เรียงร้อยด้วยรักฯ : ทฤษฎี บทที่ 16 l 2018.06.16 หน้าที่ 93
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เรียงร้อยด้วยรักฯ : ทฤษฎี บทที่ 16 l 2018.06.16 หน้าที่ 93  (อ่าน 946107 ครั้ง)

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
เมื่อไรจะรู้ใจตัวเองน้า

ออฟไลน์ masochism2018

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 428
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1
โถถ เท็ต จะรู้ใจตัวเองได้ยังเนี่ย เค้ารู้กันทั้งบางแล้วนะ  :เฮ้อ:

เตรียมทิชชู่ไว้ซับเลือดใช่มั้ยคะคนเขียนนน!!!!!!!!!!!!!!!   :o12:

ออฟไลน์ naneku

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 303
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-2
ทำไมพี่ตรัสทำแบบนี้อะ ;_______;  :z3:

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
ทิชชู่ที่เตรียมมาก็ใช้เช็ดน้ำตาให้น้องเท็ตแทนแล้วกัน โอ๋ๆ ไม่ร้องนะคะ :man1:
ถ้าเรื่องนิสากับตรัสเป็นแค่เรื่องที่ลองใจเท็ตก็คงดี เพราะความจริงเท็ตรู้ใจตัวเองดีตลอด แค่ไม่ยอมรับใช่ไหม :กอด1:
หายงอนเท็ตแล้วก็ได้ เหลือแค่รับความจริงกับตรัสก็จะได้ใช้ทิชชู่แล้วใช่ป่ะ :haun4:

Nnsicc

  • บุคคลทั่วไป
ค้างมาก  :z3:
เท็ตรู้ใจ รู้ความรู้สึกของตัวเองที่มีต่อตรัสแล้วสินะ และเหมือนจะทำใจยอมรับได้แล้ว?
เหลือแค่บอกตรัสออกไป กำๆ แต่เท็ตน้อยจะหาญกล้าขนาดนั้นเชียวหรือ?
ค้างอ่ะ ค้างงง กำลังเข้มข้นเลย อยากอ่านต่ออออออออออออออ  :sad4:

ออฟไลน์ นอนกินแรง

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-4
โอ๊ย เจ็บปวดแทน

ออฟไลน์ lidelia

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 778
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +177/-1
ถ้าตรัสจะทำให้เท็ตหึง ตรัสทำสำเร็จแล้ว

แต่ทำไมเราสงสารเท็ตจังเลยอ่า  :m15: :m15:

ออฟไลน์ irksome

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 277
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
อ่านตอนนี้เเล้วรู้สึกว่าเท็ตน่ารักกกก  :m21:

ออฟไลน์ Takarajung_TK

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 931
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-2
อ่านแล้วจี๊ดใจมาสองตอนแล้วน้า  :monkeysad:

MiiCell

  • บุคคลทั่วไป
โหเท็ตดี้ อาการขนาดนี้ละ ยอมรับไปเต๊อะ!!!
แหม แอบมีแว๊บๆคู่ซันกับอ้น อิอิ :z1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






A. marco

  • บุคคลทั่วไป
อยากให้เท็ตหึงจนสุดๆ แล้วอยากให้มีคนมาจีบเท็ตให้ตรัสหึงบ้าง 55

ออฟไลน์ Ryoooo

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3146
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +288/-2
vอย่าทรมานกันแบบนี้ ค๊างงงงงง
เท็ตรู้ตัวเถอนะว่าชอบตรัส ไม่งั้นอาจจะเสียตรัสไปนะ :sad4: :sad4:

ออฟไลน์ penda

  • ~~^v^~~
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
โฮ้~~~~ ในที่สุดเท็ตก็ยอมรับความรุ้สึกของตัวเองแล้วใช่ไหม
แล้วอย่าลืมบอกท่านตรัสเค้าซะล่ะ เค้าจะได้เลิกแกล้งจีบหญิงซะที
ท่านตรัสคงฝืนใจน่าดูเลยมั้งนั่นน่ะ แล้วท่านตรัส ปิดออฟฟิสฉลองไปเลย
แต่งานนี้คงต้องคอยดูกันต่อไป แม้เท็ตจะยอมรับใจตัวเองได้แล้ว
แต่ก็ใช่ว่าจะยอมเอ่ยปาก หรือแสดงท่าทีอะไรที่ชัดเจนอะไรออกไป
อาจจะยังแกล้งตีมึนว่าฉันไม่รุ้สึกอะไรต่อไปหรือเปล่า
 :L2: :pig4: :L2:

ออฟไลน์ Arancia

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 463
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-2
รออ่านต่อๆ เท็ตนายรู้ความรู้สึกตัวเองแล้วใช่มั้ย รอลุ้นๆ ตามอ่านนะคะ

ออฟไลน์ mcooky

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 66
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ค้างงง T^T เตรียมร้องไห้เต็มที่  มาต่อเร็วๆนะฮะ  :z3:

ออฟไลน์ MonKeez

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 193
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
โอยยยย ปวดใจ แหง้. บีบหัวใจสุดๆไปเลย เท็ตหงะ ตรัสหงะ ฮื่ออออออ!!!!!! :'( รออ่านตอนต่อไปเคิ๊บบ

ออฟไลน์ luckyzaaa

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 154
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0
ทั่นตรัสร้ายนะเนี่ย จัดการผู้หญิงที่เท็ตสนใจด้วยการจีบตัดหน้าซะเลย
สมน้ำหน้าเท็ตอะ ซึนนัก  :laugh:

ออฟไลน์ moredee

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-8
อ่ะนะ ก็รู้ว่าตรัสเป็นจอมวางแผน  :z3:

ออฟไลน์ firstlove

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 103
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ตามอ่านทันตอนล่าสุดแล้ว
อยากบอกว่าชอบเรื่องนี่้มากเลยค่ะ
ภาษาอ่านง่ายไม่ติดขัดเนื้อเรื่องก็สนุกมาก
ชอบทุกตอนเลย แล้วยิ่งเป็นเรื่องยาวๆแบบนี้
จะคอยติดตามตอนต่อไปนะคะ
เท็ดดี้แบร์ของเราน่ารักแบบอึนโคตร 5555
พี่ตรัสนี่ผู้ชายในสเปคเลย ><
รอคู่ซันอ้น พีแซนด้วย
หวังว่าคนแต่งจะไม่ใจร้ายนะคะ
รักๆๆๆๆๆคนแต่งเรื่องนี้ >/////<

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
ตรัสแกล้งเท็ตแรงเชียว
แต่ถ้าไม่แรง เท็ตก็อาจไม่ยอมรับความรู้สึกตัวเองสักทีนิ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ spoilt

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 29
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1
กลับมาอ่านตอนที่ 15 ซ้ำอีกรอบ

ไม่ไหวนะ มันบีบหัวใจเกินไป  อึดอัดแทนเลย  :z3: :z3: :z3:

ออฟไลน์ appattap

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 293
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
พ่อหนุ่มน้อยเอ๊ยยยย!!!  เฮ้อ :really2:

ออฟไลน์ เมฆาสีน้ำเงิน

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 308
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-1
ฟินนนนนนนนนน

ออฟไลน์ punchnaja

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3354
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +383/-5
อ่านๆไป คนที่เจ้าเล่ห์ที่สุดก็นายตรัสนั่นแหละ ชริ ปากหนักจริง!

ออฟไลน์ Pamphlet

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 529
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
เห้อออ ยอมรับใจตัวเองได้แล้วเท็ต

ออฟไลน์ maminmeaw

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 205
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
อ๊ากกกก อยากอ่านต่ออ่ะ T_T
เหมือนจะเริ่มรู้ใจตัวเองแล้วอ่ะเท็ต...แต่ก็อยากให้คุณชายพูดกับเท็ตให้มากกว่านี้อ่ะ
เพราะเท็ตชอบคิดไปเองอ่ะ....
ขอบคุณคนแต่งนะคะ รออ่านต่อ > <

ออฟไลน์ monoo

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1957
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +101/-4

faratellll

  • บุคคลทั่วไป
ตรัส เล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวนะค่ะ  ยิงปืนนัดเดียวได้นก2ตัว  o18
ตัวแรก นู๋เท็ดของเจ๊จะได้ไม่ยุ่งกะคุณนิสา

ตัวที่สอง นู๋เท็ดจะได้ยอมรับความรู้สึกของตัวเองซักที
P.S. แม่งเจ๋งวะ!!  o13

ออฟไลน์ MaRiTt_TCL

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1513
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-6
เท็ตๆๆ รู้ตัวแล้วใช่ไหม ยอมรับแล้วใช่ไหมว่ารักตรัสอ่ะ
กรื๊ดดดดดด ปลื้มค่ะ

ออฟไลน์ Lipstick_Murder

  • มฤคระเริง
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 68
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +245/-3
ทะลึ่ง : กามที่ 16

          ผมเดินลากเท้าเข้ามาในห้องนอนเพราะอาการปวดหนึบที่ขมับยังไม่ทุเลาลงแต่อย่างใด ได้คนขับรถของบริษัทมาส่งที่คอนโดเพราะคุณชายมีงานช่วงบ่ายรออยู่ ตัดสินใจล้างหน้าล้างตาด้วยหวังว่าจะทำให้สมองปลอดโปร่ง ซึ่งมันก็เป็นอย่างนั้นจริงแต่อาการปวดหัวก็ยังไม่หายเป็นปลิดทิ้ง ผมเลยยึดพื้นที่เตียงห้องตรัสนอนพักสักหน่อยแล้วค่อยหามื้อเที่ยงทานก็แล้วกัน

          เจ็บใจ...ยอมให้มันจูบอีกแล้วทั้งที่อะไร ๆ ก็ยังไม่คลี่คลาย สร้อยข้อมือพยานรักเส้นนั้นยังติดตาผมอยู่เลย ตรัสไม่เคยซื้อเครื่องประดับให้ใคร ไม่ว่าหญิงหรือชาย มันก็เลยเป็นหนามตำใจตอกย้ำว่ากับคุณนิสา...ตรัสมันคิดจริงจังด้วยหรืออย่างไร

          ไม่รู้ว่าโดนนางเอกละครเรื่องไหนปล่อยของใส่ ถึงต้องมานอนช้ำใจอย่างกับโดนฟันแล้วทิ้งแบบนี้ ไม่ว่าจะข่มตายังไงก็นอนไม่หลับ ทั้งที่ง่วงจนปวดระบมไปทั้งเบ้าตา คว้าหมอนที่คุณชายใช้หนุนมากอดแทนคนแล้วค่อยยังชั่ว กลิ่นแชมพูที่ผมคลั่งไคล้ทำให้ผ่อนคลายได้อย่างน่าประหลาดใจ จนในที่สุดก็ละทิ้งสติสัมปชัญญะ จมจ่อมไปกับนิทรารมณ์

          ผมมั่นใจมากว่าเตียงนี้ไม่มีเหลือบยุงลิ้นไรกวนใจแน่ แต่ทำไมสิ่งรบกวนการนอนของผมถึงเป็นแมลงตัวใหญ่ที่มีมือไม้ป่ายแปะไปทั่วตัว แถมยังย้ำจูบแผ่วไปทั่วใบหน้า ทั้งผิวแก้ม เปลือกตา ปลายจมูก และปลายคาง

          โดนท่านตรัสลักหลับเข้าให้แล้วไง

          “อย่า...” ผมพูดด้วยน้ำเสียงแหบพร่าที่ไม่แน่ใจว่าจะห้ามปรามได้ แต่ตรัสมันก็เห็นใจ คงเพราะเห็นว่าผมไม่สบายถึงได้หยุดริมฝีปากแค่นั้น และ...หันมาปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตให้แทน

          ผมเบิกตาโพลงจ้องเขม่งไปที่คุณชาย กินยาผิดมาหรือไงถึงได้หน้ามึนบ้ากามกลางวันแสก ๆ แบบนี้ ทั้งที่เมื่อเช้ายังทำให้ผมกลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่เลยแท้ ๆ แน่จริงก็อย่ามายิ้มโปรยยิ้มทรงเสน่ห์ตัดกำลังกันแบบนี้สิวะ อยากจะบอกมันด้วยว่าอย่าหยิบเสื้อตัวนี้มาใส่อีก ตรัสกับเชิ้ตสีดำ..มันทำให้นึกถึงอบายมุขที่รู้อยู่แก่ใจว่าผิด แต่ก็น่าหลงใหลจนห้ามใจไว้ไม่ได้ยังไงชอบกล มีผู้หญิงที่หมายตาอยู่แล้วแท้ ๆ แต่มาทำรุ่มร่าม ปล่อยให้มันทำตามอำเภอใจปลดกระดุมไปได้ไม่กี่เม็ด ผมก็ผลักมันนอนลงแล้วยกตัวทาบทับกับแผ่นอกให้ตายใจ ก่อนจะใช้มือหยิกเต็มแรงที่หน้าท้องจนคุณชายร้องเสียงหลง

          “โอ๊ย...”

          “เจ็บเหรอ”

          “เจ็บ...”

          “แล้วมายุ่งด้วยทำไม ไม่ไปอยู่กับคุณสาล่ะ” ถ้าสะบัดหางเสียงอีกหน่อยนะ ใช่เลย ตุ๊ดฉิบหายว่ะเท็ต แต่ก็ยั้งปากไว้ไม่ทัน พูดออกไปแล้วค่อยมาคิดได้ เห็นคุณชายมันพรายยิ้มก่อนจะผงกหัวมาลักจูบที่หน้าผาก

          “หึงหรือ”

          อ่า...ก็รู้อยู่แก่ใจ ไม่รู้จะปฏิเสธทำไมให้เสียเวล่ำเวลา ผมเฉไฉมองนาฬิกาหัวเตียงไม่ตอบคำ เห็นว่าบ่ายสามโมงกว่าแล้ว ไม่สงสัยเลยว่าทำไมถึงรู้สึกหิว และดูเหมือนว่าอาการปวดหัวจะมลายหายไปอย่างกับก่อนหน้านี้ไม่มีจังหวะอาร์แอนด์บีหนัก ๆ ที่ขมับและหว่างคิ้วแต่อย่างใด

          ได้ยาดีตอนตื่นเสียกระมังอีหรอบนี้

          “หายปวดหัวหรือยัง”

          “หายแล้ว”

          “หิวไหม”

          “หิว”

          “ไปอาบน้ำสิ เดี๋ยวพาไป” ผมหยัดตัวลุกขึ้นนั่งอย่างว่าง่ายก่อนจะปลดกระดุมเสื้อต่อจากที่ตรัสมันทำค้างไว้ เดินไปขโมยผ้าขนหนูแต่นึกขึ้นได้ว่าคุณชายก็ต้องอาบเหมือนกัน แต่ตัวมันยังหอมฟุ้งก็เลยไม่แน่ใจ ขอหันไปถามสักหน่อย

          “อาบน้ำไหม”

          “ชวนกันแบบนี้เลย” ผมเลิกคิ้วสูง จากที่คิดจะเดินไปส่งผ้าขนหนูให้กับมือเป็นอันต้องล้มเลิกไป ก่อนจะปาผ้าทั้งผืนใส่หน้ามันแทน

          พูดมาได้...ให้ตายกูก็ไม่มีทางอาบน้ำพร้อมมึงหรอก

          “รีบอาบ หิวมาก” คุณชายนั่งเสยผมปอย ๆ คอยแต่จะห่วงภาพลักษณ์จนน่าหมั่นไส้ ไม่รู้ว่าเอามากินได้ไหม ไอ้ความหล่อนั่นน่ะ แต่ที่แน่ ๆ ผมแพ้ทางเสื้อมัน รีบเดินกลับห้องก่อนจะเสียรู้ดีกว่า เพราะมันเริ่มแจกจ่ายรอยยิ้มละลายจริตสาวอีกแล้ว

          “จะพาไปไหน” ผมหันมองหน้าคนขับเพราะไม่ค่อยแน่ใจว่าเคยมาแถวนี้ ปกติตรัสจะพาไปฝากท้องร้านอาหารที่ไม่ห่างจากคอนโดนัก เพราะผมเป็นคนกำชับเองว่าขอของง่าย ๆ ราคาไม่แพงแต่อร่อย ซึ่งก็ไม่ค่อยได้ตามคำขอสักที

          “ร้านอาหาร หิวไม่ใช่หรือ”

          “ก็หิว แล้วจะไปไกลทำไม (วะ)”

          “นัดกับใครคนหนึ่งไว้ ถ้าไม่ไหวก็บอกนะ” หมายความว่าไง ผมมุ่นหน้าให้รู้โต้ง ๆ ไปเลยว่ากูไม่เข้าใจที่มึงพูด ไอ้หล่อมันก็หันมามองขณะที่ชะลอรถจอดติดไฟแดง

          “ถ้าปวดหัวขึ้นมาอีกก็บอก จะได้พากลับ แล้วไปหาอะไรทานใกล้ ๆ คอนโด โอเคไหมครับ” ไม่โอเค เพราะยังไม่บอกเลยว่าจะพาไปที่ไหน นัดกับใครไว้ ผู้หญิงหรือผู้ชาย หรือที่อาจเป็นไปได้ก็คุณนิสา ถ้าอย่างนั้นผมขอลาตรงนี้เลยได้ไหม

          “คุณนิสาเหรอ”

          “ก็ไม่เชิง”

          “ไม่ไปได้หรือเปล่า” ใจผมยังไม่พร้อมเท่าไหร่ ทั้งที่อยากรู้แทบตายว่าเรื่องราวระหว่างตรัสกับคุณคนนั้นไปถึงไหนกันแล้ว ผมยังไม่กล้าเปิดปากถาม แล้วนับประสาอะไรกับการที่ต้องไปนั่งปั้นหน้ามองดูเขาห่วงใยกันเหมือนเมื่อวาน จะเอาเรี่ยวแรงที่ไหนฝืนใจตัวเองอย่างที่ผ่านมา บอกตามตรงว่าฆ่ากันเลยง่ายกว่าจริง ๆ

          “ไม่ได้ ต้องวันนี้” ตรัสตอบด้วยน้ำเสียงกึ่งบังคับ ผมตัดพ้อทางสายตา ก่อนจะก้มหน้าผ่อนลมหายใจ ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปผมต้องแย่แน่เลย มันอยากจะจูบก็จูบ อยากจะกอดก็กอด แต่วันไหนครึ้มใจอยากพาไปหาผู้หญิงของมันก็ทำได้ โดยที่ผมไม่มีสิทธิ์อุทธรณ์ใด ๆ

          นั่งร้องไห้กลางไฟแดง แม่ง...ความแมนที่สั่งสมมายี่สิบกว่าปี ไม่มีเหลือ!

          “แล้วกัน...” ตรัสส่งมือมาแตะที่ข้อศอก แต่ผมชักแขนหลบ ไหน ๆ ก็จะเทกระจาดละทิ้งความแมนแล้ว ก็เอาให้แต๋วสุดฤทธิ์ไปเลยทัศนัย

          “หุบปาก”

          “ร้องไห้ทำไม แค่จะพาไปทานข้าว”

          “กูไม่อยากกินแล้ว”

          “บอกกันดี ๆ ก็ได้นี่ ไม่เห็นต้องงอแงเลย” ไหงไอ้คุณตรัสมันถึงดูมีความสุขกับน้ำตาของผมขนาดนั้น อยากจะหันไปชกหน้ามันแต่กลัวแก้มช้ำก็เลยทำได้แค่กำมือแน่นนั่งนิ่งอยู่อย่างนี้

          สุดท้ายก็ทำอะไรไม่ได้ หยิบทิชชูมาเช็ดหน้าเช็ดตาแล้วนั่งทำใจอยู่พักใหญ่ ก่อนจะก้าวตามคุณชายไปยังห้องอาหารกลางแจ้งที่อยู่ชั้นบนสุดของโรงแรมชื่อดัง

          เรามาถึงก่อนบุคคลที่นัดพบ ผมทิ้งตัวนั่งลงอย่างไร้อารมณ์เพราะความรู้สึกหิวปลิวหายไปตั้งแต่รู้ว่าจะต้องเจอใครที่โต๊ะอาหาร เสมองวิวเบื้องล่างที่เป็นแม่น้ำเจ้าพระยายามเย็น สวยจับจิตแท้ ๆ แต่ยังไม่ช่วยทุเลาอาการอึดอัดในใจให้เบาบางลงได้เลย มีลูกค้าทั้งไทยและเทศเดินกันขวักไขว่ เพราะเป็นห้องอาหารกึ่งค็อกเทลเลาจน์เคล้าดนตรีแจ๊ส ส่วนใหญ่จะเดินรับลมชมวิวพร้อมแก้วเครื่องดื่มในมือ ผมที่ยังต้องรอผู้ร่วมโต๊ะอาหารจึงยังไม่สั่งอะไร มีแค่ตะกร้าขนมปังกับเบียร์เยอรมันที่วางอยู่ตรงหน้าเท่านั้น

          ไม่นานเกินรอ ขณะที่ผมกำลังหลบตาคนที่นั่งตรงกันข้าม เพราะท่านเอาแต่จ้องมาจนผมไม่เป็นอันทำอะไร ตาบวมหรือก็ไม่ใช่ ผมเช็คจนมั่นใจแล้วก่อนลงมาจากรถ แล้วคนที่ทำให้ผมต้องนั่งหลุกหลิกอยู่ไม่สุขก็ลุกขึ้นพร้อมใบหน้ายิ้มแย้ม ผมหันไปมองก็เห็นหญิงสาวคนหนึ่งที่คุ้นเคยอย่างดีในชุดชีฟองสีขาวสะอาดตา...ควงคู่มากับผู้ชายวัยกลางคน

          “รอนานไหมครับคุณตรัส”

          “ไม่เลยครับคุณปรมัตถ์ เชิญนั่งครับ” ผมที่ลุกขึ้นตามตรัส ก็นั่งลงด้วยเหมือนกัน หันไปมองหน้าคุณที่ชื่อปรมัตถ์แล้วก็ต้องตกตะลึงพรึงเพริดเพราะหลงคิดว่าจะสูงอายุกว่านี้เสียอีก ได้ยินว่าเป็นเลขาฯ คนสนิทของคุณปู่ก็นึกว่าจะมีอายุไล่เลี่ยกัน แต่ไหงยังหล่อเหลาเอาการอยู่เลย

          ผมสั่งสลัดผักฝรั่งเศสหน้ากุ้งอลาสก้ากับคารามารีมานั่งจิ้มเล่น นึกสงสัยอยู่ว่าทำไมคุณปรมัตถ์กับคุณนิสาถึงมาด้วยกันได้ แล้วก็คิดเองเออเองว่าเขาเป็นลูกน้องเจ้านาย ติดรถมาด้วยกันก็ไม่เห็นแปลกอะไร

          แต่ที่สงสัยมากกว่าคือ...พากูมาด้วยทำไมวะตรัส

          “คุณทัศนัยทำอยู่แผนกจัดซื้อของคุณสามารถใช่ไหมครับ”

          “ครับ เพิ่งเริ่มงานได้ไม่กี่วัน” ผมตอบ

          “ไม่ต้องหักโหมหรอกนะครับ เพราะมีงานที่เหนื่อยมากกว่ารออยู่” คุณปรมัตถ์พูดก่อนจะหันไปหัวเราะกับตรัส พูดอะไรที่เข้าใจกันสองคนจนผมต้องเลิกคิ้วสงสัย แล้วหันไปมองหน้าคุณนิสาที่นั่งอยู่ข้างกัน เห็นเธอยิ้มขวยเขินก่อนจะอ้อมแอ้มบอกเสียงแผ่ว

          “สาจะขอลาสักระยะ...ไปคลอดน้องค่ะ”

          “ครับ?” มีเครื่องหมายคำถามตัวใหญ่ ๆ แปะอยู่ที่หน้าผาก

          ลาคลอดคืออะไร...แล้วใครคือพ่อของเด็ก

          ผมค้นเจอคำว่ามารยาทในสมองที่กำลังว่างเปล่าร่วมแสดงความยินดีกับเขาไป มองหน้าคุณตรัสแล้วมันก็ตีเนียนคลี่ยิ้มสวยมาให้โดยไม่บอกกล่าวอะไรเพิ่มเติม ฟังคุณว่าที่ประธานกับคุณเลขานุการคุยกันเพลิน ๆ อีกพักใหญ่ก็แยกย้ายกันกลับ ไม่ลืมหันไปอวยพรให้น้องสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงและหน้าตาดีเหมือนคุณแม่ เพราะรู้ได้จากตอนที่คุยกันว่าอัลตร้าซาวด์แล้วคุณนิสากำลังจะได้ลูกชาย

          แล้วก็ถึงเวลาเคลียร์ปัญหาชีวิต ตรัสมันเคาะนิ้วกับพวงมาลัยตามจังหวะเพลงบรรเลงของเคนนี่จี ทำเป็นมองไม่เห็นสายตาอาฆาตจากผมที่จ้องมันตั้งแต่ก้าวขึ้นรถ จนต้องส่งกำปั้นทุบไปเต็มแรงที่หัวไหล่ “เชี่ยตรัส”

          “อะไร...เจ็บนะเนี่ย” ยังมีหน้ามาบ่น เห็นมันลูบแขนปอย ๆ แล้วอยากจะส่งหมัดไปซ้ำที่เดิมมาก

          “มึงหลอกกู”

          “หลอกอะไร” มันถามกลับกลั้วหัวเราะ

          “ไหนบอกคุณสาโสดไง ยังไม่แต่งงาน”

          “ก็ยังไม่ได้แต่ง กำลังจะแต่ง”

          “ก็เขาท้องอยู่นั่นน่ะ แล้วมีการบอกว่าโสด”

          “คุณปรมัตถ์ให้ปิดเป็นความลับ เพราะเขากลัวคุณสาจะอายที่อายุห่างกันตั้งหลายรอบ” โห บอกกูก็ได้ว่ะ กูไม่ใช่คนปากเปราะ ปล่อยให้กูหน้าด้านหลงตัวเอง ตู่ว่าเขาชอบอยู่ตั้งนานสองนาน น่าอายฉิบหายเหอะ

          “แล้วนี่ก็แสดงว่ามึงเป็นชู้กับเมียเขาใช่ไหม”

          “อะไรนะ”

          “ก็มึงคุยอะไรกับเขาล่ะเมื่อวาน หน้าแดงแจ๋ขนาดนั้น”

          “ดูไม่รู้หรอกหรือว่าคุณนิสาเป็นคนขี้อาย เขาเขินกับทุกคนนั่นแหละ ยิ่งถ้าแตะเนื้อต้องตัวด้วยแล้ว กับเด็กสิบขวบเธอยังเขินเลย” อันนี้ก็รู้อยู่หรอก แต่ไม่คิดว่าจะเว่อร์ขนาดที่ตรัสมันพูด เพราะเมื่อกี้ที่โต๊ะอาหารคุณนิสาคุยกับผมไปก็หน้าแดงไป คงเพราะโต๊ะมันไม่ค่อยใหญ่ เก้าอี้จึงอยู่ใกล้กันเกินไป ถึงจะกระซิบเสียงเบาแค่ไหนก็ยังได้ยินชัดเจน

          “แล้วสร้อยข้อมือนั่นล่ะ”

          “สร้อย...เห็นด้วยหรือ”

          “เห็น คุณสาบอกเมื่อเช้าว่าตรัสให้มา” แล้วคนฟังก็ยิ้มกว้าง...อย่างคนที่เข้าใจอะไรมากขึ้น

          เออ กูร้องไห้เพราะสร้อยเส้นนั้นนั่นแหละ มึงจะทำไม

          “แค่ของขวัญแต่งงานครับ ไม่มีความหมายอะไรลึกซึ้ง”

          “อ๋อเหรอ”

          “ตอนนี้เขาเริ่มแจกการ์ดแล้วด้วยนะ กำหนดการเดือนหน้า ไปด้วยกันไหมล่ะ” ผมพยักหน้าอย่างหมดอาลัย มีอย่างที่ไหน แค่ของขวัญแต่งงานชาวบ้านถึงกับเก็บมาคิดมากจนเสียน้ำตา บ้าบอสิ้นดี

          “แล้วอีกอย่างนะเท็ต บอกให้เลิกพูดมึงกู”

          “เออ ๆ รู้แล้วน่า”

          “นี่...แล้วที่สวนเสือเขาจ้องฉันทำไม” ผมเริ่มสาดคำถามใส่คุณชายอีกครั้งหลังจากรถเคลื่อนตัวพ้นด่านทางด่วน ตรัสก็หันมาตอบพร้อมใบหน้าเปื้อนยิ้มที่ยังไม่จางไป

          “เคยได้ยินความเชื่อนี้ไหมเท็ต ที่บอกว่าอยากให้ลูกหน้าตาแบบไหน ก็ให้มองหน้าคนนั้นบ่อย ๆ นี่เขาขอรูปไปด้วยนะ บอกว่าจะเอาไปแปะไว้ในห้องนอน”

          “ว่าไงนะ”

          “เขาบอกเท็ตน่ารัก อยากได้ลูกชายหน้าตาแบบนี้น่ะ” อ่า...ดีใจดีไหมหว่า ผมออกจะหล่อเร้าปานนี้แต่ดันมีคนชมว่าน่ารัก

          ผมเงียบไป...ใบ้กินชั่วขณะ ถ้าตีปีกบินได้ผมคงทำไปแล้ว ลมพอง ๆ ที่อัดแน่นอยู่ในอกมันทำให้ผมต้องหันหนีคนขับแล้วนั่งลอบยิ้มอยู่คนเดียวอย่างกับคนเสียจริต ไม่แคร์สายตารถราที่ขับสวนมาเลยสักนิด โล่งใจจนอยากจะป่าวประกาศให้โลกรู้ทั้งที่เมื่อเช้าเพิ่งฟูมฟายเพราะผู้ชายคนเดียวกัน เข้าขั้นบ้าแล้วมั้งทัศนัย

          “หมดคำถามหรือยัง” และในที่สุดตรัสก็เป็นคนทำลายความเงียบลง ผมพยักหน้าตอบไป ก็ไม่รู้จะถามอะไรต่อ ทุกอย่างที่เพิ่งได้ยินเป็นเหตุเป็นผลในตัวของมันเอง ไม่อยากขุดคุ้ยอะไรให้มากความ รู้แค่ว่าตรัสไม่ได้คิดอะไรกับคุณนิสาก็ดีใจจนไม่รู้จะหุบยิ้มยังไงแล้ว

          “ถ้าอย่างนั้นฉันขอถามบ้าง...” ผมหันเข้าหาแล้วจ้องหน้ารอฟัง เห็นตรัสเอื้อมมือหรี่เสียงเพลงลงจนเงียบไป ก่อนจะลูบท้ายทอยตัวเองอย่างชั่งใจโดยที่สายตายังจดจ้องถนนเบื้องหน้า

          แล้วมันก็ไม่พูดอะไรสักที ไม่รู้จะลีลาทำไมว่ะ ก็เห็น ๆ กันอยู่ว่าหล่อแต่ไม่ต้องท่ามากก็ได้ ใจมันเต้น ไอ้คนที่รอฟังก็ขยับตัวลุ้นคำถามตามไปด้วย จนในที่สุดคุณท่านก็กระแอมไอแล้วพูดออกมาไม่เต็มเสียงนัก

          “เมื่อไหร่จะเลิกสนใจคนอื่นสักที...มีฉันอยู่แล้วทั้งคน”

          เอ...แล้วคนถามมันมีสิทธิ์อะไรหว่า ผมก้มหน้ากลั้นยิ้มก่อนจะถูกจมูกตัวเองไปมาไม่ตอบคำ

          รถหรูยังเคลื่อนตัวไปเรื่อย ๆ เป็นเวลานานกว่าผมจะเงยหน้ามองคนถาม เห็นไอ้หล่อนั่งอมยิ้มแล้วปรายตามองมา ผมก็กะพริบตาถี่ ๆ หลายหน จ้องจนมั่นใจว่า...คุณชายตรัสมันหน้าแดง ก่อนจะหันหนีมา

          พับผ่าสิ อกจะระเบิดตายให้ได้ใช่ไหมวันนี้

          “ร้อนว่ะ” ผมหน้ามึนเปลี่ยนเรื่อง แถมุขสดแล้วปลดประดุมคอเสื้อประกอบคำ ปรับแอร์เข้าหาแล้วพิงหลังกับพนักเบาะ คุณชายมันก็เลียนแบบพิงตามบ้าง หลังจากที่ฝืนนั่งหลังตรงมาตลอดทาง

          “เท็ต...”

          “คุณครับตั้งใจขับหน่อย แบบนี้มันอันตราย”

          “ทัศนัย...”

          “อะไรเล่า!”

          “ตอบมาสิ อย่าเฉไฉ”

          “จะให้ตอบอะไร จะไปรู้ได้ไงว่าเมื่อไหร่ ในเมื่อตอนนี้ก็ยังโสด ไม่มีพันธะอะไร”

          “จริงหรือ”

          “ก็จริงสิวะ” และถ้าอยากเป็นเจ้าข้าวเจ้าของกันมากขนาดนั้น “ไหนลองบอกมาหน่อยตรัส...”

          “...เราเป็นอะไรกัน ทำไมฉันถึงมองคนอื่นไม่ได้” พอได้ยินแบบนั้นท่านเทพบุตรก็ซ่อนดวงตาที่ฉายแววผิดหวังหลังแพขนตาหนา รู้สึกได้ว่ารถเสียจังหวะไปนิดหน่อยแต่ก็กลับมาเป็นปกติพร้อมเสียงถอนหายใจ

          เริ่มรู้แกวคนปากหนักแล้วว่าถ้าโดนกดดันมากเข้าคุณเขาจะตีหน้าขรึมประหนึ่งองค์ลง ผมลอบมองเป็นพัก ๆ อย่างใคร่รู้ว่าคุณผู้ชายจะคลายปากพูดออกมาเมื่อไหร่ แต่สรุปว่ารอไม่ไหว คงต้องใช้อะไรมาช่วยง้างสักหน่อย

          “คิดอะไรอยู่” ผมถาม

          “หืม”

          “ถามว่าคิดอะไรอยู่ ทำไมไม่ตอบที่ถามไปเมื่อกี้”

          “กำลังคิดว่า...เมื่อไหร่จะถึงห้องสักที” จบกัน...

          หลังจากที่รู้ตัวแล้วว่าพาชะตากรรมตัวเองดิ่งลงเหว ผมก็หวังจะกู้ชีพด้วยการบ่นทันทีที่ก้าวเข้ามาในห้องว่าคนอดข้าวมาทั้งวัน จะพาไปกินทั้งทีทำไมเลือกอาหารเมดิเตอร์เรเนียนที่มีอยู่กระหย่อมเดียวกลางจาน แล้วมันจะไปอิ่มอะไร

          ก็ได้แค่คิดแหละครับ ยังก้าวไม่ถึงโซฟาเลยด้วยซ้ำตอนที่โดนรั้งเอวเข้าไปหา ใบหน้าคมเข้มที่พักหลังได้แต่มองไกล ๆ โน้มเข้ามาใกล้จนหายใจสะดุด...ก่อนจะหยุดอยู่แค่นั้น เผอิญว่าผมไม่เผลอไผลไปกับริมฝีปากสีสดล่อใจที่รอให้ผมแตะจูบก่อน เรื่องอะไรล่ะ ผมไม่ได้แพ้ทางมันขนาดนั้น ย้ายมาอยู่ด้วยกันพักใหญ่แล้วคล้ายว่ามีภูมิคุ้มกันโดยธรรมชาติ จึงยืนมองตาไม่มีลดละ แม้จะไม่โผเข้าหาแต่ก็ไม่ผละออกจากกัน

          “เตียงหรือโซฟา” อ่า...ทางเลือกกูน้อยจัง

          “อดอยากมาจากไหน ไม่มีใครให้ทำแก้ขัดหรือไง” ผมค่อนขอด ถึงจะไม่ยอมจูบก่อนแต่ก็ไม่วายส่งมือไม้ไปสอดรับวงหน้าคุณชาย ปลายนิ้วยังไล้แผ่วที่ปลายคางปรกไรหนวดเพลินมือ และผมคงหลงกลบดจูบไปแล้วถ้าไม่ได้ยินเสียงตอบขัดขึ้นเสียก่อน

          “ทำไม่ได้...”

          “ทำไม”

          “เดี๋ยวมีคนร้องไห้โยเย” คำก็งงแง สองคำก็โยเย แค่ร้องไห้ให้เห็นหนสองหน ผมก็กลายเป็นเด็กในสายตาของท่านตรัสโดยสมบูรณ์

          “ถ้าชอบก็เอาเลย ไม่ห้าม”

          “ไม่ห้าม แต่หวงใช่ไหม” อะไร...ไอ้รอยยิ้มหลงตัวเองแบบไม่หมกเม็ดนั่น เห็นแล้วหมั่นไส้จนอดฝังเขี้ยวไปที่ปลายคางไม่ได้ ตรัสก็เสแสร้งร้องโอดโอยทั้งที่ไม่น่าจะรู้สึกรู้สาอะไร ผมไม่ตอบคำแต่ย้ายมือลงไปปลดกระดุมเสื้อให้แทน

          “เลือกก่อนสิ” ไอ้หล่อเน้นย้ำพร้อมกับกำมือผมไว้ แต่พอดีว่าผมมีคำตอบในใจอยู่แล้ว

          ตรัสพรมจูบที่หน้าผากและหว่างคิ้วเรื่อยมาจนถึงปลายคาง เว้นว่างริมฝีปากเอาไว้อย่างขัดอารมณ์ ผมจมดิ่งไปกับความหลงใหลจนลืมไปว่ายังไม่ได้ตอบคำถาม ใครจะกลั้นใจตอบไหว...ในเมื่อโดนตรัสมันยั่วแบบจงใจขนาดนี้ อยากจะกระทืบเท้าเต้นเร่า ๆ แล้วปล้ำจูบมันซะ แต่ผมคงจะรู้สึกเสียหน้าไปทั้งชีวิต คิดจะเดินหนีก็คงเป็นการหักหาญน้ำใจตัวเองเกินไป ผมเลยกระซิบเสียงแผ่วให้พอได้ยิน

          “อ่างน้ำได้ไหม” รู้สึกได้ว่าตรัสรีบละริมฝีปากจากหางคิ้ว เห็นมันทำหน้าตกใจแล้วผมก็หัวเราะไปยกใหญ่ ใครจะบ้าคิดพิเรนทร์ขนาดนั้นวะ

          “จะอาบน้ำเหอะ คิดอะไรไอ้โรคจิต” ได้ยินผมตอบแล้วตรัสก็ยิ้มส่ายหน้า “ว่าจะหาอะไรกินอีกรอบ พาไปกินอะไรก็ไม่รู้ ไม่เห็นจะอิ่มเลย”

          “แล้วไม่บอกตั้งแต่อยู่ในรถ จะได้พาไปที่อื่น”

          “จะเอาเวลาที่ไหนบอกอะตรัส ก็ใครไม่รู้ที่เอาแต่พึมพำว่าเมื่อไหร่จะถึงห้องสักทีว้า...บ้ากามฉิบเป๋ง” ก็รู้ตัวว่าพูดจาน่าหมั่นไส้ เลยเสียแก้มไปสองทีติด ๆ กินแก้มกูไปเลยก็ได้ตรัส ถ้าจะหอมแรงขนาดนี้

          “หิวมากไหม เดี๋ยวพาไปทานก่อนแล้วค่อยกลับมาอาบน้ำ”

          “ไม่อะ นมสักแก้วก็พอ แต่ตอนนี้ปล่อยก่อนได้ไหม...”

          “...ใจมันเต้นแรงจนเข่าอ่อนไปหมดแล้ว”

▩▩▩
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-10-2012 10:14:08 โดย Lipstick_Murder »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด