เรียงร้อยด้วยรักฯ : ทฤษฎี บทที่ 16 l 2018.06.16 หน้าที่ 93
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เรียงร้อยด้วยรักฯ : ทฤษฎี บทที่ 16 l 2018.06.16 หน้าที่ 93  (อ่าน 946093 ครั้ง)

ออฟไลน์ cinquain

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +247/-0
ตามอ่านจนทันแล้วค่ะเย้ๆ  :o8:

ตรัสเท็ตน่ารัก ตรัสนี่สมกับที่เขาว่าให้เข้าทางแม่เปี๊ยบ ^^
แต่จะให้ดี ตรัสควรจะพูดให้เยอะกว่านี้นะเวลามีอะไรในใจ
เงียบๆแล้วอึดอัดพิกล

รออย่างใจจดใจจ่อค่ะ!

ออฟไลน์ pichayakamon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 290
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-0
    • My Facebook
อ่านไปเขินไป ละลายเองซะงั้น
ชอบมากค่ะ อ่านรวดเดียวจบเลย ตรัสน่ารักเว่อร์ นี่แหละ ผู้ชายในฝัน
555+ จะหาได้มั๊ย -_-"

nightsza

  • บุคคลทั่วไป
อ่านไปเขินไป ตรัสนี่ขี้หึง+ขี้งอนมากมาย แต่หล่อ เลยให้อภัย ฮ่าๆๆ

ออฟไลน์ Rouk_Uknow

  • Delitto
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-2
มาปูเสื่อรอ

Champsung

  • บุคคลทั่วไป
สนุกมากกกกก. อ่านรวดเดียวตามทันเลยค่ะ
เขินตรัสมาก เขินจริงจัง ยิ่งอ่านยิ่งหลงมาก
อิจฉาเท็ต ตรัสดูอบอุ่น ดูรักเท็ตมาก งืออ เขินทุกครั้งเวลามีบทจึ้กจึ้กกัน ._____.
มันแบบ ตรัสอ่อนโยนมาก ชอบตอนเท็ตร้องไห้มาก ตอนก่อนหน้าบทนั้นยังแอบคิดว่าอยากให้มีบทเท็ตร้องไห้บ้าง555.
แต่ยังแอบสงสัยตอนที่แซนบอกว่าเท็ตยังไม่รู้ด้านดาร์คของตรัส
ตรัสดูไม่ดาร์คเลยนะ ดูเป็นผู้ชายอบอุ่นน่าจูบมาก แอร๊ยยย -////////////-
สนุกมากค่ะ มาอัพบ่อยๆนะคะ จะติดตามตลอดเลย ชอบมาก

ปล.ตอนแรกที่อ่านนึกว่าแซนจะเมะ ไปๆมาๆ ให้พี่พีเป็นเมะก็ได้ คิคิ. แล้วซันกับอ้น ยังแอบงงเบาๆว่าตกลงใครเมะใครเคะ -..-


ออฟไลน์ hpsky

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1073
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-0
มาหรือยังน๊าาา :m7:

ออฟไลน์ ✿PIERRE

  • ดองนิยายข้ามปี
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 434
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-6
รออออ

เห็นหัวเปลี่ยนแล้ว คิคิ

ออฟไลน์ iammz

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2681
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +292/-6
วิ่งเข้ามารอด้วยค่ะ >.<


ออฟไลน์ sakiko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +137/-25
อุ้ยๆ  มายังเอ่ย 

ออฟไลน์ Lipstick_Murder

  • มฤคระเริง
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 68
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +245/-3
ทะลึ่ง : กามที่ 19

          วันนี้มีแขกสำคัญ ผมรู้เพราะเมื่อเช้าโดนลากลงจากเตียงเร็วกว่าทุกวัน อีกทั้งยังต้องเดินเข้าบริษัทในชุดสูทสากลที่เพิ่งหยิบมาใส่เป็นครั้งที่สอง อึดอัดนิดหน่อยแต่ก็ยืดอกได้พอสมควร คนหน้าตาดี ใส่สูททั้งทีจะไม่มีสาวแลได้ยังไง แต่ก็ชักไม่มั่นใจเพราะสายตาเจ้าหล่อนทั้งหลายคล้ายว่าจะมองผ่านผมไปหาอีกคนที่เดินอยู่ข้างกันมากกว่า

          บ้าฉิบ เทียบรัศมีมันไม่ติดเลยว่ะ

          จากที่เดินอกผายไหล่ผึ่งก็เริ่มแผ่วลงเรื่อย ๆ จนกระทั่งก้าวเข้ามาในลิฟต์ โชคดีที่ไม่มีใครเดินตามเข้ามาจึงสบโอกาสจัดผมเผ้า ดึงตรงนั้นขยับตรงนี้เพิ่มความมั่นใจแต่ก็ยังไม่ได้ดั่งใจสักที ซึ่งท่าทางหลุกหลิกของผมมันคงขวางตาไอ้คุณชายที่ยืนล้วงกระเป๋าพร้อมกับมืออีกข้างที่พิมพ์บางอย่างใส่โทรศัพท์อย่างขะมักเขม้น มันชำเลืองมองก่อนจะมุ่นคิ้วถาม

          “เป็นอะไร”

          “ใส่สูทแล้วไม่มั่นใจว่ะ” ผมตอบพร้อมหลุดคำต้องห้ามไปเบา ๆ ยังมีหน้ามาถามอีก ก็มันนั่นแหละที่ทำให้ผมรู้สึกต่ำต้อย ดูเอาเถอะ หน้าตาก็ปานนั้น รูปร่างก็ปานนี้ ต่อให้เป็นนายแบบจากเอเจนซี่ไหนก็ตามแต่ ลองยืนเทียบกันเป็นอันต้องสิ้นชื่อทุกรายแน่นอน แล้วผมจะเหลืออะไร

          “วันแรกก็ใส่ ไม่เห็นเป็นอะไรเลย”

          “เหมือนกันที่ไหน ตอนนั้นยังไม่มีใครรู้จักฉันนี่หว่า”

          “แล้วตอนนี้ล่ะ”

          “ตอนนี้ก็เริ่มมีคนรู้จักแล้วไง อย่างน้อยก็คนในแผนกจัดซื้อ รู้สึกแปลก ๆ ยังไงไม่รู้” อธิบายไปพร้อมกับมองเงาสะท้อนที่พนังโลหะ ก่อนจะเงยหน้ามองหมายเลขชั้นที่ขยับเลื่อนไปอย่างเชื่องช้า เห็นจากหางตาว่าตรัสสอดเก็บโทรศัพท์ในกระเป๋าเสื้อแล้วกอดอกเคาะนิ้วไปพลางระหว่างรอ

          สองสัปดาห์ที่ผ่านมา ตรัสไม่เคยแสดงออกให้ใครรู้สถานะของเรา ถึงแม้ว่าผมจะบอกความรู้สึกนึกคิดไปจนหมดสิ้นแล้ว แต่มันก็ไม่เคยแตะเนื้อต้องตัวให้ใครเห็นเลยสักครั้ง จับมือสักนิดก็ไม่มี แม้แต่ที่รโหฐานอย่างในลิฟต์หรือห้องทำงานของมันเอง น่าเลื่อมใสศรัทธาอย่างแรงเหอะ

          ระหว่างที่คิดอะไรเพลิน ๆ ประตูลิฟต์ถูกเปิดออกก่อนถึงชั้นเป้าหมาย แล้วคนที่ก้าวเข้ามาใหม่ไม่ใช่ใครแปลกหน้า คุณณรินทร์คนสวยจากแผนกบัญชีนั่นเอง

          “สวัสดีค่ะคุณตรัส น้องเท็ต”

          “สวัสดีครับ” ผมทักทายกลับพร้อมฉีกยิ้มกว้าง พี่เขาไม่ได้หอบอะไรพะรุงพะรังก็เลยไม่ได้เสนอตัวช่วยยก มีแค่แฟ้มหนึ่งเล่มกับกระเป๋าสะพายหนึ่งใบเท่านั้น

          ยืนเงียบกันอยู่อึดใจพอเห็นว่าไม่มีใครต้องพูดธุระปะปัง ผมก็เลยถือโอกาสเยี่ยมหน้าไปหาพี่รินแบบเว้นระยะห่างนิดหน่อยเพราะกลัวว่าจะดูไม่งาม ก่อนกระซิบถามเบา ๆ

          “ผมใส่สูทแล้วดูแปลก ๆ ไหมครับ”

          “พี่กำลังจะทักอยู่เลยค่ะว่าน่ารักดี” เอ่อ...สูทกับผู้ชายเนี่ย มันต้องเท่ไม่ใช่หรือครับ

          “น่ารักจริง ๆ นะ ทรงปกแบบนี้ของจิล แซนเดอร์แน่เลย ตาถึงนะเนี่ย แบรนด์นี้สูทผู้หญิงก็สวยค่ะ พี่มีอยู่ชุดหนึ่ง ไม่กล้าซื้อหลายตัว มันแพง” เธอกระซิบกระซาบ คงเพราะเห็นว่าผมทำหน้าแปลก ๆ ก็เลยสำทับคำชมมาอีกหน แถมยังขยิบตาให้ด้วยความขี้เล่น ผมพยักหน้าตอบก่อนจะพาเปลี่ยนเรื่องไป จะให้พูดยังไงว่าตรัสมันซื้อมาให้ มิหนำซ้ำไม่ใช่แค่ชุดสองชุด ยังมีอีกสามตัวเรียงกันอยู่ในตู้เสื้อผ้าที่ห้อง

          “วันนี้มีแขกสำคัญเหรอครับ”

          “ค่ะ คุณตรัสยังไม่ได้บอกเหรอ”

          “ทราบว่ามีแขกก็เลยต้องใส่สูท แต่ตรัสไม่บอกว่าเป็นใครครับ” เหล่หางตามองคนความลับเยอะเข้าให้ ตรัสมันไม่พูดอะไรผมก็เลยหันกลับมาหาพี่ริน แต่ยังไม่ทันได้รับคำตอบลิฟต์ก็ถึงชั้นเป้าหมายพอดี แฟ้มหนาที่พี่รินถือมาถูกส่งให้ตรัสแล้วก็ยืนรอให้ท่านว่าที่ประธานเดินนำหน้าออกไป ก่อนจะหันมาตอบคำถาม

          “คุณฉัตรพันธ์จะมาประชุมที่นี่ช่วงบ่ายค่ะ เตรียมตัวด้วยนะ”

          กิจกรรมฆ่าเวลาของเช้าวันนี้คือการนั่งหาว เมื่อสองชั่วโมงก่อนผมได้รับข้อมูลลักษณะงานเลขานุการจากคุณนิสาที่นั่งอยู่โต๊ะข้างกัน ฟังดูแล้วเหมือนจะไม่ยากแต่ถ้าจัดตารางเวลาผิดนิดเดียวชีวิตก็จะยุ่งเหยิงไปทั้งเดือนแน่นอน โชคดีที่ตรัสมันยังไม่รับงานเต็มตัว ไม่อย่างนั้นมีหวังไอ้เท็ตตายหยังเขียด

          โต๊ะของผมกับคุณสาอยู่หน้าห้องทำงานของตรัสที่เยื้อง ๆ กับห้องของคุณปรมัตถ์นิดหน่อย สะดวกแก่การเรียกใช้งานดีนักแล โทรปุ๊บถึงตัวปั๊บแบบไม่ต้องเดินไกลให้เมื่อยตุ้ม แต่ส่วนใหญ่คุณปรมัตถ์จะเป็นฝ่ายเดินมาหาว่าที่ภรรยาเองเสียมากกว่า แต่เพราะยังไม่มีใครในบริษัทล่วงรู้ ผมก็เลยถามไถ่เรื่องสุขภาพพี่เขามากไม่ได้ กลัวเขาโกรธเอา

          คุณนิสาก็ยังสวยเหมือนเดิม ถ้าเผลอเป็นต้องหันมองทุกที ถึงรู้อยู่แก่ใจว่าเขากำลังจะมีน้องและที่สำคัญเป็นเด็กผู้ชาย แต่ไม่รู้ทำไมความเชื่อโบร่ำโบราณถึงใช้กับพี่เขาไม่ได้ ‘ท้องลูกชายคุณแม่จะโทรม’ กรณีนี้ผิดมหันต์เลยครับ

          “มีอะไรข้องใจอีก ถามพี่ได้นะคะ” พอดีตีซี้พี่เขาไปแล้ว ก็เลยเรียกพี่เรียกน้องกันตามอัธยาศัย

          “ขอบคุณครับ ตอนนี้ยังไม่มีครับ” ดูเหมือนพี่สาจะว่างงานพอตัวเหมือนกัน เห็นปิดแฟ้มเอกสารที่คุณปอเพิ่งเดินมาส่งให้แล้วนั่งอ่านหนังสือจำพวกคุณแม่มือใหม่อย่างตั้งอกตั้งใจทีเดียว ผมก็แอบแซวอยู่เหมือนกันว่าพร้อมเป็นคุณแม่หรือยัง พี่เขาก็ยิ้มเขินส่ายหน้ามาให้

          ผมกำลังนั่งอ่านตารางประชุมและกำหนดการของซัพพลายเออร์ที่จะมาเยี่ยมเยือนในอีกสองอาทิตย์ข้างหน้าไปพลาง ๆ ระหว่างที่ว่างจนแทบจะฟุบหลับ ก่อนจะได้ยินเสียงโทรศัพท์ประจำตำแหน่งดังเบา ๆ

          (( ขอกาแฟสักแก้วสิครับ ไม่มีสมาธิเลย )) นี่คงเป็นคำสั่งของเจ้านายที่หวานหูที่สุดในโลกแน่ ๆ

          ผมตอบรับคำบัญชา เดินไปที่ห้องรับรองก่อนจะชงกาแฟมาให้ มาดคุณชายอย่างตรัสถึงไม่บอกแต่ใครก็คงเดาออกว่าเอสเปรสโซโนครีมเทียมเท่านั้นครับ

          เปิดเข้ามาภายในห้องทำงานก็ถูกต้อนรับด้วยไอเย็นจากเครื่องปรับอากาศเหมือนอย่างเคย มู่ลี่ที่ปิดทึบทั้งแถบทำให้ระบบไฟกลางห้องสว่างไสวกว่าที่ควรจะเป็น ผมนำเอาแก้วกาแฟไปวางไว้บนโต๊ะขณะที่ตรัสกำลังยืนคุยโทรศัพท์อยู่ข้างตู้เก็บเอกสารกับชาวต่างชาติซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นซัพพลายเออร์จากประเทศใดประเทศหนึ่ง และผมคงเดินกลับออกไปแล้วถ้าตรัสไม่ดีดนิ้วเรียกไว้เบา ๆ

          ไอ้บ้านี่ กูไม่ใช่บ๋อยนะ

          ผมยืนนิ่งรอมันคุยอยู่นานสองนานกว่าจะวางสายได้สักที จับใจความได้แค่ว่าไดม่อนอะไรสักอย่าง หลังจากนั้นมันก็เดินเข้ามาหาก่อนจะถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

          “เป็นยังไงบ้าง ไหวไหม” อะไร แค่ใช้ชงกาแฟไม่ถึงกับตายมั้ง

          “ถามถึงอะไรล่ะ”

          “งานเลขาฯ”

          “ก็พอได้อะ แต่ไม่รับรองว่าจะทำได้ดีหรือเปล่า อย่าคาดหวังมากก็แล้วกัน”

          “แค่เท็ตพยายามเต็มที่ ฉันก็ดีใจแล้ว” แล้วก็เหมือนว่าบทสนทนาจะจบลงแค่นี้แหละ แต่ผมยังก้าวออกไปไม่ได้เพราะมีคำถามที่ติดอยู่ในใจ ‘จะจ้องหน้ากูอีกนานไหม’ ถ้ามันละสายตาไปยกกาแฟดื่มผมก็จะเดินกลับออกไปอยู่หรอก แต่มันเล่นจ้องกันแบบนี้เหมือนมีอะไรที่ต้องพูด แต่ติดที่ดอกพิกุลขวางปากไว้อีกแล้ว

          “เอาอะไรอีกไหม” มันส่ายหน้า “งั้นไปนะ” ได้ยินอืมเบา ๆ แต่ผมยังไม่มั่นใจ “ไม่มีแน่นะ จะพูดอะไรก็รีบพูด เสียเวลา” เสียเวลาไปนั่งมองหน้าพี่สา ถึงหน้าหล่อ ๆ ของมันจะจรรโลงใจไม่แพ้กันก็เถอะ

          “ขอบคุณสำหรับกาแฟ” ถ้าจะพูดแค่นี้จริง กูว่ามึงนึกนานไปนะครับ

          ผมตัดใจที่จะตื้อถาม เดินกลับมาที่โต๊ะเพื่อเห็นว่าพี่สากำลังเปิดดูรูปเล่มบางอย่างที่คล้ายอัลบั้มภาพ แล้วนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่คนเดียว “ดูอะไรอยู่เหรอครับ”

          “รูปค่ะ น้องเท็ตดูไหม” แล้วอัลบั้มรูปที่พี่สายื่นมาให้ก็ทำให้ผมแทบผงะ ไอ้บ้าตรัส...

          “พี่สาเอามาจากไหนครับ”

          “คุณตรัสค่ะ น้องเท็ตนี่น่ารักจริง ๆ เลยนะ หน้าไม่เปลี่ยนเลย” ภาพที่เห็นคือเด็กชายทัศนัยอายุประมาณสามขวบเศษเพราะคำนวณจากตัวเลขวันเดือนปีที่มุมล่างขวา เหมือนสิ่งนี้จะช่วยยืนยันด้วยว่าตรัสมันไปบ้านผมมาหลายครั้งจนนับไม่ถ้วนแล้วจริง ๆ

          “เอ่อ...” พี่สาเห็นผมอ้ำอึ้งก็เลยแย้มยิ้มจนตาหยี ก่อนจะอธิบายเพิ่มเติมด้วยน้ำเสียงน่าฟัง

          “แค่ให้ยืมค่ะ เดี๋ยวก็ต้องเอาไปคืนแล้ว เขาหวง” ที่เห็นนี่มีตั้งแต่ภาพตอนแบเบาะจนถึงช่วงรับน้องกันเลยทีเดียว ตรัสมันไม่เคยร่วมกิจกรรมสันทนาการหรือเข้าฐานเลยสักครั้งด้วยข้ออ้างร้อยแปด ผมจึงอดสงสัยไม่ได้ว่ารูปแอบถ่ายพวกนี้มันได้มายังไง ขอเก็บความข้องใจไว้ก่อน เย็นนี้ค่อยเคลียร์

          “อย่าดูมากเลยครับพี่สา เสียสุขภาพจิตเปล่า ๆ” พูดอย่างนั้นแต่ก็ยื่นอัลบั้มคืนให้พี่เขาไป พี่สาก็เอาแต่ย้ำอยู่นั่นแหละว่าน่ารักดีออก เขินเถอะ จู่ ๆ ก็โดนชมต่อหน้าแถมยังต้องนั่งมองคนอื่นดูรูปตัวเองแบบนี้ พี่เขาบอกว่าตรัสให้มาสักพักแล้ว เปิดดูทุกวันจนกลายเป็นกิจวัตร

          อ่า...ทัศนัยจะมีฝาแฝดก็คราวนี้แหละวะ

          มื้อเที่ยงวันนี้ผมฝากท้องที่ห้องอาหารพนักงานของบริษัท ไม่ได้ออกไปทานข้างนอกอย่างทุกวันเพราะท่านตรัสติดพันงานฝ่ายบัญชี มีเพื่อนร่วมโต๊ะเป็นพี่สากับพี่ริน สองคนนี้สนิทกันตั้งแต่เรียนอยู่มหาวิทยาลัยแถมยังได้งานที่เดียวกัน ถึงนิสัยจะต่างกันสุดขั้วแต่ดูพี่ ๆ เขาจะรักกันมากเลยทีเดียว เพราะผักในจานของพี่รินถูกย้ายไปใส่จานว่าที่คุณแม่จนไม่เหลือแม้แต่เศษใบ

          “ณรินทร์...” เจ้าของชื่อกะพริบตาปริบ ๆ ขานรับ “จ๋า”

          “เอาคืนไปเลย ตัวเองไม่ชอบผักบุ้งแล้วเอามาให้คนอื่นทำไม” แล้วก็กลายเป็นประเด็นงุ้งงิ้งสุดน่ารัก ผลพลอยได้คือผมรู้สึกเจริญอาหารอย่างบอกไม่ถูก ทานข้าวไปหัวเราะไปจนหมดเวลาพัก

          ผมกลายร่างเป็นพนักงานเดินเอกสารชั่วคราว วิ่งวนอยู่ในฝ่ายการตลาดตลอดช่วงบ่าย ส่วนตรัสเข้าประชุมกับผู้ถือหุ้นพร้อมคุณปรมัตถ์และพี่สา ผมก็เลยสบโอกาสทักทายพี่หญิงในแผนกจัดซื้อที่เธอกำลังจะร้องไห้เพราะสินค้าที่สั่งมาเกินจำนวน ความจริงคุณสามารถน่ะโหดใช่ย่อย แต่กับผมที่เป็นแค่นักศึกษาฝึกงานคุณเขาก็เลยไม่ค่อยตีหน้ายักษ์ใส่เท่าไหร่ ผมทำได้แค่ปลอบใจพี่เขาก่อนจะถอยหนีไปจากบรรยากาศมาคุ

          พี่รินบอกผมว่าฝ่ายการผลิตที่อยู่ชั้นใต้ดินเป็นเขตหวงห้าม ถ้าจะลงไปต้องมีพนักงานที่เกี่ยวข้องให้คำแนะนำระหว่างเยี่ยมชมด้วย จากที่คิดจะลงไปสอดส่องเพราะว่างงานเป็นอันต้องล้มเลิกไป ก่อนจะย้ายตัวเองจากแผนกบัญชีมานั่งแกร่วคนเดียวรอเวลาเลิกประชุม

          ผมเงยหน้าจากแผ่นพับสวยหรูที่มีภาพเครื่องประดับราคาระยับเรียงรายอยู่ภายในที่คว้ามาได้จากแผนกลูกค้าสัมพันธ์ เห็นจากหางตาทำให้คิดว่าตรัสกลับมาแล้วเพราะท่าทางของผู้ที่มาใหม่กำลังจะเดินเข้าไปในห้องทำงาน

          แต่เผอิญว่าผู้ชายคนนี้ไม่ใช่

          ไม่ต้องเสียเวลาคาดเดา พินิจจากรูปร่างหน้าตาและความสง่างาม ผิดกันพียงวัยวุฒิที่เห็นได้จากผมสีดอกเลาและริ้วรอยร่องแก้ม ทุกอย่างบ่งบอกชัดเจนว่าตรัส รัตนภูมิเศรษฐถอดแบบมาจากคุณฉัตรพันธ์ รามานุสรณ์อย่างไร้ที่ติ

          ไม่ข้องใจเลยว่าทำไมผู้ชายที่อายุอานามร่วมห้าสิบปีจะยังเปลี่ยนผู้หญิงได้ไม่ซ้ำหน้า ถ้าไม่รูปสวยก็ต้องรวยทรัพย์ ซึ่งทั้งสองปัจจัยรวมอยู่ในผู้ชายคนนี้คนเดียว แล้วผู้หญิงที่ไหนจะปล่อยให้หลุดมือ

          ผมผุดลุกขึ้นยืนก่อนจะก้มไหว้คนที่เผยยิ้มจริงใจมาให้ ไม่ลืมที่จะมองเลยไปหาผู้ชายอีกคนที่เดินตามหลังมา ถ้าไม่ติดที่ว่ารอยยิ้มที่เห็นนั้นไม่ต่างอะไรกับคนที่เพิ่งก้าวเข้าห้องไปก่อน ผมก็คงไม่ต้องมานั่งมุ่นคิ้วสงสัยแบบนี้

          “เท็ต” ผินหน้ามองเจ้าของเสียงเรียกก่อนจะปะทะสายตากับความหล่อที่สามแบบจังเบ้อเริ่ม และรู้สึกว่าหล่อสุดท้ายนี้จะมีอิทธิพลกับผมมากกว่าใคร ไม่อย่างนั้นผมคงไม่ยิ้มกว้างแบบนี้แน่ “เป็นอะไร นั่งหน้ามุ่ยเชียว”

          “เมื่อกี้ใครเหรอ ที่เดินมากับคุณฉัตรพันธ์” ผมกระซิบเพราะกลัวคนที่อยู่ในห้องจะได้ยิน

          “กัณฑ์ธร”

          “ใครนะ”

          “เอาไว้ถามคุณนิสาแล้วกัน ฉันต้องเข้าไปข้างในแล้ว” ผมพยักหน้ารับ

          หลังจากที่เห็นหลังตรัสไว ๆ พี่สาก็เดินกลับมาพร้อมคุณปอที่ถือแฟ้มแทนภรรยา พอพี่สานั่งลงที่โต๊ะคุณปอก็หายเข้าไปในห้องของตรัสอีกคน อะไรกันหว่า บรรยากาศกดดันสุดปรอทแบบนี้

          “มีอะไรกันหรือเปล่าครับ ดูเครียด ๆ”

          “นิดหน่อยค่ะ ศึกครอบครัว ไว้ให้คุณตรัสเล่าเองดีกว่านะ” ตงิดใจกับคำว่าศึกครอบครัว คำพูดของพี่สายิ่งเพิ่มพูนคูณทวีความอยากรู้อยากเห็นของผม ก็เลยถามแทรกไปอีกหนขณะที่พี่เขากำลังเปิดแฟ้มตรวจสอบข้อมูล

          “ใครเหรอครับ ผู้ชายอีกคนที่ไม่ใช่คุณฉัตรพันธ์”

          “คุณกัณฑ์ธรค่ะ เป็นพี่ชายต่างแม่ของคุณตรัส”

          “พี่ชาย...เหรอครับ”

          “ค่ะ พี่ก็ไม่รู้อะไรมากนักนะคะ ทราบแต่ว่าแม่ของคุณตรัสไม่ค่อยแข็งแรง มีบุตรยาก คุณตรัสเธอสมบูรณ์แข็งแรงนี่ถือว่าโชคดีมากเลย พี่ก็ฟังมาจากคุณปออีกทีนะ” ไม่เคยรู้มาก่อนเลย ซันบอกว่าตรัสเป็นลูกที่เกิดจากภรรยาตบแต่งก็นึกว่าจะเป็นคนโตซะอีก แต่ไหงมีพี่ชายที่คล้ายว่าจะเป็นลูกไล่ของคุณฉัตรพันธ์ ที่สำคัญ...หล่ออีกแล้วว่ะ ตระกูลนี้มันชักจะเลิศเลอเกินไปละ

          หลังจากนั้นผมก็ตะล่อมถามพี่สาจนทราบว่าคุณกัณฑ์ธรเป็นกรรมการผู้จัดการของสาขาคุณฉัตรพันธ์ ถือหุ้นแยกกันและมีอำนาจบริหารงานเทียบเท่าคุณพ่อ ซึ่งศึกที่ว่าไม่ได้หนักหนาถึงขนาดแย่งสมบัติกันเหมือนนิยายน้ำเน่า ก็แค่ก่ายเกี่ยงกันรับรองเจ้าของเหมืองเพชรแอฟริกาที่ติดต่อทำธุรกิจกันมานานนม แต่ยังคงเอาใจยากที่หนึ่งเหมือนเดิม เลา ๆ ว่าน่าจะเป็นคนที่ตรัสคุยโทรศัพท์ด้วยเมื่อเช้า และก็เดาเอาเองว่าตรัสคงไม่ถูกโรคกับพี่ชายคนนี้เท่าไหร่ ไม่อย่างนั้นมันคงเรียกอีกฝ่ายด้วยชื่อเล่นและไม่ชักสีหน้าเวลาพูดถึงอย่างเมื่อกี้นี้ด้วย

          “คุณธรอายุมากกว่าคุณตรัสห้าปีค่ะ จบปริญญาโทจากแคนาดา เพิ่งกลับมารับตำแหน่งเมื่อปีก่อน เป็นคนมีความสามารถพอตัวทีเดียว กว้างขวางในวงการนี้เพราะศึกษาเรื่องอัญมณีและเครื่องประดับโดยตรง”เพียงแค่นี้ก็ช่วยไขข้อข้องใจให้ผมได้มากโข

          ภายในรถของตรัส ผมกำลังก้มหน้าก้มตาพิมพ์ข้อความโต้ตอบไอ้แซนที่มันส่งมาบอกว่าถึงท่าอากาศยานสุราษฎร์ธานีเรียบร้อยแล้ว อวยพรอวยชัยให้โชคดีก่อนที่คนขับจะส่งมือมาจับผมทัดหูให้

          “คุยกับใคร”

          “แซน มันบอกว่าถึงสุราษฎร์ฯ แล้ว”

          “เริ่มงานพรุ่งนี้หรือ”

          “อือ แล้วซันกับอ้นเป็นไงบ้าง ไปเยอรมันตั้งแต่อาทิตย์แล้วใช่ไหม” มันตอบรับเอออา “แล้วสรุปว่ายังไง เรื่องแอฟริกา”

          “กัณฑ์ธรเป็นคนรับรอง”

          “แล้วตรัสล่ะ”

          “ไม่ต้องทำอะไร” คุณชายพรายยิ้มเจ้าเล่ห์ น่าหมั่นไส้ได้อีก

          “ขี้โกงนี่ โยนงานหินให้เขาเฉยเลย”

          “เข้าข้างคนอื่นทำไม” อย่ามาแอ๊บเสียงน้อยอกน้อยใจ มันไม่เข้ากับหน้ามึงเท่าไหร่เลยตรัส

          “เปล่าสักหน่อย” แล้วหลังจากนั้นก็ต่างคนต่างเงียบ มีแค่เสียงเครื่องยนต์ให้นั่งฟังเพลิน ๆ ก่อนที่ผมเก็บความสงสัยเอาไว้ไม่อยู่ ก็คนอยากรู้นี่หว่า ถ้ามันไม่อยากตอบค่อยว่ากันอีกที “คุณฉัตรพันธ์เป็นคนยังไงเหรอ”

          “เจ้าชู้” มันตอบแทบจะทันที

          “อันนี้รู้อยู่แล้ว บอกเรื่องอื่นบ้างสิ”

          “เจ้าชู้ หน้าเงิน คบคนเพราะผลประโยชน์” สรุปมนุษย์คนนี้มีด้านดีบ้างไหมวะ ไม่น่าถามเลย คำตอบของตรัสมันออกแนวประชดประชันด่าพ่อตัวเองทางอ้อม กลายเป็นคำถามชักนำให้มันทำบาปเสียอย่างนั้น

          ‘เอาเป็นว่า...อย่ายุ่งเกี่ยวด้วยเป็นดีที่สุด’

          คำพูดของตรัสเมื่อสามวันก่อนยังวนเวียนอยู่ในหัว ผมได้รับโทรศัพท์จากปลายสายนิรนามว่าหลังเลิกงานให้รอพบใครคนหนึ่งที่หน้าเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ ซึ่งน้ำเสียงที่ได้ยินนั้นบังคับเป็นนัย ๆ ว่าห้ามปฏิเสธ

          ไม่รู้ว่าโชคดีหรือร้ายที่วันนี้ผมกับตรัสต่างคนต่างมา ด้วยเหตุว่าเมื่อเช้าต้องพาเจ้าเลกซัสป้ายแดงไปเติมน้ำมัน บอกตรัสให้กลับคอนโดไปก่อนเลย อ้างว่าขออยู่คุยเล่นกับพี่รินสักพักซึ่งผมก็ทำอย่างที่พูดจริง เพียงแต่ไม่ได้อยู่ด้วยกันจนเย็นย่ำค่ำมืด แฟนพี่เขามารับกลับไปตั้งนานแล้ว

          ความจริงผมก็ไม่อยากจะปิดบังแต่กลัวว่าตรัสมันจะไม่สบายใจ ยิ่งวิตกจริตชอบคิดเยอะกว่าชาวบ้านชาวเมือง แล้วเรื่องนี้ผมก็คิดว่าพอจะรับมือไหว ยังไงซะก็เป็นผู้ชาย คงไม่มีใครอุตริพาไปทำมิดีมิร้ายหรอก

          หลังจากที่นั่งรอเกือบหนึ่งชั่วโมงเต็ม ผมก็ได้รับข้อความว่าอีกฝ่ายติดธุระสำคัญที่โรงแรมใกล้ ๆ ให้ผมขับรถไปหา ‘ถ้าสะดวก’ ติดใจตรงคำนี้นี่แหละ ให้รอตั้งนานแต่กลับมาถามความสมัครใจเอาตอนนี้เนี่ยนะ นี่มันเข้าข่ายท้าทายชัด ๆ หนีกลับก่อนก็ไม่ใช่ไอ้เท็ตละ

          ยี่สิบนาทีให้หลัง ผมก็มาเดินผึ่งผายในห้องโถงโรงแรมหรูที่อยู่ถัดมาไม่กี่บล็อก รองเท้าหนังเงาวับตัดกับพื้นพรมสีแดงเกิดเป็นเสียงตุบ ๆ ช่วยให้ลุ้นระทึกตลอดเวลาที่ก้าวย่าง เพราะเป็นโรงแรมสำหรับนักธุรกิจจึงมีห้องจัดประชุมสัมมนาที่อยู่ห่างไปจากล็อบบี้เลาจน์พอสมควร และที่นั่นเองคือจุดนัดพบ

          ชื่อห้องประชุมที่เด่นสะดุดตาอยู่ด้านบนทำให้ผมมั่นใจว่ามาไม่ผิด กลั้นใจเคาะประตูไม่กี่ครั้งก็มีคนเปิดประตูให้จากด้านใน ยืนทำใจไม่นานผมก็สาวเท้าก้าวเข้าไปโดยพยายามตีสีหน้าให้ห่างไกลคำว่าตื่นตระหนก

          “เชิญนั่งครับทัศนัย” ไม่ผิดไปจากที่คาดเดา คุณฉัตรพันธ์ รามานุสรณ์นั่งอยู่ที่หัวโต๊ะประชุมอย่างสง่าผ่าเผย ขวามือมีพี่ชายต่างแม่ของตรัสนั่งชำเลืองมองมาตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างไม่เป็นมิตรเท่าไหร่นัก ผิดกับท่าทีก่อนหน้านี้ลิบลับ พร้อมทั้งบริวารสี่ห้าคนที่ยืนกระจายอยู่รอบห้อง

          “คุณฉัตรพันธ์มีธุระอะไรกับผมหรือครับ” เป็นคำทักทายที่ไม่ค่อยจะมีมารยาทเท่าไหร่ แต่ก็นึกอะไรไม่ออกแล้วตอนนี้ หัวตื้อคอตีบตันขึ้นมาเสียอย่างนั้น ถ้าตรัสรู้ว่าผมแอบมาเจอคู่อริสายเลือดเดียวกันของมัน ไม่อยากจะจินตนาการเลยว่าไอ้คุณชายที่เก็บอารมณ์เก่งที่หนึ่งจะแสดงอาการยังไง

          “ไม่มีอะไรสลักสำคัญหรอก ผมก็แค่อยากทำความรู้จักกับ...เพื่อนสนิท...ของลูกชายเท่านั้นเอง ไม่ต้องเกร็งนะ”

          “มีอะไรก็พูดเลยครับ ผมต้องรีบไป”

          “รีบไป แล้วทำไมยังอยู่รอได้จนป่านนี้” เสียงนี้เองที่ผมได้ยินทางโทรศัพท์ เส้นเสียงที่สุขุมเยือกเย็นเป็นของคุณกัณฑ์ธรที่กำลังปิดแฟ้มตรงหน้า ก่อนจะหันมายิ้มเยาะเปิดประเด็น ฉากแบบนี้เคยเห็นแต่ในละคร เพิ่งจะมีประสบการณ์ตรงก็วันนี้ เดี๋ยวนี้เอง

          “เพราะรับปากไว้แล้วครับ”

          “ไม่นั่งหรือ คุยกันสบาย ๆ ไม่อยากให้ซีเรียสนะ” คุณฉัตรพันธ์พูดแทรก มันจะไม่เครียดเลยครับถ้าลูกชายของคุณไม่ออกอาการเหยียดหยันผมขนาดนั้น เคยเจอกันมาก่อนหรือก็ไม่ใช่ ไม่รู้ไปทำอะไรให้คุณเขาถึงได้ตั้งท่ารังเกียจ

          “ขอบคุณครับ แต่ผมรีบจริง ๆ”

          “เข้าใจแล้ว สรุปว่าวันนี้ไม่ว่างคุยแล้วใช่ไหม น่าเสียดายที่ประชุมเกินเวลาไปเป็นชั่วโมง แล้วถ้าฉันจะขอนัดอีกครั้งเป็นสุดสัปดาห์นี้ล่ะ”

          ผมกลับมาถึงคอนโดในเวลาโพล้เพล้จวนจะค่ำ เห็นตรัสนั่งไขว่ห้างเคาะนิ้วที่เข่าไปพลางอย่างกับรออะไรสักอย่าง แล้วสิ่งนั้นก็กำลังยืนอยู่ตรงนี้ ไม่ต้องเสียเวลาชั่งใจ ผมเลือกที่จะเดินไปหาคนที่เท้าแขนกับพนักพิงทันทีที่เห็นหน้า แต่ยังไม่ทันได้อ้าปากถามอะไร ทุกอย่างก็ถูกกลืนหายไปพร้อมจูบของผม จูบที่มีความหมายแฝงนอกเหนือจากความเสน่หา

          นี่คือคำขอโทษ...ที่ผมตอบตกลงคุณฉัตรพันธ์

▩▩▩
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-10-2012 11:43:42 โดย Lipstick_Murder »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Bowbonk

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-4

ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9
คนนี้แหละที่พี่อยากได้ NEWs!!! 30/08/2012
«ตอบ #1421 เมื่อ10-09-2012 22:39:56 »

ปลี่ยนล้ว ปูสื่อรอ

ออฟไลน์ iammz

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2681
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +292/-6
คุณฉัตรพันธ์ต้องการอะไรจากเท็ต >.<


ออฟไลน์ -west-

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1875/-12
    • FACEBOOK PAGE
คุณฉัตรพันธ์ต้องการอะร๊ายยยย

ออฟไลน์ NOoTuNE

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +317/-15
คุณพ่อคุณพี่ต้องการไรคะ


คงไม่มาบอกว่า เท๊ตไม่คู่ควร ถ้ารักตรัสจริงก็เลิกกันซะนะคุณพ่อ


มาม่ากันซักนิดเพื่อพิสูจน์ความรักก็ดีนะ

ออฟไลน์ coon_all

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-1
แงๆ
ไม่อยากได้มาม่าเลยอ่ะ
พ่อตรัสรู้แน่เลยว่าเป็นอะไรกัน ห้ามบอกให้เลิกนะ
ไม่งั้นโกรธพ่อจริงๆด้วย :z6:

ออฟไลน์ ✿PIERRE

  • ดองนิยายข้ามปี
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 434
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-6
งะ  อะไรเท็ต นายไปตอบตกลงอะไร?????????????

ออฟไลน์ special

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 261
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-3
มานัดเจอเท็ตทำไมเนี่ยยยยย

ออฟไลน์ Kanyanat

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 155
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-1

ออฟไลน์ MiSS-U

  • {^o^} {^3^}
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2800/-11
มันจะมาม่ามั้ยน้อ  พ่อสามีกีดกันลูกสะใภ้ไรงี้

เอาใจช่วยเท็ตจังนะจ๊ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ moredee

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-8
 :m28:แง้ว มาทิ้งท้ายกันด้วยจูบที่น่าสงสัย

ออฟไลน์ นอนกินแรง

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-4
จะมีเรื่องร้ายเกิดขึ้นไหมเนี่ย

ออฟไลน์ Key Mine

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 100
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
มาม่าหน่อยไหมหรอค่ะ

ไม่เป็นไรค่ะ แหะๆ :laugh: :laugh:
 :bye2:

ออฟไลน์ marionatte

  • Beginning is more difficult
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 794
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-5
มันจะเกิดอะไรขึ้นกันหนอ

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
ลางร้ายมาแต่ไกล(หรือเปล่า)

PAAPAENG~

  • บุคคลทั่วไป
คือเท็ตจะดื้อใช่มะ?

เดี๊ยะ! จะให้ตรัสมัน "ทำโทษ" จนลุกไม่ได้เลยคอยดู๊!!!

ออฟไลน์ ❝CHŌN❞

  • เหงา เหงา :(
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1924
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-3
ไม่เอามาม่านะคะ ทุกวันนี้ก็กินจนเบื่อแล้วค่ะ ช่วงนี้ขาดน้ำตาลมากเลยค่ะ

ขอเป็นขอหวานแล้วกันนะคะ

ปล.คุณพ่อรู้ใช่ไหมเนี่ย ไม่อยากคิด กลัว

ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5
งานจะเข้าเท็ตรึเปล่าเนี่ย

ออฟไลน์ Chomin

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +146/-1
สองพ่อลูกกำลังทำอะไรกันแน่ ต้องการอะไรถึงนัดเท็ตมาหาแบบนี้ หวังว่ามันคงจะไม่ดราม่าหรอกนะ พ่อต้องรู้แน่เลยว่าคุณตรัสกับเท็ตเป็นมากกว่าเพ่ือนกัน ไม่งั้นจะมีเหตุผลอะไรที่เข้ามายุ่งวุ่นวายกับคนที่ไม่ได้สนิทชิดเชื้อกันน่ะ แต่ก็แปลกว่ารู้ได้ยังไงน่ั่นแหละเพราะสองคนก็ไม่เคยแสดงออกว่ากำลังคบหากันอยู่ไม่ใช่เหรอ เท็ตไปรับปากอะไรไว้ถึงได้มาจูบขอโทษตรัสแบบนี้เนี่ย หวังว่าคงไม่ใช่ให้เลิกกันหรอกนะ ถ้าหวังดีกับลูกจริงก็ไม่ควรทำร้ายลูกทางอ้อมแบบนี้ ดราม่ามากมั้ยเน่่ย แงงงงงง

punmile

  • บุคคลทั่วไป
โอยยยยยย เท็ตตตตตตต ตอบตกลงทำไมมมมมม
ตรัสพูดแล้วไม่ฟังกันเลยใช่มั้ย เดี๋ยวก็ได้มีเรื่องจริงๆหรอก  :เฮ้อ:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด