เรียงร้อยด้วยรักฯ : ทฤษฎี บทที่ 16 l 2018.06.16 หน้าที่ 93
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เรียงร้อยด้วยรักฯ : ทฤษฎี บทที่ 16 l 2018.06.16 หน้าที่ 93  (อ่าน 946077 ครั้ง)

ออฟไลน์ chin-ruyze

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 226
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-10
:laugh: ขอแย่งเท๊ตด้วนคนนนนนน  :impress2:
เราอ่านเรายังอยากเข้าไปร่วมแย่งเท๊ตด้วยเลย  :a5:
คนอาไร้ มานน่าร้ากกกกก 5555+  :กอด1:

ออฟไลน์ moredee

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-8
ตรัสแผนสูง ได้เท็ดดี้แบร์ไปอยู่ในสายตาตลอดการฝึกงาน :laugh:

ออฟไลน์ a_tapha

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4981
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +397/-1
คึคึ ทีนี้เค้าจะเล่นพ่อแม่ลูกกันใช่เปล่าคุณพ่อตรัส  :z1:

ออฟไลน์ myd3ar

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-4
ท่านตรัสจะเกลียดเด็กก็คราวนี้แหละน้า

น้องต้าร์ขี้อ้อน พูดเก่งขนาดนี้

ออฟไลน์ Alone Alone

  • ขอตายในอ้อมกอดฮยอกแจ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-0
ช่วงนี้ท่านตรัสหื่นไม่ออกเลยนะเออ :z1:

ยิ่งชีต้าร์มาอยู่ด้วยจะได้สวีทกันไม๊น้อ :a5:

ออฟไลน์ aeecd

  • :: 8018 ::
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1161
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-0
อ๋อสรุปพ่อไม่ได้จีบ
แต่ลูกจีบ :laugh:
น้องต้าร์น่าร้ากกกกก

ออฟไลน์ Whatever it is

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3959
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +380/-8
น้องชีตาห์น่ารักเชียว ตกลงพี่เชษฐ์มะได้มีแผนอะไรเหรอเนี่ยยย ทำไมเหมือนผิดหวัง กะแล้วพลาด 555

ฮาเดส

  • บุคคลทั่วไป
ชีต้าร์สู้ๆ 555
ให้รู้ว่าเด็ก 4 ขวบก็ชนะทั่นตรัสได้! กรั่กๆๆ

ออฟไลน์ taroni

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2366
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-27
น้องชีตาร์มาอยู่ด้วยท่าทางจะสนุก

A. marco

  • บุคคลทั่วไป
นึกว่าพี่เชษฐ์จะเป็นพ่อม่าย... ว้า ผิดหวัง 5555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






nightsza

  • บุคคลทั่วไป
ชีตาร์น่ารักจัง แอบปันใจมาเชียร์ได้มั้ยอ่า

JS13elieve

  • บุคคลทั่วไป
ศึกชิงเท็ตกำลังจะระเบิดขึ้นแล้ว !!!!

ผู้เข้าชิงคือยอดชายนายตรัส กับ น้องต้าหน้าทะเล้น -..-

ออฟไลน์ yongsulewa

  • 나는 상처를 줬어.
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 241
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
น้องต้าร์น่ารักจังลูก ก  :o8: :o8:

เจอคู่แข่งแล้วคุณตรัส :laugh: :laugh: :laugh: :laugh:

  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Loste

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 430
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
 :jul3: :jul3: :jul3:


ครบซักที พ่อ แม่ ลูก 55555555

ออฟไลน์ MaRiTt_TCL

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1513
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-6
แหม พี่ตรัสก็หึงไปทั่ว 55
เอาล่ะเว้ย น้องต้าร์ปะทะพี่ตรัส จะเป็นยังไงเนี่ยย
รอตอนต่อไป

Nnsicc

  • บุคคลทั่วไป
มารออ่าน  :3123:

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
เพิ่งเข้ามาอ่าน สนุกดีจัง
ชีตาร์จะกลายเป็นก้างของตรัสเปล่านะ

MiiCell

  • บุคคลทั่วไป
น้องต้าร์น่าร๊าก น่ารักอ่ะ
ได้ฝึกหัดเลี่ยงลูกเลยเนอะ
จิ้น พ่อตรัส แม่เท็ต และลูกต้าร์
ฟินไปสองวันเศษๆ  :pig4:

hyuk_knok

  • บุคคลทั่วไป
 o13 o13ชอบชีตาร์ แก่แดดได้ใจน้ามาก อิอิ

ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9
พิ่งมอ่นชอบตรัสมกบบร้ยงียบ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ นอนกินแรง

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-4
ชีต้าร์น่ารักจัง ตรัสมีคู่แข่งเป็นเด็กสี่ขวบ :m20:

ออฟไลน์ greensoda

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 584
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
แอบเนียนเรียกพ่อนะตรัสส
รอดูความน่ารักของน้องชีตาร์  :impress2:
จะป่วนขนาดไหนน้า
เอาให้ตรัสหึงจนต้องหาเวลาให้เท็ตเลยนะ  :z1:

ออฟไลน์ dimth

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 73
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-1
สงสัยพี่ตรัสต้องรบกับมารน้อยชีตาร์ซะแล้ว

ออฟไลน์ slurpee04

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 691
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-1

ออฟไลน์ Lipstick_Murder

  • มฤคระเริง
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 68
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +245/-3
ทะลึ่ง : กามที่ 11

          ถามว่าทำไมนายทัศนัยถึงต้องมานั่งรวบรวมหนังสือล่อแหลมใส่กล่องพลาสติกใบใหญ่อยู่อย่างนี้ด้วย

          ข้อแรกคือในอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อจากนี้ผมจะมีเพื่อนร่วมห้องเป็นเยาวชนวัยกำลังอยากรู้อยากเห็น และคงเป็นที่น่าสังเวชหากน้องค้นเจอหนังสือพวกนี้ที่กองรวมกันอยู่ใต้เตียง

          สองผมขี้เกียจตอบคำถามต่าง ๆ นานาจากฝีปากช่างฉอเลาะ เพราะที่เห็นอยู่นี่ก็มีแต่คอลัมน์ส่อเรื่องใต้สะดือทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น...ใช้ปากวัดขนาด แตกตรงไหนเร้าใจที่สุด และอีกมากมายหลายกระบวนความ

          สามผมไม่อยากโดนคุณศุภเชษฐ์เขม่นหากน้องไปเล่าให้คุณพ่อฟังว่าผมพาลูกเขาอ่านหนังสืออะไร รูปเล่มเป็นแบบไหน ใครขึ้นปก

          และข้อสุดท้าย...ไอ้คุณตรัสสั่งห้ามเด็ดขาดที่จะให้ผมเก็บหนังสือพวกนี้ไว้ มันบอกไร้สาระไม่มีประโยชน์ ใช่สิ เพราะมันไม่มีส่วนได้เสียอะไรกับหนังสือหย่อนใจ มองแล้วไม่เห็นเงินเห็นทองเหมือนหนังสือแนะแนวธุรกิจ

          โถ...ไอ้หน้าเลือด

          ผมสะดุ้งนิดหน่อยตอนตรัสเปิดประตูเข้ามาแบบไม่ให้สุ้มให้เสียง มันเดินมายืนเต๊ะจุ๊ยกอดอกอยู่ข้างเตียงก่อนเอ่ยถามเสียงเรียบ “ทำอะไรอยู่ ยังไม่เสร็จอีกหรือ”

          “เก็บอยู่นี่ไง มึงจะรีบไปไหนล่ะ”

          “เก็บอะไร เห็นนั่งเปิดดูอยู่ตั้งนานแล้ว”

          “ขอดูส่งท้ายหน่อยไม่ได้ไง ไหน ๆ ก็จะเอาของสะสมกูไปทิ้งอยู่ละ”

          “บอกว่าไม่ได้ทิ้ง แค่ย้ายไปไว้ห้องเก็บของ”

          “แต่กูก็ไปรื้อมาดูไม่ได้”

          “ทำไมต้องฝักใฝ่ขนาดนั้น”

          “กูพอใจ มึงจะทำไม” ดึงดันรั้นเถียงไปข้าง ๆ คู ๆ ก็คนมันเสียดาย อุตส่าห์เก็บสะสมไว้เป็นกำลังใจในการศึกษาเล่าเรียน ทั้งรายปักษ์รายเดือน เล่มหนึ่งก็ตั้งหลายตังค์ มันคงไม่รู้ว่าทั้งกล่องนี้มูลค่ารวมกันนั้นขูดเลือดขูดเนื้อผมมากแค่ไหน แต่สุดท้ายผมก็ต้องจำใจวางหนังสือลงก่อนที่มันจะจ้องจนผมละอายแก่ใจไปมากกว่านี้ เพราะหน้าเมื่อกี้ที่เปิดค้างไว้มันตรงกับคอลัมน์ ‘เคล็ดไม่ลับทำอย่างไรให้อึด’ ซึ่งตรัสมันไม่ได้แค่จ้อง แต่มองไปอมยิ้มไป กลัวมันจะอุตริคิดว่าผมศึกษาทฤษฎีไว้ใช้ปฏิบัติซึ่งมันก็ไม่ผิดนัก แต่หามิได้นะขอรับ บทเรียนนี้กระผมเรียนรู้ไว้ใช้กับผู้หญิงไม่ใช่ผู้ชายแต่อย่างใด

          เพราะฉะนั้น...เลิกยิ้มได้แล้วครับหล่อ

          หลังจากตรวจสอบรอบเตียงและในตู้เสื้อผ้าว่าไม่มีหนังสือผู้ใหญ่เล่มไหนหลงเหลืออยู่ให้เป็นที่สะดุดตาแก่เด็กน้อยอย่างถี่ถ้วนดีแล้ว ผมก็ปิดกล่องก่อนจะช่วยตรัสยกเข้าห้องเก็บของ ห้องที่ว่าเป็นห้องเล็ก ๆ สำหรับเก็บอุปกรณ์แม่บ้านที่อยู่ติดกับห้องของผม ในนั้นมีชั้นวางสแตนเลสสูงสามชั้น กล่องหนังสือจึงถูกยกขึ้นวางไว้ชั้นบนสุดเพื่อให้พ้นมือเด็ก ไม่ใช่เด็กชายชีต้าร์ แต่หมายถึงเด็กชายทัศนัยคนนี้ต่างหาก

          “ยกของแค่นี้ถึงกับเหงื่อตกเลยหรือ”

          “โหตรัส ทำเป็นพูดดี มึงไม่ได้เป็นคนเก็บเข้ากล่องนี่”

          “แล้วใครใช้ให้ซื้อเยอะแยะ”

          “พูดมากว่ะ บ่นเป็นคนแก่ไปได้ เดี๋ยวต่อยเลย” ยกมือยกไม้กำหมัดเป็นนักเลงโตเข้าหน่อยคุณชายก็ยิ้มบาง ทำปากขมุบขมิบว่ากลัวจังเลยก่อนจะหันไปย้ายกล่องกระดาษที่วางระเกะระกะให้เข้าที่ แต่ไม่เข้าท่าแฮะ คุณผู้ชายต้องมาก้ม ๆ เงย ๆ ยกของมันไม่เข้ากัน ผมเลยเสนอตัวผลักไหล่มันออกแล้วยกเรียงแทน

          “ขอบคุณครับ” มันพูดเบา ๆ ก่อนจะส่งมือมาเสยผมที่ปรกบังตาทัดหูให้ “แต่ทีหลังไม่ต้องนะ แขนเล็กแค่นี้เดี๋ยวหักขึ้นมาล่ะแย่เลย”

          “บ้าหรือไง กูไม่ได้บอบบางขนาดนั้น เห็นแบบนี้ก็มีกล้ามนะ ดูซะ” เบ่งใส่อย่างมาดมั่น แต่ทว่าคุณชายกลับหัวเราะร่วน ใช่สิ ใครจะกล้ามใหญ่ไหล่ผ่ายเหมือนมึง ถึงแม้ช่วงนี้จะไม่ค่อยได้ไปฟิตเนสอย่างทุกที แต่ก็ไม่ได้ทำให้กล้ามเนื้อต้นแขนและหน้าท้องของมันหย่อนคล้อยด้อยความหล่อล่ำแต่อย่างใด

          ด้วยความหมั่นไส้ก็เลยปั้นหน้าบึ้งเดินออกจากห้อง แต่ยังไม่ทันได้ก้าวพ้นกรอบประตูคุณชายก็คว้าต้นแขนไว้เสียก่อน หันไปมองก็เห็นมันหยักยิ้มหล่อจู่โจมระยะประชิด ไอ้ผมที่เกราะกำบังไม่แข็งแรง สายตาก็เลยฝ้าฝางมองไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร จนกระทั่ง...

          เสียงโทรศัพท์ผมดังขึ้นก่อนที่ริมฝีปากมันจะโน้มมาถึง ลมหายใจอุ่นที่พ่นอย่างขัดใจตรงปลายจมูกทำให้ผมต้องเผยยิ้มกว้าง ก่อนล้วงหยิบก้างขวางคอออกมาจากกระเป๋ากางเกงแล้วกรอกเสียงลงไป

          “ครับพี่เชษฐ์ ถึงแล้วเหรอครับ ได้ครับ เดี๋ยวผมลงไป”

          พอวางสายผมก็โบกโทรศัพท์ไปมาใส่หน้าคนที่กำลังฉุน ตรัสมันทำหน้าตึงอย่างกับเด็กโดนแย่งของเล่น เห็นแล้วขี้เกียจชวนว่ามันจะลงไปรับน้องกับผมหรือเปล่า ดูท่าว่ายังไงมันก็คงปฏิเสธแน่ ลงไปคนเดียวก็ได้วะ

          ชีต้าร์ผู้น่ารักที่ใส่เสื้อลายหมีมีฮู้ดเดินอาด ๆ ลงมาจากรถ ผมยื่นมือไปรับกระเป๋าใบโตมาจากคุณพ่อของเขาพร้อมรับฟังข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับกิจวัตรของลูกชาย จากที่กังวลว่าต้องพาไปส่งโรงเรียนทุกเช้าไหม ตรัสจะให้ยืมรถไปส่งหรือเปล่า ก็ตัดไปได้เลย ช่วงนี้ชีต้าร์ปิดเทอมระหว่างภาคเรียน โดยเดิมทีครอบครัวนี้เขามีแผนไปเที่ยวพักร้อนกัน แต่ว่ามาติดงานกะทันหันเสียก่อน เอาเป็นว่าชีต้าร์กินง่าย นอนง่าย ไม่ฉี่รดที่นอนแล้ว ผมก็หมดปัญหาคาใจ

          เสียงใสของเด็กชายวัยสี่ขวบเล่าเรื่องสัพเพเหระให้ฟังตลอดเวลาที่ขึ้นลิฟต์มายังชั้นห้า ผมกดออดหน้าประตูพร้อม ๆ กับพยักหน้ารับรู้ว่าชีต้าร์มีของสะสมเกี่ยวกับเบ็นเท็นเยอะแค่ไหน ทั้งนาฬิกาแปลงร่าง กระเป๋า เสื้อยืด เข็มขัด รองเท้า และหมอนอิง ที่สำคัญมันอยู่ในกระเป๋าที่ผมถืออยู่นี่ด้วย น้องพูดเสียงเจื้อยแจ้วไม่หยุดจนกระทั่งเห็นใครอีกคนเดินมาเปิดประตูให้

          “สวัสดีครับ ชีต้าร์ใช่ไหม” เจ้าของห้องย่อตัวลงนั่งคุยกับแขกวัยกระเตาะ เห็นน้องทำหน้าเหลอหลาก่อนจะกระตุกชายเสื้อผมเบา ๆ หลายหน

          “ใครฮะ”

          “พี่ตรัสครับ เพื่อนพี่เอง ไม่ต้องกลัวนะ”

          “ไม่ได้กลัวฮะ แต่ต้าร์แค่สงสัย”

          “สงสัย...สงสัยอะไรครับ”

          “สงสัยว่าพี่เท็ตมีแฟนแล้วทำไมไม่บอกต้าร์” ผมมองตรัสที่เงยหน้าขึ้นมาสบตา เห็นมันยิ้มขันกับเด็กช่างถามด้วยความเอ็นดู คำถามของน้องมีคำตอบให้เลือกหลายอย่าง ผมขอเลือกที่มันไม่สร้างความร้าวฉานในความสัมพันธ์ที่คลุมเครืออย่างทุกวันนี้ก็แล้วกัน

          “ใช่ที่ไหนล่ะ ต้าร์ดูดี ๆ สิ พี่ตรัสเป็นผู้ชายนะครับ จะเป็นแฟนพี่ได้ยังไง”

          “ได้สิ พี่ตรัสอาจจะรอให้พี่เท็ตเป็นผู้หญิงก่อนเหมือนต้าร์ก็ได้” คราวนี้ผมได้ยินเสียงหัวเราะหล่อ ๆ ของตรัสเต็มสองรูหู มันหยัดตัวลุกขึ้นยืนเต็มความสูงก่อนจะถอยหลบให้ผมเดินเอากระเป๋าเข้าไปวางไว้ในห้อง ก็ไม่รู้จะอธิบายให้น้องฟังยังไงว่าเพศหญิงเพศชายมันไม่ใช่สวิตซ์เปิดปิดไฟ กลางวันเป็นชายกลางคืนเป็นหญิงอะไรเทือกนั้น ซึ่งมันก็อธิบายยากอยู่ เอาไว้น้องพร้อมที่จะเรียนรู้ประสบการณ์ชีวิตก็คงจะบอกน้องเอง

          “เดี๋ยวชีต้าร์นอนห้องเดียวกับพี่เท็ตนะครับ พี่ตรัสนอนดิ้น เดี๋ยวโดนยักษ์ทับนะ”

          “จริงเหรอฮะ” น้องหันไปมองคนโดนพาดพิง

          “ไม่จริงครับ พี่เท็ตต่างหากที่นอนดิ้น” โดนผู้ใหญ่รวนใส่เจ้าชีต้าร์ถึงกับเกาหัวแกรก ผมกลั้วหัวเราะบอกกับน้องว่าล้อเล่นก่อนจะพากันรื้อข้าวของออกจากกระเป๋า

          ระหว่างที่ผมแขวนเสื้อผ้าน้องเข้าตู้ ผู้ที่คลั่งไคล้เบ็นเท็นสุดขั้วโลกก็ใส่ชุดเก่งมาอวดอย่างเต็มภาคภูมิ ผมเห็นแล้วก็อดหอมแก้มขาวไม่ไหว เจ้าต้าร์ก็หัวเราะชอบใจใหญ่เลย หยิบโทรศัพท์มาให้น้องโพสต์ท่าถ่ายรูปจนหนำใจก่อนจะหันกลับไปเร่งมือกับเสื้อผ้าต่ออีกครู่ใหญ่ทุกอย่างก็เสร็จเรียบร้อย รวมถึงตุ๊กตาหมีสีน้ำตาลสองตัวที่น้องติดกอดจนต้องเอามานอนด้วยที่นี่ ก็ถูกวางไว้บนหัวเตียงด้วยฝีมือเจ้าตัว หลังจากนั้นชีต้าร์ก็หยิบหนังสือสามสี่เล่มที่วางอยู่ข้างกระเป๋ามายื่นให้ผมบนเตียงหลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้ากลับมาเป็นเสื้อหมีมีฮู้ดเหมือนเดิมแล้ว

          “นี่อะไรครับ”

          “การบ้านปิดเทอมฮะ พี่เท็ตสอนต้าร์หน่อยนะ”

          “ได้สิครับ แต่ว่าเราไปทำที่โต๊ะตรงโซฟาดีกว่าเนาะ กระเป๋าดินสออยู่ไหนนะ เมื่อกี้พี่เท็ตเห็นแวบ ๆ” ชีต้าร์รีบไปคว้ามาก่อนจะเดินนำหน้าผมออกจากห้อง

          ท่านตรัสกำลังยึดครองพื้นที่ใช้สอยส่วนรวมอยู่พอดีตอนที่ผมกับต้าร์เดินออกมาเพื่อทำการบ้าน ในมือคุณชายมีแฟ้มงานบริษัทอีกตามเคย เหมือนอย่างที่คุ้นตาในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา

          “ขยับหน่อยครับลูกพี่ เจ้าสัวน้อยจะทำการบ้านตรงนี้” คนโดนไล่ที่หันมายิ้มให้ก่อนจะขยับไปอีกฝั่งหนึ่งของโซฟา ตรัสมันวางแฟ้มลงก่อนจะให้ความสนใจกับการบ้านที่ผมถือมากางลงบนโต๊ะ เป็นวิชาภาษาอังกฤษหนึ่งเล่ม ศิลปะหนึ่งเล่ม และภาษาไทยอีกหนึ่งเล่ม

          ภาษาอังกฤษให้โยงเส้นตัวอักษรกับความหมาย อย่างเช่น ตัวเอโยงไปหามด หรือบีโยงไปหานก ส่วนศิลปะให้ระบายสีภาพสัตว์โดยบังคับใช้สีตามคำสั่ง ส่วนนี้ต้องมีผู้ปกครองอ่านวิธีทำให้ฟังจึงจะถูกต้อง ส่วนภาษาไทยง่าย ๆ เลยคือคัด ก.ไก่ ถึง ฮ.นกฮูก พร้อมตัวเลขไทยศูนย์ถึงเก้าตามรอยประ มีเวลาเหลือเฟือกว่าจะถึงมื้อเย็นผมจึงค่อย ๆ สอนน้องอย่างไม่รีบร้อน จนกระทั่งน้องบ่นหิวขณะที่ระบายสีดำบนลูกกะตากระต่ายตัวจิ๋วในวิชาศิลปะ

          “น้องต้าร์อยากทานอะไรครับ” ตรัสที่ลงไปนั่งอยู่บนพื้นข้างเจ้าสัวน้อยถามเสียงอ่อนระหว่างที่ช่วยเลือกสีมาระบาย ส่วนผมที่สอนภาษาอังกฤษเสร็จแล้วก็เลยมานอนเอกเขนกอยู่บนโซฟา ชีต้าร์หันขวับมาหาตอนที่ตรัสถามจบ

          “พี่เท็ตอยากทานอะไรฮะ” ดีแฮะ ถามกันเป็นทอด ๆ ช่วยสมทบหันไปถามตรัสด้วยดีไหมว่าอยากทานอะไร จะได้ครบวงพอดี

          “แล้วแต่น้องต้าร์เลยครับ น้องต้าร์เลือก แต่มีข้อแม้ว่าห้ามเป็นอาหารฟาสต์ฟู้ดนะ” เพราะเป็นคำสั่งตรงจากปากคุณพ่อเขาว่าห้ามตามใจบ่อย ตอนนี้น้องอยู่ในช่วงควบคุมน้ำหนักตามคำแนะนำของคุณหมอนักโภชนาการ

          “ทำไมล่ะ อร่อยออก”

          “อร่อยแต่ทานบ่อย ๆ ไม่ดีนะครับ อาหารพวกนี้มีไขมันสูง ถ้าสะสมในร่างกายมาก ๆ อาจเป็นต้นเหตุของโรคร้าย ชีต้าร์ไม่กลัวหรือ” คราวนี้ท่านตรัสเป็นคนช่วยอธิบาย และดูท่าว่าการขู่ด้วยโรคภัยร้ายแรงจะทำให้น้องขยาดกลัวไม่น้อย เจ้าตัวเล็กถึงได้นิ่งไป

           “ต้าร์ทานไปเยอะแล้วด้วยสิ ต้าร์จะเป็นโรคอะไรไหมพี่เท็ต พี่เท็ตต้องรอต้าร์โตแล้วหล่อเหมือนพี่ตรัสก่อนนะ อย่าเพิ่งมีแฟนไปก่อน” อะไรนะครับ วกมาเรื่องนี้ได้ยังไงหนู แล้วดูจริงจังกับการวางแผนอนาคตมากด้วย น่าหมั่นเขี้ยวจนอดส่งมือไปหยิกหยอกแก้มอิ่มเบา ๆ ไม่ได้

          “พี่ตรัสไม่ทานฟาสต์ฟู้ดใช่ไหมฮะ ต้าร์ก็จะไม่ทานบ้าง จะได้หุ่นดี”

          “พี่ออกกำลังกายด้วยครับ น้องต้าร์ออกกำลังกายบ้างไหม”

          “ฮะ ที่โรงเรียนคุณครูให้วิ่งรอบสนามกับเต้นแอโรบิค แล้วเสาร์อาทิตย์ปะป๊าก็พาไปว่ายน้ำตลอด”

          “ดีแล้วครับ ออกกำลังกายบ่อย ๆ ร่างกายจะได้แข็งแรง โรคภัยจะไม่เบียดเบียน เพราะฉะนั้นวันนี้เราจะไม่ทานฟาสต์ฟู้ด ไปทานอาหารญี่ปุ่นกันดีไหม ทานปลาดีต่อสุขภาพ” ผมเสนอ แต่ก็ลืมไปว่าอาหารญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะเป็นปลาดิบ เด็กจะทานได้ไหมหว่า

          “สุกี้ได้ไหมฮะ”

          “สุกี้โอเคเลย ต้าร์ระบายสีเสร็จเมื่อไหร่ เราค่อยไปทานสุกี้กันนะ” ผมบอกไปอย่างนั้นชีต้าร์ก็ยู่หน้าอย่างขัดใจ รู้หรอกว่าจะเนียนให้พาไปทานเลย แต่เหลือระบายสีช่วงตัวกระต่ายอีกนิดหน่อยใช้เวลาครู่เดียวก็เสร็จแล้ว จะได้ไปทานข้าวเย็นอย่างสบายใจ กลับมาค่อยทำภาษาไทยกันต่อ

          ใช้เวลานานพอสมควรกว่าจะวนหาที่จอดรถได้ ห้างสรรพสินค้าช่วงเย็นวันศุกร์ไม่ต่างอะไรกับความโกลาหลขนาดย่อม ทั้งผู้คนและรถราที่หนาตากว่าทุกวัน ทั้งด้านหน้าและด้านในแทบจะไม่มีที่ให้แทรกเดิน

          เราสามคนยืนรอคิวไม่นานก็ถูกเรียกเข้าไปในร้าน ระหว่างนั้นตรัสมันกระซิบเบา ๆ ข้างหู “เหมือนพ่อแม่ลูกเลยนะ” ใครแม่ ไอ้เท็ตคนนี้เนี่ยนะแม่ กางเกงยีนส์เข่าขาดของกูไม่ช่วยให้ดูแมนขึ้นมาบ้างเลยใช่ไหม พูดเสร็จแล้วมันก็ขำ ก่อนผมจะหยุดความเส้นตื้นของมันด้วยหมัดหนัก ๆ ที่หัวไหล่จนคุณชายร้องโอยนั่นแหละ

          ร้านสุกี้ชื่อดังที่มีหม้อสีแดงวางอยู่กลางโต๊ะ ผมสั่งชุดผักสุขภาพสำหรับชีต้าร์โดยเฉพาะ แต่สุดท้ายเจ้าตัวเล็กกลับตักแต่หมูกุ้งและลูกชิ้นลงจานตัวเองจนพูน ไหนว่าอยากหล่อเท่เหมือนพี่ตรัสไง เด็กหนอเด็ก

          “ชีต้าร์ ผักพวกนี้ล่ะ”

          “พี่เท็ตทานเยอะ ๆ นะฮะ พี่เท็ตผอมเกินไปนะ” ว่าแล้วก็ยื่นมือป้อมมาตักผักใส่จานผม เนียนได้อีก

          “เมื่อตอนก่อนออกจากบ้าน ใครน้าบอกว่าอยากหุ่นดี” ชีต้าร์ที่นั่งอยู่ข้างผมก็หัวเราะคิกคักแต่ก็ไม่ใส่ใจ ลอยหน้าลอยตาตักลูกชิ้นเข้าปากคำใหญ่จนผมต้องปรามว่าระวังติดคอ ก่อนจะยื่นน้ำให้แล้วบอกน้องว่าเคี้ยวช้า ๆ

          “เท็ต ให้ต้าร์ทำเองตัดสินใจเองบ้าง ถ้ามีลูกแล้วประคบประหงมแบบนี้ระวังจะเสียเด็ก” แล้วนี่ตรัสมันมาแนวไหนของชีวิต พูดซะทำให้เข้าใจผิดคิดว่ามันจะเป็นพ่อเด็กให้เลยเหอะ ไอ้เท็ตก็ขนลุกเกรียวสิครับ

          “เดี๋ยวติดคอขึ้นมาทำไงล่ะ”

          “บอกเฉย ๆ ไม่ต้องป้อนน้ำ ฝึกให้ต้าร์รู้จักคิดเอง”

          “ใช่ครับ ต้าร์จะได้โตเป็นผู้ใหญ่แบบเท่ ๆ” ยังไม่จบเรื่องเท่ ชีต้าร์เคี้ยวช้า ๆ อย่างที่ผมบอกก่อนจะดื่มน้ำตามแล้วหันมาพูดเสียงใส ผมก็ลูบกระหม่อมเรียกขวัญให้เสียทีหนึ่ง

          เราตกลงกันไว้ว่าจะไปสวนสนุกวันอาทิตย์ ซึ่งพรุ่งนี้ที่เป็นวันเสาร์เราก็ว่างทั้งวัน ดังนั้นจึงเป็นโอกาสอันดีที่จะนั่งดูเบ็นเท็นเป็นเพื่อนชีต้าร์ แต่ว่าถ้าน้องเกิดเบื่อกลางคันล่ะแย่เลย ผมจึงเสนอให้ไปซื้อการ์ตูนพร้อมตุนขนมนมเนยที่ไขมันต่ำก่อนกลับบ้าน

▩▩▩
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-10-2012 08:26:25 โดย Lipstick_Murder »

ออฟไลน์ Lipstick_Murder

  • มฤคระเริง
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 68
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +245/-3

          ก้าวเข้ามาในห้องพร้อมขนมจากซุปเปอร์มาร์เก็ตหอบใหญ่ ดูไปก็คล้ายครอบครัวสุขสันต์อย่างที่ตรัสมันว่าจริง ๆ แต่ติดตรงที่ใครจะเป็นแม่ ผมไม่เป็นเด็ดขาดอะครับ ให้ต้าร์กับผมเป็นลูก ส่วนไอ้คุณตรัสเป็นพ่ออะพอไหว

          หลังจากอาบน้ำให้เจ้าตัวเล็กเสร็จเรียบร้อยแล้วก็พากันมานั่งที่พื้นพรมตรงโซฟาพร้อมหนังสือแบบฝึกหัดภาษาไทย แค่ลากดินสอไปตามรอยประเพื่อเขียนพยัญชนะทั้งสี่สิบสี่ตัวพร้อมตัวเลขไทยอีกสิบหลัก ชีต้าร์บอกว่าสบายมากแต่ขอเวลาตั้งใจทำสักครู่ ผมนั่งบนโซฟารอคนเก่งเขาทำเองโดยไม่ต้องสอน แค่มองดูอยู่ห่าง ๆ ว่าน้องเขียนถูกต้องไหม ลากจากหัวตัวอักษรหรือเปล่า ชีต้าร์ก็ทำตามวิธีเขียนอย่างเคร่งครัดโดยไม่ต้องตำหนิติเตือนกัน

          ผมลอบยิ้มด้วยความเอ็นดูก่อนจะผุดลุกขึ้นหวังเดินไปชงโกโก้มาให้เป็นกำลังใจในการทำการบ้าน แต่ก็ต้องมาสะดุดเข้ากับสายตาคมจากระเบียงห้องเสียก่อน ตรัสยังคงติดภารกิจอ่านแฟ้มงานบริษัท ไม่รู้ว่ามันมีอะไรน่าพิสมัยตรงไหนถึงได้ตั้งอกตั้งใจเหลือเกิน แต่เผอิญว่าเมื่อกี้คงไม่ใช่ มันไม่ได้ก้มมองแฟ้มในมือเพราะมัวแต่จ้องมายังโซฟาที่ผมนั่งอยู่ นั่งยิ้มอมภูมิตาเป็นประกาย เห็นได้ชัดเจนทั้งที่แสงไฟตรงระเบียงมีเพียงริบหรี่ มันกวักมือเรียกให้เข้าไปหา แต่เรื่องอะไรล่ะ ผมจะไปชงโกโก้ร้อนให้น้อง

          ผมเดินกลับออกมาจากห้องครัวพร้อมแก้วสองใบในมือ แก้วหนึ่งเป็นโกโก้ร้อนกลิ่นหอมฉุยที่ถูกวางลงข้างคนตัวเล็ก น้องหันมายกมือไหว้ขอบคุณก่อนจะก้มหน้าก้มตาเขียนตัว ภ.สำเภา อย่างบรรจง ส่วนแก้วอีกใบเป็นชาใบเตยที่ช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดได้ชะงัดนัก ผมเดินไปส่งให้คนที่นั่งพักสายตามองทอดต่ำไปยังแสงสีเบื้องล่าง

          “ขอบคุณครับ” คุณชายพูดหลังจากรับแก้วไปถือไว้ในมือ ก่อนจะตบพื้นเก้าอี้ตัวยาวเป็นนัยว่าให้นั่งลงข้างกัน

          นั่งข้างตรัสครู่ใหญ่ก็รู้สึกได้ว่ามือข้างหนึ่งที่ผมเท้าแขนไว้ถูกอีกฝ่ายคว้าไปกุมไว้หลวม ๆ แก้วชาว่างเปล่าถูกวางไว้ที่พื้นข้าง ๆ ผมเลิกคิ้วตาปรือเพราะบรรยากาศชักพาให้ง่วงงุน แต่ก็แอบมุ่นคิ้วเพราะไม่เข้าใจว่าทำไมตรัสต้องทำสีหน้าอ่อนโยนแบบนั้นด้วย เบนสายตามองด้านในก็เห็นเด็กชายชยังกูร (ชื่อจริงของชีต้าร์ อ่านมาจากหน้าปกหนังสือเรียน) กำลังเขียนหยุกหยิกอย่างมีสมาธิผมก็เผลอยิ้มอีกหน ก่อนข้อนิ้วที่ถูกคลึงเบา ๆ จะทำให้ผมหันกลับมาสนใจคนข้างตัว

          “ชอบเด็กหรือ”

          “ชอบ”

          “แล้วชอบผู้ใหญ่ไหม” รวนตลอด คุยเรื่องหนึ่งพาออกอีกเรื่องหน้าตาเฉย ตรัสมันคลึงเบา ๆ ตั้งแต่นิ้วมือถึงข้อศอก ก่อนจะนวดย้ำที่ต้นแขนอย่างเพลินมือ ผมไม่ว่าอะไรเพราะรู้สึกสบายดีไม่ค่อยมีคนมานวดให้แบบนี้บ่อยนัก พอเริ่มโอนอ่อนตามเข้าหน่อยคุณชายก็ถือโอกาสช้อนหน้าผมไว้ด้วยมือข้างนั้น

          “ไม่เล่นดิ ชีต้าร์อยู่ด้วยนะ” สำนึกสักนิดเหอะ

          “เมื่อบ่ายโดนขัด” โถ ที่แท้ไอ้คุณชายก็เป็นพวกชอบเอาชนะ พอโดนขัดใจเข้าหน่อยก็เลยฝังใจ เจอแบบนี้เข้าไปผมถึงกับพูดอะไรไม่ออก เสมองชีต้าร์แล้วหันมาจ้องหน้าไอ้คนรอจูบ อยากได้นักผมก็จัดให้แต่ขอโทษเถอะ...ไม่ใช่ที่ปาก แตะจูบแผ่ว ๆ กลางฝ่ามือมันแล้วผลักคืนกลับไป ลับหลังเด็กค่อยว่ากันใหม่นะจ๊ะ

          ผมเดินกลับมานั่งที่โซฟาได้พักใหญ่แล้วตอนที่มีสายเข้า กำลังส่งยิ้มล้อเลียนให้คนที่ยังนั่งหน้าตึงอยู่ตรงระเบียงเป็นอันต้องหันไปคว้าโทรศัพท์มาเปิดดู

          “ชีต้าร์ ปะป๊าโทรมาแหนะ”

          “ไหน! พี่เท็ตรับเร็ว ต้าร์จะคุย ๆ” เจ้าของเสียงใสรีบละความสนใจจากหน้าหนังสือมาหาโทรศัพท์ทันที ผมกดรับแล้วยื่นให้ชีต้าร์เป็นคนกรอกเสียงทักทาย

          “ปะป๊า!” ...

          “อยู่ฮะ อยู่กับพี่เท็ตแล้วก็เพื่อนพี่เท็ต ชื่อพี่ตรัส” ...

          “ใจดีฮะ หล่อด้วย” ผมหันไปเบ้หน้าใส่คนถูกชม เห็นมันนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ บ้ายอนี่หว่า ...

          “กำลังทำอยู่เลยฮะ วิชาสุดท้ายแล้ว พี่เท็ตกับพี่ตรัสช่วยสอนต้าร์ด้วย” ...

          “ทานแล้วฮะ พี่ตรัสพี่เท็ตพาไปทานสุกี้มา อร่อย ไว้วันหน้าปะป๊าพาต้าร์ไปนะ เย้” ...

          แล้วหลังจากนั้นผมก็ได้ยินคุณพ่อและลูกชายเขาบอกลากันพักใหญ่ก่อนจะวางสายไป ชีต้าร์ยื่นโทรศัพท์กลับมาแล้วหันไปทำการบ้านต่อ สมาธิดีเยี่ยมจนผมนึกปลื้มใจแทนคุณพ่อ เลี้ยงลูกยังไงให้เป็นเด็กฉลาดและว่านอนสอนง่ายอย่างนี้ ถ้าลองเป็นเด็กคนอื่นป่านนี้คงร้องงอแงอยากกินขนมดูการ์ตูนไปแล้ว

          ผมย้ายลงไปนั่งข้างน้องตอนที่เขาหันมาถามผมว่าเลขห้าไทยเขียนอย่างไร เพราะตัวนี้มันมีหัวกลมถึงสองหัว ผมก็บอกน้องไปว่าให้เริ่มเหมือนเลขสี่ ชีต้าร์ก็พยักหน้าก่อนจะหันไปเขียนตัวเลขอย่างบรรจงอีกไม่กี่บรรทัดก่อนจะเฮลั่นห้อง

          “เย้ เสร็จแล้ว"

          “เก่งจังเลย ชีต้าร์เก่งที่สุด” ผมส่งมือไปลูบหัวทุยพร้อมคำชมเชย

          “ไม่ให้รางวัลต้าร์หน่อยเหรอฮะ ปะป๊ายังให้รางวัลทุกครั้งที่ทำการบ้านเสร็จเลย”

          “เอาอะไรดี ขนมไหม ที่ซื้อมาต้าร์เลือกได้เลยครับ”

          “ไม่เอาขนม ต้าร์อิ่มแล้ว”

          “ถ้าอย่างนั้นเอาอะไรดีล่ะ” ตรัสเดินยิ้มเข้ามาร่วมวงดีใจกับผลงานพยัญชนะไทยของชีต้าร์ มันนั่งลงที่โซฟาก่อนจะมองหน้าเจ้าสัวน้อยรอคำตอบเหมือนกัน

          “จูบ พี่เท็ตจูบต้าร์เป็นรางวัลหน่อยนะฮะ” ไม่ต้องตอบคำผมก็ยื่นปลายจมูกไปแตะเบา ๆ ที่แก้มนิ่ม เห็นเจ้าต้าร์ยิ่มพึงใจแต่กลายเป็นว่านี่ไม่ใช่จูบที่เจ้าหนูแก่แดดพูดถึง

          “จูบนะฮะพี่เท็ต ไม่ใช่หอมสักหน่อย” เอาแล้วไง งานนี้ได้มีตะขิดตะขวงใจกันบ้างล่ะ หันไปมองหน้าคุณชายก็ไม่เชิงว่าจะขออนุญาตเพราะยังไงนี่ก็ปากผม แต่เมื่อกี้เพิ่งปฏิเสธจูบมันมาหยก ๆ แต่กลับต้องมาเสียปากให้เด็กสี่ขวบจอมเจ้าเล่ห์แทนซะนี่

          ชีต้าร์ทำหน้าทะเล้นก่อนหลับตารอผมให้รางวัล ทัดทานไม่ได้เสียด้วย อุตส่าห์ตั้งหน้าตั้งตาทำการบ้านไปสามวิชาในหนึ่งวัน ถือว่าเป็นกำลังใจให้เจ้าสัวน้อยแล้วกัน คิดได้อย่างนั้นผมก็โน้มหน้าไปจุ๊บเบา ๆ ที่ปากอิ่ม จูบเด็กแต่สายตาทอดมองผู้ใหญ่ที่นั่งอยู่ในระยะสายตาพอดี มีแรงกระตุกที่หัวคิ้วเข้มจนผมต้องลอบยิ้มคนเดียว หลังจากได้จูบสมใจ เจ้าต้าร์ก็หัวเราะคิกคักหน้าแดงไปยกใหญ่ก่อนจะยกโกโก้ขึ้นดื่มจนหมดแก้ว ได้ยินน้องบ่นว่าง่วงผมก็เลยบอกให้ไปแปรงฟันอีกรอบก่อนจะพาเข้านอน

          ชีต้าร์ไม่ใช่เด็กงี่เง่าที่พร่ำเพ้อเรื่องผีสางหรือความน่ากลัวของความมืด น้องนอนอย่างว่าง่ายบนเตียงเดี่ยวชิดพนังพร้อมทั้งปิดไฟมืดสนิท ได้ยินเสียงใสเล่านิทานให้ฟังก่อนนอน แต่ฟังยังไงมันก็แค่เรื่องเล่าที่โรงเรียนเท่านั้นเอง มีเด็กผู้หญิงหน้าตาน่ารักคนหนึ่ง เธอเป็นที่หมายปองของนักเรียนชายชั้นอนุบาลสองทุกคน ชีต้าร์แอบชอบน้องคนนั้นมาตลอด คอยซื้อขนมเป็นของฝากแทบทุกเช้า แต่สุดท้ายเธอก็ย้ายโรงเรียนหนีไปโดยไม่บอกกล่าวสักคำ

          นี่หรือคือโศกนาฏกรรมของเด็กชายวัยสี่ขวบ

          ผมแอบย่องออกมาดื่มน้ำในครัวหลังจากชีต้าร์หลับไปแล้ว ขณะที่ยืนพิงเอวกับขอบเคาน์เตอร์พร้อมแก้วน้ำในมือผมก็ได้ยินเสียงเปิดประตูมาจากห้องใดห้องหนึ่ง กว่าจะรู้ได้ว่าห้องใครก็ตอนที่คุณชายเขาเดินมารินน้ำดื่มจากตู้เย็น ก่อนจะขยับมายืนข้างกัน

          “เลียนแบบว่ะ มาหิวน้ำอะไรตอนนี้” ผมเอ่ยแซวขำ ๆ แต่คำตอบมันทำเอาผมต้องหุบยิ้มทันที

          “ได้ยินเสียงเปิดประตู” ดูเอาเถอะ พฤติกรรมส่อแววโรคจิตขนาดไหน เห็นทีจะอยู่คุยด้วยไม่ไหว อาจเสียเปรียบได้ในวินาทีใดวินาทีหนึ่ง ผมจึงเดินหนีไปล้างแก้วคว่ำไว้ คุณชายก็ดันเดินตามมาอีก มันวางแก้วลงก่อนจะคว้าข้อมือผมโดยไม่แสดงสีหน้าใด ๆ ก็พอเข้าใจว่ามันต้องการอะไร ย้ำคิดย้ำทำจนผมอดค่อนในใจไม่ได้ว่าถ้าถูกปฏิเสธมันคงนอนไม่หลับแน่คืนนี้

          มีอะไรตลกกว่านี้อีกไหม ตรัส รัตนภูมิเศรษฐง้อจูบผมทั้งวันเลย

          “อย่า เดี๋ยวต้าร์ตื่น” ผมบิดข้อมือหวังให้พ้นจากการเกาะกุม แต่เห็นทีคงยากเพราะนอกจากมือจะไม่หลุดออกจากกันแล้ว ตัวผมกลับถูกดึงให้ชิดกับตัวมันมากขึ้นอีก ผมผ่อนลมหายใจอย่างไม่มีอะไรจะเสีย ไหน ๆ ก็ขัดอะไรไม่ได้แล้ว จะทำอะไรก็ทำเถอะ

          “ถ้าฝืนใจ ไม่ต้องก็ได้” แล้วจู่ ๆ มันก็ปล่อยมือผมอย่างง่ายดายแล้วเดินผ่านผมไปเฉย ๆ อารมณ์ไหนอีกล่ะทีนี้ แต่ผมไม่มีเวลาคิดนานนัก เดินไปดักทางแล้วยึดไหล่มันไว้ คล้ายว่าตอนนี้คนที่ง้อจูบไม่ใช่ตรัสซะแล้วสิ

          “โกรธทำไม” ผมถาม

          “แล้วถอนหายใจทำไม”

          “ถอนหายใจก็ผิดด้วยหรือไง”

          “ผิด เพราะไม่อยากให้ฝืนใจ ถ้าฉันทำอะไรที่ไม่ชอบใจก็บอกได้ จะไม่ทำ” มันปลดมือผมให้หลุดจากหัวไหล่ก่อนใบหน้าคมคายจะโน้มลงจูบเบา ๆ ที่หน้าผากคล้ายบอกลา

          ได้ไงวะ...ใครจะยอม

          ผมรั้งชายเสื้อมันไว้อย่างแรงจนคนที่กำลังจะก้าวพ้นห้องครัวต้องหันกลับมา ผมทอดสายตาลงต่ำไม่กล้าจ้องหน้ามันโดยตรง เพราะกลัวว่าคงพูดอะไรไม่ออกสักคำ

          “ทำ” ผมพึมพำ

          “อะไรนะ”

          “ไม่ได้ฝืนใจ”

          “ได้หรือ” ตรัสถามกลับเสียงอ่อน “ไม่ฝืนแน่หรือ” ผมเงยหน้าจ้องมันตาขวาง อยากตอกกลับไปว่าถ้ายังถามอยู่อย่างนี้จะเปลี่ยนใจแล้วเดินกลับไปจูบเด็กสี่ขวบที่นอนอยู่ในห้องแทน แต่ไม่ควร ไม่อยากยียวนใส่คนที่กำลังส่งสายตาละมุนละไม แล้วทีนี้ผมจะเอาอะไรไปสู้ไหว แข้งขาพาลอ่อนแรงเพียงแค่มองตามัน

          มืออุ่นถูกส่งมาคลึงเบา ๆ ที่หลังใบหู ผมรู้สึกได้ถึงลมหายใจผะแผ่วรดปลายจมูก ก่อนที่ความหวามไหวในอกจะตีรวนเพราะริมฝีปากที่บดเบียดอย่างสุภาพไม่รุนแรง รสหวานล้ำที่ปลายลิ้นส่งผลให้ผมไม่อาจรั้งสติไว้กับตัวจนเผลอไหลคล้อยตามความอ่อนโยน

          ถูกยกตัวขึ้นมานั่งที่เคาน์เตอร์ตอนไหนก็ไม่รู้ มีเพียงมือข้างหนึ่งที่รั้งไหล่อีกฝ่ายเอาไว้เพื่อไม่ให้เสียการทรงตัว ตรัสละจากริมฝีปากพรมจูบแผ่วไปตามลำคอจนถึงแอ่งชีพจร ความอุ่นร้อนของลมหายใจทำให้ผมเผลอคลายยิ้ม แต่ก่อนที่ทุกอย่างจะหยุดไม่อยู่ ก่อนที่จะห้ามใจตัวเองไม่ไหว ผมคว้ามือที่กำลังโลมไล้ไปทั่วทั้งแผ่นหลังอย่างขัดอารมณ์ ตรัสช้อนตามองอย่างสงสัยตอนที่เลื่อนจูบลงไปถึงกลางอก ผมก้มหน้าลงแตะแผ่วที่ริมฝีปากคุณชาย

          “ตรัส...แค่จูบ” นี่มันเลยเถิดไปถึงไหนแล้ว พอเรียกสติกลับคืนมาก็ค้นพบว่าสถานการณ์ตอนนี้อันตรายแค่ไหน ถ้าห้ามใจไม่ไหวอาจกลายเป็นหนังอีโรติกในห้องครัวยอดนิยม ซ้ำร้ายอาจได้อุปกรณ์เสริมเป็นเครื่องครัวชนิดใดชนิดหนึ่ง ไม่ไหว ๆ เสี่ยงเกินไป

          “ครับ...แค่จูบ” คำตอบของตรัสทำเอาผมถึงกับหน้าชา แค่จูบจริง ๆ อย่างเขาว่าแต่ไม่ใช่ที่ริมฝีปากเท่านั้น มันเคลื่อนย้ายไหวเอนไปตามแรงอารมณ์ ทั้งลาดไหล่ ชายโครง และหน้าท้อง ทีหลังต้องบอกด้วยใช่ไหมว่าอนุญาตตรงไหนบ้าง เจ้าเล่ห์สุดขั้วโลกเหอะมนุษย์คนนี้ มันยังตีหน้านิ่งอยู่ได้สักพัก จนกระทั่งผมส่งมือไปบีบจมูกจนมันร้องโอยนั่นแหละถึงได้หัวเราะออกมา

          ตรัสนี่มันมาโซคิสม์ตัวพ่อเลย

▩▩▩
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-10-2012 08:34:26 โดย Lipstick_Murder »

ออฟไลน์ Lipstick_Murder

  • มฤคระเริง
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 68
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +245/-3
ยาวเกินไป!! โพสต์ครั้งเดียวไม่ได้!! งงจ้า!!

ขอโทษที่ให้รอนานนะคะ ยาวสะใจไปเลยไหมเนี่ย
ขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจนะคะ ทั้งที่นี่และทวิตเตอร์
ทุกคนน่ารักจริง ๆ *กอดแน่น*

ตอนหน้าไปเที่ยวกันนะ
ขอกำลังใจเหมือนเดิมเนอะ แล้วก็...

สุขสันต์วันแม่ค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-10-2012 08:32:49 โดย Lipstick_Murder »

PAAPAENG~

  • บุคคลทั่วไป
คืนต่อไปนะ
วางยาน้องชีต้าร์เลยนะ
เอาแบบให้หลับยาวๆเลย ฮ่าๆ

แล้วทีนี้ก็จะปล้ำจูบกันตรงไหน สถานที่ไหนก็เอาให้หนำใจ!   :impress2:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-08-2012 00:10:33 โดย iPongPaeng »

ออฟไลน์ Renze

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +423/-25
น้องชีต้าร์น่ารักมาก เด็กฉลาด ชาติเจริญ

ฟีลแบบพ่อแม่ลูกมาก
แต่คุณพ่อมีหวงมีงอนคุณแม่บ่อยนะ หึหึ

ปล. อ่านตอนแรกฮามาก
เท็ตจะหมกมุ่นไปไหนเนี่ย?? อาลัยอาวรณ์ทรัพย์สมบัติอย่าแรง  :laugh:

ออฟไลน์ patchylove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1585
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-4
 :z1: :z1: :z1: ซีตาร์แก่แดด อิอิ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด