันมากกกกกกกกก

เปียวทำไมมันเป็นแบบนี้หละลูก กลับมาก่อน มาเคลียร์กันก่อน

ออฟไลน์ nunnan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2275
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-6
แม่ของอลันเป็นคนขอเลิกเองไม่ใช่หรอ แล้วทำไมพูดเหมือนวิคเป็นคนขอเลิกเองล่ะ
 :really2: :really2: :really2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ koikoi

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3862
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +311/-13
ทำมัยเป็นแบบนี้เปียวทำมัยทำแบบนี้หรือว่าจริง ๆแล้วเปียวเองไม่ได้รักอลันเลยถึงไม่สนใจความรู้สึกของอลันซักนิดโดนทิ้งตั้งสองครั้งความรู้สึกมันคงแย่มาก ๆ

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8896
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ naamsomm

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 539
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-2
โอ๊ยยยย
โดนน้องเปียวทำร้ายจิตใจ
คงต้องปล่อยให้อยู่กับตัวเองซักพักนะคุณอลัน
ค่อยตื้อ
อย่าลืมตื้อเท่านั้นที่ครองโลก

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
ผมเค้าร่วงหมดแล้วน๊าาาา

อีกเรื่องก็มาม่าหรอ

โอเคขอไปบำรุงผมก่อน...ติดตามแน่นอนจ้ะ

 :L2: :L2: :L2:

ออฟไลน์ Onlymin

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 465
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-4
ทำไมเปียวใจแข็งแบบนี้ล่ะ สงสารอลันมากเลย

ช่วงนี้เสพแต่มาม่า อืดไปหมดแล้วค่ะ 5555++


 :L2:

ออฟไลน์ KilGharRah

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 856
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +169/-0
เข้าใจความรู้สึกไม่เท่าเทียมของเปียวนะ แต่นั้นก็ไม่ใช่เหตุผลที่จะมาทำร้ายคนที่รักเราขนาดนี้นะ

ออฟไลน์ silverspoon

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +275/-12
คำว่ารักคงยังไม่พอ เธอคงไม่รับฟัง....

ออฟไลน์ GAZESL

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 675
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-1
เปียววววว อย่าไปปปป :sad4: อย่ายอมแพ้ตาแก่วิคเตอร์น๊ะ
ทำไมเป็นแบบนี้อีกแล้วอ่ะ :เฮ้อ:

อากาศใต้ผ้าห่ม

  • บุคคลทั่วไป
เปียวใจร้ายยยยยยยยย  :sad4:

อลันมาทางนี้ นายยังมีเรานะ (ไม่ใช่ละ... ผั๊วะ เจอเท้าคนเขียน  :z6: )

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
ห่างกันครั้งนี้คงคิดได้บ้างนะ
ทั้งอลันและเปียวเพราะก็เจ็บปวด
ด้วยกันทั้งคู่ :z3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ udongjay

  • ความรัก...ไม่เคยจำกัดเพศ แต่เพศต่างหากที่จำกัด...ความรัก
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 417
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +235/-2
เป็นเราเราก็ไปนะอลัน ถึงแม้จะดูว่าอลันรักเปียว
แต่คำพูดนั้นคนที่เพิ่งเข้ามาได้ยินก็ต้องเจ็บเป็นธรรมดา
ขอให้ง้อเปียวได้สำเร็จ แต่หนูเปียวก็น่าจะเข้มแข็งสักหน่อย

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41

zero3

  • บุคคลทั่วไป
รอออออออ  คุณอลันอยู่นะ
อย่าเพิ่งเป็นอะไรไปล่ะ อดทนไว้!!!
เมียของเรา ก็คือเมียของเรา
ฉันใดก็ฉันนั้น (ไม่เกี่ยว) ^_____________^

ออฟไลน์ wanmai

  • ★รักใสปิ๊ง★(>_<)
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 936
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1195/-5
เล่ห์พรางรัก

ตอนที่ ๒๐ ห่างรัก




พนักงานบริษัทการเงินของอลันแปลกใจกันหนักหนา เมื่อผู้เป็นเจ้าของบริษัทอย่างมิสเตอร์แอลลงมือทำงานเองแทบทุก
หน้าที่ ออกจะอกสั่นขวัญผวาว่าตนเองทำงานผิดพลาดหรือไม่ดีตรงไหน อย่างไร อาจจะถูกปลดออกกันทั้งบริษัทเลยหรือไม่
คมที่เป็นผู้ติดตามใกล้ชิดได้แต่มองผู้เป็นนายอยู่ห่างๆอย่างห่วงใย ผิดหวังในรักครั้งก่อนนี้ผู้เป็นนายแทบเสียผู้เสียคน งาน
การไม่คิดจะใส่ใจจะทำ ละทิ้งทุกสิ่งอย่าง ใช้ชีวิตเสเพลน่าเป็นห่วง แต่มาคราวนี้ไม่มีแบบนั้นแล้ว แต่กลับกลายเป็นอีกด้าน
หนึ่งไปเสีย หลังจากต้องแยกกันกับเปียว อลันก็เอาแต่ทำงานไม่มีเว้นพัก แม้แต่คุณแม่อัญชันเองก็ยังอดหนักใจตามไปด้วย
ไม่ได้

วันที่เปียวไปลาท่านที่มูลนิธินั้นคุณแม่อัญชันก็ได้คุยกับเปียวถึงเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว เปียวบอกว่ามันมีปัญหาหลายอย่างเกิด
ขึ้นมาในชีวิตของตน และปัญหาเหล่านั้นมันก็มาจากตัวเขาเองที่ทำให้มันเกิด อยากที่จะใช้เวลาอยู่กับตนเองให้มากกว่านี้
อยากให้ทั้งตนเองและอลันได้คิดและทบทวนดูว่าที่เป็นอยู่นี้มันใช่แล้วหรือยัง อลันลืมอดีตไม่ได้ ไม่มีใครลืมได้เปียวรู้ดี แต่
ถ้าหากมันยังคงเป็นปัญหาคาค้างใจกันอยู่เช่นนี้ ซึ่งผ่านไปพักหนึ่งเรื่องเดิมก็เกิดซ้ำอยู่แบบนี้ เปียวกลัวว่าตนเองจะไม่มีความ
เข้าอกเข้าใจให้อลันมากพอ และอาจจะทะเลาะกันจนสุดท้ายต้องร้างลากันไปจริงๆ

“เปียว คนเราไม่มีใครสามารถที่จะลบอดีตออกไปได้หรอก แม้แต่คนที่เขาความจำเสื่อม สักวันหนึ่งเขาก็ยังจำอดีตได้ ยิ่งคน
ที่ความจำดีๆอย่างเราแล้วยิ่งไม่มีทางลืม แต่อยู่ที่ว่าจะเอามันมาเป็นปัญหากับปัจจุบันไหม บางทีการคุยกันน้อยจนเกินไปก็
อาจทำให้ความเข้าใจมันคลาดเคลื่อนไปได้นะ”

“เปียวเข้าใจครับ เข้าใจในสิ่งที่คุณแม่ต้องการจะบอก แต่ตอนนี้...”

เด็กหนุ่มพูดแล้วเงียบไป สีหน้าดูหมองเศร้า เรื่องนั้นคงต้องใช้เวลาสักหน่อย ถึงแม้จะบอกว่าเข้าใจดี แต่มันก็อดไม่ได้ที่จะ
กังวลใจ

“เปียวอยากยืนด้วยขาของตัวเอง ไม่อยากให้ใครมาว่าได้ว่ายืมจมูกใครหายใจ”

นี่ก็เป็นอีกเรื่องที่เป็นปัญหาสำหรับเขา มันติดค้างในใจจนสลัดไม่หลุด คุณแม่อัญชันถอนใจเบา เรื่องรักใคร่มันก็พูดกันยาก
ใจเขาใจเรามันไม่เหมือนกัน คงต้องให้เวลาทั้งเด็กหนุ่มตรงหน้าและลูกชายของท่านได้คิดทบทวนดูเอง

“เปียวอาจจะอยากได้เวลาในการคิดทบทวนหรือทำอะไรให้สบายใจ เอาเถอะ แม่เองก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะไปห้ามหวงอะไรใครได้
แต่ถ้าเปียวสบายใจเมื่อไหร่ก็ให้กลับมานะลูก แม่เชื่อ... ว่าสิ่งที่เปียวต้องการจากอลันน่ะ อลันมีให้ได้มากกว่านั้นมากนัก”

“ขอบคุณครับแม่”

เด็กหนุ่มไหว้ขอบคุณคุณแม่อัญชันก่อนกอดท่านแน่น เอ่ยลาท่านแล้วจึงเดินไปหาพี่ชายอย่างพงศกรที่กำลังคุยกับหญิงสาว
คนหนึ่งอยู่ เปียวเอ่ยทักทายหญิงสาวเมื่อเห็นว่าเป็นใคร สุวิญชา เธอมักเอาของมาบริจาคที่มูลนิธิบ่อยๆ แต่พงศกรกลับเข้า
ใจว่าเธอเป็นเจ้าหน้าที่ของที่นี่ไปเสียอย่างนั้น



++++++++++++++



อลันที่มุทำแต่งาน พอกลับมาบ้านแล้วเห็นแต่ภาพเปียวอยู่ทั่วทุกพื้นที่ภายในบ้านจึงย้ายไปนอนที่คอนโดมิเนียมแทน แต่
แทนที่ทำเช่นนั้นแล้วมันจะดีขึ้นกลับกลายเป็นว่าที่นั่นก็ยังมีเปียวคอยตามมาก่อกวนหัวใจอีก ภาพที่เปียวเตรียมอาหารไว้ให้
ทานเมื่อเขากลับมาจากทำงานทุกวัน แล้วเจ้าตัวก็เดินเลี่ยงมานั่งดูโทรทัศน์เงียบๆตอนเขาทานข้าว ภาพเก่าๆเหล่านั้นมันยัง
คงย้อนกลับมาให้คิดถึง แต่อลันก็ยังถือทิฐิในใจไม่ยอมเป็นฝ่ายไปง้อก่อน ด้วยกลัวว่าจะถูกปฏิเสธกลับมาให้ช้ำใจยิ่งกว่าเก่า
คราวนี้เขาคงลุกขึ้นใหม่ได้ยากยิ่ง

อลันที่ทำใจแข็งไม่ย่างกรายเข้าใกล้ห้องนอนที่ยกให้เด็กหนุ่มนอนเมื่อครั้งยังอยู่ด้วยกันที่คอนโดฯนี้นั้น มาตอนนี้เขากลับมา
ยืนอยู่หน้าประตูห้องพร้อมกุญแจในมือเป็นที่เรียบร้อย อลันเปิดห้องนอนของเปียวเข้าไปช้าๆ กวาดสายตามองรอบห้องที่ว่าง
เปล่าก่อนก้าวเดินไปที่เตียงนอน นั่งลงที่เตียงแล้วอยู่เงียบๆแบบนั้นสักพักอลันก็เอนกายลงนอน แม้แต่ในห้องนี้ เรื่องที่เขา
เกือบมีความสัมพันธ์ทางร่างกายกับเด็กหนุ่ม แล้วฝ่ายนั้นร้องไห้เขาก็ยังจำได้ดี

เขาเคยคิดว่าการถูกทิ้งครั้งนี้มันคงจะไม่เจ็บสักเท่าไหร่เพราะเคยผ่านสถานการณ์เช่นนี้มาแล้ว อาจจะชินชา แต่ก็ไม่ เขาไม่มี
ทางจะชินกับเรื่องเช่นนี้ อลันขดตัวกอดตนเองดังกับว่าในอ้อมแขนมีร่างกายของใครอีกคน ที่แม้อยากตระกองกอดไว้แนบ
กายแต่ก็ทำไม่ได้ ครั้งนี้มันทรมานมากกว่าครั้งแรกที่ถูกทิ้งเสียอีก

‘คิดถึง คิดถึงเหลือเกินเปียว กลับมาหาผมเถอะ…’



++++++++++++++



เปียวเข้าไปช่วยงานพงศกรที่บริษัทอย่างเต็มตัว พิชญที่ยังคงเรียนอยู่ก็เข้ามาช่วยบ้าง เพราะโครงการสร้างคอนโดมิเนียมที่
ทำค้างไว้นั้นยังไม่เป็นที่ตัดสินใจของเจ้าของว่าบริษัทใดจะได้ไปครอง ได้ยินข่าวแว่วมาว่าทางคู่แข่งคนสำคัญของพฤทธา
การยังใช้ไม้เดิม เล่นตุกติกจะเอางานมาเป็นของตนให้ได้ แต่บังเอิญว่านี่คืองานของเอิร์ทที่ไม่ได้หุ้นกับใครนอกจากครอบ
ครัวของเขาที่ช่วยกันดูให้ ทำให้ใช้แผนเดิมไม่ได้จึงหาทางเอาอกเอาใจเอิร์ทในทางอื่น พงศกรว่าให้คู่แข่งทำแบบนั้นก็ดี
เจ้าของงานเขาจะได้รู้ว่าใครกันแน่ที่คู่ควรจะได้งานนี้มา

พงศกรได้รับการกดดันจากพ่อแม่ให้ไปดูตัว พวกท่านบอกกล่าวแก่เขาว่าอายุอานามก็สมควรแก่เวลาที่จะมีคู่ครองได้แล้ว
หากงานทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่นดี พ่อกับแม่ก็อยากให้พงศกรแต่งงานมีครอบครัวสักที พอได้รับความคาดหวังมาเช่นนั้น
แล้วพงศกรก็ไม่กล้าที่จะปฏิเสธ แต่ภายในใจของชายหนุ่มกลับพะวงถึงแต่คนที่ไม่สมควรจะนึกถึง ฮิโรยูกิ คาเสะ

แม้ไม่อยากจะยอมรับว่าตนเองคิดอะไรเกินเลยกับฝ่ายนั้น แต่เขาก็รู้สึกแปลกๆทุกครั้งที่ได้อยู่ใกล้ แต่ก็ต้องยั้งใจเพราะตน
เองกำลังจะแต่งงานในอีกไม่ช้าไม่นานนี้แล้ว ไม่อยากทำให้พ่อแม่ผิดหวังในตัวเขา

เมื่อถึงวันนัดทานข้าว หรือเรียกให้ถูกคือนัดดูตัวนั้น พงศกรก็ขับรถออกจากบ้านเพื่อไปให้ถึงก่อนเวลานัดหมาย ถือเป็นการ
ให้เกรียติฝ่ายหญิงด้วย แม้ใจจริงจะไม่อยากมาเลยก็ตาม พงศกรวนรถหาที่จอดเมื่อมาถึงร้านอาหารที่นัดกับน้องวินนี่ของ
มารดาเขา ท่านช่างเอ็นดูน้องวินนี่คนนี้หนักหนา ชายหนุ่มวนรถมาถึงที่จอดเมื่อจะเลี้ยวเข้าไปในช่องจอดนั้นกลับมีหญิงสาว
คนหนึ่งโผล่มาตัดหน้ารถเขาเข้าอย่างกะทันหัน พงศกรเกือบเหยียบเบรคไม่ทัน กะว่าจะลงไปต่อว่าเจ้าหล่อนสักหน่อย แต่
ฝ่ายนั้นกลับเปิดประตูโดดขึ้นรถมานั่งอย่างเรียบร้อยเสียอย่างนั้น

“เฮ้ยคุณ! ขึ้นมาทำไม?” พงศกรเอ่ยถามเสียงหลง

“พาฉันออกไปจากร้านนี้ที... อ้าว คุณพงศกร?”

หญิงสาวที่อาจหาญโดดขึ้นมาบนรถเขาออกอาการงงเมื่อเห็นว่าคนที่ตนเองเข้ามาขวางทางรถแล้วขึ้นมานั่งบนรถเขานั้นเป็น
ใคร พงศกรเองก็อึ้งไปเช่นกันที่เห็นว่าหญิงสาวคนดังกล่าวคือคนรู้จัก

“คุณสุวิญชา?”

พงศกรเอ่ยเรียกชื่อหญิงสาว สุวิญชา คนที่พงศกรเคยเจอที่มูลนิธิของคุณอัญชันมารดาของมิสเตอร์แอล หญิงสาวส่งยิ้ม
เจื่อนไปให้ชายหนุ่มเจ้าของรถ บรรยากาศมันชักแปลกๆพิกล

“เอ่อ... มีปัญหาอะไรกับทางร้านหรือเปล่าครับ ให้ผมช่วยเคลียร์ให้ไหม พอดีผมมีธุระที่ร้านนี้พอดี” พงศกรเอ่ยถามไถ่ด้วย
ความหวังดี แต่สุวิญชากลับเอ่ยเร่ง

“ไม่ค่ะ ไม่ต้องเคลียร์ ถ้าคุณอยากช่วยฉัน กรุณาพาฉันไปให้พ้นๆร้านนี้เร็วๆเลยค่ะ ไปเร็ว”

“หา? เอ่อ... ครับๆ”

พงศกรตอบรับ ชักจะงงว่าตกลงใครเป็นเจ้าของรถกันแน่ แต่สุดท้ายแล้วชายหนุ่มก็ยอมขับรถออกมาตามที่สุวิญชาสั่ง ใจจริง
เขาก็ไม่อยากเข้าไปในนั้นอยู่แล้ว ถือว่านี่เป็นข้ออ้างให้เขาไม่ต้องไปพบน้องวินนี่ของคุณแม่เขาแล้วกัน


. . . . . . . . . . . . . . . . .


เมื่อพงศกรกลับมาที่บ้านนางวลัยก็ตรงเข้ามาทักลูกชายในทันที พงศกรแอบถอนใจ ก่อนหันกลับไปยิ้มรับคำทักถามจากผู้
เป็นมารดา

“พงศ์ เป็นไงลูก ไปเจอหนูวินนี่มา น้องน่ารักใช่ไหม?”

ท่าทางนางวลัยจะตื่นเต้นแทนลูกชายเสียจริง ก็เธอถูกใจลูกสาวเพื่อนคนนี้นักหนา เห็นควรว่าเหมาะสมกับพงศกรลูกของเธอ
ยิ่งกว่าอะไร

“พอดีผมเกิดเหตุสุดวิสัยระหว่างทางนิดหน่อยน่ะครับแม่ เลยทำให้ไปไม่ทัน น้องเขากลับไปก่อนแล้วล่ะครับ”

อันนี้เขาไม่ได้โกหก หลังจากพาสุวิญชาไปส่งที่ร้านของเพื่อนเธอ พงศกรก็ย้อนกลับมายังร้านอาหารที่นัดกับน้องวินนี่เอาไว้
แต่น้องวินนี่คนนั้นก็กลับไปแล้วดังคาด ชายหนุ่มถึงกับโล่งอกที่ไม่ต้องเผชิญหน้ากัน

“อ้าว? ตายจริง ฮึ่ม! ตาพงศ์นี่ แบบนี้ต้องโทรไปขอโทษทางนั้นก่อนแล้ว แย่จริงเชียว…”

นางวลัยอดอุทานอย่างเสียดายไม่ได้ พงศกรยิ้มแหย นางวลัยทำสีหน้าขัดเคืองส่งให้ผู้เป็นลูก ก่อนค้อนลูกวงโตแล้วบ่นเป็น
หมีกินผึ้งเมื่อเดินเข้าไปด้านในเพื่อที่จะต่อสายโทรศัพท์หาเพื่อนของตนเอง ในใจคิดเอาไว้แล้วว่าจะต้องให้ลูกชายของตน
ได้พบหนูวินนี่ให้ได้ หมายมั่นปั้นมือกับเรื่องนี้เป็นอย่างยิ่ง

“อะไรน่ะพี่พงศ์?”

พิชญที่เพิ่งกลับจากมหาวิทยาลัยมาทันที่จะได้ยินมารดาเดินบ่นเข้าบ้านไป เด็กหนุ่มจึงเอ่ยถามผู้เป็นพี่ พงศกรยักไหล่ไม่ตอบ
แล้วเดินหนีเข้าบ้านไปอีกคน

“อะไรวะ ถามไม่ตอบ” พิชญย่นหัวคิ้วเมื่อพี่ชายทำกวน ก่อนหันมาหาใครอีกคนที่ยืนอยู่ด้านหลัง

“นายกลับไปได้แล้วไป เบศ”

“โหย พอหมดประโยชน์แล้วเขี่ยทิ้งเลยนะ”

หนุ่มตัวโตที่พิชญเรียกว่า เบศ เอ่ยพ้ออย่างน้อยอกน้อยใจ กระเง้ากระงอดไม่เหมาะกับตัวโตๆนั่นเลยสักนิด

“เอ้า ก็ฉันถึงบ้านแล้วนี่ ขอบใจที่มาส่ง พอใจรึยัง?” พิชญกอดอกแล้วลอยหน้าบอก

“ยัง”

ฝ่ายนั้นเอ่ยบอกเสียงห้วนท่าทางขึงขัง พิชญชักสีหน้าใส่ทำให้เด็กหนุ่มยิ้มเจื่อน กลับมาเป็นหมาน้อยตัวโตเหมือนเคย

“พอแล้วก็ได้ จำไว้เลยนะ”

“ไม่จำเว้ย รกสมอง กลับไปได้แล้ว”

พิชญเอ่ยไล่ซ้ำอีก อีกฝ่ายหน้ามุ่ยก่อนเอ่ยเรียก

“พี”

“บอกให้เรียกพี่ไง พูดไม่เคยฟังเลยนะนายนี่ ชักจะปีนเกลียวใหญ่แล้ว”

พิชญทำเสียงดุ แต่ดูเหมือนว่าคนถูกดุจะไม่ได้ฟังเลยเพราะยังคงไม่เรียกพิชญว่าพี่ตามที่เจ้าตัวเขาบอกสักนิด

“พี”

“อะไรเล่า!”

“ชอบนะ”

เด็กหนุ่มตัวโตเอ่ยบอก ทั้งน้ำเสียงและสีหน้าดูจริงจังจนพิชญอึ้งไป พิชญกะพริบตาถี่ๆ ท่าทางประดักประเดิดกับสถานการณ์
ตรงหน้า กระแอมเบาๆไล่ความรู้สึกแปลกประหลาดนั้นแล้วว่า

“กลับไปได้แล้วเบศ”

พิชญบอกน้ำเสียงเบาลงกว่าเมื่อครู่มาก เด็กหนุ่มอีกคนถอนใจยาวก่อนกลับหลังหันแล้วเดินออกจากบ้านไป พิชญมองตาม
แล้วหันกลับเดินเข้าบ้านบ้าง ได้แต่บอกกับตนเองว่าอย่าเพิ่งไหวหวั่นจนหวั่นไหวง่ายดายขนาดนั้น แค่ถูกอเล็กซานเดอร์มอง
ว่าเป็นของเล่นชั่วครั้งชั่วคราวยังเจ็บไม่พออีกหรือ...


. . . . . . . . . . . . . . . . . . .


ทางด้านสุวิญชาที่กลับบ้านของตนเองมาหลังจากนั้น มารดาของหญิงสาวเอ่ยถามถึงเรื่องที่ให้เธอไปทานข้าวกับลูกชาย
เพื่อน หรืออีกนัยหนึ่งคือให้ไปดูตัวนั้นได้ความว่าอย่างไรบ้าง หญิงสาวบอกผู้เป็นมารดาว่าไม่เห็นคู่นัดดูตัวจะมาเลย ไม่ตรง
ต่อเวลา ไม่เอาแล้วคราวหน้าน่ะ ทั้งที่เธอเองที่เป็นฝ่ายแอบหนีออกมาก่อน แต่หญิงสาวกลับแสร้งทำเป็นโกรธฝ่ายนั้นเสีย
มากมายก่อนขอตัวขึ้นห้อง พอหลังจากที่เธอเดินขึ้นบ้านไปเท่านั้นโทรศัพท์มารดาของเธอก็ดังตามมาติดๆ สุวิญชาคิดว่า
ฝ่ายนั้นคงโทรมาขอโทษเป็นแน่ ดี รู้เสียบ้างว่าใครเป็นใคร



++++++++++++++



ช่วงบ่ายวันทำงาน เปียวจำต้องมาที่บริษัทการเงินของอลันพร้อมกับผู้จัดการฝ่ายการเงินของพฤทธาการ เพราะพงศกรไม่ว่าง
ที่จะมาติดต่องานได้ เนื่องจากมีธุระส่วนตัวกับน้องวินนี่ว่าที่สะใภ้คนโปรดของนางวลัย เมื่อจัดการธุระเสร็จเปียวจึงจะรีบกลับ
ทันที แต่ผู้จัดการฝ่ายยังต้องอยู่จัดการเอกสารอีกเล็กน้อย เปียวจึงจะอยู่เป็นเพื่อนแล้วค่อยกลับพร้อมกัน ผู้จัดการฝ่ายบอก
ให้เปียวกลับก่อนได้เพราะแค่ตรวจสอบความเรียบร้อยอีกเล็กน้อยเท่านั้น เปียวบอกไม่อยากให้คุณผู้จัดการต้องเหนื่อยคน
เดียวจึงอยู่ตรวจเอกสารด้วยกันจนเสร็จ

เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้วทั้งสองคนจึงถือแฟ้มเอกสารต่างๆตรงไปที่ลิฟท์โดยสารเพื่อจะลงไปด้านล่าง ลิฟท์มาหยุดลงตรง
ชั้นที่เปียวอยู่ พอประตูเปิดออกเท่านั้นเปียวที่กำลังจะก้าวเข้าไปก็แทบจะเดินหนี แต่มือของคนในลิฟท์กลับคว้าแขนเอาไว้
แล้วดึงเข้ามาด้วยกันก่อนกดปิดประตูไม่ให้ใครเข้ามาได้อีก เปียวเงยหน้ามองคนที่ดึงตนเองเข้ามาภายในลิฟท์ตัวเดียวกัน
หน้าตาตื่น... อลัน

บรรยากาศภายในลิฟท์มันช่างแสนกระอักกระอ่วน เปียวขยับไปชิดผนังอีกด้าน อลันฉุนกับการแสดงท่าทีนั้นของเด็กหนุ่ม
ทั้งที่เขาออกจะยินดีที่ได้เจอ แต่อีกฝ่ายกลับแสดงท่าทีอย่างนี้หรือ ชายหนุ่มตัวโตก้าวเข้าใกล้เปียวก็ยิ่งขยับหนี แต่มันชิดมุม
ด้านในแล้วทำให้หนีต่อไม่ได้ อลันใช้มือค้ำผนังลิฟท์คร่อมตัวเปียวไว้ก่อนโน้มใบหน้าลงหา เมื่อริมฝีปากของอีกฝ่ายจะแตะ
สัมผัสเปียวก็เบี่ยงหน้าหนี อลันชะงักรู้สึกโกรธขึ้นมานิดๆ มือหนาบีบคางของเด็กหนุ่มบังคับให้หันมารับจูบ เปียวปล่อยแฟ้มที่
ถือมาเพื่อดันตัวอลันออก แต่มือตุ๊กแกอย่างอลันก็ยึดผนังลิฟท์ไว้แน่น บดเบียดริมฝีปากลงไปแรงๆให้อีกฝ่ายเปิดปากต้อนรับ
เลื่อนมือมาที่สะโพกสอบก่อนจะบีบเบาๆ เปียวสะดุ้งเผลออุทานทำให้อลันฉกฉวยโอกาสแทรกลิ้นเข้าไปกวาดไล้ ตะกรุม
ตะกรามเอาตามแต่ใจ เสียงลิฟท์เปิดออกทำให้เปียวสะดุ้งตกใจ อลันผละจูบก่อนรีบเอาตัวบังเปียวไว้ คนด้านนอกมองมาอึ้งๆ
อลันกดปิดลิฟท์ทันที ลิฟท์เลื่อนลงชั้นล่างอย่างรวดเร็ว

เมื่อกลับมาเหลือกันสองคนเหมือนเมื่อครู่แล้วเปียวจึงก้มลงเก็บเอกสาร เขารู้สึกลนจนทำอะไรไม่ถูก อลันนั่งยองลงช่วยเด็ก
หนุ่มเก็บทำให้เปียวชะงักถอยมือกลับ ให้ชายหนุ่มตรงหน้าช่วยเก็บไป เด็กหนุ่มลุกขึ้นยืนเมื่อลิฟท์เปิด อลันค่อยยืดตัวตาม
ขึ้นมา ส่งกระดาษในมือให้ เปียวรับไปแล้วเอ่ยขอบคุณเร็วๆก่อนก้าวออกจากลิฟท์

อลันมองตามหลังคนที่เดินกึ่งวิ่งออกไปแล้วเช็ดมุมปากที่มีเลือดซึม แปลกที่เขาไม่ได้รู้สึกโกรธคนต้นเหตุแต่กลับยิ้มเสีย
ยังฤทธิ์เยอะเหมือนเดิมนะที่รัก

เปียวกลับมาถึงที่รถจอด เปิดประตูก้าวขึ้นไปนั่งบนรถ โยนเอกสารไว้บนเบาะข้างกายแล้วทุบพวงมาลัยรถยนต์อย่างอัดอั้น
ซบหน้าลงไปแล้วนิ่งอยู่อย่างนั้น ยอมเขาไปได้อย่างไรกัน แย่ชะมัดเลย…



+++++++++++++



ทางด้านคม ลูกน้องคนสนิทที่แสนภักดี หลังจากผู้เป็นนายอย่างอลันเอาแต่ทำงานไม่หยุดพัก คมเองก็ไม่มีเวลาพักตามไป
ด้วย ช่วงนี้งานทางพฤทธาการก็เริ่มลงตัวทำให้ฮิโรยูกิไม่ต้องลงมืออะไรเอง ปล่อยให้สามหนุ่มจากพฤทธาการเขาแสดง
ศักยภาพที่มีกันเอง ทำให้คมไม่ต้องคอยช่วยอีกจึงเอาเวลามาทุ่มกับอลันแทน

คมกลับมาที่บ้านของบิดาเมื่อวันหยุดมาถึง คุณปู่กับคุณย่าที่ก่อนนี้เคยอยู่ที่บ้านของอลัน มาตอนนี้ก็ย้ายมาอยู่ที่นี่เป็นที่
เรียบร้อย เพราะมีลูกหลานอยู่เยอะจะได้มีคนคอยช่วยดูแล คุณปู่กับคุณย่าเคยทำงานอยู่ที่บ้านอลันมาก่อน คอยดูแลรับใช้
ใกล้ชิดคุณตากับคุณยายของอลันมานมา จนถึงรุ่นของเขาทางบ้านอลันก็ส่งเสียจนจบมหาวิทยาลัย คุณปู่ของคมจึงสำนึกใน
บุญคุณนั้นอยู่เสมอ

เมื่อตอนที่คมไปไหว้ท่าน ท่านก็ได้เอ่ยถึงฮิโระน้อยที่กลับมาอยู่ที่ไทยแล้ว และได้มาเยี่ยมท่านเสียหลายครั้ง ยังคงเป็น
คุณหนูฮิโระน้อยที่น่ารักไม่เปลี่ยน เมื่อหลายวันก่อนก็ยังมาเยี่ยมท่านอีก คุณปู่ปลื้มใจเป็นอย่างมากที่ชายหนุ่มที่ตนเองเคย
ดูแลมาแต่อ้อนแต่ออกนั้นยังคงระลึกถึงตาแก่คนนี้อยู่ คมงงเพราะไม่เห็นฮิโรยูกิจะบอกเขาเลยว่ามาที่บ้านเขาหลายครั้งแล้ว
คุณปู่บอกคมให้ดูแลฮิโรยูกิให้ดีเพราะท่านเอ็นดูเด็กคนนี้มาก คมรู้สึกลำบากใจขึ้นมา

หากปู่รู้ว่าเขามีอะไรเกินเลยกับเจ้านายน้อยคนนี้ของปู่ไปเสียแล้ว และแถมตัดใจไม่ได้เสียด้วย ท่านจะว่าอย่างไร

หลังจากกลับไปเยี่ยมบ้านมาแล้วคมก็มาที่คอนโดมิเนียมของฮิโรยูกิ ชายหนุ่มเอ่ยถามเรื่องของผู้เป็นปู่ที่ได้รู้มาวันนี้ ฮิโรยูกิ
เลยว่าคิดถึงท่านเลยแวะไปเยี่ยม ดูท่านยังแข็งแรงดี คมเลยว่าท่านมีโรคประจำตัวคือโรคหัวใจ ก็ต้องคอยดูแลใกล้ชิดกันอยู่

คมนั่งมองฮิโรยูกิที่ทำอะไรก๊อกๆแก๊กๆอยู่หน้าเตา ก่อนที่ชายหนุ่มจะลุกเดินเข้าไปรวบกอด เกยคางบนลาดไหล่ของร่าง
เพรียวตรงหน้า ฮิโรยูกิหันมามองคนที่กอดเอวตนเองจากด้านหลังแล้วยิ้มให้ ก่อนลงมือทำอาหารง่ายๆบนเตาต่อ

“พี่สัญญาว่าจะไม่ทิ้งฮิโระ”

คำพูดของคมทำให้ฮิโรยูกิชะงัก มือที่หยิบจับของเลยพลอยหยุดนิ่งไปด้วย ก่อนที่ชายหนุ่มจะเอ่ยกลั้วหัวเราะกลบเกลื่อน
อาการที่เกิดขึ้นกับตนเอง

“อะไรกันครับ พูดแบบนี้ผมกลัวนะ”

“เปล่า พี่เพียงอยากจะย้ำให้ฮิโระมั่นใจว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พี่จะไม่ถอยอีกแล้ว” คมแก้ความเข้าใจให้หนุ่มในอ้อมแขนเสีย
ใหม่

“เช้าที่ตื่นขึ้นมาโดยไม่มีพี่ข้างกาย มันแย่มาก”

ฮิโรยูกิพูดเหมือนเปรยเสียงเบา สีหน้าดูเศร้าหมองลงไปเมื่อพูดประโยคนั้น เขาไม่อยากเป็นแบบนั้นอีกแล้ว ไม่อยากตื่นขึ้น
มาแล้วพบว่าคนที่ตนเองรักจะจากไปโดยไม่ลา เหลือทิ้งไว้เพียงไออุ่นที่เริ่มเย็นชืดลงทุกขณะ สุดท้ายก็เหลือเพียงความ
หนาวเหน็บที่เกาะกินใจทุกครั้งที่นึกถึง ฮิโรยูกิยิ้มเศร้าก่อนหันไปดูอาหารบนเตาต่อ คมจับมือเรียวที่กำลังสาละวนกับการ
หยิบจับของใส่ลงไปในหม้อเอาไว้ ฮิโรยูกิค่อยหันมามอง สบนัยน์ตาคมของหนุ่มหน้านิ่งที่ตอนนี้มีแววเศร้า

“ลืมมันได้ไหมฮิโระ... อาจฟังดูเห็นแก่ตัว แต่พี่อยากให้ฮิโระมีแต่ความทรงจำดีๆ เราจะสร้างมันร่วมกันได้ไหม?”

คมเอ่ยวอน ก่อนนี้เขาเพียงแค่คิดว่าทุกอย่างที่ทำลงไปมันจะเป็นผลดีกับฮิโรยูกิ แต่มันกลับไม่ใช่เลย ทั้งเขา ทั้งฮิโรยูกิ
ไม่มีใครมีความสุขกับสิ่งที่เกิดขึ้น แถมสิ่งที่พ่วงมากับการตัดสินใจของคมในครั้งนั้นก็คือบาดแผลที่เกิดขึ้นมาภายในใจของ
ฮิโรยูกิ ทุกครั้งที่ตื่นขึ้นมาด้วยกัน ฮิโรยูกิมักจะมองหาเขาอยู่เสมอ ทั้งที่เขาอยู่ข้างกายเพียงแค่นี้ พอเห็นแล้วว่าเขาไม่ได้
หายไปไหน ฮิโรยูกิก็จะโผเข้ามากอดเขาเอาไว้เสียแน่น ไม่ใช่ไม่รู้สึกอะไรกับสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ เขาเจ็บปวดมากเชียวล่ะ อยากจะ
ปัดเป่าให้ความทุกข์ของคนที่ตนรักนั้นหายไป

ฮิโรยูกิวางมือทาบข้างแก้มของคมแผ่วเบา แตะสัมผัสด้วยความรักที่มี ก่อนเอ่ยคำพูดที่ทำให้คมรู้สึกเต็มตื้นไปทั้งใจ

“แค่วันนี้ยังมีพี่คมอยู่ข้างกายผม ไม่ว่าอดีตจะเลวร้ายแค่ไหน ผมก็ลืมมันไปจนหมดแล้วล่ะครับ”

“ที่รักของพี่ ฮิโระ รักนะ รักฮิโระที่สุด”

คมโอบกอดร่างเพรียวแนบแน่น ฮิโรยูกิเอียงซบแก้มกับไหล่หนา รอยยิ้มบางแตะแต้มริมฝีปาก ความผิดพลาดในอดีตมันลบ
ไปจากใจไม่ได้ แต่ในวันนี้พวกเขากำลังจะทำทุกๆวันเวลาที่ได้อยู่ด้วยกันให้มันดีที่สุดเท่าที่คนๆหนึ่งจะทำได้ เผื่อในวันข้าง
หน้าพอมองย้อนกลับมาจะได้มีแต่เรื่องดีๆให้นึกถึง



+++++++++++++++



ผลการตัดสินในโครงการก่อสร้างคอนโดมิเนียมของเอิร์ทได้เปิดเผยออกมาแล้วเป็นที่เรียบร้อย บริษัทรับเหมาพฤทธาการ
ได้รับความไว้วางใจให้มาร่วมงานกัน นายชัยชัช คู่แข่งคนสำคัญของพฤทธาการไม่ยอมรับผลการตัดสินนั้น พร้อมทั้งบอกว่า
บุตรชายคนรองของพฤทธาการอย่างเปียว กับเอิร์ทที่เป็นเจ้าของโครงการนั้นรู้จักกัน มันไม่ยุติธรรมเลยกับคนอื่นๆ เมื่อเอิร์ท
ตัดสินด้วยความลำเอียงเช่นนี้ เอิร์ทที่ถูกครหาเรื่องการตัดสินของเขานั้น ทั้งที่จริงแล้วเขาไม่จำเป็นจะต้องใส่ใจกับคนที่แพ้
แล้วพาลเพียงคนเดียวนี้เลยแม้แต่น้อย แต่เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจจึงได้ให้พฤทธาการนำเสนอรูปแบบและความคิดสร้าง
สรรค์ที่มีให้ทุกคนได้เห็น และทุกบริษัทที่เข้าร่วมประมูลนั้นก็ยอมรับในการตัดสินใจของเอิร์ทผู้ซึ่งเป็นเจ้าของงานเป็นอย่างดี
ทุกคนมีน้ำใจนักกีฬามากพอ ทำให้นายชัยชัชที่ไร้พวกโต้แย้งไม่ได้อีก

เมื่อพฤทธาการได้งานชิ้นนี้มาทุกอย่างก็ดูจะเข้าที่เข้าทางมากขึ้น เหมือนเป็นช่วงขาขึ้นของบริษัทเลยก็ว่าได้ หลังจากตกต่ำ
ถึงขีดสุดในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา สามพี่น้องแห่งพฤทธาการเองก็ได้ร่วมกันทำหน้าที่ของตนเองอย่างเต็มความสามารถ มี
งานเล็กๆน้อยๆเข้ามาพฤทธาการก็ไม่ได้ปล่อยทิ้งให้ผ่านเลยไป ตอนนี้ไม่ว่างานจะเล็กจะใหญ่ การสร้างความเชื่อมั่นให้กลับ
มาดีเหมือนเดิมคือส่วนสำคัญที่สุดของบริษัท ดังนั้นการรับงานเล็กที่คนอื่นทิ้งขว้างไม่ใช่เรื่องเสียเกรียติแต่อย่างใด

พงศกรนำเงินมาใช้คืนบริษัทของอลัน เรื่องนี้เขาจำเป็นที่จะต้องทำและตรวจดูความเรียบร้อยด้วยตนเอง หากวันไหนที่ไม่
สามารถมาได้เปียวก็เป็นอีกคนที่ทำเรื่องนี้ได้ อลันแอบคาดหวังกับการมาของพงศกรในครั้งนี้ เขาหวังว่าจะได้พบเปียวด้วย
แต่ก็มีเพียงพงศกรที่มา จนเมื่อลงมาชั้นล่างของบริษัทถึงได้เห็นว่าเปียวรอพงศกรอยู่ตรงหน้าเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ ถึงจะ
เห็นเช่นนั้นแต่อลันก็ไม่ได้เข้าไปพูดคุยด้วย เปียวเองก็เดินเลี่ยงไปหาพี่ชายอย่างพงศกร ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ทั้งคู่ถึงจะได้คุยกัน
เปิดอกอย่างจริงจังเสียที



+++++++++++++

ต่อด้านล่างค่ะ

ออฟไลน์ wanmai

  • ★รักใสปิ๊ง★(>_<)
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 936
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1195/-5

งานเลี้ยงเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมที่กำลังทำการก่อสร้างของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชื่อดัง ซึ่งก็คือบริษัทของครอบครัว
เอิร์ทนั่นเอง งานถูกจัดขึ้นที่บ้านหลังใหญ่ราวคฤหาสน์ เชิญแขกผู้มีเกรียติมากหน้าหลายตา รูปแบบของงานเน้นความเป็น
กันเอง ช่วงเช้าได้ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวไปแล้ว ช่วงค่ำจึงมีเลี้ยงตอบแทน

อลันเองก็เป็นหนึ่งในแขกของงานนี้ เพราะก็เคยได้ทำความรู้จักกับทางเจ้าของบริษัทอยู่เช่นกัน ชายหนุ่มเพิ่งรู้ว่าโครงการ
ที่พฤทธาการได้มาเป็นของบ้านเอิร์ทนี่เอง เมื่อเข้ามาในงานสิ่งแรกที่อลันมองหาหลังจากทักทายเจ้าของงานแล้วนั้นคงหนี
ไม่พ้นบุตรชายคนรองของพฤทธาการที่มาร่วมงานในครั้งนี้ด้วย แม้ในงานจะมีแขกเหรื่อมากมาย แต่เขากลับหาเปียวพบได้
ไม่ยาก อลันยิ้มก่อนจะเดินเข้าไปหาเด็กหนุ่มที่ยืนอยู่ท่ามกลางผู้คนมากมายนั้น แต่ถูกกลุ่มผู้อาวุโสในงานดึงตัวเอาไว้เสีย
ก่อน อลันเหลียวมองเด็กน้อยของเขาอย่างแสนเสียดาย

เปียวที่อยู่ภายในงานได้ไม่นานก็เดินเลี่ยงออกมานอกพื้นที่จัดงานที่แสนวุ่นวาย เขาไม่ค่อยชอบงานที่มีผู้คนมากมายเช่นนี้สัก
เท่าไหร่ ต้องปั้นสีหน้าให้ดูยิ้มแย้มและเป็นมิตรอยู่ตลอดเวลาแบบนั้น เปียวเดินมานั่งที่ม้านั่งในสวนของบ้านเอิร์ท เอิร์ทเดิน
ตามออกมานั่งคุยเป็นเพื่อน ทั้งคู่คุยกันเรื่องสัพเพเหระ รวมทั้งเรื่องที่ตอนนี้ได้ร่วมงานกันโดยไม่คาดคิด

ขณะที่คุยกันอยู่นายชัยชัชที่เป็นหนึ่งในแขกของงานคืนนี้ก็เดินออกมาจากงาน และตรงมาที่ที่ทั้งสองคนนั่งอยู่ เปียวกับเอิร์ท
จึงหยุดการสนทนาลงเพียงเท่านั้น เอิร์ทลุกขึ้นยิ้มให้นายชัยชัชก่อนขอเข้าไปในงาน เปียวจะผละไปด้วย แต่นายชัยชัชกลับ
เอ่ยดักเปียวเอาไว้

“รู้จักเจ้าของงานมันก็ดีอย่างนี้ล่ะนะ” ชายร่างท้วมเอ่ยขึ้นมาลอยๆ แต่สีหน้าท่าทางกลับแสดงออกว่ากำลังดูหมิ่นเปียวเต็มที่

“คุณจะพูดอะไรกันแน่?”

เปียวเอ่ยถามกลับ พยายามข่มอารมณ์ฉุนเฉียวของตนเองไม่ให้แสดงออกมาให้นายคนนี้มองว่าเขาเป็นไก่อ่อน

“เปล่านี่ ผมไม่ได้คิดหรอกว่าคุณเอาอะไรเข้าแลกบ้าง”

นายชัยชัชลอยหน้ากวนอารมณ์ สายตาดูถูกมองเปียวตั้งแต่หัวจรดเท้า เปียวต้องนับหนึ่งถึงสิบในใจ อย่าเพิ่งโมโหตอนนี้
เดี๋ยวได้กลายเป็นฝ่ายแพ้นายคนพาลคนนี้แน่ เมื่อบอกกับตนเองดังนั้นแล้วเปียวจึงยกยิ้มมุมปาก เอ่ยโต้ตอบนายชัยชัช
กลับไปพอให้แสบๆคันๆ

“หึ คงไม่ต้องคิดหรอกมั้ง เพราะคุณก็เคยทำมาก่อนนี่ ใช่ไหมครับ?”

จบคำพูดของเปียวนายชัยชัชก็ชักสีหน้าทันที เปียวยังคงยิ้ม แต่ภายในใจกลับกำลังกรุ่นด้วยโทสะ

“อย่าเพิ่งโกรธสิครับ แค่พูดความจริงเอง”

เด็กหนุ่มตอกย้ำลงไป แต่ดูเหมือนนายชัยชัชจะตั้งหลักได้แล้วจึงกลับมามีทีท่าเหนือกว่าเปียวอีกหน พร้อมกับพ่นคำดูหมิ่น
มาอีกครา

“หึ ผมรู้นะว่าคุณเคยเป็นเด็กของมิสเตอร์แอลอยู่พักหนึ่ง เพราะอย่างนี้หรือเปล่าเลยทำให้คุณไม่ตะขิดตะขวงใจเวลาจะนอน
กับใคร...”

เปียวหน้าร้อนวูบกับเรื่องที่นายชัยชัชยกมา สีหน้าของชายร่างท้วมแสนเจ้าเล่ห์ดูสาสมใจเมื่อเห็นเด็กหนุ่มตรงหน้าอึ้งไป ชาย
ร่างท้วมกอดอกก่อนเหยียดปากยิ้มเย้ยหยัน

“ที่จริงพฤทธาการก็แค่ซ่องดีๆนี่เองนะ”

เปียวกำหมัดแน่น รู้สึกโกรธจนแทบระงับไม่อยู่ นายชัยชัชลอยหน้าเยาะเย้ย ก่อนที่ดวงตาแสนเจ้าเล่ห์นั้นจะเบิกกว้างด้วย
ความตกใจ...


. . . . . . . . . . . . . . . .


อลันที่อยู่ภายในงานมองหาเปียวเสียทั่วงานก็ไม่เห็น ไม่น่าคลาดสายตาเขาไปเลย ชายหนุ่มได้ยินเสียงโหวกเหวกดังมาจึง
หันไปให้ความสนใจ ทางด้านพงศกรที่ก็กำลังตามหาน้องชายคนรองอยู่เช่นกันเมื่อเจอเอิร์ทจึงได้รู้ว่าเปียวนั่งอยู่ที่สวนด้าน
นอกบ้านนี่เอง พิชญรุดมาบอกพี่ชายว่าเปียวกำลังมีเรื่อง พงศกรกับเอิร์ทหันมามองหน้ากันก่อนที่ทั้งหมดจะรีบไปยังที่เกิด
เหตุ

เมื่อไปถึงก็เห็นว่ามีคนรายล้อมอยู่กลุ่มใหญ่ บ้างก็ซุบซิบกันไปต่างๆนานา เจ้าของบ้านอย่างคุณอิทธิศักดิ์บิดาของเอิร์ทก้าว
เข้ามากลางวงที่มีเปียวกับนายชัยชัชยืนประจันหน้ากันอยู่ โดยที่นายชัยชัชมีสีหน้าโกรธเกรี้ยวอย่างเห็นได้ชัด มุมปากของ
เขาเริ่มปรากฏร่องรอยช้ำบวมให้เห็น คุณอิทธิศักดิ์บอกให้ทั้งสองฝ่ายตามเข้าไปในบ้านเพื่อที่จะสอบถามทั้งคู่ว่าเกิดอะไรขึ้น
พงศกรกับพิชญ และอลันกับเอิร์ทก็ตามเข้าไปในบ้านด้วย

เมื่อเข้ามาในห้องที่เป็นส่วนตัวกันแล้วนายชัยชัชก็สร้างเรื่องโยนความผิดมาให้เปียวอย่างหน้าไม่อาย บอกว่าเปียวไม่รู้จัก
ระงับอารมณ์ ไม่รู้จักเด็กรู้จักผู้ใหญ่ ตนเองเพียงเข้ามาคุยเพราะเห็นว่าเป็นเด็กหนุ่มรุ่นใหม่ที่ท่าทางจะอนาคตไกล ในฐานะที่
ตนเป็นผู้ใหญ่กว่าจึงอยากแนะนำและทำความรู้จักกันเอาไว้ เผื่อภายภาคหน้ามีอะไรช่วยเหลือเกื้อกูลกันได้ แต่ทางนั้นกลับ
ตั้งแง่กับตนเองคิดว่าตนเองมาหาเรื่อง พอจะอธิบายเปียวก็ไม่ฟังแล้วยังมาทำร้ายร่างกายเขาอีก

ทางด้านเปียวก็ยังคงนิ่งเงียบ ปล่อยให้นายชัยชัชร้องแรกแหกกระเชออยู่ฝ่ายเดียว อลันก้าวเข้ามายืนข้างเปียว เด็กหนุ่มหัน
มามองคนข้างกาย นายชัยชัชเองก็หันมาด้วยเช่นกัน ชายร่างท้วมเหยียดยิ้มดูถูก เปียวรู้สึกฉุนขึ้นมาอีก

“เกิดอะไรขึ้นเปียว เขาทำอะไรคุณหรือเปล่า?”

เสียงอลันเอ่ยถามอย่างห่วงใยทำให้อารมณ์โกรธของเปียวชะงัก เด็กหนุ่มเหลือบมองเจ้าของคำถามแล้วส่ายหน้า พิชญเข้า
มายืนข้างพี่ชาย ตามด้วยพงศกรที่เข้ามายืนเคียงข้างน้อง

“เปียว อย่ามาทำเป็นคนดีตอนนี้ มันว่าอะไรก็บอกไปสิ”

พิชญเอ่ยกระตุ้นพี่ชาย ไม่บ่อยนักหรอกที่จะเห็นเปียวโกรธจนคุมอารมณ์ไม่อยู่ พิชญคาดว่านายอ้วนคนนี้ต้องว่าอะไรเปียว
มากกว่าที่มันบอกแน่

เมื่อนายชัยชัชเอ่ยฟ้องจบไป คุณอิทธิศักดิ์จึงเปิดโอกาสให้เปียวได้พูดบ้าง เด็กหนุ่มหันไปมองพงศกร ผู้เป็นพี่จึงเป็นผู้เอ่ย
ความแทนน้อง

“ทางเราต้องขอโทษด้วยนะครับคุณชัยชัช น้องผมอาจจะใจร้อนไปสักหน่อย แต่ถ้าคุณไม่ได้ไปกระตุ้นให้เขาโกรธ…”

“นี่ ผมเป็นผู้เสียหายนะคุณ ครอบครัวนี้มันยังไง ทำผิดแล้วยังมาโยนความผิดให้คนอื่นแบบนี้ พ่อแม่ไม่สั่งสอนเลยหรือไงกัน”

ทั้งสามหนุ่มที่ถูกว่ากระทบถึงพ่อแม่ชะงักกึก อารมณ์โกรธกรุ่นเริ่มปะทุในใจ แม้แต่คุณอิทธิศักดิ์เองยังรู้สึกไม่ชอบใจนักกับ
การพูดของนายชัยชัช ผู้อาวุโสสุดในที่นี้มองสามพี่น้องอย่างนับถือใจ ถูกว่าพาดพิงถึงพ่อแม่เช่นนี้ไม่ว่าใครก็คงโกรธล่ะ แต่
ทั้งสามหนุ่มก็ยังคงเก็บอาการได้ดีไม่แสดงความกักขฬะออกมาให้เห็นเช่นคนที่บอกปาวๆว่าตนเป็นผู้ใหญ่

“เอาล่ะๆ ในเมื่อเด็กเขาก็ขอโทษแล้วก็แล้วต่อกันเถอะนะ ผมไม่อยากให้งานที่ผมจัดมันกร่อยเพราะคนไม่กี่คนหรอกนะ”

คุณอิทธิศักดิ์เอ่ยสรุปความตัดปัญหาก่อนเอ่ยติงในตอนท้าย ทั้งสามหนุ่มจากพฤทธาการยกมือไหว้ขอโทษท่าน พอเจ้าของ
บ้านและเจ้าของงานในวันนี้เขาสรุปมาเช่นนั้นนายชัยชัชจึงโต้แย้งไม่ได้อีก เมื่อทุกอย่างจบลงได้ด้วยดีแล้วงานจึงดำเนินต่อ
ไป แม้จะมีเสียงพูดคุยซุบซิบกันแว่วมาแต่ก็ไม่มีใครอยากใส่ใจกับมัน


. . . . . . . . . . . . . . .


“ไม่เป็นไรใช่ไหมครับ เปียว?”

เอิร์ทเอ่ยถามเมื่อเดินออกมาส่งสามพี่น้องแห่งพฤทธาการที่กำลังจะกลับกันแล้ว

“ไม่เป็นไรหรอกเอิร์ท ขอบคุณที่เป็นห่วง”

เปียวยิ้มขอบคุณในความห่วงใยนั้นก่อนเอ่ยลากลับ อลันที่ตามออกมาจากในงานยืนมองเปียวเงียบๆ ก่อนขึ้นรถเด็กหนุ่มจึง
หันมาหาอลันแล้วเอ่ยบอก

“ขอบคุณนะครับ”

อลันอึ้งไปนิดก่อนยิ้มบาง มองตามเปียวที่ก้าวขึ้นรถไป ในใจรู้สึกเจ็บที่ต้องทำได้แค่ยืนมอง ถึงเวลาหรือยังที่เขาจะลดทิฐิที่มี
แล้วเป็นฝ่ายเข้าหาเด็กน้อยของเขาก่อน...


. . . . . . . . . . . . . . . .


“หา! มันว่าเราขนาดนี้เลยเรอะ หน็อยยย พี่โต กลับรถ!!”

“เฮ้ย! พี!”

เสียงพิชญสั่งคนขับรถให้ย้อนกลับไป แทรกกับเสียงเปียวที่ดังขึ้นมาไล่ๆกัน เมื่อขึ้นมาบนรถแล้วพิชญก็ซักถามเอาความจาก
ปากพี่ชายคนรองมาจนได้เรื่อง และมันก็คงจะได้เรื่องจริงดังว่าเมื่อเด็กหนุ่มร้องสั่งให้คนขับรถวนรถย้อนกลับไปทางเดิมเมื่อ
ครู่นี้

“ใจเย็นน่าพี ใครเขาจะพูดอะไรก็ปล่อยเขาเถอะ ถ้าเราไม่ได้เป็นแบบนั้นก็อย่าไปดิ้นตามเขา” พงศกรที่นั่งข้างคนขับเอี้ยวตัว
มาเอ่ยกับน้อง

“มันเจ็บใจนะพี่พงศ์!” พิชญกระแทกเสียง สีหน้าบึ้งตึง

“รู้ แต่เจ็บใจเราก็แค่เก็บไว้ในใจ ถ้าเราเอาคืนเขาพีก็เห็นว่ามันเป็นเรื่องใหญ่ เครดิตเราจะติดลบ เรากำลังทำงานใหญ่นะ
ไตร่ตรองให้ดี”

พงศกรเอ่ยเตือนน้อง คนอย่างนายชัยชัชเล่นซึ่งหน้าแบบนี้มีแต่เจ็บตัวเปล่า เปียวหน้าหมองเมื่อฟังพี่ชายพูด เขาเป็นต้นเหตุ
ทำให้ภาพลักษณ์ของบริษัทย่ำแย่เสียแล้ว

“ผมขอโทษนะครับพี่ชาย”

“ไม่ต้องขอโทษพี่หรอก ถือเสียว่าเป็นบทเรียนที่หาไม่ได้ในห้องเรียนละกัน ค่อยเรียนรู้ไป พี่เองก็ใช่ว่าจะเก่งกล้ามาจากไหน
เราคงต้องเรียนรู้ที่จะทำความเข้าใจกับวงการนี้ใหม่ด้วยกันแล้วล่ะนะ”

มือหนาเอื้อมมาโยกศีรษะน้อง รอยยิ้มของเปียวยังคงจืดเจื่อน พิชญที่นั่งข้างกันกลอกตามองสูงแล้วผลักไหล่เปียวเสียแรง
เปียวหันไปมองน้องกะต่อว่าเต็มที่แต่ก็ต้องหยุดไว้แค่ความคิด เมื่อรู้ว่ามันเป็นการแสดงความเป็นห่วงของพิชญที่มาในรูป
แบบแปลกประหลาดจนคนที่ไม่เคยอยู่ด้วยกันมาคงไม่มีทางรู้ อาจจะคิดไปว่าพิชญกำลังหาเรื่องอยู่เป็นแน่ เด็กหนุ่มหัวเราะ
ในลำคอกับท่าทางเก้อกระดากของน้องชายคนเล็ก ถอนใจเบาแล้วยิ้ม ความรู้สึกที่ว่าตนเองยังมีพวกมันดีอย่างนี้เองนะ ไม่ว่า
จะเจอกับอะไรก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอีกต่อไป

ความรักจากคนในครอบครัว สิ่งที่เขาโหยหาและอยากได้มันตลอดมา แม้ว่ามันจะมาช้าไปสักนิด แต่มันก็ยังคุ้มค่าที่ได้มา
ครอบครอง



+++++++++++++



ทางด้านคุณแม่อัญชัน พอเห็นลูกชายอย่างอลันเอาแต่ทำงานหัวไม่ได้วางหางไม่ได้เว้นคุณแม่จึงได้บอกให้อลันไปพักผ่อน
ไม่ต้องทำแล้วงานพักไว้ก่อน ให้คมกับฮิโรยูกิช่วยดูแลให้ชั่วคราว แต่อลันกลับไม่ยอมไป

“แม่สั่ง” คุณแม่อัญชันเอ่ยเสียงเข้ม

“โธ่ แม่ครับ” อลันทำเสียงออด เขาไม่อยากไปไหนทั้งนั้นนั่นล่ะน่า

“ไม่ต้องมาธ่งมาโธ่ หายใจเข้าออกก็เป็นงานไปหมดแล้ว ไปพักเสีย แล้วให้ฮิโระกับคมช่วยดู ระหว่างที่น้องยังไม่กลับญี่ปุ่น”
คุณแม่เอ่ยแจกแจง

อลันถอนใจเฮือกใหญ่ คำสั่งประกาศิต ไปก็ไปวะ!

ชายหนุ่มยอมตกลงทำตามใจคุณแม่อัญชันที่รัก โดยที่ไม่รู้ว่าการไปเที่ยวพักผ่อนตามคุณแม่สั่งในครั้งนี้จะพบเจอกับอะไรที่
คาดไม่ถึง



++++++++++++++



กระเป๋าเสื้อผ้าถูกตระเตรียมมาวางที่หน้าบ้านพฤทธาการอย่างพร้อมสรรพ เปียวยืนมองพี่ชายกับน้องชายของตนเองที่เป็น
โต้โผใหญ่ในการส่งเขาไปเที่ยวพักผ่อนในครั้งนี้ ด้วยเหตุผลที่ทั้งคู่ให้มาตรงกันว่าเปียวควรพักผ่อนให้สบายใจจะได้กลับมา
ลุยงานได้เต็มที่ ตัวเขาเองยังไม่เห็นว่าตนเองจะไม่เต็มที่กับงานตรงไหน เด็กหนุ่มยืนกอดอกมองพงศกรขนกระเป๋าเข้าเก็บที่
กระโปรงท้ายรถด้วยสีหน้าบอกบุญไม่รับ พิชญหันมาเห็นพี่ชายคนรองยืนหน้าบูดหน้าบึ้งแล้วขัดใจ จะไปเที่ยวทั้งทีทำหน้าให้
มันดีกว่านี้ก็ไม่ได้

“ส่งไปเที่ยวนะเปียว ไม่ได้ส่งไปประหาร” พิชญอดแดกดันผู้เป็นพี่ไม่ได้

“แล้วทำไมไม่ให้พี่อยู่ช่วยกันที่นี่เล่า” เปียวยังโต้แย้งจนวินาทีสุดท้าย พิชญพ่นลมหายใจแรงๆก่อนว่า

“ขอถามหน่อยว่าตื่นมานายเคยส่องกระจกดูหน้าตัวเองบ้างไหมเปียว ถ้ายังไม่เคยเห็นว่ามันเป็นยังไงฉันจะบอกให้รู้ มันดู
เศร้า! เศร้า! และเศร้า! เห็นแล้วมันทำให้คนมองอย่างฉันหดหู่!”

“ใส่หน้ากากปิดปากไปทำงานก็ได้ แถมแว่นให้ด้วยอ่ะ”

“เป็นเด็กหรือไง?”

พงศกรมองน้องสองคนตอบโต้กันไปมาแล้วก็เลยเดินมาแทรก กอดคอน้องคนรองและน้องเล็กเอาไว้ พิชญกอดอกเบือน
หน้าไปทางอื่น เปียวก้มหน้าเล็กน้อยแล้วเหลือบสายตามองน้องเล็กด้วยความขัดเคือง พงศกรตบบ่าทั้งคู่ให้ใจเย็นๆ ก่อนพูด
กับน้องคนรองอย่างเปียว

“ไปเถอะเปียว ไปเปิดหูเปิดตา พักผ่อนให้สบายใจ นะ”

“แต่ว่า…”

เปียวจะเอ่ยแย้งอีกแต่พิชญเหล่ตามามอง ทั้งสายตากดดันจากพี่ชายอย่างพศกรที่มองมาอีกด้วย เปียวเม้มปาก ก่อนเดินไป
ขึ้นรถที่คนขับเปิดประตูรอท่า เด็กหนุ่มเข้าไปนั่งในรถด้วยความไม่เต็มใจ เขาไม่อยากไปไหนทั้งนั้นล่ะ ไม่ว่าจะไปอยู่ที่ไหน
มันก็ไม่ได้ทำให้ความรู้สึกเขาดีขึ้นมาหรอก แต่เพราะไม่อยากให้ครอบครัวเป็นห่วงจึงจำต้องทำตาม ถึงการแสดงความเป็น
ห่วงของแต่ละคนจะออกมาไม่เหมือนกัน แต่เปียวก็รู้ว่าพงศกรกับพิชญห่วงตนเอง

รถพาเปียวไปที่สนามบิน เด็กหนุ่มเข้าไปที่อาคารของสายการบินในประเทศ เช็คอินและจัดการทุกอย่างตามขั้นตอนของ
สนามบินแล้วนั่งรอเวลาเครื่องบินออก เมื่อถึงเวลาเปียวก็เตรียมไปขึ้นเครื่อง เด็กหนุ่มขึ้นไปบนเครื่องบินแล้วเดินหาที่นั่งของ
ตนเอง เมื่อพบแล้วจึงเอากระเป๋าเข้าไปเก็บและนั่งลงรัดเข็มขัดให้เรียบร้อย ผู้โดยสารคนอื่นๆก็ทยอยเข้าที่กันไป เปียวนั่งเอน
พิงเบาะแล้วหันออกไปมองนอกหน้าต่าง ในนี้มันไม่มีอะไรน่าสนใจ ที่ที่จะไปก็ไม่ได้น่าสนใจสักนิดเช่นกัน

“ขอโทษนะครับ...”

เปียวละสายตาจากหน้าต่างเครื่องบินแล้วหันกลับมาเมื่อมีเสียงของผู้ร่วมเดินทางคนหนึ่งดังขึ้นมาข้างกาย...

. . . . . . . . . . . .

อลันมาถึงสนามบินก็แทบจะไม่ทันเวลาเครื่องออก ไหนยังจะมัวตรวจเช็คโน่นนี่อีกมากมาย ใจจริงเขาก็ไม่ได้อยากมาอยู่แล้ว
ด้วย เลยไม่ใส่ใจกับเวลาสักเท่าไหร่ แต่คุณแม่อัญชันนี่สิ คุณนายท่านไม่ยอม ลากคุณลูกชายมาที่สนามบินจนได้

เมื่อจัดการอะไรเสร็จสรรพอลันก็ขึ้นเครื่องมา ชายหนุ่มเดินหาที่นั่งของตนเองตามที่พนักงานบนเครื่องบอก เมื่อเจอแล้วจะ
เข้ามานั่งกลับมีคนนั่งแทนที่ไปเสียแล้ว เบาะนั่งมันก็มีสองเบาะ และเขาได้เบาะที่อยู่ติดหน้าต่าง แต่ผู้ที่มาก่อนกลับจับจอง
มันไปแล้วเสียนี่ ก็ไม่ได้จะอะไรกับที่นั่งนักหนา นั่งตรงไหนมันก็เหมือนๆกันนั่นล่ะ แต่ตอนนี้เขากำลังหงุดหงิดเลยอยากจะ
พาลพาโลไปกับทุกสิ่งอย่างที่ขวางหน้า อลันถอนใจแรงๆก่อนเอ่ยกับผู้โดยสารที่มาแย่งที่เขา

“ขอโทษนะครับ ช่วยขยับ…” อลันชะงักคำพูดค้างอยู่แค่นั้นเมื่อผู้โดยสารคนดังกล่าวหันกลับมา ก่อนเอ่ยเรียกราวกับเพ้อไป

“…เปียว”

เปียวที่หันมาตามเสียงของผู้ร่วมเดินทางคนหนึ่งแล้วเงยหน้าขึ้นมอง เด็กหนุ่มอึ้งไปเมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าคือใคร

‘อลัน เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?’





TBC




เน็ตหลุดอ่ะ ต้องรีสตาร์ทเครื่องใหม่เลยช้ามากเลยอ่ะ กว่าจะต่อได้T^T

ขอบคุณทุกๆท่าน ทุกการติดตามค่ะ เดี๋ยวทยอยจิ้มบวกคืนเน้อ :L2:

ขออนุญาต

เฮียอลันเนี่ย ก็บอกไปสิว่าจะให้อยู่ในฐานะ
"ภรรยาจ้ะ"
แค่นี้ หนูเปียวคงไม่จากไปแร้ววว :o8:

บวกๆ^^

555 แค่นึกถึงอลันตอนพูดคำนี้ก็ฮาแล้วอ่ะ มันแบบ... ไม่ไหวแล้ว :m20:

แม่ของอลันเป็นคนขอเลิกเองไม่ใช่หรอ แล้วทำไมพูดเหมือนวิคเป็นคนขอเลิกเองล่ะ
 :really2: :really2: :really2:

อันนี้หมายถึงตรงไหนคะ ตรงที่พ่อบ้านมิลเลอร์พูดป่ะ? คือ... (ตั้งท่าอธิบายเต็มที่ 55)

คุณแม่อัญชันเป็นคนขอเลิกจริงค่ะ แต่ที่พ่อบ้านบอกว่าคนที่ทิ้งคุณแม่ไปนั้นช่างโง่เขลา หมายถึงวิคเตอร์ที่ไม่เห็นค่าของ
เพชร(คุณแม่อัญชัน)ในมือ แล้วไปคว้ากรวดสีสวย(นาตาเซียและสาวน้อยทั้งหลาย)มาครอบครอง สุดท้ายแล้วเพชรก็หลุด
มือไป หากวันหนึ่งเกิดนึกเสียดายอยากได้คืน มันก็ไม่มีทางเป็นไปได้แล้ว อะไรแบบนี้น่ะค่ะ

โดยสรุปก็คือว่าวิคเตอร์นอกใจ คุณแม่เลยขอเลิกน่ะค่ะ


ปล. ใหม่ว่าคงมีแต่นิยายเรื่องนี้ล่ะมั้งนะที่ลงนิยายไป อธิบายให้คนอ่านเข้าใจไป :try2:

ปล.2 ขอบคุณ คุณCarToonMiZa กับน้องซี zero3 ด้วยน้าที่ช่วยดัน :กอด1:

วันใหม่ค่ะ

+++++++++++

บวกหนึ่งครบแล้วล่ะ เย้~

บวกไปเน็ตหลุดไป อ๋อย@_@



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-09-2012 20:38:03 โดย wanmai »

ออฟไลน์ bobie

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2182
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +269/-7
ขอให้การไปเที่ยวครั้งนี้เปียวกับอลันจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมเหอะ
แบบนี้อึดอัดอ่า

ออฟไลน์ inspirer_bear

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2021
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-5
เอิ่มมมมม อยากเอาหัวเปียวกับอลันมาโขกกันแรงๆๆ

สักหลายๆทีด้วยอะ เฮ้อออ รักแต่ก็ทำเหมือนไม่รัก

ต้องรอให้แน่ใจ หรืออะไรเนี้ย อ่านแล้วขัดใจ ฮาาาา

เราไม่ได้ไม่ชอบนะ แต่แค่ขัดใจพระเอก นายเอก ปากหนักทั้งคู่

แล้วจะเจออะไรล่ะเนี้ย ไปเที่ยวกันสองคน หึหึ

ใครวางแผนบอกมาเลย

ออฟไลน์ tookta

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 588
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +70/-0
ขอบคุณจ้า
บททดสอบของเปียวมาเยืนแล้วหรือ
เปียวจะผ่านบททดสอบนี้ไปได้้ด้วย
นายอลันที่มีความรักที่จริงใจ จริงจัง
เรียนรู้กับความรักที่มี แล้วอดีตจะเป็นเพียงบทเรียนเท่านั้น

ปล. เป็นกำัลังใจให้นักเขียนจ้า ^^

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ udongjay

  • ความรัก...ไม่เคยจำกัดเพศ แต่เพศต่างหากที่จำกัด...ความรัก
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 417
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +235/-2
วางแผนกันสินะ ดีแล้วๆ
จะได้คืนดีกันไวๆเนอะ คิคิ
บวกจ้า
ปล.อยากรู้เรื่องของอเล็กซ์ พี แล้วก็นายคนนั้นอ่า(จำชื่อไม่ได้ TT)

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด